เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33585
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 120 เมื่อ 13 ต.ค. 13, 20:49
|
|
ภาพประกอบค่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ประกอบ
|
ความคิดเห็นที่ 121 เมื่อ 14 ต.ค. 13, 01:48
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
วิรุศฑ์ษมาศร์ อัฐน์อังการจณ์
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33585
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 122 เมื่อ 14 ต.ค. 13, 13:48
|
|
ผิดกระทู้ป่าว คุณชาย...ลืมชื่อจริงไปแล้ว สะกดยากมากค่ะ
นักท่องเที่ยวเมื่อไปถึงอังกฤษ โปรแกรมทัวร์มักจะไม่พลาดเรื่องพาไปเมืองเกิดของเชคสเปียร์ พอไปถึง เจอบ้านเจอถนนสายขายของที่ระลึก เจออนุสาวรีย์ อะไรต่ออะไร อดคิดไม่ได้ว่าสแตรทฟอร์ดจะเหมือนดิสนีย์แลนด์เข้าไปทุกที บ้านที่ให้ชมนอกจากบ้านของลุงวิลเลียม สุนทรภู่แห่งอังกฤษ ก็มีบ้านภรรเมียของแกชื่อกระท่อมของแอนน์ แฮทธาเวย์ เธอเป็นภรรยาที่จดทะเบียนสมรสกันอย่างถูกต้อง วัยแก่กว่าสามี 7 ปี แต่งงานกันไม่นานพอมีลูกออกมา 3 คนยังเล็กๆอยู่ สามีก็อำลาบ้านมาแสวงโชคในลอนดอน แล้วก็ปักหลักทำงานอยู่ในลอนดอนจนเกษียณจึงกลับถิ่นเดิม นักวรรณคดีพยายามแก้ตัวให้ว่า วิลเลียม เชคสเปียร์อาจกลับไปเยี่ยมครอบครัวในวันสุดสัปดาห์ เหมือนพ่อบ้านที่ทำงานตจว.ในสมัยนี้ของไทย หรือกลับไปเยี่ยมเป็นครั้งคราว ตัวเองต้องมาทำงานขุดทองในเมืองหลวง ก็เลยให้ลูกเมียอยู่บ้านเดิม แต่อ่านจากซอนเนทของเชคสเปียร์ แกมีผู้หญิงอยู่ทางเมืองหลวงนี้ด้วยแน่ๆ เพราะเขียนถึงเอาไว้ หนึ่งในนั้นลุงเรียกว่า Dark Lady พูดถึงความรักระคนแค้นแบบทั้งรักทั้งชัง คงจะเป็นสาวที่คบกันแล้วเลิกกันไปในช่วงเขียนถึง นักวรรณคดีปิดปากกันเงียบเชียว
รูปนี้คือกระท่อมของแอนน์ แฮทธาเวย์ ที่มักจะปรากฏบนกล่องขนมคุกกี้ ส่งมาขายในไทยตอนดิฉันเด็กๆค่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
saimai
อสุรผัด
ตอบ: 44
|
ความคิดเห็นที่ 123 เมื่อ 14 ต.ค. 13, 14:57
|
|
ขอบคุณนะคะคุณเทาชมพูสำหรับภาพสาวกางร่ม กับภาพดอกทานตะวัน กระท่อมของแอนน์ แฮทธาเวย์ น่ารักน่าอยู่เสียจริงๆ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33585
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 124 เมื่อ 14 ต.ค. 13, 15:48
|
|
ถ้าอยากช็อปของที่ระลึกของเมืองกับของเชคสเปียร์ ก็ไปที่ถนนคนเดิน ชื่อ Henley Street ค่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
saimai
อสุรผัด
ตอบ: 44
|
ความคิดเห็นที่ 125 เมื่อ 16 ต.ค. 13, 17:55
|
|
ซื้อเข็มกลัดมาฝากค่ะ ป.ล.อยากให้มีเข็มกลัดท่านสุนทรภู่บ้างจัง
|
คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33585
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 126 เมื่อ 16 ต.ค. 13, 18:00
|
|
ขอบคุณค่ะ กระเป๋าผ้าใบนี้พอประทับชื่อวิลเลียม เชคสเปียร์ ดูน่าซื้อขึ้นมากโข
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
saimai
อสุรผัด
ตอบ: 44
|
ความคิดเห็นที่ 127 เมื่อ 16 ต.ค. 13, 18:31
|
|
กระเป๋าผ้าสีสวย ลายน่ารักค่ะ จะแพงก็ตรงมีชื่อนี่กระมัง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ประกอบ
|
ความคิดเห็นที่ 128 เมื่อ 24 ต.ค. 13, 20:54
|
|
เมื่อวานแม่กับลูกคนไทยที่เค้ามาแชร์บ้านกับผมเค้ามีกิจกรรมให้ผู้ปกครองพบครูที่โรงเรียนกัน ผมเลยถือโอกาสสวมรอยไปดูว่าที่นี่เค้าพบครูกันยังไง
โดยทั่วไปผู้ปกครอง ร.ร. ประถมที่อังกฤษจะพบครูเฉลี่ยปีละ 2-3 ครั้ง โดยครูจะรายงานว่าลูกเป็นอย่างไรที่โรงเรียน มีอะไรน่าวิตกบ้างไหม ผลการเรียนเป็นอย่างไร ต้องส่งเริ่มอะไรบ้างทำนองนั้น
ร.ร. ประถมที่อังกฤษ ห้องเรียนหนึ่งจะมีนักเรียนไม่เกิน 30 คน ครูหลัก 1 คน ครูผู้ช่วยอีก 1 คน ไม่มีการสอบไล่ ไม่มีจัดลำดับความเก่งของเด็กแบบเด็กไทย ทำให้เด็กไม่ต้องเครียดหรือถูกพ่อแม่เอาไปเปรียบเทียบกับเด็กคนอื่น เพราะผลการเรียนของเด็กอื่นในห้องถือเป็นความลับ ผู้ปกครองคนอื่นไม่มีสิทธิรู้ ผมชอบมากๆ เพราะรู้สึกบ้านเรามุ่งแต่จะให้เด็กเป็นอัจฉริยะกันจนตอนนี้ระบบการศึกษาไทยเด็กทั้งเครียดและล้มเหลวมีจำนวนมาก
เมื่อไม่มีการสอบ เด็กจะถูกประเมินจากพัฒนาการเป็นหลัก ว่ามีความสามารถในด้านการอ่าน เขียน และคณิตศาสตร์ในระดับไหน แบ่งเป็นเลเวลหลักๆ 6 ระดับ แต่ละระดับยังแบ่งเป็น C, B, A ด้วย เมื่อขึ้นชั้นใหม่ครูจะประเมินเด็กจากผลการเรียนก่อนหน้าและวางเป้าหมายไว้ให้เด็กแต่ละคนว่าเมื่อครบปีควรจะพัฒนาถึงระดับไหน แต่ละระดับจะมีเกณฑ์บอกไว้ว่าอยู่ในเกณฑ์เฉลี่ยหรือสูงกว่าเกณฑ์เฉลี่ย เป้าหมายคือแต่ละชั้นปีควรขยับขึ้นประมาณ 2 เลเวล เช่นขึ้น ป. 4 อยู่ที่ 3C เมื่อจบ ป. 4 ก็ควรอยู่ที่ 3A หรือสูงกว่า
ภาพด้านล่างเป็นตารางเกณฑ์เฉลี่ยของแต่ละระดับของชั้น ป 2 - ป 6 ครับ จะเห็นว่าแต่ละชั้นปีจะมีบอกว่าวรอยู่ระดับไหน แบบไหนต่ำกว่าเกณฑ์ แบบไหนสูงกว่า ทำให้ผู้ปกครองพอประเมินระดับพัฒนาการของลูกๆ ได้
|
คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
|
|
บันทึกการเข้า
|
วิรุศฑ์ษมาศร์ อัฐน์อังการจณ์
|
|
|
ประกอบ
|
ความคิดเห็นที่ 129 เมื่อ 26 ต.ค. 13, 00:11
|
|
พอเมื่อวานไปพบครูก็เลยได้เห็นว่าเค้าประเมินกันอย่างไร
อย่างเด็กชายที่ผมสวมรอยไปเป็นผู้ปกครองด้วยคนนี้ อยู่ ป 4 เพิ่งเปิดเทอมขึ้น ป 4 เมื่อต้นเดือนกันยานี้เอง เมื่อเริ่มต้นเทอมครูจะมีผลการเรียนจากปีก่อนว่าอยู่ในระดับใด และเกณฑ์ที่ควรจะเป็นเมื่อจบ ป 4 คือระดับใด อย่าง ป 4 นี่ มาตรฐานของโรงเรียนคือเด็กทุกคนเมื่อจบแล้วควรอยู่ในระดับ 3B ทั้งอ่าน เขียน และเลข เป็นอย่างน้อย ซึ่งเป็นเกณฑ์เฉลี่ยของประเทศอังกฤษ แต่นายเด็กคนนี้พอขึ้น ป 4 ก็อยู่ระดับ 3B อยู่แล้ว ครูจึงตั้งเป้าไว้ว่าเมื่อจบ ป 4 ควรจะอยู่ที่ระดับ 4C ซึ่งถือว่าสูงกว่าค่าเฉลี่ย ก็นับว่าไม่เลวเมื่อพิจารณาว่าหมอนี่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเฉพาะที่โรงเรียน ผู้ปกครองที่บ้านจ้อกันแต่ภาษาไทย และมีทักษะการใช้ภาษาอังกฤษย่ำแย่กว่าตัวเล็กมาก
เด็กทุกคนจะมีเป้าไม่เท่ากัน บางคนเรียนเก่งมากอาจจะมีเป้าหมายถึงระดับ 4B หรือ 5C เลยก็ได้ คนไหนเรียนอ่อนเป้าหมายก็จะลดลง แต่ครูจะไม่เปรียบเทียบกันหรือมุ่งแต่สนใจเด็กเรียนเก่งแบบบ้านเรา ในห้องเรียนนี้มีเด็กพิเศษที่มีปัญหาทางการเรียนรู้ ก็มีการจัดผู้ช่วยครูประจำคนหนึ่งคอยประกบช่วยสอนบทเรียนต่างๆ เป็นพิเศษ นับได้ว่าเค้าไม่ทอดทิ้งคนที่ล้าหลังดีมาก
นอกจากนี้มาตรฐานโรงเรียนต่างจังหวัดหรือในกรุงไม่แตกต่างกันเลย ปัจจัยที่มีผลต่อคุณภาพโรงเรียนมักมาจากย่านที่โรงเรียนตั้งอยู่มากกว่า อย่างโรงเรียนในย่านคนมีการศึกษาหรือชนชั้นกลาง ระดับสัมฤทธิ์ผลของนักเรียนก็จะดีกว่าโรงเรียนในย่านคนชนหรือชนชั้นแรงงาน เพราะระบบการเรียนประถมที่นี่ผู้ปกครองต้องมีส่วนร่วม เช่นช่วยกระตุ้นการอ่านและสอนการบ้านด้วย ไม่ใช่ปล่อยทุกอย่างเป็นหน้าที่ของครูอย่างเดียว อย่างโรงเรียนที่ผมไปสังเกตุการณ์ แม้โรงเรียนจะตั้งอยู่ในชนบทนอกตัวเมือง แต่ผู้ปกครองส่วนใหญ่เป็นฝรั่งคนชั้นกลางและพวกที่ทำงานในมหาวิทยาลัย ทำให้เด็กค่อนข้างจะดีหน่อย ระดับผลการเรียนโดยเฉลี่ยของนักเรียนที่นี่จึงอยู่สูงกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศ และของลอนดอนเล็กน้อย คือสูงกว่าประมาณ 2-3%
พ่อแม่เอเชียโดยเฉพาะคนจีนจะไม่ค่อยชอบระบบโรงเรียนประถมอังกฤษเท่าไหร่ เพราะมองว่าด้านวิชาการค่อนข้างอ่อน แต่ผมมองว่าระบบนี้ทำให้เด็กไม่เครียดและไม่ต้องแบกรับการแข่งขันสูงแบบบ้านเรา และสุดท้ายที่ปลายทางจากประสบการณ์เป็น TA ช่วยสอน ผมเห็นการบ้านหรืองานของเด็กระดับปริญญาตรีที่นี่ เทียบกับเด็ก ป ตรีที่เมืองไทย การเรียนปริญญาตรีที่นี่จริงจังกว่า การบ้านยากกว่ามากๆ และเด็กมีสัมฤทธิ์ผลจากการเรียนที่ดีกว่าระดับปริญญาตรีบ้านเรา แปลว่าต้องมีอะไรซักอย่างในระบบการศึกษาของอังกฤษที่แข็งแกร่งกว่าไทย แต่ผมยังอธิบายไม่ได้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
วิรุศฑ์ษมาศร์ อัฐน์อังการจณ์
|
|
|
mutita
มัจฉานุ
ตอบ: 93
|
ความคิดเห็นที่ 130 เมื่อ 26 ต.ค. 13, 01:27
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
ประกอบ
|
ความคิดเห็นที่ 132 เมื่อ 15 ก.พ. 14, 05:34
|
|
เมืองที่ผมอยู่อยู่ในโซนที่ไม่ค่อยประสบภัยอะไรเลยครับ น้ำไม่ท่วม หิมะไม่ตก ลมไม่แรงมาก ฝนเยอะอย่างเดียว ที่อื่นเค้าเดือดร้อนกันแต่เมืองผมไม่เคยต้องลำบาก หน้าหนาวอังกฤษปีนี้แปรปรวนมาก คือไม่หนาวเท่าปีก่อนๆ อุณหภูมิราว 5 - 10 องศา แต่ฝนตกแบบไม่มีวันพัก ซักผ้าไม่มีโอกาสตากกันเลย ฝนตกมาตั้งแต่ปลายปี จนล่วงมากลางเดือนกุมภาแล้วก็ยังไม่หยุด เห็นว่าหน้าหนาวนี้อังกฤษมีฝนมากที่สุดในรอบร้อยปีเลย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
วิรุศฑ์ษมาศร์ อัฐน์อังการจณ์
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33585
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 133 เมื่อ 15 ก.พ. 14, 10:35
|
|
อุทกภัยในอังกฤษ ภาพซ้ายบน เจ้าชายวิลเลียมกำลังช่วยขนกระสอบกั้นน้ำ
คนอังกฤษเริ่มสูสีกับคนไทยแล้วในเรื่องนี้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
hobo
|
ความคิดเห็นที่ 134 เมื่อ 16 ก.พ. 14, 02:44
|
|
ขออนุญาตเล่าเรื่องสยองขวัญให้ฟังครับ เข้าใจว่าคราวนี้เกิดแน่ๆ ถ้าท่วมนานกว่านี้ ที่ New Orleans เมื่อคราวพายุเฮอริเคนแคทริน่านั้น น้ำก็ไม่ได้ท่วมนานมากนัก แต่บรรดาสุสานทั้งหลาย โลงศพซึ่งเหมือนกล่องสุญญากาศ ลอยขึ้นมา บางโลงก็ทะลุดินขึ้นมาเลยเพราะระดับน้ำใต้ดินสูงขึ้นด้วย เพราะเป็นที่ลุ่ม ใครโชคดีเดินผ่านเวลานั้นก็เจ๊คพ๊อต นึกว่าผีหลอก ที่อังกฤษคราวนี้ก็เหมือนกัน แต่ป่าช้าฝรั่งมักตั้งอยู่ตามเนินเขา สวยๆ ทั้งนั้น อาจพอรอดได้บ้างครับ เคยได้ยินทางจีนว่า ถ้าน้ำท่วมฮวงซุ้ยนี่แย่มากๆ ต้องย้ายที่ฝังกันเลยทีเดียว ซินแสที่บ้านผมเล่าว่า มีครอบครัวหนึ่งจู่ๆ ธุรกิจที่เคยดีๆ ก็มีปัญหา ญาติพี่น้องทะเลาะกัน เดี๋ยวคนนั้นป่วย คนนี้ป่วย จนมารู้ว่าที่ฮวงซุ้ยของพ่อถูกน้ำท่วม (ผมไม่แน่ใจว่าคราวท่วมหนักนั้นหรือเปล่า) เปิดหลุมออกมาโลงจากเดิมที่อยู่ตรงกลาง ย้ายไปกระแทกข้างๆ หลุม เปิดโลงยิ่งแล้วใหญ่ ศพนอนตะแคงโคลนเต็มไปหมด น่าแปลกว่าทำไมมันมีผลขนาดนั้น แต่พอแก้ไขแล้วก็จบครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|