อย่างยกเลิกหยุดสงกรานต์เนี่ย เสียงชมมากกว่าเสียงด่าเยอะครับ คนจำนวนมากเข้าใจและเห็นด้วย แต่แผนรองว่าจะให้มีการชดเชยคนจองตั๋วแล้ว จะคืนเงินอะไรยังไง ผมก็เพิ่งได้ยินจากคุณ Naris วันนี้แหละว่ามี และเชื่อคนส่วนใหญ่เป็นแบบผมคือไม่รู้ว่ามี หรือต้องทำยังไง
อะไรที่รัฐคิดว่าจำเป็นต้องทำก็ต้องประกาศทำไปเลย ตรงไหนหน้างานปฏิบัติไม่ได้ ก็ให้อำนาจตัดสินใจแก่คนหน้างานไป และต้องไม่มีสองมาตรฐานในการปฏิบัติ เสียงด่าน้อยกว่าเสียงชมมาก ๆ อยู่แล้ว ถ้าการตัดสินใจอยู่ในกรอบของเหตุผล รับฟังผู้เชี่ยวชาญมากพอ เชื่อว่าถูกต้องจำเป็น ก็ไม่ต้องกลัวถูกด่า นั่นคือสิ่งที่ผู้นำต้องมี แต่ถ้าอิหลักอิเหลื่อแบบตอนนี้ เดี๋ยว A เดี๋ยว B คนถึงด่า
อีกเรื่องคือการตัดสินใจยังไม่ฉับไวจนน่าห่วงว่าถึงเวลาสาหัสจะทันหรือ อย่างประกาศเลื่อนวันหยุดสงกรานต์ ปิดสถานศึกษา ฯลฯ ข่าวออกวันจันทร์ว่าจะทำ แต่ต้องรอผลจากการประชุม ครม ในบ่ายวันรุ่งขึ้นจึงจะประกาศเป็นทางการมีผลบังคับใช้ แบบนี้ไม่ไหว เรื่องบางเรื่องต้องตัดสินใจเร็วลงมือฉับไว ไม่ต้องรอระบบราชการหรือทำตามโปรโตคอลเดิมเสมอไปก็ได้ อะไรรอได้ก็รอ รอไม่ได้รีบตัดสินใจ
ส่วนเรื่องข้อมูลปลอม ข่าวลือเกลื่อน ก็เพราะรัฐไม่เปิดเผยข้อมูลจริงให้ครบไงครับ จะเพราะกลัวแตกตื่น หรือไม่สนใจจะเก็บให้ครบถ้วนผมก็ไม่รู้ แต่ผมเชื่อว่าสยบข่าวลือก็ต้องใช้ความจริงไม่หมกเม็ดเท่านั้น
ทุกวันนี้ผมไม่รู้ว่ามีศูนย์ข้อมูลกลางว่าถ้าอยากติดตามจำนวนคนป่วย คนเฝ้าระวัง ต้องตามที่ไหนที่เชื่อถือได้จริง นอกจากตามอ่านข่าวเอง อย่างเช่นข่าววันนี้ เพิ่มอีก 35 คนหรือไงนี่แหละปัญหาคือ มีแต่ตัวเลข 35 คน พร้อมข้อมูลคร่าว ๆ ว่า มาจากสนามมวย และติดต่อจาก 11 นักศึกษา และโคราชมีอีก 2 คน ผู้ว่าประกาศ คุณ Naris ไม่ต้องประชดว่าต้องลึกขนาดไหน เอาตัวอย่างของสิงคโปร์ไปดู
https://www.straitstimes.com/multimedia/graphics/2020/02/spore-virus-cases/index.html?shell&fbclid=IwAR1aisWEUe8JEPgXB4DesPzpUJkyFSEPt1AhZT9Jx5RxxQVAZYs5QTytgj8ทุกวันนี้เราไม่รู้ว่าพื้นที่ควรระวังคือเขตไหน แถวไหน รวมถึงมีตัวเลขคนที่ต้องกักกันตัวเฝ้าระวังดูอาการอีกเท่าไหร่ อยู่ที่ไหนบ้างในเขตนั้น คนในพื้นที่ใดที่ต้องใส่หน้ากากและล้างมือ รวมถึงเพิ่มระยะห่างระหว่างคนมากเป็นพิเศษ เจาะลึกเป็นพื้นที่ไป แบบนี้มันไม่มีไงครับ คนก็ไม่รู้ว่ามันมาถึงแถวบ้านรึยัง ทำให้ที่กลัวก็แตกตื่นเกินเหตุไม่กล้าทำมาหากิน ทุกอย่างชะงักไปหมด แต่ที่ไม่กลัวก็ประมาทต่อไป ยิ่งบ้านผมมีคนแก่ เป็นเบาหวาน ความดัน ไตเสื่อม หลอดเลือดครบเงื่อนไขเลย เลยต้องระวังเป็นพิเศษ ตัวผมเองไม่กลัวเท่าไหร่ แต่คิดว่าถ้าผู้อาวุโสที่บ้านติดขึ้นมาจากเรานี่ ... แน่ แต่ก็ไม่รู้ว่าแถวบ้านเสี่ยงมากน้อยขนาดไหน ผมไม่เคยวิจารณ์รัฐหรือขอให้ปิดประเทศเลย ผมรู้ว่ามันทำไม่ได้ คนอื่นไม่รู้ รัฐก็มีหน้าที่อธิบายให้เข้าใจ
รัฐต้องสร้างความเชื่อมั่นที่มากกว่าการอ่าน script แบบลอย ๆ 1.1 1.2 ... 5.8 แบบเมื่อวานกับวานซืน ที่แสดงให้เห็นว่าแม้แต่วิธีการสื่อสารให้ถูกให้เป็น ยังทำไม่ได้เลย เรื่องการสื่อสาร เรื่องการปฏิบัติตัวไม่ต้องลงลึกระดับเทคนิค RNA ไวรัสเป็นอย่างไร แค่ใช้ตรรกะพื้นฐานบวกกับการยกตัวอย่างให้เห็นภาพก็สามารถสื่อสารแบบได้ผลได้ อย่าเพิ่งกลัวว่าจะเกิดผลเสีย เรามีคนเก่งที่สามารถสื่อสารแบบสั้น ๆ ให้เป็นเหตุเป็นผลเข้าใจได้ จะภาครัฐหรือเอกชนก็ดึงมาได้ ดูแถลงการณ์จากลุงสิ แค่ฉากหลังก็เหมือนหามาใส่แบบงั้น ๆ สื่อสารแบบนั้นหนะมีแต่ผลเสียแน่ ๆ
ในหัวผมเห็นแต่คำว่า incompetent leadership ทำให้ตอนนี้เห็นใครชมว่าลุงตู่ทำดี หรือลุงตู่ถูกวิจารณ์อย่างไม่เป็นธรรม ผมเลยหัวร้อนขึ้นง่ายเป็นพิเศษ ผู้ปฏิบัติหน้างานเราเก่งและเสี่ยง ผมเห็นใจมาก แต่ระดับนโยบายยังใช้ไม่ได้
ที่ตอนนี้โรคยังไม่กระจายมากแบบอังกฤษ อิตาลี น่าจะเป็นเพราะอากาศบ้านเราร้อน เชื้อโรคไม่ชอบมาช่วยไว้ แต่อีกสองสัปดาห์ข้างหน้าก็ต้องมาลุ้นกันครับ