การสถาปนากรุงธนบุรีเป็นราชธานีจำเป็นต้องขยายพื้นที่เพื่อรองรับประชาชนที่หนีภัยสงครามมา และปรับปรุงให้เหมาะสมทางยุทธศาสตร์มากขึ้น ดังนั้นสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชจึงโปรดเกล้าฯ ให้ขยายเมืองไปทางทิศเหนือจนจรดคลองบางกอกน้อย พร้อมกับสร้างกำแพงเมืองตามแนวคลองขุดใหม่มีชื่อเรียกเป็นตอนๆ ว่า คลองบ้านขมิ้น คลองบ้านช่างหล่อ คลองบ้านหม้อ คลองวัดท้ายตลาด ส่วนทางทิศตะวันออกขยายไปจรดคลองคูเมืองที่ขุดขึ้นใหม่ (ปัจจุบันเรียกว่า"คลองหลอด") ทำให้แม่น้ำเจ้าพระยาไหลผ่านกลางเมือง
แล้วสร้างกำแพงเมืองขึ้นตามแนวคลองคูเมือง (กำแพงเมืองนี้ต่อมาได้ถูกรื้อลง โดยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชทรงขยายแนวกำแพงเมืองออกไปตามแนวคลองโอ่งอ่าง และคลองบางลำภู) ส่วนป้อมวิไชยเยนทร์ได้เปลี่ยนชื่อใหม่เป็น "ป้อมวิไชยประสิทธิ์" พร้อมทั้งให้ขุดที่สวนเดิมเปลี่ยนเป็นท้องนานอกคูเมืองทั้ง 2 ฟากซึ่งเรียกว่า "ทะเลตม" ไว้สำหรับเป็นที่นาใกล้พระนคร
อ้างถึง -
http://www.wangdermpalace.org/thonburi/index_thai.htmlกำแพงเมืองริมคลองรอบกรุงด้านตะัวันตกนั้น ผมเชื่อว่ามีอยู่จริง โดยการพูนดินจากการขุดคลองขึ้นมาทำเป็นเชิงเทิน พร้อมตัดไม้ปักเป็นแนวกำแพง
แต่กำแพงเมืองด้านตะวันออก ริมคลองหลอด (คลองคูเมืองเดิม ที่เรียกอย่างใหม่) จะมีกำแพงเมืองไหม ถ้ามีก็น่าจะเป็นเชิงเทินดินเช่นเดียวกับด้านตะวันตก
หลายปีมาแล้ว (น่าจะเป็นช่วงเวลาใกล้ๆ กับการปรับปรุงอนุสารีย์หมูกับสะพานปีกุน) มีข่าวการขุดค้นพบ
ฐานโครงสร้างอาคารเป็นอิฐก่อริมคลองหลอดความยาวสักสองเมตรกระมัง ใกล้ๆ สะพานปีกุน แล้วสันนิษฐานกันเป็นข่าวใหญ่ว่ามีการค้นพบฐานรากกำแพงเมืองเก่าสมัยกรุงธนบุรี
จะพัฒนา จะบูรณะ .. แล้วเรื่องก็เงียบหายไปกับสายน้ำในคลองหลอด
ระยะเวลา ๑๕ ปี ของการคองราชย์ กับกำลังคนอันน้อยนิดในยุคต้นๆ ของพระองค์ ที่มีภารกิจสารพัดในการกอบกู้บ้านเมืองและป้องกันภัยจากกองทััพพม่าด้วย จะมีแรงงานและเวลาเพียงพอที่จะสร้างกำแพงเมืองเชียวหรือ เพียงเกณฑ์แรงงานมาขุดคลองก็นับว่าเป็นงานใหญ่แล้ว