กระทู้: ขออนุญาตเรียนถามถึงเรื่องธรรมเนียมการโกนหัวไว้ทุกข์ของไทยค่ะ เริ่มกระทู้โดย: ดาวกระจ่าง ที่ 22 ส.ค. 19, 14:24 ขออนุญาตเรียนถามถึงเรื่องธรรมเนียมการโกนหัวไว้ทุกข์เพื่อแสดงความอาลัยต่อผู้ที่จากไปของไทยค่ะ
1 การโกนหัวไว้ทุกข์ของไทยได้รับอิทธิพลมาจากไหนคะหรือเป็นธรรมเนียมที่คิดขึ้นมาของไทยเอง 2 การโกนหัวไว้ทุกข์เริ่มต้นมีมาตั้งแต่สมัยไหนคะ ดิฉันไม่แน่ใจว่าอยุธยามีแล้วหรือยังหรือมีช่วงรัตนโกสินทร์ 3 การโกนหัวไว้ทุกข์มีแบ่งระดับไหมคะว่า เช่นว่า คนยศ ฐานะนี้ให้โกนหัวทั้งประเทศ แต่ถ้าเป็นยศ ฐานะนี้ให้โกนหัวแค่ญาติพี่น้อง คนที่ทำงานด้วย 4 เชื้อพระวงศ์ (ที่ไม่ใช่พระมหากษัตริย์ พระมหาราชินี) และข้าราชการที่ทำงานให้หลวง สองตำแหน่งนี้ถูกจัดเป็นตำแหน่งที่จะมีคนโกนหัวไว้ทุกข์ให้มากแค่ไหนคะ มีมีคนที่ฐานะไหน อาชีพไหนต้องมีใครโกนหัวไว้ทุกข์ให้บ้าง 5 การโกนหัวไว้ทุกข์ทำให้คนในสังคมไทยยุคที่มีธรรมเนียมนี้ไม่ชอบไว้ผมยาวไหมคะเพราะเดี๋ยวก็ต้องตัดถ้าเชื้อพระวงศ์ และข้าราชการที่ตัวเองทำงานด้วยเสีย 6 ประเทศราชหรือเมืองขึ้นของไทยมีกฏที่ต้องโกนหัวไว้ทุกข์ด้วยไหมคะหรือมีข้อยกเว้นว่าไม่ต้องทำ 7 มีกลุ่มคนไทยที่อยู่ห่างจากจุดการปกครองมากๆแล้วไม่โกนหัวไว้ทุกข์ไหมคะ เพราะการรับข่าวสารอาจไม่ดี 8 การโกนหัวไว้ทุกข์คนไทยที่โกนจะมีทุกเพศ ทุกวัย ทุกฐานะ ทุกอาชีพเลยไหมคะ มีกลุ่มคนไทยที่ได้รับการยกเว้นไหม 9 มีวรณกรรม วรรณคดีของไทยที่อาศัยอยู่ในสมัยที่มีการโกนหัวไว้ทุกข์ที่พูดถึงเรื่องนี้ไว้บ้างไหมคะว่ามีความคิดเห็นกับเรื่องนี้อย่างไร และเมื่อเปรียบเทียบกับชาติพันธ์อื่นที่ไม่มีธรรมเนียมนี้ 10 มีงานเขียนของคนต่างประเทศที่อาศัยอยู่ในสมัยที่มีการโกนหัวไว้ทุกข์ที่พูดถึงเรื่องนี้ของไทยไว้บ้างไหมคะว่ามีความคิดเห็นกับเรื่องนี้อย่างไร และเมื่อเปรียบเทียบกับชาติพันธ์อื่นที่ไม่มีธรรมเนียมนี้ 11 มีชนชาติอื่น ชาติพันธ์อื่นไหมคะที่มีธรรมเนียมการโกนหัวไว้ทุกข์แบบไทย ซึ่งถ้ามีจะเป็นเพราะไทยได้รับอิทธิพลของเขามา เขาได้รับอิทธิพลจากเราไป หรือเป็นธรรมเนียมที่เกิดมาเหมือนๆกัน กระทู้: ขออนุญาตเรียนถามถึงเรื่องธรรมเนียมการโกนหัวไว้ทุกข์ของไทยค่ะ เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 22 ส.ค. 19, 17:07 บางคำถามนั้น แนะนำจขกท. ดาวน์โหลดไฟล์
เสด็จสู่แดนสรวง: ศิลปะ ประเพณี และความเชื่อในงานพระบรมศพและพระเมรุมาศ หาได้ในกูเกิ้ล กระทู้: ขออนุญาตเรียนถามถึงเรื่องธรรมเนียมการโกนหัวไว้ทุกข์ของไทยค่ะ เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 22 ส.ค. 19, 17:10 แล้วดูในบทความนี้
กระทู้: ขออนุญาตเรียนถามถึงเรื่องธรรมเนียมการโกนหัวไว้ทุกข์ของไทยค่ะ เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 22 ส.ค. 19, 20:26 (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=7033.0;attach=71461;image) ธรรมเนียมการไว้ทุกข์ที่ปฏิบัติกันอยู่เช่น การนุ่งขาวห่มขาว การใส่ชุดดำ หรือแม้แต่การโกนผม จะเป็นธรรมเนียมแต่ดั้งเดิมหรือไม่ ดูเหมือนว่า สมเด็จฯ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ทรงมีพระวินิจฉัยเป็นพระองค์แรกว่า “ธรรมเนียมการไว้ทุกข์เราเอาอย่างต่างประเทศมาทั้งนั้นของเราเองไม่มี” และ “ดั้งเดิมเราไม่มีธรรมเนียมการนุ่งผ้าสีในการไว้ทุกข์ ขุนนางที่เข้าขบวนแห่ต่างก็นุ่งผ้าสมปักลายสีต่าง ๆ และ พนักงานที่ชักราชรถรวมถึงพนักงานที่เชิญเครื่องสูงก็ยังแต่งแดง”..... หลักฐานเกี่ยวกับการไว้ทุกข์ในสมัยอยุธยา จากข้อมูลขนบในการไว้ทุกข์สมัยอยุธยาเท่าที่พบคือ จดหมายเหตุโยสต์ สเคาเต็น ที่กล่าวว่า“เมื่อคนตายไปแล้วก็โกนผมห่อศพแล้วทำบุญให้ทานไปตามความเชื่อถือและแล้วก็เอาไปเผาในบริเวณวัด นอกจากนี้ยังมีพิธีอื่น ๆ อีก เช่น มีการร้องไห้อาลัยกัน ส่วนพวกญาติสนิทจะตัดผมของตน” (กรมศิลปากร ๒๕๓๙: ๒๗๔) ส่วนบันทึกของลา ลูแบร์ กล่าวว่า ในขบวนแห่ศพบุคคลในครอบครัวผู้ตายทั้งชายและหญิงล้วนแต่งขาว ศีรษะของคนเดินตามศพคลุมด้วยผ้าสีขาว ส่วนการไว้ทุกข์นั้นจะไว้ในช่วงที่มีความทุกข์เท่านั้น (เดอ ลา ลูแบร์ ๒๕๔๘: ๓๖๗, ๓๗๒) ซึ่งการที่ลา ลูแบร์ กล่าวว่าการไว้ทุกข์นั้นจะไว้เฉพาะตอนมีทุกข์อาจจะตีความได้ว่ากำหนดการไว้ทุกข์ไม่เป็นที่แน่นอน สำหรับลักษณะการเอาผ้าขาวคลุมศีรษะยังมีปรากฏในภาพถ่ายเก่าคราวงานพระเมรุสมเด็จพระศรีสวัสดิกรุงกัมพูชา และยังทำให้นึกถึงธรรมเนียมของไทแดงที่มีการใช้ผ้าขาวคลุมศีรษะด้วย นอกจากนี้ในบันทึกนิโกลาส์ แชรแวส ก็กล่าวไปในทำนองเดียวกันว่า บิดามารดาและมิตรสหายของผู้ตายนุ่งขาวห่มขาว ภรรยาและญาติที่ใกล้ชิดก็นุ่งขาวและโกนศีรษะเกลี้ยง (นิโกลาส์ แชรแวส ๒๕๕๐: ๑๘๐) กระทู้: ขออนุญาตเรียนถามถึงเรื่องธรรมเนียมการโกนหัวไว้ทุกข์ของไทยค่ะ เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 22 ส.ค. 19, 22:47 แล้วดูในบทความนี้ พัฒนาการธรรมเนียมไว้ทุกข์ จากระเบียบรัฐสู่มารยาทสังคม (https://books.google.co.th/books?id=NMA7DwAAQBAJ&pg=PT143&lpg=PT143&dq=พัฒนาการธรรมเนียมไว้ทุกข์+จากระเบียบรัฐสู่มารยาทสังคม&source=bl&ots=waVRtA1uJv&sig=ACfU3U1c5n3emqWyAFR5D6WxlG7eFtXyYg&hl=th&sa=X&ved=2ahUKEwiE2MKW55bkAhVLM48KHYbTArMQ6AEwBHoECAEQAQ#v=onepage&q=พัฒนาการธรรมเนียมไว้ทุกข์%20จากระเบียบรัฐสู่มารยาทสังคม&f=false) ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.รุ่งโรจน์ ภิรมย์อนุกูล ภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง กระทู้: ขออนุญาตเรียนถามถึงเรื่องธรรมเนียมการโกนหัวไว้ทุกข์ของไทยค่ะ เริ่มกระทู้โดย: ดาวกระจ่าง ที่ 23 ส.ค. 19, 11:46 ขอบพระคุณสำหรับคำตอบของหลายท่านมากๆค่ะ ดิฉันจะไปหาอ่านดู
กระทู้: ขออนุญาตเรียนถามถึงเรื่องธรรมเนียมการโกนหัวไว้ทุกข์ของไทยค่ะ เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 23 ส.ค. 19, 12:06 โกนทั้งแผ่นดิน รัชกาลที่ ๑ หน้า ๑๕๐-๑๕๑
กระทู้: ขออนุญาตเรียนถามถึงเรื่องธรรมเนียมการโกนหัวไว้ทุกข์ของไทยค่ะ เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 23 ส.ค. 19, 14:59 หน้า ๑๕๒-๑๕๓
กระทู้: ขออนุญาตเรียนถามถึงเรื่องธรรมเนียมการโกนหัวไว้ทุกข์ของไทยค่ะ เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 24 ส.ค. 19, 17:07 ภาพในช่วงระหว่างพระบรมศพรัชกาลที่ ๔ ประดิษฐานในพระที่นั่งดุสิตฯ ชาวสยามต่างโกนผมไว้ทุกข์ ยกเว้นเด็กที่ยังไม่โกนจุกไม่ต้องโกนหัว
กระทู้: ขออนุญาตเรียนถามถึงเรื่องธรรมเนียมการโกนหัวไว้ทุกข์ของไทยค่ะ เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 24 ส.ค. 19, 17:22 ภาพจิตรกรรมฝาผนังภายในพระที่นั่งทรงผนวช วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม ข้าราชบริพารกำลังเตรียมงานพระราชพิธีพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ในภาพจะเห็นการไว้ทุกข์ตามโบราณราชประเพณีที่โกนผมและนุ่งขาวห่มขาว
ภาพจาก https://www.voicetv.co.th/read/267456 กระทู้: ขออนุญาตเรียนถามถึงเรื่องธรรมเนียมการโกนหัวไว้ทุกข์ของไทยค่ะ เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 26 ส.ค. 19, 09:01 ข้อความในประกาศเรื่องโกนผม ในคราวสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชเจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศสวรรคต มีตอนหนึ่งว่า
"การที่โกนศีศะนั้น ก็ไม่เปนที่ต้องพระราชอัธยาไศรยอันใด" อีกทั้งในประกาศฉบับเดียวกันยังย้ำว่า การโกนผมเป็นเกียรติยศแบบเก่า ซึ่งหมายความว่า รัชกาลที่ ๕ ไม่ทรงโปรดเรื่องการโกนผม ด้วยเป็นธรรมเนียมที่พ้นสมัย http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2437/048/439_1.PDF กระทู้: ขออนุญาตเรียนถามถึงเรื่องธรรมเนียมการโกนหัวไว้ทุกข์ของไทยค่ะ เริ่มกระทู้โดย: กะออม ที่ 27 ส.ค. 19, 08:22 เรื่องการยกเลิกโกนศีรษะคราวงานพระบรมศพสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชพระองค์แรก เนื่องมาจากพระราชดำริของสมเด็จพระบรมราชเทวี พระชนนี ทรงเห็นว่าพระบรมศพยังอยู่อีกนาน ข้าราชบริพารต้องโกนผมตลอด โดยเฉพาะสตรี คนเราย่อมรักสวยรักงาม จึงมีลายพระราชหัตถ์ถึงสมเด็จกรมพระยาเทววะวงศ์ฯ ให้กราบบังคมทูลพระกรุณา ให้ยกเลิกเสีย
กระทู้: ขออนุญาตเรียนถามถึงเรื่องธรรมเนียมการโกนหัวไว้ทุกข์ของไทยค่ะ เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 27 ส.ค. 19, 09:57 ข้าราชบริพารต้องโกนผมตลอด โดยเฉพาะสตรี คนเราย่อมรักสวยรักงาม ไม่เฉพาะแต่สาวชาววัง แม้แต่สาวชาวบ้านก็เศร้าเสียใจเสียดายผมเช่นกัน ;D อย่างในงานศพของนางทิพเกสร บรรดาผู้หญิงในเมืองไม่อยากโกนผมไว้ทุกข์ตามหมายประกาศเพราะกลัวเสียโฉม หากจ่ายเงินทดแทนได้ก็จะยอม แล้วแจกหมายต่อต่อเป็นข้อขัน ประกาศกันโกนเกล้าทั้งกรุงศรี แสนสงสารสาวสาวเมื่อคราวนี้ จะเศร้าศรีเสียผมให้ตรมใจ ปรึกษานางเพื่อนเรือนเจ้าเพื่อนรัก อกจะหักแล้วจะทำอย่างไรได้ ห้าตำลึงแม้เขาจะเอาไป ถ้าคุ้มได้แล้วหนอไม่ขอเลย อย่าน้อยใจนั่งคิดให้จิตเจ็บ รักษาเล็บไว้ให้ยาวเถิดเจ้าเอ๋ย ทับทิมเพลาะซัดเข้าอย่าเบาเลย แป้งชะมดชดเชยก็พอชม ซังตายว่าข้าวิตกอกจะแตก เขาโกนแกรกใจหายเสียดายผม นํ้าตากับน้ำชุบเป็นเกลียวกลม ทำพูดถมโทษมีดว่าเจ็บจริง จาก นิทานคำกลอนเรื่องลักษณวงศ์ ตอนที่ ๑๙ ลักษณวงศ์โศกถึงนางทิพเกสร (https://vajirayana.org/ลักษณวงศ์/ตอนที่-๑๙-ลักษณวงศ์โศกถึงนางทิพเกสร) ของสุนทรภู่ กระทู้: ขออนุญาตเรียนถามถึงเรื่องธรรมเนียมการโกนหัวไว้ทุกข์ของไทยค่ะ เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 28 ส.ค. 19, 18:57 เมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จสวรรคต สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช (พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว) มีประกาศยกเลิกการโกนผมแทนการไว้ทุกข์ ความว่า
มีรับสั่งสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ซึ่งได้สำเร็จราชการแผ่นดิน ให้ประกาศจงทราบทั่วกันว่า สมเด็จพระบรมชนกนารถ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระประชวรพระโรคพระธาตุพิการมาแต่ ณ วันที่ ๑๖ ตุลาคม พระโรคกลายไปในทางพระวักกะพิการ แพทย์ได้ประกอบพระโอสถถวาย พระอาการหาคลายไม่ ถึง ณ วันเสาร์ ที่ ๒๒ ตุลาคม เสด็จสวรรคตเวลา ๒ ยาม กับ ๔๕ นาที จะได้เชิญพระบรมศพสู่พระโกษฐ์แห่จากพระราชวังดุสิต ไปประดิษฐานไว้ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ในวันที่ ๒๓ ตุลาคม ความเศร้าโศรกสาหัสอันบังเกิดขึ้นในพระบรมราชวงษ์ครั้งนี้ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ทรงแน่ในพระหฤทัยว่า จะเปนความเศร้าโศรกแก่ประชาชนทั้งหลายทั่วไปในพระราชอาณาจักร เพราะเหตุที่สมเด็จพระบรมชนกาธิราชได้ทรงพระกรุณาทนุบำรุงมาทั่วกัน อนึ่งตามโบราณราชประเพณี ในเวลาเมื่อพระเจ้าแผ่นดินเสด็จสวรรคต พระบรมวงษานุวงษ์แลข้าราชการ ราษฎรทั้งหลายต้องโกนผมแทนการไว้ทุกข์ทั่วทั้งพระราชอาณาจักร แต่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกนารถ ได้ทรงมีพระราชดำรัสสั่งไว้ว่า การไว้ทุกข์ดังเช่นที่กล่าวมาแล้วนั้น ย่อมเปนเครื่องเดือดร้อนอยู่เป็นอันมากให้ยกเลิกเสียทีเดียว ประกาศมา ณ วันที่ ๒๓ ตุลาคม รัตนโกสินทรศก ๑๒๙ ข้อมูลจาก สำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติ (https://www.nat.go.th/คลังความรู้/สาระน่ารู้จากเอกสารจดหมายเหตุ/รายละเอียดสาระน่ารู้เอกสารจดหมายเหตุ/ArticleId/191/-1-2-3-4-5-6-7-8-9-10-11-12-13) กระทู้: ขออนุญาตเรียนถามถึงเรื่องธรรมเนียมการโกนหัวไว้ทุกข์ของไทยค่ะ เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 30 ส.ค. 19, 09:19 คุณกรกิจ ดิษฐาน เขียนถึงเรื่องการโกนผมไว้ทุกข์
ความทุกข์แห่งการโกนผม ในอัตตปวัตติของพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ สิริจันโท (จันทร์) บันทึกเรื่องราวในวัยเยาว์ของท่านเอาไว้ว่า ครั้นย่างเข้าปีอายุ ๑๓ เป็นปีพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวสวรรคต เป็นธรรมเนียมต้องโกนผมไว้ทุกข์ทั่วพระราชอาณาจักร ประเทศลาวทั้งสิ้นบรรดาผู้หญิงไม่ว่าสาวหรือแก่ไว้ผมยาวทั้งสิ้น พอทราบประกาศว่าให้โกนผม พากันระงมไปด้วยเสียงร้องไห้ทั่วบ้านทั่วเมือง น่าสลดใจเสียดายผมเท่านั้น พากันอายศีรษะโล้น ต้องคลุมผ้าไว้เสมอ ส่วนอัตตโนชอบใจเห็นศีรษะโล้นเป็นงามดี พระอุบาลีคุณูปมาจารย์เกิดที่เมืองอุบล ถิ่นวัฒนธรรมลาวล้านช้าง สตรีแถบนั้นแต่ไรมาไว้ผมยาวมัดเป็นมวยตบแต่งสวยงาม จู่ ๆ จะมาให้โกนทั้งหมดเพื่อไว้ทุกข์ ทั้งสาวทั้งแก่จึงร้องไห้เสียดาย และอายที่ต้องหัวโล้น ส่วนผู้หญิงไทยแถบภาคกลางไว้ผมสั้น บางครั้งสั้นเกือบเกรียนผมเดาว่าน่าจะเสียดายน้อยกว่าผู้หญิงลาว เคยคิดเล่น ๆ ว่าที่ผู้หญิงสยามไว้ผมสั้น ชะรอยคงเพราะต้องหมั่นโกนไว้ทุกข์ถวายเจ้านายกระมัง ? ในรัชกาล ๕ - ๖ ทรงเห็นว่าการโกนศีรษะเป็นการเบียดเบียนราษฎร ทรงสั่งให้เลิกเสีย พวกเราจึงไม่ต้องโกนกันอีก กระทู้: ขออนุญาตเรียนถามถึงเรื่องธรรมเนียมการโกนหัวไว้ทุกข์ของไทยค่ะ เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 30 ส.ค. 19, 09:21 เหตุแห่งการโกนผมไว้ทุกข์
การโกนศีรษะให้ผู้ตายน่าจะมาจากอินเดีย ไทยน่าจะรับจากกัมพูชา บันทึกจีนสมัยราชวงศ์เหลียงระบุว่าชาวฟูนันโกนผมไว้ทุกข์ แสดงว่าโกนกันมาตั้งแต่ศตวรรษที่ ๖ เป็นอย่างต่ำ ผ่านมา ๑,๒๐๐ ปีแล้ว ทุกวันนี้ที่กัมพูชายังรักษาธรรมเนียมโกนศีรษะในงานศพ (สามีหรือภรรยาและลูก ๆ แล้วแต่งขาว) โดยเฉพาะในงานพระศพพระบาทสมเด็จพระนโรดม สีหนุเมื่อปี ๒๕๕๕ ก็มีสตรีโกนศีรษะไว้ทุกข์หลายคน (อนึ่งคำว่าโกนในภาษาไทยคล้ายกับภาษเขมรว่า "โกร" (เขียนว่า เการ) โกนผมคือ "โกร ส็อก" ส่วนใครรับของใครมา ค่อยว่ากันทีหลัง) อยากรู้ว่าทำไมไทยโกน เขมรโกน ต้องย้อนกลับไปที่อินเดีย แต่เดิมงานศพที่อินเดียจะโกนผม ทั้งหญิงชาย แต่งขาวไว้ทุกข์ (บันทึกของการะฟัด) ปัจจุบันผู้ชายบางพื้นที่ยังโกนผม ผู้หญิงที่โกนผมไปตลอดชีวิต คือพวกแม่หม้าย ที่โกนผมมีเหตุผล ๒ ระดับ ๑. เหตุผลระดับประเพณี เพื่อแสดงความเคารพผู้ตาย เรื่องนี้เป็นคำอธิบายที่คนส่วนใหญ่มักใช้กัน "แต่" ประเพณีย่อมมีนัยลึกซึ้งกว่านั้น ๒. เหตุผลในระดับศาสนา เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ประกอบพิธีศพรับพลังด้านลบรุนแรง (รชะ-ตะมะ) จากศพผู้ตาย โดยเฉพาะสีดำของเส้นผมจะรับพลังงานนี้ได้ง่าย (คำอธิบายจาก Hindu Janajagruti Samiti) คำอธิบายนี้มาจากสมาคมฮินดูในอินเดีย แต่ผมยังไม่ปักใจเชื่อเพราะยังไม่ได้ตรวจคัมภีร์พระเวท-พระธรรมศาสตร์ ซึ่งน่าจะมีเหตุผลอย่างละเอียด https://www.facebook.com/765197073525028/posts/1672257926152267?sfns=mo กระทู้: ขออนุญาตเรียนถามถึงเรื่องธรรมเนียมการโกนหัวไว้ทุกข์ของไทยค่ะ เริ่มกระทู้โดย: ดาวกระจ่าง ที่ 31 ส.ค. 19, 15:28 ถ้าดูจากวรรณคดีที่คุณเพ็ญชมพูนำมาลงก็เห็นว่าสาวชาววัง ชาวบ้านก็ไม่ชอบ แถมพิธีนี้ก็รับมาจากที่อื่น เลยสงสัยว่าทางชาววังทำไมเขายินยอมกันคะ ไม่มีใครขัดเลยหรอ
อีกอย่างเป็นไปได้ไหมคะว่าสมัยอยุธยาเป็นช่วงที่รบกับพม่าผู้หญิงเลยไว้ผมสั้นเรื่อยมาแล้วชิน พอมีพิธีนี้ผู้หญิงเลยไม่มีปัญหากับการโกนผมเพราะชินกับผมสั้นไปแล้ว กระทู้: ขออนุญาตเรียนถามถึงเรื่องธรรมเนียมการโกนหัวไว้ทุกข์ของไทยค่ะ เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 01 ก.ย. 19, 09:51 https://www.matichonweekly.com/column/article_62573
คมกฤช อุ่ยเต็กเค่ง : บางแง่มุมของการ “ไว้ทุกข์” กระทู้: ขออนุญาตเรียนถามถึงเรื่องธรรมเนียมการโกนหัวไว้ทุกข์ของไทยค่ะ เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 01 ก.ย. 19, 11:15 ถ้าดูจากวรรณคดีที่คุณเพ็ญชมพูนำมาลงก็เห็นว่าสาวชาววัง ชาวบ้านก็ไม่ชอบ แถมพิธีนี้ก็รับมาจากที่อื่น เลยสงสัยว่าทางชาววังทำไมเขายินยอมกันคะ ไม่มีใครขัดเลยหรอ ที่ต้องยอมเพราะมีบทลงโทษ มีหลักฐานในศุภอักษรของอัครมหาเสนบดีเมื่อครั้งรัชกาลที่ ๑ เสด็จสวรรคต ส่งไปยังเจ้าประเทศราชในเขตล้านนาและพระเจ้ากรุงกัมพูชา ให้โกนผมเดือนละครั้งจนกว่าถวายพระเพลิงแล้ว โดยระบุว่า "ถ้าผู้ใดมิได้โกนผมจับได้จะเอาตัวเป็นโทษจงหนัก" http://www.reurnthai.com/index.php?topic=7033.msg168988#msg168988 กระทู้: ขออนุญาตเรียนถามถึงเรื่องธรรมเนียมการโกนหัวไว้ทุกข์ของไทยค่ะ เริ่มกระทู้โดย: ดาวกระจ่าง ที่ 02 ก.ย. 19, 15:20 หมายความว่าชนชั้นสูงผู้หญิงในวังทุกๆตำแหน่งก็ไม่มีสิทธิในการจะเห็นด้วย ไม่เห็นด้วยต่อกฏของทางวังที่ออกมาเลยหรือคะ คือออกมาอย่างไงก็ต้องทำตามอย่างเดียวถูกต้องไหมคะ
กระทู้: ขออนุญาตเรียนถามถึงเรื่องธรรมเนียมการโกนหัวไว้ทุกข์ของไทยค่ะ เริ่มกระทู้โดย: Naris ที่ 02 ก.ย. 19, 16:19 ผมคิดว่า วิธีคิดของผู้คนในสมัยก่อน ต่างจากวิธีคิดของผู้คนสมัยนี้ครับ
ผู้คนสมัยก่อน เขายอมรับในความต่างกันของยศศักดิ์ครับ ผู้มีศิกดิ์สูง ก็มีหน้าที่อย่างผู้มีศักดิ์สูง เช่น การอุปถัมภ์ค้ำชู ให้การดูแลปกป้องผู้มีศักดิ์ต่ำกว่าซึ่งอยู่ในความคุ้มครอง ในขณะที่ผู้มีศักดิ์ต่ำกว่าก็มีหน้าที่เชื่อฟังและรับใช้มูลนาย เป็นลักษณะของการพึ่งพาอาศัยกันขึ้นไปเป็นทอดๆ ประกอบกับสังคนบ้านเราเชื่อเรื่องบุญวาสนา ผู้มีบุญหนักศักดิ์ใหญ่ ก็เชื่อว่าได้ทำบุญมาแต่อดีต ผู้ที่มีบุญญาบารมีน้อยกว่า ก็ไม่คิดจะไปแข่งบุญแข่งบารมีกันท่านไปทำไม ด้วยเหตุนี้ คำสั่งจากผู้มีศักดิ์มากกว่า จึงเป็นสิ่งที่ต้องทำตามเท่านั้น คนสมัยนั้น ไม่มีแนวคิดเรื่อง สิทธิ (ที่ชัดเจนน่าจะเรียกว่า สิทธิพื้นฐานของความเป็นมนุษย์) อย่างที่คนปัจจุบันคิดเลยครับ ดังนั้น เมื่อหลวงท่านสั่งให้โกน ก็คือโกนครับ ไม่มีใครคิดว่า นี่เป็นการละเมิดสิทธิ เสรีภาพ อะไรทำนองนั้นแต่อย่างใด กระทู้: ขออนุญาตเรียนถามถึงเรื่องธรรมเนียมการโกนหัวไว้ทุกข์ของไทยค่ะ เริ่มกระทู้โดย: Koratian ที่ 02 ก.ย. 19, 19:12 พลเมืองมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามบทบังคับของกฎหมายครับ กระทู้: ขออนุญาตเรียนถามถึงเรื่องธรรมเนียมการโกนหัวไว้ทุกข์ของไทยค่ะ เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 02 ก.ย. 19, 20:20 หมายความว่าชนชั้นสูงผู้หญิงในวังทุกๆตำแหน่งก็ไม่มีสิทธิในการจะเห็นด้วย ไม่เห็นด้วยต่อกฏของทางวังที่ออกมาเลยหรือคะ คือออกมาอย่างไงก็ต้องทำตามอย่างเดียวถูกต้องไหมคะ ถูกต้องค่ะกฎใหญ่ๆของทางวังเรียกว่ากฎมณเฑียรบาล ถ้าละเมิดมีโทษกำหนดไว้ค่ะ แม้แต่เจ้านายสตรีชั้นพระเจ้าลูกเธอก็ต้องอยู่ในกฎนี้ เช่นจะเสด็จออกนอกวังในยามวิกาลไม่ได้ เว้นแต่ได้รับพระบรมราชานุญาต กระทู้: ขออนุญาตเรียนถามถึงเรื่องธรรมเนียมการโกนหัวไว้ทุกข์ของไทยค่ะ เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 03 ก.ย. 19, 07:08 คนสมัยนั้น ไม่มีแนวคิดเรื่อง สิทธิ (ที่ชัดเจนน่าจะเรียกว่า สิทธิพื้นฐานของความเป็นมนุษย์) อย่างที่คนปัจจุบันคิดเลยครับ อย่างน้อยก็มี "อำแดงเหมือน" ผู้เรียกร้องสิทธิสตรีคนแรก (ที่มีบันทึกไว้) ในประวัติศาสตร์สยาม คราเมื่อรัชกาลที่ ๔ เสด็จสวรรคต อำแดงเหมือนคงเต็มใจโกนศีรษะทดแทนพระคุณท่านเป็นแน่แท้ http://www.reurnthai.com/index.php?topic=5430.msg114891#msg114891 กระทู้: ขออนุญาตเรียนถามถึงเรื่องธรรมเนียมการโกนหัวไว้ทุกข์ของไทยค่ะ เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 03 ก.ย. 19, 10:05 โกนหัวไว้ทุกข์
กระทู้: ขออนุญาตเรียนถามถึงเรื่องธรรมเนียมการโกนหัวไว้ทุกข์ของไทยค่ะ เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 03 ก.ย. 19, 10:46 ^^
ภาพข้าราชสำนักฝ่ายในโกนศีรษะในงานออกพระเมรุพระบาทสมเด็จพระสีสุวัตถิ์ (ในเอกสารฝ่ายไทยออกพระนามว่า "สมเด็จพระศรีสวัสดิ์") พ.ศ. ๒๔๗๐ ใน หนังสือลัทธิธรรมเนียมต่าง ๆ ภาคที่ ๒๐ ราชกำหนดกรุงกัมพูชา เรื่องการ พระราชพิธีพระบรมศพสมเด็จพระศรีสวัสดิ์ พระเจ้ากรุงกัมพูชา (http://www.car.chula.ac.th/rarebook/book2/clra60_0117/mobile/index.html#p=18) หน้า ๗ - ๙ บรรยายว่า ....ให้ชาวเมืองไว้ทุกข์นุ่งขาวถวายแต่ไม่ต้องโกนผม เมื่อพ้นกำหนดนี้แล้วให้ไว้ทุกข์พันแขนดำ นุ่งผ้าตามใจได้ ต่อเมื่อถึงคราวถวายพระเพลิงจึงให้กลับนุ่งขาวอีก....มีนางร้องไห้ประจำยาม ๒๐ คน ล้วนแต่โกนผมนุ่งขาวไว้ทุกข์ ร้องยำยามตามบทที่กรมพระราชนิพนธ์ได้แต่งถวายสำหรับพระบรมศพ ในเวลาที่ร้องยำยามถวายนั้น มีกลองชนะ ๑๐ จ่าปี่ ๑ จ่ากลอง ๑ ฯ กระทู้: ขออนุญาตเรียนถามถึงเรื่องธรรมเนียมการโกนหัวไว้ทุกข์ของไทยค่ะ เริ่มกระทู้โดย: ดาวกระจ่าง ที่ 04 ก.ย. 19, 17:01 ขอบคุณสำหรับคำตอบค่ะ
|