อุณรุทร้อยเรื่อง

จาก ตู้หนังสือเรือนไทย

การปรับปรุง เมื่อ 06:54, 8 สิงหาคม 2552 โดย CrazyHOrse (พูดคุย | เรื่องที่เขียน)
(ต่าง) ←รุ่นก่อนหน้า | รุ่นปัจจุบัน (ต่าง) | รุ่นถัดไป→ (ต่าง)
ข้ามไปที่: นำทาง, สืบค้น

เนื้อหา

ข้อมูลเบื้องต้น

แม่แบบ:เรียงลำดับ ผู้แต่ง: คุณสุวรรณ

บทประพันธ์

๏ เมื่อนั้นพระอุณรุทผู้รุ่งรัศมี
สมสู่อยู่ด้วยนางจันทีภูมีตรีตรึกนึกใน
แค้นด้วยอิเหนากุเรปันกับสุวรรณมาลีศีรใส
เอานางจันสุดายาใจไปยกให้พระสมุทบุตรระตู
เสียดายวงศ์อสัญแดหวาพระราชาเคืองแค้นแสนอดสู
เหม่เหม่อสุรินดูหมิ่นกูจะได้ดูฤทธิ์กันในวันนี้ ฯ ๖ คำ ฯ
๏ ดำริพลางทางมีพจนารถสั่งท้าวสันนุราชเรืองศรี
กับทั้งตำมะหงงเสนีจงจัดพลมนตรีอย่านาน ฯ ๒ คำ ฯ
๏ เมื่อนั้นกุมภกรรฐืคำนับรับบรรหาร
กับพระคาวีปรีชาชาญรับสั่งแล้วคลานออกมา ฯ ๒ คำ ฯ เสมอ
๏ เกณฑ์หมู่จัตุรงค์องอาจพรหมทัตธิราชเป็นกองหน้า
ปีกซ้ายชุณรัตน์ราชาปีกขวาอินทรชิตฤทธิรงค์
กองหลวงล้วนสันทัดจัดเจนกะเกณฑ์ให้พระสุวรรณหงษ์
คุมพวงพหลรณรงค์แล้วโบกธงสัญญาคลาไคล ฯ ๔ คำ ฯ กราว
๏ ออกจากขีดขินธานีปัถพีเลื่อนลั่นหวั่นไหว
เร่งทัพขับพลสกลไกรเข้าในเหมัต์ทันที ฯ ๒ คำ ฯ เชิด
๏ ครั้นถึงจึงถวายอภิวาทท้าวพิไชยนุราชเรืองศรี
ด้วยบัดนี้สุวิญชาเป็นกาลีภูมีจะคิดประการใด ฯ ๒ คำ ฯ
๏ เมื่อนั้นท้าวบรมจักรกฤษณ์เป็นใหญ่
ได้ฟังคั่งแค้นแน่นใจดูดู๋เป็นได้อีมณฑา
เป็นรักใคร่อ้ายเงาะมันเหมาะเหลือจะสับเชือดเลือดเนื้อให้สังขาร์
เหตุไฉนไยทำอหังการ์มาลักองค์บุษบาพาไป ฯ ๔ คำ ฯ
๏ เมื่อนั้นวิมาลาอกสั่นหวั่นไหว
กอดบาทยุขันเข้ทันใดพระภูวไนยอย่าเพ่อโกรธา
ลูกได้ผิดแล้วอย่าถือโทษพระสุริยงค์จงโปรดเกษา
เมื่อข้าประสูติลูกยาได้ยินเสียงโศกาจาบัลย์
เจ็ดนางเอาผ้าพันตาไว้ภูวไนยอย่าเพ่อหุนหัน
ว่าพลางครวญคร่ำรำพันศรีประจันไม่เป็ฯสมประดี ฯ ๖ คำ ฯ โอด
๏ ด้วยพระลิ้นทองผ่องภักตร์แค้นนักดังจะม้วยเป็นผี
ไปสมสู่อยู่กินด้วยกากีนางเมรีร่ำไรแล้วไปตาม
ตะโกนก้องร้องเรียกพ่อสังข์หอยมาหาแม่สักหน่อยอย่าเกรงขาม
เรียกพลางทางแถลงแจ้งความเกสรพราหมณ์ซวนซบสลบไป ฯ ๔ คำ ฯ โอด
๏ เมื่อนั้นพระมงกุฎเศร้าสร้อยละห้อยไห้
เห็นองค์อุณากรรณบรรลัยมิได้คืนสมประดีมา
โอ้แม่เจ้าประคุณของลูกรักนางยักษ์มาม้วยสังขาร์
ร่ำพลางทางขึ้นอาชาพาห่อนัยนาเหาะไป ฯ ๔ คำ ฯ เชิด
๏ ครั้นถึงรถาพระสี่กรวานรยินดีจะมีไหน
ถวายดวงชีวันทันใดกับท้าวไททศวงศ์ทรงศักดา ฯ ๒ คำ ฯ
๏ เมื่อนั้นท้าวไกรสุทธสำรวลสรวลร่า
ชื่นชมด้วยสมเจตนาได้ดวงชีวาชาละวัน
คราวนี้จะดับเข็ญให้เย็นยุคให้ภาราผาสุกเกษมสันต์
อันอีจันทาอาธรรม์จะได้เล่นเห็ฯกันไอ้ลันได
ทั้งลักษณวงศ์ทรงฤทธิ์จะลวงล้างชีวิตให้จงได้
เสียทีที่เลี้ยงมึงไว้ดูดู๋เป็นได้ไอ้โสภิณ
ขับนางจันทามเหษีให้คนทั้งธานีเขาติฉิน
ไปสมสู่อยู่ด้วยมุจลินทร์ยอพระกลิ่นคั่งแค้นแสนทวี
ทั้งน้อยจิตคิดถึงคำนางอำพันอยากจะใคร่ห้ำหั่นให้เป็นผี
คิดพลางเจ็ดนางจรลีไปเยาะเย้ยพระมณีพิไชย ฯ ๑๐ คำ ฯ เพลง
๏ ครั้นถึงจึงมีวาจาเจ้าไกรทองพงศาเป็นไฉน
ง้งงเหงาเศร้าจิตคิดถึงใครเหมือนบ้าใบ้ไม่เป็ฯสมประดี
เสียแรงหวังตั้งจิตพิศวาสไปรักใคร่ครุฑราชปักษี
นางจันทาว่าชั่วตัวอัปรีย์ออกลูกไม่ดีเป็นท่อนไม้
ชะนางคนดีไม่มีชั่วเลือกผัวงามนักน่ารักใคร่
ตะคอกขู่ชูกล่องดวงใจไยพเยาะองค์เจ้าลงกา ฯ ๖ คำ ฯ เชิด
๏ เมื่อนั้นพระดาวเรืองเคืองแค้นแสนสา
ได้ฟังถ้อยคำนางรำภามาเย้ยเยาะข้านี้ว่าไร
เหม่เหม่พระมเหษีเอกโหยดเหยกหยาบช้าไม่ปราสัย
พลางฉวยพระขรรค์แก้วแววไวเลี้ยวไล่ฟาดฟันกัลยา ฯ ๔ คำ ฯ
๏ อีเอ๋ยอีเถ้ากูจะบั่นเกล้าเกษา
อวดว่าตัวดีวิ่งหนีไยนา
โบยตีศรีมาลาลูกข้าทำไม
๏ ทรงเอยทรงเดชพระนารายณ์ธิเบศร์ไปอยู่ไหน
พระมาโบยตีทองประศรีทำไม
ขุนแผนวิ่งไปหมื่นไวยวิ่งมา
๏ แค้นเอยแค้นนักพระลักษณ์กริ้วโกรธนางอุสา
เป็นไรไปเข้าด้วยเจ้าลงกา
คุมพลอสุราออกมาทำไม
๏ ทรงเอยพระทรงฤทธิ์ข้าจะมีผิดก็หาไม่
ท่านท้าวกาหลังผลักสังข์ศิลป์ไชย
ตกเหวลงไปมิได้กลับมา
๏ อีเอยอีโสธรกลับกลอกยอกย้อนเป็นหนักหนา
กูรู้อยู่แล้วอีแก้วกิริยา
ชิงชังสุวิญชามุสาใส่ไคล้
ภูเอยภูมินทร์พระอภัยนุสินอย่าสงสัย
อันองค์วิยดาจรกาลักไป
มโนห์ราจึงให้แก่ไชยสุริวงศ์
ทูลพลางทางจรนี่ศรพระองค์
ดั้งดังลัดพงวิ่งตรงเข้าไพร ฯ ๒๐ คำ ฯ
๏ เมื่อนั้นพระโสวัตรรัศมีศรีใส
ครั้นเห็นมฤคีหนีไปภูวไนยพิโรธโกรธา
กรกุมตระบองแวแววไวพร้อมเสนาในยักษา
แล้วเผ่นโผนโจนขึ้นไอยราเคลื่อนคลาพหลพลไกร ฯ ๔ คำ เชิด
๏ น้อยฤๅอีมัจฉากาลีคบชู้แล้วหนีพ่อได้
ทั้งเพชรมงกุฏวุฒิไกรคงบรรลัยด้วยมืออสุรา
ไสช้างพลางเร่งัตุรงค์สององค์เที่ยวเสาะแสวงหา
คนึงหวนครวญถึงบุษบาแก้วตาของพี่อยู่แห่งใด
พระกูก้องร้องเรียนเกสรน้อยแม่ยอดสร้อยนารีอยู่ที่ไหน
ให้ขัดสนทลนทลายไปภูวไนยข้อนทรวงเข้าโศกา ฯ ๖ คำ ฯ โอด
๏ โอ้นางมณฑามารศรีป่านนี้จะละห้อยคอยหา
เจ้ามีภรรภ์เจ็ดเดือนไม่เคลื่อนคลาไกยวัลริษยาอาธรรม์
จำจะไปสังหารผลาญชีวิตปโรหิตพ่อลูกให้อาสัญ
แล้วจะชุบบิตุรงค์ทรงธรรม์จะได้พาอำพันมาธาสนี ฯ ๔ คำ ฯ
๏ อัมรินทร์จินตนาแล้วคลาไคลบัดใจก็ถึงพนาศรี
เห็นเกษสุริยงสิ้นชีวีกลิ้งกลางปัถพีอนาถใจ
จึงเอาน้ำทิพย์มาโสรจสรงเจ้าจงไม่ม้วยตักษัย
พระจึงเล่าแถลงให้แจ้งใจอีประไพสุริยาเป็นกาลี
ระยำนักไปรักไอ้โจรดงเราสาปส่งเป็นชะนีเสียที่นี่
จงรับไปเถิดจะได้นางวารีท้าวนาคีซ่อนไว้ในไพรวัน ฯ ๖ คำ ฯ
๏ เมื่อนั้นวรวงศ์ปรีดิ์เปรมเกษมสันต์
ได้ฟังพระมหานักธรรม์รำพันเสร็จสิ้นด้วยยินดี
ครั้นแล้วเคารพอภิวันท์องค์ท้าวประมอตันเรืองศรี
พระลีลามาขึ้นพาชีขุนกระบี่เหาะตรงเข้าพงไพร ฯ ๔ คำ เชิด
๏ จึงชักอาชาราร่อนยังยอดศิงขรเนินไศล
แล้วพระศรีเมืองเรืองไชยก็เข้าในคูหาวานรินทร์ ฯ ๒ คำ ฉุยฉาย
๏ น้อยเอยน้องรักปวะหลิ่มเลิศลักษณ์เฉิดฉิน
แต่พี่เที่ยวหาทุกธานินมิได้พบยอพระกลิ่นกลอยใจ
เสียดายเจ้ามาเกิดเป็นกุมภีล์ในเมืองมนุษย์เช่นนี้หามีไม่
ขอถามข่าวสาวน้อยกลอยใจเป็นไฉนมาอยู่แต่ผู้เดียว ฯ ๔ คำ ฯ
๏ เมื่อนั้นวิมานจันทร์ผันแปรแลเหลียว
ได้ฟังพระรถพูดลดเลี้ยวนางบิดเบี้ยวเบือนหน้าแล้วพาที ฯ ๒ คำ ฯ
๏ ทรงเอยพระทรงฤทธิ์ข้าพลอยผิดด้วยยายทองประศรี
ไปสื่อชักสร้อยฟ้าให้คาวีพระศุลีสาปส่งให้ลงมา
รู้แล้วอย่าได้อยู่นานพระยามารจะลงโทษา
ดังนางตะเภาทาองทั้งสองราข้ากลัวอาญาจงคลาไคล ฯ ๔ คำ ฯ
๏ เจ้าเอยเจ้าพี่นางคันธมาลีศรีใส
พี่จะเล่าแถลงให้แจ้งใจเดิมได้มาลาในวารี
ออกนามอุบลเวหาในสาราว่าบุตรพระฤๅษี
จึงสู้ติดตามมากับพาชีเทวีจงแจ้งกิจจา ฯ ๔ คำ ฯ
๏ เมื่อนั้นนางผมหอมตรอมใจเป็นหนักหนา
ฟังพระพิมพ์สวรรค์จำนรรจากัลยาเคืองขัดตัดรอน
าคนชั่วช้ากาลีออกลูกไม่ดีพระทรงศร
จะสู้อยู่ในพนาดรมิขอคืนนครอยุธยา ฯ ๔ คำ ฯ
๏ น้องเอยน้องแก้วเป็นบุญแล้วได้พบขนิษฐา
เต็มพิศด้วยฤทธิ์ปะตาปารจนาอย่าได้เดือดดาล
แต่พี่เตร่เร่หาทุกธานีชีวีปิ้มจะม้วยสังขาร
ศุภลักษณ์ไปแจ้งเหตุการณ์จึงได้ข่าวสารบัดนี้ ฯ ๔ คำ ฯ
๏ เมื่อนั้นนางสุพรรณทลิกามารศรี
ได้ฟังวาจาพาลีเทวีจึงตอบคำไป
ซึ่งว่าพระแสนพิศวาสจึงไม่คลาดจากเมืองหมันยาได้
อันนางเทพลีลายาใจที่พระองค์เก็บได้ที่ในกลอง
จงกลับไปภิรมย์สมสนิทเชยชิดสมสู่เป็นคู่สอง
อันข้าไซร้จะอยู่ในผะอบทองพระไปครองนัคราให้สำราญ ฯ ๖ คำ ฯ
๏ อนิจานางสมนักขายอดสงสาร
ศรีสวัสดิ์มาตัดรอนรานใช่จะแต่งพจมานมาพาที
กำลังฤทธิ์ปู้เจ้าเขาเขินจึงเผอิญให้ชังมเหษี
ไม่ทันสั่งนางลักษณวดีพระลอจรลีตามไป ฯ ๔ คำ ฯ เชิด
๏ เมื่อนั้นนางประทุมเทวีศรีใส
ผวาตื่นฟื้นองค์อรไทไม่เห็นพระภูวไนยที่ไสยา
นางเที่ยวค้นคว้าหาจบมิได้พบพระไพรวงศ์พงศา
เห็นโลหิตผิดแล้วนะอกอาทั้งหอกยนต์อยู่หน้าบัญชรชัย
เกิดเหตุทั้งนี้เพราะพี่เลี้ยงแท้เที่ยงมในคงไม่สงสัย
สองกรข้อนทรวงเข้าร่ำไรนางอุทัยเพียงจะสิ้นสมประดี ฯ ๖ คำ ฯ โอด
๏ โอ้ว่าพระทูลกระหม่อมแก้วหนีเมียไปแล้วพระโฉมศรี
มิได้สั่งสนทนาพาทีสกุณียังรู้สั่งยมนา
จระเข้ายังรู้สั่งอากาศสิงหราชยังรู้สั่งมหิงษา
หัศรังยังสู้สั่งไอยรานาคายังรู้สั่งสุบรรณบิน
เหมราชยังรู้สั่งซึ่งคูหาแต่มัจฉายังรู้สั่งซึ่งไพรสิณฑ์
พยัคฆ์ยังรู้สั่งมฤคินพระภูมินควรฤๅไม่อาลัยลา ฯ ๖ คำ ฯ
๏ จำจะโยโยธาคลาไคลตามองค์พระอภัยเชษฐา
ว่าพลางนางแปลงกายาเป็นองค์สุดาเยาวมาลย์
รี้พลให้กลายเป็นโยธาไอยราแปลงเป็นคชสาร
พาชีแปลงเป็นอาชาชาญพระพรหมานแปลงเป็นท้าวธาดา
ไกรสรให้แปลงเป็นสิงหราชสกุณชาติให้แปลงเป็นปักษา
พระราเมศแปลงเพศเป็นรามาพยัคฆาแปลงเป็นพยัคฆี
พระยาครุฑแปลงเป็นสุบรรณจรวานรแปลงเป็นกระบี่ศรี
นาคาเป็นพระยาวาสุกรีโกสีย์แปลงเป็นท้าวหัสนัยน์
พระสุริยันนั้นเป็นทินกรศศิธรเป็นดวงแขไข
เจ้าพลายงามแปลงนามเป็นหมื่นไวยชาละวันนั้นให้เป็นกุมภา
พระอิศวรแปลงเป็นพระศุลีทรพีแปลงเป็นมหิงษา
เทเวศร์แปลงเพศเป็นเทวากินราแปลงเป็นกินรี
พระยาหงส์แปลงองค์เป็นเหมราชพระดาบสแปลงชาติเป็นฤๅษี
โคกลายกายาเป็นคาวีมฤคีแปลงเป็นมฤคา
มยุเรศกลายเพศเป็นยูงพลันทศกรรฐ์นั้นแปลงเป็นยักษา
อุณากรรณนั้นเป็นบุษบาปันหยีแปลงกายาเป็นอายัน
ขุนแผนแผลงแปลงกายเป็นพลายแก้วสียะตราเพริศแพร้วเป็นหย้าหรัน
คนธรรพให้แปลงเป็นคนธรรพ์นางพิมกลายกายพลันเป็นวันทอง
ต่างตนสำแดงแผลงฤทธิ์ทศทิศไหวจบสยบสยอง
โยธาเหลือหลายก่ายกองคับคั่งทั้งท้องสนามใน ฯ ๒๐ คำ ฯ
๏ เมื่อนั้นพระสุธนรัศมีศรีใส
พร้อมพวกพหลพลไกรภูวไนยเสด็จจรลี
ขึ้นนั่งยังเวไชยันตราชพร้อมหมู่อำมาตย์กระบี่ศรี
สังข์แตรแซ่ซ้องกลองเภรีระดมตีครื้นคั่นสนั้นดัง
พระคลายคลี่โยธาพลากรออกจากพระนครกาหลัง
รีบเร่งโยธาเข้าป่ารังมายังสมรภูมิพลัน ฯ ๖ คำ ฯ
๏ เมื่อนั้นไชยทัตฤทธิแรงแข็งขัน
เห็นพระมเหษีร่วมชีวันยกพวกพลขันธ์มาราวี
พระเร่งกระสันรัญจวนจิตด้วยฤทธิ์เสน่ห์มเหษี
จึงร้องท้าว่าเหวยอสุรีมึงกรีฑาทัพมาจับใคร ฯ ๔ คำ ฯ
๏ เมื่อนั้นไชยเชษฐ์รัศมีศรีใส
ได้ฟังคั่งแค้นแน่นใจภูวไนยจึงมีวาจา
แล้วร้องท้าว่าเหวยกุเรปันไยมึงอาธรรม์ริษยา
ทำฮึกฮักไปลักพระรามาไปไว้ลงกาธานี
นี่หากกูติดตามไม่ขามจิตหวังจะล้างชีวิตกระบี่ศรี
แม้นรักตัวกลัวตายวายชีวีจงเร่งส่งเมรีคืนมา ฯ ๖ คำ ฯ
๏ เมื่อนั้นดาราวงศ์ทรงฟังไม่กังขา
แต่ออกชื่อจะให้ส่งองค์สีดาผ่านฟ้าอัดอั้นตันใจ
ดูก่อนไพนาสุริวงศ์อันองค์สุพรรณพิศมัย
เดิมท้าวกุมภัณฑ์พนันไว้แพ้สกาจึงให้นางเทวี
ซึ่งจะให้คืนองค์อัคเรศก็เกรงเดชองค์สารปันหยี
จะพิโรธโกรธาฆ่าตีน่าที่ชีวันจะบรรลัย ฯ ๖ คำ ฯ
๏ เมื่อนั้นองค์ท้าวกุเรปันเป็นใหญ่
ได้ฟังกริ้วกราดตวาดไปมึงอย่าใส่ไคล้พาที
ช่างอวดว่านารายณ์แบ่งภาคมาจากเกษียรวารีศรี
เป็นไฉนไม่แผลงฤทธีให้วาสุกรีเขามัดกาย
ใช้ให้ไปกับอาชาคุมหมู่โยธาทั้งหลาย
ให้เขามัดตรึงตรามาหานายทำให้ขายบาทาฝ่าธุลี
เสียแรงหวัดตั้งจิตให้ติดตามไปทำลามเลียมโลมนางโฉมศรี
สุบรรณลักยักษ์ตามพองามดีพระโยคีจะคิดอ่านประการใด ฯ ๘ คำ ฯ
๏ เมื่อนั้นพระสังข์ฟังแจ้งแถลงไข
อันองค์จินตะหรายาใจพี่สั่งให้ประหารผลาญชีวี
เหตุไฉนพี่น้องสองมนุษย์ว่าโคบุตรเป็นลูกราชสีห์
บิตุรงค์ชื่อองค์สุมาลีครอบครองธานีปางตาล
ฤๅจะเป็นบุตรานางกาไวที่พระเพียรพิไชยไปสังหาร
นางก็ม้วยมรณาเสียช้านานท้าวกรุงพาลจะคิดประการใด ฯ ๖ คำ ฯ
๏ เมื่อนั้นท้าวอำไพได้ฟังดังเพลิงไหม้
รู้ว่าชาละวันบรรลัยภูวไนยพิโรธโกรธา
โจนจากรถแก้วแววไวเข้าชิงชัยสัประยุทธ์ยักษา
หมายจำนงชิงองค์นางโมราโจรป่าบั่นบุกเข้าคลุกคลี ฯ ๔ คำ ฯ
๏ เมื่อนั้นพระศรีสุทัศน์รัศมี
เห็นพระยาสุริยามาราวีขุนกระบี่เผ่นโผนโจขนทยาน
ทั้งสิบแปดมงกุฎวุฒิไกรหมายใจจำนงจงผลาญ
ทั้งสิบรถรัถาพระยามารต่างหาญต่างสู้เป็นคู่กัน
อันพระยากุศราชอาจองจับบุญทนาวงศ์แข็งขัน
พระณรงค์พิไชยใจฉกรรจ์เข้าโรมรันด้วยท้าวสีลยนต์
วงศ์สุริยามาตย์อาจหาญเข้าต่อต้านด้วยท้าวสิงหล
องค์พระจันทโครพจบสกลเจ้าประจญต่อตีศรีสุวรรณ
ท้าวกาดสุริยกาญจน์ชำนาญศีเข้าต่อกรกับกระบินนิลขัน
อันพระหลวิไชยใจฉกรรจ์เขช้าโรมรันสัปยุทธด้วยอุศเรน
พระสมุทโคดมเข้ากลมเกลียวลดเลี้ยวต่อสู้มูระเหน
เจ้าสาครคนสันทัดจัดเจนจับได้สุรเสนวานร
ท้าวเสนากุฎยุทธทยานเข่นฆ่าเวตาลชาญสมร
อันเจ้าลิขิตฤทธิรอนสังหารพระยาขรมรณา ฯ ๑๔ คำ ฯ
๏ เมื่อนั้นพระตรีภพลบโลกนาถา
เห็นวิหยาสะกดสิ้นชีวาพระผ่านฟ้ากริ้วโกรธคือไฟ
จึงว่าเหวยสังคามารตามาสังหารลูกยากูตักษัย
ว่าพลางทางขึ้นศิลป์ชัยแผลงไปถูกท้าวกรุงพาล ฯ ๔ คำ ฯ
๏ เมื่อนั้นวายุบุตรวุฒิไกรใจหาญ
ยี่สิบกรกุมศรพระอวคตารสิบโอษฐสั่งสารสุวิญชา ฯ ๒ คำ ฯ
๏ ปากหนึ่งว่าโอ้เจ้าขวัญเนตรบิตุเรศจะม้วยสังขาร์
ขอฝากฝังแก้วเนตรเกษราจงวันทาระเด่นมนตรี
๏ ปางสองร้องว่าพิเภกเอ๋ยกระไรเลยช่างมาฆ่าพี่
ขอฝากนางดาราเทวีกับสาวศรีนักสนมกำน้ลใน
๏ ปางสามสั่งความพระสมุทขอฝากบุษมาลีศรีใส
โอ้พราหมณ์มัจฉายาใจหวังจะได้ฝากผีบิดร
๏ ปากสี่ว่าโอ้องคตโอรสจงจำคำสอน
ตั้งใจภักดีพระสี่กรอย่าคิดว่าภูธรเป็นสามี
๏ ปากห้าร้องว่านางเงือกน้ำจงฟังคำนับถือพระฤๅษี
อุส่าห์รักษษครรภ์เทวีแม่จะได้เป็นศรีจรกา
๏ ปากหกว่าเจ้าตะเภาทองทั้งสองอย่าคิดริษยา
อันองค์อุณากรรณกับสียะตราจงนึกว่าพี่น้องท้องเดียวกัน
๏ ปากเจ็ดเสร็จสั่งจะสังขาร์ขีวาพี่จะม้วยอาสัญ
ไปยื่นด้ามให้กับโจรใจฉกรรจ์เลื่อมไลวรรณไยเป็นได้เช่นนี้
๏ ปากแปดวอนว่าทรงยศพระรถจงช่วยเผาผี
แม่จะเขียนมนต์เรียกมฤคีไว้กับคิรีให้ลูกยา
๏ ปากเก้าเฝ้าสั่งพระอุณรุททรงภุชเมียจะม้วยสังขาร์
น้องรักจักถวายบังคมลากลับไปอยู่คูหาในวารี
๏ ปากสิบเสร็จคำที่ร่ำสั่งสิ้นกำลังด้วยพิษศรศรี
พราหมณ์ก็กลายกายาเป็นนารีสิ้นชีวีอยู่ในไพรวัน ฯ ๒๐ คำ ฯ
หมดฉบับเท่านี้
             

เชิงอรรถ

ที่มา

[1]

เครื่องมือส่วนตัว