พระมะเหลเถไถ

จาก ตู้หนังสือเรือนไทย

การปรับปรุง เมื่อ 16:40, 6 สิงหาคม 2552 โดย CrazyHOrse (พูดคุย | เรื่องที่เขียน)
(ต่าง) ←รุ่นก่อนหน้า | รุ่นปัจจุบัน (ต่าง) | รุ่นถัดไป→ (ต่าง)
ข้ามไปที่: นำทาง, สืบค้น

เนื้อหา

ข้อมูลเบื้องต้น

แม่แบบ:เรียงลำดับ ผู้แต่ง: คุณสุวรรณ

บทประพันธ์

ช้าปี่
๏ เมื่อนั้นพระมะเหลเถไถมะไหลถา
สถิตย์ยังแท่นทองกะโปลาศุขาปาลากะเปเล
วันหนึ่งพระจึงมะหลึกตึกมะเหลไถไพรพรึกมะรึกเข
แล้วจะไปเที่ยวชมมะลมเตมะโลโตโปเปมะลูตู
ตริแล้วพระมะเหลจึงเป๋ปะมะเลไตไคลคละมะหรูจู๋
จรจรัลตันตัดพลัดพลูไปสู่ปราสาทท้าวโปลา ฯ๖คำฯ
เพลงช้า
ร่าย
๏ ครั้นถึงจึงเข้าตะหลุดตุดก้มเกล้าเค้าคุดกะหลาต๋า
มะเหลไถกราบไหว้ทั้งสองราจึงแจ้งกิจจามะเลาเตา
ด้วยบัดนี้ตัวข้ามะเหลเถไม่สบายถ่ายเทกะเหงาเก๋า
จะขอลาสองราหน้าเง้าเค้าเที่ยวมะไลไปเป่าพนาวัน ฯ๔คำฯ
๏ เมื่อนั้นท่านท้าวโปลากะปาหงัน
กับนางตาลากะปาลันได้สดุบตรุบหันมะเลเท
มะลอกทอกบอกว่าจะลาไปพนาปำทำไมจะไพล่เผล
มะเลอเตอเป๋อเปื้อนเที่ยวเชือนแชจึงตรัสห้ามมะเหลเถมะเลทา
เจ้าอย่าไปไชเชกะเปลูจงเอ็นดูพ่อเถิดมะไหลถา
พระมะเหลไถเฝ้ามะเลาชาก็จำให้ลูกยามะลาปอง ฯ๖คำฯ
๏ เมื่อนั้นมะเหลไถทูลลามาหงองก๋อง
จึงตรัสสั่งเสนากะจารองให้ผูกม้าปาป๋องกะงึงกึง ฯ๒คำฯ
๏ บัดนั้นเสนารับสั่งกะงังกึ่ง
ไม่นั่งนิ่งวิ่งไปมะลึงตึงมะลันตันครั้นถึงจึงบอกกัน
ว่าบัดนี้มีรับสั่งมะเหลเถให้ผูกม้าปาเปกะหงันกั๋น
จะเสด็จเตร็จเตร่มะเลตันว่าแล้วชวนกันมะแลงแตง ฯ๔คำฯ
ยานี
๏ ผูกเบาะอานพานหน้ามะเหลาะเตาะเข็มสลักปักเปาะกะแง๋งแก๋ง
เตรียมทั้งพหลพลแปงแมงแล้วไปทูลแถลงมะแรงตา ฯ๒คำฯ
ร่าย
๏ เมื่อนั้นพระมเหลเถไถมะไหลถา
ได้ฟังเสนาทะเลาปาเสด็จมาที่สรงมะลงโช ฯ๒คำฯ
เสมอ
โทน
๏ สระสรงทรงสุคนธ์ปนตลึกลูบไล้ไป่ปีกกะโง๋โก๋
สนับเพลาเชิงไชกะไรโจภูษาสีสะโรกะโปลัน
เจียรบาดปักทองกะลองเต็ดปั้นเหน่งเพชรสายสอดจรอดฉัน
ฉลององค์อย่างน้อยกะปอยลันมะลวงชวงปวงปันคั่นทองกร
มงกุฎแก้วแวววาบมาราบรับกรรเจียกจันปันกับมะหลอนฉอน
ธำมรงค์จินดากะราชอนตลุดฉุดอรชรมะลอนชัน
ดูเลือบเชือบเหลือบแลกะโปงโลงงามดังปังโปงกำงั๋นกั๋น
กะงวยกวยฉวยพระแสงมะแรงตันมอระตอก็รันขึ้นอาชา ฯ๘คำฯ
เชิดฉิ่ง
ร่าย
๏ พร้อมหมู่โยธาพะลาแหนพลาหับนับแสนแน่นหนา
ได้ฤกษ์เลิกพหลมะลนทาออกจากภารากะปาโล ฯ๒คำฯ
กราว
ชมดง
๏ พระชมเขาเนาเนินกะหรกกกรุกขชาติดาษดกมะโหลโต๋
มะลาตันสาระพันกะลันโปกะลาปียี่โถมะโยตัน
มะโยติงปริงปรางลางสาบลางสาดหาดหาบมะหลันปั๋น
มะลันปีสีเสียดประเหยียดกันประยงคุ์แก้วแถวพันมะลันดา
มาลีดวงพวงช่อมะลอชรมาลีชาดมาดซ้อมมะรอนฉา
มะรินชิงจิงจ้อมะยอตามะยมเต็มเข็มลามะกาโล
มะกาลิงปิงปุ่มกะทุ่มท้อนกะทิงถินกลิ่นขจรมะลอนโหว
มลิวันมันโมกกะโหลกโกกุหลาบแกมแนมโยทกาลี
กาหลงชงโคมะโยแป๋วมะโยปมนมแมวมะแลวฉี
มะไลยฉาวสาวหยุดมะลุดลีมลิลาสารภีมะลีโช
พระชมปักษากาลาชอนกะลาฉินบินว่อนกะล่อนโฉ
กะลิงเฉียบเหยียบแต้วเค้าแมวโมเค้าเมงหมิ่นผินโผพะโวตา
พะวาติบจิบจาบคาบไข่ขาบเคียงเขาไฟไถลถา
ถลาโถมโจมจับมารับการับกันจำพันจากะสาลม
กะสาเล่นเบญจวันมะลันปีมะลันโปโนรีมะลีสม
มะลาโสนโกญจากะทาทมกะทาเทืองเงื่องงมมะลมปา
มะลาปิงคลิ้งโคลงอีโลงแล่นอีลุ้มลี้อีแอ่นกะแรนฉา
กะเรียนฉาบคาบคั้นมะรันบามาร่อนบินกินหว้ามะลาแชง
มะลาชัดสัตวากระสาสูงกระแสเสียงเถียงยูงกะรูงแฉ่ง
กะรอกฉวยกล้วยไม้ดูไวแวงดุเหว่าหวานขานแข่งระแวงวัง
ระเวงแว่วแจ้วเจื้อยระเรื่อยร้องระเรื่อยรี่มี่ก้องมะลองกั๋ง
มะเลียบกิ่งทิ้งถ่อนมะลอนกังมะเล่นกิ่งชิงรังมะลังโต
มาโลดเต้นเม่นหมีชะนีบ่างชะนีแบดแรดช้างกะงางโก๋
กะแหงนเกยเสยแทงทะโยงโยทยานโยกโศกโสทะโลเป
ทลายป่นกล่นเกลื่อนทะเลือนเท่าถลาโถมถล่มเท้าทะเลาเส
ถลันสำถลำสวบระยวบเยระยำทับเทมะเลทอน
มะไลโทโคถึกมรึกคีมรึกคาพาชีมะหลอนฉอน
มาลบเชือเสือสิงห์มะหิงษ์จรมหาใจไกรสรมะลอนชา ฯ๒๘คำฯ
เชิด
สมิงทอง
๏ เมื่อนั้นพระมะเหลเถไถมะไหลถา
เพลิดเพลินฤทัยมะไลทาลืมทุกข์ศุขามะลาจี
ละเลิงจนสนธยาหัศดงหัสดับลับลงคิรีศรี
พระจึงมีสิงหนาทประภาษพีสั่งพวกเสนีมะลีทา
ให้ยับยั้งพหลกะรนจงกะร้อมชอมล้อมวงมะรงฉา
แล้วให้ช่วยกันมะรันทามะเรทับพลับพลาพนาลี ฯ๖คำฯ
ร่าย
๏ บัดนั้นเสนารับสั่งมาลังปี๋
มะลุกปุกคุกเข่ามะเลาตีมะรันทังดังมีมะลีทา
เกณฑ์กันฟันแฝกมะแลกแจงคัดขุดลุดแชงมาแลงฉา
กะรับชับสรรพเสร็จมะเร็จตาสำเร็จตามบัญชามะลาเท ฯ๔คำฯ
เจรจา
๏ เมื่อนั้นพระมเหลเถไถมะไหลเถ
เสด็จขึ้นพลับพลามะลาเทมะไหลถอนนอนเอ้ทะเวกา ฯ๒คำฯ
ช้า
๏ ทะเวศกายคายคันรัญจวนร้อนใจใคร่ครวญหวนหา
หวนโหยโดยดิ้นในวิญญาวิญญากจากปรามะราโท
มาแรมทางกลางป่าพนาดอนพนาแดนศิงขรมะยอนโฉ
มาเย็นเฉื่อยเรื่อยร้างน้ำค้างโพรน้ำค้างพรมลมโวมะโรตอน
มารื่นต่างนางในรำไพพัดรำเพยเพียงเคียงรัตน์ปัจฐรณ์
ปธมที่ศรีใสจะไลชอนจนหลับชิดสนิทนอนมะลอนชา ฯ๘คำฯ
ตระ
ยานี
๏ มาจะกล่าวบทไปถึงท้าวหัสไนยมะไหลถา
สถิตย์ที่วิมานมะลานชากายารุ่มร้อนมะลอนจี
จึงเล็งทิพเนตรมะเลดป่าในชมพูแผ่นหล้ามะลาถี
เห็นพระมะเหลเถทะเวทีมาแรมร้างค้างที่มะลีไช
เพราะไม่มีคู่จรูสมเสวยรมย์ราชามะลาไส
ผู้เดียวเปลี่ยวองค์มะลงไตจำเราจะให้มะไลทา
อันลูกท้าวไทมะไลทีเลิศล้ำนารีมะลีถา
ชื่อนางตะแลงแกงมะแลงกาวาสนาควรคู่มะลูตอง
อัมรินทร์จินตนาแล้วลาเชดเหาะระเห็จจากวิมานมะลานถอง
มายังกรุงไกรมะไลทองโดยจิตคิดปองมะรองแทง ฯ๑๐คำฯ
เหาะ
ร่าย
๏ ครั้นถึงซึ่งภารามะลาตั๋งโกสีย์ลงยังมะลังแต๋ง
เข้าไปในปรางค์มะรางแชงอุ้มองค์ตะแลงแกงตะแลงมา ฯ๒คำฯ
๏ เหาะลิ่วปลิวฟ้ามาฉับพลันถึงพลับพลาสุวรรณมะลันถา
วางองค์ลงใกล้มะไลชาอัมราพินิจมะลิดจู ฯ๒คำฯ
ชมโฉม
๏ งามดังสุริยันมะลันตอนเคียงดวงศศิธรมะลอนฉู
จะดูไหนวิไลกะไรตูสมสองครองคู่จะลูเจ
ดูโฉมตะแลงแกงแมลงกัดงามดังเพชรรัตน์มะลัดเถ
งามพระมเหลไถมะไลเทดังสุวรรณอันเอละเลทา
สมวงศ์ทรงศักดิ์จักรพรรดิ์สมเชื้อเนื้อกษัตริย์มะลัดถา
สมทรงคงครองกะรองปาเป็นมหาจรรโลงมะโรงกี
แล้วท้าวหัสไนยมะไลถาก็ออกจากพลับพลาพนาศรี
สำแดงแผลงอิทธิ์ฤทธีไปสู่ที่วิมานมะลานทา ฯ๘คำฯ
เชิด
      
ร่าย
๏ เมื่อนั้นพระมะเหลเถไถมะไหลถา
ผวาตื่นฟื้นจากมะรากปาเห็นนางกัลยามะลาที ฯ๒คำฯ
ชมโฉม
๏ พระเพ่งพินิจมะลิดตักประไพพักตร์เพียงจันทร์มะลันถี
อรชรอ้อนแอ้นมะแรนจีเลิศล้ำนารีมะลีทา
ฤาหนึ่งนางในมะไลจึกพระไพรพฤกษ์พระไทรมะไลต๋า
แกล้งจำแลงแปลงกายมะไลทามาหลอกเล่นเห็นมามะลาตม
ฤาหนึ่งยักษ์ขินีผีไพรมาคิดปองลองใจมะไลถม
จึงทรงโฉมโสภามะลางมจำจะปลุกชวนชมขึ้นลมปู ฯ๖คำฯ
      
ร่าย
๏ คิดพลางทางอิงมะลิงอองค่อยประคองปลุกนางมะลางฉู
เจ้างามชื่นตื่นเถิดมะเลิศตูแล้วเล้าโลมโฉมตรูมะลูเตา ฯ๒คำฯ
๏ เมื่อนั้นโฉมนางตะแลงแกงมะแลงเก๋า
ลืมเนตรเห็นองค์มะลงเทานงเยาว์เคืองขัดปัดกร
เออไฉนไยทำกะลำกักมาหาญหักไม่เกรงมะเลงฉอน
ข้าอยู่ถึงภารากะลาตอนไปลักพามาชอนมะลอนไชย ฯ๔คำฯ
๏ เมื่อนั้นพระมะไหลไถเถมะเหลไถ
ได้ฟังพจนามะลาไทภูวไนยจึงมีมะลีทา ฯ๒คำฯ
โอ้โลม
๏ โฉมเฉลาพี่จะเล่าให้แจ้งมะแลงก๋า
เดิมทีพี่จากมะรากกามาเที่ยวเล่นป่ามะลาไช
พอค่ำย่ำแสงมะแลงชอนพี่ดะหลุดหยุดนอนมะลอนไฉ
เป็นกุศลดลจิตมะลิดไทเคียงได้เคียงคู่มะลูทอง
ชรอยว่าเทวัญมะลันทีอุ้มองค์มารศรีมาสมสอง
จึงได้ประสบมะลบอองนวลน้องเจ้าอย่าเขินมะเลินใจ ฯ๖คำฯ
      
ร่าย
๏ เมื่อนั้นโฉมนางตะแลงแกงมะแลงไก๋
ได้ฟังถ้อยคำมะลำไททรามวัยจึงตอบมะลอบที
ไปว่าเอาเทวัญมะลันตูเหมือนหนึ่งใครไม่รู้มะลูถี
เมื่อครั้งไรใครพามะลาชีภูมีเก็บเอามาเลาตา
แล้วนางแค้นขัดมะลัดตอนเคืองค้อนภูวไนยมะไหลถา
น้อยฤานั่นน่าเชื่อมะเรือปามาเศกแสร้งแกล้งว่ากะลาเกา ฯ๖คำฯ
๏ เมื่อนั้นพระมะไหลไถเถมะเหลเถา
เห็นนางกัลยามะลาเตาจึงตรัสโลมเล้ามะเลาปอน ฯ๒คำฯ
ชาตรี
๏ ดูก่อนโฉมตรูมะลูถีเวทีมิเชื่อมะเหลือถอน
อันพระอุณรุทมะลูดชอนเทวาก็พาจรมะลอนเกา
ไปสมสร้อยอุษามะลาตึกโฉมยงจงนึกมะลึกเก๋า
นี่บุญของพี่ยามะลาเตาจึงพาเจ้ามาสมมะลมเต
ว่าพลางทางถดมะหลดติดอย่าอายเอียงเบี่ยงบิดมะลิดเป๋
นางป้องปัดหัตถามะลาเทมะโลโตโปเปมะเลตุง
สองภิรมย์ชมเชยมะเลยปมสำราญรมย์รื่นเริงมะเลิงตุ๋ง
สัพยอกหยอกเย้ามะเลาชุงสมสวาดิ์มาดมุ่งมะลุงแชง ฯ๘คำฯ
โลม
ร่าย
๏ ครั้นรุ่งรางส่างแสงมแลงทองสกุณาร่าร้องมะรองแฉ่ง
พระตื่นจากไสยาศน์นลาตแทงชวนองค์ตะแลงแกงมะแลงกง
สระสรงภักตรามะลาเต็ดสรรพเสร็จออกจากมะลากก๋ง
พร้อมหมู่ทหารมะลานปงก้มเกล้าเค้าคงมะลงแตง
พระจึงมีสิงหนาทมะลาดจูเหวยหมู่ทหารมะลานแฉง
จงตรวจเตรียมโยธามะลาแกงตามตำแหน่งของใครมะไลที ฯ๖คำฯ
๏ บัดนั้นเสนารับสั่งมะลังปี๋
ต่างชะแง้แลดูมะลูจีพาทีเบี้ยวบุ้ยมะลุยตุง
แล้วมาเร่งรัดจัดเจาพร้อมพรั่งดังเก่ามะเลาปุ๋ง
คอยพระมะเหลไถมะไลทุงต่างนายหมายมุ่งจะลูงทา ฯ๔คำฯ
      
๏ เมื่อนั้นพระมเหลไถมะไหลถา
ชวนนางตะแลงแกงมะแลงกาขึ้นทรงคชามะลากุย
ออกจากพลับพลามะลาโททวยหาญขานโห่ตะลุ๋ยปุ๋ย
ดัดดั้นบั่นบุกปุกปุยอีหลุกขลุกขลุยมะลุยปอย ฯ๔คำฯ
เชิด
๏ มาจะกล่าวบทไปถึงท้าวไทอสุรามะลาก๋อย
มรายกาดชาดเชื้อสะเรือดอยสุราต้องกองกอยพะลอยไช
เพราะลอบชมนางฟ้าสลาโสดศุลีซ้ำทำโทษมะโดดไข
มาตัวขาดอาจองทะลงใจเที่ยวไล่จับสัตว์ไพรสะไรกุง
สุรากินสิ้นซากมายากทุกข์กำลังอยากบากบุกมะลุกปุ๋ง
มาแลปะมะเหลไถสะไรชุงสุราชาติมาดมุ่งมะรุงแชง
มราชักยักษ์ย่องมาลองดูมาลอบด้อมค้อมอยู่พะดูแถง
พอได้ทีลีลามมะหามแทงมะฮึกทำสำแดงแทลงกี
ถลากายหมายมั่นมะลันจ้องมะเหลจับรับรองสะรองกี้
สุราก๋อยถอยท่ามะลารีมะเหลรุกคลุกคลีประชีไช
ประชิดชิงอาวุธยุทธนายักษ์ทนงทรงคทาตะลาไป๋
ตลบป้องคล่องแคล่วมะแลวไทมะลวงทีหนีไล่มะไลทอง ฯ๑๒คำฯ
เชิด
             

เชิงอรรถ

อ้างอิง

เครื่องมือส่วนตัว