à¸à¸¥à¸à¸™à¸”à¸à¸à¸ªà¸£à¹‰à¸à¸¢à¸£à¸³à¸žà¸¶à¸‡à¹ƒà¸™à¸›à¹ˆà¸²à¸Šà¹‰à¸²
จาก ตู้หนังสือเรือนไทย
การปรับปรุง เมื่อ 15:04, 6 สิงหาคม 2552 โดย CrazyHOrse (พูดคุย | เรื่องที่เขียน)
ข้อมูลเบื้องต้น
แม่แบบ:เรียงลำดับ ผู้แต่ง: พระยาอุปกิตศิลปสาร (แปลจาก An Elegy Written in a Country Churchyard ของ Thomas Gray)
บทประพันธ์
===1.=== | |||
The Curfeu tolls the Knell of parting Day, | |||
The lowing Herd winds slowly o'er the Lea, | |||
The Plow-man homeward plods his weary Way, | |||
And leaves the World to Darkness and to me. | |||
๑. | |||
วังเอ๋ยวังเวง | |||
หง่างเหง่ง! ย่ำค่ำระฆังขาน | |||
ฝูงวัวควายผ้ายลาทิวากาล | |||
ค่อยค่อยผ่านท้องทุ่งมุ่งถิ่นตน | |||
ชาวนาเหนื่อยอ่อนต่างจรกลับ | |||
ตะวันลับอับแสงทุกแห่งหน | |||
ทิ้งทุ่งให้มืดมัวทั่วมณฑล | |||
และทิ้งตนตูเปลี่ยวอยู่เดียว เอย. | |||
===2.=== | |||
Now fades the glimmering Landscape on the Sight, | |||
and all the Air a solemn Stillness holds, | |||
Save where the Beetle wheels his droning Flight, | |||
and drowsy Tinklings lull the distant Folds; | |||
๒. | |||
ยามเอ๋ยยามนี้ | |||
ปถพีมืดมัวทั่วสถาน | |||
อากาศเย็นเยือกหนาวคราววิกาล | |||
สงัดปานป่าใหญ่ไร้สำเนียง | |||
มีก็แต่เสียงจังหรีดกระกรีดกริ่ง! | |||
เรไรหริ่ง! ร้องขรมระงมเสียง | |||
คอกควายวัวรัวเกราะเปาะแปะ ! เพียง | |||
รู้ว่าเสียงเกราะแว่วแผ่วแผ่ว เอย. | |||
====3.==== | |||
Save that from yonder ivy-mantled Tow'r | |||
The moping Owl does to the Moon complain | |||
Of such as, wand'ring near her secret Bow'r, | |||
Molest her ancient solitary Reign. | |||
๓. | |||
นกเอ๋ยนกแสก | |||
จับจ้องร้องแจ๊กเพียงแถกขวัญ | |||
อยู่บนยอดหอระฆังบังแสงจันทร์ | |||
มีเถาวัลย์รุงรังถึงหลังคา | |||
เหมือนมันฟ้องดวงจันทร์ให้ผันดู | |||
คนมาสู่ซ่องพักมันรักษา | |||
ถือเป็นที่รโหฐานนมนานมา | |||
ให้เสื่อมผาสุกสันต์ของมัน เอย. | |||
====4.==== | |||
Beneath those rugged Elms, that Yew-Tree's Shade, | |||
Where heaves the Turf in many a mold'ring Heap, | |||
Each in his narrow Cell for ever laid, | |||
the rude Forefathers of the Hamlet sleep. | |||
๔. | |||
ต้นเอ๋ยต้นไทร | |||
สูงใหญ่รากย้อยห้อยระย้า | |||
และต้นโพธิ์พุ่มแจ้แผ่ฉายา | |||
มีเนินหญ้าใต้ต้นเกลื่อนกล่นไป | |||
ล้วนร่างคนในเขตประเทศนี้ | |||
ดุษณีนอนราย ณ ภายใต้ | |||
แห่งหลุมลึกลานสลดระทดใจ | |||
เรายิ่งใกล้หลุมนั้นทุกวัน เอย. | |||
====5.==== | |||
The breezy Call of incense-breathing Morn, | |||
the Swallow twitt'ring from the Straw-built Shed, | |||
The Cock's shrill Clarion, or the echoing Horn, | |||
No more shall rouse them from their lowly Bed. | |||
๕. | |||
หมดเอ๋ยหมดห่วง | |||
หมดดวงวิญญาณลาญสลาย | |||
ถึงลมเช้าชวยชื่นรื่นสบาย | |||
เตือนนกแอ่นลมผายแผดสำเนียง | |||
อยู่ตามโรงมุงฟางข้างข้างนั้น | |||
ทั้งไก่ขันแข่งดุเหว่าระเร้าเสียง | |||
โอ้เหมือนปลุกร่างกายนอนรายเรียง | |||
พ้นสำเนียงที่จะปลุกให้ลุก เอย. | |||
====6.==== | |||
For them no more the blazing Hearth shall burn, | |||
Or busy Housewife ply her Evening Care' | |||
No Children run to lisp their Sire's Return, | |||
Or climb his Knees the envied Kiss to share | |||
๖. | |||
ทอดเอ๋ยทอดทิ้ง | |||
ยามหนาวผิงไฟล้อมอยู่พร้อมหน้า | |||
ทิ้งเพื่อนยากแม่เหย้าหาข้าวปลา | |||
ทุกเวลาเช้าเย็นเป็นนิรันดร์ | |||
ทิ้งทั้งหนูน้อยน้อยร่อยร่อยรับ | |||
เห็นพ่อกลับปลื้มเปรมเกษมสันต์ | |||
เข้ากอดคอฉอเลาะเสนาะกรรณ | |||
สารพันทอดทิ้งทุกสิ่ง เอย. | |||
====7.==== | |||
Oft did the Harvest to their sickle yield, | |||
Their Furrow oft the stubborn Glebe has broke; | |||
How jocund did they drive their Team afield! | |||
How bow'd the Woods beneath their sturdy Stroke! | |||
๗. | |||
กองเอ๋ยกองข้าว | |||
กองสูงราวโรงนายิ่งน่าใคร่ | |||
เกิดเพราะการเก็บเกี่ยวด้วยเคียวใคร | |||
ใครเล่าไถคราดพื้นฟื้นแผ่นดิน | |||
เช้าก็ขับโคกระบือถือคันไถ | |||
สำราญใจตามเขตประเทศถิ่น | |||
ยึดหางยามยักไปตามใจจินต์ | |||
หางยามผินตามใจเพราะใคร เอย. | |||
====8.==== | |||
Let not Ambition mock their useful Toil, | |||
Their homely Joys, and Destiny obscure; | |||
Nor Grandeur hear with a disdainful Smile, | |||
The short and simple Annals of the Poor. | |||
๘. | |||
ตัวเอ๋ยตัวทะยาน | |||
อย่าบันดาลดลใจให้ใฝ่ฝัน | |||
ดูถูกกิจชาวนาสารพัน | |||
และความครอบครองกันอันชื่นบาน | |||
เขาเป็นสุขเรียบเรียบเงียบสงัด | |||
มีปวัตติ์เป็นไปไม่วิตถาร | |||
ขออย่าได้เย้ยเยาะพูดเราะราน | |||
ดูหมิ่นการเป็นอยู่เพื่อนตู เอย. | |||
====9.==== | |||
The boast of Heraldry, the Pomp of Pow'r, | |||
And all that Beauty, all that Wealth e'er gave, | |||
Awaits alike th'inevitable hour. | |||
The Paths of glory lead but to the Grave. | |||
๙. | |||
สกุลเอ๋ยสกุลสูง | |||
ชักจูงจิตฟูชูศักดิ์ศรี | |||
อำนาจนำความสง่าอ่าอินทรีย์ | |||
ความงามนำให้มีไมตรีกัน | |||
ความร่ำรวยอวยสุขให้ทุกอย่าง | |||
เหล่านี้ต่างรอตายทำลายขันธ์ | |||
วิถีแห่งเกียรติยศทั้งหมดนั้น | |||
แต่ล้วนผันมาประจบหลุมศพ เอย. | |||
====10.==== | |||
Nor you, ye Proud, impute to these the Fault, | |||
If Mem'ry o'er their Tomb no Trophies raise, | |||
Where thro' the long-drawn aisle and fretted Vault | |||
The pealing Anthem swells the Note of Praise. | |||
๑๐. | |||
ตัวเอ๋ยตัวหยิ่ง | |||
เจ้าอย่าชิงติซากว่ายากไร้ | |||
เห็นจมดินน่าสลดระทดใจ | |||
ที่ระลึกสิ่งไรก็ไม่มี | |||
ไม่เหมือนอย่างบางศพญาติตบแต่ง | |||
เครื่องแสดงเกียรติยศเลิศประเสริฐศรี | |||
สร้างสานการบุญหนุนพลี | |||
เป็นอนุสาวรีย์สง่า เอย. | |||
====11.==== | |||
Can storied Urn or animated Bust | |||
Back to its Mansion call the fleeting Breath? | |||
Can Honor's Voice provoke the silent Dust, | |||
Or Flatt'ry soothe the dull cold ear of Death? | |||
๑๑. | |||
ที่เอ๋ยที่ระลึก | |||
ถึงอธึกงามลบในภพพื้น | |||
ก็ไม่ชวนชีพที่ดับให้กลับคืน | |||
เสียงชมชื่นเชิดชูคุณผู้ตาย | |||
เสียงประกาศเกียรติเอิกเกริกลั่น | |||
จะกระเทือนถึงกรรณนั้นอย่าหมาย | |||
ล้วนเป็นคุณแก่ผู้ยังไม่วางวาย | |||
ชูเกียรติญาติไปภายภาคหน้า เอย. | |||
====12.==== | |||
Perhaps in this neglected Spot is laid | |||
Some Heart once pregnant with celestial Fire; | |||
Hands that the Rod of Empire might have sway'd, | |||
Or wak'd to Extacy the living Lyre. | |||
๑๒. | |||
ร่างเอ๋ยร่างกาย | |||
ยามตายจมพื้นดาษดื่นหลาม | |||
อย่าดูถูกถิ่นนี้ว่าที่ทราม | |||
อาจขึ้นชื่อลือนามในก่อนไกล | |||
อาจจะเป็นเจดีย์มีพระศพ | |||
แห่งจอมภพจักรพรรดิกษัตริย์ใหญ่ | |||
ประเสริฐด้วยสัตตรัตน์จรัสชัย | |||
ณ สมัยก่อนกาลบุราณ เอย. | |||
====13.==== | |||
But Knowledge to their Eyes her ample Page | |||
Rich with the Spoils of Time did ne'er unroll; | |||
Chill Penury repress'd their noble Rage, | |||
And froze the genial Current of the Soul. | |||
๑๓. | |||
ความเอ๋ยความรู้ | |||
เป็นเครื่องชูชี้ทางสว่างไสว | |||
หมดโอกาสที่จะชี้ต่อนี้ไป | |||
ละห่วงใยอยากรู้ลงสู่ดิน | |||
อันความยากหากให้ไร้ศึกษา | |||
ย่นปัญญาความรู้อยู่แค่ถิ่น | |||
หมดทุกข์ขลุกแต่กิจคิดหากิน | |||
กระแสวิญญาณงันเพียงนั้น เอย. | |||
====14.==== | |||
Full many a Gem of purest Ray serene, | |||
The dark unfathom'd Caves of Ocean bear: | |||
Full many a Flower is born to blush unseen, | |||
And waste its Sweetness on the desert Air. | |||
๑๔. | |||
ดวงเอ๋ยดวงมณี | |||
มักจะลี้ลับอยู่ในภูผา | |||
หรือใต้ท้องห้องสมุทรสุดสายตา | |||
ก็เสื่อมซาสิ้นชมนิยมชน | |||
บุปผชาติชูสีและมีกลิ่น | |||
อยู่ในถิ่นที่ไกลเช่นไพรสณฑ์ | |||
ไม่มีใครได้เชยเลยสักคน | |||
ย่อมบานหล่นเปล่าดายมากมาย เอย. | |||
====15.==== | |||
Some village-Hampden, that with dauntless Breast | |||
The little Tyrant of his Fields withstood; | |||
Some mute inglorious Milton here may rest, | |||
Some Cromwell, guiltless of his Country's Blood. | |||
๑๕. | |||
ซากเอ๋ยซากศพ | |||
อาจเป็นซากนักรบผู้กล้าหาญ | |||
เช่นชาวบ้านบางระจันขันรำบาญ | |||
กับหมู่ม่านมาประทุษอยุธยา | |||
ไม่เช่นนั้นท่านกวีเช่นศรีปราชญ์ | |||
นอนอนาถเล่ห์ใบ้ไร้ภาษา | |||
หรือผู้กู้บ้านเมืองเรืองปัญญา | |||
อาจจะมานอนจมถมดิน เอย. | |||
====16.==== | |||
Th' Applause of list'ning Senates to command, | |||
The Threats of Pain and Ruin to despise, | |||
To scatter Plenty o'er a smiling Land, | |||
And read their Hist'ry in a Nation's Eyes. | |||
๑๖. | |||
คุณเอ๋ยคุณเหลือ | |||
ผู้เอื้อเฟื้อเกื้อชาติซึ่งอาจหาญ | |||
แน่วนับถือซื่อสัตย์ต่อรัฐบาล | |||
ไม่เห็นการส่วนตัวไม่กลัวตาย | |||
แสวงชอบกอบคุณอุดหนุนชาติ | |||
กษัตริย์ศาสน์แม้ชีวิตปลิดวาย | |||
ไว้ปวัตน์แก่ชาติญาตินิกาย | |||
ได้อ่านภายหลังลือระบือ เอย. | |||
====17.==== | |||
Their lot forbad: nor circumscrib'd alone | |||
Their growing Virtues, but their Crimes confin'd; | |||
Forbade to wade through Slaughter to a Throne, | |||
And shut the Gates of Mercy on Mankind. | |||
๑๗. | |||
ชาวเอ๋ยชาวนา | |||
วาสนากั้นไว้ไม่วิตถาร | |||
ไม่ชั่วล้นดีล้นพ้นประมาณ | |||
สองประการนี้แหละขวางทางคระไล | |||
คือไม่ลุยเลือนั่งบรรลังก์ราช | |||
นำพินาศนรชนพ้นนิสัย | |||
แต่ปิดทางกรุณาอันพาไป | |||
ยังคุณใหญ่ยิ่งเลิศประเสริฐ เอย. | |||
== เชิงอรรถ == | |||
== อ้างอิง == | |||
[1] | |||