พระนลคำฉันท์

จาก ตู้หนังสือเรือนไทย

ข้ามไปที่: นำทาง, สืบค้น

เนื้อหา

ข้อมูลเบื้องต้น

พระนิพนธ์: พระนิพนธ์พระราชวรวงศ์เธอ กรมหมื่นพิทยาลงกรณ

ขาดสรรคที่ ๒๑ - ๒๕

บทประพันธ์

สดุดี

วสันตติลกฉันท์
๏ อัญขยมประนมนขประณามพระสยามสวามี
เชลงฉันท์ประพันธสดุดีนรเทพเถกิงไกร
๏ จักรพรรดิขัตติยนรินทร์ปถพินทร์ทิพาลัย
ดั่งรามราฆพไผทกิติศักดิ์ประจักษ์จินต์
๏ สมเด็จปรเมนทรมหาวชิราวุธาวนินทร์
เอกองค์พระมงกุฏสิรินทสุคันธ์สมัญญา
๏ นามเมืองก็เรืองกิติวิมลเพราะยุบลพระราชา
นามราชก็เรืองกิติประภากรเหตุประเทศเรือง
๏ โสภาวิชาภรณแพร้วกลแก้วกำจายเมือง
โสภณพิมลสตยเนืองนิติธรขจรธรรม์
๏ ในสรวงก็แสงสุริยส่องทิวก่องณะกลางวัน
สิ้นสูรย์ก็แสงศิศิรจันทรจ้าณะราตรี
๏ สูรย์จันทร์ก็ปันทินนิศาจกรานุจรมี
เวรเปลี่ยนและเวียนศศิรวีปริวัตระผลัดกัน
๏ อันองค์พระมงกุฏกษัตริย์ทนุรัฐนครฃัณฑ์
วันคืนพระยืนจิตกระสันธุรม่งพระองค์เดียว
๏ เชอดชาติพระราชประยุรรักมนภักดิกลมเกลียว
เสนาประชานรก็เหนียวจิตรักสมัคคุณ
๏ ครองดินอรินทมนเรนทร์ประเมนทร์มฆาดุลย์
เดชเปรื่องกระเดื่องพระยศบุณยโศลกสิเรนทร
๏ สรวมคุณพระไตรย์สรณรัตน์สิริภัทร์อุบัติพร
ยิ่งกี้พระกีรติขจรทิศเทอดคุณาธาร
๏ พุทธานุภาพผริตผลสุขดลอดูลย์ดาล
ธรรมานุภาพพิมลภูลชยเชอดชลอธรรม์
๏ จำเริญพระชนม์ธนสุขีพลศรีสอางพรรณ
ไร้โรคนิราศภยนิรันตรทุกขถอยไกล
๏ ฃ้าบาทประดิษฐ์พจประพันธ์บทฉันท์ชลอใจ
ดำเนิรนิทานพระนลไนษธเบื้องฉบับบรรพ์
๏ ทูลแทบพระราชบทมาลย์มหิพาลวิบูลย์ธรรม์
หวังเสริมสราญกมลกรรณพระนราธิราชา ฯ
             

สรรคที่ ๑

วสันตติลกฉันท์
๏ ยังมีกษัตริย์นิษธราษฎร์นลราชสมัญญา
ลือฃามพระนามนลนราธิปทั่วไผทศรี
๏ เฉกฉัตรอุบัตินิษธร่มอภิรมยะลาภี
สมบัติพิพัฒนะธนีธรณีระบือบุญ
๏ ทรงศักดิ์ประจักษ์จิตประจำรสธรรมธิราดุลย์
นานาคุณานุคุณจุนจิตเหิมเฉลิมรมย์
๏ ทรงเดชวิเศษศรวิสิฎฐ์อภิฤทธิ์ปรากรม
เลี้ยงราษฎร์พระราชอุปสดมภ์อดิเรกอเนกนันท์
๏ ทรงโฉมประโลมจิตประเจิดสิริเลิศะรังสรรค์
อำไพประพลพิมลพรรณืผิวพิศก็ติดตา
๏ แคล่วคล่องทำนองอศวชาติจรผาดผยองพา
เปนปิ่นมหารถมหารถอื่นบ่ขืนแขง
๏ รู้หลังประจักษ์จตุรเวทนรเศรษฐะกำแหง
เชิงชั้นพนันนลระแวงจิตรักตระหนักนัย
๏ อวยทานอุทารอุทยเทอดนรเลิศสุฃาลัย
บรรเทิงสเริงสริระไภยพิบัติบ่บีฑา
๏ เสนาพลาธิกพหลนรชนระบือชา
เหิ่มหาญทยานหทยทานพแทตย์บ่เทียมทาน
๏ เกริกเกียรติ์กระหลบพิภพแม้นภพแมนมโหฬาร
เสมอศักดิ์ศักระมฆวานสุรสิทธิ์รังสรรค์ ฯ
๏ ยังมีพระภีมะมรุเดชนคเรศวิทรรภ์ฃัณฑ์
ครองราชย์บำราศบรถวัลยเถลิงเถกิงศรี
๏ ไพร่ฟ้าประชากรเกษมสุขเหมหทัยทวี
เรืองรมยะร่มนิคมมีพิตภัทระภูลเพ็ญ
๏ แต่องค์พระภีมะนิรรมยะระทมระทวยเข็ญ
หมายปองและหมองมนลำเค็ญเพราะบ่สิทธิสมหมาย
๏ เหตุไร้พระราชบุตระบุตรีมหิษีฤดีดาย
กำศรดระทดหทยวายอุระร้อนบ่ห่อนมี
๏ บำเพ็ญกุศลผลก็ไร้มนไหม้มลายศรี
หลายหลากประจากธนมณีพรพิตก็นิษผล
๏ วันหนึ่งมนีวิริยกล้าตละฌานะโกศล
สู่ราชสถานถิรถกลชชวาลตระการตา
๏ จึ่งภีมะราชและมหิษีจิตปรีดิหรรษา
ซาบซ่านสราญกมลมานิตน้อมประฌามเธอ
๏ เชิญองค์พระดาบสสถิตยณะอาศน์อุไรเลอ
สององคะทรงบำรุบำเรอปฏิบัิติพระโยคี
๏ เมื่อนั้นมุนีสถิรธรรมอรัญยะวาสี
เปี่ยมปิติในหทยมีมนเหมเกษมศานติ์
๏ อวยพรถวายนฤบดีมหิษีวิมลมาลย์
จงทรงพระราชสิริสราญสุรฤทธิธำรง
๏ อันใดพระใคร่จิตกระสันสุขหรรษะจำนง
อันนั้นประสบศุภประสงค์พรสิทธิสมบูรณ์
๏ หมายมีบุตรีบุตระประเสริฐฉวิเฉิดฉมามูรธ์
เปนศรีมหานครคูณกิติเลื่องระบือไกร
๏ จงสบมโนรถประสงคจำนงมนุญใน
ไป่คลาดพระราชหฤทัยดุจอาตมะอวยถวาย
๏ ครั้งเสร็จประสิทธิ์พระพิพัฒน์พระวนัสถะผันผาย
ทูลลานราธิปและหมายทิศถิ่นพนาลัย ฯ
๏ ฝ่ายองค์พระปินนรวิทรรภสุธรรมะธรไท
อีกนางพระยายุวประไพอภิลาษลออองค์
๏ จำเดิมมุนีวิริยเดชวรเวทธำรง
เธอช่วยอำนวยพระพรมงคลสิทธิสมปอง
๏ แต่นั้นสุรางคะมหิษีธก็มีบุตรีสนอง
สวาดิ์แสนเสน่ห์สนิทสองปฏิพัทธะเพียงใจ
๏ อีกมีพระราชดนุชสามทมะนามเกรียงไกร
หนึ่งทานตะหนึ่งทมนะไชยะยศาภิศักดิ์ศรี
๏ ฝ่ายราชบุตรีสิริยโศธรทัมะยันตี
พรายเพราพระเยาวะดรุณีสุขุมาลละลานเลอ
๏ ทรงศรีฉวีวรวิลาสกลวาดวิมลเสมอ
ใครยลก็ดลจิตเลมอมนถึงคนึงศรี
๏ ในฟ้าจะหาอรสุรางค์ดุจนางก็ห่อนมี
ในดินจะหาอรยุพีกลนุชก็สุดหา
๏ ความงามณะสามภพเสนอจะเสมอบ่มีมา
ทรามไวยประไพพรศุภาผิวเห็นก็เปนบุญ ฯ
๏ ฝ่ายองค์นิษัธฃติยนาถนลราชระลือคุณ
ภๅโฉมประโลมนยนะสุนทรทั่วไผทศรี
๏ ทราบศัพท์ยุบลนลอนันต์ณะวิทรรภะธานี
จวบองค์พระราชวรบุตรีธก็รู้ระหัสสาร
๏ ปางปวงประชานิษธราษฎร์ก็นินาทะพิสดาร
ภๅลักษณ์ยุบลวิมลมาลย์พระวิทรรภะนารี
๏ จวบจนพระนลธก็ตระหนักวรลักษณ์พระบุตรี
ต่างองค์ก็ต่างกมลมีปฏิพัทธะผูกพัน
๏ ยิ่งยินระบินยุบลภๅก็ระบือหทัยศัลย์
นางใคร่จะยลพระนลครันนลใครจะยลนาง ฯ
๏ เมื่อนั้นพระนลพิมลโฉมอุระโซมระคางขนาง
หมายน้องและหมองกมลหมางเพราะบ่เหมือนกมลหมาย
๏ วันหนึ่งพระจึ่งจรประพาศพนราชสราญกาย
องค์เดียวพระเที่ยวทุรณะทายบทท่องระโหฐาน
๏ ยลหงส์หิรญวิมลเมิลมนเพลินพิบูลย์บาน
สำเริมประเทิงหทยะลานจิตเล่นบ่เห็นองค์
๏ ปางนั้นนราธิปกษัตริ์ยนิษัธะธำรง
ซอกซอนและซ่อนคณะพิหงคและหงสะหลงเผลอ
๏ เมียงเมิลดำเนิรบทบ่แกรบจรแอบกำบังเฌอ
จับได้สุโนคพระนลเธอก็แจร่มจรูญปรีดิ์
๏ ฝ่ายหงสะเหมวรวิหคก็สทกสท้านมี
ใจกลัวระรัวสริระตีอุระข้อนคนึงครวญ ฯ
ทูลพระนลว่า
๏ อ้าองค์พระทรงสุรมเหศรศักดิ์นเรศวร
ภูวนาถพระบาทยุคลควรภพพึ่งสำนึงนาน
๏ แม้นทรงพระคุณกรุณโปรดสละโทษมิสังหาร
ขอรองลอองพระบทมาลย์กลทูตนำทูลเสนอ
๏ แด่นางพระราชปิยยุพาพระธิดาวิทรรภ์เธอ
สำแดงพระคุณอดุลเลอนรราชนเรสูร
๏ นางทราบยุบลพระนลแล้วฤจะแคล้วอุราดูร
จักครวญจะใคร่หททภูลจิตเล่ห์เสนหา ฯ
๏ ฟังหงส์ทำนูลมธุรวาทนลราชหรรษา
ปลดปล่อยพิหคพิหคลาจรรีบระเห็จหน
๏ พาพวกพิหงคะคณะหมายมนบ่ายโพยมบน
ฉิวฉิวละลิ่วอำพรดลณะวิทรรภะธานี
๏ ลงยังพระราชอุทยานยุวมาลย์พระบุตรี
ชมพรรณ์กุสุมสุขุมปรีดิจรัสจรูงราม
๏ เมื่อนั้นพระองค์อรธิดาทศนาสุโนคงาม
คิดใคร่จะได้ก็จรตามบริษัทก็ตามองค์
๏ แอบอ้อมแลล้อมคณะสุโนคและกระโชกจะจังหงส์
หวุดหวิดกระชิดจิตพวงผิวใกล้วก็ไป่ทัน
๏ ปางราชยุพาพรประไพจรไล่พิหคหัน
หนีนางและห่างคณะกำนัลก็สุโนคเสนอสาร ฯ
หงส์ทูลนางว่า
๏ อ้าองค์พระราชวรบุตรีศุภศรีฉวีกาญจน์
เพ็ญพักตร์พิมลกลสุมาลย์อรเอี่ยมอุไรพรรณ์
๏ อันในนิษัธฃติยะนาถอธิราชยะรังสรรค์
ไพศาลพิศลย์ผลอนันต์นลผู้ผดุงเมือง
๏ อันองค์พระนลพิมลเฉิดฉวิเลิศวิไลยเรือง
บุญญาภิฤทธิ์พิชิตเปลืองปรภาพบ่พึงเผยอ
๏ คนธรรพ์อุรุคสุรและรากษสมากบ่มีเสมอ
ดาวเดือนบ่เหมือนพระนลเธอนิติธรนิกรพิง
๏ ฉันใดพระองค์อรประเสริฐสิริเลิศณเหล่าหญิง
ฉันนั้นพระนลวิมลจริงจิตรเลิศณะเหล่าชาย
๏ ชายเลิศผิร่วมสมรเลิศจะประเสริฐะแหล่หลาย
โลกหล้าจะหาอุภยะผายภทระเหมือนมิพึงมี ฯ
๏ เมื่อนั้นยุพาพรลำเภาอรเยาวะสุนทริ
ปางทรงสดับสกุณปรีดิก็ตอบยุบลไป
๏ ดูราพิหคกนกหงส์จะประสงค์ประการใด
จงเร่งระเห็จอำพรไคลณะนิษัธนครฃัณฑ์
๏ บรรยายยุบลกลประสงค์ดุจหงส์จำนงสรร
ทูลองค์พระนลพลอนันต์กลที่ทำนูนเรา ฯ
๏ บัดนั้นสุโนคสิรประณตวรนุชนงเยาว์
ทูลลายุพาอรลำเภาจรเหิรระเห็จคลา
๏ ถ่องทูลพระนลนรบดีธก็ปรีดิหรรษา
ปลื้มเปรมเกษมกมลมาลยะแผ้วพิมลศรี ฯ
             

สรรคที่ ๒

อินทรวงศ์ฉันท์
๏ เมื่อนั้นพระไภมียุวดีกำดัดฤดี
คำนึงพระนลมีนยะหงส์พิหงคะทูล
๏ หมองหมายบ่วายว่างสุขนางก็ส่างก็สูญ
อาดูรอดูลย์ภูลพิศวาสบ่คลาดบ่คลาย
๏ ยามนิทร์บ่นิทร์เนานิทระเศร้าทุรนทุราย
ร้อนรนสกลกายบ่มิเหือดก็เดือดกมล
๏ โภชน์ตั้งก็นั่งเฉยบ่เสวยกระยาสุคนธ์
กลุ้มกลัดสบัดตนอุระเข็ญลำเค็ญรำคาญ
๏ พักตร์พิมพะพริ้มเพราพิศเศร้าบ่เบิกบ่บาน
ขุ่นข้นกมลมาลย์มลหมางระคางระคาย
๏ เคยสรวลบ่สรวลสันต์จิตซั้นระส่ำระสาย
แค้นคิดระคายหมายมนแล้วก็แคล้วก็คลา
๏ เคยมีฉวีฉ่องสิริผ่องประไพประภา
บัดนี้ฉวีวามก็หมองบ่รองบ่เรือง
๏ เผลอ ๆ มะเมอมนจิตจนก็ข่นก็เคือง
ผิวพักตร์ก็ชักเหลืองวรรูปก็ซูปก็ผอม
๏ บัดนั้นพระพี่เลี้ยงทนุเคียงยุพาถนอม
เห็นราชธิดาตรอมจิตหม่นกระวนกระวาย
๏ หนักใจก็ไปเฝ้าณะพระเจ้าวิทรรภะฉาย
ทูลว่าธิดาสายจิตไท้มิใครเสบย
๏ เมื่อนั้นพระจอมธรรมะวิทรรภะฟังเฉลย
ห่อนรู้ระหัสเผยธก็ร้อนอุราสลาย
๏ ลูกกรูก็ชีพกรูจิตกรูบ่รู้สบาย
ใจกรูบ่ดูดายอุระเดือดบ่เหือดทำงน
๏ หนักในหทัยท้าวอุระร้าวบ่รู้จะทน
จึ่งองค์พระทรงพลก็ละห้อยละเหี่ยหทัย
๏ รำลึกพระชนมายุยุพาประภาพิไลย
นงเยาว์ลำเภาไวยะก็รุ่นเจริญจรูญ
๏ สมควรสยุมพรอรชรพิธีพิทูร
สมศักดิ์สมบูรณ์วรเกียรติ์ขจายขจร
๏ ตรึกเสร็จก็ตรัสสั่งกิจดังมนานุสร
เสนาพลากรสุมนัสก็จัดก็ปัน
๏ ส่งข่าวและป่าวทั่วนคเรศเฃตตะฃัณฑ์
ทุกรัฐกษัตริย์อันจิตหวังพระอังคนา
๏ ทราบข่าวสยุมพรอรไทยประไพประภา
เสียวศัลย์กระสันหากลยาณิ์ประภาประไพ
๏ ต่างองค์ทนงฤทธิ์มนคิดจะสมสมัย
ต่างองค์ทนงใจจรหมายจะได้สมร
๏ ร้อนรักตะหนักมาดพิศวาสพระนางบวร
เวียนหวังพระบังอรอุระเต้นบ่เว้นทิวา
๏ ไฝ่ถึงยุพาภีมะลุตรีสุโลจนา
ฝันถึงยุพาภาดรุณีพระภีมะพงศ์
๏ ต่างเตรียมพลากรอภิฤทธิเรืองณรงค์
เนืองแน่นณะแดนดงจรโดยวิทรรภ์วิถี
๏ ถั่นถึงนครรัตน์ก็กษัตร์สุภัทร์พลี
เฝ้าภีมะราชภีมะก็รับก็เลี้ยงก็ดู ฯ
๏ เมื่อนั้นมุนีนาทรญาณวิธานวิทู
เชี่ยวณานวิศาลบูรณะก่องเถกิงถกล
๏ อีกทั้งมุนีบรรพตอันวิชาวิมล
สองเหิรระเห็จหนจรโดยอำพรพิถี
๏ ถั่นถึงสวรรค์เวียงอมราวะดีมณี
จึ่งสองพระโยคีจรไปณะไวชยันต์
๏ เฝ้าองค์พระวาสพอมเรนทร์วฤตระหัน
สมเด็จพระจอมสวรรค์ก็คำรพไชมมุนี
๏ ถามทุกข์แลสุขในภพโลกมนุษยะมี
เจริญจรูญพิบูลย์ปรีดิสวัสดิ์ฤาฤษี
๏ จึ่งสองมุนีน้อมมนทูลทิวัสบดี
ในโลกมนุษย์มีสุขเปรมเกษมกมล
๏ บรรดาพระราชาฃติยาธิเกียรติ์ถกล
ทุกที่มหรีดลก็สวัสดิ์พิพัฒน์ประพันธ์
๏ เมื่อนั้นสุราธิปทิพราชมไหศวรรย์
ฟังทูลพระทรงธรรมะก็ปริ่มหทัยะปรีดิ์
๏ ตรัสถามพระนักสิทธมหิทธิเวททวี
ดูราพระโยคีพรตผู้พิสุทธพิสัย
๏ อันเหล่าพระราชาธิกษัตริย์วิวัฒน์วิชัย
ครองเวียงกำเรียงไกรอภิชิตมหิทธิ์มหัน
๏ ต่างองคะต่างทรงสุรภาพอเนกอนันต์
ทุกองค์ทรงธรรม์สุจริตวิสิฏฐ์วิศาล
๏ ต่างองคะหายพักตร์บ่มิยาตรณะคัคะณานต์
ตูห่อนจะพบพานภพนาถนรินทะใด
๏ เหตุใดกษัตราธิกอานุภาพะไกร
จึ่งหายพระพักตร์ไปบ่มิสู่สวรรคะเลย
๏ เมื่อนั้นพระนารทพจพร้อมฉลองเฉลย
อันซึ่งกษัตริย์เคยจรชั้นสวรรค์ก็หาย
๏ ด้วยเหตุสยุมพรอรชรสุพรรณราย
กานดายุพาสายจิตภีมะวีระวงศ์
๏ ทุกเทศเกษตรรัฏฐกษัตริย์ก็เตร็จก็ตรง
สู่เวียงวิทรรภ์จงมนมุ่งวิมลสุมาลย์
๏ เหตุนี้บ่มีใครจรเฝ้าพระมัฆะพาน
สมเด็จมรุตวานธตระหนักหทัยเทอญ ฯ
๏ เมื่อนั้นพระโลกบาลแลพระอัคนีเจริญ
เสด็จเยือนพระอินทร์เมิลพระฤษีสุมนต์ยุคล
๏ ต่างองค์ก็ยินความมุนิงามแถลงยุบล
ต่างองค์ก็มุ่งกมลจะเสด็จณะเมทินี
๏ เพื่อการสยุมพรกลยาณิ์ประภาฉวี
ต่างองค์ประสงค์ศรีอรราชพาลิกา
๏ องค์อินทร์วรุณยมและพระเพลิงเถกิงประภา
ต่างทรงมหาวาหนะเหิรระเห็จทยาน
๏ หมายมุ่งวิทรรภ์รัตนะนครบวรวิศาล
พรึบพร้อมพหลหาญพลแห่อำพรสลอน ฯ
๏ กล่าวฝ่ายพระนลราชนลนาถนิษัธนคร
ทราบฃ่าวสยุมพรอรนุชก็สุดกระสัน
๏ รีบจัดพลากรบทจรนครวิทรรภ์
คำนึงพระนุชพลันพระก็เร่งพหละคลา
๏ นึกนุชบ่เหนื่อยนึกอุระทึกระลึกยุพา
หมายนางบ่หมางมานเสน่ห์วิมลสมร ฯ
๏ เมื่อนั้นพระวัชรีอัคนีเถกิงบวร
ยมราชวรุณจรพลผองผยองโพยม
๏ ต่างยลพระนลทรงสิริลักษณ์พิไลยประโลม
ตรูตาสง่าโฉมภพหล้าจะหาบ่เหมือน
๏ สี่เทพธอยุดพาหนเด่นประดุจจะเดือน
ลงจากโพยมเยือนนลราชณะแนวพนม
๏ มีเทพกถาสุนทรชื่นบ่ขื่นบ่ขม
ถ้อยคำก็ฉ่ำฉมผิวฟังก็ดังจะกลืน
๏ ดูราพระทรงศักดิ์ปรปักษ์บ่ฝ่าบ่ฝืน
ขันแขงพระแสงปืนอภิศักดิ์ตระหนักสวรรค์
๏ ทรงโฉมประโลมลักษณะพักตร์ประจักษะพลัน
ทรงศรีฉวีวรรณวรเดชวิเศษวิมล
๏ เชิญองค์นิษัธนาถนลราชพลีพหล
กอบกิจประกอบผลดุจเราจะกล่าวถวาย ฯ
             

สรรคที่ ๓

อินทรวิเชียรฉันท์
๏ เมื่อนั้นพระนลนนทะกมลวิมลฉาย
น้อมก้มประนมผายพจเผยเฉลยวอน
๏ อ้าองค์พระทรงฤทธิ์สุรสิทธิ์มหิศร
โลกหล้านรากรกรก้มประนมคัล
๏ ฃ้านี้เสมอฃ้าอมราภิฤทธิ์อัน
เฉกฉัตรอุบัติกันภพรมยะร่มเย็น
๏ สี่องค์ประสงค์ใช้กิจใดบ่ลำเค็ญ
หมายปองสนอมเปนดุจฃ้าพระบาทบงส์
๏ แต่ฃ้าจะทูลถามพจตามคะดีตรง
เทพช่วยอำนวยมงคลเพื่อพราทร
๏ สี่เทพธคือใครสุรไกรอลงกรณ์
เลิศหล้าสถาพรทิพลักษณ์วิไลยไร
๏ สี่เธอจะใช้ฃ้ากิจภาระฉันไหน
โองการประการใดสุรเทพประทานเทอญ ฯ
๏ เมื่อนั้นสุราธิปทิพราชจำเริญ
อวยอัตถ์ดำรัสเชิญมธุรสพระพจมาน
๏ เรานั้นพระอินทร์นี่อคนีมณีฉาน
นั่นคือพระโลกบาลยมรักษะทักษิณ
๏ โน่นวาริโลมลักษณะพักตระโศภิน
เปนเจ้ากระแสสินธุ์พระวรุณวรางค์เรือง
๏ สี่เราเสด็จมาพสุธามลังเมลือง
มุ่งใจจะไปเมืองระบุฃ่าวสยุมพร
๏ ใคร่ได้ธิดาราชอภิลาษลอออร
หวังพายุพาจรภพเทวะเขมี
๏ ขอเชิญพระนลจรณะสมรสุมาลย์ศรี
ทูลทัมะยันตีกลทูตทำนูลความ
๏ ว่าองค์พระวาสพสุรภพพิไลยราม
มาดินถวิลทรามวยะใคร่จะได้นาง
๏ อีกองค์วรุณลักษณะพักตระโศภางค์
หมายชวนพระนวลปรางอภิรมยะชมขวัญ
๏ หนึ่งองค์พระยมใคร่จิตได้พระเพ็ญจันทร์
หวังพาพระลาวัณย์กรคล้องตระกององค์
๏ ทั้งองค์พระเจ็ดกรอรชรขจรทรง
หมายโลมพระโฉมยงสุภคาประภาการ
๏ สี่สู่สมาคมณะสยมพโรฬาร
หวังองคะนงคราญศุภลักษณ์ประจักษ์ใจ
๏ นางจงประจงสรรสุรฉันทะอาลัย
เลือกหนึ่งพระองค์ในจตุเทพธหมายมา ฯ
๏ เมื่อนั้นพระนลยินพระมหินทะเจรจา
ยิ่งฟังก็กังฃาอุระขุ่นรำคาญเคือง
๏ อ้าองค์สุเรศรอสุเรศร์บ่รอเรือง
รอบราบประภาพเปลืองพิษพาลบ่ทานทน
๏ ฃ้ายกนิการชาญชวหาญระเห็จหน
ด่วนโดยสถลกลจะกระหืดกระหอบเห็น
๏ เพื่อการสยุมพรพระยุพาประภาเพ็ญ
หมายมิตรบ่คิดเข็ญทุรทางณะกลางไพร
๏ บัดนี้พระเปนเจ้าธจะให้ระเห็จไป
ทูลความณะทรามไวยกลสื่อสำนารนาย
๏ ฃ้าเองประสงค์นางนุชพางอุราผาย
ทุกเวรบ่เว้นวายอุระหม่นกมลหมอง
๏ โปรดให้อภัยฃ้าธุระภาระอื่นปอง
ใช้ฃ้าและฃ้าจองจิตให้พระใช้เจียว ฯ
๏ เมื่อนั้นพระมัฆวานพจมานธฉุนเฉียว
ดูดู๋ประเดี๋ยวเดียวพระก็กลับก็กลายไป
๏ เมื่อกี้พระนลว่ากิจภาระฉันไหน
โองการประการใดก็บ่คิดจะบิดเบือน
๏ ครั้นเราดำรสวานมหิบาลก็แชเชือน
เกลื่อนกลบจะลบเลือนดุจนี้มิบังควร
๏ ไปเถิดพระนลไปจรไวบ่เรรวน
ตัดโศกวิโยคครวญผิวโศกจะสื่อไฉน ฯ
๏ เมื่อนนั้นพระนลอิดอุระอัดระอาใจ
จำเปนก็จำไปดุจเทพจำนง
๏ หวนมีมนาดูรธก็ทูลพระอินทร์องค์
เวียงวังยุพาวงพลแขงกำแพงกัน
๏ ฃ้าฤาจะเฃ้าได้กลใดพระทรงธรรม์
แน่แล้วบ่แคล้วอันพจฃ้าทำนูลความ ฯ
๏ เมื่อนั้นพระพันตาอมราธิเบนทร์งาม
ตรัสตอบพระนลตามจิตหวังพระบังอร
๏ ดูราพระนลภูธรผู้สถาพร
เธออย่ามนาวรณ์กิจนั้นมิพรั่นพรึง
๏ เราอาจอำนวนให้จรเตร็จเสด็จถึง
ผู้คนประตูกรึงบ่มิบังมิกั้นกาง
๏ เธอจงเสด็จไปดลในนิเวศน์นาง
พริบเนตระเดียวทางทุรถั่นก็ถึงองค์
๏ พออินทะโองการพจมานธหมดลง
นลราชระเห็จตรงกลวายุพาไป
๏ ลัดนิ้วพระหัตถ์เดียวพระก็ดลณะวังใน
ทวยหาญทหารใครก็บ่ห่อนจะเห็นองค์
๏ ปราการตระการกั้นบ่มิกันพระนลยง
แวดป้อมและล้อมวงก็ประหนึ่งบ่มีตา ฯ
๏ เมื่อนั้นนิษัธนาถยลราชกานดา
นวลนงพงาวามวิลาสวิไลยศรี
๏ โศภางค์สอางอ่อนอรชรสุพรรณี
เพราพร้อมมลม่อมมีสิริเลิศสราญตา
๏ เอวองคะอ้อนแอ้นอุระแม้นประทุมมา
ลัยแย้มยะยวนยามะกมุทบดีเชย
๏ เพ็ญจันทร์บ่เพ็ญจริงดุจหญิงฉนี้เลย
ใครใดจะได้เคยยลนางสำอางเหมือน
๏ รำพึงตลึงเล็งพิศเพิ่งพระเพ็ญเดือน
ดวง:-)็แชเชือนกิจทูตมิพึงทำ
๏ หวนหักหทัยท้อจิตแท้ทวีรำ
คาญขุ่นระคายคำสุรเทพธใช้มา ฯ
๏ บัดนั้นกำนัลนางบ่มิห่างยุพาภา
ล้อมเล่หะดารากรล้อมพระจันทร
๏ เห็นองค์พระไนษัธสิริรัตน์วราภรณ์
เลอล้ำนรากรทินกรบ่เทียมทัน
๏ ต่างนางก็ออเออมนเผลอมะเมอฝัน
ยักษ์นาคะคนธรรพ์สุรทิพยาคม
๏ ใครหนอลออทรงอรองค์อำเรอชม
งอนงามอร่ามรมย์ภพนี้บ่มีสอง
๏ พิศรูปก็เลิศลักษณ์พิศพักตร์ก็เพ็ญผอง
พิศองค์ลอออองพิศมาดสวาดิ์หมาย
๏ ต่างนางก็งวยงงพิศวงพระทรงฉาย
อยากผายบ่อาจผายพจถามพระภูธร
๏ ต่างนางก็บังคมสิรก้มประนมกร
อ้ำอึ้งอุราอรบ่มิอาจจำนรรจา ฯ
๏ เมื่อนั้นพระนงเภาอรเยาวะโสภา
หากในหทัยมานพมาณะวังใน
๏ งามดังอนงค์ทรงสิริโฉมประโลมใจ
ใครหนอฉนี้ใครฤจะเทพเสด็จมา
๏ นลยิ้มพระนางยิ้มพิศพริ้มประไพตา
พลางองค์พระนงพาลก็ถามพระนลไป
๏ ดูราพระทรงศักดิ์ศุภลักษณ์วิไลยไกร
เหตุหาญประการใดพระเสด็จณะวังหลวง
๏ จู่ถึงประหนึ่งเทวะสุเรศะเลอสรวง
ไพร่พลพหลปวงก็บ่ห้ามบ่ปรามองค์
๏ มาได้ก็โดยฤทธิมหิศรธำรง
อันซึ่งพระองค์ทรงสุรภาพคือใคร ฯ
๏ เมื่อนั้นพระนลยินอรพินทะปราไสย
ตรัสตอบยุบลไปดุจเทพจำนง
๏ ฃ้านามพระนลไนษธไอศวรรย์ทรง
มาโดยประสงค์องค์จตุเทพมาดิน
๏ องค์เพลิงเถกิงกาจยมราชวรุณอินทร์
สี่องคะทรงจินตะประสงค์จำนงใจ
๏ หวังพายุพาจรกลพายุพาไป
สู่ทิพย์สถานในภพหล้าสง่าทรง
๏ เสพย์สุขสถาวรนิรชรถนอมองค์
เพ็ญพรรณะบรรจงมลไร้วิไลยราม
๏ สี่เทพธใช้อาตมะมาทำนูลความ
เปนทูตแถลงตามศุภอัตถ์อำนวยไข
๏ นางจงประจงสรรสุรฉันทะอาลัย
เลือกหนึ่งพระองค์ในจตุเทพธหมายมา ฯ
             

สรรคที่ ๔

พุชฌงคปยาตฉันท์
๏ พระลาวัณยะพรรณิบุตรีภีมะราชา
สดับวัจน์นิษัธนาถหลากจิตก็อิดใจ
๏ ไฉนนั่นพระพันตาสุเรนทราธิเบนทร์ไกร
เถลิงอาศน์ถวัลย์ไอศวรรย์ในสวรรค์เวียง
๏ ประดานางสุรางค์ทรงสเอวองค์สอางเคียง
บำรุงเธอบำเรอเรียงประไพตาประภาเพรา
๏ พระอินทร์ไซร้จะไร้นางสุรางค์แนบเสน่ห์เนา
ก็เหลือเชื่อและเหลือเดาจะเปนได้ไฉนเนอ
๏ พระกาลกาญจน์ตระการเพริศวิลาสเลิศวิไลยเลอ
สรีล้อมบำเรอเธอประเล้าโฉมประโลมฉาย
๏ พระเพลิงเริงเถกิงกาจวโรภาสสุพรรณ์พราย
ประเสริฐศักดิ์ตระหนักหมายบ่ไร้ร้างสุรางค์โลม
๏ วรุณไซร้วิไลยทรงสอางองค์ลออโฉม
ก็ย่อมมีสุรีโลมสุภัทร์แพร้วศุภาดูลย์
๏ พระอินทร์ยมวรุณเพลิงเถกิงกาญน์วิมานมูรธ์
พิพัฒน์แผ้วพิพิธภูลพิชัยฤทธิ์พิชิตชาญ
๏ ไฉนจงประสงค์เราฉนี้เล่าบ่เปนการ
คำนึงพลางยุพาพาลก็ทูลตอบพระนลไป
๏ พระทรงฤทธิ์อดิศวรประมวลศรีระวีไกร
เถลิงรัฐนิษัธไอศวรรย์เอี่ยมอลงกรณ์
๏ สยุมพรพิธีนี้จะมีเพื่อพระภูธร
สมาคมสโมสรกษัตริย์สิ้นณะดินแดน
๏ ประสงค์ตรงพระองค์เธอพระนลเลอเสมอแมน
บุรุษอื่นผิหมื่นแสนจะหมายชมบ่สมหมาย
๏ เพราะเหตุหงส์พิหงค์ทองยุบลถ่องแถลงปราย
ประลือโฉมประโลมฉายพระนลเฉิดประเสริฐทรง
๏ จำเดิมกาละนั้นมาก็จึงฃ้าคำนึงองค์
จำนงในหทัยตรงถวายแด่พระทรงศรี
๏ ผิแม้นองค์พระทรงศรมนาทรบ่ห่อนมี
ก็ตัวฃ้าจะพาชีวะก้มหน้าอำลาตาย ฯ
๏ พระนลยินยุบลตรึกคเนนึกคนึงหมาย
จะเล้าโลมพระโฉมฉายประดุจเทพประสงค์มา
๏ พระนางเอยอุไรนงพงาองค์อำเรอตา
ก็เมื่อสี่สุเรนทราคนียมวรุณเรือง
๏ เสด็จสู่สยุมพรธิดาภีมะศรีเมือง
มนุษย์แน่นอเนกเนืองจะเทียมเทพกระไรเธอ
๏ จะเลือกคนดำเนิรดินบ่เลือกอินทร์ระบินเลอ
ก็ผัวคนไฉนเนอจะเทียมผัวพระอินทร์ไกร
๏ มิเลือกอินทร์ก็เลือกยมมิเลือกยมก็เลือกไฟ
วรุณเกียรติกำไรก็ล้ำเลิศประเสริฐสาร
๏ มนุษย์หยิ่งเผยอยงจะเทียมองค์พระโลกบาล
บ่ทันเทียบจะเปรียบปานลอองบาทก็ห่อนมี
๏ มนุษย์ต่ำบ่ยำเยงบ่กริ่งเกรงพระวัชรี
วรุณยมวราคนีก็แท้โทษจะถึงมรณ์
๏ ผิขัดเทวะบัญชาก็คือพาทุฃากร
และทั้งทิ้งทิพาภรณ์สถานทิพย์บ่พึงถึง
๏ ผิโดยดังหทัยแมนจะแสนสุขสวรรค์สึง
เกษมใจณะไตรตรึงษ์เสวยทิพย์สถาวร
๏ สตรีมีณะที่ใดมิอยากได้สุเรนทร
สตรีใดณะดินดอนมิคิดใคร่วรุณฉาย
๏ สตรีใดณะใต้หล้ามิใฝ่หาพระเพลิงพราย
สตรีใดบ่แดดายคนึงสมพระยมยง
๏ พระนางจงผจงสรรประสบฉันทะจำนง
ณะเหล่าเทพสี่องค์พระองค์หนึ่งพระองค์ใด ฯ
๏ ยุพายินยุบลตันหทัยอั้นอุราใน
ทำนูลตอบพระนลไปพระเนตรน้ำก็คลอคลอง
๏ ประดาเทพเสด็จมาและบรรดากษัตริย์ผอง
ก็ฃ้าน้อยประณตปองประณามก้มประนมกร
๏ พระองค์อื่นพระองค์ใดก็ฃ้าไม่มนาทร
จะหมายเรียงจะเคียงหมอนมิสมแท้จะแดดาย
๏ พระองค์เธอพระองค์เดียวพระนลเชี่ยววิชาชาย
ผิหมายชมจะสมหมายเพราะฃ้าหมายถวายตัว
๏ มิเลือกองค์พระนลได้ก็ฃ้าไซร้บ่มีผัว
มิยำเยงมิเกรงกลัวจะเปนไรก็เปนไป
๏ อำนาจสัตย์อธิษฐานสำเร็จสารสำราญใจ
ประสบส่งประสงค์ไปประดุจฃ้าจำนงหวัง ฯ
๏ พระนลยินยุพาพร้องอุราข้องคนึงฟัง
ดำรัสตอบพระนางดังหทัยธัมมะสำนึง
๏ สมรเอยเฉลยอัตถ์ก็โดยสัตย์บ่พรั่นพรึง
ตระหนักในหทัยตรึงเสน่ห์หาญประทานตู
๏ ก็ฃ้านี้ณะกาลนี้มิอาจที่จะชี้ชู
จะเล้าโลมพระโฉมตรูประสงค์เพื่อประโยชน์ตน
๏ ก็ห่อนได้เพราะสัญญาจะมาสื่อแสวงผล
ถวายเทพถกลพลเถกิงเกียรติ์ตระการไกร
๏ ณะกาลอื่นผิมาได้จะมาใหม่ลำพังใจ
จะทูลความณะทรามไวยเสน่ห์หมายถวายนาง ฯ
๏ ยุพาแย้มพระโอษฐ์ยิ้มพระพักตร์พร้อมพิไลยพลาง
คำณวนถึงคำนึงทางจะแก้ยากวิบากเบา
๏ พระนางทูลพระราชาผิสัญญาก็ทำเนา
อุบายอันจะบันเทาก็พอเห็นจะเปนการ
๏ ณะวันซึ่งสยุมพรอลงกรณ์มโหฬาร
กำหนดถ้วนคำณวนวารสมาคมสโมสร
๏ สุเรนทราคณีกาลวรุณชาญชโลทร
เสด็จสู่สยุมพรประสงค์ฃ้าธิดาหลวง
๏ พระองค์จงเสด็จด้วยบ่งงงวยทำงนทรวง
กษัตริย์เทพสุทัศน์ปวงประชุมพร้อมพยานเรา
๏ ก็จึ่งฃ้าจะเลือกองค์พระนลทรงทรงวิชาเชาวน์
ทำนองโทษจะหนักเบาบ่มีแก่พระภูมี ฯ
๏ พระนลฟังบ่กังขาก็อำลายุพาศรี
เสด็จจากนิเวศน์ภีมะเฝ้าเทพสี่องค์
๏ พระพันตาสุราธิปประทับพร้อมพิไลยทรง
พระยมงามประสามชงฆ์วรุณเรื่องวราภรณ์
๏ ดำรัสถามพระนลไปกระไรปิ่นนรินทร
พระพานพบยุพาพรพระนางฃานประการใด
๏ เสด็จได้สดวกดีสดังศรีแสดงใจ
จะเลือกเราฤเลือกใครพระนลเร่งแถลงสาร ฯ
๏ พระนลยินยุบลเล่าเสนอเค้าสนองฃาน
สุเรนทราทิบรรหารตระบัดฃ้าก็สู่วัง
๏ ประตูคนก็พรั่งพร้อมกำแพงป้อมก็ล้อมบัง
ทนายเฒ่าก็เฝ้าฟังทนายหนุ่มก็คุมดู
๏ ประดาพลพหลใดบ่มีใครจะเห็นตู
ระเห็จถึงพธูตรูยุพาแผ้วพิมลมาลย์
๏ กำนัลแวดระวังองค์ธิดาทรงฉวีกาญจน์
ประหนึ่งโสมะสำราญระหว่างโชติดารา
๏ พระนางทอดพระเนตรฃ้าก็ถามว่าพระราชา
บ่ฃามเฃ็ดเสด็จมาเพราะเหตุหาญประการใด
๏ อนึ่งฃ้าพระองค์ทรงณรงค์ฤทธิคือใคร
พหลพลสกลไกรกำแพงกั้นบ่บังกัน
๏ ก็จึ่งฃ้าทำนูลตอบยุบลชอบชลอฉันท์
แถลงซึ่งพระทรงธรรมะสี่ท้าวธจงใจ
๏ ประสงค์พายุพาจรประหนึ่งพายุพาไป
ณะถิ่นทิพย์สถานไอศวรรย์หล้าสง่างาม
๏ และสี่เทพธใช้ฃ้าเสด็จมาทำนูลความ
ประหนึ่งทูตแถลงตามยุบลอัตถ์อำนวยไข
๏ พระนางประจงสรรประสบฉันทะอาลัย
พระองค์หนึ่งพระองค์ใดณะสี่เทพธจำนง
๏ ยุพาตอบยุบลว่าจะเลือกฃ้าพระนลยง
มิยอมเลือกสุเรนทร์องค์วรุณอัคะนีกาล
๏ ณะวันซึ่งสยุมพรสโมสรมโหฬาร
กษัตริย์ชัชะวาลดาลเสน่ห์หาธิดาหลวง
๏ ณะท่ามกลางสมาคมพระอินทร์ยมวรุณปวง
พระเพลิงเพริศพิไลยสรวงเสด็จพร้อมพยาาเยาว์
๏ ก็จึ่งนางจะเลือกฃ้าพระนลกล้าวิชาเชาวน์
ทำนองโทษจะหนักเบาบ่เกิดได้ไฉนเลย
๏ ฉนี้แลสุเรนทรสมรพร้องฉลองเฉลย
พระวาจายุพาเผยประดุจฃ้าทำนูลความ
๏ ยุบลทราบพระบทมาลย์พระกฤตานตะเรืองราม
พระเจ็ดลิ้นพระอินทร์งามวรุณวาริโลมศรี ฯ
             

สรรคที่ ๕

วสันตติลกฉันท์
เมื่อนั้นวิทรรภะอธิราชนรนาถภูมี
กำหนดพระราชพรพิธีศุภฤกษ์อุดมวาร
๏ เชิญปวงประชาธิปประชุมณสยุมวราคาร
เรืองศรีมณีรตนกาญจนะแจ่มเจริญตา
๏ ราชานุราชนรพยัคฆตระหนักหทัยอา
ดูรใคร่จะได้พระวนิดาก็เสด็จสมาคม
๏ งามราชนิเวศน์รุจิรจิตรสุประดิษฐ์ดำรูรมย์
โรงคัละกาญจนะสดมภ์ผิวพิศก็พิศวง
๏ งามเหล่ากษัตริย์พฒนพงศ์พรองคะอาจอง
ดั่งสิงหะสิงสิขรทรงสุรภาพอนันต์เนือง
๏ งามราชวราภรณราชยะรามอร่ามเมือง
กุณฑลหิรญรตนเรืองผิวแมนก็แม้นกัน
๏ งามทรงสุมาลยะมณีสุรศรีระพีพรรณ
พิศพาหะเปรียบปริฆอันปรภาพจะราบลาญ
๏ เพ็ญพักตร์ก็นักษตระนภางคะกระจ่างเจริญมาน
เกศาสุนาสิกสคราญและพระเนตรก็ฃำคม
๏ งามราชสมาคมนราอธิเลิศวโรดม
อ่าโอ่สโมสรวิกรมชชวาลตระการตา
๏ ดังนาคณะกรุงอุรุคโภควตีสมัญญา
แม้เสือสถิตย์คิริคุหานรศาระทูลเหมือน ฯ
๏ เมื่อนั้นพระราชอรธิดากลยาณิเด่นเดือน
โสภาประภาพิมลเตือนจิตแจ่มเจริญชม
๏ อาภรณ์ประไพพรพิพิธชวลิตชลอรมย์
แสงศรีมณีกนกสมอรสุทธะโสภา
๏ ยาตรสู่สโมสรสมาคมเหล่าพระราชา
ยลนางและต่างขติยะตาจะกระพริบก็ห่อนมี
๏ ดูไหนก็ดูบ่มิเขยื่อนผิวศกก็ศกศรี
ดูเนตรก็เนตรกลมณีผิวกรรณก็กรรณนาง
๏ ดูเอวก็เอวอรสุรางค์ผิวปรางก็เพียงปราง
ดูอกก็อกอรสอางผิวกรก็กรตรู
๏ พิศไหนก็เพ่งกมลพิศบ่มิคิดจะเปลี่ยนดู
เฉาจิตบ่พิศอรพธูวรภาคอื่นเลย ฯ
๏ ปากราชยุพาพรสวัสดิสุภัทร์กำดัดเชย
นานเนืองชำเลืองนยนะเงยยลราชสมาคม
๏ เฃาฃานพระนามนฤปถ้วนยศล้วนวิไลยสม
บูรณ์ศักดิ์วิสิฎฐ์กิติอุดมนรศาระทูลปวง
๏ ถึงนามพระนลพิมลราชนรนาถนิษัธหลวง
หลากในหทัยสมรทรวงดุจศัสตระตัดเถือ
๏ เหตุเห็นพระไนษธประจักษ์อภิศักดิ์เสมอเสือ
ห้าองค์บ่ผิดวิจิตรเหลือจิตซึ่งจะพึงเดา
๏ ดูโน่นก็นลถกลศักดิประจักษ์อุราเยาว์
ดูนี่ก็นลพิมลเชาวนะนั่นก็นลจริง
๏ ห้านลสกนธะวรลักษณะพักตร์บ่เพี้ยนพิง
อกเอ๋ยไฉนหทยหญิงก็จะทราบประการใด
๏ ไหนแน่พระนลนรพยัคฆ์อุระจักทลายไป
นงลักษณ์ตระหนักพระหฤทัยจตุเทพธแปลงมา
๏ เหตุเราจะเลือกพระนลไนษธผู้ประไพตา
สี่เทพธทราบยุบลสาระรหัสก็ดัดตน
๏ เทพหนึ่งก็เปนพระนลหนึ่งจตุเทพสี่นล
รวมทั้งพระนลพลถกลและก็ห้าพระภูธร
๏ ไหนหนอพระนลนิษธนาถนรราชอดิศร
ไหนหนอพระนลพลขจรสุจริตจิโรดม
๏ อัดอั้นอุราอรอุไรระอุไหม้หทัยกรม
อ้ำอึ้งคนึงจิตะระงมทุนนัสวิบัติกรรม
๏ ตรึกพลางพระนางนุชระลึกมนนึกทำนองธรรม
วอนเทพผิเทพอุปถัมภ์ก็จะสิทธิสมหวัง
๏ หมายพึ่งสุรานิมิษทั้งจตุเทพจำบัง
สี่ท้าวจะอาทรกระมังผิววอนอชรชาญ
๏ คิดพลางยุพาพรประนมกรก้มกมลบาน
วาจามนัสนมสการพจนาตถ์ทำนูลไป
๏ อ้าองค์สุเรศระสถาพรอานุภาพไกร
ภูลศักดิ์พิสิฏฐ์พิชิตไชยอสูรก็สูญปราณ
๏ อันฃ้าธิดานรบดีพรภีมะภูบาล
จำเดิมกนกพิหคฃานพจพร้องทำนองสาร
๏ กล่าวโฉมพระนลพิมลศักดิ์ศุภลักษณ์ประจักษ์มาน
มาดหมายบ่หน่ายถวิลดาลจิตน้อมเสน่ห์ไป
๏ มอบกายถวายนลนเรศร์กลเจตนาใน
เสี่ยงจิตผิผิดพระนลใครจะประสงค์บ่ปลงมาน
๏ ด้วยเหตุระหัสสตยวาทจิตมาดสมาทาน
จงสัตย์อุบัติผลพยานสตยานุกูลไกร
๏ สรวมเทพสุธรรมอธิตย์ผิวจิตจำนงใน
ความตรงก็จงกรุณใจระบุแจ้งแสดงองค์
๏ องค์ไหนพระไนษธสถาพรศาระทูลยง
เชิญเทพธกอบกรุณทรงคุณชี้พระภูธร
๏ หนึ่งฃ้าจำนงนฤปมั่นบ่มิพรั่นทุฃากร
หนักแน่นบ่แคลนหทัยคลอนบ่มิเคลื่อนมิคลายใจ
๏ ชั่วตากระพริบก็บ่คนึงจิตถึงบุรุษใด
ความจริงบ่กริ่งกมลในนยะนี้บ่มีแหนง
๏ สรวมสัตย์อุบัติผลสนองกลปองหทัยแจง
สรวมสิทธิ์สุเรศรแสดงนลให้ประจักษ์ตา
๏ หนึ่งฃ้าจำนงพระนลภูธรผู้ระบือชา
มุ่งในพระไนษธนชาธิปแผ้วภิย์โยเย็น
๏ เหตุด้วยสุราธิปมเหศรเดชะภูลเพ็ญ
จัดไว้จะให้อุบติเปนดุจนั้นก็เปนไน
๏ สรวมสัตย์อุบัติผลสนองกลปองจำนองใจ
เชิญเทพธชี้พระนลไนษธเพื่อภโรปถัมภ์
๏ หนึ่งฃ้าจำนงสตยจ่อจิตต่อพระนลสำ
เหนียกสัตย์ก็จำจิตจะทำดุจสัจจะวาจา
๏ สรวมสัตย์อุบัติผลสนองกลปองกมลมา
เชิญเทพธชี้นลนราธิปให้ประจักษ์องค์
๏ สรวมเทพธทรงสตยจุ่งจิตมุ่งกมลตรง
สำแดงพระองค์อมรทรงสุรลักษณ์ประจักษ์ตรู
๏ เพื่อฃ้าจะเลือกพระนลได้ดุจใจจำนงตู
สรวมทรงพระคุณกรุณชูสตยาภิวาจา ฯ
๏ เมื่อนั้นสุเรศระสดับวนศัพทะกานดา
วิงวอนอมรอมรปรากฏเห็นก็เอ็นดู
๏ ร่ำไรพิไรพจนนางบ่ระคางระคายหู
พักตรผ่องลำยองยุพพบูก็บ่ผ่องเพราะหมองมน
๏ ตั้งสัตย์และมีมนสสาระอุสาหะกังวล
รักสัตย์และทรงสตยทนบ่มิทอดมิทิ้งไป
๏ มุ่งรักประจักษ์จิตบ่จากอนุราควราภัย
หมายจิตและจิตตะนิศจัยบ่มิพรั่นมิพรึงกลัว
๏ น้ำใจก็ไสกลมณีและบ่มีจะหม่นมัว
ภักดีบ่มีกมลกลัวกลนี้บ่มีเหมือน
๏ คิดแล้วสุราชรสุทัศน์ก็ตระบัดบ่บังเบือน
พรรณเพ็ญก็เด่นประดุจเดือนสุรสุทธะโสภา
๏ ศรีแสงแสดงอมรลักษณะพักตร์ประจักษ์ตา
จึ่งองค์พระราชอรธดาก็ตระหนักหทัยนาง
๏ สี่ท้าวธเท้าบ่ดลดินอมรินทะรางชาง
เนตรห่อนกระพริบพรศุภางค์ผิวเหื่อก็ห่อนมี
๏ สรวมทรงสุพรรณ์สุรภิมาลยะไร้ธุลีศรี
หนึ่งองค์สุรามรบดีก็บ่ห่อนจะมีเงา
๏ อันองค์พระนลนรพยัคฆ์ก็ประจักษ์หทัยเยาว์
เหตุเหื่อและเงามนุชเราและพระบาทก็ดลดิน
๏ ปางราชยุพาพระสวัสดิพิพัฒนะโศภิน
สำเหนียกตระหนักนลนรินทรเที่ยงหทัยนาง
๏ ทันใดพระราชอรสุดากลยาณิโศภางค์
ทรงเลือกพระไนษธวรางค์อธิราชยะธำรง
๏ ฉวยชายพตราภรณพลางก็พระนางธสวมทรง
มาลัยถวายพระนลปลงจิตกายถวายไท ฯ
๏ ปางนั้นสุเรศะมฆพานภควานวิบูลย์ไกร
บรรดาสุรามรวิไลยยศะมาสมาคม
๏ เธอผองก็ซร้องสุรสำเนียงวจเจรียงเจริญชม
เทพทวยก็อวยอุปสดมภประทานพระนลหลวง ฯ
๏ เมื่อนั้นพระไนษธสบายจิตหมายธิดาดวง
สมหมายและกายกมลทรวงกธระรื่นระเริงปรีดิ์
๏ ทูลความณะทรามวยะประไพอรไทยพระไภมี
ดูราพระองค์อรยุพีพนิดาประภาทรง
๏ ซึ่งมองเสน่ห์นิตยน้อมมนพร้อมประพันธ์ปลง
จิตมาดสวาดิ์วิมลองค์ยุวมาลย์ประทานเรียม
๏ ท่ามกลางสุราธิปนราธิปศาระทูลเทียม
เลือกเรียมและเรียกปิติก็เตรียมจิตกายถวายนาง
๏ ตราบชีวะมอดมรณหมายบ่สลายเสน่ห์หมาง
หมายออมถนอมพระนุชวางนุชไว้ณะใจตู
๏ จง:-)ระแสพจนแจงจิตแจ้งพระโฉมตรู
สรวมสุขสวัสดิ์อุบัติชูกลสัจจะวาที ฯ
๏ ปางนั้นพระองค์อรสุพรรณพระวิทรรภะนารี
ยินถ้อยพระนลนรบดีก็เกษมกมลมาน
๏ นางปลื้มพระเปรมกมลปริ่มอรอิ่มอุราบาน
สององค์ก็ทรงนมสการอมเรนทราชร ฯ
๏ เมื่อนั้นพระวาสพสุเรศรเทวะเจ็ดกร
อีกองค์วรุณวรอมรยมเรืองทิพาภา
๏ เห็นนางสอางอรวิลาสยุพราชพาลา
ทรงเลือกพระไนษธนราธิบดินทร์ก็ยินดี
๏ ต่างเทพก็อวยพรประทานนลชาญพิชัยศรี
ผาสุกสวัสดิ์วฒนะปรีดิวิเศษยโสธร
๏ เทวาธิเบนทรวิชิตสุรฤทธิ์ประสิทธิ์พร
แต่นลเนรทรบวรนรสีหะราชา
๏ หนึ่งให้พระไนษธประจักษะตระหนักพระนัยนา
เห็นเทพณะเมื่ออมรมาดลเพื่อพิธียัญ
๏ หนึ่งให้พระไนษธนรินทรปิ่นนครฃัณฑ์
เดิรงามณะสามภพฤทันยุรยาตระอาจหาญ
๏ ฝ่ายองค์หุตาศะสุรฤทธิ์ก็ประสิทธิ์ประสาทสาร
สองพรพิสิฏฐะพิสดารนลรับก็จับใจ
๏ หนึ่งแม้นพระนลพิมลทรงจิตจงประสงค์ไฟ
องค์เพลิงเถกิงกิติจะไปดุจซึ่งพระพึงหมาย
๏ หนึ่งให้อุดมนิคมรัฏฐจรัสจรูญพราย
เรืองเมืองและเรืองอคนิฉายก็วิเศษเสมอกัน
๏ ฝ่ายองค์พระกาลจิตรตระการชยะชาญสราญธรรม์
อวยพรพิมลผลอนันต์นลยินก็ยินดี
๏ หนึ่งให้พระรู้รสกระยาทิพโภชน์พิพิธมี
เอมโอษฐะโอชอุดมชีวะก็แผ้วก็แพร้วพราว
๏ หนึ่งให้สถิตย์สุขุมธรรมะอนันตะยืนยาว
เลื่องชื่อระบือคุณณะหาวและณะดินระบินธรรม
๏ ฝ่ายองค์วรุณกรุณจิตก็ประสิทธิ์ประสาทคำ
สองพรสุภัทร์อุปสดัมภ์นลตรับสดับผล
๏ หนึ่งแม้นพระนลพิมลทรงจิตจงประสงค์ชล
วารีจะมีดุจกมลนลใคร่หทัยหมาย
๏ หนึ่งเธอประทานทิพยมาลยะรสสุคนธ์ปราย
ต่งอวยสุมงคลขจายพรสิทธิ์ประสาทสาร
๏ เสร็จแล้วสุรามรเสด็จจรเตร็จอำพรชาญ
งามเทพพาหนะทยานพลผองผยองโพยม ฯ
๏ ฝ่ายเหล่ากัษตริย์วิบติในหฤทัยไผทโกรม
หมายใจจะได้นุจตระโบมก็บ่ได้พธูอร
๏ นางเลือกพระนลสิบ่มิหนำสรุซ้ำประทานพร
ต่างราชก็ต่างจนนครทิศทั่วไผทศรี ฯ
๏ เมื่อนั้นวิทรรภ์อธิบดีพรภีมะภูมี
จัดการวิวาหพระบุตรีกลในหทัยจง ฯ
๏ ฝ่ายองค์พระนลพิมลธรรมิกพรรณรายทรง
ทูลลาพระภีมะบิตุรงค์จรจากนครศรี
๏ สู่เวียงวิวัฒน์นิษธราชพิศวาสพระไภมี
ดังศักระผู้ศจิบดีธตระกองพระน้องเธอ
๏ ครองครองประชากรนิษัธก็อุบัติวิบูลย์เลอ
บำเพ็ญกุศลผลเสมอสุขแผ้วพรากร
๏ กอบกิจพิธีอศวเมธะมะเหศะกำธร
ดังองค์พระนาหษขจรกิติเกริกณะธาตรี
๏ ฝ่ายสายสมรบวรไนษธราชมเหษี
มีราชวโรรสบุตรีศุภลักษณ์วิไลยตา
๏ นามราชธิดานรบดินทรอินทะเสนา
นามราชวโรรสนราธิปดินทะเสนยง
๏ ฝ่ายองค์พระนลนฤปไนษธไอศวรรย์ทรง
ครอบครองประชากรธำรงยุติธรรม์นิรันดร ฯ
             

สรรคที่ ๖

             

สรรคที่ ๗

             

สรรคที่ ๘

             

สรรคที่ ๙

             

สรรคที่ ๑๐

             

สรรคที่ ๑๑

             

สรรคที่ ๑๒

             

สรรคที่ ๑๓

             

สรรคที่ ๑๔

             

สรรคที่ ๑๕

             

สรรคที่ ๑๖

             

สรรคที่ ๑๗

             

สรรคที่ ๑๘

             

สรรคที่ ๑๙

             

สรรคที่ ๒๐

             

สรรคที่ ๒๑

             

สรรคที่ ๒๒

             

สรรคที่ ๒๓

             

สรรคที่ ๒๔

             

สรรคที่ ๒๕

             

เชิงอรรถ

อ้างอิง

ศาลานกน้อย

เครื่องมือส่วนตัว