บทละครเรื่à¸à¸‡à¸£à¸²à¸¡à¹€à¸à¸µà¸¢à¸£à¸•ิ์ พระราชนิพนธ์สมเด็จพระเจ้าà¸à¸£à¸¸à¸‡à¸˜à¸™à¸šà¸¸à¸£à¸µ
จาก ตู้หนังสือเรือนไทย
การปรับปรุง เมื่อ 11:46, 4 สิงหาคม 2552 โดย CrazyHOrse (พูดคุย | เรื่องที่เขียน)
เนื้อหา |
ข้อมูลเบื้องต้น
พระราชนิพนธ์: สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี
มี ๔ ตอน โดยตอนที่ ๒ ถึง ๔ นั้นความต่อกัน
บทประพันธ์
บานแพนก
วันอาทิตย์ เดึอน ๖ ขึ้นคํ่าหนึ่ง จุลศักราช ๑๑๓๒ (พ.ศ. ๒๓๑๓ ปีที่ ๓ ในร้ชกาลกรุงธนบุรี) ปีขาล โทศก พระราชนิพนธ์ทรงแต่งชั้นต้นเป็นปฐม ยังทรามยังพอดีอยู่
ตอนที่ ๑ ตอนพระมงกุฎ
พระมงกุฎอยู่ป่า
| ๏ มาจะกล่าวบทไป | หน่อในอวตารรังสี | ||
| หาผลปรนนิบ้ติชนนี | ทั้งพระฤษีมีญาณ | ||
| ว้นหนึ่งชวนน้องเข้าพาที | พระมุนีจงโปรตเดฉาน | ||
| ข้าไสร้เกลือกคนภัยพาล | ขอประทานรํ่าเรียนวิชา | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ ฤษีรักจูบกระหม่อมเกศ | สอนให้เล่าเวทคาถา | ||
| ฯ เจรจา ฯ | |||
| ๏ หุดีกุณฑ์กองวิทยา | เจ็ดราตรีศรผุดพลัน | ||
| ฯ ตระ ฯ | |||
| ๏ จึงประสิทธิ์ประสาทธนูศิลป์ | เจ้าจินดารมณ์หมายมั่น | ||
| เมึ่อลั่นซั้นซ้ำมนตร์พลัน | สรรพโลกไม่ทนฤทธา | ||
| ฯ เจรจา ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ ฝ่ายสองกุมารเรียนเสร็จ | ได้ทั้งกลละเม็ดคาถา | ||
| รบเอาธนูศิลป์มา | ลาล่าหาผลพนาลี | ||
| ฯ เข้าม่าน ฯ | |||
| ๏ ครั้นถึงกาลวาตพนาลัย | ปราศัยน้องลบเรืองศรี | ||
| ฝ่ายพี่จะแผลงฤทธี | ยิงรังด้นนี้ให้ขาดไป | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ เจ้าลบว่าใหญ่ถึงแสนวา | ข้าเจ้าเห็นหาห้กไม่ | ||
| ๏ พระมงกุฎก็วางศรชัย | สนั่นไปถึงชั้นพรหมา | ||
| ตระเชิด | |||
| ๏ ถูกรังต้นใหญ่สินขาด | ยับเยินวินาศดังฟ้าผ่า | ||
| แล้วกลับต่อว่าอนุชา | น้องยาจะว่าประการใด | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ พระลบสรรเสริญบุญญา | อานุภาพเป็นหาที่สุดไม่ | ||
| พระชนนีจะมิตกใจ | ก็ชวนเก็บผลไม้กลับมา | ||
| ฯ พญา เดิน ๒ คำ ฯ | |||
| ๏ ฝ่ายพระฤษีสนั่นเสียง | สำเนียงกึกก้องเวหา | ||
| ตกใจทิ้งนางสีดา | ก็ลีลาออกตามกุมาร | ||
| ฯ เชิด ๒ คำ ฯ | |||
| ๏ ฝ่ายพระพี่น้องเห็นฤษี | ก็วิ่งเข้าอัญชลีทูลสาร | ||
| ทิ้งนางสีดาดวงมาลย์ | พระอาจารย์มาไยชนนี | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ | |||
| ๏ พระมุนีสีดาว่าดูเอา | ให้เราตกใจถึงสองศรี | ||
| สุ้งเสียงอะไรเมื่อกี้ | คิดว่าอสุรีพะพาน | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ | |||
| ๏ ฝ่ายพระมงกฎทูลไข | หาไม่ดอกยิงไม้พฤกษาสาร | ||
| ๏ เจ้าลบว่าแสนอ้อมประมาณ | พฤกษาสารสูงเทียมเมฆา | ||
| หักย้บสะบั้นสินขาด | วินาศดุจดั่งฟ้าผ่า | ||
| ที่กาลวาตพนาวา | หาภ้ยมิได้พระมุนี | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ สีดาว่ายิงทำไม | ให้ตกใจทั้งพระฤษี | ||
| นี่ลูกอะไรน่าใคร่ตี | ก็พาทีขู่รู่กุมาร | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ | |||
| ๏ พระมุนีจึ่งห้ามสีดา | อย่าว่าหลานกูห้าวหาญ | ||
| แล้วอวยชัยหน่ออวตาร | ให้ชัยวาลรุ่งฤทธี | ||
| จงเจ้าเป็นใหญ่ไตรภพ | จบสกลทิศทั้งสี่ | ||
| โภยภัยสิ่งใดอย่าได้มี | ให้ฤทธียิ่งบิดร | ||
| แล้วบอกนวลนางสีดา | พฤกษานี้มีมาแต่ก่อน | ||
| แรกตั้งฟ้าดินอัมพร | ศรใครไม่กินนะสีดา | ||
| เมื่อไรต่อหน่ออวตาร | จึงผลาญไม้นี้ดั่งฟ้าผ่า | ||
| ลูกเจ้ารุ่งเรืองฤทธา | ว่าแล้วก็มากุฎี | ||
| ฯ เสมอ ๘ คำ ฯ | |||
| ๏ ฝ่ายสองกุมารเข้าไป | ถวายผลไม้พระฤษี | ||
| แล้วกล้บมาหาชนนี | ยังที่พระบรรณศาลา | ||
| ฯ บาทสกุณี ๒ คำ ฯ | |||
| โอ้ | |||
| ๏ ฝ่ายนางสีดาส้วมกอด | พลอดพลางทางกวดเกศา | ||
| จูบเกศเทวศโศกา | โอ้ว่ากำพร้ายาใจ | ||
| มาดแม้นถ้าอยู่ก้บพ่อ | จะเสน่ห์หน่อหาที่สุดไม่ | ||
| เท่านี้หรือมีฤทธิไกร | ที่ไหนบิดาจะให้จร | ||
| ฝ่ายเจ้าผลานแผลงศิลป์ชัย | เหมือนเมื่อท้าวไทเธอยกศร | ||
| ครั้งไปทำการสยมพร | ในเมืองนครมิถิลา | ||
| ให้เจ้ายิ่งยศโมลี | แม่จะได้ฝากผีภายหน้า | ||
| ให้เรืองฤทธิ์เหมือนองค์พระบิดา | ว่าแล้วก็ทรงโศกี | ||
| ฯ โอด ๘ คำ ฯ | |||
| ร่าย | |||
| ๏ ฝ่ายพระมงกุฎทูลถาม | โปรดบอกความเกล้าเกศี | ||
| แม่ว่าพ่อข้ามีฤทธี | มาอยู่พนาลีด้วยอ้นใด | ||
| อ้นฝ่ายพระบังเกิดเกล้า | เผ่าพงศ์กษัตริย์หรือไม่ | ||
| เธอผ่านถิ่นฐานบ้านเมืองใด | บอกให้หน่อยเถิดพระมารดา | ||
| ฯ มโนราโอด ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ สีดากรรแสงแถลงไข | พิไรบอกลูกเสน่หา | ||
| เดิมแม่อยู่เมืองมิถิลา | พระอัยกาเจ้าเสี่ยงศิลป์ชัย | ||
| เทพามนุษย์เข้ายกศิลป์ | เสร็จสิ้นมิได้หวาดไหว | ||
| พ่อเจ้ายกได้ว่องไว | จึงเศกแม่ให้กับบิดา | ||
| อ้นบิตุเรศของเจ้า | เผ่าพงศ์บรมนาถา | ||
| เรืองรุดสุดอรรคอิศรา | ปรากฏยศยิ่งโมลี | ||
| จึ่งพาแม่มาเวียงชัย | อัยกาให้สัจมเหษี | ||
| ให้พ่อเจ้าไปพนาลี | แม่นี้ติดตามจรจรรย์ | ||
| กับทั้งพระล้กษมณ์อนุชา | ออกไปอยู่ป่าพนาสัณฑ์ | ||
| วันหนึ่งจึงยักษ์ทศกัณฐ์ | มันใช้มารีศเป็นกวางมา | ||
| แม่ไม่รู้เลยเป็นร้กใคร่ | ให้พ่อเจ้าตามไปในป่า | ||
| แล้วได้ยินเสียงเหมือนบิดา | คิดว่ายักษาม้นยายี | ||
| จึงให้อนุชาไปดู | มิรู้ยักษ์ล้กพาแม่หนี | ||
| บิดาเจ้าตามไปต่อตี | ฆ่าอสุรีตายทั้งลงกา | ||
| แล้วพามาผ่านโภคัย | ครั้งนั้นแลแม่ได้หรรษา | ||
| จึงมีปีศาจลวงมารดา | วานข้าเขียนรูปอสุรี | ||
| พาซื่อมือแม่ไม่สุข | ประดุกเขียนรูปยักษี | ||
| พอพ่อเจ้ามาเห็นทันที | นารีผู้วานนั้นหายไป | ||
| ฝ่ายแม่จึงรู้ว่าปิศาจ | พระบิตุราชโกรธชักพระขรรค์ไล่ | ||
| ให้พระอนุชาพาแม่ไป | พิฆาตเสียในพนาวา | ||
| เดชะความสัตย์ของแม่ | เที่ยงแท้ต่อพ่อเจ้าหนักหนา | ||
| พระขรรค์กล้บกลายเป็นมาลา | อนุชาจึงขับเสียพล้น | ||
| เตชะบุญญาของเจ้า | ขวัญเข้าแม่ไม่อาสัญ | ||
| พอพบมุนีในพนาวัน | จึงคมค้ลอาศัยคลอดลูกยา | ||
| พระบิดาเจ้าชื่อราเมศ | หน่อนเรศทศรถนาถา | ||
| ครอบครองกรุงศรีอยุธยา | ว่าแล้วก็ทรงโศกี | ||
| ฯ โอด ๒๖ คำ ฯ | |||
| ๏ ฝ่ายพระมงกุฎกราบเกล้า | พระแม่เจ้าอย่าหม่นหมองศรี | ||
| ถึงพระบิดาไม่ดูดี | เราอยู่พงพีตามเข็ญใจ | ||
| ฯ ครวญ ๒ คำฯ | |||
| ๏ สีดาส้วมสอดกอดจูบ | ลูบหน้าหลังพลางร้องไห้ | ||
| แสนโศกวิโยคอาล้ย | เสน่ห์ในกอดลูกนิทรา | ||
| ฯ กล่อม ๒ คำ ฯ | |||
