นิราศà¸à¸´à¹€à¸«à¸™à¸²
จาก ตู้หนังสือเรือนไทย
การปรับปรุง เมื่อ 07:27, 9 กรกฎาคม 2552 โดย Admin (พูดคุย | เรื่องที่เขียน)
ข้อมูลเบื้องต้น
ผู้แต่ง: สุนทรภู่
บทประพันธ์
| ๏ นิราศร้างห่างเหเสน่หา | |||
| ปางอิเหนาเศร้าสุดถึงบุษบา | พระพายพาพัดน้องเที่ยวล่องลอย | ||
| ตะลึงเหลียวเปลี่ยวเปล่าให้เหงาหงิม | สุชลปริ่มเปี่ยมเหยาะเผาะเผาะผอย | ||
| โอ้เย็นค่ำน้ำค้างลงพร่างพร้อย | น้องจะลอยลมบนไปหนใด | ||
| หรือเทวัญชั้นฟ้ามาพาน้อง | ไปไว้ห้องช่องสวรรค์ที่ชั้นไหน | ||
| แม้นน้องน้อยลอยถึงชั้นตรึงส์ตรัย | สหัสนัยน์จะช่วยรับประคับประคอง | ||
| หรือไปปะพระอาทิตย์พิศวาส | ไปร่วมอาสน์เวชยันต์ผันผยอง | ||
| หรือเมขลาพาชวนนวลละออง | เที่ยวลอยล่องเลียบฟ้าชมสาคร | ||
| หรือไปริมหิมพานต์ชานไกรลาส | บริเวณเมรุมาศราชสิงขร | ||
| โอ้ลมแดงแสงแดดจะแผดส่อง | จะมัวหมองมิ่งขวัญจะหวั่นไหว | ||
| จะดั้นหมอกออกเมฆวิเวกใจ | นี่เวรใดเด็ดสวาทให้คลาดคลา ฯ | ||
| ๏ พระผันแปรแลรอบขอบทวีป | เห็นแต่กลีบเมฆเคลื่อนเกลื่อนเวหา | ||
| จะแลดูสุริยนก็สนธยา | จะดูฟ้าฟ้าคล้ำให้รำจวน | ||
| ฝืนวิโยคโศกเศร้าเข้าในห้อง | เห็นแท่นทองที่ประทมภิรมย์สงวน | ||
| ไม่เห็นนุชสุดจะทรงพระองค์ซวน | ละห้อยหวนหิวโหยด้วยโรยแรง | ||
| ยลยี่ภู่ปูเปล่าเศร้าสลด | ระทวยทดทอดทบซบกันแสง | ||
| โอ้สุดแสนแค้นอารมณ์ด้วยลมแดง | ดูเหมือนแกล้งพัดไปให้ไกลทรวง | ||
| เสียดายเอ๋ยเคยแอบแนบสนิท | ถึงชีวิตวอดวายไม่หายห่วง | ||
| โอ้น้องนุชบุษบาสุดาดวง | พี่เปล่าทรวงทรวงดังจะพังโทรม ฯ | ||
| ๏ โอ้โพล้เพล้เวลาปานฉะนี้ | เคยเข้าที่พี่เคยได้เชยโฉม | ||
| เห็นแต่ห้องน้องน้อยลอยโพยม | ยามประโลมมิรู้ลืมเจ้าปลื้มใจ | ||
| โอ้เขนยเคยหนุนยังอุ่นอ่อน | แต่น้องน้อยลอยร่อนไปนอนไหน | ||
| ยี่ภู่เอ๋ยเคยชิดสนิทใน | วันนี้ไกลกลอยสวาทอนาถนอน | ||
| โอ้รินรินกลิ่นนวลยังหวนหอม | เคยถนอมแนบทรวงดวงสมร | ||
| ยังรื่นรื่นชื่นใจอาลัยวอน | สะอื้นอ้อนอ่อนอารมณ์ระทมทวี | ||
| จนฆ้องค่ำย่ำหึ่งหึ่งกระหึม | ยิ่งเศร้าซึมโศกาถึงยาหยี | ||
| โอ้ยามอยู่คูหาเวลานี้ | เคยพาทีทอดประทับไว้กับทรวง ฯ | ||
| ๏ โอ้อกเอ๋ยเคยอุ่นละมุนละม่อม | เคยโอบอ้อมอ่อนตามไม่ห้ามหวง | ||
| ยังเคลิ้มเคล้นเช่นปทุมกระพุ่มพวง | เคยแนบทรวงไสยาสน์ไม่คลาดคลาย | ||
| จนเคลิ้มองค์หลงเชยเขนยหนุน | ถนอมอุ่นแอบประโลมว่าโฉมฉาย | ||
| ครั้นรู้สึกดึกดื่นสะอื้นอาย | แสนเสียดายสุดจะดิ้นสิ้นชีวัน | ||
| เห็นสิ่งของน้องนุชยิ่งสุดเศร้า | พระทัยเฝ้าเคลิ้มไคล้ดังใฝ่ฝัน | ||
| ยิ่งรำลึกตรึกตรายิ่งจาบัลย์ | สุดจะกลั้นรีบออกนอกบรรพต ฯ | ||
| ๏ พินิจจันทร์วันเพ็งขึ้นเปล่งแสง | กระจ่างแจ้งแจ่มวงทั้งทรงกลด | ||
| สี่พี่เลี้ยงเคียงพร้อมน้อมประณต | พระเลี้ยวลดแลแสวงดูแสงเดือน | ||
| ดูเก๋งก่อต่อเตาเห็นเงาคล้าย | เขม้นหมายมุ่งไปก็ไม่เหมือน | ||
| เห็นเงาไม้ไหวหวั่นให้ฟั่นเฟือน | จนเดือนเคลื่อนคล้อยฟ้าให้อาวรณ์ | ||
| เห็นสระศรีที่เคยมาประพาส | ระดะดาษดอกดวงบัวหลวงสลอน | ||
| ลมรำเพยเชยชายกระจายจร | หอมเกสรเสาวคนธ์ที่หล่นโรย ฯ | ||
| ๏ โอ้รินรินกลิ่นบุหงาสะตาหมัน | เหมือนกลิ่นจันทน์เจือนวลให้หวนโหย | ||
| หอมยี่หุบสุกรมดอกยมโดย | พระพายโชยเฉื่อยชื่นยืนตะลึง | ||
| โอ้ที่นี่ศีลาเคยมานั่ง | เห็นบัลลังก์แล้วยิ่งนึกรำลึกถึง | ||
| ดูเงื้อมเขาเงาไม้พระไทรซึ้ง | เสียงหึ่งหึ่งผึ้งรวงเฝ้าหวงรัง | ||
| จังหรีดหริ่งกิ่งไทรเรไรร้อง | แว่วว่าน้องนึกเสียวพระเหลียวหลัง | ||
| เห็นน้ำพุดุดั้นตรงบัลลังก์ | เคยมานั่งสรงชลที่บนเตียง | ||
| เจ้าสรงด้วยช่วยพี่สีขนอง | แต่น้ำต้องถูกนิดก็หวีดเสียง | ||
| โอ้รื่นรื่นชื่นเชยที่เคยเคียง | พระทรวงเพียงเผ่าร้อนถอนฤทัย | ||
| ทุกเงื้อมเขาเหงาเงียบเซียบสงัด | ใบไม้กวัดแกว่งกิ่งประวิงไหว | ||
| ยะเยือกเย็นเส้นหญ้าพนาลัย | ยิ่งเยือกในทรวงช้ำระยำเย็น | ||
| เที่ยวรอบสระปทุมาสะตาหมัน | เคยเห็นขวัญเนตรที่ไหนก็ไม่เห็น | ||
| ชลนัยน์ไหลซกตกกระเซ็น | ยิ่งเยือกเย็นหยุดยืนกลืนน้ำตา | ||
| จนดึกดื่นรื่นรินกลิ่นกุหลาบ | ตะลึงเหลียวเสียวซาบอาบนาสา | ||
| เหมือนปรางทองน้องนุชบุษบา | หรือกลับมายืนแฝงอยู่แห่งใด | ||
| เที่ยวดูดาวเปล่าเปลี่ยวเสียวสะดุ้ง | จนจวนรุ่งรางรางสว่างไสว | ||
| หนาวน้ำค้างพร่างพรมพนมไพร | ดวงดอกไม้บานแบ่งรับแสงทอง | ||
| หอมมณฑาสารภีดอกยี่หุบ | บ้างร่วงหรุบถูกอุระพระขนอง | ||
| ภุมรินบินว่อนมาร่อนร้อง | อาบละอองเกสรขจรจาย ฯ | ||
| ๏ จนแจ่มแจ้งแสงสว่างนภางค์พื้น | ถอนสะอื้นอาลัยพระทัยหาย | ||
| ดูเวหาว่าแสนแค้นพระพาย | ไม่พาสายสวาทคืนมาชื่นใจ | ||
| จำจะตามทรามชมทางลมพัด | เผื่อจะพลัดตกลงที่ตรงไหน | ||
| ดำริพลางทางสะท้อนถอนฤทัย | ให้เตรียมพลสกลไกรจะไคลคลา | ||
| จึงแปลงนามตามกันเป็นปันจุเหร็จ | จะเที่ยวเตร็ดเตร่ในไพรพฤกษา | ||
| พลางอุ้มองค์ยาหยีวิยะดา | ขึ้นรถแก้วแววฟ้าแล้วพาไป ฯ | ||
| ๏ พระเหลียวดูภูผาสะตาหมัน | ที่สำคัญคูหาเคยอาศัย | ||
| จะแลลับนับปีแต่นี้ไป | จะมิได้มาเห็นเหมือนเช่นเคย | ||
| เสียแรงแต่งแปลงสร้างจะร้างเริด | ค่อยอยู่เถิดแผ่นผาคูหาเอ๋ย | ||
| โอ้มิ่งไม้ไพรพนมเคยชมเชย | จะแลเลยลับแล้วทุกแนวเนิน ฯ | ||
| ๏ โอ้นกเอ๋ยเคยพากันมาจับ | จะแลลับฝูงนกระหกระเหิน | ||
| โอ้เขาสูงฝูงหงส์เคยลงเดิน | เคยเพลิดเพลินพิศวงด้วยหงส์ทอง | ||
| จะเริดร้างห่างหงส์ไปดงอื่น | ทุกวันคืนค่ำเช้าจะเศร้าหมอง | ||
| โอ้ก้านกิ่งมิ่งไม้เรไรร้อง | ประสานซ้องเสียงดังดูวังเวง | ||
| ได้เคยฟังครั้งนี้มาวิบาก | ต้องพลัดพรากเพราะว่าลมทำข่มเหง | ||
| แม้นพบเห็นเป็นตัวไม่กลัวเกรง | จะรำเพลงกริชผลาญสังหารลม | ||
| นี่จนใจไม่เห็นด้วยเป็นเคราะห์ | มาจำเพาะพลัดคู่เคยสู่สม | ||
| ยิ่งสุดแสนแค้นขัดอัดอารมณ์ | จะแลชมอื่นอื่นไม่ชื่นใจ | ||
| แต่จำเป็นเกนหลงมาดงด้วย | ต้องชี้ช่วยชมผาพฤกษาไสว | ||
| กรดกระถินอินจันพรรณไม้ | มีดอกใบก้านกิ่งขึ้นพริ้งเพรียว | ||
| บ้างแก่อ่อนซ้อนซับสลับสล้าง | บ้างสดสร่างสีชุ่มชอุ่มเขียว | ||
| ที่ตายตอหน่อหนุนขึ้นรุ่นเรียว | เถาวัลย์เกี่ยวกอดกิ่งเหมือนชิงช้า ฯ | ||
| ๏ พระชวนพลอดกอดน้องประคองอุ้ม | ให้ชมเพลินเดินมะงุมมะงาหรา | ||
| ป่าประเทศเขตแคว้นแดนชวา | อินทะผาลัมชุมสลุมพัน | ||
| โกฐสดำจำปาดะดงองุ่น | สหัสคุณขึ้นระคนปนปาหนัน | ||
| สลาสล้างนางแย้มเข้าแกมกัน | หญ้าฝรั่นฝรั่งเรียงขึ้นเคียงดง | ||
| โกฐกระวานกานพลูดูระบัด | กำจายกำจัดสารพันต้นตันหยง | ||
| หอมระรื่นชื่นใจที่ในดง | พฤกษาทรงเสาวคนธ์ดังปนปรุง | ||
| ที่พื้นปราบราบรายล้วนทรายอ่อน | เข้าดงดอนเลียบเดินเนินกุหนุง | ||
| เทียนยี่หร่าป่าฝิ่นส่งกลิ่นฟุ้ง | สมส้มกุ้งโกฐจุฬาการบูร ฯ | ||
| ๏ คิดถึงนุชบุษบานิจจาเอ๋ย | มิได้เชยชมสบายมาหายสูญ | ||
| ยิ่งโศกเสียวเหลียวหาให้อาดูร | ยิ่งเพิ่มพูนพิศวงในดงแดน | ||
| ดูเล็บนางนึกถึงนางเหมือนอย่างเล็บ | เคยข่วนเจ็บรอยมีอยู่ที่แขน | ||
| เห็นนมนางกลางพนมนึกชมแทน | ละม้ายแม้นเหมือนเหมือนจะเยื้อนยิ้ม | ||
| มะปรางต้นผลอย่างพระปรางน้อง | น้ำเนตรคลองคลอคล้อยย้อยหยิมหยิม | ||
| ฝืนอารมณ์ชมพลับต้นทับทิม | ขึ้นรอบริมหว่างเขาลำเนาเนิน ฯ | ||
| ๏ พนมมาศลาดเลี่ยนเตียนตลิบ | บ้างสูงลิบลอยแหงนเป็นแผ่นเผิน | ||
| บ้างทะมึนทึนเทิ่งเป็นเชิงเทิน | เป็นกรอกเกริ่นโกรกกรวยลำห้วยธาร | ||
| เสียงสินธุดุดั้นลั่นพิลึก | สะท้านสะทึกโถมฟาดฉาดฉาดฉาน | ||
| ที่น้ำโจนโผนพังดังสะท้าน | บ้างพุซ่านสาดสายสุหร่ายริน | ||
| คะนึงถึงนุชบุษบาแม้นมาเห็น | จะลงเล่นลำธารละหานหิน | ||
| ฝูงปลาทองท่องไล่เล็มไคลกิน | กระดิกดิ้นดูงามตามกระบวน | ||
| ปลาเนื้ออ่อนอ่อนกายขึ้นว่ายเกลื่อน | ไม่อ่อนเหมือนเนื้อน้องประคองสงวน | ||
| ปลานวลจันทร์นั้นก็งามแต่นามนวล | ไม่งามชวนชื่นเช่นระเด่นดวง | ||
| พลางรีบทัพขับรถกำหนดแสวง | ทุกหล้าแหล่งลำเนาภูเขาหลวง | ||
| ไม่ประสบพบเห็นให้เย็นทรวง | ให้เหงาง่วงเงียบเหงาเศร้าพระทัย | ||
| ถึงพลมากจากมิตรแต่จิตเปลี่ยว | เหมือนมาเดียวดั่งจะพาน้ำตาไหล | ||
| เห็นนกหกผกโผนโจนจับไม้ | บ้างฟุบไซ้ปีกหางต่างต่างกัน | ||
| นกกระตั้วคลัวเคลียตัวเมียป้อน | เหมือนขวัญอ่อนแอบประทับพี่รับขวัญ | ||
| ป้อนสลาพาชื่นทุกคืนวัน | มาจากกันกรรมเอ๋ยไม่เคยเป็น | ||
| เห็นนกเปล้าเคล้าคู่เข้าชูชื่น | ถอนสะอื้นเหมือนไม่พอใจเห็น | ||
| พอเวลาสายัณห์ตะวันเย็น | นกยูงเล่นลมเพลินบนเนินเตียน | ||
| บ้างเยื้องอกหกหางก้อกางปีก | แฉลกฉลีกเลี้ยวลัดฉวัดเฉวียน | ||
| บ้างย่างย่องจ้องประจงที่วงเวียน | ออกกลางเตียนตีนขวิดดูกรีดกราย ฯ | ||
| ๏ คิดถึงไปใช้บนได้ยลสมร | เมื่อทอดกรฟ้อนรำระบำถวาย | ||
| โอ้อาภัพลับนุชสุดเสียดาย | สะอื้นอายมยุราให้อาวรณ์ | ||
| เห็นเขาเขียวเดี่ยวโดดล้วนโสดสูง | แต่ล้วนฝูงหงส์จับสลับสลอน | ||
| หงส์ก็งามตามอย่างเพราะหางงอน | เป็นคู่ป้อนปกปิดกันชิดชม | ||
| อรหันนั้นหน้าเหมือนมนุษย์ | ปีกเหมือนครุฑครีบเท้ามีเผ้าผม | ||
| พวกม่าเหมี่ยวเที่ยวเดินเนินพนม | ลูกเล็กล้มลากจูงเหมือนฝูงคน | ||
| เหล่าละเมาะเงาะป่าคุลาอยู่ | เที่ยวกินปูเปี้ยวป่าผลาผล | ||
| สิงโตตื่นยืนหยัดสะบัดตน | เห็นผู้คนโผนข้ามลำเนาเนิน | ||
| ฝูงมฤคถึกเถื่อนเที่ยวเกลื่อนกลุ้ม | เป็นคู่คุมเคียงนางไม่ห่างเหิน | ||
| เห็นกวางทองย่องเยื้องชำเลืองเดิน | เหมือนน้องเชิญพานผ้าประหม่าเมียง | ||
| พี่เข้าด้วยช่วยประคองพระน้องนุช | สงสารสุดสุดสวาทไม่อาจเถียง | ||
| โอ้ยามนี้มิได้น้องประคองเคียง | พี่ก็เสี่ยงบุญตามเจ้าทรามเชย | ||
| เป็นกุศลหนหลังเราทั้งสอง | คงได้น้องคืนมาเรียงเคียงเขนย | ||
| แม้นกรรมหนุนบุญน้อยจะลอยเลย | มิได้เชยบุษบาพะงางอน ฯ | ||
| ๏ พระครวญคร่ำร่ำไรมาในรถ | โศกกำสรดแสนเสียดายสายสมร | ||
| พอเวลาสายัณห์ตะวันรอน | ปักษาร่อนรีบกลับมาจับรัง | ||
| โอ้นกเอ๋ยเคยอยู่มาสู่ถิ่น | แต่ยุพินลิบลับไม่กลับหลัง | ||
| ครั้นแลดูสุริย์แสงก็แดงดัง | หนึ่งน้ำครั่งคล้ำฟ้านภาลัย | ||
| เหมือนครั้งนี้พี่มาโศกแสนเทวษ | ชลเนตรแดงเดือดดังเลือดไหล | ||
| โอ้ตะวันครั้นจะลบภพไตร | ก็อาลัยโลกยังหยุดรั้งรอ | ||
| ประหลาดนักรักเอ๋ยมาเลยลับ | เหมือนเพลิงดับเด็ดเดี่ยวไปเจียวหนอ | ||
| ชลนัยน์ไหลหลั่งลงคลั่งคลอ | ยิ่งเย็นย่อเสียวทรวงให้ร่วงโรย | ||
| ชะนีน้อยห้อยไม้เรไรร้อง | เสียงแซ่ซ้องเริ่มรัวเรียกผัวโหวย | ||
| เหมือนอกพี่ที่ถวิลให้ดิ้นโดย | ละห้อยโหยหานางมากลางไพร ฯ | ||
| ๏ พระสุริยงลงลับพยับค่ำ | ถึงแนวน้ำเนินผาพฤกษาไสว | ||
| หยุดสำนักพักพลสกลไกร | พระเนาในรถทองกับน้องยา | ||
| ถนอมแนบแอบองค์หลงหนึ่งหรัด | ให้บรรทมโสมนัสในรัถา | ||
| ต้องจากวังครั้งนี้เพราะพี่พา | พระน้องมาอ้างว้างวังเวงใจ | ||
| นอนเถิดหนายาหยีพี่จะกล่อม | งามละม่อมมิ่งขวัญอย่าหวั่นไหว | ||
| คิรีรอบขอบเคียงเหมือนเวียงชัย | อยู่ร่มไม้เหมือนปราสาทราชวัง | ||
| เคยสำเนียงเสียงนางสุรางค์เห่ | มาฟังเรไรแซ่เหมือนแตรสังข์ | ||
| เคยมีวิสูตรรูดกั้นบนบัลลังก์ | มากำบังใบไม้ในไพรวัน | ||
| หนาวน้ำค้างกลางคืนสะอื้นอ้อน | จะกางกรกอดน้องประคองขวัญ | ||
| เอาดวงดาราระยับกับพระจันทร์ | ต่างช่อชั้นชวาลาระย้าย้อย | ||
| จักจั่นหวั่นแว่วแจ้วแจ้วเสียง | ต่างสำเนียงขับครวญหวนละห้อย | ||
| พระพายเอ๋ยเชยมาต้องพระน้องน้อย | เหมือนนางคอยหมอบกรานอยู่งานพัด | ||
| โอ้เวลาปานฉะนี้เจ้าพี่เอ๋ย | กระไรเลยแลเงียบเชียบสงัด | ||
| น้ำค้างเผาะเหยาะเย็นกระเซ็นซัด | ดึกสงัดดวงจิตจงนิทรา | ||
| พระขวัญเอ๋ยเคยนอนอย่าร่อนเร่ | ไปว้าเหว่หว่างไม้ไพรพฤกษา | ||
| ขวัญมาอยู่สู่ที่พระพี่ยา | พระมารดาบิตุเรศนิเวศน์เวียง | ||
| พระขวัญเอ๋ยเคยแอบแนบถนอม | มาฟังกล่อมกลอนเพราะเสนาะเสียง | ||
| โอ้แรมล่วงดวงเดือนก็เลื่อนเอียง | พี่พิศเพียงพักตร์แฝงพลิกแพลงบัง | ||
| บุษบายาหยีเจ้าพี่เอ๋ย | ช่างลอยเลยลิบลับไม่กลับหลัง | ||
| เมื่ออุ้มออกนอกเขตนิเวศน์วัง | พระน้องนั่งรถทรงที่ตรงริม | ||
| พี่หยอกเย้าเซ้าซี้มีแต่โกรธ | สะอื้นโอษฐ์โอษฐ์เอี่ยมเสงี่ยมหงิม | ||
| อยู่ใกล้เคียงเพี้ยงเอ๋ยได้เชยชิม | ถนอมนิ่มเนื้อน่วมร่วมฤทัย | ||
| พระครวญคร่ำรำลึกจนดึกเงียบ | เย็นระเยียบหย่อมหญ้าพฤกษาไสว | ||
| สงบเสียงสิงสัตว์สงัดไพร | ทุกกอกิ่งมิ่งไม้พระไทรครึ้ม | ||
| สุมามาลย์บานกลิ่นระรินรื่น | ในเที่ยงคืนเสียงแต่ผึ้งหึ่งระหึม | ||
| ผีพระไทรไม้พุ่มงุมงุมงึม | โขมดพึมผิวกู่หวิวหวู่โวย | ||
| เหล่ามารยาป่าโป่งเที่ยวโทงเถื่อน | ตะโกนเพื่อนเพิกเสียงสำเนียงโหย | ||
| น้ำค้างพรมลมเรื่อยเฉื่อยเฉื่อยโชย | ยิ่งดิ้นโดยเดือนดับไม่หลับเลย | ||
| จนทรวงเจ็บเหน็บแน่นแหงนดูฟ้า | องค์ประตาระกาหลาเจ้าข้าเอ๋ย | ||
| พระน้องนุชบุษบาเจ้าข้าเคย | เป็นคู่เชยชมชื่นให้คืนมา | ||
| ทั้งโกสีย์ตรีเนตรเห็นเหตุสิ้น | ว่ายุพินอยู่ที่ไหนนำไปหา | ||
| หาไม่ฉันวานแต่พระสุชาดา | ช่วยอุ้มพามาให้พบประสบกัน | ||
| ทั้งพรหมานวานแต่พาหนะหงส์ | จะได้ทรงเหาะแสวงทุกแห่งสวรรค์ | ||
| แม้นได้นุชบุษบาวิลาวัณย์ | จะทำขวัญหงส์พรหมให้สมยศ ฯ | ||
| ๏ จนพลบค่ำรำลึกนึกอนาถ | ไม่ไสยาสน์ยามวิโยคโศกกำสรด | ||
| จนแจ่มแจ้งแสงตะวันให้รันทด | ให้ยกทัพขับรถเลี้ยวลดเดิน | ||
| ทุกแว่นแคว้นแดนชวาสุธาทวีป | เที่ยวเร็วรีบรอบเกาะดังเหาะเหิน | ||
| ไม่พบเห็นเป็นเคราะห์จำเพาะเผอิญ | ไปจนเกินมะละกาพาราราย ฯ | ||
| ๏ เมืองระตูรู้ทั่วกลัวอำนาจ | ต่างแต่งราชธิดามาถวาย | ||
| ไม่ไยดีอีนังแต่ซังตาย | แม้นแก้วหายได้ปัดไม่ทัดเทียม | ||
| แม้นมิเหมือนเพื่อนเชยที่เคยชิด | ไม่ขอคิดนึกหน่ายละอายเหนียม | ||
| แต่ปราศรัยไต่ถามตามธรรมเนียม | ไม่และเลียมเลยแสวงทุกแห่งไป ฯ | ||
| ๏ ถึงเจ็ดเดือนเคลื่อนคลาดประหลาดแล้ว | ไม่พบแก้วกลอยจิตพิสมัย | ||
| จนพระรูปซูบผอมเพราะตรอมใจ | ทั้งนายไพร่พลนิกรอ่อนกำลัง | ||
| จนถึงทางร่วมที่บุรีรัตน์ | ที่จะตัดมรคาไปกาหลัง | ||
| เห็นเขาเขินเนินร่มพนมวัง | ต้นดงรังครึกครื้นระรื่นเย็น | ||
| ที่ธารถ้ำน้ำพุทะลุลั่น | เป็นช่องชั้นบัลลังก์น่านั่งเล่น | ||
| ผลาผลหล่นกลาดดาษกระเด็น | ดอกไม้เป็นดอกพร้อมหอมรัญจวน | ||
| จะใคร่บวชสวดมนต์อยู่บนเขา | เพราะแสนเศร้าสุดจะตามทรามสงวน | ||
| แม้นมิตามความรักเฝ้าชักชวน | ให้ปั่นป่วนไปตามเพราะความรัก | ||
| จะหักอื่นขืนหักก็จักได้ | หักอาลัยนี้ไม่หลุดสุดจะหัก | ||
| สารพัดตัดขาดประหลาดนัก | แต่ตัดรักนี้ไม่ขาดประหลาดใจ | ||
| จะสร้างพรตอดรักหักสวาท | เผื่อจะขาดข้อคิดพิสมัย | ||
| แม้นน้องนุชบุษบานิคาลัย | จะได้ไปสู่สวรรค์ชั้นโสฬส | ||
| จึงหยุดทัพยับยั้งตั้งอาศรม | รักษาพรหมจรรย์ด้วยกันหมด | ||
| ปะตาปาอายันอยู่บรรพต | อุตส่าห์อดอาลัยก็ไม่คลาย | ||
| ภาวนาว่าจะตั้งปลงสังเวช | ก็หลับเนตรเห็นคู่ไม่รู้หาย | ||
| จะสวดมนต์ต้นถูกถึงผูกปลาย | ก็กลับกลายเรื่องราวเป็นกล่าวกลอน ฯ | ||
| ๏ คิดถึงนุชบุษบาออกมานั่ง | บนบัลลังก์เหลี่ยมผาหน้าสิงขร | ||
| พระตรวจน้ำร่ำว่าด้วยอาวรณ์ | หวังสมรเหมือนจะคลาดในชาตินี้ | ||
| จะอุตส่าห์ปะตาปารักษากิจ | อวยอุทิศผลผลาถึงยาหยี | ||
| จะเกิดไหนในจังหวัดปัถพี | ให้เหมือนปี่กับขลุ่ยต้องทำนองกัน | ||
| เป็นจีนจามพราหมณ์ฝรั่งแลอังกฤษ | ให้สนิทเสน่หาตุนาหงัน | ||
| แม้นเป็นไทยให้เป็นวงศ์ร่วมพงศ์พันธุ์ | พอโสกันต์ให้ได้อยู่เป็นคู่ครอง | ||
| ครั้นกรวดน้ำสำเร็จเสด็จกลับ | เข้าห้องหับโหยไห้พระทัยหมอง | ||
| ทุกเช้าค่ำรำลึกเฝ้าตรึกตรอง | จนขาดครองคราวสวาทนิราศเอย ฯ | ||
