ราชาพิลาป

จาก ตู้หนังสือเรือนไทย

ข้ามไปที่: นำทาง, สืบค้น

เนื้อหา

ข้อมูลเบื้องต้น

ผู้แต่ง: พระโหราธิบดี

บทประพันธ์

ราชาพิลาปคำฉันท์

      รา มาราเมศเชื้อองค์อินทร์ อุกเอย
ชา ยิศอิศรยุพินท์เพื่อนเคล้า
พิ โดระฉมฉินท์ฉายฉก
ลาป พิไรใครเศร้าไป่แม้เราสอง
      รา เมศหมองหม่นเศร้าถึงศรี เมืองเอย
ชา เยศแสนทุกข์ทวีกว่านั้น
พิ โยคโศกโศกีสองคร่ำ ครวญฮา
ลาป พิราไลยะอั้นเออยแก้มกันแสง
             
ฉันท์ฉบังราชาพิลาป ๑๖ ดำเนินกลอน ๔
      จักร่ำปางเมื่อนรานเรศนิรา
นิราศสีดาดวงมาลย์
      เสด็จสององค์นุชยุพาลยุพามหิบาล
เต้าแถวพนาสณฑ์พลางยล
      พระเนตรคือแสงสุรยพลหฤทัยกระหน
กระหายทรหวนหวนหา
      พระนุชเรียมเอยฤามานิราศเนาฐา
นาใดแลเรียมจักดล
      ใครหนอเรืองฤทธิชาญยลพาแก้วกับตน
จอมสวาสดิ์นิราศเจียรไกล
      ฤาว่าเทพรุกขลองใจซ่อนไว้ฤาใย
มิบอกจำเราทุกขา
      ฤาว่าปชาบดีมาอุ้มองค์วนิดา
ผาดผยองยังอำมรไขย
      ฤาว่าสุยามเทพไทพาดวงจิตใจ
จากเรียมนี้ไปแดนบน
      ฤาสุรินทรเจ้าไพชยนต์ปราสาทก็ยล
แลพาชีพเรียมไป
      สุราวสุรินทรครุฑมนุษย์ใดห้าวหาญชาญชัย
ฉันใดแลมาดักพา
      องค์อรพระเทวีชานิอรรคชายา
แห่งเราบคิดควรถวิล
      ฤารู้ข่าวว่าเนาถิ่นฐานใดโดยยิน
ทุกแดนแลเรียมจำจร
      พิฆาตชีวาตให้มรณ์ด้วยขรรคฤทธิศร
บได้กลับเต้าคืน
      โอะโอ้เป็นเหตุเพราะขืนขัคคำเรียมอื้น
โองการเจ้าบฟัง
      ใช้ให้เรียมความมฤคังน้ำพระทัยหวัง
แลตรัสพจน์หันหวน
      เรียมฟังบอาจทบทวนความมฤคกลับจวน
กนิฏฐเรียมครวญหา
      มาถึงบเห็นพักตราศศิสุทธิปรา
รภแล้วกันแสงคร่ำครวญ
      วาตารำเพยพัดยวนพระทัยลาญลวน
รลึงะลึ่งะล่านดาลแด
      วายุเร่งเร็วพัดแปรไปบอกกิติแก่
นุชว่าเรียมพเนจรหา
      ศิขรหิมเวศนุตาวาวิถิลณวา
ทั้งริมชรลาสระศรี
      บพบสีดาเทวีเนาฐานใดกี่
เมื่อฤาแลเรียมจักพาน
      เห็นนกเรียมอื้นโองการว่านกเอยวาน
มาช่วยทำงลโศกา
      สูรักเร่งเร็วร่อนหาจงพบพนิดา
แลทูลจงรู้เรียมศัลย์
      แล้วสูเร่งบินมาพลันบอกข่าวจอมขวัญ
แก่กูจงรู้แห่งหา
      นกบินไปแล้วบินมาร้องโดยภาษา
จะแจ้วจะจ้อรอกัน
      บมิบอกข่าวได้สักอันเรียมเจ็บจาบัลย์
ป่านหฤทัยทุกข์ทน
      บมิรู้ข่าวแก้วกับตนแต่เผือสองคน
พี่น้องพินาศหฤทัย
      ป่านนี้อนุชจะเนาถานใดจักกันแสงใส
พิโรธตรอมถึงเรียม
      แต่พี่อาดูรเท่าเทียมพระนุชจากเรียม
ชลเนตรบแห้งพักตรา
      มฤคีมฤคเต้าวันาตรัสว่ามฤคา
แลสูยังพบจอมนาง
      มฤคเห็นท้าวเหลียวหลังพลางดูแล้วแวะวาง
หลบหลีกบอกข่าวใด
      ริมโรทดกรรธรรณกรรไทรำเค็ญค่าใคร
จะเห็นในทรวงแดยัน
             

สุราคณาปทุมฉันท์ ๒๘ กลอน ๕

โอ้พระทรงสุทธิ์นิ่มเนื้อล้ำอุตมางค์โฉมวงจันทร์
จรจากเรียมกีเมื่อฤาสมกันบูรพกรรมจาบัลย์จำนิราศไกล
ยินศัพทปักษีกระเหม่นจิตมีดุจสุริยเสียงใส
เรียมหยุดดับโศกมิรู้ศัพทเสียวใจเน่งฟังนานใช่เสียงนุชชายา
ว่าโอ้เสียงศัพท์ฉันใดเรียมสดับเหมือนสุริยสุรา
พระนุชที่แก้ทฤษดินาคิดว่าจะมาพบแล้วดั่งเดา
วาตาส่งรสมาลัยรวยจรดนาสิกกัณเหา
ละห้อยกลิ่นบุบผาชาติทวนเทานึกถึงกลิ่นเพราพะงาชานี
อ้ารสมฤธุเรศคือกลิ่นชาเยศพระภัควะดี
องคอยู่ไหนเล่าแต่กลิ่นกลิ่นมีโอ้พระชานีจำเรียมเรียมหา
โอ้โฉมเฉลิมภาคจักหาหายากยากแลแลมา
มาจากจากไกลไกลแก้วแก้วอาอาดูรดูรหาหาไหนจักปาน
โอ้โฉมประไพหายากยากได้ได้แล้วแล้วดาล
ดาลจากจากไกลไกลรัติรัติวารวารใดใดการพบจึ่งวายศัลย์
จักหาด้าวใดทั่วอมรในตรีโลกนาคี
ทั่วจักรวาลธิดาราชีทุกกรุงธานีบอาจที่จะปาน
องค์พระวรนุชคือปิ่นมงกุฎนารีทั่วสถาน
ใสสุทธิ์คือแก้ววิเชียรประพาฬแสงโชติประการประกอบรัศมี ฯ
             

ดิลกวิเชียรฉันท์ ๒๕ กลอน ๖

      ป่างเรียมแรกสมสองวรราชเทวี
ริมเยอสุขเลิศฤดีรสราคปรีดา
      เคยพาดพระหัตถ์เหนืออุราราชกัญญา
กอดเกี้ยวคือกาญจนลดาอันโอบอ้อมทุมามาลย์
      พิศพักตรมณฑลศะศิสุทธิเปรมปราน
เปรมร่วมมฤธุรสบันดาลฤดีดัศบันเจิดใจ
      อุรประทับอุรราชอนงคชงคไกวย
จุมพิศถนังคแลริมไรโอษฐคันธกัลยา
      ปริสังกรคององคอรอนงควนิดา
สมสุขเสนหาวรภาคไกวยกร
      แสนสนุกนิบทันอิ่มจิตฤแลดาลจร
ลำเค็ญแห่งเรียมนี้คือสิขรแลมาทับพระนาภี
      คิดคือบุรุษหนึ่งแลเอาดาบอันคมดี
มาผ่ากายแยกเอาจิตลีแลควักจักษุทั้งสอง
      บมีอุปไมยคือเหมราชหงส์ทอง
แลมีชายหนึ่งมีจิตปองแลมาชักเอาโลมา
      ทั่วตนบมิไว้มีแต่หนังหุ้มอาตมา
ลำเค็ญแห่งเรียมนี้ในครั้งคราที่นี้ดุจดั่งเดา ฯ
             

มาลินีฉันท์ ๑๕

      ป่างครวญพิไลถึงโฉมเฉลาทั่วสัตว์เหงา
บได้จร
      คณสกุณซรับซรนซรอนจิตวิจลอร
ก็พิโรธ
      จบรุกขบมิศัพท์ตรับโสตฟังสาราโรธ
ละห้อยใจ
      บมิหาผลภักษพลอยพิไลเน่งบศัพท์ได้
ก็ตริตรอง
      ขินีสิหราชผาดผยองลืมสติปอง
อาหาร
      ทั่วคณสัตว์อันสดับสารตาทุกขาภาร
ก็เน่งเนา
      กินรกินริเคยดลเดาว์หมู่คณาเทา
ชมท่าธาร
      ในวันนั้นนกลืมสติการลืมไปชมถาน
นุเวศจร
      อสุรครรธพาวิทยาธรฟังก็ชออร
กรรธิตงง
      คณเทพฟังศัพท์รุนังลืมอสุภัง
สำราญ
      ต่าง ๆ พิลาปชลในธารมุขขบเบิกบาน
ก็โศกเศร้า ฯ
             

ฉันท์ฉบัง ๑๖ ดำเนินกลอน ๔

      ปางนั้นเบื้องบนเขียวขาวหมอกมัวเดือนดาว
สุริยชอื้อชรอ่ำลมฝน
      ฟ้าฟื้นหลังโชรกชรลอับแสงสุริยพล
ครครึครครื้นเวหา
      เมฆังติมิรังคมิศอากาสถังค์ชิมุตตา
ก้องฟ้าอัคนาอัคษุนี
      กึกก้องโอโฆศณศัพท์ศรีปาวกาวจรี
บับภารร้องเรื่องเสียงสาร
      ฟังสรับทเพียงชีพวายปราณฉ่ำพิจิตรดาร
กระเม่นกระเมิรบหนังพองสยองขน
      คณาสัตตาวิจลทุกเทพทุกทน
กระหนกกระหายเดืองเดือดแด
      ยักขาก็รักษาซรับแซรภูชกวิหกแต่
ตทึกตถึกตเถิกถอยใจ
      วิทยากินราเนาในคูหาเสียวใจ
มั่วประสุมประชุมจินดา
      ทุกหมู่ในเถนธราดลแดนทุปรา
รภด้วยหน่อวรจักรปาณี
      ด้วยท้าวเสวยกันแสงศรีถึงภัควดี
สีดานารีนาฎกัลยา ฯ
             

มงคลรัตนฉันท์ ๒๒ กลอน ๖

      เสด็จกาลอันวัชชรีโกลาหน่อองค์นเรสา
ธครวญถึงจอมมเหสี
      พระนุชเรียมฤานิราศจรลีละเรียมจาบัลศรี
เศร้าแสนโศกครวญถึงองค์
      ฤาร้างเห็นวรพักตรพิมพงศ์จันทิมากรรตราสงค์
จะเปรียบพักตรนุชฤาเสมอ
      ฤาร้างเห็นเกษภมูอันเลิศเลอกัณฐนาสารมเยอ
ทวยโสตมุขา
      ฤาร้างเห็นวรทันตคิวาใสสดคือนิลดา
กระแน่งนวยสวยสด
      ฤาร้างเห็นวรนักขทั้งทศศรีแสงคือนิลจรด
พระนาภาษรุจี
      ฤาร้างเห็นวรถนังคอันมีพรรณดั่งภูมมณี
รัตนชูตณศรีไศล
      ฤาร้างเห็นวรอุรอุราไกรคือเพชชรัตนประไพ
โสภาคหมดนิมลา
      ฤาร้างเห็นชงคทวยบาทาทั้งคู่อันตรูตรา
ไตรโลกยฤาร้างเห็น
      ด้วยสรรพาอาตมพูนเพ็ญจักร่ำกี่วารเห็น
องค์นุชดุจกร ฯ
             

ฉบังโคลสิงฆฉันท์ ๑๖

      เรียมเสียสมบัติเสด็จจรเสด็จจากนคร
นัครามาพบชายา
      ชาเยศแล้วฤานิรานิราศสีดา
เสียทั้งสมบัติแมนสวรรค์
      แมนสวัสดิสมบัติอนันต์อเนกแจจัน
พิพัฒนโภไคศูรย์
      โภไคสวรรยามากมูลมากมายเพิ่มพูน
อนันตเนืองบริพาร
      บริโภคยประดับนฤมาลย์นฤมลแกมกาญจน์
ประทับเพริดพรายพรรณ
      พรายพรัศรัศมีจรจันทร์จะแจ่มกำนัล
โฉมประภาพิมล
      พิมานทองทิพยโสภณโสภาคยไหรญ
มณีประดับชัชวาล
      ชัชวัตรประดาแกมกาญจน์แกมแก้ววิศฏาล
วิมลมาศณดำเกิง
      ดำกลยิ่งเทพบันเทิงบันทำสำเริง
สำราญสำฤทธิสมบูรณ์
      สมบัติพิพัฒน์เพียบพูนเพียบเพ็ญไพบูลย์
โชตนเสวยสุขสานติ
      สุขสวัสดิ์สรรพแสนศฤงคารศฤงคิตตระการ
ดูริยดนตรีบำเรอ
      บำรัศพัชนีรมเยอรมเยศสุขเลอ
สมบัติใดบมิปาน
      บมิเปรียบปราสาทพิมานพิมลโอฬาร
ดิเรกพ้นคณนา ฯ
             

ปทุมรัตน์ฉันท์ ๓๕

เรียมละไอศูรย์ละวงศ์ตระกูลพระบิดุเรศชนกา
ละเสียงเก้าแก้วคณะหมู่อุโรธาละพระอนุชาทั้งสองผู้เรืองฤทธิไกร
บ้างเสด็จจากกรุงไกรเรียมยากในเถื่อนกับพระยุไพ
มาพบดวงชีพคลายโศกเสวยรมยไทยได้แก้วแล้วไคลลีลาในดงดอน
ปางเสด็จยุรยาตรดำเนินวรบาทคือราชไกรสร
ปางเมื่อทฤษสาคณามฤคอันจรมีเสาวนีวรเรียมบอกซึ่งพรรคสัตตา
ปางเห็นปักษีมีพจนีถามพรรคหมู่สกุณา
พิศพลางตรัสถามเรียมแจ้งกิจกังขาปางเมื่อรสมาลัยฟุ้งตระหลบดง
ตรัสว่ารโสบุปฝารุกโขได้มฤตยรสจรดสรง
เรียมบอกซึ่งพรรณบุปผาชาติอันผจงปางหนึ่งเมื่อสรงชลสระสุทธิใส
เพ่งพิศบงกชคลี่กลีบรวยรสภูมรีเอาทราบใน
ตรัสว่าสัตว์นั้นเขาภักษสิ่งอันใดเรียมสัชนีให้ภูมรีภักษรสมาลย์
ทฤษสาคณามัจฉ์แหวกว่ายไล่ฉวัดเฉวียนกลางชลธาร
พิศพลางตรัสถามเรียมแจ้งจิตกังขานโดยในอาการหมู่มัจฉทั้งหลาย
ปางเมื่อเกิดเหตุอสิรนทรแปรเพศเป็นมฤคสุวรรณพรรณราย
ปางเมื่อตรัสใช้ให้เรียมตามทรายเรียมตรัสทัดทายพระนุชอาจที่ยิน
ปางเรียมเสด็จจรจากพระจอมสมรตามมฤคเรียมจิตถวิล
ถึงนุชอันอยู่แล้วจึ่งวางศรศิลป์เห็นมฤคผิดจินตนาถึงนุชไกลองค์
ปางเรียกแรกกลับพบกนิษฐกับถามแจ้งกิจเรียมทรง
โทษาแก่ยุพจักพิฆาตชีพลงเรียมเร่งบาทจงจิตมาเรียมบมิเห็น
เรียมล้มพระกายเนหือพาลุฟายชลจักษุ์ลำเค็ญ
รำเคืองใกล้สิ้นไหลอายพักตรธรณีในทรวงดุจมีไฟกัลป์ร้อนยิ่งลน
นุชเอยเรียมแค้นพระคีวาแน่นคิดคือประดุจดั่งลน
เอาภูษาอุดเขโฬจะกลืนมิพ้นสิงฆาเหนียวข้นแน่นเต็มทั้งพระนาสา
ในทรวงแสบเจ็บคือเอาศรเหน็บทั้งสามเล่มแลขรรดา
อาจทรงอยู่ได้ฤาอาจเจ็บแสบสาดุจเรียมแค้นคาเจ็บนักเพียงชีพตักษัย ฯ
             

สัทธราฉันท์ ๒๑ กลอน ๗

      
      โอ้อกกูเอยแต่นี้ไปฤาจะเห็นวรภาคอันประไพ
พระสุนงคนาฎจอมมเหสี
      จักครวญร่ำหากี่เดือนปีกี่ยามทิวาราตรี
แลจักสมพระนุชเลย
      เราทั้งสามองค์ย่อมเคยชมพนสณฑรำเพย
เคยปุจฉาเฉลยกันมีมา
      เคยชมมูลชาติผลอาเกรียรณ์ชาติบุปผา
เราเคยเก็ยมาทรงเกษกรรณ์
      เคยชมคณาปักษีแจจันมีศัพท์สนั่น
แลทั่วทั้งป่าวันนุเวศนา
      เคยชมโกญจมยุราอุลุสุบรรณสุรา
กางปีกหางเต้นตามคู่คาม
      เคยชมคณาสัตว์อนุจรตามคูเคียงสังโยคคาม
แล่นฉวัดเฉวียนข้ามหน้าหลังจร
      เคยชมนุตฤณบรรพศิชรวิถีวรรณพาลุอร
เคยบทจรชมพฤกษา
      เคยชมสระศรีแลชรลามังกรมัจฉมัจฉา
ผุดนิมุจจาแถกสายชล
      เคยชมปทุมาโกมุทผลชาติบุษปนิลอุบล
พายพัดเปลื้องเกสรขจาย
      พระนุชเรียมฤานิราสายจรจากเรียมแลเรียมก็ดาย
ราศแดสใดหนอรู้ข่าว
      ฤาว่าหลงใหลในพนราวพบมารวิกาตาว
พาเอาดวงชีพเรียมคลา
      ฤาหลงไปชมธารชรลาพบกุมภียักขรักษา
พาเอาดวงมาลย์ไปภักษ์กิน
      ฤาว่าหลงจรเข้าในเถื่อนถิ่นถามกุมภัณฑ์รากษขิน
เขตเห็นนุขเอาภักษา
      ฤาว่าปิศาจภูตป่าเห็นนุชเอกวิเวกมา
พาซุ่มซ่อนไว้ในถ้ำเถื่อน
      ฤาว่าราชปักษีอินทรีเบือนบ่ายเห็นนุชก็พาเผือน
ผันยังฐานพฤกษาอันอยู่
      ฤาว่าพยัคฆสีห์วางวู้พาเอาดวงมณีรัตนตรู
ไปเป็นภักษฦาฤาฉันใด
      ฤาว่าสัปปาณกล้าภัยพิศมพ่นนุชประลัย
ฤาฉันใดเรียมพบซากองค์
      เรียมนี้นุชเอยอาจทรงกันแสงโศกชออรองค์
พ้นที่จะดำรงพระกายา
      เรียมนี้บมิอาจนุจรหานุชเอยวรบทบาทา
ช้ำเป็นน้ำหนองเลือดกรมเกรียม
      สิ้นสุทธิพาลาศัพทเรียกนุชเรียมบอาจอนุเลียม
เลียบหาพระนุชฤาพาน
      พระนัยเนตรเรียมอับแสงฉานภัยพิศมทั่วอัฏฐทิศาน
ฤาเห็นแก้วพี่มา ฯ
             

สัททุลวกกีฬิตฉันท์ ๑๙

      ขอท้าวทั้งโสฬสแมนพรหมคุ้มภัยทุกกรม
วรนุชมาลย์
      อย่าให้มีอริยพาธาพระสุนงคราญ
เทพยจงดาลรักษา
      ทั่วเทพยเนาวในอามรฉกามาทุกทั่ววิมานา
เรืองเดช
      ขอจงมากางกั้นพาลสัตว์ภัยเพทอย่าระได้มีเหตุ
พาธา
      จงพระจตุดูรเทพยทศทิศทวาศิขรเวหา
สาคร
      จงช่วยคุ้มคณาพาลอันมีในดงดรอย่าระให้จอมสมร
จลจิตร
      จงเทพยทั่วโลกชมพูอันมหิทธิช่วยคุ้มภัยพิศม
ในกาล
      จงอรรคเทวียาช่วยพยาบาลคุ้มในไพสาณฑ์
อริรา
      อย่า ร ให้พระนุชค่าแค้นในพวาแลชี้ช่องมรรคา
ให้ดล
      จงช่วยดลจิตนาฎอย่าให้หลงจรนนำนุชเสด็จดล
มาพาน ฯ
             

วสันตดิลกฉันท์ ๑๔ กลอน ๖

      ปางนั้นธก็ดลมยุราสกุณกลางริมธาร
ทั้งสองสัตว์กล่าวพจการที่ไทเสด็จจะบได้ยล
      นกยางว่ายังมีกระษัตริย์หนึ่งแลมีภรรยาอนนต์
อุโรธานเรียบโจษจลแลบได้อิ่มจิตจง
      เจตนแก่เมียท่านผู้อื่นแลมองลักษณ์ภักษภายงค์
หญิงธานาพาลหฤอนงค์แลยควรคิดเวรา
      โมโรวาทิยยังมีนามราชกระษัตริย์เสด็จในพนาวา
มีอรรคเทวีเอกมาควรละให้พาลพาไป
      คือแลแต่จะพิทักษ์คตุธังองค์เดียวนี้บมีไย
ฝ่ายเมตปิชานิไกลแต่ร้องได้เร่จรหา
      เมื่อกูค่าควรลิงแลเห็นกระษัตริย์ราชทั้งสองรา
หนึ่งพาลหนึ่งก็เบกษาแลกูยลแผดสันดา
      ธก็สดับเทวทิสองสัตว์ตรบัดดิทรงพระโกรธา
ว่าพาช่องสัตว์เดียรฉาฤปรมาทบเกรงกลัว
      ใช่ตัวกูนิแกล้งแลจรให้พระนุชอยู่แต่ตัว
กูไว้กนิษฐอยู่รักษาลัวแลมฤคสุรแปลงวาจา
      ให้ยุพาจราครั้นแลจากอสุรราชก็มาพา
ฤาหนึ่งใช่ต่อยุทธิฤทธิสาหัศกูนี้อับอาย
      กล่าวพลางโสมนัสจิตคิดอุประมัยคือดังชาย
หนึ่งเอาหอกมาปักนาภีกายโกรธาแค้นแก่สกุณา
      กรก็จับศิลปะน้าวพาดศรมาศธบมิคลา
เพื่อจะพิฆาตสองสกุณาให้ชีพม้วยด้วยวาที
      สองปักษีทฤษดิยลนารถก็ประกาศณวาที
ว่าควรแลฤานิฤบดีจะล้างชีพข้าทั้งสอง
      มีทีฆายุได้ร้อยปีแลฤมีเมตตาจะมาปอง
บคิดกรรมอันจะตามจองเวรบุรพมามี
      อันว่าองคนาฏกัลยาอันสุรราชพาหนี
ข้าเห็นฉายาคล้ายก็มีไต่ชลาธาราไหล
      ไปโดยทางวิถุยาองค์เทวีนั่งท้าววิไชย
ทิศนี้แลเห็นจรไคลผิวแลจะตามโยชนา
      จักพบราชกรปิยดาจงถามกิจติยไปเมื่อหน้า
แลผู้อาธรรม์อันภักภาจงเร่งเสด็จตามผลาญ ฯ
             

อินทรวเชียรฉันท์ ๑๑

      ครั้นได้สดับพจน์แห่งสองสัตว์แจ้งสาร
มนทจิตคิดเดือดดาลปลงศรไว้พระร่ำไร
      โอ้แก้วกับตนเอยดั่งฤาน้องมาเจียรไกล
ราพณ์ร้ายพานุชไปเรียมได้รู้เพราะปักษี
      เหตุมีแต่ก่อนแล้วตรัสห้ามแก้จบวาที
จะร่ำจะหากีเมื่อฤาพบแก้วคู่เชย
      สุรพาลพานุชจรกลางอำพรเจ้าบเคย
นิ่มเนื้อนวลใครเอยจะมุ่นหมองด้วยวาตา
      จักเศร้าศรีหมองยลแสงสุริยพลชลมหิมา
จักเศร้าสร้อยโศกาแลหาเรียมทุกแนวไพร
      มิเห็นเรียมจรตามจะเสวยแสนกันแสงใส
โอ้โอะแต่นี้ไปฤาร้างพบพณิดา
      แต่นี้จะไกลโฉมวรภาคยรัตนา
ช่องพาลมนัสทารุณพาจากเรียมพน
      แต่นี้จะไกลองค์สรรพพาดมิจักยล
นุชเอยคำคิดจลใจเรียมนัก แก้วจอมสมร
      ชลเนตรไหลฤาขาดพักตราราชองค์อร
โหยหิวปลิวอุทรคิดคำนึงครวญถึงศรี
      สายสวาสดิแก้วเรียมเอยฤานิราสจากเรียมลี
จำเรียมแสนโศกีแต่แรกจากเพียงปางมรณ์
      เรียมรู้ว่าจอมสวาสดิอสุรราชมันพาจร
จะตามจรนครแม้นชีพวายจึ่งคลายกัน
      ครั้นเรียมยังชีพคงจักตามจงพบจอมขวัญ
สมองค์จึ่งวายศัลย์สุดสวาสดิเรียมจอมเสน่หา ฯ
             

รัตนมาลาฉันท์ ๒๒ กลอน ๕

      บัดนั้นก็เสด็จจรอนุทิศสกุณา
ตระบัดก็ลุฐานพานรราชกระปีย์
      อันสถิตในศิขรบรรพตโกลาคีรีย์
ธเสด็จกรชังถารนครบีย์ยลท้าวก็อื้นวาจา
      แล้วก็ถามวรองค์สองเสด็จณมรรคา
จักไปด้าวใดแลหน่อนราตรัสแจ้งเจตจง
      พานรราชรับพจน์ก็แจ้งจิตอันบง
จึ่งกล่าวว่าพระราชสุนงค์อสุรราชทศศิรา
      ผู้ผ่านกรุงภิภพไอยสุริยแสนลงกา
ทรงวิไชยรถแลก็พาผยองแถบฐานคิรี
      พระองคกัลป์ยาทฤษดีข้าบพิตรแล้วเทวี
เอาผ้ารัดกำพลอันมีก็ซัดลงแล้วตรัสสั่ง
      ว่าผิแลพระองค์ธก็เสด็จจะตามมาหนหลัง
ให้ถวายมูลเหตุกิจจังแล้วแนะทิศนคร
      ถ้าว่าพระองค์คิดปิยเมตแลขจร
ตามองค์ยังกรุงนครธานิราชลงกา
      แล้วราชกระปีย์เอาภูษารัตนสุวรรณา
ทูลเหนือศิรว่านรภักดิยอถวาย
      หัตถารับภูษาพิศวรรัตนกำพลหมาย
รู้ว่าภูษาพระสุทธิสายสวาสดิท้าวธกันแสง
      ล้มพระกายเหนือพาลุคิดคือดั่งคนแกล้ง
แลผลักให้ล้มลงกลางแปลงทรงวัสัญญีดุษฎี
      กนิษฐวานรกอดประธมโทมนัสฤดี
ค่อยคลายโศกแลพระศรีรามาราชครวญพิไร ฯ
             

ฉันท์ฉบัง ๑๖ ดำเนินกลอน ๔

      โอ้พระสุนงคทรามวัยเรียมแจ้งกิจใน
ปางก่อนเมื่อพบสกุณา
      บอกแจ้ง ๆ ทิศเรียมมามาพบคณาพา
นรราชถวายข่าวแสดง
      ทั้งพระภูษาอันแกล้งไว้ให้เรียมแจ้ง
แลแจ้งเป็นเคารพสอง
      น้ำใจพระนุชปูนปองให้รู้ทำนอง
ทิศาเพื่อให้เรียมจร
      ตรัสสั่งไว้แก่พานรแนะทางให้จร
ยังกรุงพิภพเมืองมาร
      ปางนี้ท้าวอสุรพาลพานุชลุสถาน
แลจะร่วมรสกาไมย
      น้ำพระทัยนารถบไหวถ้าพาลขืนใจ
เห็นว่าพระนุชนักมรณ์
      เรียมรู้แต่ข่าวว่าจรด้วยพาลสุชมรณ์
แลไปลรู้กิตยา
      เรียมจักจรตามวณิดาให้แจ้งหัทยา
ถ้านุชนุชยังภักดี
      จักต่อณรงค์ยุทธีด้วยช่องอรี
จะพาพระนุชมาสม
      โอ้แก้วกลอยสวาสดิคู่ชมจำเรียมปรารมภ์
แสนโศกาพ้นกามา
      แต่เรียมเริ่มรสนิราเสวยแต่น้ำตา
เร่งรู้เร่งแค้นจิตจล
      ไว้แต่ภูษาให้ยลต่างพักตร์พิมล
เร่งเห็นก็เร่งโศกา
      กลิ่นเกลี้ยงติดพระภูษาไว้แต่คนธา
ให้เรียมนี้รู้สำคัญ
      เรียมได้แต่กลิ่นจาบัลย์รสชานีกระสัน
แต่องค์นุชฤาเห็น
      แต่องค์พระนุชทำเค็ญมิเสด็จให้เห็น
แลเรียมนิเรโศกา
      กอดพระกำพลภูษาแทบพระอุรา
ก็ทรงอาดูรร่ำไร
      ชลเนตรแห้งเหือดบมิไหลเนตรคือสุริยใส
สรศัพท์ให้แหบหาย
      พิศเพี้ยนภูษิตแล้วบ่ายนัยเนตรมุ่งหมาย
บเห็นพระนุชมาพาล
      ใจจิตถึงพระวรมาลย์คล้ายคล้ายดุจพาน
ครั้นพิศก็ดาลหายองค์
      แล้วเอาภูษาศรทรงวรบาทจรจง
เฉลาะตามทิศอันไป
      พระพายพัดส่งกลิ่นในภูษาเฉลียวใจ
นึกว่าพระนุชเสด็จมา
      พิศวามปัดทักขิณาบูราปัจฉา
ทั่วอัฏฐทิศบมิยล
      ถ้าพาศนาภาดทุทลพระเสด็จไพรสณฑ์
กับด้วยพระวรยุพา
      ปางนั้นยังมียักษาหนึ่งนามกรา
ได้ชื่อว่ายักษ์กุมพล
      ผุดผันขึ้นแต่ภูมิดลยักษ์นั้นมีตน
แต่เพียงนาภีขึ้นมา
      เติบใหญ่พิลึกมหึมาผุดกลางสองรา
แลบังทั้งป่าพงไพร
      ยุพลักษณ์บเห็นปิ่นไตรภพภิตอิดใจ
ก็เอาตรีเพชรอันทรง
      เข้าจับกุมพลโดยจงแหวะกายยักษ์ยง
ก็เห็นพระเชษฐ์อันจร
      ตามเสด็จองค์ดังก่อนฝ่าพงดงดร
เฉพาะวรพักตร์สู่สถาน ฯ
             

โตฎกฉันท์ ๑๒ กลอน ๖

      ธก็เสด็จจรกนิษฐ์บพิตรในกาล
ถึงราชปักษาสารมุขรัตนธำรงถวาย
      กร รับพจนถามฤาแลท่านลำบากกาย
ปักษีรับวาทีถวายวุตติแจ้งกิจสาร
      ศิโรตมทรงรถจรพาวรชานีวรมาลย์
แลยุทธิฤทธิสาลอสูรสิ้นอิทธิพลา
      กริ้วโกรธตะเบ็งเสียงกรกุมทั้งสิบอา
วุธทั้งสิ้นสาตราวุธแล้วยืนฉงน
      ตูก็กล่าวแสดงฤทธิมหิทธิก็ผจญ
ว่าตูเรืองฤทธิพลฤาจะกลัวอาวุธไพรี
      ก็กลัวแต่รัตนสุวรรณนารถมุนี
อันทรงนิ้วพระกรศรีคือเพชสราวุธนารายณ์
      อสุรสดับก็จับรัตนมณีนารถจิตหมาย
ซัดด้วยลำบากกายไว้แต่จิตจักพบองค์
      คร้นสดับศัพท์นั้นโทมนัสคือจักปลง
วรชีพฤาคงแล้วจึ่งมีราโชงการ
      ว่าท่านอย่าระได้มล้างจิตเราจะพยาบาล
ด้วยเทพวิศดารแลจะให้ชีพคืนคง
      วรราชปักษาสดับธศัพท์ว่าบได้จง
จิตเรานี้จะประสงค์จุติไปยังสิมพลี ฯ
             

สุรางคณาปทุมฉันท์ ๒๘ กลอน ๔

สมเด็จราเมศครั้นสดับสารเหตุโดยวัจนปักษี
เอาพระกรวายพระวรนาภีชลเนตรไหลรี่คือธารชลธา
พิโรธทรุดองค์ล้มพระกายลงเหนือพระสุธา
ทรงวิสัญญีเหนือภูมิภาคาแค้นเร่งอาดูรเพียงเสวยกรรม์
ทรงชีพสมฤดีพระทรงกันแสงศรีแหบไห้กระศัลย์
พระกนิษฐ์พิลาปกราบบังคมคัลสององค์ทรงรันทดพระมรณา
พระกรเท่าเกษสิงฆาชลเนตรคือธารชลธา
พระปีฐีทรงแทบต้นรุกขาพระบาททรงพาลุทรงโศกศัลย์
เรียมได้สดับสารว่าพระยุพมาลย์ท้าวอสุรอัน
พาลพาเอาไปเงื้อมมืออาธรรม์เกลือกพาลคิดอันนารายณ์ทำยำยี
น้ำพระทัยนุชสดใสบริสุทธิตั้งต่อภักดี
ไหนจักดิ้นโดยบตามยักษีจักแสดโศกมีจิตครวญถึงกัน
เรียมได้แต่ภูษารัตนรูจิติดวรกรรฐ์
อีกพระธำมรงค์ค่าไตรภพอนันต์ไอยกาแกล้งสรรให้แก่นุชมาลย์
เรียมได้มลักยังแต่องค์จักเห็นเมื่อได้พาน
พบแก้วกลอยสวาสดิ์ให้หายจำบาลจำบันแดดาลดิ้นเดือดแดยัน
ปานี้ยังไฉนเสวยสุขฤาไยฤกันแสงศัลย์
ครวญคร่ำหาเรียมทรงโศกแสนกัลป์แต่เจตนาสรรค์ต่างองค์ต่างไกล
สุริยสายัณห์จักกันแสงศัลย์พิลาปพิไร
เสียแก้วค่าเมืองค่าโลกาไตรเสียชีพเรียมไปแก่พาลอสุรา
เรียมเศร้าฤทยางค์คือรัตนตมางค์ให้สบปรารถนา
ตระบัดพลัดตาจากพระหัตถาได้แก่พาลอาธรรม์แล้วคิดในใจ
วรชานิปิยาดั่งฤา ๆ มาจรจากเนาใน
พิภพแมนมารก็จรดยศไกรพาอาธรรม์ใครอ้าจักดูดี
กี่ร้อยพันชาติจักหาเหมือนนารถพระภัควดี
ทั่วรองค์สรรพางค์สรรพสมบูรณ์มีดั่งเทวนารีนารายณ์แปลงเป็น
ทรงสร้อยสรรภาษยิ่งเทวิยาคาศน์วิบูลยพูลเพ็ญ
ปสาทน์ประดับจักษุมลักเห็นพิศเพียรจิตเป็นพักวิจลใจ
โอ้เสียดายองค์เคยร่วมสวาสดิจงจิตเจตน์พิไร
ความรักเรียมยังเต็มจิตคิดไฝ่เมตมิตรยังไปมิได้ร้างคลาย
ควรฤามาจากอริรามาพรากจากพระสุทธิสาย
สวาสดิเรียมร่ำกี่วารเลยจักบ่ายเนตรเห็นพักตรฉายสระศรีสุทธิใส
ดั่งก่อนแรกสมรสาภิรมย์ดิ้นโดยกาไมย
รมยาชาเยศเลิศรสทิพใดควรฤามาไกลเรียมฤาเห็นโฉม
ปานี้ยังไฉนเรียมนิราสไกลฤาค่าใครโลม
ให้หายคลายทุกข์เสวยสุขภิรมย์ดุจเรียมตรัสโลมด้วยเลศวาที
เมื่อจักเสวยโภชน์จักเสวยพิโรธเสวยกันแสงศรี
เมื่อสรงชลธารสรงชลอัคคีทรงภูษามีจิตทรงกรรฐา
เมื่อทรงไสยาศน์เห็นว่านุชนาฏจักทรงโศกา
คิดครวญปางเมื่อเราร่วมรมยาแนบนวลกวนกามามิศนิทเสน่ห์
ราตรีวิเวกจักนิทราเอกองค์จักวจเน
ฤาค่าใครชวนนวลนุชสรวนเสจักอารมยเภปางเราปราศรัย
ได้ยินบินจางคณาคิตปางเมื่อเสด็จเนาใน
ปราสาทอุโรธถวายเพลงสรรไพพ่างทิพเพลงในอมรสุรินทร์
พระนุชเรียมเอยกี่ปีเดือนเลยเรียมอาดูรผิน
วรพักตรสองนัยน์ฤาเห็นกายินเห็นแต่มนินท์ภูสินประไพ ฯ
             

ดิลกวิเชียรฉันท์ ๒๕ กลอน ๖

      ในบัดนั้นธก็ทรงศิลป์วรหัตถ์ตระบัดก็เป็นไฟ
เผาปักษาแล้วไทยทรงผ้ารัตนเรืองโฉม
      เรียมได้แต่รัตนลักต่างวรพักตรสลดโสม
แสงรัตนพรายโพยมพิศเพียงพักตร์วิมลมาลย์
      เร่งพิศวรรัตนจิตเจตน์เร่งทุกข์โทมนัสในกาล
ตราบใดเรียมไปพานพบจึ่งวายซึ่งอาดูร
      คิดไฉนแลหนออุกอาจคิดมนัสราคพาลอสูร
พาภัยเอาไปพูนในพิภพฤาควรเห็น
      โทษภัยแลจะถึงแก่อาตมเมื่อหน้าแลจะมีความลำเค็ญ
คิดใคร่พาไปเป็นภรรยาค่าใครยล
      คิดคือเอาสรรพิศมอุบาทาบอาจคิดแลมาพาดล
ได้สุขแลทุกข์จนพินาศม้วยประลัยยา
      ฤาหนึ่งวรองค์ทรงสุภลักษณ์แลคิดคือกัลป์หุกา
มิรู้ฤาแลพาเอาไปไว้ในธานี
      ทารุณจิตปองแลมองลักคือโจรจิตร้ายอาวุธมี
ศิรษาทั้งทศที่แท้ใครนับว่าชาติชาย
      คิดคือกามองมางษมัจฉ์แลครั้นคนเฝ้านั้นผันผาย
ลับตาฉาบพาได้กายเอาไปภักษ์เป็นสำราญ ฯ
             

ฉบังโคลสิงฆฉันท์ ๑๖

      ทุกข์จิตช่องร้ายใจพาลมนทโมหสงสาร
มิกลัวจะไหม้นิรยา
      ค่าโมหมืดมนธ์มิจฉาหลงทฤษดิตัณหา
กลุ้มจิตก็คิดบาบี
      เห็นโฉมแจ่มจันทร์เรืองศรีเกิดกลทฤษดี
มนัสราคหวั่นไหว
      แรกดาบสตั้งพิธีไกรทุกเทพสบสมัย
อเนกเนื่องกันมา
      สิ้นสุทธิครุฑนาคอสุราคนธรรพวิทยา
นิกรก็มาสบสรรพ์
      ยกศิลป์มิได้ต่างผันผยองไยอาธรรม์
แลมิมายกธนูศร
      ครั้นกูยกได้นุชอรทุกเทพอวยพร
ฦาสิทธิประสาทวัจนา
      ให้เป็นวรอรรคชายาแก่กูผู้อา
สาแล้วมามองพาหนี
      มุกขทั้งทศเศียรฤามีอายเท่าเกษี
ทุกเทพจักหยันไยไพ
      บมิได้ละอายแก่ใจเร็วรวดว่องไว
แลคือดั่งโจรใจฉกรรจ์
      แสนชาติสัตว์บาปอาธรรม์อยู่ถานใดอัน
ตรายจักตามจองผลาญ
      อย่าไว้ช่องร้ายอันธพาลให้หนักดินดาล
และจะเยียประดุจเยี่ยงกัน
      เบื้องหน้าจะอุกรุกรันเข้ายุทธ์ชิงกัน
แลผู้ถ่อยฤทธิจักจล
      บเริ่มเราชายเลิศคนยังอาจผจญ
แลบมิควรคิดความ
      ถ้าดีต่อหน้าอย่าขามประยุทธ์ปราบปราม
ใครดีก็ได้ดั่งเดาว์
      แกล้งให้สุรามาศลวงเราให้จรจากเยาว์
แล้วสอนให้แกล้งแต่งกล
      ให้ศรีวรลักษณ์เสด็จดลยังแต่นุชคน
เดียวแล้วมามองพาไป
      ถ้าพระยุพยังแลไหนจักได้องค์ไป
แก่พาลแสนมายา
      ถ้าว่าข้าอยู่แลมาทันพาอริรา
สองราชเราต่อผจญ
      ทุกเทพนิกรยลใช่เราอับจน
ฤทธีแลละองค์ไป
      จงเทพอวยพรชัยแก่เราจักไป
ณรงค์ยุทธ์ยักษา
      หนึ่งพระอิศเรศกัณหาคุโณไอยกา
ฤทธิชัยบวรสบสถาน
      คุณาวรบิดุรามารดูลกามาศาล
ชาญศักดิชัยไตรตรี
      อนุบิดุเรืองฤทธียงยิ่งเกียรดี
ทั่วภพโลกทบทาง
      มาช่วยคุ้มภัยในปางหน่อองค์จักมล้าง
หมู่พาลพวกไพรี
      บัดนั้นเทวสัตว์ปักษีอันเศร้าหมองมี
จิตทุกข์แต่ท้าวนิรา
      นิราสจากกันพึงมาภักษผลเทวา
ก็คลายอาดูรถวายพร
      ชัยชัยถามัศฤทธิศรชัยเดชขจร
แลจงมาไปมล้างอรีรา
      ชัยชัยอุตมางคผลาชัยฤทธิมหา
มหิทธิเรืองขจร
      ชัยชัยเดชาพลาศรชัยนารถบวร
ศัตรูพินาศอัปรา
      ชัยชัยเรืองเดชมหาชัยเกียรติปรา
กฎทั่วพิภพสบสถาน
      ชัยชัยนารายน์จงผลาญชัยเดชประหาร
ศัตรูจงแพ้พ่ายพัง
      ชัยชัยราโมจรังปราบหมู่พาลัง
บำรุงพิภพสุสานติ ฯ
             

ชินวรฉันท์ ๑๕ กลอน ๔

      วรบาทเสด็จในกาลเฉพาะวรพักตรดาล
จิตรจง
      ยังถานาพบอสุรายงค์ยลพนาษพรง
ก็จินเต
      คณาสัตว์ปักษีรำเมจับวันรักเข
ก็ผจญ
      ในกาลที่นี้เรายลนารายณ์จักผจญ
อธิพาล
      จักยลฤทธิบวรศรสานติองค์นราธาร
จักผังแผลง
      จักยินศรศัพท์เสียงแลวงเพราะเพียงทิพแผลง
ก็โอโฆษ
      จักเห็นพลาพลทั้งสองโสดย่อมเรืองศักดิ์โชติ
มหิทธิชาญ
      จักยลฤทธีพลมารอันแกล้วกล้าพาล
อุกอาจ
      ทั่วเทพตรีลุอำนาจมารรุกราชรม
สยบแสยง
      ตรีโลกเทพอาจแข็งมารเรี่ยวแรง
ก็ปราบปราม
      สุรสัททอสุรคามเทพเข็ดขาม
บอาจทน
      ในที่นี้เราก็จะได้ยลชายเลอศภคน
เรืองยศไกร
      จักเข้าต่อณรงค์ชิงชัยโลกจักไหว
เมรุมาศ
      จักเห็นนารายณ์พิฆาตพาลอสุรราช
พงษ์พันธุ ฯ
             

วิสาลวิกฉันท์ ๒๘

พระจึ่งเสด็จจรในพงดงดรค่าคิดกระสัน
พลางยลผลไม้รายงอกเนืองนันต์พลสัตว์สบสรรพ์มีสัททอึกอึง
พระทัยปลิวเปลี่ยนพระเนตรผิดเพี้ยนหยุดยั้งคำนึง
ชลเนตรฤาขาดวรพักตรกำดึงจิตไป่วายซึ่งเมตมิตรเสน่หา
แม้นม้วยสิ้นจันทร์ม้วยมิ่งแม้นสวรรค์ต่ำใต้นาคา
ม้วยภูมิภาค์สิเนรุมหาม้วยอากาสาสัตตพรรณศิงขร
ม้วยป่าหิมพานต์ม้วยเบญจชลธารชลสัตว์ทันดร
ม้วยโนตทศรีไกรลาศศิขรม้วยหมู่นิกรนรชนทั้งหลาย
แม้นม้วยสิทธิศักดิ์ไป่ม้วยความรักเรียมไปมิคลาย
พระยอดชีวิตติดต้องใจชายกี่เมื่อเรียมวายพระวรไมตรี
วรเกษภมูวรกรรฐจักษูนาสารูจี
วรคัณฐ์เรืองโชติทันต์โอษฐปรตนีหนูกาไกรศรีคีวาพาหุไกร
ทศานักขัตมุกดาวรรัตน์นาภาภาคไพ
ถันนังคือบูรณ์วิทุรียแสงใสอุราวิไลประภารภาคา
อุรุทวยชงค์วรบาทพิมพงษ์ปิฐิกัจฉา
สุวรรณนิ่มเนื้อภิกันตวิภาวิภาควรรณาหาไหนจะปาน
กลิ่นเกลี้ยงมฤธุรสคันโธบงกชสรรพารสมาลย์
แนมภาคชมเชิญจำเริญสงสารกลั้วกลิ่นดินดาลแนบนิครมเห
เรียมแนบนิทราตราบพระทิวากรแสงอุเท
ฤาหวนแปรพักตรจากองค์ชาเยเกี้ยวกรนิทเธห่อนหายคลายองค์
ยังไป่เห็นพักตร์เรียมยังแค้นนักแต่เรียมจากกัน
เรียมหน่วงพระชีพฟังข่าวจอมขวัญถ้านุชเสวยสวรรค์จักปลงชีพตาม
เรียมรู้แต่ข่าวว่านุชเนาด้าวพิภพสุรนาม
เสวยมรณโศกไป่รู้เนื้อความเรียมจักจรตามให้รู้กิตยา
ครั้นเรียมยังทรงชีวาตม์ตามจงพานพบวนิดา
เป็นตายบคิดแก่กายชีวาเมตมิตรปิยาร้อยเท่าพันทวี
เรียมจักกลับคืนแสวงภรรยาอื่นโกฏแสนแม้นมี
ไป่เปรียบพระนุชสุทธิใสราคีหาทั่วภพตรีวรภาคฤาปาน
ฤาหนึ่งเอือดอายแก่เทพทั้งหลายอสุราพาล
จักเยาะไยไพว่าละวรมาลย์ต่างองค์สรวลสารว่ากลัวไพรี
แม้นพวกพาลสูรรากษสเพียบพูนณรงคยุทธี
เรียมบอาจถอยคณสุรไพรีแม้นมาทั้งตรีพิภพพวกพาล
ช่องชาติอาธรรม์จักม้วยสิ้นกรรม์ศรมาศจักผลาญ
ภูมีทารุณจักพลอยสูญปราณที่แท้ในกาลณรงคพารา
สององค์ยูรยาตรถับถึงพนวาศไทรรุกขฉายา
จึ่งพระวรเชษฐ์ดำเนินวัจนาโองการแก่ราชายุพเยาวมาลย์
โอ้พระกนิษฐราชแต่เราลีลาศตามองค์นงคราญ
สุดที่พลาสังบทวรบาททบทานบัดนนี้สถิตสถานไทรรุกขฉายา
ให้หายเสวยภักษ์แล้วจึ่งเราจักอนุจรไคลคลา
ยุวายลนุภักดิเชิญตามปรีชาจึ่งองค์ศรีรามาเสด็จเนาใน
พระพายุพายพัดวรเจตน์กำจัดถึงองค์ทรามวัย
ละห้อยเหงาเงียบจักเสวยนิทไซร้จึ่งตรัสแก่ไทกนิษฐราชา
เจ้าเข้ามาชิดองค์พี่จะนิทร์ใต้รุกขฉายา
ให้สว่างอาดูรคลายโศกไสยาพระน้องจงมาระวังระไว
จึ่งเอาเพลานุชต่างหมอนทองอุตม์รองพระเศียรใน
ป่าเวศคร่ำครวญถึ่งนิ่มนวลใสพระชลเนตรไหลเต็มเพลายุพา
ความยากเรียมเอยคำใครเห็นเลยนะพาพงา
แต่สององค์จรติดตามนุชมาวายชีพใครค่าจักมาพบพาน
พระกนิษฐเอาภูษาทิพไพรูเช็ดจักษุชลธาร
ค่อยถนอมกรลูบวรพักตรจักพาฬพิศพักตรภารการเห็นเศร้าศรีหมอง
แล้วเบือนพักตราทรงแสนโศกาชลเนตรเนืองนอง
คิดครวญอนาถถึงองค์ลำยองพระเชษฐเห็นน้องเร่งเศร้าโศกา
โอ้แก้วพี่เอยสองเราเราเคยนิทร์แท่นรัตนา
เคยนั่งกองแก้ววรรัตนภาคาครั้นนี้เรามานั่งนิทร์ภูมิดล
ทรงแสนโศการำเพยวาตาพานพัดวิมล
ลืมพระสติยาเสวยนิทราดลด้วยแสนโศกทนอาดูรมานาน
เมื่อจะก่อเหตุวรบุตรองค์เพศเป็นพานรชาญ
เมื่อจักมาพบพลหมู่ทวยหารจักกุมไปผลาญลงกาธานี
ฝ่ายพระนุชลักษณ์คอยภารนุภักดิ์กราบเกล้าดุษดี
พลางพิศเพี้ยนดูช่องมรรควิถึสัตว์พาลอรีอันจะมาบีทา
ทรงพระขรรค์ชัยระวังระไวตามคำเชษฐา
บได้ติงองค์เพื่อให้พี่ญาเน่งนอนเต็มตาด้วยพระภักดี
ฝ่ายพระบรมจักรรัตนบันทมใต้รุกขสาขี
สำเริงสติยาสำรวมกายีทิวากรลีลาสายาณโห
พระพายพัดเฉื่อยแต่พอรวยเรื่อยสำราญกาโย
คิดควรปรานีหน่อจักระปาโณเทวารุกโขชวนกันรักษา ฯ
             

เชิงอรรถ

อ้างอิง

เครื่องมือส่วนตัว