นิราศรักษาตัว

จาก ตู้หนังสือเรือนไทย

การปรับปรุง เมื่อ 11:53, 1 ตุลาคม 2553 โดย CrazyHOrse (พูดคุย | เรื่องที่เขียน)
(ต่าง) ←รุ่นก่อนหน้า | รุ่นปัจจุบัน (ต่าง) | รุ่นถัดไป→ (ต่าง)
ข้ามไปที่: นำทาง, สืบค้น

เนื้อหา

ข้อมูลเบื้องต้น

พระนิพนธ์: พระเจ้าบรมวงศ์เธอพระองค์เจ้าเพ็ญพัฒนพงษ์

มีเนื้อหาเพียงตอนที่ ๑

บทประพันธ์

คำนำ

โคลง
      นามนิราศเรื่องนี้รักษา ตัวแฮ
เป็นเหตุด้วยโรคาส่อให้
หมอสามต่างตรวจตราเห็นร่วม กันเฮย
ควรจักเปลี่ยนถิ่นไซร้เหตุนี้นามแถลง
             

ร่าย ศรี ๆ สิริสวัสดี บัดนี้จะขอแสดง แจงคดีคำนำ เป็นถ้อยคำบรรยาย ความมุ่งหมายบทกลอน วอนเกล่าเป็นนิราศ ใช่เชิงฉลาดอวดตน เป็นคนโวหารเราะ โดยจริงเจาะใจคิด ประดิษฐ์เล่นเล่าเรื่อง เป็นเครื่องพอเพลินใจ ยามยากไกลถิ่นถาน จากมารดาบิดา จากภรรยาจากบุตร สุดโศกเศร้าอาดูร พูนพ้นเทวศโหยหา ทุกเวลาไม่คลาย สุดจักหมายหาอื่น เป็นเครื่องชื่นชูจิต นอกจากคิดคำกลอน วอนคร่ำครวญหวนหา ตั้งแต่คลาคลาดไป ท่องเที่ยวในชลธี กับธานีมากมาย อีกจดหมายราวเรื่อง เนื่องในถิ่นที่พบ สบเนตรประหลาดนานา เพื่อเวลาต่อไป นำใจเป็นที่ระลึก ตรึกตรองเห็นเช่นนี้ จึงลองชี้แต่งถ้อย บทกลอนแตกหลายแห่ง แปร่งขัดหูหลายหน บ่เคยฝนฝึกไว้ แม้นนักเลงกลอนได้ อ่านแล้วขออภัย ด้วยเทอญ ฯ

กลอน
อนึ่งขอต่อท้ายหมายเหตุแถลง
หน่อยไม่รู้ท่านจะคิดจิตระแวงว่ากลอนแข็งฟังกระด้างขวางสำเนียง
คือบางตอนนั้นเป็นกลอนสำหรับร้องลำต่าง ๆ แม้นคำพ้องถูกต้องเสียง
จึงฟังเย็นเสนาะเพราะพร้อมเพรียงได้เรียบเรียงไว้เพราะตนชอบดนตรี
ขออวยพรแด่ท่านอ่านนิราศแม้นมีมิตรพิศวาศอย่าคลาดที่
อยู่ด้วยกันสุขเกษมเปรมปรีดีอย่าได้มีวันร้างห่างกันไป
หนึ่งขอท่านจงมีทรัพย์นับมากลึกเปรียบแก้วสารพัดนึกสิ่งใดได้
ขอปราศจากทุกข์โศกและโรคภัยสวัสดีมีชัยชนะเอย ฯ
             
โคลงลา
      บังคมบรมบาทเจ้าจอมสยา มินทร์เฮย
ขอพระเดชราชาปกเกล้า
ไปตลอดรอดชีวาโรคเหือด หายแฮ
ฉลองพระคุณค่ำเช้าตราบคุ้งมลายขันธ์ ฯ
      ประนมก้มเกศเกล้าลามาร ดาเฮย
ลูกจักไปล้างผลาญโรคไซร้
กำหนดเเน่นวันวารจึงกลับ มานา
ขอจุ่งพรแม่ให้โรคร้ายมลายสูญ ฯ
      อีกองค์อรเอกอ้างพี่ยา
ก้มเกศบังคมลาเริดร้าง
ขอจงโปรดทรงปกาสิตซึ่ง พรเฮย
ดับโรคโศกลุล้างเหือดได้คืนเกษม ฯ
      กรรมตามยามยากไร้โฉมสุดา
จำจิตจักจำลานุชแล้ว
อิงอรแอบแนบนาสาจูบสั่ง ซ้ำเฮย
สมรแม่แม้พี่แคล้วฝากให้คะนึงถึง ฯ
      พรรณเพ็ญพิศเพ่งพ้องพิมพ์เพ็ญ
แห่ห่างหายห่วงเห็นห่วงไห้
ขอบแขขุ่นขุกเข็ญข้องขัด
มัวมืดมนหม่นไหม้เมฆเม้นมัวหมอง ฯ
      ลาวงศ์ญาติทั่วทั้งบริวาร
จักจากไปเนิ่นนานจุ่งให้
เจริญสุขสวัสดิ์สมานกิจกอบ เกื้อนา
คิดสิ่งใดจุ่งได้ดุจพ้องพึงประสงค์ ฯ
             

ต้นนิราศ

โคลง 2
      จากเจ้าเจ็บจิตช้ำคงจักกลืนแต่น้ำ
เนตรแล้วดวงใจ ฯ
โคลง 3
      จากไกลใครจักเกื้อกูลนิ่มเนื้อค่ำเช้า
เรียมจักต้องแต่เฝ้าห่วงน้องนิรันดร ฯ
โคลง 4
      นิราศนาฏนุชน้องนางสวรรค์
เจ็บจิตจำจรจรัลจากเจ้า
แรมร้างห่างแหขวัญเนตรพี่ ไปแม่
นับวันแต่จักเศร้าโศกเพี้ยงทรวงสลาย ฯ
             
กลอน
นิราศร้างห่างรักสมัครสมาน
ต้องจำใจไคลคลาลานงคราญทรวงสะท้านอกระทวยด้วยอาลัย
มิจำจิตก็มิคิดจำจากน้องนี่จำต้องโดยกรรมกระทำให้
บังเกิดโรคสำคัญอันมีภัยแม้นมิไปวายปราณไม่นานวัน
นี่แน่ะเจ้าน้องอย่าข้องแค้นเคืองพี่เจ้าจงจำคำนี้ให้แม่นมั่น
พี่รักน้องพี่ต้องรักชีวันไว้ชมขวัญดวงชีวาให้ช้าปี
โอ้จนใจด้วยไม่มีทุนทรัพย์ที่จะรับน้องยามากับพี่
ต้องจำใจไปเดียวเปลี่ยวชีวีหลายราตรีจึงจะสบพบพักตรา
จงอยู่ดีพี่ขอลาอย่าร้องไห้สงวนใจสงวนรักไว้พักหน้า
เมื่อกลับมาดปราศจากซึ่งโรคาทุกทิวาสุขภิรมย์เชื้อชมเชย
วันที่สามมกราตอนศกร้อยมีเศษย้อยยี่สิบห้าอ้าอกเอ๋ย
เป็นแม่นมั่นวันพี่พรากจากทรามเชยต้องละเลยพรากร้างไปห่างกัน
โอลูกเอ๋ยลูกน้อยแก้วกลอยจิตเจ้ายังนิดตั้งไข่ยังไม่มั่น
ต้องจำร้างห่างไกลไปจากกันจะนับวันแต่รำพึงคะนึงครวญ
ลงเรือไฟหน้าบ้านสะท้านจิตเปิดหลอดวิดเรือล่องท้องน้ำสวน
กับเรือใหญ่เรือเล็กเรือเจ๊กญวนเป็นกระบวนเที่ยวค้าขายตามสายชล
เหลียวดูบ้านแลลิบพริบตาหายน้ำตาพรายพรูพรั่งดุจดั่งฝน
โอ้บ้านเกิดเมืองนอนจำห่อนยลต้องทุกข์ทนโทมนัสอัดอุรา
ที่เคยสนุกเคยสบายจะคลายคลาดน่าอนาถนึกไปกรรมไรหนา
มิหนำซ้ำจำใจไปเอกาจะดูหน้าเพื่อนแต่หนึ่งไม่พึงยล
ประมาณยี่สิบนาทีตรงรี่จอดเคียงข้างทอดข้างเรือเมล์เดลีด้น
รีบย่างเท้าก้าวขึ้นไปข้างบนเพื่อนมาส่งหลายคนยืนเรียงราย
พอพูดจาปราศรัยได้สักครู่ก็พอถึงเวลาห้าโมงบ่าย
พวกคนเรือชุลมุนเดินวุ่นวายแล้วถอนสายสมออึงเสียงตึงตัง
เพื่อนมาส่งลงจากเรือกันหมดแสนรันทดอดฤทัยไปห่างหลัง
เหลียวข้างโน้นและข้างหน้าละล้าละลังตะโกนสั่งลากันสนั่นอึง
พอเรือคล้อยจากท่าเลยหน้าห้างให้เวิ้งว้างดวงจิตหวลคิดถึง
โอ้พุ่มพวงดวงสมรจะร้อนรึงจะคร่ำครวญหวนคะนึงถึงพี่ยา
ใครจะปลอบโฉมงามทรามสวาทยามพี่คลาดไร้มิตรขนิษฐา
ใครจะกอดโฉมงามทรามสุดายามนิทราน้องจะเศร้าเปล่าเปลี่ยวทรวง
ยิ่งคิดไปทุกข์กระไรใจจะขาดทุกข์ไม่คลาดคลายได้ทุกข์ใหญ่หลวง
ยามสุริยาคล้อยดับลี้ลับดวงทุกข์ยังหน่วงไม่ลี้ลับตามอัศดง
พอนาวามาถึงหน้าเมืองสมุทรก็รอหยุดเจ้าภาษีรีบมาส่ง
หนังสือเปิดร่องน้ำตามจำนงให้มั่นคงแบบอย่างทางราชการ
เวลาทุ่มถึงสันดอนเร่าร้อนจิตด้วยเรือติดไปไม่ได้เขาไขขาน
จะต้องนอนคอยน้ำน่ารำคาญถ้านอนบ้านน่าจะดีกว่านี้แยะ
จะกลับบ้านจนใจไปไม่รอดด้วยเรือจอดห่างฝั่งต้องนั่งแฉะ
ถ้าไปได้ก็จะได้ไปโลมและได้มอบแมะความรักอีกสักคราว
คนโดยสารทุ่มครึ่งพึ่งกินข้าวแต่ตัวเราร้างมิตรดวงจิตหนาว
ไม่อยากเปรี้ยวอยากเค็มเล็มหวานคาวอุระร้าวกินครวญถึงนวลน้อง
โอ้ยามกินมิได้กินเป็นผาสุกเวลาทุกข์ใครจะขืนกลืนได้คล่อง
มิตรอยู่ด้วยกินได้ดังใจปองมิตรไม่อยู่ได้แต่รองท้องประทัง
เวลานอน ๆ ไม่หลับกระสับกระส่ายให้หมองหม้ายหม่นจิตคิดห่วงหลัง
ต้องนอนเดียวเปลี่ยวอุราละล้าละลังแทบจะคลั่งคุ้มตายวายชีวี
คิดถึงลูกน้อย ๆ ละห้อยจิตรู้จักคิดคงจะคิดคะนึงหา
รู้จักพลอดคงจะออดถึงบิดาคิดขึ้นมาชลนัยน์ไหลหลั่งนอง
เวลาดึกม่อยหลับแล้วกลับฝันเห็นดวงจันทร์เพ็ญไขไม่มัวหมอง
อีกหน้านุชสุดสงวนนวลละอองโอ้หน้าน้องเหมือนดวงจันทร์เมื่อวันเพ็ญ
พอฝันเสร็จเหมือนใครเด็ดเอาดวงจิตหน้าน้องติดนัยนาพี่คว้าเห็น
แต่หมอนข้างอนิจจาน้ำตากระเด็นไม่แลเห็นพี่จึงคิดลิขิตไว้
โอ้จากไปใจหายไม่วายหมองน้ำตานองเหลือจะกลั้นไว้หวั่นไหว
โอ้อกร้อนนอนเดียวเปลี่ยวฤทัยจากเจ้าไปนานเช่นนี้พี่ไม่เคย
เจ้าพุ่มพวงดวงผกามณฑาย้อยกลิ่นเจ้าลอยล่องมานิจจาเอ๋ย
ช่างหอมเหลือหอมเหมือนเนื้อแม่ทรามเชยมณฑาเอ๋ยหวาดบังอรเจ้าหล่อนมา
โอ้ใจหายมิรู้วายไม่รู้เว้นจะนอนหลับนอนเล่นฝันเห็นหน้า
หน้านวลน้องเทียมทันแสงจันทราเมื่อเวลาเพ็ญส่องผุดผ่องเอย
ครั้นแต่งแล้วนอนหลับกลับเฝ้าฝันแว่วสำคัญเสียงร้องทำนองเฉลย
เพราะสำเนียงน้ำคำร่ำภิเปรยเพราะจับใจกระไรเลยไม่เคยยิน
คำที่ร้องคือคำพี่ร่ำคิดกลับนิมิตเพ้อครวญหวนถวิล
ลาวคำหอมกล่อมสุดายุพาพินพี่ตื่นขึ้นจดไว้สิ้นดังจินดา
ครั้นรุ่งรางส่างแสงภาณุมาศเรือเคลื่อนคลาดจากสันดอนจรเริงร่า
ออกน้ำเขียวเหลียวอ้างว้างนัยน์ตาเสียงซุซ่าน้ำสองฝ่ายกระจายปลิว
พระพายรื่นชื่นเชยรำเพยพัดเงียบสงัดงามสง่าฟ้าลิบลิ่ว
แลเห็นฝั่งอยู่แต่ไกลไม้เป็นทิวบัดเดี๋ยวเกี่ยวคอดด้อยถอยลับตา
คนึงครวญหวนระลึกนึกแก้วพี่เมื่อคืนนี้นิ่มนวลคงครวญหา
ถึงจากเจ้าได้มาพึ่งหนึ่งเวลาก็เหมือนมาได้สักปีนี่อย่างไร
ข้างหน้าอีกนานนักจักต้องพรากกรรมวิบากห้างชิดพิสมัย
เหลือจะตัดห่วงห้ามความอาลัยโอ้จนใจด้วยว่าบุญไม่จุนเจือ
วันที่หนึ่งคลื่นไม่มีเรียบดีตลอดวันที่สองสามแทบวอดคลื่นจัดเหลือ
โอ้คลื่นลมเจ้ากรรมซ้ำจุนเจือทุกข์ล้นเหลือแล้วมิหนำน่ารำคาญ
ได้สี่วันดั้นด้นมาดลท่ายังพาราสิงค์โปร์รโหฐาน
ขึ้นบนบกเที่ยวได้หน่อยค่อยสำราญจะต้องการสิ่งไรซื้อได้ครบ
แอนเดอร์ซันกงศุลใหญ่ของไทยนั้นเขาก็มาหาฉันตามขนบ
จัดเรือรถให้เราโดยเคารพธุระจบรีบมาท่าเรือเมล์
เห็นเรือจอดทอดเทียบอยู่กับท่าสังเกตกว้างแปดวาหาสร้างเส
อีกทางยาวสามเส้นเห็นคะเนไปทะเลแล่นเห็นเช่นหงส์บิน
ชื่อเรือนั้นปรินส์ไอเทลฟรีเดอริชช่างประดิษฐ์ก่อสร้างทุกอย่างยิ่ง
มีห้องนอนห้องนั่งทั้งห้องกินดังพรหมอินทร์นฤมิตพี่ติดใจ
มีดาษฟ้าสามชั้นอันตระหง่านดังวิมานลออยน้ำช่างทำได้
ถึงจะเหมือนเรือนสวรรค์ถึงชั้นใดก็ยังไม่เหมือนเรือนมีเพื่อนนอน
พอเที่ยงตรงถอนสมอไม่รอรัดเบนหัวปัดจักรพัดน้ำกระฉ่อน
บัดเดี๋ยวใจก็ครรไลกลางสาครทรวงสะท้อนถึงนุชสุดที่รัก
จะต้องไปในทะเลระเหระหนเหลือจะทนความทุกข์ยิ่งฉุกหนัก
แม้นโฉมงามทรามสุดายุพาพักตรมาด้วยพี่ ๆ จะชักชวนชมปลา
เห็นปลาบิน ๆ รี่หนีเรือใหญ่เหมือนเรียมไร้ร้างมิตรขนิษฐา
แต่ปลาบิน ๆ หนีโดยปรีดาหนีน้องยาพี่ต้องทำโดยจำใจ
อีกกระโห้โลมาปลาหัวบาตรมัจฉาชาติหลายพรรณสุดกลั่นไข
บ้างเคล้าคู่เป็นหมู่อยู่แต่ไกลนึกอายใจกับมัจฉาเรามาเดียว
พี่ชมปลามาชมแสงสุริย์ฉายเธอเบี่ยงบ่ายรับสมุทรสุดน้ำเขียว
นึกถึงน้องเหมือนใครบิดจิตเป็นเกลียวให้ปลาบเสียวดังจะแยกแตกกระจาย
ครบวันหนึ่งมาถึงยังเกาะหมากอีกหนึ่งปากเรียกปีนังดังใจหมาย
ขึ้นเที่ยวบกดูห้างสร้างเรียงรายมีของขายนานาสารพัด
ร้านฝรั่งแขกทั้งเจ๊กญี่ปุ่นผู้คนเดินชุลมุนอยู่แออัด
พี่ขับรถลดเลี้ยวไปเที่ยววัดพวกจีนจัดสร้างไว้ได้บูชา
ล้วนเป็นพวกเศรษฐีมั่งมีทรัพย์ออกเงินคนหนึ่งนับหลายดอลล่า
หวังกุศลผลบุญหนุนศรัทธาในชาติหน้าเรื่องจรูญพูนทวี
เข้าประตูถึงชลาตรงหน้าวัดเงียบสงัดนี่กระไรไฉนนี่
วัดจีนไม่เห็นสงฆ์สักองค์มีดูท่วงทีท่าทางก็กว้างโต
ครั้นเดินไปอีกประเดี๋ยวเหลียวข้างซ้ายเห็นคนอ้วนอุ้ยอ้ายเดินโอดโอ่
ใส่กางเกงสีขาวทั้งยาวโตอีกเสื้อขาวพุงโรโย้ท้องมา
พี่จึงบอกแกไปไม่ลดเลี้ยวอยากจะเที่ยวชมวัดได้ไหมขา
แล้วถามไถ่ท่านคือใครน่ะขรัวตาแกบอกว่าเป็นสมภารอยู่นานแล้ว
กางเกงเสื้อขาวครองมองใช่ที่ความศรัทราของพี่ไม่ผ่องแผ้ว
จะเหมือนสงฆ์ก็ที่ตรงศรีษะแววจะเชื้อแถวพระเพราะโกนจนโล้นเตียน
แกยินดีชี้ให้พวกเรานั่งเอาน้ำชามาตั้งแบบฮกเกี้ยน
เมล็ดแตงโมถั่วลิสงประจงเพียรดูแนบเนียนจัดให้สมใจจริง
แล้วชักชวนพวกเราขึ้นเขาด้นแล้วดั้นด้นตรงโร่ไปโฮเต็ล
ทางไกลไปชั่วโมงหนึ่งจึงถึงที่ของเลี้ยงมีรองท้องไม่ต้องเข็ญ
พักกินอยู่จนเห็นเวลาว่าเย็นขับรถแล่นต่อไปเข้าในเวียง
โกลัมโบหญิงชายมีหลายหมื่นดูครึกครื้นผู้คนสับสนเสียง
ต่างชาติพูดคนละอย่างต่างสำเนียงฟังพูดเสียงไม่เห็นเพราะเหมาะหูเลย
หญิงอินเดียดูพักตรแต่สักนิดไม่มีผิดดินหม้อพ่อคุณเอ๋ย
จะสาวสวยปานใดไม่น่าเชยถึงเงินเปรยโปรยให้ก็ไม่ชม
หญิงลังกาหน้าตาค่อยยังชั่วไม่ดำมัวมอซอเหมือนหม้อต้ม
ถึงผิวเนื้อร่างกายค่อยคายคมก็ขอชมแต่เนื้อเหลืองที่เมืองไทย
ครั้นสุริยันผันผายบ่ายลงแล้วดำเนินแนวทางมามิช้าได้
พอถึงท่ารีบมาลงเรือไฟบัดเดี๋ยวใจเรือออกนอกลังกา
เห็นเวลาสายัณห์ตะวันคล้อยแล้วเลยลอยลับไปไร้เวหา
เหมือนพี่ร้างไร้นุชสุดอุราเสียดายรักพักตราแสนอาลัย
เห็นเวลาจันทร์เคลื่อนดาวเกลื่อนฟ้าแสงจันทราเพ็ญส่องสุดผ่องใส
เห็นเดือนส่องหมองจิตยิ่งคิดไปเหมือนหน้านุชสุดสายใจวิไลพรรณ
คิดสิ่งใดก็ไม่ชวนให้หวนคิดเหมือนคิดมิตรยอดสวาทนาฎนวลขวัญ
คิดถึงหน้าคิดถึงเนตรทุกเกศกรรณคิดทุกวันทุกเวลาโศกอาลัย
คิดถึงพักตรยามเจ้ายักเจ้าเยื้องย้อนคิดถึงเนตรยามเจ้างอนแล้วค้อนให้
คิดถึงสอยามพี่คลอสอดวงใจคิดถึงเกศยามเจ้าใส่น้ำมันดี
คิดถึงโอษฐ์จิ้มลิ้มยามยิ้มย่องคิดนาสายามเจ้าต้องจูบแก้วพี่
คิดถึงปรางยามพี่จูบลูบยวนยีคิดถึงถันยามพี่เคล้าคลึงชม
คิดถึงหลังยามงอนนั่งหันหลังให้คิดถึงไหล่ยามพี่ซบประกบสม
คิดถึงเอวยามพี่กอดลอดรัดกลมคิดถึงกรเจ้ากรีดห่มสไบบาง
คิดถึงหัตถ์ยามกระหวัดรัดมือพี่คิดถึงเพลงงามดีเมื่อเยื้องย่าง
คิดถึงบาทยามแม่ยาตราสำอางคิดถึงนางไม่รู้เว้นเป็นอาจิณ
แสนระกำสุดร่ำแก้ผันได้แสนอาลัยสุดอาดูรไม่สูญสิ้น
แสนรักนุชสุดรัหน้ายุพาพินแสนเทวศสุดถวิลแทบสิ้นใจ
สุดร่ำคิดแสนรำคาญยังนานนักสุดเห็นหน้าแสนหาพักตรไม่เปรียบได้
สุดจิตแม่นแสนใจหมางมาห่างไกลสุดใจครากแสนอยากใคร่ได้เห็นนวล
สุดจะหักแสนจักให้ลืมน้องสุดจะลองแสนจ้องเล่าเฝ้ากลับหวน
สุดจะคิดแสนจิตคุไฟลุลวนสุดร้อนนักแสนรักล้วนป่วนฤทัย
ถ้าไปได้ก็จะใคร่ไปหามิตรถ้าปลิดได้ก็จะปลิดชีวิตให้
ถึงจากนานก็ไม่ลืมแม่ปลื้มใจถึงจากไกลก็ไม่ใช่ใจจรดกัน
ตกย่านนี้หลายวันเรือนั้นได้ถูกคลื่นใหญ่ซัดฟาดไม่หวาดหวั่น
ด้วยเรือใหญ่ไม่ต้องกลัวหัวฟาดฟันตัดสบั้นคลื่นแยกแตกกระจาย
ที่ขัดข้างผางเปล่าที่ใต้ท้องแตกเป็นฟองพุ่งกระเด็นเป็นฝอยหาย
เรือเช่นนี้ไม่ต้องกลัวมัวเมามายแล่นในสายสมุทรใหญ่ไม่โคลงแคลง
ล่วงได้หกราตรีเรือรี่แล่นมาถึงแดนเมืองเอเด็นเป็นตำแหน่ง
ทุกเดือนปีฝนไม่มีเป็นที่แล้งต้นไม้แห่งหนึ่งไม่พบประสบตา
เรือเมล์จอดทอดไกลไปเที่ยวยากต้องลำบากแจวตะบึงครึ่งชั่วโมงกว่า
ได้แต่ดูอยู่แต่ไกลสุดสายตาพอเห็นท่าท่วงทีมีตึกราม
พอเรือจอดพวกพ่อค้าขึ้นมาแยะเที่ยวโลมและชวนชี้ไม่มีขาม
ให้คนซื้อของว่าดีมีงาม ๆแต่พอถามราคาออกน่าเคือง
ควรห้าบาทบอกว่าขาดตัวถึงสิบใครซื้อฉิบหายเปล่าไม่เข้าเรื่อง
ไม่ควรซื้อเหลวไหลให้สิ้นเปลืองแต่สักเฟื้องไม่ได้ออกบอกจริงใจ
เรือแวะจอดถ่ายสินค้าห้าโมงเศษไม่มีเหตุขัดข้องล่องเรือได้
กับปิตันมันเคาผู้เชาวน์ไวให้รีบใช้จักรด้นในชลธี
เนามาในทะเลแดงเข้าแจ้งเหตุให้สังเกตว่าน้ำดำมิดหมี
ที่เรียกแดงมิใช่แสงในวารีเป็นเพราะสีฟ้าแดงแจ้งใจจง
เวลาเย็นพระอาทิตย์ลงมิดน้ำดูแดงก่ำท้องฟ้าน่าพิศวง
มีสีรุ้งทับแซงไม่แดงตรงแม้นอนงค์เจ้ามาด้วยจะช่วยชี้
พิศสีแดงใจระแวงแดงโอษฐ์นุชแดงสวยสุดจิ้มลิ้มทับทิมสี
พิศสีเหลืองรุ่งเรืองเหลืองเรื่อดีงามเหมือนสีเนื้อเจ้าเศร้าอกเรียม
พิศชมพูแลดูอยู่ที่แก้มจรดลขึ้นบันไดวิไลยิ่ง
ข้างขวาซ้ายรายต้นไม้ใจประวิงคิดถึงมิ่งแม้แม่มาน่าจะดี
พี่จะชวนชูอารมณ์ชมต้นไม้ออกดอกใบหลายอย่างต่าง ๆ สี
พวงพยอมหอมหวานบานบุรีมลิวันมลุลีจิดจันทร์ปรง
กุ่มเกษแก้วกรรณิการ์การะเกดจำปาเทศซ่อนชู้พู่ระหง
ดอกสายหยุดพุดระกำลำดวนดงจำปีจำปากาหลงกุหลาบแดง
ยี่สุ่นย้อยบานเย็นแย้มยี่โถเยื้องมะไฟมะเฟืองมะงั่วมะก่อมะฝ่อแฝง
มะปรางมะปริงหิ่งหายดงมะยงมะแว้งมะยมแซงขานางกร่างกรวยไกร
เล็บมือนางข้องนางอีกนางแย้มนมพิจิตรสลิดแกมแซมไสว
สารภียี่เข่งเต็งลำไยสลัดไดโศกสักรักโรครง
บานไม่โรยดาวเรืองเฟื่องหนอนไก่ดอกกล้วยไม้มหาวรรณมหาหง
อีกส้มซ่าส้มโอโลทะนงดอกพยงโยทะกามณฑาทอง
บ้างผลิดอกออกช่อมณฑาเกิดพี่ชมเพลิดเพลินไม่วายหายหม่นหมอง
เห็นภุมรินเคล้าคู่อยู่ประคองคิดถึงน้องไม่ได้เจ้ามาเคล้าคลึง
แล้วหักจิตจรดลเดินด้นต่อไม่รั้งรอบัดเดี๋ยวใจก็ไปถึง
ยังซึ่งโบสถ์งามวิโรจน์แลตะลึงทำลึกซึ้งกว้างขวางตรงกลางมี
พระพุทธองค์ใหญ่วิไลล้ำปิดทองคำผุดผ่องไม่หมองศรี
พี่ยกมือกราบงามลงสามทีขอจงไปครั้งนี้อย่ามีภัย
อีกหนึ่งขอโรคันให้พลันหายทุกสิ่งสรรพ์ภยันตรายอย่ามาใกล้
อนึ่งข้าจะประสงค์ตรงสิ่งใดขอจงให้สมดังจิตที่คิดปอง
หนึ่งบิดามารดาของข้าเจ้าญาติลูกเต้าภรรยาข้าทั้งผอง
ข้าเจ้าขอพระองค์จงปกครองอย่าให้ต้องมีทุกข์สุขทั่วกัน
ครั้นเสร็จอธิษฐานสำราญจิตพระสะกิดบอกให้พี่ผ่ายผัน
พี่ตามพระขึ้นบันไดรีบไปพลันก็ถึงชั้นสูงสุดหยุดนั่งพัก
แลดูไปข้างล่างดูว้างเวิ้งเขาเป็นเชิงลดลั่นน่าขันหนัก
ดงมะพร้าวสุดลูกตาดูน่ารักพระแกชักชวนดูอยู่ก็นาน
ขอลากลับแกบังคับให้กินก่อนร้องเรียกวอนลูกศิษย์ยกคาวหวาน
ศิษย์ก็ไววิ่งไปไม่ทันนานยกเอาจานหมี่มาท่าดีครัน
พี่ลองเชิญขรัวตามาเจี๊ยะบ้างแกบอกอ้างผิดเวลาขรัวตาฉัน
ขรัวตาต้องคอยเวลายามสายัณห์พระที่นี่เคร่งครันฉันข้าวเย็น
เรากินแล้วจึงลาแกคลาคลาดไม่ทันช้าภาณุมาศไม่แลเห็น
หนาวน้ำค้างพร่างพรมเมื่อลมเย็นดวงดาวเด่นในเวลาล่วงสายัณห์
รีบรัดตัดทางมาไม่ช้าได้ถึงวัดไทยเมืองปีนังดูช่างขัน
ที่มีวัดเพราะได้ไทยมากครันล้วนเมียจีนช่วยกันหลายครัว
โบสถ์วัดไทยนั้นเล็กมือเจ๊กก่อมีหลวงพ่อชาวสงขลาดูน่าหัว
เป็นสมภารพูดต้ำพรื้อไม่ถือตัวพี่คุยกับท่านขรัวอยู่เป็นนาน
ถึงกาละลาพระสมภารกลับพี่จึงนับเงินถวายได้อธิษฐาน
ขอกุศลดลใจให้เบิกบานไปสำราญหายโรคทุกข์โศกคลาย
แล้วขึ้นรถบทจรไม่ผ่อนพักถึงสำนักเรือเมล์ยังเทถ่าย
ของสินค้าบรรทุกมานั้นมากมายจนสุดท้ายขนโล่งเช้าโมงเลย
เรือจึงออกจากท่าหน้าเกาะหมากต้องจำพรากจากบกอีกอกเอ๋ย
คลื่นจะซัดลมจะตีไม่มีเสบยได้ชมเชยก็แต่ฟ้าชลาลัย
นอนกลางคืนพี่ฝันเหมือนวันก่อนว่าร่ำวอนลามิตรพิสมัย
ไปแต่เดียวเปลี่ยวจิตคิดอาลัยฝันนั้นไซร้กล่าวเป็นกลอนวอนวาที
ข้างต้นนั้นว่า " ขวัญเอยขวัญตาพี่จำใจจำลามารศรี "
" แม้นจำใจไคลคลาอย่างพาทีอย่าลืมน้องข้างนี้เมื่อพี่ไป "
" มิจำจิตก็มิคิดจะพรากรักยุพาพักตรอย่าลืมมิตรนะพิสมัย "
" แม้นรักจรองดังคำร่ำพิไรแล้วจะไม่ลืมคำพี่รำพัน "
ตกใจตื่นลืมตาคว้าหาเจ้าเป็นไรเล่าไม่พบประสบขวัญ
ก็จำได้แน่ว่าปลอบโต้ตอบกันกลายเป็นฝันไปอีกเล่าเศร้าใจตรอม
พอตื่นขึ้นเฝ้ารันทดกำสรดไห้ความอาลัยน้องนี้เหลือเนื้อแม่หอม
โอ้ยอดรักยอดชีวิตจิตพี่ตรอมจนซูบผอมเผือดแล้วแก้วตาเรียม
ทำไฉนจึงจะได้ไปพบนุชแม่งามสุดสวาทงามทรามเสงี่ยม
พี่เห็นหญิงหมื่นแสนไม่แม้นเทียมเจ้างามเยี่ยมยิ่งสาวชาวอัมพร
ล่วงห้าวันพลันถึงลังกาเกาะช่างงามเหมาะนี่กระไรเรือไฟสลอน
พี่ขึ้นบกวกวนยลนครนามกรโกลัมโบใหญ่โตครัน
มีของขายหลายอย่างห้างใหญ่ ๆจะต้องการซื้อได้ทุกสิ่งสรรพ์
ขับรถออกจากนครจรจรัล...
...ยามเจ้าแย้มโอษฐ์พริ้มยิ้มอายเหนียม
พิศสีนวล ๆ อะไรไม่เท่าเทียมงามเสงี่ยมนวลนุชสุดสายใจ
พิศสีโศกเรียมวิโยคถึงโศกน้องโศกด้วยต้องจากมิตรพิสมัย
พิศสีม่วงง่วงเหงาเศร้าฤทัยเหมือนผ้าม่วงน้องใช่นุ่งไปงาน
สีสวาดใจจะขาดสวาทเจ้าอุราเร่าร้อนกระไรสุดไขขาน
พิศสีฟ้าคือว่าเยาวมาลย์เจ้างามปานนางฟ้าลงมาดิน
ชมแสงฟ้ามิทันช้าฟ้าก็มืดอากาศชืดเย็นฉ่ำมืดคล้ำสิ้น
หมองอารมณ์ก้มหน้าน้ำตารินแต่จากถิ่นมาก็ได้หลายเวลา
โอ้จากไปไกลน้องหมองหม่นไหม้แสนอาลัยร้างมิตรขนิษฐา
ทรวงปราบเสียวเปลี่ยวเปล่าเศร้าอุราเสียดายคราคราวสวาทไม่คลาดคลาย
โอ้กรรมตามยามเข็ญเป็นไปได้สุดสายใจจำร้างเจ้าห่างหาย
แม้นเมื่อไรได้มาแอบแนบกับกายจะจูบซ้ายขวาซ้ำให้หนำใจ
ทะเลแดงคลื่นเรียบเปรียบแม่น้ำทั้งเช้าค่ำเรือเดินดำเนินได้
มากกว่าที่เขากะระยะไว้ได้กำไรหนึ่งวันดั้นด้นมา
ค่ำวันหนึ่งจวนจะถึงเมืองสุเอซกัปปิตันสั่งเสร็จให้เตรียมท่า
จะมีการรำเต้นเล่นเฮฮาตามประสาขัดสนจนที่ทาง
เข้าจัดธงบริวารขึ้นพานพาดบ้างก็ดาษแคมเรือแลสล้าง
บ้างแทนม่านหุ้มเสาเข้ากั้นกางไฟฟ้าสีจุดสว่งช่างกลั่นเกลา
ล่วงเวลาทุ่มยามตามกำหนดพวกโดยสารพร้อมหมดต่งกินข้าว
ดื่มเมรัยน้าองุ่นฉุนไม่เมาบ้างดื่มเหล้าชามเปญซาบเย็นทรวง
มีดนตรีเครื่องสายบรรยายเสียงฟังเพราะเพียงชื่นใจไม่เหงาง่วง
หวนระลึกนึกหน้าสุดาดวงโดยความห่วงไม่รู้ลืมเจ้าปลื้มใจ
ซอไวโอลินดิ้นดีดช่างกรีดสีฟังเสียง อี ๆ เอื้อยเฉื่อยเสียงใส
ซอเซโลเสียงกลางครางพิไรซอคันใหญ่เป็นทุ้มเสียงฮุมฮำ
อีกเสียงแตแต้แตแต๋แตรคอเน๊ตตร๊ดนะเร็ดตุ้ยตุยเสียงขลุยขำ
เสียง อี่ ๆ คือว่าปี่มีประจำรวมกันทำแต่ละเพลงวังเวงใจ
เพลงฝรั่งแม้นฟังไปก็เพราะจะจงเจาะเปรียบปี่พาทย์ไทยไม่ได้
ด้วยทำนองสำเนียงเลี่ยงกันไปฟังข้างไหนดูเสนาะเพราะเท่ากัน
เวลายามตามบรรดาพวกฝาหรั่งต่างคนพรั่งพร้อมเดินเชิญสาวสวรรค์
เป็น คู่ ๆ เต้นรำประจำกันต่างหุนหันเหหวนไม่ซวนเซ
มือขวากอดสอดเอวมือซ้ายรับประคองจับมือแม่สาวก้าวหันเห
บางคนรูปร่างย่อมผอมเกเรต้องชักเร่นางอ้วนชวนหัวเราะ
หญิงบางคนเล่นตาทำหน้ายิ้มชายกระหยิ่มเข้าใจได้ทีเหมาะ
ทำท่วงทีท่าทางอย่างจะเคาะว่าจงเจาะรักใคร่ที่ใจนาง
หญิงบางคนพันเขียวเต้นเลี้ยวลิ่วชายหน้านิ่วไม่ถูกตาทำหน้าขวาง
ไม่ปราศรัยอิดเอื้อนเบือนลูกคางเห็นท่าทางดูจะเหม็นเป็นขี้ฟัน
อีกคนหนึ่งอ้วนต่ออ้วนขวนดูนักเต้นอึกอักดูท่าดูน่าขัน
ท้องต่อท้องพุ่งซ้นเข้าชนกันยังดื้อดันเต้นได้ชนไปเทอะ
อีกคู่หนึ่งนั้นย้ายชายสูงปรี๊ดฝ่ายหญิงนิดเตี้ยสั้นขี้ฟันเปรอะ
ผู้ชายฟันหลอหักแสนจะเคอะมองดูเจอะคู่ดี ๆ มีอีกแยะ
คู่หนึ่งหญิงร่างใหญ่ได้ชายเล็กกะโผลกกะเผลกข้างชายล้มหงายแผละ
หญิงสะดุดล้มซ้ำลงต้ำแงะผู้ชายแบะหน้าบูดไม่พูดจา
ที่หนุ่มสาวคราวเดียวเต้นเลี้ยวลดท่าระทดอ่อนระทวยสวยสมหน้า
ทำชะม้อยแลชะม้ายชายหางตายังรุ่นราวสาวสง่าน่าเชยชม
ดูเอวบางร่างน้อยแช่ช้อยชดดูงามหมดตั้งแต่เท้าจนเผ้าผม
ดูพักตรารวยระรื่นชื่นอารมณ์ดูงามสมสรรพางค์สำอางตา
งามจริตกิริยางามมารยาทงามสะอาดเปล่งปลั่งดังเลขา
ผิวพรรณผ่องผุดขาวราวกับงาอนิจจาเคลิ้มจิตคิดฟั่นเฟือน
เรามีคู่งามสง่ากว่านี้เยอะไปหลงเลอะชมฝรั่งพลั้งโอษฐ์เอื้อน
ที่จริงใจมิได้ลืมแม่ปลื้มเรือนโอ้แม่เพื่อนคู่ชีวิตอย่าคิดเคือง
หญิงฝรั่งดูไกลพอไปได้ถ้าพิศใกล้แล้วก็เห็นไม่เป็นเรื่อง
ถึงขาวก็ผิวหยาบปลาบตาเปลืองแม่เนื้อเหลืองผิวละเอียดเรียดละไม
ดูเขาเล่นเต้นรำนึกขำจิตใครเป็นผู้แรกคิดแรกขานไข
ไม่รู้จักกันก็ได้ไม่เป็นไรกอดกันได้กลางสนามยามเฮฮา
มิหนำซ้ำเลือกจ้ำทุกคนได้สุดแต่ชอบผู้ใดก็ไปหา
แล้วเชื้อเชิญเขาให้ดีด้วยปรีดาถึงภรรยาเขาก็ได้ดังใจจง
ถ้าเป็นไทยคงไม่คว้ากันยุ่งได้เกิดทุ่งเถียงท้าด่าขมง
ถึงจะเต้นกันโดยดีทีก็คงจะเกิดสงสัยว่าแกล้งจะแย่งชิง
เป็นใจพี่ ๆ ก็หวงแม่ดวงจิตไม่อยากให้ใครชิดแม่ยอดหญิง
เพราะคนไทยเล่นอย่างนี้คงมีจริงลอบแอบอิงกันง่าย ๆ ไม่อายใคร
สุดเอยสุดสงวนชวนชื่นจิตเจ้างามพิศพักต์เด่นดังเพ็ญไข
จะถนอมเนื้อเย็นให้เห็นใจว่ารักใคร่น้องแน่ไม่แปรปรวน
สงวนอื่นหมื่นแสนไม่แม้นเท่าสงวนเจ้านิ่มนุชสุดสงวน
เจ้าเนื้อหอมรวยระรื่นชื่นชิดชวนสุดสงวนเจ้าแล้วแก้วกลอยใจ
ณ วันที่ยี่สิบสองย่ารุ่งเศษถึงสุเอซพาราไม่ช้าได้
รีบขนของหลายหลากจากเรือไฟแล้วขึ้นไปยังท่าลาเรือเมล์
             

เชิงอรรถ

ที่มา

กระทู้ในห้องไร้สังกัด pantip.com โดยคุณขอพบในฝัน

เครื่องมือส่วนตัว