นิราศเขาหลวง
จาก ตู้หนังสือเรือนไทย
การปรับปรุง เมื่อ 11:26, 1 ตุลาคม 2553 โดย CrazyHOrse (พูดคุย | เรื่องที่เขียน)
เนื้อหา |
ข้อมูลเบื้องต้น
แม่แบบ:เรียงลำดับ ผู้แต่ง: ขุนวรการ
แต่งเมื่อใดไม่ทราบชัด แต่หลัง ๑ เมษายน พ.ศ. ๒๔๔๘
บทประพันธ์
๏ นิราศร้างห่างนุชสุดกำสรวล | |||
ไปเขาหลวงทรวงร้อนอาวรณ์ครวญ | เวรใดด่วนห่างรักภัคินี | ||
ออกจากบ้านศาลเจ้าเสือเหลืออนาถ | ใจจะขาดมุ่งเขม้นไม่เห็นศรี | ||
หมายจะชวนขวัญใจไปคิรี | ยุพินพี่อยู่ไกลไนยนา | ||
เหมือนหนึ่งพี่นี้ไม่อาลัยเหลียว | ลืมทรามเปลี่ยวยาจิตต์ขนิษฐา | ||
แต่น้ำใจไปอยู่ที่แก้วตา | ทุกทิวามิได้คลาศสวาทนวล | ||
พี่เดินเศร้าเฝ้าระทดกำสรดแสน | ในทรวงแน่นโหยไห้อาลัยหวน | ||
มาตามทางแถวที่มีแต่ครวญ | ยิ่งปั่นป่วนถึงน้องนองน้ำตา | ||
ถึงหลังจวนเร่งรัญจวนหวนละห้อย | ถึงน้อยน้อยยาจิตต์ขนิษฐา | ||
จวนจะได้หรือจะร้างห่างสุดา | หรือจวนมาถึงพี่จะดีใจ | ||
พี่เหลียวหลังหยุดดูเป็นครู่พัก | อกแทบหักแลไม่เห็นเปนไฉน | ||
เห็นคนอื่นหมื่นแสนออกแน่นไป | ไม่ชื่นใจเหมือนมิตร์สักนิดเดียว | ||
ถึงวัดโพธารามงามระยับ | น้อมคำนับจิตต์หวั่นกะสันเสียว | ||
ถ้าน้องมาด้วยพี่จะดีเจียว | จะพาเที่ยวชมวัดทัศนา | ||
นี่มาเดียวเปลี่ยวในฤทัยหมอง | ตั้งแต่ตรองถึงมิตรขนิษฐา | ||
มีเพื่อนชายก็ไม่หมายเหมือนสุดา | ในอุราพี่ไม่ชื่นขืนเสบย | ||
พี่เดินตรึกนึกเปล่าเฝ้าถวิล | โอ้โฉมยุพินงามเสงี่ยมของเรียมเอ๋ย | ||
มาติดเนตรให้พี่กรมระบมเชย | แกล้งทำเฉยก็ยิ่งเซ้าเฝ้ายายี | ||
พอเห็นน้องคลับคล้ายกลับหายสูญ | ให้เรียมพูนเทวศหามารศรี | ||
เหมือนน้องแกล้งให้พี่กรมถมทวี | ยุพินพี่อยู่สุขสนุกนอน | ||
มาถึงท่าข้ามเกวียนดูเตียนโล่ง | หาดทรายโด่งขึ้นกลางสล้างสลอน | ||
ข้างริมนั้นเปนแควเรือแพจร | ลงหยุดหย่อนคอยเพื่อนที่เชือนแช | ||
พอเพื่อนเราเขามาพร้อมหน้าแล้ว | ค่อยผ่องแผ้วพากันข้ามตามกระแส | ||
บ้างถกเขมรขึ้นจนง่ามตำตอแต | บ้างก็แลดูกันรำพรรณฮา | ||
ที่ลางคนขี้อายเที่ยวหน่ายหนี | ไม่สูสีเดินรายทำอายหน้า | ||
แต่ตัวเราเศร้าฤทัยจำไคลคลา | กลัวเขาว่าโศกสอื้นถึงชื่นใจ | ||
พอขึ้นฝั่งฝรั่งขานทหารแซ่ | บ้างเป่าแตรเรียกกันเสียงหวั่นไหว | ||
ที่บางคนหน้าเศร้าเปล่าฤทัย | กลัวนายใหญ่เขาเฆี่ยนเอาเจียนตาย | ||
พี่เดินเฉยเลยมาหน้าแปแรต | กำลังแดดรีบด่วนเพราะจวนสาย | ||
เหงื่อก็ไหลซึมทราบลงอาบกาย | ชวนเพื่อนชายรีบเดินดำเนินมา | ||
พิศดูสาวสาวขาวสะอาด | ดูผุดผาดหน้าชมห่มภูษา | ||
กำมหลิดก้านแย่งแต่งกันมา | สีจำปาสีนวลยียวนใจ | ||
พวกผู้ชายหมายสวาทชาติเจ้าชู้ | เข้าเคียงคู่ถามว่าเจ้าไปเขาไหน | ||
ฉันไปด้วยน้องจะเห็นเปนอย่างไร | จะพาไปลงถ้ำให้สำราญ | ||
โดนผู้หญิงขี้อายชายชม้อย | ไม่ตอบถ้อยวาจาน่าสงสาร | ||
แต่คนหนึ่งนั้นมันคิดจิตต์ทยาน | ร้องตอบสารพูดพลันไปทันที | ||
ว่าพ่อจ๋าฉันมาไม่มิได้ | นึกหวั่นใจพรั่นตัวฉันกลัวผี | ||
พี่ไปด้วยก็ได้เปนไรมี | ไปลงถ้ำหินปลีเถิดพี่ชาย | ||
ไอ้คนนั้นมันก็เก่งรู้เพลงหญิง | มันว่าจริงชื่อนั้นฉันก็หมาย | ||
ถ้าลงถ้ำหินปลีทีสบาย | กลัวจะว่าพี่ชายถ้ำนี้ดี | ||
นางผู้หญิงนึกอายระคายเขิน | ก็รีบเดินขึ้นหน้าพากันหนี | ||
ไอ้ผู้ชายร้องว่าแน่แพ้ฉันซี | ถูกไอ้ถ้ำหินปลีสิเปิดปรึง | ||
พวกผู้หญิงวิ่งใหญ่ชม้ายค้อน | ไม่หยุดหย่อนรีบไปจะให้ถึง | ||
ยอมแพ้เขาเจ้าผู้ชายไม่อายมึง | ปี้สลึงกูไม่ให้อย่าหมายเลย | ||
พี่ฟังเขาพูดกันสนั่นหู | ให้อดสูอนงค์นางช่างเฉย | ||
ไม่ไพเราะเพราะคำร่ำภิเปรย | เหมือนทรามเชยดวงยิหวาสุมาไลย | ||
ยามพูดจาปราศรัยน้องไขสาร | ล้วนอ่อนหวานจับจิตพิสมัย | ||
มาฟังคำคนอื่นไม่ชื่นใจ | เหมือนทรามวัยของพี่ที่อยู่เรือน | ||
พี่มาจากพรากนุชสุดกำสรวล | ตั้งแต่หวนครวญถึงนางมากลางเถื่อน | ||
ให้หมกมุ่นวุ่นเจ้าเฝ้าตักเตือน | จนฟั่นเฟือนลืมกายน่าอายจริง | ||
เจ้าเพื่อนชายเดินคลอเข้าล่อศรี | พี่ยินดีเข้าประคองว่าน้องหญิง | ||
(แม่มา) เมื่อไรหนาน่าประวิง | พี่เดินนิ่งบ่นหาอยู่ช้านาน | ||
(พอผิน) ผันเขาว่าฉันขันหนักหนา | ทำทีท่าเห็นจะหลงองค์สมาน | ||
แล้วสรวลเสเฮฮาถามอาการ | พี่ตอบสารพากันสรวลชวนไคลคลา | ||
(มาตะบึงถึงดอนคาน) หมอง | สุชลนองนึกรำคาญนานนักหนา | ||
โอ้ดอนคานเหมือนรำคาญถึงกานดา | ในอุราร้อนรำคาญร่านอาวรณ์ | ||
เห็นค้อนกระแลคิดถึงแพรที่น้องห่ม | เคยชูชมช่วงชิงมิ่งสมร | ||
น้องปัดมือพี่ยาแล้วว่าวอน | ให้เรียมผ่อนวางนุชสุดอาลัย | ||
โอ้ผ้าแพรตั้งแต่จะแลลับ | จะช้ากลับไปประโลมโฉมไฉล | ||
คอยอยู่เถิดหนาชีวันแม่ขวัญใจ | จงผ่องใสเปนสุขทุกนิรันดร์ | ||
ชมเต่าร้างลูกดวงเปนพวงห้อย | ระย้าย้อยในจิตต์คิดกะสัน | ||
เหมือนเรียมร้างห่างนุชสุดจาบัลย์ | จรจรัลโศกถึงคนึงนาง | ||
เห็นตำแยเหมือนพี่แหย่หยอกเย้าน้อง | แม่รูปทองทำเมินสเทินหมาง | ||
พี่แกล้งเย้าเซ้าซี้มิได้วาง | นุชนางน้องยิ้มอยู่พริ้มพราย | ||
ดูต้นงิ้วขึ้นเปนทิวปลิวสลอน | นุ่นออกว่อนลมพัดขจัดหาย | ||
ถ้าน้องน้อยเหมือนนุ่นเที่ยววุ่นวาย | ต้องลมชายลอยกรุ่นเหมือนนุ่นปลิว | ||
หัวอกเราเห็นจะแหลกแตกเปนผง | ด้วยอนงค์นวลน้องแม่ผ่องผิว | ||
แม้ชายอื่นได้ไปคงไพล่พลิ้ว | เอาให้ปลิวเศียรดับกับชีวา | ||
จะแล่เนื้อเถือหนังเอามังสะ | ใส่กะทะต้มอิ๋วฉิวหนักหนา | ||
แล้วจะฝานเนื้อประจานให้ทานกา | เอาให้สาทีมาอาจประมาทกัน | ||
เอ๊ะไฉนใจเราเอาจริงหรือ | ท่าฮึดฮือขู่หลอกดอกตัวฉัน | ||
มิใช่คนเก่งก๋าเที่ยวฆ่าฟัน | ทรวงของฉันเห็นจะแยกแตกประไลย | ||
ขอเทพาอารักษ์ช่วยหักห้าม | อย่าให้งามฉันคิดให้ชิดไหน | ||
แม้ชายอื่นขืนแข่งมาแกล้งไซร้ | ขอทรามวัยน้องอย่าหลงพะวงเลย | ||
ให้จิตต์เดียวอยู่ตรงจำนงฉัน | เชิญเทวันโปรดด้วยช่วยเฉลย | ||
ค่อยทัดทานน้องยาว่าภิเปรย | จะสังเวยตั้งเนื่องเครื่องกระยา | ||
พี่วอนไหว้เทวันทุกชั้นช่อง | เพราะรูปทองยาจิตต์ขนิษฐา | ||
พี่เหลือรักจึงได้ห่วงแม่ดวงตา | ในอุราไม่หายวายกังวล | ||
สู้ข่มขืนกลืนกรมอารมณ์หา | ชมปักษาจับร้องบ้างล่องหน | ||
ทั้งอีพุยกุ๋ยแซจับแคบน | บ้างไซ้ขนปีกหางริมทางจร | ||
เจ้าอังชันพลัดคู่ดูง่วงเหงา | เที่ยวสร้อยเศร้าจับพฤกษาลดาสร | ||
เหมือนตัวเราจากนุชสุดอาวรณ์ | มาแรมร้อนห่างรักภัคินี | ||
โอ้ปักษายังรู้จักรักคู่สม | ดูเกรียมกรมเพราะห่างนางปักษี | ||
ชะสัตว์ป่ายังรู้จักรักกันดี | เหมือนเรียมนี้โศกคนึงถึงโฉมตรู | ||
โอ้โอ๋อกของชายที่หมายขวัญ | เที่ยวกะสันถึงสมรจนอ่อนหู | ||
เหมือนตัวเราเปนแบบฉบับครู | เฝ้าเซาอยู่ไม่คิดไปข้างไหนเลย | ||
ถึงมีงานใหญ่โตมโหรสพ | ถ้าไม่พบมิ่งมิตรแล้วจิตเฉย | ||
ไม่สนุกทุกข์คนึงถึงทรามเชย | กลับมาเกยหน้าผากนอนอาวรณ์เดียว | ||
พอใจรักแม่เนื้อเกลี้ยงว่าเสียงหวาน | ทิ้งสถานพ่อแม่ไม่แลเหลียว | ||
ละการงานไปไม่คิดจิตต์ฉันเจียว | เฝ้าแต่เที่ยวหลงเล่ห์เสน่ห์นาง | ||
ถึงรู้อยู่ว่าหลงจำนงหมาย | ก็ไม่หายคลายกรมอารมณ์หมาง | ||
ยิ่งรู้แล้วยิ่งรักไม่ยักวาง | ไม่จืดจางวางรักสักเวลา | ||
ราวกับถูกยาแฝดสักแปดถัง | ทั้งเนื้อหนังผอมพักตรลงหนักหนา | ||
ไม่มีใครสมเพชเวทนา | เขาว่าบ้าหลงรักภัคินี | ||
พอถึงวัดถ้ำแกลบแถบสิงขร | พากันจรชมลำแนวแถวสระศรี | ||
ทั้งน้ำใสไหลลาดสะอาดดี | ในนทีมีสัตบงบาน | ||
บ้างกินอาบค่อยผ่อนที่ร้อนหิว | ค่อยผ่องผิวนั่งเป็นหมู่ดูสถาน | ||
ทั้งหนุ่มสาวนั่งเล่นเย็นสำราญ | ดูสคราญเพริศพริ้งทั้งหญิงชาย | ||
บ้างพูดจาปราศรับบ้างไขสาร | แสนสำราญเชิงรักสมัครหมาย | ||
แต่ตัวเราเปล่าฤทัยไม่สบาย | อารมณ์หมายง่วงเหงาเศร้าอุรา | ||
คิดถึงนุชสุดสนองไม่ผ่องแผ้ว | มาคลาดแคล้วจากมิตรขนิษฐา | ||
นิ่งคนึงถึงนวลหวนโศกา | มาโรยราร้างสวาทลีลาศไกล | ||
พอหายเหนื่อยเมื่อยล้าค่อยผาสุก | พากันลุกออกเดินเนินไศล | ||
มาจากวัดลัดป่าพนาไลย | ก็คลาไคลถึงศาลาหน้าคีรี | ||
ชมแม่ค้าขายของท้องถนน | ดูสวยล้นงามแง่ห่มแพรสี | ||
เหงื่อไหลซาบอาบประทุมพุ่มมาลี | บ้างผัดหมี่ขายเข้าแช่แซ่สำเนียง | ||
บ้างร้องเรียกให้ซื้อออกอื้อฉาว | ทั้งหนุ่มสาวกินกลุ่มบ้างทุ่มเถียง | ||
ทั้งขนมต่างต่างตั้งวางเรียง | มีพร้อมเพรียงทุกอย่างยวดประกวดมา | ||
จะร่ำนักจักช้าเวลาสาย | ก็ผันผายรีบเดินขึ้นเนินผา | ||
(ล้วน) ลั่นทมขึ้นสองข้างหว่างสิลา | ดกระย้าหล่นสล้างหว่างคิริน | ||
เสียงผู้คนเฮฮาล้วนมาเขา | พากันเข้าประตูป่าพนาสิณฑ์ | ||
เป็นลานกว้างมีศาลาหน้าคิริน | มีขายสิ้นเอมโอชโภชนา | ||
บ้างตั้งโต๊ะเข้าแช่แล(น้ำหวาน) | (น่ารับประทานเรียงรายทั้งซ้ายขวา) | ||
อุตส่าห์เพียรขึ้นเขาเอาราคา | ด้วยเขามาเหนื่อยยากต้องพากเพียร | ||
พี่หยุดหน้าศาลาเรียงเคียงหุบหิน | พากันกินเครื่องขายสิ้นหลายเหรียญ | ||
แต่ตัวเราเฝ้าคลั่งตั้งแต่เวียน | มาจากเจียนน้องนางหมางอุรา | ||
ถึงยามกินยังถวิลเทวศหวน | ให้ปั่นป่วนถึงมิตรขนิษฐา | ||
กลืนไม่คล่องลอศอแทบมรณา | แน่นอุราคิดถึงคนึงนาง | ||
พี่เลยลืมล้างสลัดเช็ดหัดถา | ชลนาคลอเนตรเทวศหมาง | ||
ไม่มีสุขทุกข์ทับแทบอับปาง | มาเริดร้างห่างมิตรจิตรัญจวน | ||
พอเพื่อนเขาอิ่มเสร็จสำเร็จแล้ว | ทำผ่องแผ้วปรีดิ์เปรมเกษมสรวล | ||
หวังมิให้ใครดูรู้กระบวน | แกล้งเสสรวลชวนคลาดลิลาศคลา | ||
พอถึงประตูคูหาพนาสาณฑ์ | เย็นสำราญคนผู้ดูหนักหนา | ||
เดินเบียเสียดเยียดยัดกันอัดมา | เข้าคูหาห้องแก้วแล้วสำราญ | ||
แล้วลงจากเชิงบันไดใหญ่มหันต์ | ไม่ช้าพลันถึงเขาทำพระกรรมฐาน | ||
ปั้นเป็นผีนอนตายขึ้นใหญ่กราน | นัยน์ตาปานใหญ่ยาวราวกับจริง | ||
พี่เห็นเข้าเกล้าพองสยองเศียร | ให้วนเวียนบ่นธรรมกรรมมาสิง | ||
พอคิดถึงอนิจจาน่าประวิง | เราคงกลิ้งตายยับกับสุธา | ||
พี่คิดได้แต่ปากหากสนอง | น้ำจิตต์หมองถึงนวลเฝ้าครวญหา | ||
แม้น้องมาช่วยกันคิดอนิจจา | สังขาราคงกระจ่างทางนิพพาน | ||
พี่ตั้งจิตต์ปลงคนเดียวยังเหลียวหลัง | พว้าพวังอยู่ด้วยนุชสุดสงสาร | ||
เพราะเป็นห่วงแก้วตาสุดามาน | จะนิพพานคนเดียวเปลี่ยวฤทัย | ||
แล้วเดินตัดลัดทางมาข้างขวา | เข้าวันทาพระพุทธบาทประสาทใส | ||
พี่ตั้งจิตพิศถานสำราญใจ | ขอให้ได้สมหวังดังสัจจา | ||
ทั้งผลศีลผลทานช่วยปรานโปรด | ให้ปราโมทย์สมหวังดังปรารถนา | ||
ที่ข้าเจ้าตั้งสัจปัฏิญญา | ดวงสุดาขอให้อยู่เป็นคู่ครอง | ||
จงอย่าคลาดมิ่งมิตรขนิษฐา | ทั้งชาตินี้ชาติหน้าได้สมสอง | ||
ถึงยากเย็นเข็ญใจให้ได้ครอง | แม่เนื้อทองสุด (สวาททุกชาติเอย) ฯ | ||
ฯ ๑๓๘ คำ ฯ | |||
เชิงอรรถ
ที่มา
ประชุมนิราศเมืองเพชรบุรี พ.ศ.๒๕๒๕