|
ช้า
|
เมื่อนั้น | | ขุนแผนเชี่ยวชาญหาญกล้า
|
ตีเชียงทองได้แล้วกลับมา | | เฝ้าจอมอิศราปิ่มโมลี
|
ได้พระราชทานรางวัลครัน | | เกษมสันต์ผ่องพักตร์เป็นศักดิ์ศรี
|
จะกลับไปสุพรรณบุรี | | ลงนาวีใหญ่ไร่เพียบพราย
|
ฯ ๔ คำ ฯ โล้
|
|
|
จำปาทองเทศ
|
ขุนแผนคลอเคล้าลาวทอง | | พี่เลี้ยงสองชม้อยเมียงม่าย
|
หม่อมขุนเย้าหยอกตามสบาย | | ลาวทองร้องไฮ้อายชาวเรือ
|
ขุนแผนว่าเมียใครที่ไหนมา | | เสน่หาเต็มทนจนล้นเหลือ
|
ต้องนอกผ้าดังว่าเขาถูกเนื้อ | | ร้องเผื่อเสียก่อนว่างอนจริง
|
หยอกแหย่แอ๋แหน้อยฤาน้อย | | เชิงชั้นเกือบจะเป็นท่านผู้หญิง
|
สะดุ้งพดสามคดระทวยทิ้ง | | มันเพราพริ้งยิ่งชื่อฤาลาวตาย
|
ฯ ๖ คำ ฯ
|
|
|
ร่าย
|
เมื่อนั้น | | ลาวทองขวยเขินสะเทินม่าย
|
เหตุว่าหม่อมขุนเป็นผู้ชาย | | ไม่มีอายทำได้ก็ทำเอา
|
ลาวไทยถ้าเป็นหญิงก็เหมือนกัน | | อย่าเสกสรรรำพันเพ้อเลยพ่อเจ้า
|
เผอิญหม่อมเห็นว่าข้าพริ้งเพรา | | บุญเราจะได้เป็นหม่อมแม่เรือน
|
ฯ ๔ คำ ฯ
|
|
|
ร่าย
|
เมื่อนั้น | | ขุนแผนสรวลเสชวนกลบเกลื่อน
|
ไม่สะบิ้งสะบัดแชเชือน | | อย่าพักเตือนเลยจะเลี้ยงให้เต็มโต
|
พลพายพายระดมรีบรัด | | สามเล่มจัดร่ายราวกราวโห่
|
เมียผัวตัวขย้อนคลอนยอกโย้ | | พลาดขยับร้องโอ๋ซวดเซทับ
|
ฯ ๔ คำ ฯ
|
|
|
ช้าปี่
|
สิ้นเอยสิ้นแสง | | จรูญแจรงเมฆเกลื้อนเลื่อนสลับ
|
รวิวรรณผายผันโพยมพยับ | | ไถงดับอับแสงรวิวร
|
บุหลันเลื่อนล่องฟ้าโพยมมาศ | | โอภาสแจ่มจำรัสประภัสสร
|
แผ้วหล้าดาดาษศศิธร | | พิศเดือนเหมือนจะวอนให้อ่อนใจ
|
แส้งตรัจปรัดผิวลาวทองน้อย | | งามขม้อยนวลหน้าหน้าแข่งไข
|
สัพยอกหยอกเยียเคลียกันไป | | ตามแนวในชลมารคไม่คลาศคลา
|
เพลาดึกลมพัดมาเย็นเฉื่อย | | หนาวเรื่อยน้ำฟ้าต้องหน้า
|
ชื่นชุ่มเยือกเย็นทั่วกายา | | สะพักผ้าไม่อุ่นเหมือนเบียดกัน
|
มืดราตรีผินข้างนี้เถิดนะเจ้า | | มาคลึงเคล้าเสียให้หายคลางคางสั่น
|
ทำเอนอิงพิงพาดพัวพัน | | พูดล้อเล่นขันขันมากลางเรือ
|
ฯ ๑๐ คำ ฯ โอ้
|
|
|
แล้วถอนจิตคิดถวิลถึงพิมพี่ | | โอ้ป่านนี้จะละห้อยคอยเหลือ
|
เพลานอนจะโอดอ่อนน้ำตาเจือ | | เออน่าเบื่อเรือพายไม่ไหวเลย
|
เขม่นตาข้างขวาให้หวั่นหวาด | | เอ๊ะประหลาดผิดใจอะไรเหวย
|
เมียงามละไว้ให้ห่างเชย | | อกเอ๋ยนานหนักมักมีภัย
|
ฝากไว้กับแม่ยายแก่ชายเปื้อน | | ทำอะไรไหลเลื่อนไม่เอาได้
|
อ้ายขุนช้างทุจริตอิจฉาใจ | | มันคิดปลงอยู่มิได้วายวัน
|
คะนึงพลางทางเร่งนาวาคลา | | พอเรื่อฟ้าจวนแจ้งแสงฉัน
|
ภาณุมาศโอภาสรพีพรรณ | | กับบุหลันเด่นดวงอรุโณทัย
|
ถึงสุพรรณพลันประทับกับหน้าบ้าน | | ยิ่งรำคาญร้อนรนหม่นไหม้
|
ยลบ้านพิศเรือนนี่เรือนใคร | | หวั่นใจทวีทุเรศอารมณ์รัว
|
ฯ ๑๐ คำ ฯ
|
|
|
ร่าย
|
บัดนั้น | | สายทองพี่เลี้ยงตื่นขมุกขมัว
|
ลงมาท่าน้ำชำระตัว | | หมอกมัวเห็นเรือใครรอรา
|
ดูดูรู้ว่าเรือขุนแผน | | ก็กลับแล่นคืนขึ้นบนเคหา
|
บอกวันทองพลันว่าหม่อมมา | | จอดอยู่หน้าท่าถึงเดี๋ยวนี้
|
ฯ ๔ คำ ฯ
|
|
|
ร่าย
|
เมื่อนั้น | | วันทองมัวหมองไม่ใสศรี
|
แจ้งว่าผัวมาก็ยินดี | | แย้มหน้าต่างม่านมู่ลี่แลดู
|
เห็นเรือจอดอยู่หน้าตะพานใหญ่ | | มีความใคร่มิได้อดสู
|
ยินดีปรีดาน้ำตาพรู | | วางวู่วิ่งสลดกำสรดจร
|
ฯ ๔ คำ ฯ เพลง
|
|
|
ถึงเอยถึงท่า | | ระอาหน้าร้อนรุ่มดั่งสุมขอน
|
ย่างยาวก้าวลงเรือที่นอน | | สะท้อนถอนซบพักตร์โศกาลัย
|
ฯ ๒ คำ ฯ โอด
|
|
|
ร่าย
|
เมื่อนั้น | | ขุนแผนเห็นพิมน้องหมองไหม้
|
กำสรดโศกวิโยคยิ่งสิ่งใด | | เป็นไฉนฉะนี้นะน้องรัก
|
ผิวช้ำคล้ำกลั้วมัวมลทิน | | ผันผินมาบอกพี่ให้ตระหนัก
|
ผัวมาชอบแต่ว่าจะทายทัก | | ซบพักตร์ร้องร่ำทำไมน้อง
|
ฤาอาดูรพูนเทวษโรคาไข้ | | เจ็บช้ำน้ำใจหม่นหมอง
|
พิมเอ๋ยไยฟูมหน้าน้ำตานอง | | เข้าประคองปลอบเช็ดชลนา
|
ฯ ๖ คำ ฯ
|
|
|
ร่าย
|
เมื่อนั้น | | วันทองโศกแสนสหัสา
|
กราบลงแทบเท้าภัสดา | | มิใคร่จะเงยพักตราระทมใจ
|
อึดอัดสะอื้นจะออกความ | | คิดขามอิดเอื้อนไม่บอกได้
|
ตั้งแต่หม่อนบำราศคลาศไป | | รักษาตัวกลัวภัยเป็นพ้นคิด
|
อกุศลตามผลาญประหารพลัน | | ขุนช้างมันคิดคดทุจริต
|
มารดาข้าถือว่าเป็นมิตร | | เชื่อสนิทมิได้คิดสงกา
|
เอากระดูกห่อผ้ามาให้ | | ว่าหม่อมม้วยบรรลัยสิ้นสังขาร์
|
เสียทัพยับย่อยชัยปรา | | ลาวฆ่าแทงตายวายชีวัน
|
บอกมาแต่งเมืองกำแพงเพชร | | คดีทูลสิ้นเสร็จเป็นคำมั่น
|
มันทำร่ำร้องไห้รำพัน | | ข้างบ้านสำคัญว่าความจริง
|
ชวนกันร่ำระงมซมทั้งเรือน | | กลาดเกลื่อนสิ้นเสือกเกลือกกลิ้ง
|
น้องก็เขลาไม่ระแวงแคลงประวิง | | ร้องให้นิ่งจนสลบซบซอน
|
มิได้วายว่างเว้นเทวษ | | กับสายทองนองเนตรสยดสยอน
|
ราตรีนองน้ำสุชลนอน | | ระบมค่อนอกช้ำระยำทรวง
|
จึงพากันไปดูโพธิ์สามต้น | | ก็เหลืองหล่นใบกลาดดาษร่วง
|
ยิ่งทวีทุกข์เพิ่มเติมตวง | | มาหลงกลเขาลวงนี้เนื้อกรรม
|
ก็ตั้งใจแต่สร้างการกุศล | | แผ่ผลไปให้หม่อมทุกเช้าค่ำ
|
บุญใดที่มิได้เคยทำ | | ทำแล้วตรวจน้ำอุทิศไป
|
เสพอาหารตรวจน้ำทุกค่ำเช้า | | จะนอนเล่าก็ไม่หลับใหล
|
จนไผ่ผอมตรอมซูบระยำใจ | | น้องล้มไข้ปาปิ้มจะวายปราณ
|
ท่านมารดาหาแพทย์มารักษา | | หมอใดมาว่าโรคนี้หนักท่าน
|
เหลือมือจะเยียวยาแล้วอาการ | | ได้แต่หมอกลางบ้านประทังมา
|
ฯ ๒๒ คำ ฯ
|
|
|
ร่าย
|
จึงไปนิมนต์ท่านวัดป่าเลไลยก์ | | ดูเคราะห์ว่าฆาตใหญ่ไขว่นักหนา
|
มิจากผัวตัวจะตายวายชีวา | | เธอจึงเปลี่ยนชื่อข้าเรียกวันทอง
|
ให้นามต้องชาตาจะซาเคราะห์ | | จะค่อยเลาะกว่าเก่าจากเศร้าหมอง
|
อยู่มินานมีพระกาลประหารน้อง | | อ้ายขุนช้างจองหองบังอาจใจ
|
แต่งเถ้าแก่มาขอต่อมารดร | | พูดจาหลอกหลอนตะคอกใหญ่
|
ว่ากฎหมายผัวตายณรงค์ชัย | | กรมวังท่านจะให้ตำรวจมา
|
เก็บเอาภรรยาเป็นม่ายหลวง | | ตามกระทรวงพระสุรัสซ้ายขวา
|
แม่แก่ตกใจไม่ไตร่ตรา | | เขาขอข้ายอมยกให้ขุนช้าง
|
เร่งรัดมัดให้มาปลูกหอ | | ไม่รั้งรอหารือน้อยหนึ่งบ้าง
|
รื้อหอเก่าไปปลูกเสียวัดกลาง | | ปลูกหอใหม่ไม่ระคางคร่อมลง
|
บ่ายหน่อยขันหมากมาถึงบ้าน | | ทั้งสมภารมากลุ้มประชุมสงฆ์
|
อ้ายหัวล้านป๋อหลอออทะนง | | กับเผ่าพงศ์เพื่อนบ่าวมาหลายลำ
|
ทุนสินสอดผ้าไหว้มากหนักหนา | | แม่ข้าโลภเผลอพูดเพ้อพร่ำ
|
จะให้ข้าแต่งตัวไปซัดน้ำ | | ฉุดปล้ำลากข้าไม่ปรานี
|
น้องขืนขัดมิได้ไคลคลา | | แม่ข้าต่อยตบน่าบัดสี
|
อยู่มาอีกเจ็ดราตรี | | จะส่งตัวให้อ้ายผีเข้าหอกัน
|
น้องไม่ลงปลงใจแข็งขัด | | แม่ผูกมัดเฆี่ยนตีไม่ผ่อนผัน
|
ขอดค่อนด่าว่าไม่เว้นวัน | | ไม่เสกสรรความจริงยิ่งเหลือทน
|
หม่อมมิเชื่อเมียว่าแกล้งว่า | | เลิกผ้าให้ดูแผลแน่ปี้ป่น
|
ไม่สิ้นแหนงระแวงน้องต้องจำจน | | ไม่เป็นคนสู่สู้เวราไป
|
คิดคิดจะใคร่ตายเสียดีกว่า | | จะดูหน้าต่อตาผู้ใดได้
|
กอดเท้าหม่อมขุนเข้าร่ำไร | | สะอื้นไห้จะสิ้นสมประดี
|
ฯ ๒๒ คำ ฯ โอด
|
|
|
โลม
|
เมียเอยเมียรัก | | อย่าร่ำนักผิวพักตร์จะหมองศรี
|
เดือดอึดอัดฮึดฮัดเต็มที่ | | ดังอัคคีจุดจ่อรื้อรอคิด
|
ประโลมปลอบเอาใจภรรยา | | นี่หากว่าเจ้าเป็นคนสุจริต
|
แม้นชั่วไม่รักผัวมัวมืดมิด | | จะเชยชิดชอบชู้สำราญครัน
|
หนึ่งว่าน้อยฤาแน่แม่สหาย | | ไม่ทันตายฤามาแสร้งแซงสรร
|
เมียกูรู้อยู่สิ้นทั้งสุพรรณ | | เหลือที่กลั้นสุดอดจะลดรา
|
ฯ ๖ คำ ฯ
|
|
|
ร่าย
|
อ้ายหัวล้านเล่นกันเถิดวันนี้ | | อีเถ้าแก่แม่พี่ที่ปรึกษา
|
บรรดาคนสนิทคิดกันมา | | ห้ำหั่นบั่นฆ่าให้ม้วยมุด
|
เจ้านายไม่เลี้ยงก็สู้ตาย | | ถึงแม่ยายก็ฟันเสียให้สิ้นสุด
|
จับฟ้าฟื้นกวัดแกว่งแต่งตัวยุทธ์ | | เรียกบ่าวไพร่อุตลุดอึงคะนึง
|
แต่ต้นโพธิ์ปลูกไว้เสี่ยงทาย | | ตัดรากทำอุบายใครรู้ถึง
|
ค้นอาวุธในท้องเรือดังตังตึง | | บอกกันอึงนายให้ไปล้อมเรือน
|
ฯ ๖ คำ ฯ
|
|
|
ร่าย
|
เมื่อนั้น | | ลาวทองร้องห้ามความจะเปื้อน
|
อย่ามุมุ่นหุนหันฟั่นเฟือน | | ไม่เหมือนกลางป่าค่าไม้
|
หม่อมขาฟังเมียก่อนพ่อเจ้า | | ถ้อยความมันจะเน่าไปไหน
|
เมืองมีขื่ออย่างถือชะล่าใจ | | ฟังข้าวเดียวยังกระไรฤาหม่อมพลาย
|
ใช่คอเขาเป็นทั่งสันหลังเหล็ก | | ไม่ใช่เด็กเขาจะทำเอาแต่ด้าย
|
จะกระไรบ้างกระมังข้างเรานาย | | บุราณว่าหญิงร้ายชายทรชน
|
ท่านแม่ยายมิปลงใจไฉนฤา | | เขาจึงรื้อหอห้างเสียจนป่น
|
หม่อมมีความชอบมาเหลือล้น | | ทูลยุบลแล้วแต่จะโปรดปราน
|
ฯ ๘ คำ ฯ
|
|
|
ร่าย
|
เมื่อนั้น | | วันทองยินคำร่ำขาน
|
เหลียวดูวู่โกรธพิโรธดาล | | ดั่งประหารสับเสี่ยงเยี่ยงกัน
|
นี่เมียหม่อมฤาใครที่ไหนมา | | จึ่งลอยหน้าห้ามผัวจนตัวสั่น
|
เท็จจริงสิ่งรู้สารพัน | | ชะช่างกลั่นรูปคารมสมเชลย
|
แน่ะนางลาวอย่าน้าววาจาคม | | ข้ากับเจ้ามันไม่สมกันแม่เอ๋ย
|
เซซัดหัวพลัดข้าไม่เคย | | รู้ว่าเหวยว่าหลงเข้าดงรัก
|
ก็ตามทีชอบอยู่ประสีประสา | | ความเขาว่าการอะไรมาสลัก
|
มาจ่อไต้ตำตอเข้าต้ำฮัก | | ชอบฤาหม่อมไม่ทันทักนางเมียงาม
|
ฯ ๘ คำ ฯ
|
|
|
โลม
|
เมื่อนั้น | | ขุนแผนร้องฮาฟังพี่ห้าม
|
อย่าโมโหโยก่อนจะเล่าความ | | ไม่ไต่ถามเลยอะไรมาอึงคะนึง
|
นางคนนี้ลูกเจ้าเมืองจอมทอง | | ปึกแผ่นพวกพ้องก็เกือบขึง
|
ทำคุณกับบิดาเขาพอพึง | | เขาจึงยกลาวทองให้มาเป็นเมีย
|
พี่พามาหวังจะให้คำนับเจ้า | | อะไรเล่าพอจ่อจอดเรือจะเสีย
|
ยังฟังความเมียข้างบ้านอยู่ปัวเปีย | | ไม่ทันเล่าเรื่องเมียใหม่ได้มา
|
เท่านั้นเถิดน้องพี่อย่าวีวุ่น | | รกคนเป็นทุกดีกว่ารกหญ้า
|
หนึ่งก่อนสองตามลำดับมา | | ลาวทองอย่าช้าไว้วันทอง
|
วันทองเล่าเจ้าหวงหึง | | โกรธขึ้งขอเถิดเจ้าทั้งสอง
|
จงสมัครสมานปรองดอง | | มาตรึกตรองเรื่องความมันหยามเรา
|
ฯ ๑๐ คำ ฯ
|
|
|
โลม
|
ร้องเอยร้องว่า | | มันไม่น่าแล้วอย่าเลยเจ้า
|
ชั่วดีช่างข้าเถิดทำเนา | | นางเมียเบ่าแล้วฤาน้อยฤาแน
|
จริงอยู่แต่พอจอดทั้งตอดขบ | | ชวนกันเกลื่อนเลื่อนกลบลบแผล
|
ย่อมว่าผัวเป็นประทัดซื่อสัตย์แท้ | | ทีนี้มันแปรเป็นธนูชะดูตรง
|
ไม่พักพร้องว่าพวกพ้องมั่งคั่ง | | ถึงเซซังไม่สูญประยูรหงส์
|
ข้าดอกคะมันประดาษชาติเผ่าพงศ์ | | จึงได้หลงตามหม่อมสู้เสียตัว
|
ฯ ๖ คำ ฯ
|
|
|
โลม
|
วันเอยวันทอง | | ให้ปรองดองเอออะไรไม่ฟังผัว
|
ก่อนไม่เคยเลยว่ารู้เกรงกลัว | | ฤาแกล้งยั่วจะให้โกรธา
|
เอ็นดูข้าหน่อยเถิดแม่คุณ | | ถึงไม่คิดบาปบุญเห็นแก่หน้า
|
เออยิ่งห้ามฤายิ่งหยามไม่ลดรา | | อย่าจัดจ้าไปเลยนักจะหักค้าน
|
ธรรมดากระเบื้องร้อนจะรานร้าว | | มันจะฉาวอึงอายเขาชาวบ้าน
|
ลุกยืนเผลไผล้ไม่เป็นการ | | จะรำคาญสองซ้ำระยำมัว
|
ฯ ๖ คำ ฯ
|
|
|
ร่าย
|
เมื่อนั้น | | ลาวทองร้อนเร่านั่งเกาหัว
|
นึกในใจกูจะให้มันสั่นรัว | | สบตาผัวทำกลัวชำเลืองแล
|
ผัวเมินปากขยิบกระซิบด่า | | ไว้กิริยาว่าผัวรักขึ้นเคียงแค่
|
แอบหลังผัวเล่นตัวระทวยแท้ | | ทำปากแบ้ยั่ววันทองค้อนควัก
|
ฯ ๔ คำ ฯ
|
|
|
ร่าย
|
ดูเอยดูดู๋ | | ยิ่งกว่าใครไม่รู้เลยทำหนัก
|
สมแล้วหม่อมพร้อมเพรียงจะเคียงพักตร์ | | มันค้อนควักอยู่ข้างหวังนั่งด่า
|
รู้ฤาไม่แอบกระซิบพิไรบ่น | | หม่อมเคยทนอย่าให้ล่วงมาถึงข้า
|
ว่าให้เมียไหว้แต่วาจา | | มันเล่นหน้าเล่นตัวรู้กลัวใคร
|
ชกศีรษะแล้วจะให้มาลูบหลัง | | พี่น้องเอยใครชั่งจะอดได้
|
ไม่หย่อนหยุดกระซิบว่าฤาด่าใคร | | เป็นอะไรก็เป็นไปเถิดวันทอง
|
ถึงจะไหว้กูก็ไม่ปรารถนา | | พามาคุมเหงถึงบ้านช่อง
|
หม่อมขาหม่อมถึงจะไม่เลี้ยงน้อง | | ฆ่าเสียเถิดอย่าให้ต้องกินระกำ
|
ทีนี้อีลาวนุ่งซิ่นจะบินร่อน | | หม่อมเตว็ดลงนอนให้เหยียบย่ำ
|
นิ่งอยู่ไยมิเล่นเต้นรำ | | มายืนก้มหน้าคว่ำอยู่ทำไม
|
ฯ ๑๐ คำ ฯ
|
|
|
ร่าย
|
สุดเอยสุดกลั้น | | ลาวทองเคี้ยวฟันหมั่นไส้
|
มารยาบีบน้ำตาต่อไป | | ข้าเป็นลาวชาวไพรดอกแม่คุณ
|
ไม่ได้ว่าอะไรหน่อยหนึ่งเลย | | อกเอ๋ยเธอเป็นใครจึงเฉียวฉุน
|
พลอยว่าข้าน้อยคิดจะเอาบุญ | | เห็นหม่อมหมุนมุโกรธวุ่นวาย
|
จะไปรอนฟอนฟันเขาทั้งบ้าน | | ใช่การจะพากันฉิบหาย
|
อย่างอื่นไหนคุณใหญ่ท่านแม่ยาย | | รอดตายเพราะใครห้ามไม่ลามปาม
|
คิดอยู่จะฝากตัวคุณเมียหลวง | | มิใช่จะจ้วงล่วงเกินไม่เข็ดขาม
|
ไม่พอที่เลยจะก่อข้อความ | | ไหว้ไม่เอาก็ตามเถิดเจ้าคะ
|
ฉันมิได้ถือเนื้อถือตัว | | สุดแต่จอมหม่อมผัวไม่เกะกะ
|
ไม่รู้ว่าจะไขว้ไล่รานระ | | เหยียบย่ำผัวเปะปะพันธุ์ไม่เคย
|
แม้นรู้กระนั้นจะสรรหา | | ไม้ขอนสักนองามาแม่เอ๋ย
|
มากำนัลกันไขว้ให้เสบย | | ไม่มีสิ่งใดเลยติดมือมา
|
เมื่อหม่อมผัวจะพาข้ามานี้ | | ไม่บอกว่าเมียมีคุณเจ้าขา
|
ชอบผิดจงคิดกรุณา | | ไม่เมตตาสักคราวลาวชาวดง
|
ฯ ๑๔ คำ ฯ
|
|
|
ร่าย
|
ถ้อยเอยถ้อยคำ | | ซ่อนเงื่อนเกลื่อนทำให้ผัวหลง
|
ต้องเสน่ห์ถูกสนัดแล้วมั่นคง | | จึงงวยงงงมงายว่ากันดี
|
ผัวข้าฝ้าขึ้นเห็นฤาไม่ | | นวลที่หน้านี้มิใช่ฤาหม่อมพี่
|
แต่กลับทัพก็ยับมาเต็มที | | น่าบัดสีมันให้กินสิ้นแล้วเคอะ
|
ให้อีลาวชาวดอนมาร่อนร่า | | เชิดชูหน้าราคีเปื้อนเปรอะ
|
เอียงคว่ำไปแล้วเจ้าจอมเลอะ | | เท่านั้นเถอะพอรู้เท่าทัน
|
เหม่อีลาวปากยาวว่าเมื่อกี้ | | แสร้งเสกสีนองาสูงสรร
|
เมื่อไรเล่าจึงจะเอามากำนัล | | กู่จะกลั่นช้างงาไปร่ารับ
|
โฉมนางวางมาแต่จอมทอง | | กว้างขวางพวกพ้องให้ขึ้นขับ
|
คดคมคารมเชลยทัพ | | รู้แล้วเจ้าเขานับว่าใจบุญ
|
ถ้าไม่ห้ามผัวไหนจะหยุดโย | | จะเที่ยวพาโลแกว่งหอกออกวุ่น
|
ไล่แยงแทงทิ่มจิ้มเป็นจุณ | | นี่ไม่หมุนไปได้เงือดงด
|
มารดาจึงได้รอดวอดวาย | | เพราะนางลาวระงับพลายหายหด
|
ชนะผัวผัวกลัวจึ่งละลด | | เคยข่มกดกันมาถูกท่าทาง
|
ดีจริงยิ่งหญิงในแผ่นภพ | | จะเชิดชื่อลือจบว่าคู่สร้าง
|
หม่อมผัวกอดไว้อย่าได้วาง | | มันยอดนางใต้หล้าไม่มีใคร
|
ฯ ๑๖ คำ ฯ
|
|
|
ร่าย
|
หม่อมเอยหม่อมขา | | ได้ยินคุณภรรยาฤาหาไม่
|
ยืนลืมตากะปริบพริบอยู่ไย | | ทนไม่ได้แล้วคะไม่ละกัน
|
เอออะไรกระนี้ท่านผู้หญิง | | ขยันยิ่งสั่นรัวตัวสั่น
|
เห็นอดอ่อนยิ่งรอนศีรษะชัน | | ปากคันคอยอยู่กี่เวลา
|
พอผัวถึงกระทั่งปึ่งตะบึงบอน | | ข้าฉะอ้อนบรรยายขายน้ำหน้า
|
ทำเคละคละปะเปอะเปรอะรา | | ไว้คอยท่าท่านผัวไม่มีอาย
|
ชอบแต่ล้างบ้านเรือนหายเปื้อนก่อน | | จึงขอดค่อนคนอื่นนางตื่นม่าย
|
ผัวไปทัพไม่ทันกลับรู้ข่าวตาย | | ช่างเชื่อง่ายปักเลนโอนเอนรัว
|
กลับว่าข้อนี้นี่กว้างขวาง | | จริงคะเลี้ยงช้างไว้ท่าผัว
|
ช้างคนช้างพลายมากหลายตัว | | จึ่งรื้อเรือนทลายรั้วแคบไม่พอ
|
ขอบใจพี่จะให้ไปรับข้า | | สุดปัญญาที่จะขี่ไม่มีขอ
|
อย่าให้ไปเลยเอาไว้กันตอ | | เตาหม้อทอถอนไม่สิ้นปักดินลึก
|
ต้องเสนียดถูกสนัดกลัดมัน | | ดีฉันจึงทำเสน่ห์มากลางศึก
|
ป่วยไข้ไผ่ผอมแต่ลำนึก | | จริงอยู่คะยิ่งกว่าหมึกเขม่ามอม
|
จะขยำน้ำแช่ก็ไม่หาย | | ถึงส่ายน้ำดอกไม้ก็ไม่หอม
|
สบู่ฟอกปอกเปื้อนเปรอะปอม | | อย่าพักย้อมเลยยังมัวกลั้วมลทิน
|
ชามแตกบัดกรีไม่สนิท | | ต่อไม่ติดแล้วแผลไม่อยากสิ้น
|
ซ้ำว่าข้าเอาสิ่งชั่วให้ผัวกิน | | ยังแต่จะบินขี้คร้านตบมือ
|
หมอทายว่าเคราะห์ร้ายไม่ยั้งหยุด | | เสาร์อุจลัคน์จมไม่รู้ฤา
|
ทั้งสุพรรณมันสนั่นออกระบือ | | อย่าพักอื้อมันไม่กลบลบรอย
|
ฯ ๒๐ คำ ฯ
|
|
|
แค้นเอยแค้นนัก | | อีผัวรักน้อยฤาไม่ราถอย
|
เข้าแฝงหลังเมียงเคียงตะบอย | | คารมราวกับทองย้อยเจียวขันคู
|
ดีแล้วจะได้เห็นฝีมือกัน | | เรียกสายทองอี่จันอี่ปอยหนู
|
นิ่งไยลงมาหวามาช่วยกู | | ตบให้รู้จักสำเหนียกมันฮึกดี
|
ฯ ๔ คำ ฯ
|
|
|
บัดนั้น | | สายทองพี่เลี้ยงกับทาสี
|
อยู่บนตะพานเตรียมคอยที | | ก็โจนลงนาวีพร้อมกัน
|
ฯ ๒ คำ ฯ
|
| | |
|