โคลงนิราศรัตนะ

จาก ตู้หนังสือเรือนไทย

ข้ามไปที่: นำทาง, สืบค้น

เนื้อหา

ข้อมูลเบื้องต้น

แม่แบบ:เรียงลำดับ พระราชนิพนธ์: พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระราชนิพนธ์ไว้ในหนังสือไกลบ้าน พ.ศ.๒๔๕๐

บทประพันธ์

๏ แถลงปางบำราศแก้วกลอยใจ เรียมเอย
ตามเสด็จปิ่นไผทสู่ด้าว
ยุรปรัตนกรุงไกรเรียมมุ่ง ถึงแฮ
ชื่อรงับดับอกร้าวร่องริ้วรอยสมาน ฯ
๏ จักนานจักเนิ่นพ้นจันทรเพ็ญ พี่เอย
สู่เทศเขตหนาวเย็นยอกช้ำ
แลนวมนุ่มบเห็นหายแห่ง ใดฤๅ
เติมแต่เติมทุกข์กล้ำกลัดกลุ้มเหลือกลืน ฯ
๏ กลางคืนศุกลปักษ์เปลื้องเดือนฉาย
สุกสกาวเกศหายห่างหน้า
ทำเนานึกประกายพลอยเกลื่อน
ดาวดั่งดวงแก้วฟ้าชื่อพ้องพลอยสูญ ฯ
๏ อาดูรอดักดิ้นดวงกมล ฝ่อแฮ
หล่อหลั่งถั่งอสุชลชุ่มหน้า
เวียนซับฤส่างจนบวมเบ่ง
หนักจิตคิดเห็นถ้าถูกล้อเหลืออาย ฯ
๏ อุบายบอกป่วยแก้วตาดำ เจ็บเฮย
สวมแว่นน้ำเงินงำเงื่อนไว้
วันเดียวดอกทนคลำมืดหน่อย
ไม่มืดเหมือนร้างไร้ แว่นแก้วก่องสมร ฯ
๏ อยากจรจักใคร่รู้เทียมเขา
ดีกว่าต่อโดยเดาพลาดพลั้ง
ออปโปสิชั่นเอามาข่ม คุยแฮ
จำพรากจากนุชทั้งสี่ห้าอย่าหมอง ฯ
๏ สองครั้งแตรเตริ่นก้องนาวา
เชิญเสพย์ภักษ์โภชาแวดล้อม
ยลแกงบ่ตรูตราเตือนตริ ถึงแฮ
น้ำพริกขนมจีนพร้อมเหมือนเจ้าจัดสรร ฯ
๏ สามวันเว้นเสพย์น้ำมือนาง
พุงยอบหย่อนเอวบางบอบช้ำ
นี่หากยากเย็นทางเทถ่าย
จำหย่อนผ่อนภักษ์ซ้ำสกดกลั้นแปดครา ฯ
๏ มัศยานับร้อยล่องลอยชล
คุมคู่เป็นหมู่วนว่ายเคล้า
ยลปลาประเล่ห์ยลเยาวลักษณ์ กูเอย
ล้อมรอบกอบลูกเต้าอ่อนอุ้มเดินเหิน ฯ
๏ แลเพลินระลอกพร้อยพรายแสง จันทร์เฮย
ถวิลว่าฝูงปลาแฝงฟาดน้ำ
นึกในใคร่ถ่องแถลงนุชช่วย ชมเฮย
ชี้เปล่าเขาสรวลซ้ำใส่ถ้อยเทียมถอน ฯ
๏ ภูธรธิราชไท้ทัศนา
เปิดปิดโคมสัญญาบอกใบ้
เขาเชิดชื่อวนิดาโดยรับ สั่งแฮ
เห็นชื่อชวนพี่ไข้ขนาดเพี้ยงพลำสพาน ฯ
๏ เยาวมาลย์โกเมศแก้วกับตน พี่เอย
เรียมบ่เคยจรดลเด็ดร้าง
จากแก้วสู่แก้วกลใดดั่ง นี้นา
นอนจักนอนเนตรค้างนับเค้าคืนหลัง ฯ
๏ เล็งฝั่งยลแต่ฟ้าต่อสา ครเฮย
สามรวดราษตรีคลาคว่างคว้าง
คืนสี่สบเกาะบราลาแหล่ง ปหังแฮ
เปลี่ยวแต่เรือเดียวร้างเพื่อนผู้เดินหน ฯ
๏ ดลสิงคบุเรศแก้วโกโล นีเอย
ใจพี่เบิกบานโตตื่นกลุ้ม
แต่งกายอย่างโก้โกลาลั่น
เห็นเนิ่นเดินตุ้มตุ้มแต่ตั้งตาชม ฯ
๏ บรรทมบหลับเข้าที่แถม เล่านา
คอยอยู่ง่วงงอมแงมบ่ายแล้ว
หวนรฦกนึกแก้วแกมทองลูก กูเอย
แม้นเขื่องไหนจักแคล้วคลาดข้อมือป๋า ฯ
๏ เวลาตกบ่ายเอื้อนโองการ สั่งเฮย
ให้พี่จรสู่สะพานก่อนไท้
เที่ยวชมทัศนสถานแถวถิ่น
เรือรัฐบาลจัดให้ส่งขึ้นพลันถึง ฯ
๏ ปรึงปรึงรถแล่นเลี้ยวตามสถล มารคเฮย
จีนแขกแซกสับสนสลับหน้า
รถม้ารถลากจนรถจักร ยานแฮ
สบรถโมโตว้าหวั่นส้านเสียวสมร ฯ
             
๏ วันที่เก้าเข้าเขตรลังกาเกาะช่องเฉภาะเขื่อนตั้งยังเปนท่า
เห็นเรือรบอยู่ข้างซ้ายชายคงคาธงคชาชักพลันแล้วลั่นปืน
จนคำรบครบยี่สิบเอ็ดนัดน้ำสงัดเรียบดีไม่มีคลื่น
เรือลูกค้าจอดสพรั่งคนนั่งยืนดูดาษดื่นเรือน้อยลอยเปนแพ
พวกขอทานหาญทเลเที่ยวเร่ร่อนขี่ไม้ขอนต่างนาวามาเซงแซ่
ร้องเพลงอ้อนวอนขอเฝ้าตอแยสองมือแบลูบท้องจ้องหน้าเรา
โปรยเบี้ยเซนต์เปนทานหว่านในน้ำมันโดดดำได้ทุกทีไม่มีเปล่า
โปรยเท่าไรไล่คว้าไม่ซาเซาสิ้นกระเป๋าอัฐหมดต้องงดโปรย
พี่ตั้งจิตรพิศฐานกาลภายหน้าไม่ขอมาจากนวลให้หวนโหย
ต้องถูกห้ามปรามสิ้นจนดิ้นโดยอดเม้กโอยเหลืออนาถหวาดวิญญา
สักครู่หนึ่งจึงมีพวกเรือจ้างมาจอดข้างกำปั่นพี่หรรษา
มีพระสงฆ์สององค์วงษ์ลังกากับคฤหัสถ์ขึ้นมาสี่ห้าคน
โอเบเยเสเกเรคเนเน่พี่วิ่งแต้ลงไปรับทั้งสับสน
นึกว่าเจอะกระโถนใหญ่ไม่อับจนจะได้พ่นพิศม์ใส่ให้สบาย
ท่านสมมตนำไปให้รู้จักพูดทายทักเปนมคธหมดทั้งหลาย
เขาพูดเร็วยิ่งล้ำจ้ำเกือบตายต้องขยายอังกฤษแซกแปลกสำนวน
เยอรมันพี่ก็ดันเข้าไปบ้างให้ต่างต่างช่างเปนไรใครจะสรวล
เขาก็แขงไม่ยังเจ๊งเก่งพอควรมคธล้วนเราก็รับไม่อับจน
ตั้งแต่พรากจากมาไม่ผาศุกไม่สนุกเหมือนเช่นเคยเลยสักหน
วันนี้โล่งโปร่งปลอดเห็นรอชนม์เพราะได้พ่นพิศม์เม้กเอกสุดใจ
จนเสด็จขึ้นฝั่งพี่ยังพล่ามต้องวิ่งตามลงนาวามาทันได้
มาถึงทำซู่ซ่าคนมาไปรีบครรไลไปสำนักพักโฮเตล
ชื่อคอลเฟศวิเศษล้ำทำพิฦกก่อเปนตึกสามชั้นไม่ทันเห็น
ครั้นจะร่ำพรรณนาว่ายากเย็นตาหมอเต้นขึ้นมาหาไม่ช้าเลย
พี่หยุดนั่งตั้งพล่ำร่ำกันใหม่ฝนตกใหญ่มากแท้แกก็เฉย
ต้องตะเบงเสียงกรี๊ดจนผิดเคยแสนสเบยสนทนากว่าชั่วโมง
แกก็หิวเราก็หอบพุงยอบหย่อนจึงผันผ่อนอำลายังว่าโผง
คนดูรอบเช่นโนราสักห้าโรงเพราะเสียงโด่งดังลั่นสนั่นเมือง
แกสวดมนต์ให้พรข้างท่อนท้ายเราเปลี่ยนย้ายเปนคาถาว่าตามเรื่อง
จนแกเจ๊งจำคลาเวลาเปลืองจึงย่างเยื้องรีบกลับมารับประทาน
อาหารรสเปนอย่างก็ไม่แจ้งด้วยคอแห้งผากหมดรสอาหาร
เห็นดีแท้แต่มะม่วงหิมพานต์ถ้าเติมหวานเสียสักนิดจะติดใจ
แล้วลงมาหาของต้องประสงค์ซื้อได้แหวนสามวงจะส่งให้
ครั้นสำเร็จเสร็จสรรพกลับลงไปคอยอยู่ในเรือซักซันเท่านั้นเอง ฯ
๏ เสด็จกลับนับเวลาสักห้าทุ่มพี่มัวกลุ้มต่อของต้องอึงเผง
อ้ายลังกาถ้าว่าเขลาไม่เข้าเพลงมันโกงเก่งขึ้นราคาห้าร้อยคูณ
ยามไสยาเห็นแต่หน้าลังกากระดิกขยุกขยิกไล่เท่าไรก็ไม่สูญ
ฝันถึงชินวรวงษ์พงษ์ประยูรมากราบทูลขอให้พี่ไปวัด
แล้วเลือนเลือนเหมือนได้เห็นพระเขี้ยวแก้วประเดี๋ยวแว่วเสียงใสจำได้ถนัด
เรียกในกรมในกรรมตามลมพัดพี่ช่างแสนโสมนัศในอารมณ์
ผวาตื่นฟื้นเห็นเปนแคบินแซ่เสียงลิ้นลังกามาขรม
ตลีตลานทยานไปใจนิยมจะขากถ่มเสียให้หมดเผื่ออดนาน
เห็นดอกเตอร์ออยสเตอเร่อมาหน้ากับพระห้าหกถ้วนล้วนฉาดฉาน
องค์หนึ่งนั้นพานชราเปนอาจารย์ฉายาขานเรียกเฮนรี่ที่ราชา
อิกวิลเลียมสุภูติลัทธิหนึ่งพี่ไปถึงเจาะจงส่งภาษา
แต่พูดยากแกคล่องจึงต้องลาหวนมาหาคู่คอหมอโอเบ
มีตาเฒ่าเค้าพระอุดรแท้เว้นแต่แก่หงำจวนไม่สรวลเส
ดอกเตอร์ย้ำซ้ำยุด้วยแสนเยบุ้ยปากเบ้เปนจังหวะนะสุนทร
แกพูดพล่ำย้ำทีละสี่ห้าฟังภาษาทันหน่อยค่อยสมหวัง
พี่ก็พร่ำเขาก็พรูอยู่โด่งดังจนกระทั่งเรือออกจึงบอกลา
อันที่ไปในพิภพจบทุกชาติไม่มุ่งมาดหมายถวิลสิ้นปราดถนา
จะใคร่จู๊อยู่แต่ที่เกาะลังกาพูดภาษามคธเล่นให้เย็นใจ
จะรับแก้วแววตามาอยู่ด้วยพอได้ช่วยประคับประคองให้ผ่องใส
จะสนอบาฬีน้องให้ว่องไวซ้อมเจ้าไว้เปนลูกคู่สู้ลังกา ฯ
๏ เรือออกจากโคลัมโบโอ้อกเอ๋ยเมื่อไรเลยจะได้กลับมาเห็นหน้า
กรรมเอ๋ยกรรมจำจะไกลวนิดาพี่ขอลาดวงใจไปเอเดน
พอหัวเรือบ่ายเหนือขึ้นไปนิดวิปริตจริงแท้พึ่งแลเห็น
เรือเหมือนแกว่งเปลเยิ่นผเอินเปนนั่งเดินเล่นโยชวนเซซวน
แสนสงสารหลานต่อพ่อสวิงลงซึมนิ่งโมเยไม่เสสรวล
ขยักขย่อนผ่อนคลายหลายกระบวนแล้วเลยม้วนล้มหลับกับที่นอน
คลื่นเช่นนี้มีสักสามคืนได้แต่พี่ไม่เมาเลยเคยแต่ก่อน
นึกถึงลูกแก้วตาถ้าพาจรไม่พักร้อนถึงอู่อยู่สบาย
อันกิจการของพี่นั้นมีมากต้องลำบากล้างรูปก็เหลือหลาย
เพราะทำเดียวเปลี่ยวใจให้ยากกายไม่มีสามสมรช่วยด้วยเช่นเคย
ต้องเรียกให้อ้ายฝรั่งช่วยตักน้ำหากว่าคร่ำเยอรมันฉันเฉลย
เปนคนอื่นแล้วหนาอย่าเรอเลยมันจะเฉยเสียแล้วกรรมทำกระไร
นึกนึกไปให้เอนดูอ้ายหนูนี้สอนบาฬีพูดเล่นเห็นจะได้
เข้าใจบ้างทั้งอังกฤษแลคำไทยถ้านานไปจะให้เทศน์นครกัณฑ์ ฯ
๏ เมื่อวันจันทร์สกันต์คลาสดาดฟ้าท้ายเขานัดหมายเต้นรำดูขำขัน
เฟิสต์คลาสขาดผู้หญิงจริงทั้งนั้นจึงหฤหรรษาสบายแต่ท้ายเรือ
ฉันจะไปก็ให้คิดจิตรประวัติกลัวจะตัดกิเลศยากลำบากเหลือ
ต้องละเลยเฉยไว้ไม่เอื้อเฟื้อสู้ทนเหื่อทนไคลในที่นอน
ครั้นวันศุกร์วันเสาร์เขามาเล่นแข่งขันเช่นมีตำรามาแต่ก่อน
ดาดฟ้านี้จะมิเอื้อเหลืออาวรณ์จึงผันผ่อนแขงใจขึ้นไปดู
เห็นยายแหม่มยายหมั่นกลุ้มกล้ำกลาดเหลือประหลาดรูปกายคล้ายยายหนู
นึกถึงความหลังยังไม่ลืมปลื้มเชยชูพี่ยืนอยู่จนเขาเล่นเห็นวิธี
อย่างหนึ่งนั้นเชือกขวางกลางดาดฟ้าห้อยแอบเปอลเรียงมาห้าหรือสี่
แล้วประมวญแต่ล้วนพวกดรุณียืนกัดกินตามที่คนละใบ
ห้ามมิให้ผู้ใดเอามือจับใช้ปากงับแสนยากถลากไถล
ใครกินหมดก่อนจริงจึงวิ่งไปลอดเชือกใช้เปนสาหร่ายฝ่ายหัวเรือ
นางเด็กเสื้อสีฟ้าน่าสงสารแสนรำคาญแพ้เขาเศร้าโศกเหลือ
ร้องไห้เบ้เหยยุ่งสุ้งเสียงเครือนางคนเสื้อสีจันทน์นั้นชนะ
ทั้งหญิงชายร่ายเดินเที่ยวดูเล่นเด็กเด็กเต้นโลดเละเที่ยวเกะกะ
หัวหน้าจัดการเล่นนั้นเปนพระดูเอะอะวุ่นมากยากกระไร
พระราชทานจี้ลงยาดูน่ารักลายจำหลักพื้นทองงามผ่องใส
ใครเล่นดีกว่าทั้งหมดที่จดไว้ก็ให้ได้ของเปรเซนต์เปนรางวัล
ยังมีอย่างอื่นมากยากจะเล่าเพราะพวกเขานั้นชำนาญการแข่งขัน
เปนที่รื่นเริงร่าพูดจากันแต่ตัวฉันซึมเซาเหงาง่วงใจ
คนอื่นเล่นนั้นไม่เห็นมันสนุกจะสู้กรุกเรือนพี่ที่ไหนได้
มีทั้งลาวแลฝรั่งอิกทั้งไทยจะนึกไหนได้หมดไม่อดออม
มามัวดูอยู่เช่นนี้ที่ไหนรอดเห็นจะจอดเจ็บใจจนไผ่ผอม
ฝรั่งขาวพี่เกลียดขี้เกียจตอมไม่งามพร้อมเหมือนฝรั่งบางเสาธง
พี่หลบหน้าลงมาเสียห้องหับเขาบอกรับสั่งให้หาน่าพิศวง
ขึ้นไปเฝ้าฟังความตามจำนงรับสั่งทรงชี้ให้ดูยายเจ๊ก
แกมาเดินยุ่มย่ามตามดาดฟ้าอุ้มลูกฝาแฝดประคองมาสองเต็ก
นางคนพี่ที่แก่นั้นกลับเล็กโปดให้เม้กเล่นตามความสบาย
พี่ยินดีรี่เข้าไปจ้องจดฟังกำหนดวาจาน่าใจหาย
ไม่รู้คำลำบากยากจะตายแสนเสียดายล้อไม่ไหวใจรัญจวน
ให้คิดถึงเมืองลังกาน้ำตาหยดแสนรันทดหม่นไหม้ฤไทยหวน
อยากจะพูดบาฬีตีสำนวนมีแต่ล้วนมิลักขูอดสูใจ
กลับคืนห้องท่องอภิธานซ้ำจะจำศัพท์ใหม่ใหม่ไว้ให้ได้
เมื่อขากลับจะได้พล่ำหนำฤไทยให้ฦาในเขตรแคว้นแดนลังกา ฯ
๏ เถลิงศกหกสิบเก้าเข้าปีนี้เมษายนดลดิถีทีสิบห้า
แสนอาวรณ์ร้อนใจไม่เคลื่อนคลาคิดถึงน่าสงกรานต์ที่บ้านเรา
มาเปลี่ยนปีทื่ทเลระเหระหนแสนขัดสนเศร้าทรวงให้ง่วงเหงา
ถึงจะคิดป้องกันให้บรรเทาก็ไม่เบาบางวิโยคที่โศกรึง
สรงน้ำพระอนิจาน่าอนาถน้ำอบหยาดหนึ่งก็ไม่ได้มาถึง
ต้องใช้น้ำหอมแทนแสนคนึงเสร็จแล้วจึงเลี้ยงกลางวันกันอย่างไทย
ขาดเข้าแช่มีแต่ของแห้งแห้งพี่สู้แสร้งยิ้มแย้มทำแจ่มใส
กองเงินม้ากหลากอย่างต่างออกไปตัวฉันได้สามม้ากมากจริงจริง
จะฝากไปให้ทั้งสามทรามสงวนพอทั่วถ้วนกันทั้งนั้นท่านผู้หญิง
นึกปรานีเจ้าหม่อมแห้งเหมือนแกล้งทิ้งจะกลอกกลิ้งไปอย่างไรไม่ได้การ
แหวนก็ไม่ได้กับเขาเฝ้าอาภัพช่างยุบยับเต็มประดาน่าสงสาร
เสียแรงทำกับเข้าให้ใช้การงานจะคิดอ่านดูสักทีที่เอเดน
อันที่แท้แกก็มีโทษอยู่นิดทำให้ติดหงอกกระจายไม่วายเข็ญ
ได้ถุงเงินหนึ่งใบพอใจเย็นดูก็เห็นจะยินดีมีน้ำใจ
ผู้เสร็จการต่างพระองค์คงไม่ว่าด้วยเลือกหาแปลกชัดสู้จัดให้
ทั้งเปนผู้แจกจ่ายทุกรายไปเพราะเปนใหญ่ปกปักรักษาวัง
เวลาค่ำซ้ำมีดินเนอเล่าวันนี้เขาหรูแท้กว่าแต่หลัง
เสร็จการเลี้ยงเลยมาจ้ำแต่ลำพังในห้องนั่งคิดนิราศไม่ขาดคืน ฯ
๏ ครั้นวันรุ่งราตรีที่สิบหกเฝ้าสทกสท้านใจให้สอื้น
แสนทุกข์ทนพ้นที่จะกล้ำกลืนถึงจากอื่นไม่เหมือนพรากจากสุดา
ค่อยบันเทาเบาอุราแต่ตาหมอได้พูดจ้อเจาะจงส่งภาษา
มาจำพรากจากซ้ำช้ำอุราเฟื่องกถาบาฬีไม่มีใคร
จะตอบต่อข้อความได้ถามซักอกจะหักเสียแล้วกรรมทำไฉน
แม้นเหาะได้ก็จะใคร่ระเห็จไปพูดอยู่ในเกาะลังกาสักห้าวัน
บ่ายสักสองโมงเศษสังเกตเห็นแหลมเอเดนเหมือนอย่างเกาะดูเหมาะมั่น
เรือค่อยแล่นเข้าไปใกล้กระชั้นดูก็ขันเลื่ยนโล่งโปร่งไนยนา
เปนคิรีสีคล้ำดำสักหน่อยไม่เห็นรอยร่องเด่นว่าเปนผา
เหมือนเดินกองไว้เก่าเปล่าอุราขาดพฤกษาหญ้าบอนบ่ห่อนมี
บางแห่งพร้อยรอยเหมือนตะไคร่น้ำไม่เขียวสดสีคร่ำดำหมิดหมี
แต่เรือนรายชายเขาดูเข้าทียอดคิรีป้อมเขม้นเห็นเสาธง
เรือแล่นวงตรงไปจอดที่ท่าเห็นนาวาน้อยใหญ่น่าใหลหลง
พอเวลาบ่ายห้าโมงครึ่งตรงเขาก็ลงสมอทอดจอดนาวี
เรือสามลำสำคัญว่าเรือรบชักธงครบเปนรยางค์ล้วนต่างสี
ทั้งเรือจ้างต่างต่างกระเชียงตีสุมาลีลูกเรือนั้นเหลือใจ
พวกขายของร้องอึงทะลึ่งถลาชูสินค้าพูดมากถลากไถล
มีขนนกเขาหนังถังขีดไฟสมุกไข่ทั้งบุหรี่มีอนันต์
จวนพลบค่ำย่ำฆ้องเสด็จขึ้นอิกคนอื่นมากมายต่างผายผัน
ลงในเรือกระเชียงบ้าน่าเกลียดครันอ้ายพวกนั้นเถียงกันเสียงลั่นอึง
มึงตีกูตีไม่มีจังหวะดูเกะกะวัดเหวี่ยงเสียงผางผึง
คนถือท้ายชักสายหางเสือดึงจนไปถึงท่าทอดจอดสะพาน
ตามเสด็จลีลามาข้างซ้ายทั้งสองฝ่ายคนหลามตามพลุกพล่าน
เที่ยวเดินมองจ้องหน้าว่าขอทานบ้างริอ่านเมียงมาอาสานำ
บางพวกมาว่าชวนแลกเงินเหรียญทำพากเพียรสลนเสลือกเสือกพูดพล่ำ
ดูรูปกายคล้ายเปรตเศษเวรกรรมหัวหยิกดำฟันขาวยาวโซเซ
ไม่มากมายเท่าไรใช่เบียดเสียดแต่น่าเกลียดโดนใครใครหัวไหล่เป๋
เดินตัดหน้าผ่ากลางขวางเกเรเหมือนอย่างเดระฉานน่าระอาใจ
พ่างพื้นปัถพีสีมัวมนจะหาหญ้าสักต้นหนึ่งไม่ได้
ที่ถัดท่าวารีมีต้นไม้เหมือนเขาหักปักในโรงลคร
อันตึกร้านย่านนี้มีอยู่หลายแต่ของขายเหมือนกันหมดไม่ลดหย่อน
สินค้าถูกทุกอย่างต่างเมืองจรวางซับซ้อนเปนปะร้าไม่น่าดู
ของเมืองนี้มีไข่โอทเรชกับขนนกกระจอกเทศวิเศษอยู่
การซื้อหาน่าฉงนเปนพ้นรู้เหมือนตอสู้เถียงเทลาะเบาะแว้งกัน
บอกราคาห้าตำลึงแล้วพึงต่อสลึงหนึ่งนั้นพอซื้อได้มั่น
ของอะไรซื้อได้ถูกถูกครันที่เปลืองนั้นจริงแท้แต่เวลา
ต่อตะบันกันไปใครจะแพ้พูดกอแกนอกทางขวางนักหนา
ไม่ว่าคนชาติไหนใช้เจรจาเปนภาษาอังกฤษเจือแต่เหลือเลว
ฉันน้อยใจที่มันไม่พูดมคธมันสิ้นรศเหลือตำราอ้ายห่าเหว
ยืนต่อของท้องแขงขัดบั้นเอวของเลวเกวก่งราคาจนน่าเคือง
ซื้อหอยพิมะกะรังทั้งสองฝาไข่โอชาสองใบค่อยได้เรื่อง
สิ้นสามรูปีย์ถ้วนล้วนไม่เปลืองไว้เปนเครื่องฝากพระสงฆ์ที่จงใจ
เคยพึ่งพาอาไศรยได้ไต่ถามบาฬีความใหม่แท้ก็แก้ได้
ดีกว่าหมอออยสเตอเธอเปนไทยพบเมื่อใดได้เมื่อนั้นทันต้องการ
ครั้นเดินไปใกล้จะสิ้นสุดตลาดยุรยาตรเข้าไปในสถาน
ร้านสุราของสำหรับรับประทานว่าเปนร้านแอบปอยม์เมนต์เห็นจะดี
ว่าซื้อน้ำสำหรับระงับร้อนเจ้าของต้อนรับจริงวิ่งออกจี๋
พาไปหลังร้านจัดชักพัดวียกเก้าอี้มาให้นั่งตั้งเปนแนว
เจ้าของหายไปข้างไหนก็ไม่รู้อิกสักครู่เห็นคนขนถ้วยแก้ว
แล้วกลับหายไปข้างไหนยังไม่แล้วไม่วี่แววนิ่งเฉยเลยชาชา
ต้องเอะอะกันกระไรได้เจ้าของมามองมองเวียนวนเที่ยวค้นหา
จึงได้น้ำเลมอเนคปนโซดาแต่สักสี่ห้าขวดกวดให้ริน
มันรินพลางพูดพลางค้างจังหวะต้องเอะอะกันใหญ่ไม่รู้สิ้น
ไม่เสวยเลยโปรดให้เรากินพอชุ่มลิ้นก็ไม่พอจนท้อใจ
ออกจากนั่นผันกลับรอบสนามอย่าเติมความว่ามีหญ้าหาถูกไม่
สนามดินเราดีดีไม่มีอะไรหลังที่ไว้ถ่านศิลามาท่าเรือ
เห็นเขาตั้งนั่งร้านเปนการใหญ่ขึ้นจุดไฟรอบหลังคาน่าเบื่อเหลือ
เทียนแฟรีหริบหรี่ไม่มีเชื้อพูดฟั่นเฝือเอดตะโรเสียงโกลา
จุดดวงนั้นดวงนี้ดับกลับจุดใหม่ไม่สำเร็จกันลงได้นานนักหนา
จนยามครึ่งถึงกำหนดออกนาวาไฟที่ท่ายังไม่ติดสักนิดเลย
นี่เหตุผลกลใดไฉนนั่นจึงพากันเหลวไหลจิตรใจเอ๋ย
จนฝรั่งมังค่าก็มาเคยพูดเบยเบยเหลวเปล่าไม่เข้ายา
ขึ้นบนเรือเหลือดูผู้ขายของยืนเปนกองเบียดกันสนั่นจ้า
เขาเอาเชือกวงไว้มิให้คลาเที่ยวไปมาได้ทั่วกลัวขโมย
ชูแต่ของร้องเรียกให้คนซื้อเสียงอึงอื้อเท่านั้นเอ๋ยร้องเหวยโหวย
ดูรูปร่างกาเยช่างเรโรยมือโบกโบยควักไขว่อยู่ไปมา
พิเคราะห์ไปให้เห็นเหมือนเช่นยักษ์เมื่อทศภักตร์ประน้ำมนต์ด้นมาหา
ต่างกวัดแกว่งแสงศรแลคทาพยักหน้าเต้นโลดโดดทยาน
พระรามแผลงศรไปเปนข่ายล้อมให้วงอ้อมกันไว้ไม่ประหาร
ยิ่งดูดูก็ยิ่งเบื่อเหลือรำคาญต้องคิดอ่านกลับห้องท้องนาวา
ชาวลังกาท่าทางดีกว่ามากดูไม่ใคร่เปนกากภาษา
ถึงพูดมากก็ยังพ้องต้องวิญญาเจรจากันได้ดีไม่มีจน
เมื่อยามกว่าถึงเวลาเรือจะออกนำร่องบอกทางสันทัดไม่ขัดสน
มาบัดเดี๋ยวพ้นช่องร่องตำบลใบจักรวนวิดวักตักวารี ฯ
             

เชิงอรรถ

ที่มา

นิราศนรินทร์คำโคลงและนิราศปลีกย่อย พ.ณ. ประมวญมารค ฉบับพิมพ์ พ.ศ. ๒๕๑๓

เครื่องมือส่วนตัว