นิพพานวังหน้า
จาก ตู้หนังสือเรือนไทย
การปรับปรุง เมื่อ 06:54, 7 มิถุนายน 2553 โดย CrazyHOrse (พูดคุย | เรื่องที่เขียน)
ข้อมูลเบื้องต้น
พระนิพนธ์: พระองค์เจ้ากัมพุชฉัตร
เรื่องนิพานวังน่า
| นิ | ราศบาทเบื้องโอ้ | โมฬี | ||
| พาน | จะโศกทั้งศรี | อยุทเยศ | ||
| วัง | เย็นสรหงัดตี | อกร่ำ ก่ำเอย | ||
| น่า | มุขพิมานเมศร์ | เมื้อมิ่งแรมหมอง | ||
| แต่ | พระจอมมงกุฎโลกย์ | แรมวัง | ||
| แผ่น | พิภพเพียงพัง | ม้วยไหม้ | ||
| ดิน | โดยอดูรหวัง | หวั่นเทวศ | ||
| ต้น | แต่ตีทรวงให้ | ห่อนเว้นวันเสบย | ||
| ๏ วงษ์อินทกรุงธิปัตเอก | อิศรา | ||
| หน่อมงกุฎอยุทธยา | เลื่องโลกย์ | ||
| สืบสายกรมฝ่ายน่า | แรมนิราศ | ||
| ทรงคิดคราววิโยค | พระบิดุร้างสู่สวรรค์ | ||
| ๏ พระปิ่นอยุทธเยศเจ้า | ทรงธรรม์ | ||
| นุภาพปราบมนุศย์สวรรค์ | ฟากฟ้า | ||
| สี่ทวีปถวายบรร | ณาน้อม | ||
| เกรงบพิตรพระจอมหล้า | โลกย์ลั่นฦๅแขยง | ||
| ๏ เคยเสด็จออกแสนเส | หนางค์ | ||
| ร้อยเอ็ดโอนอุตมางค์ | นอบน้อม | ||
| พระฤทธิ์เรืองปานปาง | สุริเยศ | ||
| ทั้งหมื่นกรุงสพรั่งพร้อม | กราบเกล้าเศียรสยอง | ||
| ๏ พระคุณเฮยแต่นี้เงียบ | วังเยน | ||
| เคยเผยสีหเหน | ลูกไห้ | ||
| ยามศุขกลับไปเปน | ทุกข์เทวศ | ||
| คิดฤๅวายวางไข้ | จิตรโอ้อาดูร | ||
| ๏ พระจอมมกุฎสามภพไห้ | สั่งเวียง | ||
| พระสนมเสนาะเรียง | ร่ำร้อง | ||
| หมู่มุขมนตรีเคียง | ครวญคร่ำ | ||
| เสียงพิฦกลั่นก้อง | โศกแส้วังโหย | ||
| ๏ พระกาญจน์ยอดแก้วเฮ่ย | ยังหัน | ||
| เสร็จมาเมื้อเมืองสวรรค์ | สู่ฟ้า | ||
| ฤๅเคียดเสน่ห์ผัน | หุยหุง เสียเนอ | ||
| ม้วยแต่นับโมงถ้า | ทุกค่ำคืนหาย | ||
| ๏ พระร่มโพธิ์เกษมิ่ง | กระหม่อมเฮย | ||
| ยามกระเษมแสนเสวย | ศุขภาพ | ||
| สุรางค์บำเรอเคย | สพรั่ง พร้อมแฮ | ||
| เรียงรอบศิโรราบ | ราชร้างแรมโฉม | ||
| ๏ โอ้จอมมงกุฎเกล้า | จากจร | ||
| กรมพระราชวังบวร | แรมร้าง | ||
| ลูกทุ่มทรวงอาทร | เทวศไห้ | ||
| แสนทุกข์บวายว่าง | ที่เมื้อจักเห็น | ||
| ๏ ย่ำยามสดับเสียง | ประโคมวัง | ||
| ดุริยางค์เสนาะดัง | พาทย์ฆ้อง | ||
| ทีนี้จะเงียบแตรสังข์ | สูญถนัด | ||
| ฟังแต่เสียงสกุณก้อง | กรู่แก้วเกลื่อนขัน | ||
| ๏ พระคุณเอ๋ยเคยทรงสร้าง | สมภาร | ||
| ปราถนาพระโพธิญาณ | ยอดแก้ว | ||
| ออกโอษฐ์ขอคชทการ | นำสัตว์ | ||
| จากบ่วงสงสารแคล้ว | คลาศพ้นพลันเข็ญ | ||
ครุวารกติกมาเส สุกรอัคสังวชเร เหมันต์จตุมีดิถียัง
| ๑๏ นาฬิกาหึ่งๆ ถึงยามสอง | ได้สามบาทคาดฆ้องประโคมสังข์ | ||
| พระมงกุฏปิ่นเกษนิเวศวัง | ไม่รอรั้งร้างมิ่งพิมานเย็น | ||
| ๏ พระสฐานสถิตย์เยือกยินแต่เสียง | สุรางค์เรียงร่ำเทวศก็เหลือเข็ญ | ||
| ข้าธุลีมีกรรมจึงจำเปน | ไม่เห็นเลยหลักภพวิบัติวาย | ||
| ๏ โอ้พระมิ่งโมฬีที่พึ่งโลกย์ | ประชาโศกแสนลห้อยไม่รู้หาย | ||
| ฤๅผลเวรสัตว์ทำประจำกาย | จึงทำลายเจาะจอมกระหม่อมจง | ||
| ๏ พระกฤษดาดังพรหมอุดมเดช | ที่ทรงเพศพาหนะพระยาหงษ์ | ||
| เหมือนสุริเยศไขศรีรวีวงษ์ | เมื่อเสร็จทรงกลดเยี่ยมโพยมงาม | ||
| ๏ อรินทร์ราชกราบเกรงพระบารเมศ | มงกุฏเกษสรวมชีพทวีปสาม | ||
| เคยเปนฉัตรแก้วกั้นสุวรรณวาม | ดังศศิตามส่องโลกย์สว่างวาว | ||
| ๏ เย็นเกษบารเมศบรมจักร | ที่พำนักนิ์หายหาชนาหนาว | ||
| พระอานุภาพเลิศลบจบแตนดาว | ปัจจาผ่าวอุรพารอาใจ | ||
| ๏ อันปิ่นราชนิเวศน์วังบวร | ดัษกรรื่นาบกราบไสว | ||
| ถึงรัตนังอังวะที่ฦๅไกร | ก็ปราบได้ด้วยพระฤทธิ์เดชาชาย | ||
| ๏ เมื่อปางหลังที่นั่งสุรามรินทร์ | อยุทธสิ้นย่อยยับประหารหาย | ||
| เพราะไพรินทร์ลุยลามตามทำลาย | กระหม่อมหมายเมืองล่มไม่เล็งคืน | ||
| ๏ บิตุรงทรงนามธรรมิกราช | ทั้งสามโลกย์เนียรนาศไม่อาจฝืน | ||
| มายกพระสาศนาภิญยายืน | ประชาชื่นชมโพธิสมภาร | ||
| ๏ คือล้นกระหม่อมมิ่งมไหวงษ์ | สองพระองค์เลิศฟ้ามงกุฏสฐาน | ||
| แบ่งภาคจากองค์พระอวตาร | ผ่านนิเวศน์ปราบดาด้วยบารมี | ||
| ๑๑๏ จึงสิ้นยุคสุขกระเษมทั้งสามภพ | เทพนบน้อมเกษทุกราษี | ||
| สรรเสริญเดชาทั้งธาษ์ตรี | กรชุลีโปรยทิพย์สุมาลย์มา | ||
| ๏ โอ้พระคุณเคยการุญพำนักนิ์โลก | ยิ่งวิโยคยามร้อนไม่ผ่อนหา | ||
| เมื่อดับเข็ญเย็นแล้วทั้งโลกา | ไยนิราร้างราษฏร์อนาถเนาว์ | ||
| ๏ ปางครั้งทศเศียรอสุรภักตร์ | เที่ยวหาญหักสามโลกย์ได้โศกเศร้า | ||
| นารายน์รามตามล้างจึงบางเบา | บันเทาทุกข์ทั่วเทพดาคืน | ||
| ๏ สุดกระเษมไตรภพสบกระสัน | อภิวันทุกพิมานสำราญรื่น | ||
| เหมือนปิ่นจอมล้นกระหม่อมเมื่อยังยืน | หมื่นนิเวศน์วรถวายสุมาลี | ||
| ๏ จึงนิพนธ์แต่หลังไว้หวังสนอง | ให้จำลองสืบกระษัตริย์บดีศรี | ||
| หนึ่งครุลหุเคียงแต่เพียงตรี | ที่ท่านปรีชาช่วยอำนวยกลอน | ||
| ๏ ใครยลอย่าเพ่อเย้ยพึ่งศึกษา | ใช่เมธาเจนจิตรบัณฑิตย์สอน | ||
| แสนถวิลถึงพระปิ่นชนากร | สุดนิวรณ์หวั่นเทวศกำศรวญครวญ | ||
| ๏ ปัญญาหญิงไหนจะพริ้งไม่คล่องเคล้า | นี่โดยเดานึกคเนอย่าเสสรวล | ||
| ถ้าชำนาญอ่านเล่นเห็นสำนวน | ปราชช่วยปรวนเติมแต้มให้งามคำ | ||
| ๏ เราใช่ราชกระวีที่เฉลียว | ก็เสียวใจจะไม่คมเหมือนลมขำ | ||
| อ่อนหัดไม่สันทัดพึ่งลองทำ | จะริร่ำร่างลงก็งงนาน | ||
| ๏ หนึ่งชุลิตฝ่าธุลีมีพระเดช | ซึ่งก่อเกษเลื่องโลกย์ระบือหาญ | ||
| เสด็จสู่สวรรค์เทวพิมาน | ขอมัศการกรน้อมศิโรดม | ||
| ๏ ถวายต่างทิพมาศมโนแผ้ว | กราบแล้วจึงลิขิตอักษรสม | ||
| โอ้พระปิ่นภพร้อนดังเพลิงรม | ล้มพระโรคแรกประทับจะอับจ | ||
| ๒๑๏ ประชวรแต่มาขมาสเหมันต์ | รดูนั้นเดือนหนาวเปนคราวฝน | ||
| สิ้นทั้งวังตั้งแต่ทุกข์รทมทน | ถึงยุคลมิ่งแก้วเกษกำนัล | ||
| ๏ เสด็จนั่งหนือบัลลังก์วิเชียรช่วง | ประดับดวงมณฑามาแต่สวรรค์ | ||
| ดารารายพรายพร้อมเข้าล้อมจันทร์ | เหมือนสุริยันย่างเยี่ยงพระเมรุทอง | ||
| ๏ หมู่อับสรเฝ้ารอบหมอบรดาษ | พร้มพระราชธิดาประนมสนอง | ||
| สุวรรณผุดโพธิญาฝ่าลออง | ให้แผ่ปองทรงปิดพระปฏิมา | ||
| ๏ พระรัศมีหมองเหมือนเมื่อเดือนดับ | ลูกวาววับหวั่นทรวงสหัสา | ||
| พระฉวีเสียศรีสุนทรา | ชลนานองเนตรตลึงแล | ||
| ๏ ยลอนงค์นุชนางสนมน้อม | งามลม่อมหมอบผจงดังวงแข | ||
| เคยรองบาทจะบำราศสวาดิแด | เหมือนจะแปรปราศจากไม่อยากยล | ||
| ๏ เหนพระไทยจะเปนห่วงหน่วงถนอม | จะไกลกล่อมขวัญให้รหวยหน | ||
| จึงเรียกรศอมฤตยวิเชียรชล | เสี่ยงกุศลซึ่งสร้างพระโพธิญาณ | ||
| ๏ แม้นชนม์จะอยู่ช่วยบำรุงทวีป | ขอให้รีบรับน้ำรศาหาร | ||
| ถ้าชีวิตนั้นจะปลิดไม่เนาว์นาน | อย่าให้พานสอดคล่องนิยมยืน | ||
| ๏ เทวศว่าต่อพระภักรพระชนศรี | แล้วทวีทรงพระวิตกถวิล | ||
| พิศฐานเสร็จเสวยวารีริน | แต่ชั้นกลิ่นกลืนกลับวิบัติเปน | ||
| ๏ พระอาเจียนเวียนประทะอุรหมอง | จึงตรัสร้องว่าโอ้มิพ้นเข็ญ | ||
| เคยเปนร่มเกล้าโลกย์ไอ้อยู่เย็น | เห็นสุเมรุเอนแล้วจะตรมตรอม | ||
| ๏ สุเรตดังสุรางค์บำเรออินทร์ | จะไกลกลิ่นกล่อมกลีบมณฑาหอม | ||
| เคยสงวนนวลเฉลิมเปนเจิมจอม | ยามถนอมแนบชื่นไม่คืนเคีย | ||
| ๓๑๏ แต่ครวญคร่ำน้ำพระเนตรนั้นนองเนตร | แสนเทวศพร้องเพราะพระสุระเสียง | ||
| พระสนมรอบร่ำพิไรเรียง | เคยชุบเลี้ยงจะนิราศพระบาทา | ||
| ๏ จึงดำรัสเรียกเหล่าบุตรีสมร | ประโลมสอนพ่อจะร้างนิราศา | ||
| ดวงจิตรฝากชีวิตรพระบิตุลา | วาศนาหาไม่จงเจียมสกล | ||
| ๏ สมรยากฝากองค์ให้การุญ | ถ้าพระคุณเคืองเข็ญไม่เปนผล | ||
| จะพึ่งพ่อเล่าก็พ่อไม่ยืนชนม์ | ยลแต่บาทนะจงตั้งภักดีตรง | ||
| ๏ หนึ่งพระเสาวนีที่มียศ | พระธิดาปรากฎมงกุฎหงษ์ | ||
| จงฝากกายนะอย่าหมายหมิ่นทนง | เจ้าเปนวงษ์จงรักษ์ธุลีลออง | ||
| ๏ ที่นี้ถึงเทพถือโอสถทิพย์ | ผจงหยิบมาประมูลทูลฉลอง | ||
| ไม่เสวยเลยให้เวทนาปอง | จะต้องเนิ่นทรมานรำคาญเคือง | ||
| ๏ สดับตรัสดังมัจจุราชรีบ | ประหารชีพลูกหายทำลายเบื้อง | ||
| เมรุมุ่งเคยประจำทวีปเรือง | ถ้าล่มแล้วจะมิเนืองน้ำตาตาย | ||
| ๏ บ้างค่อนอกร่ำโอ้มิควรเข็ญ | ดังกระเดนเศียรเกล้าของเราหาย | ||
| เคยปราโมทมีศุขทุกวันวาย | เหมือนสายเนตรจะเปนสายโลหิตกอง | ||
| ๏ ถึงยามกระเษมเคยแสนสำเริงรื่น | กลับสอื้นนึกโอ้มโนหมอง | ||
| แต่นั้นมาพร้อมหน้าไม่ไกลลออง | หมายฉลองพระคุณคอยรวัง | ||
| ๏ ผลัดโมงกันไม่ให้คลาดสักบาททุ่ม | ดังเพลิงรุมร้อนอกวิตกหลัง | ||
| แต่นั่งยามย่ำฆ้องจนเคาะรฆัง | ลูกหวังฟังราชกิจจะหนักเบา | ||
| ๏ ปางปิ่นโมฬีทั้งสี่ทวีป | ดังศศิธรร่อนรีบขึ้นเหลี่ยมเขา | ||
| เสวยทุกข์มิได้ศุขสถิตย์เนาว์ | ให้เชิญเอาพระอาการนราพงษ์ ... (๔๐) | ||
| ๔๑๏ พอรตินทิวาเวลาสงัด | ดำรัสร่ำคำหวานละลานหลง | ||
| ตลึงแลดูนิเวศจังหวัดวง | ยิ่งแสนทรงพระวิโยคเมื่อยามตรอม | ||
| ๏ ว่าอนิจจังครั้งนี้จะไกลเนตร | นึกสังเวชก็แต่บุตรสุดถนอม | ||
| จะพึ่งวงษ์ไม่จงเหมือนบิตุจอม | จะร่ำโอ้ทูลกระหม่อมนิราคลา | ||
| ๏ พรหมภักตรพร้อมภักตรละห้อยหวล | แต่นี้นวลนะอย่าโหยละห้อยหา | ||
| ทั้งพิมานดุสิดาสวรรยา | ฤๅจะราแรมร้างจากปรางค์ไป | ||
| ๏ แต่พื้นทรงสมญาปราสาทซื่อ | ประสิทธินามไว้ให้ลือพิภพไหว | ||
| แล้วนึกพระบิตุลายิ่งอาไลย | จะเปลี่ยวพระไทยจินดานุชาครัน | ||
| ๏ คราวณรงค์เห็นจะทรงดำริห์คิด | เคยร่วมจิตร่วมคู่เสวตรสวรรค์ | ||
| ร่วมชีวิตรปลิดพรากไปจากกัน | ร่วมสุวรรณเสวตรฉัตรกระจัดนาม | ||
| ๏ จะพินทนาอยู่เออนาโถ | จะนึกโอ้ฤๅไม่เอื้อนระคางขาม | ||
| ฤาจะแสนโศกเทวศถวิลความ | เปนเพื่อนไร้ในยามกันดารนาน | ||
| ๏ พระเดชขจรนครกระษัตริย์สิ้น | แต่พื้นผินน้อมศียรหัตถประสาน | ||
| ถวายเครื่องทิพย์มาศสุมาลย์ | บรรณาการเนื่องแน่นประนมคม | ||
| ๏ ออกพระนามก็ให้ขามขยาดยศ | เห็นปรากฎเกียรติเกินพระสยม | ||
| อาณาราษฎร์ร้องถวายพระพรชม | จนประฐมล่วงพระชนม์นรินทร์ | ||
| ๏ ร้อนอาศน์เทวราชอมรเมศร์ | เทพเทวศทุกวิมานรังสิน | ||
| สิบหกชั้นช่อฟ้าดุสิตอินทร์ | ประชุมผินผันย้ายราษีจร | ||
| ๏ เข้าสถิตย์สิงสู่กำภูฉัตร | กระจัดแจ้งออกด้วยเทพสังหร | ||
| หวังให้เลื่องบารมินปิ่นนคร | กระฉ่อนภพจบหล้าลือขจาย | ||
| ๕๑๏ มหัศจรรย์โลกย์ลั่นกำปนาท | สุธาวาศไหวกระทบคูหาหาย | ||
| สุเมรุเอียงแทบจะเอนอันตราย | สายสินธุ์เปนละลอกกระฉอกฟอง | ||
| ๏ พระสมุทเพียงจะทรุดไม่หยุดคลื่น | พุชชงศ์ตื่นแผ่นน้ำผันผยอง | ||
| ประทุมเกตุอาเพทดังสีทอง | แสงส่องยลปลาดไม่อาจแล | ||
| ๏ เมฆหมอกออกมัวไปทั่วทวีป | พิรุณรีบโปรยกระสินธุ์รินกระแส | ||
| ฟ้าดินวิปริตเห็นผิดแปร | ทีนี้แน่แล้วพระจอมกระหม่อมเวียง | ||
| ๏ ทั้งพโยมก็พยับพยุฝน | ดูฤกษ์บนเทเวศถวายเสียง | ||
| สุนีย์ฟาดอากาศก้องสำเนียง | ดังเปลื่องเปลี้ยงฟ้าลั่นคำรามรน | ||
| ๏ วายุพาพัดปาริกชาติ | ก็พินาศพังรเนนไม่ตั้งต้น | ||
| เสวตรฉัตรหักยับรยำยล | ฤๅเทพดลบันดาลฟ้ามาเชิญ | ||
| ๏ วิหคร้องในห้องเวหาหาว | เหมือนเสียงสาวสมรอัปศรเหิน | ||
| เหมือนสุลีรอยชลอพิมานเกิน | คอยพระราชดำเนินเสด็จคลา | ||
| ๏ บังเกิดมีองค์พระศรีมหาโพธิ์ | นิโรธร่มฝูงสัตวมนัศา | ||
| ก็แรมร่วงล่วงลับอยู่โรยรา | กลับรย้ายอดลัดรบัดใบ | ||
| ๏ เมื่อจวนจอมรพีพงษ์ทิวงคต | โพธิ์สลดเอนล้มรทมไข้ | ||
| ดังมีจิตรคิดแสนเทวศใจ | ดังอาไลยในเบื้องบดินทร์วาย | ||
| ๏ หรือล้นกระหม่อมจอมดาวดึงษเดช | แสดงเหตุแจ้งอัถกระจัดถวาย | ||
| ว่าโพธิ์ทองหมองแล้วจะอันตราย | เมื่อลูกหมายเหมือนพระจอมโลกากร | ||
| ๏ ด้วยพระปิ่นจัลโลงอยุทธเยศ | ทุกประเทศเกรงจบสยบสยอน | ||
| จึงสำแดงบารเมศลือขจร | ว่าร่มร้อนเกล้าโลกย์เคยอยู่เย็น | ||
