โคลงนิราศชะอำ

จาก ตู้หนังสือเรือนไทย

การปรับปรุง เมื่อ 06:01, 25 กันยายน 2552 โดย CrazyHOrse (พูดคุย | เรื่องที่เขียน)
(ต่าง) ←รุ่นก่อนหน้า | รุ่นปัจจุบัน (ต่าง) | รุ่นถัดไป→ (ต่าง)
ข้ามไปที่: นำทาง, สืบค้น

เนื้อหา

ข้อมูลเบื้องต้น

แม่แบบ:เรียงลำดับ พระนิพนธ์: พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์

บทประพันธ์

โอม ราชสดุดี เบิกเรื่อง

ร่ายสุภาพ
๏ ศรีสุพัฒน์รัตนโกสินทร์อมระนัคระรินทร์ดิลกหล้า
ฟ้าจักรีรังสฤษฎ์ฟ้าจักริชรังถวัลย์
สืบศันติ์สันตติกษัตริย์จวบสัปดมะรัชน์เฉลิมเผ้า
ฟ้าปกเกล้าปกสยามข้าศึกขามคุณะธรรม
ข้าบาทยำคุณะศักดิ์ข้าเมืองรักคุณะผยอง
แม้ครองอาชญาสิทธิ์ครองคล้อยชนิดประชาบาล
ครองสมฐานสมไทสมวุฒิสมัยมิ่งเมือง
เปรื่องศึกษาพาณิชย์เปรื่องกษิกิตย์พิทยัม
เปรื่องยุติธรรมเปรื่องผดุงพุทธศาสตร์ปรุงประเทิงสวรรค์
ขุนพละขันธ์ประเทิงสงบจบศัตรูนอกใน
ไป่จบไมตรีวิรัชย์หวังศรีสวัสดิ์ไพร่ฟ้า
สมศักดิ์จักริศกล้ากล่อมแคว้นแหนเกษม บารนี ฯ
             
โคลง ๔ สุภาพ
๏ เปรมคนึงพึ่งเจ้าจักกรีผะดุง
พุทธศาสน์สยามะชาติ์ปรุงปลอดร้าย
ชื่นชีวิตนฤมิตกรุงเกริกวัฑ ฒนานา
แสนสนุกสุขศันติ์ชม้ายมิ่งแม้นเมืองฝัน ฯ
๏ ขวัญไผทใช่อื่นเจ้าชีวิต เราแล
องค์เอกเษกสาระกิตย์เกิดแก้
บุญเหลือเมื่อเทพะบิดดามุ่ง ดีแฮ
น่าสมัครภักดีแม้เลือดเนื้อเถือถลอง ฯ
๏ ซ่องสนองราชะกิตย์ไร้ไยรทด หทัยเจ้า
สนองบาทราฎฐะกิตย์กระถดถั่งค้า
หมั่นเรียนและเพียรขยดขยายประโยชน์ สยามเทิญ
สนองเช่นเป็นไพร่ฟ้าใฝ่ฉนั้นขวัญเมือง ฯ
๏ กันเปลืองเชิงประหยัดนี้ศรีสมัย แม่อา
กันโง่เชิงเรียนใครแค่นค้าน
กันละเลิงก็เชิงไหวพริบเสงี่ยม สงวนแฮ
กันเสนียดเชิงเจียดคร้านเคลื่อนแล้วฉลองไท ฯ
๏ สมานใจ ไพร่ฟ้าเอีบอารี รอบเทิญ
สมานมนัส กัตะเวทีต่อเจ้า
สมานกมล ห่อนรณบีฑามนุษย์ ไหนเลย
สมานมโนช โสตถิ์ศันติพเน้าแน่วฉะนี้ทวีเกษม ฯ
๏ ลม้ายเหมะมาเลศชั้นชูสรวง
สยามมะเท วะราชบวงเบิกถ้อย
หากไท ร่วมหทัยปวงประพฤติ์เลห่ห์ เฉลยรา
สยามะชาติ์ จักผงาดร้อยเท่าเจ้าเห็นเจรีญ ฯ
             

จับเรื่อง

โคลง ๔ สุภาพ
๏ เพลินเผย พจะนาทน้อมสดุดี
ถวิลหวาด จะนิราศศรีแสบเศร้า
เพลินรัก จักเพลินกวีประวาสรัก เฉลยแม่
เพลินหรึเพลิน เกินเจ้าจากน้องแหนงเพลิน ฯ
๏ ใคร่เชิญ โฉมเข้าราชชะวังสงวน
เกรงกลับ สับประดนผวนเพื่อนชู้
สหายหญิง ว่อนระวิงชวนเชิงช่วย ถนอมแม่
เกร่งคล่อง ไพ่ผ่องฟู้เฟื่องลิ้นนินทา ฯ
๏ ไถ่วิชา มาเลศรู้สูทะกรรม ก็ดี
ไถ่กตัญ ญูธรรมเทิดเกล้า
การเรือน และการจำจรียะเลิศ ไฉนฤๅ
ดีไป่ถึง ดึงเจ้าเจื่อนข้อมอรัล ฯ
๑๐
๏ ครั้นพา แม่พักเวี้งค็อนเว็นต์
เรียนฝรั่ง คุมขังเห็นห่วงน้อย
เกรงโถม ชุบโฉมเป็นโซดสบ สมัยแม่
เฟลิดผริ่ง แดนซิงชม้อยว่อนใช้โสเชียล ฯ
๑๑
๏ ให้เวียน สู่วัดเอื้ออุโบสถ
เกรงแม่ชี ยีพยดหย่งเกลี้ยง
พี่เสาะ มิเหมาะหมดมุมโลก แล้วแม่
ร้อยพี่เลี้ยง รุมเลี้ยงอาจเลี้ยงฤทัยไฉน ฯ
๑๒
๏ ตัวไกล ใจชิดสร้วมเสน่หา
ร่วมรัก ใช้มาระสาร่วมล้อ
จริงจิต พิศวาสผวาวิโยคพี่ ไฉนแม่
แสนห่าง ไป่ห่างข้อเสน่ห์น้อมถนอมกัน ฯ
๑๓
๏ ขวัญวัง ฝังชีพไว้ในเรียม แล้วแม่
จากพี่ มีแต่เกรียมกรุ่นเศร้า
ใฝ่ฝัน แต่ประหวั่นเจียมจรียะยอม รวังเอย
แสนห่วง หรือห่วงเจ้าอุจาดทิ้งประวิงถวัล ฯ
๑๔
๏ เกรงฉิน เกรงชื่อม้านหมองศักดิ์ สมแม่
ไหนผิด ไหนชอบประจักษ์จิตเจ้า
ยามห่าง พ่างยามหมักสร่าสวาท กลั่นพี่
เหิมเสน่ห์ เล่ห์ฤทธิ์เหล้าห่อนมล้างจางหาย ฯ
๑๕
๏ แม้สบาย บ่รู้ว่างวินาที
สบายบ่เบ่ง รัศมีม่อยปลื้ม
แม้รคาง ว่างสบายมีมั่งขณะ น้อยฤๅ
รคางบ่ค้าน ทยานยื้มขยิ่มฟ้ามาสมาน ฯ
๑๖
๏ ฉายฉาน ชวาเลศเรื้องรัชนี สลัวรา
ไป่ปลุก ปรีดีฤดีเดือดฝ้า
ถวิลทิวา ฉ่ารังสีสุริยแสบ แสยงเอง
แสงเสน่ห์ เล่ห์ไฟฟ้าหม่นฟื้นฟางถอย ฯ
๑๗
๏ ถึงหงอย ลอยล้าลิบสุระเสียง เสนาะแม่
ถวิลเมื่อคืน วังเคียงค่อยครึ้ม
พิศวาส พี่ผงาดเพียงพิษม์ร่ำ กุสุมฤๅ
หอมหรึหาย คล้ายพรึ้มทับกล้ำรำมะนา ฯ
๑๘
๏ นาฬิกา ห้าครึ่งครึ้มรฆังปลุก ประทมพี่
ถึงมิดัง ยังขยุกพี่ฟื้น
ยามหนุ่ม กรุ่มกมลขลุกคลอสวาท วายฤๅ
ถนอมแนบ แอบอนงค์ชื้นกอดชู้ชวนกระสัน ฯ
๑๙
๏ ป่วยฝัน พึ่งฝรั่งสร้างนาฬิกา ปลุกพี่
เสนาะศัพท์ ขับสัยยาหยุ่นเย้า
กระเซาะสาว เมื่อคราวชรารังเบื่อ เบือนแม่
ฝ่าเสน่ห์เอองค์เข้าที่เที้ยรเธียรสมาน ฯ
๒๐
๏ สนานองค์ ทรงเครื่องเช้าเฉลิมหวัง
เสวยไข่นม ขนมปังอ่อนปิ้ง
ยาคู คอฟฟี่ดังดื่มทิพ ะรสฤๅ
พิศิษฎ์สง่า มาลาพริ้งพักตร์ทึ้งทาณฑ์กร ฯ
๒๑
๏ จักจรจักจากโอ้อาลัย สมรพี่
จักมิจร ขย่อนใจจักเมื้อ
จำเป็น ผิเป็นไฉนเป็นจาก จรเอย
กระนี้นึก ถึงระทึกเทื้อทอดได้ดังถวิล ฯ
๒๒
๏ ลินลา มาขึ้นรถรทมไฉน ก็ดี
รถประเวศ ลับนิเวศน์ไววิ่งย้อน
สถานี ที่รถไฟด่วนออก ดลเอย
พักราช ธานีต้อนรับห้อมสหายะวงศ์ ฯ
๒๓
๏ มาส่ง จงเจตน์เอื้ออวยประถัมภ์ ถนองพี่
ใช่ประจบ คบพึ่งอำนาจป้อง
มีบุญ เสื่อมบุญชำนิห์มาก หนแฮ
มิตตะจิต ขอบจิตต้องตอบน้อยสนองดี ฯ
๒๔
๏ เชิญสู่ที่ เลี้ยงเครื่องกาแฟ
ประยุระเพื่อน เกลื่อนโต๊ะแลรื่นห้อง
ปลื้มปลาบ มิตระภาพแกลกมลทมื่น สมานเอย
กระรี้ราช ะธานีพ้องผะโยชน์เกื้อสการสหาย ฯ
๒๕
๏ เริ่มสาย สองเก่งก้องรฆังคยอ พี่อา
ขึ้นรถ หมดเสมือนหอนั่งน้อย
ญาติมิตร ต่างสถิตรอชะลาส่ง สพรั่งเพื่อน
พอเจ็ด นาฬิกาคล้อยรถคล้อยสถานี ฯ
๒๖
๏ พี่นิราศ เคหาสน์ร้างนางรัก
นิราศสถา นีพักตร์เพื่อนลี้
ถึงนิราศ พระราชะนัคคเรนทร์นิราศ ไหวฤๅ
นิราศแต่องค์ ชิวงค์จี้จอดแล้วนิราหรือ ฯ
๒๗
๏ รถด่วนหวือ วิ่งพ้นหัวลำ โพงรา
ไฉนพิษ ลำโพงพะอำพี่เพ้อ
ลับถิ่น แต่ถวิลขำขยักขย่อน ทรวงพี่
เมารัก ผันพักตร์ชเง้อเงื่อนกล้ำลำโพง ฯ
๒๘
๏ โอ่โถง จวนเจ้าพระยาธรร ะมาทาน
ใคร่เตร่ โยเสผันชะม้อย
จอมเวียง ชุบเลี้ยงบรรเจิดศักดิ์ สินฤๅ
รักสงบ สบสมัยคล้อยโชคเกื้อเกษมสยม ฯ
๒๙
๏ เจ๊กนิยม ผสมทรัพย์สร้างโรงสี ไฟรา
มากแห่ง ยิ่งแข่งมีลาภน้อย
หัวเมือง สั่งเครื่องทวีทุกศก แซงแฮ
ผวนเล่ห์ โปเกชะม้อยลโมบใช้ไฟเผา ฯ
๓๐
๏ ลำเนา บรมะนิเวศเวิ้งวราราม
ตง่านตึก แลพิลึกหลามหลากกี้
อุบาฬี ท่านมีความสามารถ มหันต์แฮ
ทุนขัด จูงมนัสะจี้เจตน์ผู้ผะดุงถวาย ฯ
๓๑
๏ เฉิดฉาย ทิพะนิเวสน์ไท้สถานี นามเอย
แสนสง่า จิตร์ละดาวิถีแถบนั้น
จิตร์ละดา น่าดุษฎีหรือน่า ไฉนแม่
อนาถเหนี่ยว เหนียวกว่าขวั้นเชือกรั้งกรังสมร ฯ
๓๒
๏ สถานี ตอนนี้เรียกสามเสน
ใช่พี่ชวร ลมเอนอ่อนเศร้า
พิมพ์เสน สูดเสมือนเจนใจชื่น ใจพี่
เสนใช่นน ทเสนเย้าชาติ์ปล้อนพลอนสิน ฯ
๓๓
๏ ถวิลชื่อ บางซื่อนี้นามควร เรียนแม่
เขาขะยี่ ซีเมนต์ชวนชาติ์ซื้อ
จักก่อ จักหล่อสงวนแกร่งมั่น คงแฮ
ไป่กลับปลั้ว ชั่วมื้อเหมาะแม้นสมานจรัญ ฯ
๓๔
๏ บางซ่อน นั่นซ่อนร้าวราคี รคายแม่
ชั่วชอบซ่อน ตอนดีชอบอื้อ
ฉลาดฟอน ผิซ่อนหนีไฉนรอด แม่อา
ซ่อนเฉพาะ เหมาะชั่วมื้อใม่ร้ายหมายสมาน ฯ
๓๕
๏ สะพานแผ่ ข้ามแม่เจ้าพญาประเทือง ไทฤๅ
นามพระราม หกเปลืองมากล้าน
เชื่อมทาง รถต่างเมืองมาสะดวก แสดงเอย
ถนนจรด ชนะบทม้านมุ่งฉะนี้ดีไฉน ฯ
๓๖
๏ สวนผละไม้ เรียกบ้านบางตำ รุรา
ผยองผยด สับปะรดชำชุ่มลิ้น
รสะรัก จักประเสริฐสำเริงชอบ ฉลวยเอย
สงวนสัตย์ ไป่หัดปลิ้นประเล่ห์นี้ดีเฉนิม ฯ
๓๗
๏ รถเริ่ม รอยั้งที่ชุมทาง
เรียกตลิ่ง ชันบางกอกน้อย
แยกข้าม แม่น้ำปางประจวบรัถ ะยารา
ชุมพี่ชุม แต่ลห้อยห่วงน้องชนุมไฉน ฯ
๓๘
๏ ตลิ่งชัน ใช่ตลิ่งโอ้อภิธาน ถูกฤๅ
เห็นแต่ทุ่ง นาขนานห่างน้ำ
ถวิลสวาท ผินิราศสถานวิทูรเที่ยว ก็ดี
น้ำสวาท ชุ่มชิวาตม์ล้ำตลิ่งแม้แหนภิไธย์ ฯ
๓๙
๏ ไป่ยล ต้นงิ้วชื่อฉิมพะลี ไฉนแม่
ยลแต่นา พร่าวิถีรถเมื้อ
เสมือนเรียกหม่อม ถึงมีเธอใหม่
ยังหม่อม ใม่ยอมเรื้อรลึกล้วนยวนขำ ฯ
๔๐
๏ ศาลาธรรมะสพน์แสร้งอักษร ผสมฤๅ
ทำศพ ราษฎรชอนชื่อด้าว
ฟังธรรม นีคำตอนใหม่ประดิษฐ์ เดียร์พี่
ไหนเสน่ห์ เสาะเล่ห์น้าวเสนาะถ้อยประดอยหา ฯ
๔๑
๏ ศาลายา น่าชื้อยาสมาน มนัสพี่
หายห่วง ดวงชิวาหวานว่างพ้อ
สถานีไป่ มีขนานยาเฉก ชื่อเลย
ยาหรึยา เรือล้อเรียกย้ำขำขนัน ฯ
๔๒
๏ วัดสุวรรณ นั่นชื่อเอื้อมอาราม
รถแล่น แคว้นนาตามเรี่ยวน้ำ
ร่องมหา สวัสดีนามคลองเรียก เลียนแฮ
ขอพี่ สวัสดีก้ำเกียรติ์ชั้นสุวรรณถวิล ฯ
๔๓
๏ เถิงถิ่น ท่าชื่องิ้วรายจอด รถพี่
ส่งหมู่ สู่สุพรณดอดด่วนย้าย
เรือยนตร์ รับคนตลอดลแวกส่ง สบายแฮ
ใช่ละลิ่ว งิ้วรายคล้ายชื่อแคว้นแผนนา ฯ
๔๔
๏ เสาวภา ราชินิศนั้นนามสะพาน ใหญ่เพื่อน
ข้ามแม่ท่า จีนปานเษกสร้าง
สมศักดิ์ อัคระสุรางค์วีระมหิ สีนา
คู่บาท ปิยะราชอ้างโอ่แคว้นแสนสม ฯ
๔๕
๏ น่าชม เชาวน์ช่างเพี้ยงสะพานหิน นิมิตฤๅ
รถแล่น ดังแผ่นดินผ่านน้ำ
ท่อน้อย เล็กใหญ่ชินเชื่อมยุด โยงแฮ
วิศวะศาสตร์ สามารถก้ำกิตย์ครั้งยังฉงน ฯ
๔๖
๏ รถดล แดนเรียกบ้านเขมนเขมร ไหนแม่
ชรอยจะเคย เชลยเกณฑ์กักต้อน
กุมพุชา อัปปราชเยนทร์สยามยุทธ สยองฮือ
หลายชั่ว มั่วซับซ้อนส่ำเชื้อเหลือภิไธย์ ฯ
๔๗
๏ ท่าแฉลบ ใครแฉลบเลี้ยวหลงทาง มาฤๅ
นั่งรถ หมดรคางคางลิ่วเลื้อย
ถึงแฉลบ แถบไหนปางไหนไป่ หลงเลย
สดวกจิต เพลินคิดเจื้อยจวบต้นสำโรง ฯ
๔๘
๏ โอ่โถง โรงผักเผ้าผองทหาร มหิทธิ์ท่าน
เรียกราบสาม ตามขนานหน่อยร้าง
โรงเรือน เกลื่อนสนามปานประยุทธ สยองฮือ
สมัยเปลี่ยน เวียนอ้างว้างโว่งย้ายหายเห็น ฯ
๔๙
๏ ความเป็น ความดับแล้วแต่ประโยชน์ ไฉนนา
ต่างจิต ต่างคิดโลดเลือกเกื้อ
ชีพกษัตริย์ หรึพนัสะโขดมีขณะ พินาศเพื่อน
เสน่ห์พี่ มิมีเรื้อรักฉะนั้นฝันรทม ฯ
๕๐
๏ นครปฐม สมชื่อตั้งธานี ใหญ่แม่
สถิตปฐม ะเจดีย์เด่นแคว้น
เบื้องดึก ดำบรรพ์ศรีวิชัยกษัตริย์ เสถียรเอย
สยัมลับ เมืองกลับแม้นป่าแม้นเมืองคืน ฯ
๕๑
๏ รู้ฟื้น รู้แฟบรู้ฟูขัน โลกเอย
เบี่ยงท่า ตามนิยามะธรรม์ทุกเบื้อง
เดชปรุง เหตุพยุงยันสยายแผ่ ผลเพื่อน
วิสัยโลก โยกยักเยื้องแยบนี้มีเสมอ ฯ
๕๒
๏ คเยอถวิล ทิ้งถิ่นขึ้นรถยนต์ มารา
จากนิเวสน์วรวรรณจนที่ยั้ง
หลายย่าน พี่ผ่านถนนชนกพี่ สถาปน์เพื่อน
วิถีใหญ่ ใขว่นครครั้งมกุฎไท้ปฐมเถลิง ฯ
๕๓
๏ อยุทธยา เริงเกียรติ์สร้างสยามนคร โพ้นเพื่อน
ถนนน่า จักระวรรดิ์ตอนเติบก้ำ
แยกออก แพร่งตรอกยอนขยายเหมาะ เมืองท่าน
คนคล่อง คลองแม่น้ำถนัดเมื้อเรือชิน ฯ
๕๔
๏ รัตนโกสินทร์ แรกสร้างแสวงเกษียล เก่าพ่อ
แผนอยุท ธยาเลียนหลักคล้อย
สนามชัย ใหญ่ยืนเฉนียนหน้าราช ะวังท่าน
ถนนนอก เป็นตรอกน้อยชอบน้ำทำถนน ฯ
๕๕
๏ จนพระจอม เกล้าสถิตถวัลยรัชย์ สยามเอย
ถนนใหญ่ จึ่งได้ตัดต่อบ้าน
สมัยบาท ปิยะราชจัดเจริญนัค ะรานา
จึ่งกล่น ถนนใหญ่สอ้านอเนกแม้นเมืองไหน ฯ
๕๖
๏ เอกราชไท สถิตย์แง้มแหลมทอง โทนแม่
เดชฉลาด มกุฎะราชประลองเลศเอื้อ
เศวตะพงศ์ อัษฎงค์ผยองอำนาจ ทนงนา
พระประดิษฐ์ ผูกมิตรเกื้อกิตย์ค้าหาศันติ์ ฯ
๕๗
๏ ก่อนนั้น พาณิชย์ต้องตกมือ หลวงรา
พระปล่อย คอยแต่ถือคัดท้าย
บ้านเมือง รุ่งเรืองกระบือพุฑฒิส่ำ สินแฮ
เดชตระหนัก เชิงยักย้ายยุบปั้นทันสมัย ฯ
๕๘
๏ ฝืนไท ใฝ่เจตน์ส้องศึกษา
เฉียบชุบ อุปปะนิสัยมาเมื่อน้อย
สยามหนุ่ม รุ่มรวยสามารถอเนก ฉะนี้เพื่อน
เพราะพระจอม เกล้าชม้อยหมั่นเกื้อสมไก ฯ
๕๙
๏ รักไท ไพร่ฟ้าฟางดนัยขวัญ พระฤๅ
ไทตลุ่น พระคุณะธรรม์ทั่วหน้า
สวรรคต หมดเมืองกตัญญูนุ่ง ขาวแฮ
เทียนธูป ถวายเพลิงสร้าส่ำเมื้อเมรุ์พหุล ฯ
๖๐
๏ พระการุญ กรุ่นเกล้าประชาชี ชระเดียวแฮ
ปฐมสถูป อนุสาวรีย์หลักแคว้น
ต่างองค์ พระทรงสีส์สยามะชาติ์ ฉลวยเอย
ใครผ่าน นมัสสะการแม้นพระแม้นมหัยะกา ฯ
๖๑
๏ คนเกีดอนา คตแร้นเรียนนุสนธิ์ เสนิญท่าน
ลืมบาท แต่ราชะผลท่านเกื้อ
ยังถนอม ท่วมกระหม่อมคนไททั่ว ไทแฮ
ยลพระรูป พระเชื้อชวดรู้ฉลองคุณ ฯ
๖๒
๏ ปองบุญ บูชิตด้าวเจดีย์ ปฐมเอย
ไป่ตระหนัก หลักสรณีย์นอบเจ้า
นับวัน คุณะธรรม์ธีระราชลับ สยามฤๅ
แต่พระกรรม ประถัมภ์เกล้าเกลื่อนเกล้าเซาหรือ ฯ
๖๓
๏ รื้อหวัง สังเวชแล้วเฉลียวสำ นึกพี่
นิยามแน่ว เกิดแล้วจำดับมื้อ
ทุกชีวิต สิทธิกรรมกระทำคุณโทษ ก็ดี
โพลนเมื่อ ก็เรื้อรื้อกระหลับสิ้นสูญกษัย ฯ
๖๔
๏ รถไฟ ไปจอดหน้าสถานี
เห็นปฐม ะเจดีย์เด่นใกล้
มหามกุฎ นุสสรณีย์สถาปนาตถ์ สนองเอย
ไหว้พระไตร รัตน์ไหว้ชนกผู้ผะดุงหัว ฯ
๖๕
๏ คนยั้ว มัวต่างขึ้นลงรถ ไฟรา
ดูเถิดป่า ปรากฏครึกครื้น
เดชบาท มกุฏะราชทดไผทเจิ่ง เจริญแฮ
สวรรคต ไปหมดฟื้นเกียรติ์ฟื้นเมืองสมาน ฯ
๖๖
๏ เด่นพิหาร พระร่วงหน้าสถูปงาม ตระหง่านแม่
ประจุพระ ฉาริการามหกไว้
มหากา รุณะราชสยามยอดปราชญ์ ประลือแฮ
เฉลิมชาติ์ ศาสนาให้ประโยชน์ซึ้งตรึงถวิล ฯ
๖๗
๏ จากถิ่นปฐม ผ่านเวิ้งวังถวัลย์
นิเวศะนาม สนามจันทร์เจิดตั้ง
ฉัฏฐรัชย์ ตรัสรังสรรค์สำหรับ แรมแม่
สัปดราช โปรดประศาสน์กั้งเกียรติ์เฟ้นเป็นสถาน ฯ
๖๘
๏ บงการ ราชะกิตย์แคว้นนครชัย ศรีเอย
เฉลิมเดช เจษฎาภิไธย์เทิ่งเหล้า
ประโยชน์นิยม สพสมสมัยเมืองท่าน ถเกิงแฮ
เปลี่ยนใช่เปลี่ยน แต่หน้าเปลี่ยนทั้งวังสถาน ฯ
๖๙
๏ รถผ่าน โพรงมะเดื่ออ้าอัศจรรย์ ไหมเจ้า
ดอกเรียกลูก มเดื่อดันทั่วด้าว
ผะกาพิกล พ่างผลฝันเหมาว่า ผลแฮ
ลืมนึก ทึกทักน้าวนิเทสน์ฉะนั้นขันหนอ ฯ
๗๐
๏ รถรอ น้ำท่วมเบื้องบางตาล เจิ่งแม่
เกลียวช่อง แม่กลองผ่านเชี่ยวควั้ง
ห่อนกัน อาจหั่นประหารมหาสถูป ทะลายแฮ
นายช่าง ต่างปรองตั้งทนบกั้นคันหิน ฯ
๗๑
๏ ถิ่นหนอง ปลาดุกเขม้นเห็นหนอง ไหนเลย
เห็นแต่ป่า นาจองจบด้าน
เคยครั้ง ชื่อดังดองเด่นอยู่ ยืนแฮ
ดีชั่ว ลือทั่วสท้านเทือกนี้มีหนอ ฯ
๗๒
๏ รถรอ จอดบ้านโป่งปานเมือง
ป่าโป่ง โรงเรือนเนืองแน่นสร้าง
เดชใช้ รถไฟประเทืองถิ่นช่วย เฉลิมแฮ
ดลสดวก ช่วยผนวกข้างส่งขึ้นควรเสนิญ ฯ
๗๓
๏ รถเดิน ผ่านด้าวชืออนครชุมน์
แหน่งนก นักยิงชนุมนัดค้น
มนุษย์สนุก นกทุกข์รุมยิงเล่น คะนองนา
มีปีก เหลือหลีกพ้นพินาศล้วนยวนสยอง ฯ
๗๔
๏ ผ่านคลอง ตาคตโอ้เอ๋ยตา คตเอย
เคยคต ทรยศทาถิ่นย้วย
หรือประลอง ขุดคลองนาเคี้ยวคต ไฉนเฒ่า
ขึ้นชื่อ ลือตาด้วยคตเคี้ยวเสียวอโข ฯ
๗๕
๏ โพธาราม รถยั้งประดังคน
พึ่งรถ บทะจระปนมากหน้า
บ้านเขื่อง เฉกเมืองหนทางสดวก ดีเอย
ยิ่งใหญ่ ยิ่งใฝ่ค้ายิ่งคุ้นขุนสิน ฯ
             

๗๖
๏ ถิ่นเจ็ดเสมียน เมื่อโน้นพาณิชย์ คนองฤๅ
จึ่งเจ็ดเสมียน เขียนคิดคัดปุ๊น
หรือศาล สืบพยานลิขิตคำเจ็ด เสมียนนา
อ๊อเจ็ดเสมียน เรียนตุ๊นคติรู้รบินฉลวย ฯ
๗๗
๏ บ้านกล้วย ต้นกล้วยเกลื่อนกรอนาม สมนา
แผกเขบ็จ เจ็ดเสมียนขามคาดพลั้ง
นามนิคม มักสมตามภูมิ์ประเทศ เสถียรแฮ
เสมือนฉลาด คาดเค้าทั้งปิดป้องฉ่องเฉลย ฯ
๗๘
๏ รถเลยสพาน ข้ามแม่กลองจร
นามจุฬา ลงกรณ์ก่องน้ำ
มหึมา เหล็กกล้ายอนย้ำเหนี่ยว ขนานเนอ
ยาวย่าน งามตระหง่านง้ำสง่าเงิ้มเฉลิมสยาม ฯ
๗๙
๏ พระนาม ปิยะราชเพี้ยนพระองค์ พระฤๅ
ช่วยชาติ์ ศาสนายงยิ่งกี้
ลับบาท ราชภิไธย์คงนุเคราะห์ชาติ์ ฉลวยแฮ
พึ่งผ่าน น่านนทีนี้ทนุกสร้างสนองไท ฯ
๘๐
๏ รถไฟ จอดหน้าทัพสถานี ตึกนา
เมืองราช บุรีรอรับน้ำ
ฝูงชน กล่นลานตลีตลานเปลี่ยน ตัวเอย
เหล่าที่ลง คงก้ำก่าขึ้นอโขหนอ ฯ
๘๑
๏ ทอถวิล ถิ่นนี้ชื่อทวารวดี ผะเดิมแม่
ยุคดึก ดำบรรพ์วิถีผ่านเต้า
เวียงละโว้ โผล่กรุงศรีวิชัยอู่ ทองฤๅ
กระทั่งอโยช ฌิยาเข้านัคระน้อยเศรณา ฯ
๘๒
๏ ปรากฏ ยศะด้าวเรียกราชบุรี แถลงแม่
แล่งชาติ์ เอกราชมีราชป้อง
บางไท หรึบางทีขเมอเมี่ยน มอญฤๅ ฯ
ฉะมาทับ กลับชุดต้องเจาะเค้าเลาแถลง ฯ
๘๓
๏ ปิยาธิเบศ แปลงเขตเวิ้งเวียงวง
อุทัยะรัฏฐ์ เป็นอัษฎงค์ด่วนฟื้น
เมืองเก่า เหล่านักณรงค์แรมพิทักษ์ ถมึงแฮ
ตลาดตึก เกิดครึกครื้นกว่าครั้งหลังหลาย ฯ
๘๔
๏ สายรถ ขยดลุบ้านคูบัว
ดีดอกบัว ยังสลัวแหล่งบ้าง
บ่อตะคร้อ หมดบ่อตัวตะคร้อหั่น หายแฮ
บ้านปากท่อ ท่อข้างเขตเค้าเนาสม ฯ
๘๕
๏ กรมการ ท่านตั้งแอ่งอำเภอ
รถพัก มิพักเจอมากหน้า
สายด่วน มิควรเจ๋อจอดถ่วง ถึงเลย
มีอีกหลาย สายถ้าพินิจแล้วเล็งเห็น ฯ
๘๖
๏ รถเผ่น ผ่านบ้านโขตเขาเหลา
เป็นถิ่น หินรากเขาต่อยใช้
มีทาง ทอดรางเอาศิลาสดวก ดลเอย
ครั้นลุถิ่น หินใกล้กว่านี้แหนงเพียร ฯ
๘๗
๏ ทุกเกษียล ใดสดวกล้ำเลอประสงค์
ทุกกิตย์ ทุกคนคงคิดแม้น
เว้นสวาท ญาติ์มิตรสงสารมิ่ง เมียฤๅ
คิดแค่ แต่สดวกแผ้นผละแล้วคนหรือ ฯ
๘๘
๏ รถปรื๋อ ถึงแห่งห้วยโรงโรง เห็นฮือ
ห้วยมิเห็น เช่นชโลงเรียกคล้อย
คลองประดู่ เรียกคูกระโดงประดู่เด่น กระมังแม่
รถรุด หยุดบ้านน้อยแหน่งพื้นอำเภอ ฯ
๘๙
๏ เดิมเจอ คนขึ้นและลงมี มั่งแม่
ครั้นเลื่อน อำเภอหนีแหน่งร้าง
รถยัง จอดหวังทวีคนยิ่ง น้อยนา
เผินพินิจ กิตย์บ่าบ้างวิบากน้อยพลอยเสีย ฯ
๙๐
๏ เพลียเนตร น่าทุเรศน้ำเค็มถึง
ทนบมิกั้น พรั่นพรึงแพร่คร้าน
กลับรก ป่าปกสึงไพสพ สมฤๅ
อาจจัด บริษัทต้านอุทกแม้มีสมอง ฯ
๙๑
๏ หนองปลาไหล ถัดเบื้องบางจาก
รถผ่าน เห็นตระหง่านฟากมุ่งเมื้อ
พระนคร คิรีหลากบรรพต ผองแล
ปราสาท ราชพิมานเฟื้อฝ่าฟ้าสง่าแสน ฯ
๙๒
๏ รถแล่น จอดแทบหน้าสถานี
เมืองเพชร ะบุรีคีรีรุ่งแคว้น
จีนไท ไพร่ผู้ดีประดังด่วน ลงแฮ
มากรถยนตร์ แม้นแม้นเมื่อย้อนนครปฐม ฯ
๙๓
๏ บังคม บิตุราชอื้นอาลัย บาทท่าน
โดยเสด็จ เพชระบุรีในรัชย์โน้น
สร้างนิเวสน์ เขตเขามไหศวรรย์อเนก สถานนา
สะพานผ่าน แม่เพชร์โพ้นพิลาสหล้าคุหาหลวง ฯ
๙๔
๏ ปวงประชา ปราโมทย์โน้มเสน่ห์สวา มิภักดิ์ท่าน
จวบดนุช นัดดาอุสาห์แสร่เฝ้า
ตระหนักคุณ พระกรุณาเสนอต่อ กันเฮย
นามพระจอม เกล้าพเน้ามนัสซึ้งสึงสกุล ฯ
๙๕
๏ พระจุล จอมเกล้ายอดปิโยรสา ธิราชท่าน
ราชนิเวศน์ สถาปนาชิดน้ำ
บ้านปืน รื่นมรคาขนานรุก ขเรียงแฮ
เตือนมโนช โปรดหน่วงน้ำเสน่ห์น้อมประนอมสนอง ฯ
๙๖
๏ สองรัชย์ สองกษัตริย์สร้างสนุนคุณ
ฝากเพชร ะธรณีนุกุลเกียรติ์แคว้น
ถวิลบาท นเรศวร์ราชอดุลยเดชอยุท ธยาฤๅ
โปรดเสด็จ เมืองเพชร์แม้นยุคแก้วโกสินทร์ ฯ
๙๗
๏ เสร็จริน อุทกถั่งทั้งฟืนประทุก แล้วแม่
รถออก ออกฉุกละหุกสุดห้าม
คล้ายคลาด บาทชนกจุกใจอนุส สรณ์นา
จวบผ่าน สพานเพชร์ข้ามค่อยเปลื้องแปรถวิล ฯ
๙๘
๏ เยี่ยมทัก ษิณาเขตเข้าแหลมมลา ยูเอย
เยี่ยงจากเหย้า เข้าวะนาแหน่งเซิ้ง
ยลเขา เหล่าพฤกษาเสมอคฤหาสน์ เห็นฤๅ
ไสวตง่าน ต้นตาลเวิ้งวนัสะท้องนาฉนวน ฯ
๙๙
๏ รถด่วน สวนแพรกเจ้าสำราญ
ฉัฏฐราช สร้างราชะฐานก่อนชม้าย
มฤคทา ยะวันพิมานมหรณพ เนาเอย
ดูแต่วัง ยังย้ายป่วยย้อนอนุสรณ์เฝือ ฯ
๑๐๐
๏ ห้วยเสือ เสือสู่ห้วยเหตุใด เสือเฮย
เสือใคร่ดื่ม น้ำในแหน่งห้วย
หรือชล่า จับปลาไฉนแหนงนัก เสือโวย
เสือแต่ชื่อ ลือย้วยย่านให้ใครสยอง ฯ
๑๐๑
๏ เขาทโมน มองมากก้อนหินเห็น
จีนระเบิด หินเกิดเป็นรากล้อ
ทำทาง แยกรางเข็ญหินร่วม ทางแฮ
เขาเด่น เห็นทโมนอ้อเอ่อเจ้าเขาทโมน ฯ
๑๐๒
๏ รถโผน ผ่านย่านเลี้ยวชำเลือง
เลยช่อง หนองไม้เหลืองแล่นเจื้อย
หนองจอก บอกเหมือนเมืองมลักเชื่อ ไฉนเลย
เติมต่อ อำเภอเยื้องป่าคลุ่มทุมสูง ฯ
๑๐๓
๏ รถจูงเรา เข้าจอดสถานี
อากาศ รสชาตดีดูดเพื้ยน
ลมทเล เตร่อินทรีย์สดซาบ ทรวงเอย
ชื่นฉ่ำ ใกล้ชะอำเมี้ยนเนตรด้วยดงประดา ฯ
๑๐๔
๏ หนองศาลา อ้าไม่มีหนอง ไหนเลย
ทางเสด็จ พระนเรศวรผยองย่านน้ำ
โตนดหลวง ค่ายหลวงครองมาลก ทเลแฮ
ประพาศจบ อรณพถ้ำถิ่นใกล้ตระไลถึง ฯ
๑๐๕
๏ สึงลำเภา มาศเมื้อชละมรร คาเอย
เขายอด สามร้อยบรรลุบ้าง
ประเทิงทนุก พระสุขศันติ์สงบรบ ครารา
จวบสดับ วิลันดาสร้างศัสตร์ร้อนศรโต ฯ
๑๐๖
๏ โยโส ยุทธศาสตร์เข้มข่มตี เมืองเพื่อน
อุทัยะเทศ เดชราวีโหวกร้าย
มหาราช ยอดสมาถทียุทธหยั่ง ถึงแฮ
คืนนิเวศน์ อยุทธเยศชม้ายมั่นป้องผองอรี ฯ
๑๐๗
๏ ปลายศรีอยุทธโยตม์โอ้อนาถเหลือ แล้วเพื่อน
สรรพ์เพชญ์ พุทธเจ้าเสือแสร่มน้อง
ขุนท้ายสระ เสด็จเรือเล่นช่อง ชเลแฮ
ทรงเบ็จ ปลาเค็มคล้องคชะคร้านฐานผะดุง ฯ
๑๐๘
๏ วุ้งหนอง ตาพดไม้ตาพต ชุมฤๅ
ป่าไผ่ ไม้รวกสดส่ำพร้อย
หนองหาย แต่กลายชดเป็นแหน่ง นานา
ฝนก็น้อย นาน้อยจึ่งน้อยปีดี ฯ
๑๐๙
๏ สถานี ที่มุ่งเมื้อมาถึง
บ้านชะอำ รำพึงพักยั้ง
เขาชะอำ และถ้ำถมึงหมู่วัด ชะอำนา
เรือนราษฎร์ เกลื่อนกลาดตั้งต่อเยื้อยเฟือยเหมือง ฯ
๑๑๐
๏ โคกเมือง เนื่องโคกบ้านปานเมือง
เดินทัพ รับพม่าเคืองเข่ญแกล้ว
พักแรม แถบแง้มเหมืองเหมาะมาร์ค
ศึกเลิก เมืองเลิกแล้วกระหลับบ้านนานหนอ ฯ
๑๑๑
๏ ชื่อชะอำพอ เชื่อได้โดยหมาย
ชื่นฉระอ่ำ น้ำฉ่ำทรายเหน่งผล้าน
คุ้ยขุด ก็หยุดกระหายน้ำจืด ซึมแฮ
กระนี้พี่หวังตั้งบ้านพักมื้อหมองชรา ฯ
๑๑๒
๏ พึ่งลพา กาศสดโอ้โอโซน เจ้าเอย
ประสานประสาส สามารถโชนชีพช้า
นิรามัย ชื่นหทัยโพลนเพลินวิเวก วนานา
ยิ่งบด โอสถกล้ากระเดือกร้อยพันขนาน ฯ
๑๑๓
๏ สังสกานธ์ ปานดอกไม้หมองฉมัง
จำแสร่ แปรสถานหวังชื่นชื้น
สารซ่ม แช่ผสมยังยืดเหี่ยว กุสุมแฮ
ทเลเล่ห์ เทวะฤทธิ์ฟื้นชีพฟื้นฟูสมอง ฯ
๑๑๔
๏ พี่ลอง พี่รู้ร่วมแถลงหมอ
แม้พี่รัก จักชลอชีพช้า
เชิญพี่ อย่าหนีมหรณพเนิ่น เนาเลย
เลิกคลั่ง แรมวังบ้าระห่ำทิ้งถนอมองค์ ฯ
๑๑๕
๏ จำนง ถนอมชีพเที้ยรนิยามะธรรม เถลิงเทิญ
สุดแต่นาน สมานกรรมเกียรติ์ชื้น
ปลื้มปลุก สุขศันติ์สำนึกหน่าย คนองแฮ
กายก็ฟื้น ใจฟื้นเฝื่อนฟุ้งปรุงหลง ฯ
๑๑๖
๏ เคยองค์ พะวงเหย้าน้อยกลอยทเล แล้วพี่
เอือนนิเวสน์ นัคเรศเหห่างแสร้
เพลายศ ลดโลภเหวสวายหยิ่ง ยอฤๅ
สงบคึก ฝึกใจชแง้เงียบชม้อยหง็อยไฉน ฯ
๑๑๗
๏ ดรุณะวัย ไซร้สนุกสร้างสนองกิตย์ ถเกิงพี่
ต่อแผ่นดิน ต่อชีวิตมากแล้ว
เกิดชาติ์ มาทอวยหิตะคุณโลก ไฉนรา
นึกน่าพอ ชลอแพ้วชีพพ้นภยางค์เขษม ฯ
๑๑๘
๏ พี่เปรม พี่ปลื้มปลุกปรีดี แดพี่
โดยรลึก ศึกษาสามารถสร้าง
ประโยชน์เมือง ไป่เปลืองกระยาหารพึ่ง เลี้ยงเลย
ชราผ่อย น่าปล่อยบ้างเบื่อขย้อนฟอนสมอง ฯ
๑๑๙
๏ หวังประคอง ชีวิตครึ้มคลอใจ เกษมรา
ผิมิผิด จิตไฉนจับนั้น
รักกวี ก็พิรี้พิไรกวีพจน์ พิชาพี่
เพลินชิวิต เผือกกวิชชั้นถัดโช้ฉินชม ฯ
๑๒๐
๏ ไป่สมแด แต่น้องปองเฉ เฉนียนพี่
ชอบอยู่วัง ชังชเลสุดรั้ง
ห่วงบุตร สุดสวาทเหเกินห่วงพี่ฤๅ
จำนิราศ วาสนาครั้งคร่ำฉนี้หนีไฉน ฯ
๑๒๑
๏ ยุวารักไย จักเรื้อยามชรา เล่าพี่
หนุ่มแฟ่ แก่อาทวาว่างเคล้า
ทุกบุรุษ ยุตติธรรมสาธุชนเช่น เดียวแม่
ต่างชีวิต ตามจิตเจ้าจึ่งต้องสนองนิยม ฯ
๑๒๒
๏ คนรดม มารับพร้อมญาติ์มิตร มากแม่
สมณะ ข้าสนิทศิษย์เพื่อนบ้าน
โดยสมัคร มักมานิตย์ถนอมพึ่ง ภักดิ์พี่
ต่างชื่นชม สมสร้านเสน่ห์น้ำใจแถลง ฯ
๑๒๓
๏ พี่แสดง ปราโมทย์ได้พบกัน
ถามสุขทุกข์ ปลุกขวัญยั่วยิ้ม
ทุกคน ก่นรำพรรณใคร่พบ พี่อา
ชะอำเฉียบ เหงาเงียบปิ้มป่ามื้อหวือเรียม ฯ
๑๒๔
๏ พี่เยี่ยม ยังรถแล้วรถยนตร์ เจ้าเอย
แล่นผ่าน บ้านปลายถนนแน่วเต้า
ผ่านป่า ผ่านนาจนประจวบน่าน เนินพี่
ผ่านไร่ ผ่านสวนเข้าตลาดเลี้ยวถนนทเล ฯ
๑๒๕
๏ ถึงประตูเค หาสน์บ้านอนามัย
ผงมสุข เรือนปลุกใจพี่ขึ้น
ข้าหลวง มหาดเล็กในตำหนัก ชนุมนา
สรวลระรี่ ยินดีอื้นอิดน้อยไฉนยล ฯ
๑๒๖
๏ เกลื่อนกล่น กระยาโภชน์เลี้ยงเรียมเสวย
เครื่องฝรั่ง ทั้งไทสเบยเบื่อน้อย
สนามฉ่ำ รื่นรำเพยนภากาศ ตระโบมพี่
ผะทมนิด บานจิตชม้อยพักตร์ท้วมผะเทืองฉวี ฯ
๑๒๗
๏ เดิมพี่ มีนิวาสน์เวิ้งหัวหิน แรมรา
พี่พี่ มีที่ดินฝากด้วย
ผวนโปรด รับโฉนดถวิลแทนอนุช ไฉนเลย
ธนามิส ผลาญมิตรม้วยอมิตรผล้านุชาฉลอง ฯ
๑๒๘
๏ สยองเหตุ สังเวชโอ้อนาถชรา แล้วพี่
ไยอยาก หลากครหาหากน้อย
พเอิญอภัพ อับพาสนาแหนงเกี่ยว โกงฤๅ
แม้นิด พิษด่างพร้อยพร่าฉะนั้นขวัญหาย ฯ
๑๒๙
๏ ยอมถวาย ย้ายเลือกเวิ้งวังทเล ใหม่พี่
เหิมจิต ร่วมมิตรประเดแด่วค้น
บ่อฝ้าย ป่ายทางเหถึงหาด เจ้าแม่
หลายทิวัส ลุยวนัสะด้นเลือกได้ไผทชะอำ ฯ
๑๓๐
๏ ถ่อมทำ เป็นหุ้นเรี่ยรายแสน สะดวกพี่
จ้างตรวจ หมายหมวดแผนภาคสร้าง
แบ่งกัน ปักปันแดนด่วนจับ จองนา
ได้ตลอด ทอดยาวกว้างกว่าเตื้องเมืองไพร ฯ
๑๓๑
๏ ใครขัด พี่สกัดชื้อเสียพลัน
กะแกว่น แผนผังทันจิตพร้อม
ล้างป่า รัถะยาปันประกวดเร่ง ถมแฮ
สพานปลีก ค็องกรีกล้อมรอบรั้วปรุงเรือน ฯ
๑๓๒
๏ เลือกเพื่อน ทำแบบทั้งรายการ
เรียกประมูล นุกูลฐานถูกป้อง
พี่เต้น เช่นนายงานงำกิตย์ ปวงแฮ
เรือนขนาดไหน ใครต้องจิตต้องสนองทุน ฯ
๑๓๓
๏ บุญพี่ ปีหนึ่งแล้วเลอประสงค์
เสมือนนิมิต เมืองใหม่ตรงเกลื่อนเหย้า
สามสิบหก บ้านคงพี่ควบ คุมแฮ
เรือนกว่า ห้าสิบเค้าท่าค้าชะลาลัย ฯ
๑๓๔
๏ ทางใหญ่ เชื่อมสมุทร์ทั้งสถานี เนื่องรา
แลล่ำ ถนนชะอำมีชื่อไว้
หัวหาด วาดแนววิถีชื่อสหะ ครามแม่
พิมุกขะฝ่าย เจ้าลายใช้เชื่อมด้าวเดินเกวียน ฯ
๑๓๕
๏ เฉนียนเหนือ เพื่อห่างเล้าโรงเค็ม เหม็นแม่
วางช่อง กองไม้เต็มต่างใช้
กงจีน ชื่อถนนเล็มตัดรยะ ยืนแฮ
ถนนแม่ยม โดยไว้รยะแม้นแผนวาง ฯ
๑๓๖
๏ นางรำพึง เถ้าม่องล่ายถัด ถนนนั่น
สนามว่าง ทางใต้ตัดสุดแคว้น
บ้านทั่ว ปักรั้วสกัดกั้นลวด หนามนา
คฤหาสน์ต่าง วางครัวแม้นมักตั้งหลังคฤหา ฯ
๑๓๗
๏ สวนหมากพญา สง่ำเวิ้งวนาจอง ไว้เอย
แหล่งเที่ยว แหล่งเล่นประลองร่มไม้
เลี้ยงสัตว์ พ่างพนัสะปองเป็นป๊าค ประชุมเพื่อน
ตกบ่ายหญิงชายได้สดวกแย้มสรวลเยือน ฯ
๑๓๘
๏ บ้านเพื่อน เรือนพี่น้องมีนาม ขนานนา
แทนท่อง ชื่อห้องตามเลขเยื้อง
ทุกห้อง ล่องลมยามร้อนรับ ลมเอย
เหย้ารกะ มุงกระเบื้องเคลือบน้ำยาผงม ฯ
             

อวสานะพจะนาท

โคลง ๔ สุภาพ
๑๓๙
๏ สมาท จบนิราศมื้อมาชะอำ
สมมุ่ง ปรุงคะโลงสำเร็จได้
สมชีวัน สุขศันติ์บำเรอถิ่น ทเลแฮ
สมอุระ สริระไร้โรคไร้ภัยผลาญ ฯ
๑๔๐
๏ ขอผะสาน หัตถ์อ่านเอื้อนอาศี ระวาทเอย
ขอพระวงศ์ จักรีเกร่อหล้า
ขอกษัตริย์ ผ่านปัตถวีเสวยสุข เสมอเทิญ
ขอเพื่อนไท ไพร่ฟ้าภิโยตม์ฟื้นยืนเขษม ไชช์โย ฯ
๑๔๑
๏ เปรมนิพนธ์ ถกละเกียรติ์เกื้อกวีสยาม สยายเอย
กรมพระ นราธิปฯ นามโปรดตั้ง
รักรจิตร์ แสร่ประดิษฐ์ตามใจใคร่ เพลินแฮ
เหงาสร่าง ยามว่างยั้งอยู่เวิ้งวังทเล ฯ
๑๔๒
๏ เสน่ห์ชาติ์ หวังวาดถ้อยถนององค์ พี่อา
สมแก่ แกล่พะวงจงรักด้าว
เพลียพะลัง จะหวังสงเคราะห์มนุษย์ ไฉนเลย
จึ่งฝากฝีปากน้าวนิทัศน์ให้ไทถวิล ฯ
๑๔๓
๏ อวยสินช่วยถิ่นเกื้อการเรียน ด้วยรา
อนุศาสน์ สมสมารถเพียรเพิ่มรู้
ใครทุกข์ ขุกเข็ญเนียระนาถพึ่ง ผะดุงเพื่อน
โดยชอบ สมกอบกู้เกียรติ์เจ้าเนาศันติ์ ฯ
๑๔๔
๏ วางชิวัน ฉันไพร่ฟ้าฟูสิทธิ์ สมเอย
ไป่เสริบ กำเริบคิดแข่งแต้ม
เพียงถนอม กล่อมชีวิตเสวยสุข เกษมแฮ
กุศละใฝ่ ไว้เยี่ยงแย้มยั่วย้อยฉลวยเลียน ฯ
๑๔๕
๏ เยาว์เรียน ดรุณร่ำเกื้อกิตย์เฉลิม โลกเทิญ
การแผ่นดิน การผะเดิมชีพเลี้ยง
หมางชั่ว มั่วชอบเสริมศันติโสตถิ์ สงวนเอย
ยามเฒ่า เพลาพล่านเพี้ยงผ่อนรู้พอหนอ พี่อา ฯ
๑๔๖
๏ จบกรอ กวีวากย์เพ้อพยองนิพนธ์
ลิลิตนิราศ ชะอำกลนกร้อง
ไหนพลั้ง ก็หวังกมลขมาพี่ ถึงพี่
นราธิปฯ วิปปโยคคล้องเสน่ห์น้อมถนอมกวิน ฯ
๑๔๗
๏ ถวิลชิวา นราธิปฯ น้อยปีลา แล้วเพื่อน
ไฉนอยู่ ดูชะอำคราครึกครื้น
ตง่านตึก เลิศพิลึกสาระพัดเจิ่ง เจริญเอย
ชีพพี่ มิมีฟื้นแต่ฟื้นไผทชะอำ ฯ
๑๔๘
๏ จำหนอ พ่อหนุ่มทั้งนาวสาว สเทินฤๅ
ใครย่ำ เยี่ยมชะอำคราวยุคหน้า
นราฯ หาย หรึวายวาวถวิลฝาก ฝันพี่
ต้อนรับ จับหัตถ์กล้าเกริ่นถ้อยถนองพร ฯ
๑๔๙
๏ วอนวานท่านช่วยด้าวชะอำผะดุง เถิดเพื่อน
นราฯ เริ่มหวังเฉลิมกรุงเกริกแคว้น
ถิ่นทเลน่าเหน่ห์ปรุงประโยชน์สืบ สนองท่าน
ลมสดชดชิวาตม์แม้นชุบแม้นเมืองหมอ ฯ
๑๕๐
๏ พี่พนอใจเพื่อนบ้านสมานนิยม ยิ่งรา
พ่างท่านสมภารผงมหว่านล้อม
ทนุกท่านท่านทนุกผะสมเสนีมสุข สนองพี่
ต่างสมัครพรักพร้อมน้อมเสน่ห์เกื้อกันเกษม ฯ
๑๕๑
๏ เปรมกมลผลพี่รู้ชลอฤทัย
ยวนยอบเยงเกรงใจเชื่อถ้อย
ศันติสุขทุกขามัยมิประสบ สยองเลย
สมสหครามนามคล้อยจริยเผ้าเนาถนอม บารนี ฯ
ศุภสัสดุ
             

เชิงอรรถ

ที่มา

นิราศนรินทร์คำโคลงและนิราศปลีกย่อย พ.ณ. ประมวญมารค ฉบับพิมพ์ พ.ศ. ๒๕๑๓

[www.khroouam.com/1/F.doc ครูเอื้อม.คอม]

เครื่องมือส่วนตัว