บทละครเรื่à¸à¸‡à¸à¸´à¹€à¸«à¸™à¸² พระราชนิพนธ์พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย
จาก ตู้หนังสือเรือนไทย
การปรับปรุง เมื่อ 08:54, 7 กันยายน 2552 โดย CrazyHOrse (พูดคุย | เรื่องที่เขียน)
เนื้อหา |
ข้อมูลเบื้องต้น
แม่แบบ:เรียงลำดับ พระราชนิพนธ์: พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย
บทประพันธ์
| ช้าปี่ | |||
| ๏ มาจะกล่าวบทไป | ถึงสี่องค์ทรงธรรม์นาถา | ||
| เป็นหน่อเนื้อเชื้อวงศ์เทวา | บิตุเรศมารดาเดียวกัน | ||
| รุ่งเรืองฤทธาศักดาเดช | ได้ดำรงนคเรศเขตขัณฑ์ | ||
| พระเชษฐาครองกรุงกุเรปัน | ถัดนั้นครองดาหาธานี | ||
| องค์หนึ่งครองกาหลังบุรีรัตน์ | องค์หนึ่งครองสิงหัดส่าหรี | ||
| เฉลิมโลกโลกาธาตรี | ไม่มีผู้รอต่อฤทธิ์ | ||
| ระบือลือทั่วทุกประเทศ | ย่อมเกรงเดชเดชาอาญาสิทธิ์ | ||
| บำรุงราษฎร์ดับเข็ญอยู่เป็นนิจ | โดยทางทศพิศราชธรรม์ | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ | |||
| ชมตลาด | |||
| ๏ มีพระมเหษีห้าองค์ | ดั่งอนงค์นางฟ้ากระยาหงัน | ||
| เลือกล้วนสุริย์วงศ์พงศ์พันธุ์ | กษัตริย์ครองเขตขัณฑ์สวรรยา | ||
| ตั้งแต่งตามตำแหน่งครบที่ | คือประไหมสุหรีเสน่หา | ||
| มะเดหวีที่สองรองลงมา | แล้วมะโตโสภานารี | ||
| ที่สี่ลิกูนงเยาว์ | ที่ห้านั้นเหมาหลาหงี | ||
| อันอัครชายาทั้งห้านี้ | ตั้งได้แต่สี่พารา | ||
| ประดับด้วยสุรางค์นางสนม | ล้วนอุดมรูปทรงวงศา | ||
| ถ้วนหมื่นหกพันกัลยา | วิลาศเลิศลักขณาทุกนางใน | ||
| สำหรับขับรำบำเรอราช | พิณพาทย์จำเรียงเสียงใส | ||
| ผลัดกันปั่นโมงมาคอยใช้ | พนักงานของใครระไวระวัง | ||
| มีเหล่าเถ้าแก่ท้าวนาง | งานเครื่องงานกลางผู้รับสั่ง | ||
| โขลนจ่าหลวงแม่เจ้าชาวคลัง | จัดแจงแต่งตั้งครบครัน | ||
| ฯ ๑๒ คำ ฯ | |||
| ร่าย | |||
| ๏ มีหมู่มาตยาสามนต์ | โยธีรี้พลแข็งขัน | ||
| นับหมื่นพื้นหาญชาญฉกรรจ์ | เคยณรงค์โรมรันไม่ครั่นคร้าม | ||
| ม้ารถคชไกรไม่ใช่ชั่ว | แต่ละตัวแกล้วกล้ากลางสนาม | ||
| ทนปืนยืนยงในสงคราม | ฦานามขามฤทธิทุกทิศไป | ||
| นานานัคเรศประเทศราช | เข็ดขยาดย่อท้อไม่ต่อได้ | ||
| ต่างถวายสุวรรณมาลัย | โอรสยศไกรและธิดา | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ยานี | |||
| ๏ อันสี่ธานีราชฐาน | กว้างใหญ่ไพศาลหนักหนา | ||
| เทเวศร์นฤมิตด้วยฤทธา | สนุกดั่งเมืองฟ้าสุราลัย | ||
| มีปราสาททั้งสามตามฤดู | เสด็จอยู่โดยจินดาอัชฌาสัย | ||
| หลังคาฝาผนังนอกใน | แล้วไปด้วยโมราศิลาทอง | ||
| ภูเขาเงินรองฐานมีมารแบก | ยอดแทรกยอดใหญ่ไม้สิบสอง | ||
| แก้วไพฑูรย์ทำเป็นลำยอง | บัญชรช่องชัชวาลบานบัง | ||
| พระปรัศว์ซ้ายขวาอ่าโถง | ท้องพระโรงรจนาหน้าหลัง | ||
| พระแท่นแก้วกุดั่นบัลลังก์ | กางกั้นเศวตฉัตรอยู่อัตรา | ||
| บรรจถรณ์ที่ไสยาสน์อาสน์สุวรรณ | มีฉากแก้วแพรวพรรณคั่นฝา | ||
| ที่เสวยที่สรงคงคา | ที่นั่งเย็นอยู่หน้ามนเทียรทอง | ||
| พรรณไม้ดอกลูกปลกกระถาง | ไว้หว่างอ่างแก้วเป็นแถวถ้อง | ||
| ราบรื่นพื้นชาลาดังหน้ากอง | อิฐทองปูลาดสะอาดตา | ||
| ที่ทิมที่ล้อมวงองครักษ์ | นอกกองเกณฑ์พิทักษ์รักษา | ||
| โรงแสงโรงภูษามาลา | เรียงเรียบรัถยาหน้าพระลาน | ||
| เครื่องเนืองกันเป็นหลั่นลด | โรงม้าโรงรถคชสาร | ||
| ติกาหลังสำหรับพระกุมาร | อยู่นอกปราการกำแพงวัง ฯ | ||
| ฯ ๑๖ คำ ฯ | |||
| ร่าย | |||
| ๏ ประตูลักลงท่าชลาลัย | มีโรงเรือเรียงไปริมฝั่ง | ||
| เรือศรีสุวรรณบัลลังก์ | เรือแข่งเรือที่นั่งตั้งบนม้า | ||
| เรือกิ่งเอกชัยใส่บุษบก | งามกระหนกลวดลายท้ายหน้า | ||
| พนักงานตำรวจใหญ่ไตรตรา | เกณฑ์ไพร่ให้รักษานาวี | ||
| ตำหนักแพแลล้ำอำไพ | มุขดลพาไลหลังคาสี | ||
| ช่อฟ้าหน้าบันปราลี | ล้วนมณีเนาวรัตน์ชัชวาล | ||
| ข้างหน้าตำหนักน้ำนั้นทำเกรง | สำหรับราชสุริย์วงศ์สรงสนาน | ||
| เบื้องบนบังสาดดาดเพดาน | ผูกม่านมู่ลี่ลายทอง | ||
| ฤดูสิบเอ็ดเสด็จลง | ลอยกระทงทรงประทีปเป็นแถวถ้อง | ||
| ทอดทุ่นท้ายน้ำประจำซอง | ตั้งกองล้อมวงพระทรงธรรม์ | ||
| อันถนนหนทางท้องฉนวน | ศิลาลายลาดล้วนเลือกสรร | ||
| มีตึกแถวทิมรอบขอบคัน | เรือนสนมกำนัลเป็นหลั่นมา ฯ | ||
| ฯ ๑๒ คำ ฯ | |||
| สมิงทอง | |||
| ๏ ท้องสนามแกล้งปราบราบรื่น | พ่างพื้นปถพีไม่มีหญ้า | ||
| กว้างใหญ่ไพศาลสุดตา | เตียนสะอาดดาษดาด้วยทรายทอง | ||
| มีสุวรรณพลับพลาบนปราการ | สูงตระหง่านเอื้อมฟ้าสิบห้าห้อง | ||
| ช่อฟ้าปราลีลำยอง | ฉลักฉลุบุทองอร่ามไป | ||
| สำหรับที่ทอดพระเนตรสระสนาน | ล่อแพนผัดพานเป็นการใหญ่ | ||
| ประลองเหล่าทหารชาญชัย | ยิงธนูศรใส่ยาพิษ | ||
| ตั้งป้อมหัดปืนยิงหุ่น | แม่นยำซ้ำกระสุนไม่มีผิด | ||
| โล่ดั้งดาบฟันกระชั้นชิด | เพลงกริชสันทัดทั่วทุกตัวตน | ||
| บ้างรำทวนเปลี่ยนท่าบนพาชี | ขับขี่เคยศึกฝึกฝน | ||
| ประลองคชสารสู้บำรูชน | ใช้ชำนาญในกลการยุทธ์ ฯ | ||
| ฯ ๑๐ คำฯ | |||
| ร่าย | |||
| ๏ รอบราชนิเวศน์เขตขัณฑ์ | มีปราการแก้วกั้นสูงสุด | ||
| ซุ้มทวารบานสุวรรณชมพูนุท | ประตูลักช่องกุฎิ์สลับกัน | ||
| มีทิวแถวโรงช้างระวางค่าย | เชิงเรียงรายเขื่อนเพชรเขื่อนขัณฑ์ | ||
| หอรบแลสล้างนางจรัล | ป้อมสูงสามชั้นเป็นหลั่นลด | ||
| รายปืนจินดาจังกาส่อง | วางประจำทุกช่องเสมาหมด | ||
| เชิงเทินดังเนินบรรพต | บันไดลดเลี่ยนลาดสะอาดตา ฯ | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ชมตลาด | |||
| ๏ ท่ามกลางทางท้องสถลมาศ | ลำดับดาดอิฐแผ่นแน่นหนา | ||
| บ้านช่องสองข้างมรรคา | ล้วนเคหาหน้าถังนั่งร้าน | ||
| เหล่าพวกกรมท่าเจ้าภาษี | มั่งมีสมบัติพัสถาน | ||
| เรือนริมรัถยาฝากระดาน | ตึกกว้านบ้านขุนนางนองเนือง | ||
| สุเหร่าเรียงเคียงคั่นปั้นหยา | ก่อผนังหลังคามุงกระเบื้อง | ||
| ศาลเทพารักษ์หลักเมือง | นับถือลือเลื่องทั้งกรุงไกร | ||
| เสาชิงช้าอาวาสวัดพราหมณ์ | ทำตามประเพณีพิธีไสย | ||
| หอกลองอยู่กลางเวียงชัย | แม้เกิดไฟไพรีตีสัญญา | ||
| สะพานข้างทางข้ามคชสาร | ก่ออิฐปูกระดานไม้หนา | ||
| คลองหลอดแลลิ่วสุดตา | น้ำลงคงคาไม่ขอดเคือง | ||
| นาวาค้าขายพายขึ้นล่อง | ตามแม่น้ำลำคลองแน่นเนื่อง | ||
| แพจอดตลอดท่าหน้าเมือง | นองเนืองเป็นขนัดในนัที | ||
| ข้าวของต่างต่างเอาวางขาย | แพรม้วนมากมายหลายสี | ||
| ยกทองล่องจวนเจ็ดตะคลี | พลอยมณีเพชรนิลจินดา | ||
| บริบูรณ์พูนสุขด้วยสมบัติ | แก้วเก้าเนาวรัตน์วัตถา | ||
| ทุกสิ่งสรรพ์เอมโอชโภชนา | ย่อมเยาราคาสารพัน ฯ | ||
| ฯ ๑๖ คำ ฯ | |||
| เบ้าหลุด | |||
| ๏ ลูกค้าวานิชทุกนิเวศน์ | มาแต่ต่างประเทศเขตขัณฑ์ | ||
| สำเภาจอดทอดท่าเรียงรัน | สลุบแขกกำปั่นวิลันดา | ||
| จีนจามอะแจแซ่ซ้อง | คับคั่งทั้งสิบสองภาษา | ||
| แสนสนุกสุขเกษมเปรมปรา | ถ้วนหน้าประชาชนมนตรี | ||
| บ้างฝึกสอนคนรำทำบทบาท | พิณพาทย์ระนาดฆ้องอึงมี่ | ||
| ลูกค้าวาณิชทุกนิเวศน์ | มาแต่ต่างประเทศเขตขัณฑ์ | ||
| พวกขุนนางต่างหัดมโหรี | ลาวสาวเสียงดีมีหลายคน | ||
| บ้างลงท่าโกนจุกสนุกสนาน | มีงานการกึกก้องทุกแห่งหน | ||
| บ้างตั้งบ่อนปลากัดงัดไก่ชน | ทรหดอดทนเป็นเดิมพัน | ||
| บ้างเล่นวิ่งวัวคนโคระแทะ | ชนแพะแกะกระบือคูขัน | ||
| บ้างเล่นว่าวคุลาคว้าพนัน | ปากเป้าสั้นโห่ฉาววิ่งราวมา | ||
| ราตรีมีหนังประชันเชิด | ฉลุฉลักลายเลิศเลขา | ||
| บ้างเล่นเพลงครึ่งท้อนกลอนสักวา | ทั้งสุดใจไก่ป่าสารพัน ฯ | ||
| ฯ ๑๒ คำ ฯ | |||
| ชมตลาด | |||
| ๏ ฝ่ายฝูงสาวสาวชาวกรุง | ก็บำรุงรูปโฉมเฉิดฉัน | ||
| ขัดขมิ้นหนุนเนื้อเจือจันทน์ | หวีผมคมสันกันไร | ||
| ที่ลูกเหล่าพงศ์เผ่าพวกผู้ดี | รูปทรงส่งศรีผ่องใส | ||
| ซ่อนตัวกลัวจะเก็บเป็นางใน | ถึงมีงานการใหญ่ไม่ไปดู | ||
| ลางพวกเพิ่งดรุณีแรกสาว | เจ้าบ่าวไปปลูกหอขอสู่ | ||
| บ้างลอบลักรักเร้นเป็นชู้ | หมากพลูพวงมาลัยให้กัน | ||
| พวกหนุ่มหนุ่มพากเพียรเวียนแวดขาย | มุ่งหมายรักใคร่ใฝ่ฝัน | ||
| ..............................วรรคนี้หายไป | ไม่มีในต้นฉบับ........................ | ||
| บ้างดีดนิ้วผิวปากทำเพลง | ล้วนนักเลงเจ้าชู้ฉุยฉาย | ||
| ลดเลี้ยวเที่ยวเล่นตามสบาย | หญิงชายเป็นสุขทุกคืนวัน ฯ | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ | |||
| ปลิ่ม | |||
| ๏ ทิศใต้ภายนอกธานี | มีสระสวนศรีสะตาหมัน | ||
| มิ่งไม้หลายอย่างต่างพรรณ | ล้วนแกล้งกลั่นสรรสาปลูกไว้ | ||
| บ้างเผล็ดผลผการะย้าย้อย | ช่อช้อยชูก้านบานไสว | ||
| พ่างพื้นรื่นร่มสำราญใจ | มีตำหนักน้อยในวารี | ||
| อันโบกขรณีสี่เหลี่ยม | น้ำเปี่ยมเทียบปากสระศรรี | ||
| ใสสะอาดปราศจากราคี | ดังแสงแก้วมณีรจนา | ||
| มีสุพรรณโกสุมปทุมมาลย์ | ตูมบานแย้มกลีบกลิ่นเกล้า | ||
| เกสรร่วงลงคงคา | พระพายพาหอมฟุ้งจรุงใจ ฯ | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ | |||
| สระบุหร่ง | |||
| ๏ นอกกเมืองมีสระตำยลหนึ่ง | วารีลึกซึ้งเย็นใส | ||
| ริมรอบขอบคันล้วนพรรณไม้ | ระบัดใบบังแสงสุริยง | ||
| เป็นที่ภูธรแต่ก่อนมา | แม้นปราบข้าศึกเสร็จเสด็จสรง | ||
| ประดับด้วยโกมุทบุษบง | ลินจงอุบลบัวบาน | ||
| มีพลับพลาที่ประทับยับยั้ง | อยู่ริมฝั่งสระใหญ่ไพศาล | ||
| สำหรับเมืองเนื่องมาแต่บุราณ | ทั้งสี่ราชฐานพารา ฯ | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ | |||
| พระทอง | |||
| ๏ แต่กรุงดาหาธานี | มีคิรีวิลิศมาหรา | ||
| อยู่นอกเมืองข้างเบื้องบูรพา | มรรคาวันหนึ่งถึงบรรพต | ||
| อารักษ์เรืองฤทธิ์สถิตสถาน | เชี่ยวชาญเดชาปรากฏ | ||
| ย่อมเป็นที่นับถือลือยศ | แห่งชาวชนบทพระบุรี | ||
| แม้นมีเหตุเภทพานประการใด | ก็บวงบนเทพไทเรืองศรี | ||
| ทำตามบุราณราชประเพณี | ถึงปีไปเคารพอภิวันท์ | ||
| ทั้งที่พระองค์วงศ์เทเวศร์ | ดำรงนคเรศเกษมสันต์ | ||
| ไพร่ฟ้าข้าแผ่นดินสิ้นทั้งนั้น | เป็นสุขทุกวันทุกเวลา ฯ | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ | |||
| ช้า | |||
| ๏ มาจะกล่าวบทไป | ถึงพิชัยเขตขัณฑ์หมันหยา | ||
| แสนสนุกสุขเกษมเปรมปรา | บรรดากรุงชวาไม่เทียมทัด | ||
| เป็นใหญ่ยิ่งกว่าทุกธานี | แต่ก่อนทั้งบุรีสี่กษัตริย์ | ||
| ประกอบด้วยแก้วเก้าเนาวรัตน์ | ไอศูรย์สมบัติศฤงคาร | ||
| มีหมู่มาตยาข้าเฝ้า | สองเหล่าพลเรือนแลทหาร | ||
| โยธีนับหมื่นพื้นเชี่ยวชาญ | แต่ละคนเคยชำนาญในการรบ | ||
| อยู่ยงคงกระพันสาตรา | วิชาโล่เขนเจนจบ | ||
| ราชรถคชสารสินธพ | เลิศลบเลือนกว่าทุกธานี ฯ | ||
| ฯ ๑๘ คำ ฯ | |||
| ร่าย | |||
| ๏ ปางก่อนพระนครหมันหยา | ประชาราษฎร์มาตยาเกษมศรี | ||
| ตั้งแต่ระตูภูมี | สุดสิ้นชีวีทิวงคต | ||
| ก็เย็นเยียบเงียบเหงาเปล่าใจ | ทั่วนิเใศน์เวียงชัยชยนบท | ||
| ตั้งแต่ประไหมสุหรีมียศ | โศกศัลย์รันทดทุกเวลา | ||
| มีราชธิดาสามองค์ | งามทรงวงพักตร์เพียงเลขา | ||
| พี่นางทรงนามสมญา | ชื่อนิหลาอระตาเทวี | ||
| พระผู้ผ่านพิภพกุเรปัน | ตุนาหงันเป็นประไหมสุหรี | ||
| อันระเด่นดาหลาวาตี | บุตรีที่สองรองลงมา | ||
| ท้าวดาหาตุนาหงันไป | เป็นประไหมสุหรีในดาหา | ||
| ยังแต่น้องนุชสุดโสภา | กัลยาแรกรุ่นจำเริญวัย | ||
| ชื่อระเด่นจินดาส่าหรี | พระชนนีถนอมนักรักใคร่ | ||
| กษัตริย์ใดมาขออรทัย | ไม่ยินยอมยกให้ไปไกลองค์ | ||
| หวังจะให้เป็นเอกในเศวตฉัตร | สืบตระกูลกษัตริย์สูงส่ง | ||
| อันท้าวมังกันฤทธิ์วงศ์ | ก็เนื่องในสุริย์วงศ์กันมา | ||
| ได้ครอบครองสวรรยาธานี | ทรงธรรม์นั้นมีโอรสา | ||
| พระคิดถึงระตูผู้มรณา | จะบำรุงพาราให้เรืองไป | ||
| จึงตกแต่ของมาตุนาหงัน | ชนนีนางนั้นก็อวยให้ | ||
| อภิเษกเอกองค์โอรสไว้ | ในพิชัยหมันหยาธานี ฯ | ||
| ฯ ๑๘ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ฝ่ายท้าวกุเรปันเรืองศรี | ||
| เสวยราชสมบัติสวัสดี | สุขเกษมเปรมปรีดิ์มาช้านาน | ||
| จึงมีพระโอรสา | ด้วยลิกูกัลยายอดสงสาร | ||
| ชื่อกระหรัดตะปาตีกุมาร | รูปทรงสัณฐานโสภา | ||
| พระบิตุเรศมารดาทั้งห้าองค์ | พิศวงจงรักหนักหนา | ||
| เย็นเช้าเฝ้าชมทุกเวลา | แสนสนิทเสน่หาดังดวงใจ ฯ | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ๏ จึ่งจัดกิดาหยันน้องน้อย | ถ้วนร้อยโปรดปรานประทานให้ | ||
| ทั้งนางนมพี่เลี้ยงแลสาวใช้ | เจ้าขรัวยายผู้ใหญ่ได้บังคับ | ||
| ประทานทั้งเงินทองของขวัญ | ตามขนมครบครันเครื่องประดับ | ||
| สร้อยสุวรรณสังวาลบานพับ | เกี้ยวแก้วแวววับสำหรับยศ | ||
| ให้ตั้งกรรมทำกิจวิทยา | พร้อมคณะพรามหาดาบส | ||
| ชุบกริชประสิทธิ์ให้โอรส | เลื่องหล้าปรากฎฤทธิไกร | ||
| ครั้นท้าวกาหลังมีบุตรี | ด้วยลิกูนารีศรีใส | ||
| ชื่อบุษบารากายาใจ | ตุนาหงันกล่าวไว้แก่ลูกยา ฯ | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ | |||
| ๏ คิดจะให้ประไหมสุหรีนั้น | ทรงครรภ์พระโอรสา | ||
| จะได้สืบสุริวงศ์พงศ์เทวา | ดำรงขัณฑเสมาธานี ฯ | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ | |||
| ๏ คิดพลางทางถวายเครื่องบวงสรวง | บำบวงเทวราชเรืองศรี | ||
| ขออารักษ์หลักเมืองเรืองฤทธี | ได้ปรานีเชิญช่วยจงสคิด | ||
| ให้ประไหมสุหรีนั้นมีบุตร | เป็นบุรุษรูปโฉมประโลมจิต | ||
| ได้ครอบครองพระนครขจรฤทธิ์ | ลือสะท้านทั่วทิศทั้งปวง | ||
| แม้นสมปรารถนาดังว่าขาน | จะแต่งแก้บนบานบวงสรวง | ||
| เทียนทองชวาลาบุปผาพวง | พรรณรายรุ้งร่วงด้วยเนาวรัตน์ | ||
| จะแผ่ทองเนื้อเก้าหุ้มเสาศาล | เอาตาดคำทำม่านเพดานดัด | ||
| อีกทั้งทิวธงราชวัติ | ชุมสายเศวตฉัตรชัชวาล | ||
| ทั้งแพะแกะโคกระทิงสิ่งละร้อย | จะปล่อยไว้ในเทวสถาน | ||
| จะสมโภชเจ็ดทิวาราตรีกาล | มีงานมหรสรพครบครัน ฯ | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ | |||
| ช้า | |||
| ๏ เมื่อนั้น | องค์ปะไหมสุหรีเฉิดฉัน | ||
| ร่วมภิรมย์สมสุขด้วยทรงธรรม์ | เมื่อจวนจะมีครรภ์พระลูกรัก | ||
| ราตรีเข้าที่พระบรรทม | ด้วยบรมนรินทร์ปิ่นปักษ์ | ||
| บังเกิดนิมิตฝันอัศจรรยบ์นัก | ว่านงลักษณ์นั่งเล่นที่ชาลา | ||
| มีพระสุริยงทรงกลด | ชักรถมาในเวหา | ||
| แจ่มแจ้งแสงสว่างทั้งโลกา | ตกลงตรงหน้านางรับไว้ | ||
| ครั้นนิทราตื่นฟื้นองค์ | ให้หลากจิตพิศวงสงสัย | ||
| จึงทูลพระภัสดาพลันทันใด | โดยนัยนิมิตเยาวมาลย์ ฯ | ||
| ฯ ๘ คำฯ | |||
เชิงอรรถ
ที่มา
- คุณพรพรรณ วัฑฒนายน ผู้พิมพ์เป็นวิทยาทาน
- [1]
