เสภาเรื่à¸à¸‡à¸¨à¸£à¸µà¸˜à¸™à¸à¹„ชยเชียงเมี่ยง
จาก ตู้หนังสือเรือนไทย
การปรับปรุง เมื่อ 15:58, 1 กันยายน 2552 โดย CrazyHOrse (พูดคุย | เรื่องที่เขียน)
เนื้อหา |
ข้อมูลเบื้องต้น
แม่แบบ:เรียงลำดับ ผู้แต่ง: ไม่ปรากฏ
บทประพันธ์
๏ จะกล่าวเรื่องขุนศรีธนญไชย | บุราณท่านเล่าไว้นานหนักหนา | ||
หวังให้แจ้งคนดีมีปัญญา | กู้ภาราด้วยความคิดบิดวาที | ||
ยังมีราชนิเวศน์เขตรสถาน | ป้อมปราการสูงใหญ่เปนศักดิศรี | ||
บริบูรณ์ภูลสมบัติสวัสดี | นามว่าเมืองทวาลีเลิศนคร | ||
ชนชาวภารากว่าห้าแสน | เนืองแน่นยคั่งคับสลับสลอน | ||
ตั้งเคหารายรอบขอบนคร | ราษฎรแสนศุขสนุกสบาย | ||
ฝ่ายจอมพระนครินทร์ปิ่นประชา | สมญาทวาละเลิศเฉิดฉาย | ||
ข้าศึกศัตรูหมู่คิดร้าย | ไม่กล้ำกรายสยองเกล้าทุกท้าวไท | ||
พระเกียรติยศปรากฎในใต้หล้า | ดังมหาจักรพรรดิกระษัตริย์ใหญ่ | ||
พร้อมจัตุรงค์มหาเสนาใน | ม้ารถคชไกรทหารเดิน | ||
สนมนางพ่วงเพียงอับศรสวรรค์ | หมื่นหกพันหน้านวลควรสรรเสริญ | ||
โฉมสำอางงามจริตต้องจิตรเพลิน | รุ่นจำเริญผิวผ่องดังทองทา | ||
ส่วนพระจอมเทพีศรีสมร | นามกรซื่อสุวรรณบุบผา | ||
ทรงโฉมประโลมใจไนยนา | เปนใหญ่กว่าแสนสุรางค์เหล่านางใน | ||
ได้ว่ากล่าวเถ้าแก่หลวงแม่เจ้า | โขลนจ่าหมอบเฝ้าเรียงไสว | ||
เธอสิทธิขาดราชการงานฝ่ายใน | บำเรอไทธิบดินทร์นรินทร ฯ | ||
๏ ในเมืองมีบ้านพราหมณ์รามราช | เปนครูฉลาดรอบรู้ธนูศร | ||
ทั้งชำนาญไตรเพทวิเศษขจร | อิกตำราพยากรณ์ฝันร้ายดี | ||
เปนทิศาปาโมกข์โฉลกฤกษ์ | เอิกเกริกฦาฟุ้งทั้งกรุงศรี | ||
ทั้งภรรยานงรามพราหมณี | รู้วิธีทายสุบินสิ้นทั้งมวญ ฯ | ||
๏ ยังมีสองสามีภิริยา | ตั้งเคหาอยู่ริมไร่ใกล้เขตรสวน | ||
หมู่ดั้นผู้ภัศดาเคหาซวน | เสาโย้จวนจะพังต้องรั้งโย้ | ||
ภรรยาซื่อยายปลีเมื่อมีครรภ์ | นิมิตรฝันแปลกเพื่อนเชือนโยโส | ||
ว่ากินหยากเยื่อลองจนท้องโต | ดังคนโซกวาดกินสิ้นทั้งเมือง | ||
ครั้นตื่นขึ้นคิดขันฝันเราหนอ | จะเกิดก่อทุกข์ไฉนไม่รู้เรื่อง | ||
ถามหมื่นดั้นจนใจให้ขุ่นเคือง | จึงย่างเยื้องไปหาพฤฒาจารย์ | ||
เมื่อวันนั้นท่านครูหาอยู่ไม่ | จึงวอนไหว้พราหมณีแถลงสาร | ||
เล่าฝันกับภรรยาท่านอาจารย์ | โปรดดีฉานช่วยทายร้ายฤาดี ฯ | ||
๏ ครานั้นท่านภรรยาพฤฒาเถ้า | ได้ฟังเล่าในฝันนั้นถ้วนถี่ | ||
จึงทำนายทายฝันให้ยายปลี | ว่าจะมีบุตรชายปรีชาคำ | ||
พูดจาแคล่วคล่องว่องไวนัก | รู้หลักลอดคนข้อคำขำ | ||
เปนตลกหลวงดีมีคนยำ | ท่านจงจำไว้เถิดประเสริฐชาย | ||
ส่วนยายปลีได้ฟังทำนายฝัน | ก็อภิวันท์ลามาด้วยสมหมาย | ||
ประดับประคองท้องไว้ ไม่ระคาย | ค่อยสบายหายทุกข์เปนศุขใจ ฯ | ||
๏ ครานั้นท่านพราหมณ์พฤฒาจารย์ | กลับมายังสถานที่อาไศรย | ||
ฝ่ายภรรยาก็เล่าความตามทายไป | กลัวจะไม่ถูกตำราสามีตน | ||
พฤฒาเถ้าฟังเล่าทำนายฝัน | หุนหันว่าเจ้าทายไม่เปนผล | ||
บุตรเขาดีจะเปนที่เจ้านายคน | ทำนายผิดจะไม่พ้นอันตราย | ||
อิกเจ็ดวันฟ้าจะผ่าศีศะเจ้า | นางฟังเล่าร้อนตัวกลัวใจหาย | ||
ให้อัดอั้นสั่นระรัวทั่วทั้งกาย | ว่าท่านช่วยคิดอุบายให้พ้นไภย | ||
ฝ่ายว่าทิศาปาโมกข์เถ้า | ช่วยแบ่งเบาทำตามคัมภีร์ไสย | ||
ปั้นรูปพราหมณีใส่ชื่อใน | ไปตั้งไว้ห่างบ้านสถานตน | ||
แล้วเอาขันครอบศีศะที่รูปปั้น | พอเจ็ดวันมืดกลุ้มคลุ้มเมฆฝน | ||
ครั่นครื้นเสียงฟ้าคำรามรน | พอเม็ดฝนตกต้องลอองปราย | ||
อสนีฟาดเปรี้ยงเสียงสท้าน | ผ่ากระบานรูปปั้นขนสลาย | ||
พราหมณีก็รอดจากความตาย | ด้วยอุบายภัศดาพฤฒาจารย์ | ||
จึงมิให้ใช้ขันรองน้ำฝน | ทุกตัวคนทั่วประเทศเขตรสถาน | ||
กลัวฟ้าจะผ่าขันด้วยบันดาล | ตลอดกาลจนทุกวันท่านกล่าวมา ฯ | ||
๏ ครานั้นพระองค์ผู้ทรงภพ | เลิศลบแดนไตรในใต้หล้า | ||
ดำรงเมืองเรืองยศปรากฎมา | แสนสำราญโรคาไม่ยายี | ||
ร่วมภิรมย์สมสวาดินาฎนาเรศ | ซึ่งเปนเกษกำนัลนารีศรี | ||
นางทรงครรภ์สิบเดือนกำหนดมี | จวนจะคลอดเทพีรัญจวนใจ | ||
ให้ป่วนปวดรวดเร้าเศร้าโทมนัศ | พร้อมแพทย์แออัดอยู่ไสว | ||
หมอตำแยอยู่งานนางทรามไวย | เวลาได้ฤกษ์ประสูตรพระกุมาร ฯ | ||
๏ ฝ่ายพระจอมทวาลีบุรีราช | บรมนารถเห็นโอรสยอดสงสาร | ||
จึงให้โหราพฤฒาจารย์ | ดูลักษณกุมารดวงชตา | ||
คูณหารสอบสวนทบทวนไป | ก็แจ้งใจคืนวันพระชัณษา | ||
จึงกราบทูลว่าองค์กุมารา | มีบุญญาธิการกล้าหาญครัน | ||
มีเดชะอำนาจราชศักดิ | ปรปักษ์ทั่วทิศกลัวฤทธิพรั่น | ||
แต่เลี้ยงเธอยากนักหนักอกครัน | ถ้าได้กุมารร่วมวันทันเวลา | ||
เมื่อประสูตรโอรสยศไกร | หาให้ได้เหมือนกันกับชัณษา | ||
มาเลี้ยงด้วยกันกับราชบุตรา | กุมาราจึงเจริญไม่มีไภย ฯ | ||
๏ ครานั้นพระองค์ดำรงวัง | ได้ทรงฟังโหรแจ้งแถลงไข | ||
จึงเอื้อนอรรถตรัสสั่งเสนาใน | เอาฆ้องไปตีประกาศราษฎร | ||
ว่าผู้ใดคลอดบุตรเมื่อวันวาน | พระโองการต้องประสงค์อย่าเร้นซ่อน | ||
จะทรงเลี้ยงเคียงดไนยไม่อาทร | ทั่วนครใครมีบุตรบุรุษชาย | ||
จงบอกความตามจริงอย่านิ่งช้า | ข้าจะพาบุตรเจ้าเข้าถวาย | ||
อำมาตย์ตีฆ้องพลางทางภิปราย | ถึงบ้านยายปลีที่ฝันขันพิกล | ||
ความว่าเมื่อภรรยาพฤฒาเถ้า | ทำนายฝันตามเล่าซึ่งเหตุผล | ||
ยายปลีมีครรภ์ได้สิบเดือนดล | คลอดบุตรตนเปนชายโฉมโสภา | ||
ฤกษ์ยามเวลาก็พร้อมกัน | กับจอมขวัญประสูตรโอรสา | ||
เมื่ออำมาตย์ตีฆ้องร้องป่าวมา | ตกประหม่าไม่มีขวัญตัวสั่นงก | ||
ครั้นจะนิ่งปิดความว่าไม่มี | พระองค์ทราบคดีว่าโกหก | ||
จะลงโทษกายระบมตรมอกฟก | นึกแล้วอุ้มทารกมาบอกความ ฯ | ||
๏ ครานั้นเสนาข้าราชการ | ฟังว่าขานสอบไล่ซักไซ้ถาม | ||
รู้แน่ว่าเด็กนั้นพร้อมฤกษ์ยาม | กับโอรสจอมสยามทวาลี | ||
จึงรับเอากุมารามาถวาย | ทูลดังยายมารดาว่าถ้วนถี่ | ||
ฝ่ายพระจอมภาราทวาลี | ฟังวาทีเสวกาปรีดาครัน | ||
โปรดให้หานางนมแลพี่เลี้ยง | ประคองเคียงรักษาทารกนั่น | ||
ให้โอรสอย่างไรก็ให้ปัน | แก่กุมารคนนั้นเหมือนกันมา | ||
จนสองกุมารชัณษาสิบห้าปี | โปรดให้เรียนตระบองกระปิติศึกษา | ||
กระบวนรบครบอย่างขี่ช้างม้า | พุ่งสาตรายิงแทงแผลงธนู | ||
อิกให้เรียนไตรเพทเวทมนต์ขลัง | คงจังงังทรหดอดทนสู | ||
แคล้วคลาศสารพัดหัดให้รู้ | ทรงเอนดูสองราเมตตานัก | ||
ครั้นอยู่มาจอมประชาชราร่าง | โรคหลายอย่างก่อกวนประชวรหนัก | ||
ตรัสเรียกสองดไนยผู้ยอดรัก | มอบมไหไตรจักรใครอบครอง | ||
ประทานราโชวาทประสาทให้ | รักใคร่อย่าเดียดฉันกันทั้งสอง | ||
อย่าข่มเหงต่อยตีเหมือนพี่น้อง | เจ้าปรองดองสองรารักษาเมือง | ||
แม้นว่าน้องพ้องผิดโทษถึงฆ่า | ได้เมตตาปัดเป่าให้เบาเปลื้อง | ||
อย่าขุ่นแค้นฆ่าฟันเลยขวัญเมือง | ถ้าขัดเคืองอดออมถนอมกัน | ||
หนึ่งขุนนางข้าเฝ้าเหล่าทั้งหลาย | จงแจกจ่ายเบี้ยหวัดดูจัดสรร | ||
ผู้ใดมีความชอบตอบรางวัล | ให้แบ่งปันสนองคุณการุญรัก | ||
เงินตราผ้าพานทองคำให้ | เครื่องกาไหล่เครื่องถมแลสมปัก | ||
เสลี่ยงแคร่กระบี่สายสพายสพัก | สมยศศักดิความชอบจงตอบแทน | ||
ราษฎรทั่วประเทศในเขตรขัณฑ์ | อย่าเบียนมันให้ทุกข์ร้อนค่อนแค่น | ||
จงเมตตาคนจนขัดสนแกน | ทุกด้าวแดนให้เปนศุขสนุกใจ | ||
สมณะชีพราหมณ์อย่าหยามหยาบ | เกรงกลัวบาปละปลดอดจิตรให้ | ||
ควรบำรุงสงเคราะห์สักเพียงไร | ก็จงให้พองามตามศรัทธา | ||
หนึ่งข้าเฝ้าเหล่าขุนนางต่างตำแหน่ง | แม้นระแวงราชกิจผิดนักหนา | ||
จะลงโทษก็ให้ต้องตามอาชญา | ฤาหนึ่งถ้าทัณฑกรรมทำพอควร | ||
อย่ามากมูลโทษะมนะผิด | ควรคิดโดยระบอบสอบไต่สวน | ||
ควรเฆี่ยนควรขังเชือกหนังทวน | จำโซ่ตรวนขื่อคาอย่าทำเกิน | ||
พ่อจำคำบิดาสั่งตั้งความสัตย์ | แม้นปฏิบัติชื่อตรงคงสรรเสริญ | ||
ราชการภาราพ่อพย่าเมิน | อย่าหลงเพลินนางในไม่ได้การ | ||
พระโอรสฟังโองการประทานสอน | โอนอ่อนเศียรคำนับรับสั่งสาร | ||
ทั้งราชบุตรบุญธรรมก้มกราบกราน | รับโอวาทซึ่งประทานด้วยเศียรตน ฯ | ||
๏ ฝ่ายพระองค์จอมเจิมเฉลิมโลก | ประชวรโรคแรงกล้าดังห่าฝน | ||
สิ้นกำลังลมปราณเหลือทานทน | สวรรคตอยู่บนพระแท่นทอง ฯ | ||
๏ ครานั้นเสวกามหามาตย์ | เกลื่อนกลาดแออัดจัดสิ่งของ | ||
เครื่องสูงแตรสังข์พระโกษฐทอง | จ่าปี่จ่ากลองเรียกร้องมา | ||
กลองชนะเบิงมางวางเตรียมไว้ | ชั้นแว่นฟ้ารีบไปยกคอยท่า | ||
คู่เคียงพระสเลี่ยงเทวดา | โปรยมาลาเข้าตอกบอกมาคอย | ||
พระสงฆ์นำน่าฉานอ่านหนังสือ | สังฆ์การีวิ่งปรื๋อไม่ล้าถอย | ||
เผดียงราชาคณะวัดพระลอย | ไวไวหน่อยเถิดเจ้าคุณวุ่นเต็มที | ||
ฝ่ายว่าราชาคณะพระญาณสิทธิ์ | ซึ่งสถิตย์วัดพระลอยก็เร็วรี่ | ||
รีบครองผ้าเรียกศิษย์ได้ตามมี | สังฆ์การีพามาพักคอยชักนำ ฯ | ||
๏ ครานั้นจึงพระราชกุมาร | เชิญพระศพสรงสนานจนจวนค่ำ | ||
มาลาภูษาถวายเครื่องทรงประจำ | เครื่องต้นล้วนทองคำลงยาดี | ||
ทรงเครื่องต้นเสร็จสรรพสำหรับกระษัตริย์ | เชิญเข้าโกษฐเนาวรัตน์มณีศรี | ||
ประโคมแตรสังข์สนั่นลั่นดนตรี | กลองชนะพร้อมตีเสียงมี่วัง | ||
ฝ่ายพวกกระบวนแห่เสียงแซ่ซ้อง | ตั้งกระบวนเปนกองคอยรับสั่ง | ||
ได้เวลาพระศพออกจากวัง | ดูสพรั่งกระบวนแห่แลหลามมา | ||
พวกตั้งชั้นแว่นฟ้าเสนาภิมุข | ชาดสีสุกทาซ่อมที่คร่ำคร่า | ||
ช่างรักปิดทองผ่องจับตา | ช่างกระจกประดับประดาที่ชำรุด | ||
เครื่องแก้วตั้งคลังพิมานอากาศจัด | ศุภรัตขนผ้าไตรอุตลุด | ||
รักษาองค์เติมน้ำมันฟันชุด | รายกันจุดอัจกลับสับสนครัน | ||
แห่พระศพถึงที่นั่งมังคลา | เชิญตั้งแท่นแว่นฟ้างามเฉิดฉัน | ||
เรียงรอบเครื่องสูงลายสุวรรณ | จามรทานตวันพัดโบกราย | ||
กลิ้งกลดบดบังพระสุริยนต์ | หักทองขวางห้าชั้นอิกชุมสาย | ||
แว่นทองปักกระเสตขันทองพราย | บุบผาพวงห้อยรายกลิ่นขจร | ||
ข้าราชการกราบราบศิโรตม์ | ถวายบังคมบรมโกษฐสท้อนถอน | ||
ฤไทยโทมนัศาให้อาวรณ์ | พิไรรักภูธรสิ้นทุกคน ฯ | ||
๏ ฝ่ายพระราชโอรสยศไกร | เสด็จมาโศกาไลยพิไรบ่น | ||
พระราชบุตรบุญธรรมก็ทุกข์ทน | น้ำสุชนไหลหลั่งนั่งโศกา | ||
ครั้นจัดแต่งตั้งพระศพครบครัน | สดัปกรณ์นับพันไตรสิบห้า | ||
พระสงฆ์เนื่องแน่นหลามตามชลา | พระราชาคณะได้ไตรทุกองค์ | ||
เสร็จทำกุศลกิจอุทิศไป | ถวายไทชนกนารถราชหงษ์ | ||
จึงสมเด็จโอรสยิ่งยศยง | เสด็จลงจากปราสาทลีลาศมา | ||
พวกร้องไห้นางในก็ส่งเสียง | เสนาะสำเนียงว่าพระพุทธเจ้าข้า | ||
พระร่มโพธิทองล่องสู่ฟ้า | เสด็จไปชั้นใดข้าจะตามไป | ||
โอ้พระร่มโพธิแก้วลับแล้วลิบ | เสวยทิพพิมานสถานไหน | ||
ข้าน้อยพยายามจะตามไป | ไม่ทิ้งไทนฤเบศร์เกษประชา ฯ | ||
๏ ครานั้นหมู่อำมาตย์ข้าราชการ | กับพระราชกุมารโอรสา | ||
พร้อมกันกะเกณฑ์การฌาปนา | ทำมหาเมรุปราค์ตามอย่างยศ | ||
สูงเส้นห้าวาสง่านาม | เมรุทิศงามสามสร้างต้องอย่างหมด | ||
เมรุทองในเครื่องชั้นเปนหลั่นลด | ต้องแบบตามบททุกสิ่งอัน | ||
ราชวัตรฉัตรทองฉัตรเงินนาก | แลหลากตั้งสลับลำดับคั่น | ||
ฉัตรเบญจรงค์รายออกนอกอิกชั้น | ตลอดกั้นราชวัตรขนัดแนว | ||
ราชวัตรฉัตรรายทางข้างถนน | ทางสถลที่จะแห่แลเปนแถว | ||
โรงการเล่นเต้นรำทำเสร็จแล้ว | ท้องสนามกวาดแผ้วสอาดเตียน | ||
โรงรำช่องระทาระดาดาษ | เอาแผงลาดหลังคาทาเครื่องเขียน | ||
กั้นฉากวาดดูงามเรื่องรามเกียรติ์ | ล้วนแนบเนียนนน่าสนุกทุกโรงงาน | ||
หกคเมนลอดบ่วงห่วงน้อยเสา | ติดต่อเข้าสามต่อสูงตะหง่าน | ||
รำแพนเสาไต่ลวดสูงลิ่วทยาน | ตามอย่างงานบรมศพมีครบครัน | ||
เตรียมการเสร็จทุกด้านงานกำหนด | เชิญพระโกษฐขึ้นรถแห่สนั่น | ||
เข้าพระเมรุสมโภชสิบห้าวัน | ถวายพระเพลิงทรงธรรม์กระษัตรา | ||
สมโภชพระอัฐิลอยอังคาร | เสร็จการเชิญอัฐิขั้นรัถา | ||
แห่เข้าสู่พระนครา | เหล่าเสวกาโศกเศร้าเฝ้าพิไร | ||
จึงประชุมมาตยามหาอำมาตย์ | จะยกราชโอรสครองกรุงใหญ่ | ||
เห็นพร้อมกันต่างอำนวยอวยไชย | จึงหมายให้จัดราชาภิเศกการ | ||
เกณฑ์กันทำการทุกด้านทาง | ตามอย่างขัติยามหาศาล | ||
อภิเศกพระราชกุมาร | ให้ขึ้นผานทวาลีบุรีรมย์ | ||
ถวายพระนามเหมือนพระราชบิดา | ว่าทวาลีราชองอาจสม | ||
พระเดชาปรากฎยศอุดม | ครองบรมธานีศรีโสภา | ||
จึงให้กุมารบุญธรรม์นั้นไปบวช | เล่าเรียนสวนพระคัมภีร์มีสิกขา | ||
เปนสามเฌรอู่กับพระครูบา | จันทสุบิงสมญาพระอาจารย์ ฯ | ||