จาก ตู้หนังสือเรือนไทย
ข้อมูลเบื้องต้น
แม่แบบ:เรียงลำดับ
ผู้แต่ง: สุนทรภู่
บทประพันธ์
ศรีสุวรรณรำพันรักและชมโฉมนางเกษรา
|
๏ เห่เอยเห่ละห้อย | | พราหมณ์น้อยศรีสุวรรณ | |
|
แรมสำนักตำหนักจันทน์ | | พระสุริยันสนธยา
|
ให้อาดูรพูนเทวศ | | ถึงแก้วเกษรา
|
ได้เห็นพักตร์ลักขณา | | ยังติดตาทุกนาฑี
|
ชมแท่นทองที่รองทรง | | ของอนงค์องค์บุตรี
|
หอมหวนยวนยี | | อยู่ในที่ไสยา
|
เผยพระแกลแลกระจ่าง | | เห็นเดือนสว่างในเวหา
|
ทรงกลดรจนา | | เหมือนนวลหน้าพระน้องนวล
|
อนาถหนาวเศร้าสร้อย | | ให้ละห้อยโหยหวน
|
นึกเห็นเมื่อเล่นสวน | | เลิศล้วนลักขณา
|
เนตรขนงวงวิลาศ | | พิศเพียงบาดนัยนา
|
พระกรรณแก้วแววตา | | ดังกลีบผกาโกมล
|
สองกรก็อ่อนชด | | ดังงอนรถพระสุริยน
|
ปรางประพระสุคนธ์ | | พิศเพียงผลลูกจันทน์
|
ทรวดทรงพระองค์อ่อน | | ดังอัปสรสาวสวรรค์
|
โกมุทบุษบัน | | ไม่เทียมถันประทุมา
|
โอฐสะอาดดังชาดจิ้ม | | เมื่อยามยิ้มดังเลขา
|
เมื่อเนตรน้องมาต้องตา | | ดังสายฟ้ามาฟาดทรวง
|
แสนรักสลักอก | | ยิ่งกว่ายกภูเขาหลวง
|
จะใคร่อุ้มพุ่มพวง | | มาแนบทรวงไสยา
|
ผิวเหลืองระเรืองรอง | | เหมือนเนื้อทองธรรมดา
|
แม้นสมรักจะลักพา | | ลงเภตรากางใบ
|
ดูเนื้อน่วมอยู่นุ่มนิ่ม | | จะชมชิมให้อิ่มใจ
|
แม้นลมดีจะคลี่ใบ | | แล่นไปในนที
|
จะปลอบประโลมโฉมฉาย | | ขึ้นนั่งบนท้ายบาหลี
|
แย้มสรวลยวนยี | | จะชวนชี้ให้ชมปลา
|
มีต่างต่างกลางทะเล | | ทั้งจรเข้เหรา
|
ฝูงกระโห้ทั้งโลมา | | เคลื่อนคลาอยู่ตามกัน
|
กุ้งกั้งแลมังกร | | สลับสลอนหลายพรรณ
|
นาคราชผาดผัน | | ปลาอำพันตะเพียนทอง
|
วาฬใหญ่ขึ้นไล่คู่ | | ผุดฟู่พ่นฟอง
|
เงือกงูดูคะนอง | | ลอยล่องชโลธร
|
กริวกราวก็เต้าตาม | | ฉนากฉลามสลับสลอน
|
คลาเคล้าสำเภาจร | | ในสาครรายเรียง
|
เกาะใหญ่ไม้ชะอุ่ม | | เป็นพุ่มพุ่มเคียงเคียง
|
เหมือนจอกน้อยลอยเรียง | | พิศเพียงจะเพลินใจ
|
นิ่งนึกจนดึกดื่น | | ถอนสะอื้นอาลัย
|
เคลิ้มระงับหลับไป | | อยู่ในห้องไสยา เอยฯ
|
| | |
|
นางสุวรรณมาลีบวช โดยมีสินสมุทรและอรุณรัศมีบวชตามมาอยู่ด้วย
|
๏ เห่เอยเห่กล่าว | | ถึงพระดาวบศนี | |
|
องค์สุวรรณมาลี | | บวชด้วยมีศรัทธา
|
กับสินสมุทรสุดสวาท | | อรุณราชนัดดา
|
อยู่เขารุ้งปลายทุ่งนา | | ออกนั่งหน้ากุฎี
|
แบ่งส่วนกุศลผลบุญ | | ให้องค์อรุณรัศมี
|
สาวสุรางค์นางชี | | แต่ล้วนมีศรัทธา
|
ตัดรักชักประคำ | | พึมพำภาวนา
|
เงียบสงัดวัดวา | | พระสุริยาเย็นรอนรอน
|
ชนีน้อยห้อยโหย | | วิเวกโหวยวิงวอน
|
จิ้งจอกออกหอน | | นกนอนรังเรียง
|
เริงร้องซ้องแซ่ | | คลอแคลกรีดเสียง
|
น่าดูเป็นคู่เคียง | | แอ่นเอี้ยงแอบอิง
|
แม่นกกกกอด | | ลูกพลอดวอนวิง
|
แจ้วแจ้วแก้วกะลิง | | จับที่กิ่งไทรทอง
|
นั่งชมโสมนัส | | กับหน่อกษัตริย์ทั้งสอง
|
พลบค่ำย่ำฆ้อง | | เดือนส่องสว่างตา
|
หอมดอกไม้ใกล้กุฏิ | | สาวหยุดมะลิลา
|
ยี่หุบบุบณา | | แย้มผกากลิ่นขจร
|
เย็นยะเยียบเงียบสงัด | | พระพายพัดมาอ่อนอ่อน
|
หึ่งหึ่งผึ้งภมร | | เชยเกสรสุมาลี
|
นิ่งระงับหลับตา | | อุตส่าห์รักษาอารมณ์
|
ถึงหอมระรื่นไม่ชื่นชม | | ตามเพศพรหมจรรย์ เอย ฯ
|
| | |
|
นางสุวรรณมาลี
|
๏ เห่เอยพระราชบุตร | | สินสมุทมุนี | |
|
กับอรุณรัศมี | | นั่งอยู่ที่หน้าชาลา
|
แย้มสรวลชวนกัน | | นั่งฉันน้ำชา
|
พูดเล่นเจรจา | | กับน้องยานารี
|
แขไขไตรตรัส | | เรืองจรัสรัศมี
|
ร่อนเร่ในเมฆี | | มาตรงที่แกลทอง
|
ถ้าเช่นนี้พี่เหาะได้ | | จะเหาะไปประคอง
|
ค่อยสอดกรช้อนตระกอง | | มาไว้ในห้องไสยา
|
เย็นชื่นดื่นดึก | | ลืมรำลึกภาวนา
|
ชวนพระน้องร้องสักรวา | | จนหลงว่าขึ้นดังดัง
|
โอ้ว่าเจ้าการะเกด | | ขี่ม้าเทศจะไปท้ายวัง
|
น้องห้ามไว้ก็ไม่ฟัง | | จะแทงฝรั่งลังกา
|
รู้สึกตัวกลัวกรรม | | ชักประคำภาวนา
|
เดือนส่องต้องศิลา | | ดังจินดาดวงดาว
|
ด้วยเขารุ้งรุ่งเรือง | | บ้างเขียวเหลืองแวววาว
|
แวมสว่างพร่างพราว | | อร่ามราวเพชรพลอย
|
พร่างพร่างน้ำค้างเหยาะ | | เผาะเผาะผอยผอย
|
ดาวก็เคลื่อนเดือนก็คล้อย | | จะเลื่อนลอยลับตา
|
เย็นยะเยียบเงียบสงัด | | พระพายพัดรำเพยพา
|
พระเพลินจิตไม่นิทรา | | แต่น้องยานั้นหลับไป
|
เดือนส่องผ่องเพียง | | จะแข่งเคียงแขไข
|
หลับสนิทจะพิศไหน | | งามวิไลลักขณา
|
นวลหน้าเหมือนการะเกด | | ดังดวงเนตรของเชษฐา
|
ถึงนางสวรรค์ชั้นฟ้า | | ไม่โสภาเทียมนวล
|
ชายใดแม้นได้นุช | | จะรักสุดแสนสงวน
|
ยิ้มเยื้อนเหมือนจะชวน | | ให้รัญจวนใจชาย
|
พิศเพ่งเล็งดูเดือน | | ละม้ายเหมือนกับเดือนหงาย
|
ฟ้าขาวดาวประกาย | | พฤกษาพรายโพยมมาล
|
เสียงดุเหว่าเร่าร้อง | | เสนาะก้องกังวาน
|
ไก่กระชั้นขันขาน | | วิเวกหวานวังเวง
|
เหมหงส์บุหรงร้อง | | ดังพาทย์ฆ้องประโคมเพลง
|
กลระฆังก็ดังเอง | | เสียงเหง่งเหง่งวังเวงใจ
|
ลมว่าวหนาวชื้น | | หอมระรื่นหฤทัย
|
งีบระงับหลับไหล | | ในที่ไสยา เอยฯ
|
| | |
|
สินสมุทรและอรุณรัศมี
|
๏ เห่เอยหน่อกษัตริย์ | | นางอรุณรัศมี | |
|
บวชเล่นเล่นก็เป็นชี | | กับฤๅษีพี่ยา
|
แอบชะอ้อนนอนเพลา | | ว่าพระเจ้าป้าจ๋า
|
พรหมจรรย์จรรยา | | เขาแปลว่าอันใด
|
พระเจ้าลุงพรุ่งนี้ | | จะมานีมนต์ไป
|
หลวงป้าไม่ว่าไร | | หรือจะไปตามคำ
|
ถามเท่าไรก็ไม่ตรัส | | สมาบัติบริกรรม
|
กลัวป้าอุตส่าห์ทำ | | ชักประคำภาวนา
|
ลืมมนต์เสียหมดสิ้น | | ด้วยหอมกลิ่นบุปผา
|
รสสุคนธ์มณฑา | | มะลิลาลมโชย
|
รื่นรื่นชื่นแช่ม | | กลิ่นนางแย้มยมโดย
|
ให้หวิวหวิวหิวโหย | | ร่วงโรยกำลัง
|
ประหลาดเหลือเมื่อไร | | จะได้เข้าไปในวัง
|
เสียงหริ่งหริ่งที่กิ่งรัง | | ฟังฟังยิ่งวังเวงง
|
จักรจั่นสนั่นเสนาะ | | ดังบัณเฑาะว์ดีดเพลง
|
กระดึงดังหงั่งเหง่ง | | ให้วังเวงวิญญา
|
ครั้นเย็นย่ำน้ำค้าง | | พร้อยพร่างพฤกษา
|
ลมเชยรำเพยพา | | ชื่นวิญญาเย็น เอยฯ
|
| | |
|
นางละเวงเดินไพร ควบม้าหนีพระอภัย
|
๏ เห่เอยเห่กล่าว | | ถึงลูกสาวเจ้าลังกา | |
|
โฉมลเวงวัณฬา | | ทรงอาชามากลางไพร
|
เลี้ยวหลงวงเดิน | | พนมเนินพนาลัย
|
แลเหลียวเปลี่ยวใจ | | วิเวกในดงตาล
|
เห็นแต่สัตว์จัตุบาท | | มฤคราชแรดฟาน
|
เสือสิงห์วิ่งทะยาน | | เสียงสะท้านสะเทือนดัง
|
นางหลีกลัดดัดเดิน | | แนวเนินพนมวัง
|
ให้หิวโหยโรยกำลัง | | จนม้าที่นั่งก็อ่อนแรง
|
แลดูพระสุริย์ฉาย | | ก็เบี่ยงบ่ายชายแสง
|
สุดสังเกตเขตแขวง | | ไม่รู้แห่งหนทาง
|
แลขวาเป็นป่าชัฏ | | ข้างซ้ายขัดภูเขาขวาง
|
ล้วนป่าสูงยูงยาง | | ไปตามหว่างศีขรินทร์
|
เป็นโกรกกรวยห้วยธาร | | หุบละหานเหวหิน
|
ฝูงปักษาเที่ยวหากิน | | บ้างโผบินร่อนเรียง
|
แจ้วแจ้วแก้วพลอด | | ฉอดฉอดฉ่ำเสียง
|
กระลุมภูเป็นคู่เคียง | | เค้าโมงเมียงมองแล
|
ฝูงอิลุ้มคุ่มขาบ | | กระจิบกระจาบจอแจ
|
นกออกเอี้ยงเคียงคับแค | | เสียงซ้อแซ้สนั่นไพร
|
โพรโดกนั้นโอกเสียง | | เสนาะสำเนียงนกตะไน
|
กินปลีเปล้าเขาไฟ | | จับกิ่งไม้มองเมียง
|
ไก่ฟ้าพระยาลอ | | ขันจ้อแจ้วเสียง
|
นกอุลอคลอเคียง | | กะเรียนเรียงรังนาน
|
ฝูงยางกรอกดอกบัว | | กระเต็นกระตั้วหัวขวาน
|
เบญจวรรณขันขาน | | บ้างบินผ่านโผจร
|
คุลาโห่โกกิล | | นกขมิ้นเหลืองอ่อน
|
เรียงจับสลับสลอน | | นางนวลนอนแนบนาง
|
บ้างเวียนวิ่งบนกิ่งไม้ | | บ้างซุกไซ้ปีกหาง
|
ชมเพลินเดินพลาง | | วิเวกวางเวงใจ
|
บาระบูนขุนแผน | | กระเวนกระแวนระวังไพร
|
ตัวเขียวเหยี่ยวตะไกร | | ไล่ลูกไก่เวียนวง
|
ที่เงื้อมเงาเขาสูง | | แต่ล้วนฝูงเหมหงส์
|
ปีกเจ้าอ่อนร่อนลง | | ประสานส่งสำเนียง
|
นกยูงเป็นฝูงฟ้อน | | เหมือนละครรำเรียง
|
กรีดกรายชะม้ายเมียง | | ประสานเสียงสนั่นดัง
|
สาลิกาสุวาที | | นกโนรีเรียงรัง
|
เหมือนนกเลี้ยงในเวียงวัง | | พระเนตรหลั่งหล่อชล
|
โอ้อกระหกระเหิน | | เคราะห์เผอิญอับจน
|
ม้าเลี้ยวหลงวงวน | | ไม่เห็นหนทางไป
|
ป่าระหงดงดึก | | สะพรั่งพฤกษาไสว
|
หอมระรื่นชื่นฤทัย | | ดอกไม้ไพรพนม
|
แก้วกุหลาบอังกาบแกม | | นางเด็ดแซมมวยผม
|
สร้อยฟ้าน่าชม | | ทั้งสุกรมยมโดย
|
บ้างบานตูมเป็นพุ่มพวง | | บ้างหล่นร่วงกลีบโรย
|
ทั้งพระพายชายไชย | | เกสรโปรยปรายมา
|
ทั้งรวยรินอินจันทน์ | | กะลำพันกฤษณา
|
เพลินพระทัยไคลคลา | | จนสุริยาเย็นรอนรอน
|
ครั้นถึงธารสะอ้านสะอาด | | เขาอังกาศสิงขร
|
จิ้งจอกออกเห่าหอน | | ในดงดอนดูมืดมัว
|
เสียงชะนีวิเวกโหวย | | ละห้อยโหยหาผัว
|
วังเวงน่าเกรงกลัว | | แลเห็นตัวอยู่ไรไร
|
เห็นที่แท่นแผ่นผา | | ที่ไสยาอาศัย
|
ลงจากม้าคลาไคล | | เข้านั่งใต้ไทรทอง
|
ด้วยล้าเลื่อยเหนื่อยนัก | | พระวรพักตร์หม่นหมอง
|
แล้วทรงเปลื้องสะไบกรอง | | นางปูรองกายา
|
ค่อยเอนองค์ลงบนอาสน์ | | พระเศียรพาดแผ่นผา
|
ให้หิวโหยโรยรา | | นิ่งนิทราตรอมใจ
|
เสียงจังกรีดกริ่ง | | หริ่งหริ่งเรไร
|
เคลิ้มระงับหลับไป | | ใต้ต้นไทรทอง เอยฯ
|
| | |
|
พระอภัยติดท้ายรถนางละเวงและพยายามตามเกี้ยว
|
๏ เห่เอยเห่บท | | เดินรถในราตรี | |
|
พระอภัยมณี | | นั่งที่ท้ายรถทรง
|
บุษบกกระจกกระจ่าง | | เห็นรางรางรูปทรง
|
คลุมประทมห่มองค์ | | เห็นแต่วงพักตรา
|
แม่ยอดหญิงพริ้งเพริศ | | วิลาศเลิศลักขณา
|
จะสะกิดก็ติดฝา | | สุดปัญญาสุดอาลัย
|
ยืนยิ้มอยู่ริมรถ | | รื้อระทดหฤทัย
|
หรือระงับหลับไหล | | ทำกระไรจะรู้ความ
|
นิ่งนึกเห็นดึกนัก | | เวลาก็สักสองยาม
|
คิดจะใคร่ไถ่ถาม | | ให้ขามขามในวิญญา
|
ยามประชวรกวนจิต | | จะเคืองคิดโกรธา
|
จึงถอยหลังรั้งรา | | เลียบไปหน้ารถชัย
|
พระถามธิดาสุลาลี | | พระชนนีเป็นไฉน
|
เขาบอกว่าหลับก็กลับไป | | ขึ้นยืนอยู่ใกล้แกลทอง
|
ผลักผลักสลักติด | | ก็คิดคิดเขม้นมอง
|
เสียงจังหรีดกระกรีดร้อง | | นึกว่าน้องจำนรรจา
|
เกาะเกาะพระเคาะแกล | | เป็นไรนะแม่วัณฬา
|
พี่มาแล้วนะแก้วตา | | จะรับรักษาทรามวัย
|
เย็นยะเยียบเงียบสำเนียง | | ได้ยินแต่เสียงเรไร
|
เสน่หาอาลัย | | มิได้ใกล้เคียงองค์
|
กลับมานั่งบังกาย | | อยู่ที่ท้ายรถทรง
|
พร่างพร่างกลางดง | | ต้นรังรงร่มครึม
|
พอเดือนเที่ยงเสียงผึ้ง | | หึ่งหึ่งระหึม
|
ทุกเงื้อมเขาเหงางึม | | ให้เศร้าซึมโศกา
|
พี่อุตส่าห์มาด้วย | | ก็มิได้ช่วยรักษา
|
หรือน้องแก้วแววตา | | สวรรคาลัยไป
|
ไม่ขออยู่จะสู้ม้วย | | จะตายด้วยแม่ดวงใจ
|
กอดพระกรถอนฤทัย | | วิเวกในดงดอน
|
เย็นยะเยียบเงียบสงัด | | พระพายพัดมาอ่อนอ่อน
|
รวยรินกลิ่นขจร | | หอมเกสรสุมาลี
|
ลั่นทมนมสวรรค์ | | ทั้งอินจันทน์จำปี
|
สร้อยฟ้าสารภี | | มลุลีหลายพรรณ
|
ทั้งยมโดยโรยริน | | ระรื่นกลิ่นมลิวัลย์
|
เหมือนกลิ่นเนื้อเจือจันทน์ | | สะอื้นอั้นอาลัย
|
ไฉนดีเจ้าพี่เอ๋ย | | จะได้เชยให้ชื่นใจ
|
อุตส่าห์ตามทรามวัย | | มาจนใกล้กัลยา
|
เพราะฝาติดอยู่นิดเดียว | | ให้เสียวเสียวเสน่หา
|
เขม้นมองที่ช่องฝา | | จะใคร่เห็นหน้าพระน้อง เอยฯ
|
| | |
|
พระอภัยมณีพยายามเข้าพบนางละเวง
|
๏ เห่เอยเห่เพลง | | โฉมลเวงวัณฬา | |
|
ทำหลับไหลไสยา | | จนล่วงมากลางดง
|
แลเห็นองค์พระอภัย | | เที่ยวเลียบไต่รถทรง
|
ทำความเพียรเวียนวง | | คิดก็สงสารเธอ
|
ช่างซื่อสุดบุรุษใด | | ไม่มีใครจะเสมอ
|
ช่างง่วงเหงาเฝ้าละเมอ | | ช่างไม่เก้อแก่ใจ
|
เห็นประจักษ์ว่ารักจริง | | สู้ทอดทิ้งทัพชัย
|
มิตอบถ้อยจะน้อยใจ | | ครั้นพูดไปจะเป็นทาง
|
ทั้งรักแค้นแสนเสียดาย | | สะอื้นอายอางขนาง
|
ทำประชวรครวญคราง | | จึงถามนางลาลีวัน
|
ถึงไหนแล้วนะแก้วตา | | แม่หลับมาแต่สายัณห์
|
เข้าป่าสาลวัน | | จักรจั่นจับใจ
|
เจ้าแม่เอ๋ยเคยนั่ง | | จะลุกยังไม่ไหว
|
ให้กลุ้มกลัดในหทัย | | เจ็บไข้ก็ไม่เคย
|
ลมว่าวก็เฝ้าพัด | | หนาวสาหัสแล้วลูกเอ๋ย
|
กลางไพรใครเลย | | จะให้เขนยหนุนนอน
|
ทั้งน้ำค้างก็ช่างสาด | | ใจจะขาดลงรอนรอน
|
ถึงสุวรรณบรรจถรณ์ | | จะได้นอนให้อุ่นทรวง
|
ชะกระไรพระจันทร์ | | ช่างดัดดั้นไปลับดวง
|
ฤๅลับเงาภูเขาหลวง | | ไม่โชติช่วงชัชวาลย์
|
แลก็ไม่เห็นหน | | ช่างมืดมนอนธการ
|
ดอกไม้ก็ไม่เบิกบาน | | จะได้สำราญฤทัย
|
เจ้าประดิษฐ์คิดขับ | | ให้เพราะจับจิตใจ
|
จะได้ระงับหลับไหล | | ให้สร่างในทรวง เอยฯ
|
| | |
|
นางละเวงใจอ่อน และนางสุลาลีวันยั่วเย้าและเอาใจช่วยพระอภัย
|
๏ เห่เอยธิดา | | โฉมสุลาลีวัน | |
|
รับสั่งบังคมคัล | | ขึ้นนั่งบนชั้นเกรินทอง
|
แกล้งประดิษฐ์คิดคำ | | ขับลำนำทำนอง
|
โอ้ยามค่ำย่ำฆ้อง | | ให้มัวหมองในวิญญา
|
จะแลชมพนมพนัส | | ไม่ถนัดนัยนา
|
ช่างมืดมิดทุกทิศา | | มืดทั้งฟ้าดินดง
|
โอ้ว่าพระศศิธร | | ช่างลอยร่อนรถทรง
|
แจ่มกระจ่างสว่างวง | | ส่องที่ตรงแกลทอง
|
เห็นพักตราหล้าโลก | | จะส่างโศกเศร้าหมอง
|
โหยหวนนวลละออง | | มณฑาทองที่ต้องใจ
|
ภุมรินบินค้อยค้อย | | มาเชยสร้อยสุมาลัย
|
มืดในก็จนใจ | | เที่ยวเลียบไต่ตอมดวง
|
โอ้เอ็นดูแมงภู่น้อย | | ให้เศร้าสร้อยโศกทรวง
|
ด้วยกลีบหุ้มพุ่มพวง | | ไม่โรยร่วงรสสุคนธ์
|
ขอเทวัญในชั้นฟ้า | | ทั้งเทวดาเดินหน
|
ช่วยโปรยปรายสายฝน | | ให้อุบลแบ่งบาน
|
ลมโชยระโรยกลิ่น | | หอมกระถินพิมาน
|
มณฑาผกากาญจน์ | | มาซาบซ่านทรวงเย็น
|
หอมประดู่อยู่ใกล้ใกล้ | | แลก็ไม่ใคร่เห็น
|
น้ำค้างพร่างสาดกระเซ็น | | ยะเยือกเย็นพะยอมไพร
|
หนาวลมจะห่มผ้า | | หนาวน้ำฟ้าจะผิงไฟ
|
หนาวทรวงนะดวงใจ | | เศร้าฤทัยระทวยทรง
|
ถึงเสื้อสวมนวมหุ้ม | | ไม่เหมือนอุ้มแอบองค์
|
หอมดอกไม้ที่ในดง | | ไม่เหมือนทรงสุคนธา
|
แป้งสดรสรื่น | | ไม่หอมชื่นในนาสา
|
เห็นอื่นอื่นไม่ชื่นตา | | เหมือนได้เห็นหน้าพระน้อง เอยฯ
|
| | |
|
เชิงอรรถ
ที่มา
[1]