บทละครนà¸à¸à¹€à¸£à¸·à¹ˆà¸à¸‡à¸ªà¸±à¸‡à¸‚์ศิลป์ชัย
จาก ตู้หนังสือเรือนไทย
การปรับปรุง เมื่อ 07:20, 20 สิงหาคม 2552 โดย CrazyHOrse (พูดคุย | เรื่องที่เขียน)
เนื้อหา |
ข้อมูลเบื้องต้น
แม่แบบ:เรียงลำดับ พระราชนิพนธ์: พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว
บทประพันธ์
ตอนที่ ๑ สังข์ศิลป์ชัยตกเหว
| ช้า | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ทั้งหกให้คิดริษยา | ||
| ต่างซุบซิบกันจำนรรจา | ใครมีปัญญาจงเร่งคิด | ||
| แม้นสังข์ศิลป์ชัยได้ไปเฝ้า | เห็นเราหกคนไม่พ้นผิด | ||
| ขนมทำมาให้ใส่ยาพิษ | มันไม่กินเหมือนจิตที่คิดไว้ | ||
| ฯ ๔ คำฯ | |||
| ร่าย | |||
| ๏ ศรีสันท์จึงว่าไปทันที | วันนี้สิงหราหาอยู่ไม่ | ||
| ไปเที่ยวหาอาหารที่ในไพร | ทิ้งสังข์ศิลป์ชัยไว้พลับพลา | ||
| เราจะยียวนชักชวนมัน | ไปเก็บพรรณผลไม้บนภูผา | ||
| ผลักให้ตกเหวมรณา | จึงกลับมาพาพระอาไป | ||
| อันนางสุพรรเทวี | จะพันมือพี่ไปที่ไหน | ||
| ต่างเห็นชอบชวนกันดีใจ | มาหาสังข์ศิลป์ชัยฉับพลัน | ||
| ฯ ๖ คำฯ เพลง | |||
| ๏ ลูบหลังลูบหน้าแล้วพาที | เรานี้จะพากันผายผัน | ||
| เก็บผลพฤกษาที่เขานั้น | มาให้สุพรรณกับพระอา | ||
| ฯ ๒ คำฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระสังข์ได้ฟังไม่กังขา | ||
| รับคำทั้งหกพี่ยา | กราบบาทพระอาแล้วว่าไป | ||
| ตัวหลานทั้งเจ็ดจะจรดล | ไปเก็บผลพฤกษาที่ใกล้ใกล้ | ||
| ทั้งสององค์จงอยู่พลับพลาชัย | ประเดี๋ยวใจจะมาให้พร้อมกัน | ||
| ว่าแล้วจัดแจงแต่งองค์ | พระหัตถ์ทรงสังข์ศรพระแสงขรรค์ | ||
| ทั้งเจ็ดองค์ลงจากพลับพลาพลัน | เจ้าศรีสันท์นำหน้าคลาไคล | ||
| ฯ ๖ คำฯ เชิด | |||
| ชมดง | |||
| ๏ ชี้ชมรุกขชาติดาษเดียร | เต็งตะเคียนยางยูงสูงไสว | ||
| มูกม่วงพวงผลแกว่งไกว | เฟื่องไฟไกรกร่างมะปรางปริง | ||
| พระสังข์ศิลป์ชัยหาไม้ง่าม | สอยผลสุกห่ามทุกก้านกิ่ง | ||
| ศรีสันท์ก้มเก็บก้อนดินทิ้ง | หล่นร่วงช่วงชิงกันไปมา | ||
| บ้างชักเชือกเขาเถาวัลย์ | ขึ้นผูกพันกิ่งไทรสาขา | ||
| ผลัดกันไกวเล่นเป็นชิงช้า | สรวลสันต์หรรษาสำราญใจ | ||
| พากันท่องเที่ยวเลี้ยวลอด | เลียบขึ้นบนยอดเขาใหญ่ | ||
| ต่างชวนพระสังข์ศิลป์ชัย | เล่นไล่ปิดตาหากัน | ||
| ฯ ๘ คำฯ เพลงฉิ่ง | |||
| ร่าย | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ศรีสันท์แสนกลคนขยัน | ||
| ทำมารยาว่าแก่พระสังข์พลัน | เจ้าถือศรพระขรรค์ไว้ทำไม | ||
| เราจะวิ่งเต้นเล่นสนุก | ฉวยล้มลุกพลาดพลั้งไม่ยั้งได้ | ||
| จะถูกเนื้อถูกตัวพี่กลัวไป | วางไว้เล่นแล้วจึงมาเอา | ||
| ฯ ๔ คำฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระสังข์ศิลป์ชัยไม่รู้เท่า | ||
| วางพระขรรค์ศรไว้ด้วยใจเบา | ที่ริมเงื้อมเขาสำคัญตา | ||
| แล้วจึงตามพี่ศรีสันท์ | ลดเลี้ยวไล่กันบนภูผา | ||
| หยิกหยอกหลอกล้อกันไปมา | เกษมสันต์หรรษาทั้งเจ็ดองค์ | ||
| ฯ ๔ คำฯ เพลงฉิ่ง | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระศรีสันท์ครั้นเห็นพระสังข์หลง | ||
| พาเที่ยวเลี้ยวเลียบเวียนวง | พบเหวดังประสงค์จำนงนึก | ||
| หยิบศิลามาทิ้งลงไปดู | เอียงหูคอยฟังไม่ดังกึก | ||
| ชะโงกตามลงไปใจทึกทึก | แลลึกเป็นหมอกมืดมัว | ||
| จึงร้องเรียกพระสังข์ศิลป์ชัย | มาดูเหวใหญ่มิใช่ชั่ว | ||
| ว่าพลางพรั่งพร้อมเข้าล้อมตัว | อย่ากลัวเลยพี่อยู่นี่แล้ว | ||
| ทำชี้โว้ชี้เว้ด้วยเล่ห์กล | ลางคนหลอกลวงว่าดวงแก้ว | ||
| ตรงมือนั่นแน่แลแววแวว | เห็นแล้วหรือยังถอยหลังไย | ||
| ต่างเข้ายืนเคียงเมียงเขม้น | ครั้งเห็นงวยงงหลงใหล | ||
| จึงผลักพระสังข์ศิลป์ชัย | ตกลอยลงไปในเหวนั้น | ||
| ฯ ๑๐ คำฯ เชิดฉิ่ง โอด | |||
| ๏ ต่างคนชื่นชมสมคะเน | หัวเราะร่าวฮาเฮเกษมสันต์ | ||
| พากันวิ่งกลับมาฉับพลัน | หาศรพระขรรค์ที่วางไว้ | ||
| ไม่พบเห็นเป็นอัศจรรย์จิต | ต่างคนต่างคิดสงสัย | ||
| เถียงกันอื้ออึงคะนึงไป | เมื่อที่ทางจำได้แน่นอน | ||
| หาพลางต่างโมโหพาโลกัน | คนนี้ว่าคนนั้นลักซ่อน | ||
| ค้นทั้งสองข้างหนทางจร | ไม่ได้ศรพระขรรค์ก็เสียใจ | ||
| ศรีสันท์จึงว่าแก่น้องยา | เรากลับไปพระอาจะถามไถ่ | ||
| ใครอย่าบอกออกความทั้งนี้ไซร้ | ซักซ้อมพร้อมใจแล้วไคลคลา | ||
| ฯ ๘ คำฯ เชิด | |||
| ๏ ครั้นถึงพระอาทำหน้าเศร้า | ก้มเกล้ากราบลงตรงหน้า | ||
| มิได้แถลงแจ้งกิจจา | ทำก้มพักตร์โศกาสะอื้นไป | ||
| ฯ ๒ คำฯ โอด | |||
| ๏ เมื่อนั้น | นางเกสรสุมณฑาศรีใส | ||
| เห็นหกนัดดาโศกาลัย | หลากใจไต่ถามมิทันช้า | ||
| เหตุผลอย่างไรไม่บอกแจ้ง | มาโศกศัลย์กันแสงไยนักหนา | ||
| พระสังข์ไปไหนจึงไม่มา | จงแจ้งกิจจาอย่าโศกี | ||
| ฯ ๔ คำฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ทั้งหกพี่น้องทำหมองศรี | ||
| เช็ดน้ำตาพลางทางพาที | เมื่อตะกี้หลานพากันเที่ยวไป | ||
| พระสังข์น้องรักเฝ้าชักชวน | รบกวนให้พาขึ้นเขาใหญ่ | ||
| แล้ววิ่งเต้นเล่นแข็งสุดใจ | ห้ามไม่ฟังเลยนะพระอา | ||
| ล้วนห้วยเหวเปลวปล่องทั้งสองข้าง | ข้าเดินนำทางไปข้างหน้า | ||
| พระสังข์ตามหลังหลานมา | ประเดี๋ยวเหลียวหาก็หายไป | ||
| ข้าทั้งหกคนเที่ยวค้นทั่ว | จะพบตัวน้องยาก็หาไม่ | ||
| แม้ตกเหวเหล่านั้นเห็นบรรลัย | หรือจะเป็นกระไรไม่แจ้งการณ์ | ||
| ฯ ๘ คำฯ เจรจา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | นางเกสรสุมณฑาฟังว่าขาน | ||
| ทั้งนางสุพรรณนงคราญ | ปิ้มปานชีวันจะบรรลัย | ||
| ต่างตระหนกอกสั่นขวัญหาย | ฟูมฟายชลเนตรหลั่งไหล | ||
| จึงว่าแก่นัดดายาใจ | ไปเล่นถึงไหนอย่างอำพราง | ||
| จงพาอาไปเที่ยวค้นดู | เกลือกจะหลงอยู่ในป่ากว้าง | ||
| แล้วลงจากพลับพลาทั้งสองนาง | ศรีสันท์นำทางจรจรัส | ||
| ฯ ๖ฯ เพลง | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ทั้งหกแสนกลคนขยัน | ||
| ครั้นถึงคีรีที่สำคัญ | ทำโศกศัลย์ทูลองค์พระเจ้าอา | ||
| พระสังข์ศิลป์ชัยมาสูญหาย | ที่ทางแคบเหวรายทั้งซ้ายขวา | ||
| หลานทั้งหกทุกคนเที่ยวค้นหา | ที่เหล่านี้หนักหนาไม่พบพาน | ||
| ฯ ๔ คำฯ เจรจา | |||
| โอ้ร่าย | |||
| ๏ เมื่อนั้น | นางเกสรสุมณฑายิ่งสงสาร | ||
| รุ่มร้อนหฤทัยดังไฟกาฬ | เยาวมาลย์ลดเลี้ยวเที่ยวมา | ||
| ค่อยย่องเหยียบเลียบลัดไปนอกทาง | สองนางเรียกร้องแล้วมองหา | ||
| ไม่ประสบพบองค์พระนัดดา | กัลยาครวญคร่ำร่ำไร | ||
| โอ้ว่าพระสังข์ศิลป์ชัยเอ๋ย | ไม่มาหาอาเลยไปอยู่ไหน | ||
| หรือว่าผีสางที่กลางไพร | ซ่อนพระสังข์ไว้กระมังนา | ||
| ขอให้พบพานพระหลานรัก | จะบวงสรวงเซ่นวักให้หนักหนา | ||
| ร่ำพลางนางทรงโศกา | ปิ้มว่าโฉมฉายจะวายปราณ | ||
| ฯ ๘ คำฯ โอด | |||
| ร่าย | |||
| ๏ เมื่อนั้น | เจ้าศรีสันทาจึงว่าขาน | ||
| จะโศกศัลย์อยู่เห็นไม่เป็นการ | เราคิดอ่านแยกย้ายรายกัน | ||
| เจ้าชาติจงไปด้วยพระอา | นางสุพรรณกับข้ามาผายผัน | ||
| เจ้าทั้งสี่นี้แยกไปทางนั้น | ช่วยกันดั้นด้นคว้า | ||
| และทำชะเง้อดูเงี่ยหูฟัง | เอ๊ะเสียงพระสังข์ร้องเรียกหา | ||
| ออกชื่อเจ้าสุพรรณกัลยา | เร็วเถิดอย่าช้ามาจะไป | ||
| ฯ ๖ คำฯ เจรจา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | นางสุพรรณยินดีจะมีไหน | ||
| จะใคร่พบพระสังข์ศิลป์ชัย | ก็เดินตามไปไม่คิดแคลง | ||
| ฯ ๒ คำฯ เพลง | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ศรีสันท์ทำเที่ยวเสาะแสวง | ||
| นำนางดำเนินคว้างแคว้ง | พาลัดแลงไปให้ไกลอา | ||
| เห็นที่สุมทุมพุ่มไม้ | ก็เข้าไปนั่งลงแล้วร้องว่า | ||
| หยุดนั่งนี่ก่อนเถิดกัลยา | จะได้ปรึกษาหารีอกัน | ||
| ฯ ๔ คำฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | นางสุพรรณไม่รังเกียจเดียดฉันท์ | ||
| คิดว่าเป็นวงศ์พงศ์พันธุ์ | ก็ไปนั่งลงพลันทันที | ||
| จึงว่าหยุดไยให้เนิ่นช้า | เหน็ดเหนื่อยหนักหนาเจียวหรือพี่ | ||
| รีบไปให้พบเสียเดี๋ยวนี้ | ช้านักชนนีจะคอยเรา | ||
| ฯ ๔ คำฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ศรีสันท์แสนกลร่ายมนต์เป่า | ||
| ยิ้มแย้มพูดจาคิ้วตาเพรา | นี่แน่เจ้าจะว่าให้ดีเจียว | ||
| ฯ ๒ คำฯ | |||
| ชาตรี | |||
| ๏ ปลื้มเอยปลื้มจิต | แม่อย่าคิดเคืองขุ่นฉุนเฉียว | ||
| พี่ยังเกรงกริ่งอยู่สิ่งเดียว | จะให้เที่ยวเหนื่อยเปล่าไม่เข้ายา | ||
| อันพระสังข์แม้นว่าข้าหาได้ | สินจ้างจะให้อะไรข้า | ||
| ถ้าพี่ได้สมจิตที่คิดมา | จะอุตส่าห์เที่ยวค้นจนสิ้นแรง | ||
| อันความที่พี่รักเจ้าหนักหนา | จริงจริงนะน้องอย่ากินแหนง | ||
| เรามานี่ที่ทางก็ลับแลง | พอเป็นพักเป็นแรงจึงค่อยไป | ||
| พลางขยดเข้าชิดสะกิดหลัง | จะปรานีพี่มั่งหรือหาไม่ | ||
| ทำและเลียมถูกต้องลองใจ | เจ้าถอยหนีพี่ใยกัลยา | ||
| ฯ ๘ คำฯ | |||
| ร่าย | |||
| ๏ เมื่อนั้น | นางสุพรรณเคืองแค้นเป็นหนักหนา | ||
| ลุกยืนขึ้นเสียงมิได้ช้า | แล้วว่าดูดู๋พี่เช่นนี้เจียว | ||
| ว่าจะพาเที่ยวหาสังข์ศิลป์ชัย | ลวงให้ตามมาถึงป่าเปลี่ยว | ||
| ช่างสับปลับอย่างนี้ทีเดียว | ด้านหน้ามาเกี้ยวไม่อายใจ | ||
| พาซื่อลือจิตคิดว่าพี่ | ธรรมเนียมมันมีอยู่ที่ไหน | ||
| ได้เห็นกันสินะไม่ละใคร | กลับไปจะทูลพระมารดา | ||
| ฯ ๖ คำฯ | |||
| โอ้โลม | |||
| ๏ น้องเอยน้องรัก | สุดที่พี่จะหักเสน่หา | ||
| เมื่อมาแต่หนุ่มสาวสองรา | ในกลางป่าค่าไม้เช่นนี้ | ||
| ถ้าเจ้ามิหย่อนผ่อนปรน | ใช่ว่านฤมลจะพ้นพี่ | ||
| จงคิดชั่งใจดูให้ดี | ไม่พอที่จะโกรธขึ้งตึงตัง | ||
| ถึงเจ้าจะว่าให้อารู้ | จะโบยตีพี่สู้เสียหลัง | ||
| ตายไหนตายไปคงไม่ฟัง | เอ็นดูพี่มั่งเถิดแก้วตา | ||
| อันพี่น้องครองกันแลยั่งยืน | ไม่เสียเรือนผู้อื่นดีหนักหนา | ||
| ว่าพลางเข้าใกล้ไขว่คว้า | อุ่ยหน้าอย่าหยิกจะป่วยไป | ||
| ฯ ๘ คำฯ | |||
| โอ้โลม | |||
| ๏ แสนเอยแสนแขนง | อย่าพักก่นกรรแสงเสียงแจ้ว | ||
| อันเจ้าจะพ้นมือพี่ไม่มีแวว | เม้นคลาดแคล้วไปได้มิใช่มือ | ||
| พี่ง้องอนวอนว่าแต่โดยดี | ไม่พอที่โกรธขึ้งอึงอื้อ | ||
| เพราะรักเจ้าหนักหนาจึงคร่ายื้อ | ควรหรือแก้วตาไม่ปรานี | ||
| จะมิให้ยืดไว้อย่างไรเล่า | เมื่อเจ้าคอยแต่จะวิ่งหนี | ||
| น่าชังดูเอาเฝ้าหยิกตี | จะถูกนิดก็มีแต่ฮึดฮัด | ||
| เป็นไรเป็นไปไม่ฟังกัน | จะประชันเรี่ยวแรงที่แข็งขัด | ||
| ว่าพลางสวมสอดกอดรัด | นางสะบัดหนีได้ไล่ตามมา | ||
| ฯ ๘ คำฯ เชิด | |||
| ร่าย | |||
| ๏ เมื่อนั้น | นางเกสรสุมณฑาจึงร้องว่า | ||
| เป็นเจ้าสุพรรณกัลยา | จึงร้องอึมาด้วยอันใด | ||
| ฯ ๒ คำฯ เจรจา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | นางสุพรรณทูลแข้งแถลงไข | ||
| อ้ายศรีสันท์มันพาข้าไป | ถึงพุ่มไม้ที่เปลี่ยวก็เกี้ยวพาน | ||
| ลูกแค้นขัดใจจะกลับมา | มันกั้นหน้าคร่ายื้อหักหาญ | ||
| ข้าสะบัดวิ่งหนีตะลีตะลาน | อ้ายหน้าด้านจัญไรมันไล่มา | ||
| ฯ ๔ คำฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ศรีสันท์ขึ้นเสียงเถียงต่อหน้า | ||
| ดูเถิดเจ้าสุพรรณช่างพูดจา | แกล้งพาโลข้าว่าคร่ายื้อ | ||
| เมื่อไรข้าได้ทำเช่นนั้น | มาล้วงตะกั่วกันเดี๋ยวนี้หรือ | ||
| เจ้าสิสันทัดได้หัดปรีอ | ข้าคนซื่อเช่นนี้ยังมิเคย | ||
| ไม่ได้เกี้ยวสักคำทำสักนิด | พาลผิดเปล่าเปล่าแม่เจ้าเอ๋ย | ||
| รู้กระนี้ไม่ไปด้วยใครเลย | จะนั่งเฉยอยู่นี่มิดีเจียว | ||
| ว่าข้าไล่มาใครอย่าเชื่อ | เพราะเห็นเสือตกใจวิ่งไม่เหลียว | ||
| เอออะไรช่างปดลดเลี้ยว | อย่าเชื่อนางข้างเดียววพระเจ้าอา | ||
| ฯ ๘ คำฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | นางสุพรรณตอบพลางทางชี้หน้า | ||
| ชะเจ้าคนดีศรีสันทา | ยังว่าไม่รับสับปลับจริง | ||
| พูดเลียบเปรียบเปรยถึงลูกผัว | ด้านหน้าแก้ตัวไปทุกสิ่ง | ||
| แต่แรกเจ้าง้องอนวอนวิง | อ้อยอิ่งเซ้าซี้พิรี้พิไร | ||
| ไม่คิดอายผีสางที่กลางดง | แทบจะก้มหัวลงกราบไหว้ | ||
| ครั้นเขาไม่ลุ่มหลงปลงใจ | เข้าไล่ฉวยฉุดยุดยื้อ | ||
| จะหยิกข่วนเท่าไรก็ไม่เจ็บ | นั่นมิใช่รอยเล็บของกูหรือ | ||
| ดูเถิดที่ต้นคอกับข้อมือ | ยังจะดื้อเถียงได้ไม่อายเลย | ||
| ฯ ๘ คำฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | เจ้าศรีสันทาทำหน้าเฉย | ||
| เมียงเมินหัวเราะเยาะเย้ย | เจ้าข้าเอ๋ยนางนี้ขี้พาโล | ||
| ค้าคารมลมเติบสุดใจ | เห็นเขาเกรงผู้ใหญ่ไม่ตอบโต้ | ||
| ครั้นว่าบ้างขัดใจร้องไห้โฮ | มีแต่โมโหไปข้างเดียว | ||
| เมื่อข้าสาละวนจะด้นป่า | ค้นคว้าหาน้องท่องเที่ยว | ||
| อุตส่าห์บุกเข้าไปในรกเรี้ยว | หนามเกี่ยวเป็นแผลไปทั้งตัว | ||
| ชะช่างว่าข่วนล้วนรอยเล็บ | เลือกเก็บเอามาว่าพอหน้าชั่ว | ||
| แต่เช่าเจ้ากระนี้มิอยากกลัว | ถ้าตัวต่อตัวมิพ้นไป | ||
| ยังกลับมาประกวดอวดแรง | ว่าข้าฉุดยุดแย่งเจ้าไม่ไหว | ||
| มาลองดูเดี๋ยวนี้ก็เป็นไร | ใครจะแรงกว่าใครให้เอาดู | ||
| จะถุ้งเถียงกันไปไม่ได้ข้อ | เขาจะหัวร่อน่าอดสู | ||
| คำบุรานท่านว่าไว้เป็นครู | ใครไขหูอดได้ก็ได้บุญ | ||
| ฯ ๑๒ คำฯ เจรจา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | นางเกสรสุมณฑาก็เคืองขุ่น | ||
| จึงว่าไอ้เจ้าเล่ห์เนรคุณ | ทุจริตคิดวุ่นไปโดยพาล | ||
| มิใช่ว่ากูไม่รู้เท่า | พูดแก้เปล่าเปล่าอ้ายหน้าด้าน | ||
| มึงเถียงได้ด้วยไม่มีพยาน | ทำหักหาญเห็นว่าข้ากลัวเกรง | ||
| เหตุเพราะนัดดากูสูญหาย | จึงจ้วงจาบหยาบคายข่มเหง | ||
| ชวนทะเลาะเกาะแกะครื้นเครง | ฝากไว้เถิดเอ็งเป็นไรมี | ||
| ฯ ๖ คำฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ศรีสันท์บ่นเถียงเสียงอู้อี้ | ||
| ส่วนนางสุพรรณกระนั้นดี | คนอื่นแล้วมีแต่ไม่จริง | ||
| เอออะไรนี่พอทีหรือ | เป็นเคราะห์เพราะซื่อต่อผู้หญิง | ||
| ท่านลงโทษโกรธขึ้งชังชิง | ถ้าเป็นจริงเหมือนว่าน่าเกิดความ | ||
| แม้นสังข์ศิลป์ชัยไม่สูญหาย | เห็นจะขายเราแน่ไม่พักถาม | ||
| แกล้งพูดเปรยเย้ยเยาะลวนลาม | บ่นบ้าไปตามอำเภอใจ | ||
| ฯ ๖ คำฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | เจ้าทั้งห้าคนคิดแก้ไข | ||
| กราบบาทพระอาแล้วว่าไป | พี่ศรีสันท์นี้ใจมุทะลุ | ||
| เป็นคนมักได้ใคร่มี | หนายช้าพาทีดึงดุ | ||
| เสียจริตกิริยาเป็นบ้ายุ | พูดกุกะไปไม่เกรงกลัว | ||
| อันใจข้าห้าคนนี้ซื่อแท้ | รักอาเหมือนแม่บังเกิดหัว | ||
| เจ้าสุพรรณนั้นนึกว่าน้องตัว | ศรีสันท์ทำชั่วไม่ชอบใจ | ||
| พระองค์จงอดโทษสักครั้งหนึ่ง | เรารีบไปให้ถึงกรุงใหญ่ | ||
| จะรัญจวนครวญคร่ำอยู่ทำไม | อันสังข์ศิลป์ชัยเห็นไม่มา | ||
| ฯ ๘ คำฯ | |||
| ธรณีร้องไห้ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | นางเกสรสุมณฑาละห้อยหา | ||
| จึงปรึกษาสุพรรณกัลยา | อยู่ช้าก็สำหรับจะอับอาย | ||
| สไบแม่กับช้องของโฉมยง | จะทำธงสำคัญมั่นหมาย | ||
| แม้นสังข์ศิลป์ชัยยังไม่ตาย | กลับมาดีร้ายจะพบพาน | ||
| แล้วหยิบช้องกับผ้ามาทำธง | ปักลงตั้งจิตพิษฐาน | ||
| ขอเทวาอารักษ์ทั้งจักรวาล | ช่วยบันดาลให้แจ้งกิจจา | ||
| แม้นว่าพระสังข์ยังอยู่ | จงมีผู้เอาของไปให้ข้า | ||
| ถ้าเจ้ามอดม้วยมรณา | ช้องกับภูษาจงสูญไป | ||
| สิ้นคำที่ร่ำพิษฐาน | เยาวมาลย์เศร้าสร้อยละห้อยไห้ | ||
| คิดถึงนัดดายิ่งอาลัย | ครวญคร่ำร่ำไรโศกา | ||
| ฯ ๑๐ คำฯ โอด | |||
| ร่าย | |||
| ๏ ครั้นค่อยคลายวิโยคโศกศัลย์ | ก็ชวนกันลงจากภูผา | ||
| ศรีสันท์นั้นนำมรคา | ดั้นดัดลัดมาในดงดาน | ||
| ฯ ๑ คำฯ เชิด | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ฝ่ายเจ้าสิงหรากล้าหาญ | ||
| เที่ยวไล่สัตว์สิงห์วิ่งทะยาน | เป็นลางบันดาลบอกเหตุภัย | ||
| ให้มึนตึงกายาตาเขม่น | จิตใจเยือกเย็นดังเป็นไข้ | ||
| คิดถึงพระสังข์ศิลป์ชัย | ก็แผลงฤทธิ์ฤทธิไกรกลับมา | ||
| ฯ ๔ คำฯ เชิด | |||
| ๏ ครั้นถึงเชิงเขาลำเนาเพลิน | จึงลงเดินลดเลี้ยวเที่ยวหา | ||
| ไม่เห็นที่ประทับพลับพลา | ทั้งพระอาน้องชายก็หายไป | ||
| นั่งนึกตรึกไตรให้รำคาญ | จะเกิดเหตุเภทพาลเป็นไฉน | ||
| หรือจะพากันรีบไปเวียงชัย | ที่จะหนีพี่ไปก็ใช่เชิง | ||
| คิดพลางทางเที่ยวสัญจรหา | บุกป่ากู้ก้องร้องเปิ่ง | ||
| แล้วขึ้นเขาเข้าค้นในวุ้งเวิ้ง | ทุกซุ้มเชิงรกเรี้ยวเที่ยวมองดู | ||
| เทวัญบันดาลให้ผายผัน | มาเห็นศรพระขรรค์ที่วางอยู่ | ||
| เอ๊ะเกิดเหตุแท้แล้วอกกู | จะมีผู้ทำร้ายแก่น้องยา | ||
| เป็นตายอย่างไรไม่แจ้งจิต | สุดคิดที่จะเที่ยวแสวงหา | ||
| ยิ่งคิดสร้อยเศร้าเปล่าอุรา | ก็โศกาครวญคร่ำร่ำไร | ||
| ฯ ๑๐ คำฯ โอด | |||
| ๏ แล้วฝืนจิตดำริตริตรองดู | จะนิ่งอยู่กระนี้ก็มิได้ | ||
| เมื่อไม่พบน้องน้อยกลอยใจ | จำจะไปทูลสองพระมารดร | ||
| คิดพลางทางทำอานุภาพ | ปากคาบพระขรรค์กับสังข์ศร | ||
| เผ่นโผนโจนเหาะขึ้นอัมพร | ตรงไปนครบรรพต | ||
| ฯ ๔ คำฯ เชิด | |||
| ๏ ครั้นถึงจึงลงจากอากาศ | ขึ้นปราสาทแก้วมรกต | ||
| กราบบาทสองนางพลางรันทด | พิไรร่ำกำสรดโศกี | ||
| ฯ ๒ คำฯ โอด | |||
| ๏ เมื่อนั้น | องค์พระมารดาทั้งสองศรี | ||
| เห็นมาร้องไห้ไม่สมประดี | เทวีคิดอัศจรรย์ใจ | ||
| ปลอบพลางทางถามมิทันช้า | เป็นไรมาโศกศัลย์กันแสงไห้ | ||
| มีเหตุเภทพาลประการใด | น้องรักอยู่ไหนจึงไม่มา | ||
| ฯ ๔ คำฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | สิงหราโศกศัลย์เป็นหนักหนา | ||
| จึงเล่าความตามเรื่องไปรับอา | แต่ต้นมาจนถึงกลางไพร | ||
| ทั้งหกเชษฐากับน้องรัก | ชวนกันหยุดพักในป่าใหญ่ | ||
| ลูกนี้โฉดเขลาเบาใจ | ลาสังข์ศิลป์ชัยไปหากิน | ||
| ครั้นกลับมาไม่เห็นพระน้องชาย | พากันสูญหายไปหมดสิ้น | ||
| ข้าค้นบนเขาเขินเดินดิน | พบแต่สังข์ศิลป์พระขรรค์ชัย | ||
| สุดที่จะคิดติดตามหา | ไม่รู้ว่าเกิดเข็ญเป็นไฉน | ||
| จึงรีบมาทูลแถลงให้แจ้งใจ | อันโทษตัวลูกไซร้ผิดนัก | ||
| ฯ ๘ คำฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | สองนางพ่างเพียงอกหัก | ||
| ชลเนตรฟูมฟองนองพักตร์ | นงลักษณ์ครวญคร่ำร่ำไร | ||
| ฯ ๒ คำฯ โอด | |||
| โอ้ | |||
| ๏ โอ้ว่าลูกรักของแม่เอ๋ย | แม่เคยเชยชิดพิสมัย | ||
| หรือมาพลัดพรากจากไป | เพราะเชื่อไอ้กระยาจกทั้งหกคน | ||
| อันความคิดของมันแม่รู้เท่า | ได้ห้ามปรามเจ้าเป็นหลายหน | ||
| ช่างไว้เนื้อเชื่อใจไอ้แสนกล | มันคนริษยาอาธรรม์ | ||
| เห็นว่ารับอามาได้แล้ว | จึงคิดฆ่าลูกแก้วให้อาสัญ | ||
| จะได้หน้าได้ตาแต่พวกมัน | ควรหรือจอมขวัญไปหลงรัก | ||
| อนิจจาลูกน้อยมาสูญหาย | จะเป็นตายฉันใดไม่ประจักษ์ | ||
| สองกรข้อนทรวงเข้าฮักฮัก | ซบพักตร์กันแสงโศกี | ||
| ฯ ๘ คำฯ โอด | |||
| ร่าย | |||
| ๏ ครั้นค่อยคลายวิโยคโศกศัลย์ | จึงปรึกษากันทั้งสองศรี | ||
| อันปราสาทราชฐานของเรานี้ | บังเกิดมีเพราะบุญพระโอรส | ||
| แม้นว่าขวัญข้าวเจ้าม้วยมรณ์ | เห็นบ้านเมืองสังข์ศรจะสูญหมด | ||
| ต่อจะยังไม่ทิวงคต | ก็ค่อยคลายกำสรดโศกา | ||
| ฯ ๔ คำฯ เจรจา | |||
| ลำจีน | |||
| ๏ มาจะกล่าวบทไป | ถึงจีนนายสำเภาล้าต้า | ||
| ใช้ใบจากกวางตุ้งมุ่งมา | จะเข้าเมืองปัญจาล์เวียงชัย | ||
| ต้นหนวางเข็มไม่สันทัด | ตกคุ้งลมขัดไม่ออกได้ | ||
| น้ำท่ากินกินก็สิ้นไป | จึงให้ทอดสมอรอรั้ง | ||
| ลูกเรือขันช่อสำปั้นลง | โล้ฝืนคลื่นตรงเข้าถึงฝั่ง | ||
| ต่างขึ้นบกไปมิได้ยั้ง | เอาถึงตักน้ำแล้วแบกมา | ||
| บ้างพากันเที่ยวไปในดง | เห็นธงปักอยู่บนภูผา | ||
| ชะรอยว่าใครเสียนาวา | จึงขึ้นปลดเอาผ้ากับช้อง | ||
| แล้วแยกย้ายรายค้นจนทั่ว | มิได้พบตัวคนเจ้าของ | ||
| ต่างกลับลงมาสัดจอง | โล้ล่องออกไปเภตราพลัน | ||
| ฯ ๑๐ คำฯ เชิด | |||
| ร่าย | |||
| ๏ ครั้งถึงจึงขึ้นบนสำเภา | ตรงเข้าบาหลีขมีขมัน | ||
| เอาผ้ากับช้องของสำคัญ | ส่งให้นายนั้นทันใด | ||
| ต่างคนบนบานอยู่เซ็งแซ่ | ที่ลมขัดพัดแปรมาให้ | ||
| คนงานกว้านสมอช่อใบ | แล่นไปในทะเลสะดวกดี | ||
| ฯ ๔ คำฯ โล้ | |||
| ช้า | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ฝ่ายท้าวเสนากุฎเรื่องศรี | ||
| สถิตแท่นไสยาในราตรี | ภูมีเร่าร้อนอาวรณ์ใจ | ||
| คิดถึงลูกรักทั้งหกองค์ | จะเดินดงยากเย็นเป็นไฉน | ||
| นับได้หลายเดือนแต่จากไป | หรือจะไม่พบอาจึงช้าวัน | ||
| คิดคะนึงถึงลูกยิ่งละห้อย | เคลื้มม่อยหลับไปเมื่อไก่ขัน | ||
| ทรงสุบินนิมิตอัศจรรย์ | พอรุ่งสุริย์ฉันก็ฟื้นองค์ | ||
| ฯ ๖ คำฯ | |||
| ร่าย | |||
| ๏ พระลุกจากแท่นที่ตะลีตะลาน | ภูบาลชำระสระสรง | ||
| ทรงเครื่องกกุธภัณฑ์บรรจง | เสด็จตรงออกพระโรงรจนา | ||
| ฯ ๒ คำฯ เสมอ | |||
| สิงโต | |||
| ๏ นั่งเหนือบัลลังก์รัตน์รูจี | พรั่งพร้อมเสนีทั้งซ้ายขวา | ||
| จึงตรัสเรียกโหรเฒ่าเข้ามา | แล้วบัญชาแจ้งความตามนิมิต | ||
| คืนนี้เราฝันประหลาดนัก | ว่าแก้วของเรารักดังดวงจิต | ||
| มีผู้เดชาศักดาฤทธิ์ | มาปลดปลิดชิงเอาของเราไป | ||
| นานมีชายหนึ่งแปลกหน้า | ไปนำดวงจินดามาคืนให้ | ||
| กลับได้หลายดวงล้วนชอบใจ | จงทายไปให้รู้ว่าร้ายดี | ||
| ฯ ๖ คำฯ | |||
| ร่าย | |||
| ๏ บัดนั้น | ขุนโหรรับสั่งใส่เกศี | ||
| ดูตามตำราในคัมภีร์ | เห็นว่าดีมั่นคงไม่สงกา | ||
| จึงประณตบทมาลย์แล้วทูลพลัน | ซึ่งทรงสุบินนั้นดีหนักหนา | ||
| ทั้งหกพระโอรสจะกลับมา | เห็นได้ดังจินดาอาสาไป | ||
| แต่ฝันวันอังคารนี้พาลร้าย | ตำราทายว่ามักให้หม่นไหม้ | ||
| จะเกิดเหตุสักอย่างในกลางไพร | เพียงแต่ตกใจไม่อันตราย | ||
| คงจะได้มาสองเสียหนึ่ง | อีกเจ็ดวันจะถึงพระฤาสาย | ||
| แม้นผิดจากถ้อยคำที่ทำนาย | ขอถวายชีวิตแก่ภูมี | ||
| ฯ ๘ คำฯ เจรจา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ท้าวเสนากุฏเกษมศรี | ||
| จึงตรัสสั่งทั้งสองเสนี | จงจัดแจงแต่งที่ปราสาทชัย | ||
| มโหรีปี่พาทย์ฆ้องกลอง | ทั้งบายศรีทองที่ทำใหม่ | ||
| งิ้วหุ่นโขนหนังจงสั่งไป | เตรียมไว้ให้เสร็จในเจ็ดวัน | ||
| แม้ว่าพระน้องกับลูกยา | มาถึงพาราจะทำขวัญ | ||
| ให้เล่นการมหรสพครบครัน | แต่ในวันนั้นเป็นฤกษ์ดี | ||
| ฯ ๖ คำฯ | |||
| ๏ บัดนั้น | เสนาประณตบทศรี | ||
| มาบัตรหมายบอกกันทันที | ตามมีพระราชบัญชา | ||
| ฯ ๒ คำฯ เจรจา | |||
| ๏ บัดนั้น | ฝ่ายหกกุมารโอรสา | ||
| พาอามาในอรัญวา | แรมค้างกลางป่าหลายราตรี | ||
| ศรีสันท์นั้นเฝ้าแต่เลียมและ | เห็นอาเมินเดินแซะเสียดสี | ||
| ทำเลียบเคียงพูดจาพาที | เสชมโน่นนี่มาตามทาง | ||
| ฯ ๔ คำฯ เพลง | |||
| ๏ ครั้นสุริยาเย็นลงรอนรอน | ชวนกันหยุดนอนในป่ากว้าง | ||
| สีไฟก่อนกองให้สองนาง | คอยระวังเสือสางที่กลางไพร | ||
| ฯ ๒ คำฯ เจรจา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | นางเกสรสุมณฑาศรีใส | ||
| ปัดกวาดผงไผ่ใต้ต้นไทร | แล้วหักใบไม้มารองนอน | ||
| สองนางเอนองค์ลงนิทรา | กลัวภัยภาวนาไม่หยุดหย่อน | ||
| คิดถึงนัดดายิ่งอาวรณ์ | เจ้าเคยแผลงศรเป็นพลับพลา | ||
| สิ้นบุญหลานน้อยกลอยใจ | ได้ลำบากอยากไร้หนักหนา | ||
| คิดพลางนางทรงโศกา | จนนิทราเคลิ้มหลับกับสุพรรณ | ||
| ฯ ๖ คำฯ ตระ | |||
| ลีลากระทุ่ม | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ศรีสันท์แสนกลคนขยัน | ||
| นั่งคิดนอนคิดทุกคืนวัน | จะเข้าหาสุพรรณกัลยา | ||
| ยังหวาดหวั่นพรั่นจิตอิดเอื้อน | ความรักตักเตือนให้ใจกล้า | ||
| ชะเง้อดูสุพรรณกับพระอา | เห็นนิทราหลับไหลได้ท่วงที | ||
| จึงกระซิบบอกใบ้ให้น้องรู้ | จงหลับนอนนิ่งอยู่อย่าอึงมี่ | ||
| ว่าแล้วค่อยย่องมองหมาย | วันนี้คงสมคะเนนึก | ||
| หยุดยืนแอบรกอกเต้นทึก | แล้วสะอึกแฝงเงาเข้าไป | ||
| ฯ ๘ คำฯ เชิงฉิ่ง | |||
| ร่าย | |||
| ๏ นั่งลงเคียงข้างนางสุพรรณ | จะถูกถือมือสั่นไม่ต้องได้ | ||
| ความรักกลัดกลุ้มคลุ้มใจ | ค่อยชักสายสไบเทวี | ||
| ฯ ๒ คำฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | นางสุพรรณรู้สึกนึกว่าผี | ||
| ตกใจลืมเนตรขึ้นทันที | เห็นอ้ายอัปรีย์ศรีสันทา | ||
| นางเคืองขัดวัดเหวี่ยงเอาล้มหงาย | ลุกขึ้นถ่มน้ำลายแล้วบ่นด่า | ||
| อันคนสัญชาติมันชั่วช้า | สุดแต่ว่าเอาด้านเข้าเป็นพื้น | ||
| เห็นเขาหลับไหลแล้วได้ที | กล้าดีมึงมาเมื่อตื่นตื่น | ||
| จะทำให้สาใจที่ไม่ลื้น | อย่าพักหนีไปยืนแอบไม้ | ||
| ฯ ๖ คำฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | นางเกสรสุมณฑาศรีใส | ||
| ผวาตื่นตระหนกตกใจ | จึงถามไถ่สุพรรณทันที | ||
| ครั้นรู้ว่าศรีสันท์มันลอบมา | นางโกรธาด่าทออึงมี่ | ||
| ทำลอบลักหักหาญถึงเพียงนี้ | อ้ายโจรป่ากล้าดีแล้วหนีไย | ||
| มึงช่างตั้งใจแต่ข่มเหง | จะคิดเกรงน้ำหน้าก็หาไม่ | ||
| เพี้ยงเอ๋ยผีสางที่กลางไพร | จะหักคอมันให้ขาดใจตาย | ||
| ฯ ๖ คำฯ เจรจา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ศรีสันท์ถุ้งเถียงเบี่ยงบ่าย | ||
| พระอาอย่างเคืองขุ่นวุ่นวาย | มาลงร้ายเอาข้าร่ำด่ายับ | ||
| หลานนอนอยู่ถึงโน่นทั้งหกคน | ประมาทลืมสวดมนต์ม่อยหลับ | ||
| ปีศาจมากวนปล้ำอำทับ | ให้ตะคล้ายตะคลับยังหลับดี | ||
| พึ่งรู้สึกตื่นขึ้นประเดี๋ยวนี้ | ไม่แกล้งว่าฟ้าผี่เถิดพระอา | ||
| นางสุพรรณนั้นละเมอว่าคนหยอก | เนื้อแท้ผีมันหลอกเหมือนเช่นข้า | ||
| จงนิ่งนอนสวดมนต์ภาวนา | อย่าโกรธาด่าทออื้ออึง | ||
| ฯ ๘ คำฯ เจรจา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | นางเกสรสุมณฑาโกรธขึ้ง | ||
| จึงว่าอย่างเสกสรรดันดึง | ไม่เชื่อน้ำหน้ามึงอ้ายสันทา | ||
| ดีแต่แก้ตัวไปทุกอย่าง | ใส่โทษผีสางช่างมุสา | ||
| เมื่อเขาเห็นมึงแน่อยู่แก่ตา | ยังด้านหน้าถุ้งเถียงขึ้นเสียงดัง | ||
| จะสู้อดไปกว่าจะสิ้นเคราะห์ | กูขี้คร้านทะเลาะกับบ้าหลัง | ||
| แล้วนางตั้งใจระไวระวัง | ผลัดกันนอนกันนั่งกับธิดา | ||
| ฯ ๖ คำฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ศรีสันท์ไม่สมปรารถนา | ||
| เดินยิ้มแก้เก้อเร่อมา | ปดน้องทั้งห้าเป็นคลอกไป | ||
| เมื่อกี้พี่เข้าหานางสุพรรณ | ได้พูดจากันเป็นไหนไหน | ||
| นางว่ารักพี่นี้สุดใจ | แต่ทรามวัยหากกลัวพระชนนี | ||
| ยังกำลังชุลมุนมุ่นหมก | พออาตกใจตื่นขึ้นเห็นพี่ | ||
| ฉวยข้อมือได้หาไม้ตี | เราเป่ามนต์สองทีลงง่วงงุย | ||
| แต่เงื้อเงื้อขยับแล้วกลับหยุด | พี่สะบัดมือหลุดออกวิ่งฉุย | ||
| กลิ่นสุพรรณนั้นยังติดหอมกรุย | ฮุ่ยหุยเจียวเจ้าอย่าบอกใคร | ||
| ฯ ๘ คำฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ทั้งห้ากลั้นยิ้มมิใคร่ได้ | ||
| หัวเราะพลางทางว่าอย่าปดไป | ข้ายังไม่หลับม่อยนั่งคอยฟัง | ||
| สารพัดได้ยินสิ้นสุด | จนนางด่าพึ่งหยุดเพราะมนต์ขลัง | ||
| ที่ว่าได้แอบอิงนั้นจริงจัง | หรือปดดอกกระมังพี่สันทา | ||
| ฯ ๔ คำฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ศรีสันท์พูดแชแก้หน้า | ||
| นางว่าให้มั่งชั่งเถิดหนา | ธรรมดาผู้หญิงกับผู้ชาย | ||
| ชวนหัวเราะคิกคักชักพูดอื่น | ไม่หลับนอนตึกดื่นจะตื่นสาย | ||
| ว่าพลางทางชวนกันเอนกาย | ศรีสันท์เล่านิยายจนหลับไป | ||
| ฯ ๔ คำฯ เจรจา ตระ | |||
| ๏ เสียงดุเหว่าเร่าร้องก้องป่า | สุริยาเลี้ยวเยี่ยมเหลี่ยมไศล | ||
| ต่างตื่นฟื้นกายสบายใจ | พาอาดั้นไพรไปธานี | ||
| ฯ ๒ คำฯ เชิด | |||
| ๏ รอนแรมมาได้หลายทิวา | ก็ลุถึงปัญจาล์กรุงศรี | ||
| พบพวกพหลมนตรี | ทั้งกำนัลขันทีมาคอยรับ | ||
| แต่บรรดาข้าหลวงแลขอเฝ้า | ก้มเกล้าอภิวันท์เป็นอันดับ | ||
| ชายหญิงแน่นนั่นคั่งคับ | เห็นเจ้ากลับมาได้ก็ยินดี | ||
| แล้วทูลเชิญทั้งสองกัลยา | ขึ้นทรงวอช่อฟ้าหลังคาสี | ||
| ทั้งหกองค์ทรงม้าพาชี | เสนีแห่แหนเข้าพารา | ||
| ฯ ๖ คำฯ กลอนโยน | |||
| ๏ บัดนั้น | พนักงานการเล่นทุกภาษา | ||
| ต่างโห่ฉาวกราวเชิดเป็นโกลา | ออกเต้นรำทำท่าทุกโรงงาน | ||
| ประชาชนพารามาเกลื่อนกล่น | นั่งแน่นริมถนนอลหม่าน | ||
| อวยชัยให้พรพระกุมาร | ชมบุญสมภาพออกแซ่ซ้อง | ||
| บ้างชะแง้แลดูวอสุพรรณ | เห็นม่านกั้นกำบังมาทั้งสอง | ||
| ต่างคิดสงสัยตั้งใจมอง | องค์หน้านั้นน้องเจ้าธานี | ||
| อันองค์นี้ที่เราไม่รู้จัก | ผิวพักตร์นวลละอองผ่องศรี | ||
| ต่อจะเป็นพระราชบุตรี | ชาวบุรีอวยพรกระฉ่อนไป | ||
| ฯ ๘ คำฯ เจรจา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ทั้งหกโอรสาศรีใส | ||
| แลดูเต้นรำสำราญใจ | ขับอาชาไนยไปตามทาง | ||
| ถึงประตูหูช้างข้างหน้า | ลงจากอาชาแล้วเยื้องย่าง | ||
| ชาวประโคมก็ประโคมดุริยางค์ | ประทับวอสองนางกับเกยลา | ||
| ฯ ๔ คำฯ เสมอ | |||
| ช้า | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระผู้ผ่านเขตขัณฑ์หรรษา | ||
| ลุกจากแท่นสุวรรณมิทันช้า | ไปรับองค์ขนิษฐายาใจ | ||
| ฯ ๒ คำฯ | |||
| ร่าย | |||
| ๏ จูงกรมานั่งยั่งแท่นทอง | สวมกอดพระน้องเข้าร้องไห้ | ||
| ฝูงนางสาวสรรค์กำนัลใน | ต่างซบพักตร์พิไรโศกี | ||
| ฯ ๒ คำฯ โอด | |||
| ๏ ครั้นรู้สึกสมประดีกาย | ค่อยคลายเศร้าหมองทั้งสองศรี | ||
| จึงปราศรัยน้องรักร่วมชีวี | เป็นบุญเราครั้งนี้ได้พบกัน | ||
| แต่วันยักษ์มันมาพาเจ้าไป | พี่เศร้าใจคิดว่าจะอาสัญ | ||
| แสนโศกโศกาไม่ราวัน | ทั้งพงศ์พันธุ์เงียบเหงาเศร้าใจ | ||
| อยู่จำเนียรกาลนานมา | พี่ฝันว่าน้องรักไม่ตักษัย | ||
| มันเลี้ยงเป็นมเหสีอยู่ในไพร | แม้นมีผู้ตามไปจะได้มา | ||
| พี่คิดจะติดตามนางโฉมยง | ทั้งหกองค์โอรสรับอาสา | ||
| ด้วยหลานของน้องรักทรงศักดา | จึงรับอามาได้ถึงบุรี | ||
| ความพี่มีจิตเกษมศานต์ | ดังได้ผ่านเมืองฟ้าราศี | ||
| เจ้าจากไปได้ถึงสิบแปดปี | นิจจาพี่เพียงแปลกพักตรา | ||
| จนเป็นเทื้อเนื้อหนังเหนียว | อยู่ไพรสณฑ์คนเดียวอนาถา | ||
| ยังค่อยผาสุกทุกทิวา | หรือโรคายายีพระน้องรัก | ||
| อันนางนฤมลคนนั้น | เป็นพงศ์พันธุ์ของใครไม่รู้จัก | ||
| รูปร่างละม้ายคล้ายเจ้านัก | นงลักษณ์จงเล่าให้เข้าใจ | ||
| ฯ ๑๔ คำฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ศรีสันท์ชิงทูลแถลงไข | ||
| นั่นชื่อสุพรรณทรามวัย | อรไทเป็นลูกพระเจ้าอา | ||
| บิตุเรศไปเล่นสกาพนัน | กับภุชงค์เดิมพันตามปรารถนา | ||
| พระยายักษ์นั้นกลับอัปรา | จึงยอมยกธิดาให้นาคี | ||
| อันองค์พระอากับขุนมาร | อยู่ถึงหิมพานต์เป็นถิ่นที่ | ||
| เนาในปราสาทรัตน์รูจี | อสุรีเรื่องอิทธิฤทธา | ||
| ได้รบกันกับลูกทั้งหกคน | มันยกรี้กรีพลมาหนักหนา | ||
| ข้าแผลงศรตายกลาดดาษดา | ทั้งกุมภัณฑ์ผัวอาก็วอดวาย | ||
| แล้วลูกลงไปเมืองนาคี | จะรับศรีสุพรรณผันผาย | ||
| ต้องรบกันกับนาคอีกมากมาย | ภุชงค์แพ้พ่ายถวายนาง | ||
| จึงได้องค์พระอากับสุพรรณ | พากันเดินมาในป่ากว้าง | ||
| เหลือกำลังดังชีวิตจะวายวาง | ทูลพลางทางดูพระเจ้าอา | ||
| ฯ ๑๒ คำฯ เจรจา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระบิตุเรศได้ฟังไม่กังขา | ||
| สั่นหัวกลัวฤทธิ์พระลูกยา | จึงว่ามิเสียแรงที่พ่อรัก | ||
| ทุกวันนี้บิดาก็แก่เฒ่า | จะเสกเจ้าให้ครองอาณาจักร | ||
| ว่าพลางทางเยื้อนเบือนพักตร์ | ตรัสทักหลานน้อยกลอยใจ | ||
| มาหาลุงถึงนี่ศรีสุพรรณ | อย่ารังเกียจเดียดฉันท์หาควรไม่ | ||
| ลุงพี่งรู้จักอรไท | อายุเจ้าเท่าใดนะหลานรัก | ||
| ฯ ๖ คำฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | นางสุพรรณนารีมีศักดิ์ | ||
| จึงคลานขึ้นไปด้วยใจภักดิ์ | นงลักษณ์ก้มกราบกับบาทา | ||
| แค้นด้วยศรีสันท์มันชิงทูล | ปดเป็นเค้ามูลได้ต่อหน้า | ||
| จะเถียงมั่งยังเกรงบิตุลา | นั่งก้มพักตราไม่พาที | ||
| ฯ ๔ คำฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ท้าวเสนากุฏเรืองศรี | ||
| ลูบหลังพระนัดดานารี | ภูมีพิศโฉมประโลมใจ | ||
| ผิวพรรณนรลักษณ์พักตรา | เหมือนพระมารดาดังเถือใส่ | ||
| จึงว่าชะรอยกรรมได้ทำไว้ | แต่เกิดมาก็ไม่เห็นพงศ์พันธุ์ | ||
| แล้วผินหน้ามาตรัสแก่พระน้อง | พี่จัดแจงข้าวของไว้ทำขวัญ | ||
| เราได้พานพบประสบกัน | ในวันนี้ไซร้เป็นฤกษ์ดี | ||
| เจ้าจงพาบุตรีกับหลานชาย | ไปชำระกายให้ผ่องศรี | ||
| แต่งองค์ทรงเครื่องเรืองรูจี | จะสมโภชเดี๋ยวนี้ทั้งแปดองค์ | ||
| ฯ ๘ คำฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | นางเกสรสุมณฑานวลหง | ||
| ให้ขัดเคืองหฤทัยนางโฉมยง | ด้วยศรีสันท์มันทะนงไม่เกรงใจ | ||
| ชิงพูดชิงจาน่าแค้นเหลือ | พระเชษฐษช่างเชื่อหลงใหล | ||
| ครั้นจะบอกความบัดนี้ไซร้ | พระพี่ที่ไหนจะเห็นจริง | ||
| มันจะรุมกันเถียงทะเลาะเล่น | จะกลับเป็นพูดเท็จไปทุกสิ่ง | ||
| ความไกลไม่มีที่อ้างอิง | นางนั่งนิ่งถอนใจไม่ไคลคลา | ||
| ฯ ๖ คำฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระปิ่นปักนัคเรศเชษฐา | ||
| ซ้ำตรัสเตือนองค์พระน้องยา | ปลอบโยนหนักหนาก็ไม่ไป | ||
| พระนั่งนิ่งนึกตรึกคะนึง | เป็นไรจึงเคืองขัดอัชฌาสัย | ||
| เห็นทีจะละห้อยน้อยใจ | ด้วยทรามวัยยังรักยักษ์สามี | ||
| ต่อนานไปให้ลืมเสียสักหน่อย | จึงจะค่อยเล้าโลมนางโฉมศรี | ||
| จะทำมิ่งสิ่งขวัญเสียวันนี้ | ให้ทันฤกษ์ดีดังใจปอง | ||
| คิดพลางทางมีบัญชาสั่ง | เสนากรมวังทั้งสอง | ||
| เร่งยกบายศรีแก้วบายศรีทอง | มาสมโภชพระน้องกับลูกรัก | ||
| ฯ ๘ คำฯ | |||
| ๏ บัดนั้น | จึงมหาเสนีมีศักดิ์ | ||
| รับสั่งภูวไนยด้วยใจภักดิ์ | ต่างวิ่งคึกคักออกมาพลัน | ||
| พนักงานของใครก็จัดแจง | ยกมาตั้งแต่งเป็นลดหลั่น | ||
| มโหรีปี่พากย์ครบครัน | เสร็จพร้อมสารพันดังบัญชา | ||
| ฯ ๔ คำฯ | |||
| ๏ บัดนั้น | ราชครูผู้มียศถา | ||
| ครั้นได้ฤกษ์ยามตามตำรา | ก็เข้ามาจุดเทียนแล้วกราบกราน | ||
| จึงส่งแว่นเวียนขวามาซ้าย | เจ้าขรัวนายคอยรับอยู่ริมม่าน | ||
| ให้ประโคมแตรสังข์กังสดาล | เสียงโห่สะท้านทั้งวังใน | ||
| ฯ ๔ คำฯ | |||
| ๏ ครบเจ็ดรอบคะแนนเวียนแว่นเวียน | เอาใบพลูดับเทียนโบกควันให้ | ||
| แล้วจุณเจิมเฉลิมขวัญเป็นหลั่นไป | ต่างอำนวยอวยชัยด้วยปรีดา | ||
| ฯ ๒ คำฯ เจรจา | |||
| ๏ บัดนั้น | ฝ่ายนายสำเภาที่ได้ผ้า | ||
| ใช้ใบมาถึงเมืองปัญจาล์ | ก็ทอดท่าท้ายคูพระบูรี | ||
| เห็นนาวาขึ้นล่องออกเซ็งแซ่ | จึงถามเหล่าชาวแพเจ้าภาษี | ||
| รู้ว่าพระองค์ทรงธรณี | ภูมีสมโภชพระน้องยา | ||
| พาณิชคิดจะถวายของ | จึงเปิดหีบหยิบช้องกับภูษา | ||
| จัดสรรพทุกสิ่งสินค้า | แต่บรรดาข้าวของที่ต้องการ | ||
| ขนลงสำปั้นน้อยค่อยพายไป | ขึ้นแพใหญ่กรมท่าหน้าบ้าน | ||
| มอบของให้เจ้าพนักงาน | พากันลนลานเข้าวังใน | ||
| ฯ ๘ คำฯ เชิด | |||
| ๏ ครั้นถึงจึงยกขึ้นไปพลัน | ตั้งไว้เรียงรันแล้วกราบไหว้ | ||
| พนักงานทูลถวายทันใด | ตามในจดหมายรายของนั้น | ||
| ฯ ๒ คำฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ทั้งหกแสนกลคนขยัน | ||
| เห็นผ้ากับช้องของสำคัญ | อ้ายนี่มันจะก่อให้เกิดความ | ||
| จึงวิ่งไปชิงช้องกับภูษา | ซ่อนใส่ในผ้าแล้วซักถาม | ||
| มึงเอาของจัญไรไม่งดงาม | มาถวายแต่ตามอำเภอใจ | ||
| จะเสียฤกษ์เสียพากูน่าถอง | อ้ายจองหองชั่วชาติอุบาทว์ใหญ่ | ||
| ชอบแต่ฆ่าฟันให้บรรลัย | ไสหัวออกไปเสียให้พ้น | ||
| ฯ ๖ คำฯ เจรจา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระบิดาหลากจิตคิดฉงน | ||
| จึงว่าแก่โอรสทั้งหกคน | เอาของเขาซ่อนซนเสียทำไม | ||
| ถึงมิงดมิงามก็ตามที | เขาจงรักภักดีเอามาให้ | ||
| เป็นเงินหรือทองของอะไร | อยู่ไหนเอามาพ่อจะดู | ||
| ฯ ๔ คำฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ทั้งหกอิดเอื้อนเยื้อนอยู่ | ||
| จึงว่าของจัญไรอะไรมิรู้ | พระบิดาอย่าดูให้เสียตา | ||
| ไม่เคยพบเคยเห็นเช่นนี้ | ผ้าผีผมพรายตายห่า | ||
| ชอบแต่ทิ้งเสียที่ป่าช้า | แล้วเฆี่ยนผู้เอามาให้สาใจ | ||
| ฯ ๔ คำฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | องค์พระบิตุรงค์ยิ่งสงสัย | ||
| ตรัสว่าเขามาแต่เมืองไกล | เคยให้ของข้าวเราทุกปี | ||
| ย่อมจะเห็นงามตามใจรัก | ผิดนักเจ้าว่าเป็นผ้าผี | ||
| ไปด่าทอเขานั้นมันไม่ดี | เอาผมผ้ามานี่นะลูกยา | ||
| ฯ ๔ คำฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ทั้งหกบิดพลิ้งนิ่วหน้า | ||
| จะขืนขัดกลัวพระจะโกรธา | ทั้งจริตกิริยาวุ่นวาย | ||
| ครั้นบิดรเตือนซ้ำต้องจำใจ | เอาช้องกับสไบเข้าไปถวาย | ||
| แล้วว่าของชั่วชาติอุบาทว์ร้าย | จงคืนให้ไปขายเสียเมืองไกล | ||
| ฯ ๔ คำฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ท้าวเสนากุฏเป็นใหญ่ | ||
| เห็นผ้ากับช้องต้องฤทัย | ภูวไนยแลเล็งเพ่งพิศ | ||
| สีสดงดงามหนักหนา | ใครเป็นเป็นน่าเจริญจิต | ||
| เนื้อหนังดังหนึ่งจะกำมิด | งามผิดผ้ามนุษย์ในแดนไต | ||
| กระนี้แล้วลูกยายังว่าชั่ว | บุญตัวได้เห็นเป็นลาภใหญ่ | ||
| ดูผ้าต้นผ้าทรงเราเสียไป | ราคาได้สักแสนตำลึงทอง | ||
| ประเสริฐกว่าเพชรนิลจินดา | จะทำขวํญกัลยาทั้งสอง | ||
| ว่าพลางส่งสไปให้พระน้อง | ยื่นช้องให้นัดดายาใจ | ||
| ฯ ๘ คำฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ทั้งสองนางต่างจำของตัวได้ | ||
| เห็นพระสังข์จะไม่บรรลัย | ช้องกับสไบจึงได้มา | ||
| นางเกสรสุมณฑายิ่งละห้อย | คิดถึงหลานน้อยเสน่หา | ||
| ชลนัยน์ซึมซาบอาบพักตรา | ต่างทรงโศกาไม่สมประดี | ||
| ฯ ๔ คำฯ โอด | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระเชษฐาธิราชเรืองศรี | ||
| ปลอบพลางทางถามนางเทวี | เจ้ากันแสงโศกีด้วยอันใด | ||
| พี่ให้ของสองสิ่งนี้ดีแท้ | ไม่ชอบใจหรือแม่จึงร้องไห้ | ||
| เจ้าเศร้าสร้อยน้อยฤทัย | จะประสงค์สิ่งไรจงบอกมา | ||
| ฯ ๔ คำฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | นางเกสรสุมณฑาเสน่หา | ||
| จึงทูลคดีพระพี่ยา | ใช่จะน้อยใจข้าด้วยผ้านี้ | ||
| อันสุพรรณกับน้องร่ำร้องไห้ | เพราะดิดถึงสังข์ศิลป์ชัยเรืองศรี | ||
| อุตส่าห์ไปรับข้ากับบุตรี | ได้รบอสุรีแลนาคา | ||
| ครั้นเสร็จแล้วพากันคลาไคล | บุกป่ามาในแดนยักษา | ||
| ท่านท้าววัณณุราชอสุรา | ช่วยพาเหาะข้ามชลาลัย | ||
| พบทั้งหกนี้ที่ฝั่งน้ำ | เขาทำซื่อตรงให้หลงใหล | ||
| ชักชวนพระสังข์ศิลป์ชัย | เที่ยวเก็บผลไม้ในแดนดง | ||
| แล้วกลับมาว่าเจ้าสังข์นั้นสูญหาย | ไม่รู้ว่าจะตายหรือจะหลง | ||
| จึงเอาของสองสิ่งนี้ทำธง | ข้าจำนงเสี่ยงทายเป็นเค้ามูล | ||
| เขาได้ผ้ากับช้องของน้องมา | เห็นแท้ว่าพระสังข์ยังไม่สูญ | ||
| จึงกันแสงโศกาอาดูร | น้องทูลทั้งนี้เป็นสัจจา | ||
| ฯ ๑๒ คำฯ | |||
| ๏ ได้เอยได้ฟัง | ออกชื่อพระสังข์ให้กังขา | ||
| จึงว่าประหลาดแล้วนะแก้วตา | เมื่อทั้งหกลูกยาอาสาไป | ||
| ใครเล่าเจ้าว่ายั่งยืน | อันคนอื่นนอกนี้หามิได้ | ||
| จะหาผู้เรืองอิทธิ์ฤทธิไกร | เหมือนเขาเหล่านี้ไซร้ไม่มีแล้ว | ||
| จึงผินหน้ามาถามั้งหกพลัน | ผู้ใดนั่นที่อาว่ากล้าแกล้ว | ||
| พ่อฟังมืดไปไม่ว่องแวว | ใครไปด้วยลูกแก้วจงบอกมา | ||
| ฯ ๖ คำฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ศรีสันท์แสร้งทำเป็นเมินหน้า | ||
| หัวเราะพลางทางทูลพระบิดา | นี่แลลูกยาเป็นจนใจ | ||
| ท่านว่าแล้วมิเชื่อก็จำเชื่อ | คือใครนั่นตัวเนื้ออยู่ที่ไหน | ||
| วาสนาอาภัพจึงลับไป | อย่าถามไถ่ข้าเลยพระบิดา | ||
| ฯ ๔ คำฯ | |||
| ๏ ลูกเอยลูกแก้ว | พ่อลงเนื้อเห็นแล้วที่เจ้าว่า | ||
| อันคนอื่นหมื่นแสนในโลกา | จะแกล้วกล้าเหมือนเจ้านั้นไม่มี | ||
| แล้วตรัสแก่ขนิษฐายาใจ | เจ้าลืมหลานไปหรือเมื่อกี้ | ||
| จึงแชเชือนเลื่อนไหลพาที | ทำให้พี่ลังเลสนเท่ห์ใจ | ||
| อันเจ้าว่าไม่น่าจะเชื่อฟัง | พระศิลป์พระสังข์อยู่ที่ไหน | ||
| หลานทั้งหกนี้แลที่ไป | รับเจ้ามาได้ถึงวังเวียง | ||
| ฯ ๖ คำฯ เจรจา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | นางเกสรสุมณฑาก็ทูลเถียง | ||
| เออช่างกระไรไม่ไล่เลียง | เมื่อความจริงแท้เที่ยงอยู่เช่นนี้ | ||
| น้องขอถามเนื้อความหลัง | แต่ข้ายังไปอยู่ด้วยยักษี | ||
| ที่ชื่อนางประทุมนารี | กับไกรสรเทวีทั้งสองนั้น | ||
| พระพี่รู้จักนางบ้างหรือไม่ | เขาว่าอรไทอยู่ไพรสัณฑ์ | ||
| อันลูกนางประทุมแจ่มจันทร์ | นามนั้นชื่อว่าสังข์ศิลป์ชัย | ||
| อีกเจ้าสิงหราลูกไกรสร | ทั้งสองทรงฤทธิรอนจะหาไหน | ||
| บอกว่าบิดาบัญชาใช้ | ให้ไปรับข้ามาธานี | ||
| เจ้าชักวงศ์พงศ์พันธุ์ให้รู้จัก | จึงแจ้งว่าหลานรักทั้งสองศรี | ||
| อันโอรสหมดแล้วหรือยังมี | พระพี่จงรำลึกตรึกตรา | ||
| ฯ ๑๐ คำฯ | |||
| ๏ ฟังเอยฟังความ | เอ๊ะงามจะจริงเหมือนเจ้าว่า | ||
| อันประทุมนั้นเมียของพี่ยา | อยู่ด้วยกันมาจนมีครรภ์ | ||
| ลูกคลอดผิดคนทั้งแผ่นดิน | มือถือสังข์ศิลป์แลพระขรรค์ | ||
| อีจัญไรไกรสรทาสีนั้น | ลูกมันชั่วจริงเป็นสิงหรา | ||
| โหรเฒ่าเขาว่าอุบาทว์เมือง | พี่แค้นเคืองขับไล่ไปเสียป่า | ||
| อ่ออ้ายลูกอีประทุมา | มันไปรับขนิษฐาไม่รู้เลย | ||
| แล้วถามโอรสเล่าตามเค้าเงื่อน | จริงเหมือนอาว่าหรือลูกเอ๋ย | ||
| พ่อหลับตาว่าเจ้าเฝ้าชมเชย | ไม่บอกให้รู้เลยแต่เดิมที | ||
| ฯ ๘ คำฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ศรีสันท์ขึ้นเสียงออกอึงมี่ | ||
| พระอามาเป็นได้เช่นนี้ | พาลรีพาลขวางทุกอย่างไป | ||
| เมื่อเดินป่าอาถามถึงความหลัง | ลูกเล่าให้ฟังจนสิ้นไส้ | ||
| จึงรู้จักชื่อเสียงสังข์ศิลป์ชัย | ช่างเอามาได้เป็นเนื้อตัว | ||
| แกล้งพูดเลี้ยวลดจะทดแทน | ที่เคืองแค้นลูกยาว่าฆ่าผัว | ||
| เอออะไรบาปกรรมก็ไม่กลัว | จะให้โทษแก่ตัวนี้ไม่แคล้ว | ||
| ฯ ๖ คำฯ | |||
| ๏ จอมเอยจอมขวัญ | อ่อกระนั้นดอกหรือนะลูกแก้ว | ||
| ได้รู้เพราะเจ้าเล่าจริงแล้ว | จึงชักเรื่องชักแถวเอาถูกความ | ||
| แล้วพระยิ้มเยื้อนเบือนพักตร์ | มาตรัสแก่น้องรักชักถาม | ||
| ศรีสันท์มันว่าพี่เห็นงาม | เขาบอกความหรือเจ้าจึงได้รู้ | ||
| อ้ายคนชั่วชาติอุบาทว์บ้าน | มานับเป็นลูกหลานรำคาญหู | ||
| พี่ขอเถิดอย่าเชิดชู | ชางเมืองเลื่องรู้จะเย้ยเยาะ | ||
| ฯ ๖ คำฯ | |||
| ๏ น่าเอยน่าแค้นเหลือ | เอออะไรช่างเชื่อเป็นมั่นเหมาะ | ||
| เลื่อนไหลไปด้วยอ้ายพูดเพราะ | นี่เนื้อเคราะห์เนื้อกรรมได้ทำไว้ | ||
| แน่เจ้าคนดีศรีสันทา | ช่างด้านหน้าขึ้นเสียงเถียงได้ | ||
| มึงเล่าให้กูฟังเมื่อครั้งไร | ยังกลับว่าผู้ใหญ่นี้พูดโกง | ||
| อวดกล้าว่าได้ไปรบยักษ์ | เอ็งอย่างพักมาดหมายคงตายโหง | ||
| กลัวแต่จะชิงวิ่งตะโกรง | โป้งโหยงพาทีไม่มีจริง | ||
| พวกมึงพึ่งบุญสังข์ศิลป์ชัย | พลอยไปซ่อนตัวอยู่หัวตลิ่ง | ||
| เห็นยักษ์มาผ้าผ่อนลงกองทิ้ง | พากันมุดหัววิ่งเข้าซุ้มรก | ||
| แล้วซ้ำคิดอ่านฆ่าหลานกู | เล่ห์กลก็รู้อยู่เต็มอก | ||
| กลับมาพูดอวดพ่อยอยก | พวกอ้ายโกหกเขาเห็นตัว | ||
| ฯ ๑๐ คำฯ | |||
| ๏ ฟังเอยฟังอาว่า | เจ้าศรีสันทาทำยิ้มหัว | ||
| มาใส่ถ้อยร้อยความเอาพันพัว | ออกเห็นตัวเห็นตนว่าคนเท็จ | ||
| เออมิใช่ฝีมือหรือวันนั้น | จนกุมภัณฑ์ผัวหัวขาดเด็ด | ||
| ลงนั่งกอดยักษาน้ำตาเล็ด | ออกขามเข็ดฤทธิ์ข้าจึงมาตาม | ||
| ลูกหลานที่ไหนเล่าเอามาว่า | พระบิดาฟังได้ไม่ซักถาม | ||
| สับปะติดสับปะต่อแต่พองาม | เป็นความแต้มแต่งจะแกล้งพาล | ||
| ฯ ๖ คำฯ | |||
| ๏ เจ็บเอยเจ็บจิต | กูไม่คิดแล้วว่ามึงเป็นหลาน | ||
| ลมลิ้นหยาบช้าสามานย์ | จะร้าวฉานพงศ์พันธุ์เพราะมันนี้ | ||
| จะตบมึงให้ได้ไอ้สุงสิง | แม้นฤทธิ์เดชดีจริงอย่าวิ่งหนี | ||
| ว่าพลางนางลุกขึ้นทันที | เข้าไล่ตบตีพัลวัน | ||
| ฯ ๔ คำฯ เชิด | |||
| ๏ แค้นด้วยพระพี่นี้สุดใจ | เอออะไรมาขวางกางกั้น | ||
| หลับตางมเงาเข้าด้วยมัน | ตัดญาติขาดกันแต่วันนี้ | ||
| ฯ ๒ คำฯ เจรจา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระเชษฐาเล้าโลมนางโฉมศรี | ||
| เท็จจริงจำว่าแต่โดยดี | มาด่วนทุบด่วนตีกันวุ่นวาย | ||
| ข้างโน้นอย่ามุทะลุกุกะ | พ่อจะเกลี่ยไกล่เสียให้หาย | ||
| ข้างนี้เป็นผู้ใหญ่อย่าใจร้าย | ไม่สงสารหลานชายเลยน้องรัก | ||
| ฯ ๔ คำฯ เจรจา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ทั้งหกมเหสีมีศักดิ์ | ||
| ให้วิตกอกใจทึกทัก | กลัวว่าลูกรักจะแพ้อา | ||
| ค่อยกระซิบพาทีกันที่นั่น | จำจะทูลแก้กันโอรสา | ||
| จะให้ท้าวเธอถามขุนโหรา | เขาจะได้ช่วยว่าให้เกลี่อนไป | ||
| แล้วหกนางต่างทูลพระสามี | น้องนี้หลากจิตคิดสงสัย | ||
| กัลยามาเป็นเช่นนี้ไซร้ | อย่าไว้ใจจงถามโหราดู | ||
| ฯ ๖ คำฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระสามีตรัสตอบว่าชอบอยู่ | ||
| เห็นเถียงกันฟั่นเผื่อเป็นเหลือรู้ | ว่าความาหลายคู่ไม่เช่นนี้ | ||
| แล้วมีสิงหนาทบัญชา | ตรัสเรียกโหราเข้ามานี่ | ||
| ท่านช่วยพิเคราะห์ดูให้เต็มที่ | เรานี้ยังพะวงสงกา | ||
| องค์พระน้องยาแต่มาถึง | ให้โกรธขึ้งหลานรักหนักหนา | ||
| ดูจริงเห็นผิดกิริยา | จะถูกต้องผีป่าหรืออย่างไร | ||
| ฯ ๖ คำฯ | |||
| ๏ บัดนั้น | โหรเฒ่าบังคมประนมไหว้ | ||
| จึงดูยามตามเคราะห์อรไท | ไม่มีเหตุเภทภัยสักสิ่งอัน | ||
| ครั้งจะทูลไปตามสัจจา | เห็นหกโอรสาจะอาสัญ | ||
| เราได้สินบนเขาคราวนั้น | จำจะช่วยผ่อนผันให้ชอบกล | ||
| คิดแล้วนบนิ้วประนมทูล | ข้าวางลัคน์หักคูณดูหลายหน | ||
| อันพระน้องนารีนีรมล | เป็นพิกลจริตจิตคลั่งไคล้ | ||
| เหตุเพราะยักษ์ร้ายที่วายปราณ | ประจำองค์นงครญให้หลงใหล | ||
| จงหาหมอหลวงทั้งปวงไซร้ | มาดูแลแก้ไขให้หลายตา | ||
| ฯ ๘ คำฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระผู้ผ่านนัคเรศเชษฐา | ||
| จึงตรัสว่าจริงแล้วนะโหรา | เราเห็นกิริยานั้นผิดที | ||
| ว่าพลางทางสั่งเสนาใน | หมอโรงเราเท่าไรเรียกมานี่ | ||
| แล้วแยกไปให้ทั่วธานี | หาคนทรงลงผีนั้นเข้ามา | ||
| ฯ ๔ คำฯ | |||
| ๏ บัดนั้น | เสนารับสั่งใส่เกศา | ||
| บ้างไปเรียกหมอนวดหมอยา | บ้างก็พายายเฒ่าเข้าไปพลัน | ||
| ฯ ๒ คำฯ เจรจา เชิด | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระผู้ผ่านนัคเรศเขตขัณฑ์ | ||
| จึงตรัสสั่งหมอหลวงทั้งปวงนั้น | จงช่วยกันแก้น้องกูลองดู | ||
| จะเป็นโรคอย่างไรไม่ประจักษ์ | เห็นละล่ำละลักประหลาดอยู่ | ||
| ให้ชิงชังทั้งหกลูกกู | ไม่แลดูหน้าตาเฝ้าด่าทอ | ||
| แม้นใครแก้หายคลายคลุ้มคลั่ง | กูจะตั้งให้เป็นกรมหมอ | ||
| เร่งทำตามวิชาอย่ารั้งรอ | ตั้งใจตั้งคอให้จงดี | ||
| ฯ ๖ คำฯ | |||
| ๏ บัดนั้น | หมอยาใคร่ครวญถ้วนถี่ | ||
| จึงกราบทูลพลันทันที | ไข้นี้มีพิษติดจะร้าย | ||
| ชื่อสันนิบาตเลือดให้เดือดดุ | ถ้าถวายยารุเห็นจะหาย | ||
| ลมกระทบหฤทัยไม่สบาย | จึงกระวนกระวายข้างภายใน | ||
| หมอนวดต้องลงตรงบาทา | แล้วว่าเส้นปัตคาดพอแก้ไข | ||
| จะต้องห่อใบส้มต้มกับไพล | ประคบให้เส้นสายกระจายดี | ||
| ฯ ๖ คำฯ เจรจา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ท้าวเสนากุฏเจ้ากรุงศรี | ||
| จึงตรัสสั่งยายท้าวทันที | จงเร่งลงผีไปตามเคย | ||
| ถ้าเอ็งแก้น้องของกูหาย | จะให้ลาภมากมายแล้วยายเอ๋ย | ||
| จะเป็นอย่างไรอยู่ไม่รู้เลย | นี่แน่เหวยอีมดอย่าปดกัน | ||
| ฯ ๔ คำฯ | |||
| ๏ บัดนั้น | นางท้าวไหว้ผีขมีขมัน | ||
| ประนมมือถือเทียนงกงัน | ทำตัวสั่นเทาเทาหาวเรอ | ||
| ฯ ๒ คำฯ กราวรำ | |||
| ๏ ฉวยขวดดื่มเหล้าจนเมามึน | ลุกขึ้นเต้นรำผย่ำเผยอ | ||
| ทำหน้าตาเบี้ยวบูดพูดเพ้อ | อ่อกุมภัณฑ์เกลอของกูมา | ||
| เอ็งอย่าอยู่ไม่ได้เร่งไปเสีย | มาโกรธขึ้งหลานเมียไยหนักหนา | ||
| เอาเป็ดไก่ไปกินเถิดเกลออา | แกล้งผูกพันมุสาใส่ไคล้ | ||
| ฯ ๔ คำฯ เจรจา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | นางเกสรสุมณฑาให้มันไส้ | ||
| ร้องด่าว่าเหวยอีจัญไร | ผีสางที่ไหนมาเข้ากู | ||
| มึงโกหกเห็นตัวหัวประสม | น้อยหรือลิ้นลมมาลบหลู่ | ||
| ว่าพลางนางฉวยลิ่มประตู | ไล่ต่อยหัวหูระยำไป | ||
| ฯ ๔ คำฯ เชิด | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระเชษฐาร้อนรนหม่นไหม้ | ||
| จึงปลอบโยนโอนอ่อนเอาใจ | จูงกรอรไทมาแท่นทอง | ||
| ไม่รักพี่แล้วหรือแก้วตา | เฝ้าโกรธาว้าวุ่นขุ่นหมอง | ||
| มาหลงใหลไม่ควรเลยนวลน้อง | พี่พิเคราะห์สอดส่องเห็นถ่องแท้ | ||
| เมื่อทั้งหกหลานรักผู้ศักดา | ไปรับมาจริงเจียวทีเดียวแม่ | ||
| กลับเคืองข้องสองตาก็ไม่แล | สุดที่พี่จะแก้ที่คลุ้มใจ | ||
| ฯ ๖ คำฯ เจรจา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | นางเกสรสุมณฑาแถลงไข | ||
| ถึงพระจะโกรธก็โกรธไป | เมื่อความจริงใจไม่เชื่อกัน | ||
| แม้นมิพบพระสังข์เหมือนดังจิต | เห็นชีวิตน้องยาจะอาสัญ | ||
| อันอ้ายทั้งหกไม่นับมัน | พงศ์พันธุ์อะไรจะคอยล้าง | ||
| ครั้นว่าไปก็เครื่องจะเคืองข้อง | มันข่มเหงน้องนี้ทุกอย่าง | ||
| เฝ้าเกี้ยวพานหลานสาวมากลางทาง | ทั้งพูดจาถากถางให้ได้อาย | ||
| สุพรรณมันด่าก็ไม่เจ็บ | ดูเถิดรอยเล็บยังไม่หาย | ||
| นี่หรือจะให้นับเป็นหลานชาย | สู้ตายไม่ขอเห็นหน้าตา | ||
| ฯ ๘ คำฯ | |||
| ๏ น้อยเอยน้อยหรือ | พี่หลงเชื่อถือมันหนักหนา | ||
| ช่างไม่ยำเกรงข่มเหงอา | หยาบช้าเช่นนี้ทีเดียว | ||
| แล้วด่าลูกหกคนป่นปี้ | มึงนี้ดีแต่จะแก้เกี้ยว | ||
| ขัดเขมรหมุนมาคว้าไม้เรียว | กระทืบบาทกราดเกรี้ยวจะทุบตี | ||
| ฯ ๔ คำฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ทั้งหกตกใจขยับหนี | ||
| ศรีสันท์ร้องทูลไปทันที | ซึ่งอาว่าทั้งนี้ไม่มีจริง | ||
| แต่แรกเถียงที่ข้อลูกไปรับ | ประเดี๋ยวใจไพล่กลับเป็นสุงสิง | ||
| แกล้งปรักปรำซ้ำเติมด้วยชังชิง | ถ้าเป็นจริงเหมือนว่าจงฆ่าฟัน | ||
| เมื่อครั้งเดินทางมากลางป่า | ข้ากลัวอาจะรังเกียจเดียดฉันท์ | ||
| มิได้ใกล้เคียงเจ้าสุพรรณ | ลูกรักษาตัวมั่นถึงขั้นนี้ | ||
| น้อยจิตคิดคิดแล้วน่าสรวล | มาว่าข้าลามลวนไม่ควรที่ | ||
| อันชู้เมียลูกไม่พอใจมี | จะบวชเสียมิดีหรือบิดา | ||
| ฯ ๘ คำฯ | |||
| ๏ ลูกเอยลูกรัก | พ่อไม่ประจักษ์จึงด่าว่า | ||
| เจ้าคนตรงงคนซื่ออย่าถืออา | จงงอนง้อพูดจาแต่โดยดี | ||
| แล้วตรัสแก่เยาวมาลย์หลานน้อย | เจ้าอย่าพลอยถือโทษโกรธพี่ | ||
| จงรักกันฉันญาตินะเทวี | บุญคุณเขามีแก่หลานรัก | ||
| ฯ ๔ คำฯ | |||
| ๏ แค้นด้วยพระพี่นี้สุดใจ | เอออะไรมาขวางกางกั้น | ||
| หลับตางมเงาเข้าด้วยมัน | ตัดญาติขาดกันแต่วันนี้ | ||
| ฯ ๒ คำฯ เจรจา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระเชษฐาเล้าโลมนางโฉมศรี | ||
| เท็จจริงจำว่าแต่โดยดี | มาด่วนทุบด่วนตีกันวุ่นวาย | ||
| ข้างโน้นอย่ามุทะลุกุกะ | พ่อจะเกลี่ยไกล่เสียให้หาย | ||
| ข้างนี้เป็นผู้ใหญ่อย่าใจร้าย | ไม่สงสารหลานชายเลยน้องรัก | ||
| ฯ ๔ คำฯ เจรจา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ทั้งหกมเหสีมีศักดิ์ | ||
| ให้วิตกอกใจทึกทัก | กลัวว่าลูกรักจะแพ้อา | ||
| ค่อยกระซิบพาทีกันที่นั่น | จำจะทูลแก้กันโอรสา | ||
| จะให้ท้าวเธอถามขุนโหรา | เขาจะได้ช่วยว่าให้เกลี่อนไป | ||
| แล้วหกนางต่างทูลพระสามี | น้องนี้หลากจิตคิดสงสัย | ||
| กัลยามาเป็นเช่นนี้ไซร้ | อย่าไว้ใจจงถามโหราดู | ||
| ฯ ๖ คำฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระสามีตรัสตอบว่าชอบอยู่ | ||
| เห็นเถียงกันฟั่นเผื่อเป็นเหลือรู้ | ว่าความาหลายคู่ไม่เช่นนี้ | ||
| แล้วมีสิงหนาทบัญชา | ตรัสเรียกโหราเข้ามานี่ | ||
| ท่านช่วยพิเคราะห์ดูให้เต็มที่ | เรานี้ยังพะวงสงกา | ||
| องค์พระน้องยาแต่มาถึง | ให้โกรธขึ้งหลานรักหนักหนา | ||
| ดูจริงเห็นผิดกิริยา | จะถูกต้องผีป่าหรืออย่างไร | ||
| ฯ ๖ คำฯ | |||
| ๏ บัดนั้น | โหรเฒ่าบังคมประนมไหว้ | ||
| จึงดูยามตามเคราะห์อรไท | ไม่มีเหตุเภทภัยสักสิ่งอัน | ||
| ครั้งจะทูลไปตามสัจจา | เห็นหกโอรสาจะอาสัญ | ||
| เราได้สินบนเขาคราวนั้น | จำจะช่วยผ่อนผันให้ชอบกล | ||
| คิดแล้วนบนิ้วประนมทูล | ข้าวางลัคน์หักคูณดูหลายหน | ||
| อันพระน้องนารีนีรมล | เป็นพิกลจริตจิตคลั่งไคล้ | ||
| เหตุเพราะยักษ์ร้ายที่วายปราณ | ประจำองค์นงครญให้หลงใหล | ||
| จงหาหมอหลวงทั้งปวงไซร้ | มาดูแลแก้ไขให้หลายตา | ||
| ฯ ๘ คำฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระผู้ผ่านนัคเรศเชษฐา | ||
| จึงตรัสว่าจริงแล้วนะโหรา | เราเห็นกิริยานั้นผิดที | ||
| ว่าพลางทางสั่งเสนาใน | หมอโรงเราเท่าไรเรียกมานี่ | ||
| แล้วแยกไปให้ทั่วธานี | หาคนทรงลงผีนั้นเข้ามา | ||
| ฯ ๔ คำฯ | |||
| ๏ บัดนั้น | เสนารับสั่งใส่เกศา | ||
| บ้างไปเรียกหมอนวดหมอยา | บ้างก็พายายเฒ่าเข้าไปพลัน | ||
| ฯ ๒ คำฯ เจรจา เชิด | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระผู้ผ่านนัคเรศเขตขัณฑ์ | ||
| จึงตรัสสั่งหมอหลวงทั้งปวงนั้น | จงช่วยกันแก้น้องกูลองดู | ||
| จะเป็นโรคอย่างไรไม่ประจักษ์ | เห็นละล่ำละลักประหลาดอยู่ | ||
| ให้ชิงชังทั้งหกลูกกู | ไม่แลดูหน้าตาเฝ้าด่าทอ | ||
| แม้นใครแก้หายคลายคลุ้มคลั่ง | กูจะตั้งให้เป็นกรมหมอ | ||
| เร่งทำตามวิชาอย่ารั้งรอ | ตั้งใจตั้งคอให้จงดี | ||
| ฯ ๖ คำฯ | |||
| ๏ บัดนั้น | หมอยาใคร่ครวญถ้วนถี่ | ||
| จึงกราบทูลพลันทันที | ไข้นี้มีพิษติดจะร้าย | ||
| ชื่อสันนิบาตเลือดให้เดือดดุ | ถ้าถวายยารุเห็นจะหาย | ||
| ลมกระทบหฤทัยไม่สบาย | จึงกระวนกระวายข้างภายใน | ||
| หมอนวดต้องลงตรงบาทา | แล้วว่าเส้นปัตคาดพอแก้ไข | ||
| จะต้องห่อใบส้มต้มกับไพล | ประคบให้เส้นสายกระจายดี | ||
| ฯ ๖ คำฯ เจรจา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ท้าวเสนากุฏเจ้ากรุงศรี | ||
| จึงตรัสสั่งยายท้าวทันที | จงเร่งลงผีไปตามเคย | ||
| ถ้าเอ็งแก้น้องของกูหาย | จะให้ลาภมากมายแล้วยายเอ๋ย | ||
| จะเป็นอย่างไรอยู่ไม่รู้เลย | นี่แน่เหวยอีมดอย่าปดกัน | ||
| ฯ ๔ คำฯ | |||
| ๏ บัดนั้น | นางท้าวไหว้ผีขมีขมัน | ||
| ประนมมือถือเทียนงกงัน | ทำตัวสั่นเทาเทาหาวเรอ | ||
| ฯ ๒ คำฯ กราวรำ | |||
| ๏ ฉวยขวดดื่มเหล้าจนเมามึน | ลุกขึ้นเต้นรำผย่ำเผยอ | ||
| ทำหน้าตาเบี้ยวบูดพูดเพ้อ | อ่อกุมภัณฑ์เกลอของกูมา | ||
| เอ็งอย่าอยู่ไม่ได้เร่งไปเสีย | มาโกรธขึ้งหลานเมียไยหนักหนา | ||
| เอาเป็ดไก่ไปกินเถิดเกลออา | แกล้งผูกพันมุสาใส่ไคล้ | ||
| ฯ ๔ คำฯ เจรจา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | นางเกสรสุมณฑาให้มันไส้ | ||
| ร้องด่าว่าเหวยอีจัญไร | ผีสางที่ไหนมาเข้ากู | ||
| มึงโกหกเห็นตัวหัวประสม | น้อยหรือลิ้นลมมาลบหลู่ | ||
| ว่าพลางนางฉวยลิ่มประตู | ไล่ต่อยหัวหูระยำไป | ||
| ฯ ๔ คำฯ เชิด | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระเชษฐาร้อนรนหม่นไหม้ | ||
| จึงปลอบโยนโอนอ่อนเอาใจ | จูงกรอรไทมาแท่นทอง | ||
| ไม่รักพี่แล้วหรือแก้วตา | เฝ้าโกรธาว้าวุ่นขุ่นหมอง | ||
| มาหลงใหลไม่ควรเลยนวลน้อง | พี่พิเคราะห์สอดส่องเห็นถ่องแท้ | ||
| เมื่อทั้งหกหลานรักผู้ศักดา | ไปรับมาจริงเจียวทีเดียวแม่ | ||
| กลับเคืองข้องสองตาก็ไม่แล | สุดที่พี่จะแก้ที่คลุ้มใจ | ||
| ฯ ๖ คำฯ เจรจา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | นางเกสรสุมณฑาแถลงไข | ||
| ถึงพระจะโกรธก็โกรธไป | เมื่อความจริงใจไม่เชื่อกัน | ||
| แม้นมิพบพระสังข์เหมือนดังจิต | เห็นชีวิตน้องยาจะอาสัญ | ||
| อันอ้ายทั้งหกไม่นับมัน | พงศ์พันธุ์อะไรจะคอยล้าง | ||
| ครั้นว่าไปก็เครื่องจะเคืองข้อง | มันข่มเหงน้องนี้ทุกอย่าง | ||
| เฝ้าเกี้ยวพานหลานสาวมากลางทาง | ทั้งพูดจาถากถางให้ได้อาย | ||
| สุพรรณมันด่าก็ไม่เจ็บ | ดูเถิดรอยเล็บยังไม่หาย | ||
| นี่หรือจะให้นับเป็นหลานชาย | สู้ตายไม่ขอเห็นหน้าตา | ||
| ฯ ๘ คำฯ | |||
| ๏ น้อยเอยน้อยหรือ | พี่หลงเชื่อถือมันหนักหนา | ||
| ช่างไม่ยำเกรงข่มเหงอา | หยาบช้าเช่นนี้ทีเดียว | ||
| แล้วด่าลูกหกคนป่นปี้ | มึงนี้ดีแต่จะแก้เกี้ยว | ||
| ขัดเขมรหมุนมาคว้าไม้เรียว | กระทืบบาทกราดเกรี้ยวจะทุบตี | ||
| ฯ ๔ คำฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ทั้งหกตกใจขยับหนี | ||
| ศรีสันท์ร้องทูลไปทันที | ซึ่งอาว่าทั้งนี้ไม่มีจริง | ||
| แต่แรกเถียงที่ข้อลูกไปรับ | ประเดี๋ยวใจไพล่กลับเป็นสุงสิง | ||
| แกล้งปรักปรำซ้ำเติมด้วยชังชิง | ถ้าเป็นจริงเหมือนว่าจงฆ่าฟัน | ||
| เมื่อครั้งเดินทางมากลางป่า | ข้ากลัวอาจะรังเกียจเดียดฉันท์ | ||
| มิได้ใกล้เคียงเจ้าสุพรรณ | ลูกรักษาตัวมั่นถึงขั้นนี้ | ||
| น้อยจิตคิดคิดแล้วน่าสรวล | มาว่าข้าลามลวนไม่ควรที่ | ||
| อันชู้เมียลูกไม่พอใจมี | จะบวชเสียมิดีหรือบิดา | ||
| ฯ ๘ คำฯ | |||
| ๏ ลูกเอยลูกรัก | พ่อไม่ประจักษ์จึงด่าว่า | ||
| เจ้าคนตรงงคนซื่ออย่าถืออา | จงงอนง้อพูดจาแต่โดยดี | ||
| แล้วตรัสแก่เยาวมาลย์หลานน้อย | เจ้าอย่าพลอยถือโทษโกรธพี่ | ||
| จงรักกันฉันญาตินะเทวี | บุญคุณเขามีแก่หลานรัก | ||
| ฯ ๔ คำฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | นางสุพรรณนารีมีศักดิ์ | ||
| ได้ฟังคั่งแค้นฤทัยนัก | นงลักษณ์จึงทูลไปทันที | ||
| อันสัญชาติทั้งหกเชษฐา | ข้าไม่ปรารถนานับว่าพี่ | ||
| อะไรช่างมุสาทั้งตาปี | เคยดื้อเถียงเช่นนี้นี่หลายครา | ||
| แต่วันเมื่อพระสังข์ศิลป์ชัยหาย | ต่างแยกย้ายรายค้นบนภูผา | ||
| ตัวหลานกับพี่ศรีสันทา | ไปเที่ยวหาสุมทุมพุ่มไม้ | ||
| พอถึงที่เปลี่ยวก็เกี้ยวพาน | ทำหักหาญฉุดคร่าคว้าไขว่ | ||
| ข้าหยิกข่วนหนักหนาไม่สาใจ | ยังวิ่งไล่มาจนชนนี | ||
| ครั้นพระมารดาข้าถาม | กลับพูดจาหยาบหยามเสียดสี | ||
| ข้านอนค้างกลางป่าพนาลี | ศรีสันท์นั้นมีแต่นึกร้าย | ||
| ลอบย่องเข้าหาข้าถีบเอา | ถูกเข้าที่อกหกล้มหงาย | ||
| ยังกลับขึ้นเสียงเถียงมากมาย | เห็นไม่มีชาติอายเท่าปลายเล็บ | ||
| สันดานด้านดื้อนี้สุดใจ | จะว่าอย่างไรก็ไม่เจ็บ | ||
| ทำไขหูสู้เถียงจนตาเย็บ | เติมแต้มแนมเหน็บไปทุกคราว | ||
| ฯ ๑๔ คำฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ศรีสันทาว่าชะนางน้องสาว | ||
| ช่างประดิษฐ์ติดต่อเป็นเรื่องราว | ว่ากล่าวสมอ้างไปข้างเดียว | ||
| สบประมาทกันเล่นเช่นนี้ | เออนี้เมื่อไรข้าได้เกี้ยว | ||
| เขาว่าใจผู้หญิงนี้จริงเจียว | ออกเป็นเขี้ยวเป็นเล็บไล่เก็บความ | ||
| ที่ว่าข้าย่องเบาเข้าไป | เจ้าจับได้หรือหนอจะขอถาม | ||
| เมื่อผีหลอกวันนั้นเจ้าครั่นคร้าม | ลุกวิ่งบุ่มบ่ามมาหาเรา | ||
| ยังอ้อยอิ่งวิงวินให้นอนเพื่อน | ข้าบิดเบือนอยู่จริงหรือไม่เล่า | ||
| ช่างกระไรว่าได้ก็ว่าเอา | คิดดูสิเจ้าอย่าเอนเอียง | ||
| เท็จจริงตามแต่ตระลาการ | เหนื่อยปากรำคาญขี้คร้านเถียง | ||
| ขอพระบิตุรงค์จงไล่เรียง | ถ้าใครเพลี่ยงอย่าได้ไว้ชีวิต | ||
| ฯ ๑๐ คำฯ เจรจา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ท้าวเสนากุฏรำคาญจิต | ||
| กอดเข่าตะลึงคะนึงคิด | ยิ่งฟังยิ่งผิดสังเกตนัก | ||
| ให้ฉงนสนเท่ห์โลเลใจ | จะจริงจังข้างไหนไม่ประจักษ์ | ||
| สุดปัญญาพาทีที่จะซัก | จำจะชักเกลี่ยไกล่ให้ดีกัน | ||
| คิดพลางทางตรัสแก่น้องยา | จงฟังคำพี่ว่าอย่าเดียดฉันท์ | ||
| จะตัดสินให้เป็นกลางทางธรรม์ | คำของเจ้านั้นยังเลื่อนลอย | ||
| ข้างเขาว่าได้ไปรับมา | เห็นยืนยันหนักหนาไม่ราถอย | ||
| ดูถ้อยคำสำนวนก็เรียบร้อย | ทั้งพี่ได้ใช้สอยให้เขาไป | ||
| ฝ่ายพระน้องยาว่าคนอื่น | หามีตัวยั่งยืนเข้ามาไม่ | ||
| เถียงกันเปล่าเปล่าเอาอะไร | ข้างเจ้าเป็นผู้ใหญ่ควรอดออม | ||
| จงหลับนอนให้สบายหายเจ็บหลัง | อย่างคลุ้มคลั่งฤทัยจะไผ่ผอม | ||
| อันอ้ายยักษ์คนโชโตเท่าพ้อม | จะทุกข์ตรอมถึงมันไปทำไม | ||
| ฯ ๑๒ คำฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | นางเกสรสุมณฑาน้ำตาไหล | ||
| กล่าวถ้อยตอบตัดด้วยขัดใจ | เถิดคะอย่าได้พูดจากัน | ||
| อกเอ๋ยเอออะไรช่างหลับตา | พิพากษาชี้แจงแบ่งบั่น | ||
| กระนี้แหละควรเห็นว่าเป็นธรรม์ | เข้ากันนี่กระไรจนไม่คิด | ||
| สิ้นบุญวาสนาสิ้นอาลัย | จะอยู่ไยให้ระกำช้ำจิต | ||
| เป็นตายไม่เสียดายแก่ชีวิต | จะสู้ติดตามองค์พระหลานชาย | ||
| ว่าพลางนางลุกจากแท่นที่ | ฉวยฉุดบุตรีมาผันผาย | ||
| ไหนไหนก็ในจะวอดวาย | อย่าอยู่ให้ได้อายเลยลูกยา | ||
| ฯ ๘ คำฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ท้าวเสนากุฏยุดหัตถา | ||
| จึงว่าพี่ไม่ให้เจ้าไคลคลา | อย่าโกรธาฮึดฮัดสะบัดมือ | ||
| แต่แม่ลูกสองคนจะด้นไป | ยังเห็นงามแก่ใจอยู่แล้วหรือ | ||
| จะทำให้ชาวเมืองเขาเลื่องลือ | ไม่ควรถือโกรธพี่เช่นนี้เลย | ||
| ซึ่งตัดสินนั้นผิดพึ่งคิดได้ | ขออภัยเสียเถิดนะน้องเอ๋ย | ||
| แล้วว่าหลานสาวผู้ทรามเชย | ไม่ห้ามมารดาเลยนี่อย่างไร | ||
| ฯ ๖ คำฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | นางเกสรสุมณฑาแถลงไข | ||
| อย่าห้ามน้องเลยคะคงจะไป | เห็นใจเสียแล้วที่ว่ารัก | ||
| จะเอาไว้ทำไมกับใบ้บ้า | ให้อับอายขายหน้าพระทรงศักดิ์ | ||
| ข้าคนเมามัวมันชั่วนัก | พระอย่าพักทำปลอบให้ชอบใจ | ||
| ถ้าแม้นมิพบพานพระหลานขวัญ | จะต้นตั้นไปกว่าจะตักษัย | ||
| มายื้อยุดฉุดคร่าข้าไว้ใย | อรไทเคืองขัดสะบัดมือ | ||
| ฯ ๖ คำฯ | |||
| ๏ น้องเอ๋ยน้องแก้ว | จะไปให้ได้แล้วจริงเจียวหรือ | ||
| จงหยุดยั้งปรึกษาหารือ | อย่าอึงอื้อหุนหันฟั่นเฟือน | ||
| ต่อย่ำรุ่งพรุ่งนี้จึงคลาไคล | พี่จะตามทรามวัยไปเป็นเพื่อน | ||
| แล้วร้องสั่งทั้งทหารพลเรือน | เร่งเตรียมไพร่ในเดือนประเดี๋ยวนี้ | ||
| ฯ ๔ คำฯ เจรจา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ทั้งหกอัคเรศมเหสี | ||
| จึงทูลทัดภัสดาสามี | จงคิดดูให้ดีที่จะไป | ||
| เมียเห็นกัลยายังคลุ้มคลั่ง | พระจะพลอยตึงตังไปข้างไหน | ||
| จะพากันบุกป่าเที่ยวหาคา | เมื่อมิใช่ลูกหลานว่านเครือ | ||
| อันเขตแคว้านไพรระหงดงดาน | ล้วนยักษ์มารผีสางช้างเสือ | ||
| มันจะมาจับกินสิ้นเลือดเนื้อ | เห็นไพร่พลไม่เหลือมานคร | ||
| พระมิห้าปรามจะตามใจ | เหมือนรบไปชมสวนเมื่อคราวก่อน | ||
| จนยักษ์มาพาไปได้ทุกข์ร้อน | ครั้งนี้ที่จะจรเมียหนักใจ | ||
| ฯ ๘ คำฯ | |||
| ๏ ปลื้มเอยปลื้มจิต | จริงแล้วพี่คิดขึ้นมาได้ | ||
| หาไม่ที่ไหนนั่นคงบรรลัย | อันบุญคุณเจ้าไซร้ไม่ลืมเลย | ||
| แล้วตรัสแก่ขนิษฐานารี | ตัวพี่ไม่ไปแล้วน้องเอ๋ย | ||
| พระอายใจผินหลังสั่งเปรย | อย่าเตรียมพลเลยนะเสนา | ||
| ฯ ๔ คำฯ | |||
| ๏ น่าเอยน่าหัวร่อ | เช่นนี้ดอกหนอพระเชษฐา | ||
| อย่างไรอยู่ดูผิดแต่ก่อนมา | ทั้งหลับตาแล้วซ้ำฟังคำเมีย | ||
| ช่างไม่อัปยศอดสู | แต่เขาขู่สำทับก็กลับเสีย | ||
| ต่อจะถูกกระทำยำเยีย | จีงเอียงเงี่ยไปข้างคนพูดเท็จ | ||
| เห็นสมเป็นกษัตริย์สุริย์วงศ์ | เคยณรงค์สงครามไม่ขามเข็ด | ||
| พระทัยกระไรกล้าดังเหล็กเพชร | ไม่เสด็จแล้วน้องจะขอลา | ||
| ลูกเอ๋ยอย่าช้ามาจะไป | ผิดชอบบรรลัยเสียในป่า | ||
| มายุดไว้ไยเล่าพระพี่ยา | ข่มเหงจริงยิ่งกว่าเจ้าหัวใจ | ||
| ฯ ๘ คำฯ | |||
| ๏ ขวัญเอยขวัญข้าว | ที่พี่จะทิ้งเจ้าอย่าสงสัย | ||
| ถึงมาตรแม้นชีวันจะบรรลัย | คงจะไปเป็นเพื่อนนางเทวี | ||
| แล้วมีสิงหนาทบัญชา | เหวยเหวยเสนาทั้งสี่ | ||
| เร่งตรวจเตรียมรี้พลมนตรี | ครั้งนี้กูจะไปจริงจริงแล้ว | ||
| พระเหลียวสั่งมเหสีโสภา | กับหกโอรสากล้าแกล้ว | ||
| อย่าตามบิตุราชคลาดแคล้ว | อยู่รักษากรุงแก้วเถิดลูกรัก | ||
| ว่าพลางทางเสด็จเข้าที่สรง | แต่องค์อึกทึกกึกกัก | ||
| คาดตะกรุดลงยันต์ไปกันยักษ์ | เอาแหวนถักพิรอดสอดนิ้วชี้ | ||
| จับพระแสงคู่มือถือเงื้อง่า | ถึงยักษ์มาเท่าไรก็ไม่หนี | ||
| แล้วชวนสองกัลยานารี | จรลีลงจากปราสาทชัย | ||
| ฯ ๑๐ คำฯ | |||
| ๏ ขึ้นบนเกยรัตน์ชัชวาล | ทวยหาญประนมบังคมไหว้ | ||
| เสด็จทรงคชสารมารประลัย | ทั้งสองอรไทนั้นทรงรถ | ||
| โขลนจ่าเถ้าแก่แลงานกลาง | กำนัลสองข้างในไปเกือบหมด | ||
| ช้างประเทียบเรียบรันเป็นหลั่นลด | ให้เคลื่อนทศโยธาคลาไคล | ||
| ฯ ๔ คำฯ เชิด | |||
| ๏ เทพเจ้าดลใจไพร่พล | ทั้งช่วยย่อย่นหนทางให้ | ||
| แต่ปัญจาล์มาเมืองสังข์ศิลป์ชัย | ทางไกลสามวันเป็นวันเดียว | ||
| กองหลวงล่วงลุมรคา | แดนบรรพตพาราป่าเปลี่ยว | ||
| สุริยาเย็นพยับลับเลี้ยว | คิดเกลียวกลัวภัยในไพรวัน | ||
| สั่งให้หยุดโยธีรี้พล | เร่งแบ่งคนตัดไม้ตั้งค่ายมั่น | ||
| ปลูกพลับพลาติดต่อให้พอกัน | หน้าที่ใครไม่ทันโทษถึงตาย | ||
| ฯ ๖ คำฯ | |||
| ๏ บัดนั้น | เสนาอภิวันท์แล้วผันผาย | ||
| เกณฑ์กันวุ่นไปทั้งไพร่นาย | บ้างตั้งค่ายบ้างจับทำพลับพลา | ||
| ฯ ๒ คำฯ เจรจา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระปิ่นปักนัคเรศเชษฐา | ||
| จึงชวนสองแจ่มจันทร์กัลยา | ขึ้นสู่พลับพลาพนาดร | ||
| ฯ ๒ คำฯ เสมอ | |||
| ๏ แล้วกำชับกำชาข้าเฝ้า | พลเราล้าเลื่อยเหนื่อยอ่อน | ||
| เกลือกจะมีภัยพาลมาราญรอน | อย่าเห็นแก่หลับนอนจงตรวจตรา | ||
| ครั้นล่วงเข้าปฐมยามก็ไสยาสน์ | ด้วยน้องนาฎนัดดาเสน่หา | ||
| พระตั้งใจสวดมนต์ภาวนา | จนนิทราหลับไหลในราตรี | ||
| ฯ ๔ คำฯ ตระ | |||
ตอนที่ ๒ ท้าวเสนากุฎเข้าเมือง
| ยานี | |||
| ๏ มาจะกล่าวบทไป | ถึงท้าวสหัสนัยน์โกสีย์ | ||
| ให้ร้อนอาสน์นักดังอัคคี | อัศจรรย์อย่างนี้มีเคยเป็น | ||
| ดีร้ายใต้หล้าจะเกิดเหตุ | จึงสอดส่องทิพเนตรสังเกตเห็น | ||
| สงสารสังข์ศิลป์ชัยได้ยากเย็น | ตกเหวเคืองเข็ญเป็นเคราะห์กรรม | ||
| นี่หากเทพเจ้าจอมผา | เขาเมตตามาช่วยอุปถัมภ์ | ||
| เห็นเวรเวราที่ได้ทำ | เราจำจะไปช่วยชีวิตไว้ | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ร่าย | |||
| ๏ คิดแล้วมีเทวบรรหาร | เรียกเทพบริวารน้อยใหญ่ | ||
| เหาะจากฟากฟ้าสุราลัย | พร้อมไปด้วยเทวดาเลว | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ โคมเวียน | |||
| ๏ ครั้นถึงเขาใหญ่ดังใจจง | อมรินทร์เหาะลงไปในเหว | ||
| อุ้มสังข์ศิลป์ชัยใส่บั้นเอว | แล้วขึ้นตามปล่องเปลวด้วยฤทธา | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เหาะ | |||
| ๏ วางองค์ลงเหนือยอดบรรพต | เอาน้ำทิพย์รินรดเกศา | ||
| ลูบไล้ไปทั่วทั้งกายา | พวกเทวานวดฟื้นให้บรรเทา | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ รัว | |||
| ๏ ที่เจ็บปวดหายฉิบดังหยิบทิ้ง | ทั้งรูปร่างงามยิ่งขึ้นกว่าเก่า | ||
| บ้างให้พรสอนสั่งบ้างหยอกเย้า | แล้วอุ้มเจ้าพาเหาะไปเวียงชัย | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เชิดฉิ่ง | |||
| ๏ ครั้นถึงจึงลงยังแผ่นดิน | อมรินทร์ชี้บอกหนทางให้ | ||
| แล้วสำแดงแผลงอิทธิ์ฤทธิไกร | คืนไปสถานพิมานฟ้า | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เชิด | |||
| ทองย่อน | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระสังข์ศิลป์ชัยโอรสา | ||
| ยุรยาตรานาดกรเข้าพารา | ตรงมาปรางค์แก้วแววไว | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เพลงช้า | |||
| ร่าย | |||
| ๏ เมื่อนั้น | สองพระชนนีศรีใส | ||
| เหลือบเห็นลูกน้อยกลอยใจ | อรไทไปรับด้วยยินดี | ||
| นางประทุมอุ้มองค์ขึ้นใส่ตัก | สวมกอดลูกรักกันแสงศรี | ||
| นางไกรสรโศกศัลย์พันทวี | สิงหราโศกีจนนิ่งไป | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ โอด | |||
| ๏ ครั้นค่อยคลายกำสรดเศร้าหมอง | พระมารดาทั้งสองก็ถามไถ่ | ||
| ลูกเอ๋ยเกิดเข็ญเป็นอย่างไร | จึงช้าไปไม่ถึงธานี | ||
| พี่เจ้าเอาพระขรรค์แลสังข์ศร | มาส่งให้มารดรยังกรุงศรี | ||
| แล้วบอกว่าพระอากับเจ้านี้ | มาถึงกลางพนาลีแล้วหายไป | ||
| ความแม่ทุกข์ร้อนอาวรณ์นัก | ครวญคร่ำร่ำรักเพียงตักษัย | ||
| คิดว่าจอมขวัญเจ้าบรรลัย | เป็นไฉนฉะนี้นะลูกยา | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| โอ้ลาว | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระสังข์โศกศัลย์เป็นหนักหนา | ||
| กันแสงพลางทางทูลพระมารดา | แต่ต้นจนมาถึงกลางดง | ||
| ด้วยเชษฐาทั้งหกเขาทำซื่อ | ลูกเชื่อถือรักใคร่ใหลหลง | ||
| มันพาชมเขาห้วยให้งวยงง | แล้วผลักตกลงในเหวลึก | ||
| เจ็บช้ำทั้งกายปิ้มวายชนม์ | ได้ทุกข์ทนพ้นที่จะตรองตรึก | ||
| อันจะรอดมาได้นั้นไม่นึก | แต่ครวญคร่ำรำลึกถึงมารดา | ||
| เดชะบุญญาของข้าไซร้ | จึงร้อนอาสน์เจ้าตรัยตรึงศา | ||
| อมรินทร์จากสถานพิมานมา | อุ้มข้าพาขึ้นจากเหวนั้น | ||
| ท่านเอาน้ำอำมฤตมาโสรจสรง | แล้วช่วยพามาส่งถึงเขตขัณฑ์ | ||
| เป็นกรรมของลูกเองมาตามทัน | ทั้งพลัดพรากจากกันกับบิดร | ||
| ตั้งแต่นี้ไปจะสิ้นทุกข์ | จะได้เป็นผาสุกสโมสร | ||
| เห็นบิดาจะมารับคืนนคร | พระมารดรจะเชื่อลูกเถิดรา | ||
| ฯ ๑๒ คำ ฯ | |||
| ร่าย | |||
| ๏ เมื่อนั้น | นางประทุมตอบองค์โอรสา | ||
| แม่กรวดน้ำเสียแล้วนะแก้วตา | จนชั้นแต่พักตราไม่ขอดู | ||
| เราอยู่นี่ดีกว่านะพ่อเอ๋ย | อย่าออกชื่อเขาเลยรำคาญหู | ||
| จะขืนไปใกล้เคียงคนศัตรู | มันจะกรูกันทำระยำยับ | ||
| ว่าพลางนางค่อยอุ้มประคอง | ลุกจากแท่นทองเข้าห้องหับ | ||
| วางองค์ลงบรรทมกอดประทับ | จงนอนหลับเสียเถิดอย่าพูดไป | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระสังข์อาวรณ์ถอนใจใหญ่ | ||
| บรรทมรำพึงคะนึงใน | คิดจะใคร่ได้พบกับบิดร | ||
| ครั้นจะจบชนนีเซ้าซี้ว่า | ก็กลัวจะโกรธาไม่โอนอ่อน | ||
| ให้รำสับรำสนทุรนร้อน | แต่นอนนอนกลิ้งกลับจนหลับไป | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ ตระ | |||
| จำปานารี | |||
| ๏ ครั้นรุ่งแสงสุริยาการ้อง | พระตื่นจากแท่นทองผ่องใส | ||
| เทวดาสื่อสนมาดลใจ | จะพาไปให้พบกับบิดา | ||
| พระเร่าร้อนจิตขุ่นฉุนเฉียว | คิดจะใคร่ไปเที่ยวประพาสป่า | ||
| จึงบังคมชนนีมีวาจา | ลูกรักจะลาไปเล่นไพร | ||
| ตะวันบ่ายชายแสงทินกร | จะรีบร้อนกลับมายังกรุงใหญ่ | ||
| ทำชะอ้อนพาทีพิรี้พิไร | พระองค์จงโปรดให้ลูกไคลคลา | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ร่าย | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระชนนีมีจิตเสน่หา | ||
| รับขวัญรำพันพูดกับลูกยา | จะไปป่าแม่นี้มิไว้ใจ | ||
| เกลือกอ้ายกระยาจกทั้งหกคน | จะเคลือบแฝงแต่งกลออกมาใหม่ | ||
| เจ้าจะกลับนับถือซื่อไป | มันจะซ้ำทำให้ได้เดือดร้อน | ||
| สิงหรามาถึงก็เจ็บป่วย | จะได้ใครไปด้วยช่วยสั่งสอน | ||
| แม่นี้มิใคร่จะให้จร | แต่แก้วตาว่าวอนก็จนใจ | ||
| พ่ออย่างหลงเล่นอยู่เย็นค่ำ | ฟังคำมารดาอัชฌาสัย | ||
| อย่าคบค้าสมาคมกับผู้ใด | จะระวังระไวไพรี | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระโอรสปรีดิ์เปรมเกษมศรี | ||
| เคารพรับคำด้วยยินดี | อัญชลีลาสองพระมารดร | ||
| แล้วชำระสระสรงทรงเครื่องทิพย์ | พระหัตถ์หยิบพระขรรค์แลสังข์ศร | ||
| ลงจากปราสาทแก้วแล้วรีบจร | ออกนอกพระนครเข้าพงไพร | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ พระดำเนินลดเลี้ยวเที่ยวมา | ชมพรรณพฤกษาสูงไสว | ||
| จึงผาดแผลงศรสิทธิ์ฤทธิไกร | เรียกสัตว์น้อยใหญ่มาฉับพลัน | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เชิดฉิ่ง เจรจา | |||
| ๏ บัดนั้น | เสนีนายพลคนขยัน | ||
| พาพวกพรานไพรใจฉกรรจ์ | เที่ยวด้นดั้นหาเนื้อในดงดาน | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ มาพบสัตว์จัตุบาทนานา | มฤคาโคกระทิงวิ่งพล่าน | ||
| เหลือบไปเห็นองค์พระกุมาร | งามโฉมเปรียบปานกับเทวัญ | ||
| แล้วจะเป็นพระสังข์กระมังหนา | ที่ว่าหายไปในไพรสัณฑ์ | ||
| จำจะถามนามวงศ์พงศ์พันธุ์ | ให้แม่นมั่นตระหนักประจักษ์ใจ | ||
| คิดพลางทางเดินเข้าไปหา | จึงมีวาจาปราศรัย | ||
| เจ้าเด็กน้อยนี้มาแต่แห่งใด | ช่างกระไรแกล้วกล้าน่ากลัวแทน | ||
| ป่ากว้างทางเปลี่ยวมาเที่ยวอยู่ | แต่ล้วนหมู่สิงห์สัตว์อัดแน่น | ||
| อันถิ่นฐานประเทศเขตแคว้น | อยู่ด้าวแดนตำบลหนใด | ||
| บิตุเรศชนนีพี่น้อง | เป็นพวกพ้องสุริย์วงศ์พงศ์ใหน | ||
| พระโฉมงามนามกรชื่อไร | จงบอกไปให้หมดอย่าปดกัน | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระสังข์ศิลป์ชัยมิได้พรั่น | ||
| จึงตอบว่ามึงนี้จองหองครัน | มาถามถึงพงศ์พันธุ์พูดเลอะเทอะ | ||
| เงือดเงื้อพระขรรค์ขึ้นสำทับ | มันน่าสับศีรษะให้หวะเหวอะ | ||
| ทุดอ้ายชาติข้าหน้าเคอะ | นี่มึงเซอะเซิงมาแต่แห่งใด | ||
| เอ็งเร่งกลับไปเสียเดี๋ยวนี้ | อย่าเซ้าซี้กูนะหาละไม่ | ||
| เขาว่าโดยดีแล้วมิไป | คัดมือคันไม้จริงจริงเจียว | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ๏ บัดนั้น | เสนีโกรธานัยน์ตาเขียว | ||
| จึงว่าลูกกระจิริดนิดเดียว | มากราดเกรี้ยวเอาผู้ใหญ่ได้ครื้นเครง | ||
| ลิ้นลมน่าต่อยสักร้อยโขก | โอกโขยกโป้งโหยงโฉงฉาง | ||
| อย่าอ้างอวดฤทธิไกรกูไม่เกรง | จะจับเอ็งไปถวายยังค่ายคู | ||
| แล้วขับไพร่ได้รุกบุกบัน | กลัวมันทำไมกับอ้ายหนู | ||
| บ้างล้อมหน้าล้อมหลังพรั่งพรู | บ้างกู่เรียกเพื่อนมาช่วยกัน | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระสังข์เคืองขุ่นหุนหัน | ||
| อ้ายพวกนี้จะมาให้ฆ่าฟัน | น้ำใจมันเหี้ยมฮึกบึกบึน | ||
| ใครเข้ามาก็รันด้วยคันศร | ล้มนอนนิ่งจุกลุกไม่ขึ้น | ||
| พระตีต้องตัวนายลงเมื่อยมึน | ไพร่ตื่นแตกครื้นกระจายไป | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ บัดนั้น | อำมาตย์บอบช้ำน้ำตาไหล | ||
| ผุดลุกคุกคลานเข้าแอบไม้ | ให้บ่าวพาหนีไปมิได้ช้า | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ ครั้นถึงค่ายหลวงไม่หน่วงหนัก | ยังหอบฮักลนลานชานถลา | ||
| ร้องทูลแถลงแจ้งกิจจา | ครั้งนี้ชีวาไม่รอดดอน | ||
| ข้าไปพบเด็กน้อยในไพรวัน | มือถือพระขรรค์กับสังข์ศร | ||
| ครั้นเข้าใกล้ไต่ถามนามกร | มันอ้างอวดฤทธิรอนเข้ารบรุก | ||
| พวกเราทั้งมากแทบมอดม้วย | ถูกด้วยคันศรลงนอนจุก | ||
| ต่างตะกายเสือกสนซนซุก | มันไล่รุกบุกบันกระชั้นมา | ||
| หรือยักษ์ดอกกระมังผิดสังเกต | ลูกนิดฤทธิ์เดชมันหนักหนา | ||
| ที่จะต่อสู้นั้นสุดปัญญา | ผ่านฟ้าระวังองค์ให้จงดี | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ท้าวเสนากุฏผุดลุกหนี | ||
| เอ๊ะตายจริงจังแล้วครั้งนี้ | ดีร้ายยักษีมันแปลงมา | ||
| งมเงาเอาชีวิตมาทิ้งเสีย | ที่ไหนเลยลูกเมียจะเห็นหน้า | ||
| เพราะเจ้าเกสรสุมณฑา | พาพี่มาฆ่าเสียจริงแล้ว | ||
| เมื่อมันเป็นยักขินีผีไพร | ใครจะสู้มันได้นะน้องแก้ว | ||
| เห็นคงจะบรรลัยนี้ไม่แคล้ว | จะกลับไปเสียแล้วย่าทานทัด | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ขนิษฐาฉวยฉุดยุดหัตถ์ | ||
| นางพิไรร่ำว่าสารพัด | ทั้งพ้อตัดแนมเหน็บให้เจ็บใจ | ||
| ตัวน้องเป็นหญิงยังนิ่งฟัง | ไม่ตึงตังตื่นเต้นเป็นไฟไหม้ | ||
| พระเชื้อชายประเสริฐเลิศไกร | น้ำพระทัยขลาดจริงยิ่งสตรี | ||
| ยังไม่ทันถามไถ่ว่าใต้เหนือ | แต่ออกชื่อว่าเสือจะวิ่งหนี | ||
| น้องเห็นว่ามิใช่ไพรี | ดูท่วงทีจะเป็นสังข์ศิลป์ชัย | ||
| แล้วเบือนพักตร์ซักถามเสนาพลัน | เจ้าคนนั้นยังเล็กหรือเด็กใหญ่ | ||
| สูงต่ำดำขาวสักราวไร | เห็นจะเป็นลูกไพร่หรือผู้ดี | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ | |||
| ๏ บัดนั้น | เสนาทูลสนองนางโฉมศรี | ||
| อันกุมารที่ข้าว่านี้ | เห็นทีจะเป็นหน่อกษัตรา | ||
| รูปโฉมโนมพรรณนั้นงามนัก | ละม้ายองค์ทรงศักดิ์พระเชษฐา | ||
| จะคราวกันกับหกกุมารา | ชันษาสิบสองสิบสามปี | ||
| ถ้าใครขืนต้านต่อฤทธิ์ | เห็นไม่รอดชีวิตจงคิดหนี | ||
| ข้าจะขอล่วงหน้าไปธานี | อย่าเซ้าซี้ซักไซ้อยู่ให้ช้า | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | นางเกสรสุมณฑาได้ฟังว่า | ||
| จึงห้ามหมู่อำมาตย์เสนา | ใครอย่าตื่นตระหนกตกใจ | ||
| อันกุมารนั้นหลานของข้าแน่ | เที่ยงแท้มั่นคงไม่สงสัย | ||
| ท่านช่วยนำมรคาพาไป | ให้เราได้พบพานพระหลานชาย | ||
| ขอเชิญภูวไนยไปด้วยกัน | อย่ากลัวตัวสั่นมาผันผาย | ||
| อนิจจายังขืนตื่นตะกาย | ช่างไม่อายสาวสรรค์กำนัลใน | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระเชษฐายิ้มแห้งแถลงไข | ||
| วันนี้แข้งขาเหน็บชาไป | จะคลาไคลสุดที่จะเหยียบยัน | ||
| ไปดูก่อนให้แน่เถิดแม่เอ๋ย | เจ้าเป็นคนคุ้นเคยกับหลานขวัญ | ||
| พี่จะคอยอยู่นี่ไม่หนีกัน | สุพรรณไปเพื่อนชนนี | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ขนิษฐาว่าดูน่าบัดสี | ||
| อกเอ๋ยมีแต่กล้าทั้งตาปี | ช่างพาทีแก้ไขไปร้อยคุ้ง | ||
| กลับจะใช้ให้น้องนี้ผันผาย | พระเป็นชายถอยหลังเหมือนดังกุ้ง | ||
| สุพรรณฟังเถิดซิสำนวนลุง | จะใคร่แย่งให้ยุ่งเยินยับ | ||
| เชิญไปพอเป็นเพื่อนอย่าเชือนช้า | ถ้าเกิดเหตุสัญญาให้ท้าวปรับ | ||
| เราจะแอบมองดูอยู่ลับลับ | แม้นมิใช่จึงกลับมาพลับพลา | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ท้าวเสนากุฏจึงตรัสว่า | ||
| จะไปก็ไปสิแก้วตา | แต่ขอให้ข้านี้เดินกลาง | ||
| เจ้าเป็นคนรู้จักมักจี่ | จงเดินนำหน้าพี่ไปห่างห่าง | ||
| แล้วลงจากพลับพลากับสองนาง | ให้เสนีนำทางจรจรัล | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เพลง | |||
| ๏ บัดนั้น | อำมาตย์ยังกลัวตัวสั่น | ||
| พาลัดเลาะไปในไพรวัน | ครั้นถึงที่สำคัญค่อยแอบดู | ||
| จึงกระซิบทูลนางพลางเขม้น | นั่นแน่แลเห็นไวไวอยู่ | ||
| นี่แล้วหรือไรนะโฉมตรู | จงดูให้แน่เถิดแม่คุณ | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระเชษฐาคร้ามจิตสะกิดวุ่น | ||
| ถ้าผิดองค์จงบอกพี่เอาบุญ | จะได้หมุนไปก่อนได้ซ่อนตัว | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | นางเกสรสุมณฑาให้คันหัว | ||
| จึงว่านี่อะไรตั้งใจกลัว | จะหนีตัวออกวิ่งทิ้งกัน | ||
| ว่าพลางนางลอบเขม้นมอง | ดูทำนองเห็นเป็นพระหลานขวัญ | ||
| แล้วเทวีชี้ช่องให้สุพรรณ | จงช่วยกันดูแลให้แน่ใจ | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ โอด | |||
| ๏ ต่างจำสำคัญได้มั่นคง | ก็วิ่งตรงเข้ามาหาช้าไม่ | ||
| สวมสอดกอดองค์สังข์ศิลป์ชัย | แล้วร้องไห้ไม่เป็นสมประดี | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ โอด | |||
| ๏ ครั้นว่าค่อยคลายวายโศกา | จึงร้องเรียกเชษฐาเชิญมานี่ | ||
| ได้ประสบพบลูกแล้วคราวนี้ | ยังจะรีรอช้าอยู่ว่าไร | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ท้าวเสนากุฏยังสงสัย | ||
| แต่ขยับลับล่อไม่ไว้ใจ | ถ้ามิใช่ลูกชายสิตายจริง | ||
| พระชวนเสนาในไปเพื่อนตัว | เขาสั่นหัวขัดขืนยืนนิ่ง | ||
| เข้าลูบหลังสั่งสอนวอนวิง | เอ็งอย่าทิ้งกูนะจะแทนคุณ | ||
| ขนิษฐาซ้ำเรียกเป็นหลายครั้ง | ท้าวยังคร้ามจิตคิดว้าวุ่น | ||
| ถึงจะเป็นจะตายก็ตามบุญ | ชักดาบญี่ปุ่นออกถือไว้ | ||
| ขืนแข็งหฤทัยไคลคลา | ออกจาพฤกษาสุมทุมใหญ่ | ||
| ปากบ่นบริกรรมทุกหายใจ | ตรงไปยังที่พระน้องยา | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ เสมอ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระสังข์ศิลป์ชัยโอรสา | ||
| บังคมทูลถามพระเจ้าอา | ผู้ชายที่มาด้วยนั้นใคร | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | นางเกสรสุมณฑาแถลงไข | ||
| นั่นคือบิดรของเจ้าไซร้ | ตั้งใจมาหาพระลูกรัก | ||
| ความเกรงฤทธิ์พ่อเฝ้าท้อถอย | เดินหง่อยพรั่นตัวกลัวหนัก | ||
| เจ้าจงอภิปรายทายทัก | ให้รู้จักว่าลูกจะยินดี | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระสังข์ปรีด์เปรมเกษมศรี | ||
| จึงบังคมบิดาแล้วพาที | ใครนี่มายืนอยู่เก้กัง | ||
| ช่างตื่นเต้นตัวสั่นดูขันจริง | ทำทีจะวิ่งไม่เหลียวหลัง | ||
| เมื่อเป็นคนผูกภัยน้ำใจชัง | หรือเซซังมาได้ไม่อายเลย | ||
| รู้จักมักจี่ใครนี่หนอ | น่าหัวร่อหนักหนาเจ้าข้าเอ๋ย | ||
| พระแกล้งพูดจาว่าเปรียบเปรย | แล้วทำเมินพักตร์เฉยไม่นำพา | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ท้าวเสนากุฏไม่กังขา | ||
| เห็นแม่นแท้แน่แล้วว่าลูกยา | ความโสมนัสสาเป็นพ้นนัก | ||
| วิ่งเข้าสวมกอดแล้วกันแสง | พระสังข์เสแสร้งแกล้งทำผลัก | ||
| ท้าวตรัสปลอบองค์พระลูกรัก | จงผินพักตร์มาพูดกับบิดา | ||
| พระแม่เจ้าเดี๋ยวนี้อยู่ที่ไหน | พ่อตั้งเนื้อตั้งใจออกมาหา | ||
| โทษพ่อผิดแล้วนะแก้วตา | ได้เห็นแก่บิดามาง้องอน | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ๏ ผ่านเอยผ่านเกล้า | ความเก่าในจิตจงคิดก่อน | ||
| ว่าลูกชั่วสารพัดตัดรอน | ให้ขับจากนครทั้งมารดา | ||
| ได้ความทุกข์ทนเป็นพ้นไป | ลูกอดอยากยากไร้อยู่ในป่า | ||
| ชีวิตลูกรอดเป็นตัวมา | ก็เพราะพระมารดาบำรุงเลี้ยง | ||
| เห็นเป็นขาดแล้วกับบิดร | แต่ชาติก่อนทำกรรมไว้แท้เที่ยง | ||
| ไม่ควรภูวไนยจะใกล้เคียง | ใช่จะเกี่ยงเลี่ยงเป็นมารยา | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ชาตรี | |||
| ๏ ดวงเอยดวงจิต | ข้อนั้นพ่อผิดเป็นหนักหนา | ||
| เป็นเคราะห์เพราะเชื่ออ้ายโหรา | ไม่ทันตรึกคราว่าร้ายดี | ||
| เขาชวนกันว่าชั่วก็กลัวไป | จึงต้องจำใจให้ขับหนี | ||
| แต่รัญจวนครวญหาทุกราตรี | พ่อนี้มิใช่จะไม่รัก | ||
| เจ้าเป็นสาโลหิตของบิดา | เกิดในพาราอาณาจักร | ||
| ถึงจากไกลไม่ได้มาฟูมฟัก | ก็คงเป็นลูกรักร่วมฤทัย | ||
| พ่ออุตส่าห์มาง้อขอโทษ | เจ้าจะโกรธจะขึ้งไปถึงไหน | ||
| แก้วตาอย่าละห้อยน้อยใจ | พ่อจะรับกลับไปยังพารา | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ | |||
| ร่าย | |||
| ๏ พระเอยพระทรงธรรม์ | ลูกไม่เสกสรรรำพันว่า | ||
| เมื่อขับไล่ไม่เลี้ยงพระมารดา | ไพร่ฟ้าพลเมืองก็เลื่องลือ | ||
| เดี๋ยวนี้จะมารับกลับไป | ฉวยกระไรจะมิอายเขาอีกหรือ | ||
| ลูกกริ่งเกรงอันตรายเมื่อปลายมือ | เพราะพระเชื่อถือทั้งหกนาง | ||
| อันสองมารดากับข้านี้ | เข้าไปอยู่บูรีจะกีดขวาง | ||
| เชิญเสด็จคืนนครอย่านอนค้าง | หกนางจะคอยละห้อยใจ | ||
| ตัวลูกนี่หรือไม่ถือโทษ | จะขึ้งโกรธพระบิดานั้นหาไม่ | ||
| แต่หากเจียมตัวด้วยกลัวภัย | จะสู้อยู่ยากไร้กับมารดร | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ | |||
| โอ้โลม | |||
| ๏ แก้วเอยแก้วตา | ฉลาดว่าแคะได้นี่ใครสอน | ||
| เฝ้ายกข้อเคืองขัดตัดรอน | จะให้พ่อม้วยมรณ์เสียจริงจริง | ||
| ซึ่งแต่หลังงมเงาเฉาโฉด | ก็สารภาพโทษเจ้าทุกสิ่ง | ||
| จงเมตตาบิดรได้วอนวิง | อย่าเกรงกริ่งหฤทัยพิไรพ้อ | ||
| จะเสกเจ้าให้ครองอาณาจักร | บำรุงรักษ์ด้าวแดนแทนพ่อ | ||
| ได้สืบวงศ์พงศ์เผ่าเหล่ากอ | ใช่จะล่อลวงลูกให้หลงรัก | ||
| ว่าพลางทางถดเข้านั่งใกล้ | อุ้มลูกสายใจขึ้นใส่ตัก | ||
| แล้วว่าแก่ขนิษฐานงลักษณ์ | เจ้าช่วยปลอบหลานรักบ้างเถิดรา | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ | |||
| ร่าย | |||
| ๏ เมื่อนั้น | นางเกสรสุมณฑาเสน่หา | ||
| ยิ้มพลางทางตรัสแก่นัดดา | จงฟังคำอาว่าอย่าดึงดัน | ||
| ข้อผิดบิตุเรสได้ง้องอน | เจ้าจงอดโทษกรณ์ผ่อนผัน | ||
| จะขุ่นเคืองเบื้องหน้าอาประกัน | นางรำพันปลอบยอบให้ชอบใจ | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | นางสุพรรณเยาวยอดพิสมัย | ||
| ประนมกรวอนถามสังข์ศิลป์ชัย | เหตุไรพระพี่หนีน้องมา | ||
| เคืองเข็ญเป็นไฉนไม่บอกแจ้ง | ทำให้เที่ยวแสวงกันแสงหา | ||
| ปิ้มบรรลัยในกลางพนาวา | แต่โศกาครวญคร่ำร่ำรัก | ||
| แค้นด้วยศรีสันท์มันเลียมและ | เฝ้าเกาะแกะเกี้ยวพานหาญหัก | ||
| เขาข่มเหงน้องยาหนักหนานัก | จะด่าสักเท่าไหร่ไม่นำพา | ||
| มีแต่เจ็บช้ำระกำใจ | คิดว่าจะไม่ได้มาเห็นหน้า | ||
| เพราะพระพี่ไม่มีเมตตา | จึงแกล้งหนีน้องมาเสียทั้งนี้ | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระสังข์ตรัสตอบนางโฉมศรี | ||
| เจ้าว่าไยฉะนั้นนะเทวี | อย่าสงสัยว่าพี่แกล้งหนีน้อง | ||
| เป็นเหตุด้วยทั้งหกเขาพาไป | แกล้งผลักให้ตกเหวเปลวปล่อง | ||
| แต่กำสรดโศกาน้ำตานอง | คิดคะนึงถึงน้องกับพระอา | ||
| ถ้าแม้นอินทรามิมาช่วย | ก็เห็นจะมอดม้วยด้วยสังขาร์ | ||
| พระเล่าความแต่ต้นจนปลายมา | เจ้าอย่ากินเหนงแคลงใจ | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | สามกษัตริย์ฟังว่าน้ำตาไหล | ||
| ให้สงสารสังเวชหฤทัย | ก็ร่ำไรโศกาจาบัลย์ | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ โอด | |||
| ๏ ครั้นค่อยคลายวิโยคโศกเศร้า | ต่างโลมเล้ารับมิ่งสิ่งขวัญ | ||
| องค์พระบิดาจึงว่าพลัน | อันอ้ายทั้งหกนั้นพ่อไม่ไว้ | ||
| จะแก้แค้นแทนทำให้สาหัส | ผูกมัดฟันเสียไม่ปราศรัย | ||
| จะฆ่าทั้งแม่มันตามกันไป | เนื้อความนี้งดไว้ต่อถึงเมือง | ||
| พ่อคิดสงสารมารดาเจ้า | มิโศกเศร้าทุกข์ตรอมผอมเหลือง | ||
| จะแค้นอกหมกมุ่นขุ่นเคือง | ยังกระเดื่องกระด้างด้วยหมางใจ | ||
| บิดาจะใคร่ไปขอโทษ | ให้หายโกรธข้างพ่อเป็นข้อใหญ่ | ||
| จะใคร่รับกลับคืนเข้าเวียงชัย | ทั้งทรามวัยไกรสรสิงหรา | ||
| ยังขัดสนจนใจด้วยไม่รู้ | ว่าเขาอยู่ที่ไหนจะไปหา | ||
| ขวัญเข้าเจ้าจงได้เมตตา | ช่วยชักพาพ่อไปให้พบกัน | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระสังข์สำรวลสรวลสันต์ | ||
| จึงสนองบัญชาบิดาพลัน | ข้อนั้นเป็นธุระของลูกยา | ||
| แต่จะไปเดี๋ยวนี้ยังมิได้ | ด้วยพระแม่หมางใจอยู่หนักหนา | ||
| จงรั้งรอขอผัดสักเวลา | จะไปว่าวิงวอนให้อ่อนใจ | ||
| แม้นสมคะเนข้ามารดารับ | จะรีบกลับมาแจ้งแถลงไข | ||
| เชิญเสด็จคืนยังพลับพลาไพร | ลูกจะลาไปประเดี๋ยวนี้ | ||
| ทูลพลางทางถวายอภิวาทน์ | แทบบาทบิตุเรศเรืองศรี | ||
| พระสั่งเสียขนิษฐานารี | อัญชลีลาองค์พระเจ้าอา | ||
| แล้วจับศรเรืองฤทธิ์สิทธิศักดิ์ | บ่ายพักตร์คลาไคลเข้าในป่า | ||
| สามกษัตริย์แลตามจนสุดตา | แล้วชวนกันกลับมาพลับพลาพลัน | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ พระสังข์มาถึงพระบุรี | ขึ้นมาปราสาทศรีขมีขมัน | ||
| จึงไปหาสิงหราพูดจากัน | น้องไปไพรวันได้ลาภมา | ||
| พบพระบิตุเรศที่กลางดง | ทั้งพระอากับองค์ขนิษฐา | ||
| จะมาง้อขอดีด้วยมารดา | ให้เราสองราช่วยว่าวอน | ||
| จะสำออยอ้อยอิ่งให้เต็มที่ | กว่าพระชนนีจะโอนอ่อน | ||
| ไม่สมคิดผิดชอบก็ไม่นอน | จะวิงวอนเสือกซบรบเร้า | ||
| ว่าแล้วพากันเข้าในห้อง | กราบสองมารดาบังเกิดเกล้า | ||
| ทำบรรทมทับลงกับเพลา | คลึงเคาเย้ายีปรีดา | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระมารดาแสนสุดเสน่หา | ||
| ลูบไล้ไปทั่วทั้งกายา | จำนรรจาหยอกหยิกซิกชี้ | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระสังข์แกล้งทำเกษมศรี | ||
| จะใคร่ทูลแถลงแจ้งคดี | กริ่งเกรงชนนีจะตีรัน | ||
| แต่ดูเนตรเชษฐาไม่ว่าออก | คิดย้อนยอกป้องปิดบิดผัน | ||
| ทำชะอ้อนวอนว่ามารดาพลัน | นึกจะถามสักวันก็พรั่นใจ | ||
| ถ้าแม้นพระพ่อมาง้องอน | มารดคจะดีด้วยหรือไม่ | ||
| จะมึนตึงขึ้งโกรธกันทำไม | ลูกยาจะใคร่ให้ดีกัน | ||
| ไม่คิดสงสารข้ากำพร้าพ่อ | มีแต่เขาหัวร่อเย้ยหยัน | ||
| ลูกทุกข์ร้อนนอนละเมอไม่เว้นวัน | เห็นจะอาสัญเสียเที่ยงแท้ | ||
| นิจจาเอ๋ยแต่กำเนิดเกิดมา | มิได้เห็นบิดาว่าหนุ่มแก่ | ||
| ลูกไม่แกล้งว่าสาระแน | พระแม่ทั้งสองจงตรองดู | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | นางประทุมฟังเรื่องให้เคืองหู | ||
| ดูลูกเจ้ากรรมจะทำพู | นางขู่รู่สมทบกลบความ | ||
| ขืนออกชื่อบิดามันน่าตี | เออนี่ใครใช้ให้ไต่ถาม | ||
| เฝ้าจู้จี้มิฟังแม่ห้ามปราม | ไม่มีความยำเยงเกรงกลัว | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระสังข์ฟังแถลงแกล้งยิ้มหัว | ||
| จึงว่าเพราะเคราะห์กรรมมาถึงตัว | เผอิญให้ลืมกลัวพระมารดา | ||
| ซึ่งโทษลูกผิดพลั้งครั้งนี้ | จะทำโพยโบยตีก็ไม่ว่า | ||
| ขอแต่ให้ชนนีมีเมตตา | พ่อมาแล้วดีเสียวด้วยกัน | ||
| สิงหราพลอยว่าแม่ทั้งสอง | คำน้องว่าจริงจงผ่อนผัน | ||
| อย่าถือขึ้งถือโกรธคุมโทษทัณฑ์ | ดีกันเสียเถิดกับบิดา | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | นางประทุมกริ้วโกรธโอรสา | ||
| จึงว่าสังข์ศิลป์ชัยอ้ายสิงหรา | ใครสั่งสอนมาหรือว่าไร | ||
| มิให้พูดเรื่องนี้ก็มิฟัง | ไม่ดีเสียมั่งหาจำไม่ | ||
| ว่าพลางนางยุดตัวไว้ | ผูกมือเข้าได้ฉวยไม้ตี | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | นวลนางไกสรโฉมศรี | ||
| เห็นลูกทั้งสองร้องเต็มที | ปรานีนางทูลขอโทษกรณ์ | ||
| แก้เชือกแล้วพามาซักถาม | เนื้อความทั้งนี้ใครสั่งสอน | ||
| หรือไปประสบพบมิตร | จึงเฝ้ามาวิงวอนพระมารดา | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระสังข์เหลียวซ้ายแลขวา | ||
| เห็นพระแม่อยู่ไกลไม่ตามมา | จึงบอกแจ้งกิจจาสารพัน | ||
| วันนี้ลูกลามารดาไป | พบพ่อที่ในไพรสัณฑ์ | ||
| ทั้งสุพรรณพระอามาด้วยกัน | เล่าความเดิมนั้นให้ลูกฟัง | ||
| แล้วว่าจะมาง้อขอโทษ | ไม่ขึ้งโกรธพระแม่เหมือนแต่หลัง | ||
| เชิญสององค์คงคืนไปครองวัง | พระตรัสสั่งให้ข้ามาวิงวอน | ||
| ถ้าแม้ชนนีไม่ดีด้วย | ให้ลูกช่วยว่ากล่าวแม่ไกรสร | ||
| แม่อย่าเคืองขัดตัดรอน | จงช่วยกันอ้อนวอนพระมารดา | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | นางไกรสรได้ฟังไม่กังขา | ||
| หุนหันโมโหโกรธา | ตวาดว่าดูดู๋สังข์ศิลป์ชัย | ||
| ไปคบคิดกับพ่อมาก่อความ | ที่นี้มันงามทั้งห้าไร่ | ||
| ชอบแต่ตีซ้ำให้หนำใจ | แล้วกลับไปทูลนางประทุมา | ||
| สนุกจริงแล้วขาน่าหัวร่อ | ลูกไปพบพ่อที่ในป่า | ||
| วิงวอนสอนให้มาพูดจา | เมื่อกระนี้จะว่าประการใด | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | นางประทุมเคืองขัดอัชฌาสัย | ||
| น้อยหรือลมลิ้นสังข์ศิลป์ชัย | ขอบใจทั้งอ้ายสิงหรา | ||
| มิเสียทีที่เกิดในอุทร | เพื่อนเจ็บเพื่อนร้อนด้วยหนักหนา | ||
| สั่งสอนเท่าใดไม่นำพา | เถิดอย่าเลี้ยงดูมันสืบไป | ||
| ว่าพลางย่างเยื้องเข้าในที่ | ตามมาจะตีไม่ปราศัย | ||
| ให้นางไกรสรหาไม้ | วางไว้บนแท่นทำโกรธา | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระสังข์น้อยค่อยพูดกับเชษฐา | ||
| จะทำกระไรดีพี่สิงหรา | พระมารดาเคืองขัดตัดรอนเรา | ||
| จำจะไปวิงวอนผ่อนผัน | ถึงตีรันก็จะทำอย่างไรเล่า | ||
| ผิดชอบสองคนเราทนเอา | แล้วจูงมือกันเข้าไปเมียงมอง | ||
| เห็นไม้เรียวเสียวจิตคิดพรั่น | เกียดกันมิใคร่เข้าในห้อง | ||
| แข็งใจเต็มทีทั้งพี่น้อง | ค่อยย่างย่องก้มกรานคลานมา | ||
| นั่งริมแท่นสุวรรณบรรจถรณ์ | เห็นมารดรเมินอยู่ไม่ดูหน้า | ||
| จึงจับพัดอยู่งานให้มารดา | แล้ววอนว่าพาทีพิรี้พิไร | ||
| พระแม่เข้าประคุณของลูกแก้ว | ไม่ดีด้วยพ่อแล้วหรือไฉน | ||
| ลูกเป็นกำพร้าน่าอายใจ | นานไปเขาจะลือออกอื้ออึง | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | นางประทุมพิโรธโกรธขึ้ง | ||
| จึงว่าน้อยหรือช่างดื้อดึง | ถูกตีทีหนึ่งแล้วมิฟัง | ||
| ขืนจะเฝ้าอ้อยอิ่งวิงวอน | นี่เนื้อแท้เตือนค้อนใส่สันหลัง | ||
| ยิ่มห้ามยิ่งว่าน่าชิงชัง | จะให้ตีอีกกระมังสังข์ศิลป์ชัย | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระกุมารพี่น้องร้องไห้ | ||
| แล้วแกล้งปรึกษากันทันใด | พระชนนีมิได้เมตตา | ||
| ตัวเราเดี๋ยวนี้ไม่มีพ่อ | ก็เป็นข้ออับอายขายหน้า | ||
| ตายเสียเห็นจะสิ้นนินทา | อยู่ไปไพร่ฟ้าจะเลื่องลือ | ||
| ว่าพลางทางชักพระขรรค์แก้ว | จะเชือดคอเสียแล้วให้ลับชื่อ | ||
| สิงหราคว้าเชือกที่ผูกมือ | จะปืนขึ้นบนขื่อผูกคอตาย | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | สองนางตัวสั่นขวัญหาย | ||
| ตรงเข้าสวมสอดกอดลูกชาย | น้อยหรือใจร้ายใช่พอดี | ||
| ว่าพลางนางยุดพระขรรค์ไว้ | สังข์ศิลป์ชัยทำว่าอย่าจู้จี้ | ||
| นางกลัวลูกตายวายชีวี | จึงว่าแม่จะดีด้วยบิดา | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระสังข์วางพระขรรค์หรรษา | ||
| ก้มเกล้ากราบกรานมารดา | พูดจาแก้ไขในทำนอง | ||
| ลูกจะรับบิดามาบุรี | ให้พบกับชนนีทั้งสอง | ||
| แต่จะแต่งบ้านเมืองให้เรืองรอง | ด้วยฤทธิ์ของลูกน้อยในพรุ่งนี้ | ||
| ว่าพลางทางขยดเข้าใกล้ | นั่งนวดฟื้นให้นางโฉมศรี | ||
| สิงหราโบกปัดพัดวี | พูดจาพาทีกันไปพลาง | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ ครั้นดาวเดือนเลื่อนลับเมฆา | สุริยารุ่งแจ้งแสงสว่าง | ||
| พระสังข์บังคมลาสองนาง | แล้วทรงศรมากลางเกยลา | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เสมอ | |||
| ๏ จึงตั้งจิตพิษฐานเสี่ยงศร | ขอจงร้อนถึงดาวดึงสา | ||
| ให้ท้าวสหัสนัยน์นำเทวา | มาช่วยข้าตกแต่งพระเวียงชัย | ||
| เสี่ยงพลางทางขึ้นธนูศิลป์ | ฟ้าดินกัมปนาทหวาดไหว | ||
| ผาดแผลงไปพลันทันใด | สะท้านถึงตรึงศ์ตรัยด้วยฤทธา | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เชิดฉิ่ง | |||
| ยานี | |||
| ๏ มาจะกล่าวบทไป | ถึงท้าวสหัสนัยน์นาถา | ||
| เสด็จออกฝูงเทพเทวา | ยังหน้าสิงหบัญชรชัย | ||
| ได้ยินเสียงสนั่นครั่นครึก | อมรินทร์เร่งนึกสงสัย | ||
| จึงส่องทิพเนตรลงไป | เห็นพระสังข์ศิลป์ชัยอันเรืองฤทธิ์ | ||
| จะจัดแจงแต่งที่พระนคร | จึงแผลงศรมาให้เราแจ้งจิต | ||
| จำจะลงไปช่วยนฤมิต | ให้สมคิดพระสังข์ครั้งนี้ | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ร่าย | |||
| ๏ คิดพลางทางชวนสุจิตรา | ทั้งสุรางค์นางฟ้าทุกราศี | ||
| พร้อมเทพเทวัญจันทรี | พากันจรลีลงมา | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ โคมเวียน | |||
| ๏ ครั้นถึงจึงเรียกสังข์ศิลป์ชัย | มาพูดจาปราศรัยหรรษา | ||
| เราจะช่วยจัดแจงแต่งพารา | ให้สมดังจินดาอย่าร้อนใจ | ||
| ตัวเจ้าเล่ห์ก็รู้จักงาม | คอนติเตือนเอาตามอัชฌาสัย | ||
| ว่าพลางทางขึ้นบนเกยชัย | สหัสนัยน์นฤมิตด้วยฤทธา | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ ตระ | |||
| ๏ เป็นปราสาทราชฐานบ้านช่อง | เรืองรองล้วนแก้วแววเวหา | ||
| มีกำแพงสามชั้นเป็นหลั่นมา | เทวาเฝ้าประตูอยู่ทุกชั้น | ||
| แถวถนนหนทางรโหฐาน | นางฟ้านั่งร้านเป็นหลั่นหลั่น | ||
| ขายสินค้าผ้าผ่อนแพรพรรณ | ทั้งรูปโฉมโนมพรรณพึงใจ | ||
| หน้าพระลานล้วนแก้วแพรพรรณ | แลประหลาดลื่นเลื่อมดังน้ำไหล | ||
| แล้วจัดเป็นสาวสรรค์กำนัลใน | คอยช่วงใช้ที่ปรางค์ปราสาททอง | ||
| ให้นางสุจิตราสุชาดา | อยู่ด้วยประทุมาที่ในห้อง | ||
| จึงบอกสังข์ศิลป์ชัยดังใจปอง | การของเจ้าเสร็จทั้งพารา | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ เจรจา | |||
เชิงอรรถ
ที่มา
บทละครนอกเรื่อง สังข์ศิลป์ชัย สถาบันภาษาไทย กรมวิชาการ กระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. ๒๕๔๐ ( ขอขอบคุณ คุณพิกุลแก้ว สมาชิก kaewkao.com ผู้พิมพ์เป็นวิทยาทาน )
