กลบทสุภาษิต

จาก ตู้หนังสือเรือนไทย

การปรับปรุง เมื่อ 08:28, 17 สิงหาคม 2552 โดย CrazyHOrse (พูดคุย | เรื่องที่เขียน)
(ต่าง) ←รุ่นก่อนหน้า | รุ่นปัจจุบัน (ต่าง) | รุ่นถัดไป→ (ต่าง)
ข้ามไปที่: นำทาง, สืบค้น

เนื้อหา

ข้อมูลเบื้องต้น

ผู้แต่ง: หลวงธรรมาภิมณฑ์ (ถึก จิตรกถึก)

บทประพันธ์

พระจันทร์ทรงกรด

๏ ลำบากก่อน ก่อนทำ เห็นลำบากหวนเหียนคิด คิดหาก จักหวนเหียน
ผ่อนเพียรทำ ทำไปก่อน ค่อยผ่อนเพียรปลงใจนึก นึกอย่าเวียน เปลี่ยนปลงใจ
ประกอบการ การอย่าละ ที่ประกอบนิสัยผล ผลก็ตอบ ตามนิสัย
เป็นไปตาม ตามเช่น ที่เป็นไปสำเนากล่าว กล่าวไว้ ฟังสำเนา
จักกลิ้งคก คกหนัก หากจักกลิ้งภูเขาสูง สูงก็จริง แต่ภูเขา
ใจเราเพียร เพียรให้เข้า แน่ใจเราตรึกตรองใจ อย่าใจเบา พึงตรึกตรอง
             

อักษรสังวาส

๏ อย่าฝ่าฝ่าย หมายเกิน กำเริบเอิบอ้างข้างเติบ มิได้ตรึก ตริสนอง
เห็นเช่นได้ ใฝ่ด้วยข้าง ลำพองปองไม่ไตร่ตรอง ดูให้สิ้น นุสนธ์ยล
จักหักโหม โจมเข้าจับ ด้ามพร้าง่าตั้งจังก้า หักด้วยเข่า จงยลผล
ควรครวญใคร่ อย่าให้ป่วย สกนธ์ตนชอบสอบค้น เสียให้แจ้ง แห่งการงาน
แม้แน่ใจ ใครฟัง พินิจกิจถ้าว่าผิด แล้วอย่าเพ่อ บรรหารขาน
เหมือนเยื้อนแถม แย้มโทษ ประจานปานจงปลงจิต คิดอย่าหาญ แต่เดียวเจียว
             

ธงนำริ้ว

๏ ช้าช้านึก ตรึกไตร่ตรอง ให้ต้องกิจค่อยค่อยคิด คาดควร คำนวณเฉลียว
ดูดูก่อน ผ่อนให้สม ที่กลมเกลียวจริงจริงแท้ แน่เจียว อย่าวางใจ
หมั่นหมั่นคิด ที่ในกิจ ประกอบก่อตรองตรองข้อ เสียให้ควร ที่ขานใข
รอรอรั้ง สังเกตผล เลศกลในอ่อนอ่อนไว้ ดีกว่ากล้า อย่าแรงรัน
คล้ายคล้ายคำ ร่ำว่า เหมือนฆ่าช้างแท้แท้ทาง หวังเอางา เท่านั้นนั่น
เหมือนเหมือนกิจ น้อยจ่าย ใช้ทุนอันมากมากครัน คิดไม่คุ้ม ที่ขาดไป
             

วิสูตรสองไข

๏ ผเดิมผดุง มุ่งมาด ขนาดขนบให้แจ้งให้จบ ครบพิศ นิสิทธิ์นิสัย
อย่าเพลิดอย่าเพลิน เมินพลั้ง ละลังละไลวิจารณ์วิจัย ในเหตุ สังเกตสังกา
ระบิลระบอบ กอบการ สมานสมัครประจงประจักษ์ แจ้งที่ ประสีประสา
ใช่กมใช่การ พานผิด ประดิษฐ์ประดาใช่ทางใช่ท่า อย่ายล กระวนกระวาย
ใช่เรื่องใช่ราว กล่าวโทษ ประโยชน์ประหยัดพิบากพิบัด ทัดทำ ระส่ำระสาย
เสมอเสมือน เตือนตน ทุรนทุรายระคนระคาย สิ่งซึ่ง ไม่พึงไม่พอ
             

เสือซ่อนเล็บ

๏ รู้ว่ายาก หากเห็น เช่นว่าทุกข์ทางนี้สุข ปลุกปลื้ม ลืมนี้หนอ
รำพึงเพียร เวียนวน ทนพึงพอเพียรรวนล่อ ต่อตั้ง กังวลใจ
ยลแต่อย่าง ต่างรู้ อยู่แต่ยากเหลือนิหาก จากล้น พ้นนิสัย
เหมือนขว้างงู ชูเชิด เปิดกว้างไปก็กลับใกล้ ไคล้ยุค ฉุดกลับมา
สิ่งที่เบื่อ เหลือเบือน เหมือนที่รักต่างร่ำผลัก มักเป็น เช่นร่ำว่า
รำคาญไหน ใฝ่เฝ้า เข้าคานตาเช่นคอยท่า หาสุข ทุกข์คอยรึง
             

นาคบริพันธ์

๏ กุมภาพาล ชาญชลา สาคเรศสาครินทร์ ถิ่นประเทศ สำนึงถึง
สำนักสู่ อยู่ประจำ อย่ารำพึงอย่ารำพรรณ อันซึ่ง จะวายชล
จะวายชาญ หาญกล้า ดีกว่าสอนดีกว่าสั่ง ฟังดูก่อน ใช่เหตุผล
ใช่เหตุเผื่อ เจือจาน ป่วยการกลป่วยประกอบ ชอบแต่ยล ดูท่าทาง
ดูท่าที่ ที่จะสั่ง จะสอนศิษย์จะสอนสู่ ดูชนิด อย่าอางขนาง
อย่าอ้างขนาด คาดคะเน คะนึงพลางคะนึงพลอย คล้อยเป็นกลาง อย่างเอียงเอง
             

เบญจพรรณห้าสี

๏ อย่าหยิ่งเย่อยกย่อง ลำพองพิษอาจโอ้อิทธิ์อวดอ้าง อย่างข่มเหง
ขอดข้อนแข้นขู่ข่ม ให้เขาเกรงโฉดโฉงเฉงเฉาฉ่า ชะล่าใจ
ทำท่วงทีท่าทาง วางจังหวะโกงเกะกะก้าวก่อ ข้อคำไข
ล้วนเล่ห์ลิ้นลวงลอด สอดกลไกเหน็บแนมในนึกน่า ระอาคำ
ถ้าถึงถ้อยถอยถด สลดหลบจับจริงจบเจิ่นเจน ก็เอนถลำ
เหมือนไม้เมามูลมอด ทอดทิ้งทำกลับกลอกกล้ำเกลื่อนกลาย คลายกำลัง
             

ครอบจักรวาล

๏ รู้สิ่งไร ร้ายแรงยาก อย่าอยากรู้หวังแว่วหู ปากจะนิ่ง อย่ากริ่งหวัง
ดังหนึ่งฆ้อง ก้องเสียง สำเนียงดังตีหยุดยั้ง ยังกังวาล นานกว่าตี
ผิดคำกล่าว ราวกับพา ให้หาผิดที่จะมิด อย่าพึงหมาย      มิใช่ที่
ดีแลชั่ว ตัวของใคร นิ่งไว้ดีควรต้องทำ จะต้องชี้ แต่ที่ควร
ช้างตายเน่า เอาใบบัว ปิดตัวช้างสงวนบ้าง มิใช่ข้อ อย่าพอสงวน
ชวนเสียกิจ ผิดระบอบ อย่าชอบชวนเดาอย่าด่วน ใจหวัง ลำพังเดา
             

หงส์คาบแก้ว

๏ มีการทำ ทำไม่ถูก ถูกที่ผิดมีความคิด คิดไม่ต้อง ต้องโฉดเฉา
จักโทษใคร ใครจะทำ ทำให้เรานั่งนึกเศร้า เศร้าโศกซ้ำ ซ้ำจนใจ
เหมือนตาบอด บอดแล้วมา มาได้แว่นดูยากแสน แสนสุดสิ้น สิ้นนิสัย
จับขึ้นลูบ ลูบคลำแล้ว แล้ววางไปตั้งแต่ใคร่ ใคร่ครวญนึก นึกตื้นตัน
จะตรึกตรอง ตรองให้รอบ รอบรู้กิจกอบการผิด ผิดแล้วยาก ยากผ่อนผัน
อย่าหุนหวน หวนใจดู ดูสำคัญให้เหมาะมั่น มั่นแม้นมุ่ง มุ่งระวัง
             

ฟักพันร้าน

๏ จากเพียร เจียนเพื่อน เจื่อนพวกจากฝังให้ ใฝ่หาก ฝากห่วงฝัง
บังกิจ บิดเกียด เบียดกลบังใยทน ยลทั้ง ยั้งทุกข์ใย
ตรึกสม ตรมซร้อง ต้องสิ่งตรึกไหนแล้ว แนวลึก นึกเล่ห์ไหน
ใดชื่น ดื่นชวน ด่วนเช่นใดยลขำ ย้ำไข ไย้ข่าวยล
ผ่อนขัด ผัดขัน ผันข้อผ่อนหนไร ให้ร้อน ห่อนรู้หน
จนค้าง จางคิด จิตค่อยจนกายหวัง กังวล กลว่างกาย
             

นาคเกี่ยวกระหวัด

๏ ผู้ใหญ่สอน ผ่อนตาม ให้งามเงื่อนเงื่อนงาม ความท่านเตือน เหมือนมุ่งหมาย
หมายมุ่งตรอง มองให้เห็น อย่าเว้นวายวายเว้นเช่น เชิงหมาย ให้ควรการ
การควร อย่าเพ่อหวน โกรธตอบต่อต่อตอบเห็น ชอบข้อ จึงไขขาน
ขานไขคำ ถามทัด ให้ชัดชาญชาญชัด จัดวิจารณ์ ให้แจ้งใจ
ใจแจ้ง อย่าระแวง แคลงคิดผิดผิดคิดคัด ดัดจริต อย่าหลงไหล
ไหลหลงตาม ความเชือน กลับเกลื่อนไกลไกลเกลื่อนกลับ นับให้ ใจดาลดวง
             

นาคราชแผลงฤทธิ์

๏ คำคารม ลมลิ้นเล่ห์ อุบายบอกออกบทเบื้อง เยื้องยอก ใจห่วงหวง
จ้วงเหตุหา ท่าช่องชี้      นี่ไยยวงหน่วงยุดอย่าง ต่างดวง เมตตาใจ
ไม่ต่างจิต คิดว่าจริง ทุกสิ่งล้วนถ้วนแสนหลาก ยากประมวล หมดสงสัย
ไม่สอดส่อง ดูให้ต้อง ตามเลศนัยไต่เล่ห์นึก ตรึกไตร ดูท่วงที
ดีทุกท่า ทางมายา มีหลายหลากมากเหลือล้ำ ตามยาก แต้มสอดสี
ตีส่วนสอง ให้เห็นช่อง ชอบเชิงทีชี้ชวนทาง อย่างแต่มี ล้วนอาการ
             

บัวบานกลีบขยาย

๏ ไม่ควรคิด ก็อย่าคิด เข้าต่อล้อไม่ควรข้อ ขอดเขา ด้วยโวหาร
ไม่ควรเป็น ก็อย่าเป็น เหมือนเช่นพาลไม่ควรสมาน อย่าสมัคร สมาคม
ไม่ควรรอ ก็อย่าต่อ เข้าต้านตัดไม่ควรทัด ทานถ้อย อย่าทับถม
ไม่ควรชิด อย่าสนิท สนมชมไม่ควรข่ม ก็อย่าข้อน ให้เคืองคำ
ไม่ควรหาญ อย่าราน ให้ร้อนร้าวไม่ควรกล่าว พึงระวัง อย่างพลั้งถลำ
ไม่ควรเปิด ก็อย่าเชิด ชูเงื่อนงำไม่ควรทำ ตรองท่า พยุงจูง
             

อักษรสลับล้วน

๏ การก่อนกอบ ชอบช่องเช่น เห็นเหนห่างจำจากจาง หมางเมินม่าย ฝ่ายฝ่าฝูง
ยลเยี่ยงอย่าง พ่างพื้นเพื่อ เจือจานจูงสิ่งส่วนสูง มุ่งเมียงมาด คาดเคียงควร
เอื้อนออกอ้าง อย่างยิ่งยาก บากเบือนเบี่ยงพูดพอเพียง เอียงอ่อนโอษฐ์ โหดหวงหวน
เพราะพริ้งพร้อม กล่อมกล่าวกลืน ชื่นชอบชวนโลมเล่ห์ล้วน ยวนแย้มยั่ว ทั่วถ้วนทาง
แถวถิ่นเถิน เนินน่านน้ำ ข้ามเขตโขดห้วงหาดโหด โฉดเชื้อชัก ขวักไขว่ขวาง
แม้ไม่มี ที่ทัดทัน กั้นกีดกางแบ่งเบาบ้าง ข้างข้อคำ ร่ำรีรอ
             

มยุราฟ้อนหาง

๏ ดูดูท่า อย่าเลินเล่อ เผลอบ่อยบ่อยคุมคุมใจ ไว้อย่าปล่อย ไปปร๋อปร๋อ
เหมือนเหมือนอย่าง ทางที่เป็น เช่นพอพอตรองตรองใจ ที่ในข้อ ให้ควรควร
เปรียบเปรียบว่า บุตรภรรยา คนใช้ใช้ปล่อยปล่อยปละ ละให้ ฮึกหวนหวน
เฉยเฉยเสีย ไม่สั่งสอน ข้อนชวนชวนกล้ากล้านัก มักก่อกวน จะแรงแรง
มีมีแต่ ต่างจะดื้อ ถือปึ่งปึ่งข้อนข้อนข้าง วางข้อขึง ขึ้นแข็งแข็ง
คล้ายคล้ายช้าง ห่างขอ มักแคลงแคลงชวนชวนชัก มักระแวง จงจำจำ
             

ยัติภังค์

๏ ครูสอน สอนก็ได้ แต่ใจภักภักดีต่อ ต่อที่รัก ทุกคำสำ
สำเหนียกกล่าว กล่าวคิด พินิจดำดำริห์ชอบรู้ รู้จำ สุนทรภา
ภาษิตเปรียบ เปรียบแม้น เหมือนหนึ่งสังสังคีตดัด ดัดประดัง ทุกสิ่งสา
สามารถพร้อม พร้อมเพราะ เสนาะอาอาลัยชวน ชวนกระบือร่า ให้ฟังบรร
บรรเลงขับ ขับก็ป่วย เวลาปราปรารภเรื่อง เรื่องจะหา หรือรู้ฉัน
ฉันใดเพราะ เพราะจะเพียร ก็ยากพรรพรรณาสอน สอนพาลนั้น ย่อมยากแสดง
             

ละเวงวางกรวด

๏ ผู้พ่ายแพ้ ผ่อนหลบ หลีกลับเลี่ยงพึงพอเพียง อย่าควร ข่มขัดแข็ง
จวบเจียนจวน จนท่า รุกเร้าแรงพล้ำพลาดแพลง พลั้งตน จักจนใจ
เหี้ยมฮึกเหิม หาญนัก มักมึนม่อยน้ำหนองน้อย แหนงเพลิง สิ้นสงสัย
หมิ่นเมินมาก หากกลับ กลัวเกลื่อนไกลเห็นเหตุให้ หวนแปร แท้ทางที
ดูใดโดย ให้ต้อง ชันเชิงชอบรู้เรื่องรอบ อย่าระแวง หน่ายแหนงหนี
พึงเพ่งพิศ คิดหา ท่าท่วงทีโอบอ่อนเอื้อ อารี การเกื้อกูล
             

กินนรรำ

๏ ขจัดจิต ชนิดหน่าย ระคายข้องระเบียบเบื้อง ตระเตื้องต้อง สนองหนุน
คดีดู จะชูช่อง ประคองคุณจะลึกลับ จะพับพูน ประมูลมี
คะนึงนึก ตริตรึกตรอง ละบองแบ่งระบิลเบื้อง ยุเยื้องแย้ง แขนงหนี
คะเนนับ สดับดู กระทู้ทีจะต้านต่อ หรือรอรี คดีดู
พินิจแหนง ระแวงวน ฉงนเงื่องจะค้านคัด ประหยัดเยื้อง ณเรื่องรู้
จะหมองหมาง ระคางคิด จะชิดชูกระแสศัพท์ สดับดู จะรู้รา
             

เจ้าเซ็นเต้นต้ำบุด

๏ สุดจะค้น สนข้อ ส่อคำสอนเห็นข้อน ห่อนควร หวนคิดหา
เรื่องต้อง ร้องต่าง ร้างตำรายิ่งท่า ยากทาง อย่างที่ยล
สอนพาล สารเพียง เสียงภาษิตสนคิด สุดแค้น แสนขัดสน
ยากพ้อ ยอพา อย่าพึ่งยลเกียจปน กลปอง กองป่วยการ
แก้วเพชร เก็จผ่อง ก่องผิวก่ำหากล้ำ ให้เหล่า แห่งลิงหาญ
นึกไว้ ในว่า น่าหวังนานแรงค้าน รานคำ ร่ำคนเรา
             

นารายณ์ประลองศิลป

๏ สำเนาเขา สำนวนควร สำเหนียกคิดประกิตชิด ประกอบชอบ ประกันเฉา
คนึงดึง ขนัดดัด คะเนเดามิเศร้าเหงา มิส้อนงอน มิสิ้นงาม
ระบิลสิ้น ระบายสาย ระเบียบเลศนิเทศเหตุ นิทัศน์หัด นิทานห้าม
ประจบนบ ประจักษ์นัก ประจงนามจะซามตาม จะเสริมเติม จะเสื่อมตน
ฉลาดปราชญ์ เฉลียวเปรียว เฉลยเปรียบประเทียบเพียบ ประทับพับ ประเทืองผล
ขนานการ ขนอบกอบ ขนบกลจะยลบน จะเยื้องเบื้อง จะยากบัง
             

ฉัตรสามชั้น

๏ กล่าวคำคิด จิตจำ คิดคำกล่าวหวังว่าควร สวนสาวหา ควรว่าหวัง
ฟังความใน ให้แน่ตาม ในความฟังควรให้ตรอง ต้องตั้งใจ ตรองให้ควร
เหตุผลเป็น เช่นใดยล เป็นผลเหตุหวนหักใจ ให้สังเกต ใจหักหวน
ควรใคร่ความ งามใจ ความใคร่ครวญกลเล่ห์ล้วน รวนเร ล้วนเล่ห์กล
หน้าหลังคิด จิตยั้ง คิดหลังหน้าผลเห็นทาง อย่างท่าเช่น ทางเห็นผล
ตนหลบหลีก ปลีกซบ หลีกหลบตนการแบ่งพอ ให้พ้นแหนง พอแบ่งการ
             

กบเต้นต่อยหอย

๏ ใจหวนคิด จิตห่วงข้อง คือขุมทุกข์ไม่จืดจาง หมางจากสุข ในสงสาร
ปางเมื่อเห็น เป็นมาให้ ใจรำคาญชวนต่อกอบ ชอบแต่การ ลำบากกาย
เพื่อตัณหา พาเตือนให้ เป็นห่วงยุคเปลื้องไม่ลง ปลงไม่หลุด สุดสิ่งหมาย
ลูกที่รัก ลักที่รู้ อยู่ทุกรายเป็นเช่นบ่วง ปวงชนบ่าย ไม่พ้นคอ
เหตุโลภมาก หากลาภมุ่ง บำรุงจิตเหลือทางปลด ลดทิ้งปิด จริงเจียวหนอ
ที่สันดาน ท่านสันโดษ ประโยชน์พอมาตรไม่เตือน เหมือนไม่ต่อ ส่อเค้ามูล
             

สร้อยสน

๏ จะเผื่อแผ่ แผ่ผล พิศพื้นพืชพืชที่ ที่นั้นจืด ป่วยปุ๋ยหนุน
หนุนเปล่า เปล่าเปลืองเชื้อ ที่เกื้อกูลกูลกิจ กิจจะพูน พอภูมิยล
ผลสิ่ง สิ่งไรเกิน กว่าแรงมากมากเพียร เพียรพาก แต่เพียงผล
ผลได้ ได้โดยที่ ลำพังตนตนคิด คิดผ่อนปรน ปรองดองใจ
ใจจะเอื้อ เอื้อเฟื้อ อย่าเหลือส่วนส่วนแบ่ง แบ่งที่ควร จึงค่อยให้
ให้มาก มากพ้น ประมาณไปไปเนิ่น เนิ่นอย่าเกิน ในความอารี
             

สิงโตเล่นหาง

๏ อย่าจงเจียด เบียดเบียนทรัพย์ กับผู้ยากถึงน้อยมาก หากคิดไป ไม่ถูกที่
ดูเหลือแค่น แสนลำบาก ยากจะมีใช่วิถี ที่จะเดิน เขินใจตน
เหมือนหาเลือด เชือดตีนปู ดูเป็นขัดจะคิดลัด ตัดต่อยหัก สักพันหน
ก็เห็นเหนื่อย เมื่อยมือเปล่า เศร้าใจจนยากจะค้น พ้นแห่งหา น่าอายใจ
กอบการกิจ คิดผันผ่อน อ่อนโอบเอื้อตรองจิตเจือ เชื้อเชิงชัด อัชฌาศัย
อารีรอบ กอบเมตตา ปรานีในสิ่งชอบให้ ใจแช่มชื่น รื่นรมย์ยล
             

ละลอกแก้วกระทบฝั่ง

๏ การไรทำ กิจร่ำถึง อย่าพึงทิ้งคดโดยใจ คาดได้จริง เป็นสิ่งผล
ท่าเกิดชอบ ทางกอบช่วย อำนวยตนหวังสิ้นทุกข์ ไว้สุขทน ผ่อนปรนปรือ
แม้แจ้งทำ ไม่จำทอด ธุระร้างหากแผกคิด เห็นผิดข้าง ไม่ควรถือ
ใจตรองนึก จิตตรึกหน่วง ให้แน่มือเพลี่ยงที่ค้าง พลาดทางคือ คิดใคร่ครวญ
สิ่งไรทำ ลอบร่ำท่อง ให้ต้องที่อย่าเบือนหน่าย อย่าบ่ายหนี      ไปโดยด่วน
หวังผู้อื่น เว้นพื้นเอง เกรงไม่ควรเช่นทางเลี้ยว ชักเที่ยวล้วน ป่วนใจงง
             

มักกรคาบแก้ว

๏ กอบกิจใด ให้พินิจ ดูกิจกอบหลงอย่าลืม ปลื้มแต่ชอบ ที่อย่าหลง
พงศ์พื้นเผ่า เหล่ามิตร พิศพื้นพงศ์ไกลใก้ลเรียง เคียงคง วงศ์ใกล้ไกล
แผ่เผื่อจิต คิดโอบเอื้อ จักเผื่อแผ่ไหนที่ควร ครวญให้แน่ แท้ที่ไหน
ใจที่รัก จักอารี ดูที่ใจควรจะผ่อน หย่อนให้ อย่างไรจะควร
ที่ควรให้ หรือไม่ให้ ให้ควรที่หวนหักจิต คิดให้ดี อย่าหักหวน
ครวญใคร่ความ ตามทำนอง ตรองใคร่ครวญพรายแพร่งมี แต่ที่ควร จะแพร่งพราย
             

กบเต้นสามตอน

๏ ใช่การ ชาญกอบ ชอบกิจเพ่งมอง ผองมิตร พิศหมาย
ข้อกล่าว ข่าวกล้ำ คำกลายเหมือนแทน แม่นทาย หมายที
ตริจง ตรงจอง ตรองแจ้งเยื้องหน่าย ย้ายแหนง แย้งหนี
หลีกเดา เลาด่วน ล้วนดีท่าหมาง ทางมี ที่มา
คำร้อน ข้อนแรง แข่งรู้เพื่อนหู ผู้หาญ พาลหา
เช่นเพื่อ เชื่อพัก ชักพาน้อยอับ นับอ้า น่าอาย
             

กินนรเก็บบัว

๏ อย่าพึงด่วน พึงดู ให้รอบคอบจะควรชอบ ควรชัง ฟังเงื่อนสาย
จงตรองหน้า ตรองหลัง สังเกตกายอย่าคิดหมาย คิดมุ่ง แต่ใจตน
หากจะโกรธ จะแค้น แสนสาหัสพึงประหยัด ประโยชน์เพ่ง ให้พอผล
แม้ควรหยุด ควรยั้ง ชั่งกระมลอย่าทุรน ทุรายหวัง ลำพังใจ
สิ่งที่ร้าว ที่ราน ประหารหักแล้วจะชัก จะชอบ อย่าสงสัย
ฟังคำนวณ คำนึง คะเนในที่สิ่งไร สิ่งร้อน ผ่อนให้ครวญ
             

ตรีพิธพรรณ

๏ สกุลรักษ์ ลักษณ์ส่อ นรลักษณ์พิศผิวพักตร์ ภูมิพักตร จะพักตรสงวน
ทั้งถ้อยคำ คมคำ ทุกคำควรฟังสำนวน น้ำนวน ชะนวนใน
เมื่อต่อหน้า ดูหน้า ก็น่าคบลับหลังหลบ เหลือหลบ      หลบไม่ไหว
ดูแสนกล ซ่อนกล ซ้อนกลไกล้วนเลศใน แนมใน อยู่ในที
พอเห็นท่า พลั้งท่า เป็นท่าได้ก็ตรองใจ กริ่มใจ เอาใจหนี
ใครหลงลม เชื่อลม ลิ้นลมมีก็แต่ที่ ถึงที่ ที่อัประมาณ
             

เชิงอรรถ

ที่มา

[1]

เครื่องมือส่วนตัว