บทละครนà¸à¸à¹€à¸£à¸·à¹ˆà¸à¸‡à¸ªà¸±à¸‡à¸‚์ศิลป์ชัย
จาก ตู้หนังสือเรือนไทย
การปรับปรุง เมื่อ 09:22, 16 สิงหาคม 2552 โดย CrazyHOrse (พูดคุย | เรื่องที่เขียน)
เนื้อหา |
ข้อมูลเบื้องต้น
แม่แบบ:เรียงลำดับ พระราชนิพนธ์: พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว
บทประพันธ์
ตอนที่ ๑ สังข์ศิลป์ชัยตกเหว
ช้า | |||
๏ เมื่อนั้น | ทั้งหกให้คิดริษยา | ||
ต่างซุบซิบกันจำนรรจา | ใครมีปัญญาจงเร่งคิด | ||
แม้นสังข์ศิลป์ชัยได้ไปเฝ้า | เห็นเราหกคนไม่พ้นผิด | ||
ขนมทำมาให้ใส่ยาพิษ | มันไม่กินเหมือนจิตที่คิดไว้ | ||
ฯ ๔ คำฯ | |||
ร่าย | |||
๏ ศรีสันท์จึงว่าไปทันที | วันนี้สิงหราหาอยู่ไม่ | ||
ไปเที่ยวหาอาหารที่ในไพร | ทิ้งสังข์ศิลป์ชัยไว้พลับพลา | ||
เราจะยียวนชักชวนมัน | ไปเก็บพรรณผลไม้บนภูผา | ||
ผลักให้ตกเหวมรณา | จึงกลับมาพาพระอาไป | ||
อันนางสุพรรเทวี | จะพันมือพี่ไปที่ไหน | ||
ต่างเห็นชอบชวนกันดีใจ | มาหาสังข์ศิลป์ชัยฉับพลัน | ||
ฯ ๖ คำฯ เพลง | |||
๏ ลูบหลังลูบหน้าแล้วพาที | เรานี้จะพากันผายผัน | ||
เก็บผลพฤกษาที่เขานั้น | มาให้สุพรรณกับพระอา | ||
ฯ ๒ คำฯ | |||
๏ เมื่อนั้น | พระสังข์ได้ฟังไม่กังขา | ||
รับคำทั้งหกพี่ยา | กราบบาทพระอาแล้วว่าไป | ||
ตัวหลานทั้งเจ็ดจะจรดล | ไปเก็บผลพฤกษาที่ใกล้ใกล้ | ||
ทั้งสององค์จงอยู่พลับพลาชัย | ประเดี๋ยวใจจะมาให้พร้อมกัน | ||
ว่าแล้วจัดแจงแต่งองค์ | พระหัตถ์ทรงสังข์ศรพระแสงขรรค์ | ||
ทั้งเจ็ดองค์ลงจากพลับพลาพลัน | เจ้าศรีสันท์นำหน้าคลาไคล | ||
ฯ ๖ คำฯ เชิด | |||
ชมดง | |||
๏ ชี้ชมรุกขชาติดาษเดียร | เต็งตะเคียนยางยูงสูงไสว | ||
มูกม่วงพวงผลแกว่งไกว | เฟื่องไฟไกรกร่างมะปรางปริง | ||
พระสังข์ศิลป์ชัยหาไม้ง่าม | สอยผลสุกห่ามทุกก้านกิ่ง | ||
ศรีสันท์ก้มเก็บก้อนดินทิ้ง | หล่นร่วงช่วงชิงกันไปมา | ||
บ้างชักเชือกเขาเถาวัลย์ | ขึ้นผูกพันกิ่งไทรสาขา | ||
ผลัดกันไกวเล่นเป็นชิงช้า | สรวลสันต์หรรษาสำราญใจ | ||
พากันท่องเที่ยวเลี้ยวลอด | เลียบขึ้นบนยอดเขาใหญ่ | ||
ต่างชวนพระสังข์ศิลป์ชัย | เล่นไล่ปิดตาหากัน | ||
ฯ ๘ คำฯ เพลงฉิ่ง | |||
ร่าย | |||
๏ เมื่อนั้น | ศรีสันท์แสนกลคนขยัน | ||
ทำมารยาว่าแก่พระสังข์พลัน | เจ้าถือศรพระขรรค์ไว้ทำไม | ||
เราจะวิ่งเต้นเล่นสนุก | ฉวยล้มลุกพลาดพลั้งไม่ยั้งได้ | ||
จะถูกเนื้อถูกตัวพี่กลัวไป | วางไว้เล่นแล้วจึงมาเอา | ||
ฯ ๔ คำฯ | |||
๏ เมื่อนั้น | พระสังข์ศิลป์ชัยไม่รู้เท่า | ||
วางพระขรรค์ศรไว้ด้วยใจเบา | ที่ริมเงื้อมเขาสำคัญตา | ||
แล้วจึงตามพี่ศรีสันท์ | ลดเลี้ยวไล่กันบนภูผา | ||
หยิกหยอกหลอกล้อกันไปมา | เกษมสันต์หรรษาทั้งเจ็ดองค์ | ||
ฯ ๔ คำฯ เพลงฉิ่ง | |||
๏ เมื่อนั้น | พระศรีสันท์ครั้นเห็นพระสังข์หลง | ||
พาเที่ยวเลี้ยวเลียบเวียนวง | พบเหวดังประสงค์จำนงนึก | ||
หยิบศิลามาทิ้งลงไปดู | เอียงหูคอยฟังไม่ดังกึก | ||
ชะโงกตามลงไปใจทึกทึก | แลลึกเป็นหมอกมืดมัว | ||
จึงร้องเรียกพระสังข์ศิลป์ชัย | มาดูเหวใหญ่มิใช่ชั่ว | ||
ว่าพลางพรั่งพร้อมเข้าล้อมตัว | อย่ากลัวเลยพี่อยู่นี่แล้ว | ||
ทำชี้โว้ชี้เว้ด้วยเล่ห์กล | ลางคนหลอกลวงว่าดวงแก้ว | ||
ตรงมือนั่นแน่แลแววแวว | เห็นแล้วหรือยังถอยหลังไย | ||
ต่างเข้ายืนเคียงเมียงเขม้น | ครั้งเห็นงวยงงหลงใหล | ||
จึงผลักพระสังข์ศิลป์ชัย | ตกลอยลงไปในเหวนั้น | ||
ฯ ๑๐ คำฯ เชิดฉิ่ง โอด | |||
๏ ต่างคนชื่นชมสมคะเน | หัวเราะร่าวฮาเฮเกษมสันต์ | ||
พากันวิ่งกลับมาฉับพลัน | หาศรพระขรรค์ที่วางไว้ | ||
ไม่พบเห็นเป็นอัศจรรย์จิต | ต่างคนต่างคิดสงสัย | ||
เถียงกันอื้ออึงคะนึงไป | เมื่อที่ทางจำได้แน่นอน | ||
หาพลางต่างโมโหพาโลกัน | คนนี้ว่าคนนั้นลักซ่อน | ||
ค้นทั้งสองข้างหนทางจร | ไม่ได้ศรพระขรรค์ก็เสียใจ | ||
ศรีสันท์จึงว่าแก่น้องยา | เรากลับไปพระอาจะถามไถ่ | ||
ใครอย่าบอกออกความทั้งนี้ไซร้ | ซักซ้อมพร้อมใจแล้วไคลคลา | ||
ฯ ๘ คำฯ เชิด | |||
๏ ครั้นถึงพระอาทำหน้าเศร้า | ก้มเกล้ากราบลงตรงหน้า | ||
มิได้แถลงแจ้งกิจจา | ทำก้มพักตร์โศกาสะอื้นไป | ||
ฯ ๒ คำฯ โอด | |||
๏ เมื่อนั้น | นางเกสรสุมณฑาศรีใส | ||
เห็นหกนัดดาโศกาลัย | หลากใจไต่ถามมิทันช้า | ||
เหตุผลอย่างไรไม่บอกแจ้ง | มาโศกศัลย์กันแสงไยนักหนา | ||
พระสังข์ไปไหนจึงไม่มา | จงแจ้งกิจจาอย่าโศกี | ||
ฯ ๔ คำฯ | |||
๏ เมื่อนั้น | ทั้งหกพี่น้องทำหมองศรี | ||
เช็ดน้ำตาพลางทางพาที | เมื่อตะกี้หลานพากันเที่ยวไป | ||
พระสังข์น้องรักเฝ้าชักชวน | รบกวนให้พาขึ้นเขาใหญ่ | ||
แล้ววิ่งเต้นเล่นแข็งสุดใจ | ห้ามไม่ฟังเลยนะพระอา | ||
ล้วนห้วยเหวเปลวปล่องทั้งสองข้าง | ข้าเดินนำทางไปข้างหน้า | ||
พระสังข์ตามหลังหลานมา | ประเดี๋ยวเหลียวหาก็หายไป | ||
ข้าทั้งหกคนเที่ยวค้นทั่ว | จะพบตัวน้องยาก็หาไม่ | ||
แม้ตกเหวเหล่านั้นเห็นบรรลัย | หรือจะเป็นกระไรไม่แจ้งการณ์ | ||
ฯ ๘ คำฯ เจรจา | |||
๏ เมื่อนั้น | นางเกสรสุมณฑาฟังว่าขาน | ||
ทั้งนางสุพรรณนงคราญ | ปิ้มปานชีวันจะบรรลัย | ||
ต่างตระหนกอกสั่นขวัญหาย | ฟูมฟายชลเนตรหลั่งไหล | ||
จึงว่าแก่นัดดายาใจ | ไปเล่นถึงไหนอย่างอำพราง | ||
จงพาอาไปเที่ยวค้นดู | เกลือกจะหลงอยู่ในป่ากว้าง | ||
แล้วลงจากพลับพลาทั้งสองนาง | ศรีสันท์นำทางจรจรัส | ||
ฯ ๖ฯ เพลง | |||
๏ เมื่อนั้น | ทั้งหกแสนกลคนขยัน | ||
ครั้นถึงคีรีที่สำคัญ | ทำโศกศัลย์ทูลองค์พระเจ้าอา | ||
พระสังข์ศิลป์ชัยมาสูญหาย | ที่ทางแคบเหวรายทั้งซ้ายขวา | ||
หลานทั้งหกทุกคนเที่ยวค้นหา | ที่เหล่านี้หนักหนาไม่พบพาน | ||
ฯ ๔ คำฯ เจรจา | |||
โอ้ร่าย | |||
๏ เมื่อนั้น | นางเกสรสุมณฑายิ่งสงสาร | ||
รุ่มร้อนหฤทัยดังไฟกาฬ | เยาวมาลย์ลดเลี้ยวเที่ยวมา | ||
ค่อยย่องเหยียบเลียบลัดไปนอกทาง | สองนางเรียกร้องแล้วมองหา | ||
ไม่ประสบพบองค์พระนัดดา | กัลยาครวญคร่ำร่ำไร | ||
โอ้ว่าพระสังข์ศิลป์ชัยเอ๋ย | ไม่มาหาอาเลยไปอยู่ไหน | ||
หรือว่าผีสางที่กลางไพร | ซ่อนพระสังข์ไว้กระมังนา | ||
ขอให้พบพานพระหลานรัก | จะบวงสรวงเซ่นวักให้หนักหนา | ||
ร่ำพลางนางทรงโศกา | ปิ้มว่าโฉมฉายจะวายปราณ | ||
ฯ ๘ คำฯ โอด | |||
ร่าย | |||
๏ เมื่อนั้น | เจ้าศรีสันทาจึงว่าขาน | ||
จะโศกศัลย์อยู่เห็นไม่เป็นการ | เราคิดอ่านแยกย้ายรายกัน | ||
เจ้าชาติจงไปด้วยพระอา | นางสุพรรณกับข้ามาผายผัน | ||
เจ้าทั้งสี่นี้แยกไปทางนั้น | ช่วยกันดั้นด้นคว้า | ||
และทำชะเง้อดูเงี่ยหูฟัง | เอ๊ะเสียงพระสังข์ร้องเรียกหา | ||
ออกชื่อเจ้าสุพรรณกัลยา | เร็วเถิดอย่าช้ามาจะไป | ||
ฯ ๖ คำฯ เจรจา | |||
๏ เมื่อนั้น | นางสุพรรณยินดีจะมีไหน | ||
จะใคร่พบพระสังข์ศิลป์ชัย | ก็เดินตามไปไม่คิดแคลง | ||
ฯ ๒ คำฯ เพลง | |||
๏ เมื่อนั้น | ศรีสันท์ทำเที่ยวเสาะแสวง | ||
นำนางดำเนินคว้างแคว้ง | พาลัดแลงไปให้ไกลอา | ||
เห็นที่สุมทุมพุ่มไม้ | ก็เข้าไปนั่งลงแล้วร้องว่า | ||
หยุดนั่งนี่ก่อนเถิดกัลยา | จะได้ปรึกษาหารีอกัน | ||
ฯ ๔ คำฯ | |||
๏ เมื่อนั้น | นางสุพรรณไม่รังเกียจเดียดฉันท์ | ||
คิดว่าเป็นวงศ์พงศ์พันธุ์ | ก็ไปนั่งลงพลันทันที | ||
จึงว่าหยุดไยให้เนิ่นช้า | เหน็ดเหนื่อยหนักหนาเจียวหรือพี่ | ||
รีบไปให้พบเสียเดี๋ยวนี้ | ช้านักชนนีจะคอยเรา | ||
ฯ ๔ คำฯ | |||
๏ เมื่อนั้น | ศรีสันท์แสนกลร่ายมนต์เป่า | ||
ยิ้มแย้มพูดจาคิ้วตาเพรา | นี่แน่เจ้าจะว่าให้ดีเจียว | ||
ฯ ๒ คำฯ | |||
ชาตรี | |||
๏ ปลื้มเอยปลื้มจิต | แม่อย่าคิดเคืองขุ่นฉุนเฉียว | ||
พี่ยังเกรงกริ่งอยู่สิ่งเดียว | จะให้เที่ยวเหนื่อยเปล่าไม่เข้ายา | ||
อันพระสังข์แม้นว่าข้าหาได้ | สินจ้างจะให้อะไรข้า | ||
ถ้าพี่ได้สมจิตที่คิดมา | จะอุตส่าห์เที่ยวค้นจนสิ้นแรง | ||
อันความที่พี่รักเจ้าหนักหนา | จริงจริงนะน้องอย่ากินแหนง | ||
เรามานี่ที่ทางก็ลับแลง | พอเป็นพักเป็นแรงจึงค่อยไป | ||
พลางขยดเข้าชิดสะกิดหลัง | จะปรานีพี่มั่งหรือหาไม่ | ||
ทำและเลียมถูกต้องลองใจ | เจ้าถอยหนีพี่ใยกัลยา | ||
ฯ ๘ คำฯ | |||
ร่าย | |||
๏ เมื่อนั้น | นางสุพรรณเคืองแค้นเป็นหนักหนา | ||
ลุกยืนขึ้นเสียงมิได้ช้า | แล้วว่าดูดู๋พี่เช่นนี้เจียว | ||
ว่าจะพาเที่ยวหาสังข์ศิลป์ชัย | ลวงให้ตามมาถึงป่าเปลี่ยว | ||
ช่างสับปลับอย่างนี้ทีเดียว | ด้านหน้ามาเกี้ยวไม่อายใจ | ||
พาซื่อลือจิตคิดว่าพี่ | ธรรมเนียมมันมีอยู่ที่ไหน | ||
ได้เห็นกันสินะไม่ละใคร | กลับไปจะทูลพระมารดา | ||
ฯ ๖ คำฯ | |||
โอ้โลม | |||
๏ น้องเอยน้องรัก | สุดที่พี่จะหักเสน่หา | ||
เมื่อมาแต่หนุ่มสาวสองรา | ในกลางป่าค่าไม้เช่นนี้ | ||
ถ้าเจ้ามิหย่อนผ่อนปรน | ใช่ว่านฤมลจะพ้นพี่ | ||
จงคิดชั่งใจดูให้ดี | ไม่พอที่จะโกรธขึ้งตึงตัง | ||
ถึงเจ้าจะว่าให้อารู้ | จะโบยตีพี่สู้เสียหลัง | ||
ตายไหนตายไปคงไม่ฟัง | เอ็นดูพี่มั่งเถิดแก้วตา | ||
อันพี่น้องครองกันแลยั่งยืน | ไม่เสียเรือนผู้อื่นดีหนักหนา | ||
ว่าพลางเข้าใกล้ไขว่คว้า | อุ่ยหน้าอย่าหยิกจะป่วยไป | ||
ฯ ๘ คำฯ | |||
โอ้โลม | |||
๏ แสนเอยแสนแขนง | อย่าพักก่นกรรแสงเสียงแจ้ว | ||
อันเจ้าจะพ้นมือพี่ไม่มีแวว | เม้นคลาดแคล้วไปได้มิใช่มือ | ||
พี่ง้องอนวอนว่าแต่โดยดี | ไม่พอที่โกรธขึ้งอึงอื้อ | ||
เพราะรักเจ้าหนักหนาจึงคร่ายื้อ | ควรหรือแก้วตาไม่ปรานี | ||
จะมิให้ยืดไว้อย่างไรเล่า | เมื่อเจ้าคอยแต่จะวิ่งหนี | ||
น่าชังดูเอาเฝ้าหยิกตี | จะถูกนิดก็มีแต่ฮึดฮัด | ||
เป็นไรเป็นไปไม่ฟังกัน | จะประชันเรี่ยวแรงที่แข็งขัด | ||
ว่าพลางสวมสอดกอดรัด | นางสะบัดหนีได้ไล่ตามมา | ||
ฯ ๘ คำฯ เชิด | |||
ร่าย | |||
๏ เมื่อนั้น | นางเกสรสุมณฑาจึงร้องว่า | ||
เป็นเจ้าสุพรรณกัลยา | จึงร้องอึมาด้วยอันใด | ||
ฯ ๒ คำฯ เจรจา | |||
๏ เมื่อนั้น | นางสุพรรณทูลแข้งแถลงไข | ||
อ้ายศรีสันท์มันพาข้าไป | ถึงพุ่มไม้ที่เปลี่ยวก็เกี้ยวพาน | ||
ลูกแค้นขัดใจจะกลับมา | มันกั้นหน้าคร่ายื้อหักหาญ | ||
ข้าสะบัดวิ่งหนีตะลีตะลาน | อ้ายหน้าด้านจัญไรมันไล่มา | ||
ฯ ๔ คำฯ | |||
๏ เมื่อนั้น | ศรีสันท์ขึ้นเสียงเถียงต่อหน้า | ||
ดูเถิดเจ้าสุพรรณช่างพูดจา | แกล้งพาโลข้าว่าคร่ายื้อ | ||
เมื่อไรข้าได้ทำเช่นนั้น | มาล้วงตะกั่วกันเดี๋ยวนี้หรือ | ||
เจ้าสิสันทัดได้หัดปรีอ | ข้าคนซื่อเช่นนี้ยังมิเคย | ||
ไม่ได้เกี้ยวสักคำทำสักนิด | พาลผิดเปล่าเปล่าแม่เจ้าเอ๋ย | ||
รู้กระนี้ไม่ไปด้วยใครเลย | จะนั่งเฉยอยู่นี่มิดีเจียว | ||
ว่าข้าไล่มาใครอย่าเชื่อ | เพราะเห็นเสือตกใจวิ่งไม่เหลียว | ||
เอออะไรช่างปดลดเลี้ยว | อย่าเชื่อนางข้างเดียววพระเจ้าอา | ||
ฯ ๘ คำฯ | |||
๏ เมื่อนั้น | นางสุพรรณตอบพลางทางชี้หน้า | ||
ชะเจ้าคนดีศรีสันทา | ยังว่าไม่รับสับปลับจริง | ||
พูดเลียบเปรียบเปรยถึงลูกผัว | ด้านหน้าแก้ตัวไปทุกสิ่ง | ||
แต่แรกเจ้าง้องอนวอนวิง | อ้อยอิ่งเซ้าซี้พิรี้พิไร | ||
ไม่คิดอายผีสางที่กลางดง | แทบจะก้มหัวลงกราบไหว้ | ||
ครั้นเขาไม่ลุ่มหลงปลงใจ | เข้าไล่ฉวยฉุดยุดยื้อ | ||
จะหยิกข่วนเท่าไรก็ไม่เจ็บ | นั่นมิใช่รอยเล็บของกูหรือ | ||
ดูเถิดที่ต้นคอกับข้อมือ | ยังจะดื้อเถียงได้ไม่อายเลย | ||
ฯ ๘ คำฯ | |||
๏ เมื่อนั้น | เจ้าศรีสันทาทำหน้าเฉย | ||
เมียงเมินหัวเราะเยาะเย้ย | เจ้าข้าเอ๋ยนางนี้ขี้พาโล | ||
ค้าคารมลมเติบสุดใจ | เห็นเขาเกรงผู้ใหญ่ไม่ตอบโต้ | ||
ครั้นว่าบ้างขัดใจร้องไห้โฮ | มีแต่โมโหไปข้างเดียว | ||
เมื่อข้าสาละวนจะด้นป่า | ค้นคว้าหาน้องท่องเที่ยว | ||
อุตส่าห์บุกเข้าไปในรกเรี้ยว | หนามเกี่ยวเป็นแผลไปทั้งตัว | ||
ชะช่างว่าข่วนล้วนรอยเล็บ | เลือกเก็บเอามาว่าพอหน้าชั่ว | ||
แต่เช่าเจ้ากระนี้มิอยากกลัว | ถ้าตัวต่อตัวมิพ้นไป | ||
ยังกลับมาประกวดอวดแรง | ว่าข้าฉุดยุดแย่งเจ้าไม่ไหว | ||
มาลองดูเดี๋ยวนี้ก็เป็นไร | ใครจะแรงกว่าใครให้เอาดู | ||
จะถุ้งเถียงกันไปไม่ได้ข้อ | เขาจะหัวร่อน่าอดสู | ||
คำบุรานท่านว่าไว้เป็นครู | ใครไขหูอดได้ก็ได้บุญ | ||
ฯ ๑๒ คำฯ เจรจา | |||
๏ เมื่อนั้น | นางเกสรสุมณฑาก็เคืองขุ่น | ||
จึงว่าไอ้เจ้าเล่ห์เนรคุณ | ทุจริตคิดวุ่นไปโดยพาล | ||
มิใช่ว่ากูไม่รู้เท่า | พูดแก้เปล่าเปล่าอ้ายหน้าด้าน | ||
มึงเถียงได้ด้วยไม่มีพยาน | ทำหักหาญเห็นว่าข้ากลัวเกรง | ||
เหตุเพราะนัดดากูสูญหาย | จึงจ้วงจาบหยาบคายข่มเหง | ||
ชวนทะเลาะเกาะแกะครื้นเครง | ฝากไว้เถิดเอ็งเป็นไรมี | ||
ฯ ๖ คำฯ | |||
๏ เมื่อนั้น | ศรีสันท์บ่นเถียงเสียงอู้อี้ | ||
ส่วนนางสุพรรณกระนั้นดี | คนอื่นแล้วมีแต่ไม่จริง | ||
เอออะไรนี่พอทีหรือ | เป็นเคราะห์เพราะซื่อต่อผู้หญิง | ||
ท่านลงโทษโกรธขึ้งชังชิง | ถ้าเป็นจริงเหมือนว่าน่าเกิดความ | ||
แม้นสังข์ศิลป์ชัยไม่สูญหาย | เห็นจะขายเราแน่ไม่พักถาม | ||
แกล้งพูดเปรยเย้ยเยาะลวนลาม | บ่นบ้าไปตามอำเภอใจ | ||
ฯ ๖ คำฯ | |||
๏ เมื่อนั้น | เจ้าทั้งห้าคนคิดแก้ไข | ||
กราบบาทพระอาแล้วว่าไป | พี่ศรีสันท์นี้ใจมุทะลุ | ||
เป็นคนมักได้ใคร่มี | หนายช้าพาทีดึงดุ | ||
เสียจริตกิริยาเป็นบ้ายุ | พูดกุกะไปไม่เกรงกลัว | ||
อันใจข้าห้าคนนี้ซื่อแท้ | รักอาเหมือนแม่บังเกิดหัว | ||
เจ้าสุพรรณนั้นนึกว่าน้องตัว | ศรีสันท์ทำชั่วไม่ชอบใจ | ||
พระองค์จงอดโทษสักครั้งหนึ่ง | เรารีบไปให้ถึงกรุงใหญ่ | ||
จะรัญจวนครวญคร่ำอยู่ทำไม | อันสังข์ศิลป์ชัยเห็นไม่มา | ||
ฯ ๘ คำฯ | |||
ธรณีร้องไห้ | |||
๏ เมื่อนั้น | นางเกสรสุมณฑาละห้อยหา | ||
จึงปรึกษาสุพรรณกัลยา | อยู่ช้าก็สำหรับจะอับอาย | ||
สไบแม่กับช้องของโฉมยง | จะทำธงสำคัญมั่นหมาย | ||
แม้นสังข์ศิลป์ชัยยังไม่ตาย | กลับมาดีร้ายจะพบพาน | ||
แล้วหยิบช้องกับผ้ามาทำธง | ปักลงตั้งจิตพิษฐาน | ||
ขอเทวาอารักษ์ทั้งจักรวาล | ช่วยบันดาลให้แจ้งกิจจา | ||
แม้นว่าพระสังข์ยังอยู่ | จงมีผู้เอาของไปให้ข้า | ||
ถ้าเจ้ามอดม้วยมรณา | ช้องกับภูษาจงสูญไป | ||
สิ้นคำที่ร่ำพิษฐาน | เยาวมาลย์เศร้าสร้อยละห้อยไห้ | ||
คิดถึงนัดดายิ่งอาลัย | ครวญคร่ำร่ำไรโศกา | ||
ฯ ๑๐ คำฯ โอด | |||
ร่าย | |||
๏ ครั้นค่อยคลายวิโยคโศกศัลย์ | ก็ชวนกันลงจากภูผา | ||
ศรีสันท์นั้นนำมรคา | ดั้นดัดลัดมาในดงดาน | ||
ฯ ๑ คำฯ เชิด | |||
๏ เมื่อนั้น | ฝ่ายเจ้าสิงหรากล้าหาญ | ||
เที่ยวไล่สัตว์สิงห์วิ่งทะยาน | เป็นลางบันดาลบอกเหตุภัย | ||
ให้มึนตึงกายาตาเขม่น | จิตใจเยือกเย็นดังเป็นไข้ | ||
คิดถึงพระสังข์ศิลป์ชัย | ก็แผลงฤทธิ์ฤทธิไกรกลับมา | ||
ฯ ๔ คำฯ เชิด | |||
๏ ครั้นถึงเชิงเขาลำเนาเพลิน | จึงลงเดินลดเลี้ยวเที่ยวหา | ||
ไม่เห็นที่ประทับพลับพลา | ทั้งพระอาน้องชายก็หายไป | ||
นั่งนึกตรึกไตรให้รำคาญ | จะเกิดเหตุเภทพาลเป็นไฉน | ||
หรือจะพากันรีบไปเวียงชัย | ที่จะหนีพี่ไปก็ใช่เชิง | ||
คิดพลางทางเที่ยวสัญจรหา | บุกป่ากู้ก้องร้องเปิ่ง | ||
แล้วขึ้นเขาเข้าค้นในวุ้งเวิ้ง | ทุกซุ้มเชิงรกเรี้ยวเที่ยวมองดู | ||
เทวัญบันดาลให้ผายผัน | มาเห็นศรพระขรรค์ที่วางอยู่ | ||
เอ๊ะเกิดเหตุแท้แล้วอกกู | จะมีผู้ทำร้ายแก่น้องยา | ||
เป็นตายอย่างไรไม่แจ้งจิต | สุดคิดที่จะเที่ยวแสวงหา | ||
ยิ่งคิดสร้อยเศร้าเปล่าอุรา | ก็โศกาครวญคร่ำร่ำไร | ||
ฯ ๑๐ คำฯ โอด | |||
๏ แล้วฝืนจิตดำริตริตรองดู | จะนิ่งอยู่กระนี้ก็มิได้ | ||
เมื่อไม่พบน้องน้อยกลอยใจ | จำจะไปทูลสองพระมารดร | ||
คิดพลางทางทำอานุภาพ | ปากคาบพระขรรค์กับสังข์ศร | ||
เผ่นโผนโจนเหาะขึ้นอัมพร | ตรงไปนครบรรพต | ||
ฯ ๔ คำฯ เชิด | |||
๏ ครั้นถึงจึงลงจากอากาศ | ขึ้นปราสาทแก้วมรกต | ||
กราบบาทสองนางพลางรันทด | พิไรร่ำกำสรดโศกี | ||
ฯ ๒ คำฯ โอด | |||
๏ เมื่อนั้น | องค์พระมารดาทั้งสองศรี | ||
เห็นมาร้องไห้ไม่สมประดี | เทวีคิดอัศจรรย์ใจ | ||
ปลอบพลางทางถามมิทันช้า | เป็นไรมาโศกศัลย์กันแสงไห้ | ||
มีเหตุเภทพาลประการใด | น้องรักอยู่ไหนจึงไม่มา | ||
ฯ ๔ คำฯ | |||
๏ เมื่อนั้น | สิงหราโศกศัลย์เป็นหนักหนา | ||
จึงเล่าความตามเรื่องไปรับอา | แต่ต้นมาจนถึงกลางไพร | ||
ทั้งหกเชษฐากับน้องรัก | ชวนกันหยุดพักในป่าใหญ่ | ||
ลูกนี้โฉดเขลาเบาใจ | ลาสังข์ศิลป์ชัยไปหากิน | ||
ครั้นกลับมาไม่เห็นพระน้องชาย | พากันสูญหายไปหมดสิ้น | ||
ข้าค้นบนเขาเขินเดินดิน | พบแต่สังข์ศิลป์พระขรรค์ชัย | ||
สุดที่จะคิดติดตามหา | ไม่รู้ว่าเกิดเข็ญเป็นไฉน | ||
จึงรีบมาทูลแถลงให้แจ้งใจ | อันโทษตัวลูกไซร้ผิดนัก | ||
ฯ ๘ คำฯ | |||
๏ เมื่อนั้น | สองนางพ่างเพียงอกหัก | ||
ชลเนตรฟูมฟองนองพักตร์ | นงลักษณ์ครวญคร่ำร่ำไร | ||
ฯ ๒ คำฯ โอด | |||
โอ้ | |||
๏ โอ้ว่าลูกรักของแม่เอ๋ย | แม่เคยเชยชิดพิสมัย | ||
หรือมาพลัดพรากจากไป | เพราะเชื่อไอ้กระยาจกทั้งหกคน | ||
อันความคิดของมันแม่รู้เท่า | ได้ห้ามปรามเจ้าเป็นหลายหน | ||
ช่างไว้เนื้อเชื่อใจไอ้แสนกล | มันคนริษยาอาธรรม์ | ||
เห็นว่ารับอามาได้แล้ว | จึงคิดฆ่าลูกแก้วให้อาสัญ | ||
จะได้หน้าได้ตาแต่พวกมัน | ควรหรือจอมขวัญไปหลงรัก | ||
อนิจจาลูกน้อยมาสูญหาย | จะเป็นตายฉันใดไม่ประจักษ์ | ||
สองกรข้อนทรวงเข้าฮักฮัก | ซบพักตร์กันแสงโศกี | ||
ฯ ๘ คำฯ โอด | |||
ตอนที่ ๒ ท้าวเสนากุฎเข้าเมือง
๏ | |||
เชิงอรรถ
ที่มา
บทละครนอกเรื่อง สังข์ศิลป์ชัย สถาบันภาษาไทย กรมวิชาการ กระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. ๒๕๔๐ ( ขอขอบคุณ คุณพิกุลแก้ว สมาชิก kaewkao.com ผู้พิมพ์เป็นวิทยาทาน )