ดุษฎีสังเวยกล่อมช้างคำฉันท์

จาก ตู้หนังสือเรือนไทย

การปรับปรุง เมื่อ 16:53, 11 สิงหาคม 2552 โดย CrazyHOrse (พูดคุย | เรื่องที่เขียน)
(ต่าง) ←รุ่นก่อนหน้า | รุ่นปัจจุบัน (ต่าง) | รุ่นถัดไป→ (ต่าง)
ข้ามไปที่: นำทาง, สืบค้น

เนื้อหา

ข้อมูลเบื้องต้น

แม่แบบ:เรียงลำดับ ผู้แต่ง: ขุนเทพกระวี

บทประพันธ์

ฉบัง ๑๖
๏ อัญขยมสดุดีพระไพรป่าดงพงใน
สระสโรชมหิมา
๏ ฉทึงธารคิรีเหวผาไม้ไล่นานา
อเนกพฤกษพิศาล
๏ ป่งป่าท่าทางเที่ยวธารอันจรสบสถาน
ข้าขออำลาพระไพร
๏ พระพนัศบดีผองสบไศลดูข้าตั้งใจ
ทำนุกอำรุงผดุงผดา
๏ เทียนธูปแลประทีปชวาลาเครื่องโภชนกระยา
สังเวยประดับทุกพรรณ
๏ กล้วยอ้อยพร้าวตาลสบสรรพ์ถวายแก่พระกรรม์
ประสิทธิพระไพรพน
๏ ลาเทพทั้งพื้นไพรสณฑ์จงรักษ์ดำกล
หฤไทยตั้งรักษา
๏ อย่าได้เบียดเบียนบีฑาภูธรประชา
ทั้งปกทั้งปวงเดินดง
๏ มาลาแลเสวตรฉัตรธงถวายด้วยใจจง
จงท่านอย่าได้บีฑา
๏ ได้เดินใกล้รายไปมาขอโทษอำลา
อย่าต้องอย่าพาลเบียดเบียน
๏ ขอจงศุขสถาพรเสถียรอย่าได้วนเวียน
อัญเชิญธสถิตย์ในไพร
๏ ช้างใดต้องบาศบไคลจำนองจองไป
ประโยชน์เลี้ยงรักษา
๏ อย่าได้แดเดือดโศกาอย่าคร่ำครวญหา
พ่อแม่พี่น้องเผ่าพันธุ์
๏ เมืองโพ้นนางช้างก็สกรรค์ย่อมโขลงแส้งสรรค์
ลำเภาดำเนินโสภา
๏ กล้วยอ้อยพร้าวตาลนานาหญ้าเผือเหลือตรา
อเนกด้วยอาหาร
๏ ป่าดงฤาจะเปรียบปูนปานเบื้องศุขสำราญ
ในไพรพนมชมผา
๏ เมื่อนอนร่มไม้สาขาหญ้าแฝกแขมคา
แลเงื้อมชรง่อนเทินเขา
๏ เมืองโพ้นโรงรัตนพัฬเหาพเนกจลุงเกลี้ยงเกลา
เมลืองบได้เคืองรคาย
๏ ท่าทางเดินเหินก็สบายควาญคชกับนาย
ประจำบห่อนคลาไคล
             
วสันตดิลก ๑๔
๏ อ้าพ่ออย่าคิดแก่ชนนีแลชนกในกลางไพร
อ้าพ่ออย่าคิดภคินิในพนสณฑสิงสถาน
๏ อ้าพ่ออย่าคิดคณผู้บุตรอันเสน่หนงพาล
อ้าพ่ออย่าคิดคชผู้หลานเหลนเหลือลืดแลพงษ์พันธุ์
๏ อ้าพ่ออย่าคิดพนสรนุกนี้ศุขเล่นพนาวัน
อ้าพ่ออย่าคิดศุขในบรรพตห้วยฉทึงธาร
๏ อ้าพ่ออย่าคิดศุขในป่งดในป่าพฤกษาสาร
อ้าพ่ออย่าคิดแก่บริพารอันเปนเพื่อนในไพรพนม
๏ อ้าพ่ออย่าคิดคชสุคนธอันเคยภิรมย์ชม
ดอกไม้อันหอมคชผธมขจรกลิ่นวังเวงใจ
๏ อ้าพ่ออย่าคิดแก่พลผลาภักษหญ้าอันมีใน
ธารนำ้อันไหลวิสุทธใสแลมาเลี้ยงแก่ตนเอง
๏ อ้าพ่ออย่าคิดทุกขบัดนี้ทุกขแต่หลังบุราณเพรง
อ้าพ่ออย่าคิดทุกขวังเวงเลยณพ่อจงตามครู
๏ ต้องบาศเรานี้ฤณพ่อเพราะเสน่หแห่งกู
พังพลายอันใดกลดำรูก็จะเลี้ยงจะล่ามสงวน
๏ อ้าพ่อจงเสียพยศอันร้ายแลอย่าขึ้นงทรหึงหวล
หล่อหลอนอย่าทำกิจบควรและอย่าถีบอย่าฉัดแทง
๏ อ้าพ่อจงเสียพยศอันเปลื้องแลอย่าเลื่อมกำแหงแรง
พ่อจำอันสอนจิตรอย่าแคลงแลจงรักทั้งหมอควาญ
๏ จงมีจริตสุทธิอันงามสบงเสงี่ยมแลเสี่ยมสาร
พวกพ้องนิกรบบริพารบริรักษ์รักษา
๏ อ้าพ่ออย่าโศกอย่าทุกข์เลยแลอย่าเศร้าอย่าโศกา
อย่าให้พิลาปจิตรอาดุรเลยจงยลยิน
๏ อ้าพ่ออย่าโทษบิดรมาดรโทษอันเพื่อนกิน
อ้าพ่ออย่าโทษนรนรินทร์ทั้งนี้ย่อมอำเภอกรรม์
๏ อ้าพ่ออย่าโทษชนผู้ใดแลพระพรหมหากสรรค์
มาเปนชำนินรนิรันดรเลี้ยงบำเรอหใน
๏ จงพ่ออย่าได้ทุกขทุกขาดุรเดือดรฤกไพร
จักนำยังโรงรัตนประไพจิตรจงสำราญรมย์
๏ หนึ่งโสดสมเด็จบรมหงษ์คือองค์พระพรหม
รังสฤษดิสรรคพ่อมาสมเปนวรพาหนภูเบนทร์
๏ อย่าโทษพ่อแม่คณพี่น้องแลจงคิดคำนึงเหน
โทษกรรมเองก็บมิเว้นบมิแวะจะหลีกกรรม์
๏ จงตั้งมโนชที่จะไปบุริรมยหฤหรรษ์
จักเห็นสระกุสุมพรรณสนุกนิชื่นชม
๏ มีบัวบุษย์บานอุบลจงกลนีก็สรบสม
ใบบัทมแบ่งแลก็สลมก็สลอนทั้งสระศรี
๏ ตั้งใจราพ่อคชจงเดินคลในพระบูรี
อย่าคิดลำเนาพนอันมีคชเคยทรเหหวน
๏ พ่อแม่พี่น้องอันเปนเสน่หทั้งนั้นอย่าเครงครวญ
จงพ่อมาเสียพยศมายวลจิตรโดยตูสมพอง
             
ยานี ๑๑
๏ แต่นี้พนาทางก็กระดาษทั้งผอง
ร่มราบคือน่ากลองแลธแกล้งประดับดา
๏ ครั้นพ่อแลดีแล้ววรรราชราชา
จักเปนคเชนทราธิปดินทรฤาไกร
๏ มีพวกจเกี่ยวหญ้ามาส่งให้บยากใจ
จักกินอันใดใดก็จะได้ดั่งใจปอง
๏ หนึ่งโสดนายแลควาญจะรักษาบให้หมอง
ขัดสีดูเรืองรองบมิให้มีมลทิน
๏ ที่อยู่จะใครอยู่ทั้งที่กินจะใคร่กิน
จงพ่อมายลยินคดีอันกูกล่าวสาร
๏ หนึ่งโสดประดับด้วยคชาภรณ์อลงการ
ชนักแร่งประแอกอานแลตระพัตรคนควร
๏ อยู่ป่าไซ้ถีบฉัดแลหล่อแทงทรหึงหวน
จงเสียพยศทั้งมวญแลมาเชื่องเปนสารศรี
๏ จักเปนชำนิภูธรเกล้าตรีโลกีย์
ปราบราชไพรีแลจงจำอันสั่งสอน
             
ฉบัง ๑๖
๏ หนึ่งโสดกรินีสาทรอันผูกด้วยสร
มนัศใจเสน่หา
๏ ขอแต่พระไพรคณาตูจักลีลา
ยังศุขรมยบุรี
๏ จงตั้งใจเดินด้วยดีอย่ารำพึงศรี
แลสระสโรชในไพร
๏ ร่มรื่นพื้นป่าพอใจเปนที่อาไศรย
สนุกนิ์สำราญบรรธม
๏ ป่งป่าท่าทางเคยชมในพระบุรีรมย์
สนุกนิ์กว่านี้แสนทวี
๏ น้ำไหลไคลคลายเปรมปรีดิ์บัวจงกลนี
ทั้งหญ้าระร่อนอ่อนหวาน
๏ อุบลสัตบันแบ่งบานนานาผลาหาร
สำราญภิรมย์อนันต์
๏ อย่าคิดถึงเผ่าพงษ์พันธุ์พี่น้องพ้องสรรพ์
ลูกจรัลจรกลางแด
๏ แม่ลูกผูกรักเลงแลเคยเคียงผันแปร
แลแล่นมาเคล้าคลึงกัน
๏ แม่รักลูกรักจรจรัลพลายพังก็กระสัน
ทรหึงทรโหยโหยหา
๏ ไห้ห่มรมยวนไปมาอย่าเศร้าโศกา
ทั้งนี้ย่อมแรงกรรม์
๏ กมลาศน์ธแกล้งเกลาสรรค์อย่าโทษพงษ์พัน
ธุทุกเทพยมานุษย์เลย
๏ แต่นี้จงสร่างสรเบยทุกขหลังอันเคย
พิบากลำบากเหลือใจ
๏ เมื่ออยู่ป่าดงพงไพรหากินเองใน
พนานตยากหนักหนา
๏ หนึ่งโสดฝุ่นทรายตรึงตรานอนแนบหินผา
กระด้างกระเดื่องทั้งตัว
๏ แต่นี้เกลือกตมทรายมัวบมิได้พอกพัว
เพราะนายแลควาญรักษา
๏ แต่นี้ไปโดยรัถยาทางท้องมหิมา
สลมสลอนพร้าวตาล
๏ หญ้าปล้องหญ้าหวายแลลมานอ้อยช้างตระการ
ทั้งข่อยแลแขมโพบาย
๏ หนึ่งโสดฝูงช้างพังพลายอยู่เมืองโพ้นหลาย
คเชนทรเผือกพัฬเหา
๏ ลางตัวตัวผู้มาเอากลิ่นตัวเมียเมา
รดีรดัสกำจร
๏ ย่อมช้างมีลักษณบวรชำนิภูธร
ธิราชเจ้าจอมไตร
๏ ส่วนกรินีโสดก็จะไปอยู่โรงเรียนใน
กรลาบังคัลคนผจง
๏ เทียมเทียบเกยรัตนยรรยงแนมแนบพลายพงษ์
เชื้อคเชนทรอันดี
๏ จงเสียพยศร้ายราวีวัดวายถีบตี
ทั้งฉัดแลหล่ออย่าทำ
๏ สั่งสอนอันใดพึงจำอย่าได้ฝ่าคำ
อันกล่าวนี้หนอจงตาม
๏ ครั้นดีเชื่องชาญในสนามกินผอกเหลือหลาม
สนุกนิอยู่หรรษ์
๏ อาภรณ์ประดับสรรพสรรพ์คับควรทุกอัน
กระพัตรคนซองหาง
๏ ชนักแร่งแลพนาศสำอางงามทั่วสรรพางค์
คล้อยดำเนินโสภา
๏ เปนพาหนสมเด็จราชาผ่านผ้าสีมา
อรินทรเรียบฤาเสบย
๏ ใต้ฟ้าฤาจะเปรียบปูนเลยโอ้กรินีเอย
ประเสริฐแลใดปาน
๏ ขอเทพารักษ์ทุกสถานจงช่วยบริบาล
สถิตย์ทั้งทั่วสรรพางค์
๏ ฤาษีสิทธิสถิตย์บาศอย่าวางทั้งสี่ในปาง
นี้หนอจงช่วยรักษา
๏ ช้างใดต้องบาศอย่าคลาผลนั้นมหิมา
ครั้นสิ้นชีวิตรไปสวรรค์
๏ ส่วนช้างพังพลายสบสรรพ์ไป่ต้องบาศอัน
พิเศษเลื่องฤาไกร
๏ จองอยู่ป่าดงพงไพรแผ่เผ่าพันธุ์ใน
พนานตให้มากหลาย
๏ หนึ่งจงเลี้ยงม่ามอ่ามสายลูกเต้าพังพลาย
แลพรรค์คเชนทรมากมี
๏ จงชมพนสณฑคิรีในไพรพงพี
สนุกนิเสนาะหัวใจ
๏ จงชมเทินธารน้ำไหลคล่าวคล้ายแสงใส
แลออกแต่เงื้อมแง่เขา
๏ จงชมบึงบางเซราะเซราที่ธารทางเทา
แลเที่ยวมาจวบจบกัน
๏ จงชมพฤกษาหลายพรรณต้นเรียบเรียงรัน
แลร่มชรอื้อใบบัง
๏ จงชมดอกโดรทั่วทังป่าปรือไพรกรัง
สนุกนิเร่งเชยชม
๏ ครั้นแล้วบาศธก็จะสมสบบาศคือพรหม
ไว้ประสิทธิสบสรรพ์
๏ ส่วนเจ้าป่าดงพงษ์พันธุ์เทพารักษ์อัน
อเนกทั่วไพรกรัง
๏ ข้าขอฝากทั้งพลายพังอันได้ด้วยหวัง
แลบาศไปคล้องตรึงตรา
๏ จงเทพารักษ์รักษาคุ้มเกรงกรุณา
ตูข้าจะนำเอาไป
๏ ส่วนพระภูธรผู้ไกรขอลาพระไพร
ไปยังอโยทธยาศรี
๏ จงสถาพรศุขมากมีขอลาพระไพร
หฤไทยมีหฤหรรษ์
๏ ทั้งนี้โสดองค์พระสรรเพชญไท้ทรงธรรม์
เลิศนิล้ำไตรตรา
๏ แก้กลอนกัมพุชภาษาแจงแจ้งเอามา
เปนสยามพากยพิไสย
๏ ฝ่ายข้างไสยสาตรนี้ใครฤาจะเปรียบปูนใน
พระองค์ไท้ทรงธรรม์
๏ เมื่อเสร็จการอุดมกรรม์ได้ช้างเผือกอัน
วิสุทธิสารบวร
๏ ทุกเทพทั้งหลายชมอรจึ่งอวยพระพร
แก่พระผู้เลี้ยงโลกา
๏ พระชนมยืนมหิมาสิบร้อยพรรษา
พระเกียรติล้ำแสนกัลป์
๏ ศักดิสิทธิฤทธิเดชสบสรรพ์โองการอันพรร
ณาประสิทธิกิจการ
             

เชิงอรรถ

ที่มา

เครื่องมือส่วนตัว