จาก ตู้หนังสือเรือนไทย
ข้อมูลเบื้องต้น
ผู้แต่ง: พระยาศรีสุนทรโวหาร (ผัน สาลักษณ)
พระราชนิพนธ์คำนำ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
หนังสืออิลราชคำฉันท์นี้ จะว่าได้เกิดมีขึ้นเพราะข้าพเจ้ายุยงก็ได้ ที่ว่ายุยงนั้น เพราะข้าพเจ้าได้ทราบอยู่ว่าหลวงสารประเสริฐ (พระยาศรีสุนทรโวหาร [ผัน สาลักษณ]) เป็นผู้มีฝีปากแต่งหนังสือเห็นกาพย์กลอนได้อยู่ ดังมีพยานปรากฎอยู่ทีเรื่อง ปัญจสิงขรคำกลอน กับฉันท์และกลอนเบ็ดเตล็ดต่างๆ ข้าพเจ้าได้อ่านแล้วก็เห็นว่า มีจินตกวีเกิดขึ้นในหมู่คนไทยชั้นหนุ่มอีกแล้ว แต่ข้าพเจ้าวิตกอยู่ว่า ถ้าไม่คอยระวัง กลัวหลวงสารประเสริฐจะใช้ความสามารถของตนนั้น เพื่อแต่งหนังสืออันไม่เป็นแก่นสาร
ในสมัยตั้งแต่ปลายรัชกาลที่ ๕ มา ข้าพเจ้ามีความเสียใจที่ได้สังเกตเห็นว่า ฝีปากผู้แต่งกาพย์กลอนเลวลงกว่าในต้นรัชกาลที่ ๕ นั้น เป็นอันมาก เพราะพอใจแต่งแผลงอวดดีไปว่าใช้โวหารอย่างใหม่ ซึ่งมีคนบางจำพวกนิยม โดยสำคัญว่าเป็นโวหารอย่างฝรั่งและนิยมว่า การแต่งหนังสือโดยใช้โวหารแผลง และคำซึ่งเข้าใจว่าเป็นคำฝรั่งปนเปอยู่นั้น เป็นเครื่องแสดงความรุ่งเรืองของตน ในชั้นเมื่อเกิดมีละครชนิดที่เรียกว่า ละครร้อง ชุกชุมขึ้น นักเลงแต่งบทละครร้องก็มีมากขึ้น และเป็นที่เข้าใจกันว่า กลอนที่จะใช้ในบทละครร้องเช่นนี้ต้องใช้เป็นอย่าง "สมัยใหม่" ใช้ถ้อยคำอย่างใหม่ เลี่ยงถ้อยคำ ซึ่งเรียกว่า "ภูมิเก่า" ให้มากที่สุดที่จะหลีกไปได้ เช่นต่างว่าจะแต่งบทโลม ถ้าแต่งอย่างแบบแผนแห่งจินตกวีนิพนธ์ไทยเก่า คงแต่งว่า
|
|
| "โฉมงามทรามสุดสวาทพี่ | | ดาลฤดีจ่อจิตพิศวง
|
| ขอแต่เพียงได้พิงอิงองค์ | | แนบอนงค์ขวัญฟ้ายาใจ" ดังนี้
|
| | |
|
แต่ถ้าใครแต่งเช่นนี้ก็มันถูกหาว่าเป็นภูมิเก่า ไม่ทันสมัย ฝ่ายผู้แต่งถึงแม้จะพอมีความรู้แต่งได้ก็ไม่กล้าแต่งออกมา เพราะกลัวจะถูกติว่าเป็นคนผิดสมัย ฝ่ายผู้อ่านถึงแม้ว่าแท้จริงเมื่ออ่านบทกลอนเช่นข้างบนนี้แล้วจะ รู้สึกในใจจริงว่าเพราะ ปากก็ต้องกล่าวติว่า "ครึ" หรือ "งุ่มง่าม" เพราะถ้าแสดงออกมาว่าชอบบทกลอนเช่นนี้แล้ว ก็เกรงจะเป็นเหมือนสารภาพว่าตนเป็นคนที่เดินไม่ทันสมัย ด้วยเหตุนี้จินตกวีสมัยปลายรัชกาลที่ ๕ เมื่อปรารถนาจะแต่บทโลมให้ได้ใจความเช่นเดียวกับบทข้างบนนี้จึงต้องแต่งว่า
|
|
| "โอ้งามโฉมประโลมหรูคู่ชีวิต | | ช่างถูกจิตนี่กระไรแม่ใจหวาน
|
| ขอจูบเจ้าคลึงเคล้าเยาวมาลย์ | | กระสันซ่านกอดศอพอชื่นใจ" ดังนี้
|
| | |
|
ตัวผู้ที่แต่งบทกลอนเช่นนี้ ถ้าเป็นผู้ที่มีนิสัยเป็นจินตกวีแม้แต่เล็กน้อย ก็คงจะต้องรู้สึกว่าเป็นถ้อยคำอันมีภูิมิต่ำ ซึ่งถ้าจะเปรียบกับคำกลอนบทข้างบนนี้ ก็ต้องรู้สึกว่าเหมือนขันทองเหลืองเทียบขันทองคำ แต่จะทำอย่างไรได้ตนเป็นผู้ขาย เมื่อคนซื้อชอบขันทองเหลืองมากกว่าขันทองคำ ก็จำเป็นต้องทำขันทองเหลืองขาย เมื่อเจ้าของโรงละครเขาชอบบทละครโสกโดกก็ต้องแต่งเช่นนั้น
ข้าพเจ้าได้เคยรู้สึกรำคาญมานานแล้ว แต่ไม่แลเห็นหนทางที่จะแก้ไขอย่างใด นอกจากที่จะมีผู้เป็นจินตกวีมาปรึกษาหารือแล้ว ข้าพเจ้าจึงจะสามารถแสดงความเห็นพูดจาเกลี้ยกล่อม ให้ช่วยกันรักษาวิชากวีไทยอย่าให้สูญเสียหรือเลวทรามไป ก็นับว่าได้มีผลสำเร็จไปบ้างแล้วบางรายแต่งยังเป็นส่วนน้อยนัก
ในส่วนตัวหลวงสารประเสริฐนี้ ข้าพเจ้าได้ถือโอกาสตักเตือนได้เต็มที่ เพราะพระยาศรีสุนทรโวหาร (พระยาศรีภูริปรีชา[กมล สาลักษณ]) ผู้เป็นบิดาเป็นผู้ที่ข้าพเจ้าคุ้นเคยมาช้านาน ได้เคยพูดจาปรารภมีความเห็นพ้องกันอยู่ ทั้งตัวหลวงสารประเสริฐก็ได้รู้จักต่อเนื่องจากความคุ้นเคยกับบิดาเขานั้น ข้าพเจ้าจึงถือเอาโอกาสเพื่อแนะนำหลวงสารประเสริฐให้แต่งหนังสืออะไร อัน ๑ ซึ่งจะได้มีชื่อเสียงสืบไปว่าเป็นจินตกวีผู้หนึ่ง ซึ่งมิได้เป็นผู้ช่วยทำให้ภาษาไทยเสื่อมทราม ข้าพเจ้าของให้พยายมแต่งหนังสือขึ้น เพื่อให้ปรากฎแต่ไปในพงศาวดารว่าในรััชกาลพระมงกุฎเกล้าก็ยังมีจินตกวีอยู่ หลวงสารปะรเสริฐก็รับปากไว้ แต่ยังหาเรื่องที่ประพันธ์ขึ้นนั้นไม่เหมาะได้ จนข้าพเจ้าได้แต่งหนังสือ "บ่อเกิดแห่งรามเกียรติ์" นั้นขึ้น หลวงสารประเสริฐจึงได้พบนิทานเรื่องอิลราช ซึ่งมีอยุ่ในอุตตรกัณฑ์แห่งรามายณะ เห็นว่าพอจะประพันธ์เป็นคำฉันท์ได้ หลวงสารประเสริฐจึงได้แต่งขึ้นด้วยความอุตสาหะ แล้วนนำมาให้ข้าพเจ้าช่วยตรวจ ข้าพเจ้าก็ได้ช่วยตรวจแก้ไขและแสดงความเห็นให้แก้ไขหรือเพิ่มเติมขึ้น และบางตอนที่เขาแต่งไม่ได้โดยพิสดารเพราะขาดความรู้ในกิจการนั้นๆ โดยเฉพาะ เช่นเรื่องพิธีอัศวเมธเป็นต้น ข้าพเจ้าก็ได้ช่วยชี้แจงให้ฟังโดยพิสดาร ตามที่ข้าพเจ้าได้อ่านมาในตำรับไสยศาสตร์ หลวงสารประเสริฐได้กำหนดจดจำเอาไปประพันธ์ขึ้นได้อย่างดี นับว่าเป็นที่ควรสรรเสริญ
ข้าพเจ้ารู้สึกยินดีที่ได้เห็นว่า ในรัชกาลของข้าพเจ้าได้มีจินตกวี ซึ่งสามารถจะแต่งฉันท์ภาษาไทยได้หลายคนแล้ว และหลวงสารประเสริฐผู้แต่งเรื่องอิลราชคำฉันท์นี้เป็นคน ๑ ในหมู่นั้น ข้าพเจ้ามีความยินดีเขียนคำนำนี้ให้หลวงสารประเสริฐเพื่อแสดงความพอใจแห่ง ข้าพเจ้า ณ บัดนี้
อนึ่งข้าพเจ้าขอถือเอาโอกาสอันนี้เพื่อแสดงว่า ถ้าแม้ผู้ใดซึ่งริเริ่มจะนิพนธ์โคลง ฉันท์ กาพย์ กลอน มีความปรารถนาจะให้ข้าพเจ้าตรวจและแนะบ้าง อย่า่งที่ข้าพเจ้าได้ช่วยหลวงสารประเสริฐมาแล้วนี้ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เป็นผู้ที่คุ้นเคยกัยข้าพเจ้าแล้วแต่ก่อนก็ตาม ข้าพเจ้าก็จะยินดีช่วยตรวจ และแสดงความเห็นเท่าที่ข้าพเจ้าสามารถจะทำได้ เพื่อช่วยอนุเคราะห์ผู้ที่มีความพอใจในทางจินตกวีนิพนธ์และเพื่อ ประโยชน์แก่วิชากวีของไทยเรานั้นด้วย
..........................(รัชกาลที่ ๖)
สนามจันทร์
วันที่ ๑ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๕๖
บทประพันธ์
๑
|
|
| ศุภมัสดุ
|
|
|
| สัททุลวิกกีฬิตฉันท์ ๑๙
|
| ๏ ข้าขอเทิดทศนัขประณามคุณพระศรี
|
| สรรเพชญพระผู้มี | | พระภาค
|
|
|
| ๏ อีกธรรมาภิสมัยพระไตรปิฏกวากย์
|
| ทรงคุณคะนึงมาก | | ประมาณ
|
|
|
| ๏ นบสงฆ์สาวกพุทธ์พิสุทธิ์อริยญาณ
|
| นาบุญญบุญบาน | | บโรย
|
|
|
| ๏ อีกองค์อาทิกวีพิรียุตมโดย
|
| ดำรงดำรับโปรย | | ประพันธ์
|
|
|
| ๏ ผู้เริ่มรังพจมานตระการกมลกรรณ
|
| ก้มกราบพระคุณขันธ์ | | คเณศ
|
|
|
| ๏ สรวมชีพอัญชลินาถพระบาทนฤเบศ
|
| มงกุฎกษัตริย์เกษตร | | สยาม
|
|
|
| ๏ ที่หกรัชสมัยก็ไกรกิตติพระนาม
|
| ทรงคุณคามภี- | | รภาพ
|
|
|
| ๏ เพียงนารายณ์อวตารบำราญอริบำราบ
|
| เถลิงรัชทวีลาภ | | วิไล
|
|
|
| ๏ เปรื่องปรีชาวิทยุตมาภรณ์ไท
|
| ธารสัตย์กระพัดใน | | กมล
|
|
|
| ๏ บำรุงรัฐสุขวัฒนานิกรชน
|
| ทั่วรัฐมณฑล | | บำเทิง
|
|
|
| ๏ สรวมเดชไตรรตนาวรากรเถกิง
|
| เกินโกฏิประกายเพลิง | | พิโรจน์
|
|
|
| ๏ รังรักษ์ไทอธิราชพระบาทนฤโทษ
|
| เสพสิ่งประเสริฐโสต- | | ถิผล
|
|
|
| ๏ จุ่งเจริญด้วยสุขนันท์พระพรรณก็ถกล
|
| ทีฆายุเพิ่มพล | | พิบูล
|
|
|
| ๏ ข้าบาทรังรจนานิทานอิลทูล
|
| แทบบาทบดินทร์สูร | | สราญฯ
|
| | |
|
๒
|
|
| ฉบัง ๑๖
|
| ๏ แถลงปางรามจันทราวตาร | | เสร็จมล้างเหล่าพาล
|
| พินาศด้วยพระบารมี
|
|
|
| ๏ มลายเข็ญเย็นทั่วธาตรี | | ถวัลยรัชรมย์ชัยศรี
|
| อยุูธเยศเกศกรุง
|
|
|
| ๏ สมภาร พระเอื้ออำรุง | | สมโภชผดุง
|
| พระเดชกระเดื่องแดนไตร
|
|
|
| ๏ ปาง ราชปรารภกิจใน | | พลีกรรม์อันไกร
|
| คือราชสูโยดม
|
|
|
| ๏ โดยเบื้องบรมราชนิยม | | ขัตติยสมาคม
|
| ร้อยเอ็ดมาเอื้อเอาภาร
|
|
|
| ๏ แผ่พระกฤษฎาภินิหาร | | ใดราชฤาปาน
|
| ฤาปูนพระเดชนฤบดี
|
|
|
| ๏ พระน้องสองเฝ้าบทศรี | | หิรักษ์จักรี
|
| พระตรัสพระตรึกปรึกษา
|
|
|
| ๏ พระภรตผู้พระอนุชา | | เชิงไฉนเชษฐา
|
| ทะนุพิธีพลีกรรม
|
|
|
| ๏ พระพร้องสนองถ้อยแถลงทำ- | | นูลทัดทานคำ
|
| มิควรประกอบมหการ
|
|
|
| ๏ พระองค์ผู้ทรงอวตาร | | ตราบจบจักรพาล
|
| โผอนมกุฎเกรงรณ
|
|
|
| ๏ ฤาควรกวนราชกังวล | | มละด้าวมาดล
|
| ดำแหน่งทุเรศรัถยา | |
|
|
|
| ๏ บัดพระลักษมณ์ราชอนุชา | | นบเบื้องพระบาทา
|
| บัณฑูรแถลงพจมาน
|
|
|
| ๏ ผิวไท้ใคร่กอบพลีการ | | อัศวเมธมหุฬาร
|
| ก็เลิศพิธีพลีกรรม
|
|
|
| ๏ เผยเผชิญพิชิตเชษฐ์ชักนำ | | น้อมเกล้ากล่าวคำ
|
| คดีดำนานในบูรพ์
|
|
|
| ๏ อินทรรอนพฤตาสูร | | เอิบอิศร์อันพูน
|
| บำเพ็ญตบะบารมี
|
|
|
| ๏ มาผลาญมารมอดชีวี | | เกลื่อนบาปบ่มบำ-
|
| รุงบุญระบอบบำบวง
|
|
|
| ๏ เป็นที่นิยมแก่ปวง | | เทพทั่วแมนสรวง
|
| สรรเสริญประเสริฐสาธร
|
|
|
| ๏ แถลงเรื่องสมราชอนุสร | | พระศรีสังขกร
|
| ก็โปรดก็เปรมปรารมภ์
|
|
|
| ๏ เยื้อนอรรถตรัสชอบเชยชม | | โดยราชนิยม
|
| ยุบลคดีมีมา
|
|
|
| ๏ จึงแถลงอิลราชอิลา | | อวยองค์อนุชา
|
| ฉบับอันพร้องพิสดาร ฯ
|
| | |
|
๓
|
|
| วสันตติลกฉันท์ ๑๔
|
| ๏ ยังมีบรมนฤปนาถ | | อิลราชสมัญขาน
|
| ทรงพลหิรัฐสุรฐาน | | สุประเทศสถาพร
|
|
|
| ๏ โอรสพระกรรทมประชา | | ปติพรหมบุตรขจร
|
| เจิดคุณธรรมมิกบวร | | ทศพิธเพียบเพ็ญ
|
|
|
| ๏ เมตตาประชากรสโม- | | สรสุขสลายเข็ญ
|
| ทั่วรัฐมณฑลก็เย็น | | สิรราษฎร์สเริงรมย์
|
|
|
| ๏ รักษ์ราษฎร์ก็เล่หปิยบุตร | | นรสุดประสาทสม
|
| ซ้องศัพท์เกริกกิติอุดม | | วรเดชกระเดื่องแดน
|
|
|
| ๏ ปราบได้ณไกวลประเทศ | | ทศทิศก็เกรงแกลน
|
| กลอกเกล้าและหนาวภยมิแคลน | | วรฤทธิเรืองรณ
|
|
|
| ๏ เรืองรองพระมนทิรพิจิตร | | กลพิศพิมานบน
|
| ก่องแก้วและกาญจนระคน | | รุจิเรขอลงกรณ์
|
|
|
| ๏ ช่อฟ้าก็เฟื้อยกลจะฟัด | | ดลฟากทิฆัมพร
|
| บราลีพิไลพิศบวร | | นภศูลสล้างลอย
|
|
|
| ๏ เชิงบัทม์พระบัญชรเขบ็จ | | มุขเด็จก็พราวพลอย
|
| เพดานก็ดารกพะพรอย | | พิศเพียงนภาพลาม
|
|
|
| ๏ สิงหาสน์จรูญจตุรมุข | | บมิแผกพิมานงาม
|
| พื้นภาพอำพนพิพิธตาม | | ตะละเนื่องพนังนอง
|
|
|
| ๏ ภาพครุฑก็ยุดอุรคแผ่ | | กรเพียงจะผาดผยอง
|
| เทพนมขนัดกษณะมอง | | มรุเทพทิพาลัย
|
|
|
| ๏ เบื้องบรรจถรณทิพอาส- | | นก็เอี่ยมอุไรไพ-
|
| จิตรลายจำหลักฉลุพิไล- | | ยพิลาสลดามาลย์
|
|
|
| ๏ ชั้นฉัตรสกาวทุกุลพัสตร์ | | รุจิรัตน์อลังการ
|
| เขนยขนนระคนบุษปปาน | | รสทิพย์ประเทืองใจ
|
|
|
| ๏ เนืองแน่นอนงค์นิกรนาฏ | | ทะนุบาทบำเรอไท
|
| เฉิดโฉมประโลมกมลใคร | | ยลพิศก็พิศวง
|
|
|
| ๏ แน่งนางประหนึ่งวรสุราง- | | คสะอางสะอาดองค์
|
| ร่ายเรียงบำเรออมรทรง | | สุรภาพพิมานเมือง
|
|
|
| ๏ ราชูประโภคปริโภ- | | คพิพัฒนนองเนือง
|
| สมบัติสมบุรณเรือง | | วรราชภิรมย์ชม
|
|
|
| ๏ ปราการก็ปรากฎสุเม- | | รุสิเนรุเปรียบสม
|
| นางจรัลและโดรณสดม- | | ภอธึกทะงันเงย
|
|
|
| ๏ ป้อมค่ายระรายธุชประฎาก | | สุประดิษฐ์ดำกลเกย
|
| ในบานทวารวิมลเผย | | ผิวหับสนิทเนียน
|
|
|
| ๏ หอยุทธ์ก็เย้ยริปุประยุทธ์ | | อริยลณพาเหียร
|
| เหือดเหี้ยมกำแหงหิริระเมียร | | มลฮึกอหังการ
|
|
|
| ๏ มากมวลอมาตย์นิกรเส- | | วกราชกำลังหาญ
|
| พฤนทาพลากรแสะสาร | | สุรฤทธิเริงรณ
|
|
|
| ๏ ผาสุกสนุกนครขัณ- | | ฑสิมาสุมณฑล
|
| บำเทิงระเริงหทยชน | | ทิชชาติประชุมชี
|
|
|
| ๏ แซ่ศัพท์ผสานดุริยสัง- | | คิตพาทยเภรี
|
| สรบสิ่งประดาประดุจศรี | | สุรโลกชะลอลง
|
|
|
| ๏ ปางดลวสันตอุตุแสน | | จะเกษมณแดนดง
|
| ดาษรุกข์ระดื่นดฤณบง | | ระบุบัตรขจีงาม
|
|
|
| ๏ แถวธารละหานศิขรหลาก | | ชลหลั่งละลุ่มหลาม
|
| มั่วมวลละมั่งมฤคตาม | | วนสณฑ์สะเริงไพร
|
|
|
| ๏ ราชาพระปรารภประพาส | | พิศเพื่อภิรมย์ใน
|
| แห่งห้องพระหาวนพิไล | | มิคล่าประลองกร
|
|
|
| ๏ โองการประกาศนิกรเส- | | วกโดยเสด็จดอน
|
| มวลหมู่อมาตยสลอน | | พลถ้วนทหารหาญ
|
|
|
| ๏ ตรวจเตรียมพลากรพหล | | ตะละตนก็เชี่ยวชาญ
|
| ม้ารถและคชวรยาน | | ระแทะเทียบสะเทื้อนดิน
|
|
|
| ๏ พลคชก็คือสุรคเชน- | | ทรไอยราอินทร์
|
| ชำนนชำนาญชำนะอริน- | | ทรล้วนชโลมมัน
|
|
|
| ๏ พลม้าพลาหกผยอง | | ดุจล่องจะลอยสวรรค์
|
| พลรถก็ล้วนรถสุพรรณ | | ระแทะธุชปลิวปลาย
|
|
|
| ๏ พลราบก็รุ่นทหระว่อง | | วยคล่องตะกอกาย
|
| ล้วนโล่หโตมรก็ทาย | | ธนุแล่นกำแหงรณ
|
|
|
| ๏ สรรพศาสตรอาวุธทิพา | | วุธเทิดประเทืองมนตร์
|
| สำหรับพเนจรผจญ | | ก็สะพราดสะพรึงเพรียง
|
|
|
| ๏ เริงร้องคะนองนิกรพล | | ผิวเพิกไผทเอียง
|
| เอิกอึงอุฆษสุรก็เพียง | | ปฐพีถล่มลาญ
|
|
|
| ๏ ครั้งถึงสมัยมหุดิฤกษ์ | | อดิเรกอุดมวาร
|
| จอมราชก็ยาตรวนสถาน | | ทุรรัถยาดล
|
|
|
| ๏ แดนไพรพิศาลศิขรเขิน | | ทุมเนินพนาสนฑ์
|
| ปักษาคณามฤคยล | | ก็ยะยั่วยะยวนชม ฯ
|
|
|
| | |
|
๔
|
|
| อินทรวิเชียรฉันท์ ๑๑
|
| ๏ ภาคพื้นพนารัญ | | จรแสนสราญรมย์
|
| เนินราบสลับสม | | พิศเพลินเจริญใจ
|
|
|
| ๏ โขดเขินศิรขรเขา | | ณ ลำเนาพนาลัย
|
| สูงลิ่วละลานนั- | | ยนพ้นประมาณหมาย
|
|
|
| ๏ ยอดมัวสลัวเมฆ | | รุจิเรขเรียงราย
|
| เลื่อมเลื่อมศิลาลาย | | ก็สลับระยับสี
|
|
|
| ๏ ขาบแสงประภัสสร | | นิลก้อนตระการดี
|
| ขาวแม้นมณีมี | | รตรุ้งรำไพพรรณ
|
|
|
| ๏ ทอแสงผสานสาย | | สุริย์ฉายก็ฉายฉัน
|
| เหลืองเรื่ออุไรวรร- | | ณวิจิตรจำรูญ
|
|
|
| ๏ แง่งเงื้อมชะง่อนงาม | | ก็วะวามวิไลปูน
|
| ปนรัตนไพฑูร- | | ยพิพิธประภากร
|
|
|
| ๏ ปานก้อนพระไกรลาส | | วรนาถมเหศร
|
| ส้องเสพสถาพร | | สิริสุนทรารมณ์
|
|
|
| ๏ อวยพรพิพัฒน์พ้น | | ภยเวทวราคม
|
| นอกนี้่ฤเปรียบสม | | ศิขรินทรงามงอน
|
|
|
| ๏ วุ้งเวิ้งชะวากผา | | ฆนแผ่นศิลาสลอน
|
| ช่องชานชโลทร | | ชลเผ่นกระเซ็นสาย
|
|
|
| ๏ ปรอยปรอยประเล่ห์เห- | | มอุทกพะพร่างพราย
|
| ซาบซ่านสราญกาย | | กระอุร้อนก็ผ่อนซา
|
|
|
| ๏ ท่อธารละหานห้วย | | ก็ระรวยระรินวา-
|
| รีหลั่งถะถั่งมา | | บมิขาดผะผาดผัง
|
|
|
| ๏ ไม้ไล่สล้างชม | | ขณะลมกระพือวัง-
|
| เวงเสียงก็เสียดดัง | | ดุจซอผสานสาย
|
|
|
| ๏ แสนสาธรารมณ์ | | จรชมก็ชวนสบาย
|
| ใจหงอยก็ค่อยหาย | | หฤหรรษเหิมหาญ
|
|
|
| ๏ เซิงสนสล้างพฤษ- | | ษพิลึกลดามาลย์
|
| บงบุษบาบาน | | ระบุดอกระดาษไพร
|
|
|
| ๏ ฉุนฉมระงมฆาน | | สุวมาลย์จรูงใจ
|
| ส่งก้านตระการใบ | | พิศล้วนพิไลพรรณ
|
|
|
| ๏ ริ้วริ้วพระพายพา | | สุรภีละเวงวัน
|
| ผึ้งภุมรีสัญ- | | จรสูบสุเกสร
|
|
|
| ๏ ร้องร่อนวะว่อนเชย | | รสเรณุกำจร
|
| เกลือกบุษบากร | | ระกะกลีบกระหึ่มเสียง
|
|
|
| ๏ พรรณพฤกษทรงผล | | ตะละต้นจะอ่อนเอียง
|
| พวงย้อยระย้าเพียง | | จะเผด็จสะดวกดาย
|
|
|
| ๏ สุกเหลืองอร่ามลิ้ม | | รสเลิศอร่อยหลาย
|
| หลากหลากและมากมาย | | บมิรู้จะรำพัน
|
|
|
| ๏ ไม้ใบตระกาลบัตร | | ดุจจัดประจงสรร
|
| สอดสีสลับกัน | | ระดะรุกขรายเรียง
|
|
|
| ๏ ชมทวยทิชาชาติ | | ก็ลิลาศประอรเอียง
|
| แมกไม้จำเรียงเสียง | | เสนาะโสตสนั่นไพร
|
|
|
| ๏ แซ่ซ้องผสานสุน- | | ทรศัพทจับใจ
|
| เพียงพาทยพิณไพ- | | เราะประโลมฤดีดี
|
|
|
| ๏ หลายเผ่าพนาเกียรณ์ | | พิศเพี้ยนผสานสี
|
| เคลียคู่ประจำปี | | มนรู้ภิรมย์ลาน
|
|
|
| ๏ แม่นกก็ปกโป- | | ดกป้อนผลาหาร
|
| ปีกป้องประคองปาน | | จะประเล้าประโลมเป็น
|
|
|
| ๏ ลิงค่างชะนีมี | | จลนีและนางเห็น
|
| สายัณหย่ำเย็น | | ก็ยะยั้วยะเยี้ยผล
|
|
|
| ๏ ยองย่องผยองเผ่น | | อิลเห็นกระหายมน
|
| ไล่หมู่มฤคจน | | จะกระทั่งรโหฐาน
|
|
|
| ๏ ล่วงถิ่นกำเนิดองค์ | | วรขันท์กุมารชาญ
|
| หลงเชิงละเลิงพา- | | ฬมฤคเขม้นหมาย ฯ
|
|
|
| | |
|
๕
|
|
| โตฏกฉันท์ ๑๒
|
| ๏ ขณะนั้นอิศเรศ | | พระประเวศวนผาย
|
| หรุฐานสบาย | | อิริยาบถบรร-
|
|
|
| ๏ พตเสตณมูล | | ธก็พูนหฤหรรษ์
|
| สุขุดมดรุวัน | | วรเทพทวิองค์
|
|
|
| ๏ กะพระอัครอุมา | | สุรชายอนงค์
|
| ศิวะเย้ายุพยง | | อรยั่วพระศุลี
|
|
|
| ๏ ศิวะแปลงวรรูป | | วิยหญิงยุวดี
|
| พระอุมาพระก็มี | | สุมนัสนิยม
|
|
|
| ๏ ดรุสัตว์บริเวณ | | พะพระเวทอุดม
|
| สละเพศพิศสม | | ศิวะเพศพระจำแลง
|
|
|
| ๏ อิลราชจรล่า | | มฤคาบมิแคลง
|
| ลุสถานศิวะแปลง | | ดนุแปลกนัยนา
|
|
|
| ๏ บมิเป็นอิลราช | | วิปลาสอิลา
|
| คณะราชบริพา- | | รประดาจรดล
|
|
|
| ๏ มละเพศบุรุษ | | ดำริสุดจะพิกล
|
| ยลแล้วก็ฉงน | | เอะประหลาดละซิเรา
|
|
|
| ๏ อิลเหลือจะตระหนก | | มนะหนักบมิเบา
|
| กระอุแดดุจเอา | | สุรอัคนิลน ฯ
|
|
|
| | |
|
๖
|
|
| อีทิสังฉันท์ ๒๐
|
|
|
| ๏ เล็งไศลลำเนาพนัสดำบล
|
| วิถีก็ทั่วธิราชธยล | | ถนัดพลัน
|
|
|
| ๏ องค์อิศวรอุมาภิรมย์อรัญ
|
| ชไมมเหศวร์ก็เหิมก็หรรษ์ | | รโหฐาน
|
|
|
| ๏ เราชะล่าละลาบละล้วงก็ปาน
|
| ฉะนี้แหละจึงประจักษ์วิการ | | วิกลเป็น
|
|
|
| ๏ องค์อิลาก็คลาประณตพระเพ็ญ
|
| สวัสดิ์ประสบพระเนตรพระเห็น | | ก็กริ้วกราด
|
|
|
| ๏ เหม่อิลาชะล่าไฉนประพาส
|
| บกลัวบเกรงกระทำอุอาจ | | อหังการ์
|
|
|
| ๏ เราแหละสาปและสรรฉะนี้แหละสา
|
| กะใจละเจ้าแน่ะนางอิลา | | จะทำไฉน ฯ
|
| | |
|
๗
|
|
| กมลฉันท์ ๑๒
|
| ๏ อิลโอนศิโรเพฐน์ | | พจน์ขอขมาภัย
|
| ศิวะทรงพิโรธใน | | ธกระทำกระลำพร
|
|
|
| ๏ บมิทรงประสาทโทษ | | อิลโอดสำออยวอน
|
| วรองค์อุมาอร | | อนุกูลกำลูนครัน
|
|
|
| ๏ เฉพาะองค์อิลาอวย | | พรอัฑฒเอาทัณฑ์
|
| อิลอ่อนศิโรวัน- | | ทนน้อมคำนึงพร
|
|
|
| ๏ พจน์พร้อมสนองบาท | | สุรนาฎอุมาอร
|
| เพราะอำนาจมเหศร | | กรุณาและปรานี
|
|
|
| ๏ เฉพาะเดือนจะดาลเพศ | | ยุพเรศกษัตรีย์
|
| ศุภลักษณ์วรินทรี- | | ยพิลาสลออองค์
|
|
|
| ๏ คณะนางณแดนไตร | | จะพิไลลำเพาพงศ์
|
| บมิเลออิลาทรง | | สิริโฉมประโลมลาน
|
|
|
| ๏ ผิวถ้วนกำหนดหมาย | | วรกายก็แปลงปาน
|
| ปฏิรูปบุราณกาล | | ประลุเดือนก็เคลื่อนคลาย
|
|
|
| ๏ ศุภลักษณ์สลับมาส | | บมิอาจจะคงกาย
|
| อรซ้ำกระหน่ำผาย | | พจนารถเลอสรวง
|
|
|
| ๏ ขณะเป็นกษัตรีย์ | | กิจที่กระทำปวง
|
| บุรกาลก็ดาลดวง | | หฤทัยลืมเลือน
|
|
|
| ๏ ขณะคืนพระองค์จริง | | กิจหญิงบแม่นเหมือน
|
| มนโมหะฟั่นเฟือน | | ดุจใช่หทัยเดียว
|
|
|
| ๏ สุรพจน์เผด็จพร | | อิลค่อนกระสันเสียว
|
| ศิระโอนอุมาเหลียว | | มุขลับอำลาคลา
|
|
|
| ๏ คณะสาวสะคราญผู้ | | บริพารก็ห้อมมา
|
| พิศราวกะดารา | | กรล้อมบุหลันฉาย
|
|
|
| ๏ จรเวิ้งวนาวาส | | ก็ระดาษดำเนินราย
|
| ยุระเยื้องชำเลืองชาย | | นยน์ชมผกามาลย์
|
|
|
| ๏ อรอันสนัดขับ | | สุรศัพท์ประเลงลาน
|
| วรแซ่ผสานขาน | | รุกขเทพบำเทิงถวิล
|
|
|
| ๏ บทจรกระเจิงเจื่อน | | ทุรเถื่อนผลากิณ
|
| กรเก็บจะเพลินผิน | | วรพักตร์ประสบสหาย
|
|
|
| ๏ ผลเผื่อเกษมเสพย์ | | รสด้วยบเดียวดาย
|
| จรดลลุแดนสาย | | สระสลิลก็ยินดี ฯ
|
| | |
|
๘
|
|
| ภุชงคประยาตฉันท์ ๑๒
|
| ๏ สะอาดเอี่ยมประเปี่ยมน้ำ | | สลอนส่ำสโรชมี
|
| พบูบานผสานสี | | สล้างกลีบกุสุมสรรพ์
|
|
|
| ๏ สำแดงดวงดำรูเด่น | | ประดับเบญจพิธพรรณ
|
| พิโดรฉมระงมคัน | | ธรสรื่นบำเรอฆาน
|
|
|
| ๏ ภมรมั่วประทุมมาศ | | มิรู้ขาดสถานธาร
|
| ชะลอเอาละอองมาล- | | ยเมื้อมุ่งอำรุงรวง
|
|
|
| ๏ สลาบโรยก็หล่นลอย | | กระแสสร้อยสลายพวง
|
| สะพราดพันธุปลาปวง | | ประเนืองน่านเฉลียนนอง
|
|
|
| ๏ ฉวัดว่ายเฉวียนวน | | กระโดดพ่นละอองฟอง
|
| ระเมียรมัจฉะคลอครอง | | บคลาดคู่คระไลลอย
|
|
|
| ๏ ชะโดดุกกระดี่โดด | | สลาดโลดยะหยอยหยอย
|
| กระเพื่อมน้ำพะพร่ำพรอย | | กระฉอกฉานกระฉ่อนชล
|
|
|
| ๏ กระสร้อยซ่าสวายซิว | | ระรี่ริ้วละวาดวน
|
| ประมวลมัจฉะแปมปน | | ประหลาดเหลือจะรำพัน
|
|
|
| ๏ สถานพุธดาบส | | บำเพ็ญพรตพรหมจรรย์
|
| ตปาการประกอบกรรม์ | | อุกฤษฏ์บ่มบำรุงบุญ
|
|
|
| ๏ อิลาแลกระแสใส | | สำราญในมโนสุน-
|
| ทราอรจะผ่อนอุณห์ | | อุทกอาบพระอินทรีย์
|
|
|
| ๏ พระนางพาคณานงค์ | | เกษมสรงสุวารี
|
| ละเลิงเล่นกระแสศรี | | สนานน้ำสนุกใจ
|
|
|
| ๏ กระโจมจ้วงกระจ๋อมแจ๋ม | | แฉล้มแช่มชลาไหล
|
| ฤษีซ่านสำนานนัย- | | นทอดทัศนานาง
|
|
|
| ๏ อิลาเลอพิลาสลักษณ์ | | พิมลพักตรโสภางค์
|
| จำเริญจิตบจืดจาง | | ประจักษ์เนตรประเจิดนวล
|
|
|
| ๏ เสน่ห์หนักสลักจิต | | กำเริบฤทธิเรรวน
|
| พระพรหมจรรยรัญจวน | | จำนงแนบถนอมโฉม
|
|
|
| ๏ ตระบัดจรประจากห้วง | | ละหานล่วงประลองโลม
|
| สมรแม่เสมือนโสม | | สำรวยร่างสำอางค์องค์
|
|
|
| ๏ อำเภอพาลพธูพรรค์ | | กระเจิงวันวิเวกดง
|
| ประดาษพาฬพยัคฆ์ยง | | ขยาดยิ่งสยองใจ
|
|
|
| ๏ จะเชิญนางณอาศรม | | สุขารมณ์นิทราศัย
|
| รโหฐานสราญใน | | วนาวาสสะอาดครัน
|
|
|
| ๏ อิลาเหล่าอนงค์ข้า | | สดับว้าประหวั่นขวัญ
|
| ประนอมตามพระนักธรรม์ | | ธสู่ถิ่นพนาศรม ฯ
|
| | |
|
๙
|
|
| มาลินีฉันท์ ๑๕
|
| ๏ พระพุธกมลชื่นชม | | เผยกถารม-
|
| ภถานไป
|
|
|
| ๏ อนุชสถิตแดนใด | | นามสกุลไฉน
|
| เสนอเรียม
|
|
|
| ๏ สมรอลก็อายเหนียม | | นิ่งเสงี่ยมเจียม
|
| บเจรจา
|
|
|
| ๏ บมิจะวิทุนวงศา | | เมืองประจากมา
|
| มิแจ้งจน
|
|
|
| ๏ พระพุธ ธ ก็ฉงนสน- | | เท่หถามพล
|
| บ่พร่ำขาน
|
|
|
| ๏ อิสิอนุสรเล็งญาน | | จึงประจักษ์การ-
|
| ณเป็นไป ฯ
|
| | |
|
๑๐
๑๑
๑๒
๑๓
๑๔
๑๕
เชิงอรรถ
ที่มา
[1]
[2]
[3]
[4]
[5]
[6]