กูฏวาณิชคำโคลง

จาก ตู้หนังสือเรือนไทย

การปรับปรุง เมื่อ 17:18, 8 สิงหาคม 2552 โดย CrazyHOrse (พูดคุย | เรื่องที่เขียน)
(ต่าง) ←รุ่นก่อนหน้า | รุ่นปัจจุบัน (ต่าง) | รุ่นถัดไป→ (ต่าง)
ข้ามไปที่: นำทาง, สืบค้น

เนื้อหา

ข้อมูลเบื้องต้น

แม่แบบ:เรียงลำดับ ผู้แต่ง: ชิต บุรทัต

บทประพันธ์

๏ แถลงเลศนิเทศพร้องเพรงนิทาน
ชาดกโดยดำนานเนติ์นี้
เปนศุภคติสาส์นเชิญสดับ
ปรุงสติปัญญาชี้เชิดข้อคุณไข
๏ สมัยกาลอดีตท้าวพรหมทัตต์
ครองพระราชสมบัติผ่านหล้า
พาราณสีรัฏฐ์นคเรศ ใหญ่แฮ
ปกเกษปวงไพร่ฟ้าเฟื่องแคว้นแดนดิน
๏ ชินพงศ์สรรเพ็ชญ์สร้อยโพธิสัตว์
ปางพระองค์อุปบัติบุตร์ผู้
พาณิชตระกูลปัฏิสนธิ์ชาติ์ พระนา
นามว่าบัณฑิตรู้รอบค้าการขาย
๏ มีสหายหนึ่งนั้นนามสฤษดิ์
เรียกอติบัณฑิตเพี่อนได้
เปนผู้ร่วมพาณิชการกับ ท่านแล
ร่วมทุกข์ร่วมยากไร้ร่วมทั้งทางไกล
๏ เคยไปเปนเพื่อนค้าขายภัณฑ์ ผองแฮ
ต่างรักโดยสมัคฉันท์ชอบเชี้อ
กำไรแบ่งปันกันตามมาก น้อยนา
กอบกิจวาณิชเกื้อปโยชน์เลี้ยงชีวา
๏ เปนมาอย่างนี้นิจนิรัน ตรนอ
พาณิชอติบัณฑิตนั้น
นิสัยใฝ่อาธรรม์ฤๅเที่ยง ตรงเลย
ดั้งแต่คิดคาดคั้นคดแท้คอยที่
๏ มีทางโกงแล้วก็โกงที เดียวแล
ยังมิเหมาะช่องตีสนิทไว้
โพธิสัตว์ทราบคดีโดยผ่อน ปรนนา
จึงคบเพื่อนมาได้ยืดด้วยปัญญา
๏ พาราณสิกผู้สองพา ณิชแล
เตรียมล่ำสินค้าสารพัดซื้อ
มากเล่มนับคณนาในหมู่ เกวียนแฮ
บรรทุกเทียบเพียบอื้ออีกทั้งเสบียงทาง
๏ สองต่างพาพวกแคล้วคลาเกวียน ออกนา
สู่เทศเขตร์พาเหียรห่างคร้าน
มุ่งไปไป่จำเนียรจำหน่าย หมดนอ
รวมทรัพย์เสร็จกลับบ้านบ่ายหน้ามาถึง
๏ จึงแบ่งทุนต้นกับกำไร กันแฮ
อติบัณฑิตใจเจตน์จ้อง
หมายเอาเปรียบเกินไปปลงโลภ เหลือแฮ
เห็นท่าไป่ขัดข้องคาดได้โดยคนึง
๏ รำพึงเพี่อแย้งส่วนเอาสอง
ให้เพื่อนภาคหนึ่งมองมั่นได้
ต้านพูดอย่างคำของคนโหด พายเฮย
ทรัพย์นี่สองส่วนให้แก่ข้าจึงควร
๏ ส่วนเดียวของท่านแท้ถูกธรรม์ นักนอ
ท่านเชื่อบัณฑิตสมัญญ์เรียกร้อง
นามเราอติบัณฑิตเหตุ นั้นนา
สองส่วนทรัพย์จำต้องตกข้าควรการณ์
๏ หน่อพิชิตมารตอบถ้อยทันใด
เออเพื่อนพูดอะไรเช่นนั้น
ธรรมเนียมที่ไหนใครบัญญติ ไว้พ่อ
จึ่งเกี่ยงลำเอียงชั้นชึ่อฉนี้มีฤๅ
๏ ทุนหรีอสิ้นค้าแหละพาหนะ ก็ดี
ของท่านกับเราจะมากน้อย
เท่ากันก็ควรกะปันกึ่ง กันแล
ท่านแบ่งเอาสองข้อยหนึ่งไต้เยียโต
๏ ทำไมไม่ถูกต้องพูดตาม เหตุนา
เพราะว่าสมญานามท่านนั้น
เรียกบัณฑิตโดยความหมายขีด คั่นฤๅ
เปนชื่อสามัญนั้นต่ำทั้งยังเยาว์
๏ ฝ่ายเรามีชื่อตั้งอติบัณ ฑิตพ่อ
ดีกว่าท่านยืนยันอย่างนี้
ความยิ่งและหย่อนมันมีอยู่
สองส่วนควรเราชี้ชื่อนั้นเปนประมาณ
๏ เปนการขันท่านจ้อเจรจา ดีฤๅ
พูดง่ายฟังยากหนาเยี่ยงนี้
คนทั้งโลกเขาหาเห็นชอบ ด้วยเลย
แบบอย่างใครแต่กี้ก่อนนั้นมีไฉน
๏ อันวิสัยชื่อสิ้นสมมติ หมายนา
สูงต่ำจักกำหนดไม่ได้
อาศรัยเพี่อความจดจำเรียก กันแล
ใช่เหตุสำคัญให้ยกขึ้นมาแสดง
๏ สองต่างแย้งต่างโต้ตอบความ
สองไป่ตกลงตามต่อสู้
สองเกิตทุ่มเถียงลามถึงเทลาะ แล้วนา
สองแตกกันเหตุผู้หนึ่งนั้นอาธรรม์
๏ เปนอันรำงับถ้อยไปที หนึ่งนา
สองต่างธุระมีเมี่อแล้ว
จักหาท่านผู้ปรีชาตัด สินแฮ
อติบัณฑิตแคล้วคลาศเข้าเรีอนตน
๏ กังวลหวังเพื่อได้ดังหมาย
ตรองตรึกนึกเล่ห์หลายลึกล้ำ
เห็นช่องคล่องอุบายบทหนึ่ง
แน่จิตร์สมคิดก้ำเก่งแท้ทางโกง
๏ คุยโผงพูดเพ้อกับตัวเอง
ชิชะช่างเหมาะเหมงคิดแก้
คงชนะจะเกรงกลัวกริ่ง ใดฤๅ
บัณฑิตเพี่อนจักแพ้เพึ่อด้วยเชาวน์เรา
๏ เข้าไปหาแล้วบอกบิดา ตนนา
ทรัพย์ใหญู่จักมีมาแม่นแท้
ได้โดยสดวกหาเห็นง่าย จริงเฮย
หากพ่อช่วยด้วยแล้ลาภนั้นพลันสม
๏ คนนิยมพฤกษ์ใหญ่โน้นนักหนา
ถีอว่าศักดิ์สิทธิ์ปรากฎทั้ง
มีรุกขเทพดาสิงสถิตย์
ชนนบเคารพตั้งแต่เบี้องเบาราณ
๏ พฤกษ์สถานโน้นแหละโพรงมี ใหญ่แฮ
ปกปิดมิดชิดดีดั่งนั้น
พ่อจงซ่อนทำทีเหมือนเทพย์ รุกข์เทอญ
คอยอยู่ที่นั่นครั้นพวกข้ามาถึง
๏ จึงจักขอให้พ่อพินิจฉัย
ความแบ่งแห่งกำไรเรื่องนี้
ควรได้แก่ผู้ใดโดยส่วน ไฉนนา
แลพ่อก็จงชี้ชัดพร้องไปพลัน
๏ ใครนามบัณฑิตได้ส่วนปัน หนึ่งเฮย
คนชี่ออติบัณฑิตแล้
ได้สองภาคโดยธรรม์ทางที่ ถูกพ่อ
พูดดั่งข้าสั่งแก้เกี่ยงแย้งคงยอม
๏ ด้วยความน้อมเทพย์ท้อเทวทัณฑ์
บัณฑิตจำเปนปันส่วนได้
เปนสองเสร็จเพราะวัญจนะวากย์ แห่งพ่อ
ซ้อมสั่งกำชับไห้ทราบสิ้นทุกประการ
๏ มาบ้านบัณฑิตผู้โพธิสัตว์
พลันบอกความตามนัดพ่อไว้
แน่ะท่านเรื่องเราขัดใจแห่ง กันแฮ
ต่างไม่ตกลงได้ดังนั้นฤๅควร
๏ จะมาชวนท่านให้ไปหา
พฤกษเทพยดาหนึ่งผู้
ศักดิ์สิทธิ์เดชสามารถบอก แบ่งแฮ
นั่นแหละเราจักรู้เรี่องนั้นเปนไฉน
๏ เปนไรไปเล่าถ้ายุติธรรม จริงแล
เราก็ต้องตามคำไป่ค้าน
จะสงบวิวาทสำเร็จเรื่อย ไปนา
ความยุ่งเปนอย่างคร้านใคร่เปลื้องเร็วพลัน
๏ บัณฑิตพลางกล่าวแล้วครรไล
แต่จิตร์คิดสงสัยไม่สิ้น
พะวงเพื่อนคงใจคิดจัก โกงนอ
ดีก็ดีหากปลิ้นปลอกร้ายฤๅยอม
๏ สองพร้อมสู่ต้นพฤกษ์ไพรสถาน
ต่างก็นอบกายกรานกราบไหว้
กล่าวมูลคดีการณ์กลหะ ขึ้นแฮ
ขอจุ่งรุกขเทพย์ไท้ท่านเกี้อกรุณา
๏ เทวดาปลอมผู้พ่อพาณิช โกงนา
ทำปรกติศัพท์ผิดแผกถ้อย
สองเจ้านี่ขัดจิตร์แตกจาก กันนอ
ด้วยเหตุนิตหนึ่งน้อยเท่านั้นอันมี
๏ เพียงนี้ก็เดีอตร้อนถึ่งเรา ด้วยฤๅ
เจ้านับถีอมาเคารพข้า
เถอะจะช่วยแบ่งเบาธุระแห่ง สูเฮย
ตามกิจเทวตาฮ้าแน่ะแฮ้จงฟัง
๏ ทั้งโลกหากขึ้นชื่อเทวดา แล้วแฮ
อันจะเที่ยงตรงหายากแท้
ผู้เตียวแต่ข้าอาธรรม์ไม่ มีเลย
ฟังตัตสินจักแก้กล่าวให้เห็นจริง
๏ ความยิ่งแลหย่อนแล้วเปนหลัก นาพ่อ
ชื่อต่ำต่ำตามศักดิ์เลื่อมแล้
ชื่อสูงผิวะสูงหนักนามประ เสริฐเฮย
ด้วยเหตุผลดั่งแก้กฎอ้างวางมี
๏ ชีขาดพิพากษ์ข้างอติบัณ ฑิตแล
ได้ส่วนสองเถียงกันไม่ได้
เทวดาโกรธลงทัณฑ์คอหัก เทียวแฮ
ไปเถิดไปแบ่งให้เสร็จสิ้นกันที
๏ หน่อชินสีห์สดับถ้อยเทวรุกข์
วินิจฉัยใช่ยุกติ์อย่างนั้น
ดำริห์ตริจักอุกอาจเล่น ลองนา
เพื่อทราบอัฏภาพนั้นไฝ่รู้ความจริง
๏ เทพย์สิงพฤกษ์นี่แท้เทวดา แน่ฤๅ
ฤๅมิาช่คงปรากฎแจ้ง
โพรงไม้ใหญ่นักหนามนุษย์อยู่ ได้แฮ
เผื่อจะมีใครแสร้งซ่อนเร้น ปนกล
๏ ขวนขวายหญ้าแห้งหอบหามา
กอบเพียบโพรงพฤกษาเสร็จต้อง
เอาไฟไล่เทวตาดูฤทธิ์ ทีฤๅ
ธกล่าวพลางจ่อจ้องจุดเชี้อเพลิงพลัน
๏ ทันใดไฟติดหญ้าควันโขมง
ลามลุกเปลวเพลิงโพลงพลุ่งไหม้
ฝ่ายเทวดาโกงตโกนเอ็ด
เหนี่ยวลอดตามโพรงไหม้ไต่ขึ้นทางบน
๏ โหนตนต่องแต่งห้อยหันหก
ตัวสั่นดุจลูกนกสติสิ้น
ปีนไปป่ายมาตกตูมใหญ่
ลงที่ดินนอนดิ้นแด่วร้องครรางเครือ
๏ ร้อนเหลีอทนละข้าขอขมาเถิดพ่อ
ไม่อยากเปนเทวดาดั่งนี้
รับบาปอย่างหยาบหาคุณห่อน มีเลย
เพราะลูกอัปปรีปย์ลี้ปลีกแท้ทำกู
๏ พาณิชผู้โฉดเจ้าอติบัณ ฑิตนา
นั่งเจ่งกอตเข่ารันทดแท้
สังเวชพ่อสุดปัญญาผ่อน ผันแฮ
ทุจริตจะคิตแก้ก็สิ้นโกงกล
๏ เทพย์ทนร้อนไม่ได้พลางแสดง
โทษแห่งโกงร้ายแรงอย่างนี้
ทำเราที่มาแฝงกายช่วย โกงนอ
พลอยถูกไฟป่นปี้ปวดเนื้อหนังพอง
๏ สองคนคนชื่อตั้งบัณฑิต
ยังประโยชน์ฤทธิ์เรียบร้อย
ประกอบสุจริตจิตร์ตรงต่อ เพื่อนแล
บ่หอนผิดสักน้อยหนึ่งแท้โดยธรรม์
๏ อติบัณฑิตผู้บุตร์เรา
ดีชื่อสูงกว่าเขาเท่านั้น
คอยคิดคตโกงเอาเปรียบเพี่อน
หาประเสริฐแม้ชั้นแต่น้อยฤๅมี
๏ พาทีกันแล้วต่างกลับไป บ้านแฮ
เสร็จกิจพาณิชชไมมิตร์ครั้น
ตกลงแบ่งกำไรคนละ ครึ่งแล
กาลนับลำดับนั้นแยกค้าคลาขาย
๏ ตามสบายยังชีพให้เปนไป
ทนทุกข์ระคนในศุขบ้าง
โดยธรรมะดาวิสัยภพชาติ์
สุดแต่กรรมนำสร้างส่งเอื้ออวยผล ฯ
๏ อันคนทุจริตแล้วพึงเล็ง เห็นเทอญ
อวดฉลาดแกมโกงเก็งแต่ได้
ไม่ลองชั่งตราเต็งกับฝ่าย เสียเลย
ไหนจะหนักจักให้โทษร้อนถึงตน
๏ เห็นคนอื่นไป่รู้อะไร เที่ยวพ่อ
โง่เง่าเต่าตุ่นไปเช่นนั้น
๏ ว่าทราบไม่ถึงในกลเล่ห์ ตนแล
คอยแต่จักขบคั้นเข่นเขี้ยวโกงเขา
๏ เหมาชาติ์เสียก็ได้คนพรรค์ นั้นนอ
ไป่ละประพฤติ์วันหนึ่งแล้
ความทุกข์ขุกเข็ญภยันตรายเยี่ยม เยียนนา
มิพักสนเท่ห์แท้ชนิดนี้มีหลาย
๏ หมายเชื้อมั่นเถิดด้วยธรรมดา
ควันแห่งไฟใครมาปิดไว้
ต้องปรากฎแก่ตาโลกสัก วันนอ
ชาดกสาธกไว้สดับแล้วควรคนึง บารนี ฯ
             

เชิงอรรถ

ที่มา

[1]

เครื่องมือส่วนตัว