บทละครนà¸à¸à¹€à¸£à¸·à¹ˆà¸à¸‡à¸ªà¸±à¸‡à¸‚์ศิลป์ชัย
จาก ตู้หนังสือเรือนไทย
การปรับปรุง เมื่อ 09:24, 16 สิงหาคม 2552 โดย CrazyHOrse (พูดคุย | เรื่องที่เขียน)
เนื้อหา |
ข้อมูลเบื้องต้น
แม่แบบ:เรียงลำดับ พระราชนิพนธ์: พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว
บทประพันธ์
ตอนที่ ๑ สังข์ศิลป์ชัยตกเหว
| ช้า | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ทั้งหกให้คิดริษยา | ||
| ต่างซุบซิบกันจำนรรจา | ใครมีปัญญาจงเร่งคิด | ||
| แม้นสังข์ศิลป์ชัยได้ไปเฝ้า | เห็นเราหกคนไม่พ้นผิด | ||
| ขนมทำมาให้ใส่ยาพิษ | มันไม่กินเหมือนจิตที่คิดไว้ | ||
| ฯ ๔ คำฯ | |||
| ร่าย | |||
| ๏ ศรีสันท์จึงว่าไปทันที | วันนี้สิงหราหาอยู่ไม่ | ||
| ไปเที่ยวหาอาหารที่ในไพร | ทิ้งสังข์ศิลป์ชัยไว้พลับพลา | ||
| เราจะยียวนชักชวนมัน | ไปเก็บพรรณผลไม้บนภูผา | ||
| ผลักให้ตกเหวมรณา | จึงกลับมาพาพระอาไป | ||
| อันนางสุพรรเทวี | จะพันมือพี่ไปที่ไหน | ||
| ต่างเห็นชอบชวนกันดีใจ | มาหาสังข์ศิลป์ชัยฉับพลัน | ||
| ฯ ๖ คำฯ เพลง | |||
| ๏ ลูบหลังลูบหน้าแล้วพาที | เรานี้จะพากันผายผัน | ||
| เก็บผลพฤกษาที่เขานั้น | มาให้สุพรรณกับพระอา | ||
| ฯ ๒ คำฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระสังข์ได้ฟังไม่กังขา | ||
| รับคำทั้งหกพี่ยา | กราบบาทพระอาแล้วว่าไป | ||
| ตัวหลานทั้งเจ็ดจะจรดล | ไปเก็บผลพฤกษาที่ใกล้ใกล้ | ||
| ทั้งสององค์จงอยู่พลับพลาชัย | ประเดี๋ยวใจจะมาให้พร้อมกัน | ||
| ว่าแล้วจัดแจงแต่งองค์ | พระหัตถ์ทรงสังข์ศรพระแสงขรรค์ | ||
| ทั้งเจ็ดองค์ลงจากพลับพลาพลัน | เจ้าศรีสันท์นำหน้าคลาไคล | ||
| ฯ ๖ คำฯ เชิด | |||
| ชมดง | |||
| ๏ ชี้ชมรุกขชาติดาษเดียร | เต็งตะเคียนยางยูงสูงไสว | ||
| มูกม่วงพวงผลแกว่งไกว | เฟื่องไฟไกรกร่างมะปรางปริง | ||
| พระสังข์ศิลป์ชัยหาไม้ง่าม | สอยผลสุกห่ามทุกก้านกิ่ง | ||
| ศรีสันท์ก้มเก็บก้อนดินทิ้ง | หล่นร่วงช่วงชิงกันไปมา | ||
| บ้างชักเชือกเขาเถาวัลย์ | ขึ้นผูกพันกิ่งไทรสาขา | ||
| ผลัดกันไกวเล่นเป็นชิงช้า | สรวลสันต์หรรษาสำราญใจ | ||
| พากันท่องเที่ยวเลี้ยวลอด | เลียบขึ้นบนยอดเขาใหญ่ | ||
| ต่างชวนพระสังข์ศิลป์ชัย | เล่นไล่ปิดตาหากัน | ||
| ฯ ๘ คำฯ เพลงฉิ่ง | |||
| ร่าย | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ศรีสันท์แสนกลคนขยัน | ||
| ทำมารยาว่าแก่พระสังข์พลัน | เจ้าถือศรพระขรรค์ไว้ทำไม | ||
| เราจะวิ่งเต้นเล่นสนุก | ฉวยล้มลุกพลาดพลั้งไม่ยั้งได้ | ||
| จะถูกเนื้อถูกตัวพี่กลัวไป | วางไว้เล่นแล้วจึงมาเอา | ||
| ฯ ๔ คำฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระสังข์ศิลป์ชัยไม่รู้เท่า | ||
| วางพระขรรค์ศรไว้ด้วยใจเบา | ที่ริมเงื้อมเขาสำคัญตา | ||
| แล้วจึงตามพี่ศรีสันท์ | ลดเลี้ยวไล่กันบนภูผา | ||
| หยิกหยอกหลอกล้อกันไปมา | เกษมสันต์หรรษาทั้งเจ็ดองค์ | ||
| ฯ ๔ คำฯ เพลงฉิ่ง | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระศรีสันท์ครั้นเห็นพระสังข์หลง | ||
| พาเที่ยวเลี้ยวเลียบเวียนวง | พบเหวดังประสงค์จำนงนึก | ||
| หยิบศิลามาทิ้งลงไปดู | เอียงหูคอยฟังไม่ดังกึก | ||
| ชะโงกตามลงไปใจทึกทึก | แลลึกเป็นหมอกมืดมัว | ||
| จึงร้องเรียกพระสังข์ศิลป์ชัย | มาดูเหวใหญ่มิใช่ชั่ว | ||
| ว่าพลางพรั่งพร้อมเข้าล้อมตัว | อย่ากลัวเลยพี่อยู่นี่แล้ว | ||
| ทำชี้โว้ชี้เว้ด้วยเล่ห์กล | ลางคนหลอกลวงว่าดวงแก้ว | ||
| ตรงมือนั่นแน่แลแววแวว | เห็นแล้วหรือยังถอยหลังไย | ||
| ต่างเข้ายืนเคียงเมียงเขม้น | ครั้งเห็นงวยงงหลงใหล | ||
| จึงผลักพระสังข์ศิลป์ชัย | ตกลอยลงไปในเหวนั้น | ||
| ฯ ๑๐ คำฯ เชิดฉิ่ง โอด | |||
| ๏ ต่างคนชื่นชมสมคะเน | หัวเราะร่าวฮาเฮเกษมสันต์ | ||
| พากันวิ่งกลับมาฉับพลัน | หาศรพระขรรค์ที่วางไว้ | ||
| ไม่พบเห็นเป็นอัศจรรย์จิต | ต่างคนต่างคิดสงสัย | ||
| เถียงกันอื้ออึงคะนึงไป | เมื่อที่ทางจำได้แน่นอน | ||
| หาพลางต่างโมโหพาโลกัน | คนนี้ว่าคนนั้นลักซ่อน | ||
| ค้นทั้งสองข้างหนทางจร | ไม่ได้ศรพระขรรค์ก็เสียใจ | ||
| ศรีสันท์จึงว่าแก่น้องยา | เรากลับไปพระอาจะถามไถ่ | ||
| ใครอย่าบอกออกความทั้งนี้ไซร้ | ซักซ้อมพร้อมใจแล้วไคลคลา | ||
| ฯ ๘ คำฯ เชิด | |||
| ๏ ครั้นถึงพระอาทำหน้าเศร้า | ก้มเกล้ากราบลงตรงหน้า | ||
| มิได้แถลงแจ้งกิจจา | ทำก้มพักตร์โศกาสะอื้นไป | ||
| ฯ ๒ คำฯ โอด | |||
| ๏ เมื่อนั้น | นางเกสรสุมณฑาศรีใส | ||
| เห็นหกนัดดาโศกาลัย | หลากใจไต่ถามมิทันช้า | ||
| เหตุผลอย่างไรไม่บอกแจ้ง | มาโศกศัลย์กันแสงไยนักหนา | ||
| พระสังข์ไปไหนจึงไม่มา | จงแจ้งกิจจาอย่าโศกี | ||
| ฯ ๔ คำฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ทั้งหกพี่น้องทำหมองศรี | ||
| เช็ดน้ำตาพลางทางพาที | เมื่อตะกี้หลานพากันเที่ยวไป | ||
| พระสังข์น้องรักเฝ้าชักชวน | รบกวนให้พาขึ้นเขาใหญ่ | ||
| แล้ววิ่งเต้นเล่นแข็งสุดใจ | ห้ามไม่ฟังเลยนะพระอา | ||
| ล้วนห้วยเหวเปลวปล่องทั้งสองข้าง | ข้าเดินนำทางไปข้างหน้า | ||
| พระสังข์ตามหลังหลานมา | ประเดี๋ยวเหลียวหาก็หายไป | ||
| ข้าทั้งหกคนเที่ยวค้นทั่ว | จะพบตัวน้องยาก็หาไม่ | ||
| แม้ตกเหวเหล่านั้นเห็นบรรลัย | หรือจะเป็นกระไรไม่แจ้งการณ์ | ||
| ฯ ๘ คำฯ เจรจา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | นางเกสรสุมณฑาฟังว่าขาน | ||
| ทั้งนางสุพรรณนงคราญ | ปิ้มปานชีวันจะบรรลัย | ||
| ต่างตระหนกอกสั่นขวัญหาย | ฟูมฟายชลเนตรหลั่งไหล | ||
| จึงว่าแก่นัดดายาใจ | ไปเล่นถึงไหนอย่างอำพราง | ||
| จงพาอาไปเที่ยวค้นดู | เกลือกจะหลงอยู่ในป่ากว้าง | ||
| แล้วลงจากพลับพลาทั้งสองนาง | ศรีสันท์นำทางจรจรัส | ||
| ฯ ๖ฯ เพลง | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ทั้งหกแสนกลคนขยัน | ||
| ครั้นถึงคีรีที่สำคัญ | ทำโศกศัลย์ทูลองค์พระเจ้าอา | ||
| พระสังข์ศิลป์ชัยมาสูญหาย | ที่ทางแคบเหวรายทั้งซ้ายขวา | ||
| หลานทั้งหกทุกคนเที่ยวค้นหา | ที่เหล่านี้หนักหนาไม่พบพาน | ||
| ฯ ๔ คำฯ เจรจา | |||
| โอ้ร่าย | |||
| ๏ เมื่อนั้น | นางเกสรสุมณฑายิ่งสงสาร | ||
| รุ่มร้อนหฤทัยดังไฟกาฬ | เยาวมาลย์ลดเลี้ยวเที่ยวมา | ||
| ค่อยย่องเหยียบเลียบลัดไปนอกทาง | สองนางเรียกร้องแล้วมองหา | ||
| ไม่ประสบพบองค์พระนัดดา | กัลยาครวญคร่ำร่ำไร | ||
| โอ้ว่าพระสังข์ศิลป์ชัยเอ๋ย | ไม่มาหาอาเลยไปอยู่ไหน | ||
| หรือว่าผีสางที่กลางไพร | ซ่อนพระสังข์ไว้กระมังนา | ||
| ขอให้พบพานพระหลานรัก | จะบวงสรวงเซ่นวักให้หนักหนา | ||
| ร่ำพลางนางทรงโศกา | ปิ้มว่าโฉมฉายจะวายปราณ | ||
| ฯ ๘ คำฯ โอด | |||
| ร่าย | |||
| ๏ เมื่อนั้น | เจ้าศรีสันทาจึงว่าขาน | ||
| จะโศกศัลย์อยู่เห็นไม่เป็นการ | เราคิดอ่านแยกย้ายรายกัน | ||
| เจ้าชาติจงไปด้วยพระอา | นางสุพรรณกับข้ามาผายผัน | ||
| เจ้าทั้งสี่นี้แยกไปทางนั้น | ช่วยกันดั้นด้นคว้า | ||
| และทำชะเง้อดูเงี่ยหูฟัง | เอ๊ะเสียงพระสังข์ร้องเรียกหา | ||
| ออกชื่อเจ้าสุพรรณกัลยา | เร็วเถิดอย่าช้ามาจะไป | ||
| ฯ ๖ คำฯ เจรจา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | นางสุพรรณยินดีจะมีไหน | ||
| จะใคร่พบพระสังข์ศิลป์ชัย | ก็เดินตามไปไม่คิดแคลง | ||
| ฯ ๒ คำฯ เพลง | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ศรีสันท์ทำเที่ยวเสาะแสวง | ||
| นำนางดำเนินคว้างแคว้ง | พาลัดแลงไปให้ไกลอา | ||
| เห็นที่สุมทุมพุ่มไม้ | ก็เข้าไปนั่งลงแล้วร้องว่า | ||
| หยุดนั่งนี่ก่อนเถิดกัลยา | จะได้ปรึกษาหารีอกัน | ||
| ฯ ๔ คำฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | นางสุพรรณไม่รังเกียจเดียดฉันท์ | ||
| คิดว่าเป็นวงศ์พงศ์พันธุ์ | ก็ไปนั่งลงพลันทันที | ||
| จึงว่าหยุดไยให้เนิ่นช้า | เหน็ดเหนื่อยหนักหนาเจียวหรือพี่ | ||
| รีบไปให้พบเสียเดี๋ยวนี้ | ช้านักชนนีจะคอยเรา | ||
| ฯ ๔ คำฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ศรีสันท์แสนกลร่ายมนต์เป่า | ||
| ยิ้มแย้มพูดจาคิ้วตาเพรา | นี่แน่เจ้าจะว่าให้ดีเจียว | ||
| ฯ ๒ คำฯ | |||
| ชาตรี | |||
| ๏ ปลื้มเอยปลื้มจิต | แม่อย่าคิดเคืองขุ่นฉุนเฉียว | ||
| พี่ยังเกรงกริ่งอยู่สิ่งเดียว | จะให้เที่ยวเหนื่อยเปล่าไม่เข้ายา | ||
| อันพระสังข์แม้นว่าข้าหาได้ | สินจ้างจะให้อะไรข้า | ||
| ถ้าพี่ได้สมจิตที่คิดมา | จะอุตส่าห์เที่ยวค้นจนสิ้นแรง | ||
| อันความที่พี่รักเจ้าหนักหนา | จริงจริงนะน้องอย่ากินแหนง | ||
| เรามานี่ที่ทางก็ลับแลง | พอเป็นพักเป็นแรงจึงค่อยไป | ||
| พลางขยดเข้าชิดสะกิดหลัง | จะปรานีพี่มั่งหรือหาไม่ | ||
| ทำและเลียมถูกต้องลองใจ | เจ้าถอยหนีพี่ใยกัลยา | ||
| ฯ ๘ คำฯ | |||
| ร่าย | |||
| ๏ เมื่อนั้น | นางสุพรรณเคืองแค้นเป็นหนักหนา | ||
| ลุกยืนขึ้นเสียงมิได้ช้า | แล้วว่าดูดู๋พี่เช่นนี้เจียว | ||
| ว่าจะพาเที่ยวหาสังข์ศิลป์ชัย | ลวงให้ตามมาถึงป่าเปลี่ยว | ||
| ช่างสับปลับอย่างนี้ทีเดียว | ด้านหน้ามาเกี้ยวไม่อายใจ | ||
| พาซื่อลือจิตคิดว่าพี่ | ธรรมเนียมมันมีอยู่ที่ไหน | ||
| ได้เห็นกันสินะไม่ละใคร | กลับไปจะทูลพระมารดา | ||
| ฯ ๖ คำฯ | |||
| โอ้โลม | |||
| ๏ น้องเอยน้องรัก | สุดที่พี่จะหักเสน่หา | ||
| เมื่อมาแต่หนุ่มสาวสองรา | ในกลางป่าค่าไม้เช่นนี้ | ||
| ถ้าเจ้ามิหย่อนผ่อนปรน | ใช่ว่านฤมลจะพ้นพี่ | ||
| จงคิดชั่งใจดูให้ดี | ไม่พอที่จะโกรธขึ้งตึงตัง | ||
| ถึงเจ้าจะว่าให้อารู้ | จะโบยตีพี่สู้เสียหลัง | ||
| ตายไหนตายไปคงไม่ฟัง | เอ็นดูพี่มั่งเถิดแก้วตา | ||
| อันพี่น้องครองกันแลยั่งยืน | ไม่เสียเรือนผู้อื่นดีหนักหนา | ||
| ว่าพลางเข้าใกล้ไขว่คว้า | อุ่ยหน้าอย่าหยิกจะป่วยไป | ||
| ฯ ๘ คำฯ | |||
| โอ้โลม | |||
| ๏ แสนเอยแสนแขนง | อย่าพักก่นกรรแสงเสียงแจ้ว | ||
| อันเจ้าจะพ้นมือพี่ไม่มีแวว | เม้นคลาดแคล้วไปได้มิใช่มือ | ||
| พี่ง้องอนวอนว่าแต่โดยดี | ไม่พอที่โกรธขึ้งอึงอื้อ | ||
| เพราะรักเจ้าหนักหนาจึงคร่ายื้อ | ควรหรือแก้วตาไม่ปรานี | ||
| จะมิให้ยืดไว้อย่างไรเล่า | เมื่อเจ้าคอยแต่จะวิ่งหนี | ||
| น่าชังดูเอาเฝ้าหยิกตี | จะถูกนิดก็มีแต่ฮึดฮัด | ||
| เป็นไรเป็นไปไม่ฟังกัน | จะประชันเรี่ยวแรงที่แข็งขัด | ||
| ว่าพลางสวมสอดกอดรัด | นางสะบัดหนีได้ไล่ตามมา | ||
| ฯ ๘ คำฯ เชิด | |||
| ร่าย | |||
| ๏ เมื่อนั้น | นางเกสรสุมณฑาจึงร้องว่า | ||
| เป็นเจ้าสุพรรณกัลยา | จึงร้องอึมาด้วยอันใด | ||
| ฯ ๒ คำฯ เจรจา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | นางสุพรรณทูลแข้งแถลงไข | ||
| อ้ายศรีสันท์มันพาข้าไป | ถึงพุ่มไม้ที่เปลี่ยวก็เกี้ยวพาน | ||
| ลูกแค้นขัดใจจะกลับมา | มันกั้นหน้าคร่ายื้อหักหาญ | ||
| ข้าสะบัดวิ่งหนีตะลีตะลาน | อ้ายหน้าด้านจัญไรมันไล่มา | ||
| ฯ ๔ คำฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ศรีสันท์ขึ้นเสียงเถียงต่อหน้า | ||
| ดูเถิดเจ้าสุพรรณช่างพูดจา | แกล้งพาโลข้าว่าคร่ายื้อ | ||
| เมื่อไรข้าได้ทำเช่นนั้น | มาล้วงตะกั่วกันเดี๋ยวนี้หรือ | ||
| เจ้าสิสันทัดได้หัดปรีอ | ข้าคนซื่อเช่นนี้ยังมิเคย | ||
| ไม่ได้เกี้ยวสักคำทำสักนิด | พาลผิดเปล่าเปล่าแม่เจ้าเอ๋ย | ||
| รู้กระนี้ไม่ไปด้วยใครเลย | จะนั่งเฉยอยู่นี่มิดีเจียว | ||
| ว่าข้าไล่มาใครอย่าเชื่อ | เพราะเห็นเสือตกใจวิ่งไม่เหลียว | ||
| เอออะไรช่างปดลดเลี้ยว | อย่าเชื่อนางข้างเดียววพระเจ้าอา | ||
| ฯ ๘ คำฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | นางสุพรรณตอบพลางทางชี้หน้า | ||
| ชะเจ้าคนดีศรีสันทา | ยังว่าไม่รับสับปลับจริง | ||
| พูดเลียบเปรียบเปรยถึงลูกผัว | ด้านหน้าแก้ตัวไปทุกสิ่ง | ||
| แต่แรกเจ้าง้องอนวอนวิง | อ้อยอิ่งเซ้าซี้พิรี้พิไร | ||
| ไม่คิดอายผีสางที่กลางดง | แทบจะก้มหัวลงกราบไหว้ | ||
| ครั้นเขาไม่ลุ่มหลงปลงใจ | เข้าไล่ฉวยฉุดยุดยื้อ | ||
| จะหยิกข่วนเท่าไรก็ไม่เจ็บ | นั่นมิใช่รอยเล็บของกูหรือ | ||
| ดูเถิดที่ต้นคอกับข้อมือ | ยังจะดื้อเถียงได้ไม่อายเลย | ||
| ฯ ๘ คำฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | เจ้าศรีสันทาทำหน้าเฉย | ||
| เมียงเมินหัวเราะเยาะเย้ย | เจ้าข้าเอ๋ยนางนี้ขี้พาโล | ||
| ค้าคารมลมเติบสุดใจ | เห็นเขาเกรงผู้ใหญ่ไม่ตอบโต้ | ||
| ครั้นว่าบ้างขัดใจร้องไห้โฮ | มีแต่โมโหไปข้างเดียว | ||
| เมื่อข้าสาละวนจะด้นป่า | ค้นคว้าหาน้องท่องเที่ยว | ||
| อุตส่าห์บุกเข้าไปในรกเรี้ยว | หนามเกี่ยวเป็นแผลไปทั้งตัว | ||
| ชะช่างว่าข่วนล้วนรอยเล็บ | เลือกเก็บเอามาว่าพอหน้าชั่ว | ||
| แต่เช่าเจ้ากระนี้มิอยากกลัว | ถ้าตัวต่อตัวมิพ้นไป | ||
| ยังกลับมาประกวดอวดแรง | ว่าข้าฉุดยุดแย่งเจ้าไม่ไหว | ||
| มาลองดูเดี๋ยวนี้ก็เป็นไร | ใครจะแรงกว่าใครให้เอาดู | ||
| จะถุ้งเถียงกันไปไม่ได้ข้อ | เขาจะหัวร่อน่าอดสู | ||
| คำบุรานท่านว่าไว้เป็นครู | ใครไขหูอดได้ก็ได้บุญ | ||
| ฯ ๑๒ คำฯ เจรจา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | นางเกสรสุมณฑาก็เคืองขุ่น | ||
| จึงว่าไอ้เจ้าเล่ห์เนรคุณ | ทุจริตคิดวุ่นไปโดยพาล | ||
| มิใช่ว่ากูไม่รู้เท่า | พูดแก้เปล่าเปล่าอ้ายหน้าด้าน | ||
| มึงเถียงได้ด้วยไม่มีพยาน | ทำหักหาญเห็นว่าข้ากลัวเกรง | ||
| เหตุเพราะนัดดากูสูญหาย | จึงจ้วงจาบหยาบคายข่มเหง | ||
| ชวนทะเลาะเกาะแกะครื้นเครง | ฝากไว้เถิดเอ็งเป็นไรมี | ||
| ฯ ๖ คำฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ศรีสันท์บ่นเถียงเสียงอู้อี้ | ||
| ส่วนนางสุพรรณกระนั้นดี | คนอื่นแล้วมีแต่ไม่จริง | ||
| เอออะไรนี่พอทีหรือ | เป็นเคราะห์เพราะซื่อต่อผู้หญิง | ||
| ท่านลงโทษโกรธขึ้งชังชิง | ถ้าเป็นจริงเหมือนว่าน่าเกิดความ | ||
| แม้นสังข์ศิลป์ชัยไม่สูญหาย | เห็นจะขายเราแน่ไม่พักถาม | ||
| แกล้งพูดเปรยเย้ยเยาะลวนลาม | บ่นบ้าไปตามอำเภอใจ | ||
| ฯ ๖ คำฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | เจ้าทั้งห้าคนคิดแก้ไข | ||
| กราบบาทพระอาแล้วว่าไป | พี่ศรีสันท์นี้ใจมุทะลุ | ||
| เป็นคนมักได้ใคร่มี | หนายช้าพาทีดึงดุ | ||
| เสียจริตกิริยาเป็นบ้ายุ | พูดกุกะไปไม่เกรงกลัว | ||
| อันใจข้าห้าคนนี้ซื่อแท้ | รักอาเหมือนแม่บังเกิดหัว | ||
| เจ้าสุพรรณนั้นนึกว่าน้องตัว | ศรีสันท์ทำชั่วไม่ชอบใจ | ||
| พระองค์จงอดโทษสักครั้งหนึ่ง | เรารีบไปให้ถึงกรุงใหญ่ | ||
| จะรัญจวนครวญคร่ำอยู่ทำไม | อันสังข์ศิลป์ชัยเห็นไม่มา | ||
| ฯ ๘ คำฯ | |||
| ธรณีร้องไห้ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | นางเกสรสุมณฑาละห้อยหา | ||
| จึงปรึกษาสุพรรณกัลยา | อยู่ช้าก็สำหรับจะอับอาย | ||
| สไบแม่กับช้องของโฉมยง | จะทำธงสำคัญมั่นหมาย | ||
| แม้นสังข์ศิลป์ชัยยังไม่ตาย | กลับมาดีร้ายจะพบพาน | ||
| แล้วหยิบช้องกับผ้ามาทำธง | ปักลงตั้งจิตพิษฐาน | ||
| ขอเทวาอารักษ์ทั้งจักรวาล | ช่วยบันดาลให้แจ้งกิจจา | ||
| แม้นว่าพระสังข์ยังอยู่ | จงมีผู้เอาของไปให้ข้า | ||
| ถ้าเจ้ามอดม้วยมรณา | ช้องกับภูษาจงสูญไป | ||
| สิ้นคำที่ร่ำพิษฐาน | เยาวมาลย์เศร้าสร้อยละห้อยไห้ | ||
| คิดถึงนัดดายิ่งอาลัย | ครวญคร่ำร่ำไรโศกา | ||
| ฯ ๑๐ คำฯ โอด | |||
| ร่าย | |||
| ๏ ครั้นค่อยคลายวิโยคโศกศัลย์ | ก็ชวนกันลงจากภูผา | ||
| ศรีสันท์นั้นนำมรคา | ดั้นดัดลัดมาในดงดาน | ||
| ฯ ๑ คำฯ เชิด | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ฝ่ายเจ้าสิงหรากล้าหาญ | ||
| เที่ยวไล่สัตว์สิงห์วิ่งทะยาน | เป็นลางบันดาลบอกเหตุภัย | ||
| ให้มึนตึงกายาตาเขม่น | จิตใจเยือกเย็นดังเป็นไข้ | ||
| คิดถึงพระสังข์ศิลป์ชัย | ก็แผลงฤทธิ์ฤทธิไกรกลับมา | ||
| ฯ ๔ คำฯ เชิด | |||
| ๏ ครั้นถึงเชิงเขาลำเนาเพลิน | จึงลงเดินลดเลี้ยวเที่ยวหา | ||
| ไม่เห็นที่ประทับพลับพลา | ทั้งพระอาน้องชายก็หายไป | ||
| นั่งนึกตรึกไตรให้รำคาญ | จะเกิดเหตุเภทพาลเป็นไฉน | ||
| หรือจะพากันรีบไปเวียงชัย | ที่จะหนีพี่ไปก็ใช่เชิง | ||
| คิดพลางทางเที่ยวสัญจรหา | บุกป่ากู้ก้องร้องเปิ่ง | ||
| แล้วขึ้นเขาเข้าค้นในวุ้งเวิ้ง | ทุกซุ้มเชิงรกเรี้ยวเที่ยวมองดู | ||
| เทวัญบันดาลให้ผายผัน | มาเห็นศรพระขรรค์ที่วางอยู่ | ||
| เอ๊ะเกิดเหตุแท้แล้วอกกู | จะมีผู้ทำร้ายแก่น้องยา | ||
| เป็นตายอย่างไรไม่แจ้งจิต | สุดคิดที่จะเที่ยวแสวงหา | ||
| ยิ่งคิดสร้อยเศร้าเปล่าอุรา | ก็โศกาครวญคร่ำร่ำไร | ||
| ฯ ๑๐ คำฯ โอด | |||
| ๏ แล้วฝืนจิตดำริตริตรองดู | จะนิ่งอยู่กระนี้ก็มิได้ | ||
| เมื่อไม่พบน้องน้อยกลอยใจ | จำจะไปทูลสองพระมารดร | ||
| คิดพลางทางทำอานุภาพ | ปากคาบพระขรรค์กับสังข์ศร | ||
| เผ่นโผนโจนเหาะขึ้นอัมพร | ตรงไปนครบรรพต | ||
| ฯ ๔ คำฯ เชิด | |||
| ๏ ครั้นถึงจึงลงจากอากาศ | ขึ้นปราสาทแก้วมรกต | ||
| กราบบาทสองนางพลางรันทด | พิไรร่ำกำสรดโศกี | ||
| ฯ ๒ คำฯ โอด | |||
| ๏ เมื่อนั้น | องค์พระมารดาทั้งสองศรี | ||
| เห็นมาร้องไห้ไม่สมประดี | เทวีคิดอัศจรรย์ใจ | ||
| ปลอบพลางทางถามมิทันช้า | เป็นไรมาโศกศัลย์กันแสงไห้ | ||
| มีเหตุเภทพาลประการใด | น้องรักอยู่ไหนจึงไม่มา | ||
| ฯ ๔ คำฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | สิงหราโศกศัลย์เป็นหนักหนา | ||
| จึงเล่าความตามเรื่องไปรับอา | แต่ต้นมาจนถึงกลางไพร | ||
| ทั้งหกเชษฐากับน้องรัก | ชวนกันหยุดพักในป่าใหญ่ | ||
| ลูกนี้โฉดเขลาเบาใจ | ลาสังข์ศิลป์ชัยไปหากิน | ||
| ครั้นกลับมาไม่เห็นพระน้องชาย | พากันสูญหายไปหมดสิ้น | ||
| ข้าค้นบนเขาเขินเดินดิน | พบแต่สังข์ศิลป์พระขรรค์ชัย | ||
| สุดที่จะคิดติดตามหา | ไม่รู้ว่าเกิดเข็ญเป็นไฉน | ||
| จึงรีบมาทูลแถลงให้แจ้งใจ | อันโทษตัวลูกไซร้ผิดนัก | ||
| ฯ ๘ คำฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | สองนางพ่างเพียงอกหัก | ||
| ชลเนตรฟูมฟองนองพักตร์ | นงลักษณ์ครวญคร่ำร่ำไร | ||
| ฯ ๒ คำฯ โอด | |||
| โอ้ | |||
| ๏ โอ้ว่าลูกรักของแม่เอ๋ย | แม่เคยเชยชิดพิสมัย | ||
| หรือมาพลัดพรากจากไป | เพราะเชื่อไอ้กระยาจกทั้งหกคน | ||
| อันความคิดของมันแม่รู้เท่า | ได้ห้ามปรามเจ้าเป็นหลายหน | ||
| ช่างไว้เนื้อเชื่อใจไอ้แสนกล | มันคนริษยาอาธรรม์ | ||
| เห็นว่ารับอามาได้แล้ว | จึงคิดฆ่าลูกแก้วให้อาสัญ | ||
| จะได้หน้าได้ตาแต่พวกมัน | ควรหรือจอมขวัญไปหลงรัก | ||
| อนิจจาลูกน้อยมาสูญหาย | จะเป็นตายฉันใดไม่ประจักษ์ | ||
| สองกรข้อนทรวงเข้าฮักฮัก | ซบพักตร์กันแสงโศกี | ||
| ฯ ๘ คำฯ โอด | |||
| ร่าย | |||
| ๏ ครั้นค่อยคลายวิโยคโศกศัลย์ | จึงปรึกษากันทั้งสองศรี | ||
| อันปราสาทราชฐานของเรานี้ | บังเกิดมีเพราะบุญพระโอรส | ||
| แม้นว่าขวัญข้าวเจ้าม้วยมรณ์ | เห็นบ้านเมืองสังข์ศรจะสูญหมด | ||
| ต่อจะยังไม่ทิวงคต | ก็ค่อยคลายกำสรดโศกา | ||
| ฯ ๔ คำฯ เจรจา | |||
| ลำจีน | |||
| ๏ มาจะกล่าวบทไป | ถึงจีนนายสำเภาล้าต้า | ||
| ใช้ใบจากกวางตุ้งมุ่งมา | จะเข้าเมืองปัญจาล์เวียงชัย | ||
| ต้นหนวางเข็มไม่สันทัด | ตกคุ้งลมขัดไม่ออกได้ | ||
| น้ำท่ากินกินก็สิ้นไป | จึงให้ทอดสมอรอรั้ง | ||
| ลูกเรือขันช่อสำปั้นลง | โล้ฝืนคลื่นตรงเข้าถึงฝั่ง | ||
| ต่างขึ้นบกไปมิได้ยั้ง | เอาถึงตักน้ำแล้วแบกมา | ||
| บ้างพากันเที่ยวไปในดง | เห็นธงปักอยู่บนภูผา | ||
| ชะรอยว่าใครเสียนาวา | จึงขึ้นปลดเอาผ้ากับช้อง | ||
| แล้วแยกย้ายรายค้นจนทั่ว | มิได้พบตัวคนเจ้าของ | ||
| ต่างกลับลงมาสัดจอง | โล้ล่องออกไปเภตราพลัน | ||
| ฯ ๑๐ คำฯ เชิด | |||
| ร่าย | |||
| ๏ ครั้งถึงจึงขึ้นบนสำเภา | ตรงเข้าบาหลีขมีขมัน | ||
| เอาผ้ากับช้องของสำคัญ | ส่งให้นายนั้นทันใด | ||
| ต่างคนบนบานอยู่เซ็งแซ่ | ที่ลมขัดพัดแปรมาให้ | ||
| คนงานกว้านสมอช่อใบ | แล่นไปในทะเลสะดวกดี | ||
| ฯ ๔ คำฯ โล้ | |||
| ช้า | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ฝ่ายท้าวเสนากุฎเรื่องศรี | ||
| สถิตแท่นไสยาในราตรี | ภูมีเร่าร้อนอาวรณ์ใจ | ||
| คิดถึงลูกรักทั้งหกองค์ | จะเดินดงยากเย็นเป็นไฉน | ||
| นับได้หลายเดือนแต่จากไป | หรือจะไม่พบอาจึงช้าวัน | ||
| คิดคะนึงถึงลูกยิ่งละห้อย | เคลื้มม่อยหลับไปเมื่อไก่ขัน | ||
| ทรงสุบินนิมิตอัศจรรย์ | พอรุ่งสุริย์ฉันก็ฟื้นองค์ | ||
| ฯ ๖ คำฯ | |||
| ร่าย | |||
| ๏ พระลุกจากแท่นที่ตะลีตะลาน | ภูบาลชำระสระสรง | ||
| ทรงเครื่องกกุธภัณฑ์บรรจง | เสด็จตรงออกพระโรงรจนา | ||
| ฯ ๒ คำฯ เสมอ | |||
| สิงโต | |||
| ๏ นั่งเหนือบัลลังก์รัตน์รูจี | พรั่งพร้อมเสนีทั้งซ้ายขวา | ||
| จึงตรัสเรียกโหรเฒ่าเข้ามา | แล้วบัญชาแจ้งความตามนิมิต | ||
| คืนนี้เราฝันประหลาดนัก | ว่าแก้วของเรารักดังดวงจิต | ||
| มีผู้เดชาศักดาฤทธิ์ | มาปลดปลิดชิงเอาของเราไป | ||
| นานมีชายหนึ่งแปลกหน้า | ไปนำดวงจินดามาคืนให้ | ||
| กลับได้หลายดวงล้วนชอบใจ | จงทายไปให้รู้ว่าร้ายดี | ||
| ฯ ๖ คำฯ | |||
| ร่าย | |||
| ๏ บัดนั้น | ขุนโหรรับสั่งใส่เกศี | ||
| ดูตามตำราในคัมภีร์ | เห็นว่าดีมั่นคงไม่สงกา | ||
| จึงประณตบทมาลย์แล้วทูลพลัน | ซึ่งทรงสุบินนั้นดีหนักหนา | ||
| ทั้งหกพระโอรสจะกลับมา | เห็นได้ดังจินดาอาสาไป | ||
| แต่ฝันวันอังคารนี้พาลร้าย | ตำราทายว่ามักให้หม่นไหม้ | ||
| จะเกิดเหตุสักอย่างในกลางไพร | เพียงแต่ตกใจไม่อันตราย | ||
| คงจะได้มาสองเสียหนึ่ง | อีกเจ็ดวันจะถึงพระฤาสาย | ||
| แม้นผิดจากถ้อยคำที่ทำนาย | ขอถวายชีวิตแก่ภูมี | ||
| ฯ ๘ คำฯ เจรจา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ท้าวเสนากุฏเกษมศรี | ||
| จึงตรัสสั่งทั้งสองเสนี | จงจัดแจงแต่งที่ปราสาทชัย | ||
| มโหรีปี่พาทย์ฆ้องกลอง | ทั้งบายศรีทองที่ทำใหม่ | ||
| งิ้วหุ่นโขนหนังจงสั่งไป | เตรียมไว้ให้เสร็จในเจ็ดวัน | ||
| แม้ว่าพระน้องกับลูกยา | มาถึงพาราจะทำขวัญ | ||
| ให้เล่นการมหรสพครบครัน | แต่ในวันนั้นเป็นฤกษ์ดี | ||
| ฯ ๖ คำฯ | |||
| ๏ บัดนั้น | เสนาประณตบทศรี | ||
| มาบัตรหมายบอกกันทันที | ตามมีพระราชบัญชา | ||
| ฯ ๒ คำฯ เจรจา | |||
| ๏ บัดนั้น | ฝ่ายหกกุมารโอรสา | ||
| พาอามาในอรัญวา | แรมค้างกลางป่าหลายราตรี | ||
| ศรีสันท์นั้นเฝ้าแต่เลียมและ | เห็นอาเมินเดินแซะเสียดสี | ||
| ทำเลียบเคียงพูดจาพาที | เสชมโน่นนี่มาตามทาง | ||
| ฯ ๔ คำฯ เพลง | |||
| ๏ ครั้นสุริยาเย็นลงรอนรอน | ชวนกันหยุดนอนในป่ากว้าง | ||
| สีไฟก่อนกองให้สองนาง | คอยระวังเสือสางที่กลางไพร | ||
| ฯ ๒ คำฯ เจรจา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | นางเกสรสุมณฑาศรีใส | ||
| ปัดกวาดผงไผ่ใต้ต้นไทร | แล้วหักใบไม้มารองนอน | ||
| สองนางเอนองค์ลงนิทรา | กลัวภัยภาวนาไม่หยุดหย่อน | ||
| คิดถึงนัดดายิ่งอาวรณ์ | เจ้าเคยแผลงศรเป็นพลับพลา | ||
| สิ้นบุญหลานน้อยกลอยใจ | ได้ลำบากอยากไร้หนักหนา | ||
| คิดพลางนางทรงโศกา | จนนิทราเคลิ้มหลับกับสุพรรณ | ||
| ฯ ๖ คำฯ ตระ | |||
| ลีลากระทุ่ม | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ศรีสันท์แสนกลคนขยัน | ||
| นั่งคิดนอนคิดทุกคืนวัน | จะเข้าหาสุพรรณกัลยา | ||
| ยังหวาดหวั่นพรั่นจิตอิดเอื้อน | ความรักตักเตือนให้ใจกล้า | ||
| ชะเง้อดูสุพรรณกับพระอา | เห็นนิทราหลับไหลได้ท่วงที | ||
| จึงกระซิบบอกใบ้ให้น้องรู้ | จงหลับนอนนิ่งอยู่อย่าอึงมี่ | ||
| ว่าแล้วค่อยย่องมองหมาย | วันนี้คงสมคะเนนึก | ||
| หยุดยืนแอบรกอกเต้นทึก | แล้วสะอึกแฝงเงาเข้าไป | ||
| ฯ ๘ คำฯ เชิงฉิ่ง | |||
| ร่าย | |||
| ๏ นั่งลงเคียงข้างนางสุพรรณ | จะถูกถือมือสั่นไม่ต้องได้ | ||
| ความรักกลัดกลุ้มคลุ้มใจ | ค่อยชักสายสไบเทวี | ||
| ฯ ๒ คำฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | นางสุพรรณรู้สึกนึกว่าผี | ||
| ตกใจลืมเนตรขึ้นทันที | เห็นอ้ายอัปรีย์ศรีสันทา | ||
| นางเคืองขัดวัดเหวี่ยงเอาล้มหงาย | ลุกขึ้นถ่มน้ำลายแล้วบ่นด่า | ||
| อันคนสัญชาติมันชั่วช้า | สุดแต่ว่าเอาด้านเข้าเป็นพื้น | ||
| เห็นเขาหลับไหลแล้วได้ที | กล้าดีมึงมาเมื่อตื่นตื่น | ||
| จะทำให้สาใจที่ไม่ลื้น | อย่าพักหนีไปยืนแอบไม้ | ||
| ฯ ๖ คำฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | นางเกสรสุมณฑาศรีใส | ||
| ผวาตื่นตระหนกตกใจ | จึงถามไถ่สุพรรณทันที | ||
| ครั้นรู้ว่าศรีสันท์มันลอบมา | นางโกรธาด่าทออึงมี่ | ||
| ทำลอบลักหักหาญถึงเพียงนี้ | อ้ายโจรป่ากล้าดีแล้วหนีไย | ||
| มึงช่างตั้งใจแต่ข่มเหง | จะคิดเกรงน้ำหน้าก็หาไม่ | ||
| เพี้ยงเอ๋ยผีสางที่กลางไพร | จะหักคอมันให้ขาดใจตาย | ||
| ฯ ๖ คำฯ เจรจา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ศรีสันท์ถุ้งเถียงเบี่ยงบ่าย | ||
| พระอาอย่างเคืองขุ่นวุ่นวาย | มาลงร้ายเอาข้าร่ำด่ายับ | ||
| หลานนอนอยู่ถึงโน่นทั้งหกคน | ประมาทลืมสวดมนต์ม่อยหลับ | ||
| ปีศาจมากวนปล้ำอำทับ | ให้ตะคล้ายตะคลับยังหลับดี | ||
| พึ่งรู้สึกตื่นขึ้นประเดี๋ยวนี้ | ไม่แกล้งว่าฟ้าผี่เถิดพระอา | ||
| นางสุพรรณนั้นละเมอว่าคนหยอก | เนื้อแท้ผีมันหลอกเหมือนเช่นข้า | ||
| จงนิ่งนอนสวดมนต์ภาวนา | อย่าโกรธาด่าทออื้ออึง | ||
| ฯ ๘ คำฯ เจรจา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | นางเกสรสุมณฑาโกรธขึ้ง | ||
| จึงว่าอย่างเสกสรรดันดึง | ไม่เชื่อน้ำหน้ามึงอ้ายสันทา | ||
| ดีแต่แก้ตัวไปทุกอย่าง | ใส่โทษผีสางช่างมุสา | ||
| เมื่อเขาเห็นมึงแน่อยู่แก่ตา | ยังด้านหน้าถุ้งเถียงขึ้นเสียงดัง | ||
| จะสู้อดไปกว่าจะสิ้นเคราะห์ | กูขี้คร้านทะเลาะกับบ้าหลัง | ||
| แล้วนางตั้งใจระไวระวัง | ผลัดกันนอนกันนั่งกับธิดา | ||
| ฯ ๖ คำฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ศรีสันท์ไม่สมปรารถนา | ||
| เดินยิ้มแก้เก้อเร่อมา | ปดน้องทั้งห้าเป็นคลอกไป | ||
| เมื่อกี้พี่เข้าหานางสุพรรณ | ได้พูดจากันเป็นไหนไหน | ||
| นางว่ารักพี่นี้สุดใจ | แต่ทรามวัยหากกลัวพระชนนี | ||
| ยังกำลังชุลมุนมุ่นหมก | พออาตกใจตื่นขึ้นเห็นพี่ | ||
| ฉวยข้อมือได้หาไม้ตี | เราเป่ามนต์สองทีลงง่วงงุย | ||
| แต่เงื้อเงื้อขยับแล้วกลับหยุด | พี่สะบัดมือหลุดออกวิ่งฉุย | ||
| กลิ่นสุพรรณนั้นยังติดหอมกรุย | ฮุ่ยหุยเจียวเจ้าอย่าบอกใคร | ||
| ฯ ๘ คำฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ทั้งห้ากลั้นยิ้มมิใคร่ได้ | ||
| หัวเราะพลางทางว่าอย่าปดไป | ข้ายังไม่หลับม่อยนั่งคอยฟัง | ||
| สารพัดได้ยินสิ้นสุด | จนนางด่าพึ่งหยุดเพราะมนต์ขลัง | ||
| ที่ว่าได้แอบอิงนั้นจริงจัง | หรือปดดอกกระมังพี่สันทา | ||
| ฯ ๔ คำฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ศรีสันท์พูดแชแก้หน้า | ||
| นางว่าให้มั่งชั่งเถิดหนา | ธรรมดาผู้หญิงกับผู้ชาย | ||
| ชวนหัวเราะคิกคักชักพูดอื่น | ไม่หลับนอนตึกดื่นจะตื่นสาย | ||
| ว่าพลางทางชวนกันเอนกาย | ศรีสันท์เล่านิยายจนหลับไป | ||
| ฯ ๔ คำฯ เจรจา ตระ | |||
| ๏ เสียงดุเหว่าเร่าร้องก้องป่า | สุริยาเลี้ยวเยี่ยมเหลี่ยมไศล | ||
| ต่างตื่นฟื้นกายสบายใจ | พาอาดั้นไพรไปธานี | ||
| ฯ ๒ คำฯ เชิด | |||
| ๏ รอนแรมมาได้หลายทิวา | ก็ลุถึงปัญจาล์กรุงศรี | ||
| พบพวกพหลมนตรี | ทั้งกำนัลขันทีมาคอยรับ | ||
| แต่บรรดาข้าหลวงแลขอเฝ้า | ก้มเกล้าอภิวันท์เป็นอันดับ | ||
| ชายหญิงแน่นนั่นคั่งคับ | เห็นเจ้ากลับมาได้ก็ยินดี | ||
| แล้วทูลเชิญทั้งสองกัลยา | ขึ้นทรงวอช่อฟ้าหลังคาสี | ||
| ทั้งหกองค์ทรงม้าพาชี | เสนีแห่แหนเข้าพารา | ||
| ฯ ๖ คำฯ กลอนโยน | |||
| ๏ บัดนั้น | พนักงานการเล่นทุกภาษา | ||
| ต่างโห่ฉาวกราวเชิดเป็นโกลา | ออกเต้นรำทำท่าทุกโรงงาน | ||
| ประชาชนพารามาเกลื่อนกล่น | นั่งแน่นริมถนนอลหม่าน | ||
| อวยชัยให้พรพระกุมาร | ชมบุญสมภาพออกแซ่ซ้อง | ||
| บ้างชะแง้แลดูวอสุพรรณ | เห็นม่านกั้นกำบังมาทั้งสอง | ||
| ต่างคิดสงสัยตั้งใจมอง | องค์หน้านั้นน้องเจ้าธานี | ||
| อันองค์นี้ที่เราไม่รู้จัก | ผิวพักตร์นวลละอองผ่องศรี | ||
| ต่อจะเป็นพระราชบุตรี | ชาวบุรีอวยพรกระฉ่อนไป | ||
| ฯ ๘ คำฯ เจรจา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ทั้งหกโอรสาศรีใส | ||
| แลดูเต้นรำสำราญใจ | ขับอาชาไนยไปตามทาง | ||
| ถึงประตูหูช้างข้างหน้า | ลงจากอาชาแล้วเยื้องย่าง | ||
| ชาวประโคมก็ประโคมดุริยางค์ | ประทับวอสองนางกับเกยลา | ||
| ฯ ๔ คำฯ เสมอ | |||
| ช้า | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระผู้ผ่านเขตขัณฑ์หรรษา | ||
| ลุกจากแท่นสุวรรณมิทันช้า | ไปรับองค์ขนิษฐายาใจ | ||
| ฯ ๒ คำฯ | |||
ตอนที่ ๒ ท้าวเสนากุฎเข้าเมือง
| ๏ | |||
เชิงอรรถ
ที่มา
บทละครนอกเรื่อง สังข์ศิลป์ชัย สถาบันภาษาไทย กรมวิชาการ กระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. ๒๕๔๐ ( ขอขอบคุณ คุณพิกุลแก้ว สมาชิก kaewkao.com ผู้พิมพ์เป็นวิทยาทาน )
