จาก ตู้หนังสือเรือนไทย
ข้อมูลเบื้องต้น
แม่แบบ:เรียงลำดับ
พระราชนิพนธ์: สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี
มี ๔ ตอน โดยตอนที่ ๒ ถึง ๔ นั้นความต่อกัน
บทประพันธ์
บานแพนก
วันอาทิตย์ เดึอน ๖ ขึ้นคํ่าหนึ่ง จุลศักราช ๑๑๓๒ (พ.ศ. ๒๓๑๓ ปีที่ ๓ ในร้ชกาลกรุงธนบุรี) ปีขาล โทศก พระราชนิพนธ์ทรงแต่งชั้นต้นเป็นปฐม ยังทรามยังพอดีอยู่
ตอนที่ ๑ ตอนพระมงกุฎ
พระมงกุฎอยู่ป่า
|
๏ มาจะกล่าวบทไป | | หน่อในอวตารรังสี
|
หาผลปรนนิบ้ติชนนี | | ทั้งพระฤษีมีญาณ
|
ว้นหนึ่งชวนน้องเข้าพาที | | พระมุนีจงโปรตเดฉาน
|
ข้าไสร้เกลือกคนภัยพาล | | ขอประทานรํ่าเรียนวิชา
|
ฯ ๔ คำ ฯ
|
|
๏ ฤษีรักจูบกระหม่อมเกศ | | สอนให้เล่าเวทคาถา
|
ฯ เจรจา ฯ
|
|
๏ หุดีกุณฑ์กองวิทยา | | เจ็ดราตรีศรผุดพลัน
|
ฯ ตระ ฯ
|
|
๏ จึงประสิทธิ์ประสาทธนูศิลป์ | | เจ้าจินดารมณ์หมายมั่น
|
เมึ่อลั่นซั้นซ้ำมนตร์พลัน | | สรรพโลกไม่ทนฤทธา
|
ฯ เจรจา ๔ คำ ฯ
|
|
๏ ฝ่ายสองกุมารเรียนเสร็จ | | ได้ทั้งกลละเม็ดคาถา
|
รบเอาธนูศิลป์มา | | ลาล่าหาผลพนาลี
|
ฯ เข้าม่าน ฯ
|
|
๏ ครั้นถึงกาลวาตพนาลัย | | ปราศัยน้องลบเรืองศรี
|
ฝ่ายพี่จะแผลงฤทธี | | ยิงรังด้นนี้ให้ขาดไป
|
ฯ ๔ คำ ฯ
|
|
๏ เจ้าลบว่าใหญ่ถึงแสนวา | | ข้าเจ้าเห็นหาห้กไม่
|
๏ พระมงกุฎก็วางศรชัย | | สนั่นไปถึงชั้นพรหมา
|
ตระเชิด
|
๏ ถูกรังต้นใหญ่สินขาด | | ยับเยินวินาศดังฟ้าผ่า
|
แล้วกลับต่อว่าอนุชา | | น้องยาจะว่าประการใด
|
ฯ ๔ คำ ฯ
|
|
๏ พระลบสรรเสริญบุญญา | | อานุภาพเป็นหาที่สุดไม่
|
พระชนนีจะมิตกใจ | | ก็ชวนเก็บผลไม้กลับมา
|
ฯ พญา เดิน ๒ คำ ฯ
|
|
๏ ฝ่ายพระฤษีสนั่นเสียง | | สำเนียงกึกก้องเวหา
|
ตกใจทิ้งนางสีดา | | ก็ลีลาออกตามกุมาร
|
ฯ เชิด ๒ คำ ฯ
|
|
๏ ฝ่ายพระพี่น้องเห็นฤษี | | ก็วิ่งเข้าอัญชลีทูลสาร
|
ทิ้งนางสีดาดวงมาลย์ | | พระอาจารย์มาไยชนนี
|
ฯ ๒ คำ ฯ
|
|
๏ พระมุนีสีดาว่าดูเอา | | ให้เราตกใจถึงสองศรี
|
สุ้งเสียงอะไรเมื่อกี้ | | คิดว่าอสุรีพะพาน
|
ฯ ๒ คำ ฯ
|
|
๏ ฝ่ายพระมงกฎทูลไข | | หาไม่ดอกยิงไม้พฤกษาสาร
|
๏ เจ้าลบว่าแสนอ้อมประมาณ | | พฤกษาสารสูงเทียมเมฆา
|
หักย้บสะบั้นสินขาด | | วินาศดุจดั่งฟ้าผ่า
|
ที่กาลวาตพนาวา | | หาภ้ยมิได้พระมุนี
|
ฯ ๔ คำ ฯ
|
|
๏ สีดาว่ายิงทำไม | | ให้ตกใจทั้งพระฤษี
|
นี่ลูกอะไรน่าใคร่ตี | | ก็พาทีขู่รู่กุมาร
|
ฯ ๒ คำ ฯ
|
|
๏ พระมุนีจึ่งห้ามสีดา | | อย่าว่าหลานกูห้าวหาญ
|
แล้วอวยชัยหน่ออวตาร | | ให้ชัยวาลรุ่งฤทธี
|
จงเจ้าเป็นใหญ่ไตรภพ | | จบสกลทิศทั้งสี่
|
โภยภัยสิ่งใดอย่าได้มี | | ให้ฤทธียิ่งบิดร
|
แล้วบอกนวลนางสีดา | | พฤกษานี้มีมาแต่ก่อน
|
แรกตั้งฟ้าดินอัมพร | | ศรใครไม่กินนะสีดา
|
เมื่อไรต่อหน่ออวตาร | | จึงผลาญไม้นี้ดั่งฟ้าผ่า
|
ลูกเจ้ารุ่งเรืองฤทธา | | ว่าแล้วก็มากุฎี
|
ฯ เสมอ ๘ คำ ฯ
|
|
๏ ฝ่ายสองกุมารเข้าไป | | ถวายผลไม้พระฤษี
|
แล้วกล้บมาหาชนนี | | ยังที่พระบรรณศาลา
|
ฯ บาทสกุณี ๒ คำ ฯ
|
|
โอ้
|
๏ ฝ่ายนางสีดาส้วมกอด | | พลอดพลางทางกวดเกศา
|
จูบเกศเทวศโศกา | | โอ้ว่ากำพร้ายาใจ
|
มาดแม้นถ้าอยู่ก้บพ่อ | | จะเสน่ห์หน่อหาที่สุดไม่
|
เท่านี้หรือมีฤทธิไกร | | ที่ไหนบิดาจะให้จร
|
ฝ่ายเจ้าผลานแผลงศิลป์ชัย | | เหมือนเมื่อท้าวไทเธอยกศร
|
ครั้งไปทำการสยมพร | | ในเมืองนครมิถิลา
|
ให้เจ้ายิ่งยศโมลี | | แม่จะได้ฝากผีภายหน้า
|
ให้เรืองฤทธิ์เหมือนองค์พระบิดา | | ว่าแล้วก็ทรงโศกี
|
ฯ โอด ๘ คำ ฯ
|
|
ร่าย
|
๏ ฝ่ายพระมงกุฎทูลถาม | | โปรดบอกความเกล้าเกศี
|
แม่ว่าพ่อข้ามีฤทธี | | มาอยู่พนาลีด้วยอ้นใด
|
อ้นฝ่ายพระบังเกิดเกล้า | | เผ่าพงศ์กษัตริย์หรือไม่
|
เธอผ่านถิ่นฐานบ้านเมืองใด | | บอกให้หน่อยเถิดพระมารดา
|
ฯ มโนราโอด ๔ คำ ฯ
|
|
๏ สีดากรรแสงแถลงไข | | พิไรบอกลูกเสน่หา
|
เดิมแม่อยู่เมืองมิถิลา | | พระอัยกาเจ้าเสี่ยงศิลป์ชัย
|
เทพามนุษย์เข้ายกศิลป์ | | เสร็จสิ้นมิได้หวาดไหว
|
พ่อเจ้ายกได้ว่องไว | | จึงเศกแม่ให้กับบิดา
|
อ้นบิตุเรศของเจ้า | | เผ่าพงศ์บรมนาถา
|
เรืองรุดสุดอรรคอิศรา | | ปรากฏยศยิ่งโมลี
|
จึ่งพาแม่มาเวียงชัย | | อัยกาให้สัจมเหษี
|
ให้พ่อเจ้าไปพนาลี | | แม่นี้ติดตามจรจรรย์
|
กับทั้งพระล้กษมณ์อนุชา | | ออกไปอยู่ป่าพนาสัณฑ์
|
วันหนึ่งจึงยักษ์ทศกัณฐ์ | | มันใช้มารีศเป็นกวางมา
|
แม่ไม่รู้เลยเป็นร้กใคร่ | | ให้พ่อเจ้าตามไปในป่า
|
แล้วได้ยินเสียงเหมือนบิดา | | คิดว่ายักษาม้นยายี
|
จึงให้อนุชาไปดู | | มิรู้ยักษ์ล้กพาแม่หนี
|
บิดาเจ้าตามไปต่อตี | | ฆ่าอสุรีตายทั้งลงกา
|
แล้วพามาผ่านโภคัย | | ครั้งนั้นแลแม่ได้หรรษา
|
จึงมีปีศาจลวงมารดา | | วานข้าเขียนรูปอสุรี
|
พาซื่อมือแม่ไม่สุข | | ประดุกเขียนรูปยักษี
|
พอพ่อเจ้ามาเห็นทันที | | นารีผู้วานนั้นหายไป
|
ฝ่ายแม่จึงรู้ว่าปิศาจ | | พระบิตุราชโกรธชักพระขรรค์ไล่
|
ให้พระอนุชาพาแม่ไป | | พิฆาตเสียในพนาวา
|
เดชะความสัตย์ของแม่ | | เที่ยงแท้ต่อพ่อเจ้าหนักหนา
|
พระขรรค์กล้บกลายเป็นมาลา | | อนุชาจึงขับเสียพล้น
|
เตชะบุญญาของเจ้า | | ขวัญเข้าแม่ไม่อาสัญ
|
พอพบมุนีในพนาวัน | | จึงคมค้ลอาศัยคลอดลูกยา
|
พระบิดาเจ้าชื่อราเมศ | | หน่อนเรศทศรถนาถา
|
ครอบครองกรุงศรีอยุธยา | | ว่าแล้วก็ทรงโศกี
|
ฯ โอด ๒๖ คำ ฯ
|
|
๏ ฝ่ายพระมงกุฎกราบเกล้า | | พระแม่เจ้าอย่าหม่นหมองศรี
|
ถึงพระบิดาไม่ดูดี | | เราอยู่พงพีตามเข็ญใจ
|
ฯ ครวญ ๒ คำฯ
|
|
๏ สีดาส้วมสอดกอดจูบ | | ลูบหน้าหลังพลางร้องไห้
|
แสนโศกวิโยคอาล้ย | | เสน่ห์ในกอดลูกนิทรา
|
ฯ กล่อม ๒ คำ ฯ
|
| | |
|
พระรามเสี่ยงม้า
|
ยานี
|
๏ มาจะกล่าวบทไป | | ถึงไทเจ้าไตรตรึงษา
|
เอ็นดูกุมารสีดา | | จากสามีพรากบิดร
|
อ้อหน่อนั้นค่อยจำเริญวัย | | ไปลองศิลป์ชัยธนูศร
|
เอิกเกริกสิ้นทั้งพระนคร | | บิดรก็อัศจรรย์ใจ
|
เอะพ่อจะเสี่ยงพาชี | | ลูกนี้จะได้หม่นไหม้
|
เป็นกรรมทำมาแต่ไร | | ให้พรไปโดยยินดี
|
ฯ สาธุการ ๖ คำ ฯ
|
|
๏ ฝ่ายข้างองค์อรรคอวตาร | | ให้หาพฤฒาจารยอึงมี่
|
ควรดูฤกษ์พานาที | | เหตุนี้จะเป็นประการใด
|
ฯ เจรจา ๒ คำ ฯ
|
|
๏ ฝ่ายข้างพระโหรผู้เฒ่า | | ก้มเกล้ากราบทูลแถลงไข
|
เหตุลั่นดินฟ้าสุราลัย | | หาภัยมิได้ภูมี
|
แต่เกิดองค์อรรคศักดา | | ลองมหาธนูชัยศรี
|
สำหร้บปราบมารไพรี | | เหตุนี้ดีดอกพระราชา
|
ฯ เจรจา ๒ คำ ฯ
|
|
ช้า
|
๏ เมื่อนั้น | | พระรามบุญเรืองเฟื่องฟ้า
|
สงสัยไถ่ถามโหรา | | บัญชาแก่ราชสามนต์
|
เมื่อกูอยู่บนบัญชรชัย | | หวั่นไหวดินฟ้ากุลาหล
|
สะเทือนเลื่อนภูมิมณฑล | | จลาจลดุจดั่งจะควํ่าไป
|
ดูดุ๋ช้างม้าอาณาจักร | | หักหลักแหล่งหลุดไปได้
|
เหตุนี้กูมิไว้ใจ | | เป็นภัยติดราชธานี
|
จงตกแต่งล้กษณโองการ | | เขียนลงเป็นราชสารศรี
|
ผูกแขวนคอม้าเสี่ยงพาชี | | ตามประเวณีเมืองปล่อยไป
|
จึงจะต้องตามตำราว่า | | แม้นใครขี่ฆ่าให้ต้กษ้ย
|
ให้หาอนุชาสองไท | | กูจะให้ไปตามอาชา
|
ฯ ๑๐ คำ ฯ
|
|
ร่าย
|
๏ หนุมานก็ร้บสั่งพลัน | | ผายผันเหาะระเห็จไปหา
|
ฯ เชิดปฐม ฯ
|
|
๏ ครั้นถึงไกยเกศภารา | | เชิญเสด็จอนุชาทันที
|
ฯ ๒ คำ ฯ
|
|
๏ พระสัตรุดพระพรตถามไถ่ | | ให้หาเราไยกระบี่ศรี
|
สะเทือนเลื่อนลั่นบูรี | | อยุธยามีเหตุประการใด
|
ฯ ๒ คำ ฯ
|
|
๏ หนุมานทูลแจ้งกิจจา | | เหตุสุธาสนั่นหวั่นไหว
|
พระเชษฐาให้เสี่ยงพาชีชัย | | จึงจะให้พระไปตามไพรี
|
ฯ ๒ คำ ฯ
|
|
๏ พระสัตรุดพระพรตสั่งพลัน | | ให้เตรียมพลขันธ์ชัยศรี
|
ขึ้นทูลไอยกาทันที | | พระเจ้าพี่รามาให้หาไป
|
ฯ ๒ คำเสมอ ฯ
|
|
๏ พระไอยกาอำนวยพร | | ให้ถาวรยศยิ่งเป็นใหญ่
|
เจ้าไปเถิดไปพ่อไป | | มีชัยแล้วกลับมาธานี
|
ฯ เจรจา ๒ คำฯ
|
|
๏ พระสัตรุดพระพรตอำลา | | มาท้องพระโรงชัยศรี
|
ฯ เสมอ ฯ
|
|
๏ เสนาซึ่งรับสั่งเดิมที | | ไปจ้ดรี้พลโยธา
|
ฯ เชิดปฐม ฯ
|
|
ยานี
|
๏ กะเกนรถรัดอัสดร | | พวกพลนิกรซ้ายขวา
|
หอกง้าวหลาวแหลนปืนยา | | ทัพหลังทัพหน้าเรียงรัน
|
อีกทั้งยกระบัตรเกียกกาย | | ปีกป้องกองรายแข็งขัน
|
ครั้นเสร็จระเห็จทูลพลัน | | พลขันธ์พร้อมแล้วภูมี
|
ฯ ๖ คำ ฯ
|
|
โทน
|
๏ เมื่อนั้น | | พระพรตยศไกรชัยศรี
|
จึงชวนอนุชาสรงวารี | | สองศรีสำอางอาภรณ์
|
ทรงมงกฎสังวาลเสร็จสรรพ | | จับสะพักสะพายแล่งแสงศร
|
ทบทรวงกรรเจียกกระจายจร | | ตาบติดอาภรณ์กระจายตา
|
พาหุรัดธำมรงค์ชายแครง | | ศรีแสงชายไหวซ้ายขวา
|
สนอบสนับสรรพชวนอนุชา | | ลีลามาขึ้นรถไป
|
ฯ บาทสกุณี ๖ คำ ฯ
|
|
โทน
|
๏ รถเอยราชรถแดง | | สีแสงสว่างสุกใส
|
งอนแอกปะแหรกวิไล | | ฉ้ตรชัยวิจิตรเจษฎา
|
|
เพราเพชรเก็จแกมหน้าหลัง | | บังใบด้วยมณีมีค่า
|
ระย้าระย้อยลอยเลื่อนฟ้า | | กรีฑาพหลไปพลัน
|
ฯ กราวเชิด ๔ คำ ฯ
|
|
๏ ครั้นถึงซึ่งกรุงอยุธยา | | ขึ้นเฝ้าเชษฐาไอศวรรย์
|
พระรามเห็นเรียกน้องพลัน | | พากันออกท้องพระโรงชัย
|
ฯ เสมอ ฯ
|
|
๏ จึงตรัสด้วยราชสารศรี | | เสนีแต่งแล้วหรึอไฉน
|
เสนาก้มกราบทูลไป | | แต่งไว้เสร็จแล้วภูมี
|
ฯ เจรจา ๔ คำ ฯ
|
|
ช้า
|
๏ ในลักษณพระราชสาร | | ว่าพระผ่านทศทิศทั้งสี่
|
แบ่งภาคจากกระเษียรวารี | | มีกมลจิตต์จินดา
|
ให้ปล่อยมิ่งม้าอุปการ | | ใครพานพะขี่จะเข่นฆ่า
|
ที่อวดฤทธิ์ดีจงขี่ม้า | | ผ่านฟ้าจะไปต่อตี
|
ถ้าแม้นเป็นข้าอาณาจ้กร | | ทักษิณประณตบทศรี
|
เคารพอภิวันท์ธุลี | | ปล่อยพาชีจรไคลคลา
|
ฯ ๖ คำ ร่าย ฯ
|
|
๏ พระรามว่าดีแล้วเอาเถิด | | พอเกิดดวงดาวเวหา
|
เบื้องบนข้างทิศบูรพา | | บัญชาให้ผูกพาชี
|
ฯ ๒ คำ ฯ
|
|
๏ อาลักษณ์เอาสารผูกคอม้า | | อลังการที่นั่งรังสี
|
โหรปล่อยมิ่งม้าทันที | | พาชีดึงเดาะเดินพลัน
|
ฯ ฉาน เชิดฉิ่ง ๒ คำ ฯ
|
|
๏ พระรามจึงสั่งอนุชา | | แม้นใครขี่ฆ่าให้อาสัญ
|
๏ อนุชารบสั่งจรจรัล | | พลันยกพลตามสะกดไป
|
ฯ กราว ๒ คำ ฯ
|
|
๏ พระรามซ้ำสั่งหนุมาน | | ท่านไปช่วยด้วยจึ่งได้
|
หนุมานรับสั่งคลาไคล | | ไปนำพลตามพาชี
|
ฯ เชิด ๒ คำ ฯ
|
| | |
|
พระมงกุฎขี่ม้าเสี่ยงทาย หนุมานจะจับ ถูกพระมงกุฎเสกมนตร์มัดตัว
|
ยานี
|
๏ มาจะกล่าวบทไป | | ถึงไทท่านท้าวโกสีย์
|
ผู้ทรงมหิทธิ์ฤทธี | | ตรีเนตรเล็งแลลงมา
|
ก็แจ้งว่าหน่ออวตาร | | จะพานพะรบวงศา
|
อ้อกรรมหน่อดลบิดา | | จึงเสี่ยงพญาม้าไป
|
เอะอาว์ผู้เข้าราวี | | จะต้องศรศรีเพียงต้กษัย
|
จึงจะจ้บได้แต่พี่ไป | | อวตารจะให้ลงอาชญา
|
จำกูจะช่วยแก้ไข | | เอาผลบุญไปภายหน้า
|
อย่าให้มอดม้วยชีวา | | ก็ดลม้าเข้าพนาล้ย
|
|
ร่าย
|
๏ แล้วจึ่งไปดลกุมาร | | ให้ออกพนัสสถานใหญ่
|
ครั้นเสร็จเสด็จขึ้นไป | | ยังในฟากฟ้าดุษดี
|
ฯ คุกพาทย์ เหาะ ๑๐ คำ ฯ
|
|
๏ มาจะกล่าวบทไป | | หน่อในอวตารร้งษี
|
รัญจวนป่วนถึงพนาลี | | ที่จะไปเที่ยวเล่นพนาวา
|
ครั้นเช้าอำลามารดร | | จับธนูศรชัยจะไปป่า
|
สีดามิให้ไคลคลา | | ลูกยาอย่าไปพนาลี
|
คืนนี้แม่ฝันเห็นร้าย | | ฦๅสายอย่าเข้าพนาศรี
|
หูตากระเหม่นไม่ดี | | วันนี้อย่าไปพนาลัย
|
ฯ ๖ คำ ฯ
|
|
๏ พระพี่น้องเทียบทูลชนนี | | กรรมมีหาพ้นตายไม่
|
อันกาลวาตพนาลัย | | ลูกไสร้เคยเล่นอยู่อ้ตรา
|
แม้นข้ามิไปพนาลี | | พระฤษีจะอดพฤกษา
|
โภยภ้ยอะไรไม่มีมา | | ถึงอ้ายยักษาไม่กลัวกัน
|
แม้นมันฺทำร้ายลูกจะยิง | | ให้กลิ้งอยู่ในพนาสัณฑ์
|
พระแม่จงให้จรจรรย์ | | กรรแสงที่จะไปพนาวา
|
ฯ ๖คำ ฯ
|
|
โอดครวญ
|
๏ สีดาส้วมสอดกอดจูบ | | ลูบหน้าหลังกวดเกศา
|
เจ้าไปเถิดพ่ออย่าโศกา | | ว้นนี้กลับมาแต่วัน
|
ฯ ๒ คำ ฯ
|
|
๏ ฝ่ายสองพี่น้องอำลา | | คว้าได้ธนูผายผัน
|
ลาดาบสแล้วจรจรรย์ | | เข้าอรัญวามิช้า
|
ฯ เชิด ฯ
|
|
๏ ครั้นถึงซึ่งป่ากาลวาต | | องอาจเที่ยวไพรพฤกษา
|
เก็บผลไม้กินสองรา | | พอเห็นมิ่งม้าพาชี
|
จึงบอกเจ้าลบน้องยา | | มาเราช่วยกันจับขี่
|
ฯ เชิด ฯ
|
|
๏ เออสัตว์อะไรอย่างนี้ | | เรามิเคยพบเห็นมา
|
แน่เจ้าดูเอาที่หลัง | | ใคร่นั่งเล่นไปในป่า
|
อะไรที่แขวนคอมา | | ก็เอาสาราอ่านพลัน
|
ฯ ๘ คำ ฯ
|
|
ช้า
|
๏ ใจความว่าองคอวตาร | | ผู้ผ่านโภคัยไอศวรรย์
|
ปล่อยม้าใครขี่ให้ฆ่าฟัน | | ถ้าข้าขอบข้นธ์ให้บูชา
|
|
เออนี่อะไรใช่เมืองบ้าน | | พานพะมาไยในป่า
|
ถึงมาดติดตามมา | | ใช่ว่าเราเป็นข้าไท
|
มาเราจะขึ้นขี่เล่น | | เช่นนี้จะกล้วเป็นไฉน
|
ต้วเราก็ไม่ขบถใคร | | ขึ้นพาชีชัยไปมา
|
ฯ เชิดฉิ่ง เพลง ๖ คำ ฯ
|
|
๏ มาจะกล่าวบทไป | | ถึงหนุมานอาษา
|
ซึ่งนำทัพกับตามอาชา | | ล่าลอดสอดดูพาชี
|
จึงเห็นกุมารขี่ม้า | | โกรธาลัดเข้าพนาศรี
|
|
แพละน้อย
|
๏ ก็เผ่นโผนจบกุมารตี | | กระบี่ต้องค้นศรสลบไป
|
ฯ เชิด โอด ๔ คำ ฯ
|
|
๏ ฝ่ายมงกุฎดาหนุมาน | | กูผลานเถิดหรือให้ตักษัย
|
เจ้าลบเอยลิงอะไร | | ทำไมมันมาจับเรา
|
ฯ ๒ คำ ฯ
|
|
๏ เจ้าลบว่าเออไม่เข้ายา | | อ้ายนี่มาทำเราเปล่า ๆ
|
ว่าพลางทางวิ่งตามม้าเล่า | | สองเจ้าเล่นในพนาลัย
|
ฯ ๒ คำ เชิดฉิ่ง เพลง ฯ
|
|
๏ หนุมานครั้นต้องพระพายถูก | | ลูกลมกลับฟื้นขึ้นได้
|
ก็ผาดโผนแผลงฤทธิไกร | | โตใหญ่เงือบเงื้อมเมฆา
|
แล้วคิดเอะมีฤทธิ๋นัก | | ศรศ้กดิ์ตีลงดั่งฟ้าผ่า
|
อย่าเลยกูจะแปลงกายา | | ก็เป็นลิงป่าเล็กเข้าไป
|
ฯ แพละ น้อย ฯ
|
|
๏ ถึงจึ่งตํ่าเตี้ยเงี่ยห้ว | | ฝากตัวแล่นเล่นในป่าใหญ่
|
ปีนป่ายร่ายกิ่งค่าไม้ | | ทำเป็นรักใคร่ไปมา
|
ฯ ๖ คำ ฯ
|
|
๏ ฝ่ายสองกุมารไม่สังเกต | | หน่อนเรศคิดว่าลิงป่า
|
๏ หนุมานโจนจับมิช้า | | กุมาราตีลิงสลบไป
|
ฯ เชิด โอด ๒ คำ ฯ
|
|
๏ พระมงกุฎด่าโจนลงเงื้อง่า | | กูฆ่าเถิดหรือให้ตักษ้ย
|
เจ้าลบเอ่ยดูอ้ายจังไร | | มันไม่หลาบเลยอนุชา
|
ทำไมมันมาจับเรา | | เอาหรือให้ม้วยสังขาร
|
๏ เจ้าลบร้องห้ามพี่ยา | | อย่าฆ่าเจ้านายมันมี
|
ฯ ๔ คำ ฯ
|
|
๏ มงกุฎด่าว่าอ้ายเจ้าเล่ห์ | | เหม่พานมาไยพนาศรี
|
จองหองจะเข้าราวี | | กิริยาอ้ายนี้เข้าใช้มัน
|
มาเราจะเอาเชือกเขา | | มัดศอกมันเข้าให้มั่น
|
จารึกหน้าไปบอกเจ้ามัน | | ก็ชวนก้นเข้ามัดลิงไพร
|
ฯ ตระ ฯ
|
|
๏ มัดแล้วจารึกเศกมนต์เป่า | | ต่อเจ้าของมึงจึ่งแก้ได้
|
ซํ้าตีมิให้บรรลัย | | เร่งไปบอกเจ้ามึงมา
|
ว่าพลางทางเผ่นขึ้นพาชี | | ข้บขี่ควบเล่นในป่า
|
ฯ เชิดฉิ่ง เพลง ฯ
|
|
๏ เล็มล่าหาผลพนาวา | | ได้มาก็สู่กันพลัน
|
ฯ ๘ คำ ฯ
|
|
๏ ฝ่ายหนุมานซึ่งต้องม้ด | | สะบัดตะบึงยิ่งรึงมั่น
|
เวทนาน่าอายเทวัญ | | โศกศัลย์มายังทัพชัย
|
ฯ เชิด โอด ฯ
|
| | |
|
พระพรตจับพระมงกุฎ
|
๏ ครั้นถึงจึ่งเฝ้าพระพรต | | กำสรดหาบอกความไม่
|
๏ พระพรตเห็นต้องม้ดไป | | ตัดด้วยพระขรรค์ชัยมิช้า
|
ฯ ตะบองกัน ฯ
|
|
๏ เชือดเถือเท่าไรก็ไม่ขาด | | ประหลาดอัศจรรย์หนักหนา
|
๏ หนุมานเจ็บร้องเจรจา | | อุ่ยหน่าโอยอย่าภูมี
|
ฯ ๔ คำ ฯ
|
|
๏ พระพรตจึงเห็นอักษร | | ที่หน้าวานรกระบี่ศรี
|
นิ่งอยู่กูจะดูหน้งสือมี | | ได้เนื้อความบอกกระบี่พลัน
|
ในลักษณว่าถ้าจะแก้ | | แม้นแลมิใช่เจ้าจงติดมั่น
|
ท่านเร่งเข้าไปบังคมคัล | | มันอยู่หาไหนบอกมา
|
ฯ ๔ คำ ฯ
|
|
๏ หนุมานทูลบุ้ยปากไป | | มันอยู่ในไพรพฤกษา
|
นะแน่งนิ่มน้อยสุนทรา | | ข้าประมาณชันษาสิบปี
|
ฯ ๒ คำ ฯ
|
|
๏ พระพรตก็ไปตามว่า | | หนุมานเหาะมากรุงศรี
|
ฯ เชิด โอด ฯ
|
|
๏ ฝ่ายข้างพระรามเห็นกระบี่ | | ภูมีกริ้วโกรธโกรธา
|
เหม่อ้ายพญาหนุมาน | | แต่มึงทำการอาสา
|
ฆ่าอสุรม้วยทั้งลงกา | | บัดนี้พามัดมาหากู
|
ฯ ๖ คำ ฯ
|
|
๏ หนุมานครวญครางร้องไห้ | | ไม่ทูลได้ซบเศียรอยู่
|
พระรามเห็นอักษรอ่านดู | | ก็รู้ว่าต้องมนตรา
|
จึงเอาพระหัตถ์ลูบหลุด | | พระทรงภุชขัดแค้นหนักหนา
|
๏ หนุมานก้มกราบทูลลา | | ถ้ามิได้ข้าศึกไม่กลับคืน
|
ว่าพลางเหาะขึ้นเวหา | | ขัดแค้นโศกาสะอื้น
|
ฯ เชิด ฯ
|
|
๏ ก็เหาะลงมาแผ่นพื้น | | ฝ่าฝืนเข้านำท้พไป
|
ฯ ๖ คำ ฯ
|
|
๏ พระพรตร้องถามหนุมาน | | พระอวตารยังว่าเป็นไฉน
|
หนุมานว่าโกรธฟูนไฟ | | อย่าพิไรมาไปต่อตี
|
ทูลพลางทางออกนำท้พ | | กลับกลายแปลงองค์กระบี่ศรี
|
สี่กรสี่พักตร์รูจี | | ก็นำไปที่กุมารพลัน
|
ฯ กราว ตระ ๔ คำ ฯ
|
|
๏ มาจะกล่าวบทไป | | หน่อไทนารายณ์ไอศวรรย์
|
เห็นชี้บอกแก่น้องพลัน | | นั่นแนอริราชยกมา
|
ว่าพลางทางลงขึ้นศิลป์ | | แผ่นพื้นด้าวดิ้นดั่งฟ้าผ่า
|
ขวางออกบอกความเจรจา | | ดูกรท่านมาไย
|
ทำไมอุกมาถึงนี่ | | องอาจอวดดีหรือไฉน
|
เราเป็นเจ้าป่าพนาลัย | | เราไสร้ไม่ให้จรลี
|
ฯ ๖ คำ ฯ
|
|
๏ ฝ่ายอาว์ขับรถเข้าบัญชา | | เรามาหาผู้จับม้าขี่
|
เหตุเจ้าร่วมอาสน์โมลี | | กับตีมัดผูกหนุมาน
|
พระอวตารให้เชิญเจ้าเข้าไป | | แม้นขัดแข็งให้เราสังหาร
|
มาเข้าไปเฝ้าพระอวตาร | | หาไม่จะสังหารบัดนี้
|
ฯ ๔ คำ ฯ
|
|
๏ ฝ่ายสองพี่น้องตอบว่า | | อย่าจองหองฆ่าเราสองศรี
|
ทำไมมิให้จับม้าขี่ | | ม้านี้ของใครว่ามา
|
มาดแม้นถ้าม้าของเธอ | | เออปล่อยมาไยในป่า
|
เราได้ขี่เล่นไปมา | | ชอบว่าขอเราจะให้ไป
|
มากลับว่าเราองอาจ | | ราชฐานโรงโกงอยู่ไหน
|
ทําไมมิให้มัดลิงไป | | ใครใช้มันมาราวี
|
ฝ่ายเราเห็นแก่อวตาร | | จึงไม่ประหารกระบี่ศรี
|
มัดไปให้แจ้งคดี | | ชอบแต่จะขอบไมตรีกัน
|
นี่ถ้อยไม่ถามความไม่ว่า | | เจรจาแต่ล้วนจะหํ้าหั่น
|
เออสังหารมามาเล่นกัน | | กระชั้นรุกว่าอย่าดูเบา
|
ชิตาพหลสกลไกร | | จะทำไมใครหรือเจ้า
|
อวดหาญแกล้งมาพาลเรา | | เอาเถิดจะต่อฤทธา
|
ฯ ๑๒ คำ ฯ
|
|
๏ ฝ่ายพระอาว์ตอบวาที | | สองศรีอย่าก้องแก้งว่า
|
เจ้าย้งเด็กเล็กสุนทรา | | เราเมตตาดอกกุมาร
|
มาดแม้นไม่ลุกะโทษไท | | ที่ไหนจะพ้นสังหาร
|
แน่เจ้าอันศรอวตาร | | ผลาญสิบสี่โลกก็บรรลัย
|
เทพามนุษย์รู้สิ้น | | เมืองแมนแดนดินหวาดไหว
|
ทำไมขี่ม้าของไท | | ไม่แจ้งในสารหรือว่ามา
|
ฯ ๖ คำ ฯ
|
|
๏ ฝ่ายพี่น้องตอบพจมาน | | ราชสารอะไรในป่า
|
เมื่อมีแต่ลิงวิ่งตามมา | | อุกอาจเข้าป่าเราไย
|
ชิชะว่าเราก้องแก้งเด็ก | | ถึงเล็กก็หากลัวผู้ใหญ่ไม่
|
ท่านอย่าอวดองทะนงไป | | เราไม่ครั่นคร้ามวาจา
|
ตัวเราผู้ตั้งอยู่ในธรรม์ | | หาพรั่นพรึงไม่อย่าว่า
|
อุ่ยหนาข้ากลัววิทยา | | โกรธาดันดึงพาที
|
ฯ กราวรำ ๖ คำ ฯ
|
|
๏ ฝ่ายพระพรตโกรธกริ้ว | | หลิ่วแลเล็งยิงสองศรี
|
ศรเป็นข่ายแก้วราวี | | ให้ไปพิฆาฎกุมารา
|
ฯ เชิด ๒ คำ ฯ
|
|
๏ ฝ่ายพระสัตรุตก็ผลานแผลง | | เป็นเพลิงเริงแรงเวหา
|
เปลวปลาบวาบถึงพระสุธา | | รารอรอบองค์พระกุมาร
|
ฯ เชิด ๒ คำ ฯ
|
|
๏ พระมงกุฎกวางศรไป | | เป็นพระขรรค์เพ็ชรไล่สังหาร
|
ฟาดฟันข่ายแก้วอสุรกาฬ | | บันดาลแพ้ฤทธิหายพลัน
|
ฯ เชิด คำ ๒ ฯ
|
|
๏ พระลบก็ผลานแผลงซํ้า | | เป็นนํ้าล้างไฟที่กางกั้น
|
พระพี่น้องเยาะเย้ยไปพลัน | | หุนหันเข้าต่อฤทธา
|
ฯ เชิด ฯ
|
|
๏ ยิงถูกพระสัตรุดพระพรต | | ตลอดหมดทั้งพลอาษา
|
ระเนนล้มวินาศดาษดา | | อนุชาแผลงซํ้าตระหนํ่าไป
|
ฯ เชิด โอด ๔ คำ ฯ
|
|
๏ หนุมานครั้นต้องพระพายฟื้น | | ฝ่าฝืนเข้าหากลัวไม่
|
ฯ เชิด ฯ
|
|
๏ พระมงกุฎตีด้วยธนูชัย | | ลิงไพรสลบซบซอน
|
จึงบอกเจ้าลบเอ๋ยดูลิง | | มันกลิ้งอยู่แล้วด้วยคันศร
|
|
๏ พระลบซํ้าโบยราญรอน | | อ้ายวานรตายแล้วพี่ยา
|
ฯ กราวรำ ๔ คำ ฯ
|
|
๏ ฝ่ายพระพรตฟั่นฟื้น | | ขืนอารมณ์เสี่ยงคาถา
|
เดชะพระเดชเดชา | | พี่ยานารายณ์ช่วยพลัน
|
บัดนี้ต้วข้าต้องศร | | อย่าให้ม้วยมรณ์อาสัญ
|
อธิษฐานพลางทานํ้ามัน | | พลันเนื้อติดหายเป็นดี
|
ฯ ตระ ๔ คำ ฯ
|
|
๏ แล้วคิดดูฤทธิกุมาร | | คล้ายองค์อวตารเรืองศรี
|
เนื้อนะแน่งนวลนิลรูจี | | ศรีทรงเหมือนองค์ภูวนัย
|
หรือว่าลูกนางสีดา | | เชษฐาให้ฆ่าหาม้วยไม่
|
ก็ผิดที่เจ้าล้กษมณ์ว่าบรรลัย | | ครั้นจะท้กไปอายวิญญาณ์
|
คิดแล้วจึงตั้งอธิษฐาน | | แม้นกุมารเป็นวงศ์พงศา
|
นํ้าเนื้อเชื้อชาติพี่ยา | | ให้พลเป็นมาบัดนื้
|
ตั้งสัตย์ตร้สพลางสำรวมมนต์ | | รี้พลเป็นขึ้นอึงมี่
|
ทั้งพระสัตรุดเป็นดี | | ภูมีเร่งอัศจรรย์ใจ
|
จำเป็นจำกูจะแผลงผลาน | | ตามคำอวตารผูใช้
|
คิดพลางวางวิรุนปานำไป | | ศรชัยเป็นนาคนาคี
|
ฯ กลม ๑๐ คำ ฯ
|
|
๏ ฝ่ายพระสัตรุดก็แผลงผลาน | | เป็นเพลิงกาลไปเจียวจี่
|
รอบหน้าในศรวาสุกรี | | ศรไม่ยายีสองรา
|
ฯ ตะบองกัน ๒ คำ ฯ
|
|
๏ ฝ่ายพระมงกุฎก็แผลงผลาน | | บันดาลเป็นพระยาปักษา
|
ฯ แพละ ฯ
|
|
๏ พระลบแผลงเป็นท่อธารา | | ดับวิทยาซึ่งเป็นไฟ
|
ฯ ปรายเข้าตอก ๒ คำ ฯ
|
|
๏ ฝ่ายศรซึ่งไปเป็นครุฑ | | ฉวยฉุดนาคหนีตามไล่
|
แล้วแผลงศรชํ้ากระหนํ่าไป | | รุกไล่เขาต่อฤทธา
|
ฯ เชิด ๒ คำ ฯ
|
|
๏ หนุมานครั้นต้องพระพายเป็น | | เต้นแอบแนบบังพฤกษา
|
คอยมองจับสองกุมารา | | สอดนัยนาดูท่วงที
|
ฯ แพละน้อย ๒ คำ ฯ
|
|
๏ ฝ่ายอาว์ขึ้นศรพรหมาศ | | พาดสายเสี่ยงทูนเหนือเกศี
|
มาดแม้นเป็นวงศ์พงศ์พีร์ | | ศรศรีอย่ากินกุมารา
|
แต่พอสลบจ้บได้ | | จะเอาไปถวายเชษฐา
|
เสี่ยงพลางทางตั้งสัจจา | | ว่าแล้วก็ผลานแผลงพลัน
|
ฯ เชิด ๔ คำ ฯ
|
|
๏ พระมงกุฎรับข้อพระกรอ่อน | | พระนลาตกระทบศรรังสรร
|
ฯ เชิด ฯ
|
|
๏ ล้มกลิ้งลิงเข้าจับพลัน | | คาดคั้นเอาสองกุมารา
|
ฯ เชิด โอด ๒ คำ ฯ
|
|
๏ ฝ่ายเจ้าลบลอดหนีได้ | | ด้นดั้นเข้าไพรพฤกษา
|
ฯ กลม ฯ
|
|
๏ หนุมานมัดเอามงกุฎมา | | พาเข้าถวายฉับพลัน
|
ฯ ๒ คำ เตียว ฯ
|
|
๏ พระพรตเห็นร้องสั่งไป | | ขันขึงมันให้แน่นมั่น
|
ฯ เจรจา ฯ
|
|
(ทรงแทรก)
|
๏ หนุมานจำใส่ตะโหงกพลัน | | มอบกันร้กษากุมารา
|
๏ พระพรตจึงสั่งหนุมาน | | เร่งจัดทหารค้นป่า
|
น้องม้นวิ่งเข้าพนาวา | | รีบร้นค้นหาบัดนี้
|
ฯ เจรจา ฯ
|
|
๏ หนุมานรับสั่งสั่งพลัน | | ให้พลขันธ์ค้นพนาศรี
|
ฯ เชิด ฯ
|
|
๏ พลขันธ์เข้าค้นพนาลี | | มิพบก็เข้าบงคมคัล
|
ฯ เชิด ฯ
|
|
๏ ข้าค้นหาอ้ายกุมารหนี | | ทุกซอกพนาลีเขตต์ขัณฑ์
|
จบทั่วไม่พบตัวมัน | | อัศจรรย์หนกหนาภูมี
|
ฯ เจรจา ฯ
|
|
๏ พระพรตก็สั่งทันใด | | จวนอโณทัยคล้อยรังสี
|
ก็เลิกพหลมนตรี | | กลับรี้พลคืนพารา
|
ฯ กราว ฯ
|
|
๏ ฝ่ายข้างเจ้าลบเห็นทัพกลับ | | ลับเนตรแล้วออกค้นหา
|
ล่าลอดสอดดูพี่ยา | | พบแต่ธนูศิลป์ชัย
|
โออนิจจาพระพี่เอ๋ย | | กรรมสิ่งใดเลยมาซัดให้
|
มาดแม้นถ้าม้วยบรรลัย | | น้องไม่ขออยู่จะตายตาม
|
เป็นสัตย์สุจริตพระพี่ | | น้องมิได้คิดเข็ดขาม
|
ครั้นน้องจะเข้าไปตาม | | ความนี้ไม่แจ้งชนนี
|
น้องขอไปแจ้งอาจารย์ | | แล้วจะลามารดาไปตามพี่
|
โอ้ว่าเทวัญจันทรี | | ปรานีอย่าให้มรณา
|
คิดพลางทางหยิบเอาศิลป์ศร | | บทจรคนึงถึงเชษฐา
|
ก็แจ้งใสในราชปัญญา | | อ่อเทวาบังให้กู
|
ดีร้ายพระพี่ไม่ม้วย | | เมื่อเข้าไปช่วยจะได้สู้
|
คิดพลางยกศิลป์ใส่เศียรชู | | ก็วางวู่กรรแสงวิ่งมา
|
ฯ เชิด โอด ฯ
|
(ทรงแทรก สุดดรงนี้)
|
|
๏ ครั้นถึงจึงร้องแถลงสาร | | บันดาลโอดโอยโหยหา
|
สะอึกสะอื้นเจรจา | | เขาเข่นฆ่าจับพระพี่ไป
|
ครั้นข้าจะเข้าไปตาม | | หาใครมาบอกความไม่
|
ขอลามารดาอาจารย์ไป | | ติดตามภูวนัยพี่ยา
|
ฯ ๑๖ คำ ฯ
|
|
| | |
|
พระลบแจ้งข่าวนางสีดา พระมงกุฎถูกจองจำ
|
โอ้
|
๏ สีดาฟังลูกลบทูล | | อาดูรเทวศเสน่หา
|
โอ้ว่ามงกุฎเจ้าแม่อา | | อนิจจามาจากแม่ไป
|
มาดแม้นถ้าฟังคำแม่ | | เที่ยงแท้หามอดม้วยไม่
|
ป่านนี้จะเป็นประการใด | | หรือบรรล้ยแล้วลูกยา
|
แม่ไม่เห็นเลยว่าบุญน้อย | | ร้อยชั่งมาด้บสังขาร์
|
มาดแม้นถ้าม้วยมรณา | | แม่จะกลั้นชีวาตายตามไป
|
พระลบลูกน้อยของแม่เอ๋ย | | ทรามเชยเจ้าจงแถลงไข
|
เดิมเหตุเภทผลกลใด | | อย่างไรเขาจับพี่ยา
|
ฯ ๘ คำ ฯ
|
|
ร่าย
|
๏ พระลบกราบทูลมารดร | | เดิมบทจรเล่นป่า
|
มีสัตว์ต้วหนึ่งเจษฎา | | หนังสือแขวนมาว่าพาชี
|
ฝ่ายข้าพี่น้องขี่เที่ยว | | บัดเดี๋ยวเผือกผู้กระบี่ศรี
|
ม้นจู่โจนจับพระพี่ตี | | กระบี่ต้องคันศรสลบพลัน
|
จึงช่วยกันมัดลิงปล่อย | | ลิงน้อยวิ่งเข้าพนาสัณฑ์
|
ก็เที่ยวเล่นป่าพนาวัน | | จึงพบพลข้นธ์ยกมา
|
นายกองร้องบอกพระพี่ | | ว่ามีรับสั่งให้หา
|
พระพี่กริ้วโกรธโกรธา | | มันอหังการ์แล้วก็ชิงชัย
|
ต่างต่างยิงก้นไปมา | | มันร้องว่าอวตารใช่
|
ข้าก้บพระพี่วางศรไป | | บรรลัยหมดแล้วพระมารดา
|
อยู่สักประเดี๋ยวเป็นคืน | | ฝืนเข้าต่อรบฝ่ายข้า
|
มันแผลงศรหนึ่งมหึมา | | กระทบหน้าผากพี่สลบไป
|
ฝ่ายข้าก็ยิงศรสู้ | | อ้ายวานรจู่จ้บพี่ได้
|
ฝ่ายม้นรวบข้าเข้าไว้ | | ข้าปลิ้นออกได้หนีมา
|
ครั้นทัพกลับแล้วข้าไปตู | | เห็นธนูศรไชยเชษฐา
|
อัศจรรย์อยู่แล้วพระมารดา | | กิริยาเทวาปรานี
|
มาดแม้นถ้าตามเห็นได้ | | เหมือนหนึ่งจะให้ชิงชัยศรี
|
พระแม่พระตาจงปรานี | | จับธนูศรศรีอำลา
|
ฯ ๑๘ คำ ฯ
|
|
โอ้
|
๏ สีดาคร่าฉุดยุดไว้ | | ยังจะไปอีกหรือให้ว่า
|
เมื่อไม่ฟังเลยนี่ลูกยา | | พระฤษีขาจะดึงไป
|
อันลิงผ่องเผือกผู้ขาว | | คือทหารห้าวแห่งผู้ใหญ่
|
ชื่อหนุมานชาญชัย | | สองไทคือองค์อนุชา
|
ชะรอยรู้ว่าไม่ตาย | | จึ่งจองร้ายทำลูกข้า
|
โอ้ว่ามงกุฎเจ้าแม่อา | | อนิจจามาจากแม่ไป
|
พระลบลูกน้อยของแม่เอ๋ย | | ทรามเชยฟังแม่แถลงไข
|
พี่เจ้าก็ม้วยบรรลัย | | แม่ได้เห็นหน้าแต่ลูกยา
|
เป็นกรรมสิ่งไรมาจองผลาญ | | พระอาจารย์ขาเขาจึงเข่นฆ่า
|
เมื่อเท่านี้หรึอมิเมตตา | | อ้ายใจมหาย้กษ์จังไร
|
ถึงมาดดุก็เป็นเด็ก | | ไม่ควรที่ทำลูกเล็กได้
|
แสนโศกวิโยคอาลัย | | สะอึกสะอื้นไห้ไปมา
|
ฯ โอด ๑๒ คำ ฯ
|
|
ยานี
|
๏ ฤษีก็เข้าฌานดู | | รู้ว่ากุมารไม่สังขาร์
|
จึงบอกนวลนางสีดา | | เจ้าอย่าได้ร้อนรนใจ
|
จึงให้อ้ายลบเอาแหวนก้อย | | ลูกน้อยของมึงไปแก้ไข
|
ญาณี
|
๏ สีดาก็รูดส่งไป | | ตามแต่ท่านไทพระมุนี
|
ฯ ๔ คำ ฯ
|
|
ยานี
|
๏ ฤษีจึงสั่งพระลบหลาน | | แม้นนางคราญหนึ่งส่งศรี
|
นะแน่งนิ่มนวลรูจี | | มิได้กะพริบนัยนา
|
ถ้าเห็นนางมาตักนํ้า | | มึงทำอ้อนวอนจงหนักหนา
|
ว่าจะช่วยตักให้เอาบุญญา | | นางจะพาไปรดกุมาร
|
จึงเอาแหวนใส่ในขะนน | | เศกมนต์แล้วเจ้าอธิษฐาน
|
นางนั้นแลเทพบันดาล | | ชลธารถึงแล้วจะรอดมา
|
ฝ่ายเจ้าอย่าได้ประมาท | | อ่านวิทยาศาสตร์คาถา
|
เข้าแอบอยู่แทบทวารา | | ไปกว่าจะพบนวลนาง
|
แต่ว่าอย่าเพ่อคลาไคล | | พระเคราะห์ยังให้ขัดขวาง
|
สีดาจงเสี่ยงสัตย์นาง | | พลางเข้ามณฑลกุมารา
|
ฯ ตระ ๑๐ คำ ฯ
|
|
ยานี
|
๏ มาจะกล่าวบทไป | | ถึงไทไตรตรึงษ์ดึงสา
|
ปรานีฤษีสีดา | | เมตตาลงช่วยกุมาร
|
ซึ่งต้องรัดรึงขึงไป | | ก็ไม่เจ็บปวดเกษมสานต์
|
ด้วยกรรมทำหน่ออวตาร | | จึงบันดาลดลอาว์ไป
|
ที่พระอาว์ว่าจะแจ้งกิจ | | กรรมปิดหาทูลได้ไม่
|
ก็จะให้ว้าวุ่นขุ่นเคลิ้มใจ | | ครั้นช่วยแล้วไปวิมานพลัน
|
ฯ เชิดปฐม ๖ คำ
|
|
ร่าย
|
๏ ฝ่ายอาว์ครั้นถึงซึ่งกรุงไกร | | ขึ้นไปเฝ้าไทไอศวรรย์
|
๏ พระรามเห็นเรียกน้องพลัน | | ได้มันหรือไม่ไพรี
|
ฯ เจรจาในเพลง ๒ คำ เสมอ ฯ
|
|
๏ พระสัตรุดพระพรตทูลไป | | จับได้มันมาแต่พี่
|
อ้ายน้องวิ่งเข้าพนาลี | | หนีรอดไม่ได้ตัวมา
|
ทูลพลางสะท้อนฤทัย | | ข้ดแค้นใจหนักเชษฐา
|
แต่ข้ารองเบื้องบาทา | | ไม่ต้องอาวุธผู้ใด
|
ครั้งนี้มันยิงตลอดปรุ | | ถูกทะลุรี้พลม้วยไหม้
|
หากอธิษฐานเอาบุญไท | | จึงได้มารองบาทา
|
ฯ ๖ คำ ฯ
|
|
ช้า
|
๏ เมึ่อนั้น | | พระรามสุริวงศ์รุ่งฟัา
|
จึงตรัสแก่สองอนุชา | | ทั้งพญาหนุมานชาญชํย
|
อันอ้ายกุมารมีฤทธิ์นัก | | จึงอาณาจักรลั่นหวั่นไหว
|
หากเจ้ากับหนุมานไป | | หาไม่ไม่ได้ตัวมา
|
นี่แน่เจ้าให้เขาจองจำ | | ทำโทษแก่มันให้หนักหนา
|
เอาขึ้นขาหย่างกลางภารา | | ทะเวนให้ครบเจ็ดวัน
|
แล้วจึ่งบั่นเศียรเสียบไว้ | | ให้เลื่องลือไปเขตต์ข้ณฑ์
|
อย่าให้มันดูเยี่ยงกัน | | ไว้มันจะเป็นราคี
|
ฯ ๘ คำ ฯ
|
|
ร่าย
|
๏ พระลักษมณ์ก็รับสั่งลา | | ให้หาตำรวจอึงมี่
|
ฯ เจรจา ฯ
|
|
๏ ตำรวจเข้าทูลทันที บัดนี้นครบาลมา
|
ฯ เจรจา ๒ คำ ฯ
|
|
๏ ฝ่ายองครักษ์จ้กรนารายณ์ | | วุ่นวายแก่กันหนักหนา
|
ประนังทำจำจองกุมารา | | โซ่ตรวนขื่อคาครบครัน
|
ทั้งม้ดทั้งผูกรังรึง | | ขันขึงเข้าไว้แน่นมั่น
|
พนมแอกแตกขื่อโยงมือพลัน | | กระสันใส่พืดตรึงตรา
|
ครั้นเสร็จเอาขึ้นขาหย่าง | | ย่างแดดลมไว้เวหา
|
ฯ เจรจา ฯ
|
|
๏ แทบตะแลงแกงกลางภารา | | ทะเวนไปตามสั่งพล้น
|
ฯ เจรจา ๖ คำ ฯ
|
|
ยานี
|
๏ มาจะกล่าวบทไป | | ชาวในนิเวศเขตต์ข้ณฑ์
|
อีกทั้งไพร่ฟ้าข้าขอบคัน | | ชวนกันไปดูกุมาร
|
เห็นต้องระนังรังรึง | | คะนึงพะวงสงสาร
|
รูปทรงเหมือนองค์อวตาร | | ครั้นจะบันดาลทักก็กลัวภัย
|
แต่สะกิดกระซิบบอกเพื่อน | | ความเหมือนตละหนึ่งเถือไส้
|
เออนี่ลูกเต้าของใคร | | ไฉนจึงมาอหังการ์
|
เมื่อเจ้าเด็กเล็กเท่านี้ | | หรือมีฤทธีแกล้วกล้า
|
โอ้ว่าแต่เครื่องพันธนา | | หนักหนานักน่าไม่ข้ามคืน
|
เจ้าเหวยข้าขอให้ทาน | | นักโทษกุมารแต่พอชื่น
|
กินนี่หรือพ่อแต่พอฟื้น | | ขืนให้เสวยโภชนา
|
ลางบ้างก็ให้นํ้าอ้อย | | กินเถิดอร่อยหนักหนา
|
พอหายระหวยวิญญาณ์ | | ทาไส้ให้มีแรงไป
|
ฯ ๑๒ คำ ฯ
|
|
ร่าย
|
๏ พระมงกุฎขอบใจให้ทานต่อ | | ข้าขอทานเขาเราให้
|
๏ ผู้คุมรับปันกันไป | | ทะเวนคลาไคลมิช้า
|
ฯ เดียว ๒ คำ ฯ
|
|
โอ้ร่าย
|
๏ พระมงกุฎคะนึงถึงเหตุ | | ทูนเทวศเสร้าสร้อยละห้อยหา
|
โอ้ว่าอาจารย์มารดา | | ไม่รู้ว่าเป็นประการใด
|
มาดแม้นถ้าน้องไม่ม้วย | | จะได้ไปช่วยแถลงไข
|
ก็ไม่แจ้งเหตุเภทภัย | | ทำไฉนจะรู้คดี
|
คิดแล้วจึ่งกลั้นความโศกถาม | | ออกนามเมื่อชิงชัยศรี
|
๏ ผู้คุมก็บอกทันที | | หนีรอดไม่ได้ตัวมา
|
ฯ ๖ คำ ฯ
|
|
ครวญ
|
๏ มงกุฎครวญครํ่ารํ่าไร | | หม่นไหม้ดุจดังจะเป็นบ้า
|
มาดแม้นถ้าน้องถึงมารดา | | หน้าที่จะทรงโศกี
|
อีกทั้งพระมุนีเจ้า | | จะโศกสร้อยเสร้าหมองศรี
|
ที่ไหนจะได้สมฤดี | | เหมือนแกล้งชนนีอาจารย์
|
โอ้ว่าถ้าฟังคำแม่ | | เที่ยงแท้ไม่จากถิ่นฐาน
|
โพยภัยไม่มีมาพาน | | จะสำราญทั้งอาตมา
|
เสียแรงกูเอากำเนิด | | ให้ซ้ำเกิดโทษไปภายหน้า
|
แสนโศกวิโยคโศกา | | ตรึกตราตั้งสัจจวาที
|
แล้วเสี่ยงเอาคุณมารดา | | ทั้งคุณเทวาฤษี
|
อธิษฐานพลางจรลี | | จนสิ้นแสงศรีสุริยา
|
ฯ ๑๐ คำ ฯ
|
|
๏ ผู้คุมครั้นไปทะเวนเสร็จ | | พาเสด็จย่างไว้เวหา
|
รักษาตรวจจัดอัตรา | | ครบห้าหกวันราตรี
|
ฯ เจรจา ๒ คำ ฯ
|
|
| | |
|
พระลบช่วยพระมงกุฎหนี พระรามเตรียมยกทัพไปจับพระมงกุฎ
|
ยานี
|
๏ มาจะกล่าวบทไป | | ถึงไทท่านท้าวโกสีย์
|
ใช้รัมภาเทวะจรลี | | นารีไปช่วยกุมาร
|
บัดนี้ฤษีจะให้หลาน | | แอบทวารไพชยนต์พิศาล
|
เขาจะอ้อนวอนตักชลธาร | | เยาวมาลย์เจ้าให้กระออมพลัน
|
ถ้าเขาเอานํ้ามาส่ง | | จงพาเข้าในเขตตขัณฑ์
|
เจ้ารดกุมารฉับพลัน | | พันธนาหลุดแล้วบังมา
|
ให้พ้นจากที่จองจำ | | นำออกยังไพรพฤกษา
|
๏ รัมภาก็รับสั่งลา | | มาดูท่าทางทันที
|
ฯ เพลงพิราบป่า ๘ คำ ฯ
|
|
ร่าย
|
๏ มาจะกล่าวบทไป | | ถึงไทชะมฤคฤษี
|
สั่งแก่หลานลบทันที | | จงเอาศรศรีพี่มึงไป
|
กับทั้งธนูของมึง | | จึงจะได้ช่วยกันแก้ไข
|
เอ็งทำตามสั่งแต่ไร | | เจ้าไปเถิดเร่งจรลี
|
ฯ ๔ คำ ฯ
|
|
๏ พระลบก้มกราบอำลา | | ทั้งพระมารดาฤษี
|
เคารพอภิว้นท์ยินดี | | พาแหวนศรศรีบทมาลย์
|
ฯ ปลูกต้นไม้ ฯ
|
|
๏ ถึงจึ่งแอบองค์ตามสั่ง | | บังทวารไพชยนต์พิศาล
|
แลลอดสอดคอยนงคราญ | | ตามคำอาจารย์บัญชา
|
ฯ พันพิลาป ๔ คำ ฯ
|
|
๏ ฝ่ายรัมภานางซึ่งลงช่วย | | ขวยเขินแกล้งทำเป็นทาษา
|
กระเดียดกระออมลีลา | | ออกมาแทบปากทวารชัย
|
ฯ เพลงแขก ๒ คำ ฯ
|
|
๏ ฝ่ายข้างพระลบเห็นนาง | | เยื้องย่างออกกล่าวแถลงไข
|
พี่ขาตักนํ้าทำไม | | ข้าตักให้หรือนที
|
ฯ เจรจา ๒ คำ ฯ
|
|
๏ นางว่าจะไปให้ทาน | | กุมารโทษชิงชัยศรี
|
วันนี้แล้วเขาจะฆ่าตี | | ปรานีใคร่สรงคงคา
|
ฯ เจรจา ๒ คำ ฯ
|
|
๏ พระลบขอตักชลธาร | | เหมือนท่านให้ทานบุญข้า
|
นางส่งกระออมมิช้า | | ตักมาเถิดเจ้าอย่านาน
|
ฯ ๒ คำ ฯ
|
|
๏ พระลบจึงลงตักนํ้า | | กระทำเศกเป่าอธิษฐาน
|
ฯ ตระ ฯ
|
|
๏ เอาแหวนใส่ในชลธาร | | เสร็จการขึ้นจากวารี
|
ฯ เดียว ฯ
|
|
๏ ครั้นถึงจึงส่งกระออมให้ | | เข้าแอบทวารชัยศรี
|
ฯ กลม ฯ
|
|
๏ รัมภาก็พาจรลี | | ไปที่กุมารมิช้า
|
ฯ เพลง ๔ คำ ฯ
|
|
๏ ฝ่ายข้างผู้คุมถามไถ่ | | ตักน้ำทำไมทาษา
|
๏ นวลนางชะม้อยเจรจา | | ข้าปรารถนาเอาบุญ
|
เพื่อจะให้ทานน้ำเป็นทาน | | กุมารโทษที่จะดับสูญ
|
เอ็นดูเถิดเจ้าเอาบุญ | | ทำคุณขอให้นที
|
ฯ เจรจา ๔ คำ ฯ
|
|
๏ ฝ่ายข้างผู้คุมพานเกี้ยว | | มานี่ประเดี๋ยวก่อนสาวศรี
|
ไปไหนไม่ให้จรลี | | กรุณาพี่จึงจะให้คลา
|
ฯ ๒ คำ เจรจา ฯ
|
|
๏ ฝ่ายรัมภาตอบเป็นพาล | | ให้ทานแล้วจึงจะมาหา
|
ฯ เจรจา ฯ
|
|
๏ ผู้คุมก็ให้ไคลคลา | | อย่าช้านักเร่งออกไป
|
ฯ สะระบุหรง ๒ คำ ฯ
|
|
๏ รัมภาพานํ้าเข้าไปสรง | | ธำมรงค์บังเอิญสรวมใส่
|
พันธนาหลุดแล้วเอาใจ | | มาไปเถิดพ่ออย่าโศกา
|
บัดนี้อาจารย์มารดร | | ร่านร้อนรัญจวนป่วนหา
|
ให้น้องน้อยลบตามมา | | ว่าพลางทางพาจรลี
|
ฯ ตะบองกัน พิลาป ฯ
|
|
ร่าย
|
๏ ฝ่ายพระมงกุฎขอบคุณ | | อาดูรถึงมารดาฤษี
|
ดีใจได้แหวนชนนี | | ติดนิ้วชี้ตามนางไป
|
ฯ เพลง ฯ
|
|
๏ เดชะเดชเทวะธำมรงค์ | | ใครแลหาเห็นองค์ไม่
|
ครั้นถึงซึ่งปากทวารชัย | | นางฟ้าก็ไปวิมานพลัน
|
ฯ เหาะ ๔ คำ ฯ
|
|
๏ ฝ่ายข้างพระลบเห็นพี่ | | โศกีออกรับเกษมสันต์
|
ถวายศิลป์ธนูพลัน | | พากันเข้ายังอรัญวา
|
ฯ เชิด ๒ คำ ฯ
|
|
๏ มาจะกล่าวบทไป | | ฝ่ายผู้พิทักษ์รักษา
|
แลไปไม่เห็นกุมารา | | อัศจรรย์วิ่งหาวุ่นวาย
|
บ้างบอกแก่ก้นไปมา | | พอพริบตาลงเห็นหาย
|
ชะรอยรู้บังเลื่อมกาย | | หายตัวล่องหนสะเดาะไป
|
ลางบ้างตามรอยบทจร | | ออกนอกนครเข้าป่าใหญ่
|
ฯ เชิด ฯ
|
|
๏ รอยเท้าก้าวเป็นสองคนไป | | ครั้นทันจะเข้าใกล้กลัวฤทธี
|
พระมงกุฎเหลือบเห็นร้องเจรจา | | ให้เจ้ามึงมาชิงชัยศรี
|
๏ ผู้ตามขามฤทธิ์วาที | | เกลือกมิอยู่ช้าไม่พ้นภัย
|
ฯ ๘ คำ ฯ
|
|
๏ ฝ่ายพระพี่น้องร้องด่า | | กูหาหนีพ่อแม่มึงไม่
|
ชวนน้องเก็บผลมิ่งไม้ | | กินถ้าอยู่ที่ไพรวัน
|
ฯ ๒ คำ ฯ
|
|
๏ ผู้คุมแบ่งกันมาแจ้งเหตุ | | เข้าในนิเวศเขตตข้ณฑ์
|
ก้มเกล้ากราบเรียนสุมันตัน | | ตามอันคดีมีมา
|
ฯ เจรจา ๒ คำ ฯ
|
|
๏ สุมันตันจึ่งเข้ากราบทูล | | ไอสูรย์บรมนาถา
|
๏ ก็กริ้วโกรธให้เตรียมโยธา | | กูจะกรีฑาทัพต่อตี
|
เหม่มึงออกไปจองจำ | | อ้ายผู้ทำให้กุมารหนี
|
แล้วเร่งรัดกันจงทันที | | กูจะกรีฑาทัพตามไป
|
ฯ ๔ คำ ฯ
|
|
๏ พระอนุชารับสั่งเตรียมท้พ | | สรรพทั้งพยุหน้อยใหญ่
|
ฯ เจรจาฯ
|
|
๏ สุมันตันจองจำกันไป | | ตรากตรำกันไว้ตามบัญชา
|
๏ ครั้นเสร็จมาช่วยเตรียมพล | | ปีกป้องพหลซ้ายขวา
|
ฯ เจรจา ฯ
|
|
๏ สรรพทั้งจตุรงคโยธา | | เสร็จพากันเข้าอัญชลี
|
ฯ เชิด ฯ
|
|
๏ บัดนี้พหลสกลไกร | | สำรับพยุหชัยศรี
|
กะเกนกันแล้วภูมี | | จงแจ้งธุลีท่านไท
|
อันอ้ายนักโทษกุมาร | | เข้ากาลลวาตป่าใหญ่
|
ผู้คุมก็ตามสะกดไป | | ได้ร่องรอยอยู่ภูมี
|
ฯ ๘ คำ ฯ
|
|
โทน
|
๏ เมื่อนั้น พระอวตารผู้ชาญชัยศรี
|
ชวนสามอนุชาสรงวารี | | สี่องค์สำอางอาภรณ์
|
ทรงมงกุฎสังวาลตระการแก้ว | | แล้วสะพกสะพายแล่งแสงศร
|
เขียวเหลืองเรืองรัศอัมพร | | กระจายจรแดงกํ่าดำพราย
|
ดุจดังอโณทัยไตรตรัส | | แจ่มจัดวิเชียรเฉิดฉาย
|
ระย้าระยับทับทรวงลาย | | กระจายจรกรรเจียกเพราตา
|
พาหุรัดรัศมีชายแครง | | ศรีแสงชายไหวซ้ายขวา
|
ดั่งเทวะเลื่อนลอยเมฆา | | ลีลาดลรถจรลี
|
ฯ เพลงกราว ๘ คำ ฯ
|
|
โทน
|
๏ รถเอยราชรถทรง | | ยศยงด้วยนิลรังษี
|
รถแดงแข่งรัศรูจี | | รถเขียวเหลืองศรีเพราพราย
|
สี่รถยศยิ่งเจษฎา | | สุนทราดั่งเทวะเฉิดฉาย
|
ระย้าระย้อยพร้อยพราย | | กระจายไขรัศอัมพร
|
โดยวิเชียรฤทธิ์สิทธิเดช | | ทุกนิเวศสาธุการอยู่สลอน
|
ลอยเลึ่อนละลิ่วอัมพร | | จามรจรบังอโณทัย
|
อภิรุมชุมสายพรายพรัน | | เศวตรัตรฉัตรกั้นไสว
|
พัชนีวีระยาบปลาบไป | | วิไลวิเล่จะบาดตา
|
อีกทั้งฆ้องกลองแตรสังข์ | | ประดังกันไปซ้ายขวา
|
อื้ออึงคนึงโกลา | | กึกก้องท้องฟ้าอลวน
|
พร้อมด้วยเสนาเสนี | | จตุรงคโยธีสับสน
|
ขุนตำรวจตรวจจัดรี้พล | | เร่งพหลนิกรตามไป
|
ฯ เชิด ฯ
|
| | |
|
ตอนที่ ๒ ตอนหนุมานเกี้ยววานริน จนท้าวมาลีวราชมา
หนุมานเกี้ยววานริน
ความตอนเริ่มต้นขาดไปบ้าง กลอนแรกเป็นคำของนางวานริน
|
๏ ฝ่ายข้าก็เห็นสุดที | | ชิเจ้าคนดีมุสา
|
อย่าโป้ปดคดคิดเจรจา | | ไม่สบายวิญญาณ์อย่ายายี
|
ซึ่งข้าจะคืนยังสถาน | | ต่อพระอวตารรังสี
|
เธอปราบอรินไพรี | | ใช้ขุนกระบี่หนุมานมา
|
ติดตามอสุระผู้หนี | | ข้านี้ได้ร่วมเสน่หา
|
หนึ่งข้าได้แจ้งกิจจา | | ข้าจึ่งจะพ้นสาปไป
|
เจ้าอย่าล่อเลี้ยวลวงกัน | | ข้าคนสำคัญไม่ได้
|
ฝ่ายข้าเจ่าจุกทุกข์ใจ | | เซ้าซี้อยู่ไยไม่เข้ายา
|
ฯ ๑๔ คำ ฯ
|
|
ร่าย
|
๏ เจ้าเอยเจ้าพี่ | | มารศรีเสาวภาคย์อย่ากังขา
|
พี่คือทหารพระรามา | | พนิดาอย่าแหนงแคลงใจ
|
ทรงนามชื่อหนุมาน | | เป็นทหารห้าวแหงผู้ใหญ่
|
ฝ่ายอสุรยกออกไป | | ชิงชัยต่อด้วยพระราชา
|
พระองค์ทรงยิงศรผลาญ | | สังหารมารหมู่ยักษา
|
ถูกวิรุญจำบังอสุรา | | ยักษาหลบหลีกหนีไป
|
จึ่งให้พี่มาติตตาม | | นางงามเจ้ารู้บ้างหรึอไม่
|
มันไปแห่งหนตำบลใด | | บอกให้หน่อยเถิดนารี
|
อันซึ่งธุระของเจ้า | | ขวัญเข้าไว้เป็นธุระพี่
|
จะให้ได้ดั่งใจเทวี | | ก็เซ้าซี้ไปตามกิจจา
|
ฯ รอบก้อย ๑๐ คำ เจรจา ฯ
|
|
๏ เมึ่อนั้น | | วานรินนารีศรีฟ้า
|
ได้ฟังถ้อยคำเจรจา | | นางฟ้าประชดประชันไป
|
ชิตาทหารพระราเมศ | | ทรงเดโชชัยเป็นใหญ่
|
อ้อนแอ้นเอวกลมวิไล | | ช่างจะไปตามมารอสุรา
|
แม้นย้กษ์จะเด็ดทีเดียว | | คาเขี้ยวก็ไม่ได้อย่ามุสา
|
นี่เจ้าได้ยินใครเจรจา | | จึงว่าเป็นองค์หนุมาน
|
ข้าใคร่กล่าวแกล้งห้ามไว้ | | มิให้เจ้าไปสังหาร
|
ชิชะเจ้าตัวหุนมาน | | ยังเห็นท่านเป็นประการใด
|
ยังมีเขี้ยวแก้วกุณฑล | | ขนเพชรมาลัยอยู่ไหน
|
เจ้ามีดาวเดือนอโณทัย | | อยู่ในโอษฐ์หรือช่างเจรจา
|
ไฉนไม่เป็นวานร | | นี่คนซอกซอนอยู่ในป่า
|
ลวงเราไม่ได้ดั่งจินดา | | แกล้งว่าจะไปตามไพรี
|
อันวิรุญจำบังมาร | | ต้องศรอวตารเรืองศรี
|
ตัวเจ้าจะไปต่อตี | | ที่ทางเราได้สาคัญ
|
ว่าพลางทางเย้ยไปมา | | ชิเจ้าฤทธาแข็งขัน
|
ยังได้สลักสำคัญ | | บั่นแบ่งให้แจ้งบัดนี้
|
ฯ ๑๖ คำ ฯ
|
|
ยิกิ่น
|
๏ บัดนั้น | | จึงพญาหนุมานกระบี่ศรี
|
ชื่นชมโสมนัสเทวี | | มีสุนทรยกย่องบัญชา
|
ดูกรนางนิ่มน้อย | | ถ้อยคำเลิศลบเลขา
|
พี่ขอบใจเจ้าเยาวสุดา | | ไม่หลงรูปรสวาที
|
สมควรนวลเจ้าเป็นบาทบงสุ์ | | องค์อิศวรราชรังสี
|
สู้ตายไม่ให้ประเวณี | | ต่อทื่คู่ควรจึ่งปรองดอง
|
เจ้านี้ยศยิ่งยอดกัญญา | | สาวสวรรค์ชั้นฟ้าไม่มีสอง
|
อยาแคลงพี่จะให้แจ้งน้อง | | ขอต้องนิดหนึ่งนารี
|
นี่แน่เมื่อพบอสุรา | | ยังกรุณาบ้างหรือสาวศรี
|
หรือว่าเจ้ากลัวมันราวี | | จูบทีพี่จะแผลงฤทธา
|
ก็ผาดเผ่นโผนกลายกลับ | | โตค้บคิรีถ้ำพระคูหา
|
เผือกผ่องพึงพิศเจษฎา | | อ้าโอษฐ์มีเดือนดาวตะวัน
|
ทรงกุณฑลขนเพชรมาลัย | | เขี้ยวแก้วอำไพเฉิดฉัน
|
ดุจดั่งไขสีรวีวรรณ | | ก็จรจรัลโลมถามเทวี
|
ฯ คุกพาทย์ ๑๔ คำ ฯ
|
|
ยิกิ่น
|
๏ ยอดเอยยอดมิ่ง | | ยังจริงหรือไม่มารศรี
|
พี่จะติดตามต่ออสุรี | | จงชี้ท่าทางบอกไป
|
อันซึ่งธุระของเจ้า | | ขวัญเข้าไว้พี่แก้ไข
|
ต้องสาปเหดุผลกลใด | | จูบให้เร่งว่าเนื้อความมา
|
ฯ คุกพาทย์ ๔ คำ ฯ
|
|
มโนราห์โอด
|
๏ วานรินตรีดตราดพาที | | โปรดเกศีเถิดอย่าทำข้า
|
ไม่รู้ว่าองค์ศ้กดา | | ขอษมาโทษเถิดภูมี
|
ข้าเป็นข้าบาทเจ้าโลกา | | อิศราศวรราชรังสี
|
ชื่อวานรินนารี | | พระศุลีสาปข้าลงมา
|
รักษาอังกาศคิรี | | ที่สุวรรณถ้ำคูหา
|
เมื่อข้าอยู่ก้บเจ้าโลกา | | รักษาประทีปอัคคี
|
วันหนึ่งจึ่งเธอออกนั่ง | | ยังบัลลังก์รัศรังสี
|
สนทนาไญยธรรมอันมี | | กับนารอทฤษีมีญาณ
|
ข้าพูดกับเทวบุตรเล่น | | เธอไม่เห็นอยู่ราชฐาน
|
ประทีปก็ดับไปช้านาน | | ระแวงราชการต้องสาปมา
|
ว่าต่อท่านได้มาพบ | | สบสมรักร่วมเสน่หา
|
จึงให้คืนคุงมุลิกา | | ยังมหาไกรลาศคิรี
|
หนึ่งให้คอยบอกกิจการ | | วิรุญจำบังมารยักษี
|
แก่ท่านผู้มีฤทธี | | ข้านี้ก็จะพ้นสาปไป
|
บัดนี้วิรุญจำบังมาร | | ต้องศรอวตารเป็นใหญ่
|
มันหนีอยู่ริมสมุทรไท | | ทิศใต้ในฟองคงคา
|
ไปเถิดให้ได้ดังประสงค์ | | จงสำเร็จจำนงปรารถนา
|
ก็เป็นไรจึ่งไม่ไคลคลา | | มารวบรัดข้าว่าไร
|
ไหอะไรมาเซ้าซี้ | | หารู้ที่ยินดีด้วยไม่
|
อย่ามาจู้จี้น้ำใจ | | อายฤท้ยอยู่ไม่ไยดี
|
ฯ ๒๐ คำ ฯ
|
|
ชาตรี
|
๏ ขวัญเอยขวัญตา | | กรุณาบ้างเถิดมารศรี
|
พี่จะติดตามต่อไพรี | | ปรานีเหมือนอวยช้ยไป
|
ว่าพลางทางรวบรึงรัด | | เออนี่หยิกกัดเป็นไฉน
|
ดูแรงแข็งขืนหรือไร | | ฟัดฟั้นกันไปเป็นโกลา
|
ฯ คุกพาทย์ ๔ คำ ฯ
|
|
ร่าย
|
๏ วานรินตรีดตราดครื้นเครง | | เจ้าข้าเอยข่มเหงทำข้า
|
สาปไม่พ้นก็จะทนเวทนา | | ข้าหายอมไม่ภูมี
|
เออนี่ทำไมมารึงรัด | | สะบัดพลางทางว่าน่าบัดสี
|
ไปเสียไปข้าไม่ประเวณี | | อย่าหยักเหยาเซ้าซี้กวนใจ
|
ฯ ๔ คำ ฯ
|
|
๏ เจ้าเอยเจ้าพี่ | | มารศรีอย่าหม่นหมองไหม้
|
ถึงอยู่ไม่ชูอาลัย | | จงสำราญบานใจจะขอลา
|
ว่าพลางทางทำเป็นคลาไคล | | ทำไมมายุดชายผ้า
|
เช่นพี่หรือจะมีเจตนา | | ฉุดผ้าข้าไยเทวี
|
|
ชาตรี
|
๏ กลับนั่งแนบน้องเจรจา | | กรุณาบ้างเถิดอย่าผินหนี
|
จะอยู่ก็ไม่ไยดี | | จะไปก็มิให้ไคลคลา
|
ว่าพลางทางโอบอุ้มน้อง | | คืนเข้าถํ้าทองคูหา
|
ฯ เสมอ ฯ
|
|
โอ้โลม
|
๏ แสนสนิทพิศวาสตรึงตรา | | เสน่หาอัดอั้นพูนทวี
|
ก็รัดรึงตระบึงร่วมรส | | ภุมรีจ้องจรดเกสรศรี
|
กลั้วเกลือกกลีบเกศสุมาลี | | ปรีดาผาสุกสนุกใจ
|
ฯ โลมปี่พาทย์ ๑๐ คำ ฯ
|
|
ช้า
|
๏ เมื่อนั้น | | วานรินนารีศรีใส
|
อยู่กับหนุมานชาญชัย | | มิได้จะนิราศคลาดคลา
|
จึ่งแจ้งกิจการยุบล | | ซึ่งทนยากอยู่ในพระคูหา
|
นานเนิ่นเกินเจียนกาลมา | | ข้านานได้ถึงหมื่นปี
|
อันจะพ้นทนทุกข์เวทนา | | เพราะพระภัสดาโปรดเกศี
|
เมียจะไปไกรลาศคิรี | | ปรานีให้ได้ดั่งใจ
|
ฯ ๖ คำ ฯ
|
|
ร่าย
|
๏ เมึ่อนั้น | | จึ่งพญาหนุมานทหารใหญ่
|
รับคำวรราชนางใน | | อย่าร้อนรนใจกัลยา
|
พี่คิดจะติดตามต่อไพรี | | แล้วจะกลับมาที่พระคูหา
|
จึ่งจะส่งไปสวรรค์ชั้นฟ้า | | ก็เหาะมายังมหาสมุทรไท
|
ฯ เชิด ฯ
|
| | |
|
หนุมานสังหารวิรุฬจำบัง
|
๏ ครั้นถึงจึงพิจารณาฟอง | | ลอยฟ่องล่องตามน้ำไหล
|
แต่ฟองน้ำอันหนึ่งไสร้ | | โตใหญ่หลวงล้ำมหึมา
|
ไม่ลอยลงไปเหมือนทั้งปวง | | ท่วงทีจะเป็นยักษา
|
ก็ผาดโผนแผลงฤทธา | | เท่ามหาพรหมาเกรียงไกร
|
มีหางใหญ่ยาวเจษฎา | | กระหวัดฟองคงคาอันใหญ่
|
สองหัตถ์คลำพิจารณาไป | | ที่ในมหาชลธาร
|
ฯ เชิด ๑๐ คำ ฯ
|
|
๏ ฝ่ายวิรุญจำบังตกใจ | | ก็รู้ว่าภัยมาตามผลาญ
|
จึ่งอ่านพระเวทวิชาการ | | บันดาลแทรกตัวออกมา
|
ฯ ตระ เชิด ฯ
|
|
๏ พ้นจากวงหางขนกระบี่ | | อสุรีอายใจยักษา
|
ก็ผาดโผนแผลงฤทธา | | กลับเข้าเข่นฆ่าหนุมาน
|
ฯ เชิด ๔ คำ ฯ
|
|
๏ หนุมานเผ่นโผนโจนรบ | | จับกุมกันตามกำลังหาญ
|
ฯ เชิด ฯ
|
|
๏ วิรุญจำบังตีหนุมาน | | พลำทานมิได้จมไป
|
ฯ เชิด ฯ
|
|
๏ หนุมานผุดขึ้นอ่านมนตร์ | | เข้าผจญชิงเอาตระบองได้
|
ตีวิรุญจำบังจมไป | | ผุดเมื่อไรซํ้าตีอสุรา
|
ฯ เชิด ฯ
|
|
๏ ฝ่ายวิรุญจำบังอ่านมนตร์ | | ประตาต้นไม่ขึ้นเข่นฆ่า
|
สมาธิสำรวมวิญญาณ์ | | อยู่ในมหาน้ที
|
ฯ ตระ ๖ คำ ฯ
|
|
๏ เมื่อนั้น | | จึ่งพญาหนุมานกระบี่ศรี
|
นิมิตหางโตใหญ่ยาวรี | | ล้อมรอบนัทีคงคา
|
เบื้องตํ่าจรดเพียงบาดาล | | โดยสูงตระหง่านพระเวหา
|
ค่อยกระหยับจะจ้บอสุรา | | ทำฤทธาอยู่ที่วารี
|
ฯ ตระ ๔ คำ ฯ
|
|
๏ เมื่อนั้น | | วิรุญจำบังยักษี
|
ซึ่งหลีกหลบอยู่ในนัที | | มิรู้ที่หนีหนุมาน
|
ครั้นเห็นกระหยับหางเข้าทีใด | | ร่านร้อนฤทัยดังไฟผลาญ
|
พ้นที่จะต่อหนุมาน | | ก็ลนลานอยู่ในสมุทรไท
|
ฯ คุกพาทย์ ๔ คำ ฯ
|
|
๏ เมื่อนั้น | | จึงพญาหนุมานทหารใหญ่
|
กระหวัดหางรัดรวบเข้าไป | | ก็จ้บตัวได้อสุรี
|
ขึ้นฟัดกับพื้นพสุธา | | ย้กษามอดม้วยเป็นผี
|
ฯ เชิด โอด ฯ
|
|
๏ ตัดเอาศีรษะอสุรี | | ขุนกระบี่ก็พาเหาะมา
|
ฯ เดี่ยว ฯ
|
๏ จึงตรงลงยังคิรี | | ที่สุวรรณถํ้าทองคูหา
|
จะโปรดวานรินกัลยา | | ทิ้งศีรษะไว้เข้าไป
|
ฯ เสมอ ๖ คำ ฯ
|
|
ช้า
|
๏ เมื่อนั้น | | วานรินนารีศรีใส
|
แต่หนุมานคลาไคล | | นางในไม่เป็นสมปฤดี
|
แสนวิโยคโศกสร้อยคอยหา | | กลัวว่าจะพ่ายแพ้ยักษี
|
เจ่าจุกทุกข์ใจเทวี | | แลไปเห็นศรีหนุมาน
|
วิ่งออกไปรับขุนกระบี่ | | มารศรีปรีดิ์เปรมเกษมสานต์
|
นำเข้าแท่นที่นางคราญ | | ก็เบิกบานอยู่ในคิรี
|
ฯ เพลง ๖ คำ ฯ
|
|
โอ้โลม
|
๏ เมื่อนั้น | | หนุมานผู้ชาญชัยศรี
|
แสนพิศวาสเทวี | | ยังที่แท่นอาสน์ไสยา
|
แล้วจึ่งปราศร้ยนวลนาง | | ข้อซึ่งไปล้างยักษา
|
แพ้พี่ต้ดเอาศีรษะมา | | ทิ้งไว้ปากมหาคิรี
|
บัดนี้สำเร็จการแล้ว | | จะลาน้องแก้วบทศรี
|
เอาเศียรไปถวายภูมี | | ยังที่สมรภูมิชัย
|
ว่าพลางก็ทางเชยชิด | | แสนสนิทแนบน้องพิสมัย
|
พี่จะส่งเจ้าไปสุราลัย | | ก็อุ้มอรทัยออกมา
|
ฯ เสมอ ฯ
|
|
ร่าย
|
๏ ครั้นถึงปากถํ้าโยนขึ้นไป | | ในพิดลอากาศเวหา
|
ม้วยมุดสุดสิ้นชีวา | | ไปมหาไกรลาศคิรี
|
ฯ ตระ ฯ
|
|
๏ ครั้นเสร็จกิจการนงเยาว์ | | จับเอาเศียรเกล้ายักษี
|
เหาะจากปากถ้ำคิรี | | รีบรี่มาสมรภูมิพลัน
|
ฯ เชิด ปฐม ๑๒ คำ ฯ
|
|
๏ ฝ่ายข้างพระรามเห็นกระบี่ | | ภูมีบอกแก่พลขันธ์
|
โน่นแน่หนุมานจรจรัล | | ได้หัวกุมภัณฑ์เหาะมา
|
พวกพลกระบี่ดีใจ | | เอิกเกริกกันไปทั่วหน้า
|
หนุมานถึงจึ่งวันทา | | ถวายเศียรอสุราทันที
|
ฯ เชิด ฯ
|
|
๏ เดิมเมื่อได้ข่าวยักษา | | พบวานรในพนาศรี
|
บอกว่าอังกาศคิรี | | มีนางอัปสรกัญญา
|
ข้าจึ่งนิมิตบิดเบือน | | เหมือนมนุษย์หนุ่มน้อยเสน่หา
|
เข้าไปไถ่ถามกิจจา | | นางว่าต้องสาปพระศุลี
|
กลับสงสัยข้าที่แปลงกาย | | หยาบคายว่าชาวพนาศรี
|
ข้าเลียมลวงตอบคดี | | นารีแปลนคำออกมา
|
ว่าต่อได้บอกกิจการ | | พบพานร่วมรักกับข้า
|
จึ่งให้คืนคุงบาทมุลิกา | | ยังมหาไกรลาศคิรี
|
ข้าจึ่งผาดแผลงอานุภาพ | | นางกราบประณตบทศรี
|
บอกให้ไปตามอสุรี | | พบตัวต่อตีกันไปมา
|
มันตีข้าจมลงในน้ำ | | ข้าดำผุดขึ้นได้ตียักษา
|
ชิงได้ตระบองอสุรา | | ข้าก็ตียักษาจมไป
|
ครั้นผุดขึ้นมาข้าตีซ้ำ | | มันดำลงอยู่ตํ่าใต้
|
ข้านิมิตหางโตเกรียงไกร | | จึ่งกระหวัดจับได้อสุรา
|
ตัดเอาศีรษะจรลี | | มาโปรดนางที่พระคูหา
|
แล้วจึงพาเอาศีรษะมา | | ถวายพระผ่านฟ้าบัดนี้
|
ฯ ๒๐ คำ ฯ
|
|
๏ บัดนั้น | | พระอวตารผู้ชาญชัยศรี
|
ปราศร้ยไปแก่ขุนกระบี่ | | ที่ใข้ศรข่ายกั้นอสุรา
|
กูพิจารณาดูรูปพึงหาย | | จึงหมายมุ่งว่าเองได้ยักษา
|
ก็พอแลไปเห็นหนุมานมา | | ดูราพิเภกอสุรี
|
แต่ให้หนุมานอาสา | | เข่นฆ่าต้านต่อยักษี
|
ล้วนมีชัยได้ท่วงที | | ควรที่เป็นอัครเสนา
|
นี่แน่พิเภกธิบดี | | อันเศียรอสุรียักษา
|
เพื่อนขลังอาคมวิทยา | | จะเอามาทำประการใด
|
ฯ ๘ คำ ฯ
|
|
๏ ฝ่ายพระยาพิเภกกราบทูล | | ซึ่งอิสูรต้องศรตักษัย
|
ย่อมได้ฟากฟ้าคาลัย | | ไปเป็นสุขทั่วอสุรี
|
บัดนี้วิรุญจำบังม้วย | | ด้วยมือหนุมานกระบี่ศรี
|
ข้าบาทเห็นไม่สู้ดี | | ขอให้ชูศีรษะไว้เมฆา
|
แล้วจึงทรงศรแผลงผลาญ | | สังหารให้ไปเป็นสุขา
|
จึงจะได้สวรรค์ชั้นฟ้า | | โปรดเกศาทำบัดนี้
|
ฯ ๖ คำ ฯ
|
|
๏ บัดนั้น | | พระอวตารผู้ชาญชัยศรี
|
สั่งให้เอาเศียรจรลี | | ทำตามพิเภกบัญชา
|
หนุมานก็พาเหาะไป | | ชูไว้อากาศเวหา
|
จึงแผลงศรกินเศียรอสุรา | | ยักษาสู่สวรรคาลัย
|
ฯ ตระ ๔ คำ ฯ
|
|
๏ แล้วตรัสแก่พลวานร | | อันนครหาพ้นมือไม่
|
ครั้นจะบุกรุกเอาเวียงชัย | | ผิดไปไม่ต้องประเวณี
|
จำเราจะเลิกทัพชัย | | กลับไปยังพลับพลาศรี
|
ฟังดูกำลังอสุรี | | ก็เลิกรี้พลกลับพลับพลา
|
ฯ ๔ คำ เชิด ฯ
|
|
| | |
|
ทศกัณฑ์ให้นนยุเวกวายุเวกไปตามท้าวมาลีวราช
|
๏ มาจะกล่าวบทไป | | ถึงสารัณทูตยักษา
|
ซึ่งคอยเหตุเจ้ากรุงลงกา | | เห็นทัพยักษาอัปราชัย
|
พ่ายแพ้แก่องค์พระราเมศ | | เอาเหตุไปแจ้งแถลงไข
|
ฯ เชิดปฐม ฯ
|
|
๏ ทูลแก่ท้าวทศกัณฐ์ไป | | ได้ทราบธุลีบาทา
|
บัตนี้ทัพท้าวสัทธาสูร | | ทั้งวิรุญจำบังยักษา
|
พ่ายแพ้แก่องค์รามา | | ยักษามอดม้วยบรรลัย
|
เสร็จสิ้นม้ารถคชพล | | ทั้งสกลพยุหน้อยใหญ่
|
ตายกลาดเกลื่อนเต็มพนาลัย | | ท่านไทจงแจ้งธุลี
|
ฯ ๘ คำ ฯ
|
|
ร่าย
|
๏ เมื่อนั้น | | ทศเศียรสุริวงศ์ยักษี
|
ครั้นรู้ข่าวแพ้ไพรี | | มีกมลเศร้าเปล่าใจ
|
ฯ ครวญ ฯ
|
|
๏ โอ้ว่าแต่แต่งไปอาสา | | จะมีชัยมาบ้างก็หาไม่
|
ล้วนย่อยยับอัปราชัย | | ไฉนจะชนะไพรี
|
เร่งร้อนรัญจวนป่วนใจ | | ดั่งไฟประลัยก้ลป์เเจียวจี่
|
แสนวิโยคโศกสร้อยโศกี | | คิดถึงพงศ์พีร์ทั้งปวงไป
|
คือจะได้ใครมาต่อต้าน | | พระยามารอัดอ้นหม่นไหม้
|
ทอดกายก่ายคิดคดีไป | | ระลึกได้ว่าองค์อัยกา
|
|
ยานี
|
๏ เธอเสด็จไปทรงศีลอยู่ | | ภูเขาศิวาลัยภูผา
|
โดยอิทธิฤทธ์เดชา | | อานุภาพปราบเดโชชัย
|
พระนามชื่อมาลีวราช | | พระบาทบพิตรเป็นใหญ่
|
ทรงสัจแม้นตรัสสิ่งใด | | ก็เป็นไปตามพระบัญชา
|
ดุจดั่งบรมพรหมเมศร | | ทุกนิเวศลิขิตเลขา
|
จารึกไว้หน้าศิลา | | ถ้าแม้นแช่งชักผู้ใด
|
ผู้นั้นก็เป็นดั่งวาจา | | จะคลาดคลาสักน้อยก็หาไม่
|
ควรกูจะให้ไปทูลไท | | มาในนครลงกา
|
แล้วจึ่งจะทูลกล่าวโทษ | | ให้กริ้วโกรธรามจงหนักหนา
|
อันลักษมณ์แลรามราชา | | น่าที่จะต้องแช่งตาย
|
ฝ่ายนางสีดาดวงจิตร | | ก็จะสมความคิดกูมุ่งหมาย
|
ไพรีมิม้วยอันตราย | | ไม่วายทุกข์ร้อนเคืองใจ
|
|
ร่าย
|
๏ คิดแล้วสั่งสุรเสนา | | ไปเชิญอัยกาผู้เป็นใหญ่
|
ซึ่งอยู่ยอดฟ้าศิวาลัย | | มาดับภัยพื้นพสุธา
|
มึงคิดพิดทูลถ้าไถ่ถาม | | กล่าวโทษล้กษมณ์รามให้หนัก
|
แก้ไขอย่าให้แคลงวิญญาณ์ | | สองเสนาไปบัดนี้
|
ฯ ๒๔ คำ ฯ
|
|
๏ บัดนั้น | | นนยุเวกวายุเวกยักษี
|
รับสั่งพลันพลางจรลี | | กรีธาทัพไช้พันหนึ่งไป
|
ฯ กราว ฯ
|
|
๏ มาเอยมาถึง | | ซึ่งนครยอดฟ้าสูงใหญ่
|
ก็เข้าไปหาเสนาใน | | แถลงไขตามราชกิจพล้น
|
ฯ ๔ คำ เจรจา ฯ
|
|
๏ เสนาจึ่งพาเข้าทูล | | ไอศูรย์บรมพงศ์สวรรค์
|
ก็พอไขสีรวีวรรณ | | จรจร้ลออกหน้าบัญชรชัย
|
ฯ เสมอ ๒ คำ ฯ
|
|
๏ เสนาจึ่งเบิกทูลแถลง | | แจ้งท้าวมาลีวราชเป็นใหญ่
|
นนยุเวกวายุเวกก็ทูลไป | | แถลงไขตามข้อคดี
|
บัดนี้ท่านท้าวทศพักตร์ | | อันเป็นหลานร้กเรืองศรี
|
ผู้ผ่านสามโลกโมลี | | ซึ่งเป็นศรีราชนัดดา
|
ให้ข้ามาทูลพระบาท | | ด้วยพระญาติวงศ์พงศา
|
มีหมู่อริราชยกมา | | เข่นฆ่ามอดม้วยมากมาย
|
นามชื่อล้กษมณ์รามราชา | | กับพลวานรทั้งหลาย
|
สังหารอสุรศ้กดิ์ยักษาตาย | | มากมายเป็นพ้นคณนา
|
ขอเชิญเสด็จไปปกเกล้า | | แก่เผ่าพ้นธุ์วงศ์พงศา
|
ยังกรุงนครลงกา | | เห็นว่าจะปลอดรอดภัย
|
ฯ ๑๐ คำ ฯ
|
|
ช้าปี่ร้บ
|
๏ เมื่อนั้น | | พระทรงธรรมธิราชเป็นใหญ่
|
สงสัยไถ่ถามเนื้อความไป | | เป็นไฉนสองสุรเสนี
|
อันองค์ท้าวทศพักตร์ | | หลานรักกูยิ่งยอดเรืองศรี
|
ถึงว่าเทวัญจันทรี | | ก็อัญชุลีอวยชัย
|
เป็นยอดมงกุฎเมืองมาร | | ห้าวหาญผ่านภพสูงใหญ่
|
ทั้งสิบสี่โลกสุราลัย | | ย่อมกลัวฤทธิไกรมหึมา
|
ไม่มีผู้อาจองทะนงศักดิ์ | | มายํ่ายีพญาย้กษา
|
สิ้นเสร็จเข็ดฤทธิ์อสุรา | | มึงว่ากูฉงนสนเท่ห์ใจ
|
ซึ่งว่าพระรามพระลักษมณ์ | | ศักดิ์แสงสุริวงศ์อยู่ไหน
|
เพื่อนผ่านถิ่นฐานบ้านเมืองใด | | เร่งเร็วบอกไปอย่าช้า
|
ฯ ๑๐ คำ ฯ
|
|
ร่าย
|
๏ นนยุเวกวายุเวกทูลพลัน | | ซึ่งยกพลขันธ์มาเข่นฆ่า
|
ครอบครองกรุงศรีอยุธยา | | อานุภาพปราบเดโชชัย
|
เป็นหน่อของท้าวทศรถ | | ปรากฏฟากฟ้าดินไหว
|
หลานท้าวอัชบาลเรืองชัย | | เป็นใหญ่ยิ่งยศโมลี
|
เดิมพระยอดเมืองมารไปเล่นป่า | | พบนางสีดามารศรี
|
สิ่งซึ่งบริโภคไม่มี | | ปรานีเอามาลงกา
|
อยู่มาพระรามพระลักษมณ์ | | คุมกระบี่มีศักดิ์มาหนักหนา
|
ข่มเหงห้ำหั่นอสุรา | | จองถนนข้ามมาพระบุรี
|
ฆ่าพระญาติวงศ์พงศา | | โยธาอสุรายักษี
|
ตายกลาดเกลื่อนเต็มธรณี | | จงแจ้งธุลีท่านไท
|
ฯ ๑๐ คำ ฯ
|
|
ร่าย
|
๏ เมื่อนั้น | | พระกอบกิจธรรมเป็นใหญ่
|
ครั้นจะแจ้งเหตุเภทภ้ย | | จึ่งแถลงไขสองเสนา
|
อันองค์อัชบาลเป็นสหาย | | เพื่อนตายร้กใคร่กูหนักหนา
|
ร่วมชีพไว้วิญญาณ์ | | ซึ่งลักษมณ์รามากูไม่รู้
|
ด้วยพึ่งใหญ่ค่อยจำเริญวัย | | ทางไกลต่างคนต่างอยู่
|
ช้านานไม่ได้ไปดู | | สุริวงศ์ในกรุงอยุธยา
|
ไฉนจึ่งมารุกราน | | กรุงมารเมืองหมู่ยักษา
|
หรือจะเกี่ยวข้องกันด้วยสีดา | | ว่ามาทั้งนี้กูเห็นจริง
|
อันนอกกว่านี้ไม่มีใคร | | จะทำฤทธิไกรสุงสิง
|
หลานรักกูศักดิ์แสงยวดยิ่ง | | กฤษฎาธิการมหึมา
|
เห็นแต่ท่านท้าวอัชบาล | | เป็นประธานสุริวงศ์นาถา
|
เธอเป็นสหายรักกูมา | | อนิจจานัดดามาผิดก้น
|
จำกูจะไปเกลี่ยไกล่ | | อย่าให้ขึ้งเคียดเดียดฉันท์
|
เป็นเพึ่อนเผ่าพันธุมิตรกัน | | โดยธรรมธรรมเนียมมีมา
|
|
ร่าย
|
๏ ก็สั่งให้เตรียมสกลไกร | | กูจะไปห้ามสองเสน่หา
|
ให้สมัคสมานอัธยา | | อย่าช้ารีบรัดบัดนี้
|
ฯ ๑๖ คำ ฯ
|
|
ร่าย
|
๏ บัดนั้น | | จึ่งอำมาตย์มารย้กษี
|
ร้บสั่งพลันพลางจรลี | | มาจัดรี้พลโยธา
|
ฯ แพละน้อย ฯ
|
|
ยานี
|
๏ กะเกนคนธรรพ์คันธรรพ | | กับอสุรศักดิ์ยักษา
|
ทั้งฤษีสิทธ์วิทยา | | กินนรปักษานาคี
|
อีกทั้งโขมดผีป่า | | เทพบุตรเทวาอึงมี่
|
แตรสังข์ดุริยางค์ดนตรี | | ให้คอยที่แห่แหนเสด็จไป
|
ครั้นเสร็จระเห็จเข้ามา | | ไคลคลาขึ้นทูลแถลงไข
|
ฯ เชิดปฐม ฯ
|
|
ร่าย
|
๏ อันซึ่งพหลสกลไกร | | ได้พร้อมอยู่เเล้วพระราชา
|
ฯ ๘ คำ ฯ
|
|
โทน
|
๏ เมื่อนั้น | | พระทรงจตุศีลยักษา
|
จึ่งชำระสระสรงคงคา | | ทรงกาสาวพัสตร์รูจี
|
สอดสร้อยใส่ชฎาประดับเครื่อง | | เรึ่อเรืองรุ่งรัศรังสี
|
เปล่งปลั่งดังดาวโรหิณี | | สีกรรจรแก้วแพรวตา
|
ดั่งองค์อิศโรยโสธร | | บวรลิขิตเลขา
|
ผ่องผึ่งพึงพิศเจษฎา | | ทรากรสิกขาเพราพราย
|
กอปรกับสัจจะเวทคาถา | | อลังการ์เป็นพระขรรค์ผันผาย
|
มาขึ้นรถแก้วแพร้วพราย | | คลี่คลายพลจากคิรี
|
ฯ ๘ คำ เพลง แล้วกราว ฯ
|
| | |
|
ท้าวมาลีวราชสอบคดีทศกัณฐ์
|
โทน
|
๏ รถเอยราชรถทรง | | สำหรับพงศ์เผ่าพรหมรังสี
|
เทียมด้วยเทพบุตรพาชี | | รัศมีวิจิตรเจษฎา
|
ดุจดั่งดวงอโณทัยตรัส | | แจ่มจัดสว่างเวหา
|
ระย้าระยับจับเมฆา | | อลังการ์รัศอัมพร
|
โดยญาณฤทธิ์สิทธิเดช | | ทุกนิเวศสาธุการอยู่สลอน
|
ก็เคลื่อนชัยรถบทจร | | จามรจรบังบังตะว้น
|
กลิ้งกลดกลดกลิ้งพริ้งพราย | | อภิรุมชุมสายผายผัน
|
บังแสงแสงศรีรวีวรรณ | | ผาดฝันเลื่อนลอยลีลา
|
ฯ ๘ คำ กลองโยน ฯ
|
|
ยานี
|
๏ มาพลางทางคิดถวิล | | จินตนาการตามอุเบกขา
|
ครั้นกูจะเข้าไปลงกา | | พระรามารู้จะน้อยใจ
|
ครั้นกูจะไปหารามลักษมณ์ | | ฝ่ายพญาทศพักตร์จะว่าได้
|
ควรกูอยู่ท่ามกลางไสร้ | | อย่าให้ข้างใครนินทา
|
คิดพลางทางสั่งหมู่มาร | | ท่านอย่าเข้าไปเมืองยักษา
|
ยับยั้งยั้งนอกภารา | | ก็มาหยุดสมรภูมิชัย
|
ฯ บาทสกุณี ฯ
|
|
ร่าย
|
๏ จึ่งสั่งสองสุระขุนมาร | | ผู้ซึ่งจำทูลสารไข
|
มึงเร่งเอากิจจาไป | | แถลงไขเจ้ากรุงลงกา
|
๏ นนยุเวกวายุเวกรับสั่ง | | บังคมกราบคนละสามท่า
|
ทูลลาระเห็จเตร็ดมา | | พากันเข้าแจ้งคดี
|
ฯ เชิดปฐม ฯ
|
|
๏ บัดนี้สมเด็จพระอัยกา | | ไม่เข้ามาในกรุงศรี
|
อยู่นอกนครธานี | | ตรงที่สมรภูมิชัย
|
เดิมเมื่อไปทูลเธอไถ่ถาม | | ตรัสเรื่องราวความแถลงไข
|
บอกว่าลักษมณ์รามสองไท | | ได้เป็นหลานพระสหายมา
|
พระองค์จะตรัสเกลี่ยไกล่ | | มิให้ขึ้งเคียดเข่นฆ่า
|
ว่าเป็นพงศ์พันธุมิตรมา | | ให้ข้าบาทเชิญจรลี
|
ฯ ๑๖ คำ ฯ
|
|
๏ เมื่อนั้น | | ทศเศียรสุริวงศ์ยักษี
|
ชื่นชมโสมนัสยินดี | | สองเสนีไว้กูเจรจา
|
เองเร่งบุษบกพิมาน | | กับพลทวยหาญซ้ายขวา
|
อีกทั้งธูปเทียนบูชา | | กูจะไปวันทาบัดนี้
|
ฯ ๔ คำ ฯ
|
|
๏ นนยุเวกวายุเวกสั่งพล้น | | เร่งรัดพลขันธ์ชัยศรี
|
ฯ เชิด เจรจา ฯ
|
|
๏ บ้างจัดบุษบกมณี | | ตระเตรียมอัคคีมาลัย
|
เสร็จพร้อมธูปเทียนบริบูรณ์ | | เขาทูลบังคมแถลงไข
|
ฯ เชิด ฯ
|
|
๏ อันซึ่งจะเสด็จคลาไคล | | ได้พร้อมอยู่แล้วราชา
|
ฯ ๔ คำ ฯ
|
|
ร่าย
|
๏ เมื่อนั้น | | ทศเศียรสุริวงศ์ยักษา
|
จึ่งชำระสระสรงคงคา | | ยักษาสำอางอาภรณ์
|
ทรงมงกุฎสังวาลเสร็จสรรพ | | จับสะพกสะพายแล่งแสงศร
|
ถือธูปเทียนบุษบากร | | ก็จรจะไปบูชา
|
ฯ เพลง ฯ
|
|
๏ ขึ้นยังบุษบกพิมาน | | เหาะระเห็จทะยานพระเวหา
|
ฝ่ายหมู่แสนสูรเสนา | | แห่ห้อมล้อมท้าวยักษาไป
|
ฯ กราว ๖ คำ ฯ
|
|
๏ ครั้นถึงจึ่งหยุดบุษบก | | ยกสองพระกรก้มกราบไหว้
|
เคียงข้างรถแก้วแววไว | | เบื้องซ้ายท้าวไทอ้ยกา
|
จึ่งจุดธูปเทียนตามถวาย | | บ่ายพักตรอภิวันท์หรรษา
|
โปรยปรายดอกไม้บูชา | | โศกาอ้ดอั้นพันทวี
|
ฯ โอด ฯ
|
|
ครวญ
|
๏ พระจอมเกศแก้วกระหม่อมเอ๋ย | | ไม่เคยอับปางบทศรี
|
แต่พระบาทเบื้องตํ่าใต้ธุลี | | ก็มีผู้ยำเยงเกรงใจ
|
ไม่มีผู้มาทำแค้น | | หาดูหมิ่นถิ่นแคลนได้ไม่
|
เดชะพระเดชปกเกศไป | | ก็เย็นในสุริวงศ์พรหมา
|
บัดนี้พระรามพระล้กษมณ์ | | โหมหักฆ่าญาติวงศา
|
อาจอุกรุกรันรานมา | | จะเกรงอัยกาบ้างก็ไม่มี
|
ถึงกระไรก็จะเห็นแก่พระองค์ | | ซึ่งเป็นพงศ์พรหมเรืองศรี
|
ยังเสด็จอยูยอดคีรี | | นี่มาทำได้ทำไป
|
ฯ ครวญ ฯ
|
|
๏ อันพระญาติวงศ์ตายสิ้นแล้ว | | ยังแต่หลานแก้วจะตักษัย
|
จึงให้ไปเชิญท่านไท | | เพื่อจะได้ถวายบังคมลา
|
ทูลพลางทางทรงโศกี | | ยักษีสอดใส่แสร้งว่า
|
ทำสะอึกสะอื้นไห้ไปมา โศกาอัดอั้นพันทวี
|
ฯ ๑๖ คำ โอด ฯ
|
|
ช้า
|
๏ เมื่อนั้น | | พระทรงทศธรรมรังสี
|
สงสัยในพจนวาที | | มีมโนในนิ่งจินดา
|
ดีร้ายการจะก่อเกิดเคืองแค้น | | จึ่งจะแสนสาห้สกันเข่นฆ่า
|
แม้นดีหรือจะมีภัยมา | | ปรีชาฉงนสนเท่ห์ใจ
|
แม้นมั่นมันทำเขาก่อน | | เขาจึ่งรานรอนม้วยไหม้
|
หรือจริงสิ่งซึ่งมันว่าไป | | ท้าวไทกลับนึกตรึกตรา
|
ครั้นกูจะปราศรัยต่อ | | หน่อทศรถจะกังขา
|
ครั้นกูจะไม่เจรจา | | มิรู้ว่าเป็นประการใด
|
|
ร่าย
|
คิดแล้วจึ่งร้องประกาศ | | เทวราชเรืองฤทธิน้อยใหญ่
|
มาเป็นพยานกันไว้ | | เราจ้กไถ่ถามข้อคดี
|
ฯ ๑๐ คำ ฯ
|
|
ยานี
|
๏ มาจะกล่าวบทไป | | ถึงไทยเทพทั่วราศี
|
ผู้ทรงมหิทธิฤทธี | | เรืองศรีทิพโสตรู้ไป
|
คือองค์ท้าวมาลีวราช | | พระบาทบพิตรเป็นใหญ่
|
เสด็จอยู่สมรภูมิชัย | | จะไถ่ถามความกุมภัณฑ์
|
กับด้วยพระลักษมณ์พระราเมศ | | เทพเจ้าเรืองเดชผายผัน
|
ฯ เพลง ฯ
|
|
๏ ก็ชวนกันเข้าคมคัล | | อัญชุลีท้าวมาลี
|
ฯ โคมเวียน ๖ คำ ฯ
|
|
ช้า
|
๏ เมื่อนั้น | | พระผู้พงศ์ผ่านภพรังสี
|
ปราศรัยไปแก่อสุรี | | ซึ่งเป็นศรีราชน้ดดา
|
ตัวเจ้าเป็นใหญ่ไตรภพ | | จบสกลโลกทิศา
|
เจ้าผิดกับลักษมณ์รามา | | สาเหตุอย่างไรอย่าได้พราง
|
อันซึ่งกิจการรบสู้ | | กูนี้จะขอทั้งสองข้าง
|
เขาหลานสหายปู่ผู้กลาง | | ข้างเจ้าก็เป็นนัดดา
|
ไม่ควรทำร้ายแก่กัน | | เป็นพันธุมิตรดีกว่า
|
คือใครก่อกรรมอหังการ์ กูจะหามาว่าบัดนี้
|
ฯ ๘ คำ ฯ
|
|
๏ บัดนั้น | | ทศเศียรสุริวงศ์ยักษี
|
พิดทูลเคลือบแฝงคดี | | เดิมทีไปเล่นพนาวา
|
ข้าไล่มหิงส์กระทิงไพร | | พบนางคนหนึ่งในป่า
|
ต่างต่างช่วงชิงกันไปมา | | ยักษาจะกินเทวี
|
พอข้าขอทัณฑ์ถามไถ่ | | นางว่าเกิดในพนาศรี
|
พ่อแม่ลูกผัวไม่มี | | นารีชื่อว่าสีดา
|
ปรานีเอามาไว้ในสวน | | ไม่ควรร่วมรสเสน่หา
|
นานเนิ่นเกินเจียนกาลมา | | ใครใครไม่ว่าผัวนารี
|
แต่องค์พระลักษมณ์พระราเมศ | | ซึ่งไม่เกรงเดชฆ่าพงศ์ยักษี
|
ม้วยมุดสุดสิ้นชีวี | | จึ่งพาทีว่าเป็นผัวสีดา
|
ครั้นข้าจะส่งสีดาเล่า | | ด้วยพระญาติวงศ์เจ้าด้บสังขาร
|
เห็นไม่กล้บคืนเป็นมา | | ข้าจึ่งมิส่งนางไป
|
ถ้าว่ากันก่อนโดยดี | | เป็นทางไมตรีจะส่งให้
|
นี่มาข่มเหงไม่เกรงใจ | | จะส่งไปกล้วขายพระบาทา
|
แม้นไม่มีชัยอัปยศ | | จะปรากฏอายบาทไปเมื่อหน้า
|
ขออย่าให้ขายบาทา | | กรุณาข้าใต้ธุลี
|
ฯ ๑๖ คำ ฯ
|
|
ช้า
|
๏ เมื่อนั้น | | พระทรงธรรมธิราชรังสี
|
สอดส่องดูคำอสุรี | | ผิดที่ไม่เคยพบเห็นมา
|
หรือว่าผู้อื่นลักนาง | | ฝ่ายผัวตามล้างเข่นฆ่า
|
พอพบพญาอสุรา | | กลัวฤทธาทิ้งนารี
|
ฝ่ายผัวเหลือบเห็นไม่ทันถาม | | วู่วามเข้าชิงชัยศรี
|
หมายใจว่าอ้ายไพรี | | ต่างต่างจึ่งมีอหังการ์
|
ก็ผิดที่นี่หน่อทศรถ | | ปรากฎสุริยวงศ์นาถา
|
มิใช่เข็ญใจไพร่ฟ้า | | จะมาเป็นดั่งนี้ก็ผิดไป
|
หรือเมียนอกใจอ้ายนี่ชู้ | | ต่อสู้เจ้าผัวเขาไม่ได้
|
สุดฤทธิ์ที่จะคิดชิงช้ย | | เพื่อจะให้กูแช่งกระมังนา
|
ดีร้ายจะเป็นฉะนี้ | | ท่วงทีจึ่งเคลือบริษยา
|
ครั้นกูจะตอบต่อเจรจา | | ม้นจะว่าแกล้งกล่าวซักความ
|
จำกูจะเงือดงดไว้ | | จึ่งจะค่อยซักไซ้ไถ่ถาม
|
ควรกูจะให้ไปหาราม | | มาสอบถามห้ามผิดกัน
|
|
ร่าย
|
๏ คิดแล้วจึ่งมีพจนารถ | | ประกาศแก่เทวาสรวงสวรรค์
|
แล้วว่าไปแก่กุมภัณฑ์ | | อันเป็นศรีราชนัดดา
|
ซึ่งข้อคดีของเจ้า | | จำจะให้หาเขาผู้เข่นฆ่า
|
มาสมัคสมานอัธยา | | ว่ากล่าวกันตามประเวณี
|
ก็สั่งอำมาตย์มึงไปหา | | เทวบุตรศณุกรรม์เรืองศรี
|
ฉับไวให้มาบัดนี้ | | ยังที่สมรภูมิพลัน
|
ฯ ๒๐ คำ ฯ
|
| | |
|
ท้าวมาลีวราชให้พระวิษณุกรรมไปตามพระราม
|
๏ คนธรรพ์ก็รับสั่งลา | | ไปดาวดึงสาสวรรค์
|
ฯ เชิด ฯ
|
|
๏ เข้าหาพระวิษณุกรรม์ | | ฉับพลันมาไปอย่าช้า
|
ฯ ๒ คำ เจรจา ฯ
|
|
๏ ฝ่ายพระวิษณุกรรมแจ้งเหตุ | | ก็มาจากนิเวศดึงสา
|
ฯ เหาะ ฯ
|
|
๏ จึงชวนกันเข้าวันทา | | สองราประณมดุษฎี
|
ฯ ๒ คำ ฯ
|
|
ร่าย
|
๏ เมื่อนั้น | | ท้าวมาลีวราชยักษี
|
จึงสั่งให้เทวจรลี | | ไปบอกคดีสองไทย
|
อันอัชบาลอัยกา | | ร่วมวิญญาณ์กูพิสม้ย
|
สหายกูปู่รามเรืองชัย | | จงแจ้งไขแก่สองรา
|
ครั้นเราจะให้คนธรรพ์ไป | | เกลือกสองภูวนัยจะกังขา
|
ด้วยรามลักษมณ์ไม่รู้จักกูมา | | พาทีอย่าให้แคลงใจ
|
บัดนี้นัดดากับนัดดา | | เข่นฆ่ากันเท่าไหนไหน
|
ตัวกูนี้พึ่งรู้ไป | | ฉับไวให้มาบัดนี้
|
ฯ ๘ คำ ฯ
|
|
๏ ฝ่ายเทวะร้บสั่งลา | | เหาะมายังพลับพลาศรี
|
ฯ เชิด ฯ
|
|
๏ ถึงจึ่งแถลงเสนี | | กระบี่พาแจ้งกิจจา
|
บัดนี้ท่านท้าวมาลีวราช | | พระบาทสิทธิศ้กดิ์หนักหนา
|
เธอเป็นสหายพระอัยกา | | ให้ข้ามาเชิญเสด็จไป
|
จะไถ่ถามห้ามความรบสู้ | | พระเจ้าปู่ว่าหาอื่นไกลไม่
|
เหตุนี้พึ่งทราบธุลีไป | | จึ่งให้มาแจ้งราชา
|
ฝ่ายข้างพระยาทศพักตร์ | | กล่าวโทษพระองค์หนักหนา
|
พระอัยกาไม่เชึ่อวาจา | | จึ่งให้มาเชิญจรลี
|
ฯ ๘ คำ เจรจา ฯ
|
|
๏ เมื่อนั้น | | พระอวตารผู้ชาญชัยศรี
|
จึ่งบัญชาชอบวาที | | ให้กระบี่ปรึกษาทุกตัวนาย
|
ผู้ใดยังได้รู้เห็น | | อัยกากูเป็นสหาย
|
กับท้าวมาลีวราชเพริดพราย | | บรรยายให้แจ้งบัดนี้
|
ฯ ๔ คำ ฯ
|
|
๏ บัดนั้น | | พระยาชามพูวราชกระบี่ศรี
|
ก้มเกล้าเคารพสามที | | ขุนกระบี่จึงทูลเนื้อความไป
|
อันองค์ท้าวมาลีวราช | | พระบาทบพิตรเป็นใหญ่
|
กับพระอัยการักร่วมใจ | | ไกลนานเนิ่นนักพระราชา
|
แต่ชันษาข้าพึ่งวัย | | พอจำความได้น้อยหน้กหนา
|
จนได้เป็นบาทมุลิกา | | อายุข้าถึงกัลป์ปลาย
|
แม่นมั่นอันองค์พระอัยกา | | กับท้าวยักษาเป็นสหาย
|
ตัวข้าจะขอบรรยาย | | เล่าถวายให้แจ้งกิจการ
|
ว่ายังมีพรหมผู้หนึ่ง | | จึ่งเธอทำเพียรห้าวหาญ
|
อตส่าห์เฝ้าพระสยมภูวญาณ | | จะใคร่เป็นประธานโลกา
|
จึ่งกราบทูลขอพระพร | | ให้ถาวรยิ่งพรหมทุกทิศา
|
กับคทาเพชรมหึมา | | จะป้องกันรักษาไพรี
|
ฝ่ายองค์อิศวรบรมญาณ | | ประธานทั้งพระพรชัยศรี
|
ครั้งนั้นคึอท้าวมาลี | | มีมโนในนึกเมตตา
|
ทูลพระอิศวรบรมนาถ | | ว่าพระบาทอัชบาลนาถา
|
ผ่านแผ่นพื้นภพอยุธยา | | สามัญพึ่งพาทั่วไป
|
สุจริตทศพิธราชธรรม์ | | พงศ์พันธุ์นารายณ์เป็นใหญ่
|
ทุกนิเวศเขตขัณฑ์พึ่งไท | | เกลือกพรหมจะไปราวี
|
หน้าที่จะสิ้นสูญพรตกรรม์ | | สามัญจะร้อนดั่งเพลิงจี่
|
จะขัดสนจนทั้งมุนี | | โปรดเกศีอย่าให้สูญไป
|
พระศุลีฟังมาลีวัคคพรหม | | พระสยมภูวญาณก็สงสัย
|
จี่งประทานพระขรรค์เพชรเรืองชัย | | ให้ท้าวมาลีเอามา
|
ถวายแก่ท้าวอัชบาล | | แล้วประทานพระพรหนักหนา
|
ให้ชนะแก่บรมพรหมา | | คทาเพชรจงพ่ายแพ้พระขรรค์ชัย
|
ท้าวมาลีรับเอาพระขรรค์แก้ว | | แล้วเชิญพระพรลงมาให้
|
แด่ท้าวอัชบาลเรืองชัย | | จึ่งร้กใคร่เป็นสหายกันมา
|
ไม่มีที่เป็นอุบาย | | พระองค์อย่าหมางหมายกังขา
|
ขอเชิญเสด็จไคลคลา | | ไปหาจึ่งจะชอบทางธรรม
|
ฯ ๒๘ คำ เจรจา ฯ
|
|
๏ เมื่อนั้น | | พระเผ่าพงศ์นารายณ์ไอศวรรย์
|
จึ่งสั่งให้ตรวจเตรียมกัน | | กูจะไปคมคัลพระอัยกา
|
ฯ ๒ คำ ฯ
|
|
๏ สุครีพรับสั่งไปพลัน | | ตระเตรียมพลขันธ์อาสา
|
ฯ เชิดปฐม ฯ
|
|
๏ กำชับันเป็นโกลา | | จัดแจงมหารถชัย
|
นี่แน่นิลนนท์หนุมาน | | องคตชมพูพานทหารใหญ่
|
หมวดกองกะเกนจงเกือบไป | | อย่าไว้ใจอรินไพรี
|
เกลือกเป็นอุบายถ่ายเท | | เล่ห์กลแห่งมารยักษี
|
จงจัดสรรกันแต่ตัวดี | | ประคองเคียงข้างภูมีไป
|
ฯ เจรจา ฯ
|
|
๏ ครั้นเอยครั้นเสร็จ | | ระเห็จเข้ามาแถลงไข
|
ฯ แพละน้อย ฯ
|
|
๏ อันซึ่งพหลสกลไกร | | ได้พร้อมอยู่แล้วราชา
|
ฯ ๘ คำ ฯ
|
|
โทน
|
๏ เมื่อนั้น | | พระรามบุญเรืองเฟื่องฟ้า
|
จึ่งชวนพระศรีอนุชา | | ลีลาลงสรงวารี
|
ทรงภูษาทาธะรสประดับเครื่อง | | เรื่อเรืองรุ่งรัศรังสี
|
สององค์ทรงลักษณ์รูจี | | ต่างสีเหลืองนิลว้ตถาพราย
|
เลิศแล้วแก้วเก้ามงกุฎเก็จ | | เพชรระยับทับทรวงเฉิดฉาย
|
ตาบติดสังวาลเลื่อมพราย | | กระจายจรกรรเจียกเพราตา
|
พาหุร้ดธำมรงค์ชายแครง | | ศรีแสงชายไหวซ้ายขวา
|
ทรงศิลป์ศรชวนอนุชา | | ไคลคลาขึ้นรถจรลี
|
ฯ เพลง ๘ คำ ฯ
|
|
โทน
|
๏ รถเอยราชรถอินทร์ | | เฉิดฉินฉ้อพรรณรังสี
|
สลับเลือกล้วนดวงจินดาดี | | รัศมีสว่างเมฆา
|
ดุจดังอโณท้ยไตรตรัส | | แจ่มจัดแสงนิลว้ตถา
|
ระย้าระย้อยลอยเลื่อนฟ้า | | อนุชานั่งหน้ารถไป
|
ฯ กลองโยน รุกร้น ฯ
|
|
ร่าย
|
๏ ครั้นถึงจึงหยุดรถแก้ว | | แล้วอ่อนโอนองค์ลงไหว้
|
ให้พระมาตุลีขับเข้าไป | | เคียงข้างขวาไทอัยกา
|
ยอกรปัญจางค์สุจริต | | ประดิษฐานเหนือเกศเกศา
|
เคารพอภิว้นท์ปรีดา | | อยู่ในมหารถชัย
|
ฯ ๘ คำ ฯ
|
|
ช้า
|
๏ เมึ่อนั้น | | พระกอบกิจธรรมเป็นใหญ่
|
ครั้นเห็นลักษมณ์รามเรืองชัย | | ท้าวไทเพ่งพิจารณา
|
องค์อรรคอ้อนแอ้นทั้งสอง | | ผ่องแผ้วผิวนิลวัตถา
|
เรืองรุดสุดเลิศลักขณา | | เหมือนมหาอ้ชบาลสหายกู
|
จึ่งเอื้อนอรรถโองการปราศรัย | | เหตุใดเวียงชัยเจ้าไม่อยู่
|
มาเที่ยวไพรไยทั้งคู่ | | เกิดรบสู้กันด้วยอันใด
|
ฯ ๖ คำ ฯ
|
| | |
|
ตอนที่ ๓ ตอนท้าวมาลีวราชพิพากษาความ จนทศกัณฐ์เข้าเมือง
ท้าวมาลีวราชสอบความข้างพระราม
|
ร่าย
|
๏ เมื่อนั้น | | พระรามสุริวงศเป็นใหญ่
|
จึงทูลแถลงแจ้งไป | | ซึ่งมาอยู่ในพนาลี
|
ด้วยพระบิตุรงค์ทรงชัย | | ให้สัตย์นางไกยเกศี
|
ขอให้พระพรตผ่านบุรี | | ให้ข้านี้บวชอยู่ไพร
|
ต่อถึงครบสิบสี่ปี | | จึ่งให้ข้านี้เป็นใหญ่
|
กลับเข้าไปครองกรุงไกร | | ข้าไสร้จึ่งมาพนาวา
|
ด้วยเหตุนี้พระภูบาล | | หลานรักจึ่งออกมาอยู่ป่า
|
อันลักษมณ์เเละนางสีดา | | รักข้าติดตามมาด้วยก้น
|
เดิมข้าตั้งพรตอยู่ริมป่า | | กับพระลักษมณ์นางสีดาเมียขว้ญ
|
เมื่อจะเกิดการณ์ก่อติดพัน | | มีสุวรรณกวางทองเดินมา
|
ให้ภควดีสีดาเห็น | | เป็นชอบเนื้อจำเริญใจนักหนา
|
ไม่รู้ว่ากลมายา | | ให้ข้าติดดามกวางไป
|
ข้าจึงให้ลักษมณ์อนุชา | | อยู่รักษานางที่อาศัย
|
ทันกวางก็วางศรชัย | | กวางร้องก้องไปเป็นเสียงคน
|
ได้ยินสำเนียงว่าเจ้าพี่ | | บัดนี้หมู่มารอกุศล
|
แกล้งมาทำเล่ห์เท่กล | | ผจญพี่เจ้าช่วยด้วยรา
|
ครั้นกลับมาพบเจ้าลักษมณ์บอก | | ว่านางให้ออกมาตามหา
|
ได้ยินสำเนียงร้องมา | | จึงรู้ว่ามารยาอสุรี
|
ข้าจึงพิเคราะห์ดูกวางเล่า | | ก็กลายเป็นเผ่าพงศ์ยักษี
|
ครั้นข้ากลับมาหาเทวี | | มิพบนวลนางสีดา
|
ข้าจึงติดตามนางไป | | ได้ข่าวพญาปักษา
|
บอกว่าพญาอสุรา | | ลักพาเอานางสีดาไป
|
ได้ออกต่อต้านสับประยุทธ์ | | ยงยุทธ์กันที่ทางป่าใหญ่
|
บอกว่ากลัวแหวนนางใน | | ราพณ์ได้ทิ้งต้องสกุณี
|
ปีกหักทบทับเจ็บคราง | | อยู่ที่ในกลางพนาศรี
|
พอข้าไปได้วาที | | สกุณีก็ถึงแก่คาลัย
|
ข้าจึงได้เรื่องราวตามมา | | เพราะพญาปักษาแถลงไข
|
จนได้รี้พลสกลไกร | | ให้องคตเข้าไปแจ้งกิจจา
|
พญายักษ์หักหาญเอานางไว้ | | มิส่งสีดาให้แก่ข้า
|
แล้วแต่งกองทัพออกมา | | รบข้าจึ่งฆ่าบรรลัย
|
เป็นสัจสุจริตพระผ่านเกล้า | | ข้ามิได้เอาเท็จมาเศกใส่
|
พระบิดาก็ถึงแก่คาล้ย | | จะได้พึ่งแต่ท้าวพระอัยกา
|
ฯ เจรจา ๓๒ คำ ฯ
|
|
๏ เมื่อนั้น | | พระทรงจตุศีลยักษา
|
ได้ฟังถ้อยคำพระรามา | | ก็จินดาสอดส่องดูไป
|
สุจริตทศพิธเจรจา | | ไม่มีมุสาเศกใส่
|
ซื่อสัตย์ตรัสตรงจริงไป | | ช่างมาทำได้อสุรี
|
ถึงกระไรไม่เห็นบาปกรรม | | จงอายนํ้าหน้าบ้างเถิดยักษี
|
มิใช่สมบัติไม่มี | | นี่กระไรไปลักเมียเขามา
|
จำกูจะช่วยเกลี่ยไกล่ | | จึ่งจะไม่อับอายขายหน้า
|
|
ร่าย
|
๏ คิดแล้วจึ่งมีพระบัญชา | | ดูกรรามาอสุรี
|
สองเจ้าเป็นเอกอรรควงศ์ | | เผ่าพงศ์ผ่านภพเรืองศรี
|
หนึ่งผ่านลงกาธานี | | หนึ่งผ่านบุรีอยุธยา
|
ไม่มีผู้ที่จะเทียมเท่า | | สองเจ้าเป็นบรมนาถา
|
เรืองรุทสุดอรรคอิศรา | | สามัญพึ่งพาทั่วไป
|
ดั่งฤๅจะมาหมองหมาง | | ในนางหนึ่งนี้เป็นไฉน
|
ไกล่เกลี่ยกันเสียเถิดเป็นไร | | อย่าให้เคืองใจอัยกา
|
ฯ เจรจาปลอบ ๑๔ คำ ฯ
|
|
๏ เมื่อนั้น | | พระรามทศพักตร์ยักษา
|
ทั้งสองหลานรับพระบัญชา | | ขืนอารมณ์ว่ากันไป
|
ต่าง ๆ ตอบต่อคำแข็ง | | ยั่วแยงเย้ยเยาะเศกใส่
|
ดื้อดึงขึงขันกันไป | | ก็ทูลไทท่านท้าวมาลี
|
อันซึ่งชีวิตข้าทั้งสอง | | ปองไว้ใต้เบื้องบทศรี
|
เกี่ยวข้องกันอยู่ด้วยนารี | | พิพากษาเถิดพระอัยกา
|
ฯ เจรจา ๖ คำ กล่าวโทษกัน ฯ
|
|
ช้า
|
๏ เมื่อนั้น | | ท้าวมาลีวราชยักษา
|
ตรัสห้ามสองราชนัดดา | | แล้วตรึกตราตามข้อความไป
|
เห็นเหตุเภทผลด้วยสตรี | | จึ่งมีกระทู้ซักไล่
|
ไถ่ถามท้าวทศกัณฐ์ไป | | เมื่อตัวได้นางสีดามา
|
คือใครยังได้รู้เห็น | | เป็นประการใดบ้างให้ว่า
|
ยังมีสำคัญสัญญา | | เจ้าว่าแต่ตามจริงไป
|
ฯ เจรจาตามจริง ๖ คำ ฯ
|
|
ร่าย
|
๏ เมื่อนั้น | | ทศเศียรสุริวงศ์เป็นใหญ่
|
จึงแก้กระทู้ทูลไป | | เมื่อพบนางในพนาวา
|
ไม่มีผู้คนเมืองบ้าน | | กันดารท่าทางกลางป่า
|
ข้าได้สำคัญสัญญา | | กระหมวดหญ้าเข้าไว้เป็นพยาน
|
มั่นคงสุจริตพระอัยกา | | ข้ามิได้มุสากล่าวสาร
|
มาดแม้นมิสมคำให้การ | | ขอประทานถวายชีวิต
|
ฯ เจรจาไม่เท็จ ๖ คำ ฯ
|
|
ช้า
|
๏ เมื่อนั้น | | พระบรมลักษณ์ศักดิ์สิทธิ์
|
ได้ฟังพ่ออ้ายอินทรชิต | | บิดผันเศกแสร้งเจรจา
|
เป็นสิ่งของหรือตกหล่น | | นี่มาเก็บคนได้กลางป่า
|
ผิดที่มิเคยพบเห็นมา | | หรือว่าผู้อื่นลักนาง
|
พอพบพระยาอสุรี | | ถ้าฉนี้จะเห็นด้วยบ้าง
|
เกรงกลัวคิดว่าผัวนาง | | ขว้างเสียทิ้งไว้หนีไป
|
อันกระนั้นมั่นแม่นผิดที | | ถ้าฉนี้พอจะเห็นด้วยได้
|
นี่สิว่านางตกกลางไพร | | จนใจไม่รู้ที่เจรจา
|
แต่ว่าจะเป็นอะไรมี | | ข้อคดีของรามกล่าวหา
|
เพื่อนว่าเป็นผัวสีดา | | ถ้าจริงก็จะได้เนื้อความ
|
ฯ ๑๐ คำ ฯ
|
|
ร่าย
|
๏ คิดแล้วจึงแต่งกระทู้ไล่ | | บัญชาซักไซ้ไถ่ถาม
|
ตัวว่าเป็นผัวนงราม | | นางงามนี้เป็นประการใด
|
นางนี้ก็จะมีแม่พ่อ | | หน่อท้าวด้าวแดนกรุงไหน
|
นางอยู่ถิ่นฐานบ้านเมืองใด | | เร่งให้การไปบัดนี้
|
ฯ เจรจาตามสัจจริง ๑๒ คำ ฯ
|
|
๏ บัดนั้น | | พระอวตารผู้ชาญชัยศรี
|
แก้กระทู้ทูลตอบคดี | | นางนี้อยู่เมืองมิถิลา
|
พระบิดาชื่อท้าวชนก | | ยกนางนี้ให้แก่ข้า
|
ได้ตกแต่งการวิวาห์ | | สามัญญะมาทั่วไป
|
เธอตั้งพิธียกศิลป์ | | เมืองแมนแดนดินหวั่นไหว
|
ข้ายกได้จึ่งให้ทรามว้ย | | เทพไทรู้สิ้นพระราชา
|
ถ้าสืบมิสมดุจดั่งคำ | | จงทำโทษเถิดให้หนักหนา
|
ประหารชีพให้ม้วยชีวา | | พระอัยกาอย่าได้ปรานี
|
ฯ เจรจาไม่ว่าเท็จ ๘ คำ ฯ
|
|
ช้า
|
๏ เมื่อนั้น | | พระพงศ์พรหมธิราชรังสี
|
ได้ฟังพระรามพาที | | ก็ปรีดาส่องดูไป
|
เห็นเหตุเภทผลแม่นมั่น | | นั่นอะไรเล่าคำแถลงไข
|
ดั่งฤๅจะเกิดนางกลางไพร | | อ้ายจังไรมันแกล้งพาที
|
จำกูจะถามสีดาก่อน | | จึ่งจะแบ่งบั่นรอนถูกที่
|
| | |
|
ท้าวมาลีราชสอบความนางสีดา
|
ร่าย
|
๏ ก็สั่งวิศณุกรรม์ทันที | | ไปหานวลนางสีดามา
|
ฝ่ายองค์ท้าวทศพักตร์ | | ให้แต่งอสุรศักดิ์ยักษา
|
ฝ่ายข้างพระรามราชา | | ให้แต่งเสนากำกับไป
|
คุมกันพานางสีดามา | | อย่าให้ใครเจรจาด้วยได้
|
บอกว่าแต่กูให้หาไป | | ฉับไวพามาอย่าช้า
|
ฯ ๑๐ คำ ฯ
|
|
๏ บัดนั้น | | พระรามทศพักตรยักษา
|
สองฝ่ายรับสั่งสั่งเสนา | | คุมอาสาข้างละพันไป
|
ฯ ๒ คำ ฯ
|
๏ ฝ่ายมโหธรหนุมาน | | สองทหารประณตประณมไหว้
|
มาจัดยักษีกระบี่ไพร | | กำกับเทพไทจรลี
|
ฯ เชิดปฐม ๒ คำ ฯ
|
|
๏ ครั้นถึงสวนขวัญทันใด | | เทพไทร้องบอกมารศรี
|
พระอัยกาให้เชิญจรลี | | ไปที่สมรภูมิพลัน
|
ฯ ๔ คำ ฯ
|
|
ร่าย
|
๏ เมึ่อนั้น | | นารีสีดาสาวสวรรค์
|
ได้ฟังพระวิษณุกรรม์ | | เกษมสันติ์ราชหฤทัย
|
แม่นมั่นอันอัยกาเจ้า | | จะเอากูไปถามซักไล่
|
ซึ่งพระยามารลักกูมาไว้ | | จะสอบใส่กับคำพระรามา
|
ดีใจกูจะได้ไปเห็น | | เป็นไรก็เป็นไปข้างหน้า
|
จะตัดพ้อท่อถามเจรจา | | กูจะว่าให้อายแก่คน
|
กูไม่ปราศัยอ้ายขุนมาร | | พวกพาลยักษ์ร้ายอกุศล
|
กูจะกราบพระบาทจุมพล | | ซึ่งสู้เสียสกลกายมา
|
คิดแล้วจึ่งร้องไปพลัน | | ข้าจะจรจันไปหา
|
จะได้กราบพระบาทพระไอยกา | | อย่าเข้ามาเร่งจรลี
|
ฯ ๑๐ คำ ฯ
|
|
ร่าย
|
๏ บัดนั้น | | พระวิษณุกรรม์เรืองศรี
|
รับคำวรราชนารี | | เร่งยักษีเชิญพิมานชัย
|
ฯ ยักษ์ร้อง ๒ คำ ฯ
|
|
๏ ต่าง ๆ จัดแจงเป็นโกลา | | ยกมหาบุษบกเข้ามาให้
|
เตรียมสรรพก็กลับคลาไคล | | ออกไปคอยนำลีลา
|
ฯ ๒ คำ ฯ
|
|
๏ บัดนั้น | | อสุรานารีซ้ายขวา
|
ซึ่งได้รักษาสีดา | | พาเชิญขึ้นบุษบกพลัน
|
สีดาก็เข้าในม่านทอง | | ปิดป้องกำบังผายผัน
|
อยู่ในม่านแก้วแพรวพรรณ | | ผายผันตามเทวะจรลี
|
ฯ เพลง ฯ
|
|
๏ ครั้นถึงนางจึ่งอภิวาท | | อัยกาธิราชรังสี
|
ทั้งพระภ้สดาสามี | | มารศรีสอดส่องนัยนา
|
เห็นทศกัณฑ์อยู่เบื้องซ้าย | | คล้าย ๆ พระรามอยู่เบื้องขวา
|
นั่งหน้าคือองค์พระอนุชา | | พระอัยกาอยู่หว่างกลางคัน
|
นวลนางเศร้าสร้อยโศกี | | มารศรีวิโยคโศกศัลย์
|
นางแสนโศกาจาบัลย์ | | อัดอั้นอยู่ในม่านรูจี
|
ฯ โอด ๑๐ คำ ฯ
|
|
ร่าย
|
๏ เมื่อนั้น | | พระพงศพรหมธิราชร้งสี
|
ครั้นเห็นบุษบกมณี | | ก็รู้ว่านางสีดามา
|
จึ่งสั่งให้เข้ามาใกล้ | | หน้าพิช้ยราชรถา
|
ตัวกูจะดูสีดา | | จงพาเข้ามาบัดนี้
|
ฯ ๔ คำ ฯ
|
|
๏ ฝ่ายเทวะรับสั่งพลัน | | ร้องบอกแจ่มจันทร์มารศรี
|
ทั้งตรีชฎาอสุรี | | เชิญมณีบุษบกเข้ามา
|
ฯ ๒ คำ ฯ
|
|
๏ ตรีชฎาก็พาเข้าไป | | ตรงหน้าพิชัยรถา
|
จึ่งบอกนวลนางสีดา | | รูดมหาม่านทองดุษฎี
|
ฯ ๒ คำ ฯ
|
|
๏ สีดาก็รูดม่านก้ม | | ประณตประณมบทศรี
|
|
ครวญ
|
๏ เคารพอภิวันท์ธุลี | | โศกีสะอื้นไปมา
|
ฯ โอด ๒ คำ ฯ
|
|
ช้า
|
๏ เมื่อนั้น | | พระทรงจตุศีลยักษา
|
ครั้นเห็นนวลนางสีดา | | เสน่หาปลาบปลื้มฤทัย
|
อั้นอัดกำหนัดในนาง | | พลางกำเริบราคร้อนพิสมัย
|
พิศเพ่งเล็งแลทรามวัย | | มิได้ที่จะขาดวางตา
|
ชิชะโอ้ว่าสีดาเอ๋ย | | มางามกระไรเลยเลิศเลขา
|
ถึงนางสิบหกห้องฟ้า | | จะเปรียบสีดาได้ก็ไม่มี
|
แต่กูผู้รู้ยศธรรม์ | | ยังหมายมั่นมุ่งมารศรี
|
สาอะไรกับอ้ายอสุรี | | จะมิพาโคติกาตาย
|
โอ้อนิจจาทศกัณฐ์ | | สู้เสียพงศ์พันธ์ฉิบหาย
|
ม้ารถคชพลวอดวาย | | ฉิบหายเพราะนางสีดา
|
ตัวกูผู้หลีกลัดตัดใจ | | ยังให้หุนเหี้ยนเสน่หา
|
ที่ไหนม้นจะได้สติมา | | แต่วิญญาณ์กูยังแดยัน
|
ขวยเขินสะเทินวิญญาณ์ | | กว่านั้นไม่เหลือบแลแปรผัน
|
ไม่ดูสีดาดวงจันทร์ | | พระทรงธรรมเธอคิดละอายใจ
|
บิดเบือนพักตร์ผินไม่นำพา | | ขืนข่มอารมณ์ปราศัย
|
อั้นอัดอดยิ้มไม่ได้ | | เยื้อนแย้มว่าไปแก่สีดา
|
เจ้าผู้จำเริญสิริภาพ | | ปลาบปลื้มเยาวะยอดเสน่หา
|
เจ้าเป็นเอกอรรคกัญญา | | หน่อนามกษัตราบุรีใด
|
ทำไมจึ่งมาอยู่นี่ | | สุริวงศ์พงศ์พรอยู่ไหน
|
ลูกผัวเจ้ามีหรือไม่ | | บอกไปให้แจ้งบัดนี้
|
ฯ เจรจาตามจริง ๒๐ คำ ฯ
|
|
๏ บัดนั้น | | นวลนางสีดามารศรี
|
ก้มเกล้ากราบทูลทันที | | ข้านี้เป็นเมียพระรามา
|
เดิมชนกบิดาบวชอยู่ไพร | | บอกข้าว่าได้มาแต่ป่า
|
แทบริมฝั่งนํ้าคงคา | | ในมหาบัวทองรูจี
|
จึ่งเอาข้ามาเลี้ยงไว้ | | แล้วพาเข้าไปกรุงศรี
|
ในมิถิลาธานี | | ให้ตั้งพิธียกศิลป์ชัย
|
ต่าง ๆ เข้ายกธนูศิลป์ | | เสร็จสิ้นมิได้หวาดไหว
|
พระรามยกได้ว่องไว | | จึ่งให้ข้าเป็นภรรยา
|
ทำการวิวาหมงคล | | เสนาสามนต์ทั่วหน้า
|
ทั้งฤๅษีสิทธิวิทยา | | เทวามาช่วยอวยชัย
|
เทพเจ้าแจ้งใจอยู่สิ้น | | เมืองแมนแดนดินน้อยใหญ่
|
แล้วพระรามจึงพาข้าไป | | อยู่ในกรุงศรีอยุธยา
|
อยู่มานางไกยเกศี | | ทูลบิดาสามีของข้า
|
ให้พระรามไปอยู่พนาวา | | ข้ารักจึ่งตามจรลี
|
กับทั้งพระล้กษมณ์อนุชา | | ออกมาอยู่ริมพนาศรี
|
แล้วมีกวางทองรูจี | | จรลีมาเห็นเป็นชอบใจ
|
ข้าให้พระรามไปตามกวาง | | ท่าทางที่ริมอาศัย
|
พระรามจึ่งให้เจ้าลักษมณ์ไว้ | | เธอก็ไปตามไล่มฤคา
|
ครั้นอยู่ประเดี๋ยวได้ยินก้อง | | ว่าน้องเอยช่วยด้วยยักษา
|
สงสัยว่าภัยมีมา | | จึ่งให้อนูชาไปตาม
|
ทศพักตร์จึงล้กพาข้ามา | | สดายุได้ออกไต่ถาม
|
บอกว่าข้าเป็นเมียราม | | ถ้อยถามถุ้งเถียงไปมา
|
พญาย้กษ์ไม่ฟังจะพาหนี | | สดายุต่อตีเข่นฆ่า
|
ฝ่ายองค์พระยาอสุรา | | ถอดแหวนของข้าทิ้งไป
|
ถูกต้องพญาสกุณี | | ปีกห้กอยู่ที่ทางป่าใหญ่
|
แล้วพาข้าเข้ามาไว้ | | ในกรุงนครลงกา
|
จึ่งทศกัณฐ์ไปวอนวิง | | จะให้ยิงยอมเสน่หา
|
ข้าว่าเป็นเมียพระรามา | | ยักษากราบไหว้ให้ปรานี
|
ด่าว่าเท่าไรไม่ขึ้งโกรธ | | ไปคาดโทษแก่นางยักษี
|
ตัวข้าก็มิได้ไยดี | | จงแจ้งธุลีบาทา
|
ฯ เจรจา ๓๐ คำ ฯ
|
|
ช้า
|
๏ เมื่อนั้น | | พระทรงจตุศีลยักษา
|
สอดส่องดูคำสีดา | | ไม่ต้องในหาทศกัณฐ์
|
ผิดไปมิได้ไคล้คลึง | | คำรามอ้างถึงสรวงสวรรค์
|
สมคำสีดาดวงจ้นทร์ | | เห็นมั่นคงทางพระรามา
|
ฝ่ายคำพระยาอสุรี | | มีพยานแต่ที่กระหมวดหญ้า
|
แม่นมั่นมันล้กเมียเขามา | | ครั้นว่ากูจะตัดสินไป
|
ข้อความยังมิได้สืบก่อน | | เสนาพลากรจะสงสัย
|
ทศกัณฐ์ผู้ผิดจะติดใจ | | จำจะให้สืบใส่ด้วยสำนวน
|
แล้วจึ่งจะคิดบัญชา | | พิพากษาตามข้อไต่สวน
|
ทั้งฟ้องถ้อยคำสำนวน | | ประมวญกันพิพากษาไป
|
| | |
|
ท้าวมาลีวราชตัดสินความ
|
ร่าย
|
๏ คิดแล้วให้สืบเทวา | | ตามคำรามาแถลงไข
|
เทวาจะว่าประการใด | | ท่านจงเร่งให้การมา
|
ฯ ๑๒ คำ ฯ
|
|
๏ ฝ่ายทศกัณฐ์โจทก์ค้าน | | พยานเหล่านี้ชังข้างข้า
|
ไม่รู้ว่าได้สีดา | | มาเป็นพยานมิเต็มใจ
|
ฯ ๒ คำ ฯ
|
|
เทวา
|
๏ ฝ่ายเทพรีบสมอ้างค้าน | | สบถสาบานแถลงไข
|
แม้นมุสาให้ข้าบรรล้ย | | มิได้เอาเท็จมาเจรจา
|
ชังจริงด้วยเธออาธรรม์ | | ถึงกระนั้นก็ไม่มุสา
|
ไม่แจ้งว่าได้สีดา | | ข้ามิได้เอาเท็จมาพาที
|
เดิมข้าได้ยินเขาลือเลึ่อง | | ในเมืองพระชนกฤษี
|
เธอกล้บเข้าครองบุรี | | ทำการพิธีมงคล
|
ให้ตั้งธนูยกศิลป์ชัย | | ชวนกันลงไปทุกแห่งหน
|
ใครยกไหวจะให้เนียรมล | | ผู้คนเต็มไปทั้งภารา
|
ตัวข้าได้ยกธนูศิลป์ | | พรหมินทร์อินทร์จันทร์เป็นหนักหนา
|
ข้ายกศิลป์ชัยไม่เคลื่อนคลา | | พระรามายกไหวจึ่งได้นาง
|
แล้วเธอทำการวิวาห์ | | ข้านี้ได้ช่วยทั้งสองข้าง
|
พอเจ้าบ่าวเข้าหานาง | | ต่างคนต่างมาวิมานชัย
|
ฯ เจรจา ๑๒ คำ ฯ
|
|
ร่าย
|
๏ เมื่อนั้น | | พระกอบกิจธรรมเป็นใหญ่
|
ได้ฟังเทวาสุราลัย | | ให้การสมคำพระรามา
|
ก็พอจะตัดสินไป | | แต่ยังมิได้ชันสูตรหญ้า
|
ดูก่อนพญาอสุรา | | จะให้เอาหญ้าสำคัญ
|
ฝ่ายข้างพระรามราชา | | จงแต่งเสนาผายผัน
|
กำกับทนายกุมกัณฑ์ | | นำวิษณุกรรม์ไปเอามา
|
ฯ ๖ คำ ฯ
|
|
๏ เมื่อนั้น | | พระรามทศพักตร์ยักษา
|
สองฝ่ายรับสั่งสั่งเสนา | | ให้กำกับนำเทวะจรลี
|
ฯ ๒ คำ ฯ
|
|
๏ ฝ่ายมโหธรหนุมาน | | สองทหารประณตบทศรี
|
๏ มโหธรนำเทพจรลี | | ฝ่ายศรีหนุมานกำกับมา
|
ฯ เชิด ฯ
|
|
ร่าย
|
๏ มาเอยมาถึง | | ยังที่ทุ่งกว้างกลางป่า
|
ฝ่ายมโหธรอสุรา | | ยักษาก็คิดในใจ
|
เมื่อมิได้มีสำค้ญ | | จะรู้ที่หมายมั่นแห่งไหน
|
ใช้มาแล้วจำจะพาไป | | ให้ได้ซึ่งหญ้าเป็นสำค้ญ
|
พอเห็นหญ้าตกเรี่ยราย | | ยักษ์ร้ายจึ่งว่านี่หมายมั่น
|
เจ้านายข้าทำเป็นสำคัญ | | เทวัญจงเอาจรลี
|
ฯ ๘ คำ ฯ
|
|
๏ ฝ่ายวิษณุกรรม์เก็บเอาหญ้า | | พามาตามคำย้กษี
|
ฯ เชิด ฯ
|
|
๏ ครั้นถึงทูลถวายทันที | | นี่และสำคัญอสุรา
|
ฯ ๒ คำ ฯ
|
|
ช้า
|
๏ เมื่อนั้น | | พระทรงจตุศีลยักษา
|
ครั้นเห็นซึ่งหญ้าสำคัญมา | | ก็บัญชาไกล่เกลี่ยเนื้อความไป
|
ดูกรเจ้าสองหลาน | | พยานข้างรามฟังได้
|
ฝ่ายทศก้ณฐ์สำคัญไซ้ | | สืบได้แต่หญ้ากระหมวดมา
|
เมึ่อพิจารณาดูข้อความ | | ถ้อยถามยืดยาวนักหนา
|
มีพยานมั่นคงว่ารามา | | เป็นผัวสีดาเทวี
|
ก็มาดเก็บได้นาง | | ข้างผัวยังตามมารศรี
|
ดูกรพญาอสุรี | | เพื่อนนี้หลานสหายร่วมใจ
|
ข้างเจ้าก็เป็นนัดดา | | หาอื่นหาไกลกันไม่
|
จงฝากชีวิตกันไป | | ส่งนางให้รามคืนภารา
|
นี่แน่เจ้ารามทศก้ณฐ์ | | เป็นพันธุมิตรดีกว่า
|
อย่าให้ร้อนราษฎร์ประชา | | สองราฟังปู่วาที
|
ฯ เจรจาปลอบ ๑๒ คำ ฯ
|
|
ร่าย
|
๏ บัดนั้น | | ทศพักตร์ลักษมณ์รามสามศรี
|
ดื้อดึงขึงขันพาที | | สามศรีเถียงกันไปมา
|
ฯ เจรจาโจทก์มาว่ากัน ฯ
|
|
๏ ฝ่ายทศกัณฐ์ทูลแถลง | | แคลงชังด้วยกล่าวมุสา
|
เมื่อได้มาแต่พนาวา | | กลับว่าข้าลักเทวี
|
หาไม่ทำไมกับสีดา | | ตัวข้าไม่หวงสาวศรี
|
มิใช่สมบัติไม่มี | | ว่านี้ด้วยแค้นฤทัย
|
เสียแรงขอจากปากมาร | | กลับว่าเป็นพาลไปได้
|
เมื่อขัดสนจนรู้ทั้งกรุงไกร | | ช่างซ้อมก้นได้เป็นคำเดียว
|
อนิจจาเทวาก็กลอกกลับ | | ผู้บังคับไม่ว่าตามป่าเปลี่ยว
|
เสือสีห์อสุรีท่องเที่ยว | | แม้นพบจะขบเคี้ยวเนื้อกิน
|
ธรรมเนียมว่าเป็นผัวเมีย | | หรือจะทั้งเสียได้ไพรสิน
|
ก็จะแหนหวงอยู่อาจิณ | | จงถวิลดูเถิดพระอัยกา
|
อันซึ่งพยานสมอ้าง | | เหตุชังข้างข้ายักษา
|
เหมือนมาตุลีเทวา | | ก็อาสาชักรถจงดูไป
|
อ้ายนี่กับเทพให้การ | | แต่ก่อนดีฉานเอามาใช้
|
ได้ยากลำบากเจ็บใจ | | แกล้งให้การสมรามมา
|
อันองค์ลักษมณ์รามผู้นี้ | | เป็นคนมิดีริษยา
|
ยิงพญาพาลีม้วยชีวา | | ได้พลยกมาพระบุรี
|
หากจะช่วงชิงเอาสมบัติ | | พัสถานในราชกรุงศรี
|
แกล้งกล่าวด้วยสีดานารี | | มิใช่ผัวนางพระอัยกา
|
พระรามหากอาจองทนงศ้กดิ์ | | มายํ่ายีหมู่มารยักษา
|
สิ้นสุดมุดม้วยชีวา | | จึ่งให้เจรจาความเมือง
|
เมื่อองคตเข้าไปว่าขาน | | ทำห้าวหาญโกลีฟุ้งเฟื่อง
|
ให้อายแก่ไพร่พลเมือง | | ลือเลื่องรู้สิ้นพระราชา
|
มิใช่ว่าจะไปโดยดี | | ฆ่าสี่เสนียักษา
|
องอาจกล่าวคำอหังการ์ | | ข้าติดใจอยู่พระภูมี
|
ฯ ๒๖ คำ ฯ
|
|
๏ ฝ่ายข้างพระรามทูลแย้ง | | ข้าบาทขอแจ้งบทศรี
|
เมื่อทศพักตร์ลักเทวี | | พามาบุรีลงกา
|
ฝ่ายพญาพิเภกว่าขาน | | พญามารโกรธขับเสียป่า
|
ได้ความทนทุกข์เวทนา | | มาพึ่งข้านี่แนภูมี
|
ถ้าสืบมิสมดุจดั่งคำ | | จงทำโทษเกล้าเกศี
|
อะไรไม่อายวาที | | สีดาว่าไหว้ก้ลยา
|
ซึ่งศรถูกพญาพาลี | | ข้ามิตั้งใจเข่นฆ่า
|
ด้วยพาลีเสียสัจจา | | ขอให้ศรข้าปักอกตาย
|
ครั้งดึกดำบรรพ์นั้นมา | | พญาพาลีจึ่งฉิบหาย
|
มิได้ให้เมียแก่น้องชาย | | จึ่งตายเหมือนถวายสัจจา
|
ถึงกระนั้นก็ไม่ขึ้งโกรธ | | ข้าจะช่วยแก้โทษริษยา
|
ขอแต่โลหิตติดโลมา | | ทาปลายศรกินเป็นที
|
พญาพาลีก็มิให้ | | ยอมม้วยบรรลัยเป็นผี
|
ไม่มีผู้ผ่านธานี | | น้องพาลีผ่านภารา
|
เห็นข้าอยู่ในสุจริต | | คิดกันถวายเมืองทูลอาสา
|
จึ่งให้ไปแจ้งกิจจา | | ยักษาไม่เปิดทวารชัย
|
องคตจึ่งทลายประตูเมือง | | เอาเรื่องราวเข้าแถลงไข
|
ทศกัณฐ์ก็ดื้อดึงไป | | ไม่ส่งสีดาเทวี
|
กลับว่าองคตหยาบข้า | | ให้เสนาฆ่ากระบี่ศรี
|
เสนาจับองคตต่อตี | | ฆ่าอสุรีตายจึ่งรอดไป
|
มิใช่สมบัติข้าไม่มี | | จะรบเอาบุรีหาไม่
|
แม้นส่งสีดาทรามว้ย | | ก็จะกลับคืนไปภารา
|
เหตุด้วยลักเมียข้ามาก่อน | | ข้าจึ่งตามบั่นรอนเข่นฆ่า
|
ไม่ดีลักเมียข้าหนีมา | | พระอัยกาจงแจ้งธุลี
|
ฯ ๒๔ คำ ฯ
|
|
ช้า
|
๏ เมื่อนั้น | | พระทรงทศธรรมรังสี
|
พิพากษาตัดสินคดี | | ไม่ควรอสุรีติดใจ
|
มิใช่แต่มาตุลี | | เทวันจันทรีเท่าไหน ๆ
|
รู้เห็นเป็นสามภพไตร | | เจ้าติดใจผิดประเวณี
|
อันจะแคลงว่านางอยู่กลางป่า | | นัดดาไปได้มารศรี
|
นั้นชอบแต่ผัวไม่มี | | นารีตกอยู่เอกา
|
นี่ถามสีดาว่าเจ้าลัก | | ทศพักตร์ว่าได้มาแต่ป่า
|
ฝ่ายรามว่าเป็นภรรยา | | สืบเทวาสมพาที
|
กลับซัดให้การถึงเจ้า | | ว่าลักพาเมียเขาหนี
|
เห็นว่าเจ้าลักเทวี | | สีดาเป็นเมียรามา
|
จึ่งปรึกษาให้เจ้าส่ง | | คงแก่รามร่วมเสน่หา
|
คือผิดอย่างไรให้ว่ามา | | ทำตามปรึกษาบัดนี้
|
ฯ เจรจาพิพากษาคู่ ๑๒ คำ ฯ
|
|
| | |
|
ทศกัณฑ์พาล ไม่ยอมรับคำตัดสิน
|
|
ร่าย
|
๏ บัดนั้น | | ทศเศียรสุริวงศ์ยักษี
|
ติดใจเทวัญจันทรี | | กับพิพากษาไม่เต็มใจ
|
เมื่อเทพรับสั่งอ้างค้าน | | ดั่งฤๅภูบาลฟังได้
|
โกสีย์ยังให้รถชัย | | หรือจะมิดลใจเทวี
|
ถึงมาดว่าเมียรามจริง | | เมื่อทิ้งทอดในพนาศรี
|
เป็นสิทธิ์เสือสางอสุรี | | ชอบพิพากษาให้ผู้ได้มา
|
นี่สิว่าข้าไปลักนาง | | ฝ่ายข้างรามเห็นหรือให้ว่า
|
เป็นแต่บอกเล่าเจรจา | | ข้าติดใจอยู่ภูมี
|
ฯ เจรจาติดใจพิพากษา ๘ คำ ฯ
|
|
ร่าย
|
๏ เมื่อนั้น | | พระทรงทศธรรมรังสี
|
เดือดด่าพญาอสุรี | | อ้ายนี่ม้นช่างเจรจา
|
ฝ่ายมึงลักเมียเขาพรากผัว | | จะช่วยชั่วกระไรอ้ายบ้า
|
เมื่อเองเล็ดลอดลักมา | | จะเห็นหน้าตามึงกลใด
|
มาดแม้นถ้าพบเจ้าผัว | | โดยชั่วไม่ละเมียให้
|
เช่นนี้หรือนางตกกลางไพร | | จะพิพากษาให้มึงมา
|
อย่างนี้หรือเหยื่อเสือสีห์ | | มึงช่างพาทีริษยา
|
เทพผู้ใดดลสีดา | | ใยมึงมิว่าออกไป
|
จะเกี่ยวข้องอะไรกับโกสีย์ | | รถของเขามีเขาให้
|
มาดแม้นมึงไม่เป็นโจรไสร้ | | ใยมิส่งให้พระรามา
|
แล้วกล่าวเป็นภาคสุนทร | | ดูกรพญายักษา
|
เจ้าเป็นเยาวะยอดนัดดา | | หลานรักเสน่หาของเรา
|
ถึงมาดจะแหนหวงนางไว้ | | นางก็ไม่อะไรกับเจ้า
|
ป่วยการไปชั่วอย่ามัวเมา | | มิใช่ของเจ้าอย่าเจรจา
|
จงฟังคำกูผู้ปู่สอน | | ให้ถาวรยศยิ่งภายหน้า
|
จะทำไมกับอี่สีดา | | ยักษาเจ้าอย่าใยดี
|
มาดแม้นถึงทิพสุวรรณ | | สามัญรองบทศรี
|
ดั่งฤๅจะสวดสวมโมลี | | ยักษีอย่าผูกพันอาลัย
|
หนึ่งนวลนางราชอสุรี | | ดิบดีดั่งดวงแขไข
|
ประโลมเลิศละลานฤทัย | | อำไพยศยิ่งกัญญา
|
ว่านี้แต่ที่เยาว์ ๆ | | ยังอี่เถ้ามนโทกนิษฐา
|
เป็นยิ่งยอดเอกอิศรา | | รจนาล้วนเล่ห์ระเริงใจ
|
แม้นเจ้ามิฟังคำกู | | จะไปสู่นรกหมกไหม้
|
ล้วนสาหัสฉกรรจ์บรรลัย | | จะใยดีอะไรกับสีดา
|
จงส่งองค์นางสีดาให้ | | แก่พระรามเจ้าไปดีกว่า
|
เหมือนหลานเอ็นดูอัยกา | | เจ้าฟังปู่ว่าบัดนี้
|
ฯ เจรจาปลอบหลาน ๒๖ คำ ฯ
|
|
๏ บัดนั้น | | ทศเศียรสุริวงศ์ยักษี
|
ฮึดฮัดตัดพอพาที | | เออกระนี้ควรเป็นพระอัยกา
|
มาดแม้นมอดม้วยสุริวงศ์ | | พระองค์เบี่ยงบ่ายตามสุขา
|
แพ้พ่ายไม่ขายบาทา | | หน้าอ้ายยักษาอสุรี
|
ก็ให้เลื่อนบุษบกออก | | ร้องบอกอัยการังสี
|
ถึงมอดม้วยชีพชีวี | | จะสู้เอาบุรีเป็นเรือนตาย
|
พระองค์อยู่เถิดให้เลิศผู้ | | จะได้ดูประเสริฐเฉิดฉาย
|
จงพิศวาทสองราชหลานชาย | | ช่วยกันเบี่ยงบ่ายเจรจา
|
ดูกรพระรามพระลักษมณ์ | | เราเป็นหลานรักเสน่หา
|
เธอยังไม่คิดเมตตา | | สาอะไรแก่เจ้าสองไท
|
ก็จะเหมึอนกันกับตูข้า | | เธอช่างบัญชาออกได้
|
ครั้นจะส่งองค์นางสีดาไป | | เจ้าไซร้ก็กังขาราคี
|
แล้วได้ทำการสับประยุทธ์ | | นงนุชอยู่ในเมึองย้กษี
|
เราจะสู้กันกว่าชีวี | | จึ่งจะมีเกียรติยศสืบไป
|
ว่าแล้วก็ร้องโกญจนาท | | ดูกรอสุรราชน้อยใหญ่
|
พระอัยกาให้ส่งนางไป | | มึงจะว่ากะไรอสุรา
|
แล้วทูลเฉลยยุบล | | ที่จะส่งเนียรมลอย่าได้ว่า
|
ให้ลือชื่อไว้กัลปา | | อัยกาเจ้าจงแจ้งใจ
|
ฯ ๑๘ คำ ฯ
|
|
๏ เมื่อนั้น | | พระทรงทศธรรมเป็นใหญ่
|
กริ้วโกรธพิโรธฤท้ย | | เอาใจลักษมณ์รามราชา
|
ดูกรสองหน่อนาถ | | อย่าประภาษความแก่ยักษา
|
มันเป็นหมู่หมามฤคา | | ไม่ควรนัดดาจะพาที
|
ไว้อัยกาจะตอบต่อ | | ข้อความกับอ้ายยักษี
|
ดูกรพญาอสุรี | | มึงนี้เป็นคนอาธรรม์
|
ไม่อยู่ในสัจสุจริต | | คิดคดทดโท่โมหัน
|
ฝ่ายกูคนึงถึงกุมภัณฑ์ | | มึงจะพามันม้วยมรณา
|
ตัวกูคิดว่ามึงหลาน | | จึ่งว่าขานให้เป็นสุขา
|
ฝ่ายมึงก็ไม่นำพา | | เจรจาทรลักษณ์ใส่ตัว
|
ความเจ็บความอายไม่มี | | กราบไหว้สตรีท่วมหัว
|
มึงนี้อ้ายเต่าเมามัว | | ชั่วชาติไม่มีความอาย
|
ให้อับประภาคไปทั้งมูล | | ไอสูรย์สมบัติจงเสื่อมหาย
|
ให้วายชีพด้วยศรนารายณ์ | | จงพ่ายแพ้พระรามทุกเวลา
|
แล้วจุมพิตพักตรพระราเมศ | | เยาวเรศเรืองฤทธิเสน่หา
|
จงมีชัยชนะอสุรา | | ปรากฏยศยิ่งสามธาตรี
|
แล้วสั่งพระวิษณุกรรม์ | | จงผายผันพานางบทศรี
|
ไปไว้ในสวนอสุรี | | ตามทีที่เดิมสีดามา
|
ฯ ๑๘ คำ ฯ
|
|
๏ ฝ่ายวิษณุกรรม์รับพาที | | สีดากราบลงสามท่า
|
ไหว้ทั้งท้าวผู้ภัสดา | | ก็ลีลามายังอุทยาน
|
ฯ เพลง ๒ คำ ฯ
|
|
๏ เมื่อนั้น | | ทศเศียรสุริวงศ์ได้ฟังสาร
|
ร่านร้อนฤทัยเพียงไฟกาล | | ดั่งจะผลานทรวงซ่านวิญญาณ์
|
ดิ้นเดือดดันดึงโกนก้อง | | ร้องด้วยอำนาจยักษา
|
สนั่นครั่นครื้นพระสุธา | | ก็ลีลาบุษบกพิมานชัย
|
ออกมาคอยฟังคดี | | ยักษีมิได้บังคมไหว้
|
แทบใกล้สมรภูมิชัย | | เข้าสถิตย์อยูในไพรวัน
|
ฯ คุกพาทย์ ๖ คำ ฯ
|
|
๏ ฝ่ายอัษฎาทัศวานร | | พลากรทูลไทไอศวรรย์
|
ข้าขออาสาพระทรงธรรม์ | | ไปหั่นสับหน้าเป็นตีนกา
|
ประจานไว้มิให้ใครดูเยี่ยง | | อาธรรม์ไม่เที่ยงมรรษา
|
แล้วจะเข้าไปเชิญสีดา | | มิให้ผ่านฟัาเคืองใจ
|
ฯ ๔ คำ ฯ
|
|
๏ ฝ่ายข้างพระลักษมณ์พระรามห้าม | | ออกนามหนุมานทหารใหญ่
|
เจ้าอย่ากริ้วโกรธฟูนไฟ | | ไม่ต้องขนบธรรมเนียมมา
|
ห้ามทั้งอัษฎาพานร | | พวกพลนิกรซ้ายขวา
|
มิให้เข่นฆ่าอสุรา | | ก็ทูลพระอัยกาไป
|
เมื่อพระองค์ให้หามาว่าขาน | | พระยามารดันดึงไม่ส่งให้
|
ฝ่ายนางก็กล้บเข้าไป | | อยู่ในเงื้อมมืออสุรา
|
เกลือกทศกัณฐ์กริ้วโกรธ | | จองโทษทัณฑ์ทำเมียข้า
|
จะมิมอดม้วยชีวา | | พระอัยกาจะว่าประการใด
|
ฯ ๘ คำ ฯ
|
|
๏ เมื่อนั้น | | พระทรงทศธรรม์เป็นใหญ่
|
จึ่งจุมพักตร์ปลอบพระรามไป | | เจ้าไสร้ยศยิ่งนัดดา
|
ครั้นจะช่วงชิงเอานางไว้ | | เกียรติยศจะไม่มีภายหน้า
|
หนึ่งก็มานะอสุรา | | ข้อนี้นัดดาอย่าแคลงใจ
|
เจ้าจงกลับคืนพลับพลา | | อัยกาจะไปกรุงใหญ่
|
ต่างคนก็ต่างคลาไคล | | พระรามก็ไปพลับพลา
|
ฯ เชิด ๖ คำ ฯ
|
|
| | |
|
ทศกัณฑ์คืนเมือง คิดแค้นพระรามพระลักษมณ์และเหล่าเทวา
|
๏ เมึ่อนั้น | | ทศเศียรสุริวงศ์ยักษา
|
ครั้นเห็นลักษมณ์รามราชา | | ทั้งพระอัยกาจรลี
|
เธอเร่งกริ้วโกรธพิโรธใจ | | ยังไม่เข้าไปกรุงศรี
|
ฮึกฮักอักอ่วนอสุรี | | กูจะฆ่าสีดาทรามวัย
|
กูจะแหวะปากเจียนเศียรเกล้า | | จะเอาลูกมะพร้าวห้าวยัดใส่
|
ให้สาอี่คนดีมิเกรงภัย | | ท้าวไทก็เหาะระเห็จมา
|
ฯ กราว ฯ
|
|
๏ ครั้นถึงสวนแก้วอุทยาน | | บันดาลโกรธกริ้วเข่นฆ่า
|
เผ่นโผนโจนจับสาตรา | | เงื้อง่าพิฆาตเทวี
|
ฯ เชิด ฯ
|
|
๏ สีดาก็ยืดยื่นเศียรให้ | | ฟันฟอนลงไปเถิดยักษี
|
ฯ เชิด ฯ
|
|
๏ พญามารง่าเงยพาที | | ต้วพี่จะฆ่าเจ้ากลใด
|
ฯ ฯ
|
|
ชาตรี
|
๏ โอ้ว่านวลนางสีดา | | กรุณาพี่เถิดอย่าม้วยไหม้
|
พี่อดทนจนสู้บรรลัย | | เหมึอนได้เมตตาปรานี
|
ขอเชิญยุพยอดยุพาพาล | | สู่สถานพระนิเวศด้วยพี่
|
ถึงมาดไม่ไยดี | | สนทนาพาทีด้วยกัน
|
เออนี่ทำไมเจ้าขึ้งโกรธ | | โทษพี่อย่างไรจึ่งหุนหัน
|
ชํ้าแสนโศกาจาบัล | | ดีร้ายเจ้าร้ญจวนสามี
|
โอ้ว่าเขลารักเขาไย | | หาเหลียวดูไม่หรือเมื่อกี้
|
ผัวนางขว้างนุชนารี | | ตัวพี่จึ่งไม่ชิงชัย
|
ฝ่ายเจ้าก็ดูอยู่ท่ามกลาง | | เหมึอนอย่างพี่ว่าหรือไม่
|
ผัวเจ้ากังขาราคีไป | | นัยเนตรพี่เห็นอยู่กับตา
|
อันพี่กับเจ้าเยาวมิ่ง | | จริง ๆ ไม่ทิ้งกนิษฐา
|
สู้ม้วยด้วยสร้อยสุดา | | ไฉนขวัญตามิปลงใจ
|
สงสัยขอนี้พี่แคลง | | พี่หากล่าวแกล้งซักไม่
|
ขอถามความข้องในใจ | | อย่าได้โศกสร้อยโศกี
|
ฯ เจรจา ฯ
|
|
ร่าย
|
๏ ปลอบพลางทางใช้ตรีชฎา | | มึงวิงวอนว่ามารศรี
|
เกลี้ยกล่อมให้ยอมประเวณี | | กูจะมีบำเหน็จมา
|
ฯ เจรจา ๒๖ คำ ฯ
|
|
ร่าย
|
๏ สั่งพลางก็ทางบทบาท | | เข้าราชนิเวศเลขา
|
ฯ กราว สั่งเบญกายสีดา ฯ
|
|
๏ ครั้นถึงจึ่งมีบัญชา | | โศกาบอกมนโทไป
|
ฯ โอด บอกในบท ฯ
|
|
ครวญ
|
๏ บัดนี้เทวาพลอยสม | | เกลียวกลมคำรามแถลงไข
|
อัยกาก็เท่เปรไป | | ปรึกษาให้ส่งนงราม
|
ฝ่ายกูติดใจว่าได้ตก | | เธอยกกระทู้ไถ่ถาม
|
เป็นมากถ้อยกระทงความ | | ถ้อยถามทุ่งเถียงไปมา
|
ทั้งนี้มิสู้น้อยใจ | | เหมึอนพระอัยกาวงศา
|
ด่าทอเป็นข้อหยาบช้า | | ให้อายลิงป่ากุมภัณฑ์
|
แม้นศึกเสร็จกูมิให้เหลือ | | กูจะไปเถือเนื้อหํ้าหั่น
|
โอ้ว่าเทวินท์อินทร์จันทร์ | | เอาต้วผาผันหันไป
|
ถ้าแม้นมิม้วยมรณา | | ชีพชีวากูไม่ตักษัย
|
กูจะขอทดแทนเทพไท | | ก็ฮึกฮักไปห้องมณี
|
กลับเรียกมนโฑดวงจิตต์ | | เพื่อนชีวิตเจ้ามาตามพี่
|
ฯ เสมอ ฯ
|
|
โอ้
|
๏ ทอดองค์ลงแท่นมณี | | กอดมิ่งมารศรีรํ่าไร
|
แสนวิโยคโศกพลางพาที | | แก้วพี่ยังคิดเป็นไฉน
|
เจ้าเร่งระลึกตรึกไตร | | พี่จะคิดไปตามสงคราม
|
โอ้อนิจจาแก่ตัวกู | | ผู้ผ่านภพโลกเกรงขาม
|
ดั่งฤๅจะพ่ายแพ้ราม | | ความทุกข์พี่กลุ้มกลัดใจ
|
มนโฑคิรีของพี่เอย | | ทรามเชยเจ้าช่วยแก้ไข
|
เห็นพี่จะปลอดรอดภัย | | ให้โลกเลื่องฤๅชา
|
ว่าพลางก็ทางจุมพิต | | แสนสนิทแนบน้องเสน่หา
|
กรเกี่ยวกระหวัดเจรจา | | ปรึกษาสร้อยเสร้าเปล่าใจ
|
เออเจ้ายังเห็นสุริวงศ์ | | หลงเหลือหลอบ้างหรือไม่
|
เจ้าเร่งระลึกดูไป | | จะได้มาต่อต้านไพรี
|
ฯ โอด ๓๒ คำ ฯ
|
|
๏ เมื่อนั้น | | มนโฑยอดฟ้ามารศรี
|
ฯ ครวญ ฯ
|
|
๏ บอกผัวทั้งตัวโศกี | | พาทีสอนยุทธชิงชัย
|
พระจอมเกศแก้วของเมีย | | ปละอาสวะเสียอย่าหม่นไหม้
|
แม้นจิตต์ไม่พิทราลัย | | ถีนะมิทธะภัยมีมา
|
อันซึ่งความทุกข์ความร้อน | | ตัวนิวรณ์วิจิกิจฉา
|
อกุศลปนปลอมเข้ามา | | พาอุธัจจะให้เป็นไป
|
ประการหนึ่งแม้นมีเหตุ | | เวทนาพาลงหมกไหม้
|
ฝ่ายซึ่งการแพ้ชนะไสร้ | | สุดแต่ได้สร้างสมมา
|
ถึงกระนั้นก็อันประเวณี | | ให้มีความเพียรจงหนักหนา
|
กอปมนต์ดลทั้งอวิญญาณ์ | | สัจจะสัจจาปลงไป
|
ล้างอาสวะจิตต์มลทิน | | ให้ภิญโญสิ้นปัถมัย
|
เมียเขาเอามันมาไย | | ไม่ควรคือกาลกินี
|
หนึ่งข้าได้ยินแต่หลัง | | ครั้งพระปิตุราชรังสี
|
เธอผ่านพื้นภพโมลี | | ฤทธีมีตำราประการใด
|
เร่งค้นกอบกับพิธี | | สำรวมอินทรีย์แก้ไข
|
ปละปลงจงเจษฎาใจ | | อาจจะให้ชนะไพรี
|
ฯ ครวญ ฯ
|
|
๏ อันซึ่งพระวงศ์พระญาติ | | ลีลาศสู่สวรรค์รังสี
|
มอดม้วยด้วยการต่อตี | | หามีไม่แล้วราชา
|
ฯ เจรจา ๑๘ คำ ฯ
|
|
๏ เมื่อนั้น | | ทศเศียรสุรีวงศ์ยักษา
|
ฯ ครวญ ฯ
|
|
๏ พระกรกายพิศบัญชา | | โอ้ว่าแก้วสุนทราลัย
|
ไม่ควรนวลเจ้าจะแหนหวง | | หาล่วงนิวรณ์ไปไม่
|
อย่าวิจิกิจฉากังขาใจ | | พี่คิดได้แล้วกัลยา
|
คือองค์ท้าวปิตุเรศ | | ประทานพระเวทคาถา
|
กับหอกกบิลพัทสาตรา | | ไว้ปราบเทวาสุราลัย
|
นามชื่อลัสเตียนพรหมเมศร์ | | ทรงเดโชชัยเป็นใหญ่
|
ผ่านแผ่นพื้นภพกรุงไกร | | ใหญ่ยอดยิ่งยศโมลี
|
ขึ้นฟ้าอิศวรบรมญาณ | | ประทานทั้งพระพรชัยศรี
|
ให้ไปทำการพิธี | | ที่เชิงพระเมรุบรรพต
|
ณท่าละเอียดอ่อนแดง | | ศรีแสงนามชื่อว่าทรายกรด
|
เถกิงกุณฑ์ระดมอย่างด | | แม้นถ้วนกำหนดสามราตรี
|
หอกแก้วก็จะลุกเป็นเพลิง | | เริงแรงเรืองฤทธิรังสี
|
ไมมีผู้ต้านต่อตี | | ถูกแสงก็ภัสม์ธุลีไป
|
มาดแม้นมุ่งหมายตรวยตรง | | ถูกเข้าก็ผุยผงม้วยไหม้
|
อันลักษมณ์เเละรามพิเภกไซร้ | | ไม่ต้านทานได้อย่าสงกา
|
อย่าว่าแต่คนเผ่าพันธุนี้ | | สามภพธาตรีไตรหล้า
|
มิอาจที่จะต้านสาตรา | | พระเวทคาถาเรืองชัย
|
ทีนี้จะได้เห็นกัน | | เทวัญสวรรค์พื้นตํ่าใต้
|
มันช่วยกันดีมิเกรงภัย | | กูจะฆ่าให้ม้วยมรณา
|
ฯ ฯ
|
|
๏ เจ้าเอยเจ้าพี่ | | มารศรีผู้ยอดเสน่หา
|
ไม่พักฆ่าต้วยสาตรา | | แต่ปั้นรูปบูชาก็บรรลัย
|
ฝ่ายพี่จะปั้นรูปเทวา | | บูชาเสียให้มันม้วยไหม้
|
ครั้นถ้วนคำรบสามว้นไซร้ | | เทวัญจะบรรลัยด้วยฤทธา
|
ไม่ยากลำบากที่ปราบ | | ราบรื่นมิพักไปเข่นฆ่า
|
พี่ไม่ให้ม้วยแต่นางฟ้า | | จะพามาไว้ในธานี
|
๏ แก้วเอยเจ้าแก้วตา | | มาไปพระโรงชัยศรี
|
เรียกพลางทางพาจรลี | | ออกที่พระโรงมิช้า
|
ฯ บาทสกุณี ฯ
|
|
| | |
|
ตอนที่ ๔ ตอนทศกัณฐ์ตั้งพิธีทรายกรด, พระลักษมฌ์ต้องหอกกบิลพัท จนผูกผมทศกัณฐ์กับนางมณโฑ
ทศกัณฐ์ตั้งพิธีทรายกรด
|
๏ จึ่งตร้สกับหมู่อสูรราช | | ประภาษแก่มารยักษา
|
ทั้งพวกอำมาตย์เสนา | | กูได้มหารูจี
|
ท่านเร่งเกษมเปรมใจ | | อย่าครั่นคร้ามขามใครยักษี
|
อันลักษมณ์แลรามขนกระบี่ | | น่าที่จะม้วยพิราลัย
|
กูผัดมึงแต่สองสามวัน | | เท่านั้นดอกแล้วจะม้วยไหม้
|
มโหทรเร่งคุมอสูรไป | | ปลูกโรงพิชัยพิธี
|
โดยยาวใหญ่สามสิบเก้าห้อง | | ให้กุก่องด้วยแดงแสงศรี
|
ทิ้งธูปเทียนตามรูจี | | ดอกไม้แดงดีสิบเจ็ดพรรณ
|
จงประดับประดาธราลัย | | อำไพพึงพิศเฉิดฉัน
|
อบอายกระจายจรจวงจันทน์ | | อำพันรสกลิ่นโอฬาร์
|
ทั้งเจ็ดประการแก้ววิเศษ | | จะบูชาพระเวทคาถา
|
กับหอกกบิลพัทสาตรา | | ณ ท่าทางเชิงพระเมรุบรรพต
|
ยังที่ละเอียดอ่อนแดง | | ศรีแสงนามชื่อว่าทรายกรด
|
เร่งคุมอสุรีมียศ | | กฎหมายกิจการทั้งปวงไป
|
หนึ่งให้แกะดินเจ็ดท่า | | จะปั้นรูปเทวาน้อยใหญ่
|
เข้าบูชากุณฑ์กองไฟ | | อย่าให้ใครรู้จงลีลา
|
ฯ เจรจา ๔๔ คำ ฯ
|
|
๏ เมื่อนั้น | | จึ่งมโหทรมารยักษา
|
รับสั่งดีใจออกมา | | ก็พาอสูรพันหนึ่งไป
|
ฯ กราว เชิด ฯ
|
|
ร่าย
|
๏ ครั้นถึงเชิงพระเมรุบรรพต | | เอากฎหมายออกแถลงไข
|
ฯ เจรจา ฯ
|
|
๏ กะเกนแก่กันทันใด | | ปลูกโรงพิชัยพิธี
|
บ้างไปแกะดินเจ็ดท่า | | บ้างเก็บบุปผาพนาศรี
|
ตัดไม้ทำโรงพิธี | | เสร็จได้มาลีดินมา
|
ฯ ๖ คำ เจรจา เชิดปฐม ฯ
|
|
๏ เมื่อนั้น | | จึ่งมโหทรมารย้กษา
|
แต่งโรงพิธีโอฬาร์ | | วิจิตรรจนาอำไพ
|
เลิศแล้วแก้วเก้าเนาวรัตน์ | | เพดานดัดแดงแสงใส
|
ระย้าย้อยห้อยภู่วิไล | | สุกใสเถือกถ่องรูจี
|
เสาส้างสะอ้านพื้นพรรณแดง | | ตกแต่งที่ทางเรืองศรี
|
ตามด้วยธูปเทียนรูจี | | มีคนธรสโอฬาร์
|
จึงให้เอาดอกมาลี | | ซึ่งให้ยักษีไปหา
|
กับดินเจ็ดท่าสมุทมา | | ไว้ท่า ณ โรงพิธี
|
ครั้นเสร็จระเห็จผายผัน | | จรจรัลเหาะมายังกรุงศรี
|
ฯ เชิดปฐม ฯ
|
|
๏ ครั้นถึงจึ่งทูลคดี | | บัดนี้พร้อมแล้วพระราชา
|
ฯ เจรจา ๑๐ คำ ฯ
|
|
โทน
|
๏ เมื่อนั้น | | ทศเศียรสุริวงศ์ยักษา
|
ชำระสระสรงคงคา | | ขัดกายาหมดมลทิน
|
ทรงภูษาทาธะรศประดับเครึ่อง | | เรื่องรัศอำไพเฉิดฉิน
|
ดุจดังบรมพรหมินทร์ | | เหมือนอินทร์เลื่อยลอยเมฆา
|
ทรงมงกุฎสังวาลกรรเจียกเก็จ | | เพชรระยับทับทรวงเลขา
|
ตาบติดวิจิตรเจษฎา | | พาหุรัดตรัสใส่ธำมรงค์
|
รัดพระองค์ทรงทองปลายพระกร | | บทจรดั่งพระยาราชหงส์
|
ลีลามาขึ้นรถทรง | | ก็เหาะตรงไปโรงพิธี
|
ฯ กราว ชมตลาด ฯ
|
|
๏ ครั้นถึงประทับพลับพลา | | เปลื้องเครื่องมหารังสี
|
บรรจงกระหวัดโจฬ์เป็นโยคี | | พิจิตรทะรังสีล้วนแดง
|
ทรงด้ายย้อมเป็นสังวาลวรรณ | | เกี่ยวกันพึงพิศเป็นแสง
|
ประดับประดาอ่าองค์บรรจงแดง | | แต่งจุณจันทน์เจิมพักตรา
|
ดุจดั่งบรมพรหเมศ | | เรืองเดชสิทธิศักดิ์หนักหนา
|
เสด็จเข้าปั้นรูปเทวา | | ทุกช่องชั้นฟ้าสุราลัย
|
จึ่งเชิญหอกแก้วกบิลพัท | | พาดบนเตียงแดงแสงใส
|
ใส่เพลิงเถกิงกุณฑ์ไฟ | | สูงได้เท่าเทียมปลายตาล
|
จึ่งอ่านพระเวทคาถา | | ตามตำรับตำราว่าขาน
|
บูชาด้วยแก้วเจ็ดประการ | | หว่านดอกไม้เข้าในอัคคี
|
แล้วจึ่งเอามัจฉมังสา | | บูชาหอกแก้วรังสี
|
เอารูปเทวัญจันทรี | | โยนเข้าอ้คคีระดมไฟ
|
แล้วจึ่งสมาธิปัญโญ | | โอมอ่านโอรูปก็ม้วยไหม้
|
หอกกบิลพัทลุกเป็นไฟ | | อาคมระงมไปถึงพรหมา
|
ฯ ตระ ๒๒ คำ ฯ
|
|
| | |
|
พระอินทร์ให้เทพพาลีไปทำลายพิธีทรายกรด
|
|
ยานี
|
๏ มาจะกล่าวบทไป | | ถึงเทพไททุกทิศา
|
ทั่วสหัสทัศโลกา | | เทวาว้าวุ่นขุ่นใจ
|
เหือดแห้งแรงร้อนอกอัด | | กลัดกลุ้มกระวนหม่นไหม้
|
ดุจดังจะม้วยบรรลัย | | แซ่ซ่านไปหาอินทรา
|
ฯ เหาะ ฯ
|
|
ยานี
|
๏ โกสีย์จึ่งมีสุนทร | | ดูกรทั่วเทพทิศา
|
บัดนี้ทศกัณฐ์อสุรา | | ปั้นรูปเทวาบูชาไฟ
|
มันโกรธว่าเป็นพยาน | | จะผลาญให้ม้วยตักษัย
|
มาไปทูลเจ้าโลกาไกร | | ก็พาสุราลัยไคลคลา
|
ฯ แพละน้อย ฯ
|
|
ร่าย
|
๏ ครั้นถึงจึ่งทูลพระศุลี | | บัดนี้ทศพักตร์ยักษา
|
ทำพิธีการวิทยา | | เถกิงกุณฑ์ฆ่าสุราลัย
|
ฝ่ายเทพร้อนทุกราศี | | หน้าที่จะม้วยตักษัย
|
พระจงประทานชีวิตไว้ | | ใต้เบื้องบาทบงสุ์ธุลี
|
ฯ เจรจา ๑๒ คำ ฯ
|
|
ช้า
|
๏ เมื่อนั้น | | พระสยมภูวญาณรังสี
|
เมตตาเทวัญจ้นทรี | | ให้หาเทพพาลีพลัน
|
ฯ ๒ คำ ฯ
|
|
๏ ฝ่ายจิตตุบทรับสั่งลา | | ขึ้นปารนิมิตาสวรรค์
|
ฯ เหาะ ฯ
|
|
๏ เข้าแจ้งพาลีเทวัญ | | พลันไปให้หาบัดนี้
|
ฯ ๒ คำ ฯ
|
|
๏ ฝ่ายเทพพาลีคลาไคล | | ไปฟ้าอิศวรรังสี
|
ฯ คุกพาทย์ ฯ
|
|
๏ เข้ากรานพานพักตรธุลี | | มีโสมน้สวันทา
|
ฯ ๒ คำ ฯ
|
|
ช้า
|
๏ เมื่อนั้น | | พระสยมภูวญาณนาถา
|
เอื้อนอรรถองการบัญชา | | ว่าแก่เทพบุตรพาลี
|
บัดนี้ทศกัณฐ์อสุรา | | มันจะฆ่าเทพทั่วราศี
|
หุดีเพลิงเถกิงอัคคี | | ที่เชิงพระสุเมรุบรรพต
|
ณท่าละเอียดอ่อนแดง | | ศรีแสงนามชื่อว่าทรายกรด
|
เจ้าแปลงเป็นกระบี่มียศ | | ให้ปรากฏเหมือนเมื่อเป็นพาลี
|
ไปช่วยชีวิตเทวัญ | | เข้าอันตรายยักษี
|
ทำลายเสียซึ่งพิธี | | รีบรัดบัดนี้อย่าช้า
|
|
ร่าย
|
๏ แล้วอวยพระพรชัยศรี | | ให้ชนะอสุรียักษา
|
จงถือเอามนตร์วิทยา | | สาตราไม่ต้องไปพลัน
|
ฯ ๑๐ คำ ฯ
|
|
ร่าย
|
๏ ฝ่ายเทพทั้งนั้นอวยพร | | ให้ถาวรฤทธิแรงแข็งขัน
|
เมตตาอย่าพ้นสามวัน | | ต่างต่างคมคัลวันทา
|
ฯ ๒ คำ ฯ
|
|
๏ ฝ่ายเทพพาลีคมคัล | | เชิญพระพรผายผันอาสา
|
มาจัดพลแปลงกายา | | เป็นภาษาราชพาลี
|
๏ ฝ่ายเทวะทั้งนั้นบิดเบือน | | เหมือนหนึ่งวานรกระบี่ศรี
|
ฯ แพละ ฯ
|
|
๏ เหาะจากไกรลาศคีรี | | เข้าทำลายพิธีทันใด
|
ฯ เชิด กราว ๔ คำ ฯ
|
|
เสนาย้กษ์
|
๏ ฝ่ายมารซึ่งได้รักษา | | อหังการ์เข้าบุกรุกไล่
|
ฯ เชิด ฯ
|
|
วานร
|
๏ พวกพาลีต่อชิงชัย | | เข้าดับไฟตีอสุรา
|
ฯ ๒ คำ เชิด ฯ
|
|
๏ ฝ่ายทศกัณฐ์เห็นพาลี | | อ้ายนี่สิด้บสังขาร
|
หรือหนุมานแปลงมา | | ก็เข้าเข่นฆ่าดูกำลัง
|
ฯ เชิด ๒ คำ ฯ
|
|
๏ ฝ่ายพาลีโผนโจนรับ | | จับกุมกันตามโอหัง
|
ฯ เชิด ฯ
|
|
พาลี
|
๏ ฟัดผลัดก้นตีด้วยกำลัง | | สนั่นทั้งสามภพธาตรี
|
ฯ เชิด ฯ
|
|
๏ สองฝ่ายเหน็ดเหนื่อยรอรา | | ยักษาพุ่งหอกรังสี
|
ทิ่มแทงไม่ถูกพาลี | | อสุรีแข็งขืนชิงช้ย
|
ฯ ๒ คำ เชิด ฯ
|
|
๏ ฝ่ายพาลีอ่านคาถา | | เรียกกำลังอสุรามาได้
|
ตามพรพระเจ้าโลกาไกร | | ชิงชัยสัประยุทธ์อสุรี
|
ฯ เชิด ๒ คำ ฯ
|
|
๏ ฝ่ายทศเศียรเสียกำลังกึ่ง | | ขึงขืนเข้าชิงชัยศรี
|
ฯ เชิด ฯ
|
|
๏ หิวโหยโรยแรงอสุรี | | เหาะหนีมานครลงกา
|
ฯ ๒ คำ เชิด ฯ
|
|
พาลี
|
๏ ฝ่ายเทพพาลีตามติด | | ไล่กระชิดประจัญยักษา
|
ฯ เชิด ฯ
|
|
๏ ระว้งเพลิงเถกิงกาลา | | ก็กลับมาดับอัคคี
|
ฯ ตระ ฯ
|
|
๏ เอารูปโยนลงคงคา | | เสร็จพาฝูงเทพกระบี่ศรี
|
เหาะมาไกรลาศคีรี | | ยังที่ประชุมเทวา
|
ฯ แพละน้อย ๔ คำ ฯ
|
|
พระอินทร์
|
๏ ฝ่ายเทวะออกต้อนรับ | | บ้างอัภิวันท์หรรษา
|
บ้างจุมพิตพักตร์สะปรีดา | | พากันเข้าไปเฝ้าพลัน
|
ฯ ๒ คำ เสมอ ฯ
|
|
ช้า ปี่รับ
|
๏ เมื่อนั้น | | พระเจ้าโลกาไกรไอศวรรย์
|
เห็นพาลีเทพเทวัญ | | ก็บัญชาแจ้งกิจจา
|
ซึ่งไปทำลายพิธี | | มนตร์นี้กูให้ยักษา
|
ครั้งลัสเตียนพรหมา | | บิดาอ้ายท้าวทศกัณฐ์
|
หากเทพบุตรพาลี | | ภักดีต่อเทวะสรวงสวรรค์
|
หาไม่ไม่ชนะกุมภัณฑ์ | | พ้นสามวันม้วยมรณา
|
นี่แน่ฝูงเทพอาดูร | | คุณพาลีอยู่ทั่วหน้า
|
พาลีเจ้าเหน็ดเหนื่อยมา | | จงลีลาไปวิมานชัย
|
ฯ ๘ คำ ฯ
|
|
ร่าย
|
๏ ฝ่ายเทพพาลีเทวัญ | | ชวนกันประณตประณมไหว้
|
กราบลาอิศวรท่านไท | | กลับไปวิมานอาตมา
|
ฯ โคมเวียน ๒ คำ ฯ
|
| | |
|
ทศกัณฑ์คิดว่าพิเภกเป็นต้นคิดทำลายพิธี ยกรบพระรามหมายฆ่าพิเภก
|
๏ มาจะกล่าวบทไป | | ถึงไททศเศียรยักษา
|
พ่ายแพ้พาลีหนีมา | | เข้านครลงกากรุงไกร
|
ฯ เสมอ ฯ
|
|
๏ จึ่งบอกมณโฑมเหสี | | ดูกรแก้วพี่พิสมัย
|
ฯ ครวญ ฯ
|
|
๏ พี่เสียพิธีเรึองชัย | | อัศจรรย์ใจพ้นปัญญา
|
ด้วยพาลีสิตายแล้ว | | น้องแก้วเอ๋ยกลับมาเข่นฆ่า
|
เข้าดับเพลิงเถกิงกาลา | | ตัวพี่คิดว่าหนุมาน
|
เกลือกเป็นอุบายถ่ายเท | | เล่ห์กลพิเภกเดียรฉาน
|
ผิดไปมิใช่หนุมาน | | ก้านลำพญาพาลี
|
ฯ ครวญ ฯ
|
|
๏ นี่และพี่อัศจรรย์ใจ | | หรือไทอิศวรรังสี
|
ชุบองค์พญาพาลี | | มีนํ้าจิตต์ชังพี่ยา
|
เพื่อจะให้พี่แพ้ราเมศ | | เหตุนี้สงสัยหนักหนา
|
โอ้ว่าแก่นแก้วแววตา | | สร้อยฟ้าจะเห็นประการใด
|
ฯ ๑๒ คำ ฯ
|
|
๏ เมื่อนั้น | | มณโฑคิรีศรีใส
|
ฯ ครวญ ฯ
|
|
๏ ทูลผัวตัวบอกความไป | | อย่าสงสัยพระเจ้าโลกา
|
พระองค์ทรงโลกธาตรี | | หรือจะมีนํ้าจิตต์ริษยา
|
ดีร้ายหนุมานแปลงมา | | พญาพิเภกแนะให้ราวี
|
หาไม่ที่ไหนจะรู้แห่ง | | แจ้งด้วยพิเภกยักษี
|
จึ่งได้ไปล้างพิธี | | เช่นนี้ทำลายหลายครา
|
โอ้อนิจจาพิเภกเอ๋ย | | กะไรเลยแกล้งฆ่าวงศา
|
ไม่คิดว่าเป็นพงศ์มา | | ปลงวิญญาณ์ไปด้วยลิงไพร
|
แม่นมั่นไม่มีอาวรณ์ | | จึ่งไปเป็นหนอนบ่อนไส้
|
เมื่อฉะนี้จะไว้มันไย | | มิสังหารให้มรณา
|
อันจะคิดกิจการต่อตี | | พระสามีจงฟังคำข้า
|
ทำไมกับลักษมณ์รามราชา | | ไม่มีฤทธาเดินดิน
|
เชี่ยวชาญแต่ด้วยธนูศร | | สัญจรอยู่ในพนาสิน
|
หากได้พิเภกวานริน | | หาไม่จะกินนํ้าตาตาย
|
มาดแม้นมิฆ่าพิเภกก่อน | | ไหนรามวานรจะฉิบหาย
|
พระจงสังหารน้องชาย | | ตายแล้วจะชนะไพรี
|
ฯ ๑๖ คำ ฯ
|
|
๏ ขอบเอยพี่ขอบใจ | | อำไพเยาวะมิ่งมารศรี
|
พี่จะทำตามนุชนารี | | เหม่อ้ายพิเภกอสุรา
|
มันไม่คิดกูผู้เผ่าพงศ์ | | พี่จะตั้งใจจงเข่นฆ่า
|
ทรงหอกกบิลพัทไคลคลา | | ออกมาตระเตรียมทัพพลัน
|
ฯ คุกพาทย์ ฯ
|
|
ยานี
|
๏ ตร้สให้มหิตันเป็นทัพหน้า | | เอาเปาวนาสูรเป็นทัพขัน
|
เกนเอาย้กษากุมภัณฑ์ | | แข็งขันสามร้อยสมุดตรา
|
เกนวรนีสูรเป็นปีกซ้าย | | ให้วิรุฬปักกันเป็นปีกขวา
|
คุมพลแสนสมุดตรา | | รอราเคียงทัพหลวงไป
|
อันซึ่งเกียกกายยุกระบัตร | | จัดให้มโหทรเป็นใหญ่
|
ก้บวรไกรสูรชาญชัย | | ให้พลคนละแสนสมุดตรา
|
เกนเอาเสนาเสนี | | ยักษายักษีแกล้วกล้า
|
มั่นคงดิบดีวิทยา | | ห้าโกฏิสมุดเคียงรถไป
|
แล้วกำชับดาบสองมือ | | มึงฮือเข้าฟันติดไล่
|
อันพลปืนสองข้างไซร้ | | ให้ขนาบบุกบั่นฟันมา
|
ฝ่ายพลม้าวางวู่ | | จู่โจมหน้าหลังเข่นฆ่า
|
ฝ่ายพลคาบศิลา | | ราแย้งยิงให้แม่นยำ
|
ต่อพลเหล่านี้เข้าบุก | | จึ่งให้รุกข้างเข้าซ้ำ
|
กองหลวงกองหลังตระหนํ่า | | ซํ้าเติมด้วยปืนใหญ่ไป
|
แน่มึงบอกแก่พลรบ | | ให้ตลบหลังมาจงได้
|
แหวกช่องที่จะวางปืนไป | | อย่าให้บังหน้าปืนมา
|
หนึ่งมาดแม้นศึกพ่ายพัง | | จึ่งถั่งตามติดเข่นฆ่า
|
ย่อท้อให้ลงพระอาชญา | | กูจะกรีธาท้พบัดนี้
|
ฯ ๒๒ คำ เจรจา ฯ
|
|
ร่าย
|
๏ ฝ่ายแสนเสนาเตรียมทัพ | | สรรพทั้งพยุหชัยศรี
|
กลับเข้ามาทูลทันที | | บัดนี้พร้อมแล้วพระราชา
|
ฯ ๒ คำ เจรจา ฯ
|
|
โทน
|
๏ เมื่อนั้น | | ทศเศียรสุริวงศ์ย้กษา
|
ชำระสระสรงทรงทา | | ทรงภูษาพรรณรูจี
|
ทรงมงกุฎสังวาลเสร็จสรรพ | | จบหอกกบิลพัทรังสี
|
สิบเศียรสิบพักตร์อสูรี | | ทรงธนูศรศรียี่สิบกร
|
บั้นพระองค์ทรงขัดสาตรา | | พระพาหาสะพักแล่งแสงศร
|
โชติช่วงดั่งดวงทินกร | | กระจายจรกรรเจียกแววไว
|
เลิศแล้วแก้วเก้าทบทรวง | | พื้นพวงสว่างชายไหว
|
ชายแครงแสงศรีวิไล | | อำไพพาหุร้ดเพราตา
|
ธำมรงค์ละองค์ไพจิตร | | พึงพิศทองพระกรซ้ายขวา
|
ดั่งพระกาลสนุนาถยาตรา | | ลีลามาขึ้นรถชัย
|
ฯ ๑๐ คำ เพลง บาทสกุณี ฯ
|
|
โทน
|
๏ รถเอยราชรถทรง | | กงกำแกมแก้วสุกใส
|
งอนแอกบะเเหรกวิไล | | ฉัตรชัยวิจิตรเจษฎา
|
เพลาเพชรเก็จแกมหน้าหลัง | | บังใบล้วนนิลวัตถา
|
พระที่นั่งดั่งจะเลื่อนลอยฟ้า | | ระย้าระย้อยพลอยพราย
|
อับภิรมกันภิรมย์เศวตฉัตร | | จูลจำรัสจัดแจ่มพระสุริย์ฉาย
|
เครื่องแห่คับคั่งยั่งย้าย | | ผาดผายเลื่อนลอยเมฆา
|
พร้อมด้วยเสนาสามนต์ | | เกลื่อนกล่นกันไปซ้ายขวา
|
อัดอึงคะนึงภารา | | กรีธาไปสมรภูมิพลัน
|
ฯ กราว เชิด ๘ คำ ฯ
|
|
ช้า
|
๏ มาจะกล่าวบทไป | | ถึงไทนารายณ์ไอศวรรย์
|
ครั้นใกล้ไขสีรวีวรรณ | | อัศจรรย์ใจถามพิเภกไป
|
ดูดุะพิเภกฟังเสียง | | สำเนียงโยธาหรือไฉน
|
ครึกครั่นลั่นป่าพนาลัย | | คือใครยกมาอสุรี
|
|
ร่าย
|
๏ พิเภกบังคมทูลพลัน | | คือท้าวทศกัณฐ์ยักษี
|
กริ้วโกรธข้าบาทเบื้องธุลี | | เพราะอี่มณโฑเจรจา
|
เหตุทศกัณฐ์ทำพิธี | | ที่เชิงพระเมรุภูผา
|
มันจะฆ่าฝูงเทพเทวา | | สุราลัยทูลพระศุลี
|
จึ่งให้พาลีเทวบุตร | | ไปยงยุทธ์ชนะยักษี
|
ทศก้ณฐ์ก็ได้ต่อตี | | แพ้หนีมาบอกภรรยา
|
มณโฑมันว่าหนุมาน | | แสร้งว่าดีฉานให้เข่นฆ่า
|
เปล่าเปล่ามันเอาเจรจา | | ยักษาจึงโกรธฟูนไฟ
|
บัดนี้มันตั้งใจมา | | จะเข่นฆ่าช้าให้ตักษัย
|
ด้วยหอกกบิลพัทเรืองชัย | | พระภูวน้ยจงช่วยชีวา
|
ฯ เจรจา ๑๔ คำ ฯ
|
|
๏ เมื่อนั้น | | พระรามบุญเรืองเฟื่องฟ้า
|
เอื้อนอรรถองการบัญชา | | มันจะฆ่าพิเภกกลใด
|
ดูกรเจ้าลักษมณ์อนุชา | | น้องยาจงช่วยแก้ไข
|
ป้องกันพิเภกร่วมใจ | | อย่าให้อัปยศไพรี
|
เร่งเร็วหนุมานสุครีพ | | รีบรัดจัดพลกระบี่ศรี
|
กูจะยกออกไปต่อตี | | เตรียมจัดบัดนี้อย่าช้า
|
ฯ ๖ คำ ฯ
|
|
๏ เมื่อนั้น | | สองกระบี่รับสั่งใส่เกศา
|
ออกมาตรวจเตรียมโยธา | | กะเกนเข้าเป็นทัพพลัน
|
เกนให้สุรเสนเป็นทัพหน้า | | ปีกขวานั้นเอานิลขัน
|
ปีกซ้ายเอานิลปักกัน | | กองขันนิลราชฤทธี
|
ยุกกระบัตรเอานิลกำแหง | | แต่งกองพยุหชัยศรี
|
เข้าซุ่มอยู่ในพนาลี | | ได้รบให้ตีตลบมา
|
ไชยามพวานถือธงชัย | | ให้โบกแกว่งไกวไปหน้า
|
แบ่งพลเจ็ดสิบสมุดตรา | | ซ้ายขวาหน้าหลังเท่ากัน
|
อันอัษฎาทัศวานร | | เคียงข้างรถจรผายผัน
|
ข้าศึกหน้าไหนให้บุกบั่น | | เสร็จพลันเข้าทูลภูมี
|
ฯ แพละน้อย ฯ
|
|
|
๏ อันซึ่งพหลสกลไกร | | สำหร้บพยุหชัยศรี
|
กะเกนครบแล้วภูมี | | จงแจ้งธุลีบาทา
|
ฯ ๑๒ คำ ฯ
|
|
โทน
|
๏ เมื่อนั้น | | พระรามบุญเรืองเฟื่องฟ้า
|
จึ่งชวนพระศรีอนุชา | | ลีลาลงสรงวารี
|
แล้วทรงภูษาอ่าองค์ | | บรรจงชายแครงแสงศรี
|
ชายไหวละไมรูจี | | จีบจับทับศรีสนับงอน
|
รัดพระองค์แล้วทรงมงกุฎเก็จ | | เพชรระยับจับแล่งแสงศร
|
สะพักสะพายคล้ายดวงทินกร | | กระจายจรกรรเจียกเพราตา
|
อีกทั้งทับทรวงพระขรรค์แก้ว | | วาวแววพาหุรัดซ้ายขวา
|
สี่กรสนุนาถยาตรา | | ชวนน้องมาขี้นรถไป
|
ฯ เพลง ๘ คำ ฯ
|
|
โทน
|
๏ รถเอยราชรถนิล | | อมรินทร์บรรจงมาให้
|
สองรถยศยิ่งอำไพ | | ไตรภพไม่เปรียบเทียบปูน
|
สำหรับนารายณ์อวตาร | | ได้ขี่ปราบมารอิสูร
|
เลิศแล้วแก้วเก้าไพบูลย์ | | จูลจำรัสจัดแจ่มแอร่มฟ้า
|
ดุจดั่งบรมพรหมเมศ | | เรืองเดชสิทธิศักดิ์หนักหนา
|
ลอยเลื่อนละลิ่วปลิวมา | | กรีธาไปสมรภูมิพลัน
|
ฯ ๖ คำ เชิด ฯ
|
|
| | |
|
พระลักษมณ์ถูกหอกทศกัณฑ์ พิเภกบอกวิธีแก้
|
ร่าย
|
๏ พอเหลือบเห็นทัพอสุรี | | ภูมีให้แยกพลขันธ์
|
เข้าแอบอยู่แทบไพรวัน | | กองขันให้มั่นต่อตี
|
จึ่งแต่งกระบี่ออกล่อ | | มึงไปตัดพ้อยักษี
|
มาดแม้นมันโถมโจมตี | | กระบี่ขนาบข้างมา
|
ฝ่ายกองทหารออกล่อ | | ตัดพ้อเยาะเย้ยยักษา
|
โกนก้องร้องโดยอหังการ์ | | หยาบช้าว่ากล่าวพาที
|
ฯ กราวรำ เจรจา ๖ คำ ฯ
|
|
๏ ทศกัณฐ์ครั้นเห็นก็เดือดดาล | | ทะยานเข้าชิงชัยศรี
|
ปีกป้องกองหน้าเข้าราวี | | อสุรีผลันผลุนชิงชัย
|
ฯ เชิด ฯ
|
|
๏ ไล่กระบี่ตีตามฟัดฟาด | | ผาดโผนโจนติดกระชิดไล่
|
วานรล้มตายพ่ายไป | | ไล่ตามหํ้าหั่นไพรี
|
ฯ เชิด ๔ คำ ฯ
|
|
๏ พระรามก็ยอทัพแดก | | แยกกองรุกรบยักษี
|
ฝ่ายกองแอบในพนาลี | | ก็ตีขนาบข้างมา
|
ฯ เชิด ฯ
|
|
วานร
|
๏ กลับรบหมู่มารพังพ่าย | | ล้มตายมอดม้วยสังขาร
|
ไล่รุกบุกบั่นฟันมา | | โกลาหะลังเป็นโกลี
|
ฯ เชิด กราวรำ ๔ คำ ฯ
|
|
๏ ฝ่ายเปาวนาสูรโกรธจับ | | สัประยุทธ์สุรเสนกระบี่ศรี
|
๏ องคตเข้าช่วยราวี | | ตียักษีเจ็บหนีไป
|
ฯ เชิด ๒ คำ ฯ
|
|
๏ ทศเศียรทรงพาลจ้นท์แผลง | | เรี่ยวแรงเรืองฤทธิ์ติดไล่
|
ทีเดียวพันเล่มเต็มไป | | ต้องวานรไพรดาษดา
|
ฯ เชิด ๒ คำ ฯ
|
|
๏ พระรามแผลงจันทวาทิตย์ | | ไล่ติดสังหารยักษา
|
ตายกลาดเกลื่อนเต็มพสุธา | | อสุรามอดม้วยชีวี
|
ฯ เชิด ฯ
|
|
๏ บรรดาวานรล้มตาย | | ต้องพระพายเป็นทั่วกระบี่ศรี
|
ฯ ตระ ฯ
|
|
๏ กลับผลุนผลันเข้าคืนตี | | ราวีจนหน้ารถชัย
|
ฯ เชิด ๔ คำ ฯ
|
|
๏ ฝ่ายทศกัณฐ์มุ่งมาด | | พาดสายศิลป์แผลงผลาญไล่
|
ตึงเปรี้ยงเสียงสนั่นลั่นไพร | | ศรไม่สังหารรามา
|
กลับแผลงผลาญล้างวานร | | ฝ่าพลนิกรเข่นฆ่า
|
ฮึกฮักกล่าวคำอหังการ์ | | อสุราแลดูพิเภกไป
|
ครั้นเห็นก็ร้องก้องด่า | | อ้ายน้องยาฟังแถลงไข
|
ดูกรพิเภกจังไร | | กูไซร้ได้เลี้ยงมึงมา
|
มึงไม่คิดกูผู้เผ่าพงศ์ | | ตั้งใจแต่ฆ่าวงศา
|
แกล้งบอกเล่ห์กลรามา | | อสุราเกือบสิ้นเวียงชัย
|
ถึงมึงได้ผ่านภารา | | จะได้ไพร่ฟ้ามาแต่ไหน
|
เสนียักษีบรรลัย | | กูจะฆ่าให้ตายบัดนี้
|
ก็ชักรถไล่สะพัด | | กวัดแกว่งรำหอกรังสี
|
ฯ เชิด ฯ
|
|
๏ พิเภกหลบหอกอสุรี | | พระศรีอนุชาช่วยรา
|
ฯ ๑๒ คำ ฯ
|
|
๏ พระศรีอนุชาก็แผลงผลาญ | | พระอวตารก็ยิงยักษา
|
ฯ เชิด ฯ
|
|
๏ ถูกทศกัณฐ์อสุรา | | อ่านคาถาลูบหายไป
|
|
ทศกัณฐ์
|
๏ กลับชักรถเข้าสะพัด | | ซัดแผลงศรซ้ำตระหนํ่าไล่
|
ได้ทีพุ่งหอกรังสีไป | | ไล่ไซ้พิเภกอสุรา
|
ฯ เชิด ๔ คำ ฯ
|
|
๏ พิเภกหลบแอบรถพระลักษมณ์ | | หอกปักตรวยลงรัถา
|
ถูกองค์พระศรีอนุชา | | สลบอยู่บนรถชัย
|
ฯ เชิด โอด ปี่พาทย์ไทย ฯ
|
|
๏ ฤทธิแรงแสงหอกต้องถูก | | ลูกลมทั้งปวงม้วยไหม้
|
๏ พระรามกริ้วโกรธฟูนไฟ | | รุกไล่ผลาญยิงพญามาร
|
ฯ เชิด ฯ
|
|
๏ ถูกทศกัณฐ์ลูบด้วยมนตร์ | | หายกลับผจญแผลงผลาญ
|
ฯ เชิด ฯ
|
|
๏ มิได้ถูกองค์อวตาร | | ชักรถทะยานเข้าราวี
|
ฯ เชิด ๖ คำ ฯ
|
|
๏ ฝ่ายพวกกระบี่รี่รับ | | กับอวตารต่อยักษี
|
ฯ เชิด ฯ
|
|
๏ หมู่มารก็เข้าราวี | | ตีตลุมบอนกันไปมา
|
ฯ เชิด ๒ คำ ฯ
|
|
๏ ฝ่ายพลมารพ่ายพัง | | ยังแต่ทศพักตร์ยักษา
|
พอคํ่ายํ่าแสงสุริยา | | ล่าทัพถอยหลบหนีไป
|
ฯ เชิด ๒ คำ ฯ
|
|
๏ พระรามก็ชักรถติด | | กระชิดผจญพลไล่
|
ฯ เชิด ฯ
|
|
๏ ระวังน้องซึ่งต้องหอกชัย | | กลับไปแก้ไขชักสาตรา
|
ฯ โอด ครวญ ฯ
|
|
๏ อาวุธก็ไม่เลื่อนหลุด | | พระทรงภุชขัดแค้นยักษา
|
นํ้าพระเนตรคลอหน่วยนัยนา | | โกรธาสะท้อนวาที
|
รีบเร็วพิเภกดูพลัน | | หรืออาสัญแล้วยักษี
|
เราจะแก้ฉันใดได้ดี | | พิเภกเอ๋ยเร่งบอกไป
|
ฯ ๖ คำ ฯ
|
|
๏ ฝ่ายพญาพิเภกกราบทูล | | พระอนุชายังหาดับสูญไม่
|
เมื่อบิดาข้าให้หอกชัย | | แก่ไทไอ้ท้าวทศกัณฐ์
|
เธอตรัสว่าสาตรานี้ | | ของพระศุลีรังสรรค์
|
ให้ไว้ปราบคนอาธรรม์ | | สรวงสวรรค์ไม่ต้านต่อตี
|
เมื่อไรนารายณ์อวตาร | | น้องภูบาลต้องหอกยักษี
|
จึ่งให้เอาสังกรณี | | กับตรีชวาต้นตู่ต้ว
|
เก็บมาทั้งรากทั้งใบ | | ให้ขุดลงไปเอาทั้งหัว
|
ประสมกันเข้ากับขี้วัว | | ต้วพาหนะพระศุลี
|
มีอยู่ที่ถ้ำอินทกาล | | ก้บสถานสัญชีพพนาศรี
|
ข้ามทวีปมะรอกโคกึ่งยานี | | มีฤทธีไปจึ่งได้มา
|
ตำราว่าหาวเป็นดาวเดือน | | เหมอืนอโณทัยไปได้ดั่งว่า
|
แต่เห็นก็ร้องเจรจา | | ขอให้พญาหนุมานไป
|
แล้วจึ่งลงเอาศิลา | | สำหรับบดทาแก้ไข
|
แม่หินอยู่เมืองนาคาไสร้ | | ลูกหินอยู่ในลงกา
|
ณที่ปราสาททศกัณฐ์ | | มันทำเขนยรองเกศา
|
อย่าให้ข้ามแสงสุริยา | | ถ้าบดทาแล้วจะเป็นพลัน
|
ฯ ๑๖ คำ ฯ
|
|
| | |
|
หนุมานหายาแก้พระลักษมณ์ให้ฟื้น ผูกผมทศกัณฐ์ติดกับนางมณโฑ
|
๏ พระรามก็สั่งทันใด | | ให้หนุมานผายผัน
|
๏ หนุมานรีบสั่งจรจรัล | | เหาะข้ามเขตขัณฑ์มิช้า
|
ฯ ๒ คำ เชิดปฐม ฯ
|
|
๏ ครั้นถึงสญชีพอินทกาล | | หนุมานก็ลงค้นหา
|
ฯ แพละน้อย ฯ
|
|
ยานี
|
๏ ฝ่ายเทพรักษาเจรจา | | ทรัพยาก็ร้องวาที
|
ฯ เจรจา ฯ
|
|
ร่าย
|
๏ หนุมานจึ่งกล่าวพจมาน | | น้องอวตารต้องหอกยักษี
|
ให้เอามูลโคสังกรณี | | กับตรีชวาต้นตู่ตัว
|
ฯ ๔ คำ ฯ
|
|
๏ เทวาก็บอกทันใด | | ให้ขุดลงไปเอาทั้งหัว
|
ฯ ใช้เรือ ฯ
|
|
๏ แล้วพาไปเอาขี้วัว | | ชี้ตัวท่าถ้ำมิช้า
|
ฯ แพละน้อย ฯ
|
|
๏ หนุมานครั้นถึงจึ่งโผนผาด | | องอาจเข้าถํ้าคูหา
|
เผือกผ่องพึงพิศเจษฎา | | อ้าโอษฐ์มีเดือนดาวตะวัน
|
ทรงกุณฑลเขี้ยวแก้วมาลัย | | ขนเพชรอำไพเฉิดฉัน
|
ดุจดังไขสีรวีวรรณ | | จรจรัลเข้าถ้ำมิช้า
|
ฯ เสมอ ๖ คำ ฯ
|
|
๏ ฝ่ายพระโคอัศจรรย์ถาม | | ออกนามหนุมานอาสา
|
ตามสาปพระเจ้าโลกา | | ถ้าปรารถนามูลจงเอาพลัน
|
ฯ เจรจา ๔ คำ ฯ
|
|
๏ หนุมานก็เข้าไปเอา | | แล้วลาโคเจ้าผายผัน
|
ฯ กลม ฯ
|
|
๏ ชำแรกลงแจ้งนาคาพลัน | | พระทรงธรรม์ให้เอาแม่ศิลา
|
ฯ เจรจา ๒ คำ ฯ
|
|
๏ ฝ่ายกาลนาคก็ส่งให้ | | เข้าใจว่าต้องหอกยักษา
|
ตามประเวณีไวยกุณฑ์มา | | อย่าช้าท่านเร่งจรลี
|
๏ หนุมานก็พามาพลัน | | เข้ายังเขตขัณฑ์ยักษี
|
ฯ กลม ฯ
|
|
๏ ขึ้นยอดปราสาทเสี่ยงวาที | | ขว้างศิลาไว้โพยมบน
|
ตรงนพศูลพรหมพักตร์ | | หักนิมิตลงทำอกุศล
|
ละเอียดแอบเข้าแนบไพชยนต์ | | คอยประจญจะลักลูกศิลา
|
ฯ ตระ ๖ คำ ฯ
|
|
ร่าย
|
๏ มาจะกล่าวบทไป | | ถึงไททศเศียรยักษา
|
ซึ่งแพ้พ่ายกระจายแตกมา | | ลัดป่างมงายเข้ากรุงไกร
|
ฯ ใช้เรือ ฯ
|
|
๏ จึ่งบอกมณโฑคิรี | | แก้วพี่เยาวะมิ่งพิสมัย
|
ฝ่ายพี่พุ่งหอกเรืองชัย | | ไปสังหารพิเภกอสุรา
|
มันแอบเคียงข้างรถลักษมณ์ | | หอกปักตรวยลงรัถา
|
ถูกองค์ลักษมณ์น้องรามา | | มรณาอยู่บนรถชัย
|
|
๏ เจ้าเอยเจ้าพี่ | | มารศรีผู้ยอดพิสมัย
|
อันลักษมณน้องรามเรืองชัย | | เห็นไม่กลับคืนเป็นมา
|
ต่อได้ศิลาที่เมืองนาค | | กับยาหายากหนักหนา
|
ลูกศิลานี้แน่กัลยา | | ได้ไปบดทาจึ่งเป็นคืน
|
อันทรัพยาอยู่ไกล | | ที่ไหนจะแก้ไขฟื้น
|
อย่าสงสัยที่จะได้ชีวิตคืน | | ก็ชื่นเริงเข้าสนิทนิทรา
|
ฯ โลม ปี่พาทย์ ๑๒ คำ ฯ
|
|
๏ หนุมานซึ่งแอบเข้าสะกด | | หลับหมดแล้วถมคาถา
|
กริ้วโกรธกล่าวคำอหังการ์ | | เงื้อง่าใคร่ฆ่าทศก้ณฐ์
|
เอะแล้วจะผิดกระมัง | | ไม่มีรับสั่งให้ห้ำหั่น
|
อย่าเลยกูจะผูกผมมัน | | ประกบกันให้อายเทวา
|
จึ่งชักผมเมียผูกผัว | | เหม่อ้ายคนชั่วริษยา
|
จารึกแล้วเสกด้วยมนตรา | | ต่อภรรยาชกจึ่งหลุดพลัน
|
สาปพลางทางชักเอาลูกหิน | | ปลิ้นจากนิเวศเขตขัณฑ์
|
พาเอาแม่หินจรจรัล | | พลันมาถวายมิช้า
|
ฯ เดียว ๘ คำ ฯ
|
|
๏ ฝ่ายข้างพระรามเห็นชี้ | | มาแล้วพิเภกยักษา
|
หนุมานถึงจึ่งถวายยา | | ได้มาครบแล้วภูมี
|
ฯ เจรจา ๒ คำ ฯ
|
|
๏ พระรามจึ่งให้บดทา | | ตามตำราพิเภกยักษี
|
๏ พิเภกก็บดทันที | | พอกทาพระศรีอนุชา
|
ฯ ตระ ฯ
|
|
๏ ซึ่งอาวุธนั้นก็หลุดเลื่อน | | เหมือนหนึ่งถ้อยคำพิเภกว่า
|
ช่วยกันชะโลมโซรมทา | | สาตราหลุดแล้วเป็นพลัน
|
ฯ ตะบองกัน ๔ คำ ฯ
|
|
๏ พระรามก็ให้โห่เอาฤกษ์ | | เอิกเกริกไปถึงสรวงสวรรค์
|
ลือลั่นสนั่นไพรกัน | | ก็เลิกพลขันธ์กลับพลับพลา
|
ฯ เชิด ๒ คำ ฯ
|
|
๏ มาจะกล่าวบทไป | | ม้าใช้คอยเหตุยักษา
|
ครั้นเห็นทัพกลับพลับพลา | | อสุรามาแจ้งเสนี
|
ฯ เชิด ฯ
|
|
๏ บัดนี้ทัพลักษมณ์รามา | | เลิกกลับไปพลับพลาศรี
|
นายใหญ่อ้ายถึงชีวี | | ที่ต้องรังสีหอกชัย
|
พวกม้นได้ยามาแก้พิษ | | หาถึงแก่ชีวิตไม่
|
พากันเลิกพลสกลไกร | | พึ่งยกคืนไปบัดนี้
|
ฯ ๖ คำ ฯ
|
|
๏ มโหทรจึ่งบอกเข้าไป | | ชาวในนิเวศสาวศรี
|
ก็ทูลแถลงคดี | | ตามอันซึ่งมีกิจจา
|
ฯ เจรจา ๒ คำ ฯ
|
|
ไทย
|
๏ ทศพักตร์กับอัครมเหสี | | ตื่นตระหนกจากที่สหัสา
|
ผวาคร่าดึงไปมา | | เกศาไม่หลุดจากกัน
|
ดิ้นเดือดกระชากยิ่งขึง | | รังรึงเหนียวติดแน่นมั่น
|
โกรธหัวผัวเมียทะเลาะกัน | | เชือดฟันด้วยมีดเป็นโกลี
|
ฯ คุกพาทย์ ระบำเทศ ๒ ทีฯ
|
|
๏ เถือเท่าใดเท่าใดไม่ขาด | | ประหลาดเส้นเกศเกศี
|
อัศจรรย์พลันดูทันที | | ศิลาเขนยหายไป
|
อีกนพศูลพรหมพักตร์ | | เหินหักโปร่งฟ้าแขไข
|
|
โอ้ร่าย
|
๏ เจ้าพี่จะคิดประการใด | | มิภัยแล้วหรือกัลยา
|
ฯ ครวญ ๘ คำ ฯ
|
|
๏ มณโฑทูลว่าแม่นแท้ | | ข้าศึกมาแต่พระเวหา
|
สองกษัตริย์กำหนัดโศกา | | โอ้ว่าจะคิดไฉนดี
|
|
| | |
|
ทศกัณฐ์ให้ตามฤษีโคบุตรมมาช่วย
|
ยานี
|
๏ ทศกัณฐ์จึงสั่งสาวใช้ | | มึงเร่งไปบอกยักษี
|
พลันให้นิมนต์มุนี | | โคบุตรฤษีเข้ามา
|
|
ร่าย
|
๏ สาวใช้รับสั่งวางวู่ | | ร้องขู่ร้องเข็นให้หา
|
นาง
|
ฯ เจรจา ฯ
|
|
ชาย
|
๏ ฝ่ายหมู่เด็กเล็กอสุรา | | โกลาหะลังเป็นโกลี
|
จึ่งบังคับกันตามใช้ | | ไปนิมนต์ท่านไทพระฤษี
|
ฯ เชิด ฯ
|
|
๏ ถึงจึ่งคมคัลธุลี | | มีโองการให้นิมนต์ไป
|
ฯ เจรจา ๘ คำ ฯ
|
|
ฤษี
|
๏ ฝ่ายพระโคบุตรครั้นแจ้ง | | จัดแจงผ้าผ่อนครองใส่
|
ลั่นดาลทวารฉับไว | | พลันไปลงกามิช้า
|
ฯ เชิดปฐม ฯ
|
|
ยานี
|
๏ ถึงจึ่งดำเนินขึ้นไป | | บนนิเวศท้าวไทยักษา
|
ฯ ครวญ ฯ
|
|
ร่าย
|
๏ ทศกัณฐ์กันแสงวันทา | | นิมนต์มานี่พระอาจารย์
|
|
ยานี
|
๏ ฝ่ายพระอาจารย์ก็เข้าไป | | แสนอัศจรรย์ใจสงสาร
|
เวทนาหน้าต้องประจาน | | มินานก็อ่านหนังสือพลัน
|
ฯ ๖ คำ ฯ
|
|
ช้า
|
๏ ในลักษณะถ้าเมียไม่ชก | | ตกผมอย่าหลุดแน่นมั่น
|
ฤษีก็บอกทศกัณฐ์ | | พลันเป่ามนต์แก้เมาลี
|
ซ้ำเสกนำประสระสรง | | ประจงสางเส้นเกศี
|
ไม่หลุดผุดลุกพาที | | จับเกศีเชือดมิช้า
|
ฯ ๔ คำ ตะบองกัน ระบำเทศ ๒ ที ฯ
|
|
๏ เชือดเอยเชือดผม | | คมมีดไม่กินเส้นเกศา
|
อัศจรรย์ฤษีมีบัญชา | | สุดปัญญากูอสุรี
|
ฯ ๒ คำ ฯ
|
|
ร่าย
|
๏ ทศกัณฐ์จึ่งสั่งเมียไป | | ท้าไมเจ้าไม่ชกพี่
|
|
ร่าย
|
๏ มณโฑษมาสามี | | ชกศีรษะหลุดโศกา
|
ฯ ๒ คำ ฯ
|
|
โอ้บูชากุณฑ์
|
๏ พระทูลกระหม่อมจอมโลก | | เมียแสนโศกอายสหัสา
|
ทำไมกับอีสีดา | | มิส่งมิฆ่ามันไป
|
ให้สิ้นทิละโทษที่เหม็น | | ล้างจิตต์ซึ่งเป็นปัถมัย
|
ระงับราคินกินใจ | | อับภ้ยพิลึกโลกา
|
แม้นมีผู้พาลโพยภัย | | จะอวยให้พระพรทุกทิศา
|
จะเข้าด้วยรวยไปทั้งท้องฟ้า | | สัตยาเที่ยงธรรม์ไม่พรั่นใจ
|
นี่สิก่อกรรมทำเภท | | มานำเหตุทิละโทษใส่
|
เออนี่ทำนี่อย่างไร | | ค้อนพลางทางไห้โศกา
|
ฯ ๘ คำ ฯ
|
|
ชาตรี
|
๏ ทศกัณฐ์ปลอบพลางทางชม | | สร้อยสยมภูฟังพี่ว่า
|
อรุณรุ่งอย่าฟุ้งบัญชา | | สุดาฟังพี่พาที
|
ที่เป็นก็เป็นล่วงแล้ว | | น้องแก้วอย่าหม่นหมองศรี
|
ช่วยก้นคิดกิจพิธี | | ศรีศุภลักษณ์อย่าโศกา
|
มาให้ดาบสรดน้ำ | | สะเดาะเคราะห์กรรมดีกว่า
|
แล้วพี่จะฆ่าสีดา | | สร้อยฟัาอย่ากังขาใจ
|
ฯ ๖ คำ ฯ
|
|
ร่าย
|
๏ ว่าพลางนิมนต์พระฤษี | | จงพระมุนีช่วยแก้ไข
|
ลอยบาปลอยกรรมทำไป | | แผ้วภัยให้พ้นข้าสองรา
|
ฯ ชมตลาด ๒ คำ ฯ
|
|
๏ เมื่อนั้น | | พระโคบุตรฤษีชีป่า
|
หุดิเพลิงเถกิงกาลา | | โดยเวทคาถามุนี
|
แล้วลอยบาปลอยกรรม | | ทำตามมนต์ดลฤษี
|
สะเดาะเคราะห์แผ้วไพรี | | หุดีกุณฑ์กองวิทยา
|
ครั้นถ้วนสามคาบอาบสรง | | เสกคงคารดสามท่า
|
อวยชัยให้พรโกลา | | อลังการ์ลอยบาปพลัน
|
ฯ สะระบุหรง ๖ คำ ฯ
|
|
๏ ลอยเอยลอยบาป | | พ้นถ้อยคำสาปคำสัน
|
หมดเวรเกนกรรมผูกพัน | | สิ้นกันแต่วันนี้ไป
|
เลิกทิ้งทศจิตต์ผิดผวน | | แปรปรวนคุรุถ้อยน้อยใหญ่
|
อีกกายกรรมมโนใน | | ไล่ล้างทวาอารมณ์
|
เป็นเอกอันเอกันตะ | | สะเดาะสดะปละเภทพอเหตุสม
|
โดยเชาวญาณอารมณ์ | | สมปองคลองน้อมวิถีใจ
|
เอารูปลอยลงในน้ำ | | เป็นสักขีคำแถลงไข
|
ธูปเทียนบูชาษมาไป | | ใสออกบอกว่าเสร็จการ
|
แล้วจึ่งอำนวยอวยชัย | | ให้เป็นใหญ่ไปทุกถิ่นฐาน
|
โพยภัยสิ่งใดอย่าได้พาน | | สำราญบานสุขทุกเวลา
|
|
ร่าย
|
๏ จึ่งถอยถ้อยกล่าวพจมาน | | ถึงพาลมาผูกเกศา
|
อสูรตำรวจตรวจตรา | | มันมาทางไหนอสุรี
|
ฯ ๑๒ คำ ฯ
|
|
๏ ทศกัณฐ์พลันบอกไปพลัน ชี้สำคัญให้พระฤษี
|
จงดูเอาเถิดพระมุนี | | ตรงช่องบะราลีขึ้นไป
|
มันถอดนพศูลพรหมพักตร์ | | ลอดลงมาลักศิลาได้
|
เข้าขโมยเขนยศิลาไป | | จนใจทีเดียวพระมุนี
|
ฯ ๔ คำ ฯ
|
|
ช้า
|
๏ พระมุนีจึ่งว่าเวรกรรม | | มันทำท่านท้าวยักษี
|
อันจะแก้ไขไปให้ดี | | ต่อกิจพิธีว่องไว
|
จึ่งจะสิ้นทิละสาปหยาบหยาม | | พยายามอนุโลมลามไหม้
|
ล้างลนอกุศลถุลจัย | | เข้าไปในเชาววิญญาณ
|
เป็นศีลสุทธ์วุฑฒิ | | หิริโดยตะทังคประหาร
|
คือบาทแห่งโคตระภูญาณ | | ประหารโทษเป็นที่หนึ่งไป
|
แล้วจึ่งทำขึ้นที่สอง | | โดยเนกขัมคลองแถลงไข
|
ก็เป็นศิลาทับระงับไป | | อับภัยพิลึกโอฬาร
|
อย่าว่าแต่พาลโพยภัย | | ปืนไฟไม่กินนะยักษา
|
ทั้งหกสวรรค์ชั้นฬา | | จะฆ่าอย่างไรไม่รู้ตาย
|
อย่าคณนาไปถึงผู้เข่นฆ่า | | แต่วิญญาณ์คิดก็ฉิบหาย
|
จะทำอย่างใดไม่รู้ตาย | | อุบายถอยตํ่าลงมา
|
อันได้เนกขัมประหารแล้ว | | คือแก้ววิเชียรไม่มีค่า
|
ทั้งฤทธิ์และจิตระวิชา | | อีกกุพนามโนมัย
|
กอปรไปด้วยโสตประสาทญาณ | | การชาติหน้าหลังระลึกได้
|
ถึงนั่นแล้วอันจะบรรลัย | | ไม่มีกะตัวถ่ายเดียว
|
อย่าประมาณแต่การเพียงนี้ | | สามภพธาตรีไม่คาเคี่ยว
|
สาปไปแต่ในนาทีเดียว | | มิทันเหลียวเนตรอสุรา
|
จะสาอะไรกัมรามลักษมณ์ | | ถึงไตรจักรทั่วทศทิศา
|
ไม่ครั่นครือฤทธิ์วิทยา | | ถ้าปรารถนาเจ้าเรียนเอา
|
ฯ ๒๐ คำ ฯ
|
|
ร่าย
|
๏ ทศก้ณฐ์ขอบคุณพระดาบส | | กำหนดไว้เหนือเศียรเกล้า
|
๏ ฝ่ายนางมณโฑก็เรียนเอา | | ก้มเกล้ากราบกรานมุนี
|
ฯ ๒ คำ ฯ
|
|
ช้า
|
๏ พระมุนีจึ่งสอนพญามาร | | เร่งให้อลังการปราสาทศรี
|
อย่าไว้ภัยหมิ่นไม่ดี | | ให้เสนีทำกลางคืน
|
ให้แล้วแต่ในราตรี | | อสุรีเร่งคิดการอื่น
|
แก้ไขเอาชัยชนะคืน | | ไว้เกียรติหมื่นโลกโลกา
|
หนึ่งกูกังขาศิลาหาย | | แยบคายอย่างไรยักษา
|
ทำไมกันแท่งศิลา | | จึ่งทะยานหนักหนาอสุรี
|
ฯ ๖ คำ ฯ
|
|
ร่าย
|
๏ ทศกัณฐ์พลันบอกไปพลัน | | ศิลาสำคัญพระฤษี
|
สำหร้บเยียวยาชีวี | | แก้พิษรังสีหอกชัย
|
อันรังสีหอกเล่มนี้ | | อานุภาพหาที่สุดไม่
|
พุ่งถูกลูกลมบรรลัย | | ทิ้งอ้ายนายใหญ่มรณา
|
มันลักศิลานี้ไปแก้ | | เที่ยงแท้จึ่งไม่สังขาร์
|
นอกจากพิเภกอสุรา | | ใครจะรู้หยูกยาไม่มี
|
ดีร้ายพระยาพิเภกบอก | | จึ่งได้แก้หอกรังสี
|
มาลักศิลาถึงธานี | | บัดนี้แก้กันรอดไป
|
ฯ ๘ คำ ฯ
|
|
๏ พระฤษีว่าเออกูไม่รู้ | | เป็นสำคัญอยู่ข้อใหญ่
|
เมื่อเสียไปแล้วก็แล้วไป | | คิดเอาใหม่เถิดอสุรา
|
อันจะให้ชนะอิทธิฤทธี | | อสุรีเทถ่ายให้หลายท่า
|
ให้สิ้นภิญโญปัญญา | | ถ้าขัดกูจะช่วยพญามาร
|
จวนรุ่งแล้วกูจะขอลา | | เหาะมาอรัญญิกาถิ่นฐาน
|
ฯ เหาะ ฯ
|
|
๏ ฝ่ายทศกัณฐ์พญามาร | | พลันสั่งกิจการมิช้า
|
ฯ ๖ คำ ฯ
|
|
๏ สาวศรีก็รับสั่งไป | | บอกเสนาในยักษา
|
ให้หาพระวิษณุกรรมา | | อย่าช้ารีบรัดบดนี้
|
ฯ ๒ คำ ฯ
|
|
๏ เสนาก็รับสั่งพลัน | | ขึ้นยังเขตขัณฑ์โกสีย์
|
ฯ เชิดปฐม ฯ
|
|
๏ เข้าแถลงแจ้งอรรถคดี | | รีบรัดบัดนี้อย่าช้า
|
ฯ ๒ คำ ฯ
|
|
๏ ฝ่ายพระวิษณุกรรม์เเจ้งเหตุ | | ก็มายังนิเวศยักษา
|
ฯ เหาะ ฯ
|
|
๏ เข้ากรานพานพักตร์อสุรา | | มีโสมนัสสาเอาใจ
|
ฯ ๒ คำ ฯ
|
|
๏ ทศกัณฐ์จึ่งสั่งเทวา | | ให้อลังการ์ยอดปราสาทใหม่
|
๏ เทวานิมิตตามจิตต์ไป | | บัดใจก็แล้วทันที
|
ครั้นเสร็จแล้วอำลา | | เหาะมาฟาก้าราศี
|
ฯ เหาะ ฯ
|
|
ช้า
|
๏ ฝ่ายทศกัณฐ์อสุรี | | มีมโนในนิ่งจินดา
|
| | |
|
เชิงอรรถ
อ้างอิง