บทละครเรื่à¸à¸‡à¸£à¸²à¸¡à¹€à¸à¸µà¸¢à¸£à¸•ิ์ พระราชนิพนธ์สมเด็จพระเจ้าà¸à¸£à¸¸à¸‡à¸˜à¸™à¸šà¸¸à¸£à¸µ
จาก ตู้หนังสือเรือนไทย
เนื้อหา |
ข้อมูลเบื้องต้น
พระราชนิพนธ์: สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี
มี ๔ ตอน โดยตอนที่ ๒ ถึง ๔ นั้นความต่อกัน
บทประพันธ์
บานแพนก
วันอาทิตย์ เดึอน ๖ ขึ้นคํ่าหนึ่ง จุลศักราช ๑๑๓๒ (พ.ศ. ๒๓๑๓ ปีที่ ๓ ในร้ชกาลกรุงธนบุรี) ปีขาล โทศก พระราชนิพนธ์ทรงแต่งชั้นต้นเป็นปฐม ยังทรามยังพอดีอยู่
ตอนที่ ๑ ตอนพระมงกุฎ
พระมงกุฎอยู่ป่า
| ๏ มาจะกล่าวบทไป | หน่อในอวตารรังสี | ||
| หาผลปรนนิบ้ติชนนี | ทั้งพระฤษีมีญาณ | ||
| ว้นหนึ่งชวนน้องเข้าพาที | พระมุนีจงโปรตเดฉาน | ||
| ข้าไสร้เกลือกคนภัยพาล | ขอประทานรํ่าเรียนวิชา | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ ฤษีรักจูบกระหม่อมเกศ | สอนให้เล่าเวทคาถา | ||
| ฯ เจรจา ฯ | |||
| ๏ หุดีกุณฑ์กองวิทยา | เจ็ดราตรีศรผุดพลัน | ||
| ฯ ตระ ฯ | |||
| ๏ จึงประสิทธิ์ประสาทธนูศิลป์ | เจ้าจินดารมณ์หมายมั่น | ||
| เมึ่อลั่นซั้นซ้ำมนตร์พลัน | สรรพโลกไม่ทนฤทธา | ||
| ฯ เจรจา ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ ฝ่ายสองกุมารเรียนเสร็จ | ได้ทั้งกลละเม็ดคาถา | ||
| รบเอาธนูศิลป์มา | ลาล่าหาผลพนาลี | ||
| ฯ เข้าม่าน ฯ | |||
| ๏ ครั้นถึงกาลวาตพนาลัย | ปราศัยน้องลบเรืองศรี | ||
| ฝ่ายพี่จะแผลงฤทธี | ยิงรังด้นนี้ให้ขาดไป | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ เจ้าลบว่าใหญ่ถึงแสนวา | ข้าเจ้าเห็นหาห้กไม่ | ||
| ๏ พระมงกุฎก็วางศรชัย | สนั่นไปถึงชั้นพรหมา | ||
| ตระเชิด | |||
| ๏ ถูกรังต้นใหญ่สินขาด | ยับเยินวินาศดังฟ้าผ่า | ||
| แล้วกลับต่อว่าอนุชา | น้องยาจะว่าประการใด | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ พระลบสรรเสริญบุญญา | อานุภาพเป็นหาที่สุดไม่ | ||
| พระชนนีจะมิตกใจ | ก็ชวนเก็บผลไม้กลับมา | ||
| ฯ พญา เดิน ๒ คำ ฯ | |||
| ๏ ฝ่ายพระฤษีสนั่นเสียง | สำเนียงกึกก้องเวหา | ||
| ตกใจทิ้งนางสีดา | ก็ลีลาออกตามกุมาร | ||
| ฯ เชิด ๒ คำ ฯ | |||
| ๏ ฝ่ายพระพี่น้องเห็นฤษี | ก็วิ่งเข้าอัญชลีทูลสาร | ||
| ทิ้งนางสีดาดวงมาลย์ | พระอาจารย์มาไยชนนี | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ | |||
| ๏ พระมุนีสีดาว่าดูเอา | ให้เราตกใจถึงสองศรี | ||
| สุ้งเสียงอะไรเมื่อกี้ | คิดว่าอสุรีพะพาน | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ | |||
| ๏ ฝ่ายพระมงกฎทูลไข | หาไม่ดอกยิงไม้พฤกษาสาร | ||
| ๏ เจ้าลบว่าแสนอ้อมประมาณ | พฤกษาสารสูงเทียมเมฆา | ||
| หักย้บสะบั้นสินขาด | วินาศดุจดั่งฟ้าผ่า | ||
| ที่กาลวาตพนาวา | หาภ้ยมิได้พระมุนี | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ สีดาว่ายิงทำไม | ให้ตกใจทั้งพระฤษี | ||
| นี่ลูกอะไรน่าใคร่ตี | ก็พาทีขู่รู่กุมาร | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ | |||
| ๏ พระมุนีจึ่งห้ามสีดา | อย่าว่าหลานกูห้าวหาญ | ||
| แล้วอวยชัยหน่ออวตาร | ให้ชัยวาลรุ่งฤทธี | ||
| จงเจ้าเป็นใหญ่ไตรภพ | จบสกลทิศทั้งสี่ | ||
| โภยภัยสิ่งใดอย่าได้มี | ให้ฤทธียิ่งบิดร | ||
| แล้วบอกนวลนางสีดา | พฤกษานี้มีมาแต่ก่อน | ||
| แรกตั้งฟ้าดินอัมพร | ศรใครไม่กินนะสีดา | ||
| เมื่อไรต่อหน่ออวตาร | จึงผลาญไม้นี้ดั่งฟ้าผ่า | ||
| ลูกเจ้ารุ่งเรืองฤทธา | ว่าแล้วก็มากุฎี | ||
| ฯ เสมอ ๘ คำ ฯ | |||
| ๏ ฝ่ายสองกุมารเข้าไป | ถวายผลไม้พระฤษี | ||
| แล้วกล้บมาหาชนนี | ยังที่พระบรรณศาลา | ||
| ฯ บาทสกุณี ๒ คำ ฯ | |||
| โอ้ | |||
| ๏ ฝ่ายนางสีดาส้วมกอด | พลอดพลางทางกวดเกศา | ||
| จูบเกศเทวศโศกา | โอ้ว่ากำพร้ายาใจ | ||
| มาดแม้นถ้าอยู่ก้บพ่อ | จะเสน่ห์หน่อหาที่สุดไม่ | ||
| เท่านี้หรือมีฤทธิไกร | ที่ไหนบิดาจะให้จร | ||
| ฝ่ายเจ้าผลานแผลงศิลป์ชัย | เหมือนเมื่อท้าวไทเธอยกศร | ||
| ครั้งไปทำการสยมพร | ในเมืองนครมิถิลา | ||
| ให้เจ้ายิ่งยศโมลี | แม่จะได้ฝากผีภายหน้า | ||
| ให้เรืองฤทธิ์เหมือนองค์พระบิดา | ว่าแล้วก็ทรงโศกี | ||
| ฯ โอด ๘ คำ ฯ | |||
| ร่าย | |||
| ๏ ฝ่ายพระมงกุฎทูลถาม | โปรดบอกความเกล้าเกศี | ||
| แม่ว่าพ่อข้ามีฤทธี | มาอยู่พนาลีด้วยอ้นใด | ||
| อ้นฝ่ายพระบังเกิดเกล้า | เผ่าพงศ์กษัตริย์หรือไม่ | ||
| เธอผ่านถิ่นฐานบ้านเมืองใด | บอกให้หน่อยเถิดพระมารดา | ||
| ฯ มโนราโอด ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ สีดากรรแสงแถลงไข | พิไรบอกลูกเสน่หา | ||
| เดิมแม่อยู่เมืองมิถิลา | พระอัยกาเจ้าเสี่ยงศิลป์ชัย | ||
| เทพามนุษย์เข้ายกศิลป์ | เสร็จสิ้นมิได้หวาดไหว | ||
| พ่อเจ้ายกได้ว่องไว | จึงเศกแม่ให้กับบิดา | ||
| อ้นบิตุเรศของเจ้า | เผ่าพงศ์บรมนาถา | ||
| เรืองรุดสุดอรรคอิศรา | ปรากฏยศยิ่งโมลี | ||
| จึ่งพาแม่มาเวียงชัย | อัยกาให้สัจมเหษี | ||
| ให้พ่อเจ้าไปพนาลี | แม่นี้ติดตามจรจรรย์ | ||
| กับทั้งพระล้กษมณ์อนุชา | ออกไปอยู่ป่าพนาสัณฑ์ | ||
| วันหนึ่งจึงยักษ์ทศกัณฐ์ | มันใช้มารีศเป็นกวางมา | ||
| แม่ไม่รู้เลยเป็นร้กใคร่ | ให้พ่อเจ้าตามไปในป่า | ||
| แล้วได้ยินเสียงเหมือนบิดา | คิดว่ายักษาม้นยายี | ||
| จึงให้อนุชาไปดู | มิรู้ยักษ์ล้กพาแม่หนี | ||
| บิดาเจ้าตามไปต่อตี | ฆ่าอสุรีตายทั้งลงกา | ||
| แล้วพามาผ่านโภคัย | ครั้งนั้นแลแม่ได้หรรษา | ||
| จึงมีปีศาจลวงมารดา | วานข้าเขียนรูปอสุรี | ||
| พาซื่อมือแม่ไม่สุข | ประดุกเขียนรูปยักษี | ||
| พอพ่อเจ้ามาเห็นทันที | นารีผู้วานนั้นหายไป | ||
| ฝ่ายแม่จึงรู้ว่าปิศาจ | พระบิตุราชโกรธชักพระขรรค์ไล่ | ||
| ให้พระอนุชาพาแม่ไป | พิฆาตเสียในพนาวา | ||
| เดชะความสัตย์ของแม่ | เที่ยงแท้ต่อพ่อเจ้าหนักหนา | ||
| พระขรรค์กล้บกลายเป็นมาลา | อนุชาจึงขับเสียพล้น | ||
| เตชะบุญญาของเจ้า | ขวัญเข้าแม่ไม่อาสัญ | ||
| พอพบมุนีในพนาวัน | จึงคมค้ลอาศัยคลอดลูกยา | ||
| พระบิดาเจ้าชื่อราเมศ | หน่อนเรศทศรถนาถา | ||
| ครอบครองกรุงศรีอยุธยา | ว่าแล้วก็ทรงโศกี | ||
| ฯ โอด ๒๖ คำ ฯ | |||
| ๏ ฝ่ายพระมงกุฎกราบเกล้า | พระแม่เจ้าอย่าหม่นหมองศรี | ||
| ถึงพระบิดาไม่ดูดี | เราอยู่พงพีตามเข็ญใจ | ||
| ฯ ครวญ ๒ คำฯ | |||
| ๏ สีดาส้วมสอดกอดจูบ | ลูบหน้าหลังพลางร้องไห้ | ||
| แสนโศกวิโยคอาล้ย | เสน่ห์ในกอดลูกนิทรา | ||
| ฯ กล่อม ๒ คำ ฯ | |||
พระรามเสี่ยงม้า
| ยานี | |||
| ๏ มาจะกล่าวบทไป | ถึงไทเจ้าไตรตรึงษา | ||
| เอ็นดูกุมารสีดา | จากสามีพรากบิดร | ||
| อ้อหน่อนั้นค่อยจำเริญวัย | ไปลองศิลป์ชัยธนูศร | ||
| เอิกเกริกสิ้นทั้งพระนคร | บิดรก็อัศจรรย์ใจ | ||
| เอะพ่อจะเสี่ยงพาชี | ลูกนี้จะได้หม่นไหม้ | ||
| เป็นกรรมทำมาแต่ไร | ให้พรไปโดยยินดี | ||
| ฯ สาธุการ ๖ คำ ฯ | |||
| ๏ ฝ่ายข้างองค์อรรคอวตาร | ให้หาพฤฒาจารยอึงมี่ | ||
| ควรดูฤกษ์พานาที | เหตุนี้จะเป็นประการใด | ||
| ฯ เจรจา ๒ คำ ฯ | |||
| ๏ ฝ่ายข้างพระโหรผู้เฒ่า | ก้มเกล้ากราบทูลแถลงไข | ||
| เหตุลั่นดินฟ้าสุราลัย | หาภัยมิได้ภูมี | ||
| แต่เกิดองค์อรรคศักดา | ลองมหาธนูชัยศรี | ||
| สำหร้บปราบมารไพรี | เหตุนี้ดีดอกพระราชา | ||
| ฯ เจรจา ๒ คำ ฯ | |||
| ช้า | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระรามบุญเรืองเฟื่องฟ้า | ||
| สงสัยไถ่ถามโหรา | บัญชาแก่ราชสามนต์ | ||
| เมื่อกูอยู่บนบัญชรชัย | หวั่นไหวดินฟ้ากุลาหล | ||
| สะเทือนเลื่อนภูมิมณฑล | จลาจลดุจดั่งจะควํ่าไป | ||
| ดูดุ๋ช้างม้าอาณาจักร | หักหลักแหล่งหลุดไปได้ | ||
| เหตุนี้กูมิไว้ใจ | เป็นภัยติดราชธานี | ||
| จงตกแต่งล้กษณโองการ | เขียนลงเป็นราชสารศรี | ||
| ผูกแขวนคอม้าเสี่ยงพาชี | ตามประเวณีเมืองปล่อยไป | ||
| จึงจะต้องตามตำราว่า | แม้นใครขี่ฆ่าให้ต้กษ้ย | ||
| ให้หาอนุชาสองไท | กูจะให้ไปตามอาชา | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ | |||
| ร่าย | |||
| ๏ หนุมานก็ร้บสั่งพลัน | ผายผันเหาะระเห็จไปหา | ||
| ฯ เชิดปฐม ฯ | |||
| ๏ ครั้นถึงไกยเกศภารา | เชิญเสด็จอนุชาทันที | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ | |||
| ๏ พระสัตรุดพระพรตถามไถ่ | ให้หาเราไยกระบี่ศรี | ||
| สะเทือนเลื่อนลั่นบูรี | อยุธยามีเหตุประการใด | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ | |||
| ๏ หนุมานทูลแจ้งกิจจา | เหตุสุธาสนั่นหวั่นไหว | ||
| พระเชษฐาให้เสี่ยงพาชีชัย | จึงจะให้พระไปตามไพรี | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ | |||
| ๏ พระสัตรุดพระพรตสั่งพลัน | ให้เตรียมพลขันธ์ชัยศรี | ||
| ขึ้นทูลไอยกาทันที | พระเจ้าพี่รามาให้หาไป | ||
| ฯ ๒ คำเสมอ ฯ | |||
| ๏ พระไอยกาอำนวยพร | ให้ถาวรยศยิ่งเป็นใหญ่ | ||
| เจ้าไปเถิดไปพ่อไป | มีชัยแล้วกลับมาธานี | ||
| ฯ เจรจา ๒ คำฯ | |||
| ๏ พระสัตรุดพระพรตอำลา | มาท้องพระโรงชัยศรี | ||
| ฯ เสมอ ฯ | |||
| ๏ เสนาซึ่งรับสั่งเดิมที | ไปจ้ดรี้พลโยธา | ||
| ฯ เชิดปฐม ฯ | |||
| ยานี | |||
| ๏ กะเกนรถรัดอัสดร | พวกพลนิกรซ้ายขวา | ||
| หอกง้าวหลาวแหลนปืนยา | ทัพหลังทัพหน้าเรียงรัน | ||
| อีกทั้งยกระบัตรเกียกกาย | ปีกป้องกองรายแข็งขัน | ||
| ครั้นเสร็จระเห็จทูลพลัน | พลขันธ์พร้อมแล้วภูมี | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| โทน | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระพรตยศไกรชัยศรี | ||
| จึงชวนอนุชาสรงวารี | สองศรีสำอางอาภรณ์ | ||
| ทรงมงกฎสังวาลเสร็จสรรพ | จับสะพักสะพายแล่งแสงศร | ||
| ทบทรวงกรรเจียกกระจายจร | ตาบติดอาภรณ์กระจายตา | ||
| พาหุรัดธำมรงค์ชายแครง | ศรีแสงชายไหวซ้ายขวา | ||
| สนอบสนับสรรพชวนอนุชา | ลีลามาขึ้นรถไป | ||
| ฯ บาทสกุณี ๖ คำ ฯ | |||
| โทน | |||
| ๏ รถเอยราชรถแดง | สีแสงสว่างสุกใส | ||
| งอนแอกปะแหรกวิไล | ฉ้ตรชัยวิจิตรเจษฎา | ||
| เพราเพชรเก็จแกมหน้าหลัง | บังใบด้วยมณีมีค่า | ||
| ระย้าระย้อยลอยเลื่อนฟ้า | กรีฑาพหลไปพลัน | ||
| ฯ กราวเชิด ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ ครั้นถึงซึ่งกรุงอยุธยา | ขึ้นเฝ้าเชษฐาไอศวรรย์ | ||
| พระรามเห็นเรียกน้องพลัน | พากันออกท้องพระโรงชัย | ||
| ฯ เสมอ ฯ | |||
| ๏ จึงตรัสด้วยราชสารศรี | เสนีแต่งแล้วหรึอไฉน | ||
| เสนาก้มกราบทูลไป | แต่งไว้เสร็จแล้วภูมี | ||
| ฯ เจรจา ๔ คำ ฯ | |||
| ช้า | |||
| ๏ ในลักษณพระราชสาร | ว่าพระผ่านทศทิศทั้งสี่ | ||
| แบ่งภาคจากกระเษียรวารี | มีกมลจิตต์จินดา | ||
| ให้ปล่อยมิ่งม้าอุปการ | ใครพานพะขี่จะเข่นฆ่า | ||
| ที่อวดฤทธิ์ดีจงขี่ม้า | ผ่านฟ้าจะไปต่อตี | ||
| ถ้าแม้นเป็นข้าอาณาจ้กร | ทักษิณประณตบทศรี | ||
| เคารพอภิวันท์ธุลี | ปล่อยพาชีจรไคลคลา | ||
| ฯ ๖ คำ ร่าย ฯ | |||
| ๏ พระรามว่าดีแล้วเอาเถิด | พอเกิดดวงดาวเวหา | ||
| เบื้องบนข้างทิศบูรพา | บัญชาให้ผูกพาชี | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ | |||
| ๏ อาลักษณ์เอาสารผูกคอม้า | อลังการที่นั่งรังสี | ||
| โหรปล่อยมิ่งม้าทันที | พาชีดึงเดาะเดินพลัน | ||
| ฯ ฉาน เชิดฉิ่ง ๒ คำ ฯ | |||
| ๏ พระรามจึงสั่งอนุชา | แม้นใครขี่ฆ่าให้อาสัญ | ||
| ๏ อนุชารบสั่งจรจรัล | พลันยกพลตามสะกดไป | ||
| ฯ กราว ๒ คำ ฯ | |||
| ๏ พระรามซ้ำสั่งหนุมาน | ท่านไปช่วยด้วยจึ่งได้ | ||
| หนุมานรับสั่งคลาไคล | ไปนำพลตามพาชี | ||
| ฯ เชิด ๒ คำ ฯ | |||
พระมงกุฎขี่ม้าเสี่ยงทาย หนุมานจะจับ ถูกพระมงกุฎเสกมนตร์มัดตัว
ยานี ๏ มาจะกล่าวบทไป ถึงไทท่านท้าวโกสีย์ ผู้ทรงมหิทธิ์ฤทธี ตรีเนตรเล็งแลลงมา ก็แจ้งว่าหน่ออวตาร จะพานพะรบวงศา อ้อกรรมหน่อดลบิดา จึงเสี่ยงพญาม้าไป เอะอาว์ผู้เข้าราวี จะต้องศรศรีเพียงต้กษัย จึงจะจ้บได้แต่พี่ไป อวตารจะให้ลงอาชญา จำกูจะช่วยแก้ไข เอาผลบุญไปภายหน้า อย่าให้มอดม้วยชีวา ก็ดลม้าเข้าพนาล้ย
ร่าย ๏ แล้วจึ่งไปดลกุมาร ให้ออกพนัสสถานใหญ่ ครั้นเสร็จเสด็จขึ้นไป ยังในฟากฟ้าดุษดี ฯ คุกพาทย์ เหาะ ๑๐ คำ ฯ
๏ มาจะกล่าวบทไป หน่อในอวตารร้งษี รัญจวนป่วนถึงพนาลี ที่จะไปเที่ยวเล่นพนาวา ครั้นเช้าอำลามารดร จับธนูศรชัยจะไปป่า สีดามิให้ไคลคลา ลูกยาอย่าไปพนาลี คืนนี้แม่ฝันเห็นร้าย ฦๅสายอย่าเข้าพนาศรี หูตากระเหม่นไม่ดี วันนี้อย่าไปพนาลัย ฯ ๖ คำ ฯ
๏ พระพี่น้องเทียบทูลชนนี กรรมมีหาพ้นตายไม่ อันกาลวาตพนาลัย ลูกไสร้เคยเล่นอยู่อ้ตรา แม้นข้ามิไปพนาลี พระฤษีจะอดพฤกษา โภยภ้ยอะไรไม่มีมา ถึงอ้ายยักษาไม่กลัวกัน แม้นมันฺทำร้ายลูกจะยิง ให้กลิ้งอยู่ในพนาสัณฑ์ พระแม่จงให้จรจรรย์ กรรแสงที่จะไปพนาวา ฯ ๖คำ ฯ
โอดครวญ ๏ สีดาส้วมสอดกอดจูบ ลูบหน้าหลังกวดเกศา เจ้าไปเถิดพ่ออย่าโศกา ว้นนี้กลับมาแต่วัน ฯ ๒ คำ ฯ
๏ ฝ่ายสองพี่น้องอำลา คว้าได้ธนูผายผัน ลาดาบสแล้วจรจรรย์ เข้าอรัญวามิช้า ฯ เชิด ฯ
๏ ครั้นถึงซึ่งป่ากาลวาต องอาจเที่ยวไพรพฤกษา เก็บผลไม้กินสองรา พอเห็นมิ่งม้าพาชี จึงบอกเจ้าลบน้องยา มาเราช่วยกันจับขี่ ฯ เชิด ฯ
๏ เออสัตว์อะไรอย่างนี้ เรามิเคยพบเห็นมา แน่เจ้าดูเอาที่หลัง ใคร่นั่งเล่นไปในป่า อะไรที่แขวนคอมา ก็เอาสาราอ่านพลัน ฯ ๘ คำ ฯ
ช้า ๏ ใจความว่าองคอวตาร ผู้ผ่านโภคัยไอศวรรย์ ปล่อยม้าใครขี่ให้ฆ่าฟัน ถ้าข้าขอบข้นธ์ให้บูชา
เออนี่อะไรใช่เมืองบ้าน พานพะมาไยในป่า ถึงมาดติดตามมา ใช่ว่าเราเป็นข้าไท มาเราจะขึ้นขี่เล่น เช่นนี้จะกล้วเป็นไฉน ต้วเราก็ไม่ขบถใคร ขึ้นพาชีชัยไปมา ฯ เชิดฉิ่ง เพลง ๖ คำ ฯ
๏ มาจะกล่าวบทไป ถึงหนุมานอาษา ซึ่งนำทัพกับตามอาชา ล่าลอดสอดดูพาชี จึงเห็นกุมารขี่ม้า โกรธาลัดเข้าพนาศรี
แพละน้อย ๏ ก็เผ่นโผนจบกุมารตี กระบี่ต้องค้นศรสลบไป ฯ เชิด โอด ๔ คำ ฯ
๏ ฝ่ายมงกุฎดาหนุมาน กูผลานเถิดหรือให้ตักษัย เจ้าลบเอยลิงอะไร ทำไมมันมาจับเรา ฯ ๒ คำ ฯ
๏ เจ้าลบว่าเออไม่เข้ายา อ้ายนี่มาทำเราเปล่า ๆ ว่าพลางทางวิ่งตามม้าเล่า สองเจ้าเล่นในพนาลัย ฯ ๒ คำ เชิดฉิ่ง เพลง ฯ
๏ หนุมานครั้นต้องพระพายถูก ลูกลมกลับฟื้นขึ้นได้ ก็ผาดโผนแผลงฤทธิไกร โตใหญ่เงือบเงื้อมเมฆา แล้วคิดเอะมีฤทธิ๋นัก ศรศ้กดิ์ตีลงดั่งฟ้าผ่า อย่าเลยกูจะแปลงกายา ก็เป็นลิงป่าเล็กเข้าไป ฯ แพละ น้อย ฯ
๏ ถึงจึ่งตํ่าเตี้ยเงี่ยห้ว ฝากตัวแล่นเล่นในป่าใหญ่ ปีนป่ายร่ายกิ่งค่าไม้ ทำเป็นรักใคร่ไปมา ฯ ๖ คำ ฯ
๏ ฝ่ายสองกุมารไม่สังเกต หน่อนเรศคิดว่าลิงป่า ๏ หนุมานโจนจับมิช้า กุมาราตีลิงสลบไป ฯ เชิด โอด ๒ คำ ฯ
๏ พระมงกุฎด่าโจนลงเงื้อง่า กูฆ่าเถิดหรือให้ตักษ้ย เจ้าลบเอ่ยดูอ้ายจังไร มันไม่หลาบเลยอนุชา ทำไมมันมาจับเรา เอาหรือให้ม้วยสังขาร ๏ เจ้าลบร้องห้ามพี่ยา อย่าฆ่าเจ้านายมันมี ฯ ๔ คำ ฯ
๏ มงกุฎด่าว่าอ้ายเจ้าเล่ห์ เหม่พานมาไยพนาศรี จองหองจะเข้าราวี กิริยาอ้ายนี้เข้าใช้มัน มาเราจะเอาเชือกเขา มัดศอกมันเข้าให้มั่น จารึกหน้าไปบอกเจ้ามัน ก็ชวนก้นเข้ามัดลิงไพร ฯ ตระ ฯ
๏ มัดแล้วจารึกเศกมนต์เป่า ต่อเจ้าของมึงจึ่งแก้ได้ ซํ้าตีมิให้บรรลัย เร่งไปบอกเจ้ามึงมา ว่าพลางทางเผ่นขึ้นพาชี ข้บขี่ควบเล่นในป่า ฯ เชิดฉิ่ง เพลง ฯ
๏ เล็มล่าหาผลพนาวา ได้มาก็สู่กันพลัน ฯ ๘ คำ ฯ
๏ ฝ่ายหนุมานซึ่งต้องม้ด สะบัดตะบึงยิ่งรึงมั่น เวทนาน่าอายเทวัญ โศกศัลย์มายังทัพชัย ฯ เชิด โอด ฯ
