กาพย์เห่เรือ พระนิพนธ์พระราชวรวงศ์เธอ กรมหมื่นพิทยาลงกรณ์

จาก ตู้หนังสือเรือนไทย

การปรับปรุง เมื่อ 01:46, 12 กรกฎาคม 2552 โดย CrazyHOrse (พูดคุย | เรื่องที่เขียน)
(ต่าง) ←รุ่นก่อนหน้า | รุ่นปัจจุบัน (ต่าง) | รุ่นถัดไป→ (ต่าง)
ข้ามไปที่: นำทาง, สืบค้น

เนื้อหา

ข้อมูลเบื้องต้น

แม่แบบ:เรียงลำดับ พระนิพนธ์: พระราชวรวงศ์เธอ กรมหมื่นพิทยาลงกรณ์

บทประพันธ์

โคลง
๏ งามผงาดราชพ่าห์เพี้ยงพรหมทรง
พระธินั่งศรีสุพรรณหงส์รเห็จห้วง
หงส์ทองล่องลอยลงรองบาท พระฤา
กลอนเกริ่นเพลินพายจ้วงพากย์แจ้งจำเรียง ถวายแล ฯ
             
กาพย์
๏ คาบนี้มีศุภฤกษ์ดังบัวเบิกเบิกบานใจ
งามเวียงอันเกรียงไกรไกรเกรียงแม้นแมนมาทำ
๏ กรุงเทพเทพรังสฤษฏ์เจิดแจ่มจิตวิศวกรรม
เพริศแพร้วแก้วแกมคำคำแกมมุกสุขนัยนา
๏ ปราสาทราชมณเทียรคือวิเชียรเชิดชูตา
ลอยล้ำค้ำนภานภาผ่องส่องรับกัน
๏ ปราการตระการกล้าท่วงทีท่าท้าโรมรัน
หอยุทธ์เย้ยยุทธ์ยันยรรยงเยี่ยมเอี่ยมอัมพร
๏ ไตรรัตน์จำรัสเลิศเจดีย์เทอดทีปังกร
อาวาสศาสนาทรธัมมะเหมือนเดือนนำเดิน
๏ พระเกียรติพระเกริกกลั่นชนทุกชั้นสรรเสริญ
บ้านเมืองเรืองจำเริญจำรูญรัฐวัฒนากร
๏ พระวงศ์องค์อิศราชเสนามาตย์ราษฎร
พร้อมพรักรักภูธรภูธเรศเลี้ยงเยี่ยงธาตรี ฯ
             
๏ แถลงปางสร้างอนุสรณ์จอมนรากรปิ่นปัถพี
ต้นวงศ์องค์จักรีจักริศเกล้าเจ้าไผทไทย
๏ พระเถลิงราชสมบัติเก้าชั้นฉัตรรัฐเรืองไชย
ไอศูรย์เพิ่มพูนไพ-บุลย์ประโยชน์โสตถิ์สำนาน
๏ สองพันสามร้อยยี่-สิบห้าปีศาสนกาล
ฤกษ์งามยามศุภวารคราวศึกว่างสร้างพระนคร
๏ อาวุธยุทธสถานป้อมปราการปานปุษกร
สามารถฟาดฟันบรผิวเห่อกล้าเข้ามาลอง
๏ วังเวียงเพียงนิรมิตแสนโสภิตพิศเพียงปอง
ระเมียรมนเทียรทองเชิญช่อฟ้าใบระกากาญจน์
๏ งามสุดฝ่ายยุทธจักรวิมลมรรคสมาทาน
กอบเกื้อเอื้อเอาภารอารักขาเนื้อนาบุญ
๏ แสนสง่าอาณาจักรทรงฟูมฟักรักการุญ
ปรายโปรยกอบโกยคุณถ้วนทุกหน้าสาธุการ
๏ ถิ่นฐานบ้านเมืองเราต้องจับเจ่ามาเป็นนาน
โชคหนุนบุญบันดาลได้เชิดหน้าครานั้นเอง
๏ พม่าข้าศึกหลวงยกทัพจ้วงมาครื้นเครง
หฤทัยไทยยำเยงพอเพลี่ยงพล้ำเขาขยำเลย
๏ เหลือผุดเจียวอยุธยาเหลือจักกล้าชูหน้าเงย
ถูกเค้นเหมือนเช่นเคยตัวเป็นทาสชาติเป็นไทย
๏ วัดร้างเจดีย์ด้วนวิหารห้วนโบสถ์หายไป
โพธิ์หักปักหอไตรไตรปิฎกตกลงดิน
๏ บ้านแตกสาแหรกขาดนอนวินาศปราศทรัพย์สิน
หมดท่าทางหากินเที่ยวซุกซ่อนซอกซอนเซา
๏ ข้าเศิกเลิกทัพใหญ่ยกกลับไปบ้านเมืองเขา
กรุงร้างทางเมืองเราให้ทัพน้อยคอยควบคุม
๏ ไทยแยกแตกเป็นเหล่าต่างตั้งเจ้าเข้ามั่วสุม
มากมายหลายชุมนุมคึกขันแข่งแก่งแย่งกัน
๏ ชุมนุมตีชุมนุมคิดควบคุมรุมโรมรัน
ใครอ่อนถูกฟอนฟันการปล้นฆ่าคือหากิน
๏ หากเกิดผู้บุญหลากบุญท่านมากเจ้าตากสิน
เกียรติ์แกว่นกู้แผ่นดินตีพม่าล่าแหลกไป
๏ พม่าเวียนมาอีกเพียรจักฉีกแผ่นดินไทย
เหนื่อยยากตรากตรำใจความปราศร้อนบ่ห่อนมี
๏ น้อยน้อยค่อยกระเตื้องเพียรปลดเปลื้องเครื่องยายี
โชคยามงามพอดีเกิดโชคร้ายบ้ายบีฑา
๏ ภูเบศเกตุแผ่นดินถึงคราวสิ้นวาสนา
โรคทับอับปัญญาความดีดับกลับเป็นเลว
๏ เปล่าปลดหมดสิทธิโชคเพราะพระโรคพาแหลกเหลว
เมืองไทยดังไฟเปลวคือชีวิตจักปลิดปลง
๏ ป่วนปั่นกันอีกครั้งนึกถอยหลังนั่งพิศวง
แม้พม่าจู่มาคงจักเป็นไฉนหนอไทยเรา
๏ เคราะห์ดีมีบุรุษองค์เอกอุตม์สุดชาญเชาวน์
เรื่องร้ายกลายเป็นเบาโชคยังหนุนบุญยังมี
๏ ครั้งนั้นน่าหวั่นใจแต่ไทยไม่หมดคนดี
ต้นวงศ์องค์จักรีปัญญาอาจยุทธศาสตร์ทรง
๏ เสด็จเถลิงราชสิงหาสน์นำหน้าชาติกาจรณรงค์
ยุคเข็ญเห็นตรงตรงทรงแก้กู้สู่สวัสดี
๏ ผิวชาติปราศประมุขย่อมมีทุกข์มายายี
ศัตรูจู่โจมตีจักรบสู้ริปูไฉน
๏ พม่ามาห้าด้านเราตีต้านแตกกลับไป
มาอีกจักฉีกไทยไทยกลับฉีกอีกทุกที
๏ บ้านเมืองเรืองยศลาภอานุภาพพระจักรี
พร้อมพรักสามัคคีจึงสุขสันต์แต่นั้นมา ฯ
             
๏ คาบนี้มีปราโมทย์ทรงสมโภชราชพารา
ปิ่นราชพยุหยาตราโดยชลมารคมากพลแมน
๏ ทรงศรีสุพรรณหงส์แลระหงส่งแสงแหน
หงส์ทองล่องมาแทนไม่เพริดพริ้งยิ่งเรือทรง
๏ พลเรือเสื้อแดงดาษดูผุดผาดเอี่ยมอาจอง
มือกรายพายยรรยงยกร่อนร่าท่านกบิน
๏ เรือขบวนยวนตายลเรี่ยวแรงพลในชลสินธุ์
งามองค์ทรงแผ่นดินดังเข้าหล้ามาธรณี
๏ แลลำแม่น้ำกว้างทั้งสองข้างทางชลธี
หญิงชายมากมายมีมาชื่นชมราชสมภาร
๏ สวยสวยแม่สาวสาวผัดหน้าขาวในคราวงาน
นวลแป้งแต่งตระการเจ้านวลพริ้งยิ่งนวลปลา
๏ นั่นแน่แม่คนนั้นเบือนหน้าหันหนีนัยน์นา
อย่าอายเลยสายตาจักถูกว่าปลาคางเบือน
๏ แก้มแดงแสงสดสีแดงลิ้นจี่กระมังเหมือน
ถามนิดอย่าบิดเบือนแก้มช้ำหรือดังชื่อปลา
๏ เนื้ออ่อนอ่อนน่วมน่วมแม่รูปท้วมท่วมนาวา
นิ่มนุ่มชุ่มนัยน์นาเนื้ออ่อนแน่แม่งามพี
๏ งามสมแม่ผมดกแสร้งหยิกหยกศกเสียบหวี
นุ่มมวยสวยมากมีบ้างศกสั้นสรรสมทรง
๏ ฝูงคนมาคับคั่งสะพรึบพรั่งตั้งตาตรง
เอิบอิ่มปริ่มใจจงทั้งผู้เฒ่าผู้เยาวภา
๏ เหล่าเรือเหลือหลากหลายไม่งามคล้ายเรือกันยา
เครื่องยนต์ย่นมรคาว่องไววิ่งยิ่งลมปลิว
๏ กึกก้องห้องเวหาเรือล่องฟ้ามาฉิวฉิว
แถวตามงามเป็นทิวดังวิหคผกโผผิน
๏ บ้างมาหน้ากระดานแข่งขนานปานนกบิน
เหาะเหินแทนเดินดินคนวิหคนกดอนเมือง
๏ แลไปปลื้มใจยิ่งเห็นแต่สิ่งอันรองเรือง
พระยศไป่ปลดเปลืองดูโน่นนี่ไม่มีระคาง
๏ เหลียวไปในปัจฉิมงามถนิมคือพระปรางค์
พระสถูปรูปรางชางชูยอดเยี่ยมเอี่ยมอัมพร
๏ ย่อมเห็นเป็นสัญญาพุทธศาสนาสถาวร
พระธรรมไกรกำจรเครื่องนำหน้ากล้าในบุญ
๏ จริงสุดพุทธดำรัสทรงแสดงอัตถ์สัตยาดุลย์
รู้จักผู้มีคุณคราวเพลี่ยงพล้ำท่านค้ำชู
๏ ย่อมเป็นเช่นมีพื้นที่ยันยืนแห่งดนู
ผู้ไร้กตัญญูเปรียบปราศพื้นจักยืนยัน
๏ มาเราเอาคำพระเป็นสรณะประจำวัน
เป็นผู้รู้คุณอันท่านทำไว้ในคราวเพรง
๏ จักสู่สวัสดีเครื่องยายีจักยำเยง
ปรีดีมีมาเองเพราะรู้รสพจน์พุทธองค์
๏ ขอถวายพระพรสี่แด่ภูมีวีรวงศ์
ทุกข์โศกโรคภัยจงแผ้วพระบาทปลดปราศเทอญ ฯ
             
โคลง
๏ สรวมชีพอัญชลิตซ้องอาเศียร
ทศพิธราชธรรมเสถียรเทิดหล้า
ฉนำฉนำเนื่องจำเนียรนิรทุกข์ พระเทอญ
เผ่าพระพุทธยอดฟ้ายิ่งฟ้าสถาวร ฯ
             

เชิงอรรถ

อ้างอิง

เครื่องมือส่วนตัว