โคลงทวาทศมาส

จาก ตู้หนังสือเรือนไทย

การปรับปรุง เมื่อ 15:37, 13 ธันวาคม 2553 โดย CrazyHOrse (พูดคุย | เรื่องที่เขียน)
(ต่าง) ←รุ่นก่อนหน้า | รุ่นปัจจุบัน (ต่าง) | รุ่นถัดไป→ (ต่าง)
ข้ามไปที่: นำทาง, สืบค้น

เนื้อหา

ข้อมูลเบื้องต้น

แม่แบบ:เรียงลำดับ ผู้แต่ง: ไม่ปรากฏนาม

บทประพันธ์

๑      ศรีสวัสดิ์กมลาสล้ำเลอสรวง
พูลภิรมย์นาภีส่องสร้อย
ไตรรัตนจุฑาดวงกมลาส
บานเบิกบงกชช้อยช่อมาลย์ฯ
๒      จักรีจักรกฤษณเกล้าจักรพรรดิ
เสวยภิรมย์สงสารเษกสร้อง
กามาฤดีรัตน์รมเยศ
รมยวิธีธารคล้องห่วงกาม ฯ
๓      เทวาเทเวศถ้วนเทวินทร์
เสวยสุขรมย์ย่ำยามยั่วเย้า
วิไลวิลาพินทุ์เพาโพธ
สุขภิรมย์สมเหน้าแน่งมาลย์ ฯ
๔      จักรพาฬภูวนาถเกล้ากรุงกษัตร
ผายผ่านภุดาธารแผ่นแผ้ว
ภูวไนยวนานัตว์กมุทมาศ
โอนมกุฏิเกล้าแก้วเกือบเศียร ฯ
๕      รังสฤษฎิรังเรขไท้ทรงทศ
ธรรมวิมลพึงเพียรแผ่นหล้า
เสวยสวรรค์สุโสฬศเลื่องโลก
บลบ่ำบวงสรวงหม้าใหม่ศรี ฯ
๖      ดวงเดียวยุพโยคพ้นพรรณนา
สงวนมิ่งมาลย์จาวจีแกล่กล้ำ
อาลิงค์บังอรสารสเรข
ฤาห่อนเอองค์ก้ำกึ่งยาม ฯ
๗      เรียมรักรัตนน้องนางเดียว
เบญจฤดีดัษกามเกลศกลั้ว
สงวนศรีสุมาลย์เกลียวกลมสวาท
เยียวรำเพยพานดั้วด่วนหมอง ฯ
๘      สงวนสร้อยเสาวภาคย์เนื้อนวลนาง
ฤาห่อนนาสาสองห่างหั้น
ในทิพย์บรรจฐรณ์กลางชนม์ชีพ
ฤาห่างองค์แก้วกั้นกึ่งกร ฯ
๙      บ่ไกลอกอาสน์อ้าอกองค์ หนึ่งเลย
ฤาด่วนมาจำจรจากข้าง
คิดศรีสมบูรณ์บงกชมาศ กูเอย
รสภิรมย์แรมร้างเร่งตรอม ฯ
๑๐      เรียมคิดสังวาสรู้รสรมย์
ดวงเสียดดวงเดียวจอมจอดเจ้า
คิดปางพิโดรฉมพักเตรส
ฤาห่อนเอองค์เคล้าคลาศยาม ฯ
๑๑      เรียมคิดพิเศษช้อยชิวหา
รนฤดีดัษกามก่อเกื้อ
ถวิลทิพย์สุนาสาเสาวณิศ
เนื้อแนบนวลนุชเนื้อแนบใน ฯ
๑๒      คิดเคยประพาศเพี้ยงภุชเคนทร์
กรกระหวัดดวงไดกอดเกี้ยว
วิไลยวิลาเรนทร์รสราค
ดึกดำฤษณ์เลื้อยเลี้ยวกอดไกร ฯ
๑๓      คิดคลึงบัวมาศสร้อยสระศรี
ผลิดดอกบุษบาในแบ่งไว้
คิดชมมิ่งมาลีไลยเลศ
แบะผกาเกลียวใต้ต่ำเมรุ ฯ
๑๔      คิดเคยเยาวราชท้าวพาลสอง โสดแฮ
แนบกำโบลปรางเปรมเปรียบแก้ม
คิดสินธุ์ภุชค์ฉลองบัวมาศ
ตฤบเตรียมรสย้ำแย้มย่องกาม ฯ
๑๕      คิดสร้อยสาโรชแก้วบัวบง
บัดแบ่งใบย่ำยามกลีบแกล้ง
ภู่พรรณตฤบรสสรงสระมาศ
ทรงสุคนธ์ธารแสร้งสอดสม ฯ
๑๖      มาไลยโมลิศเนื้อนวลลักษณ์
นิลภมรเชยชมบม้วย
วาทาประภาพักตร์พรายแพร่ง
เรียมผทมทิพยด้วยห่อนเอ ฯ
๑๗      วันกรกมลาสเกี้ยวกรรดึก
สองชิดชงฆ์โหเหห่มน้ำ
วันเรียมร่วมถนำทึกนพนิต
สุขบันทมรสกล้ำแกล่กาม ฯ
๑๘      แม้สรงสระเทพถ้าไตรตรึงส์ ก็ดี
ยังไป่ปูนย่ำยามสระแก้ว
สระสวรรค์อำมฤตย์รึงรสเรข
สรงสระนงค์นุชแผ้วแผ่นไตร ฯ
๑๙      พักตราไตรเตรียบสร้อยเสาวคนธ์
พรายนิลารัตนในภู่แพร้ว
ภมูพิมลกลกามก่ง
ทรวงบังอรฐานแก้วยิ่งยง ฯ
๒๐      โอะโอ้นัยนิศน้องนางนงค์ แน่งเอย
จรเจตจิตต์เรียมจงจอดเจ้า
สระบาสมบูรณ์บงกชมาศ กูเอย
ฤานิรารสเหน้าหน่อศรี ฯ
๒๑      ปางบุตรนคเรศไท้ทศรถ
จากสีดาเดียวลีลาสแล้ว
ยังคืนสู่เสาวคตยุพราช
ฤาอนุชน้องแคล้วคลาศไกล ฯ
๒๒      ศรีอนิรุทธราสร้างแรมสมร
ศรีอุสาเจียรไคลคลาศแคล้ว
เทวานราจรจำจาก
ยังพร่ำน้าวน้องแก้วคอบคืน ฯ
๒๓      สมุทรโฆษเริศร้างแรมพิน
ทุมดีดาลฝืนใฝ่เต้า
ปางเจ็บชำงือถวิลลิวโลด
ยังพร่ำน้าวน้องเหน้าร่วมเรียง ฯ
๒๔      พระศรีเสาวเลขสร้อยสุธน
จากมโนราห์เคียงคิดน้อง
ยังเสด็จไพรสณฑ์สังวาส
สังเวชนงค์นุชคล้องเคลือกองค์ ฯ
๒๕      ปราจิตต์เจียรเหน้าหน่ออรพินท์
พระพิราไลยปลงชีพแล้ว
คืนสมสุดาจินรสร่วม กันนา
กรรมแบ่งกรรมแก้วแก้วช่วยกรรม์ ฯ
๒๖      ปางศิลปปรเมศร์ท้าวสุธนู
จากสมเด็จนุชจันทร์แจ่มหน้า
เจียรัปประภาตรูเตราสวาท
ยังพร่ำน้าวน้องเข้าคอบสมร ฯ
๒๗      ฤาเออกอาสน์เนื้อนงค์นุช
เจ็บจำงายทรวงธรหล่มล้ม
โอ้แก้วสุมาลย์บุษย์วลีภาคย์ กูเอย
เอาสุพรรณแก้วก้มก่ำทรวง ฯ
๒๘      รดูเดือนเจตรร้อนทรวงธร
ทุกย่ำยามโดรดวงด่วนน้อง
จำรจำเราอรอรนิต หายแม่
อินทรพรหมยมป้องไป่คืน ฯ
๒๙      สุริยงวรเวกฟ้าเฟ็ดโพยม
แสงรพีพรรณฝืนฟอดฟ้า
จรจรัสเสียดแดโสมสรวมชีพ
เจ็บไป่ปานเจียรจ้าจากจร ฯ
๓๐      สุดโพยมเวหาสห้องหาวหน
สุรสุเรนทราธรเฟื่อยฟ้า
ปรัถพีนิราชลเห็นหาด
ร้อนไป่ปานเรียมถ้าจากเจียร ฯ
๓๑      เจ็ดสินธุ์สาคเรศร้อนรนบก
แสนนทีธารเทียรหาดแห้ง
อาดูรกระอุอกเรียมราส
สมรจากเจียรร้อยแล้งไป่ปาน ฯ
๓๒      ปรัถพีพิโยคพื้นทรวงธร
ณีธราธารดาลปั่นด้วย
เจ็บเจียรจำจากจรสมรมิ่ง กูเอย
โอ้อกดินฟ้าม้วยไป่วาย ฯ
๓๓      ทินกรจรแจ้งแจ่มหาวหน
ธารนทีชลหายหาดแห้ง
อกเรียมนิราจลเจ็บจาก กันนา
ร้อยยิ่งทินกรแจ้งจวบกัลป์ ฯ
๓๕      สหัสสุริเยศเรื้องรังสี
ผลาญแผ่นไตรภพสรรพ์ เษกไหม้
กำเดากำดาลตรีภพนาศ
ร้อนไป่ปานน้องไท้จากจร ฯ
๓๖      ไตรยุคทั้งสี่ร้อนรนอก
โลกประชารากรหล่อหล้ม
ร้อนเรียมราสพันพกแสนส่วน
ไตรกำเดาดาลต้มแตกทรวง ฯ
๓๗      ธรณีธรณิศแล้งเลอหาว แห้งแล
ใบบัดพฤกษาดวงเหี่ยวแห้ง
ลดากระหวัดราวรุกขมาศ
วัลย์เวี่ยไม้ไหล้แล้งช่วยตรอม ฯ
๓๘      เวหาผผ่าวเพี้ยงพรรณแสง
เรียมรัญจวญใจจอมจิ่มหล้า
อาดูรคระแลงแสดงแสนโศก
แสนสุเมรุไหม้ฟ้าไป่ปาน ฯ
๓๙      ทุกพรรณมฤคห้องบรรพต
เสียสัมฤทธิอาหารแหล่งเหล้น
นัยนามพุลาลดศัลย์เสพย์
เสียภิรมย์แหล่งเต้นช่วยครวญ ฯ
๔๐      แสนพฤกษ์เหลืองหล่นล้วนแลงใบ
บังสุมาลย์แมนมวลแมกไม้
พฤกษาศิขรไซรโซรมชีพ
โอ้หาดดาลกลไหม้ช่วยเรียม ฯ
๔๑      ปักขีเสาวเลขล้วนฦาศัพท์
สวนบ่ฦาเลยเกรียมก่ำก้าง
โอ้แก้วนิราลับลิวลี่ แล้วเอย
แสนพิหคไห้ช้างช่วยชึง ฯ
๔๒      แสนบางบึงห้วยแห่งเหมุทก
พาสุกรีไตรตรึงส์ปั่นหว้าย
มังกรกรารกรักเรข
ตีสกนธ์แล้วผ้ายผาดจร ฯ
๔๓      แสนสัตว์นาเนกถ้วนแสนสินธุ์
ทุกข์บันดาลไฟฟอนช่วยเศร้า
วันเจียรสุดาพินท์พักเตรศ
แสนสุเมรุม้วนเข้าดั่งลาญ ฯ
๔๔      โอ้รัตนนารีศเนื้อนวลลักษณ์
จากภิรมย์เดียวดาลแผ่นขว้ำ
ตรีในสุรารักษ์หริราช
ช่วยรันทดร้อยก้ำก่ำแด ฯ
๔๖      รดูจรเจตรแจ้งเจียรจรัส
แสนสุธาปรวนแปรแผ่นหล้า
รดูฤดีดัษดาลเทวษ
เทวินทรสุรินทร์รักษ์หม้าใหม่หมอง ฯ
๓๗      ร่ำรักรสเรขสิ้นสรรพางค์
พลมหุตเคราครองสวาทไหม้
โอ้แวสมเด็จกลางวนิภาคย์ เรียมเอย
ควรแบ่งองค์แล้วไว้หว่างทรวง ฯ
๔๘      หลัดหลัดมาจากข้างเขินเข็ญ ใหญ่แล
ทุรัศทุราดวงแหบให้
โอ้แก้วดรุณเพ็ญภุชภาคย์
มานิรารมย์ไว้ว่องกาม ฯ
๔๙      โหยเหนกระอุโอ้เศียรเส โสดแล
หลัดหลัดนัยนายามคลุ่มคลุ้ม
มลักเห็นนิ่มนวลเนนัยเนตร
กามกระหายโหยกลุ้มเกลื่อนแด ฯ
๕๐      คิดนัยนาเทพหว้ายเวหา
คือศศิสุริยแขแข่งแย้ม
คือองค์อนงคชาเยาวเยศ กูนา
เหมือนเมื่อตฤบรสแก้มกลิ่นเกลา ฯ
๕๑      เดือนถึงถถั่นน้ำตาตก
สายพรุณโชรมเชราฟั่นฟ้า
ปรานีแนบกับอกโอยแม่ กูเอย
เดือนสุดแล้วนุชหน้าแม่ผ้ายล่องใด ฯ
๕๒      รดูไพศาลขสร้องฝนสวรรค์
คิดสุมาลย์มาไลยแหล่งน้อง
รดูฤดีครรภ์รมเยศ
เจ็บกระอุแทบท้องที่ขวั้นสดือนาง ฯ
๕๓      คระหนฟ้าร้องคระโหยหา สวาทนา
ดลด่วนเจ็บแดกลางขาดขว้ำ
แขไขข่าวไถนาถถั่น มานา
อกระแห้งแล้งน้ำเนตรนอง ฯ
๕๔      แต่เรียมนิราสแก้วไกลนาน
ฟ้าเฟื่องครรชิตหมองหม่นเศร้า
รำเพยรำพาธารไหล่หลั่ง
สวรรค์อนันตร้อนเร้าช่วยตรอม ฯ
๕๕      นิรานิราสร้างแรมสมร
สุริยศศิดายดอมอยู่ได้
วเนวนาดรในโลก นี้นา
จำนิรารสให้ห่างแด ฯ
๕๖      โหยเห็นเดือนแย้มยั่วยงสมร
ไฉนว่าจันทร์เจียรแถลงหน่อเหน้า
เจ็บเจียรจำงายวรวินภาคย์
วหวั่งกามยงเย้ายั่วยรร ฯ
๕๗      ธาตรีตรีโลกแล้งแลจบ
จรหล่มลิดลิวกรรก่ำก้าง
นิทรานิราภพรมเยศ
ครหอบหิวไห้ช้างชำงือ ฯ
๕๘      เดือนหกเรียมร่ำไห้ฤาวาย
ยามย่อมชนบทถือท่องหล้า
ธงธวัชโบกโบยปลายงอนง่า
คิดว่ากรกวักข้าแล่นตาม ฯ
๕๙      ทันธงบ่ใช่น้องเรียมทรุด
หิวกระหนรนกามพรั่นกว้า
ธวัชงอนโบกโบยสุดลิ่วลี่
กรใช่กรหน้าหน้าใช่น้องนาไถ ฯ
๖๐      รดูเดือนเชษฐฟ้าครรชิต
สายพรุณรองไรเรื่อยฟ้า
ไพศาขร่ำแรมนิทร์นงโพธ เดียวแม่
แรมร่ำแรมโรยหน้าเร่งโรยแรมโรย ฯ
๖๑      วรรณาโมลิสแล้งแดงเดียว
อกกระอุเกรียมโกรยกระด้าง
อัมพรอุทรเขียวครางคร่ำ
ฟื้นฟ้าโหยไห้ช้างเชี่ยวสินธุ์ ฯ
๖๒      อักนิฐเลื่องโลกล้ำโสพศ
บัณฑุกัมพลอินทร์อาสน์แก้ว
เมรุทองรรองทศศาภาคย์
ฤาอาจทรงทุกข์แผ้วที่ตรอม ฯ
๖๓      รดูเดือนเมฆน้ำนองหาว
ชุกข่มเขียวไพรดอมยอดย้อม
ไฟกามรลุงจาวทองเทศ
เห็นลบัดเลี้ยวอ้อมอาตม์เรียม ฯ
๖๔      อัญชันชรอุ่นแต้มตาไพร
เพราะเพริดนัยนุชเทียมแต่งแต้ม
บัวกามจำรัสไรรัตนเรข
ชมช่อไม้เหมือนแก้มโกศเกล้า ฯ
๖๕      พระพรุณรายเรื่อยฟ้าเพ็ดโพยม
อกราษฎร์ชนบทเทาทั่วหล้า
เริ่มการสำเร็จโถมไถแล่น
เจียรอนุชน้องถ้าไป่ยล ฯ
๖๖      แถลงวัลยอาจเกี้ยวกรองบัด
ลมปั่นหาวเหินบนแบ่งไส้
เล็บนางแน่งเนาวรัตน์โชรช่อ
แลแล่งเล็บแก้วไล้ลวดทอง ฯ
๖๗      ฟ้าดินเลียมลอบกล้ำกลืนนุช แดฤา
ซงซ่อนไกลใจปองขาดขว้ำ
แดนใดลอบแลงบุษย์บัวมาศ
เรียมบำบวงบนก้ำก่ำสมร ฯ
๖๘      ร่ำรักแรมราสแก้วเจียรจินต์
กรมโกรธเททวารถอนถอดไส้
ลุกแลรลุงถวิล หาอ่อนอวนเอย
เยียวข่าวขวัญน้องไข้พี่ถ้าถามขวัญ ฯ
๖๙      เดือนเจ็ดจรหล่ำฟ้าเฟือนฟอน สวาทนา
เจียรจากนุชแดบรรหย่อนไซ้
ราตรีสงัดนอนเสียงเน่ง แล้วแฮ
เรียมนิรารสได้โตรดตรอม ฯ
๗๐      ราตรีตระหง่องเหงี้ยฟังยาม
อกกระอุทรวงทอมถ่อมถ้า
บอืออิดใจจามเสียงเน่ง นอนนา
เดือนแปดมาแล้วหม้าแม่ผ้ายลองใด ฯ
๗๑      นับนาวรรณิศถ้านับเดือน แดฤา
วันและคืนเดือนไคลคลาศคล้อย
อสุรภมูเหมือนจรหล่ำ แล้วแฮ
เรียมรำฦกน้องน้อยไป่สม ฯ
๗๒      อสุรเทเวศท้าวเทเวนทร์ มากแฮ
จักหว่าจิตต์เรียมจมจ่อมเจ้า
รอยไทสุราเชนทร์ทิพราช รังฤา
เรียมราสจึงเศร้าเศร้าโศกศัลย์ ฯ
๗๓      พรรษาสโรชฟ้าไขธาร ทดแฮ
เพรียกคระครื้นเครงสวรรค์ป่าวหล้า
สรรเพชญ์ยิ่งยลญาณพระสั่ง สอนนา
แย้มนิยมถ้วนหน้าเริมเรื้องทำธรรม์ ฯ
๗๔      วันทาวรโพธิไหว้หวังพระ พึ่งแม่
คุณรำฦกพระสรรพร่ำน้อง
สดับธรรมอยู่พลางคระครวญแม่
นุชบนำพาพร้องเพื่อใด ฯ
๗๕      กรจบบทมาศไท้ธาศรี ศากย์แฮ
หัดถ์บังคมฟูมไนยเลือดย้อย
บวงสรวงสุมาลีนานใฝ่ สมแฮ
เดือนใฝ่หาละห้อยใฝ่เห็น ฯ
๗๖      รอยนุชเปนเนตรรื้อเปนองค์ พี่แม่
จับจึ่งมาข่มเข็ญขื่นไส้
รลวงพิไลจงจักแม่ เดียวแม่
เดือนแปดแปดยามไห้ร่ำโหย ฯ
๗๗      ทิศใดดวงสวาทน้องสถิตสถิต
ฟ้าฟอดบาดาลโดยด่านเต้า
ชฏาธารเทพรังสฤษฏิ์ศรีสี่
เชิญท่านเลงแลเหน้าข่าวข้าขอฟัง ฯ
๗๘      เพรงเราเคยพรากเนื้อนกไกล คู่ฤา
ริบราชเอาของขังคั่งไว้
มาทันปลิดสายใจเจียรจาก เรียมนา
มานิรารสให้ห่างไกล ฯ
๗๙      พระใดบำราสน้องกรุณา หนึ่งรา
แสนหนึ่งนางถวายไปแด่ไท้
ดวงเดียวมิ่งมาลาเฉลิมภาคย์ กูเอย
รัตนสุคนธทิพไหว้กราบถวาย ฯ
๘๐      เดือนดลกลนิตน้องนุชนิทร์ อยู่ฤา
ฤาหากพันกรกลายแกล่ไว้
พระสุริยท่านรังสฤษฏิ์รอยเบียด บังฤา
ขอศศิผลาญให้แห่งน้องเห็นคืน ฯ
๘๑      ขอชมพระสาสนแก้วเกลาสูร หนึ่งรา
ชิวหาศหอมรสกลืนกลิ่นใกล้
ขอชมมิ่งมาธูรเสาวณิศ
สาวอนงค์เหน้าไท้แม่เผย ฯ
๘๒      รอยกรรมหากแบ่งแก้วกับกรรม์ พี่ฤา
อาทิก่อนเรียมเชยซาบเนื้อ
ในบนบรรจฐรณ์พรรโณภาส
รสอ่อนยังเกื้อเกื้อไป่ปิ้มหายหอม ฯ
๘๓      เดือนแปดจรหล่ำแล้วลิ่วลิบ
อกระหนทรวงทอมถ่อมถ้า
มาถึงที่นพนิพเดือนใหม่ แล้วแม่
อรอนงค์หน้าหน้าไป่เห็น ฯ
๘๔      อนงค์อรนิตเจ้าจรจรัล พี่เอย
จักคลาศเดือนมาเป็นดั่งนี้
กระอุกระอกยรรแดจาก ดังฤา
ความพี่วันชี้ชี้แม่รื้อยังเห็น ฯ
๘๕      เดือนเก้าจะเคร่าน้องเทอญฤา อรเอย
กระละหล่ำจักเป็นแต่กี้
กระเหม่นกระเหม็ดคือหาวอยู่ ไส้แฮ
ใครพาดใครพานชี้ซื่อตาย ฯ
๘๖      เดือนดลถถั่นน้ำตาฝน ถั่นนา
จักเจียรเจียรนุชคลายคลาศคล้อย
พรรษามี่เมืองชนบทย่อน เลยนา
เรียมจากนุชสร้อยสร้อยโตรดตรอม ฯ
๘๗      เจียรเจ็บอกถ้าอ่อนเชยทิพ ชายนา
กายนิพนธ์ผอมผิวสรากเนื้อ
เพราะอรลิ่งลิวลิบลิ่วลี่แล้วแฮ
เดือนถั่งตาฝนเชื้อแม่ผ้ายลองใด ฯ
๘๘      เดือนดลกลนิตน้องดลใด อรเอย
จำจากจึ่งเรียมไคลคลาศคล้อย
เดือนเก้าเกียจกันไฉนฉงนอยู่
จึงจากนุชน้อยน้อยพี่ตรอม ฯ
๘๙      อัมพรมัวเมฆคล้ายคลั่งฝน แม่ฮา
เซงซ่าชลโชรมชรอมฉ่ำหล้า
ธาราน่านนองชลชิงเชี่ยว แม่เอย
เรียมรลุงแลถ้าไป่เห็น ฯ
๙๐      ครรชิตรัชนิฟ้าเพ็ดโพยม
วายุโอบพรุณเปนเมฆกลุ้ม
ชีสามุ่งใจโจมจรจ่อม ใจนา
ในเมฆอันคลุ้มคลุ้งโอบมา ฯ
๙๑      ครไลครลั่งแล้วกระมัง แม่ฮา
จับบ่เริ่มนุชคลาถ่านี้
ชีสาอยุ่ในบังวายุเมฆ โพ้นนา
เจตกมลผี้ผี้รวบเอา ฯ
๙๒      เพื่อเจียรเหน้าแก้วก่อการตฤบ
นาร่วมรสนิทรเนาแนบน้อง
เรียมราสจึงมามฤตย์เมาโมห รักเอย
กามกลหายนุชคล้องพี่รื้อกลใด ฯ
๙๓      พิศวงพิศวาสขวั้นแขวนทรวง พี่นา
ถนัดเปล่าปลิวเปลืองใจจากเจ้า
ทฤษฎิล่งแลดวงดาวดาษ
ถนัดว่าเดือนดวงเหน้าหนุ่มสมร ฯ
๙๔      กรรณาวรรนิตเพี้ยงแขไข แข่งฤา
ใช่ว่ากรรกับกรดุจนั้น
แสงจันทรอำไพเรืองรุ่ง ไซ้นา
เรียมจึ่งคิดหั้นหั้นประเหล ฯ
๙๕      ดวงเดือนดูด่วนแต้มตราติด ต่ายนา
หน้าหน่ายแลขอเวนเวี่ยไว้
พักตราแม่งามสนิทหายแห่ง ใดนา
เดือนหากเห็นไจ้ไจ้แม่เร้นเมื่อใด ฯ
๙๖      เพยียวรรโณภาสสร้อยสนองกรรฐ์
เคยก่อนทรงธารในอาสน์แก้ว
ถึงมานิราจันทร์เจียรจาก อรนา
จรหล่ำลับฟ้าแล้วไป่คืน ฯ
๙๗      ภัทรบทดลเดียรถฟ้าครรชิต
ชรุ่มชราบในฝาผืนฝั่งป้อง
ภรรดาพิโรฤทธิ์รังราค
มาเมี่ยมน้ำหน้าต้องต่ำสินทธุ์ ฯ
๙๘      คล้ายคล้ายวว่องไว้เวียนไนย แน่งเอย
แสนกระอุเพาพินท์คลาศคล้อย
มลักเมียงตระบัดใบบทเรข
เหมือนสกลนุชน้อยแน่งนา ฯ
๙๙      เดือนภรรบัทคลาศคล้อยกลิ่นไกล
เชิญบิดรมารดาพร่ำพร้อง
ถวายคิดจำหน่ายในบัวบาท พระนา
แลบ่เห็นน้องน้องเมื่อใด ฯ
๑๐๐      ชำงือคือเดชเห้งหริรงค์
รักษ์ลเวงอาไลยมืดม้วย
บำบวงสุดาวงศ์หริราช
นานขวบเดือนสิบสร้อยโสดหาย ฯ
๑๐๑      หริรักษ์หริราชแกล้งเกลานุช แม่ฤา
จักจึ่งทรวงธรหมายแต่เจ้า
ในนางสุรางค์สุดสามโลก ก็ดี
เทียมธุลีบทเหน้าห่อนเที้ยรฤาเทียม ฯ
๑๐๒      การเตนนิ่มแต้มตรูเฉลิม แผ่นนา
กรรมแบ่งเอาอกเรียมราสแคล้ว
การเตนแม่เอาเจิมไปแจ่ม ใครนา
ชำชำงือแก้วแก้วถึงเข้าเดือนสิบ ฯ
๑๐๓      เดือนสิบถถั่นแท้เททรวง พี่แม่
เดือนยาตรมาเยียวหยิบแม่ผ้าย
เรียมโหยรลุงลวงลาญสวาท
ละพี่เดียวให้หว้ายโศกศัลย์ ฯ
๑๐๔      พรรษาภิเษกสร้อยสรรเพชญ์
เคยบำรุงรศธรรม์ที่ไท้
โอ้แก้วกลับแดเด็จเดียวจาก ไปฤา
ละแต่ภรรยาให้แหบโหย ฯ
๑๐๕      เดือนมฤคไมยมิ่งเต้นตามมฤค ฤาแม่
มฤคพร่ำชวนมฤคโชยผาดห้วย
จวนเดือนเมื่อกรรดึกชลมารค นองนา
จักจากเรียมด้วยด้วยมฤคพาล ฯ
๑๐๖      เผยอบุญญาพาสถ้วนเทเวนทร์
เทพบ่ควรเห็นการพี่สร้อย
กระอุอกอาเปรนปราณนาศ แล้วแฮ
แดเดือนดาลร้อยร้อยส่วนเสล ฯ
๑๐๗      แม้ม้วยบรเมศรไท้ทินกร ก็ดี
สิ้นสุดพระเมรุเอนอ่อนล้ม
สามภพเปื่อยเป็นบรนรนาศ ก็ดี
เจ็บไป่ปานน้องล้มหล่อองค์ ฯ
๑๐๘      หล่มหล้มอกอ่าโอ้อกพระ พี่เอย
จรจากนุชอนงค์เมื่อนี้
นาวาวิ่งว่ายฉะชลมารค
ถวายเลิศล้ำแล้วลี้ไล่สินธุ์ ฯ
๑๐๙      อกกรมเกรียมสวาทไห้โหยหา
นองเนตรธารากินบ่ม้วย
ดายดัดด่วนแดมาไกลแม่
ใดบ่ปรานีด้วยเท่าใย ฯ
๑๑๐      กรเกยกมุทไหว้สรวงสิทธิ์
สบสุราสุรในแผ่นหล้า
ขอสมสุดานิจนุชนาฎ เดียวแม่
แสนสุเมรุห้องฟ้าบ่ได้ปรานี ฯ
๑๑๑      ชงครากามิศน้องยังยัง ติดแม่
ในรลุงนาภีพรั่นกว้า
เทวาสุรารังบิดแบ่ง ไปฤา
จำราสชายหิ้วช้าอยู่เชย ฯ
๑๑๒      พาลแขไขแข่งแย้มตรูตรัส
อาสยุชดลเดือนเคยแนบน้อง
ฤามานิรารัตน์ชาเยศ
สบประชาชลซร้องคร่ำสินธุ์ ฯ
๑๑๓      มาสาสาวเลขน้ำนองใน
ฝั่งนทีธารถวิลแก่แก้ว
นาเวศประภาไสวขับแข่ง กันนา
โอ้อนุชน้องแคล้วคลาศกู ฯ
๑๑๔      สรมุขไมยมาศแต้มตรูตรัส
ศรีสมรรถไชยตรูเตรียบฟ้า
พายค่ำจำรัสแครงใส่ส่อง
หมึกสักหลังรั้งหน้าฮึดฮือ ฯ
๑๑๕      ฝีพายพลไปล่น้ำปลิวใบ แบ่งนา
ฉายฉากพายพลบือปั่นคว้าง
ชำงือชำงายไนยนองเนตร แล้วแฮ
นึกรำฦกรังสร้างแรกสม ฯ
๑๑๖      ไกรกรายฉายฉากน้ำบึงปลิว ปรีนา
คิดพิมานไชยชมบ่เว้น
แลเลาหลั่งลองลิวลมล่อง มาฤา
อ่อนลำเภาพายเต้นตากหัว ฯ
๑๑๗      วรหงสไพโรจน์เพี้ยงเรือนาง แน่งนา
กลบันจงเกลากลัวดุจขว้ำ
เกลียวกลมรันทวยกลางโอนอ่อน มานา
เรือหากรู้น้ำน้ำหากเห็น ฯ
๑๑๘      พิศพลยอฉากหล้มทวยธวัช
บัดแมล่งขณะเป็นที่หั้น
กลกามชำงือถกัดนุชนาฎ
ครึ่งบางถมอชั้นง่าพายยอพาย ฯ
๑๑๙      ตาเรียมกระหง่องตั้งตาเรือง แม่ฮา
ตาหลิ่งดูดูดายน่อน้อง
ชลธารนทีเจือจาวหลั่ง ไหลนา
อกแผ่นดินฟ้าฟ้องเพื่อนาง ฯ
๑๒๐      ฟองชลฝะฝ่ายน้ำตาตก
ตาฝั่งแฝงเกลียวกลางสวาทไหม้
โอ้แก้วกึ่งกับอกองค์จาก ไปแฮ
อกแผ่นดินฟ้าไห้ถั่งฝน ฯ
๑๒๑      เจ็ดสินธุ์สบส่ำแล้วเจ็ดสาร ก็ดี
ยังไป่ปานชุรชลเกลศกลั้ว
กรรโหยรลุงการในเกลศ นางนา
ฉงนชำงือรสดั้วด่วนมาลย์ในมาลย์ ฯ
๑๒๒      สนุกหล้าเหล้นพี่ดูดาย ณะแม่
แลรลุงแดลาญสวาทไหม้
เรียมครวญร่ำอกหายโหยสวาท
เจ็บจำงายเดียวไห้แหบหิว ฯ
๑๒๓      รดูเดือนเหล้นพี่ดูหนอ อยู่นา
อกกระอุเปลืองปลิวพรั่นกว้า
รดูฤดีดลหายแห่ง ใดนา
เรียมราสร้อนรนถ้าไป่วาย ฯ
๑๒๔      เจียรเจ็บอกฟ้าฟอดเพ็ดโพยม
แสงส่ำอัคคีภายฟาดน้ำ
พระพรุณทาโสมสรวมอาสน์ ก็ดี
ในสุธาราล้ำน่านนั้นแสนทวี ฯ
๑๒๕      รดูอาสยุชน้ำนองหาว
ข้อนอุรตูมตีขาดขว้ำ
อัมพรชรอุ่มขาวทรวงเทวษ
แลบ่ปานนองน้ำน่านไหล ฯ
๑๒๖      พันฦกฦาลั่นฟ้าลมฉวาง
ทุกทวีปดินแดนไตรหมื่นไหม้
ไฟกัลปกระอุปางตรีนาศ
โอ้อกเรียมร้อนได้กว่าแสน ฯ
๑๒๗      จรลิดลิ่วลี้จระลับแข แข่งนา
แขแข่งขัดหวงแหนแม่ไว้
เลงเดือนก็สุดแลลิ่วลี่ แล้วแฮ
เดือนสว่างคือไต้ไต้โลกนี้หายโฉม ฯ
๑๒๘      กรรดึกแขมาศผ้ายไตรตรัส
สวะเมฆอัมพรโพยมผ่องแผ้ว
อกฟ้าจำรูญจรัสเจียรเมฆ
อกราสฤารู้แล้วผ่าวเผา ฯ
๑๒๙      ฟ้าหล้าใสส่องเท้าเทียมสูรย์ ส่องแฮ
อกพี่ดาลมัวเมามืดน้อง
พิธีอาจอาดูรเรียมโรค
เจ็บเพราะเรียมรักร้องร่ำนาง ฯ
๑๓๐      ชลธีปละปลั่งคว้างทางสินธุ์
นาเวศนาวาวางวาดน้ำ
ตกปางขดานดินสดือแม่
ดลรดูสั่งล้ำไล่ชล ฯ
๑๓๑      ไล่ชลนาเวศแล้วเมือโรง
อ่อนรทวยนวยกลกิ่งก้ม
เรียมพายรโงงโหงหกอยู่
เพราะเพื่อพลหายห้มห่มแรง ฯ
๑๓๒      กรรดึกเดือนตั้งแต่งโคมถวาย
ทุกทวยหญิงชายแสวงล่องเหล้น
ขับซอปี่แคนหลายเพลงพาทย์
ติ่งติ่งนิ้วน้าวเต้นร่อนรำ ฯ
๑๓๓      โคมทองประทีปแก้วเรืองใน
อกพี่คือโคมคำคู่ได้
เพลิงผลาญกระอุใจวนิเจต
ทรวงรลุงลาญไหม้ป่วนเปน ฯ
๑๓๔      ทุกข์ด้วยลิภาคยลี้ลับแลง
รสย้ำยามเขญเข็ญขอดข้อน
รำฦกสมเด็จแสดงรสราค
เพลิงราคร้อนเรียมร้อนยิ่งยง ฯ
๑๓๕      เสาโคมสราวสราดขึ้นแขวนถวาย
ใจพี่แขวนขวัญจงไป่ม้วย
ไฟกามกำเดาดายดักด่าว เดียวแม่
นุชบ่แรมร้อนด้วยพี่เลย ฯ
๑๓๖      เดือนดลกรรดึกหล้าชลาชล
ชลชลานองเนยน่านกว้าง
ท่วมมารคนทีจนตาฝั่ง
นึกรำฦกไห้ช้างที่หั้นใครเห็น ฯ
๑๓๗      เห็นน้ำคละคลั่งคล้ายไนยนา แม่ฮา
คลุ้มคลั่งอาเปรนเปนดั่งบ้า
บเห็นสุดามาเมินเคียด ไส้แม่
ลุบ่มีเลยข้าตากตน ฯ
๑๓๘      ชลกามนุชกล้ำเกลศชลพระ พี่แม่
ไฉนฤไทยชลจนเมื่อนั้น
ชลเหลือหลั่งลงพระชลใหญ่
ชลแนบชลนั้นนั้นย่อมกล ฯ
๑๓๙      ถวายบุญแบ่งแกล้งกล่าวผลเผยอ
ถวายพระเปรียงพลางบลบ่นน้อง
โคมทองรังรองเลอแขแข่ง
บุญกุศลเรียมพร้องพร่ำถวาย ฯ
๑๔๐      นาเวศเวียนมารคท้องทางสินธุ์
จบนทีธารผายทั่วหล้า
พานโภชนาบิณฑบาต
บวงสรวงนุชน้องหน้าหนุ่มเจ้าจงสม ฯ
๑๔๑      สายโคมราวรย้ารยังราย
คือกังหันหันลมรอกร้อง
สราวโคมปั่นขวัญหายหาแม่
เสียงรอกรากพานต้องโตรดตรอม ฯ
๑๔๒      เสียงรอกรากตื่นเต้นในนุช
ยึดเชือกสราวโคมจรจวบหั้น
รย้าไปล่ปลิวบุษป์บนเวก
รอกเร่งร้องนุชซั้นเร่งรน ฯ
๑๔๓      มฤคจรดมาเต้นพี่นึกโคม สฤา
กลเมื่อกลกามกลตื่นต้อน
กลนุชแนบแนมโจรมจรดราค
กลเมื่อเจ็บเรียมข้อนขอดแสดง ฯ
๑๔๔      ร่ำรักเดือนอ้ายถั่นถึงมา แม่ฮา
ฟ้าจากเจียรกินแหนงลห้อย
อกแล้งนอกนัยนาเลอล่ง
แลท่งธารน้ำน้อยน่านหาย ฯ
๑๔๕      อกชลคลาแคล้วแผ่นปรัถพี
หญ้าเน่านองตรอมตายต่ำเตี้ย
คือเรียมจำงายศรีเสาวนาฎ
อกแนบเขนยขนนเหงี้ยเงียบศัลย์ ฯ
๑๔๖      คระหนอกแห้งคระหิวโหย
ดลรดูแดยรรหย่อนไส้
ปลาแปลนไปล่วังโอยอกหว่า
ยางยูงยงยังได้ดุจหมาย ฯ
๑๔๗      เรียมตรอมตระโหมดหม้ายเอกา
อกหว่าหวังหวังดายบ่ได้
ทุงทองท่องกินปลาทองใฝ่ ฝันนา
ออกอุกร้องเรียมไห้ออกโอย ฯ
๑๔๘      กระสางร่อนต้อนกระสัง
ออกจากรังซวนโซยเมื่อนี้
รดูเมื่อชลหวังแปลนหาด
ปลาเล็กน้อยส้อยสี้สากแขยง ฯ
๑๔๙      แขยงพิษครั้งต้องไม่คือดุก รฤา
ครั้นเมื่อกลืนกลแกงเกี่ยงก้าง
นึกสร้อยสุบงคลุกนิราส
พระเพื่อนยังรู้บ้างที่ข้าเรียมศัลย์ ฯ
๑๕๐      ท่งนาแลข้าวเลิศรวงนา แม่ฮา
เหลือไผ่ผอมยาวรรนิตน้อง
ชนบทหมู่ไปมาเหลือแหล่
ยังกระอุอกร้องช่วยตรอม ฯ
๑๕๑      รดูดูว่าวคว้างกลางหาว
เห็นว่าวหว่างอกปลอมว่าวขึ้น
สายทรุงปั่นอกทาวทรวงพี่
เห็นละลักชักฟื้นฟั่นแด ฯ
๑๕๒      รเร่รร่ายร้องเรียมตรอม
อึงแอกเสียงเรียมแปรป่วนไส้
ขอขึ้นยอยรรดอมเดียวสวาท
พรายทั่วฟ้าอกไหม้ม่าวถวิล ฯ
๑๕๓      ลมพัดเผยอข่าวด้วยลมเฮย
ลมแล่นรับขวัญบินบ่าไส้
เรียมรักร่ำยังเลยลาญสวาท
สารส่งว่าววานให้แม่มา ฯ
๑๕๔      ว่าวรับข่าวแล้วว่าวบินบน
ลมส่งสายทรุงพาว่าวหว้าย
เรียมฟังข่าวนุชฉงนไฉนอยู่
ว่าวบ่บอกสารหน้ายแสบทรวง ฯ
๑๕๕      รดูดูราษฎร์เหล้นมหรศพ
ทุกทั่วหญิงชายพวงพวกพ้อง
สวนเลียงสำเนียงจบเจียรโลก
แสนสนุกถ้วนท้องทั่วเมือง ฯ
๑๕๖      มฤคเศียรโรชเรื้องเพ็ญพักตร์
จันทร์แจ่มจันทร์จเมลืองล่งฟ้า
ตรียามพวายชักชวนเพื่อน เพาแฮ
โอ้ดนัยเดียวหม้าใหม่ฤา ฯ
๑๕๗      ปางทวิชเริ่มแรกตั้งแขวนขดาน
ขดานดั่งขดานคือดอกไม้
กรรแสกรรแสงสารสายโยค
โอ้อกเรียมคิดได้เร่งถวิล ฯ
๑๕๘      เห็นพาหุเลศเหล้นบรรยาย
คือคู่โฉมกินรินเฟื่องฟ้า
เสนงทองรรองพรายเพราเพริศ
เห็นบ่เหมือนหน้าหน้าหน่ายเดือน ฯ
๑๕๙      ชุมนุมทั้งห้าเริ่มถวายขดาน
นาริศธรณีเหมือนอ่อนไท้
ภูษาธิกทูลธารพระบาท
เหินมหรศพไหม้สวาทแด ฯ
๑๖๐      ธรณีธรณิศแก้วการเต
เห็นประเหลเรียมแลบ่ม้วย
โอ้เหมือนบ่เหมือนเมมาลย์มาศ กูเอย
เรียมเร่งเร้าร้อนด้วยโศกแสน ฯ
๑๖๑      มฤคเศียรสัมฤทธิสิ้นเสร็จฉินท์
หายบ่เห็นโฉมแผนแผ่นฟ้า
เดือนอ้ายก็เจียรจินต์เดือนยี่ แล้วแฮ
ยังบ่เห็นโหยข้าชวดนาง ฯ
๑๖๒      บุษยาภิเษกสร้องศรีสวัสดิ์
รัตนสุดาเดียวกลางกล่อมเกลี้ย
บยลยุพาพัดเพาพี่ เดียวแม่
เสนาะดินฟ้าเหงี้ยเงียบดาย ฯ
๑๖๓      วิมุขทวิชชาติเข้าถวายพร
โอมอ่านอาคมถวายเษกสร้อง
ถวยสังข์ชลาธรนรนิตย์
พานทำนุกทุกซ้องแหล่ถวาย ฯ
๑๖๔      มนตรีมนตรีศเรื้องเรืองยศ
ทุกหมื่นขุนมุลนายนอบเฝ้า
สมเด็จปิ่นเสาวคตยุพราช
โอ้เอนดูเหน้าเหน้าแม่ผ้ายลองใน ฯ
๑๖๕      เคยดลประพาสถ้วนการกิจ
นั่งแนบเอางารในบ่แล้ว
ปรากันจากลิวลิศลิ่วลี่ แล้วแฮ
เรียมราชโหยแคล้วแคล้วคล่ำใน ฯ
๑๖๖      อัมพรอาเภทแจ้งจำฉงาย
เดือนยี่เจียรจรัสไกลเกลศกลั้น
มุรธาภิษิตถวายสังคีต
ยลรบำบนหมั้นหมื่นทวี ฯ
๑๖๗      ถนิมเมืองแมนเษกสร้องเกษมสุข
ล้ำเลิศกรุงโกสีย์หยาดหล้า
โขลนทวารตรวจตรีมุขไรเรข
ธารชำนันครุฑหน้าเฉิดโฉม ฯ
๑๖๘      สุริยไพโรจน์เหลื้อมจรูญจรัส
จันทรพิมานเพียงโพยมก่อแก้ว
พรายพรรณจำรูญรัตน์มุขมาศ
เรียมเยียคิดแคล้วแคล้วคลั่งสมร ฯ
๑๖๙      พระพลานไชยตั้งแต่งตรูตา
แสนส่ำกษัตริย์ถวายกรกราบเกล้า
เพยียมาศเวียมาลามาลาศ
กรกอดคลีม้าเคล้าคล่าวโคน ฯ
๑๗๐      เหิรหันเกวียนแก้วแกว่งเหิรเห็จ
วางวิ่งลับลิ่วโทนท่องล้ำ
รอยสุริยสุราเสด็จดวงสวาท ไปฤา
จากอกเรียมคือห้ำห่ำใจ ฯ
๑๗๑      รบำบรรเยศแกล้งถวายโฉม
คืออับสรสาวสวรรค์ในฟากฟ้า
มหรศพบแลโลมลาญสวาท
โอ้บ่เหนนุชหน้าโศกศัลย์ ฯ
๑๗๒      นารินทรนาริศเร้นรักโฉม อยู่ฤา
จากอกองค์เรียมรันเร่งร้อง
หาหายบ่เหนโคมสมรมิ่ง กูเอย
เร้นสุรางค์ไว้ห้องแห่งองค์ ฯ
๑๗๓      เทียนทองพิเศษตั้งเทียนทิพ
รัตนสุพรรณบรรจงช่อเชื้อ
บัดเหนกระอุสิบแสนโศก
ด้วยกำเดาเร้าเรื้อรวดปาง ฯ
๑๗๔      รันธาทิพธาตุเที้ยรดุษฎี
โอภาสเพ็ญภพฉวางช่อช้อย
โอ้รัตนกมลลีลาสวาท ไปแฮ
เรียมรทวยทุกข์ร้อยส่วนเพลิง ฯ
๑๗๕      เซ็งเซ็งซซ่านน้ำนัยนา
ตกพ่างบุษบันเกิงขาดขวั้น
เร่งแลกำเดาอารพภเรข
ยิ่งกว่าเพลิงเหี้ยมหั้นหั่นแด ฯ
๑๗๖      มนตรีมนตรีศถ้วนมนทาน ก็ดี
โอ้ป่ายแลเล็งแลโศกซ้ำ
แก้วเก้าตระการมาลย์มลมิ่ง กูเอย
จำอุธรทุกข์ล้ำเลิศสินธุ์ ฯ
๑๗๗      อัญชันชูช่อช้อยนิลรัตน์
กลวิมลนัยนิลแน่งน้อง
ครั้นคิดกำเดากลัดกลางเจต
จรลิ่งทางทิพห้องแห่งองค์ ฯ
๑๗๘      กณิกากณิเกศสร้อยสาวศรี
ทรงสุมาลย์แมนลงแต่ฟ้า
เหนเปนประโลมตรีไตรธาตุ
ยังเบี่ยงพักตราช้าช่วยเจ้าจอมเดียว ฯ
๑๗๙      เห็นเพลิงเพยียโรจน์ร้อนรุมอก พี่แม่
เจ็บจำงายเครงเครียวพรั่นกว้า
กังหันกังเหิรตกหายสวาท
คือชลาในหน้าถั่งถาม ฯ
๑๘๐      เรียมครวญสวาทให้แทบแหนนาง
กามกระอุอกแกมก่ำไส้
บันทับบันทุผางอกหว่า แล้แฮ
จรวดจรดหาววานให้แม่มา ฯ
๑๘๑      อัคนีสาโรชฟ้าครรชิต
เสียงบันฦาธาดาดอกไม้
จรวดจรวดสิสองสิทธิ์เซ็งซ่า
เสียงจรวดฤาอกไหม้ม่าวทรวงเททรวง ฯ
๑๘๒      สายเพ็ชรตกโตรดน้ำตาตก แม่ฮา
เมินมณีมุขพวงภู่แพร้ว
คือนัยวินิลหกมาโนช เรียมเฮย
แลเล่าใช่มุขแก้วพี่ศัลย์ ฯ
๑๘๓      เพยียทิพเมินมุ่งเพี้ยงเพยีย นิ่มเฮย
เคยบิลันธากรรณเกศแก้ว
โอ้แก้วเพยียกลางสมรมิ่ง กูเอย
รักษแรงรักษ์แคล้วคล่าวใน ฯ
๑๘๔      กังหันเหิรฝ่ายฝั้นเวหา
คือรันธาดวงใจพี่ร้อน
มารศรีวนิดาดวงพราก ไปแฮ
เจ็บยิ่งเพลิงกรรมต้อนแตกทรวง ฯ
๑๘๕      จงกลกรรณิเกศแก้วกรองมาลย์
โอภาสพนมเพียรพวงพรั่นกว้า
เพยียเพ็ชรพี่ยศฐานแดห วาแฮ
รุมโรคร้อนอกข้าขาดขว้ำขวัญปลิว ฯ
๑๘๖      โคมทิพเวหาสห้องหาวเหน
เท่งและเทียรเรื่อยริวร่อนฟ้า
คือโคมจำเรียงเปนปางเสพย์
เสวยสุรสร้อยห้าแห่งกาม ฯ
๑๘๗      ตรวจแตร่นตรูโลกว้าเสียงสัก
พรายภมรย่ำยามภู่ย้อย
ตรูไตรจำรัสพักตราโลก
เรียมรำฦกน้องน้อยเมื่อเคล้าธรจร ฯ
๑๘๘      พรรณาทุกสิ่งสร้อยพรรณนาง
ในบุษย์พิมลสมรโสตน้อง
สบสิ่งทั่วสรรพางค์ประกาศ
ในนุชเจ้าสอดคล้องพี่ตรา ฯ
๑๘๙      ใดนางเรียมร่ำสิ้นในนุช
ดาลกำเดาดลราร่ำด้วย
สรรพางค์วรางสุดเจียรเจต
แม้แผ่นไตรภพม้วยไป่วาย ฯ
๑๙๐      เดือนสามประเวศไว้เวียรแข
เรียมร่ำดวงเดียวดายด่วนฟ้า
ประจลกมลแดดาลเทวษ
อกก่ำกรมเกรียมหม้าใหม่หมอง ฯ
๑๙๑      โอ้แก้ววนิภาคพ้นวนิภา
เดือนใหม่ดลใจจองแจ่มแจ้ง
รัษตินทิวารังยามโยค
ฤาห่อนเสียงแส้งร้องร่ำคุณ ฯ
๑๙๒      อาสุรสุดสวาทสร้อยเสาวคนธ์
เจียรจำงายมาดุลโศกเศร้า
มาลิวิไลยดลใดดั่ง นี้นา
โรคนิรารสเร้าโตรดตรอม ฯ
๑๙๓      ดวงทิพโมลิศเกล้านารินทร์ พี่เอย
อ้าอาจมาดาดอมอยู่ได้
อับสรสุราชินเยียวหยาด มาฤา
เรียมกระอุอกไหม้แม่รื้อปรานี ฯ
๑๙๔      ดวงจาววนิภาคย์พ้นเสาวบุษป์
ชิดช่อดวงมาลีเสียดสร้อย
กลิ่นเกลี่ยงกำจรอุดดมภาค
เทหฤทัยเรียมคล้อยคลาศแด ฯ
๑๙๕      เจียรจันทร์พิโยคร้างแรมรส
พักตรสุดาเจียรแถงหยาดหล้า
สายสมรมิ่งมนมทมาโนช กูเอย
เดือนใหม่มาแล้วหม้าไป่เมิล ฯ
๑๙๖      สุริยแสงส่งสร้อยส่องสุมามาลย์
คือศศิสุริยเดิรผาดผ้าย
ถวิลทิพสุดาดาลเสด็จยาตร มาแม่
ในสุธาราคล้ายเร่งยวนใจยวน ฯ
๑๙๗      จรจิตต์ใจเจตน้องนางนุช ฤาแม่
นิลกรรหายโหยครวญสวาทไหม้
ในเรียมล่งในบุษป์บัวมาศ
นึกรำฦกไห้ไห้นาฎน้องฤาเอ ฯ
๑๙๘      เดือนเพ็ญสาโรชสร้อยสัรทกาล
เรียมราบจักจงเทท่าวล้ม
กัลยางคนิพาลพักเตรศ
โอ้บ่เห็นหายส้มแสบทรวง ฯ
๑๙๙      เดือนสามรังเริ่มแก้วกลศรี
สมสอดบุษบาดวงดอกสร้อย
วันยามโยคราตรีไตรเพท
โอ้เมื่อวันวางช้อยช่อมาลย์ ฯ
๒๐๐      เดือนสามสาโรชน้องนางเดียว
อกกระอุทรวงธารเนตรย้อย
เดือนดลฝ่ายนุชเกลียวกลมสู่ มาแม่
เดือนเร่งไกลนุชคล้อยเร่งคลา ฯ
๒๐๑      เดือนดลนับนิ่มน้องนางนุช
นุชว่ามาฤามาเร่งแคล้ว
การดาวลีบุษป์หายแห่ง ใดนา
เดือนเร่งมาน้องแก้วเร่งหาย ฯ
๒๐๒      ภุมรีซรับซราบสร้อยสุมามาลย์
เกลือกสุคนธ์อบอายกลิ่นกลั้ว
เจ็บคือเยียมาการบัดแบ่ง
เอาชีพเรียมเจียรขั้วขาดแด ฯ
๒๐๓      สายัณห์ยลยั่วสร้อยวนิดา ยิ่งแฮ
ไขศศิแสงแขแข่งแย้ม
โหยหนทรหวลหาวลิภาค
ธารสุคนธารแก้มตริบตรอง ฯ
๒๐๔      ศิดางค์เวียรแว่นฟ้าฤาพักตร์
ศศิมฤคหมายหมองใช่แก้ว
โสภาพิมลลักษณ์เสาวเลข
ใส่ส่องโกมุทแล้วเลิศจันทร์ ฯ
๒๐๕      คิดพาลเภาโพธผ้ายลองใด
ถอนถอดเททรวงกรรม์ก่องไหม้
รดูส่งพระไพสพราช มาแม่
ยังไป่เห็นนุชไห้พี่ไห้เอกา ฯ
๒๐๖      อาจารย์รังเริ่มตั้งพนมรวง แม่ฮา
ถวายสุคนธมาเรียบร้อย
รัถยาบ่าวสาวพวงพาลแพละ กันนา
ตามส่งไพสพคล้อยคลาศคลา ฯ
๒๐๗      แสนสาวสอาดเพี้ยงพิมพ์พิศ
โอ้บ่คิดตรึงตราสวาทไหม้
ดวงเดี่ยวสุธาทิศทิพมาศ กูเอย
หล้าแหล่งชมเรียมไห้ไป่วาย ฯ
๒๐๘      ศรีสุทธิในนาถพ้นพันแสง
ฤาว่าอินทร์พรหมหมายมิ่งน้อง
จึ่งจากภิรมย์แสดงประดิภาค
ข้องข่ายมารแมนคล้องบ่วงกาม ฯ
๒๐๙      พิศเทพีโพธแก้มเปรมปราง
ทรวงก่ำกรมกลหนามเสียบไส้
พลแพนร่อนรำฉวางแหนแห่
เร่งรันลุงลาญไหม้ผ่าวทรวง ฯ
๒๑๐      เจ็บจำงายแก้วพรากพลัดแด พี่นา
ฤาเทพไพสพลวงแม่ผ้าย
ไตรฤทธิ์บ่เล็งแลไตรโลก นี้ฤา
จำพี่ร้อนรนหว้ายโศกศัลย์ ฯ
๒๑๑      นพรัตน์รังเรขร้อยบุษย์มาลย มิ่งแฮ
รับบรรจงเจียรจันทร์ยั่วแย้ม
โหยหวนอุทรธารสหเทพ
โอ้บ่เห็นแก้วแก้มเกศเกลา ฯ
๒๑๒      สุนทรวรภาคพ้นแมนสรวง
รอยลอบลักยุพเยาว์ยอดไท้
ไปเปนธรณีดวงเดียวเด็จ
กลางดนูทิพไว้หว่างองค์ ฯ
๒๑๓      เสร็จสั่งไพสพสิ้นสารสุด
เพลิงฉี่ใบบัวบงเหี่ยวแห้ง
ว่าววางกระลาบุษย์พนิกาศ
โอ้อุทรทรวงแล้งลั่นลิว ฯ
๒๑๔      เดือนสามเจียรจากแม้แลลับ
ดวงฤทัยเรียมปลิวปล่งฟ้า
เหิรหาวตระดวดดับแขมาศ
เดือนใหม่เรียมรั้งถ้าใฝ่ฝัน ฯ
๒๑๕      ฤดูเดิ่นสี่ซั้นมาดล แม่ฮา
ตรุษโตรดเรียมแดยันด่าวดิ้น
ที่นี้จำรัสบนบังเมฆ
อกแผ่นผอมตรอมหวิ้นหว่าแด ฯ
๒๑๖      ลองใดฝูงราษฎร์ซร้องทำธรรม์
สบสกลเล็งแลล่งฟ้า
จบจวบอดุลพรรณพิศพร่าง ตานา
เรียมบ่เห็นหน้าหน้าหนุ่มหน้าบัวสมร ฯ
๒๑๗      อาฒาอาฒาศเพี้ยงเพ็ญพักตร์
อกก่ำกรมทรวงถอนถอดไส้
ดวงศรีจุฬาลักษณ์เฉลิมโลก กูเอย
เดือนใหม่มามาได้โศกสมร ฯ
๒๑๘      ลางสาวเสาวภาคย์แพ้สาวสวรรค์
ทรงพิภูษาภรณ์เสียดสร้อย
กรกุมมุลิวรรณอภิวาท
ถวายแต่ไตรรัตน์ร้อยส่วนบุญ ฯ
๒๑๙      ภรรดาพิเศษสร้อยแสนทุกข์
ด้วยกำเดาดาลพุนหมื่นไหม้
ถึงถนอมพิมลมุขยุพราช เดียวแม่
ยกประนมนิ้วไหว้คล่าวทรวง ฯ
๒๒๐      ทุกข์ทับกระอุโอ้แสนสินธุ์ โสรจแฮ
ในพิมลแมนสรวงหน่อน้อง
จึ่งสงฆ์ลีลาบิณฑบาตโภชน์ ไปแฮ
กรบังคมสุรร้องร่ำนางหานาง ฯ
๒๒๑      ทศนัขเกยก่ายเกล้าเศียรศรี
ใจปั่นปลิวไฟฟางละลิ้ง
นัยนาคล่าวนัยนีธารคล่ำ ไปแฮ
โฉมเฉกสวรรค์สิงคลิ้งคลาศปอง ฯ
๒๒๒      ลางสาวพิเศษล้นอับสร
ทรงสไบใยยองย่องฟ้า
เทียนทองตระกลกเกยเกศ
ถวายสมเด็จแสดงหล้าใฝ่ผล ฯ
๒๒๓      ภรรดาตระหง่องโอ้อาเม มิ่งเอย
อกกระอุทรวงทนที่ร้อน
เตรดวงอกองค์เอเอกาตม์
แก้มมุ่ยมาลย์ไข้ข้อนแข่งเข็ญ ฯ
๒๒๔      พระนุชเพ็ญภาคโอ้เภาพักตร์
มาละฤาไทยเปนปั่นคว้าง
นึกในตลาลักษณ์สุทธโภคย์
แสนกำเดาไห้ช้างช่ำงือ ฯ
๒๒๕      เจ็บเจียรมม่าวไหม้ทรวงธร
กามกระอุอกฤาร่ำได้
สายาลำเภาสมรหายแห่ง ใดนา
ตายตัดเดียวเสียวไส้ไป่วาย ฯ
๒๒๖      ไกลสร้อยสาโรชเนื้อนวลลักษณ์
อกหว่าบินบนพรายพรั่นกว้า
โอ้แก้เพ็ญพาลพักตร์เภาโพธ
หายแห่งใดจำข้าคิดทรวงลาญทรวง ฯ
๒๒๗      ดวงเดือนสายสวาทเพี้ยงสุดใจ
เรียรารักเดียวดวงดอกไม้
ชีสากึ่งยองใยฤาห่อน เอนา
สงวนบ่ลืมตนให้ห่างไกล ฯ
๒๒๘      เรียมรักร่ำสิ้นสบสรรพางค์
ฟื้นฟั่นเททรวงไปจากแล้ว
เพลิงราคยิ่งเพลิงปานเผ่าแผ่น ดินนา
ใครอาจดับเลยแล้วพี่ผลาญ ฯ
๒๒๙      บลุเลยได้โตรดตรอมเดียว
พิษผ่าวเผาแดลาญสวาทข้า
ววามวังเวงเยียวนฤชีพ
นฤชาติยังหน้าหน้านิ่มสมร ฯ
๒๓๐      เผยอปัญญาพาสสร้างศีลสุทธิ์
รังเริ่มผลบุญจรฝากแก้
สมโภชพิธีพุทธสมเพท พลางนา
สมเสพอย่ารู้แคล้วต่อเท้านฤพาน ฯ
๒๓๑      ปีมามม่าวล้างทรวงทรุด
โทรมบ่เดสงสารแสบไหม้
บ่เดลบ่เดบุษย์บัวมาศ กูเอย
รสย่ำยามยวนไส้หมื่นปี ฯ
๒๓๒      ปีมาถถั่นเที้ยรแสนศัลย์ โสดแฮ
อังกุศอรเศียรศรีโศกหม้าย
วันเจียรวลีจันทร์ภูวโลก
กรรมบุเรรสผ้ายผาดแผลง ฯ
๒๓๓      โอ้หล้าฟ้าฟื้นฟึกบุญยัง แบ่งฤา
โหนทุเรรัตนแสงส่องไส้
สุรางคนางนังนงโยค กูเอย
มาผ่าวเผาทรวงไหม้หมื่นทวี ฯ
๒๓๔      แสงสุริยรังเรขร้อนแรงฤทธิ์
ผลาญแหล่งปรัถพีตรีแผ่นขว้ำ
ยังดูลย์บ่เทียมทฤษฎิ์ทศจาก เจียรเลย
แสงพระสุริยนั้นก้ำกึ่งเดียว ฯ
๒๓๕      นฤวางนฤชีพสิ้นแสนกัลป์ ก็ดี
ชีพนิพนธ์ยังเรียวเรี่ยรี้
สรรพางค์ดำฤษณ์พันวิปวาส
ยิ่งกว่ากัลป์กลกี้ก่อนหมาย ฯ
๒๓๖      บลุไกลเกลี้ยแกล่กลมเกลียว
ใจพี่วังเวงวายหมื่นม้วย
เยียยลสุดาเดียวตรอมโตรด
เรียมร่ำรักดิ้นด้วยดอกไม้ในนาง ฯ
๒๓๗      โอ้ปรานีนาถเนื้อนงลักษณ์
นั่งฤานอนเยียวกลางสวาทข้า
เสด็จจรจำรายศักดิ์โสภิต
รวยรูปน้ำหน้าไล้อาบองค์ ฯ
๒๓๘      ปาณีนฤเบศร้างแรมเขนย ขนาดฤา
แล้งรสบรรจงสรรพ์สิ่งถ้วน
อยู่พู้นค่าใครเลยถนอมนาถ
คือคู่ปลายพฤกษ์ห้วนโตรดตรอม ฯ
๒๓๙      ปีมาตระบัดร้อนรนอก โอยแม่
ใครจอดจนเจียรจอมจิ่มฟ้า
มหามหรรทกทุกข์เท่า ทรวงแฮ ฯ
ปีบั่งวายวายหน้าไป่เห็น ฯ
๒๔๐      เดือนมาถามข่าวน้องเดือนพราง ว่าฤา
เดือนสิบสองเดือนเปนจรคล้าย
เรียมถามทั่วบึงบางหิมเวศ
หิมวาศเจ้าผาผ้ายผะเด ฯ
๒๔๑      ทันทึงรอยแรกเรื้องบัวบุษย์
ดวงพิโดรทรวงเทบ่าไส้
โกมลมิ่งโกมุทกาเมศ เรียมเอย
มาลุดีเดียวไว้กึ่งสมร ฯ
๒๔๒      วันมาวว่องไว้เวียรไถง
แถงถงาดบังอัมพรใฝ่ฟ้า
วันเวรบ่อาไลยวันว่า แล้วแม่
วันบ่บอกวันถ้าแม่เลยวันวาง ฯ
๒๔๓      วันมาคล้ายคล้ายรอบจนเจ็ด
ดวงพิบุษบาบางกลีบเกลี้ยง
วันรมย์นิราเด็จดวงเดช
อกแผ่นดินฟ้าเหงี้ยช่วยครวญ ฯ
๒๔๔      ยามมาชอรอบโอ้สนโทย แม่อา
เรียมถามผะเดนดวงดอกไม้
ยามการกำสรวญโสยโสภิต
เบญจสกลหมองไหม้เพื่อยาม ฯ
๒๔๕      ยามไปทั้งสี่สิ้นสนธยา
ยามทิวังพลอยตามต่างเต้า
เททรวงพี่จรรจาวันไปล่
โอ้กับอกโอ้เจ้าจำงาย ฯ
๒๔๖      ทวาทศโดยมาศถ้วนพรรษา โสดแฮ
ยังบ่สบายเลยก่ายแก้ว
เทเวนทร์สุเรนทราบรเมศ
ยังดำกลด้วยแคล้วคลาศโฉม ฯ
๒๔๗      ขอสมพิเศษสร้อยเสาวนี แน่งนา
ปีนแบ่งอัมพรโพยมเฟื่องฟ้า
เวหาดำเนิรลีเวหาส ไปแฮ
จงร่วมรู้รสหม้าใหม่คืน ฯ
๒๔๘      เขาทองเทียมเมฆหว้ายเวหา
ดลพิมานแมนฝืนฝั่นแก้ว
โกสีย์สมเด็จตราตรีเนตร
วานเวี่ยองค์อกแผ้วผ่อนให้สองสม ฯ
๒๔๙      พระสุริยาผายผาดม้าแมนสวรรค์
รถวิมานชูชมช่อแก้ว
ขอเสด็จรวมรมย์จันทร์มูลเมฆ ไปนา
สมสู่องค์จงแล้วสว่างร้อนเรียมตรอม ฯ
๒๕๐      นำจาวสโรชน้องนิลนาง แม่เอย
ถนอมบรรทับออมชมทราบเนื้อ
ด่วนกล้ำแกล่กลืนกลางอกอาตม์
ฉมกลิ่นคั่นธารเกื้อเศษศรี ฯ
๒๕๑      ฟ้าดินแดนเดรียดด้าวสาวสินธุ์
สุริยศศิเมรุตรีแผ่นหล้า
ตราบยังสุราชินทร์ดระดวด นั้นนา
จิปากทั้งลิ้นล้าเพื่อเจ้าเจียรจันทร์ ฯ
๒๕๒      ดวงเดียวสุดสวาทเกล้าสงสาร พี่เอย
กลิ่นกำจรหอมหรรษ์หื่นห้า
อับสรบ่ดลสถานสามโลก
เทียรไป่ปานนุชหน้าแข่งแข ฯ
๒๕๓      สบกษัตริย์สุริยเดชล้ำดินบน
พื้นแผ่นภพเปรมแปรกราบเกล้า
เดโชชโยรณฤทธิ์เดช พระนา
ถวายรัชมาลย์ท้าวทั่วเท้ามามือ ฯ
๒๕๔      โสฬศเลื่องโลกฟ้าดินดาน เดชนา
ทุกทั่วไตรภพฦาล่งฟ้า
จักรพรรดิปิ่นจักรพาฬพันเดช
อัครราชเสวยรมย์หล้าเรื่อยรมย์ ฯ
๒๕๕      จงนฤภัยพยาธิแล้วนฤศัลย์ โศกแฮ
นฤโรคโรคาคมไปล่เปลื้อง
จงเสวยมไหศวรรย์สบสิ่ง
เท่าต่อเสวยสุขเบื้องบ่าวด้าวนฤพาน ฯ
๒๕๖      บุญญาดิเรกจ้าจอมกษัตริย์
ครองครอบภุดาธารทั่วไท้
จงเปนปิ่นจักรพรรดิ์จอมโลก ธรพ่อ
ร้อยราชถวายกรไหว้หว่านมาลย์ ฯ
๒๕๗      ตราบสิ้นสุริเยศฟ้าดินหาย ก็ดี
ยังพระยศยังสถานอย่างแคล้ว
ตราบสุเมรุคิรีทลายทบเท่า ลงแฮ
คงควบบุญท้าวแผ้วแผ่นฟ้าภพไตร ฯ
๒๕๘      จบเสร็จกล่าวกาพย์เกลี้ยงกลอนการ
คือมณีมาไลยเรียบร้อย
เปนเฉลิมกวีสารเสาวนิศ
รัตนมณีมาลย์สร้อยเษกสร้อยสวมกรรณ ฯ
๒๕๙      บทใดบถ่องแท้โดยอรรถ ก็ดี
เชิญกวีวานสรรค์เษกสร้อง
จงเปนมไหสวัสดิ์ดิเรก
บทสิ่งใดขัดข้องอ่านซ้ำยาไฉน ฯ
๒๖๐      การกลอนนี้ตั้งอาทิ์กวี หนึ่งนา
เยาวราชสามนต์ไตรแผ่นหล้า
ขุนพรหมมนตรีศรีกวีราช
สารประเสริฐฦาช้าช่วยแกล้งเกลากลอน ฯ
๒๖๑      อยุธยายศโยคฟ้าธรณี
เกษมบุรีภูธรปิ่นเกล้า
ทวาทศสิบสองมีสังเวช
สังวาสเกษมสุขท้าวทั่วหล้าเสวยรมย์
             

เสวยรมย์ชมมหามไหศวรรย์ ตราบสิ้นจันทร์สุริยศรี ม้วยปรัถพีแผ่นฟ้า เกษมสมบูรณ์ถ้วนหน้า ทั่วท้าวยอยศ ท่านนา ฯ

เชิงอรรถ

อ้างอิง

เครื่องมือส่วนตัว