บทละครขุนช้างขุนà¹à¸œà¸™ พระบวรราชนิพนธ์ในà¸à¸£à¸¡à¸žà¸£à¸°à¸£à¸²à¸Šà¸§à¸±à¸‡à¸šà¸§à¸£à¸¡à¸«à¸²à¸¨à¸±à¸à¸”ิพลเสพ
จาก ตู้หนังสือเรือนไทย
การปรับปรุง เมื่อ 10:43, 26 สิงหาคม 2553 โดย CrazyHOrse (พูดคุย | เรื่องที่เขียน)
เนื้อหา |
ข้อมูลเบื้องต้น
แม่แบบ:เรียงลำดับ พระบวรราชนิพนธ์: กรมพระราชวังบวรมหาศักดิพลเสพ
บทประพันธ์
ตอน ๑ ตั้งแต่ขุนแผนกลับจากการทัพมาบ้านนางวันทอง นางวันทองกับนางลาวทองหึงกัน จนขุนแผนกลับบ้านเดิม
ช้า | |||
เมื่อนั้น | ขุนแผนเชี่ยวชาญหาญกล้า | ||
ตีเชียงทองได้แล้วกลับมา | เฝ้าจอมอิศราปิ่มโมลี | ||
ได้พระราชทานรางวัลครัน | เกษมสันต์ผ่องพักตร์เป็นศักดิ์ศรี | ||
จะกลับไปสุพรรณบุรี | ลงนาวีใหญ่ไร่เพียบพราย | ||
ฯ ๔ คำ ฯ โล้ | |||
จำปาทองเทศ | |||
ขุนแผนคลอเคล้าลาวทอง | พี่เลี้ยงสองชม้อยเมียงม่าย | ||
หม่อมขุนเย้าหยอกตามสบาย | ลาวทองร้องไฮ้อายชาวเรือ | ||
ขุนแผนว่าเมียใครที่ไหนมา | เสน่หาเต็มทนจนล้นเหลือ | ||
ต้องนอกผ้าดังว่าเขาถูกเนื้อ | ร้องเผื่อเสียก่อนว่างอนจริง | ||
หยอกแหย่แอ๋แหน้อยฤาน้อย | เชิงชั้นเกือบจะเป็นท่านผู้หญิง | ||
สะดุ้งพดสามคดระทวยทิ้ง | มันเพราพริ้งยิ่งชื่อฤาลาวตาย | ||
ฯ ๖ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
เมื่อนั้น | ลาวทองขวยเขินสะเทินม่าย | ||
เหตุว่าหม่อมขุนเป็นผู้ชาย | ไม่มีอายทำได้ก็ทำเอา | ||
ลาวไทยถ้าเป็นหญิงก็เหมือนกัน | อย่าเสกสรรรำพันเพ้อเลยพ่อเจ้า | ||
เผอิญหม่อมเห็นว่าข้าพริ้งเพรา | บุญเราจะได้เป็นหม่อมแม่เรือน | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
เมื่อนั้น | ขุนแผนสรวลเสชวนกลบเกลื่อน | ||
ไม่สะบิ้งสะบัดแชเชือน | อย่าพักเตือนเลยจะเลี้ยงให้เต็มโต | ||
พลพายพายระดมรีบรัด | สามเล่มจัดร่ายราวกราวโห่ | ||
เมียผัวตัวขย้อนคลอนยอกโย้ | พลาดขยับร้องโอ๋ซวดเซทับ | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
ช้าปี่ | |||
สิ้นเอยสิ้นแสง | จรูญแจรงเมฆเกลื้อนเลื่อนสลับ | ||
รวิวรรณผายผันโพยมพยับ | ไถงดับอับแสงรวิวร | ||
บุหลันเลื่อนล่องฟ้าโพยมมาศ | โอภาสแจ่มจำรัสประภัสสร | ||
แผ้วหล้าดาดาษศศิธร | พิศเดือนเหมือนจะวอนให้อ่อนใจ | ||
แส้งตรัจปรัดผิวลาวทองน้อย | งามขม้อยนวลหน้าหน้าแข่งไข | ||
สัพยอกหยอกเยียเคลียกันไป | ตามแนวในชลมารคไม่คลาศคลา | ||
เพลาดึกลมพัดมาเย็นเฉื่อย | หนาวเรื่อยน้ำฟ้าต้องหน้า | ||
ชื่นชุ่มเยือกเย็นทั่วกายา | สะพักผ้าไม่อุ่นเหมือนเบียดกัน | ||
มืดราตรีผินข้างนี้เถิดนะเจ้า | มาคลึงเคล้าเสียให้หายคลางคางสั่น | ||
ทำเอนอิงพิงพาดพัวพัน | พูดล้อเล่นขันขันมากลางเรือ | ||
ฯ ๑๐ คำ ฯ โอ้ | |||
แล้วถอนจิตคิดถวิลถึงพิมพี่ | โอ้ป่านนี้จะละห้อยคอยเหลือ | ||
เพลานอนจะโอดอ่อนน้ำตาเจือ | เออน่าเบื่อเรือพายไม่ไหวเลย | ||
เขม่นตาข้างขวาให้หวั่นหวาด | เอ๊ะประหลาดผิดใจอะไรเหวย | ||
เมียงามละไว้ให้ห่างเชย | อกเอ๋ยนานหนักมักมีภัย | ||
ฝากไว้กับแม่ยายแก่ชายเปื้อน | ทำอะไรไหลเลื่อนไม่เอาได้ | ||
อ้ายขุนช้างทุจริตอิจฉาใจ | มันคิดปลงอยู่มิได้วายวัน | ||
คะนึงพลางทางเร่งนาวาคลา | พอเรื่อฟ้าจวนแจ้งแสงฉัน | ||
ภาณุมาศโอภาสรพีพรรณ | กับบุหลันเด่นดวงอรุโณทัย | ||
ถึงสุพรรณพลันประทับกับหน้าบ้าน | ยิ่งรำคาญร้อนรนหม่นไหม้ | ||
ยลบ้านพิศเรือนนี่เรือนใคร | หวั่นใจทวีทุเรศอารมณ์รัว | ||
ฯ ๑๐ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
บัดนั้น | สายทองพี่เลี้ยงตื่นขมุกขมัว | ||
ลงมาท่าน้ำชำระตัว | หมอกมัวเห็นเรือใครรอรา | ||
ดูดูรู้ว่าเรือขุนแผน | ก็กลับแล่นคืนขึ้นบนเคหา | ||
บอกวันทองพลันว่าหม่อมมา | จอดอยู่หน้าท่าถึงเดี๋ยวนี้ | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
เมื่อนั้น | วันทองมัวหมองไม่ใสศรี | ||
แจ้งว่าผัวมาก็ยินดี | แย้มหน้าต่างม่านมู่ลี่แลดู | ||
เห็นเรือจอดอยู่หน้าตะพานใหญ่ | มีความใคร่มิได้อดสู | ||
ยินดีปรีดาน้ำตาพรู | วางวู่วิ่งสลดกำสรดจร | ||
ฯ ๔ คำ ฯ เพลง | |||
ถึงเอยถึงท่า | ระอาหน้าร้อนรุ่มดั่งสุมขอน | ||
ย่างยาวก้าวลงเรือที่นอน | สะท้อนถอนซบพักตร์โศกาลัย | ||
ฯ ๒ คำ ฯ โอด | |||
ร่าย | |||
เมื่อนั้น | ขุนแผนเห็นพิมน้องหมองไหม้ | ||
กำสรดโศกวิโยคยิ่งสิ่งใด | เป็นไฉนฉะนี้นะน้องรัก | ||
ผิวช้ำคล้ำกลั้วมัวมลทิน | ผันผินมาบอกพี่ให้ตระหนัก | ||
ผัวมาชอบแต่ว่าจะทายทัก | ซบพักตร์ร้องร่ำทำไมน้อง | ||
ฤาอาดูรพูนเทวษโรคาไข้ | เจ็บช้ำน้ำใจหม่นหมอง | ||
พิมเอ๋ยไยฟูมหน้าน้ำตานอง | เข้าประคองปลอบเช็ดชลนา | ||
ฯ ๖ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
เมื่อนั้น | วันทองโศกแสนสหัสา | ||
กราบลงแทบเท้าภัสดา | มิใคร่จะเงยพักตราระทมใจ | ||
อึดอัดสะอื้นจะออกความ | คิดขามอิดเอื้อนไม่บอกได้ | ||
ตั้งแต่หม่อนบำราศคลาศไป | รักษาตัวกลัวภัยเป็นพ้นคิด | ||
อกุศลตามผลาญประหารพลัน | ขุนช้างมันคิดคดทุจริต | ||
มารดาข้าถือว่าเป็นมิตร | เชื่อสนิทมิได้คิดสงกา | ||
เอากระดูกห่อผ้ามาให้ | ว่าหม่อมม้วยบรรลัยสิ้นสังขาร์ | ||
เสียทัพยับย่อยชัยปรา | ลาวฆ่าแทงตายวายชีวัน | ||
บอกมาแต่งเมืองกำแพงเพชร | คดีทูลสิ้นเสร็จเป็นคำมั่น | ||
มันทำร่ำร้องไห้รำพัน | ข้างบ้านสำคัญว่าความจริง | ||
ชวนกันร่ำระงมซมทั้งเรือน | กลาดเกลื่อนสิ้นเสือกเกลือกกลิ้ง | ||
น้องก็เขลาไม่ระแวงแคลงประวิง | ร้องให้นิ่งจนสลบซบซอน | ||
มิได้วายว่างเว้นเทวษ | กับสายทองนองเนตรสยดสยอน | ||
ราตรีนองน้ำสุชลนอน | ระบมค่อนอกช้ำระยำทรวง | ||
จึงพากันไปดูโพธิ์สามต้น | ก็เหลืองหล่นใบกลาดดาษร่วง | ||
ยิ่งทวีทุกข์เพิ่มเติมตวง | มาหลงกลเขาลวงนี้เนื้อกรรม | ||
ก็ตั้งใจแต่สร้างการกุศล | แผ่ผลไปให้หม่อมทุกเช้าค่ำ | ||
บุญใดที่มิได้เคยทำ | ทำแล้วตรวจน้ำอุทิศไป | ||
เสพอาหารตรวจน้ำทุกค่ำเช้า | จะนอนเล่าก็ไม่หลับใหล | ||
จนไผ่ผอมตรอมซูบระยำใจ | น้องล้มไข้ปาปิ้มจะวายปราณ | ||
ท่านมารดาหาแพทย์มารักษา | หมอใดมาว่าโรคนี้หนักท่าน | ||
เหลือมือจะเยียวยาแล้วอาการ | ได้แต่หมอกลางบ้านประทังมา | ||
ฯ ๒๒ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
จึงไปนิมนต์ท่านวัดป่าเลไลยก์ | ดูเคราะห์ว่าฆาตใหญ่ไขว่นักหนา | ||
มิจากผัวตัวจะตายวายชีวา | เธอจึงเปลี่ยนชื่อข้าเรียกวันทอง | ||
ให้นามต้องชาตาจะซาเคราะห์ | จะค่อยเลาะกว่าเก่าจากเศร้าหมอง | ||
อยู่มินานมีพระกาลประหารน้อง | อ้ายขุนช้างจองหองบังอาจใจ | ||
แต่งเถ้าแก่มาขอต่อมารดร | พูดจาหลอกหลอนตะคอกใหญ่ | ||
ว่ากฎหมายผัวตายณรงค์ชัย | กรมวังท่านจะให้ตำรวจมา | ||
เก็บเอาภรรยาเป็นม่ายหลวง | ตามกระทรวงพระสุรัสซ้ายขวา | ||
แม่แก่ตกใจไม่ไตร่ตรา | เขาขอข้ายอมยกให้ขุนช้าง | ||
เร่งรัดมัดให้มาปลูกหอ | ไม่รั้งรอหารือน้อยหนึ่งบ้าง | ||
รื้อหอเก่าไปปลูกเสียวัดกลาง | ปลูกหอใหม่ไม่ระคางคร่อมลง | ||
บ่ายหน่อยขันหมากมาถึงบ้าน | ทั้งสมภารมากลุ้มประชุมสงฆ์ | ||
อ้ายหัวล้านป๋อหลอออทะนง | กับเผ่าพงศ์เพื่อนบ่าวมาหลายลำ | ||
ทุนสินสอดผ้าไหว้มากหนักหนา | แม่ข้าโลภเผลอพูดเพ้อพร่ำ | ||
จะให้ข้าแต่งตัวไปซัดน้ำ | ฉุดปล้ำลากข้าไม่ปรานี | ||
น้องขืนขัดมิได้ไคลคลา | แม่ข้าต่อยตบน่าบัดสี | ||
อยู่มาอีกเจ็ดราตรี | จะส่งตัวให้อ้ายผีเข้าหอกัน | ||
น้องไม่ลงปลงใจแข็งขัด | แม่ผูกมัดเฆี่ยนตีไม่ผ่อนผัน | ||
ขอดค่อนด่าว่าไม่เว้นวัน | ไม่เสกสรรความจริงยิ่งเหลือทน | ||
หม่อมมิเชื่อเมียว่าแกล้งว่า | เลิกผ้าให้ดูแผลแน่ปี้ป่น | ||
ไม่สิ้นแหนงระแวงน้องต้องจำจน | ไม่เป็นคนสู่สู้เวราไป | ||
คิดคิดจะใคร่ตายเสียดีกว่า | จะดูหน้าต่อตาผู้ใดได้ | ||
กอดเท้าหม่อมขุนเข้าร่ำไร | สะอื้นไห้จะสิ้นสมประดี | ||
ฯ ๒๒ คำ ฯ โอด | |||
โลม | |||
เมียเอยเมียรัก | อย่าร่ำนักผิวพักตร์จะหมองศรี | ||
เดือดอึดอัดฮึดฮัดเต็มที่ | ดังอัคคีจุดจ่อรื้อรอคิด | ||
ประโลมปลอบเอาใจภรรยา | นี่หากว่าเจ้าเป็นคนสุจริต | ||
แม้นชั่วไม่รักผัวมัวมืดมิด | จะเชยชิดชอบชู้สำราญครัน | ||
หนึ่งว่าน้อยฤาแน่แม่สหาย | ไม่ทันตายฤามาแสร้งแซงสรร | ||
เมียกูรู้อยู่สิ้นทั้งสุพรรณ | เหลือที่กลั้นสุดอดจะลดรา | ||
ฯ ๖ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
อ้ายหัวล้านเล่นกันเถิดวันนี้ | อีเถ้าแก่แม่พี่ที่ปรึกษา | ||
บรรดาคนสนิทคิดกันมา | ห้ำหั่นบั่นฆ่าให้ม้วยมุด | ||
เจ้านายไม่เลี้ยงก็สู้ตาย | ถึงแม่ยายก็ฟันเสียให้สิ้นสุด | ||
จับฟ้าฟื้นกวัดแกว่งแต่งตัวยุทธ์ | เรียกบ่าวไพร่อุตลุดอึงคะนึง | ||
แต่ต้นโพธิ์ปลูกไว้เสี่ยงทาย | ตัดรากทำอุบายใครรู้ถึง | ||
ค้นอาวุธในท้องเรือดังตังตึง | บอกกันอึงนายให้ไปล้อมเรือน | ||
ฯ ๖ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
เมื่อนั้น | ลาวทองร้องห้ามความจะเปื้อน | ||
อย่ามุมุ่นหุนหันฟั่นเฟือน | ไม่เหมือนกลางป่าค่าไม้ | ||
หม่อมขาฟังเมียก่อนพ่อเจ้า | ถ้อยความมันจะเน่าไปไหน | ||
เมืองมีขื่ออย่างถือชะล่าใจ | ฟังข้าวเดียวยังกระไรฤาหม่อมพลาย | ||
ใช่คอเขาเป็นทั่งสันหลังเหล็ก | ไม่ใช่เด็กเขาจะทำเอาแต่ด้าย | ||
จะกระไรบ้างกระมังข้างเรานาย | บุราณว่าหญิงร้ายชายทรชน | ||
ท่านแม่ยายมิปลงใจไฉนฤา | เขาจึงรื้อหอห้างเสียจนป่น | ||
หม่อมมีความชอบมาเหลือล้น | ทูลยุบลแล้วแต่จะโปรดปราน | ||
ฯ ๘ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
เมื่อนั้น | วันทองยินคำร่ำขาน | ||
เหลียวดูวู่โกรธพิโรธดาล | ดั่งประหารสับเสี่ยงเยี่ยงกัน | ||
นี่เมียหม่อมฤาใครที่ไหนมา | จึ่งลอยหน้าห้ามผัวจนตัวสั่น | ||
เท็จจริงสิ่งรู้สารพัน | ชะช่างกลั่นรูปคารมสมเชลย | ||
แน่ะนางลาวอย่าน้าววาจาคม | ข้ากับเจ้ามันไม่สมกันแม่เอ๋ย | ||
เซซัดหัวพลัดข้าไม่เคย | รู้ว่าเหวยว่าหลงเข้าดงรัก | ||
ก็ตามทีชอบอยู่ประสีประสา | ความเขาว่าการอะไรมาสลัก | ||
มาจ่อไต้ตำตอเข้าต้ำฮัก | ชอบฤาหม่อมไม่ทันทักนางเมียงาม | ||
ฯ ๘ คำ ฯ | |||
โลม | |||
เมื่อนั้น | ขุนแผนร้องฮาฟังพี่ห้าม | ||
อย่าโมโหโยก่อนจะเล่าความ | ไม่ไต่ถามเลยอะไรมาอึงคะนึง | ||
นางคนนี้ลูกเจ้าเมืองจอมทอง | ปึกแผ่นพวกพ้องก็เกือบขึง | ||
ทำคุณกับบิดาเขาพอพึง | เขาจึงยกลาวทองให้มาเป็นเมีย | ||
พี่พามาหวังจะให้คำนับเจ้า | อะไรเล่าพอจ่อจอดเรือจะเสีย | ||
ยังฟังความเมียข้างบ้านอยู่ปัวเปีย | ไม่ทันเล่าเรื่องเมียใหม่ได้มา | ||
เท่านั้นเถิดน้องพี่อย่าวีวุ่น | รกคนเป็นทุกดีกว่ารกหญ้า | ||
หนึ่งก่อนสองตามลำดับมา | ลาวทองอย่าช้าไว้วันทอง | ||
วันทองเล่าเจ้าหวงหึง | โกรธขึ้งขอเถิดเจ้าทั้งสอง | ||
จงสมัครสมานปรองดอง | มาตรึกตรองเรื่องความมันหยามเรา | ||
ฯ ๑๐ คำ ฯ | |||
โลม | |||
ร้องเอยร้องว่า | มันไม่น่าแล้วอย่าเลยเจ้า | ||
ชั่วดีช่างข้าเถิดทำเนา | นางเมียเบ่าแล้วฤาน้อยฤาแน | ||
จริงอยู่แต่พอจอดทั้งตอดขบ | ชวนกันเกลื่อนเลื่อนกลบลบแผล | ||
ย่อมว่าผัวเป็นประทัดซื่อสัตย์แท้ | ทีนี้มันแปรเป็นธนูชะดูตรง | ||
ไม่พักพร้องว่าพวกพ้องมั่งคั่ง | ถึงเซซังไม่สูญประยูรหงส์ | ||
ข้าดอกคะมันประดาษชาติเผ่าพงศ์ | จึงได้หลงตามหม่อมสู้เสียตัว | ||
ฯ ๖ คำ ฯ | |||
โลม | |||
วันเอยวันทอง | ให้ปรองดองเอออะไรไม่ฟังผัว | ||
ก่อนไม่เคยเลยว่ารู้เกรงกลัว | ฤาแกล้งยั่วจะให้โกรธา | ||
เอ็นดูข้าหน่อยเถิดแม่คุณ | ถึงไม่คิดบาปบุญเห็นแก่หน้า | ||
เออยิ่งห้ามฤายิ่งหยามไม่ลดรา | อย่าจัดจ้าไปเลยนักจะหักค้าน | ||
ธรรมดากระเบื้องร้อนจะรานร้าว | มันจะฉาวอึงอายเขาชาวบ้าน | ||
ลุกยืนเผลไผล้ไม่เป็นการ | จะรำคาญสองซ้ำระยำมัว | ||
ฯ ๖ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
เมื่อนั้น | ลาวทองร้อนเร่านั่งเกาหัว | ||
นึกในใจกูจะให้มันสั่นรัว | สบตาผัวทำกลัวชำเลืองแล | ||
ผัวเมินปากขยิบกระซิบด่า | ไว้กิริยาว่าผัวรักขึ้นเคียงแค่ | ||
แอบหลังผัวเล่นตัวระทวยแท้ | ทำปากแบ้ยั่ววันทองค้อนควัก | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
ดูเอยดูดู๋ | ยิ่งกว่าใครไม่รู้เลยทำหนัก | ||
สมแล้วหม่อมพร้อมเพรียงจะเคียงพักตร์ | มันค้อนควักอยู่ข้างหวังนั่งด่า | ||
รู้ฤาไม่แอบกระซิบพิไรบ่น | หม่อมเคยทนอย่าให้ล่วงมาถึงข้า | ||
ว่าให้เมียไหว้แต่วาจา | มันเล่นหน้าเล่นตัวรู้กลัวใคร | ||
ชกศีรษะแล้วจะให้มาลูบหลัง | พี่น้องเอยใครชั่งจะอดได้ | ||
ไม่หย่อนหยุดกระซิบว่าฤาด่าใคร | เป็นอะไรก็เป็นไปเถิดวันทอง | ||
ถึงจะไหว้กูก็ไม่ปรารถนา | พามาคุมเหงถึงบ้านช่อง | ||
หม่อมขาหม่อมถึงจะไม่เลี้ยงน้อง | ฆ่าเสียเถิดอย่าให้ต้องกินระกำ | ||
ทีนี้อีลาวนุ่งซิ่นจะบินร่อน | หม่อมเตว็ดลงนอนให้เหยียบย่ำ | ||
นิ่งอยู่ไยมิเล่นเต้นรำ | มายืนก้มหน้าคว่ำอยู่ทำไม | ||
ฯ ๑๐ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
สุดเอยสุดกลั้น | ลาวทองเคี้ยวฟันหมั่นไส้ | ||
มารยาบีบน้ำตาต่อไป | ข้าเป็นลาวชาวไพรดอกแม่คุณ | ||
ไม่ได้ว่าอะไรหน่อยหนึ่งเลย | อกเอ๋ยเธอเป็นใครจึงเฉียวฉุน | ||
พลอยว่าข้าน้อยคิดจะเอาบุญ | เห็นหม่อมหมุนมุโกรธวุ่นวาย | ||
จะไปรอนฟอนฟันเขาทั้งบ้าน | ใช่การจะพากันฉิบหาย | ||
อย่างอื่นไหนคุณใหญ่ท่านแม่ยาย | รอดตายเพราะใครห้ามไม่ลามปาม | ||
คิดอยู่จะฝากตัวคุณเมียหลวง | มิใช่จะจ้วงล่วงเกินไม่เข็ดขาม | ||
ไม่พอที่เลยจะก่อข้อความ | ไหว้ไม่เอาก็ตามเถิดเจ้าคะ | ||
ฉันมิได้ถือเนื้อถือตัว | สุดแต่จอมหม่อมผัวไม่เกะกะ | ||
ไม่รู้ว่าจะไขว้ไล่รานระ | เหยียบย่ำผัวเปะปะพันธุ์ไม่เคย | ||
แม้นรู้กระนั้นจะสรรหา | ไม้ขอนสักนองามาแม่เอ๋ย | ||
มากำนัลกันไขว้ให้เสบย | ไม่มีสิ่งใดเลยติดมือมา | ||
เมื่อหม่อมผัวจะพาข้ามานี้ | ไม่บอกว่าเมียมีคุณเจ้าขา | ||
ชอบผิดจงคิดกรุณา | ไม่เมตตาสักคราวลาวชาวดง | ||
ฯ ๑๔ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
ถ้อยเอยถ้อยคำ | ซ่อนเงื่อนเกลื่อนทำให้ผัวหลง | ||
ต้องเสน่ห์ถูกสนัดแล้วมั่นคง | จึงงวยงงงมงายว่ากันดี | ||
ผัวข้าฝ้าขึ้นเห็นฤาไม่ | นวลที่หน้านี้มิใช่ฤาหม่อมพี่ | ||
แต่กลับทัพก็ยับมาเต็มที | น่าบัดสีมันให้กินสิ้นแล้วเคอะ | ||
ให้อีลาวชาวดอนมาร่อนร่า | เชิดชูหน้าราคีเปื้อนเปรอะ | ||
เอียงคว่ำไปแล้วเจ้าจอมเลอะ | เท่านั้นเถอะพอรู้เท่าทัน | ||
เหม่อีลาวปากยาวว่าเมื่อกี้ | แสร้งเสกสีนองาสูงสรร | ||
เมื่อไรเล่าจึงจะเอามากำนัล | กู่จะกลั่นช้างงาไปร่ารับ | ||
โฉมนางวางมาแต่จอมทอง | กว้างขวางพวกพ้องให้ขึ้นขับ | ||
คดคมคารมเชลยทัพ | รู้แล้วเจ้าเขานับว่าใจบุญ | ||
ถ้าไม่ห้ามผัวไหนจะหยุดโย | จะเที่ยวพาโลแกว่งหอกออกวุ่น | ||
ไล่แยงแทงทิ่มจิ้มเป็นจุณ | นี่ไม่หมุนไปได้เงือดงด | ||
มารดาจึงได้รอดวอดวาย | เพราะนางลาวระงับพลายหายหด | ||
ชนะผัวผัวกลัวจึ่งละลด | เคยข่มกดกันมาถูกท่าทาง | ||
ดีจริงยิ่งหญิงในแผ่นภพ | จะเชิดชื่อลือจบว่าคู่สร้าง | ||
หม่อมผัวกอดไว้อย่าได้วาง | มันยอดนางใต้หล้าไม่มีใคร | ||
ฯ ๑๖ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
หม่อมเอยหม่อมขา | ได้ยินคุณภรรยาฤาหาไม่ | ||
ยืนลืมตากะปริบพริบอยู่ไย | ทนไม่ได้แล้วคะไม่ละกัน | ||
เอออะไรกระนี้ท่านผู้หญิง | ขยันยิ่งสั่นรัวตัวสั่น | ||
เห็นอดอ่อนยิ่งรอนศีรษะชัน | ปากคันคอยอยู่กี่เวลา | ||
พอผัวถึงกระทั่งปึ่งตะบึงบอน | ข้าฉะอ้อนบรรยายขายน้ำหน้า | ||
ทำเคละคละปะเปอะเปรอะรา | ไว้คอยท่าท่านผัวไม่มีอาย | ||
ชอบแต่ล้างบ้านเรือนหายเปื้อนก่อน | จึงขอดค่อนคนอื่นนางตื่นม่าย | ||
ผัวไปทัพไม่ทันกลับรู้ข่าวตาย | ช่างเชื่อง่ายปักเลนโอนเอนรัว | ||
กลับว่าข้อนี้นี่กว้างขวาง | จริงคะเลี้ยงช้างไว้ท่าผัว | ||
ช้างคนช้างพลายมากหลายตัว | จึ่งรื้อเรือนทลายรั้วแคบไม่พอ | ||
ขอบใจพี่จะให้ไปรับข้า | สุดปัญญาที่จะขี่ไม่มีขอ | ||
อย่าให้ไปเลยเอาไว้กันตอ | เตาหม้อทอถอนไม่สิ้นปักดินลึก | ||
ต้องเสนียดถูกสนัดกลัดมัน | ดีฉันจึงทำเสน่ห์มากลางศึก | ||
ป่วยไข้ไผ่ผอมแต่ลำนึก | จริงอยู่คะยิ่งกว่าหมึกเขม่ามอม | ||
จะขยำน้ำแช่ก็ไม่หาย | ถึงส่ายน้ำดอกไม้ก็ไม่หอม | ||
สบู่ฟอกปอกเปื้อนเปรอะปอม | อย่าพักย้อมเลยยังมัวกลั้วมลทิน | ||
ชามแตกบัดกรีไม่สนิท | ต่อไม่ติดแล้วแผลไม่อยากสิ้น | ||
ซ้ำว่าข้าเอาสิ่งชั่วให้ผัวกิน | ยังแต่จะบินขี้คร้านตบมือ | ||
หมอทายว่าเคราะห์ร้ายไม่ยั้งหยุด | เสาร์อุจลัคน์จมไม่รู้ฤา | ||
ทั้งสุพรรณมันสนั่นออกระบือ | อย่าพักอื้อมันไม่กลบลบรอย | ||
ฯ ๒๐ คำ ฯ | |||
แค้นเอยแค้นนัก | อีผัวรักน้อยฤาไม่ราถอย | ||
เข้าแฝงหลังเมียงเคียงตะบอย | คารมราวกับทองย้อยเจียวขันคู | ||
ดีแล้วจะได้เห็นฝีมือกัน | เรียกสายทองอี่จันอี่ปอยหนู | ||
นิ่งไยลงมาหวามาช่วยกู | ตบให้รู้จักสำเหนียกมันฮึกดี | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
บัดนั้น | สายทองพี่เลี้ยงกับทาสี | ||
อยู่บนตะพานเตรียมคอยที | ก็โจนลงนาวีพร้อมกัน | ||
ฯ ๒ คำ ฯ | |||