เพลงยาวเรื่องหม่อมเป็ดสวรรค์

จาก ตู้หนังสือเรือนไทย

(ความแตกต่างระหว่างรุ่นปรับปรุง)
ข้ามไปที่: นำทาง, สืบค้น
CrazyHOrse (พูดคุย | เรื่องที่เขียน)
(หน้าที่ถูกสร้างด้วย '== ข้อมูลเบื้องต้น == {{เรียงลำดับ|พลเงยาวรเื่องหม่อ…')
แตกต่างถัดไป →

การปรับปรุง เมื่อ 07:06, 8 สิงหาคม 2552

เนื้อหา

ข้อมูลเบื้องต้น

แม่แบบ:เรียงลำดับ ผู้แต่ง: คุณสุวรรณ

บทประพันธ์

๏ จะกล่าวถึงหม่อมสุดนุชนาฏเป็นข้าบาทพระราชวังบวรสถาน
เป็นหม่อมห้ามขึ้นระวางนางอยู่งานครั้นเสด็จเข้าพระนิพพานล่วงลับไป
คิดถึงพระเดชพระคุณให้มุ่นหมกแสนเศร้าเปล่าอกตกเป็นหม้าย
ได้เห็นแต่หน้าหม่อมขำคอยช้ำใจรักใคร่แนบข้างไม่ห่างทรวง
ครั้นอยู่มาก็นิรานิราศสถานลงมาทำราชการพระวังหลัง
ก็ขึ้นระวางเป็นนางต้องห้ามตามกระทรวงแต่ใจห่วงถึงหม่อมขำนั้นร่ำไป
ครั้นพบพักตร์ก็ตักเตือนชวนเพื่อนขำห้ลงมาทำราชการพระวังใหญ่
ครั้นหม่อมขำยินยอมลงพร้อมใจกำหนดนัดวันไว้จะลงมา
จะจรทางสาชลก็จนใจบ่าวไพร่ไม่มีพายขายหน้า
ให้อักอ่วนป่วนใจอยู่ไปมาจะยาตราตามถนนก็จนใจ
เป็นคราวขัดจัดกันจะมาบกไปยืมม่านท้าวนกก็ไม่ได้
จะขึ้นวอจรลีไม่มีใครก็สั่งให้ยืมผ้าละว้าลาว
ให้บ่าวถือสี่มุมแล้วคลุมเพลาะก็ย่างเหยาะมาในระวางกลางผ้าขาว
ออกถนนคผู้ดูเกรียวกราวมาพบเจ้าจางวางหมอก็รอรั้ง
นางสี่คนถือม่านพานตาขาวด้วยกลัวเจ้าก็หยุดทรุดลงนั่ง
หม่อมก็ยืนแข็งเก้อกะเบอกะบังครั้นจะทรุดลงนั่งก็อายใจ
ก็ยืนซื่อดื้อคว้างอยู่กลางถนนผู้คนนับคั่งทั้งวังใหญ่
มิรู้ที่จะวางหน้าลงเท่าไรสู้แข็งใจอยู่จนเสด็จจร
ครู่หนึ่งก็มาถึงพระวังในตรงไปที่ตึกคุณสุดก่อน
ครั้นเพลาสายัณห์ตะวันรอนก็พากันจรขึ้นเฝ้าพระทรงธรรม์
พระชุมเลี้ยงขึ้นเป็นนางระวางห้ามตั้งตามตำแหน่งวังหน้านั่น
กับคุณสุดที่เป็นคู่อยู่ด้วยกันทอดสนิทติดพันกันสืบไป
แล้วโปรดปรานพระราชทานหม่อมขำมำให้เป็นข้าในพระตำหนักใหญ่
เป็นเกณฑ์โปรดคนสนิทชิดใช้จะเจรจาปราศรัยเป็นไพรเม็ด
ฝ่าพระบาทจึ่งพระราชทานนามยกจากห้ามขึ้นเป็นจอมเรียกหม่อมเป็ด
ริมฝีปากสู้เอากระเหม่าเช็ดในเสด็จใช้นางอย่างผู้ดี
หมั่นฝัดพักตร์ผิวผ่องละอองหน้าแต่ทันตาอันตรายไปหลายซ
ประจงตัดจัดกะลาที่หนาดีใส่เข้าที่แทนฟันทุกอันไป
ที่ไม่รู้ดูเหมือนกับสาวน้อยกระชนดกระช้อยเจรจาอัชฌาสัย
คุณสุดสุดสวาทจะขาดใจแต่เวียนไปเวียนมาทุกราตรี
สู้ติดสอยมาให้ใช้ใต้ฝ่าพระบาทก็เปรื่องปราดโปรดปรานพระราชทาน
ชื่อคุณโม่งโด่งดังฝีปากดีจะพาทีกาลางสนามไม่ขามใคร
พูดเล่นเฮฮาร่าเริงแรงถึงนายแฟงนายคงครูไม่สู้ได
แหลมฉลาดปรีชาปัญญาไวหนังสือไทยอ่านคล่องทำนองชาย
รู้จักทำกาพย์กลอนอักษรสารสำหรับอ่านพระราชนิพนธ์ถวาย
หนังสือตกอ่านแต้มไม่แย้มพรายอ่านอยู่ปลายพระแท่นบรรทมใน
แต่ปากอ่านใจคิดขนิษฐ์เป็ดมิใคร่จะเสร็จสิ้นสุดสมุดได้
จนล่วงมัชฌิมยามสองย่ำฆ้องชัยจะหยุดไว้ก็เกรงพระอาชญา
หม่อมเป็ดน้อยค่อยเตือนให้เพื่อนนอนเฝ้าเคืองค้อนแค้นขัดสะบัดหน้า
ยังไม่ทรงพระบรรทมตรมอุราแต่ชายตาดูพักตร์พยักกัน
เห็นพระองค์ทรงนิ่งไม่ติงพระกายเดือนก็ชายดึงด่วนให้ป่วนปั่น
หับสมุดหยุดยั้งฟังสำคัญด้วยกระสันเสียวซ่านรำคาญใจ
พระแกล้งทรงพระกรรสะจะให้รู้ว่าตื่นพระบรรทมอยู่หาหลับไม่
คุณโม่งก็ชะงากกระดากใจก็แข็งจิตอ่านไปใจประวิง
ก็สมจิตคิดไว้ใจประวิงครั้นพระองค์ทรงพลิกพระกายกลับ
หมายว่าพระบรรทมหลับสนิทนิ่งก็คลานชิงกันขยับดับเทียนชัย
เข้าชุลมุนวุ่นวายอยู่ปลายพระบาทก็คิดคาดเอาว่าคนหาเห็นไม่
จึ่งกระทำเอาแต่อำเภอใจด้วยแสงไฟมืดมิดไม่มีโพลง
กระซุบกระซิบซุ่มกายอยู่ปลายพระบาทเอาเพลาะหอมกรอมหุ้มกันคลุมโปง
จึ่งตรัสเรียกว่าคุณโม่งแต่นั้นมาข้างหม่อมเป็ดเสด็จท่านโปรดปราน
ได้ประทานเปลี่ยนนามตายศถาอุตลุดอุดจาดทำอาจโถง
เพราะเดินเหินโยกย้ายส่ายกิริยาจึ่งชื่อว่าหม่อมเป็ดเสด็จประทาน
พระชุบย้อมอย่างดีให้มีศักดิ์คนในพระตำหนักไม่หักหาญ
เป็นจอมฝูงสูงโสดคนโปรดปรานห้ามทวารมิให้ออกนอกเวียงชัย
เพลาหนึ่งหม่อมเป็ดเห็นเสด็จประทมชวนข้าในกรมลงตำหนักแพใหญ่
ลงอาบน้ำดำว่ายสบายใจแล้วสั่งให้เรียกเรือนหนมจีนมา
ทั้งห่อหมกนกคั่วใบบัวอ่อนทอดมันจันรอนไว้นักหนา
ซื้อรับพระราชทานชานชลายิ่งโอชารสร่ำซ้ำหนักไป
สิ้นหลายควบจวบสลึงถึงขนาดเตโชธาตุหาทันผลาญอาหารไม่
ในท้องปวดนวดนิ่งอยู่ในใจจะบอกใครก็อดสูดูไม่ดี
ครั้นปวดท้องเต็มทนจนสิ้นอายลุกวิ่งจะไปถ่ายให้ถึงที่
ด้วยเหลือทนพ้นกระสันพันทวีก็ราดเรี่ยเสียทีมาตามทาง
ก็ซื้อขนมให้ตาเฒ่าเฝ้าตำหนักให้ตักน้ำชำระสะสาง
ให้หมดสิ้นกลิ่นอายระคายคางช่วยอำพรางเสียให้มิดช่วยปิดบัง
วันหนึ่งจึ่งหม่อมเจ้าจอมเป็ดขั้นเล่นไพ่ในเสด็จหน้าที่นั่ง
หลายกระดานนานเนิ่นเกินกำลังให้คับคั่งในอุทรร้อนรนใจ
นั่งนวดปวดป่วนจวนจะออกมิอาจบอกความจริงกับใครได้
ถวายบังคมกล้มคลานลนลานไปให้อาวรณ์ร้อนในเหมือนไฟลุก
ครั้นถึงที่สรีร์สำราญซานเข้าไปออกสักอ่างว่างใจค่อยได้สุข
ค่อยเสื่อมคลายหายรำคาญที่พล่านพลุกครั้นสิ้นทุกข์แล้วก็กลับมาฉับไว
เดินดิ่งเข้ามาถึงพระตำหนักไม่หยุดพักคลานตรงไปลงไพ่
ครั้นเกินเพลาหน้านิ่วหิวสุดใจผ่อนธาตุในออกเสียหมดอดไม่ได้นาน
ท้องแห่งท้องเหี่ยวนั่งเปรี้ยวปากทรหดอดหมากทั้งอยากหวาน
นั่งหิวนิ่วหน้าอยู่ช้านานแล้วค่อยคลานมาข้างเครื่องชำเลืองตา
เห็นว่างคนทนไม่ได้ด้วยใจเงี่ยนเลื่อนเอาทุเรียนมาทั้งแบบวางแอบฝา
หยิบเข้าเคี้ยวเหนียวครันเจ็บทันตาแล้วเอามายัดในลงในตะบัน
ครั้นละเอียดลออพอกินได้กระทุ้งใส่เข้าจนสิ้นกินขันขัน
พอท้องคลายหายร้อนอ่อนอ่อนฟันคิดสำคัญว่าผู้ใดเขาไม่รู้
แล้วมิหนำซ้ำลักเอาผลบัวที่เขาคั่วใส่เครื่องยังมีอยู่
ใส่ตะบันเล่นสบายคล้ายหมากพลูครั้นลุงทองจีนแลดูกระดากใจ
ลุงอ่อนถามว่าอะไรในตะบันหม่อมเป็ดปิดคิดกันพูดแก้ไข
มิให้คนรู้เท่าเข้าใจด้วยความในไม่สู้ดีจะตรีชา
ว่าเหลือกำลังนั่งเคี้ยวฉันเปรี้ยวปากตะบันหมกกินดอกจ๊ะคุณลุงจ๋า
แล้วเบือนบิดปิดปากไม่เจรจาครั้นโอษฐ์อ้าไม่เห็นแดงจะแคลงใจ
อันคนแก่ตะบันหมากมากด้วยกันแต่ซึ่งตะบันทุเรียนหามีไม่
ผลบัวก็ตะบันขันสุดใจน่าจะใคร่ศึกษาเป็นอาจารย์
วันหนึ่งจึ่งท่านหลวงนายศักดิ์นุ่งสมปักเข้าไปในพระราชฐาน
สำหรับเดินคอยเชิญพระอาการมาพูดกับท่านเจ้าขรัวนายข้างฝ่ายใน
หม่อมเป็ดน้อยพลอยมาทำพย่ำเผยอพูดเจ้อจีบปากถลากไถล
เอาลิ้นดันฟันกะลาเลื่อนออกไปไหมเปื่อยขาดปุดหลุดลงมา
ตกเปาจำเพาะหน้าหลวงนายศักดิ์ก็ถามทักทันใดอะไรขา
หม่อมบ่ายเบี่ยงเลี่ยงเจรจาซึ่งตกมาจากปากหมากตะบัน
เด็กมันตำไม่สู้แหลกแตกสองซีกเคี้ยวก็หลีกกระเด็นกระดากจากปาก
ทำพิโรธโกรธบ่าวคนตะบันแล้วหยิบเอาฟันกะลามาสวมไว้
ดีจริงใจหม่อมไม่ยอมแก่อุตส่าห์แก้ตัวปลิ้นสิ้นสงสัย
จะแจ้งจริงกับหลวงนายก็อายใจเพื่อมิให้รู้แน่ว่าแพ้ฟัน
สู้ต่อคิดปิดป้องที่ช่องหักเอาไหมสักผูกติดให้มิดมั่น
ดูระเบียบเรียบดีเรียงสีฟันที่ไม่รู้ดูสำคัญว่าฟันดี
ครั้งหนึ่งจึ่งจอมหม่อมเป็ดน้อยเช้าสำออยออเซาะปะเหลาะพี่
ทำหน้านิ่วว่าฉันหิวใจเต็มทีมีอะไรบ้างหนอขอรับประทาน
คุณโม่งช้องคางทางพาทีว่ามั่งมีในห้องของเปรี้ยวหวาน
หม่อมเป็ดดีใจไปลนลานเที่ยวค้นคว้าช้านานรำคาญใจ
เกลือสินเธาว์เอาไว้จะทำยาคิดว่าขันทศกรทั้งก้อนใหญ่
ไม่ทันพิจารณาว่าสิ่งไรหยิบใส่ปากอมเข้าซมซาน
พอรสเกลือนั้นละลายแสบปลายลิ้นก็รู้ว่ากินก้อนเกลือไม่เจือหวาน
ฮึดฮัดขัดใจใช่น้ำตาลใจให้ดาลเดือดขุ่นคิดวุ่นวาย
ยิ่งปลอมก็ยิ่งแกล้งแสร้งสำออยเฝ้าตะบอยบ่นร่ำระส่ำระสาย
ลวงให้กัดก้อนเกลือฉันเหลืออายเข้าตะกายหยิกตีเอาพี่นาง
คุณโม่งก็ยิ่งปลอบพะงอบง้อทำอ่อนคอบ้าบ่นไปจนสว่าง
แสนพิโรธโกรธใจดั่งไฟฟางยิ่งวอนว่าก็ยิ่งวางขึ้นหนักไป
โกรธงกยกท้าวกระทืบโผงฝ่ายคุณโม่งโกรธมั่งไม่ยั้งได้
จนเกิดทะเลาะเบาะเถียงเสียงอึงไปจนขนัดใจโกรธขึ้งถึงตัดกัน
คุณโม่งว่าถึงจะตัดไม่ขัดใจเรามิได้ร้อนจิตคิดพรั่น
แต่ของเข้าน้อยนิดที่ติดพันคือเอาฟันกะลามาเดี๋ยวนี้
หม่อมเป็ดเข็ดปากไม่อยากพูดคลานเข้าพระวิสูตรหลบหน้าหนี
แล้วคิดได้ด้วยไวปัญญาดีขึ้นลอยหน้าพาทีประชดประชัน
ขนมปลากริมที่ให้ไว้วานซืนโกรธข้าเจ้าเอาคืนมาให้ฉัน
คงจะให้ไม่ลวงที่พวงฟันให้สิ้นสวาทขาดกันแต่นี้ไป
คุณโม่งตอบพลางแล้วทางยิ้มขนมปลากริมของหลวงประทานให้
ยังแค่นทวงวุ่นวายไม่อายใจหรือว่าเธอซื้อไว้ให้ข้ากิน
แม้นหม่อมไปตึกข้าเวลาใดก็หาให้ไม่กลัวจะหมดสิ้น
หม่อมก็ได้ไปมาเป็นอาจิณของกินจัดไว้ให้รับประทาน
ครั้นถึงทีข้ามาหาแม่เป็ดก็ซื้อลังเล็ดขนมทองเป็นของหวาน
ก็ถ้อยทีหนุนเกื้อกันเจือจานนี่แกล้งพางบมิให้ทวงเอาพวงฟัน
หม่อมเป็ดน้อยว่าไม้สอยสนจำหลักหม่อมเช็ดไรเสียให้หักกลางสะบั้น
หมึกหอมเอาไปฝนปนน้ำมันโกรธกันจะขอรับประทานเอา
หม่อมโม่งว่าแป้งหินเขาสิ้นตลับเาไปจับริมฝีปากต่างกระเหม่า
ฝางแสนเขาทั้งท่อนค่อนขูดเอาอมเข้าไว้เหมือนหมากให้ปากแดง
ปนกับปูนนูนเหมือนสีลิ้นจี่จิ้มให้จับขอบรอบริมขึ้นเป็นแสง
กานพลูผลกระวานสีพานแพงแกล้งเอาปนหมกตะบันทุกวันมา
หมึกหอมของหม่อมค่ากี่เฟื้องของเขาเปลืองยิ่งกว่านั้นฉันไม่ว่า
ทั้งสองฝ่ายหายกันอย่าฉันทาแต่ของสำคัญฟันกะลาเอามาคืน
ข้างหม่อมเป็ดฟังคำทำร้องไห้สะทึกสะท้อนถอนใจให้สะอื้น
หมายจะโกรธจริงจังไม่ยั่งยืนพอกลางคืนคนหลับกลับดีกัน
ครั้งหนึ่งพระองค์กรมวงศาเสด็จมาในพระตำหนักนั่น
หม่อมเป็นนั้นเป็นต้นคนสำคัญสารพันเพ็ดทูลพระอาการ
ครั้นสิ้นเรื่องในพระโรคนั้นสำเร็จหม่อมเป็ดบังคมประสมประสาน
เกล้ากระหม่อมมึนหน้ามาช้านานขอประทานยานัตถุ์เครื่องข้างใน
ฝ่ายเสด็จว่าหม่อมเป็ดปวดศีรษะเราจะช่วยเป่ายานัตถุ์ให้
ก็เทจากขวดน้อยเจียระไนใส่เข้าไว้ในกลย้องสักสองนัด
แกล้งเลือกเอายาแดงที่แรงร้ายให้หม่อมหงายหน้าตรงทรงเป่าปรัด
น้ำตาไหลจามไอศีระษะฟัดจนฟันพลัดตำเปาะจำเพาะพักตร์
กรมวงศ์ทรงทอดพระเนตรมาเห็นกะลาทำฟันให้ขักหนัก
แล้วก็ทรงพระสำรวลคักหม่อมอายนักก้มหน้าไม่พาที
เสด็จตรัสว่ายานัตถุ์ดีขยันแต่ฟันคนเจียงยังหลุดออกจากที่
นี่หรือโรคจะไม่คลายหายดีบัดเดี๋ยวนี้ก็จะหายไปคล้ายฟัน
หม่อมเป็ดอายเสด็จไม่อยู่ได้แกล้งไถลเลื่อนหลีกไปจากนั่น
เที่ยวค้นคว้าหาไหมอยู่เป็นควันผูกฟันเสียใหม่ให้ดิบดี
ดิฉันกล่าวตามราวเรื่องโบราณหม่อมมาพาลโกรธไปไม่ต้องที่
คำปะรำปะราว่าไว้มีฉันพบเห็นเช่นนี้จึ่งขับไป
มาถือโทษโกรธวุ่นคุณรับสั่งพลอยโกรธทั้งคุณเหมหาควรไม่
ลุงทองจีนมิได้บอกออกฉันใดเผ้าพิไรโกรธฮึกออกคึกคัก
ทราบเพราะเสด็จดอกท่านบอกฉันมาพลอยโทษโกรธท่านหลวงนายศักดิ์
ลุงทองจีนก็ไม่ได้เห็นพักตร์ได้รู้จักกันกับฉันนั้นเมื่อไร
แล้วไปโทษนายผึ้งว่าเพื่อนบ้านได้เอ่ยบอกวานฉันที่ไหน
นี่เรื่องเก่าเขามีมาแต่ไรหรือพอกระทบจริงใจจึ่งแค้นนัก
เฝ้าคมค้อนเคืองเข็ญไม่เว้นใครโกรธบรรดาข้าไทในพระตำหนัก
หม่อมกระไรใจคอนี้น้อยนักฉันประจักษ์แจ้งความตามนิยาย
กระทบเรื่องของซื้อเขาหรือจ๊ะจึ่งเกะกะโกรธร่ำระส่ำระสาย
ไม่มีใครบอกนุสนธิ์ต้นปลายลายไปผุดขึ้นตำบลถนนอาจารย์
ฉันพบเห็นตำราจึ่งว่าไปขออภัยเถิดอย่าโกรธดิฉาน
ถ้าแม้นหม่อมรักตัวกลัวอัประมาณก็บนบานคนขับจะรับไว้
ถ้าหม่อยอายเสียดายชื่อจะลือชาก็เอาเงินเอาผ้านั้นมาให้
ฉันจะลบตำรับไม่ขับไปจงถึงใจตาแจ้งเสียเถิดรา
คืนนี้กระหม่อมฉันนอนฝันไปว่าคุณข้างในกล่าวขวัญฉันหนักหนา
เพลาดึกสองยามย่ำนาฬิกาคุณโม่งลงมาจากพระตำหนักใน
กับหม่อมเป็ดสองคนมาสนทนาที่ตรงหน้าเตียงทองที่ห้องใหญ่
หม่อมเป็ดว่าคุณจ๋าฉันเจ็บใจคนพิไรค่อนว่าสารพัน
เก็บเอาความไม่ดีไปชี้แจงว่าตาแจ้งตะแกจะรู้อะไรนั่น
ลุงทองจีนนั่นแหละต้นคนสำคัญคุณชีเหมก็ขยันข้างแคะได้
หลวงนายศักดิ์นายผึ้งก็ปากบอนค่อนบอกความจริงจนสิ้นไส้
ให้อับอายขายหน้าระอาใจค่อนพิไรกล่าวขวัญพรรณนา
ข้างคุณโม่งจะแกล้งพ้อหรือยอฉันว่าตาแจ้งแกขยันแม่ขำจ๋า
แกช่างประดิษฐ์ติดกรับขับเสภาจะหาเหมือนตะแกแท้ยากครัน
ข้างหม่อมขำฟังคำซ้ำขัดใจดีอะไรกับตาแกแกล้งกลั่น
สาระวอนค่อนว่าสารพันกล่าวขวัญเราสองคนเป็นพ้นนัก
พวกเราแหละไปเล่าให้ความอึงคุณชีเหมนายผึ้งหลวงนายศักดิ์
ลุงทองจีนก็ครันขยันนักเพราะคนในพระตำหนักจึ่งความอึง
ครั้นเช้าคุณเหมมาพระตำหนักพอพบพักตร์หม่อมขำทำปั้นปึ่ง
แล้วเสกแสร้งแกล้งว่าชักหน้าตึงว่าพวกนายศักดิ์นายผึ้งแล้วเป็นไร
คุณชีเหมเคืองขัดสะบัดหน้ามาโทษเอาข้าสองคนกระนี้ได้
วันนี้จะให้เสภาว่าหนักไปพอสิ้นฝันฉันตกใจตื่นขึ้นมา
คืนนี้กระหม่อมฉันฝันอีกครั้งว่าความในวังชุลมุนวุ่นนักหนา
พอเกล้ากระหม่อมรัวกรับขับเสภาหม่อมเป็ดมาแฝงบานทวารบัง
คิดว่าจะขับเรื่องตัวกลัวอายแกล้งอุบายพูดหลอกบอกคุณรับสั่ง
ว่าทรงกริ้วพระสุรเสียงสำเนียงดังอย่าให้ตาแจ้งวัดระฆังขับต่อไป
คุณรับสั่งรู้เท่าว่าเขาหลอกอุบายบอกหาให้ขับเรื่องตัวใหม่
จึงไม่เข้าทูลฉลองตรองอยู่ในใจเอาความไปกราบทูลเจ้าวางจาง
ประเดี๋ยวนี้หม่อมเป็ดขำสำออยนักขึ้นนั่งตักคุณโม่งไม่คิดหมาง
หลวงนายศักดิ์แลไปในม่านกลางใครสร้างพระสี่ขาเข้ามาไว้
หม่อมเป็ดน้อยเป็ดสวรรค์ครั้นได้ฟังละอายใจไม่นั่งอยู่ตักได้
หลบหน้าเขาในม่านรำคาญใจมิใคร่จะพูดกับหลวงนายอายเต็มที
แล้วก็พากันมานั่งข้างเก๋งเสวยหม่อมเป็ดเอ่ยออเซาะปะเหลาะพี่
เบื่อเดือนสิบสองตาแจ้งขับรับกับนายมีกลับทองของดีก็หายไป
ถึงเวลารับประทานอาหารค่ำคุณลุงซ้ำให้อีเปียมาเกลี่ยไกล่
จึ่งเอ่ยออกบอกพลันไปทันใดเชิญคุณทั้งสองไปรับประทาน
หม่อมเป็ดบอกกับอีเปียพี่เสียใจเราไม่ไปกินแล้วของคาวหวาน
จะฟังเสภาตาแจ้งถนนอาจารย์ให้หายรำคาญขุ่นคิ่นในวิญญาณ์
ลุงทองจีนซ้ำเดินมาเชิญใหม่พูดกันถึงอะไรหม่อมจำ
ฉันเห็นพูดกันเพลินเกินเวลาไปรับประทานข้าวปลาให้สุขใจ
หม่อมเป็ดรำคาญง่านหงุดหงิดเกรงจิตลุงทองจีนไม่ขัดได้
ให้ป่วนหวดในอุทรร้อนธาตุในประเดี๋ยวหนึ่งจึงจะไปดอกเจ้าคะ
ว่าแล้วลุกจากที่ตะลีตะลานออกทวารลุกวิ่งมาเกะกะ
ถึงที่ก็หายคลายทุกข์ที่ท้องปะทะอุจจาระเสร็จแล้วก็รีบมา
ครั้นมาถึงพี่นางทางบอกพลันกินข้าวมันเถิดหรือจ๊ะคุณโม่งจ๋า
คุณเสียยอไม่ได้ก็ไคลคลารับประทานแล้วก็เข้ามานั่งด้วยกัน
ยายปานบุตรผุดปากขึ้นทันทีตาแจ้งดีตีกรับขับขยัน
จะไว้วางเป็นจังหวะฉะฟันทั้งขันทั้งเพราะเสนาะดี
หม่อมเป็ดฟังคำแล้วซ้ำเคืองกระทืบเท้าเปรื่องเปรื่องขึ้นในที่
ออปานลูกมึงจะถูกไม้เรียวรีคนอะไรไม่มีอัธยา
อย่ามานั่งอยู่ที่กูดูไม่ได้ก็ลุกเข้าไปทั้งสองห้องเคหา
ลงเรียบเรียงเคียงชิดกันนิทราเอานวมมาห่มหุ้มคลุมเข้าด้วยกัน
หม่อมเป็ดขำซ้ำเรียกหนูลิ้นจี่ไปหยิบผ้ามาทีในหีบนั่น
ห่มนอนดำร่ำไว้เมื่อกลางวันกระแจะจันทน์เจือปรุงจรุงใจ
ให้เมื่อยขบไปทั้งตนบ่นออดแอดให้เรียกแพทย์วาโยมานวดให้
คุณโม่งตัดสกัดกั้นไปทันใดฉันจะนวดหม่อมให้ใจสบาย
หม่อมว่าฉันไม่ใช้ให้คุณทำบาปกรรมนั้นจะมีไปมากหลาย
พูดพลอดกอดกริ่มยิ้มพรายแล้วคิดระคายคำคนบ่นร่ำไร
สำออยว่าหม่อมขาฉันแค้นนักเสียเงินสักสิบตำลึงหาคิดไม่
ไม่เท่าเสียรู้มนุษย์เจ็บสุดใจเฝ้าแคะได้ค่อนว่าสารพัน
เก็บเอาความไม่ดีไปชี้แจงคุณชีเหมเชียวไปแสร้งแกล้งกลั่น
คนในพระตำหนักพรรคพวกกันสารพันค่อนว่าเป็นน่าอาย
คนนั่งอยู่ริมห้องรองเข้าไปฉันเข้าใจอยู่ดอกหม่อมอย่าแปกป่าย
มิได้พลอยกล่าข้อบรรยายเนื้อไหนร้ายก็ตัดแต่เนื้อนั้น
หม่อมเป็ดพูดเก้อละเมอเปล่าได้ยินเขาท้วงติงก็นิ่งอั้น
มิได้พูดจาสารพันก็หลับเลยไปด้วยกันทั้งสองรา
ครั้งหนึ่งเป็ดสวรรค์กระสันจิตบอกกับคนชอบชิดสนิทหน้า
ว่าคุณโม่งคู่ชีวิตมานิทราอยู่ในห้องของข้ามาหลายวัน
พูดแล้วก็ปรามห้ามปากอย่าพูดมากไปให้ฉาวคนจะกล่าวขวัญ
เจ้าจงช่วยกันปกปิดให้มิดควันเสร็จสั่งดั่งนั้นก็นิ่งไป
หม่อมเป็ดชนอกช้ำคำเสภาอดสูดูหน้าใครไม่ได้
เห็นคุณชีเหมมาว่าร่ำไรพบใครเข้าก็ค้อนออกงอนชด
เห็นหน้าคุณรับสั่งคั่งแค้นนักลุกทองจีนหลวงนายศักดิ์ก็โกรธหมด
ท่านโกรธไปทั้งนั้นประชันประชดปากบดบดบ่นไปคนใกล้เคียง
เมื่อวันถวายเสภาเวลาหลังหม่อมเป็ดนั่งกับคุณโม่งที่ในเฉลียง
กระซุบกระซิบกันสองคนบนระเบียงได้ยินออกชื่อเสียงก็ขัดใจ
แกล้งพูดเสียดเอาว่าเกลียดตาแจ้งบ้าเฝ้าขับว่าเรื่องเราร่ำไปได้
ไม่รู้แล้วรู้รอดสอดพิไรเฝ้าค่อนขอดแคะได้เจ็บใจจริง
ครั้นเห็นคนเดินมาหน้าเฉลียงสงบเสียงผิดลุกจะผลุนวิ่ง
คุณโม่งยุดฉุดน้องประคองอิงเรานั่งนิ่งอย่างนี้มิเป็นไร
ถึงลุงทองคนจะขึ้นมาเห็นหน้าเราจะหยิบเอาข้อผิดที่ไหนได้
หม่อมจะว่าตาแจ้งแกทำไมฉันชอบใจแกอยู่ดอกอย่าเดือดแค้น
ฝ่ายหม่อมเป็ดสวรรค์ครั้นได้ฟังให้แค้นคั่งส่งเสียงขึ้นเปรี้ยงแป้น
คุณกลับเข้าข้าตาแจ้งแกล้งแก้แทนให้สุดแสนเจ็บใจใช่พอดี
กระทืบเท้าตึงตังกำลังทะเลาะพอลุงทองจีนเดินเดาะมาถึงที่
จึ่งร้องถามสองท่านไปทันทีมาอึงมี่วิวาทอะไรกัน
หม่อมเป็ดฟังคุณลุงสะดุ้งใจลุกไถลหลีเลี่ยงไปจากนั่น
ทั้งสองคนวนวิ่งพัลวันมิให้ทันเห็นกายด้วยอายนัก
ลุกหลีกลัดแลงไปแฝงตนซ่อนตัวกลัวคนจะรู้จัก
วิ่งมาบนเฉลียงเสียงคิกคักจนรอดหักหกล้มลงด้วยกัน
คุณโม่งล้มปับทับหม่อมเป็ดน้ำตาเล็ดผุดลุกขมีขมัน
แล้วคิดกลัวคนผู้รู้สำคัญแกล้งถลันกล่าวเกลื่อนให้กลบคำ
เพราะตาแจ้งขับเสภามาฟังนักเฉลียงหักยับไปไม่เป็นส่ำ
นึกเกลียดน้ำหน้าตาเจ้ากรรมใช้ตาแจ้งแกมาทำให้หนำใจ
ทำเป็นพูดเชือนแชพอแก้ตนคุณสองคนก็ขึ้นนอนบนเตียงใหญ่
พลิกพลอดกอดก่ายสบายใจเทียบประทับหลับไหลไปด้วยกัน
ครั้นอรุณรุ่งรางสว่างฟ้าพระเดชพระคุณให้หาหม่อมเป็ดสวรรค์
เมื่อเพลาพลบค่ำทำไมกันจนชั้นเฉลียงเตียงหักกระจัดกระจาย
หม่อมเป็ดทูลเบี่ยงเลี่ยงเจรจาคนมานั่งฟังเสภามากหลาย
ตาแจ้งขับเสภาว่าแยบคายคนทั้งหลายไม่เคยฟังประดังมา
ประทุกมากหลายคนบนระเบียงจนเฉลียงเก๋งหักลงหนักหนา
เป็นต้นเหตุผลเพราะเสภาคนเข้ามาฟังนักจึ่งหักไป
พระทรงฟังกริ้วกราดตวาดดังชะเจ้าช่างเบือนบิดคิดแก้ไข
เขาว่าเจ้านั่งอยู่สองคนบ่นร่ำไรแคะไค้คมค้อนทำงอนรถ
กระทืบเท้าผึงผางกลางระเบียงจนเฉลียงไม้สักเขาหักหมด
จะแกล้งมาพูดบิดเบี้ยวเลี้ยวลดเขารู้พยศเจ้าทุกอย่างมาพรางกัน
หม่อมเป็ดได้ฟังรับสั่งกริ้วทำหน้าจิ๋วร้อนจิตคิดพรั่น
ใจระเริ่มรัวกลัวราชทัณฑ์อภิวันท์สารภาพกราบกราน
ได้พลั้งพลาดขอพระราชทานโทษขอพระองค์ทรงโปรดกระหม่อมฉาน
ไปเบื้องหน้าตาแจ้งถนนอาจารย์จะขับเสภาว่าขานไม่เคืองใจ
พระสดับรับผิดหม่อมสารภาพเห็บเรียบราบแล้วก็โปรดยกโทษให้
จึงตรัสสั่งข้างหน้าทหารในทำเฉลียงเก๋งใหม่ให้ดิบดี
ครั้นรุ่งเช้าถึงเวลาเสพย์อาหารหม่อมเป็ดเรียกลูกปานมาในที่
จัดเรือใหญ่ใบเสาเข้าให้ดีไปถึงที่เมืองละครอย่านอนใจ
ซื้อข้าวเหนียวสังขยามาให้ทันเอาถ้วยโคมใบนั้นแหละไปใส่
ยายปานลูกผูกเสาเชือกเพลาใบแล่นไปครู่หนึ่งถึงเมืองละคร
ซื้อข้าวเหนียวสังขยามาถ้วยโคมก็แล่นผืนคลื่นโครมไม่หยุดหย่อน
ครั้นถึงเกาะแบกสังขยาพาจรรีบร้อนเร็วไปในประตูพลัน
หลวงนายศักดิ์ถามทักไปทันใดสังขยาถ้วยใหญ่ของใครนั่น
ยายปานว่าหม่อมเป็ดเธออยากครันใช้ฉันไปซื้อถึงเมืองละคร
ฝ่ายหม่อมนิ่งนอนคอยคอยหาเห็นปานมาผุดลุกขึ้นจากหมอน
กำลังอยากสังขยาให้อาวรณ์ถึงเตียงหย่อมก้นกักเตียงหักพลัน
พื้นดังสวบเสียงกรวบกราบเสียงก้องกาบกาบเหมือนเป็ดขัน
กับหม่อมระบายผายลมประสบกันเหมือนเป็ดสวรรค์ที่ฉันเลี้ยงไว้วัดระฆัง
ยายปานลุกช่วยกันผูกเตียงเสียใหม่ครั้นหม่อมสิ้นตกใจก็ไปนั่ง
เปิบข้าวเหนียวมูมมูมสุ่มตะรังหมดทั้งถ้วยโคมไม่ใคร่พอ
ครั้นรับประทานแล้วขึ้นไปนั่งในพระตำหนักหลวงนายศักดิ์พบตัวก็หัวร่อ
ว่าหม่อมกินสังขยาไม่รารอเตียงเขาต่อด้วยไม่สักยังหักไป
หม่อมเป็ดตอบหลวงนายด้วยอายหน้านานไม่รู้ความมาแต่ข้างไหน
หรือใครมาบอกเล่าจึ่งเข้าใจการแคะได้พาทีแล้วดีนัก
หลวงนายว่าข้าพเจ้าประจักษ์ตาหม่อมเปิบสังขยาจนเตียงหัก
ฉันไม่ได้สอดความไปถามซักเพราะเห็นประจักษ์แก่ตาจึ่งพาที
หม่อมเป็ดตรึกนึกแหนงอยู่ในใจตัวคนไรไปเล่าจนถ้วนถี่
จะเป็นคนอื่นไกลนั้นไม่มีเพราะลุงทองจีนพาทีทุกสิ่งอัน
แม้นมิบอกหลวงนายอีกนายหนึ่งก็บอกผึ้งตาพองเป็นแม่นมั่น
จึ่งได้แจ้งกิจจาสารพันให้ตาแจ้งมาแกล้งกลั่นบรรยาย
ครั้นเขาทำน้ำยาเวลาค่ำหม่อมเป็นขำนึกอยากเป็นมากหลาย
เคยรับประทานครั้งไรไม่สบายกระหายหอบบอบช้ำระกำใจ
ลุงทองจีนจึ่งปรามห้ามหม่อมเป็ดน้ำยาเผ็ดแสบร้อนกระฉ่อนไส้
ของแสลงแล้วจะแกล้งรับทานไยจะหอบฉันหนักเข้าไปจะเสียที
หม่อมเป็ดตอบคำว่าน้ำยารับทานมาเผ็ดร้อนแต่ก่อนกี้
โดยจะหอบขึ้นมายาฉันมีคุณโม่งพี่ดิฉันท่านสอนไว้
ลุงทองจีนจะใคร่ได้รู้ความจะซักถามเอาตำรายาให้ได้
หม่อมเป็ดปิดอิดเอื้อนเบือนบิดไปเพื่อมิให้ใครเขารู้ตำรายา
ครั้นเวลาระฆังตีสี่นมนานเขยกเอาพานขนบจีนมาตั้งหน้า
หม่อมเป็นเจาะปากอยากเต็มประดาเขาคว้าเอาทันทีตะลีตะลาน
คุณลุงว่าน้ำยากินไม่ชอบจะหืดหอบขึ้นมามากลำบากจ้าน
มิพอที่จะตนทนทรมานจะรับประทานทำไมให้เวทนา
หม่อมเป็ดอยากเหลือทนจนสิ้นอายแล้วอบายลุงทองจีนจ๋า
ถึงจะหอบขึ้นเดี๋ยวนี้ฉันมียาก็ออกบอกตำรามาพลัน
โดยน้ำยามานั้นไม่ชอบจะหอบโครงคุณโม่งหม่อมพี่เธอสอนฉัน
เอาดอกลำโพงมาใส่ลงในตะบันเกลือสินเธาว์เท่ากั่นขยันจริง
ตะบันไปให้ละเอียดเฉียดยาบดกินให้หมดที่ตะบันนั้นยวดยิ่ง
เบากายหายฉิบเหมือนหยิบทิ้งไม่เกรงกริ่งโรคาเพราะยามี
และหยิบหนมจีนน้ำยามาคลุกเคล้าเปิบเข้ายังไม่ทันอิ่มถึงที่
ได้เจ็ดคำหอบทำขึ้นทันทีมือยังมิทันล้างก็วางชาม
ลุกมาเรียกหาลูกปานพลันเอาดอกลำโพลงมาตะบันกระผลีกระผลาม
ปนกับเกลือสินเธาว์เข้าพองามบั้นเข้าสามสี่ก้อนลูกกลอนกลืน
ครั้นล่วงเลยลำคอก็พอคลายหอบหายลงไปได้ในใจชื่น
ครั้นล้างมือเสร็จสรรพขยับยืนก็กลับคืนเข้านิทราในราตรี
พอสักครู่ก็พอรู้รับสั่งให้หาก็เรียกลูกปานลุกมาขมันขมี
เขาขันใหญ่ปากจำหลักตักวารีมาตั้งไว้ในที่ชำระกาย
ยายปานวิ่งงกงันหยิบขันตักสะดุดกักล้มคว่ำคะมำหงาย
ปากแตกหน้าเผือดเลือดกระจายก็ต้องกรีดหวีดว้ายขึ้นทันที
หม่อมเป็ดตัวสั่นให้หวั่นจิตเห็นโลหิตโซมสาดลงดาดที่
ตกประหม่าหน้ามืดไม่สมประดีอกสั่นขวัญหนีเหมือนตีปลา
ทอดลงลงบนม้าอุจจาระลมปะทะมัวมึนขึ้นมืดหน้า
คุณโม่งตกใจจริงวิ่งออกมาหยิบเอายานัตถุ์ให้สุดมะกรูดดม
แล้วประคองขึ้นบนตักตะพักไว้ประทับเส้นเคล้นไคล้ประคบประหงม
แล้วนวดฟั้นคั้นลงประตูลมค่อยชื่นชมฟื้นสมประดีกาย
คุณโม่งเข้าประคองน้องเป็ดน้อยเฝ้าตะบอยบีบตะบบให้ลมหาย
คุณโม่งเห็นเป็ดสวรรค์นั้นค่อยคลายก็พานางย่างกรายเข้าห้องใน
และเห็นเกลือสินเธาว์หยิบเอามาสำคัญว่าพิมเสนประสมใส่
กับยานัตถุ์ผิวมะกรูดสูดเข้าไปบัดเดี๋ยวใจก็สบายหายวับตา
แล้วก็คิดสงสารยายปานบุตรกำสรดสุดโศกรักเป็นหนักหนา
จะเจ็บช้ำระกำกายหลายเวลาเมื่อยามอยากสังขยาจะใช้ใคร
เคยไปซื้อสังขยามาแต่ละครแล้วรีบร้อนมาหาทันแสบท้องไม่
จะล้มหมอนนอนเสื่อเหลืออาลัยเฝ้าร่ำไรโศกสุดถึงบุตรปาน
ครั้นโศกว่างวิ่งขึ้นมาเฝ้าแต่จิตเศร้าอยู่ถึงบุตรสุดสงสาร
หมอบชม้อยคอยฟังบัญชาการมือประสานหมอบเมียงเคียงคุณลุง
วันหนึ่งคุณโม่งผู้โปร่งเปรื่องให้บ่าวทำข้าวเหนียวเหลืองหน้ากุ้ง
ผักชีพริกไทยใส่ปรุงน่ากินกลิ่นฟุ้งจรุงใจ
แล้วคิดถึงเป็ดฟ้าพะงางามก็มูนใส่ไว้เป็นชามปากไปล่
ทั้งหน้ากุ้งปรุงปนระคนไปก็ใช้บ่าวเอาไปให้หม่อมเป็ดพลัน
นางคนใช้เร็วจริงวิ่งหรบหรบมาถึงที่มิได้พบหม่อมเป็ดสวรรค์
จะตะบอยคอยท่าเห็นช้าครันข้าเหนียวนั้นฝากลุงทองจีนไว้
ฝ่ายคุณลุงยุ่งอยู่ด้วยราชการก็เนิ่นนานหาได้บอกหม่อมเป็ดไม่
ข้าวเหนียวค้างอยู่จนเย็นจนเหม็นกระไอครั้นจักได้แล้วบอกกับหม่อมพลัน
คุณให้บ่าวเอาข้าวเหนียวลงมาให้ฝากไว้ที่ในห้องของดิฉัน
ลืมไปจนเวลาจวนสายัณห์ข้าวเหนียวนั้นบูดไปไม่น่ากิน
กะทิมูนข้าวเหนียวเห็นเปรี้ยวฟุ้งหน้ากุ้งค้างจนเย็นก็เหม็นกลิ่น
ข้าวเหนียวก็เปียกเปื้อนปนเป็นมลทินหม่อมจะกินหรือจะเทก็ตามที
หม่อมเป็ดได้ฟังนั่งคิดกำลังจิตหมกมุ่นรักคุณพี่
เธออุตส่าห์เอามาให้ถึงไม่ดีจะเทข้าวเหนียวเสียเดี๋ยวนี้จะน้อยใจ
ก็ยกชามหยิบชิมยิ้มแผยะถึงบูดแฉะชั่วดีของพี่ให้
เพราะความรักชักให้อร่อยไปจนหมดชามปากไปล่ใช่พอการ
ตำราว่ารับประทานด้วยการรักน้ำต้มฟักก็ซดเป็นรสหวาน
นี่ข้าวเหนียวบูดเหม็นไม่เป็นการยังรับประทานหมดได้ไม่พอพุง
ครั้นเพลาพลบค่ำก็ทำท้องเพราะกินของบูดเปรี้ยวข้าวเหนียวกุ้ง
เรียกออพูเข้าไปที่ในมุ้งให้นวดตนจนรุ่งพระสุริยา
เต็มทนจนออพูอยู่ไม่ได้ขัดใจเต็มทีก็หนีหน้า
คุณโม่งคอยหายไปไม่เห็นมามาต่อว่าตัดพ้อคอเป็นเอ็น
หม่อมยังไรใช้คนจนระอาให้หนีซนค้นคว้าหาไม่เห็น
บ่าวเขาให้มามากไม่ยากเย็นนี่ขืนเคี่ยวเข็ญจนหนีไป
แม้นมันหนีลี้ลัยไม่กลับมาหม่อมเอาค่าตัวนั้นมาให้
ไม่ติดตามมาจริงจริงนิ่งนอนใจจะส่งออกไปข้างหน้าว่าความกัน
หม่อมเป็ดได้ฟังก็นั่งนิ่งด้วยผิดจริงช่วงใช้บ่าวไพร่ท่าน
เห็นคุณเธอพิโรธโกรธครันเฝ้าผ่อนผันวิงวอนให้อ่อนใจ
วันหนึ่งหม่อมนิทราเพลาดึกนอนนึกอยากทุเรียนน้ำลายไหล
พอม่อยหลับลงพลันก็ฝันไปว่าชาวละครเอามาให้หลายใบนัก
แต่ละใบยวงใหญ่เท่ากำปั้นฉันตะบันกินตะบอยอร่อยหนัก
พอหมดสิ้นสี่ใบใจคึกคักจุกจักกระแหล่นตายวุ่นวายใจ
ในความฝันนั้นว่าคุณโม่งพี่เข้านวดฟั้นเต็มที่หาหายไม่
ยิ่งนวดก็ยิ่งหนักจักบรรลัยสะดุ้งตื่นตกใจก็จุกจริง
กลิ้งเกลือกเสือกตนทนไม่ได้กระฉ่อนไส้ตัวสั่นดั่งผีสิง
ผิดลุกจากที่นอนเอาหมอนพิงป่วนปวดนวดนิ่งไม่บอกใคร
พอยายมาพี่เลี้ยงเคียงเข้ามาพลันหยิบเอาฟันสามพวงมายื่นให้
ครั้นหม่อมเห็นพวงฟันเข้าทันใดดีใจหยิบรับเอาฉับพลัน
พวงหนึ่งทำไว้ด้วยไม่มะเกลือวิไลเหลือดำดีสีขยัน
พวงหนึ่งทำด้วยกะลาหนาครันเขาเจียนจัดขัดเป็นมันเหมือนทันตา
พวงหนึ่งทำไว้ด้วยไม้ทองหลางทำเหมือนอย่างซี่ฟันขันหนักหนา
เอาไหมร้อยเรียบเรียงดูเกลี้ยงตารับเอามาดูกริ่มแล้วยิ้มพราย
เขาช่างทำงามงามทั้งสามพวงแล้วห่อหวงเก็บไว้ไม่ให้หาย
ชอบอารมณ์สมคิดจิตสบายจุกก็คลายหายฉิบไปทันที
หม่อมเป็ดถามยายมาว่าพวงฟันนี่ขยันสุดใจใครให้พี่
ยายมาอวดซ้ำเขาทำดีซื้อมาที่จีนยูทั้งสามพวง
หม่อมเป็ดตรองความตามเรื่องฝันนิมิตรดีขยันเป็นใหญ่หลวง
ว่าเขาให้กินทุเรียนกินหลายยวงเป็นลาภใหญ่พวกฟันกะลา ฯ
             

เชิงอรรถ

ที่มา

[1]

เครื่องมือส่วนตัว