พระนลคำฉันท์

จาก ตู้หนังสือเรือนไทย

(ความแตกต่างระหว่างรุ่นปรับปรุง)
ข้ามไปที่: นำทาง, สืบค้น
(สรรคที่ ๙)
(สรรคที่ ๑๐)
แถว 1,929: แถว 1,929:
====สรรคที่ ๑๐====
====สรรคที่ ๑๐====
<tpoem>
<tpoem>
-
+
<sup>มานวกฉันท์</sup>
 +
พระนลตรัสว่า
 +
ดูกรนุช  บุศยะรัตน์
 +
พงศะกษัตริย์  ภัทระถกล
 +
 
 +
๏ พี่จะมิไป  ในพนสณฑ์
 +
ทิ้งนิรมล  เอ้วรองค์
 +
 
 +
๏ อันพระบุรี  ภีมะนรินทร์
 +
ผู้ปถพินทร์  ยินยศยง
 +
 
 +
๏ ยิ่งปุรแมน  แสนสุขทรง
 +
สิทธิประสงค์  ศักดิ์ดุจสูรย์
 +
 
 +
๏ อาตมะไซร้  ไข้จิตกรม
 +
เดิมก็อุดม  สมบติบูรณ์
 +
 
 +
๏ มาตระจะเทียบ  เปรียบยศปูน
 +
ทรัพยะอดูลย์  ภูลนิธินอง
 +
 
 +
๏ ศักดิ์ก็เสมอ  เลอยศปาน
 +
ทรัพยะตระการ  กาญจนะกอง
 +
 
 +
๏ เพียบบริพาร  หาญพลผอง
 +
ครอบปุรครอง  รัฎฐะนิกร
 +
 
 +
๏ ปรัตยุบัน  อันยศลี้
 +
จักจรลี  ภีมะนคร
 +
 
 +
๏ พักตระจะก้ม  กรมอุระถอน
 +
เหตุบทจร  เฉกชนซาม
 +
 
 +
๏ เคยรถล้อม  ห้อมจรดล
 +
เกลื่อนคชพล  กล่นหยะงาม
 +
 
 +
๏ พรึบพยุห์เทียบ  เพียบพลหลาม
 +
สมกิติทราม  ไวยะยุพา
 +
 
 +
๏ อาตมะไม่  ไปเพราะจะฃาย
 +
หน้าอรฉาย  โฉมสุภคา
 +
 
 +
๏ เฃาก็จะหัว  ผัวพระธิดา
 +
เดินดุจยา  จกจรดิน ฯ
 +
 
 +
 
 +
๏ ไนษฑฃัติย์  ตรัสดุจนี้
 +
ว่าจะบ่หนี  ศรีอรพินทร์
 +
 
 +
๏ องค์สุภคา  มานะก็ยิน
 +
ดีและถวิล  เบาอุระลง
 +
 
 +
๏ องค์นลจร  อรจรตาม
 +
นวลนุชทราม  ไวยะระหง
 +
 
 +
๏ วัสตรครึ่ง  ซึ่งนุชทรง
 +
ปิดวรองค์  แทบจะบ่มิด
 +
 
 +
๏ เหตุนรนาถ  ชาตินรสีห์
 +
ผ้าพระบ่มี  ปกปุรปิด
 +
 
 +
๏ จึ่งอรรัตน์  ฃัติยะกนิษฐ์
 +
วัสตรติด  องค์ก็ถวาย
 +
 
 +
๏ แด่นลครึ่ง  ซึ่งนลทรง
 +
ครึ่งยุพยง  พันวรกาย
 +
 
 +
๏ อำพรเดียว  เที่ยวทุรทาย
 +
อัดอุระอาย  จำจิตจร
 +
 
 +
๏ ไนษธเหนื่อย  เมื่อยวรองค์
 +
นวลนุชทรง  เสียงดุจศร
 +
 
 +
๏ บาทะระบม  กรมอุระอร
 +
กายะสมร  สุดจะธำรง
 +
 
 +
๏ ไหนจะกระหาย  สายชลแห้ง
 +
ในพนแล้ง  ชีพจะบ่คง
 +
 
 +
๏ หิวฤก็หิว  หวิวจิตจง
 +
ภักษะประสงค์  เหลือจรหา
 +
 
 +
๏ วาสรหนึ่ง  ถึงณะกระหม่อม
 +
อันธุลิห้อม  ริมมรคา
 +
 
 +
๏ จึ่งนรนาถ  ราชภริยา
 +
สู่ณะสภา  พักวรกาย
 +
 
 +
๏ เหนือปถพี  ศรีนิษธา
 +
ธิปและพระวา  มาก็ระคาย
 +
 
 +
๏ ดินบ่มินุ่ม  รุมอุระคาย
 +
นั่งบ่สบาย  นอนบ่เสบย
 +
 
 +
๏ จิตตะละเหี่ย  เปลี้ยวรองค์
 +
นวลนุชนง  เยาวะบ่เคย
 +
 
 +
๏ เคยปจถรณ์  อ่อนอุระเกย
 +
นุ่มประเขนย  แนบสิระนาง
 +
 
 +
๏ ผัวธก็เพลีย  เมียธก็อ่อน
 +
สองธก็ผ่อน  พักสริรางค์
 +
 
 +
๏ แสนจะอนาถ  ดาดรชกลาง
 +
ดินธก็วาง  กายนิทระเนา
 +
 
 +
๏ นางและพระนล  ดลคุรุกรรม
 +
เหตุกลิทำ  ทุกขะบ่เบา
 +
 
 +
๏ นิทระณะทับ  หลับดุจเมา
 +
ทั้งนุชเยาว์  ทั้งนลยง
 +
 
 +
๏ ครั้งพระสตี  ภีมะธิดา
 +
องค์อพลา  อ่อนจิตทรง
 +
 
 +
๏ นิทระสนิท  อิศระองค์
 +
นลธจำนง  ในหฤทัย
 +
 
 +
๏ เหตุพระระแวง  แหนงมนะนึก
 +
ตรงจิตตรึก  ควรฤไฉน
 +
 
 +
๏ จักจรลี  หนีนุชใน
 +
แนวพนไพร  พฤกษะพิศาล
 +
 
 +
๏ จึ่งนลฟื้น  ตื่นบ่มิหึง
 +
พิศนุชพึง  เดือดอุระดาล
 +
 
 +
๏ โอ้อรเอย  เคยสุขศานติ์
 +
มิตระสมาน  มาลยะสมร
 +
 
 +
๏ หนียุวดี  ดีฤบ่จร
 +
โอ้อุระอาตม์  มาตระศิขร
 +
 
 +
๏ ทุ่มอุระถอน  ชีพก็บ่แหยง
 +
อันพระยุพา  ยาจิตพี่
 +
 
 +
๏ มิ่งมิตระมี  ใจบ่ระแวง
 +
มุ่งจะบ่คลาด  มาดจะบ่แหนง
 +
 
 +
๏ ภักดิบ่แคลง  สัจจะบ่คลอน
 +
ตูจรด้น  หนทุรใด
 +
 
 +
๏ นางก็จะไป  เจ็บก็จะจร
 +
ทุกข์ก็บ่บ่น  หม่นมนะอร
 +
 
 +
๏ น้ำฤศิขร  ขวางก็บ่เยง
 +
แม้นนุชเดียว  เปลี่ยวจิตกลาง
 +
 
 +
๏ พงพนพลาง  นางก็จะเกรง
 +
เปล่าจิตเฃ้า  เจ้าจรเอง
 +
 
 +
๏ สู่สุขเพรง  รัฎฐะวิทรรภ์
 +
แม้นสละนาง  กลางวนอา
 +
 
 +
๏ รัณยะพระลา  วัณยะสุวรรณ์
 +
คงจรดล  ด้นบทมรร
 +
 
 +
๏ คาณะวิทรรภ์  ภีมะบิดร
 +
นางนะเกษม  เปรมหฤทัย
 +
 
 +
๏ แผ้วนิรภัย  ในพระนคร
 +
อาตมะเดียว  เที่ยวบทจร
 +
 
 +
๏ ซอกพนซอน  ห่วงก็บ่มี
 +
อันยุพยง  พงศ์จกระพรรดิ
 +
 
 +
๏ เกษะกษัตริย์  สัจจะธนี
 +
สัตยะย่อม  ห้อมยุวดี
 +
 
 +
๏ ดั่งกวจี  ภัยะบ่พาน
 +
ไนษธคิด  ผิดดุจนี้
 +
 
 +
๏ เหตุกลี  มีวรหาญ
 +
ดลจิตเธอ  เมอมลมาน
 +
 
 +
๏ ตรึกก็วิการ  ตรองก็วิกล
 +
จักจรลี้  หนีนุชน้อง
 +
 
 +
๏ คิดก็บ่คล่อง  ข้องจิตจน
 +
เหตุเพราะผ้า  วาสะสมล
 +
 
 +
๏ องค์สุรพล  เธอก็บ่มี
 +
สองวรฃัติย์  วัสตรเดียว
 +
 
 +
๏ จักจรเดี่ยว  เหลือจรลี
 +
ผ้าผิจะแบ่ง  แย่งยุวดี
 +
 
 +
๏ เกรงพระสตี  ตื่นนิทระเนา
 +
ไนษธตรอง  ข้องอุระขัด
 +
 
 +
๏ มาตระจะตัด  วัสตรเยาว์
 +
ใหนุชครึ่ง  ครึ่งนลเอา
 +
 
 +
๏ ยากบ่มิเบา  มีดก็บ่มี
 +
องค์นลเดียว  เที่ยวจรดล
 +
 
 +
๏ จองจิตด้น  ค้นกษุรี
 +
จำเพาะเพอิน  เดิรจรลี
 +
 
 +
๏ ในพนพี  พลฉุริกา
 +
สมดุจหวัง  ดังจิตไท้
 +
 
 +
๏ เธอจรไป  ใกล้สุภคา
 +
จึ่งนลตัด  วัสตร์วนิดา
 +
 
 +
๏ องค์กลยาณิ์  แน่วนิทระเนา
 +
แล้วนลพลัน  พันวรองค์
 +
 
 +
๏ รีบจรจง  จากอรเยาว์
 +
หน่ายพระยุพี  หนีพระลำเภา
 +
 
 +
๏ บ่ายบทเบา  เฃ้าพนไป
 +
หันมนหน่วง  ห่วงมหิษี
 +
 
 +
๏ หวนจะบ่หนี  ศรีสุวิไลย
 +
กลับจรมา  หาอรไทย
 +
 
 +
๏ พักตระประไพ  พิศนุชพลาง
 +
โอ้ภริยา  อาตมะเอย
 +
 
 +
๏ ทุกขะบ่เคย  เกยสริรางค์
 +
ลมบ่ระคาย  กายนุชนาง
 +
 
 +
๏ แดดบ่ระคาง  กายนุชนวล
 +
เคยศยนีย์  ศรีสุขแผ้ว
 +
 
 +
๏ พัสตรแพร้ว  เพราพิตบวรณื
 +
กรรมจรแปร  แก้จนปรวน
 +
 
 +
๏ โทษะคำณวน  ทุกขะคำณูน
 +
โอ้อรเยาว์  เพราะพิศวาส
 +
 
 +
๏ มิตรกลมาศ  ภาสจรูญ
 +
เคยสุขสันต์  หรรษะพิบูลย์
 +
 
 +
๏ พร้อมพระประยูร  ภูลบริจาร์
 +
โอ้นุชนาง  พางนยนา
 +
 
 +
๏ พี่พิศหน้า  น่ากรุณา
 +
องค์อรอ่อน  นอนณะสภา
 +
 
 +
๏ แทบพสุธา  เจียนจะประลัย
 +
อำพรครึ่ง  ซึ่งนุชทรง
 +
 
 +
๏ พันวรองค์  มิดฤไฉน
 +
โอ้รมณี  พี่จรไป
 +
 
 +
๏ เมื่อนุชตื่น  ฟื้นนิทระนาน
 +
เพ่งบ่มิพาน  พักตระพระนล
 +
 
 +
๏ นางก็จะร่ำ  คร่ำจิตจน
 +
จักจรหน  ใดก็บ่เห็น
 +
 
 +
๏ เดียวจรด้น  หนทุรกัน
 +
ดารณะอรัญ  อันคุรุเข็ญ
 +
 
 +
๏ หมีมิคโค  โฆระลำเค็ญ
 +
พักตร์กลเพ็ญ  จันทร์ก็จะหมอง
 +
 
 +
๏ นวลก็จะเศร้า  เจ้าก็จะโศก
 +
ยามวิประโยค  โรคก็จะครอง
 +
 
 +
๏ โอ้พระปิยา  อาดุรปอง
 +
ผิวกลทอง  หมองสิริครวญ
 +
 
 +
๏ อ้าอชรินทร์  จินตะประจักษ์
 +
ภักดิพิทักษ์  รักษะสงวน
 +
 
 +
๏ กอบกิจเอื้อ  เกื้อกิจนวล
 +
โรคะบ่กวน  ภัยะบ่มี
 +
 
 +
๏ เชิญอศวิน  อินทรอา
 +
ทิจจะมหา  วายุพลี
 +
 
 +
๏ อีกรุทระยง  องค์วสุศรี
 +
รักษ์ยุวดี  ภีมะธิดา
 +
 
 +
๏ อันยุพยง  ทรงคุณธรรม
 +
สัจจะประจำ  จิตพระศุภา
 +
 
 +
๏ สัจจะประเสริฐ  เลิศพสุธา
 +
ดั่งสุรอา  วุธพลวาน
 +
 
 +
๏ ย่อมจะสงวน  นวลนุชนาง
 +
ภัยะณะกลาง  พนบ่มิพาน
 +
 
 +
๏ องค์อรจง  ทรงพระสราญ
 +
สู่ณะสถาน  ราชบิตุรงค์ ฯ
 +
 
 +
 
 +
๏ ฝ่ายกลิอิง  สิงจิตนล
 +
เธอก็วิกล  มนทะจำนง
 +
 
 +
๏ แหนงมหิษี  หนียุพยง
 +
จิตนลจง  จักจรลี
 +
 
 +
๏ หันมนะหัก  จักจรไป
 +
หวนมนะไม่  ไกลยุวดี
 +
 
 +
๏ เหจิตหวน  ป่วนจิตมี
 +
ทุกขะทวี  แทบจะประลัย
 +
 
 +
๏ ครั้งกลิดล  นลธก็เผลอ
 +
มุ่นมนะเมอ  เธอจรไกล
 +
 
 +
๏ ดุ่มบถด่วน  ซวนบทไป
 +
ทิ้งอรไทย  หลับณะสภา ฯ
 +
 
</tpoem>
</tpoem>
 +
====สรรคที่ ๑๑====
====สรรคที่ ๑๑====
<tpoem>
<tpoem>

การปรับปรุง เมื่อ 10:46, 6 สิงหาคม 2552

เนื้อหา

ข้อมูลเบื้องต้น

พระนิพนธ์: พระนิพนธ์พระราชวรวงศ์เธอ กรมหมื่นพิทยาลงกรณ

ขาดสรรคที่ ๒๑ - ๒๕

บทประพันธ์

สดุดี

วสันตติลกฉันท์
๏ อัญขยมประนมนขประณามพระสยามสวามี
เชลงฉันท์ประพันธสดุดีนรเทพเถกิงไกร
๏ จักรพรรดิขัตติยนรินทร์ปถพินทร์ทิพาลัย
ดั่งรามราฆพไผทกิติศักดิ์ประจักษ์จินต์
๏ สมเด็จปรเมนทรมหาวชิราวุธาวนินทร์
เอกองค์พระมงกุฏสิรินทสุคันธ์สมัญญา
๏ นามเมืองก็เรืองกิติวิมลเพราะยุบลพระราชา
นามราชก็เรืองกิติประภากรเหตุประเทศเรือง
๏ โสภาวิชาภรณแพร้วกลแก้วกำจายเมือง
โสภณพิมลสตยเนืองนิติธรขจรธรรม์
๏ ในสรวงก็แสงสุริยส่องทิวก่องณะกลางวัน
สิ้นสูรย์ก็แสงศิศิรจันทรจ้าณะราตรี
๏ สูรย์จันทร์ก็ปันทินนิศาจกรานุจรมี
เวรเปลี่ยนและเวียนศศิรวีปริวัตระผลัดกัน
๏ อันองค์พระมงกุฏกษัตริย์ทนุรัฐนครฃัณฑ์
วันคืนพระยืนจิตกระสันธุรม่งพระองค์เดียว
๏ เชอดชาติพระราชประยุรรักมนภักดิกลมเกลียว
เสนาประชานรก็เหนียวจิตรักสมัคคุณ
๏ ครองดินอรินทมนเรนทร์ประเมนทร์มฆาดุลย์
เดชเปรื่องกระเดื่องพระยศบุณยโศลกสิเรนทร
๏ สรวมคุณพระไตรย์สรณรัตน์สิริภัทร์อุบัติพร
ยิ่งกี้พระกีรติขจรทิศเทอดคุณาธาร
๏ พุทธานุภาพผริตผลสุขดลอดูลย์ดาล
ธรรมานุภาพพิมลภูลชยเชอดชลอธรรม์
๏ จำเริญพระชนม์ธนสุขีพลศรีสอางพรรณ
ไร้โรคนิราศภยนิรันตรทุกขถอยไกล
๏ ฃ้าบาทประดิษฐ์พจประพันธ์บทฉันท์ชลอใจ
ดำเนิรนิทานพระนลไนษธเบื้องฉบับบรรพ์
๏ ทูลแทบพระราชบทมาลย์มหิพาลวิบูลย์ธรรม์
หวังเสริมสราญกมลกรรณพระนราธิราชา ฯ
             

สรรคที่ ๑

วสันตติลกฉันท์
๏ ยังมีกษัตริย์นิษธราษฎร์นลราชสมัญญา
ลือฃามพระนามนลนราธิปทั่วไผทศรี
๏ เฉกฉัตรอุบัตินิษธร่มอภิรมยะลาภี
สมบัติพิพัฒนะธนีธรณีระบือบุญ
๏ ทรงศักดิ์ประจักษ์จิตประจำรสธรรมธิราดุลย์
นานาคุณานุคุณจุนจิตเหิมเฉลิมรมย์
๏ ทรงเดชวิเศษศรวิสิฎฐ์อภิฤทธิ์ปรากรม
เลี้ยงราษฎร์พระราชอุปสดมภ์อดิเรกอเนกนันท์
๏ ทรงโฉมประโลมจิตประเจิดสิริเลิศะรังสรรค์
อำไพประพลพิมลพรรณืผิวพิศก็ติดตา
๏ แคล่วคล่องทำนองอศวชาติจรผาดผยองพา
เปนปิ่นมหารถมหารถอื่นบ่ขืนแขง
๏ รู้หลังประจักษ์จตุรเวทนรเศรษฐะกำแหง
เชิงชั้นพนันนลระแวงจิตรักตระหนักนัย
๏ อวยทานอุทารอุทยเทอดนรเลิศสุฃาลัย
บรรเทิงสเริงสริระไภยพิบัติบ่บีฑา
๏ เสนาพลาธิกพหลนรชนระบือชา
เหิ่มหาญทยานหทยทานพแทตย์บ่เทียมทาน
๏ เกริกเกียรติ์กระหลบพิภพแม้นภพแมนมโหฬาร
เสมอศักดิ์ศักระมฆวานสุรสิทธิ์รังสรรค์ ฯ
๏ ยังมีพระภีมะมรุเดชนคเรศวิทรรภ์ฃัณฑ์
ครองราชย์บำราศบรถวัลยเถลิงเถกิงศรี
๏ ไพร่ฟ้าประชากรเกษมสุขเหมหทัยทวี
เรืองรมยะร่มนิคมมีพิตภัทระภูลเพ็ญ
๏ แต่องค์พระภีมะนิรรมยะระทมระทวยเข็ญ
หมายปองและหมองมนลำเค็ญเพราะบ่สิทธิสมหมาย
๏ เหตุไร้พระราชบุตระบุตรีมหิษีฤดีดาย
กำศรดระทดหทยวายอุระร้อนบ่ห่อนมี
๏ บำเพ็ญกุศลผลก็ไร้มนไหม้มลายศรี
หลายหลากประจากธนมณีพรพิตก็นิษผล
๏ วันหนึ่งมนีวิริยกล้าตละฌานะโกศล
สู่ราชสถานถิรถกลชชวาลตระการตา
๏ จึ่งภีมะราชและมหิษีจิตปรีดิหรรษา
ซาบซ่านสราญกมลมานิตน้อมประฌามเธอ
๏ เชิญองค์พระดาบสสถิตยณะอาศน์อุไรเลอ
สององคะทรงบำรุบำเรอปฏิบัิติพระโยคี
๏ เมื่อนั้นมุนีสถิรธรรมอรัญยะวาสี
เปี่ยมปิติในหทยมีมนเหมเกษมศานติ์
๏ อวยพรถวายนฤบดีมหิษีวิมลมาลย์
จงทรงพระราชสิริสราญสุรฤทธิธำรง
๏ อันใดพระใคร่จิตกระสันสุขหรรษะจำนง
อันนั้นประสบศุภประสงค์พรสิทธิสมบูรณ์
๏ หมายมีบุตรีบุตระประเสริฐฉวิเฉิดฉมามูรธ์
เปนศรีมหานครคูณกิติเลื่องระบือไกร
๏ จงสบมโนรถประสงคจำนงมนุญใน
ไป่คลาดพระราชหฤทัยดุจอาตมะอวยถวาย
๏ ครั้งเสร็จประสิทธิ์พระพิพัฒน์พระวนัสถะผันผาย
ทูลลานราธิปและหมายทิศถิ่นพนาลัย ฯ
๏ ฝ่ายองค์พระปินนรวิทรรภสุธรรมะธรไท
อีกนางพระยายุวประไพอภิลาษลออองค์
๏ จำเดิมมุนีวิริยเดชวรเวทธำรง
เธอช่วยอำนวยพระพรมงคลสิทธิสมปอง
๏ แต่นั้นสุรางคะมหิษีธก็มีบุตรีสนอง
สวาดิ์แสนเสน่ห์สนิทสองปฏิพัทธะเพียงใจ
๏ อีกมีพระราชดนุชสามทมะนามเกรียงไกร
หนึ่งทานตะหนึ่งทมนะไชยะยศาภิศักดิ์ศรี
๏ ฝ่ายราชบุตรีสิริยโศธรทัมะยันตี
พรายเพราพระเยาวะดรุณีสุขุมาลละลานเลอ
๏ ทรงศรีฉวีวรวิลาสกลวาดวิมลเสมอ
ใครยลก็ดลจิตเลมอมนถึงคนึงศรี
๏ ในฟ้าจะหาอรสุรางค์ดุจนางก็ห่อนมี
ในดินจะหาอรยุพีกลนุชก็สุดหา
๏ ความงามณะสามภพเสนอจะเสมอบ่มีมา
ทรามไวยประไพพรศุภาผิวเห็นก็เปนบุญ ฯ
๏ ฝ่ายองค์นิษัธฃติยนาถนลราชระลือคุณ
ภๅโฉมประโลมนยนะสุนทรทั่วไผทศรี
๏ ทราบศัพท์ยุบลนลอนันต์ณะวิทรรภะธานี
จวบองค์พระราชวรบุตรีธก็รู้ระหัสสาร
๏ ปางปวงประชานิษธราษฎร์ก็นินาทะพิสดาร
ภๅลักษณ์ยุบลวิมลมาลย์พระวิทรรภะนารี
๏ จวบจนพระนลธก็ตระหนักวรลักษณ์พระบุตรี
ต่างองค์ก็ต่างกมลมีปฏิพัทธะผูกพัน
๏ ยิ่งยินระบินยุบลภๅก็ระบือหทัยศัลย์
นางใคร่จะยลพระนลครันนลใครจะยลนาง ฯ
๏ เมื่อนั้นพระนลพิมลโฉมอุระโซมระคางขนาง
หมายน้องและหมองกมลหมางเพราะบ่เหมือนกมลหมาย
๏ วันหนึ่งพระจึ่งจรประพาศพนราชสราญกาย
องค์เดียวพระเที่ยวทุรณะทายบทท่องระโหฐาน
๏ ยลหงส์หิรญวิมลเมิลมนเพลินพิบูลย์บาน
สำเริมประเทิงหทยะลานจิตเล่นบ่เห็นองค์
๏ ปางนั้นนราธิปกษัตริ์ยนิษัธะธำรง
ซอกซอนและซ่อนคณะพิหงคและหงสะหลงเผลอ
๏ เมียงเมิลดำเนิรบทบ่แกรบจรแอบกำบังเฌอ
จับได้สุโนคพระนลเธอก็แจร่มจรูญปรีดิ์
๏ ฝ่ายหงสะเหมวรวิหคก็สทกสท้านมี
ใจกลัวระรัวสริระตีอุระข้อนคนึงครวญ ฯ
ทูลพระนลว่า
๏ อ้าองค์พระทรงสุรมเหศรศักดิ์นเรศวร
ภูวนาถพระบาทยุคลควรภพพึ่งสำนึงนาน
๏ แม้นทรงพระคุณกรุณโปรดสละโทษมิสังหาร
ขอรองลอองพระบทมาลย์กลทูตนำทูลเสนอ
๏ แด่นางพระราชปิยยุพาพระธิดาวิทรรภ์เธอ
สำแดงพระคุณอดุลเลอนรราชนเรสูร
๏ นางทราบยุบลพระนลแล้วฤจะแคล้วอุราดูร
จักครวญจะใคร่หททภูลจิตเล่ห์เสนหา ฯ
๏ ฟังหงส์ทำนูลมธุรวาทนลราชหรรษา
ปลดปล่อยพิหคพิหคลาจรรีบระเห็จหน
๏ พาพวกพิหงคะคณะหมายมนบ่ายโพยมบน
ฉิวฉิวละลิ่วอำพรดลณะวิทรรภะธานี
๏ ลงยังพระราชอุทยานยุวมาลย์พระบุตรี
ชมพรรณ์กุสุมสุขุมปรีดิจรัสจรูงราม
๏ เมื่อนั้นพระองค์อรธิดาทศนาสุโนคงาม
คิดใคร่จะได้ก็จรตามบริษัทก็ตามองค์
๏ แอบอ้อมแลล้อมคณะสุโนคและกระโชกจะจังหงส์
หวุดหวิดกระชิดจิตพวงผิวใกล้วก็ไป่ทัน
๏ ปางราชยุพาพรประไพจรไล่พิหคหัน
หนีนางและห่างคณะกำนัลก็สุโนคเสนอสาร ฯ
หงส์ทูลนางว่า
๏ อ้าองค์พระราชวรบุตรีศุภศรีฉวีกาญจน์
เพ็ญพักตร์พิมลกลสุมาลย์อรเอี่ยมอุไรพรรณ์
๏ อันในนิษัธฃติยะนาถอธิราชยะรังสรรค์
ไพศาลพิศลย์ผลอนันต์นลผู้ผดุงเมือง
๏ อันองค์พระนลพิมลเฉิดฉวิเลิศวิไลยเรือง
บุญญาภิฤทธิ์พิชิตเปลืองปรภาพบ่พึงเผยอ
๏ คนธรรพ์อุรุคสุรและรากษสมากบ่มีเสมอ
ดาวเดือนบ่เหมือนพระนลเธอนิติธรนิกรพิง
๏ ฉันใดพระองค์อรประเสริฐสิริเลิศณเหล่าหญิง
ฉันนั้นพระนลวิมลจริงจิตรเลิศณะเหล่าชาย
๏ ชายเลิศผิร่วมสมรเลิศจะประเสริฐะแหล่หลาย
โลกหล้าจะหาอุภยะผายภทระเหมือนมิพึงมี ฯ
๏ เมื่อนั้นยุพาพรลำเภาอรเยาวะสุนทริ
ปางทรงสดับสกุณปรีดิก็ตอบยุบลไป
๏ ดูราพิหคกนกหงส์จะประสงค์ประการใด
จงเร่งระเห็จอำพรไคลณะนิษัธนครฃัณฑ์
๏ บรรยายยุบลกลประสงค์ดุจหงส์จำนงสรร
ทูลองค์พระนลพลอนันต์กลที่ทำนูนเรา ฯ
๏ บัดนั้นสุโนคสิรประณตวรนุชนงเยาว์
ทูลลายุพาอรลำเภาจรเหิรระเห็จคลา
๏ ถ่องทูลพระนลนรบดีธก็ปรีดิหรรษา
ปลื้มเปรมเกษมกมลมาลยะแผ้วพิมลศรี ฯ
             

สรรคที่ ๒

อินทรวงศ์ฉันท์
๏ เมื่อนั้นพระไภมียุวดีกำดัดฤดี
คำนึงพระนลมีนยะหงส์พิหงคะทูล
๏ หมองหมายบ่วายว่างสุขนางก็ส่างก็สูญ
อาดูรอดูลย์ภูลพิศวาสบ่คลาดบ่คลาย
๏ ยามนิทร์บ่นิทร์เนานิทระเศร้าทุรนทุราย
ร้อนรนสกลกายบ่มิเหือดก็เดือดกมล
๏ โภชน์ตั้งก็นั่งเฉยบ่เสวยกระยาสุคนธ์
กลุ้มกลัดสบัดตนอุระเข็ญลำเค็ญรำคาญ
๏ พักตร์พิมพะพริ้มเพราพิศเศร้าบ่เบิกบ่บาน
ขุ่นข้นกมลมาลย์มลหมางระคางระคาย
๏ เคยสรวลบ่สรวลสันต์จิตซั้นระส่ำระสาย
แค้นคิดระคายหมายมนแล้วก็แคล้วก็คลา
๏ เคยมีฉวีฉ่องสิริผ่องประไพประภา
บัดนี้ฉวีวามก็หมองบ่รองบ่เรือง
๏ เผลอ ๆ มะเมอมนจิตจนก็ข่นก็เคือง
ผิวพักตร์ก็ชักเหลืองวรรูปก็ซูปก็ผอม
๏ บัดนั้นพระพี่เลี้ยงทนุเคียงยุพาถนอม
เห็นราชธิดาตรอมจิตหม่นกระวนกระวาย
๏ หนักใจก็ไปเฝ้าณะพระเจ้าวิทรรภะฉาย
ทูลว่าธิดาสายจิตไท้มิใครเสบย
๏ เมื่อนั้นพระจอมธรรมะวิทรรภะฟังเฉลย
ห่อนรู้ระหัสเผยธก็ร้อนอุราสลาย
๏ ลูกกรูก็ชีพกรูจิตกรูบ่รู้สบาย
ใจกรูบ่ดูดายอุระเดือดบ่เหือดทำงน
๏ หนักในหทัยท้าวอุระร้าวบ่รู้จะทน
จึ่งองค์พระทรงพลก็ละห้อยละเหี่ยหทัย
๏ รำลึกพระชนมายุยุพาประภาพิไลย
นงเยาว์ลำเภาไวยะก็รุ่นเจริญจรูญ
๏ สมควรสยุมพรอรชรพิธีพิทูร
สมศักดิ์สมบูรณ์วรเกียรติ์ขจายขจร
๏ ตรึกเสร็จก็ตรัสสั่งกิจดังมนานุสร
เสนาพลากรสุมนัสก็จัดก็ปัน
๏ ส่งข่าวและป่าวทั่วนคเรศเฃตตะฃัณฑ์
ทุกรัฐกษัตริย์อันจิตหวังพระอังคนา
๏ ทราบข่าวสยุมพรอรไทยประไพประภา
เสียวศัลย์กระสันหากลยาณิ์ประภาประไพ
๏ ต่างองค์ทนงฤทธิ์มนคิดจะสมสมัย
ต่างองค์ทนงใจจรหมายจะได้สมร
๏ ร้อนรักตะหนักมาดพิศวาสพระนางบวร
เวียนหวังพระบังอรอุระเต้นบ่เว้นทิวา
๏ ไฝ่ถึงยุพาภีมะลุตรีสุโลจนา
ฝันถึงยุพาภาดรุณีพระภีมะพงศ์
๏ ต่างเตรียมพลากรอภิฤทธิเรืองณรงค์
เนืองแน่นณะแดนดงจรโดยวิทรรภ์วิถี
๏ ถั่นถึงนครรัตน์ก็กษัตร์สุภัทร์พลี
เฝ้าภีมะราชภีมะก็รับก็เลี้ยงก็ดู ฯ
๏ เมื่อนั้นมุนีนาทรญาณวิธานวิทู
เชี่ยวณานวิศาลบูรณะก่องเถกิงถกล
๏ อีกทั้งมุนีบรรพตอันวิชาวิมล
สองเหิรระเห็จหนจรโดยอำพรพิถี
๏ ถั่นถึงสวรรค์เวียงอมราวะดีมณี
จึ่งสองพระโยคีจรไปณะไวชยันต์
๏ เฝ้าองค์พระวาสพอมเรนทร์วฤตระหัน
สมเด็จพระจอมสวรรค์ก็คำรพไชมมุนี
๏ ถามทุกข์แลสุขในภพโลกมนุษยะมี
เจริญจรูญพิบูลย์ปรีดิสวัสดิ์ฤาฤษี
๏ จึ่งสองมุนีน้อมมนทูลทิวัสบดี
ในโลกมนุษย์มีสุขเปรมเกษมกมล
๏ บรรดาพระราชาฃติยาธิเกียรติ์ถกล
ทุกที่มหรีดลก็สวัสดิ์พิพัฒน์ประพันธ์
๏ เมื่อนั้นสุราธิปทิพราชมไหศวรรย์
ฟังทูลพระทรงธรรมะก็ปริ่มหทัยะปรีดิ์
๏ ตรัสถามพระนักสิทธมหิทธิเวททวี
ดูราพระโยคีพรตผู้พิสุทธพิสัย
๏ อันเหล่าพระราชาธิกษัตริย์วิวัฒน์วิชัย
ครองเวียงกำเรียงไกรอภิชิตมหิทธิ์มหัน
๏ ต่างองคะต่างทรงสุรภาพอเนกอนันต์
ทุกองค์ทรงธรรม์สุจริตวิสิฏฐ์วิศาล
๏ ต่างองคะหายพักตร์บ่มิยาตรณะคัคะณานต์
ตูห่อนจะพบพานภพนาถนรินทะใด
๏ เหตุใดกษัตราธิกอานุภาพะไกร
จึ่งหายพระพักตร์ไปบ่มิสู่สวรรคะเลย
๏ เมื่อนั้นพระนารทพจพร้อมฉลองเฉลย
อันซึ่งกษัตริย์เคยจรชั้นสวรรค์ก็หาย
๏ ด้วยเหตุสยุมพรอรชรสุพรรณราย
กานดายุพาสายจิตภีมะวีระวงศ์
๏ ทุกเทศเกษตรรัฏฐกษัตริย์ก็เตร็จก็ตรง
สู่เวียงวิทรรภ์จงมนมุ่งวิมลสุมาลย์
๏ เหตุนี้บ่มีใครจรเฝ้าพระมัฆะพาน
สมเด็จมรุตวานธตระหนักหทัยเทอญ ฯ
๏ เมื่อนั้นพระโลกบาลแลพระอัคนีเจริญ
เสด็จเยือนพระอินทร์เมิลพระฤษีสุมนต์ยุคล
๏ ต่างองค์ก็ยินความมุนิงามแถลงยุบล
ต่างองค์ก็มุ่งกมลจะเสด็จณะเมทินี
๏ เพื่อการสยุมพรกลยาณิ์ประภาฉวี
ต่างองค์ประสงค์ศรีอรราชพาลิกา
๏ องค์อินทร์วรุณยมและพระเพลิงเถกิงประภา
ต่างทรงมหาวาหนะเหิรระเห็จทยาน
๏ หมายมุ่งวิทรรภ์รัตนะนครบวรวิศาล
พรึบพร้อมพหลหาญพลแห่อำพรสลอน ฯ
๏ กล่าวฝ่ายพระนลราชนลนาถนิษัธนคร
ทราบฃ่าวสยุมพรอรนุชก็สุดกระสัน
๏ รีบจัดพลากรบทจรนครวิทรรภ์
คำนึงพระนุชพลันพระก็เร่งพหละคลา
๏ นึกนุชบ่เหนื่อยนึกอุระทึกระลึกยุพา
หมายนางบ่หมางมานเสน่ห์วิมลสมร ฯ
๏ เมื่อนั้นพระวัชรีอัคนีเถกิงบวร
ยมราชวรุณจรพลผองผยองโพยม
๏ ต่างยลพระนลทรงสิริลักษณ์พิไลยประโลม
ตรูตาสง่าโฉมภพหล้าจะหาบ่เหมือน
๏ สี่เทพธอยุดพาหนเด่นประดุจจะเดือน
ลงจากโพยมเยือนนลราชณะแนวพนม
๏ มีเทพกถาสุนทรชื่นบ่ขื่นบ่ขม
ถ้อยคำก็ฉ่ำฉมผิวฟังก็ดังจะกลืน
๏ ดูราพระทรงศักดิ์ปรปักษ์บ่ฝ่าบ่ฝืน
ขันแขงพระแสงปืนอภิศักดิ์ตระหนักสวรรค์
๏ ทรงโฉมประโลมลักษณะพักตร์ประจักษะพลัน
ทรงศรีฉวีวรรณวรเดชวิเศษวิมล
๏ เชิญองค์นิษัธนาถนลราชพลีพหล
กอบกิจประกอบผลดุจเราจะกล่าวถวาย ฯ
             

สรรคที่ ๓

อินทรวิเชียรฉันท์
๏ เมื่อนั้นพระนลนนทะกมลวิมลฉาย
น้อมก้มประนมผายพจเผยเฉลยวอน
๏ อ้าองค์พระทรงฤทธิ์สุรสิทธิ์มหิศร
โลกหล้านรากรกรก้มประนมคัล
๏ ฃ้านี้เสมอฃ้าอมราภิฤทธิ์อัน
เฉกฉัตรอุบัติกันภพรมยะร่มเย็น
๏ สี่องค์ประสงค์ใช้กิจใดบ่ลำเค็ญ
หมายปองสนอมเปนดุจฃ้าพระบาทบงส์
๏ แต่ฃ้าจะทูลถามพจตามคะดีตรง
เทพช่วยอำนวยมงคลเพื่อพราทร
๏ สี่เทพธคือใครสุรไกรอลงกรณ์
เลิศหล้าสถาพรทิพลักษณ์วิไลยไร
๏ สี่เธอจะใช้ฃ้ากิจภาระฉันไหน
โองการประการใดสุรเทพประทานเทอญ ฯ
๏ เมื่อนั้นสุราธิปทิพราชจำเริญ
อวยอัตถ์ดำรัสเชิญมธุรสพระพจมาน
๏ เรานั้นพระอินทร์นี่อคนีมณีฉาน
นั่นคือพระโลกบาลยมรักษะทักษิณ
๏ โน่นวาริโลมลักษณะพักตระโศภิน
เปนเจ้ากระแสสินธุ์พระวรุณวรางค์เรือง
๏ สี่เราเสด็จมาพสุธามลังเมลือง
มุ่งใจจะไปเมืองระบุฃ่าวสยุมพร
๏ ใคร่ได้ธิดาราชอภิลาษลอออร
หวังพายุพาจรภพเทวะเขมี
๏ ขอเชิญพระนลจรณะสมรสุมาลย์ศรี
ทูลทัมะยันตีกลทูตทำนูลความ
๏ ว่าองค์พระวาสพสุรภพพิไลยราม
มาดินถวิลทรามวยะใคร่จะได้นาง
๏ อีกองค์วรุณลักษณะพักตระโศภางค์
หมายชวนพระนวลปรางอภิรมยะชมขวัญ
๏ หนึ่งองค์พระยมใคร่จิตได้พระเพ็ญจันทร์
หวังพาพระลาวัณย์กรคล้องตระกององค์
๏ ทั้งองค์พระเจ็ดกรอรชรขจรทรง
หมายโลมพระโฉมยงสุภคาประภาการ
๏ สี่สู่สมาคมณะสยมพโรฬาร
หวังองคะนงคราญศุภลักษณ์ประจักษ์ใจ
๏ นางจงประจงสรรสุรฉันทะอาลัย
เลือกหนึ่งพระองค์ในจตุเทพธหมายมา ฯ
๏ เมื่อนั้นพระนลยินพระมหินทะเจรจา
ยิ่งฟังก็กังฃาอุระขุ่นรำคาญเคือง
๏ อ้าองค์สุเรศรอสุเรศร์บ่รอเรือง
รอบราบประภาพเปลืองพิษพาลบ่ทานทน
๏ ฃ้ายกนิการชาญชวหาญระเห็จหน
ด่วนโดยสถลกลจะกระหืดกระหอบเห็น
๏ เพื่อการสยุมพรพระยุพาประภาเพ็ญ
หมายมิตรบ่คิดเข็ญทุรทางณะกลางไพร
๏ บัดนี้พระเปนเจ้าธจะให้ระเห็จไป
ทูลความณะทรามไวยกลสื่อสำนารนาย
๏ ฃ้าเองประสงค์นางนุชพางอุราผาย
ทุกเวรบ่เว้นวายอุระหม่นกมลหมอง
๏ โปรดให้อภัยฃ้าธุระภาระอื่นปอง
ใช้ฃ้าและฃ้าจองจิตให้พระใช้เจียว ฯ
๏ เมื่อนั้นพระมัฆวานพจมานธฉุนเฉียว
ดูดู๋ประเดี๋ยวเดียวพระก็กลับก็กลายไป
๏ เมื่อกี้พระนลว่ากิจภาระฉันไหน
โองการประการใดก็บ่คิดจะบิดเบือน
๏ ครั้นเราดำรสวานมหิบาลก็แชเชือน
เกลื่อนกลบจะลบเลือนดุจนี้มิบังควร
๏ ไปเถิดพระนลไปจรไวบ่เรรวน
ตัดโศกวิโยคครวญผิวโศกจะสื่อไฉน ฯ
๏ เมื่อนนั้นพระนลอิดอุระอัดระอาใจ
จำเปนก็จำไปดุจเทพจำนง
๏ หวนมีมนาดูรธก็ทูลพระอินทร์องค์
เวียงวังยุพาวงพลแขงกำแพงกัน
๏ ฃ้าฤาจะเฃ้าได้กลใดพระทรงธรรม์
แน่แล้วบ่แคล้วอันพจฃ้าทำนูลความ ฯ
๏ เมื่อนั้นพระพันตาอมราธิเบนทร์งาม
ตรัสตอบพระนลตามจิตหวังพระบังอร
๏ ดูราพระนลภูธรผู้สถาพร
เธออย่ามนาวรณ์กิจนั้นมิพรั่นพรึง
๏ เราอาจอำนวนให้จรเตร็จเสด็จถึง
ผู้คนประตูกรึงบ่มิบังมิกั้นกาง
๏ เธอจงเสด็จไปดลในนิเวศน์นาง
พริบเนตระเดียวทางทุรถั่นก็ถึงองค์
๏ พออินทะโองการพจมานธหมดลง
นลราชระเห็จตรงกลวายุพาไป
๏ ลัดนิ้วพระหัตถ์เดียวพระก็ดลณะวังใน
ทวยหาญทหารใครก็บ่ห่อนจะเห็นองค์
๏ ปราการตระการกั้นบ่มิกันพระนลยง
แวดป้อมและล้อมวงก็ประหนึ่งบ่มีตา ฯ
๏ เมื่อนั้นนิษัธนาถยลราชกานดา
นวลนงพงาวามวิลาสวิไลยศรี
๏ โศภางค์สอางอ่อนอรชรสุพรรณี
เพราพร้อมมลม่อมมีสิริเลิศสราญตา
๏ เอวองคะอ้อนแอ้นอุระแม้นประทุมมา
ลัยแย้มยะยวนยามะกมุทบดีเชย
๏ เพ็ญจันทร์บ่เพ็ญจริงดุจหญิงฉนี้เลย
ใครใดจะได้เคยยลนางสำอางเหมือน
๏ รำพึงตลึงเล็งพิศเพิ่งพระเพ็ญเดือน
ดวง:-)็แชเชือนกิจทูตมิพึงทำ
๏ หวนหักหทัยท้อจิตแท้ทวีรำ
คาญขุ่นระคายคำสุรเทพธใช้มา ฯ
๏ บัดนั้นกำนัลนางบ่มิห่างยุพาภา
ล้อมเล่หะดารากรล้อมพระจันทร
๏ เห็นองค์พระไนษัธสิริรัตน์วราภรณ์
เลอล้ำนรากรทินกรบ่เทียมทัน
๏ ต่างนางก็ออเออมนเผลอมะเมอฝัน
ยักษ์นาคะคนธรรพ์สุรทิพยาคม
๏ ใครหนอลออทรงอรองค์อำเรอชม
งอนงามอร่ามรมย์ภพนี้บ่มีสอง
๏ พิศรูปก็เลิศลักษณ์พิศพักตร์ก็เพ็ญผอง
พิศองค์ลอออองพิศมาดสวาดิ์หมาย
๏ ต่างนางก็งวยงงพิศวงพระทรงฉาย
อยากผายบ่อาจผายพจถามพระภูธร
๏ ต่างนางก็บังคมสิรก้มประนมกร
อ้ำอึ้งอุราอรบ่มิอาจจำนรรจา ฯ
๏ เมื่อนั้นพระนงเภาอรเยาวะโสภา
หากในหทัยมานพมาณะวังใน
๏ งามดังอนงค์ทรงสิริโฉมประโลมใจ
ใครหนอฉนี้ใครฤจะเทพเสด็จมา
๏ นลยิ้มพระนางยิ้มพิศพริ้มประไพตา
พลางองค์พระนงพาลก็ถามพระนลไป
๏ ดูราพระทรงศักดิ์ศุภลักษณ์วิไลยไกร
เหตุหาญประการใดพระเสด็จณะวังหลวง
๏ จู่ถึงประหนึ่งเทวะสุเรศะเลอสรวง
ไพร่พลพหลปวงก็บ่ห้ามบ่ปรามองค์
๏ มาได้ก็โดยฤทธิมหิศรธำรง
อันซึ่งพระองค์ทรงสุรภาพคือใคร ฯ
๏ เมื่อนั้นพระนลยินอรพินทะปราไสย
ตรัสตอบยุบลไปดุจเทพจำนง
๏ ฃ้านามพระนลไนษธไอศวรรย์ทรง
มาโดยประสงค์องค์จตุเทพมาดิน
๏ องค์เพลิงเถกิงกาจยมราชวรุณอินทร์
สี่องคะทรงจินตะประสงค์จำนงใจ
๏ หวังพายุพาจรกลพายุพาไป
สู่ทิพย์สถานในภพหล้าสง่าทรง
๏ เสพย์สุขสถาวรนิรชรถนอมองค์
เพ็ญพรรณะบรรจงมลไร้วิไลยราม
๏ สี่เทพธใช้อาตมะมาทำนูลความ
เปนทูตแถลงตามศุภอัตถ์อำนวยไข
๏ นางจงประจงสรรสุรฉันทะอาลัย
เลือกหนึ่งพระองค์ในจตุเทพธหมายมา ฯ
             

สรรคที่ ๔

พุชฌงคปยาตฉันท์
๏ พระลาวัณยะพรรณิบุตรีภีมะราชา
สดับวัจน์นิษัธนาถหลากจิตก็อิดใจ
๏ ไฉนนั่นพระพันตาสุเรนทราธิเบนทร์ไกร
เถลิงอาศน์ถวัลย์ไอศวรรย์ในสวรรค์เวียง
๏ ประดานางสุรางค์ทรงสเอวองค์สอางเคียง
บำรุงเธอบำเรอเรียงประไพตาประภาเพรา
๏ พระอินทร์ไซร้จะไร้นางสุรางค์แนบเสน่ห์เนา
ก็เหลือเชื่อและเหลือเดาจะเปนได้ไฉนเนอ
๏ พระกาลกาญจน์ตระการเพริศวิลาสเลิศวิไลยเลอ
สรีล้อมบำเรอเธอประเล้าโฉมประโลมฉาย
๏ พระเพลิงเริงเถกิงกาจวโรภาสสุพรรณ์พราย
ประเสริฐศักดิ์ตระหนักหมายบ่ไร้ร้างสุรางค์โลม
๏ วรุณไซร้วิไลยทรงสอางองค์ลออโฉม
ก็ย่อมมีสุรีโลมสุภัทร์แพร้วศุภาดูลย์
๏ พระอินทร์ยมวรุณเพลิงเถกิงกาญน์วิมานมูรธ์
พิพัฒน์แผ้วพิพิธภูลพิชัยฤทธิ์พิชิตชาญ
๏ ไฉนจงประสงค์เราฉนี้เล่าบ่เปนการ
คำนึงพลางยุพาพาลก็ทูลตอบพระนลไป
๏ พระทรงฤทธิ์อดิศวรประมวลศรีระวีไกร
เถลิงรัฐนิษัธไอศวรรย์เอี่ยมอลงกรณ์
๏ สยุมพรพิธีนี้จะมีเพื่อพระภูธร
สมาคมสโมสรกษัตริย์สิ้นณะดินแดน
๏ ประสงค์ตรงพระองค์เธอพระนลเลอเสมอแมน
บุรุษอื่นผิหมื่นแสนจะหมายชมบ่สมหมาย
๏ เพราะเหตุหงส์พิหงค์ทองยุบลถ่องแถลงปราย
ประลือโฉมประโลมฉายพระนลเฉิดประเสริฐทรง
๏ จำเดิมกาละนั้นมาก็จึงฃ้าคำนึงองค์
จำนงในหทัยตรงถวายแด่พระทรงศรี
๏ ผิแม้นองค์พระทรงศรมนาทรบ่ห่อนมี
ก็ตัวฃ้าจะพาชีวะก้มหน้าอำลาตาย ฯ
๏ พระนลยินยุบลตรึกคเนนึกคนึงหมาย
จะเล้าโลมพระโฉมฉายประดุจเทพประสงค์มา
๏ พระนางเอยอุไรนงพงาองค์อำเรอตา
ก็เมื่อสี่สุเรนทราคนียมวรุณเรือง
๏ เสด็จสู่สยุมพรธิดาภีมะศรีเมือง
มนุษย์แน่นอเนกเนืองจะเทียมเทพกระไรเธอ
๏ จะเลือกคนดำเนิรดินบ่เลือกอินทร์ระบินเลอ
ก็ผัวคนไฉนเนอจะเทียมผัวพระอินทร์ไกร
๏ มิเลือกอินทร์ก็เลือกยมมิเลือกยมก็เลือกไฟ
วรุณเกียรติกำไรก็ล้ำเลิศประเสริฐสาร
๏ มนุษย์หยิ่งเผยอยงจะเทียมองค์พระโลกบาล
บ่ทันเทียบจะเปรียบปานลอองบาทก็ห่อนมี
๏ มนุษย์ต่ำบ่ยำเยงบ่กริ่งเกรงพระวัชรี
วรุณยมวราคนีก็แท้โทษจะถึงมรณ์
๏ ผิขัดเทวะบัญชาก็คือพาทุฃากร
และทั้งทิ้งทิพาภรณ์สถานทิพย์บ่พึงถึง
๏ ผิโดยดังหทัยแมนจะแสนสุขสวรรค์สึง
เกษมใจณะไตรตรึงษ์เสวยทิพย์สถาวร
๏ สตรีมีณะที่ใดมิอยากได้สุเรนทร
สตรีใดณะดินดอนมิคิดใคร่วรุณฉาย
๏ สตรีใดณะใต้หล้ามิใฝ่หาพระเพลิงพราย
สตรีใดบ่แดดายคนึงสมพระยมยง
๏ พระนางจงผจงสรรประสบฉันทะจำนง
ณะเหล่าเทพสี่องค์พระองค์หนึ่งพระองค์ใด ฯ
๏ ยุพายินยุบลตันหทัยอั้นอุราใน
ทำนูลตอบพระนลไปพระเนตรน้ำก็คลอคลอง
๏ ประดาเทพเสด็จมาและบรรดากษัตริย์ผอง
ก็ฃ้าน้อยประณตปองประณามก้มประนมกร
๏ พระองค์อื่นพระองค์ใดก็ฃ้าไม่มนาทร
จะหมายเรียงจะเคียงหมอนมิสมแท้จะแดดาย
๏ พระองค์เธอพระองค์เดียวพระนลเชี่ยววิชาชาย
ผิหมายชมจะสมหมายเพราะฃ้าหมายถวายตัว
๏ มิเลือกองค์พระนลได้ก็ฃ้าไซร้บ่มีผัว
มิยำเยงมิเกรงกลัวจะเปนไรก็เปนไป
๏ อำนาจสัตย์อธิษฐานสำเร็จสารสำราญใจ
ประสบส่งประสงค์ไปประดุจฃ้าจำนงหวัง ฯ
๏ พระนลยินยุพาพร้องอุราข้องคนึงฟัง
ดำรัสตอบพระนางดังหทัยธัมมะสำนึง
๏ สมรเอยเฉลยอัตถ์ก็โดยสัตย์บ่พรั่นพรึง
ตระหนักในหทัยตรึงเสน่ห์หาญประทานตู
๏ ก็ฃ้านี้ณะกาลนี้มิอาจที่จะชี้ชู
จะเล้าโลมพระโฉมตรูประสงค์เพื่อประโยชน์ตน
๏ ก็ห่อนได้เพราะสัญญาจะมาสื่อแสวงผล
ถวายเทพถกลพลเถกิงเกียรติ์ตระการไกร
๏ ณะกาลอื่นผิมาได้จะมาใหม่ลำพังใจ
จะทูลความณะทรามไวยเสน่ห์หมายถวายนาง ฯ
๏ ยุพาแย้มพระโอษฐ์ยิ้มพระพักตร์พร้อมพิไลยพลาง
คำณวนถึงคำนึงทางจะแก้ยากวิบากเบา
๏ พระนางทูลพระราชาผิสัญญาก็ทำเนา
อุบายอันจะบันเทาก็พอเห็นจะเปนการ
๏ ณะวันซึ่งสยุมพรอลงกรณ์มโหฬาร
กำหนดถ้วนคำณวนวารสมาคมสโมสร
๏ สุเรนทราคณีกาลวรุณชาญชโลทร
เสด็จสู่สยุมพรประสงค์ฃ้าธิดาหลวง
๏ พระองค์จงเสด็จด้วยบ่งงงวยทำงนทรวง
กษัตริย์เทพสุทัศน์ปวงประชุมพร้อมพยานเรา
๏ ก็จึ่งฃ้าจะเลือกองค์พระนลทรงทรงวิชาเชาวน์
ทำนองโทษจะหนักเบาบ่มีแก่พระภูมี ฯ
๏ พระนลฟังบ่กังขาก็อำลายุพาศรี
เสด็จจากนิเวศน์ภีมะเฝ้าเทพสี่องค์
๏ พระพันตาสุราธิปประทับพร้อมพิไลยทรง
พระยมงามประสามชงฆ์วรุณเรื่องวราภรณ์
๏ ดำรัสถามพระนลไปกระไรปิ่นนรินทร
พระพานพบยุพาพรพระนางฃานประการใด
๏ เสด็จได้สดวกดีสดังศรีแสดงใจ
จะเลือกเราฤเลือกใครพระนลเร่งแถลงสาร ฯ
๏ พระนลยินยุบลเล่าเสนอเค้าสนองฃาน
สุเรนทราทิบรรหารตระบัดฃ้าก็สู่วัง
๏ ประตูคนก็พรั่งพร้อมกำแพงป้อมก็ล้อมบัง
ทนายเฒ่าก็เฝ้าฟังทนายหนุ่มก็คุมดู
๏ ประดาพลพหลใดบ่มีใครจะเห็นตู
ระเห็จถึงพธูตรูยุพาแผ้วพิมลมาลย์
๏ กำนัลแวดระวังองค์ธิดาทรงฉวีกาญจน์
ประหนึ่งโสมะสำราญระหว่างโชติดารา
๏ พระนางทอดพระเนตรฃ้าก็ถามว่าพระราชา
บ่ฃามเฃ็ดเสด็จมาเพราะเหตุหาญประการใด
๏ อนึ่งฃ้าพระองค์ทรงณรงค์ฤทธิคือใคร
พหลพลสกลไกรกำแพงกั้นบ่บังกัน
๏ ก็จึ่งฃ้าทำนูลตอบยุบลชอบชลอฉันท์
แถลงซึ่งพระทรงธรรมะสี่ท้าวธจงใจ
๏ ประสงค์พายุพาจรประหนึ่งพายุพาไป
ณะถิ่นทิพย์สถานไอศวรรย์หล้าสง่างาม
๏ และสี่เทพธใช้ฃ้าเสด็จมาทำนูลความ
ประหนึ่งทูตแถลงตามยุบลอัตถ์อำนวยไข
๏ พระนางประจงสรรประสบฉันทะอาลัย
พระองค์หนึ่งพระองค์ใดณะสี่เทพธจำนง
๏ ยุพาตอบยุบลว่าจะเลือกฃ้าพระนลยง
มิยอมเลือกสุเรนทร์องค์วรุณอัคะนีกาล
๏ ณะวันซึ่งสยุมพรสโมสรมโหฬาร
กษัตริย์ชัชะวาลดาลเสน่ห์หาธิดาหลวง
๏ ณะท่ามกลางสมาคมพระอินทร์ยมวรุณปวง
พระเพลิงเพริศพิไลยสรวงเสด็จพร้อมพยาาเยาว์
๏ ก็จึ่งนางจะเลือกฃ้าพระนลกล้าวิชาเชาวน์
ทำนองโทษจะหนักเบาบ่เกิดได้ไฉนเลย
๏ ฉนี้แลสุเรนทรสมรพร้องฉลองเฉลย
พระวาจายุพาเผยประดุจฃ้าทำนูลความ
๏ ยุบลทราบพระบทมาลย์พระกฤตานตะเรืองราม
พระเจ็ดลิ้นพระอินทร์งามวรุณวาริโลมศรี ฯ
             

สรรคที่ ๕

วสันตติลกฉันท์
เมื่อนั้นวิทรรภะอธิราชนรนาถภูมี
กำหนดพระราชพรพิธีศุภฤกษ์อุดมวาร
๏ เชิญปวงประชาธิปประชุมณสยุมวราคาร
เรืองศรีมณีรตนกาญจนะแจ่มเจริญตา
๏ ราชานุราชนรพยัคฆตระหนักหทัยอา
ดูรใคร่จะได้พระวนิดาก็เสด็จสมาคม
๏ งามราชนิเวศน์รุจิรจิตรสุประดิษฐ์ดำรูรมย์
โรงคัละกาญจนะสดมภ์ผิวพิศก็พิศวง
๏ งามเหล่ากษัตริย์พฒนพงศ์พรองคะอาจอง
ดั่งสิงหะสิงสิขรทรงสุรภาพอนันต์เนือง
๏ งามราชวราภรณราชยะรามอร่ามเมือง
กุณฑลหิรญรตนเรืองผิวแมนก็แม้นกัน
๏ งามทรงสุมาลยะมณีสุรศรีระพีพรรณ
พิศพาหะเปรียบปริฆอันปรภาพจะราบลาญ
๏ เพ็ญพักตร์ก็นักษตระนภางคะกระจ่างเจริญมาน
เกศาสุนาสิกสคราญและพระเนตรก็ฃำคม
๏ งามราชสมาคมนราอธิเลิศวโรดม
อ่าโอ่สโมสรวิกรมชชวาลตระการตา
๏ ดังนาคณะกรุงอุรุคโภควตีสมัญญา
แม้เสือสถิตย์คิริคุหานรศาระทูลเหมือน ฯ
๏ เมื่อนั้นพระราชอรธิดากลยาณิเด่นเดือน
โสภาประภาพิมลเตือนจิตแจ่มเจริญชม
๏ อาภรณ์ประไพพรพิพิธชวลิตชลอรมย์
แสงศรีมณีกนกสมอรสุทธะโสภา
๏ ยาตรสู่สโมสรสมาคมเหล่าพระราชา
ยลนางและต่างขติยะตาจะกระพริบก็ห่อนมี
๏ ดูไหนก็ดูบ่มิเขยื่อนผิวศกก็ศกศรี
ดูเนตรก็เนตรกลมณีผิวกรรณก็กรรณนาง
๏ ดูเอวก็เอวอรสุรางค์ผิวปรางก็เพียงปราง
ดูอกก็อกอรสอางผิวกรก็กรตรู
๏ พิศไหนก็เพ่งกมลพิศบ่มิคิดจะเปลี่ยนดู
เฉาจิตบ่พิศอรพธูวรภาคอื่นเลย ฯ
๏ ปากราชยุพาพรสวัสดิสุภัทร์กำดัดเชย
นานเนืองชำเลืองนยนะเงยยลราชสมาคม
๏ เฃาฃานพระนามนฤปถ้วนยศล้วนวิไลยสม
บูรณ์ศักดิ์วิสิฎฐ์กิติอุดมนรศาระทูลปวง
๏ ถึงนามพระนลพิมลราชนรนาถนิษัธหลวง
หลากในหทัยสมรทรวงดุจศัสตระตัดเถือ
๏ เหตุเห็นพระไนษธประจักษ์อภิศักดิ์เสมอเสือ
ห้าองค์บ่ผิดวิจิตรเหลือจิตซึ่งจะพึงเดา
๏ ดูโน่นก็นลถกลศักดิประจักษ์อุราเยาว์
ดูนี่ก็นลพิมลเชาวนะนั่นก็นลจริง
๏ ห้านลสกนธะวรลักษณะพักตร์บ่เพี้ยนพิง
อกเอ๋ยไฉนหทยหญิงก็จะทราบประการใด
๏ ไหนแน่พระนลนรพยัคฆ์อุระจักทลายไป
นงลักษณ์ตระหนักพระหฤทัยจตุเทพธแปลงมา
๏ เหตุเราจะเลือกพระนลไนษธผู้ประไพตา
สี่เทพธทราบยุบลสาระรหัสก็ดัดตน
๏ เทพหนึ่งก็เปนพระนลหนึ่งจตุเทพสี่นล
รวมทั้งพระนลพลถกลและก็ห้าพระภูธร
๏ ไหนหนอพระนลนิษธนาถนรราชอดิศร
ไหนหนอพระนลพลขจรสุจริตจิโรดม
๏ อัดอั้นอุราอรอุไรระอุไหม้หทัยกรม
อ้ำอึ้งคนึงจิตะระงมทุนนัสวิบัติกรรม
๏ ตรึกพลางพระนางนุชระลึกมนนึกทำนองธรรม
วอนเทพผิเทพอุปถัมภ์ก็จะสิทธิสมหวัง
๏ หมายพึ่งสุรานิมิษทั้งจตุเทพจำบัง
สี่ท้าวจะอาทรกระมังผิววอนอชรชาญ
๏ คิดพลางยุพาพรประนมกรก้มกมลบาน
วาจามนัสนมสการพจนาตถ์ทำนูลไป
๏ อ้าองค์สุเรศระสถาพรอานุภาพไกร
ภูลศักดิ์พิสิฏฐ์พิชิตไชยอสูรก็สูญปราณ
๏ อันฃ้าธิดานรบดีพรภีมะภูบาล
จำเดิมกนกพิหคฃานพจพร้องทำนองสาร
๏ กล่าวโฉมพระนลพิมลศักดิ์ศุภลักษณ์ประจักษ์มาน
มาดหมายบ่หน่ายถวิลดาลจิตน้อมเสน่ห์ไป
๏ มอบกายถวายนลนเรศร์กลเจตนาใน
เสี่ยงจิตผิผิดพระนลใครจะประสงค์บ่ปลงมาน
๏ ด้วยเหตุระหัสสตยวาทจิตมาดสมาทาน
จงสัตย์อุบัติผลพยานสตยานุกูลไกร
๏ สรวมเทพสุธรรมอธิตย์ผิวจิตจำนงใน
ความตรงก็จงกรุณใจระบุแจ้งแสดงองค์
๏ องค์ไหนพระไนษธสถาพรศาระทูลยง
เชิญเทพธกอบกรุณทรงคุณชี้พระภูธร
๏ หนึ่งฃ้าจำนงนฤปมั่นบ่มิพรั่นทุฃากร
หนักแน่นบ่แคลนหทัยคลอนบ่มิเคลื่อนมิคลายใจ
๏ ชั่วตากระพริบก็บ่คนึงจิตถึงบุรุษใด
ความจริงบ่กริ่งกมลในนยะนี้บ่มีแหนง
๏ สรวมสัตย์อุบัติผลสนองกลปองหทัยแจง
สรวมสิทธิ์สุเรศรแสดงนลให้ประจักษ์ตา
๏ หนึ่งฃ้าจำนงพระนลภูธรผู้ระบือชา
มุ่งในพระไนษธนชาธิปแผ้วภิย์โยเย็น
๏ เหตุด้วยสุราธิปมเหศรเดชะภูลเพ็ญ
จัดไว้จะให้อุบติเปนดุจนั้นก็เปนไน
๏ สรวมสัตย์อุบัติผลสนองกลปองจำนองใจ
เชิญเทพธชี้พระนลไนษธเพื่อภโรปถัมภ์
๏ หนึ่งฃ้าจำนงสตยจ่อจิตต่อพระนลสำ
เหนียกสัตย์ก็จำจิตจะทำดุจสัจจะวาจา
๏ สรวมสัตย์อุบัติผลสนองกลปองกมลมา
เชิญเทพธชี้นลนราธิปให้ประจักษ์องค์
๏ สรวมเทพธทรงสตยจุ่งจิตมุ่งกมลตรง
สำแดงพระองค์อมรทรงสุรลักษณ์ประจักษ์ตรู
๏ เพื่อฃ้าจะเลือกพระนลได้ดุจใจจำนงตู
สรวมทรงพระคุณกรุณชูสตยาภิวาจา ฯ
๏ เมื่อนั้นสุเรศระสดับวนศัพทะกานดา
วิงวอนอมรอมรปรากฏเห็นก็เอ็นดู
๏ ร่ำไรพิไรพจนนางบ่ระคางระคายหู
พักตรผ่องลำยองยุพพบูก็บ่ผ่องเพราะหมองมน
๏ ตั้งสัตย์และมีมนสสาระอุสาหะกังวล
รักสัตย์และทรงสตยทนบ่มิทอดมิทิ้งไป
๏ มุ่งรักประจักษ์จิตบ่จากอนุราควราภัย
หมายจิตและจิตตะนิศจัยบ่มิพรั่นมิพรึงกลัว
๏ น้ำใจก็ไสกลมณีและบ่มีจะหม่นมัว
ภักดีบ่มีกมลกลัวกลนี้บ่มีเหมือน
๏ คิดแล้วสุราชรสุทัศน์ก็ตระบัดบ่บังเบือน
พรรณเพ็ญก็เด่นประดุจเดือนสุรสุทธะโสภา
๏ ศรีแสงแสดงอมรลักษณะพักตร์ประจักษ์ตา
จึ่งองค์พระราชอรธดาก็ตระหนักหทัยนาง
๏ สี่ท้าวธเท้าบ่ดลดินอมรินทะรางชาง
เนตรห่อนกระพริบพรศุภางค์ผิวเหื่อก็ห่อนมี
๏ สรวมทรงสุพรรณ์สุรภิมาลยะไร้ธุลีศรี
หนึ่งองค์สุรามรบดีก็บ่ห่อนจะมีเงา
๏ อันองค์พระนลนรพยัคฆ์ก็ประจักษ์หทัยเยาว์
เหตุเหื่อและเงามนุชเราและพระบาทก็ดลดิน
๏ ปางราชยุพาพระสวัสดิพิพัฒนะโศภิน
สำเหนียกตระหนักนลนรินทรเที่ยงหทัยนาง
๏ ทันใดพระราชอรสุดากลยาณิโศภางค์
ทรงเลือกพระไนษธวรางค์อธิราชยะธำรง
๏ ฉวยชายพตราภรณพลางก็พระนางธสวมทรง
มาลัยถวายพระนลปลงจิตกายถวายไท ฯ
๏ ปางนั้นสุเรศะมฆพานภควานวิบูลย์ไกร
บรรดาสุรามรวิไลยยศะมาสมาคม
๏ เธอผองก็ซร้องสุรสำเนียงวจเจรียงเจริญชม
เทพทวยก็อวยอุปสดมภประทานพระนลหลวง ฯ
๏ เมื่อนั้นพระไนษธสบายจิตหมายธิดาดวง
สมหมายและกายกมลทรวงกธระรื่นระเริงปรีดิ์
๏ ทูลความณะทรามวยะประไพอรไทยพระไภมี
ดูราพระองค์อรยุพีพนิดาประภาทรง
๏ ซึ่งมองเสน่ห์นิตยน้อมมนพร้อมประพันธ์ปลง
จิตมาดสวาดิ์วิมลองค์ยุวมาลย์ประทานเรียม
๏ ท่ามกลางสุราธิปนราธิปศาระทูลเทียม
เลือกเรียมและเรียกปิติก็เตรียมจิตกายถวายนาง
๏ ตราบชีวะมอดมรณหมายบ่สลายเสน่ห์หมาง
หมายออมถนอมพระนุชวางนุชไว้ณะใจตู
๏ จง:-)ระแสพจนแจงจิตแจ้งพระโฉมตรู
สรวมสุขสวัสดิ์อุบัติชูกลสัจจะวาที ฯ
๏ ปางนั้นพระองค์อรสุพรรณพระวิทรรภะนารี
ยินถ้อยพระนลนรบดีก็เกษมกมลมาน
๏ นางปลื้มพระเปรมกมลปริ่มอรอิ่มอุราบาน
สององค์ก็ทรงนมสการอมเรนทราชร ฯ
๏ เมื่อนั้นพระวาสพสุเรศรเทวะเจ็ดกร
อีกองค์วรุณวรอมรยมเรืองทิพาภา
๏ เห็นนางสอางอรวิลาสยุพราชพาลา
ทรงเลือกพระไนษธนราธิบดินทร์ก็ยินดี
๏ ต่างเทพก็อวยพรประทานนลชาญพิชัยศรี
ผาสุกสวัสดิ์วฒนะปรีดิวิเศษยโสธร
๏ เทวาธิเบนทรวิชิตสุรฤทธิ์ประสิทธิ์พร
แต่นลเนรทรบวรนรสีหะราชา
๏ หนึ่งให้พระไนษธประจักษะตระหนักพระนัยนา
เห็นเทพณะเมื่ออมรมาดลเพื่อพิธียัญ
๏ หนึ่งให้พระไนษธนรินทรปิ่นนครฃัณฑ์
เดิรงามณะสามภพฤทันยุรยาตระอาจหาญ
๏ ฝ่ายองค์หุตาศะสุรฤทธิ์ก็ประสิทธิ์ประสาทสาร
สองพรพิสิฏฐะพิสดารนลรับก็จับใจ
๏ หนึ่งแม้นพระนลพิมลทรงจิตจงประสงค์ไฟ
องค์เพลิงเถกิงกิติจะไปดุจซึ่งพระพึงหมาย
๏ หนึ่งให้อุดมนิคมรัฏฐจรัสจรูญพราย
เรืองเมืองและเรืองอคนิฉายก็วิเศษเสมอกัน
๏ ฝ่ายองค์พระกาลจิตรตระการชยะชาญสราญธรรม์
อวยพรพิมลผลอนันต์นลยินก็ยินดี
๏ หนึ่งให้พระรู้รสกระยาทิพโภชน์พิพิธมี
เอมโอษฐะโอชอุดมชีวะก็แผ้วก็แพร้วพราว
๏ หนึ่งให้สถิตย์สุขุมธรรมะอนันตะยืนยาว
เลื่องชื่อระบือคุณณะหาวและณะดินระบินธรรม
๏ ฝ่ายองค์วรุณกรุณจิตก็ประสิทธิ์ประสาทคำ
สองพรสุภัทร์อุปสดัมภ์นลตรับสดับผล
๏ หนึ่งแม้นพระนลพิมลทรงจิตจงประสงค์ชล
วารีจะมีดุจกมลนลใคร่หทัยหมาย
๏ หนึ่งเธอประทานทิพยมาลยะรสสุคนธ์ปราย
ต่งอวยสุมงคลขจายพรสิทธิ์ประสาทสาร
๏ เสร็จแล้วสุรามรเสด็จจรเตร็จอำพรชาญ
งามเทพพาหนะทยานพลผองผยองโพยม ฯ
๏ ฝ่ายเหล่ากัษตริย์วิบติในหฤทัยไผทโกรม
หมายใจจะได้นุจตระโบมก็บ่ได้พธูอร
๏ นางเลือกพระนลสิบ่มิหนำสรุซ้ำประทานพร
ต่างราชก็ต่างจนนครทิศทั่วไผทศรี ฯ
๏ เมื่อนั้นวิทรรภ์อธิบดีพรภีมะภูมี
จัดการวิวาหพระบุตรีกลในหทัยจง ฯ
๏ ฝ่ายองค์พระนลพิมลธรรมิกพรรณรายทรง
ทูลลาพระภีมะบิตุรงค์จรจากนครศรี
๏ สู่เวียงวิวัฒน์นิษธราชพิศวาสพระไภมี
ดังศักระผู้ศจิบดีธตระกองพระน้องเธอ
๏ ครองครองประชากรนิษัธก็อุบัติวิบูลย์เลอ
บำเพ็ญกุศลผลเสมอสุขแผ้วพรากร
๏ กอบกิจพิธีอศวเมธะมะเหศะกำธร
ดังองค์พระนาหษขจรกิติเกริกณะธาตรี
๏ ฝ่ายสายสมรบวรไนษธราชมเหษี
มีราชวโรรสบุตรีศุภลักษณ์วิไลยตา
๏ นามราชธิดานรบดินทรอินทะเสนา
นามราชวโรรสนราธิปดินทะเสนยง
๏ ฝ่ายองค์พระนลนฤปไนษธไอศวรรย์ทรง
ครอบครองประชากรธำรงยุติธรรม์นิรันดร ฯ
             

สรรคที่ ๖

สัททุลวิกกีฬิตฉันท์
๏ เมื่อนั้นอินทร์อคนีวรุณยมอมร ครั้งเสร็จสยุมพร
พิธี
๏ สี่เทพอวยพรแด่พระนลนรบดี ผู้ซึ่งพระไภมี
ธสรร
๏ เสร็จแล้วสี่สุรเทพธจากนครพลัน หันเตร็จระเห็จผัน
นภางค์
๏ พอพลท้าวกลิท้าวทวาปรณะกลาง แถวเถื่อนวิถีทาง
จรัล
๏ เมื่อนั้นองค์อมเรนทราธิปก็พลัน เผยภัททะอัตถ์อัน
อุดม
๏ ดูราองค์กลิทั้งทวาปรวิกรม จักสู่สถานรม
ยใด
๏ เมื่อนั้นท้าวกลิเธอก็ทูลสหสนัยน์ ฃ้าม่งจะตรงไป
วิทรรภ์
๏ หมายมั่นปั้นจิตจงประสงค์พระทมยัน ตีเลิศะลาวัณย์
วิไลย
๏ หวังออมองค์ยุวดีพระศรีสมรไว ทรรภีฉวีไร
วิลาส
๏ บัดนี้ภีมะบุตรีจะมีพิธิประกาศ หวังพาพระพาลา
ตระกอง
๏ เมื่อนั้นองค์อมรินทะยินกลิสนอง จึ่งตอบยุบลสอง
ธไกร
๏ ดูราองคืกลิจงระเห็จอำพรไคล คลาคืนผิขืนไป
ก็เปล่า
๏ มาป่านนี้และพิธีสยุมพรพระเยาว์ แล้วเสร็จและสี่เรา
จะกลับ
๏ ต่อหน้าเราจตุรางค์พระนางสิริวิทรรภสรรเสร็จประสงค์สรรพ
พิธี
๏ องค์ไนษัธสุรพลพระนลนฤบดี เปนราชสวามี
ตระกอง
๏ เมื่อนั้นองค์กลิทราบก็ปลาบกมลตรอง ตรึกกริ้วพระผิวทอง
ยุพา
๏ เอิบอาฆาตทุจริตเพราะจิตตะริศยา ดูดู๋สุดามา
นุษี
๏ กำเริบเอิบจิตหมิ่นสุรินทรบ่มี เคารพพระวัชรี
วิชัย
๏ ดูหมิ่นทั้งพระวรุณพระเพลิงพระยมไกร กำเริบลำพังใจ
บ่เกรง
๏ บังอาจเลือกภสดามนุษย์นะมิเยง อันองค์พระอินทร์เอง
บ่เลือก
๏ เลือกผัวคนอรเธอเสมอจิตกระเสือก หาทุกข์บ่ฉุกเกลือก
จะวาย
๏ ทั้งผัวเทพอรเธอเสมอจิตสลาย ทิ้งสุขบ่ฉุกหมาย
สวรรค์
๏ หยาบใหญ่หลวงบ่มิล่วงณะห้วงวิบุลทัณฑ์ แท้โทษจะถึงอัน
ตราย
๏ เมื่อนั้นองค์อมรินทร์ธยินก็อธิบายตอบถ้อยแถลงปราย
ประโยชน์
๏ ดูราองค์กลิควรบ่ด่วนประทุฐโทษ อันองค์พระนงโพธ
บ่ผิด
๏ นางเลือกผัวสุรพลพิมลนลนริศร์ เรืองบุญมนุญกิต
ติคุณ
๏ สี่เราให้อนุมัติบ่ขัดจิตพระสุน ทรีโศภนาดุลย์
ดิลก
๏ ชายเช่นไนษธอันถวัลยะอธิปก พราหมโณปถัมภก
เถกิง
๏ นางใดบ้างจะมิมาดสวาดิ์จิตประเทิง เสน่ห์ภูปะผู้เชิง
ฉลาด
๏ ใครบ้างทรงคุณธรรมประจำจิตบ่คลาด ดังองค์นิษัธนาถ
นเรศร์
๏ ทรงเมตตากรุณาอุสาหะจตุเวท อาฃยาน์ประชาเบศร์
ก็เจน
๏ ทรงสัตย์ปรีดิฤดีมหิ*ะนฤเบนทร์ แท้เที่ยงบ่เอียงเอน
ลเอียด
๏ เธอดีแล้วดุจนั้นและท่านสิจะกระเสียด เบียดบ่งและจงเกลียด
มิชอบ
๏ ใคร่แช่งผู้คุณเลิศประเสริฐจิตะระบอบ เวรต่อก็เวรตอบ
บ่ผัน
๏ คำแช่งนั้นจรปรวนและหวนดลณะมัน ผู้แช่งแสวงทัณ
ฑกรรม
๏ มันหยามอยาบผิวสาปจะตกนรกจำ รึงรุมณะหลุมดำ
ดำงน
๏ ดำรัสเสร็จสุรเตร็จระเห็จอำพรบน เพ็ญผ่องอำพนพล
อำไพ
๏ ทันใดเมื่อจตุเทวะเขจรกำไร กลีกล่าวยุบลไป
บ่หึง
๏ ดูราทวาปรผู้สหายสุหฤทพึง ช่วยข้าบ่ช้าจึง
จะชอบ
๏ ตูคิดแค้นนลแสนผิแหลนพิษประกอบ เสียบกายมิหมายตอบ
กระไร
๏ ฃ้าไซร้จักจรสู่และสิงพระนลไน ษัธราชจะคลาดไป
บ่มี
๏ เฃ้าสิงแล้วและก็ฃ้าจะพาพระนรสีห์ สู่ชั่วบ่กลั้วดี
ดำงน
๏ จักทำให้นลล้มและจมณะมหิดล เสียเมืองกระเดื่องมนท์
มลาย
๏ อันองค์ไนษธเคยเสวยสุขสบาย จักเสื่อมสลายกาย
ทุพลี
๏ เคยชื่นฉมอภิรมยะชมพระรมณี ทรามไวยพระไภมี
จะดาย
๏ คิดคงสมจิตหนาทวาปรสหาย มุ่งหวังจะดังหมาย
มิคลาด
๏ เชิญช่วยอาตมะเถิดจะเกิดผลมิพลาด เกลอสิงณะลูกบาศก์
นะเกลอ
๏ เกลอสิงอักขะและฃ้าจะสิงพระนลเธอ ห่อนช้าจะพาเธอ
ทำงน ฯ
             

สรรคที่ ๗

อินทรวงศ์ฉันท์
๏ เมื่อนั้นกลีมี วรมีกมลสมล
อาฆาตพระนลจนจิตกร้าวจะร้าวจะราน
๏ มุ่งร้ายและหมายขวัญมนมั่นจะหักจะหาญ
มาดจ้องทำนองพาลนลพลาดจะฟาดจะฟัน
๏ มั่วมิตรสนิทจิตทุจริตบ่ผิดบ่ผัน
สองเกลอเสมอกันจรสู่นิษัธสถาน
๏ มุ่งหน้าจะหาช่องจิตจ้องประหัดประหาร
สิบสองฉนำนานนลพลาดเพราะฃาดพิธี
๏ ถ่ายมูตรสำเร็จแล้วพระบ่บ้างพระบทศรี
ไป่ทันสอาดดีจรสู่ณะสันธยา
๏ ฝ่ายท้าวกลีทราบอวกาศอุจาดก็มา
สำนึงพระราชาบ่มิหึงกระลึงพระนล
๏ ดลใจพระไนษัธก็วิบัติวิกัติวิกล
เชิงเชาวน์กำเลามนท์มนช้ำระกำวิกร
๏ ครั้นองค์กลีสิงมนสมมนานุสร
จึ่งองค์ทวาบรจรตรงดำรงสกา
๏ กลีทูลพระบุษกรอรชรขจรวิชา
ผู้เปนพระภาดานลราชอำนาจมหัน
๏ ดูก่อนพระบุษกรจิตหาญชำนาญพนัน
เชิญชวนพระนลธรรมิกราชประลองสกา
๏ องค์ท่านสิชาญกลยลเล่หะเทวะนา
รู้หลักประจักษ์ปาศกะคล่องทำนองจะทำ
๏ นลไซร้มิได้รู้ผิวสู้ก็เห็นจะกรรม
ตัวท่านชำนาญชำนะนริศร์บ่ผิดกมล
๏ ศฤงคารสราญรมยะบรมบุราภินนท์
สมบัติสุภัทร์ผลพรราชมไหศวรรย์
๏ เราจักอำนวยให้ประลุท่านเพราะการพนัน
สมบัตินิษัธพลันจะวิเภทเพราะเหตุสกา
๏ สิ่งใดมิได้เหลือกลเผือแถลงกถา
ด่วนดลพระนลนายกเถิดจะเกิดสุผล ฯ
๏ เมื่อนั้นพระบุษกรบทจรนครพระนล
ท้าทูลทำนองกลกลิสอนบ่ห่อนจะแหนง
๏ ดูราพระภาดาฃติยาธิคุณแสดง
ไววีระแวงแคลงจิตหวั่นพระบารมี
๏ เชิญนลพนันบาศก์นลอาจก็อาตม์บ่หนี
ตูอักขะเทวีมนมั่นพนันจะลอง
๏ ท้าแล้วก็ท้าเล่านลเศร้าหทัยะตรอง
คลองธัมมะทำนองผิวเล่นก็เห็นบ่ดี
๏ บัดเดี๋ยวก็หันหวนจิตป่วนอำนาจกลี
ใคร่ขันพนันมีมลจิตบ่คิดจะฃาม
๏ บัดเดี๋ยวกลีดลจิตนลก็เชือนก็แช
แดหมายก็ดายแดบ่มิยั่งมิยืนมิยง
๏ บุษกรทำนูลท้าเฉภาะหน้าพระนางทนง
ไนษัธกษัตริย์ปลงจิตผันพนันสกา
๏ เสียทรัพย์บ่นับเหลือธุระเบื่อจะไตรจะตรา
ทีนาระนานานิธิเนื่องอเนกอนันต์
๏ ลูกบาศก์อุบาทว์แท้นลแพ้บ่แผกบ่ผัน
หลายคืนและหลายวันนิธิสิ้นและสินกษัย
๏ ส่ำเสวกามาตย์ก็มิอาจจะทำอะไร
จักทัดจะทานไนษธได้ก็ห่อนจะมี ฯ
๏ ปางนั้นนรากรชนชาวนิษัธบุรี
อำมาตยะมนตรีจรสู่นิเวศน์นรินทร์
๏ มั่วสุมประชุมกันจิตหวั่นเพราะภูบดินทร์
มัวมนท์บ่ยลยินกิจราชวินาศวิการ
๏ เช้าเย็นบ่เว้นว่างนลร้างเสวยสนาน
คืนค่ำมิสำราญพระบ่แนบพระนงพงา
๏ จึ่งสูตะผู้เชาวนะเฝ้าวรางคนา
ทูลองค์พระนงพาละวิทรรภะมานวี
๏ แจงแจ้งแถลงลงเล่าดุจเค้ายุบลคดี
บรรดาประชาชีจรสู่ประตูสภา
๏ เหตุเหือดหทัยที่นรเทพธทรงสกา
หวั่นองสทกทาหะถนัดวิบัติจะมี
๏ ขอเชิญพระนางองค์อรอรรคะราชินี
ทูลภูบดีพลีดุจฃ้าทำนูลพระนาง
๏ เชิญองค์ประชาเบศร์ฃติเยศร์วิไลยวรางค์
เสด็จออกณะท่ามกลางชนเฝ้าพระบทศรี ฯ
๏ เมื่อนั้นพระรามาวนิดาสุวรรณินี
องค์ทัมะยันตีจิตเจียนจะจากสกนธ์
๏ แสนโศกบ่สร่างศัลย์มนหวั่นวะว้าวะวน
ด่วนดลพระนลชลนยนาก็พร่าก็พราย
๏ เสียงสั้นรำพรรณ์ทูลจิตภูลเทวศบ่วาย
อ้าองค์พระทรงฉายกษมาปะศารทูล
๏ บัดนี้ประชาราษฎร์และอำมาตรย์จะมาทำนูล
เชิงชอบระบอบบูรพ์จิตภักดิรักพระองค์
๏ หวังเฝ้าพระเจ้าฉัตรและประณตพระบทบงสุ์
ภูมินทร์นรินทร์จงจรให้นิกรประณาม
๏ ทูลแล้วทำนูลเล่าอรเศร้าหทัยะซาม
โฉมศรีฉวีงามก็สลัวระรัวสกนธ์
๏ นลเฉยบ่เผยโอษฐ์ดุจโสตรบ่ยินยุบล
ลุ่มหลงพวงวนจิตมั่นกระดาสสกา
๏ นางทัมะยันตียุวดีก็อ่อนอุรา
มนตรีนิกรมาครกรมระบมหทัย
๏ โจษจรรสนั่นว่าพระนราธิเบนทร์กระไร
กลับกลายสลายไปดุจนี้บ่มีคนึง
๏ ฝ่ายองค์กลีดลจิตนลกระหลบกระลึง
ไนษัธวิบัติกรึงมนแน่วณะเทวนา
๏ หลายปักษะหลายมาสบ่มิคลาดกระดานสกา
หลายปักษะหลายมาสะบ่ฟื้นบ่คืนพระองค์ ฯ
             

สรรคที่ ๘

อุปชาติฉันท์
๏ พระนางศุภางคีมหิษีนิษัธทรง
รันทดบ่ปลดปลงธุระท้อทำนองการ
๏ ไนษัธบ่คืนดียุวดีฤดีดาล
ระอาอุราลาญกลศัสตระเสียบอร
๏ ระโหยระหวยหวนบ่สงวนพระองค์สมร
ยามนอนบ่เปนนอนจะเสวยก็เฉยชา
๏ ตรัสเรียกพระนมนามวฤหัตะเสนา
เฉลียวฉลาดสาระระเบียบก็เฉียบแหลม
๏ พิทักษ์สมัคสมานกลกาญจน์บ่มีแกม
ภักดีบ่โรยแรมปฏิบัติบ่โรยรา
๏ นางทัมยันตีตรัสว่า
อ้าท่านสราญสัตย์วฤหัตะเสนา
พระนลนเรนทราธิปล่มจะจมพลัน
๏ สภาจะพาพรากจรจากมไหศวรรย์
สมบัตินิษัธสันติพิบูลย์จะสูญไป
๏ เร่งเชิญวโรงการมหิบาลฉกรรจ์ไกร
ประหนึ่งพระนลไนษธสั่งบ่กังฃา
๏ ประชุมประชามาตย์มนม่งมิสงกา
แจ้งเหตุวิเภทภาระจะล่มจะแหลกลง
๏ เธอทรงสกาสิ้นนิธิสินบ่คืนคง
อมาตย์ฉลาดจงจรเฝ้านรินทร
๏ มไหศวรรย์สูญก็จะภูลเทวศถอน
เสนานรากรก็จะเดือดจะดายใจ
๏ ท่านจงกระจายเล่าธนซึ่งพระเสียไป
จำแนกจำนวนในนิธิซึ่งพระยังมี ฯ
๏ นรีฤดีมาศวรราชธาตรี
รับสั่งพระสุนทรีจรเรียกอมาตย์มา
๏ แจ้งกิจบ่ผิดซึ่งพระวิทรรภะกันยา
แถลงบ่แฝงการณะอันจะพลันเปน
๏ ตระบัดนิษัธเสวกราชอมาตย์เห็น
เหตุล้ำจะลำเค็ญก็เทวศทวีทรง
๏ รู้ราชวโรงการก็ทยานหทัยยง
เพราะเหตุพระรู้องค์พระดำรัสประชุมเรา
๏ ประดาประชามาตย์จิตคาดคนึงเดา
เหตุร้อนจะผ่อนเบาก็ละเลิงละลาญใจ
๏ กลุ่มกลุ่มประชุมชวนจรด่วนดำเนิรไป
สพรึบสพร้อมในวรราชสภาพลัน ฯ
๏ พระนางสอางมาศยลราชอมาตย์อัน
มากหน้าประดากันจรสู่สมาคม
๏ นางด่วนเสด็จดลณะพระนลนโรดม
ทำนูลยุบลกรมจิตตรองทำนองความ
๏ วะว้าวะหวั่นวอนอดิศรขจรนาม
กานดาพยายามจะสกิดหทัยนล
๏ อ้าองค์พระทรงศักดิ์ปฏิปักษ์แสยงพล
ประชาและสามนต์จรมาสมาคม
๏ พระจงเสด็จเพื่อชนชื่นนิยมชม
ยังให้นิกรสมจิตเถิดพระภูธร
๏ ทูลแล้วทำนูลเล่าอรเศร้าอุราอร
ระทดระทวยถอนจิตแทบทลายลาญ
๏ พระเฉยบ่เผยโอษฐ์ดุจโสตรบ่ยินขาน
กานดาประภาการมหิษีก็หนีจร
๏ สู่แทนผธมซบศุภพักตระเหนือหมอน
ละอายบ่คลายคลอนจิตโศกสยองภัย
๏ สกาก็พาเธอมนเผลอมะเมอไป
ใครคิดสกิดใจพระบ่ยั้งบ่ยินยล
๏ มีแต่จะแพ้บาศก์บ่มิคลาดจะสักหน
พระแพ้จะแก้ตนก็บ่ได้ประดุจแด
๏ นิษัธนรินทร์ร้อนบุษกรบ่แยแส
นลพลั้งจะรังแกกลเจตนาจง ฯ
๏ เมื่อนั้นพระไภมียุวดีกำศรดทรง
ประจักษ์วิถีองค์ภสดาถลาจร
๏ พระนางคนึงในหฤทัยก็อาวรณ์
ตรัสเรียกพระนมอรวฤหัตะเสนา
๏ อ้าท่านสราญธรรม์สติมั่นสุปัญญา
มหิประชาธบ่คืนบ่ฟื้นองค์
๏ มิไวมิได้การผิวนานจะแหลกลง
เชิญวาร์ษเณย์ยงและก็ฃ้าจะสั่งการ ฯ
๏ บัดนั้นพระนางนมกรก้มกมลมาน
ดำรัสพระนงคราญจรรีบคระไลคลา
๏ บ่รั้งบ่รอใช้ชนให้ตระบัดหา
จึ่งวาร์ษเณย์สารถิทราบพระเสาวนีย์
๏ รีบเฝ้าพระนางองค์อรราชมเหษี
พระสุนทรีมีพจนาตถะสุนทร
๏ นางทัมยันตีตรัสว่า
บุรุษวิสุทธเอยจิตเคยบ่แคลนคลอน
ภูภฤตอดิศรธก็ไว้ก็วางใจ
๏ บัดนี้สิมีเหตุจะวิเภทมหาภัย
พระนลนรินทร์ไนษธหลงพวงวน
๏ พระแพ้พนันบาศก์พระบ่คลาดกระดานกล
ยิ่งแพ้จะแก้ตนพระก็ยิ่งถลำไป
๏ ฉันใดพระบุษกรชำนำบาศก์บ่คลาดใจ
ฉนั้นพระนลไนษธแพ้บ่แปรผัน
๏ จะทัดจะทานเธอก็มะเมอกมลมันท์
ญาติวงศ์พระทางธรรมะและมิตรก็อิดแด
๏ แม้ตูมเหษีอวนีศ์บ่แยแส
จะชี้จะแนงแปรจิตไท้ก็เหลือทำ
๏ จะแก้ก็เหลือแก้ทุระแท้วิถีกรรม
เจ็บจิตจะคิดจำจิตฝ่าทุสาธัย
๏ เหลียวหน้าจะหาใครก็บ่ได้ประดุจใจ
จะพึ่งพำนักในธุระนี้บ่มีตน
๏ จำนงพินิจใจหฤทัยแสวงผล
หาผู้พิทักษ์นลนรราชชลอชู
๏ เห็นตัวก็แต่ท่านจิตหาญกระตัญญู
ระบอบระเบียบบูรพะเที่ยงหทัยตรง
๏ สกุลพระนลภูประจะรอดธำรงคง
ไป่สูญประยูรวงศ์ก็เพราะท่านชำนาญรณ
๏ จงเทียมดุรงค์รีบรถแทบวิถีพน
ดนุชธิดานลจรพาบ่ช้าที
๏ ลุแทบวิทรรภ์ทูลณะพระภีมะภูมี
ฝากราชกุมารีและกุมารสราญองค์
๏ ฝากทั้งดุรคราชรถมาศมณีรง
สำเร็จประสงค์จงจรโดยจะปราถนา ฯ
๏ พระนางสอางวรรณวจสรรจำนรรจา
จึ่งวาร์ษเณย์สารถิแจ้งวิจารณ์จง
๏ ทูลลาพระรามาจรรีบคระไลตรง
ประชุมอมาตย์ยงณมหาสภาปอง
๏ ตริตรึกและปฤกษากิจว่าพระผิวทอง
มาดม่งจะส่งสองยุพพ้นพระนลจร
๏ เห็นชอบระบอบพร้อมชนน้อมถวายกร
ประชาอุราวรณ์จิตกรมระทมเกรียม
๏ บ่รั้งบ่รอสารถิจัดตระบัดเตรียม
บรรจงดุรงค์เทียมรถรีบคระไลคลา
๏ เชิญราชดนัยราชดนยายุพาภา
พระอินทะเสนาและพระอินทะเสนทรง
๏ ลุราชนครกุณฑินบุญอดุลย์ยง
ถ่องทูลยุบลองค์พระวิทรรภ์บดีศรี
๏ มององค์กุมารราชและพระราชกุมารี
พระภีมะภูมีก็ตระหนกหทัยปอง
๏ ถนอมและกล่อมเกลี้ยงทนุเลี้ยงพระหลานสอง
สองเยาวะลำยองก็เจริญจรูญเรือง ฯ
๏ ฝ่ายวาร์ษเณย์ไข้จิตอยู่มิรู้เปลือง
รำพึงคนึงเคืองอุระฃุ่นระคายคลอน
๏ อำลาวิทรรภ์ราชจรโดยพนาดร
ถึงถิ่นนรินทรฤตุบรรณะราชา
๏ เธอครองนรากรณะนครอโยธยา
บำรุงประชาปรากฏเดชอดุลย์ยง
๏ ระบือระบินบุณยะพระคุณขจรองค์
จึ่งวาร์ษเณย์จงจิตพึ่งพระบารี
๏ เฃ้าเฝ้าถวายตัวฤตุบรรณะเรืองศรี
พระภูบดีปรีดิก็เลี้ยงบำรุงเฃา ฯ
             

สรรคที่ ๙

วสันตติลกฉันท์
๏ ปานนั้นพระนลพิมลฤทธิ์พิปริตเลมอเมา
บ่มบ้าสกากลกำเลาบ่มิฟื้นมิฝืนองค์
๏ มึนมนท์กมลทุมลมัวมนมั่วอมิตรยง
หลงลมนิยมประยุรวงศ์บุษกรกระฉ่อนเชาวน์
๏ เหลิงเล่นบ่เห็นภยพิบัติดุจศัสตระเสียบเอา
เซซุดประดุจดรุนเยาว์ผิวเสียบ่เสียดาย
๏ ไอสูรย์พิสิฏฐิพิพิธภัณฑสุวรรณะโพรงพราย
โภคพัตถุ์สุวัสตรกระจายจรเฝื่อบ่เหลือหลอ
๏ คลังใหญ่และน้อยผิวจะนับธนทรัพย์บ่เพียงพอ
มาตยค์ตุรงค์รถลออนิธิสินก็สิ้นเชิง ฯ
๏ เมื่อนั้นพระบุษกรกษัตริย์ชำนะฉัตรก็บรรเทิง
ไอสูรย์วิบูลย์กิติเถกิงอภิศักดิรังสรรค์
๏ แย้มยิ้มพะพริ้มพจเฉลยนลเอ๋ยบ่เปนอัน
เหมรัตน์สุวัตถุจะพนันนิธิผองก็ฃองตู
๏ เหลืออยู่ก็แต่พระสุภคาพนิดาพบูตรู
เอกรัตน์พระฃัตติยพธูวรราชมเหษี
๏ มาเราจะทอดทิวะพนันพระวิทรรภะนารี
ใครดีจะได้พระรมณีนลจงบ่สงกา ฯ
๏ เมื่อนั้นพระนลกมลเศร้าจิตเฉาพระปัญญา
อ้ำอึ้งตลิงนยนะวาทะวิวาทบ่ออาจแสดง
๏ นิ่งจ้องทำนองมนุชไบ้อุระไข้คนึงแหนง
มาตรว่าศราวุธสำแลงพิษเหน็บบ่เจ็บปาน
๏ ยินคำพระบุษกรดำรัสนลอัดอุราลาญ
แสบแสนจะทนกมลมาลย์จะเลอียดเพราะเสียดแทง
๏ ปลดเปลื้องพระภูษณะพิพิธวิรจิตะพึงแสวง
อาภรณ์ดิลกกนกแสงมณิฉายกระจายเงา
๏ เหมพัตถะรัตนะวิสิฏฐ์ชวลิตพรายเพราะ
อัมพรหิรญพิมลเกาศิกเลื่อมละลานตา
๏ ทุกอย่างพระวางณะคฤหดลและพระนลบ่เจรจา
เหลือผ้าจะพันพระวรกายะก็แทบบ่มิดองค์
๏ ออกจากพระมนทิรเสทินมนเมินดำเนิรตรง
พักตรก้มระทมอุระธำรงทุขแทบจะจาบัลย์
๏ นวลนางพระราชสุพรตาสุภคาชวาวรรณ
ได้ผ้าสพักสริระพลันจรรีบคระไลตาม
๏ สององค์ธทรงมยุรยาตรณะตลาดถนนงาม
นอนนั่งณะร่มนิคมคามดุจไพร่ดำเนิรดิน ฯ
๏ บัดนั้นประชานิกรรู้คุณผู้สวามินทร์
นาครก็ถอนหทยจินตะระทดระทวยทวี
๏ ภักดีพระนลนฤปราชและพระราชมเหษี
เอื้อเฟื้อเพราะเพื่อกรุณมีจิตโอบอำรุงภาร
๏ เลี้ยงดูพระภูธรบ่แคลนชนแสนจะสงสาร
สามวันพระบุษกรสราญยศรู้ก็ขู่เขา
๏ ป่าวในนครนิกรชนผิวนลเสด็จเนา
หนไหนและใครกรุณเอาธุระแวดถวายบาย
๏ ไป่เกรงพระบุษกรพิโรธก็และโทษจะถึงตาย
ทวยราษฎร์ตระหนกจิตก็วายธุระเอื้ออำรุงนล
๏ สิ้นที่พำนักพระนลหมองและพระน้องก็หม่นมน
สองจากนครจรณะพนนิทระนอกกำแพงเมือง
๏ อาหารก็จนพลก็ไร้อุระไข้ระคายเคือง
มันเผือกบ่เลือกรสประเทืองชิวะแทบทลายลาญ
๏ โหยหิววะหวิวหทัยเวียนและพระเศียรก็ซมซาน
โซมซุดประดุจทุพลพาลอุระเอ๋ยบ่เคยซาม
๏ หลายวันพระดั้นทุรดำเนิรนุชเดิรผจงตาม
วันหนึ่งประสบสกุณงามนลใกล้ก็ไป่หนี
๏ ไนษัธคนึงหทยนายกว่าปตัตรี
มากหมู่และอยู่ณะปถพีบ่ตระหนกหทัยบิน
๏ เนื้อนกก็โภชนะพิเศษผิวเจตนากิน
จับได้จะโดยกมลจินต์รสทิพโอชา
๏ เผือกมันและสรรพะผลไม้ก็มิได้กระหายหา
ตราบวาระลาภและบุญมาจรสบสสกุณพี
๏ จำเราจะจับทวิชหมายมุทุชีพพาชี
แล้วเราจะเผาณะอคนีบ่มิหึงจะถึงใจ
๏ หนึ่งขนหิรญก็กลทรัพยะจะนับอเนกนัย
คิดกินและคิดนิธิอุไรก็กระหายบ่หายจง
๏ ตรึกพลางพระเปลื้องวสนะซึ่งนลทรงสพักองค์
คลี่คลุมจะกุมคณะพิหงค์และพิหกก็เหิรบน
๏ ปางนั้นนริศร์ก็พิศวงเพราะพิหงคะทรงพล
พาผ้าระเห็จอำพรจนพระจะไล่บ่ได้คืน
๏ ไนษัธก็ทรงปริวิตกผิวนกกำลังยืน
เหลือร้ายลอายกมลกลืนทุขเที่ยงทิคัมพร
๏ ปางนั้นพิหคกนกแกล้งจิตแสร้างจำแลงหลอน
ถาบถาชล่าอำพรจรพจนาดถ์ทำนูลนล
๏ ดูราพระนลพิมลศักดิ์ปรปักษ์สยองพล
นี่หรือระบือกิติถกลวิทยานชำนาญเชาวน์
๏ รู้เท่าศกุนตะก็บ่รู้ดุจผู้กำเลาเมา
มัวโมหะม่นกมลเราจรล่อก็หลงกล
๏ เรานี้มิใช่สกุณดอกและจะบอกยุบลนล
เราคือสกาจรผจญนลไว้บ่ให้เกษม
๏ อันเราสกาสกุณไซร้จะมิให้พระนลเปรม
แม้ผ้าจะพันสริระเอมอุระได้มิให้มี
๏ พูดพลางสกาศกุนิผันจรหันระเห็จหนี
ปานนั้นพระนลนฤบดีก็ระทดระทวยใจ
๏ พลางทูลผอูนอรสอางนุชนางวิไลยไร
เทวีพระศรีสมรไวทรภีฉวีกาญจน์
๏ อ้าองค์พระนุชบุศยะรัตน์กุลฃัติย์มหาศาล
อันอักขะจ้องจรประหารดุจนี้ก็มีกรรม
๏ ตูเพลินสกาวิกลจิตวิปริตเลมอมำ
สมบัตินิษัธวิบติจำจิตจากนครหลวง
๏ ไป่เคยวิบากดลวิบากจรลากพระเพ็ญยวง
สู่ป่าและพาสมรดวงจิตจากประยูรวงศ์
๏ อาหารก็อดบถก็ร้อนบทจรณะดอนดง
หมดรู้จะสู้จรดำรงอิหโลกไฉนใด
๏ ตูแสนจะโศกจิตกำศรดอปยศแสยงใจ
นานัปปการวิกลไภยะจะจู่จะสู่นาง
๏ โฉมตรูก็คู่ชนมพี่ยุวดีจะหม่นหมาง
ฟังพี่จะชี้สถลทางนุชจงประจงจำ
๏ ในทักษิณาปถสถลผิวด้นดำเนิรสำ
เหนียกจิตบ่ผิดทิศจะนำจรกรุงอวันตี
๏ นงพาลผิผ่านนครพ้นก็จะดลศิขรีศรี
นามฤกษะวัตคิริมหิธรเงื้อมโชงกเงา
๏ ทางนั้นก็บรรพตพิศาลพิสดารตระการเพรา
วินธัยศิขรจรลำเนาบถฝ่าพนาลี
๏ ถัดนั้นนทีรยะชลาลยะชื่อปโยษณี
ไหลตรงและลงสมุทมีชลควั่งผะผังจร
๏ มันเผือกจะเลือกรสนิยมก็จะสมอุราอร
อาศรมอุดมมุนินิกรตบะกล้าวิชาชาญ
๏ ใครใครจะใคร่จรจรัลณะวิทรรภะปราการ
มุ่งหน้าณะมารคะประมาณทิศนั้นจะพลันดล
๏ ใครใครจะใคร่จรประเวศณะประเทศโกศล
มุ่งหน้าณะมารคะสถลทิศนั้นจะพลันถึง
๏ ต่อไปก็ทางจรณะทักษิณเทศสำนึง
เนืองนรนครศิขรพึงพิศชมนิยมใจ
๏ ตรัสแล้วพระไนษธมหิปติชี้นครไกล
ชี้แล้วพระนลนฤปไนษธตรัสทำนูลนาง
๏ ตรัสเสร็จพระซ้ำพจนตรัสและพระหัตถ์ก็ชี้ทาง
นวลน้องก็ข้องอุระระคางมนข้นคนึงใจ
๏ รู้เท่าพระราชวรติยากลยาณิตรึกไตร
เห็นท่าทำนองนฤปไนษธเที่ยงจะเลี่ยงทาง
๏ ชี้ทิศวิทรรภ์นครไท้ก็จะให้พระน้องนาง
สู่ภีมะผู้ชนกพลางนลแยกวิถีไป
๏ คิดพลางพระนางนุชประนมกรก้มทำนูลไท
ฃ้าแต่พระผู้สุรวิชัยนฤเบนทรภูบาล
๏ เศรียรตูจะแตกอุระจะแยกจิตแหลกทำลายลาญ
ยิ่งตรองก็หมองพระพจมานนรเทพวาที
๏ บัดนี้มหิกษิตร้สุขในพนาลี
ราชัยะไอศวรศรีธนทรัพย์ก็ยังเยิน
๏ แม้ผ้าจะพันวรกษัตริย์ก็อุบัติโพยงเหิร
คราวขัดวิวัสตรดำเนิรดุจยาจนกนร
๏ ฃ้าผู้พธูจะจรจากนลโดยพนาดร
ทิ้งนายกาธิปบวรบทได้ไฉนเธอ
๏ เธอมีกมลกลจะไหม้หฤทัยมะมัวเมอ
ฃ้าอยู่จะสู้จรบำเรอปฏิบัตินรินทร
๏ คราวทุกขะแทบทุระสถลจรหนวนัชจร
ฤาเมื่อภยามยะวิกรพิษพาดทุพลเพลีย
๏ ยาใดผิไภษชประเสริฐก็บ่เลิศเสมอเมีย
ชุ่มชื่นระรื่นกมลเคลียภสดาพยาบาล
๏ ผู้รู้และผู้ภิษชพร้อมพจย่อมจะกล่าวฃาน
ดั่งฃ้าทำนูลพระบทมาลย์พระก็แจ้งประจักษ์ใจ
๏ ฉันนี้ไฉนพระกษมาธิปศารทูลไกร
จักชี้วิถีสถลในพนพฤกษะไพศาล
๏ ฃ้าฤาจะจากพระนลไปดุจไร้เสน่ห์นาน
แม้นมาตรมิเมื้อมรณะปราณก็มิจากพระองค์จร ฯ
พระนลตรัสว่า
๏ ดูรายุพาพรสวัสดิ์พระสุมัธยมาอร
จริงเจียวเฉลียววจสมรชนพลันจะสรรเสริญ
๏ ผู้ไข้จะได้ภิษชฟ้าผิวยาจะหาวเหิร
โอสถบ่ปลดวิกรเกินภริยามนาทร
๏ อันอาตม์สวาดิ์วรพธูนุชผู้มโนหร
มุ่งรักสมัคมิตรสมรจะเสมอบ่ห่อนมี
๏ นางอางขนางขณะวิบากจรจากบุรีศรี
เกรงพี่จะหนีพระยุวดีสละทิ้งพระมิ่งเมือง
๏ นางเอยเฉลยพจนเล่านุชเจ้าระคายเคือง
ขุ่นข้นระคนกมลเปลืองดุจนั้นเพราะฉันใด
๏ ตูมาดบ่คลาดสมรมิตรกลจิตบ่จากไป
แม้นกรรมและจำจะสละใครสละอาตมะก่อนอร ฯ
นางทัมยันตีตรัสว่า
๏ อ้าองค์พระทรงสตยจิตอวนิศร์นรินทร
แม้นมาดมิมุ่งกมลจตสละน้องณะกลางไพร
๏ ตั้งจิตบ่ผิดพจนกี้ก็พระชี้วิทรรภ์ไย
นึกนึกก็หนักหทยในนยะที่พระชี้ทาง
๏ น้องนี้ก็ทราบสนิทจิตพระบ่คิดจะอางขนาง
ลำพังพระนลพิมลวางจิตได้จะไม่เปน
๏ แต่นี่กลีจรดำรงณะพระองคะขุ่นเข็ญ
ยังให้นริศร์จิตลำเค็ญมนมุ่นมะเมอเผลอ
๏ ชี้ทิศวิทรรภ์บถแถลงระบุแหล่งศิขรเฌอ
ใจตูก็รู้หทัยเธอนลผู้สวามี
๏ แม้ว่านราธิปประสงคะจะส่งมเหษี
ฃ้าบาทพระราชสหจรีจรทิศวิทรรภ์ตรง
๏ ให้ไปนครบิดาอาตมะฃ้าก็ตกลง
แต่ฃ้าจะเชิญพระนลทรงยศด้วยสำรวยใจ
๏ มาเถิดพระผู้หฤทเยศณะประเทศสถานไกล
มาเราจะเต้าสถลไปณะวิทรรภะทางหลวง
๏ ห่อนหึงจะถึงนครกุณฑินบุญมนุญปวง
องค์ภีมะผู้บิดรทรวงก็จะปลื้มกมลเปรม
๏ ยับยั้งณะวังวรวิศาลบริหารหทัยเหม
ภูมีพระภีมะจะเกษมสุขศานติสมานมน ฯ
             

สรรคที่ ๑๐

มานวกฉันท์
พระนลตรัสว่า
๏ ดูกรนุชบุศยะรัตน์
พงศะกษัตริย์ภัทระถกล
๏ พี่จะมิไปในพนสณฑ์
ทิ้งนิรมลเอ้วรองค์
๏ อันพระบุรีภีมะนรินทร์
ผู้ปถพินทร์ยินยศยง
๏ ยิ่งปุรแมนแสนสุขทรง
สิทธิประสงค์ศักดิ์ดุจสูรย์
๏ อาตมะไซร้ไข้จิตกรม
เดิมก็อุดมสมบติบูรณ์
๏ มาตระจะเทียบเปรียบยศปูน
ทรัพยะอดูลย์ภูลนิธินอง
๏ ศักดิ์ก็เสมอเลอยศปาน
ทรัพยะตระการกาญจนะกอง
๏ เพียบบริพารหาญพลผอง
ครอบปุรครองรัฎฐะนิกร
๏ ปรัตยุบันอันยศลี้
จักจรลีภีมะนคร
๏ พักตระจะก้มกรมอุระถอน
เหตุบทจรเฉกชนซาม
๏ เคยรถล้อมห้อมจรดล
เกลื่อนคชพลกล่นหยะงาม
๏ พรึบพยุห์เทียบเพียบพลหลาม
สมกิติทรามไวยะยุพา
๏ อาตมะไม่ไปเพราะจะฃาย
หน้าอรฉายโฉมสุภคา
๏ เฃาก็จะหัวผัวพระธิดา
เดินดุจยาจกจรดิน ฯ
๏ ไนษฑฃัติย์ตรัสดุจนี้
ว่าจะบ่หนีศรีอรพินทร์
๏ องค์สุภคามานะก็ยิน
ดีและถวิลเบาอุระลง
๏ องค์นลจรอรจรตาม
นวลนุชทรามไวยะระหง
๏ วัสตรครึ่งซึ่งนุชทรง
ปิดวรองค์แทบจะบ่มิด
๏ เหตุนรนาถชาตินรสีห์
ผ้าพระบ่มีปกปุรปิด
๏ จึ่งอรรัตน์ฃัติยะกนิษฐ์
วัสตรติดองค์ก็ถวาย
๏ แด่นลครึ่งซึ่งนลทรง
ครึ่งยุพยงพันวรกาย
๏ อำพรเดียวเที่ยวทุรทาย
อัดอุระอายจำจิตจร
๏ ไนษธเหนื่อยเมื่อยวรองค์
นวลนุชทรงเสียงดุจศร
๏ บาทะระบมกรมอุระอร
กายะสมรสุดจะธำรง
๏ ไหนจะกระหายสายชลแห้ง
ในพนแล้งชีพจะบ่คง
๏ หิวฤก็หิวหวิวจิตจง
ภักษะประสงค์เหลือจรหา
๏ วาสรหนึ่งถึงณะกระหม่อม
อันธุลิห้อมริมมรคา
๏ จึ่งนรนาถราชภริยา
สู่ณะสภาพักวรกาย
๏ เหนือปถพีศรีนิษธา
ธิปและพระวามาก็ระคาย
๏ ดินบ่มินุ่มรุมอุระคาย
นั่งบ่สบายนอนบ่เสบย
๏ จิตตะละเหี่ยเปลี้ยวรองค์
นวลนุชนงเยาวะบ่เคย
๏ เคยปจถรณ์อ่อนอุระเกย
นุ่มประเขนยแนบสิระนาง
๏ ผัวธก็เพลียเมียธก็อ่อน
สองธก็ผ่อนพักสริรางค์
๏ แสนจะอนาถดาดรชกลาง
ดินธก็วางกายนิทระเนา
๏ นางและพระนลดลคุรุกรรม
เหตุกลิทำทุกขะบ่เบา
๏ นิทระณะทับหลับดุจเมา
ทั้งนุชเยาว์ทั้งนลยง
๏ ครั้งพระสตีภีมะธิดา
องค์อพลาอ่อนจิตทรง
๏ นิทระสนิทอิศระองค์
นลธจำนงในหฤทัย
๏ เหตุพระระแวงแหนงมนะนึก
ตรงจิตตรึกควรฤไฉน
๏ จักจรลีหนีนุชใน
แนวพนไพรพฤกษะพิศาล
๏ จึ่งนลฟื้นตื่นบ่มิหึง
พิศนุชพึงเดือดอุระดาล
๏ โอ้อรเอยเคยสุขศานติ์
มิตระสมานมาลยะสมร
๏ หนียุวดีดีฤบ่จร
โอ้อุระอาตม์มาตระศิขร
๏ ทุ่มอุระถอนชีพก็บ่แหยง
อันพระยุพายาจิตพี่
๏ มิ่งมิตระมีใจบ่ระแวง
มุ่งจะบ่คลาดมาดจะบ่แหนง
๏ ภักดิบ่แคลงสัจจะบ่คลอน
ตูจรด้นหนทุรใด
๏ นางก็จะไปเจ็บก็จะจร
ทุกข์ก็บ่บ่นหม่นมนะอร
๏ น้ำฤศิขรขวางก็บ่เยง
แม้นนุชเดียวเปลี่ยวจิตกลาง
๏ พงพนพลางนางก็จะเกรง
เปล่าจิตเฃ้าเจ้าจรเอง
๏ สู่สุขเพรงรัฎฐะวิทรรภ์
แม้นสละนางกลางวนอา
๏ รัณยะพระลาวัณยะสุวรรณ์
คงจรดลด้นบทมรร
๏ คาณะวิทรรภ์ภีมะบิดร
นางนะเกษมเปรมหฤทัย
๏ แผ้วนิรภัยในพระนคร
อาตมะเดียวเที่ยวบทจร
๏ ซอกพนซอนห่วงก็บ่มี
อันยุพยงพงศ์จกระพรรดิ
๏ เกษะกษัตริย์สัจจะธนี
สัตยะย่อมห้อมยุวดี
๏ ดั่งกวจีภัยะบ่พาน
ไนษธคิดผิดดุจนี้
๏ เหตุกลีมีวรหาญ
ดลจิตเธอเมอมลมาน
๏ ตรึกก็วิการตรองก็วิกล
จักจรลี้หนีนุชน้อง
๏ คิดก็บ่คล่องข้องจิตจน
เหตุเพราะผ้าวาสะสมล
๏ องค์สุรพลเธอก็บ่มี
สองวรฃัติย์วัสตรเดียว
๏ จักจรเดี่ยวเหลือจรลี
ผ้าผิจะแบ่งแย่งยุวดี
๏ เกรงพระสตีตื่นนิทระเนา
ไนษธตรองข้องอุระขัด
๏ มาตระจะตัดวัสตรเยาว์
ใหนุชครึ่งครึ่งนลเอา
๏ ยากบ่มิเบามีดก็บ่มี
องค์นลเดียวเที่ยวจรดล
๏ จองจิตด้นค้นกษุรี
จำเพาะเพอินเดิรจรลี
๏ ในพนพีพลฉุริกา
สมดุจหวังดังจิตไท้
๏ เธอจรไปใกล้สุภคา
จึ่งนลตัดวัสตร์วนิดา
๏ องค์กลยาณิ์แน่วนิทระเนา
แล้วนลพลันพันวรองค์
๏ รีบจรจงจากอรเยาว์
หน่ายพระยุพีหนีพระลำเภา
๏ บ่ายบทเบาเฃ้าพนไป
หันมนหน่วงห่วงมหิษี
๏ หวนจะบ่หนีศรีสุวิไลย
กลับจรมาหาอรไทย
๏ พักตระประไพพิศนุชพลาง
โอ้ภริยาอาตมะเอย
๏ ทุกขะบ่เคยเกยสริรางค์
ลมบ่ระคายกายนุชนาง
๏ แดดบ่ระคางกายนุชนวล
เคยศยนีย์ศรีสุขแผ้ว
๏ พัสตรแพร้วเพราพิตบวรณื
กรรมจรแปรแก้จนปรวน
๏ โทษะคำณวนทุกขะคำณูน
โอ้อรเยาว์เพราะพิศวาส
๏ มิตรกลมาศภาสจรูญ
เคยสุขสันต์หรรษะพิบูลย์
๏ พร้อมพระประยูรภูลบริจาร์
โอ้นุชนางพางนยนา
๏ พี่พิศหน้าน่ากรุณา
องค์อรอ่อนนอนณะสภา
๏ แทบพสุธาเจียนจะประลัย
อำพรครึ่งซึ่งนุชทรง
๏ พันวรองค์มิดฤไฉน
โอ้รมณีพี่จรไป
๏ เมื่อนุชตื่นฟื้นนิทระนาน
เพ่งบ่มิพานพักตระพระนล
๏ นางก็จะร่ำคร่ำจิตจน
จักจรหนใดก็บ่เห็น
๏ เดียวจรด้นหนทุรกัน
ดารณะอรัญอันคุรุเข็ญ
๏ หมีมิคโคโฆระลำเค็ญ
พักตร์กลเพ็ญจันทร์ก็จะหมอง
๏ นวลก็จะเศร้าเจ้าก็จะโศก
ยามวิประโยคโรคก็จะครอง
๏ โอ้พระปิยาอาดุรปอง
ผิวกลทองหมองสิริครวญ
๏ อ้าอชรินทร์จินตะประจักษ์
ภักดิพิทักษ์รักษะสงวน
๏ กอบกิจเอื้อเกื้อกิจนวล
โรคะบ่กวนภัยะบ่มี
๏ เชิญอศวินอินทรอา
ทิจจะมหาวายุพลี
๏ อีกรุทระยงองค์วสุศรี
รักษ์ยุวดีภีมะธิดา
๏ อันยุพยงทรงคุณธรรม
สัจจะประจำจิตพระศุภา
๏ สัจจะประเสริฐเลิศพสุธา
ดั่งสุรอาวุธพลวาน
๏ ย่อมจะสงวนนวลนุชนาง
ภัยะณะกลางพนบ่มิพาน
๏ องค์อรจงทรงพระสราญ
สู่ณะสถานราชบิตุรงค์ ฯ
๏ ฝ่ายกลิอิงสิงจิตนล
เธอก็วิกลมนทะจำนง
๏ แหนงมหิษีหนียุพยง
จิตนลจงจักจรลี
๏ หันมนะหักจักจรไป
หวนมนะไม่ไกลยุวดี
๏ เหจิตหวนป่วนจิตมี
ทุกขะทวีแทบจะประลัย
๏ ครั้งกลิดลนลธก็เผลอ
มุ่นมนะเมอเธอจรไกล
๏ ดุ่มบถด่วนซวนบทไป
ทิ้งอรไทยหลับณะสภา ฯ
             

สรรคที่ ๑๑

             

สรรคที่ ๑๒

             

สรรคที่ ๑๓

             

สรรคที่ ๑๔

             

สรรคที่ ๑๕

             

สรรคที่ ๑๖

             

สรรคที่ ๑๗

             

สรรคที่ ๑๘

             

สรรคที่ ๑๙

             

สรรคที่ ๒๐

             

สรรคที่ ๒๑

             

สรรคที่ ๒๒

             

สรรคที่ ๒๓

             

สรรคที่ ๒๔

             

สรรคที่ ๒๕

             

เชิงอรรถ

อ้างอิง

ศาลานกน้อย

เครื่องมือส่วนตัว