พระนลคำฉันท์

จาก ตู้หนังสือเรือนไทย

(ความแตกต่างระหว่างรุ่นปรับปรุง)
ข้ามไปที่: นำทาง, สืบค้น
(สรรคที่ ๑)
(สรรคที่ ๒)
แถว 275: แถว 275:
====สรรคที่ ๒====
====สรรคที่ ๒====
<tpoem>
<tpoem>
-
+
<sup>อินทรวงศ์ฉันท์</sup>
 +
เมื่อนั้นพระไภมี  ยุวดีกำดัดฤดี
 +
คำนึงพระนลมี  นยะหงส์พิหงคะทูล
 +
 
 +
๏ หมองหมายบ่วายว่าง  สุขนางก็ส่างก็สูญ
 +
อาดูรอดูลย์ภูล  พิศวาสบ่คลาดบ่คลาย
 +
 
 +
๏ ยามนิทร์บ่นิทร์เนา  นิทระเศร้าทุรนทุราย
 +
ร้อนรนสกลกาย  บ่มิเหือดก็เดือดกมล
 +
 
 +
๏ โภชน์ตั้งก็นั่งเฉย  บ่เสวยกระยาสุคนธ์
 +
กลุ้มกลัดสบัดตน  อุระเข็ญลำเค็ญรำคาญ
 +
 
 +
๏ พักตร์พิมพะพริ้มเพรา  พิศเศร้าบ่เบิกบ่บาน
 +
ขุ่นข้นกมลมาลย์  มลหมางระคางระคาย
 +
 
 +
๏ เคยสรวลบ่สรวลสันต์  จิตซั้นระส่ำระสาย
 +
แค้นคิดระคายหมาย  มนแล้วก็แคล้วก็คลา
 +
 
 +
๏ เคยมีฉวีฉ่อง  สิริผ่องประไพประภา
 +
บัดนี้ฉวีวา  มก็หมองบ่รองบ่เรือง
 +
 
 +
๏ เผลอ ๆ มะเมอมน  จิตจนก็ข่นก็เคือง
 +
ผิวพักตร์ก็ชักเหลือง  วรรูปก็ซูปก็ผอม
 +
 
 +
๏ บัดนั้นพระพี่เลี้ยง  ทนุเคียงยุพาถนอม
 +
เห็นราชธิดาตรอม  จิตหม่นกระวนกระวาย
 +
 
 +
๏ หนักใจก็ไปเฝ้า  ณะพระเจ้าวิทรรภะฉาย
 +
ทูลว่าธิดาสาย  จิตไท้มิใครเสบย
 +
 
 +
๏ เมื่อนั้นพระจอมธรร  มะวิทรรภะฟังเฉลย
 +
ห่อนรู้ระหัสเผย  ธก็ร้อนอุราสลาย
 +
 
 +
๏ ลูกกรูก็ชีพกรู  จิตกรูบ่รู้สบาย
 +
ใจกรูบ่ดูดาย  อุระเดือดบ่เหือดทำงน
 +
 
 +
๏ หนักในหทัยท้าว  อุระร้าวบ่รู้จะทน
 +
จึ่งองค์พระทรงพล  ก็ละห้อยละเหี่ยหทัย
 +
 
 +
๏ รำลึกพระชนมา  ยุยุพาประภาพิไลย
 +
นงเยาว์ลำเภาไว  ยะก็รุ่นเจริญจรูญ
 +
 
 +
๏ สมควรสยุมพร  อรชรพิธีพิทูร
 +
สมศักดิ์สมบูรณ์  วรเกียรติ์ขจายขจร
 +
 
 +
๏ ตรึกเสร็จก็ตรัสสั่ง  กิจดังมนานุสร
 +
เสนาพลากร  สุมนัสก็จัดก็ปัน
 +
 
 +
๏ ส่งข่าวและป่าวทั่ว  นคเรศเฃตตะฃัณฑ์
 +
ทุกรัฐกษัตริย์อัน  จิตหวังพระอังคนา
 +
 
 +
๏ ทราบข่าวสยุมพร  อรไทยประไพประภา
 +
เสียวศัลย์กระสันหา  กลยาณิ์ประภาประไพ
 +
 
 +
๏ ต่างองค์ทนงฤทธิ์  มนคิดจะสมสมัย
 +
ต่างองค์ทนงใจ  จรหมายจะได้สมร
 +
 
 +
๏ ร้อนรักตะหนักมาด  พิศวาสพระนางบวร
 +
เวียนหวังพระบังอร  อุระเต้นบ่เว้นทิวา
 +
 
 +
๏ ไฝ่ถึงยุพาภี  มะลุตรีสุโลจนา
 +
ฝันถึงยุพาภา  ดรุณีพระภีมะพงศ์
 +
 
 +
๏ ต่างเตรียมพลากร  อภิฤทธิเรืองณรงค์
 +
เนืองแน่นณะแดนดง  จรโดยวิทรรภ์วิถี
 +
 
 +
๏ ถั่นถึงนครรัตน์  ก็กษัตร์สุภัทร์พลี
 +
เฝ้าภีมะราชภี  มะก็รับก็เลี้ยงก็ดู ฯ
 +
 
 +
 
 +
๏ เมื่อนั้นมุนีนา  ทรญาณวิธานวิทู
 +
เชี่ยวณานวิศาลบู  รณะก่องเถกิงถกล
 +
 
 +
๏ อีกทั้งมุนีบรร  พตอันวิชาวิมล
 +
สองเหิรระเห็จหน  จรโดยอำพรพิถี
 +
 
 +
๏ ถั่นถึงสวรรค์เวียง  อมราวะดีมณี
 +
จึ่งสองพระโยคี  จรไปณะไวชยันต์
 +
 
 +
๏ เฝ้าองค์พระวาสพ  อมเรนทร์วฤตระหัน
 +
สมเด็จพระจอมสวรรค์ ก็คำรพไชมมุนี
 +
 
 +
๏ ถามทุกข์แลสุขใน  ภพโลกมนุษยะมี
 +
เจริญจรูญพิบูลย์ปรี  ดิสวัสดิ์ฤาฤษี
 +
 
 +
๏ จึ่งสองมุนีน้อม  มนทูลทิวัสบดี
 +
ในโลกมนุษย์มี  สุขเปรมเกษมกมล
 +
 
 +
๏ บรรดาพระราชา  ฃติยาธิเกียรติ์ถกล
 +
ทุกที่มหรีดล  ก็สวัสดิ์พิพัฒน์ประพันธ์
 +
 
 +
๏ เมื่อนั้นสุราธิป  ทิพราชมไหศวรรย์
 +
ฟังทูลพระทรงธรร  มะก็ปริ่มหทัยะปรีดิ์
 +
 
 +
๏ ตรัสถามพระนักสิท  ธมหิทธิเวททวี
 +
ดูราพระโยคี  พรตผู้พิสุทธพิสัย
 +
 
 +
๏ อันเหล่าพระราชา  ธิกษัตริย์วิวัฒน์วิชัย
 +
ครองเวียงกำเรียงไกร อภิชิตมหิทธิ์มหัน
 +
 
 +
๏ ต่างองคะต่างทรง  สุรภาพอเนกอนันต์
 +
ทุกองค์ทรงธรรม์  สุจริตวิสิฏฐ์วิศาล
 +
 
 +
๏ ต่างองคะหายพักตร์ บ่มิยาตรณะคัคะณานต์
 +
ตูห่อนจะพบพาน  ภพนาถนรินทะใด
 +
 
 +
๏ เหตุใดกษัตรา  ธิกอานุภาพะไกร
 +
จึ่งหายพระพักตร์ไป บ่มิสู่สวรรคะเลย
 +
 
 +
๏ เมื่อนั้นพระนารท  พจพร้อมฉลองเฉลย
 +
อันซึ่งกษัตริย์เคย  จรชั้นสวรรค์ก็หาย
 +
 
 +
๏ ด้วยเหตุสยุมพร  อรชรสุพรรณราย
 +
กานดายุพาสาย  จิตภีมะวีระวงศ์
 +
 
 +
๏ ทุกเทศเกษตรรัฏ  ฐกษัตริย์ก็เตร็จก็ตรง
 +
สู่เวียงวิทรรภ์จง  มนมุ่งวิมลสุมาลย์
 +
 
 +
๏ เหตุนี้บ่มีใคร  จรเฝ้าพระมัฆะพาน
 +
สมเด็จมรุตวาน  ธตระหนักหทัยเทอญ ฯ
 +
 
 +
 
 +
๏ เมื่อนั้นพระโลกบาล แลพระอัคนีเจริญ
 +
เสด็จเยือนพระอินทร์เมิล พระฤษีสุมนต์ยุคล
 +
 
 +
๏ ต่างองค์ก็ยินความ  มุนิงามแถลงยุบล
 +
ต่างองค์ก็มุ่งกมล  จะเสด็จณะเมทินี
 +
 
 +
๏ เพื่อการสยุมพร  กลยาณิ์ประภาฉวี
 +
ต่างองค์ประสงค์ศรี อรราชพาลิกา
 +
 
 +
๏ องค์อินทร์วรุณยม  และพระเพลิงเถกิงประภา
 +
ต่างทรงมหาวา  หนะเหิรระเห็จทยาน
 +
 
 +
๏ หมายมุ่งวิทรรภ์รัต  นะนครบวรวิศาล
 +
พรึบพร้อมพหลหาญ พลแห่อำพรสลอน ฯ
 +
 
 +
 
 +
๏ กล่าวฝ่ายพระนลราช นลนาถนิษัธนคร
 +
ทราบฃ่าวสยุมพร  อรนุชก็สุดกระสัน
 +
 
 +
๏ รีบจัดพลากร  บทจรนครวิทรรภ์
 +
คำนึงพระนุชพลัน  พระก็เร่งพหละคลา
 +
 
 +
๏ นึกนุชบ่เหนื่อยนึก  อุระทึกระลึกยุพา
 +
หมายนางบ่หมางมา นเสน่ห์วิมลสมร ฯ
 +
 
 +
 
 +
๏ เมื่อนั้นพระวัชรี  อัคนีเถกิงบวร
 +
ยมราชวรุณจร  พลผองผยองโพยม
 +
 
 +
๏ ต่างยลพระนลทรง  สิริลักษณ์พิไลยประโลม
 +
ตรูตาสง่าโฉม  ภพหล้าจะหาบ่เหมือน
 +
 
 +
๏ สี่เทพธอยุดพา  หนเด่นประดุจจะเดือน
 +
ลงจากโพยมเยือน  นลราชณะแนวพนม
 +
 
 +
๏ มีเทพกถาสุน  ทรชื่นบ่ขื่นบ่ขม
 +
ถ้อยคำก็ฉ่ำฉม  ผิวฟังก็ดังจะกลืน
 +
 
 +
๏ ดูราพระทรงศักดิ์  ปรปักษ์บ่ฝ่าบ่ฝืน
 +
ขันแขงพระแสงปืน  อภิศักดิ์ตระหนักสวรรค์
 +
 
 +
๏ ทรงโฉมประโลมลัก  ษณะพักตร์ประจักษะพลัน
 +
ทรงศรีฉวีวรรณ  วรเดชวิเศษวิมล
 +
 
 +
๏ เชิญองค์นิษัธนาถ  นลราชพลีพหล
 +
กอบกิจประกอบผล  ดุจเราจะกล่าวถาวย ฯ
</tpoem>
</tpoem>
 +
====สรรคที่ ๓====
====สรรคที่ ๓====
<tpoem>
<tpoem>

การปรับปรุง เมื่อ 09:37, 6 สิงหาคม 2552

เนื้อหา

ข้อมูลเบื้องต้น

พระนิพนธ์: พระนิพนธ์พระราชวรวงศ์เธอ กรมหมื่นพิทยาลงกรณ

ขาดสรรคที่ ๒๑ - ๒๕

บทประพันธ์

สดุดี

วสันตติลกฉันท์
๏ อัญขยมประนมนขประณามพระสยามสวามี
เชลงฉันท์ประพันธสดุดีนรเทพเถกิงไกร
๏ จักรพรรดิขัตติยนรินทร์ปถพินทร์ทิพาลัย
ดั่งรามราฆพไผทกิติศักดิ์ประจักษ์จินต์
๏ สมเด็จปรเมนทรมหาวชิราวุธาวนินทร์
เอกองค์พระมงกุฏสิรินทสุคันธ์สมัญญา
๏ นามเมืองก็เรืองกิติวิมลเพราะยุบลพระราชา
นามราชก็เรืองกิติประภากรเหตุประเทศเรือง
๏ โสภาวิชาภรณแพร้วกลแก้วกำจายเมือง
โสภณพิมลสตยเนืองนิติธรขจรธรรม์
๏ ในสรวงก็แสงสุริยส่องทิวก่องณะกลางวัน
สิ้นสูรย์ก็แสงศิศิรจันทรจ้าณะราตรี
๏ สูรย์จันทร์ก็ปันทินนิศาจกรานุจรมี
เวรเปลี่ยนและเวียนศศิรวีปริวัตระผลัดกัน
๏ อันองค์พระมงกุฏกษัตริย์ทนุรัฐนครฃัณฑ์
วันคืนพระยืนจิตกระสันธุรม่งพระองค์เดียว
๏ เชอดชาติพระราชประยุรรักมนภักดิกลมเกลียว
เสนาประชานรก็เหนียวจิตรักสมัคคุณ
๏ ครองดินอรินทมนเรนทร์ประเมนทร์มฆาดุลย์
เดชเปรื่องกระเดื่องพระยศบุณยโศลกสิเรนทร
๏ สรวมคุณพระไตรย์สรณรัตน์สิริภัทร์อุบัติพร
ยิ่งกี้พระกีรติขจรทิศเทอดคุณาธาร
๏ พุทธานุภาพผริตผลสุขดลอดูลย์ดาล
ธรรมานุภาพพิมลภูลชยเชอดชลอธรรม์
๏ จำเริญพระชนม์ธนสุขีพลศรีสอางพรรณ
ไร้โรคนิราศภยนิรันตรทุกขถอยไกล
๏ ฃ้าบาทประดิษฐ์พจประพันธ์บทฉันท์ชลอใจ
ดำเนิรนิทานพระนลไนษธเบื้องฉบับบรรพ์
๏ ทูลแทบพระราชบทมาลย์มหิพาลวิบูลย์ธรรม์
หวังเสริมสราญกมลกรรณพระนราธิราชา ฯ
             

สรรคที่ ๑

วสันตติลกฉันท์
๏ ยังมีกษัตริย์นิษธราษฎร์นลราชสมัญญา
ลือฃามพระนามนลนราธิปทั่วไผทศรี
๏ เฉกฉัตรอุบัตินิษธร่มอภิรมยะลาภี
สมบัติพิพัฒนะธนีธรณีระบือบุญ
๏ ทรงศักดิ์ประจักษ์จิตประจำรสธรรมธิราดุลย์
นานาคุณานุคุณจุนจิตเหิมเฉลิมรมย์
๏ ทรงเดชวิเศษศรวิสิฎฐ์อภิฤทธิ์ปรากรม
เลี้ยงราษฎร์พระราชอุปสดมภ์อดิเรกอเนกนันท์
๏ ทรงโฉมประโลมจิตประเจิดสิริเลิศะรังสรรค์
อำไพประพลพิมลพรรณืผิวพิศก็ติดตา
๏ แคล่วคล่องทำนองอศวชาติจรผาดผยองพา
เปนปิ่นมหารถมหารถอื่นบ่ขืนแขง
๏ รู้หลังประจักษ์จตุรเวทนรเศรษฐะกำแหง
เชิงชั้นพนันนลระแวงจิตรักตระหนักนัย
๏ อวยทานอุทารอุทยเทอดนรเลิศสุฃาลัย
บรรเทิงสเริงสริระไภยพิบัติบ่บีฑา
๏ เสนาพลาธิกพหลนรชนระบือชา
เหิ่มหาญทยานหทยทานพแทตย์บ่เทียมทาน
๏ เกริกเกียรติ์กระหลบพิภพแม้นภพแมนมโหฬาร
เสมอศักดิ์ศักระมฆวานสุรสิทธิ์รังสรรค์ ฯ
๏ ยังมีพระภีมะมรุเดชนคเรศวิทรรภ์ฃัณฑ์
ครองราชย์บำราศบรถวัลยเถลิงเถกิงศรี
๏ ไพร่ฟ้าประชากรเกษมสุขเหมหทัยทวี
เรืองรมยะร่มนิคมมีพิตภัทระภูลเพ็ญ
๏ แต่องค์พระภีมะนิรรมยะระทมระทวยเข็ญ
หมายปองและหมองมนลำเค็ญเพราะบ่สิทธิสมหมาย
๏ เหตุไร้พระราชบุตระบุตรีมหิษีฤดีดาย
กำศรดระทดหทยวายอุระร้อนบ่ห่อนมี
๏ บำเพ็ญกุศลผลก็ไร้มนไหม้มลายศรี
หลายหลากประจากธนมณีพรพิตก็นิษผล
๏ วันหนึ่งมนีวิริยกล้าตละฌานะโกศล
สู่ราชสถานถิรถกลชชวาลตระการตา
๏ จึ่งภีมะราชและมหิษีจิตปรีดิหรรษา
ซาบซ่านสราญกมลมานิตน้อมประฌามเธอ
๏ เชิญองค์พระดาบสสถิตยณะอาศน์อุไรเลอ
สององคะทรงบำรุบำเรอปฏิบัิติพระโยคี
๏ เมื่อนั้นมุนีสถิรธรรมอรัญยะวาสี
เปี่ยมปิติในหทยมีมนเหมเกษมศานติ์
๏ อวยพรถวายนฤบดีมหิษีวิมลมาลย์
จงทรงพระราชสิริสราญสุรฤทธิธำรง
๏ อันใดพระใคร่จิตกระสันสุขหรรษะจำนง
อันนั้นประสบศุภประสงค์พรสิทธิสมบูรณ์
๏ หมายมีบุตรีบุตระประเสริฐฉวิเฉิดฉมามูรธ์
เปนศรีมหานครคูณกิติเลื่องระบือไกร
๏ จงสบมโนรถประสงคจำนงมนุญใน
ไป่คลาดพระราชหฤทัยดุจอาตมะอวยถวาย
๏ ครั้งเสร็จประสิทธิ์พระพิพัฒน์พระวนัสถะผันผาย
ทูลลานราธิปและหมายทิศถิ่นพนาลัย ฯ
๏ ฝ่ายองค์พระปินนรวิทรรภสุธรรมะธรไท
อีกนางพระยายุวประไพอภิลาษลออองค์
๏ จำเดิมมุนีวิริยเดชวรเวทธำรง
เธอช่วยอำนวยพระพรมงคลสิทธิสมปอง
๏ แต่นั้นสุรางคะมหิษีธก็มีบุตรีสนอง
สวาดิ์แสนเสน่ห์สนิทสองปฏิพัทธะเพียงใจ
๏ อีกมีพระราชดนุชสามทมะนามเกรียงไกร
หนึ่งทานตะหนึ่งทมนะไชยะยศาภิศักดิ์ศรี
๏ ฝ่ายราชบุตรีสิริยโศธรทัมะยันตี
พรายเพราพระเยาวะดรุณีสุขุมาลละลานเลอ
๏ ทรงศรีฉวีวรวิลาสกลวาดวิมลเสมอ
ใครยลก็ดลจิตเลมอมนถึงคนึงศรี
๏ ในฟ้าจะหาอรสุรางค์ดุจนางก็ห่อนมี
ในดินจะหาอรยุพีกลนุชก็สุดหา
๏ ความงามณะสามภพเสนอจะเสมอบ่มีมา
ทรามไวยประไพพรศุภาผิวเห็นก็เปนบุญ ฯ
๏ ฝ่ายองค์นิษัธฃติยนาถนลราชระลือคุณ
ภๅโฉมประโลมนยนะสุนทรทั่วไผทศรี
๏ ทราบศัพท์ยุบลนลอนันต์ณะวิทรรภะธานี
จวบองค์พระราชวรบุตรีธก็รู้ระหัสสาร
๏ ปางปวงประชานิษธราษฎร์ก็นินาทะพิสดาร
ภๅลักษณ์ยุบลวิมลมาลย์พระวิทรรภะนารี
๏ จวบจนพระนลธก็ตระหนักวรลักษณ์พระบุตรี
ต่างองค์ก็ต่างกมลมีปฏิพัทธะผูกพัน
๏ ยิ่งยินระบินยุบลภๅก็ระบือหทัยศัลย์
นางใคร่จะยลพระนลครันนลใครจะยลนาง ฯ
๏ เมื่อนั้นพระนลพิมลโฉมอุระโซมระคางขนาง
หมายน้องและหมองกมลหมางเพราะบ่เหมือนกมลหมาย
๏ วันหนึ่งพระจึ่งจรประพาศพนราชสราญกาย
องค์เดียวพระเที่ยวทุรณะทายบทท่องระโหฐาน
๏ ยลหงส์หิรญวิมลเมิลมนเพลินพิบูลย์บาน
สำเริมประเทิงหทยะลานจิตเล่นบ่เห็นองค์
๏ ปางนั้นนราธิปกษัตริ์ยนิษัธะธำรง
ซอกซอนและซ่อนคณะพิหงคและหงสะหลงเผลอ
๏ เมียงเมิลดำเนิรบทบ่แกรบจรแอบกำบังเฌอ
จับได้สุโนคพระนลเธอก็แจร่มจรูญปรีดิ์
๏ ฝ่ายหงสะเหมวรวิหคก็สทกสท้านมี
ใจกลัวระรัวสริระตีอุระข้อนคนึงครวญ ฯ
ทูลพระนลว่า
๏ อ้าองค์พระทรงสุรมเหศรศักดิ์นเรศวร
ภูวนาถพระบาทยุคลควรภพพึ่งสำนึงนาน
๏ แม้นทรงพระคุณกรุณโปรดสละโทษมิสังหาร
ขอรองลอองพระบทมาลย์กลทูตนำทูลเสนอ
๏ แด่นางพระราชปิยยุพาพระธิดาวิทรรภ์เธอ
สำแดงพระคุณอดุลเลอนรราชนเรสูร
๏ นางทราบยุบลพระนลแล้วฤจะแคล้วอุราดูร
จักครวญจะใคร่หททภูลจิตเล่ห์เสนหา ฯ
๏ ฟังหงส์ทำนูลมธุรวาทนลราชหรรษา
ปลดปล่อยพิหคพิหคลาจรรีบระเห็จหน
๏ พาพวกพิหงคะคณะหมายมนบ่ายโพยมบน
ฉิวฉิวละลิ่วอำพรดลณะวิทรรภะธานี
๏ ลงยังพระราชอุทยานยุวมาลย์พระบุตรี
ชมพรรณ์กุสุมสุขุมปรีดิจรัสจรูงราม
๏ เมื่อนั้นพระองค์อรธิดาทศนาสุโนคงาม
คิดใคร่จะได้ก็จรตามบริษัทก็ตามองค์
๏ แอบอ้อมแลล้อมคณะสุโนคและกระโชกจะจังหงส์
หวุดหวิดกระชิดจิตพวงผิวใกล้วก็ไป่ทัน
๏ ปางราชยุพาพรประไพจรไล่พิหคหัน
หนีนางและห่างคณะกำนัลก็สุโนคเสนอสาร ฯ
หงส์ทูลนางว่า
๏ อ้าองค์พระราชวรบุตรีศุภศรีฉวีกาญจน์
เพ็ญพักตร์พิมลกลสุมาลย์อรเอี่ยมอุไรพรรณ์
๏ อันในนิษัธฃติยะนาถอธิราชยะรังสรรค์
ไพศาลพิศลย์ผลอนันต์นลผู้ผดุงเมือง
๏ อันองค์พระนลพิมลเฉิดฉวิเลิศวิไลยเรือง
บุญญาภิฤทธิ์พิชิตเปลืองปรภาพบ่พึงเผยอ
๏ คนธรรพ์อุรุคสุรและรากษสมากบ่มีเสมอ
ดาวเดือนบ่เหมือนพระนลเธอนิติธรนิกรพิง
๏ ฉันใดพระองค์อรประเสริฐสิริเลิศณเหล่าหญิง
ฉันนั้นพระนลวิมลจริงจิตรเลิศณะเหล่าชาย
๏ ชายเลิศผิร่วมสมรเลิศจะประเสริฐะแหล่หลาย
โลกหล้าจะหาอุภยะผายภทระเหมือนมิพึงมี ฯ
๏ เมื่อนั้นยุพาพรลำเภาอรเยาวะสุนทริ
ปางทรงสดับสกุณปรีดิก็ตอบยุบลไป
๏ ดูราพิหคกนกหงส์จะประสงค์ประการใด
จงเร่งระเห็จอำพรไคลณะนิษัธนครฃัณฑ์
๏ บรรยายยุบลกลประสงค์ดุจหงส์จำนงสรร
ทูลองค์พระนลพลอนันต์กลที่ทำนูนเรา ฯ
๏ บัดนั้นสุโนคสิรประณตวรนุชนงเยาว์
ทูลลายุพาอรลำเภาจรเหิรระเห็จคลา
๏ ถ่องทูลพระนลนรบดีธก็ปรีดิหรรษา
ปลื้มเปรมเกษมกมลมาลยะแผ้วพิมลศรี ฯ
             

สรรคที่ ๒

อินทรวงศ์ฉันท์
๏ เมื่อนั้นพระไภมียุวดีกำดัดฤดี
คำนึงพระนลมีนยะหงส์พิหงคะทูล
๏ หมองหมายบ่วายว่างสุขนางก็ส่างก็สูญ
อาดูรอดูลย์ภูลพิศวาสบ่คลาดบ่คลาย
๏ ยามนิทร์บ่นิทร์เนานิทระเศร้าทุรนทุราย
ร้อนรนสกลกายบ่มิเหือดก็เดือดกมล
๏ โภชน์ตั้งก็นั่งเฉยบ่เสวยกระยาสุคนธ์
กลุ้มกลัดสบัดตนอุระเข็ญลำเค็ญรำคาญ
๏ พักตร์พิมพะพริ้มเพราพิศเศร้าบ่เบิกบ่บาน
ขุ่นข้นกมลมาลย์มลหมางระคางระคาย
๏ เคยสรวลบ่สรวลสันต์จิตซั้นระส่ำระสาย
แค้นคิดระคายหมายมนแล้วก็แคล้วก็คลา
๏ เคยมีฉวีฉ่องสิริผ่องประไพประภา
บัดนี้ฉวีวามก็หมองบ่รองบ่เรือง
๏ เผลอ ๆ มะเมอมนจิตจนก็ข่นก็เคือง
ผิวพักตร์ก็ชักเหลืองวรรูปก็ซูปก็ผอม
๏ บัดนั้นพระพี่เลี้ยงทนุเคียงยุพาถนอม
เห็นราชธิดาตรอมจิตหม่นกระวนกระวาย
๏ หนักใจก็ไปเฝ้าณะพระเจ้าวิทรรภะฉาย
ทูลว่าธิดาสายจิตไท้มิใครเสบย
๏ เมื่อนั้นพระจอมธรรมะวิทรรภะฟังเฉลย
ห่อนรู้ระหัสเผยธก็ร้อนอุราสลาย
๏ ลูกกรูก็ชีพกรูจิตกรูบ่รู้สบาย
ใจกรูบ่ดูดายอุระเดือดบ่เหือดทำงน
๏ หนักในหทัยท้าวอุระร้าวบ่รู้จะทน
จึ่งองค์พระทรงพลก็ละห้อยละเหี่ยหทัย
๏ รำลึกพระชนมายุยุพาประภาพิไลย
นงเยาว์ลำเภาไวยะก็รุ่นเจริญจรูญ
๏ สมควรสยุมพรอรชรพิธีพิทูร
สมศักดิ์สมบูรณ์วรเกียรติ์ขจายขจร
๏ ตรึกเสร็จก็ตรัสสั่งกิจดังมนานุสร
เสนาพลากรสุมนัสก็จัดก็ปัน
๏ ส่งข่าวและป่าวทั่วนคเรศเฃตตะฃัณฑ์
ทุกรัฐกษัตริย์อันจิตหวังพระอังคนา
๏ ทราบข่าวสยุมพรอรไทยประไพประภา
เสียวศัลย์กระสันหากลยาณิ์ประภาประไพ
๏ ต่างองค์ทนงฤทธิ์มนคิดจะสมสมัย
ต่างองค์ทนงใจจรหมายจะได้สมร
๏ ร้อนรักตะหนักมาดพิศวาสพระนางบวร
เวียนหวังพระบังอรอุระเต้นบ่เว้นทิวา
๏ ไฝ่ถึงยุพาภีมะลุตรีสุโลจนา
ฝันถึงยุพาภาดรุณีพระภีมะพงศ์
๏ ต่างเตรียมพลากรอภิฤทธิเรืองณรงค์
เนืองแน่นณะแดนดงจรโดยวิทรรภ์วิถี
๏ ถั่นถึงนครรัตน์ก็กษัตร์สุภัทร์พลี
เฝ้าภีมะราชภีมะก็รับก็เลี้ยงก็ดู ฯ
๏ เมื่อนั้นมุนีนาทรญาณวิธานวิทู
เชี่ยวณานวิศาลบูรณะก่องเถกิงถกล
๏ อีกทั้งมุนีบรรพตอันวิชาวิมล
สองเหิรระเห็จหนจรโดยอำพรพิถี
๏ ถั่นถึงสวรรค์เวียงอมราวะดีมณี
จึ่งสองพระโยคีจรไปณะไวชยันต์
๏ เฝ้าองค์พระวาสพอมเรนทร์วฤตระหัน
สมเด็จพระจอมสวรรค์ ก็คำรพไชมมุนี
๏ ถามทุกข์แลสุขในภพโลกมนุษยะมี
เจริญจรูญพิบูลย์ปรีดิสวัสดิ์ฤาฤษี
๏ จึ่งสองมุนีน้อมมนทูลทิวัสบดี
ในโลกมนุษย์มีสุขเปรมเกษมกมล
๏ บรรดาพระราชาฃติยาธิเกียรติ์ถกล
ทุกที่มหรีดลก็สวัสดิ์พิพัฒน์ประพันธ์
๏ เมื่อนั้นสุราธิปทิพราชมไหศวรรย์
ฟังทูลพระทรงธรรมะก็ปริ่มหทัยะปรีดิ์
๏ ตรัสถามพระนักสิทธมหิทธิเวททวี
ดูราพระโยคีพรตผู้พิสุทธพิสัย
๏ อันเหล่าพระราชาธิกษัตริย์วิวัฒน์วิชัย
ครองเวียงกำเรียงไกร อภิชิตมหิทธิ์มหัน
๏ ต่างองคะต่างทรงสุรภาพอเนกอนันต์
ทุกองค์ทรงธรรม์สุจริตวิสิฏฐ์วิศาล
๏ ต่างองคะหายพักตร์ บ่มิยาตรณะคัคะณานต์
ตูห่อนจะพบพานภพนาถนรินทะใด
๏ เหตุใดกษัตราธิกอานุภาพะไกร
จึ่งหายพระพักตร์ไป บ่มิสู่สวรรคะเลย
๏ เมื่อนั้นพระนารทพจพร้อมฉลองเฉลย
อันซึ่งกษัตริย์เคยจรชั้นสวรรค์ก็หาย
๏ ด้วยเหตุสยุมพรอรชรสุพรรณราย
กานดายุพาสายจิตภีมะวีระวงศ์
๏ ทุกเทศเกษตรรัฏฐกษัตริย์ก็เตร็จก็ตรง
สู่เวียงวิทรรภ์จงมนมุ่งวิมลสุมาลย์
๏ เหตุนี้บ่มีใครจรเฝ้าพระมัฆะพาน
สมเด็จมรุตวานธตระหนักหทัยเทอญ ฯ
๏ เมื่อนั้นพระโลกบาล แลพระอัคนีเจริญ
เสด็จเยือนพระอินทร์เมิล พระฤษีสุมนต์ยุคล
๏ ต่างองค์ก็ยินความมุนิงามแถลงยุบล
ต่างองค์ก็มุ่งกมลจะเสด็จณะเมทินี
๏ เพื่อการสยุมพรกลยาณิ์ประภาฉวี
ต่างองค์ประสงค์ศรี อรราชพาลิกา
๏ องค์อินทร์วรุณยมและพระเพลิงเถกิงประภา
ต่างทรงมหาวาหนะเหิรระเห็จทยาน
๏ หมายมุ่งวิทรรภ์รัตนะนครบวรวิศาล
พรึบพร้อมพหลหาญ พลแห่อำพรสลอน ฯ
๏ กล่าวฝ่ายพระนลราช นลนาถนิษัธนคร
ทราบฃ่าวสยุมพรอรนุชก็สุดกระสัน
๏ รีบจัดพลากรบทจรนครวิทรรภ์
คำนึงพระนุชพลันพระก็เร่งพหละคลา
๏ นึกนุชบ่เหนื่อยนึกอุระทึกระลึกยุพา
หมายนางบ่หมางมา นเสน่ห์วิมลสมร ฯ
๏ เมื่อนั้นพระวัชรีอัคนีเถกิงบวร
ยมราชวรุณจรพลผองผยองโพยม
๏ ต่างยลพระนลทรงสิริลักษณ์พิไลยประโลม
ตรูตาสง่าโฉมภพหล้าจะหาบ่เหมือน
๏ สี่เทพธอยุดพาหนเด่นประดุจจะเดือน
ลงจากโพยมเยือนนลราชณะแนวพนม
๏ มีเทพกถาสุนทรชื่นบ่ขื่นบ่ขม
ถ้อยคำก็ฉ่ำฉมผิวฟังก็ดังจะกลืน
๏ ดูราพระทรงศักดิ์ปรปักษ์บ่ฝ่าบ่ฝืน
ขันแขงพระแสงปืนอภิศักดิ์ตระหนักสวรรค์
๏ ทรงโฉมประโลมลักษณะพักตร์ประจักษะพลัน
ทรงศรีฉวีวรรณวรเดชวิเศษวิมล
๏ เชิญองค์นิษัธนาถนลราชพลีพหล
กอบกิจประกอบผลดุจเราจะกล่าวถาวย ฯ
             

สรรคที่ ๓

             

สรรคที่ ๔

             

สรรคที่ ๕

             

สรรคที่ ๖

             

สรรคที่ ๗

             

สรรคที่ ๘

             

สรรคที่ ๙

             

สรรคที่ ๑๐

             

สรรคที่ ๑๑

             

สรรคที่ ๑๒

             

สรรคที่ ๑๓

             

สรรคที่ ๑๔

             

สรรคที่ ๑๕

             

สรรคที่ ๑๖

             

สรรคที่ ๑๗

             

สรรคที่ ๑๘

             

สรรคที่ ๑๙

             

สรรคที่ ๒๐

             

สรรคที่ ๒๑

             

สรรคที่ ๒๒

             

สรรคที่ ๒๓

             

สรรคที่ ๒๔

             

สรรคที่ ๒๕

             

เชิงอรรถ

อ้างอิง

ศาลานกน้อย

เครื่องมือส่วนตัว