บทละครเรื่à¸à¸‡à¸£à¸²à¸¡à¹€à¸à¸µà¸¢à¸£à¸•ิ์ พระราชนิพนธ์สมเด็จพระเจ้าà¸à¸£à¸¸à¸‡à¸˜à¸™à¸šà¸¸à¸£à¸µ
จาก ตู้หนังสือเรือนไทย
(ความแตกต่างระหว่างรุ่นปรับปรุง)
(→) |
(→ทศกัณฑ์พาล ไม่ยอมรับคำตัดสิน) |
||
แถว 2,059: | แถว 2,059: | ||
ร่าย | ร่าย | ||
- | ๏ บัดนั้น ทศเศียรสุริวงศ์ยักษี | + | ๏ บัดนั้น ทศเศียรสุริวงศ์ยักษี |
ติดใจเทวัญจันทรี กับพิพากษาไม่เต็มใจ | ติดใจเทวัญจันทรี กับพิพากษาไม่เต็มใจ | ||
เมื่อเทพรับสั่งอ้างค้าน ดั่งฤๅภูบาลฟังได้ | เมื่อเทพรับสั่งอ้างค้าน ดั่งฤๅภูบาลฟังได้ | ||
แถว 2,175: | แถว 2,175: | ||
</tpoem> | </tpoem> | ||
+ | |||
==== ==== | ==== ==== | ||
การปรับปรุง เมื่อ 14:38, 4 สิงหาคม 2552
เนื้อหา |
ข้อมูลเบื้องต้น
พระราชนิพนธ์: สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี
มี ๔ ตอน โดยตอนที่ ๒ ถึง ๔ นั้นความต่อกัน
บทประพันธ์
บานแพนก
วันอาทิตย์ เดึอน ๖ ขึ้นคํ่าหนึ่ง จุลศักราช ๑๑๓๒ (พ.ศ. ๒๓๑๓ ปีที่ ๓ ในร้ชกาลกรุงธนบุรี) ปีขาล โทศก พระราชนิพนธ์ทรงแต่งชั้นต้นเป็นปฐม ยังทรามยังพอดีอยู่
ตอนที่ ๑ ตอนพระมงกุฎ
พระมงกุฎอยู่ป่า
๏ มาจะกล่าวบทไป | หน่อในอวตารรังสี | ||
หาผลปรนนิบ้ติชนนี | ทั้งพระฤษีมีญาณ | ||
ว้นหนึ่งชวนน้องเข้าพาที | พระมุนีจงโปรตเดฉาน | ||
ข้าไสร้เกลือกคนภัยพาล | ขอประทานรํ่าเรียนวิชา | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
๏ ฤษีรักจูบกระหม่อมเกศ | สอนให้เล่าเวทคาถา | ||
ฯ เจรจา ฯ | |||
๏ หุดีกุณฑ์กองวิทยา | เจ็ดราตรีศรผุดพลัน | ||
ฯ ตระ ฯ | |||
๏ จึงประสิทธิ์ประสาทธนูศิลป์ | เจ้าจินดารมณ์หมายมั่น | ||
เมึ่อลั่นซั้นซ้ำมนตร์พลัน | สรรพโลกไม่ทนฤทธา | ||
ฯ เจรจา ๔ คำ ฯ | |||
๏ ฝ่ายสองกุมารเรียนเสร็จ | ได้ทั้งกลละเม็ดคาถา | ||
รบเอาธนูศิลป์มา | ลาล่าหาผลพนาลี | ||
ฯ เข้าม่าน ฯ | |||
๏ ครั้นถึงกาลวาตพนาลัย | ปราศัยน้องลบเรืองศรี | ||
ฝ่ายพี่จะแผลงฤทธี | ยิงรังด้นนี้ให้ขาดไป | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
๏ เจ้าลบว่าใหญ่ถึงแสนวา | ข้าเจ้าเห็นหาห้กไม่ | ||
๏ พระมงกุฎก็วางศรชัย | สนั่นไปถึงชั้นพรหมา | ||
ตระเชิด | |||
๏ ถูกรังต้นใหญ่สินขาด | ยับเยินวินาศดังฟ้าผ่า | ||
แล้วกลับต่อว่าอนุชา | น้องยาจะว่าประการใด | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
๏ พระลบสรรเสริญบุญญา | อานุภาพเป็นหาที่สุดไม่ | ||
พระชนนีจะมิตกใจ | ก็ชวนเก็บผลไม้กลับมา | ||
ฯ พญา เดิน ๒ คำ ฯ | |||
๏ ฝ่ายพระฤษีสนั่นเสียง | สำเนียงกึกก้องเวหา | ||
ตกใจทิ้งนางสีดา | ก็ลีลาออกตามกุมาร | ||
ฯ เชิด ๒ คำ ฯ | |||
๏ ฝ่ายพระพี่น้องเห็นฤษี | ก็วิ่งเข้าอัญชลีทูลสาร | ||
ทิ้งนางสีดาดวงมาลย์ | พระอาจารย์มาไยชนนี | ||
ฯ ๒ คำ ฯ | |||
๏ พระมุนีสีดาว่าดูเอา | ให้เราตกใจถึงสองศรี | ||
สุ้งเสียงอะไรเมื่อกี้ | คิดว่าอสุรีพะพาน | ||
ฯ ๒ คำ ฯ | |||
๏ ฝ่ายพระมงกฎทูลไข | หาไม่ดอกยิงไม้พฤกษาสาร | ||
๏ เจ้าลบว่าแสนอ้อมประมาณ | พฤกษาสารสูงเทียมเมฆา | ||
หักย้บสะบั้นสินขาด | วินาศดุจดั่งฟ้าผ่า | ||
ที่กาลวาตพนาวา | หาภ้ยมิได้พระมุนี | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
๏ สีดาว่ายิงทำไม | ให้ตกใจทั้งพระฤษี | ||
นี่ลูกอะไรน่าใคร่ตี | ก็พาทีขู่รู่กุมาร | ||
ฯ ๒ คำ ฯ | |||
๏ พระมุนีจึ่งห้ามสีดา | อย่าว่าหลานกูห้าวหาญ | ||
แล้วอวยชัยหน่ออวตาร | ให้ชัยวาลรุ่งฤทธี | ||
จงเจ้าเป็นใหญ่ไตรภพ | จบสกลทิศทั้งสี่ | ||
โภยภัยสิ่งใดอย่าได้มี | ให้ฤทธียิ่งบิดร | ||
แล้วบอกนวลนางสีดา | พฤกษานี้มีมาแต่ก่อน | ||
แรกตั้งฟ้าดินอัมพร | ศรใครไม่กินนะสีดา | ||
เมื่อไรต่อหน่ออวตาร | จึงผลาญไม้นี้ดั่งฟ้าผ่า | ||
ลูกเจ้ารุ่งเรืองฤทธา | ว่าแล้วก็มากุฎี | ||
ฯ เสมอ ๘ คำ ฯ | |||
๏ ฝ่ายสองกุมารเข้าไป | ถวายผลไม้พระฤษี | ||
แล้วกล้บมาหาชนนี | ยังที่พระบรรณศาลา | ||
ฯ บาทสกุณี ๒ คำ ฯ | |||
โอ้ | |||
๏ ฝ่ายนางสีดาส้วมกอด | พลอดพลางทางกวดเกศา | ||
จูบเกศเทวศโศกา | โอ้ว่ากำพร้ายาใจ | ||
มาดแม้นถ้าอยู่ก้บพ่อ | จะเสน่ห์หน่อหาที่สุดไม่ | ||
เท่านี้หรือมีฤทธิไกร | ที่ไหนบิดาจะให้จร | ||
ฝ่ายเจ้าผลานแผลงศิลป์ชัย | เหมือนเมื่อท้าวไทเธอยกศร | ||
ครั้งไปทำการสยมพร | ในเมืองนครมิถิลา | ||
ให้เจ้ายิ่งยศโมลี | แม่จะได้ฝากผีภายหน้า | ||
ให้เรืองฤทธิ์เหมือนองค์พระบิดา | ว่าแล้วก็ทรงโศกี | ||
ฯ โอด ๘ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
๏ ฝ่ายพระมงกุฎทูลถาม | โปรดบอกความเกล้าเกศี | ||
แม่ว่าพ่อข้ามีฤทธี | มาอยู่พนาลีด้วยอ้นใด | ||
อ้นฝ่ายพระบังเกิดเกล้า | เผ่าพงศ์กษัตริย์หรือไม่ | ||
เธอผ่านถิ่นฐานบ้านเมืองใด | บอกให้หน่อยเถิดพระมารดา | ||
ฯ มโนราโอด ๔ คำ ฯ | |||
๏ สีดากรรแสงแถลงไข | พิไรบอกลูกเสน่หา | ||
เดิมแม่อยู่เมืองมิถิลา | พระอัยกาเจ้าเสี่ยงศิลป์ชัย | ||
เทพามนุษย์เข้ายกศิลป์ | เสร็จสิ้นมิได้หวาดไหว | ||
พ่อเจ้ายกได้ว่องไว | จึงเศกแม่ให้กับบิดา | ||
อ้นบิตุเรศของเจ้า | เผ่าพงศ์บรมนาถา | ||
เรืองรุดสุดอรรคอิศรา | ปรากฏยศยิ่งโมลี | ||
จึ่งพาแม่มาเวียงชัย | อัยกาให้สัจมเหษี | ||
ให้พ่อเจ้าไปพนาลี | แม่นี้ติดตามจรจรรย์ | ||
กับทั้งพระล้กษมณ์อนุชา | ออกไปอยู่ป่าพนาสัณฑ์ | ||
วันหนึ่งจึงยักษ์ทศกัณฐ์ | มันใช้มารีศเป็นกวางมา | ||
แม่ไม่รู้เลยเป็นร้กใคร่ | ให้พ่อเจ้าตามไปในป่า | ||
แล้วได้ยินเสียงเหมือนบิดา | คิดว่ายักษาม้นยายี | ||
จึงให้อนุชาไปดู | มิรู้ยักษ์ล้กพาแม่หนี | ||
บิดาเจ้าตามไปต่อตี | ฆ่าอสุรีตายทั้งลงกา | ||
แล้วพามาผ่านโภคัย | ครั้งนั้นแลแม่ได้หรรษา | ||
จึงมีปีศาจลวงมารดา | วานข้าเขียนรูปอสุรี | ||
พาซื่อมือแม่ไม่สุข | ประดุกเขียนรูปยักษี | ||
พอพ่อเจ้ามาเห็นทันที | นารีผู้วานนั้นหายไป | ||
ฝ่ายแม่จึงรู้ว่าปิศาจ | พระบิตุราชโกรธชักพระขรรค์ไล่ | ||
ให้พระอนุชาพาแม่ไป | พิฆาตเสียในพนาวา | ||
เดชะความสัตย์ของแม่ | เที่ยงแท้ต่อพ่อเจ้าหนักหนา | ||
พระขรรค์กล้บกลายเป็นมาลา | อนุชาจึงขับเสียพล้น | ||
เตชะบุญญาของเจ้า | ขวัญเข้าแม่ไม่อาสัญ | ||
พอพบมุนีในพนาวัน | จึงคมค้ลอาศัยคลอดลูกยา | ||
พระบิดาเจ้าชื่อราเมศ | หน่อนเรศทศรถนาถา | ||
ครอบครองกรุงศรีอยุธยา | ว่าแล้วก็ทรงโศกี | ||
ฯ โอด ๒๖ คำ ฯ | |||
๏ ฝ่ายพระมงกุฎกราบเกล้า | พระแม่เจ้าอย่าหม่นหมองศรี | ||
ถึงพระบิดาไม่ดูดี | เราอยู่พงพีตามเข็ญใจ | ||
ฯ ครวญ ๒ คำฯ | |||
๏ สีดาส้วมสอดกอดจูบ | ลูบหน้าหลังพลางร้องไห้ | ||
แสนโศกวิโยคอาล้ย | เสน่ห์ในกอดลูกนิทรา | ||
ฯ กล่อม ๒ คำ ฯ | |||
พระรามเสี่ยงม้า
ยานี | |||
๏ มาจะกล่าวบทไป | ถึงไทเจ้าไตรตรึงษา | ||
เอ็นดูกุมารสีดา | จากสามีพรากบิดร | ||
อ้อหน่อนั้นค่อยจำเริญวัย | ไปลองศิลป์ชัยธนูศร | ||
เอิกเกริกสิ้นทั้งพระนคร | บิดรก็อัศจรรย์ใจ | ||
เอะพ่อจะเสี่ยงพาชี | ลูกนี้จะได้หม่นไหม้ | ||
เป็นกรรมทำมาแต่ไร | ให้พรไปโดยยินดี | ||
ฯ สาธุการ ๖ คำ ฯ | |||
๏ ฝ่ายข้างองค์อรรคอวตาร | ให้หาพฤฒาจารยอึงมี่ | ||
ควรดูฤกษ์พานาที | เหตุนี้จะเป็นประการใด | ||
ฯ เจรจา ๒ คำ ฯ | |||
๏ ฝ่ายข้างพระโหรผู้เฒ่า | ก้มเกล้ากราบทูลแถลงไข | ||
เหตุลั่นดินฟ้าสุราลัย | หาภัยมิได้ภูมี | ||
แต่เกิดองค์อรรคศักดา | ลองมหาธนูชัยศรี | ||
สำหร้บปราบมารไพรี | เหตุนี้ดีดอกพระราชา | ||
ฯ เจรจา ๒ คำ ฯ | |||
ช้า | |||
๏ เมื่อนั้น | พระรามบุญเรืองเฟื่องฟ้า | ||
สงสัยไถ่ถามโหรา | บัญชาแก่ราชสามนต์ | ||
เมื่อกูอยู่บนบัญชรชัย | หวั่นไหวดินฟ้ากุลาหล | ||
สะเทือนเลื่อนภูมิมณฑล | จลาจลดุจดั่งจะควํ่าไป | ||
ดูดุ๋ช้างม้าอาณาจักร | หักหลักแหล่งหลุดไปได้ | ||
เหตุนี้กูมิไว้ใจ | เป็นภัยติดราชธานี | ||
จงตกแต่งล้กษณโองการ | เขียนลงเป็นราชสารศรี | ||
ผูกแขวนคอม้าเสี่ยงพาชี | ตามประเวณีเมืองปล่อยไป | ||
จึงจะต้องตามตำราว่า | แม้นใครขี่ฆ่าให้ต้กษ้ย | ||
ให้หาอนุชาสองไท | กูจะให้ไปตามอาชา | ||
ฯ ๑๐ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
๏ หนุมานก็ร้บสั่งพลัน | ผายผันเหาะระเห็จไปหา | ||
ฯ เชิดปฐม ฯ | |||
๏ ครั้นถึงไกยเกศภารา | เชิญเสด็จอนุชาทันที | ||
ฯ ๒ คำ ฯ | |||
๏ พระสัตรุดพระพรตถามไถ่ | ให้หาเราไยกระบี่ศรี | ||
สะเทือนเลื่อนลั่นบูรี | อยุธยามีเหตุประการใด | ||
ฯ ๒ คำ ฯ | |||
๏ หนุมานทูลแจ้งกิจจา | เหตุสุธาสนั่นหวั่นไหว | ||
พระเชษฐาให้เสี่ยงพาชีชัย | จึงจะให้พระไปตามไพรี | ||
ฯ ๒ คำ ฯ | |||
๏ พระสัตรุดพระพรตสั่งพลัน | ให้เตรียมพลขันธ์ชัยศรี | ||
ขึ้นทูลไอยกาทันที | พระเจ้าพี่รามาให้หาไป | ||
ฯ ๒ คำเสมอ ฯ | |||
๏ พระไอยกาอำนวยพร | ให้ถาวรยศยิ่งเป็นใหญ่ | ||
เจ้าไปเถิดไปพ่อไป | มีชัยแล้วกลับมาธานี | ||
ฯ เจรจา ๒ คำฯ | |||
๏ พระสัตรุดพระพรตอำลา | มาท้องพระโรงชัยศรี | ||
ฯ เสมอ ฯ | |||
๏ เสนาซึ่งรับสั่งเดิมที | ไปจ้ดรี้พลโยธา | ||
ฯ เชิดปฐม ฯ | |||
ยานี | |||
๏ กะเกนรถรัดอัสดร | พวกพลนิกรซ้ายขวา | ||
หอกง้าวหลาวแหลนปืนยา | ทัพหลังทัพหน้าเรียงรัน | ||
อีกทั้งยกระบัตรเกียกกาย | ปีกป้องกองรายแข็งขัน | ||
ครั้นเสร็จระเห็จทูลพลัน | พลขันธ์พร้อมแล้วภูมี | ||
ฯ ๖ คำ ฯ | |||
โทน | |||
๏ เมื่อนั้น | พระพรตยศไกรชัยศรี | ||
จึงชวนอนุชาสรงวารี | สองศรีสำอางอาภรณ์ | ||
ทรงมงกฎสังวาลเสร็จสรรพ | จับสะพักสะพายแล่งแสงศร | ||
ทบทรวงกรรเจียกกระจายจร | ตาบติดอาภรณ์กระจายตา | ||
พาหุรัดธำมรงค์ชายแครง | ศรีแสงชายไหวซ้ายขวา | ||
สนอบสนับสรรพชวนอนุชา | ลีลามาขึ้นรถไป | ||
ฯ บาทสกุณี ๖ คำ ฯ | |||
โทน | |||
๏ รถเอยราชรถแดง | สีแสงสว่างสุกใส | ||
งอนแอกปะแหรกวิไล | ฉ้ตรชัยวิจิตรเจษฎา | ||
เพราเพชรเก็จแกมหน้าหลัง | บังใบด้วยมณีมีค่า | ||
ระย้าระย้อยลอยเลื่อนฟ้า | กรีฑาพหลไปพลัน | ||
ฯ กราวเชิด ๔ คำ ฯ | |||
๏ ครั้นถึงซึ่งกรุงอยุธยา | ขึ้นเฝ้าเชษฐาไอศวรรย์ | ||
พระรามเห็นเรียกน้องพลัน | พากันออกท้องพระโรงชัย | ||
ฯ เสมอ ฯ | |||
๏ จึงตรัสด้วยราชสารศรี | เสนีแต่งแล้วหรึอไฉน | ||
เสนาก้มกราบทูลไป | แต่งไว้เสร็จแล้วภูมี | ||
ฯ เจรจา ๔ คำ ฯ | |||
ช้า | |||
๏ ในลักษณพระราชสาร | ว่าพระผ่านทศทิศทั้งสี่ | ||
แบ่งภาคจากกระเษียรวารี | มีกมลจิตต์จินดา | ||
ให้ปล่อยมิ่งม้าอุปการ | ใครพานพะขี่จะเข่นฆ่า | ||
ที่อวดฤทธิ์ดีจงขี่ม้า | ผ่านฟ้าจะไปต่อตี | ||
ถ้าแม้นเป็นข้าอาณาจ้กร | ทักษิณประณตบทศรี | ||
เคารพอภิวันท์ธุลี | ปล่อยพาชีจรไคลคลา | ||
ฯ ๖ คำ ร่าย ฯ | |||
๏ พระรามว่าดีแล้วเอาเถิด | พอเกิดดวงดาวเวหา | ||
เบื้องบนข้างทิศบูรพา | บัญชาให้ผูกพาชี | ||
ฯ ๒ คำ ฯ | |||
๏ อาลักษณ์เอาสารผูกคอม้า | อลังการที่นั่งรังสี | ||
โหรปล่อยมิ่งม้าทันที | พาชีดึงเดาะเดินพลัน | ||
ฯ ฉาน เชิดฉิ่ง ๒ คำ ฯ | |||
๏ พระรามจึงสั่งอนุชา | แม้นใครขี่ฆ่าให้อาสัญ | ||
๏ อนุชารบสั่งจรจรัล | พลันยกพลตามสะกดไป | ||
ฯ กราว ๒ คำ ฯ | |||
๏ พระรามซ้ำสั่งหนุมาน | ท่านไปช่วยด้วยจึ่งได้ | ||
หนุมานรับสั่งคลาไคล | ไปนำพลตามพาชี | ||
ฯ เชิด ๒ คำ ฯ | |||
พระมงกุฎขี่ม้าเสี่ยงทาย หนุมานจะจับ ถูกพระมงกุฎเสกมนตร์มัดตัว
ยานี | |||
๏ มาจะกล่าวบทไป | ถึงไทท่านท้าวโกสีย์ | ||
ผู้ทรงมหิทธิ์ฤทธี | ตรีเนตรเล็งแลลงมา | ||
ก็แจ้งว่าหน่ออวตาร | จะพานพะรบวงศา | ||
อ้อกรรมหน่อดลบิดา | จึงเสี่ยงพญาม้าไป | ||
เอะอาว์ผู้เข้าราวี | จะต้องศรศรีเพียงต้กษัย | ||
จึงจะจ้บได้แต่พี่ไป | อวตารจะให้ลงอาชญา | ||
จำกูจะช่วยแก้ไข | เอาผลบุญไปภายหน้า | ||
อย่าให้มอดม้วยชีวา | ก็ดลม้าเข้าพนาล้ย | ||
ร่าย | |||
๏ แล้วจึ่งไปดลกุมาร | ให้ออกพนัสสถานใหญ่ | ||
ครั้นเสร็จเสด็จขึ้นไป | ยังในฟากฟ้าดุษดี | ||
ฯ คุกพาทย์ เหาะ ๑๐ คำ ฯ | |||
๏ มาจะกล่าวบทไป | หน่อในอวตารร้งษี | ||
รัญจวนป่วนถึงพนาลี | ที่จะไปเที่ยวเล่นพนาวา | ||
ครั้นเช้าอำลามารดร | จับธนูศรชัยจะไปป่า | ||
สีดามิให้ไคลคลา | ลูกยาอย่าไปพนาลี | ||
คืนนี้แม่ฝันเห็นร้าย | ฦๅสายอย่าเข้าพนาศรี | ||
หูตากระเหม่นไม่ดี | วันนี้อย่าไปพนาลัย | ||
ฯ ๖ คำ ฯ | |||
๏ พระพี่น้องเทียบทูลชนนี | กรรมมีหาพ้นตายไม่ | ||
อันกาลวาตพนาลัย | ลูกไสร้เคยเล่นอยู่อ้ตรา | ||
แม้นข้ามิไปพนาลี | พระฤษีจะอดพฤกษา | ||
โภยภ้ยอะไรไม่มีมา | ถึงอ้ายยักษาไม่กลัวกัน | ||
แม้นมันฺทำร้ายลูกจะยิง | ให้กลิ้งอยู่ในพนาสัณฑ์ | ||
พระแม่จงให้จรจรรย์ | กรรแสงที่จะไปพนาวา | ||
ฯ ๖คำ ฯ | |||
โอดครวญ | |||
๏ สีดาส้วมสอดกอดจูบ | ลูบหน้าหลังกวดเกศา | ||
เจ้าไปเถิดพ่ออย่าโศกา | ว้นนี้กลับมาแต่วัน | ||
ฯ ๒ คำ ฯ | |||
๏ ฝ่ายสองพี่น้องอำลา | คว้าได้ธนูผายผัน | ||
ลาดาบสแล้วจรจรรย์ | เข้าอรัญวามิช้า | ||
ฯ เชิด ฯ | |||
๏ ครั้นถึงซึ่งป่ากาลวาต | องอาจเที่ยวไพรพฤกษา | ||
เก็บผลไม้กินสองรา | พอเห็นมิ่งม้าพาชี | ||
จึงบอกเจ้าลบน้องยา | มาเราช่วยกันจับขี่ | ||
ฯ เชิด ฯ | |||
๏ เออสัตว์อะไรอย่างนี้ | เรามิเคยพบเห็นมา | ||
แน่เจ้าดูเอาที่หลัง | ใคร่นั่งเล่นไปในป่า | ||
อะไรที่แขวนคอมา | ก็เอาสาราอ่านพลัน | ||
ฯ ๘ คำ ฯ | |||
ช้า | |||
๏ ใจความว่าองคอวตาร | ผู้ผ่านโภคัยไอศวรรย์ | ||
ปล่อยม้าใครขี่ให้ฆ่าฟัน | ถ้าข้าขอบข้นธ์ให้บูชา | ||
เออนี่อะไรใช่เมืองบ้าน | พานพะมาไยในป่า | ||
ถึงมาดติดตามมา | ใช่ว่าเราเป็นข้าไท | ||
มาเราจะขึ้นขี่เล่น | เช่นนี้จะกล้วเป็นไฉน | ||
ต้วเราก็ไม่ขบถใคร | ขึ้นพาชีชัยไปมา | ||
ฯ เชิดฉิ่ง เพลง ๖ คำ ฯ | |||
๏ มาจะกล่าวบทไป | ถึงหนุมานอาษา | ||
ซึ่งนำทัพกับตามอาชา | ล่าลอดสอดดูพาชี | ||
จึงเห็นกุมารขี่ม้า | โกรธาลัดเข้าพนาศรี | ||
แพละน้อย | |||
๏ ก็เผ่นโผนจบกุมารตี | กระบี่ต้องค้นศรสลบไป | ||
ฯ เชิด โอด ๔ คำ ฯ | |||
๏ ฝ่ายมงกุฎดาหนุมาน | กูผลานเถิดหรือให้ตักษัย | ||
เจ้าลบเอยลิงอะไร | ทำไมมันมาจับเรา | ||
ฯ ๒ คำ ฯ | |||
๏ เจ้าลบว่าเออไม่เข้ายา | อ้ายนี่มาทำเราเปล่า ๆ | ||
ว่าพลางทางวิ่งตามม้าเล่า | สองเจ้าเล่นในพนาลัย | ||
ฯ ๒ คำ เชิดฉิ่ง เพลง ฯ | |||
๏ หนุมานครั้นต้องพระพายถูก | ลูกลมกลับฟื้นขึ้นได้ | ||
ก็ผาดโผนแผลงฤทธิไกร | โตใหญ่เงือบเงื้อมเมฆา | ||
แล้วคิดเอะมีฤทธิ๋นัก | ศรศ้กดิ์ตีลงดั่งฟ้าผ่า | ||
อย่าเลยกูจะแปลงกายา | ก็เป็นลิงป่าเล็กเข้าไป | ||
ฯ แพละ น้อย ฯ | |||
๏ ถึงจึ่งตํ่าเตี้ยเงี่ยห้ว | ฝากตัวแล่นเล่นในป่าใหญ่ | ||
ปีนป่ายร่ายกิ่งค่าไม้ | ทำเป็นรักใคร่ไปมา | ||
ฯ ๖ คำ ฯ | |||
๏ ฝ่ายสองกุมารไม่สังเกต | หน่อนเรศคิดว่าลิงป่า | ||
๏ หนุมานโจนจับมิช้า | กุมาราตีลิงสลบไป | ||
ฯ เชิด โอด ๒ คำ ฯ | |||
๏ พระมงกุฎด่าโจนลงเงื้อง่า | กูฆ่าเถิดหรือให้ตักษ้ย | ||
เจ้าลบเอ่ยดูอ้ายจังไร | มันไม่หลาบเลยอนุชา | ||
ทำไมมันมาจับเรา | เอาหรือให้ม้วยสังขาร | ||
๏ เจ้าลบร้องห้ามพี่ยา | อย่าฆ่าเจ้านายมันมี | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
๏ มงกุฎด่าว่าอ้ายเจ้าเล่ห์ | เหม่พานมาไยพนาศรี | ||
จองหองจะเข้าราวี | กิริยาอ้ายนี้เข้าใช้มัน | ||
มาเราจะเอาเชือกเขา | มัดศอกมันเข้าให้มั่น | ||
จารึกหน้าไปบอกเจ้ามัน | ก็ชวนก้นเข้ามัดลิงไพร | ||
ฯ ตระ ฯ | |||
๏ มัดแล้วจารึกเศกมนต์เป่า | ต่อเจ้าของมึงจึ่งแก้ได้ | ||
ซํ้าตีมิให้บรรลัย | เร่งไปบอกเจ้ามึงมา | ||
ว่าพลางทางเผ่นขึ้นพาชี | ข้บขี่ควบเล่นในป่า | ||
ฯ เชิดฉิ่ง เพลง ฯ | |||
๏ เล็มล่าหาผลพนาวา | ได้มาก็สู่กันพลัน | ||
ฯ ๘ คำ ฯ | |||
๏ ฝ่ายหนุมานซึ่งต้องม้ด | สะบัดตะบึงยิ่งรึงมั่น | ||
เวทนาน่าอายเทวัญ | โศกศัลย์มายังทัพชัย | ||
ฯ เชิด โอด ฯ | |||
พระพรตจับพระมงกุฎ
๏ ครั้นถึงจึ่งเฝ้าพระพรต | กำสรดหาบอกความไม่ | ||
๏ พระพรตเห็นต้องม้ดไป | ตัดด้วยพระขรรค์ชัยมิช้า | ||
ฯ ตะบองกัน ฯ | |||
๏ เชือดเถือเท่าไรก็ไม่ขาด | ประหลาดอัศจรรย์หนักหนา | ||
๏ หนุมานเจ็บร้องเจรจา | อุ่ยหน่าโอยอย่าภูมี | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
๏ พระพรตจึงเห็นอักษร | ที่หน้าวานรกระบี่ศรี | ||
นิ่งอยู่กูจะดูหน้งสือมี | ได้เนื้อความบอกกระบี่พลัน | ||
ในลักษณว่าถ้าจะแก้ | แม้นแลมิใช่เจ้าจงติดมั่น | ||
ท่านเร่งเข้าไปบังคมคัล | มันอยู่หาไหนบอกมา | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
๏ หนุมานทูลบุ้ยปากไป | มันอยู่ในไพรพฤกษา | ||
นะแน่งนิ่มน้อยสุนทรา | ข้าประมาณชันษาสิบปี | ||
ฯ ๒ คำ ฯ | |||
๏ พระพรตก็ไปตามว่า | หนุมานเหาะมากรุงศรี | ||
ฯ เชิด โอด ฯ | |||
๏ ฝ่ายข้างพระรามเห็นกระบี่ | ภูมีกริ้วโกรธโกรธา | ||
เหม่อ้ายพญาหนุมาน | แต่มึงทำการอาสา | ||
ฆ่าอสุรม้วยทั้งลงกา | บัดนี้พามัดมาหากู | ||
ฯ ๖ คำ ฯ | |||
๏ หนุมานครวญครางร้องไห้ | ไม่ทูลได้ซบเศียรอยู่ | ||
พระรามเห็นอักษรอ่านดู | ก็รู้ว่าต้องมนตรา | ||
จึงเอาพระหัตถ์ลูบหลุด | พระทรงภุชขัดแค้นหนักหนา | ||
๏ หนุมานก้มกราบทูลลา | ถ้ามิได้ข้าศึกไม่กลับคืน | ||
ว่าพลางเหาะขึ้นเวหา | ขัดแค้นโศกาสะอื้น | ||
ฯ เชิด ฯ | |||
๏ ก็เหาะลงมาแผ่นพื้น | ฝ่าฝืนเข้านำท้พไป | ||
ฯ ๖ คำ ฯ | |||
๏ พระพรตร้องถามหนุมาน | พระอวตารยังว่าเป็นไฉน | ||
หนุมานว่าโกรธฟูนไฟ | อย่าพิไรมาไปต่อตี | ||
ทูลพลางทางออกนำท้พ | กลับกลายแปลงองค์กระบี่ศรี | ||
สี่กรสี่พักตร์รูจี | ก็นำไปที่กุมารพลัน | ||
ฯ กราว ตระ ๔ คำ ฯ | |||
๏ มาจะกล่าวบทไป | หน่อไทนารายณ์ไอศวรรย์ | ||
เห็นชี้บอกแก่น้องพลัน | นั่นแนอริราชยกมา | ||
ว่าพลางทางลงขึ้นศิลป์ | แผ่นพื้นด้าวดิ้นดั่งฟ้าผ่า | ||
ขวางออกบอกความเจรจา | ดูกรท่านมาไย | ||
ทำไมอุกมาถึงนี่ | องอาจอวดดีหรือไฉน | ||
เราเป็นเจ้าป่าพนาลัย | เราไสร้ไม่ให้จรลี | ||
ฯ ๖ คำ ฯ | |||
๏ ฝ่ายอาว์ขับรถเข้าบัญชา | เรามาหาผู้จับม้าขี่ | ||
เหตุเจ้าร่วมอาสน์โมลี | กับตีมัดผูกหนุมาน | ||
พระอวตารให้เชิญเจ้าเข้าไป | แม้นขัดแข็งให้เราสังหาร | ||
มาเข้าไปเฝ้าพระอวตาร | หาไม่จะสังหารบัดนี้ | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
๏ ฝ่ายสองพี่น้องตอบว่า | อย่าจองหองฆ่าเราสองศรี | ||
ทำไมมิให้จับม้าขี่ | ม้านี้ของใครว่ามา | ||
มาดแม้นถ้าม้าของเธอ | เออปล่อยมาไยในป่า | ||
เราได้ขี่เล่นไปมา | ชอบว่าขอเราจะให้ไป | ||
มากลับว่าเราองอาจ | ราชฐานโรงโกงอยู่ไหน | ||
ทําไมมิให้มัดลิงไป | ใครใช้มันมาราวี | ||
ฝ่ายเราเห็นแก่อวตาร | จึงไม่ประหารกระบี่ศรี | ||
มัดไปให้แจ้งคดี | ชอบแต่จะขอบไมตรีกัน | ||
นี่ถ้อยไม่ถามความไม่ว่า | เจรจาแต่ล้วนจะหํ้าหั่น | ||
เออสังหารมามาเล่นกัน | กระชั้นรุกว่าอย่าดูเบา | ||
ชิตาพหลสกลไกร | จะทำไมใครหรือเจ้า | ||
อวดหาญแกล้งมาพาลเรา | เอาเถิดจะต่อฤทธา | ||
ฯ ๑๒ คำ ฯ | |||
๏ ฝ่ายพระอาว์ตอบวาที | สองศรีอย่าก้องแก้งว่า | ||
เจ้าย้งเด็กเล็กสุนทรา | เราเมตตาดอกกุมาร | ||
มาดแม้นไม่ลุกะโทษไท | ที่ไหนจะพ้นสังหาร | ||
แน่เจ้าอันศรอวตาร | ผลาญสิบสี่โลกก็บรรลัย | ||
เทพามนุษย์รู้สิ้น | เมืองแมนแดนดินหวาดไหว | ||
ทำไมขี่ม้าของไท | ไม่แจ้งในสารหรือว่ามา | ||
ฯ ๖ คำ ฯ | |||
๏ ฝ่ายพี่น้องตอบพจมาน | ราชสารอะไรในป่า | ||
เมื่อมีแต่ลิงวิ่งตามมา | อุกอาจเข้าป่าเราไย | ||
ชิชะว่าเราก้องแก้งเด็ก | ถึงเล็กก็หากลัวผู้ใหญ่ไม่ | ||
ท่านอย่าอวดองทะนงไป | เราไม่ครั่นคร้ามวาจา | ||
ตัวเราผู้ตั้งอยู่ในธรรม์ | หาพรั่นพรึงไม่อย่าว่า | ||
อุ่ยหนาข้ากลัววิทยา | โกรธาดันดึงพาที | ||
ฯ กราวรำ ๖ คำ ฯ | |||
๏ ฝ่ายพระพรตโกรธกริ้ว | หลิ่วแลเล็งยิงสองศรี | ||
ศรเป็นข่ายแก้วราวี | ให้ไปพิฆาฎกุมารา | ||
ฯ เชิด ๒ คำ ฯ | |||
๏ ฝ่ายพระสัตรุตก็ผลานแผลง | เป็นเพลิงเริงแรงเวหา | ||
เปลวปลาบวาบถึงพระสุธา | รารอรอบองค์พระกุมาร | ||
ฯ เชิด ๒ คำ ฯ | |||
๏ พระมงกุฎกวางศรไป | เป็นพระขรรค์เพ็ชรไล่สังหาร | ||
ฟาดฟันข่ายแก้วอสุรกาฬ | บันดาลแพ้ฤทธิหายพลัน | ||
ฯ เชิด คำ ๒ ฯ | |||
๏ พระลบก็ผลานแผลงซํ้า | เป็นนํ้าล้างไฟที่กางกั้น | ||
พระพี่น้องเยาะเย้ยไปพลัน | หุนหันเข้าต่อฤทธา | ||
ฯ เชิด ฯ | |||
๏ ยิงถูกพระสัตรุดพระพรต | ตลอดหมดทั้งพลอาษา | ||
ระเนนล้มวินาศดาษดา | อนุชาแผลงซํ้าตระหนํ่าไป | ||
ฯ เชิด โอด ๔ คำ ฯ | |||
๏ หนุมานครั้นต้องพระพายฟื้น | ฝ่าฝืนเข้าหากลัวไม่ | ||
ฯ เชิด ฯ | |||
๏ พระมงกุฎตีด้วยธนูชัย | ลิงไพรสลบซบซอน | ||
จึงบอกเจ้าลบเอ๋ยดูลิง | มันกลิ้งอยู่แล้วด้วยคันศร | ||
๏ พระลบซํ้าโบยราญรอน | อ้ายวานรตายแล้วพี่ยา | ||
ฯ กราวรำ ๔ คำ ฯ | |||
๏ ฝ่ายพระพรตฟั่นฟื้น | ขืนอารมณ์เสี่ยงคาถา | ||
เดชะพระเดชเดชา | พี่ยานารายณ์ช่วยพลัน | ||
บัดนี้ต้วข้าต้องศร | อย่าให้ม้วยมรณ์อาสัญ | ||
อธิษฐานพลางทานํ้ามัน | พลันเนื้อติดหายเป็นดี | ||
ฯ ตระ ๔ คำ ฯ | |||
๏ แล้วคิดดูฤทธิกุมาร | คล้ายองค์อวตารเรืองศรี | ||
เนื้อนะแน่งนวลนิลรูจี | ศรีทรงเหมือนองค์ภูวนัย | ||
หรือว่าลูกนางสีดา | เชษฐาให้ฆ่าหาม้วยไม่ | ||
ก็ผิดที่เจ้าล้กษมณ์ว่าบรรลัย | ครั้นจะท้กไปอายวิญญาณ์ | ||
คิดแล้วจึงตั้งอธิษฐาน | แม้นกุมารเป็นวงศ์พงศา | ||
นํ้าเนื้อเชื้อชาติพี่ยา | ให้พลเป็นมาบัดนื้ | ||
ตั้งสัตย์ตร้สพลางสำรวมมนต์ | รี้พลเป็นขึ้นอึงมี่ | ||
ทั้งพระสัตรุดเป็นดี | ภูมีเร่งอัศจรรย์ใจ | ||
จำเป็นจำกูจะแผลงผลาน | ตามคำอวตารผูใช้ | ||
คิดพลางวางวิรุนปานำไป | ศรชัยเป็นนาคนาคี | ||
ฯ กลม ๑๐ คำ ฯ | |||
๏ ฝ่ายพระสัตรุดก็แผลงผลาน | เป็นเพลิงกาลไปเจียวจี่ | ||
รอบหน้าในศรวาสุกรี | ศรไม่ยายีสองรา | ||
ฯ ตะบองกัน ๒ คำ ฯ | |||
๏ ฝ่ายพระมงกุฎก็แผลงผลาน | บันดาลเป็นพระยาปักษา | ||
ฯ แพละ ฯ | |||
๏ พระลบแผลงเป็นท่อธารา | ดับวิทยาซึ่งเป็นไฟ | ||
ฯ ปรายเข้าตอก ๒ คำ ฯ | |||
๏ ฝ่ายศรซึ่งไปเป็นครุฑ | ฉวยฉุดนาคหนีตามไล่ | ||
แล้วแผลงศรชํ้ากระหนํ่าไป | รุกไล่เขาต่อฤทธา | ||
ฯ เชิด ๒ คำ ฯ | |||
๏ หนุมานครั้นต้องพระพายเป็น | เต้นแอบแนบบังพฤกษา | ||
คอยมองจับสองกุมารา | สอดนัยนาดูท่วงที | ||
ฯ แพละน้อย ๒ คำ ฯ | |||
๏ ฝ่ายอาว์ขึ้นศรพรหมาศ | พาดสายเสี่ยงทูนเหนือเกศี | ||
มาดแม้นเป็นวงศ์พงศ์พีร์ | ศรศรีอย่ากินกุมารา | ||
แต่พอสลบจ้บได้ | จะเอาไปถวายเชษฐา | ||
เสี่ยงพลางทางตั้งสัจจา | ว่าแล้วก็ผลานแผลงพลัน | ||
ฯ เชิด ๔ คำ ฯ | |||
๏ พระมงกุฎรับข้อพระกรอ่อน | พระนลาตกระทบศรรังสรร | ||
ฯ เชิด ฯ | |||
๏ ล้มกลิ้งลิงเข้าจับพลัน | คาดคั้นเอาสองกุมารา | ||
ฯ เชิด โอด ๒ คำ ฯ | |||
๏ ฝ่ายเจ้าลบลอดหนีได้ | ด้นดั้นเข้าไพรพฤกษา | ||
ฯ กลม ฯ | |||
๏ หนุมานมัดเอามงกุฎมา | พาเข้าถวายฉับพลัน | ||
ฯ ๒ คำ เตียว ฯ | |||
๏ พระพรตเห็นร้องสั่งไป | ขันขึงมันให้แน่นมั่น | ||
ฯ เจรจา ฯ | |||
(ทรงแทรก) | |||
๏ หนุมานจำใส่ตะโหงกพลัน | มอบกันร้กษากุมารา | ||
๏ พระพรตจึงสั่งหนุมาน | เร่งจัดทหารค้นป่า | ||
น้องม้นวิ่งเข้าพนาวา | รีบร้นค้นหาบัดนี้ | ||
ฯ เจรจา ฯ | |||
๏ หนุมานรับสั่งสั่งพลัน | ให้พลขันธ์ค้นพนาศรี | ||
ฯ เชิด ฯ | |||
๏ พลขันธ์เข้าค้นพนาลี | มิพบก็เข้าบงคมคัล | ||
ฯ เชิด ฯ | |||
๏ ข้าค้นหาอ้ายกุมารหนี | ทุกซอกพนาลีเขตต์ขัณฑ์ | ||
จบทั่วไม่พบตัวมัน | อัศจรรย์หนกหนาภูมี | ||
ฯ เจรจา ฯ | |||
๏ พระพรตก็สั่งทันใด | จวนอโณทัยคล้อยรังสี | ||
ก็เลิกพหลมนตรี | กลับรี้พลคืนพารา | ||
ฯ กราว ฯ | |||
๏ ฝ่ายข้างเจ้าลบเห็นทัพกลับ | ลับเนตรแล้วออกค้นหา | ||
ล่าลอดสอดดูพี่ยา | พบแต่ธนูศิลป์ชัย | ||
โออนิจจาพระพี่เอ๋ย | กรรมสิ่งใดเลยมาซัดให้ | ||
มาดแม้นถ้าม้วยบรรลัย | น้องไม่ขออยู่จะตายตาม | ||
เป็นสัตย์สุจริตพระพี่ | น้องมิได้คิดเข็ดขาม | ||
ครั้นน้องจะเข้าไปตาม | ความนี้ไม่แจ้งชนนี | ||
น้องขอไปแจ้งอาจารย์ | แล้วจะลามารดาไปตามพี่ | ||
โอ้ว่าเทวัญจันทรี | ปรานีอย่าให้มรณา | ||
คิดพลางทางหยิบเอาศิลป์ศร | บทจรคนึงถึงเชษฐา | ||
ก็แจ้งใสในราชปัญญา | อ่อเทวาบังให้กู | ||
ดีร้ายพระพี่ไม่ม้วย | เมื่อเข้าไปช่วยจะได้สู้ | ||
คิดพลางยกศิลป์ใส่เศียรชู | ก็วางวู่กรรแสงวิ่งมา | ||
ฯ เชิด โอด ฯ | |||
(ทรงแทรก สุดดรงนี้) | |||
๏ ครั้นถึงจึงร้องแถลงสาร | บันดาลโอดโอยโหยหา | ||
สะอึกสะอื้นเจรจา | เขาเข่นฆ่าจับพระพี่ไป | ||
ครั้นข้าจะเข้าไปตาม | หาใครมาบอกความไม่ | ||
ขอลามารดาอาจารย์ไป | ติดตามภูวนัยพี่ยา | ||
ฯ ๑๖ คำ ฯ | |||
พระลบแจ้งข่าวนางสีดา พระมงกุฎถูกจองจำ
โอ้ | |||
๏ สีดาฟังลูกลบทูล | อาดูรเทวศเสน่หา | ||
โอ้ว่ามงกุฎเจ้าแม่อา | อนิจจามาจากแม่ไป | ||
มาดแม้นถ้าฟังคำแม่ | เที่ยงแท้หามอดม้วยไม่ | ||
ป่านนี้จะเป็นประการใด | หรือบรรล้ยแล้วลูกยา | ||
แม่ไม่เห็นเลยว่าบุญน้อย | ร้อยชั่งมาด้บสังขาร์ | ||
มาดแม้นถ้าม้วยมรณา | แม่จะกลั้นชีวาตายตามไป | ||
พระลบลูกน้อยของแม่เอ๋ย | ทรามเชยเจ้าจงแถลงไข | ||
เดิมเหตุเภทผลกลใด | อย่างไรเขาจับพี่ยา | ||
ฯ ๘ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
๏ พระลบกราบทูลมารดร | เดิมบทจรเล่นป่า | ||
มีสัตว์ต้วหนึ่งเจษฎา | หนังสือแขวนมาว่าพาชี | ||
ฝ่ายข้าพี่น้องขี่เที่ยว | บัดเดี๋ยวเผือกผู้กระบี่ศรี | ||
ม้นจู่โจนจับพระพี่ตี | กระบี่ต้องคันศรสลบพลัน | ||
จึงช่วยกันมัดลิงปล่อย | ลิงน้อยวิ่งเข้าพนาสัณฑ์ | ||
ก็เที่ยวเล่นป่าพนาวัน | จึงพบพลข้นธ์ยกมา | ||
นายกองร้องบอกพระพี่ | ว่ามีรับสั่งให้หา | ||
พระพี่กริ้วโกรธโกรธา | มันอหังการ์แล้วก็ชิงชัย | ||
ต่างต่างยิงก้นไปมา | มันร้องว่าอวตารใช่ | ||
ข้าก้บพระพี่วางศรไป | บรรลัยหมดแล้วพระมารดา | ||
อยู่สักประเดี๋ยวเป็นคืน | ฝืนเข้าต่อรบฝ่ายข้า | ||
มันแผลงศรหนึ่งมหึมา | กระทบหน้าผากพี่สลบไป | ||
ฝ่ายข้าก็ยิงศรสู้ | อ้ายวานรจู่จ้บพี่ได้ | ||
ฝ่ายม้นรวบข้าเข้าไว้ | ข้าปลิ้นออกได้หนีมา | ||
ครั้นทัพกลับแล้วข้าไปตู | เห็นธนูศรไชยเชษฐา | ||
อัศจรรย์อยู่แล้วพระมารดา | กิริยาเทวาปรานี | ||
มาดแม้นถ้าตามเห็นได้ | เหมือนหนึ่งจะให้ชิงชัยศรี | ||
พระแม่พระตาจงปรานี | จับธนูศรศรีอำลา | ||
ฯ ๑๘ คำ ฯ | |||
โอ้ | |||
๏ สีดาคร่าฉุดยุดไว้ | ยังจะไปอีกหรือให้ว่า | ||
เมื่อไม่ฟังเลยนี่ลูกยา | พระฤษีขาจะดึงไป | ||
อันลิงผ่องเผือกผู้ขาว | คือทหารห้าวแห่งผู้ใหญ่ | ||
ชื่อหนุมานชาญชัย | สองไทคือองค์อนุชา | ||
ชะรอยรู้ว่าไม่ตาย | จึ่งจองร้ายทำลูกข้า | ||
โอ้ว่ามงกุฎเจ้าแม่อา | อนิจจามาจากแม่ไป | ||
พระลบลูกน้อยของแม่เอ๋ย | ทรามเชยฟังแม่แถลงไข | ||
พี่เจ้าก็ม้วยบรรลัย | แม่ได้เห็นหน้าแต่ลูกยา | ||
เป็นกรรมสิ่งไรมาจองผลาญ | พระอาจารย์ขาเขาจึงเข่นฆ่า | ||
เมื่อเท่านี้หรึอมิเมตตา | อ้ายใจมหาย้กษ์จังไร | ||
ถึงมาดดุก็เป็นเด็ก | ไม่ควรที่ทำลูกเล็กได้ | ||
แสนโศกวิโยคอาลัย | สะอึกสะอื้นไห้ไปมา | ||
ฯ โอด ๑๒ คำ ฯ | |||
ยานี | |||
๏ ฤษีก็เข้าฌานดู | รู้ว่ากุมารไม่สังขาร์ | ||
จึงบอกนวลนางสีดา | เจ้าอย่าได้ร้อนรนใจ | ||
จึงให้อ้ายลบเอาแหวนก้อย | ลูกน้อยของมึงไปแก้ไข | ||
ญาณี | |||
๏ สีดาก็รูดส่งไป | ตามแต่ท่านไทพระมุนี | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
ยานี | |||
๏ ฤษีจึงสั่งพระลบหลาน | แม้นนางคราญหนึ่งส่งศรี | ||
นะแน่งนิ่มนวลรูจี | มิได้กะพริบนัยนา | ||
ถ้าเห็นนางมาตักนํ้า | มึงทำอ้อนวอนจงหนักหนา | ||
ว่าจะช่วยตักให้เอาบุญญา | นางจะพาไปรดกุมาร | ||
จึงเอาแหวนใส่ในขะนน | เศกมนต์แล้วเจ้าอธิษฐาน | ||
นางนั้นแลเทพบันดาล | ชลธารถึงแล้วจะรอดมา | ||
ฝ่ายเจ้าอย่าได้ประมาท | อ่านวิทยาศาสตร์คาถา | ||
เข้าแอบอยู่แทบทวารา | ไปกว่าจะพบนวลนาง | ||
แต่ว่าอย่าเพ่อคลาไคล | พระเคราะห์ยังให้ขัดขวาง | ||
สีดาจงเสี่ยงสัตย์นาง | พลางเข้ามณฑลกุมารา | ||
ฯ ตระ ๑๐ คำ ฯ | |||
ยานี | |||
๏ มาจะกล่าวบทไป | ถึงไทไตรตรึงษ์ดึงสา | ||
ปรานีฤษีสีดา | เมตตาลงช่วยกุมาร | ||
ซึ่งต้องรัดรึงขึงไป | ก็ไม่เจ็บปวดเกษมสานต์ | ||
ด้วยกรรมทำหน่ออวตาร | จึงบันดาลดลอาว์ไป | ||
ที่พระอาว์ว่าจะแจ้งกิจ | กรรมปิดหาทูลได้ไม่ | ||
ก็จะให้ว้าวุ่นขุ่นเคลิ้มใจ | ครั้นช่วยแล้วไปวิมานพลัน | ||
ฯ เชิดปฐม ๖ คำ | |||
ร่าย | |||
๏ ฝ่ายอาว์ครั้นถึงซึ่งกรุงไกร | ขึ้นไปเฝ้าไทไอศวรรย์ | ||
๏ พระรามเห็นเรียกน้องพลัน | ได้มันหรือไม่ไพรี | ||
ฯ เจรจาในเพลง ๒ คำ เสมอ ฯ | |||
๏ พระสัตรุดพระพรตทูลไป | จับได้มันมาแต่พี่ | ||
อ้ายน้องวิ่งเข้าพนาลี | หนีรอดไม่ได้ตัวมา | ||
ทูลพลางสะท้อนฤทัย | ข้ดแค้นใจหนักเชษฐา | ||
แต่ข้ารองเบื้องบาทา | ไม่ต้องอาวุธผู้ใด | ||
ครั้งนี้มันยิงตลอดปรุ | ถูกทะลุรี้พลม้วยไหม้ | ||
หากอธิษฐานเอาบุญไท | จึงได้มารองบาทา | ||
ฯ ๖ คำ ฯ | |||
ช้า | |||
๏ เมึ่อนั้น | พระรามสุริวงศ์รุ่งฟัา | ||
จึงตรัสแก่สองอนุชา | ทั้งพญาหนุมานชาญชํย | ||
อันอ้ายกุมารมีฤทธิ์นัก | จึงอาณาจักรลั่นหวั่นไหว | ||
หากเจ้ากับหนุมานไป | หาไม่ไม่ได้ตัวมา | ||
นี่แน่เจ้าให้เขาจองจำ | ทำโทษแก่มันให้หนักหนา | ||
เอาขึ้นขาหย่างกลางภารา | ทะเวนให้ครบเจ็ดวัน | ||
แล้วจึ่งบั่นเศียรเสียบไว้ | ให้เลื่องลือไปเขตต์ข้ณฑ์ | ||
อย่าให้มันดูเยี่ยงกัน | ไว้มันจะเป็นราคี | ||
ฯ ๘ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
๏ พระลักษมณ์ก็รับสั่งลา | ให้หาตำรวจอึงมี่ | ||
ฯ เจรจา ฯ | |||
๏ ตำรวจเข้าทูลทันที บัดนี้นครบาลมา | |||
ฯ เจรจา ๒ คำ ฯ | |||
๏ ฝ่ายองครักษ์จ้กรนารายณ์ | วุ่นวายแก่กันหนักหนา | ||
ประนังทำจำจองกุมารา | โซ่ตรวนขื่อคาครบครัน | ||
ทั้งม้ดทั้งผูกรังรึง | ขันขึงเข้าไว้แน่นมั่น | ||
พนมแอกแตกขื่อโยงมือพลัน | กระสันใส่พืดตรึงตรา | ||
ครั้นเสร็จเอาขึ้นขาหย่าง | ย่างแดดลมไว้เวหา | ||
ฯ เจรจา ฯ | |||
๏ แทบตะแลงแกงกลางภารา | ทะเวนไปตามสั่งพล้น | ||
ฯ เจรจา ๖ คำ ฯ | |||
ยานี | |||
๏ มาจะกล่าวบทไป | ชาวในนิเวศเขตต์ข้ณฑ์ | ||
อีกทั้งไพร่ฟ้าข้าขอบคัน | ชวนกันไปดูกุมาร | ||
เห็นต้องระนังรังรึง | คะนึงพะวงสงสาร | ||
รูปทรงเหมือนองค์อวตาร | ครั้นจะบันดาลทักก็กลัวภัย | ||
แต่สะกิดกระซิบบอกเพื่อน | ความเหมือนตละหนึ่งเถือไส้ | ||
เออนี่ลูกเต้าของใคร | ไฉนจึงมาอหังการ์ | ||
เมื่อเจ้าเด็กเล็กเท่านี้ | หรือมีฤทธีแกล้วกล้า | ||
โอ้ว่าแต่เครื่องพันธนา | หนักหนานักน่าไม่ข้ามคืน | ||
เจ้าเหวยข้าขอให้ทาน | นักโทษกุมารแต่พอชื่น | ||
กินนี่หรือพ่อแต่พอฟื้น | ขืนให้เสวยโภชนา | ||
ลางบ้างก็ให้นํ้าอ้อย | กินเถิดอร่อยหนักหนา | ||
พอหายระหวยวิญญาณ์ | ทาไส้ให้มีแรงไป | ||
ฯ ๑๒ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
๏ พระมงกุฎขอบใจให้ทานต่อ | ข้าขอทานเขาเราให้ | ||
๏ ผู้คุมรับปันกันไป | ทะเวนคลาไคลมิช้า | ||
ฯ เดียว ๒ คำ ฯ | |||
โอ้ร่าย | |||
๏ พระมงกุฎคะนึงถึงเหตุ | ทูนเทวศเสร้าสร้อยละห้อยหา | ||
โอ้ว่าอาจารย์มารดา | ไม่รู้ว่าเป็นประการใด | ||
มาดแม้นถ้าน้องไม่ม้วย | จะได้ไปช่วยแถลงไข | ||
ก็ไม่แจ้งเหตุเภทภัย | ทำไฉนจะรู้คดี | ||
คิดแล้วจึ่งกลั้นความโศกถาม | ออกนามเมื่อชิงชัยศรี | ||
๏ ผู้คุมก็บอกทันที | หนีรอดไม่ได้ตัวมา | ||
ฯ ๖ คำ ฯ | |||
ครวญ | |||
๏ มงกุฎครวญครํ่ารํ่าไร | หม่นไหม้ดุจดังจะเป็นบ้า | ||
มาดแม้นถ้าน้องถึงมารดา | หน้าที่จะทรงโศกี | ||
อีกทั้งพระมุนีเจ้า | จะโศกสร้อยเสร้าหมองศรี | ||
ที่ไหนจะได้สมฤดี | เหมือนแกล้งชนนีอาจารย์ | ||
โอ้ว่าถ้าฟังคำแม่ | เที่ยงแท้ไม่จากถิ่นฐาน | ||
โพยภัยไม่มีมาพาน | จะสำราญทั้งอาตมา | ||
เสียแรงกูเอากำเนิด | ให้ซ้ำเกิดโทษไปภายหน้า | ||
แสนโศกวิโยคโศกา | ตรึกตราตั้งสัจจวาที | ||
แล้วเสี่ยงเอาคุณมารดา | ทั้งคุณเทวาฤษี | ||
อธิษฐานพลางจรลี | จนสิ้นแสงศรีสุริยา | ||
ฯ ๑๐ คำ ฯ | |||
๏ ผู้คุมครั้นไปทะเวนเสร็จ | พาเสด็จย่างไว้เวหา | ||
รักษาตรวจจัดอัตรา | ครบห้าหกวันราตรี | ||
ฯ เจรจา ๒ คำ ฯ | |||
พระลบช่วยพระมงกุฎหนี พระรามเตรียมยกทัพไปจับพระมงกุฎ
ยานี | |||
๏ มาจะกล่าวบทไป | ถึงไทท่านท้าวโกสีย์ | ||
ใช้รัมภาเทวะจรลี | นารีไปช่วยกุมาร | ||
บัดนี้ฤษีจะให้หลาน | แอบทวารไพชยนต์พิศาล | ||
เขาจะอ้อนวอนตักชลธาร | เยาวมาลย์เจ้าให้กระออมพลัน | ||
ถ้าเขาเอานํ้ามาส่ง | จงพาเข้าในเขตตขัณฑ์ | ||
เจ้ารดกุมารฉับพลัน | พันธนาหลุดแล้วบังมา | ||
ให้พ้นจากที่จองจำ | นำออกยังไพรพฤกษา | ||
๏ รัมภาก็รับสั่งลา | มาดูท่าทางทันที | ||
ฯ เพลงพิราบป่า ๘ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
๏ มาจะกล่าวบทไป | ถึงไทชะมฤคฤษี | ||
สั่งแก่หลานลบทันที | จงเอาศรศรีพี่มึงไป | ||
กับทั้งธนูของมึง | จึงจะได้ช่วยกันแก้ไข | ||
เอ็งทำตามสั่งแต่ไร | เจ้าไปเถิดเร่งจรลี | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
๏ พระลบก้มกราบอำลา | ทั้งพระมารดาฤษี | ||
เคารพอภิว้นท์ยินดี | พาแหวนศรศรีบทมาลย์ | ||
ฯ ปลูกต้นไม้ ฯ | |||
๏ ถึงจึ่งแอบองค์ตามสั่ง | บังทวารไพชยนต์พิศาล | ||
แลลอดสอดคอยนงคราญ | ตามคำอาจารย์บัญชา | ||
ฯ พันพิลาป ๔ คำ ฯ | |||
๏ ฝ่ายรัมภานางซึ่งลงช่วย | ขวยเขินแกล้งทำเป็นทาษา | ||
กระเดียดกระออมลีลา | ออกมาแทบปากทวารชัย | ||
ฯ เพลงแขก ๒ คำ ฯ | |||
๏ ฝ่ายข้างพระลบเห็นนาง | เยื้องย่างออกกล่าวแถลงไข | ||
พี่ขาตักนํ้าทำไม | ข้าตักให้หรือนที | ||
ฯ เจรจา ๒ คำ ฯ | |||
๏ นางว่าจะไปให้ทาน | กุมารโทษชิงชัยศรี | ||
วันนี้แล้วเขาจะฆ่าตี | ปรานีใคร่สรงคงคา | ||
ฯ เจรจา ๒ คำ ฯ | |||
๏ พระลบขอตักชลธาร | เหมือนท่านให้ทานบุญข้า | ||
นางส่งกระออมมิช้า | ตักมาเถิดเจ้าอย่านาน | ||
ฯ ๒ คำ ฯ | |||
๏ พระลบจึงลงตักนํ้า | กระทำเศกเป่าอธิษฐาน | ||
ฯ ตระ ฯ | |||
๏ เอาแหวนใส่ในชลธาร | เสร็จการขึ้นจากวารี | ||
ฯ เดียว ฯ | |||
๏ ครั้นถึงจึงส่งกระออมให้ | เข้าแอบทวารชัยศรี | ||
ฯ กลม ฯ | |||
๏ รัมภาก็พาจรลี | ไปที่กุมารมิช้า | ||
ฯ เพลง ๔ คำ ฯ | |||
๏ ฝ่ายข้างผู้คุมถามไถ่ | ตักน้ำทำไมทาษา | ||
๏ นวลนางชะม้อยเจรจา | ข้าปรารถนาเอาบุญ | ||
เพื่อจะให้ทานน้ำเป็นทาน | กุมารโทษที่จะดับสูญ | ||
เอ็นดูเถิดเจ้าเอาบุญ | ทำคุณขอให้นที | ||
ฯ เจรจา ๔ คำ ฯ | |||
๏ ฝ่ายข้างผู้คุมพานเกี้ยว | มานี่ประเดี๋ยวก่อนสาวศรี | ||
ไปไหนไม่ให้จรลี | กรุณาพี่จึงจะให้คลา | ||
ฯ ๒ คำ เจรจา ฯ | |||
๏ ฝ่ายรัมภาตอบเป็นพาล | ให้ทานแล้วจึงจะมาหา | ||
ฯ เจรจา ฯ | |||
๏ ผู้คุมก็ให้ไคลคลา | อย่าช้านักเร่งออกไป | ||
ฯ สะระบุหรง ๒ คำ ฯ | |||
๏ รัมภาพานํ้าเข้าไปสรง | ธำมรงค์บังเอิญสรวมใส่ | ||
พันธนาหลุดแล้วเอาใจ | มาไปเถิดพ่ออย่าโศกา | ||
บัดนี้อาจารย์มารดร | ร่านร้อนรัญจวนป่วนหา | ||
ให้น้องน้อยลบตามมา | ว่าพลางทางพาจรลี | ||
ฯ ตะบองกัน พิลาป ฯ | |||
ร่าย | |||
๏ ฝ่ายพระมงกุฎขอบคุณ | อาดูรถึงมารดาฤษี | ||
ดีใจได้แหวนชนนี | ติดนิ้วชี้ตามนางไป | ||
ฯ เพลง ฯ | |||
๏ เดชะเดชเทวะธำมรงค์ | ใครแลหาเห็นองค์ไม่ | ||
ครั้นถึงซึ่งปากทวารชัย | นางฟ้าก็ไปวิมานพลัน | ||
ฯ เหาะ ๔ คำ ฯ | |||
๏ ฝ่ายข้างพระลบเห็นพี่ | โศกีออกรับเกษมสันต์ | ||
ถวายศิลป์ธนูพลัน | พากันเข้ายังอรัญวา | ||
ฯ เชิด ๒ คำ ฯ | |||
๏ มาจะกล่าวบทไป | ฝ่ายผู้พิทักษ์รักษา | ||
แลไปไม่เห็นกุมารา | อัศจรรย์วิ่งหาวุ่นวาย | ||
บ้างบอกแก่ก้นไปมา | พอพริบตาลงเห็นหาย | ||
ชะรอยรู้บังเลื่อมกาย | หายตัวล่องหนสะเดาะไป | ||
ลางบ้างตามรอยบทจร | ออกนอกนครเข้าป่าใหญ่ | ||
ฯ เชิด ฯ | |||
๏ รอยเท้าก้าวเป็นสองคนไป | ครั้นทันจะเข้าใกล้กลัวฤทธี | ||
พระมงกุฎเหลือบเห็นร้องเจรจา | ให้เจ้ามึงมาชิงชัยศรี | ||
๏ ผู้ตามขามฤทธิ์วาที | เกลือกมิอยู่ช้าไม่พ้นภัย | ||
ฯ ๘ คำ ฯ | |||
๏ ฝ่ายพระพี่น้องร้องด่า | กูหาหนีพ่อแม่มึงไม่ | ||
ชวนน้องเก็บผลมิ่งไม้ | กินถ้าอยู่ที่ไพรวัน | ||
ฯ ๒ คำ ฯ | |||
๏ ผู้คุมแบ่งกันมาแจ้งเหตุ | เข้าในนิเวศเขตตข้ณฑ์ | ||
ก้มเกล้ากราบเรียนสุมันตัน | ตามอันคดีมีมา | ||
ฯ เจรจา ๒ คำ ฯ | |||
๏ สุมันตันจึ่งเข้ากราบทูล | ไอสูรย์บรมนาถา | ||
๏ ก็กริ้วโกรธให้เตรียมโยธา | กูจะกรีฑาทัพต่อตี | ||
เหม่มึงออกไปจองจำ | อ้ายผู้ทำให้กุมารหนี | ||
แล้วเร่งรัดกันจงทันที | กูจะกรีฑาทัพตามไป | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
๏ พระอนุชารับสั่งเตรียมท้พ | สรรพทั้งพยุหน้อยใหญ่ | ||
ฯ เจรจาฯ | |||
๏ สุมันตันจองจำกันไป | ตรากตรำกันไว้ตามบัญชา | ||
๏ ครั้นเสร็จมาช่วยเตรียมพล | ปีกป้องพหลซ้ายขวา | ||
ฯ เจรจา ฯ | |||
๏ สรรพทั้งจตุรงคโยธา | เสร็จพากันเข้าอัญชลี | ||
ฯ เชิด ฯ | |||
๏ บัดนี้พหลสกลไกร | สำรับพยุหชัยศรี | ||
กะเกนกันแล้วภูมี | จงแจ้งธุลีท่านไท | ||
อันอ้ายนักโทษกุมาร | เข้ากาลลวาตป่าใหญ่ | ||
ผู้คุมก็ตามสะกดไป | ได้ร่องรอยอยู่ภูมี | ||
ฯ ๘ คำ ฯ | |||
โทน | |||
๏ เมื่อนั้น พระอวตารผู้ชาญชัยศรี | |||
ชวนสามอนุชาสรงวารี | สี่องค์สำอางอาภรณ์ | ||
ทรงมงกุฎสังวาลตระการแก้ว | แล้วสะพกสะพายแล่งแสงศร | ||
เขียวเหลืองเรืองรัศอัมพร | กระจายจรแดงกํ่าดำพราย | ||
ดุจดังอโณทัยไตรตรัส | แจ่มจัดวิเชียรเฉิดฉาย | ||
ระย้าระยับทับทรวงลาย | กระจายจรกรรเจียกเพราตา | ||
พาหุรัดรัศมีชายแครง | ศรีแสงชายไหวซ้ายขวา | ||
ดั่งเทวะเลื่อนลอยเมฆา | ลีลาดลรถจรลี | ||
ฯ เพลงกราว ๘ คำ ฯ | |||
โทน | |||
๏ รถเอยราชรถทรง | ยศยงด้วยนิลรังษี | ||
รถแดงแข่งรัศรูจี | รถเขียวเหลืองศรีเพราพราย | ||
สี่รถยศยิ่งเจษฎา | สุนทราดั่งเทวะเฉิดฉาย | ||
ระย้าระย้อยพร้อยพราย | กระจายไขรัศอัมพร | ||
โดยวิเชียรฤทธิ์สิทธิเดช | ทุกนิเวศสาธุการอยู่สลอน | ||
ลอยเลึ่อนละลิ่วอัมพร | จามรจรบังอโณทัย | ||
อภิรุมชุมสายพรายพรัน | เศวตรัตรฉัตรกั้นไสว | ||
พัชนีวีระยาบปลาบไป | วิไลวิเล่จะบาดตา | ||
อีกทั้งฆ้องกลองแตรสังข์ | ประดังกันไปซ้ายขวา | ||
อื้ออึงคนึงโกลา | กึกก้องท้องฟ้าอลวน | ||
พร้อมด้วยเสนาเสนี | จตุรงคโยธีสับสน | ||
ขุนตำรวจตรวจจัดรี้พล | เร่งพหลนิกรตามไป | ||
ฯ เชิด ฯ | |||
ตอนที่ ๒ ตอนหนุมานเกี้ยววานริน จนท้าวมาลีวราชมา
หนุมานเกี้ยววานริน
ความตอนเริ่มต้นขาดไปบ้าง กลอนแรกเป็นคำของนางวานริน
๏ ฝ่ายข้าก็เห็นสุดที | ชิเจ้าคนดีมุสา | ||
อย่าโป้ปดคดคิดเจรจา | ไม่สบายวิญญาณ์อย่ายายี | ||
ซึ่งข้าจะคืนยังสถาน | ต่อพระอวตารรังสี | ||
เธอปราบอรินไพรี | ใช้ขุนกระบี่หนุมานมา | ||
ติดตามอสุระผู้หนี | ข้านี้ได้ร่วมเสน่หา | ||
หนึ่งข้าได้แจ้งกิจจา | ข้าจึ่งจะพ้นสาปไป | ||
เจ้าอย่าล่อเลี้ยวลวงกัน | ข้าคนสำคัญไม่ได้ | ||
ฝ่ายข้าเจ่าจุกทุกข์ใจ | เซ้าซี้อยู่ไยไม่เข้ายา | ||
ฯ ๑๔ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
๏ เจ้าเอยเจ้าพี่ | มารศรีเสาวภาคย์อย่ากังขา | ||
พี่คือทหารพระรามา | พนิดาอย่าแหนงแคลงใจ | ||
ทรงนามชื่อหนุมาน | เป็นทหารห้าวแหงผู้ใหญ่ | ||
ฝ่ายอสุรยกออกไป | ชิงชัยต่อด้วยพระราชา | ||
พระองค์ทรงยิงศรผลาญ | สังหารมารหมู่ยักษา | ||
ถูกวิรุญจำบังอสุรา | ยักษาหลบหลีกหนีไป | ||
จึ่งให้พี่มาติตตาม | นางงามเจ้ารู้บ้างหรึอไม่ | ||
มันไปแห่งหนตำบลใด | บอกให้หน่อยเถิดนารี | ||
อันซึ่งธุระของเจ้า | ขวัญเข้าไว้เป็นธุระพี่ | ||
จะให้ได้ดั่งใจเทวี | ก็เซ้าซี้ไปตามกิจจา | ||
ฯ รอบก้อย ๑๐ คำ เจรจา ฯ | |||
๏ เมึ่อนั้น | วานรินนารีศรีฟ้า | ||
ได้ฟังถ้อยคำเจรจา | นางฟ้าประชดประชันไป | ||
ชิตาทหารพระราเมศ | ทรงเดโชชัยเป็นใหญ่ | ||
อ้อนแอ้นเอวกลมวิไล | ช่างจะไปตามมารอสุรา | ||
แม้นย้กษ์จะเด็ดทีเดียว | คาเขี้ยวก็ไม่ได้อย่ามุสา | ||
นี่เจ้าได้ยินใครเจรจา | จึงว่าเป็นองค์หนุมาน | ||
ข้าใคร่กล่าวแกล้งห้ามไว้ | มิให้เจ้าไปสังหาร | ||
ชิชะเจ้าตัวหุนมาน | ยังเห็นท่านเป็นประการใด | ||
ยังมีเขี้ยวแก้วกุณฑล | ขนเพชรมาลัยอยู่ไหน | ||
เจ้ามีดาวเดือนอโณทัย | อยู่ในโอษฐ์หรือช่างเจรจา | ||
ไฉนไม่เป็นวานร | นี่คนซอกซอนอยู่ในป่า | ||
ลวงเราไม่ได้ดั่งจินดา | แกล้งว่าจะไปตามไพรี | ||
อันวิรุญจำบังมาร | ต้องศรอวตารเรืองศรี | ||
ตัวเจ้าจะไปต่อตี | ที่ทางเราได้สาคัญ | ||
ว่าพลางทางเย้ยไปมา | ชิเจ้าฤทธาแข็งขัน | ||
ยังได้สลักสำคัญ | บั่นแบ่งให้แจ้งบัดนี้ | ||
ฯ ๑๖ คำ ฯ | |||
ยิกิ่น | |||
๏ บัดนั้น | จึงพญาหนุมานกระบี่ศรี | ||
ชื่นชมโสมนัสเทวี | มีสุนทรยกย่องบัญชา | ||
ดูกรนางนิ่มน้อย | ถ้อยคำเลิศลบเลขา | ||
พี่ขอบใจเจ้าเยาวสุดา | ไม่หลงรูปรสวาที | ||
สมควรนวลเจ้าเป็นบาทบงสุ์ | องค์อิศวรราชรังสี | ||
สู้ตายไม่ให้ประเวณี | ต่อทื่คู่ควรจึ่งปรองดอง | ||
เจ้านี้ยศยิ่งยอดกัญญา | สาวสวรรค์ชั้นฟ้าไม่มีสอง | ||
อยาแคลงพี่จะให้แจ้งน้อง | ขอต้องนิดหนึ่งนารี | ||
นี่แน่เมื่อพบอสุรา | ยังกรุณาบ้างหรือสาวศรี | ||
หรือว่าเจ้ากลัวมันราวี | จูบทีพี่จะแผลงฤทธา | ||
ก็ผาดเผ่นโผนกลายกลับ | โตค้บคิรีถ้ำพระคูหา | ||
เผือกผ่องพึงพิศเจษฎา | อ้าโอษฐ์มีเดือนดาวตะวัน | ||
ทรงกุณฑลขนเพชรมาลัย | เขี้ยวแก้วอำไพเฉิดฉัน | ||
ดุจดั่งไขสีรวีวรรณ | ก็จรจรัลโลมถามเทวี | ||
ฯ คุกพาทย์ ๑๔ คำ ฯ | |||
ยิกิ่น | |||
๏ ยอดเอยยอดมิ่ง | ยังจริงหรือไม่มารศรี | ||
พี่จะติดตามต่ออสุรี | จงชี้ท่าทางบอกไป | ||
อันซึ่งธุระของเจ้า | ขวัญเข้าไว้พี่แก้ไข | ||
ต้องสาปเหดุผลกลใด | จูบให้เร่งว่าเนื้อความมา | ||
ฯ คุกพาทย์ ๔ คำ ฯ | |||
มโนราห์โอด | |||
๏ วานรินตรีดตราดพาที | โปรดเกศีเถิดอย่าทำข้า | ||
ไม่รู้ว่าองค์ศ้กดา | ขอษมาโทษเถิดภูมี | ||
ข้าเป็นข้าบาทเจ้าโลกา | อิศราศวรราชรังสี | ||
ชื่อวานรินนารี | พระศุลีสาปข้าลงมา | ||
รักษาอังกาศคิรี | ที่สุวรรณถ้ำคูหา | ||
เมื่อข้าอยู่ก้บเจ้าโลกา | รักษาประทีปอัคคี | ||
วันหนึ่งจึ่งเธอออกนั่ง | ยังบัลลังก์รัศรังสี | ||
สนทนาไญยธรรมอันมี | กับนารอทฤษีมีญาณ | ||
ข้าพูดกับเทวบุตรเล่น | เธอไม่เห็นอยู่ราชฐาน | ||
ประทีปก็ดับไปช้านาน | ระแวงราชการต้องสาปมา | ||
ว่าต่อท่านได้มาพบ | สบสมรักร่วมเสน่หา | ||
จึงให้คืนคุงมุลิกา | ยังมหาไกรลาศคิรี | ||
หนึ่งให้คอยบอกกิจการ | วิรุญจำบังมารยักษี | ||
แก่ท่านผู้มีฤทธี | ข้านี้ก็จะพ้นสาปไป | ||
บัดนี้วิรุญจำบังมาร | ต้องศรอวตารเป็นใหญ่ | ||
มันหนีอยู่ริมสมุทรไท | ทิศใต้ในฟองคงคา | ||
ไปเถิดให้ได้ดังประสงค์ | จงสำเร็จจำนงปรารถนา | ||
ก็เป็นไรจึ่งไม่ไคลคลา | มารวบรัดข้าว่าไร | ||
ไหอะไรมาเซ้าซี้ | หารู้ที่ยินดีด้วยไม่ | ||
อย่ามาจู้จี้น้ำใจ | อายฤท้ยอยู่ไม่ไยดี | ||
ฯ ๒๐ คำ ฯ | |||
ชาตรี | |||
๏ ขวัญเอยขวัญตา | กรุณาบ้างเถิดมารศรี | ||
พี่จะติดตามต่อไพรี | ปรานีเหมือนอวยช้ยไป | ||
ว่าพลางทางรวบรึงรัด | เออนี่หยิกกัดเป็นไฉน | ||
ดูแรงแข็งขืนหรือไร | ฟัดฟั้นกันไปเป็นโกลา | ||
ฯ คุกพาทย์ ๔ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
๏ วานรินตรีดตราดครื้นเครง | เจ้าข้าเอยข่มเหงทำข้า | ||
สาปไม่พ้นก็จะทนเวทนา | ข้าหายอมไม่ภูมี | ||
เออนี่ทำไมมารึงรัด | สะบัดพลางทางว่าน่าบัดสี | ||
ไปเสียไปข้าไม่ประเวณี | อย่าหยักเหยาเซ้าซี้กวนใจ | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
๏ เจ้าเอยเจ้าพี่ | มารศรีอย่าหม่นหมองไหม้ | ||
ถึงอยู่ไม่ชูอาลัย | จงสำราญบานใจจะขอลา | ||
ว่าพลางทางทำเป็นคลาไคล | ทำไมมายุดชายผ้า | ||
เช่นพี่หรือจะมีเจตนา | ฉุดผ้าข้าไยเทวี | ||
ชาตรี | |||
๏ กลับนั่งแนบน้องเจรจา | กรุณาบ้างเถิดอย่าผินหนี | ||
จะอยู่ก็ไม่ไยดี | จะไปก็มิให้ไคลคลา | ||
ว่าพลางทางโอบอุ้มน้อง | คืนเข้าถํ้าทองคูหา | ||
ฯ เสมอ ฯ | |||
โอ้โลม | |||
๏ แสนสนิทพิศวาสตรึงตรา | เสน่หาอัดอั้นพูนทวี | ||
ก็รัดรึงตระบึงร่วมรส | ภุมรีจ้องจรดเกสรศรี | ||
กลั้วเกลือกกลีบเกศสุมาลี | ปรีดาผาสุกสนุกใจ | ||
ฯ โลมปี่พาทย์ ๑๐ คำ ฯ | |||
ช้า | |||
๏ เมื่อนั้น | วานรินนารีศรีใส | ||
อยู่กับหนุมานชาญชัย | มิได้จะนิราศคลาดคลา | ||
จึ่งแจ้งกิจการยุบล | ซึ่งทนยากอยู่ในพระคูหา | ||
นานเนิ่นเกินเจียนกาลมา | ข้านานได้ถึงหมื่นปี | ||
อันจะพ้นทนทุกข์เวทนา | เพราะพระภัสดาโปรดเกศี | ||
เมียจะไปไกรลาศคิรี | ปรานีให้ได้ดั่งใจ | ||
ฯ ๖ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
๏ เมึ่อนั้น | จึ่งพญาหนุมานทหารใหญ่ | ||
รับคำวรราชนางใน | อย่าร้อนรนใจกัลยา | ||
พี่คิดจะติดตามต่อไพรี | แล้วจะกลับมาที่พระคูหา | ||
จึ่งจะส่งไปสวรรค์ชั้นฟ้า | ก็เหาะมายังมหาสมุทรไท | ||
ฯ เชิด ฯ | |||
หนุมานสังหารวิรุฬจำบัง
๏ ครั้นถึงจึงพิจารณาฟอง | ลอยฟ่องล่องตามน้ำไหล | ||
แต่ฟองน้ำอันหนึ่งไสร้ | โตใหญ่หลวงล้ำมหึมา | ||
ไม่ลอยลงไปเหมือนทั้งปวง | ท่วงทีจะเป็นยักษา | ||
ก็ผาดโผนแผลงฤทธา | เท่ามหาพรหมาเกรียงไกร | ||
มีหางใหญ่ยาวเจษฎา | กระหวัดฟองคงคาอันใหญ่ | ||
สองหัตถ์คลำพิจารณาไป | ที่ในมหาชลธาร | ||
ฯ เชิด ๑๐ คำ ฯ | |||
๏ ฝ่ายวิรุญจำบังตกใจ | ก็รู้ว่าภัยมาตามผลาญ | ||
จึ่งอ่านพระเวทวิชาการ | บันดาลแทรกตัวออกมา | ||
ฯ ตระ เชิด ฯ | |||
๏ พ้นจากวงหางขนกระบี่ | อสุรีอายใจยักษา | ||
ก็ผาดโผนแผลงฤทธา | กลับเข้าเข่นฆ่าหนุมาน | ||
ฯ เชิด ๔ คำ ฯ | |||
๏ หนุมานเผ่นโผนโจนรบ | จับกุมกันตามกำลังหาญ | ||
ฯ เชิด ฯ | |||
๏ วิรุญจำบังตีหนุมาน | พลำทานมิได้จมไป | ||
ฯ เชิด ฯ | |||
๏ หนุมานผุดขึ้นอ่านมนตร์ | เข้าผจญชิงเอาตระบองได้ | ||
ตีวิรุญจำบังจมไป | ผุดเมื่อไรซํ้าตีอสุรา | ||
ฯ เชิด ฯ | |||
๏ ฝ่ายวิรุญจำบังอ่านมนตร์ | ประตาต้นไม่ขึ้นเข่นฆ่า | ||
สมาธิสำรวมวิญญาณ์ | อยู่ในมหาน้ที | ||
ฯ ตระ ๖ คำ ฯ | |||
๏ เมื่อนั้น | จึ่งพญาหนุมานกระบี่ศรี | ||
นิมิตหางโตใหญ่ยาวรี | ล้อมรอบนัทีคงคา | ||
เบื้องตํ่าจรดเพียงบาดาล | โดยสูงตระหง่านพระเวหา | ||
ค่อยกระหยับจะจ้บอสุรา | ทำฤทธาอยู่ที่วารี | ||
ฯ ตระ ๔ คำ ฯ | |||
๏ เมื่อนั้น | วิรุญจำบังยักษี | ||
ซึ่งหลีกหลบอยู่ในนัที | มิรู้ที่หนีหนุมาน | ||
ครั้นเห็นกระหยับหางเข้าทีใด | ร่านร้อนฤทัยดังไฟผลาญ | ||
พ้นที่จะต่อหนุมาน | ก็ลนลานอยู่ในสมุทรไท | ||
ฯ คุกพาทย์ ๔ คำ ฯ | |||
๏ เมื่อนั้น | จึงพญาหนุมานทหารใหญ่ | ||
กระหวัดหางรัดรวบเข้าไป | ก็จ้บตัวได้อสุรี | ||
ขึ้นฟัดกับพื้นพสุธา | ย้กษามอดม้วยเป็นผี | ||
ฯ เชิด โอด ฯ | |||
๏ ตัดเอาศีรษะอสุรี | ขุนกระบี่ก็พาเหาะมา | ||
ฯ เดี่ยว ฯ | |||
๏ จึงตรงลงยังคิรี | ที่สุวรรณถํ้าทองคูหา | ||
จะโปรดวานรินกัลยา | ทิ้งศีรษะไว้เข้าไป | ||
ฯ เสมอ ๖ คำ ฯ | |||
ช้า | |||
๏ เมื่อนั้น | วานรินนารีศรีใส | ||
แต่หนุมานคลาไคล | นางในไม่เป็นสมปฤดี | ||
แสนวิโยคโศกสร้อยคอยหา | กลัวว่าจะพ่ายแพ้ยักษี | ||
เจ่าจุกทุกข์ใจเทวี | แลไปเห็นศรีหนุมาน | ||
วิ่งออกไปรับขุนกระบี่ | มารศรีปรีดิ์เปรมเกษมสานต์ | ||
นำเข้าแท่นที่นางคราญ | ก็เบิกบานอยู่ในคิรี | ||
ฯ เพลง ๖ คำ ฯ | |||
โอ้โลม | |||
๏ เมื่อนั้น | หนุมานผู้ชาญชัยศรี | ||
แสนพิศวาสเทวี | ยังที่แท่นอาสน์ไสยา | ||
แล้วจึ่งปราศร้ยนวลนาง | ข้อซึ่งไปล้างยักษา | ||
แพ้พี่ต้ดเอาศีรษะมา | ทิ้งไว้ปากมหาคิรี | ||
บัดนี้สำเร็จการแล้ว | จะลาน้องแก้วบทศรี | ||
เอาเศียรไปถวายภูมี | ยังที่สมรภูมิชัย | ||
ว่าพลางก็ทางเชยชิด | แสนสนิทแนบน้องพิสมัย | ||
พี่จะส่งเจ้าไปสุราลัย | ก็อุ้มอรทัยออกมา | ||
ฯ เสมอ ฯ | |||
ร่าย | |||
๏ ครั้นถึงปากถํ้าโยนขึ้นไป | ในพิดลอากาศเวหา | ||
ม้วยมุดสุดสิ้นชีวา | ไปมหาไกรลาศคิรี | ||
ฯ ตระ ฯ | |||
๏ ครั้นเสร็จกิจการนงเยาว์ | จับเอาเศียรเกล้ายักษี | ||
เหาะจากปากถ้ำคิรี | รีบรี่มาสมรภูมิพลัน | ||
ฯ เชิด ปฐม ๑๒ คำ ฯ | |||
๏ ฝ่ายข้างพระรามเห็นกระบี่ | ภูมีบอกแก่พลขันธ์ | ||
โน่นแน่หนุมานจรจรัล | ได้หัวกุมภัณฑ์เหาะมา | ||
พวกพลกระบี่ดีใจ | เอิกเกริกกันไปทั่วหน้า | ||
หนุมานถึงจึ่งวันทา | ถวายเศียรอสุราทันที | ||
ฯ เชิด ฯ | |||
๏ เดิมเมื่อได้ข่าวยักษา | พบวานรในพนาศรี | ||
บอกว่าอังกาศคิรี | มีนางอัปสรกัญญา | ||
ข้าจึ่งนิมิตบิดเบือน | เหมือนมนุษย์หนุ่มน้อยเสน่หา | ||
เข้าไปไถ่ถามกิจจา | นางว่าต้องสาปพระศุลี | ||
กลับสงสัยข้าที่แปลงกาย | หยาบคายว่าชาวพนาศรี | ||
ข้าเลียมลวงตอบคดี | นารีแปลนคำออกมา | ||
ว่าต่อได้บอกกิจการ | พบพานร่วมรักกับข้า | ||
จึ่งให้คืนคุงบาทมุลิกา | ยังมหาไกรลาศคิรี | ||
ข้าจึ่งผาดแผลงอานุภาพ | นางกราบประณตบทศรี | ||
บอกให้ไปตามอสุรี | พบตัวต่อตีกันไปมา | ||
มันตีข้าจมลงในน้ำ | ข้าดำผุดขึ้นได้ตียักษา | ||
ชิงได้ตระบองอสุรา | ข้าก็ตียักษาจมไป | ||
ครั้นผุดขึ้นมาข้าตีซ้ำ | มันดำลงอยู่ตํ่าใต้ | ||
ข้านิมิตหางโตเกรียงไกร | จึ่งกระหวัดจับได้อสุรา | ||
ตัดเอาศีรษะจรลี | มาโปรดนางที่พระคูหา | ||
แล้วจึงพาเอาศีรษะมา | ถวายพระผ่านฟ้าบัดนี้ | ||
ฯ ๒๐ คำ ฯ | |||
๏ บัดนั้น | พระอวตารผู้ชาญชัยศรี | ||
ปราศร้ยไปแก่ขุนกระบี่ | ที่ใข้ศรข่ายกั้นอสุรา | ||
กูพิจารณาดูรูปพึงหาย | จึงหมายมุ่งว่าเองได้ยักษา | ||
ก็พอแลไปเห็นหนุมานมา | ดูราพิเภกอสุรี | ||
แต่ให้หนุมานอาสา | เข่นฆ่าต้านต่อยักษี | ||
ล้วนมีชัยได้ท่วงที | ควรที่เป็นอัครเสนา | ||
นี่แน่พิเภกธิบดี | อันเศียรอสุรียักษา | ||
เพื่อนขลังอาคมวิทยา | จะเอามาทำประการใด | ||
ฯ ๘ คำ ฯ | |||
๏ ฝ่ายพระยาพิเภกกราบทูล | ซึ่งอิสูรต้องศรตักษัย | ||
ย่อมได้ฟากฟ้าคาลัย | ไปเป็นสุขทั่วอสุรี | ||
บัดนี้วิรุญจำบังม้วย | ด้วยมือหนุมานกระบี่ศรี | ||
ข้าบาทเห็นไม่สู้ดี | ขอให้ชูศีรษะไว้เมฆา | ||
แล้วจึงทรงศรแผลงผลาญ | สังหารให้ไปเป็นสุขา | ||
จึงจะได้สวรรค์ชั้นฟ้า | โปรดเกศาทำบัดนี้ | ||
ฯ ๖ คำ ฯ | |||
๏ บัดนั้น | พระอวตารผู้ชาญชัยศรี | ||
สั่งให้เอาเศียรจรลี | ทำตามพิเภกบัญชา | ||
หนุมานก็พาเหาะไป | ชูไว้อากาศเวหา | ||
จึงแผลงศรกินเศียรอสุรา | ยักษาสู่สวรรคาลัย | ||
ฯ ตระ ๔ คำ ฯ | |||
๏ แล้วตรัสแก่พลวานร | อันนครหาพ้นมือไม่ | ||
ครั้นจะบุกรุกเอาเวียงชัย | ผิดไปไม่ต้องประเวณี | ||
จำเราจะเลิกทัพชัย | กลับไปยังพลับพลาศรี | ||
ฟังดูกำลังอสุรี | ก็เลิกรี้พลกลับพลับพลา | ||
ฯ ๔ คำ เชิด ฯ | |||
ทศกัณฑ์ให้นนยุเวกวายุเวกไปตามท้าวมาลีวราช
๏ มาจะกล่าวบทไป | ถึงสารัณทูตยักษา | ||
ซึ่งคอยเหตุเจ้ากรุงลงกา | เห็นทัพยักษาอัปราชัย | ||
พ่ายแพ้แก่องค์พระราเมศ | เอาเหตุไปแจ้งแถลงไข | ||
ฯ เชิดปฐม ฯ | |||
๏ ทูลแก่ท้าวทศกัณฐ์ไป | ได้ทราบธุลีบาทา | ||
บัตนี้ทัพท้าวสัทธาสูร | ทั้งวิรุญจำบังยักษา | ||
พ่ายแพ้แก่องค์รามา | ยักษามอดม้วยบรรลัย | ||
เสร็จสิ้นม้ารถคชพล | ทั้งสกลพยุหน้อยใหญ่ | ||
ตายกลาดเกลื่อนเต็มพนาลัย | ท่านไทจงแจ้งธุลี | ||
ฯ ๘ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
๏ เมื่อนั้น | ทศเศียรสุริวงศ์ยักษี | ||
ครั้นรู้ข่าวแพ้ไพรี | มีกมลเศร้าเปล่าใจ | ||
ฯ ครวญ ฯ | |||
๏ โอ้ว่าแต่แต่งไปอาสา | จะมีชัยมาบ้างก็หาไม่ | ||
ล้วนย่อยยับอัปราชัย | ไฉนจะชนะไพรี | ||
เร่งร้อนรัญจวนป่วนใจ | ดั่งไฟประลัยก้ลป์เเจียวจี่ | ||
แสนวิโยคโศกสร้อยโศกี | คิดถึงพงศ์พีร์ทั้งปวงไป | ||
คือจะได้ใครมาต่อต้าน | พระยามารอัดอ้นหม่นไหม้ | ||
ทอดกายก่ายคิดคดีไป | ระลึกได้ว่าองค์อัยกา | ||
ยานี | |||
๏ เธอเสด็จไปทรงศีลอยู่ | ภูเขาศิวาลัยภูผา | ||
โดยอิทธิฤทธ์เดชา | อานุภาพปราบเดโชชัย | ||
พระนามชื่อมาลีวราช | พระบาทบพิตรเป็นใหญ่ | ||
ทรงสัจแม้นตรัสสิ่งใด | ก็เป็นไปตามพระบัญชา | ||
ดุจดั่งบรมพรหมเมศร | ทุกนิเวศลิขิตเลขา | ||
จารึกไว้หน้าศิลา | ถ้าแม้นแช่งชักผู้ใด | ||
ผู้นั้นก็เป็นดั่งวาจา | จะคลาดคลาสักน้อยก็หาไม่ | ||
ควรกูจะให้ไปทูลไท | มาในนครลงกา | ||
แล้วจึ่งจะทูลกล่าวโทษ | ให้กริ้วโกรธรามจงหนักหนา | ||
อันลักษมณ์แลรามราชา | น่าที่จะต้องแช่งตาย | ||
ฝ่ายนางสีดาดวงจิตร | ก็จะสมความคิดกูมุ่งหมาย | ||
ไพรีมิม้วยอันตราย | ไม่วายทุกข์ร้อนเคืองใจ | ||
ร่าย | |||
๏ คิดแล้วสั่งสุรเสนา | ไปเชิญอัยกาผู้เป็นใหญ่ | ||
ซึ่งอยู่ยอดฟ้าศิวาลัย | มาดับภัยพื้นพสุธา | ||
มึงคิดพิดทูลถ้าไถ่ถาม | กล่าวโทษล้กษมณ์รามให้หนัก | ||
แก้ไขอย่าให้แคลงวิญญาณ์ | สองเสนาไปบัดนี้ | ||
ฯ ๒๔ คำ ฯ | |||
๏ บัดนั้น | นนยุเวกวายุเวกยักษี | ||
รับสั่งพลันพลางจรลี | กรีธาทัพไช้พันหนึ่งไป | ||
ฯ กราว ฯ | |||
๏ มาเอยมาถึง | ซึ่งนครยอดฟ้าสูงใหญ่ | ||
ก็เข้าไปหาเสนาใน | แถลงไขตามราชกิจพล้น | ||
ฯ ๔ คำ เจรจา ฯ | |||
๏ เสนาจึ่งพาเข้าทูล | ไอศูรย์บรมพงศ์สวรรค์ | ||
ก็พอไขสีรวีวรรณ | จรจร้ลออกหน้าบัญชรชัย | ||
ฯ เสมอ ๒ คำ ฯ | |||
๏ เสนาจึ่งเบิกทูลแถลง | แจ้งท้าวมาลีวราชเป็นใหญ่ | ||
นนยุเวกวายุเวกก็ทูลไป | แถลงไขตามข้อคดี | ||
บัดนี้ท่านท้าวทศพักตร์ | อันเป็นหลานร้กเรืองศรี | ||
ผู้ผ่านสามโลกโมลี | ซึ่งเป็นศรีราชนัดดา | ||
ให้ข้ามาทูลพระบาท | ด้วยพระญาติวงศ์พงศา | ||
มีหมู่อริราชยกมา | เข่นฆ่ามอดม้วยมากมาย | ||
นามชื่อล้กษมณ์รามราชา | กับพลวานรทั้งหลาย | ||
สังหารอสุรศ้กดิ์ยักษาตาย | มากมายเป็นพ้นคณนา | ||
ขอเชิญเสด็จไปปกเกล้า | แก่เผ่าพ้นธุ์วงศ์พงศา | ||
ยังกรุงนครลงกา | เห็นว่าจะปลอดรอดภัย | ||
ฯ ๑๐ คำ ฯ | |||
ช้าปี่ร้บ | |||
๏ เมื่อนั้น | พระทรงธรรมธิราชเป็นใหญ่ | ||
สงสัยไถ่ถามเนื้อความไป | เป็นไฉนสองสุรเสนี | ||
อันองค์ท้าวทศพักตร์ | หลานรักกูยิ่งยอดเรืองศรี | ||
ถึงว่าเทวัญจันทรี | ก็อัญชุลีอวยชัย | ||
เป็นยอดมงกุฎเมืองมาร | ห้าวหาญผ่านภพสูงใหญ่ | ||
ทั้งสิบสี่โลกสุราลัย | ย่อมกลัวฤทธิไกรมหึมา | ||
ไม่มีผู้อาจองทะนงศักดิ์ | มายํ่ายีพญาย้กษา | ||
สิ้นเสร็จเข็ดฤทธิ์อสุรา | มึงว่ากูฉงนสนเท่ห์ใจ | ||
ซึ่งว่าพระรามพระลักษมณ์ | ศักดิ์แสงสุริวงศ์อยู่ไหน | ||
เพื่อนผ่านถิ่นฐานบ้านเมืองใด | เร่งเร็วบอกไปอย่าช้า | ||
ฯ ๑๐ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
๏ นนยุเวกวายุเวกทูลพลัน | ซึ่งยกพลขันธ์มาเข่นฆ่า | ||
ครอบครองกรุงศรีอยุธยา | อานุภาพปราบเดโชชัย | ||
เป็นหน่อของท้าวทศรถ | ปรากฏฟากฟ้าดินไหว | ||
หลานท้าวอัชบาลเรืองชัย | เป็นใหญ่ยิ่งยศโมลี | ||
เดิมพระยอดเมืองมารไปเล่นป่า | พบนางสีดามารศรี | ||
สิ่งซึ่งบริโภคไม่มี | ปรานีเอามาลงกา | ||
อยู่มาพระรามพระลักษมณ์ | คุมกระบี่มีศักดิ์มาหนักหนา | ||
ข่มเหงห้ำหั่นอสุรา | จองถนนข้ามมาพระบุรี | ||
ฆ่าพระญาติวงศ์พงศา | โยธาอสุรายักษี | ||
ตายกลาดเกลื่อนเต็มธรณี | จงแจ้งธุลีท่านไท | ||
ฯ ๑๐ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
๏ เมื่อนั้น | พระกอบกิจธรรมเป็นใหญ่ | ||
ครั้นจะแจ้งเหตุเภทภ้ย | จึ่งแถลงไขสองเสนา | ||
อันองค์อัชบาลเป็นสหาย | เพื่อนตายร้กใคร่กูหนักหนา | ||
ร่วมชีพไว้วิญญาณ์ | ซึ่งลักษมณ์รามากูไม่รู้ | ||
ด้วยพึ่งใหญ่ค่อยจำเริญวัย | ทางไกลต่างคนต่างอยู่ | ||
ช้านานไม่ได้ไปดู | สุริวงศ์ในกรุงอยุธยา | ||
ไฉนจึ่งมารุกราน | กรุงมารเมืองหมู่ยักษา | ||
หรือจะเกี่ยวข้องกันด้วยสีดา | ว่ามาทั้งนี้กูเห็นจริง | ||
อันนอกกว่านี้ไม่มีใคร | จะทำฤทธิไกรสุงสิง | ||
หลานรักกูศักดิ์แสงยวดยิ่ง | กฤษฎาธิการมหึมา | ||
เห็นแต่ท่านท้าวอัชบาล | เป็นประธานสุริวงศ์นาถา | ||
เธอเป็นสหายรักกูมา | อนิจจานัดดามาผิดก้น | ||
จำกูจะไปเกลี่ยไกล่ | อย่าให้ขึ้งเคียดเดียดฉันท์ | ||
เป็นเพึ่อนเผ่าพันธุมิตรกัน | โดยธรรมธรรมเนียมมีมา | ||
ร่าย | |||
๏ ก็สั่งให้เตรียมสกลไกร | กูจะไปห้ามสองเสน่หา | ||
ให้สมัคสมานอัธยา | อย่าช้ารีบรัดบัดนี้ | ||
ฯ ๑๖ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
๏ บัดนั้น | จึ่งอำมาตย์มารย้กษี | ||
ร้บสั่งพลันพลางจรลี | มาจัดรี้พลโยธา | ||
ฯ แพละน้อย ฯ | |||
ยานี | |||
๏ กะเกนคนธรรพ์คันธรรพ | กับอสุรศักดิ์ยักษา | ||
ทั้งฤษีสิทธ์วิทยา | กินนรปักษานาคี | ||
อีกทั้งโขมดผีป่า | เทพบุตรเทวาอึงมี่ | ||
แตรสังข์ดุริยางค์ดนตรี | ให้คอยที่แห่แหนเสด็จไป | ||
ครั้นเสร็จระเห็จเข้ามา | ไคลคลาขึ้นทูลแถลงไข | ||
ฯ เชิดปฐม ฯ | |||
ร่าย | |||
๏ อันซึ่งพหลสกลไกร | ได้พร้อมอยู่เเล้วพระราชา | ||
ฯ ๘ คำ ฯ | |||
โทน | |||
๏ เมื่อนั้น | พระทรงจตุศีลยักษา | ||
จึ่งชำระสระสรงคงคา | ทรงกาสาวพัสตร์รูจี | ||
สอดสร้อยใส่ชฎาประดับเครื่อง | เรึ่อเรืองรุ่งรัศรังสี | ||
เปล่งปลั่งดังดาวโรหิณี | สีกรรจรแก้วแพรวตา | ||
ดั่งองค์อิศโรยโสธร | บวรลิขิตเลขา | ||
ผ่องผึ่งพึงพิศเจษฎา | ทรากรสิกขาเพราพราย | ||
กอปรกับสัจจะเวทคาถา | อลังการ์เป็นพระขรรค์ผันผาย | ||
มาขึ้นรถแก้วแพร้วพราย | คลี่คลายพลจากคิรี | ||
ฯ ๘ คำ เพลง แล้วกราว ฯ | |||
ท้าวมาลีวราชสอบคดีทศกัณฐ์
โทน | |||
๏ รถเอยราชรถทรง | สำหรับพงศ์เผ่าพรหมรังสี | ||
เทียมด้วยเทพบุตรพาชี | รัศมีวิจิตรเจษฎา | ||
ดุจดั่งดวงอโณทัยตรัส | แจ่มจัดสว่างเวหา | ||
ระย้าระยับจับเมฆา | อลังการ์รัศอัมพร | ||
โดยญาณฤทธิ์สิทธิเดช | ทุกนิเวศสาธุการอยู่สลอน | ||
ก็เคลื่อนชัยรถบทจร | จามรจรบังบังตะว้น | ||
กลิ้งกลดกลดกลิ้งพริ้งพราย | อภิรุมชุมสายผายผัน | ||
บังแสงแสงศรีรวีวรรณ | ผาดฝันเลื่อนลอยลีลา | ||
ฯ ๘ คำ กลองโยน ฯ | |||
ยานี | |||
๏ มาพลางทางคิดถวิล | จินตนาการตามอุเบกขา | ||
ครั้นกูจะเข้าไปลงกา | พระรามารู้จะน้อยใจ | ||
ครั้นกูจะไปหารามลักษมณ์ | ฝ่ายพญาทศพักตร์จะว่าได้ | ||
ควรกูอยู่ท่ามกลางไสร้ | อย่าให้ข้างใครนินทา | ||
คิดพลางทางสั่งหมู่มาร | ท่านอย่าเข้าไปเมืองยักษา | ||
ยับยั้งยั้งนอกภารา | ก็มาหยุดสมรภูมิชัย | ||
ฯ บาทสกุณี ฯ | |||
ร่าย | |||
๏ จึ่งสั่งสองสุระขุนมาร | ผู้ซึ่งจำทูลสารไข | ||
มึงเร่งเอากิจจาไป | แถลงไขเจ้ากรุงลงกา | ||
๏ นนยุเวกวายุเวกรับสั่ง | บังคมกราบคนละสามท่า | ||
ทูลลาระเห็จเตร็ดมา | พากันเข้าแจ้งคดี | ||
ฯ เชิดปฐม ฯ | |||
๏ บัดนี้สมเด็จพระอัยกา | ไม่เข้ามาในกรุงศรี | ||
อยู่นอกนครธานี | ตรงที่สมรภูมิชัย | ||
เดิมเมื่อไปทูลเธอไถ่ถาม | ตรัสเรื่องราวความแถลงไข | ||
บอกว่าลักษมณ์รามสองไท | ได้เป็นหลานพระสหายมา | ||
พระองค์จะตรัสเกลี่ยไกล่ | มิให้ขึ้งเคียดเข่นฆ่า | ||
ว่าเป็นพงศ์พันธุมิตรมา | ให้ข้าบาทเชิญจรลี | ||
ฯ ๑๖ คำ ฯ | |||
๏ เมื่อนั้น | ทศเศียรสุริวงศ์ยักษี | ||
ชื่นชมโสมนัสยินดี | สองเสนีไว้กูเจรจา | ||
เองเร่งบุษบกพิมาน | กับพลทวยหาญซ้ายขวา | ||
อีกทั้งธูปเทียนบูชา | กูจะไปวันทาบัดนี้ | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
๏ นนยุเวกวายุเวกสั่งพล้น | เร่งรัดพลขันธ์ชัยศรี | ||
ฯ เชิด เจรจา ฯ | |||
๏ บ้างจัดบุษบกมณี | ตระเตรียมอัคคีมาลัย | ||
เสร็จพร้อมธูปเทียนบริบูรณ์ | เขาทูลบังคมแถลงไข | ||
ฯ เชิด ฯ | |||
๏ อันซึ่งจะเสด็จคลาไคล | ได้พร้อมอยู่แล้วราชา | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
๏ เมื่อนั้น | ทศเศียรสุริวงศ์ยักษา | ||
จึ่งชำระสระสรงคงคา | ยักษาสำอางอาภรณ์ | ||
ทรงมงกุฎสังวาลเสร็จสรรพ | จับสะพกสะพายแล่งแสงศร | ||
ถือธูปเทียนบุษบากร | ก็จรจะไปบูชา | ||
ฯ เพลง ฯ | |||
๏ ขึ้นยังบุษบกพิมาน | เหาะระเห็จทะยานพระเวหา | ||
ฝ่ายหมู่แสนสูรเสนา | แห่ห้อมล้อมท้าวยักษาไป | ||
ฯ กราว ๖ คำ ฯ | |||
๏ ครั้นถึงจึ่งหยุดบุษบก | ยกสองพระกรก้มกราบไหว้ | ||
เคียงข้างรถแก้วแววไว | เบื้องซ้ายท้าวไทอ้ยกา | ||
จึ่งจุดธูปเทียนตามถวาย | บ่ายพักตรอภิวันท์หรรษา | ||
โปรยปรายดอกไม้บูชา | โศกาอ้ดอั้นพันทวี | ||
ฯ โอด ฯ | |||
ครวญ | |||
๏ พระจอมเกศแก้วกระหม่อมเอ๋ย | ไม่เคยอับปางบทศรี | ||
แต่พระบาทเบื้องตํ่าใต้ธุลี | ก็มีผู้ยำเยงเกรงใจ | ||
ไม่มีผู้มาทำแค้น | หาดูหมิ่นถิ่นแคลนได้ไม่ | ||
เดชะพระเดชปกเกศไป | ก็เย็นในสุริวงศ์พรหมา | ||
บัดนี้พระรามพระล้กษมณ์ | โหมหักฆ่าญาติวงศา | ||
อาจอุกรุกรันรานมา | จะเกรงอัยกาบ้างก็ไม่มี | ||
ถึงกระไรก็จะเห็นแก่พระองค์ | ซึ่งเป็นพงศ์พรหมเรืองศรี | ||
ยังเสด็จอยูยอดคีรี | นี่มาทำได้ทำไป | ||
ฯ ครวญ ฯ | |||
๏ อันพระญาติวงศ์ตายสิ้นแล้ว | ยังแต่หลานแก้วจะตักษัย | ||
จึงให้ไปเชิญท่านไท | เพื่อจะได้ถวายบังคมลา | ||
ทูลพลางทางทรงโศกี | ยักษีสอดใส่แสร้งว่า | ||
ทำสะอึกสะอื้นไห้ไปมา โศกาอัดอั้นพันทวี | |||
ฯ ๑๖ คำ โอด ฯ | |||
ช้า | |||
๏ เมื่อนั้น | พระทรงทศธรรมรังสี | ||
สงสัยในพจนวาที | มีมโนในนิ่งจินดา | ||
ดีร้ายการจะก่อเกิดเคืองแค้น | จึ่งจะแสนสาห้สกันเข่นฆ่า | ||
แม้นดีหรือจะมีภัยมา | ปรีชาฉงนสนเท่ห์ใจ | ||
แม้นมั่นมันทำเขาก่อน | เขาจึ่งรานรอนม้วยไหม้ | ||
หรือจริงสิ่งซึ่งมันว่าไป | ท้าวไทกลับนึกตรึกตรา | ||
ครั้นกูจะปราศรัยต่อ | หน่อทศรถจะกังขา | ||
ครั้นกูจะไม่เจรจา | มิรู้ว่าเป็นประการใด | ||
ร่าย | |||
คิดแล้วจึ่งร้องประกาศ | เทวราชเรืองฤทธิน้อยใหญ่ | ||
มาเป็นพยานกันไว้ | เราจ้กไถ่ถามข้อคดี | ||
ฯ ๑๐ คำ ฯ | |||
ยานี | |||
๏ มาจะกล่าวบทไป | ถึงไทยเทพทั่วราศี | ||
ผู้ทรงมหิทธิฤทธี | เรืองศรีทิพโสตรู้ไป | ||
คือองค์ท้าวมาลีวราช | พระบาทบพิตรเป็นใหญ่ | ||
เสด็จอยู่สมรภูมิชัย | จะไถ่ถามความกุมภัณฑ์ | ||
กับด้วยพระลักษมณ์พระราเมศ | เทพเจ้าเรืองเดชผายผัน | ||
ฯ เพลง ฯ | |||
๏ ก็ชวนกันเข้าคมคัล | อัญชุลีท้าวมาลี | ||
ฯ โคมเวียน ๖ คำ ฯ | |||
ช้า | |||
๏ เมื่อนั้น | พระผู้พงศ์ผ่านภพรังสี | ||
ปราศรัยไปแก่อสุรี | ซึ่งเป็นศรีราชน้ดดา | ||
ตัวเจ้าเป็นใหญ่ไตรภพ | จบสกลโลกทิศา | ||
เจ้าผิดกับลักษมณ์รามา | สาเหตุอย่างไรอย่าได้พราง | ||
อันซึ่งกิจการรบสู้ | กูนี้จะขอทั้งสองข้าง | ||
เขาหลานสหายปู่ผู้กลาง | ข้างเจ้าก็เป็นนัดดา | ||
ไม่ควรทำร้ายแก่กัน | เป็นพันธุมิตรดีกว่า | ||
คือใครก่อกรรมอหังการ์ กูจะหามาว่าบัดนี้ | |||
ฯ ๘ คำ ฯ | |||
๏ บัดนั้น | ทศเศียรสุริวงศ์ยักษี | ||
พิดทูลเคลือบแฝงคดี | เดิมทีไปเล่นพนาวา | ||
ข้าไล่มหิงส์กระทิงไพร | พบนางคนหนึ่งในป่า | ||
ต่างต่างช่วงชิงกันไปมา | ยักษาจะกินเทวี | ||
พอข้าขอทัณฑ์ถามไถ่ | นางว่าเกิดในพนาศรี | ||
พ่อแม่ลูกผัวไม่มี | นารีชื่อว่าสีดา | ||
ปรานีเอามาไว้ในสวน | ไม่ควรร่วมรสเสน่หา | ||
นานเนิ่นเกินเจียนกาลมา | ใครใครไม่ว่าผัวนารี | ||
แต่องค์พระลักษมณ์พระราเมศ | ซึ่งไม่เกรงเดชฆ่าพงศ์ยักษี | ||
ม้วยมุดสุดสิ้นชีวี | จึ่งพาทีว่าเป็นผัวสีดา | ||
ครั้นข้าจะส่งสีดาเล่า | ด้วยพระญาติวงศ์เจ้าด้บสังขาร | ||
เห็นไม่กล้บคืนเป็นมา | ข้าจึ่งมิส่งนางไป | ||
ถ้าว่ากันก่อนโดยดี | เป็นทางไมตรีจะส่งให้ | ||
นี่มาข่มเหงไม่เกรงใจ | จะส่งไปกล้วขายพระบาทา | ||
แม้นไม่มีชัยอัปยศ | จะปรากฏอายบาทไปเมื่อหน้า | ||
ขออย่าให้ขายบาทา | กรุณาข้าใต้ธุลี | ||
ฯ ๑๖ คำ ฯ | |||
ช้า | |||
๏ เมื่อนั้น | พระทรงธรรมธิราชรังสี | ||
สอดส่องดูคำอสุรี | ผิดที่ไม่เคยพบเห็นมา | ||
หรือว่าผู้อื่นลักนาง | ฝ่ายผัวตามล้างเข่นฆ่า | ||
พอพบพญาอสุรา | กลัวฤทธาทิ้งนารี | ||
ฝ่ายผัวเหลือบเห็นไม่ทันถาม | วู่วามเข้าชิงชัยศรี | ||
หมายใจว่าอ้ายไพรี | ต่างต่างจึ่งมีอหังการ์ | ||
ก็ผิดที่นี่หน่อทศรถ | ปรากฎสุริยวงศ์นาถา | ||
มิใช่เข็ญใจไพร่ฟ้า | จะมาเป็นดั่งนี้ก็ผิดไป | ||
หรือเมียนอกใจอ้ายนี่ชู้ | ต่อสู้เจ้าผัวเขาไม่ได้ | ||
สุดฤทธิ์ที่จะคิดชิงช้ย | เพื่อจะให้กูแช่งกระมังนา | ||
ดีร้ายจะเป็นฉะนี้ | ท่วงทีจึ่งเคลือบริษยา | ||
ครั้นกูจะตอบต่อเจรจา | ม้นจะว่าแกล้งกล่าวซักความ | ||
จำกูจะเงือดงดไว้ | จึ่งจะค่อยซักไซ้ไถ่ถาม | ||
ควรกูจะให้ไปหาราม | มาสอบถามห้ามผิดกัน | ||
ร่าย | |||
๏ คิดแล้วจึ่งมีพจนารถ | ประกาศแก่เทวาสรวงสวรรค์ | ||
แล้วว่าไปแก่กุมภัณฑ์ | อันเป็นศรีราชนัดดา | ||
ซึ่งข้อคดีของเจ้า | จำจะให้หาเขาผู้เข่นฆ่า | ||
มาสมัคสมานอัธยา | ว่ากล่าวกันตามประเวณี | ||
ก็สั่งอำมาตย์มึงไปหา | เทวบุตรศณุกรรม์เรืองศรี | ||
ฉับไวให้มาบัดนี้ | ยังที่สมรภูมิพลัน | ||
ฯ ๒๐ คำ ฯ | |||
ท้าวมาลีวราชให้พระวิษณุกรรมไปตามพระราม
๏ คนธรรพ์ก็รับสั่งลา | ไปดาวดึงสาสวรรค์ | ||
ฯ เชิด ฯ | |||
๏ เข้าหาพระวิษณุกรรม์ | ฉับพลันมาไปอย่าช้า | ||
ฯ ๒ คำ เจรจา ฯ | |||
๏ ฝ่ายพระวิษณุกรรมแจ้งเหตุ | ก็มาจากนิเวศดึงสา | ||
ฯ เหาะ ฯ | |||
๏ จึงชวนกันเข้าวันทา | สองราประณมดุษฎี | ||
ฯ ๒ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
๏ เมื่อนั้น | ท้าวมาลีวราชยักษี | ||
จึงสั่งให้เทวจรลี | ไปบอกคดีสองไทย | ||
อันอัชบาลอัยกา | ร่วมวิญญาณ์กูพิสม้ย | ||
สหายกูปู่รามเรืองชัย | จงแจ้งไขแก่สองรา | ||
ครั้นเราจะให้คนธรรพ์ไป | เกลือกสองภูวนัยจะกังขา | ||
ด้วยรามลักษมณ์ไม่รู้จักกูมา | พาทีอย่าให้แคลงใจ | ||
บัดนี้นัดดากับนัดดา | เข่นฆ่ากันเท่าไหนไหน | ||
ตัวกูนี้พึ่งรู้ไป | ฉับไวให้มาบัดนี้ | ||
ฯ ๘ คำ ฯ | |||
๏ ฝ่ายเทวะร้บสั่งลา | เหาะมายังพลับพลาศรี | ||
ฯ เชิด ฯ | |||
๏ ถึงจึ่งแถลงเสนี | กระบี่พาแจ้งกิจจา | ||
บัดนี้ท่านท้าวมาลีวราช | พระบาทสิทธิศ้กดิ์หนักหนา | ||
เธอเป็นสหายพระอัยกา | ให้ข้ามาเชิญเสด็จไป | ||
จะไถ่ถามห้ามความรบสู้ | พระเจ้าปู่ว่าหาอื่นไกลไม่ | ||
เหตุนี้พึ่งทราบธุลีไป | จึ่งให้มาแจ้งราชา | ||
ฝ่ายข้างพระยาทศพักตร์ | กล่าวโทษพระองค์หนักหนา | ||
พระอัยกาไม่เชึ่อวาจา | จึ่งให้มาเชิญจรลี | ||
ฯ ๘ คำ เจรจา ฯ | |||
๏ เมื่อนั้น | พระอวตารผู้ชาญชัยศรี | ||
จึ่งบัญชาชอบวาที | ให้กระบี่ปรึกษาทุกตัวนาย | ||
ผู้ใดยังได้รู้เห็น | อัยกากูเป็นสหาย | ||
กับท้าวมาลีวราชเพริดพราย | บรรยายให้แจ้งบัดนี้ | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
๏ บัดนั้น | พระยาชามพูวราชกระบี่ศรี | ||
ก้มเกล้าเคารพสามที | ขุนกระบี่จึงทูลเนื้อความไป | ||
อันองค์ท้าวมาลีวราช | พระบาทบพิตรเป็นใหญ่ | ||
กับพระอัยการักร่วมใจ | ไกลนานเนิ่นนักพระราชา | ||
แต่ชันษาข้าพึ่งวัย | พอจำความได้น้อยหน้กหนา | ||
จนได้เป็นบาทมุลิกา | อายุข้าถึงกัลป์ปลาย | ||
แม่นมั่นอันองค์พระอัยกา | กับท้าวยักษาเป็นสหาย | ||
ตัวข้าจะขอบรรยาย | เล่าถวายให้แจ้งกิจการ | ||
ว่ายังมีพรหมผู้หนึ่ง | จึ่งเธอทำเพียรห้าวหาญ | ||
อตส่าห์เฝ้าพระสยมภูวญาณ | จะใคร่เป็นประธานโลกา | ||
จึ่งกราบทูลขอพระพร | ให้ถาวรยิ่งพรหมทุกทิศา | ||
กับคทาเพชรมหึมา | จะป้องกันรักษาไพรี | ||
ฝ่ายองค์อิศวรบรมญาณ | ประธานทั้งพระพรชัยศรี | ||
ครั้งนั้นคึอท้าวมาลี | มีมโนในนึกเมตตา | ||
ทูลพระอิศวรบรมนาถ | ว่าพระบาทอัชบาลนาถา | ||
ผ่านแผ่นพื้นภพอยุธยา | สามัญพึ่งพาทั่วไป | ||
สุจริตทศพิธราชธรรม์ | พงศ์พันธุ์นารายณ์เป็นใหญ่ | ||
ทุกนิเวศเขตขัณฑ์พึ่งไท | เกลือกพรหมจะไปราวี | ||
หน้าที่จะสิ้นสูญพรตกรรม์ | สามัญจะร้อนดั่งเพลิงจี่ | ||
จะขัดสนจนทั้งมุนี | โปรดเกศีอย่าให้สูญไป | ||
พระศุลีฟังมาลีวัคคพรหม | พระสยมภูวญาณก็สงสัย | ||
จี่งประทานพระขรรค์เพชรเรืองชัย | ให้ท้าวมาลีเอามา | ||
ถวายแก่ท้าวอัชบาล | แล้วประทานพระพรหนักหนา | ||
ให้ชนะแก่บรมพรหมา | คทาเพชรจงพ่ายแพ้พระขรรค์ชัย | ||
ท้าวมาลีรับเอาพระขรรค์แก้ว | แล้วเชิญพระพรลงมาให้ | ||
แด่ท้าวอัชบาลเรืองชัย | จึ่งร้กใคร่เป็นสหายกันมา | ||
ไม่มีที่เป็นอุบาย | พระองค์อย่าหมางหมายกังขา | ||
ขอเชิญเสด็จไคลคลา | ไปหาจึ่งจะชอบทางธรรม | ||
ฯ ๒๘ คำ เจรจา ฯ | |||
๏ เมื่อนั้น | พระเผ่าพงศ์นารายณ์ไอศวรรย์ | ||
จึ่งสั่งให้ตรวจเตรียมกัน | กูจะไปคมคัลพระอัยกา | ||
ฯ ๒ คำ ฯ | |||
๏ สุครีพรับสั่งไปพลัน | ตระเตรียมพลขันธ์อาสา | ||
ฯ เชิดปฐม ฯ | |||
๏ กำชับันเป็นโกลา | จัดแจงมหารถชัย | ||
นี่แน่นิลนนท์หนุมาน | องคตชมพูพานทหารใหญ่ | ||
หมวดกองกะเกนจงเกือบไป | อย่าไว้ใจอรินไพรี | ||
เกลือกเป็นอุบายถ่ายเท | เล่ห์กลแห่งมารยักษี | ||
จงจัดสรรกันแต่ตัวดี | ประคองเคียงข้างภูมีไป | ||
ฯ เจรจา ฯ | |||
๏ ครั้นเอยครั้นเสร็จ | ระเห็จเข้ามาแถลงไข | ||
ฯ แพละน้อย ฯ | |||
๏ อันซึ่งพหลสกลไกร | ได้พร้อมอยู่แล้วราชา | ||
ฯ ๘ คำ ฯ | |||
โทน | |||
๏ เมื่อนั้น | พระรามบุญเรืองเฟื่องฟ้า | ||
จึ่งชวนพระศรีอนุชา | ลีลาลงสรงวารี | ||
ทรงภูษาทาธะรสประดับเครื่อง | เรื่อเรืองรุ่งรัศรังสี | ||
สององค์ทรงลักษณ์รูจี | ต่างสีเหลืองนิลว้ตถาพราย | ||
เลิศแล้วแก้วเก้ามงกุฎเก็จ | เพชรระยับทับทรวงเฉิดฉาย | ||
ตาบติดสังวาลเลื่อมพราย | กระจายจรกรรเจียกเพราตา | ||
พาหุร้ดธำมรงค์ชายแครง | ศรีแสงชายไหวซ้ายขวา | ||
ทรงศิลป์ศรชวนอนุชา | ไคลคลาขึ้นรถจรลี | ||
ฯ เพลง ๘ คำ ฯ | |||
โทน | |||
๏ รถเอยราชรถอินทร์ | เฉิดฉินฉ้อพรรณรังสี | ||
สลับเลือกล้วนดวงจินดาดี | รัศมีสว่างเมฆา | ||
ดุจดังอโณท้ยไตรตรัส | แจ่มจัดแสงนิลว้ตถา | ||
ระย้าระย้อยลอยเลื่อนฟ้า | อนุชานั่งหน้ารถไป | ||
ฯ กลองโยน รุกร้น ฯ | |||
ร่าย | |||
๏ ครั้นถึงจึงหยุดรถแก้ว | แล้วอ่อนโอนองค์ลงไหว้ | ||
ให้พระมาตุลีขับเข้าไป | เคียงข้างขวาไทอัยกา | ||
ยอกรปัญจางค์สุจริต | ประดิษฐานเหนือเกศเกศา | ||
เคารพอภิว้นท์ปรีดา | อยู่ในมหารถชัย | ||
ฯ ๘ คำ ฯ | |||
ช้า | |||
๏ เมึ่อนั้น | พระกอบกิจธรรมเป็นใหญ่ | ||
ครั้นเห็นลักษมณ์รามเรืองชัย | ท้าวไทเพ่งพิจารณา | ||
องค์อรรคอ้อนแอ้นทั้งสอง | ผ่องแผ้วผิวนิลวัตถา | ||
เรืองรุดสุดเลิศลักขณา | เหมือนมหาอ้ชบาลสหายกู | ||
จึ่งเอื้อนอรรถโองการปราศรัย | เหตุใดเวียงชัยเจ้าไม่อยู่ | ||
มาเที่ยวไพรไยทั้งคู่ | เกิดรบสู้กันด้วยอันใด | ||
ฯ ๖ คำ ฯ | |||
ตอนที่ ๓ ตอนท้าวมาลีวราชพิพากษาความ จนทศกัณฐ์เข้าเมือง
ท้าวมาลีวราชสอบความข้างพระราม
ร่าย | |||
๏ เมื่อนั้น | พระรามสุริวงศเป็นใหญ่ | ||
จึงทูลแถลงแจ้งไป | ซึ่งมาอยู่ในพนาลี | ||
ด้วยพระบิตุรงค์ทรงชัย | ให้สัตย์นางไกยเกศี | ||
ขอให้พระพรตผ่านบุรี | ให้ข้านี้บวชอยู่ไพร | ||
ต่อถึงครบสิบสี่ปี | จึ่งให้ข้านี้เป็นใหญ่ | ||
กลับเข้าไปครองกรุงไกร | ข้าไสร้จึ่งมาพนาวา | ||
ด้วยเหตุนี้พระภูบาล | หลานรักจึ่งออกมาอยู่ป่า | ||
อันลักษมณ์เเละนางสีดา | รักข้าติดตามมาด้วยก้น | ||
เดิมข้าตั้งพรตอยู่ริมป่า | กับพระลักษมณ์นางสีดาเมียขว้ญ | ||
เมื่อจะเกิดการณ์ก่อติดพัน | มีสุวรรณกวางทองเดินมา | ||
ให้ภควดีสีดาเห็น | เป็นชอบเนื้อจำเริญใจนักหนา | ||
ไม่รู้ว่ากลมายา | ให้ข้าติดดามกวางไป | ||
ข้าจึงให้ลักษมณ์อนุชา | อยู่รักษานางที่อาศัย | ||
ทันกวางก็วางศรชัย | กวางร้องก้องไปเป็นเสียงคน | ||
ได้ยินสำเนียงว่าเจ้าพี่ | บัดนี้หมู่มารอกุศล | ||
แกล้งมาทำเล่ห์เท่กล | ผจญพี่เจ้าช่วยด้วยรา | ||
ครั้นกลับมาพบเจ้าลักษมณ์บอก | ว่านางให้ออกมาตามหา | ||
ได้ยินสำเนียงร้องมา | จึงรู้ว่ามารยาอสุรี | ||
ข้าจึงพิเคราะห์ดูกวางเล่า | ก็กลายเป็นเผ่าพงศ์ยักษี | ||
ครั้นข้ากลับมาหาเทวี | มิพบนวลนางสีดา | ||
ข้าจึงติดตามนางไป | ได้ข่าวพญาปักษา | ||
บอกว่าพญาอสุรา | ลักพาเอานางสีดาไป | ||
ได้ออกต่อต้านสับประยุทธ์ | ยงยุทธ์กันที่ทางป่าใหญ่ | ||
บอกว่ากลัวแหวนนางใน | ราพณ์ได้ทิ้งต้องสกุณี | ||
ปีกหักทบทับเจ็บคราง | อยู่ที่ในกลางพนาศรี | ||
พอข้าไปได้วาที | สกุณีก็ถึงแก่คาลัย | ||
ข้าจึงได้เรื่องราวตามมา | เพราะพญาปักษาแถลงไข | ||
จนได้รี้พลสกลไกร | ให้องคตเข้าไปแจ้งกิจจา | ||
พญายักษ์หักหาญเอานางไว้ | มิส่งสีดาให้แก่ข้า | ||
แล้วแต่งกองทัพออกมา | รบข้าจึ่งฆ่าบรรลัย | ||
เป็นสัจสุจริตพระผ่านเกล้า | ข้ามิได้เอาเท็จมาเศกใส่ | ||
พระบิดาก็ถึงแก่คาล้ย | จะได้พึ่งแต่ท้าวพระอัยกา | ||
ฯ เจรจา ๓๒ คำ ฯ | |||
๏ เมื่อนั้น | พระทรงจตุศีลยักษา | ||
ได้ฟังถ้อยคำพระรามา | ก็จินดาสอดส่องดูไป | ||
สุจริตทศพิธเจรจา | ไม่มีมุสาเศกใส่ | ||
ซื่อสัตย์ตรัสตรงจริงไป | ช่างมาทำได้อสุรี | ||
ถึงกระไรไม่เห็นบาปกรรม | จงอายนํ้าหน้าบ้างเถิดยักษี | ||
มิใช่สมบัติไม่มี | นี่กระไรไปลักเมียเขามา | ||
จำกูจะช่วยเกลี่ยไกล่ | จึ่งจะไม่อับอายขายหน้า | ||
ร่าย | |||
๏ คิดแล้วจึ่งมีพระบัญชา | ดูกรรามาอสุรี | ||
สองเจ้าเป็นเอกอรรควงศ์ | เผ่าพงศ์ผ่านภพเรืองศรี | ||
หนึ่งผ่านลงกาธานี | หนึ่งผ่านบุรีอยุธยา | ||
ไม่มีผู้ที่จะเทียมเท่า | สองเจ้าเป็นบรมนาถา | ||
เรืองรุทสุดอรรคอิศรา | สามัญพึ่งพาทั่วไป | ||
ดั่งฤๅจะมาหมองหมาง | ในนางหนึ่งนี้เป็นไฉน | ||
ไกล่เกลี่ยกันเสียเถิดเป็นไร | อย่าให้เคืองใจอัยกา | ||
ฯ เจรจาปลอบ ๑๔ คำ ฯ | |||
๏ เมื่อนั้น | พระรามทศพักตร์ยักษา | ||
ทั้งสองหลานรับพระบัญชา | ขืนอารมณ์ว่ากันไป | ||
ต่าง ๆ ตอบต่อคำแข็ง | ยั่วแยงเย้ยเยาะเศกใส่ | ||
ดื้อดึงขึงขันกันไป | ก็ทูลไทท่านท้าวมาลี | ||
อันซึ่งชีวิตข้าทั้งสอง | ปองไว้ใต้เบื้องบทศรี | ||
เกี่ยวข้องกันอยู่ด้วยนารี | พิพากษาเถิดพระอัยกา | ||
ฯ เจรจา ๖ คำ กล่าวโทษกัน ฯ | |||
ช้า | |||
๏ เมื่อนั้น | ท้าวมาลีวราชยักษา | ||
ตรัสห้ามสองราชนัดดา | แล้วตรึกตราตามข้อความไป | ||
เห็นเหตุเภทผลด้วยสตรี | จึ่งมีกระทู้ซักไล่ | ||
ไถ่ถามท้าวทศกัณฐ์ไป | เมื่อตัวได้นางสีดามา | ||
คือใครยังได้รู้เห็น | เป็นประการใดบ้างให้ว่า | ||
ยังมีสำคัญสัญญา | เจ้าว่าแต่ตามจริงไป | ||
ฯ เจรจาตามจริง ๖ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
๏ เมื่อนั้น | ทศเศียรสุริวงศ์เป็นใหญ่ | ||
จึงแก้กระทู้ทูลไป | เมื่อพบนางในพนาวา | ||
ไม่มีผู้คนเมืองบ้าน | กันดารท่าทางกลางป่า | ||
ข้าได้สำคัญสัญญา | กระหมวดหญ้าเข้าไว้เป็นพยาน | ||
มั่นคงสุจริตพระอัยกา | ข้ามิได้มุสากล่าวสาร | ||
มาดแม้นมิสมคำให้การ | ขอประทานถวายชีวิต | ||
ฯ เจรจาไม่เท็จ ๖ คำ ฯ | |||
ช้า | |||
๏ เมื่อนั้น | พระบรมลักษณ์ศักดิ์สิทธิ์ | ||
ได้ฟังพ่ออ้ายอินทรชิต | บิดผันเศกแสร้งเจรจา | ||
เป็นสิ่งของหรือตกหล่น | นี่มาเก็บคนได้กลางป่า | ||
ผิดที่มิเคยพบเห็นมา | หรือว่าผู้อื่นลักนาง | ||
พอพบพระยาอสุรี | ถ้าฉนี้จะเห็นด้วยบ้าง | ||
เกรงกลัวคิดว่าผัวนาง | ขว้างเสียทิ้งไว้หนีไป | ||
อันกระนั้นมั่นแม่นผิดที | ถ้าฉนี้พอจะเห็นด้วยได้ | ||
นี่สิว่านางตกกลางไพร | จนใจไม่รู้ที่เจรจา | ||
แต่ว่าจะเป็นอะไรมี | ข้อคดีของรามกล่าวหา | ||
เพื่อนว่าเป็นผัวสีดา | ถ้าจริงก็จะได้เนื้อความ | ||
ฯ ๑๐ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
๏ คิดแล้วจึงแต่งกระทู้ไล่ | บัญชาซักไซ้ไถ่ถาม | ||
ตัวว่าเป็นผัวนงราม | นางงามนี้เป็นประการใด | ||
นางนี้ก็จะมีแม่พ่อ | หน่อท้าวด้าวแดนกรุงไหน | ||
นางอยู่ถิ่นฐานบ้านเมืองใด | เร่งให้การไปบัดนี้ | ||
ฯ เจรจาตามสัจจริง ๑๒ คำ ฯ | |||
๏ บัดนั้น | พระอวตารผู้ชาญชัยศรี | ||
แก้กระทู้ทูลตอบคดี | นางนี้อยู่เมืองมิถิลา | ||
พระบิดาชื่อท้าวชนก | ยกนางนี้ให้แก่ข้า | ||
ได้ตกแต่งการวิวาห์ | สามัญญะมาทั่วไป | ||
เธอตั้งพิธียกศิลป์ | เมืองแมนแดนดินหวั่นไหว | ||
ข้ายกได้จึ่งให้ทรามว้ย | เทพไทรู้สิ้นพระราชา | ||
ถ้าสืบมิสมดุจดั่งคำ | จงทำโทษเถิดให้หนักหนา | ||
ประหารชีพให้ม้วยชีวา | พระอัยกาอย่าได้ปรานี | ||
ฯ เจรจาไม่ว่าเท็จ ๘ คำ ฯ | |||
ช้า | |||
๏ เมื่อนั้น | พระพงศ์พรหมธิราชรังสี | ||
ได้ฟังพระรามพาที | ก็ปรีดาส่องดูไป | ||
เห็นเหตุเภทผลแม่นมั่น | นั่นอะไรเล่าคำแถลงไข | ||
ดั่งฤๅจะเกิดนางกลางไพร | อ้ายจังไรมันแกล้งพาที | ||
จำกูจะถามสีดาก่อน | จึ่งจะแบ่งบั่นรอนถูกที่ | ||
ท้าวมาลีราชสอบความนางสีดา
ร่าย | |||
๏ ก็สั่งวิศณุกรรม์ทันที | ไปหานวลนางสีดามา | ||
ฝ่ายองค์ท้าวทศพักตร์ | ให้แต่งอสุรศักดิ์ยักษา | ||
ฝ่ายข้างพระรามราชา | ให้แต่งเสนากำกับไป | ||
คุมกันพานางสีดามา | อย่าให้ใครเจรจาด้วยได้ | ||
บอกว่าแต่กูให้หาไป | ฉับไวพามาอย่าช้า | ||
ฯ ๑๐ คำ ฯ | |||
๏ บัดนั้น | พระรามทศพักตรยักษา | ||
สองฝ่ายรับสั่งสั่งเสนา | คุมอาสาข้างละพันไป | ||
ฯ ๒ คำ ฯ | |||
๏ ฝ่ายมโหธรหนุมาน | สองทหารประณตประณมไหว้ | ||
มาจัดยักษีกระบี่ไพร | กำกับเทพไทจรลี | ||
ฯ เชิดปฐม ๒ คำ ฯ | |||
๏ ครั้นถึงสวนขวัญทันใด | เทพไทร้องบอกมารศรี | ||
พระอัยกาให้เชิญจรลี | ไปที่สมรภูมิพลัน | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
๏ เมึ่อนั้น | นารีสีดาสาวสวรรค์ | ||
ได้ฟังพระวิษณุกรรม์ | เกษมสันติ์ราชหฤทัย | ||
แม่นมั่นอันอัยกาเจ้า | จะเอากูไปถามซักไล่ | ||
ซึ่งพระยามารลักกูมาไว้ | จะสอบใส่กับคำพระรามา | ||
ดีใจกูจะได้ไปเห็น | เป็นไรก็เป็นไปข้างหน้า | ||
จะตัดพ้อท่อถามเจรจา | กูจะว่าให้อายแก่คน | ||
กูไม่ปราศัยอ้ายขุนมาร | พวกพาลยักษ์ร้ายอกุศล | ||
กูจะกราบพระบาทจุมพล | ซึ่งสู้เสียสกลกายมา | ||
คิดแล้วจึ่งร้องไปพลัน | ข้าจะจรจันไปหา | ||
จะได้กราบพระบาทพระไอยกา | อย่าเข้ามาเร่งจรลี | ||
ฯ ๑๐ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
๏ บัดนั้น | พระวิษณุกรรม์เรืองศรี | ||
รับคำวรราชนารี | เร่งยักษีเชิญพิมานชัย | ||
ฯ ยักษ์ร้อง ๒ คำ ฯ | |||
๏ ต่าง ๆ จัดแจงเป็นโกลา | ยกมหาบุษบกเข้ามาให้ | ||
เตรียมสรรพก็กลับคลาไคล | ออกไปคอยนำลีลา | ||
ฯ ๒ คำ ฯ | |||
๏ บัดนั้น | อสุรานารีซ้ายขวา | ||
ซึ่งได้รักษาสีดา | พาเชิญขึ้นบุษบกพลัน | ||
สีดาก็เข้าในม่านทอง | ปิดป้องกำบังผายผัน | ||
อยู่ในม่านแก้วแพรวพรรณ | ผายผันตามเทวะจรลี | ||
ฯ เพลง ฯ | |||
๏ ครั้นถึงนางจึ่งอภิวาท | อัยกาธิราชรังสี | ||
ทั้งพระภ้สดาสามี | มารศรีสอดส่องนัยนา | ||
เห็นทศกัณฑ์อยู่เบื้องซ้าย | คล้าย ๆ พระรามอยู่เบื้องขวา | ||
นั่งหน้าคือองค์พระอนุชา | พระอัยกาอยู่หว่างกลางคัน | ||
นวลนางเศร้าสร้อยโศกี | มารศรีวิโยคโศกศัลย์ | ||
นางแสนโศกาจาบัลย์ | อัดอั้นอยู่ในม่านรูจี | ||
ฯ โอด ๑๐ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
๏ เมื่อนั้น | พระพงศพรหมธิราชร้งสี | ||
ครั้นเห็นบุษบกมณี | ก็รู้ว่านางสีดามา | ||
จึ่งสั่งให้เข้ามาใกล้ | หน้าพิช้ยราชรถา | ||
ตัวกูจะดูสีดา | จงพาเข้ามาบัดนี้ | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
๏ ฝ่ายเทวะรับสั่งพลัน | ร้องบอกแจ่มจันทร์มารศรี | ||
ทั้งตรีชฎาอสุรี | เชิญมณีบุษบกเข้ามา | ||
ฯ ๒ คำ ฯ | |||
๏ ตรีชฎาก็พาเข้าไป | ตรงหน้าพิชัยรถา | ||
จึ่งบอกนวลนางสีดา | รูดมหาม่านทองดุษฎี | ||
ฯ ๒ คำ ฯ | |||
๏ สีดาก็รูดม่านก้ม | ประณตประณมบทศรี | ||
ครวญ | |||
๏ เคารพอภิวันท์ธุลี | โศกีสะอื้นไปมา | ||
ฯ โอด ๒ คำ ฯ | |||
ช้า | |||
๏ เมื่อนั้น | พระทรงจตุศีลยักษา | ||
ครั้นเห็นนวลนางสีดา | เสน่หาปลาบปลื้มฤทัย | ||
อั้นอัดกำหนัดในนาง | พลางกำเริบราคร้อนพิสมัย | ||
พิศเพ่งเล็งแลทรามวัย | มิได้ที่จะขาดวางตา | ||
ชิชะโอ้ว่าสีดาเอ๋ย | มางามกระไรเลยเลิศเลขา | ||
ถึงนางสิบหกห้องฟ้า | จะเปรียบสีดาได้ก็ไม่มี | ||
แต่กูผู้รู้ยศธรรม์ | ยังหมายมั่นมุ่งมารศรี | ||
สาอะไรกับอ้ายอสุรี | จะมิพาโคติกาตาย | ||
โอ้อนิจจาทศกัณฐ์ | สู้เสียพงศ์พันธ์ฉิบหาย | ||
ม้ารถคชพลวอดวาย | ฉิบหายเพราะนางสีดา | ||
ตัวกูผู้หลีกลัดตัดใจ | ยังให้หุนเหี้ยนเสน่หา | ||
ที่ไหนม้นจะได้สติมา | แต่วิญญาณ์กูยังแดยัน | ||
ขวยเขินสะเทินวิญญาณ์ | กว่านั้นไม่เหลือบแลแปรผัน | ||
ไม่ดูสีดาดวงจันทร์ | พระทรงธรรมเธอคิดละอายใจ | ||
บิดเบือนพักตร์ผินไม่นำพา | ขืนข่มอารมณ์ปราศัย | ||
อั้นอัดอดยิ้มไม่ได้ | เยื้อนแย้มว่าไปแก่สีดา | ||
เจ้าผู้จำเริญสิริภาพ | ปลาบปลื้มเยาวะยอดเสน่หา | ||
เจ้าเป็นเอกอรรคกัญญา | หน่อนามกษัตราบุรีใด | ||
ทำไมจึ่งมาอยู่นี่ | สุริวงศ์พงศ์พรอยู่ไหน | ||
ลูกผัวเจ้ามีหรือไม่ | บอกไปให้แจ้งบัดนี้ | ||
ฯ เจรจาตามจริง ๒๐ คำ ฯ | |||
๏ บัดนั้น | นวลนางสีดามารศรี | ||
ก้มเกล้ากราบทูลทันที | ข้านี้เป็นเมียพระรามา | ||
เดิมชนกบิดาบวชอยู่ไพร | บอกข้าว่าได้มาแต่ป่า | ||
แทบริมฝั่งนํ้าคงคา | ในมหาบัวทองรูจี | ||
จึ่งเอาข้ามาเลี้ยงไว้ | แล้วพาเข้าไปกรุงศรี | ||
ในมิถิลาธานี | ให้ตั้งพิธียกศิลป์ชัย | ||
ต่าง ๆ เข้ายกธนูศิลป์ | เสร็จสิ้นมิได้หวาดไหว | ||
พระรามยกได้ว่องไว | จึ่งให้ข้าเป็นภรรยา | ||
ทำการวิวาหมงคล | เสนาสามนต์ทั่วหน้า | ||
ทั้งฤๅษีสิทธิวิทยา | เทวามาช่วยอวยชัย | ||
เทพเจ้าแจ้งใจอยู่สิ้น | เมืองแมนแดนดินน้อยใหญ่ | ||
แล้วพระรามจึงพาข้าไป | อยู่ในกรุงศรีอยุธยา | ||
อยู่มานางไกยเกศี | ทูลบิดาสามีของข้า | ||
ให้พระรามไปอยู่พนาวา | ข้ารักจึ่งตามจรลี | ||
กับทั้งพระล้กษมณ์อนุชา | ออกมาอยู่ริมพนาศรี | ||
แล้วมีกวางทองรูจี | จรลีมาเห็นเป็นชอบใจ | ||
ข้าให้พระรามไปตามกวาง | ท่าทางที่ริมอาศัย | ||
พระรามจึ่งให้เจ้าลักษมณ์ไว้ | เธอก็ไปตามไล่มฤคา | ||
ครั้นอยู่ประเดี๋ยวได้ยินก้อง | ว่าน้องเอยช่วยด้วยยักษา | ||
สงสัยว่าภัยมีมา | จึ่งให้อนูชาไปตาม | ||
ทศพักตร์จึงล้กพาข้ามา | สดายุได้ออกไต่ถาม | ||
บอกว่าข้าเป็นเมียราม | ถ้อยถามถุ้งเถียงไปมา | ||
พญาย้กษ์ไม่ฟังจะพาหนี | สดายุต่อตีเข่นฆ่า | ||
ฝ่ายองค์พระยาอสุรา | ถอดแหวนของข้าทิ้งไป | ||
ถูกต้องพญาสกุณี | ปีกห้กอยู่ที่ทางป่าใหญ่ | ||
แล้วพาข้าเข้ามาไว้ | ในกรุงนครลงกา | ||
จึ่งทศกัณฐ์ไปวอนวิง | จะให้ยิงยอมเสน่หา | ||
ข้าว่าเป็นเมียพระรามา | ยักษากราบไหว้ให้ปรานี | ||
ด่าว่าเท่าไรไม่ขึ้งโกรธ | ไปคาดโทษแก่นางยักษี | ||
ตัวข้าก็มิได้ไยดี | จงแจ้งธุลีบาทา | ||
ฯ เจรจา ๓๐ คำ ฯ | |||
ช้า | |||
๏ เมื่อนั้น | พระทรงจตุศีลยักษา | ||
สอดส่องดูคำสีดา | ไม่ต้องในหาทศกัณฐ์ | ||
ผิดไปมิได้ไคล้คลึง | คำรามอ้างถึงสรวงสวรรค์ | ||
สมคำสีดาดวงจ้นทร์ | เห็นมั่นคงทางพระรามา | ||
ฝ่ายคำพระยาอสุรี | มีพยานแต่ที่กระหมวดหญ้า | ||
แม่นมั่นมันล้กเมียเขามา | ครั้นว่ากูจะตัดสินไป | ||
ข้อความยังมิได้สืบก่อน | เสนาพลากรจะสงสัย | ||
ทศกัณฐ์ผู้ผิดจะติดใจ | จำจะให้สืบใส่ด้วยสำนวน | ||
แล้วจึ่งจะคิดบัญชา | พิพากษาตามข้อไต่สวน | ||
ทั้งฟ้องถ้อยคำสำนวน | ประมวญกันพิพากษาไป | ||
ท้าวมาลีวราชตัดสินความ
ร่าย | |||
๏ คิดแล้วให้สืบเทวา | ตามคำรามาแถลงไข | ||
เทวาจะว่าประการใด | ท่านจงเร่งให้การมา | ||
ฯ ๑๒ คำ ฯ | |||
๏ ฝ่ายทศกัณฐ์โจทก์ค้าน | พยานเหล่านี้ชังข้างข้า | ||
ไม่รู้ว่าได้สีดา | มาเป็นพยานมิเต็มใจ | ||
ฯ ๒ คำ ฯ | |||
เทวา | |||
๏ ฝ่ายเทพรีบสมอ้างค้าน | สบถสาบานแถลงไข | ||
แม้นมุสาให้ข้าบรรล้ย | มิได้เอาเท็จมาเจรจา | ||
ชังจริงด้วยเธออาธรรม์ | ถึงกระนั้นก็ไม่มุสา | ||
ไม่แจ้งว่าได้สีดา | ข้ามิได้เอาเท็จมาพาที | ||
เดิมข้าได้ยินเขาลือเลึ่อง | ในเมืองพระชนกฤษี | ||
เธอกล้บเข้าครองบุรี | ทำการพิธีมงคล | ||
ให้ตั้งธนูยกศิลป์ชัย | ชวนกันลงไปทุกแห่งหน | ||
ใครยกไหวจะให้เนียรมล | ผู้คนเต็มไปทั้งภารา | ||
ตัวข้าได้ยกธนูศิลป์ | พรหมินทร์อินทร์จันทร์เป็นหนักหนา | ||
ข้ายกศิลป์ชัยไม่เคลื่อนคลา | พระรามายกไหวจึ่งได้นาง | ||
แล้วเธอทำการวิวาห์ | ข้านี้ได้ช่วยทั้งสองข้าง | ||
พอเจ้าบ่าวเข้าหานาง | ต่างคนต่างมาวิมานชัย | ||
ฯ เจรจา ๑๒ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
๏ เมื่อนั้น | พระกอบกิจธรรมเป็นใหญ่ | ||
ได้ฟังเทวาสุราลัย | ให้การสมคำพระรามา | ||
ก็พอจะตัดสินไป | แต่ยังมิได้ชันสูตรหญ้า | ||
ดูก่อนพญาอสุรา | จะให้เอาหญ้าสำคัญ | ||
ฝ่ายข้างพระรามราชา | จงแต่งเสนาผายผัน | ||
กำกับทนายกุมกัณฑ์ | นำวิษณุกรรม์ไปเอามา | ||
ฯ ๖ คำ ฯ | |||
๏ เมื่อนั้น | พระรามทศพักตร์ยักษา | ||
สองฝ่ายรับสั่งสั่งเสนา | ให้กำกับนำเทวะจรลี | ||
ฯ ๒ คำ ฯ | |||
๏ ฝ่ายมโหธรหนุมาน | สองทหารประณตบทศรี | ||
๏ มโหธรนำเทพจรลี | ฝ่ายศรีหนุมานกำกับมา | ||
ฯ เชิด ฯ | |||
ร่าย | |||
๏ มาเอยมาถึง | ยังที่ทุ่งกว้างกลางป่า | ||
ฝ่ายมโหธรอสุรา | ยักษาก็คิดในใจ | ||
เมื่อมิได้มีสำค้ญ | จะรู้ที่หมายมั่นแห่งไหน | ||
ใช้มาแล้วจำจะพาไป | ให้ได้ซึ่งหญ้าเป็นสำค้ญ | ||
พอเห็นหญ้าตกเรี่ยราย | ยักษ์ร้ายจึ่งว่านี่หมายมั่น | ||
เจ้านายข้าทำเป็นสำคัญ | เทวัญจงเอาจรลี | ||
ฯ ๘ คำ ฯ | |||
๏ ฝ่ายวิษณุกรรม์เก็บเอาหญ้า | พามาตามคำย้กษี | ||
ฯ เชิด ฯ | |||
๏ ครั้นถึงทูลถวายทันที | นี่และสำคัญอสุรา | ||
ฯ ๒ คำ ฯ | |||
ช้า | |||
๏ เมื่อนั้น | พระทรงจตุศีลยักษา | ||
ครั้นเห็นซึ่งหญ้าสำคัญมา | ก็บัญชาไกล่เกลี่ยเนื้อความไป | ||
ดูกรเจ้าสองหลาน | พยานข้างรามฟังได้ | ||
ฝ่ายทศก้ณฐ์สำคัญไซ้ | สืบได้แต่หญ้ากระหมวดมา | ||
เมึ่อพิจารณาดูข้อความ | ถ้อยถามยืดยาวนักหนา | ||
มีพยานมั่นคงว่ารามา | เป็นผัวสีดาเทวี | ||
ก็มาดเก็บได้นาง | ข้างผัวยังตามมารศรี | ||
ดูกรพญาอสุรี | เพื่อนนี้หลานสหายร่วมใจ | ||
ข้างเจ้าก็เป็นนัดดา | หาอื่นหาไกลกันไม่ | ||
จงฝากชีวิตกันไป | ส่งนางให้รามคืนภารา | ||
นี่แน่เจ้ารามทศก้ณฐ์ | เป็นพันธุมิตรดีกว่า | ||
อย่าให้ร้อนราษฎร์ประชา | สองราฟังปู่วาที | ||
ฯ เจรจาปลอบ ๑๒ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
๏ บัดนั้น | ทศพักตร์ลักษมณ์รามสามศรี | ||
ดื้อดึงขึงขันพาที | สามศรีเถียงกันไปมา | ||
ฯ เจรจาโจทก์มาว่ากัน ฯ | |||
๏ ฝ่ายทศกัณฐ์ทูลแถลง | แคลงชังด้วยกล่าวมุสา | ||
เมื่อได้มาแต่พนาวา | กลับว่าข้าลักเทวี | ||
หาไม่ทำไมกับสีดา | ตัวข้าไม่หวงสาวศรี | ||
มิใช่สมบัติไม่มี | ว่านี้ด้วยแค้นฤทัย | ||
เสียแรงขอจากปากมาร | กลับว่าเป็นพาลไปได้ | ||
เมื่อขัดสนจนรู้ทั้งกรุงไกร | ช่างซ้อมก้นได้เป็นคำเดียว | ||
อนิจจาเทวาก็กลอกกลับ | ผู้บังคับไม่ว่าตามป่าเปลี่ยว | ||
เสือสีห์อสุรีท่องเที่ยว | แม้นพบจะขบเคี้ยวเนื้อกิน | ||
ธรรมเนียมว่าเป็นผัวเมีย | หรือจะทั้งเสียได้ไพรสิน | ||
ก็จะแหนหวงอยู่อาจิณ | จงถวิลดูเถิดพระอัยกา | ||
อันซึ่งพยานสมอ้าง | เหตุชังข้างข้ายักษา | ||
เหมือนมาตุลีเทวา | ก็อาสาชักรถจงดูไป | ||
อ้ายนี่กับเทพให้การ | แต่ก่อนดีฉานเอามาใช้ | ||
ได้ยากลำบากเจ็บใจ | แกล้งให้การสมรามมา | ||
อันองค์ลักษมณ์รามผู้นี้ | เป็นคนมิดีริษยา | ||
ยิงพญาพาลีม้วยชีวา | ได้พลยกมาพระบุรี | ||
หากจะช่วงชิงเอาสมบัติ | พัสถานในราชกรุงศรี | ||
แกล้งกล่าวด้วยสีดานารี | มิใช่ผัวนางพระอัยกา | ||
พระรามหากอาจองทนงศ้กดิ์ | มายํ่ายีหมู่มารยักษา | ||
สิ้นสุดมุดม้วยชีวา | จึ่งให้เจรจาความเมือง | ||
เมื่อองคตเข้าไปว่าขาน | ทำห้าวหาญโกลีฟุ้งเฟื่อง | ||
ให้อายแก่ไพร่พลเมือง | ลือเลื่องรู้สิ้นพระราชา | ||
มิใช่ว่าจะไปโดยดี | ฆ่าสี่เสนียักษา | ||
องอาจกล่าวคำอหังการ์ | ข้าติดใจอยู่พระภูมี | ||
ฯ ๒๖ คำ ฯ | |||
๏ ฝ่ายข้างพระรามทูลแย้ง | ข้าบาทขอแจ้งบทศรี | ||
เมื่อทศพักตร์ลักเทวี | พามาบุรีลงกา | ||
ฝ่ายพญาพิเภกว่าขาน | พญามารโกรธขับเสียป่า | ||
ได้ความทนทุกข์เวทนา | มาพึ่งข้านี่แนภูมี | ||
ถ้าสืบมิสมดุจดั่งคำ | จงทำโทษเกล้าเกศี | ||
อะไรไม่อายวาที | สีดาว่าไหว้ก้ลยา | ||
ซึ่งศรถูกพญาพาลี | ข้ามิตั้งใจเข่นฆ่า | ||
ด้วยพาลีเสียสัจจา | ขอให้ศรข้าปักอกตาย | ||
ครั้งดึกดำบรรพ์นั้นมา | พญาพาลีจึ่งฉิบหาย | ||
มิได้ให้เมียแก่น้องชาย | จึ่งตายเหมือนถวายสัจจา | ||
ถึงกระนั้นก็ไม่ขึ้งโกรธ | ข้าจะช่วยแก้โทษริษยา | ||
ขอแต่โลหิตติดโลมา | ทาปลายศรกินเป็นที | ||
พญาพาลีก็มิให้ | ยอมม้วยบรรลัยเป็นผี | ||
ไม่มีผู้ผ่านธานี | น้องพาลีผ่านภารา | ||
เห็นข้าอยู่ในสุจริต | คิดกันถวายเมืองทูลอาสา | ||
จึ่งให้ไปแจ้งกิจจา | ยักษาไม่เปิดทวารชัย | ||
องคตจึ่งทลายประตูเมือง | เอาเรื่องราวเข้าแถลงไข | ||
ทศกัณฐ์ก็ดื้อดึงไป | ไม่ส่งสีดาเทวี | ||
กลับว่าองคตหยาบข้า | ให้เสนาฆ่ากระบี่ศรี | ||
เสนาจับองคตต่อตี | ฆ่าอสุรีตายจึ่งรอดไป | ||
มิใช่สมบัติข้าไม่มี | จะรบเอาบุรีหาไม่ | ||
แม้นส่งสีดาทรามว้ย | ก็จะกลับคืนไปภารา | ||
เหตุด้วยลักเมียข้ามาก่อน | ข้าจึ่งตามบั่นรอนเข่นฆ่า | ||
ไม่ดีลักเมียข้าหนีมา | พระอัยกาจงแจ้งธุลี | ||
ฯ ๒๔ คำ ฯ | |||
ช้า | |||
๏ เมื่อนั้น | พระทรงทศธรรมรังสี | ||
พิพากษาตัดสินคดี | ไม่ควรอสุรีติดใจ | ||
มิใช่แต่มาตุลี | เทวันจันทรีเท่าไหน ๆ | ||
รู้เห็นเป็นสามภพไตร | เจ้าติดใจผิดประเวณี | ||
อันจะแคลงว่านางอยู่กลางป่า | นัดดาไปได้มารศรี | ||
นั้นชอบแต่ผัวไม่มี | นารีตกอยู่เอกา | ||
นี่ถามสีดาว่าเจ้าลัก | ทศพักตร์ว่าได้มาแต่ป่า | ||
ฝ่ายรามว่าเป็นภรรยา | สืบเทวาสมพาที | ||
กลับซัดให้การถึงเจ้า | ว่าลักพาเมียเขาหนี | ||
เห็นว่าเจ้าลักเทวี | สีดาเป็นเมียรามา | ||
จึ่งปรึกษาให้เจ้าส่ง | คงแก่รามร่วมเสน่หา | ||
คือผิดอย่างไรให้ว่ามา | ทำตามปรึกษาบัดนี้ | ||
ฯ เจรจาพิพากษาคู่ ๑๒ คำ ฯ | |||
ทศกัณฑ์พาล ไม่ยอมรับคำตัดสิน
ร่าย | |||
๏ บัดนั้น | ทศเศียรสุริวงศ์ยักษี | ||
ติดใจเทวัญจันทรี | กับพิพากษาไม่เต็มใจ | ||
เมื่อเทพรับสั่งอ้างค้าน | ดั่งฤๅภูบาลฟังได้ | ||
โกสีย์ยังให้รถชัย | หรือจะมิดลใจเทวี | ||
ถึงมาดว่าเมียรามจริง | เมื่อทิ้งทอดในพนาศรี | ||
เป็นสิทธิ์เสือสางอสุรี | ชอบพิพากษาให้ผู้ได้มา | ||
นี่สิว่าข้าไปลักนาง | ฝ่ายข้างรามเห็นหรือให้ว่า | ||
เป็นแต่บอกเล่าเจรจา | ข้าติดใจอยู่ภูมี | ||
ฯ เจรจาติดใจพิพากษา ๘ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
๏ เมื่อนั้น | พระทรงทศธรรมรังสี | ||
เดือดด่าพญาอสุรี | อ้ายนี่ม้นช่างเจรจา | ||
ฝ่ายมึงลักเมียเขาพรากผัว | จะช่วยชั่วกระไรอ้ายบ้า | ||
เมื่อเองเล็ดลอดลักมา | จะเห็นหน้าตามึงกลใด | ||
มาดแม้นถ้าพบเจ้าผัว | โดยชั่วไม่ละเมียให้ | ||
เช่นนี้หรือนางตกกลางไพร | จะพิพากษาให้มึงมา | ||
อย่างนี้หรือเหยื่อเสือสีห์ | มึงช่างพาทีริษยา | ||
เทพผู้ใดดลสีดา | ใยมึงมิว่าออกไป | ||
จะเกี่ยวข้องอะไรกับโกสีย์ | รถของเขามีเขาให้ | ||
มาดแม้นมึงไม่เป็นโจรไสร้ | ใยมิส่งให้พระรามา | ||
แล้วกล่าวเป็นภาคสุนทร | ดูกรพญายักษา | ||
เจ้าเป็นเยาวะยอดนัดดา | หลานรักเสน่หาของเรา | ||
ถึงมาดจะแหนหวงนางไว้ | นางก็ไม่อะไรกับเจ้า | ||
ป่วยการไปชั่วอย่ามัวเมา | มิใช่ของเจ้าอย่าเจรจา | ||
จงฟังคำกูผู้ปู่สอน | ให้ถาวรยศยิ่งภายหน้า | ||
จะทำไมกับอี่สีดา | ยักษาเจ้าอย่าใยดี | ||
มาดแม้นถึงทิพสุวรรณ | สามัญรองบทศรี | ||
ดั่งฤๅจะสวดสวมโมลี | ยักษีอย่าผูกพันอาลัย | ||
หนึ่งนวลนางราชอสุรี | ดิบดีดั่งดวงแขไข | ||
ประโลมเลิศละลานฤทัย | อำไพยศยิ่งกัญญา | ||
ว่านี้แต่ที่เยาว์ ๆ | ยังอี่เถ้ามนโทกนิษฐา | ||
เป็นยิ่งยอดเอกอิศรา | รจนาล้วนเล่ห์ระเริงใจ | ||
แม้นเจ้ามิฟังคำกู | จะไปสู่นรกหมกไหม้ | ||
ล้วนสาหัสฉกรรจ์บรรลัย | จะใยดีอะไรกับสีดา | ||
จงส่งองค์นางสีดาให้ | แก่พระรามเจ้าไปดีกว่า | ||
เหมือนหลานเอ็นดูอัยกา | เจ้าฟังปู่ว่าบัดนี้ | ||
ฯ เจรจาปลอบหลาน ๒๖ คำ ฯ | |||
๏ บัดนั้น | ทศเศียรสุริวงศ์ยักษี | ||
ฮึดฮัดตัดพอพาที | เออกระนี้ควรเป็นพระอัยกา | ||
มาดแม้นมอดม้วยสุริวงศ์ | พระองค์เบี่ยงบ่ายตามสุขา | ||
แพ้พ่ายไม่ขายบาทา | หน้าอ้ายยักษาอสุรี | ||
ก็ให้เลื่อนบุษบกออก | ร้องบอกอัยการังสี | ||
ถึงมอดม้วยชีพชีวี | จะสู้เอาบุรีเป็นเรือนตาย | ||
พระองค์อยู่เถิดให้เลิศผู้ | จะได้ดูประเสริฐเฉิดฉาย | ||
จงพิศวาทสองราชหลานชาย | ช่วยกันเบี่ยงบ่ายเจรจา | ||
ดูกรพระรามพระลักษมณ์ | เราเป็นหลานรักเสน่หา | ||
เธอยังไม่คิดเมตตา | สาอะไรแก่เจ้าสองไท | ||
ก็จะเหมึอนกันกับตูข้า | เธอช่างบัญชาออกได้ | ||
ครั้นจะส่งองค์นางสีดาไป | เจ้าไซร้ก็กังขาราคี | ||
แล้วได้ทำการสับประยุทธ์ | นงนุชอยู่ในเมึองย้กษี | ||
เราจะสู้กันกว่าชีวี | จึ่งจะมีเกียรติยศสืบไป | ||
ว่าแล้วก็ร้องโกญจนาท | ดูกรอสุรราชน้อยใหญ่ | ||
พระอัยกาให้ส่งนางไป | มึงจะว่ากะไรอสุรา | ||
แล้วทูลเฉลยยุบล | ที่จะส่งเนียรมลอย่าได้ว่า | ||
ให้ลือชื่อไว้กัลปา | อัยกาเจ้าจงแจ้งใจ | ||
ฯ ๑๘ คำ ฯ | |||
๏ เมื่อนั้น | พระทรงทศธรรมเป็นใหญ่ | ||
กริ้วโกรธพิโรธฤท้ย | เอาใจลักษมณ์รามราชา | ||
ดูกรสองหน่อนาถ | อย่าประภาษความแก่ยักษา | ||
มันเป็นหมู่หมามฤคา | ไม่ควรนัดดาจะพาที | ||
ไว้อัยกาจะตอบต่อ | ข้อความกับอ้ายยักษี | ||
ดูกรพญาอสุรี | มึงนี้เป็นคนอาธรรม์ | ||
ไม่อยู่ในสัจสุจริต | คิดคดทดโท่โมหัน | ||
ฝ่ายกูคนึงถึงกุมภัณฑ์ | มึงจะพามันม้วยมรณา | ||
ตัวกูคิดว่ามึงหลาน | จึ่งว่าขานให้เป็นสุขา | ||
ฝ่ายมึงก็ไม่นำพา | เจรจาทรลักษณ์ใส่ตัว | ||
ความเจ็บความอายไม่มี | กราบไหว้สตรีท่วมหัว | ||
มึงนี้อ้ายเต่าเมามัว | ชั่วชาติไม่มีความอาย | ||
ให้อับประภาคไปทั้งมูล | ไอสูรย์สมบัติจงเสื่อมหาย | ||
ให้วายชีพด้วยศรนารายณ์ | จงพ่ายแพ้พระรามทุกเวลา | ||
แล้วจุมพิตพักตรพระราเมศ | เยาวเรศเรืองฤทธิเสน่หา | ||
จงมีชัยชนะอสุรา | ปรากฏยศยิ่งสามธาตรี | ||
แล้วสั่งพระวิษณุกรรม์ | จงผายผันพานางบทศรี | ||
ไปไว้ในสวนอสุรี | ตามทีที่เดิมสีดามา | ||
ฯ ๑๘ คำ ฯ | |||
๏ ฝ่ายวิษณุกรรม์รับพาที | สีดากราบลงสามท่า | ||
ไหว้ทั้งท้าวผู้ภัสดา | ก็ลีลามายังอุทยาน | ||
ฯ เพลง ๒ คำ ฯ | |||
๏ เมื่อนั้น | ทศเศียรสุริวงศ์ได้ฟังสาร | ||
ร่านร้อนฤทัยเพียงไฟกาล | ดั่งจะผลานทรวงซ่านวิญญาณ์ | ||
ดิ้นเดือดดันดึงโกนก้อง | ร้องด้วยอำนาจยักษา | ||
สนั่นครั่นครื้นพระสุธา | ก็ลีลาบุษบกพิมานชัย | ||
ออกมาคอยฟังคดี | ยักษีมิได้บังคมไหว้ | ||
แทบใกล้สมรภูมิชัย | เข้าสถิตย์อยูในไพรวัน | ||
ฯ คุกพาทย์ ๖ คำ ฯ | |||
๏ ฝ่ายอัษฎาทัศวานร | พลากรทูลไทไอศวรรย์ | ||
ข้าขออาสาพระทรงธรรม์ | ไปหั่นสับหน้าเป็นตีนกา | ||
ประจานไว้มิให้ใครดูเยี่ยง | อาธรรม์ไม่เที่ยงมรรษา | ||
แล้วจะเข้าไปเชิญสีดา | มิให้ผ่านฟัาเคืองใจ | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
๏ ฝ่ายข้างพระลักษมณ์พระรามห้าม | ออกนามหนุมานทหารใหญ่ | ||
เจ้าอย่ากริ้วโกรธฟูนไฟ | ไม่ต้องขนบธรรมเนียมมา | ||
ห้ามทั้งอัษฎาพานร | พวกพลนิกรซ้ายขวา | ||
มิให้เข่นฆ่าอสุรา | ก็ทูลพระอัยกาไป | ||
เมื่อพระองค์ให้หามาว่าขาน | พระยามารดันดึงไม่ส่งให้ | ||
ฝ่ายนางก็กล้บเข้าไป | อยู่ในเงื้อมมืออสุรา | ||
เกลือกทศกัณฐ์กริ้วโกรธ | จองโทษทัณฑ์ทำเมียข้า | ||
จะมิมอดม้วยชีวา | พระอัยกาจะว่าประการใด | ||
ฯ ๘ คำ ฯ | |||
๏ เมื่อนั้น | พระทรงทศธรรม์เป็นใหญ่ | ||
จึ่งจุมพักตร์ปลอบพระรามไป | เจ้าไสร้ยศยิ่งนัดดา | ||
ครั้นจะช่วงชิงเอานางไว้ | เกียรติยศจะไม่มีภายหน้า | ||
หนึ่งก็มานะอสุรา | ข้อนี้นัดดาอย่าแคลงใจ | ||
เจ้าจงกลับคืนพลับพลา | อัยกาจะไปกรุงใหญ่ | ||
ต่างคนก็ต่างคลาไคล | พระรามก็ไปพลับพลา | ||
ฯ เชิด ๖ คำ ฯ | |||