กาพย์เห่เรือ พระราชนิพนธ์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

จาก ตู้หนังสือเรือนไทย

(ความแตกต่างระหว่างรุ่นปรับปรุง)
ข้ามไปที่: นำทาง, สืบค้น
(เห่ชมไม้)
(ข้อมูลเบื้องต้น)
แถว 4: แถว 4:
[[หมวดหมู่:วรรณคดีรัตนโกสินทร์]]
[[หมวดหมู่:วรรณคดีรัตนโกสินทร์]]
[[หมวดหมู่:กาพย์เห่เรือ]]
[[หมวดหมู่:กาพย์เห่เรือ]]
-
[[หมวดหมู่:ยังไม่สมบูรณ์]]
 
'''พระราชนิพนธ์:''' [[พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว]]
'''พระราชนิพนธ์:''' [[พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว]]

การปรับปรุง เมื่อ 16:53, 11 กรกฎาคม 2552

เนื้อหา

ข้อมูลเบื้องต้น

แม่แบบ:เรียงลำดับ พระราชนิพนธ์: พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

บทประพันธ์

เห่ชมสวน

โคลง
๏ นาเวศคลาเคลื่อนคล้อยชลธาร
ล่วงกระแสวโนทยานถิ่นไม้
เฌอเหล่าพฤกษ์ตระการดวงดอก
หอมรื่นชื่นจิตให้นึกน้องคะนึงหลัง ฯ
             
กาพย์
๏ นาเวศเคลื่อนคล้อยคลาล่องลอยมาตามชลธาร
ชมไม้ในอุทยานบานเกล อนกล่นหล่นเรี่ยราย
๏ ช้องนางนางคลี่ไว้คิดทรามวัยเคยสรงสยาย
กลิ่นร่ำน้ำอบอายไม่วายว่างห่างหอมเลย
๏ เห็นปรางติดต้นตื่นเหมือนพี่ชื่นชิดชมเชย
จากนางส่างสุขเสบยเลยชมปรางต่างโฉมฉาย
๏ นางแย้มแซมนมสวรรค์พี่ถูกถันน้องยิ้มพราย
ชื่นชมสุขสมสบายวายสวาทนึกตรึกกรมเกรียม
๏ เล็บนางอย่างเล็บน้องเหลืองดุจทองหาไหนเทียม
ปัดป้องข้องข่วนเรียมเห็นรอยติดคิดไม่หาย
๏ ลำเจียกกลีบนวลอ่อนเหมือนศรีสมรแม่แต่งกาย
ผิวผ่องต้องตาชายหมายรักน้องปองจิตจง
๏ รสสุคนธ์ส่งกลิ่นกลบเหมือนน้ำอบชโลมองค์
เรือชายใกล้กาหลงคิดโฉมยงเจ้าตามมา
๏ กล้วยไม้พันไม้ติดเป็นพวงพิศเพลิศพรายตา
อายอบสบนาสาพากลิ่นน้องล่องมาฤๅ
๏ กลิ่นแก้วแก้วกลิ่นชัดพระพายพัดรำเพยกระพือ
นามแก้วดอกแก้วคือแก้วเนตรพี่นี้ใช่ใคร
๏ ดอกแก้วสีขาวผ่องไม่เหมือนน้องต้องติดใจ
ขาวเหลืองเรืองเรื่อใสในแหล่งหล้าหาไหนทัน
๏ พุทธชาดดาษดื่นดกกอก้านปรกประเกี่ยวพัน
มะลิดอกออกแกมกันหวั่นหวังนุชสุดกรมเกรียม
๏ พุทธชาดแกมมะลิน้องช่างริหาไหนเทียม
ร้อยกรองต้องจิตเรียมวางให้พี่ข้างที่นอน
๏ ไม้ดอกออกต่างต่างหลากหลายอย่างดูอรชร
คิดความยามบังอรเจ้าผูกไม้ให้เสียบทรวง
๏ สาวหยุดขึ้นพันรั้วคิดพันพัวด้วยดอกดวง
สาวหยุดสาวน้าวพวงสาวหยุดหน่อยคอยพี่ชาย
๏ ส่าเหล้าเข้าแกมด้วยเหล้าแถ ถ้วยหนึ่งเมามาย
เมานุชสุดสวาทหมายร้ายกว่าเหล้าเฝ้าทุกข์ทน
๏ รักเร่เร่รักร้างเล่ห์เรียมหักรักเร่รน
จากน้องต้องจำจนผลกรรมพรากจากน้องนาง
๏ กระถินส่งกลิ่นเกลี้ยงคิดพ่างเพียงจากจำจาง
จำพรากจากจรทางทิ้งน้องไว้ไกลกระถิน
๏ ซ่อนชู้รู้ซ่อนชักซ่อนชายรักเรียมจากถวิล
ชายใ ในแผ่นดินคิดเชยน้องต้องเคืองกัน
๏ ชมไม้มาตามทางให้คะนึงนางทุกวี่วัน
พรั่นพรั่นหวั่นจิตครันผันพักตร์ไปไม่ลืมเลย
๏ แม้นแม่มากับพี่จะชวนชี้ชักชมเชย
ยิ้มเยื้อนไม่เชือนเฉยเลยชมเล่นเช่นเคยชม ฯ
             

เห่ชมนก

โคลง
๏ เรียมร่ำรำลึกน้องนวลสมร แม่เฮย
เคยกระกองบังอรอุ่นเนื้อ
ยลเหล่าทิชากรกกคู่ เคียงแฮ
นึกเมื่อยามกอดเกื้อเกศแก้วกับกร ฯ
             
กาพย์
๏ เรียมร่ำคร่ำครวญครางโดยแถวทางท้องเถื่อนพนม
ปักษาน่าเชยชมแซ่เสียงซ้องร้องอึงอล
๏ โนรีสีปานชาดงามประหลาดน่าพึงยล
เหมือนนุชนฤมลห่มสีสวาดบาดตาชาย
๏ สาลิกาจับกิ่งแก้วส่งเสียงแจ้วจับโสตหมาย
เหมือนเสียงเจ้าโฉมฉายพริ้งไพเราะเสนาะกรรณ
๏ พิราบพิลาปร่ำเหมือนน้องคร่ำครวญจาบัลย์
จากพรากเหมือนพรากขวัญเนตรพี่ไว้ให้เกรียมกรอม
๏ นามนกชื่อรังนานเหมือนรักรานนานถนอม
นางนวลนึกนวลจอมกรอมจิตตรึกนึกนวลนาง
๏ เบญจวรรณวันจากเจ้ากำสรดเศร้าแทบวายวาง
เค้าโมงโมงใดนางจักคืนแอบแนบนิทรา
๏ ดอกบัวดุจบัวเจ้าเคล้นคลึงเคล้าเต้าบุษบา
นกแก้วดั่งดวงตามาราร้างห่างสมศรี
๏ สัตวาวานไต่เต้าไปแจ้งเจ้าเรียมทุกข์ทวี
ห่อนเห็นนกพาทีรอบอกดังพังดวงแด ฯ
             

เห่ชมไม้

โคลง
๏ แสนถวิลหวั่นหวั่นด้วยวนิดา
พลางระเมียรพฤกษาช่อช้อย
เรียงรุ่นรุกขผกาดอกดก
ไปบส่างโศกสร้อยสุดว้างอาดูร ฯ
             
กาพย์
๏ เฌอเปรียงเปรียบปรางเจ้าหอมรสเร้ารื่นรวยริน
สลัดไดไยยุพินสลัดได้ให้อาวรณ์
๏ สะท้อนสะท้อนทรวงทุกข์ระลวงแทบม้วยมรณ์
กระทุ่มดังทุ่มกรตีอกร่ำคร่ำครวญศัลย์
๏ สุกรมไป่กรมสุขกรมแต่ทุกข์ทุกวี่วัน
ต้นโศกเหมือนเรียมศัลย์โศกสะอื้นกลืนน้ำตา
๏ รักป่ามาชื่อพ้องกับรักน้องพงพงา
สลาลิงเล่ห์สลาน้องเจียนไว้ให้พี่ชาย
๏ ไม้เกดเหมือนเกศเจ้ากลิ่นรุ่งเร้าอวลอบอาย
ขานางอย่างน้องกรายย่างเยื้องกรีดจริตทำ
๏ ระกำหนามระกะเหมือนอุระเรียมระกำ
ไม้จากเหมือนจากจำเพราะจากเจ้าเฝ้าทุกข์ทน
๏ ชงโคคิดคู่ชงฆ์โฉมอนงค์นฤมล
นางแย้มดุจเรียมยลน้องแย้มยิ้มพริ้มพรายงาม
๏ ลำดวนหวนหอมชื่นเหมือนนุชรื่นนุชนงราม
นมสวรรค์เล่ห์บัวกามบงกชเจ้าลำเพาพาน
๏ กระถินกลิ่นหอมกลบเช่นน้ำอบสุดามาลย์
อินทนิลกลิ่นตระการเช่นเกศเกล้าเคล้าสุวคนธ์
๏ พิกุลฉุนกลิ่นชื่นรวยระรื่นชื่นกระมล
หล่นกลาดดาษภูวดลกลสั่นไว้ให้เรียมชม ฯ
             

เห่ชมโฉม

โคลง
๏ ยลพักตร์ผิวผ่องเพี้ยงศศิธร
สบเนตรยิ่งคมศรบาดซ้ำ
ฟังเสียงสุดอาวรณ์หลังสวาท
งามท่วนล้วนลักษณ์ล้ำแหล่งหล้าหาไหน ฯ
             
กาพย์
๏ ยลพักตร์ผิวผ่องผุดงามบริสุทธิ์เล่ห์จันทร
สบเนตรเนตรยิ่งศรรอจิตซ้ำล้ำเหลือคม
๏ พิศขนงวงดังวาดนาสิกผาดพองามสม
พิศปรางปรางน่าชมปรางทองเปรียบไม่เทียมทัน
๏ พิศโอษฐ์โอษฐ์แฉล้มยามยิ้มแย้มเห็นรายฟัน
ดำขลับยับเป็นมันผันพักตร์เยื้อนเอื้อนอายองค์
๏ พิศกรรณกรรณบางเรียบงามทัดเทียบกลีบบุษบง
พิศศอศอระหงทรงงามสรรพรับอังสา
๏ พิศถันถันเต่งตั้งงามดุจดังปทุมา
คล้ายคล้ายนัยนาน่าใคร่ต้องลองเลียมลวน
๏ พิศกรอ่อนโอนหยัดงามนิ้วทัศนขานวล
กรีดกรายชายกระบวนชวนจิตพี่นี้คาดหมาย
๏ เอวอ่อนท่อนเพลากลมสูงต่ำสมพอควรกาย
ผิวผ่องดังทองพรายสายสุดสวาทบาดตาเรียม
๏ พิศพักตร์ตลอดบาทงามผุดผาดหาไหนเทียม
ขอต้องน้องอายเหนียมเรียมรักเจ้าเท่าชีวี
๏ กล่าวคำซ้ำอ่อนหวานเพราะเปรียบปานเพลงดนตรี
เสนาะเสียงเจ้าพาทีจับจิตจงปลงฤทัย
๏ พี่มั่นพี่หมายมาดคิดหวังสวาทจำนงใน
แม้นได้เจ้าทรามวัยไม่เหินห่างจางรักเลย ฯ
             

เชิงอรรถ

อ้างอิง

เครื่องมือส่วนตัว