พระพุทธทำนายทายพระสุบินพระเจ้าปเสนทิโà¸à¸¨à¸¥ ๑๖ ข้à¸
จาก ตู้หนังสือเรือนไทย
(ความแตกต่างระหว่างรุ่นปรับปรุง)
การปรับปรุง เมื่อ 02:04, 13 ตุลาคม 2553
ข้อมูลเบื้องต้น
พระพุทธทำนาย ทายพระสุบินพระเจ้าปเสนทิโกศล ๑๖ ข้อ | |||
เล่าเรื่องพุทธทำนาย | |||
ก็แลเรื่องพุทธทำนายทายพระสุบินพระเจ้าปเสนทิโกศลนี้ คนโบราณรู้กันดีแพร่หลาย ใครรจนาเป็นภาษาไทยไม่ทราบ แต่ได้ถือเอาเค้าความมาจากมหาสุบินชาดก ในนิบาตชาดก เรียกชื่อเพี้ยนไปว่า ทำนายฝันพญาปัตเถวน ในมหาสุบินชาดกนั้นเล่าว่า คืนหนึ่งพระเจ้าปเสนทิโกศล ทรงพระสุบินประหลาด ๑๖ ข้อ ก็ทรงหวาดหวั่นพระหฤทัย ดำรัสถามพวกพราหมณ์ให้พยากรณ์ พวกพราหมณ์กราบทูลว่าพระสุบินนั้นร้ายนัก ทูลแนะนำให้ท้าวเธอทรงทำพิธีบูชายัญแก้ แต่พระนางมัลลิกา พระมเหษีทูลขอให้พระสวามีเสด็จไปทูลถามพระพุทธองค์ให้ทรงพยากรณ์ พระพุทธองค์จึงได้ทรงพยากรณ์เป็นข้อๆ ไป เมื่อครั้งกรุงศรีอยุธยาก็มีผู้ถือเอาเค้าความจากมหาสุบินชาดกนี้มาแต่งเป็นเพลงยาวพยากรณ์กรุงศรีอยุธยาไว้เหมือนกัน สำนวนเก่ากว่าเรื่องทำนายฝันนี้มาก เพลงยาวนั้นเรียกกันว่า เพลงยาวพุทธทำนาย ทายว่าจะเกิดยุคเข็ญเป็นมหัศจรรย์ ๑๖ ประการ คนโบราณจำกันได้โดยมากจนพูดติดปากเป็นคำพังเพยว่า | |||
กระเบื้องจะเฟื่องฟูลอย | |||
น้ำเต้าอันลอยจะถอยจม | |||
ลางชนบทว่า น้ำเต้าน้อยจะถอยจม น้ำเต้าในที่นี้คือน้ำเต้าแห้งที่รวงเอาเยื่อในออก เหลือแต่เปลือกสำหรับใช้ตักน้ำ ผู้ต้องการทราบความพิศดาร โปรดอ่านเรื่องวิจารณ์เพลงยาวพยากรณ์กรุงศรีอยุธยา ซึ่งสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพทรงนิพนธ์ไว้ พระสุบิน ๑๖ ข้อนี้ดูออกจะถือๆ กันอยู่ เพราะมีปรากฎทั้งในคัมภีร์อรรถกถาทั้งในคัมภีร์ฎีกาอ้างถึง คนไทยโบราณจึงได้เชื่อเอาเป็นหลักฐาน เพราะคนไทยโบราณเรานั้นมักจะหันเข้าหาพระบาลีเป็นหลักสำคัญ ถึงกับกล่าวในเรื่องลางอย่างว่า ข้อนี้บาลีมิได้แก้ไข เป็นแต่ผู้ใหญ่ผู้เฒ่าเล่ามา หรือลางครั้งก็มักจะถามขึ้นว่า ข้อนี้ๆ พระตรัสไว้ที่ไหนบ้าง เราจะกล่าวหาท่านว่า แก่พระแก่เจ้าเต็มทีดังนี้ก็มิชอบ เพราะอย่างนี้เป็นศีลธรรม อย่างนี้แลเป็นวัฒนธรรมของตระกูลไทยโบราณเราแลฯ | |||
พระพุทธทำนาย | |||
พระสุบินพญาปัตเถวน | |||
ปางองค์ชินวงศ์พระจอมไตร | อันอาศัยสาวัตถีบุรีสถาน | ||
ภิกษุสงฆ์สองหมื่นเป็นบริวาร | พระสำราญอยู่ในเขตต์พระเชตุพน | ||
กรุงกษัตริ์ปัตเถวนไปทูลถาม | ด้วยข้อความนิมิตต์คิดฉงน | ||
อภิวาทเบื้องบาทพระยุคล | แล้วทูลฝันแต่ต้นไปจนปลาย | ||
สมเด็จพระชินสีห์โมลีโลก | จึงดับโศกกรุงกษัตริย์ให้เสื่อมหาย | ||
แย้มพระโอษฐ์โชติช่อวิเชียรพราย | สว่างฉายพระเขี้ยวแก้วดูแวววาว | ||
สว่างวับจับคันธกุฎี | พระรังษีช่วงเป็นเกลียวสีเขียวขาว | ||
อีกนิลแนมแซมหงส์เป็นวงวาว | ทั้งแดงขาวเหลืองเบ็ญจรงค์พราย | ||
ข่มขี่รัศมีพระสุริยงค์ | จากโอษฐ์องค์งามละออเป็นช่อฉาย | ||
เผยพุทธบรรหารประทานทาย | ว่าอันตรายนี้ไม่มีแก่บพิตร | ||
จะได้แก่ศาสนาตถาคต | โดยกำหนดสองพันเศษสังเกตกิจ | ||
ราษฎรจะร้อนใจดังไฟพิษ | จะวิปริตทุกอย่างต่างๆ เป็น | ||
๑. ฝันว่าโคทั้งสี่มีกำลัง | แล่นประดังมาโดยทิศนิมิตต์เห็น | ||
จะชนกันแล้วหันห่างกระเด็น | ต่างหลีกลี้หนีเร้นไปหายตัว | ||
ทรงภิปรายทายว่าฤดูฝน | เมฆหมอกมนมืดมิดทุกทิศทั่ว | ||
ดังจะปรายสายพิรุณขุ่นเขียวมัว | วายุพัดกลัดกลั้วละลายไป | ||
จะลำบากยากเย็นกับไพร่พล | ด้วยฟ้าฝนไม่ตกมาในนาไร่ | ||
ทั้งต้นข้าวเต้าแตงเหี่ยวแห้งไป | ผลไม้ม่วงปรางจะบางเบา | ||
เกิดข้าวยากหมากจะแพงทุกแหล่งหล้า | ฝูงประชาแค้นคับจะอับเฉา | ||
ด้วยมนตรีโมหาปัญญาเยาว์ | ลำเอียงเอาอามิสไม่คิดธรรม์ | ||
๒. ฝันว่าไม้รุ่นเจริญผล | ดูพิกลไม่เหมือนไม้ในไพรสัณฑ์ | ||
พระทรงสัตย์ตรัสทายทำนายพลัน | ภายหน้านั้นชายหญิงจะทิ้งเหล่า | ||
จะคบชู้สู่หาสมาคม | จะเสพย์สมกันแต่แรกพึ่งรุ่นสาว | ||
กุมารีจะมีบุตรแต่รุ่นราว | ไม่ยืนยาวยากเย็นด้วยเข็ญมี | ||
๓. ฝันว่าแม่โคคาวิน | วอนขอนมลูกกินน่าบัดสี | ||
ทรงพิปรายทายว่านิมิตต์นี้ | ไปภายหน้าจะมีเป็นแน่นอน | ||
พ่อแม่แก่ชรามาหาบุตร | ทั้งที่สุดข้าวปลาและผ้าผ่อน | ||
ต้องมายอบปลอบขอเฝ้าง้องอน | มันขอดข้อนสำทับให้อับอาย | ||
พูดหยาบช้าต่อบิดาชนนี | กล่าวพาทีให้ช้ำทำฉลาย | ||
มิได้มีหิริโอตตัปปะละอาย | พูดหยาบคายขี่ข่มคารมพาล | ||
๔. ฝันว่าโคใหญ่เคยไถนา | ไม่นำพาปล่อยประจากสถาน | ||
เอาลูกโคเทียมไถเข้าใช้การ | ไม่เคยงานเสียรอยย่อยยับไป | ||
เดินดินแตกแยกข้ามคันนาหนี | ไม่รู้ในท่วงทีทำนองไถ | ||
มีพุทธบรรหารว่านานไป | นเรศไท้ท้าวพระยาทุกธานี | ||
จะคบคนพาลปัญญาหยาบ | ใจบ้าบาปหนุ่มคะนองให้ครองที่ | ||
นับถือว่าสุจริตความคิดดี | ได้ท่วงทีพวกอุททามก็ลามลวน | ||
ถึงได้เป็นเสนาปรึกษาความ | ทำวู่วามตามศักดิ์แล้วหักหวน | ||
ความชอบผิดมิได้คิดที่ข้อควร | เอาแต่ส่วนสินบลคนเข็ญใจ | ||
๕. ฝันว่ามีม้านั้นสองปาก | เห็นหญ้าอยากปากอ้าน้ำลายไหล | ||
บุรุษสองปองป้อนจนอ่อนใจ | หยิบหญ้าหย่อนยื่นให้ไม่เว้นวาย | ||
มีพุทธฎีกาพยากรณ์ | ผู้ตัดรอนความราษฏร์สิ้นทั้งหลาย | ||
จะรวบรวมกันกินทั้งสองฝ่าย | จะให้ท้ายแนะนำโจทก์จำเลย | ||
กันกินพลางทางข่มด้วยลมลวง | เหนี่ยวหน่วงถามถึงแล้วนิ่งเฉย | ||
บ้างอาศัยใช้การจนนานเลย | ความก็เคยแห้งร้างอยู่ค้างปี | ||
๖. ฝันว่าสุวรรณภาชน์ทอง | สุนัขปองขึ้นนั่งน่าบัดสี | ||
เอื้อนพระโอษฐ์โปรดพุทธวาที | ว่าพาลาจะได้ที่เสนีนาย | ||
จะหยิ่งยศมาสำทับไม่นับปราชญ์ | เสพย์สังวาสคบพาลประมาณหมาย | ||
เหมือนขมิ้นขยำน้ำปูนละลาย | ทั้งไพร่นายจะคะนองลำพองพาล | ||
๗. ฝันว่ามีผู้ฟั่นเชือกหนัง | อยู่เคหังเพิงพะในสถาน | ||
ปลายเชือกเสือกห้อยลงย้อยยาน | สุนัขนอนใต้ร้านกัดกินไป | ||
ยิ่งฟั่นก็ยิ่งสั้นไปหมดสิ้น | หายืดลงถึงดินนั้นได้ไม่ | ||
พระโลกุตตมาจารย์บรรหารไว้ | ว่านานไปจึงจะเห็นขุกเข็ญมี | ||
ชายมาหาลาภสักการที่บ้านเรือน | หญิงก็เบือนบากบ่ายจำหน่ายหนี | ||
ทำแสนงอนซ่อนทรัพย์คิดอัปรีย์ | ข่มขี่หยาบคายให้ชายกลัว | ||
ทำยอกยักลักทรัพย์ส่งให้ชู้ | ตะแคงค่อนข่มขู่ข่มเหงผัว | ||
ชายก็เขลาเมารักสมัครมัว | เห็นผัวกลัวกลับข่มให้สมใจ | ||
๘. ฝันว่าประชาชนคนตักน้ำ | ช่วยกันปล้ำเทส่งลงตุ่มใหญ่ | ||
ตุ่มลูกน้อยร้อยพันเรียงกันไป | หามีใครเทใส่แต่สักคน | ||
พระวรญาณโปรดประทานประกาศิต | แนะนิมิตต์ทายเข็ญให้เห็นผล | ||
ว่าภายหลังเสนาเป็นนายพล | ราษฏร์จะปล้นทรัพย์ทรัพย์ใส่ในตุ่มโต | ||
ยิ่งได้มากจานเจือจนเหลือล้น | ยิ่งยากจนยับนักลงอักโข | ||
เฝ้าระวังตั้งหน้าแต่พาโล | ที่ซื่อโซกลุ้มรุมดังตุ่มน้อย | ||
๙. ฝันว่าเห็นสระปทุมา | มีหมู่กุ้งกุมภามัจฉาหอย | ||
วารีรอบขอบใสมิใช่น้อย | กลางกลับถอยข้นขุ่นสนุ่นมี | ||
พระทรงญาณบรรหารให้เห็นเหตุ | ว่าประเทศทสุขเกษมศรี | ||
กษัตริย์ทรงสืบวงศ์ประเพณี | เป็นบุรีที่ประชุมประชากร | ||
จะแรมร้างว่างราเป็นป่าแขม | ทั้งคาแฝกแทรกแซมขึ้นสลอน | ||
ทางชลวิกลกลายเป็นชายดอน | ราษฏร์จะร้อนแรมสุขทุกเดือนปี | ||
ด้วยกรรมแรงแห่งสัตว์วิบัติเป็น | ไม่เคยเห็นก็ได้เห็นเป็นถ้วนถี่ | ||
น้ำที่กลางขุ่นข้นคือมนตรี | จะย่ำยีบีฑาประชาชน | ||
จะรุกรานแก่ไพร่ใส่ระดม | คิดขี่ข่มเอาทรัพย์อยู่สับสน | ||
เดือนนอกเดือนในใช้อยู่เปื้อนปน | สุดจะทนที่จะทานด้วยการรุม | ||
การหลวงแล้วไม่นานทำการนาย | พวกไพร่ราษฏร์พลัดพรายไปส้องสุม | ||
จะกลับลี้หนีหน้าเข้าป่าชุม | ประคองคุมพวกเข็ญได้เย็นใจ | ||
๑๐. ฝันว่าเห็นคนนั่งหุงเข้า | หม้อเดียวซาวหลากล้นพ้นวิสัย | ||
บ้างดิบสุกระคนปนกันไป | บ้างก็เปียกบ้างไหม้ไม่มีดี | ||
พระแย้มโอษฐ์โปรดพุทธฎีกา | ว่าเทพาที่รักษาบุรีศรี | ||
พระเสื้อเมืองทรงเมืองเรืองฤทธี | ประเพณีพลาดเพลี่ยงไม่เที่ยงทรรศน์ | ||
เทวันอันอารักษ์ศาสนา | จะรักษาแต่คนที่อาสัจจ์ | ||
ไม่ถือศีลสิกขาศีลาวัตร | มิตที่รักจักตัดความรักตน | ||
ฝูงราษฏร์จะอาพาธเจ็บไข้ | เกิดมรณภัยทุกแห่งหน | ||
ประเพณีปีเดือนก็เปื้อนปน | ฤดูฝนหนาวร้อนก็ผ่อนไป | ||
๑๑ ฝันว่อันแก่นจันทร์แดง | ราคาแพงเลิศล้ำในต่ำใต้ | ||
ชายเขลาเอาพอแรงไม่แจ้งใจ | ก็เอาไปแลกนมโคเสียง่ายดาย | ||
ทรงพระพุทธทำนายภิปรายโปรด | ภายหน้าโสดหมู่สงฆ์สิ้นทั้งหลาย | ||
จะแนะนำพระธรรมอันเพริศพราย | เที่ยวเร่ขายแลกทรัพย์มาซิ้อกิน | ||
ไม่อดสูดูร้ายละอายบาป | นิยมหยาบเอื้อมอาจประมาทหมิ่น | ||
ก่อกรรมกระทำตนให้มลทิน | เหมือนอย่างกินยาตายไม่หมายเป็น | ||
๑๒. ฝันเห็นน้ำเต้านั้นจมชล | ดูพิกลไม่เคยพบประสพเห็น | ||
จะเกิดความยากล้ำเหลือลำเค็ญ | สิ่งที่เย็นกลับจะร้อนทั่วธานี | ||
คือนักปราชญ์ผู้รู้ธรรมจะต่ำต้อย | พาลาลอยเฟื่องฟูชูศักดิ์ศรี | ||
ผู้พงศาตระกูลประยูรมี | จะลับลี้เสื่อมสูญประยูรยศ | ||
คนพาลจะราญเริงบันเทิงหนา | เจรจาผิดธรรมไม่กำหนด | ||
ใครปอกปลิ้นลิ้นลมเป็นคมคด | รู้โป้ปดกลอกกลับจึงนับกัน | ||
๑๓. ฝันว่าคีรีน้อยนั้นลอยน้ำ | ประหลาดล้ำหลากใจที่ในฝัน | ||
พระทรงบรรหารให้เห็นพลัน | ภายหน้านั้นผู้มีศักดิ์จะรักพาล | ||
จะยกย่องหมู่ชาติอันต่ำช้า | เป็นเสนาผู้ใหญ่ในสถาน | ||
ให้ยศศักดิ์สืบสายเป็นนายการ | ได้ท่วงทีพวกพาลสำราญใจ | ||
๑๔. ฝันว่าเห็นกบขบงูร้าย | แล้วกัดตายล้วงกินจนสิ้นไส้ | ||
พระแย้มโอษฐ์โปรดทายภิปรายไป | ภายหน้าไซร้หญิงพาลจะรานชาย | ||
ประมาทหมิ่นลิ้นลมข่มให้กลัว | จะใช้ผัวต่างทาสดังมาดหมาย | ||
ผัวสมานน้ำใจมิให้ระคาย | อีหญิงร้ายยิ่งลามคำรามรณ | ||
๑๕. ฝันว่าพญาเหมรา | เข้าปนฝูงปักษาน่าฉงน | ||
น้อมเคารพบนอบแล้วยอบตน | เข้าระคนคบค้าด้วยกาพาล | ||
องค์สมเด็จอิสสโรพระโมลี | จึงเผยพุทธวาทีมีบรรหาร | ||
ว่าผู้มีตระกูลนั้นจะบันดาล | ว่าคนพาลจะย่ำยีคนปรีชา | ||
สันดานทาสชาติร้ายจะได้ดี | จะข่มขี่ผู้มีวงศ์และพงศา | ||
คนปราชญ์จะหลีกตัวกลัววาจา | พวกพาลาได้ดีไม่มีอาย | ||
๑๖. ฝันว่าเห็นเนื้อสมันนั้นไล่เสือ | พยัคฆ์เบื่อเบือนหน้าเข้าป่าหาย | ||
มีพระพุทธบรรหารประทานทาย | ว่าสานุศิษย์ทั้งหลายจะสู้ครู | ||
จะหักหาญผู้ใหญ่ให้เป็นน้อย | สำทับถ้อยขี่ข่มคารมสู้ | ||
ยกย่องกายหมายประกวดอ้างอวดรู้ | จะลบหลู่ขู่ซ้ำด้วยคำพาล | ||
สงฆ์ทรงศีลบริสุทธิ์จะทรุดเศร้า | ผู้เป็นเจ้าหลีกจากถิ่นสถาน | ||
ซึ่งบพิตร์นิมิตต์ ๑๖ ประการ | ไม่มีเหตุเภทพานในพระองค์ | ||
จะได้แก่โลกทั้งหลายไปภายหน้า | จำไว้พิจารณาอย่าลืมหลง | ||
จะเสื่อมสูญเมธีกวีวงศ์ | และฝูงหงส์พงศ์ประยูรตระกูลพราหมณ์ | ||
จะเฟื่องฟูเชยชมนิยมหยาบ | แบกแต่บาปหาบนรกยกขึ้นหาม | ||
กองกรรมก็จะนำสนองตาม | จะลงหนังสุนัขถามเมื่อยามตาย | ||
พระไตรรัตน์จะวิบัติหม่นมัวหมอง | ไม่ผุดผ่องแผ้วผาดสะอาดฉาย | ||
ศักราชคำรบนั้นสองพันปลาย | จะต้องพุทธทำนายไว้แน่เอย ฯ. | ||
เชิงอรรถ
ที่มา
ต้นฉบับจาก หนังสือพระพุทธทำนายทายพระสุบินพระเจ้าปเสนทิโกศล ๑๖ ข้อ
พระมหาสงัด สุวิเทโก พิมพ์เป็นอนุสรณ์เมื่อบำเพ็ญกุศลฉลองอายุคุณโยมชายครบ ๘๐ ทัศ
วันที่ ๙ ตุลาคม ๒๔๙๘
พิมพ์ที่โรงพิมพ์มหามกุฏราชวิทยาลัย หน้าวัดบวรนิเวศวหาร ถนนพระสุเมรุ จังหวัดพระนคร
นายพินิจ อู่สำราญ ผู้พิมพ์โฆษณา พ.ศ. ๒๔๙๘