อิเหนาคำฉันท์ ฉบับกรุงธนบุรี

จาก ตู้หนังสือเรือนไทย

(ความแตกต่างระหว่างรุ่นปรับปรุง)
ข้ามไปที่: นำทาง, สืบค้น
CrazyHOrse (พูดคุย | เรื่องที่เขียน)
(หน้าที่ถูกสร้างด้วย '== ข้อมูลเบื้องต้น == {{เรียงลำดับ|อิหนเาคำฉันท์ ฉบับ…')

รุ่นปัจจุบันของ 18:24, 4 กันยายน 2553

เนื้อหา

ข้อมูลเบื้องต้น

แม่แบบ:เรียงลำดับ

ผู้แต่ง: เจ้าพระยาพระคลัง (หน)

บทประพันธ์

๑๑
      ๏ ปางนั้นบรมวง-ศอสัญแดหวา
อุ้มองค์วนิดากองตระกองตระการชม
      ๏ ชูชื่นภิรมย์เชยดุจเสวยสมบัติพรหม
สัมผัสกมลกรมเสน่ห์น้อมฤดีมา
      ๏ รีบรถทุรัศทางจรร่วมพนาทวา
จึ่งมีมธุรสาพจนเพื่อแสดงองค์
      ๏ อ้าแม่นิคือพี่บมิควรจะโศกทรง
กันแสงบใช่อง-คระตูมาต้องตัว
      ๏ พักตร์ผ่องจะนองชลวิมลโฉมจะหม่นมัว
อ้าแม่อย่าแคลนกลัวสละทุกข์ประเทืองเรียม
      ๏ ปางนั้นสูดาสดับสุรศัพทยิ่งเกรียม
จิตแจ้งเชษฐาเทียมจรกามาลอบปลอม
      ๏ แสนโศกกระสันซ้ำปะทะแค้นคะนึงตรอม
หยิกข่วนบได้ออมกลจะทรุดลงจากเพลา
      ๏ เชษฐาถนอมโอบอรองค์ยุพเยาว์
ยุพเรศธผลักเอานขหยิกบหย่อนกัน
      ๏ ขษณนั้นจึ่งบาหยันกรณตชุลีคัล
สรวลพลางก็อำนันดูรพ่อกระทำแปลง
      ๏ ข้าหวังระตูลอบบมิแจ้งคดีแสดง
ใดพ่อมาปลอมแปลงประโลมลักฉะนี้ไย
      ๏ อ้าดูรบาหยันก็จะควรสงสัยไฉน
กิจนี้ก็โดยในมะดีหวีธปฏิญาณ
      ๏ รับรักบสมรักสละพักตร์ประจวบการ
แม้วการบคิดพาลก็จะม้วยไมตรีดาย
      ๏ อ้าพ่อกระทำโดยชนนีธกล่าวกลาย
จะสมจะสู่สายสมรใดบตรงตรู
      ๏ กลับศัพทกลับเพศกิจนี้บแจ้งตู
หวาดจิตสะดุ้งดูดุจชีพมลายลาญ
      ๏ อ้าอรบาหยันพจนพร้องเสนาะสาร
แม้วการจิรังกาลแลฤาเจ้าจะโดยเรา
      ๏ ผิวปลอมที่ดอมรักสิบเริ่มสะดวกเดา
หากตกถึงกรเราแลจึ่งแสร้งประดิพา
      ๏ หนึ่งสามก็ตั้งสัต-ยวิลิศมาหรา
เฉพาะพักตร์พระปฏิมากรสัตย์ยังสมฤา
      ๏ อ้าพ่อบควรขึ้งอุระข้าดั่งเพลิงฮือ
รักสัจก็สุดมือที่จะมอบเสน่ห์มา
      ๏ ทูลเตือนมิเต็มถ้อยมะดิหวีก็สุดอา
รมณ์รักพนิดาบมิหวังระตูครอง
      ๏ สรวมชีพดังสัจเดชะเทพสมพอง
ช่วยให้พระนุชสนองเสน่ห์พ่อพี่ยินดี
      ๏ พระแย้มภิรมย์เยื้อนพจนตอบนางสาวศรี
เพื่อพี่นิภักดีฤจึ่งเทวพาครอง
      ๏ ดำรัสพลางก็เร่งรันอัศวราชรถทอง
แสงจันทร์เรืองรองแอร่มพักตรยุพา
      ๏ จุมพิตตระโบมโลมวรราชกานดา
อ้าแม่อย่าโศกากรซับสุชลพลาง
      ๏ สำเนียงสกุณร้องเสนาะก้องสนั่นกลาง
ดงจวนจะรุ่งรางก็ลุร่วมมรคา
      ๏ หยุดรถกระซิบสั่งระเด่นสังคมารตา
เจ้าพี่สถิตพลาสุวรรณเถิดอย่าครรไล
      ๏ ไตรตราตระเวนดูผลูมารค ณ กรุงไกร
แม้พะอรินทร์ภัยยุบลแจ้งแก่พี่ยา
      ๏ สั่งเสร็จตระกององค์วรนุชบุษบา
เถลิงหลังอาชาคลาวนะเวศวเนจร
      ๏ พอดลคูหามาศสุริยภาสยุคุนธร
พระก็อุ้มพธูสมรจรดแท่นสุวรรณวาง
             
๑๔
      ๏ เสด็จแนบยุพาอรตระกองกรลูบพระปฤษฎางค์
แก้วพี่อย่าโศกเลยนะจงวางจิตไว้ ณ เรียมรา
      ๏ ความพี่สวาดิสมรเสมอวชิรเนตรชีวา
แม้เรียมบสมสุรสุดาก็จะทำแบหลาลาญ
      ๏ ซึ่งพี่แลผิดบุรพโทษวรนุชญญาการ
รอยเวรุตามจรมาดาลจิตโมหะลำเค็ญ
      ๏ เรียมนี้หวังสวาดิอื่นเลยนะแม่อย่าขุ่นเข็ญ
เรียมจะถนอมพระนุชเป็นมกุฎเกล้ากษัตรี
      ๏ แท้สัตยากรเฉพาะสุรเทพคีรี
อ้าแม่อย่าขนางว่าจะลีนคเรศหมันยา
      ๏ อ้าแม่อย่าซบพักตร์พิลาปนยน์อาบพุธารา
แสงจักษปานนิลวัตถาก็จะก็หมองจะมัวมน
      ๏ ดวงพักตร์ผ่องประดุจจัน-ทรแจ่มโพยมบน
ควรฤาจะเศร้าศิริดังกลอสุรินทรุปคาห์
      ๏ เงยพักตร์ขึ้นเถอะนะจะแจ้งกิจโดยแต่สัตยา
เดิมองค์บรมชนกาดำรัสใช้ประชุมเพลิง
      ๏ หมันหยานครบวรศพอยกีอันดำเกิง
เสร็จพี่ก็ลาจระบันเทิงกมลท้าวทั้งสองปอง
      ๏ สวาดิพี่และพี่ก็ประดิพัท-ธกำหนัดเสน่ห์สนอง
รักร่วมธิดาจิตลำพองขณะรุ่นภิรมย์นาง
      ๏ ฝ่ายองค์พระบิตุรธิราชชนนีพี่จึ่งขนาง
โทษพี่นิผิดสหัสปางนุชให้อภัยเรียม
      ๏ แม้มิตรมิดลสักพันจะถนอมบให้เทียม
สุริย์วงศ์อสัญธรรมเนียมวรพจนสัจจัง
      ๏ อ้าแม่อย่าโศกแลนะสะอื้นอุระพี่นี้เพียงพัง
แหนงใดก็ทวนกิจประทังทุกขให้บรรเทาความ
      ๏ แม้เจ้าจะนิ่งนิวรณ์โศกบมิพร้องคดีงาม
เรียมฤาจะพาอรนงรามจรกรุงอย่าสงกา
      ๏ ปางนั้นพระเยาวชาเยนทรสดับพระเชษฐา
พลางฝ่ายสุชลปธาราพิลาปเยื้องคดีพลาง
      ๏ โอ้โอ๋จะคงชีพิตเนานิก็หนักภุดาปาง
เกิดกอบประยูรเทวขนางเสน่ห์ชอบชีวาวาย
      ๏ โอ้โอ๋อุระอาตมจะม้วยชนมด้าว ณ ดงดาย
บิตุรราชมาดจะหมายบยลลูกจะลาญแล
      ๏ ท้าวพร่ำผดุงก็บได้แทนวรคุณธกลับแปร
โทษให้พระองคทุกขแดดุจนี้ก็ไป่ควร
      ๏ ร่ำพลางก็ทุ่มอุระสะอื้นปริเทวะกำสรวล
คุมเคียดพระภูธรก็ซวนสบยมุขโศกี
      ๏ อ้าอ่าพระดวงอรยิหวาเนตรพี่ผู้ภักดี
เรียมฤาจะซัดอรให้ชี-พิตนาศอย่าเจรจา
      ๏ แสนสุดเสน่หนุชยิ่งชนมชีพนัยนา
แม้นมาตรเมือมรณอา-ยุสู้จะดอมวาย
      ๏ อ่าอ้าพระสรรพจนเอามธุรสเจือปลาย
ลิ้นล่อละเลิงกมลมลายเสน่ห์แล้วจะลอยตรอม
      ๏ แท้เที่ยงจะเป็นอนุสวาดิจินตะหราจะสรวลดอม
ว่าเผ่าอสัญก็มาปลอมเสน่ห์ร่วมบรักวงศ์
      ๏ กิตติศัพท์จะฦาประเทศทั่วทรยศวราพงศ์
ใจชายบอายดำฤษณ์จงเสน่ห์แสร้งชะอ้อนวอน
      ๏ อ้าอรอนงคอย่าขนางจิตที่จะร้างสมร
ซึ่งจินตะหราสวาดิอรนั้นก็ใช่จะจงกัน
      ๏ หวังลอบประโลมเสน่ห์เล่นบใช่คู่ตุนาหงัน
เออแม่นิเทพยรังสรร-คก็สู่แต่เยาวมล
      ๏ นอกนั้นบอาจจะครหานุชแม่อย่าฉุกฉงน
ฟังพี่จงสร่างศัลยสุชลนยนะน้อมภิรมยา
      ๏ อ้าน้องก็แจ้งกลตระหนักวรลักษณคือตรา
จักจงบจงจิตก็ปรา-กฎแห่งหไทยางค์
      ๏ กิจนี้ก็เลื่องดำเนียรน้องหินชาติชายหมาง
หากผลผดุงอดิตปางจรกาประกอบกัน
      ๏ บิตุราชธกล่าวพจนไว้แม้วชายประดาษพันธุ์
สวาดิสูก็จัดสฤษดิสรรยศไว้เฉลิมเมือง
      ๏ สองท้าวก็ทนเทวษบวายชลชุ่มนัยนาเนือง
ไพร่ฟ้าประชาชนก็เปลืองสุขแซ่ทุกขาดูร
      ๏ ดังนั้นแลยังจิตบลาสุระราญวิวาห์สูญ
ฉกพานิรายศประยูรอัปยศทั่วแดน
      ๏ เออนี้แลฤาเสน่ห์น้องฤว่าแสร้งอิจฉาแทน
ร่ำพลางสยบศิรลงแสนโศกพ่างจะเปลื้องปราณ
      ๏ อ้าดูระสายสวาดิพี่ใช่ว่าพี่จะจัณฑาล
รอจิตก็จวบวิวาหการสมรพี่จะสุดสม
      ๏ เฉกโฉมประโลมจิตบวางอรเยาวโยศดม
แม้แล่งอุรายลจะชมมนะพี่นี้สัจจัง
      ๏ ซึ่งโทษแต่ปางก่อนพี่ก็ขอนุชนาฏธไป่ฟัง
เดิมพี่ก็ทรงสัจประทังชีวไว้จะสมสมร
      ๏ ปางนี้ก็สุดกุศลล่วงบุรพกรรมนำจร
เนาแท่นสุวรรณสถาวรเถอนะแม่อย่าโศกา
      ๏ แม้จักนิวัตรวรนิเวศน์ทิศนี้ ณ รัถยา
ตัวพี่นี้จักจรทุราอรัญเวศจวบวาย
      ๏ อ้าแม่อย่าแหนงมนัสพี่ว่าจะเมื้อหมันหยาหมาย
ใจเรียมบสูญสัจจะมลายชีพม้วยวนาดอน
      ๏ ตรัสพลางก็แสร้างเสด็จจากวรอาสนสุนทร
เสสั่งพี่เลี้ยงยะรุเดะจรระดับพวงพลาพล
      ๏ จักยกพเนจระพนัสในทุรัศอารญ
สั่งพลางก็ให้พักตรพิมลกลรู้รหัสกัน
      ๏ สั่งเสร็จก็แปรมุขมาสั่งประเสหรันแลบาหยัน
ขอบสองพี่โดยจรจรัลดลด้าวพนาลี
      ๏ บัดนี้พระนุชก็สลัดวรวากยไมตรี
ดูลาพี่สองจรกว่าชีวิตวายวนาสณฑ์
             
๑๖
      ๏ บัดนั้นสองนาฏนฤมลไป่แจ้งในกล
มะเมอประหม่าว้าใจ
      ๏ สองโอนศิรคัลทูลไทอ้าพ่อเป็นใด
มาด่วนพิโรธบำราศ
      ๏ องค์กนิษฐ์ยังเยาว์สวาดิฤทัยเดียวกาจ
กำเลาะละเลิงจิตขนาง
      ๏ จงพ่อโปรดข้าแต่ปางเดียวจักโลมนาง
แม้นุชแข็งขัดความ
      ๏ โดยจิตพ่อเทอญบ่ปรามสองลาสองตาม
กันสู่ยังห้องทองพราย
      ๏ ปางนั้นนฤเบศรเสด็จผายโดยสองนางหมาย
วิสูตระแฝงฟังสาร
      ๏ ขษณะนั้นบาหยันเชิงชาญนั่งแนบนงพาล
ประพฤติพร้องรำพัน
      ๏ อ้าแม่ใดแม่บฉันท์เสน่ห์พี่ผู้พัน-
ธุวงศ์ออัญแดหวา
      ๏ ฤาจงจรกาพงศ์กาบอายนรา
นรินทรทั่วธาษตรี
      ๏ ยศแม้ปิ่นขัตติยานีฤาจักให้มี
บุรุษต้องสองชาย
      ๏ อ้าพี่สู้ม้วยกว่าอายบ่ให้ระตูกลาย
สกนธจวบชีวา
      ๏ น้องฟังพี่ฟังน้องราท่านจักรมยา
เมื่อยามกรรหายเหิมปรีดี
      ๏ มิตรท่านท่านรักร่วมชี-พิตม้วยไมตรี
แลสองก็แจ้งอาจิณ
      ๏ แต่องค์ปิตุราชินทร์บเกรงธิบดินทร์
แลโดยอิจฉาใจใคร
      ๏ ปางนี้ฤามิขามใครเบื่อบากเบือนใจ
แลน้องจะตรอมแดลาญ
      ๏ อัปยศยิ่งอดีตกาลสองพี่เราวาน
ดำริคดีดับอาย
      ๏ เป็นหญิงแม้มาตรไร้ชายชอบเชิงมิตรหมาย
กมลมนัสอายออม
      ๏ ขษณะนั้นประเสหรันถนอมวรวัจนาดอม
คดีดังกล่าวเกลาควร
      ๏ แต่พี่ยลกิจประมวลอ้าแม่จำปรวน
ประนอมมนัสเชษฐา
      ๏ เราพลัดประยูรสวรรยาแม้บปฏิพา
ก็เห็นไป่พ้นภูมี
      ๏ ผ่อนถนอมสุริย์วงศ์ไว้ดีแม่จักเป็นศรี
พิภพด้าวแดนดิน
      ๏ ระตูฤคู่ยุพินดุจอสุรินทร์
แลจู่มาจับจันทร
      ๏ ยิ้มหยอกดุจปิศาจหลอนรูปร้ายนิกร
จะเปรียบประยูรไกลกัน
      ๏ ดุจหิ่งห้อยฤาเทียมจันทร์ตูข้าแต่ศัลย์
ทั้งสี่ฤาสุขไป่มี
      ๏ ซึ่งพ้นระตูตูปรี-ดาดังสีขรี
อันทับอุระยกขยาย
      ๏ อ้าแม่วรเชษฐ์สวาดิสายสมรสุดเสมอกาย
แลสองพี่พิศใจจง
      ๏ ปางนั้นยุพราชสุริยวงศ์แฝงม่านเมียงองค์
สดับคดีความดี
      ๏ เสด็จกลับสั่งพี่เลี้ยงปรี-ชาเร่งเสนี
อันชาญชำนิใจจำ
      ๏ สอดสืบดาหาบุรำการซึ่งเราทำ
แลเขาประพฤติกลใด
      ๏ ประสันตาตอบถ้อยทูลไทการวุ่นเวียงขัย
นครจะดาษดาคน
      ๏ เรารู้เกลือกรู้เกินกลคนยลจักยล
ประหลาดแสลงเงื่อนสาย
      ๏ หนึ่งใดรอยริ้ววรกายข้าฉุกใจฉงาย
แลดูดั่งนี้แหนงตา
      ๏ ฤาพาชีพาราชาเลี้ยวลอดลดา
แลวัลยกระหวัดเกี่ยวกร
      ๏ ฤาตระหนามหนามรอญอ้าพระภูธร
บมิระวังกายี
      ๏ หนามครานี้ร้ายราวีทูลพลางทำตี
อุระตะลึงลูบทรวง
      ๏ ยศแม่ปิ่นขัตติยานีฤาจักให้มี
บุรุษต้องสองชาย
      ๏ อ้าพี่สู้ม้วยกว่าอายบ่ให้ระตูกลาย
สกนธจวบชีวา
      ๏ น้องฟังพี่ฟังน้องราท่านจักรมยา
เมื่อยามกรรหายเหิมปรีดี
      ๏ มิตรท่านท่านรักร่วมชี-พิตม้วยไมตรี
แลสองก็แจ้งอาจิณ
      ๏ แต่องค์ปิตุราชินทร์บเกรงธิบดินทร์
แลโดยอิจฉาใจใคร
      ๏ ปางนี้ฤามิขามใครเบื่อบากเบือนใจ
แลน้องจะตรอมแดลาญ
      ๏ อัปยศยิ่งอดีตกาลสองพี่เราวาน
ดำริคดีดับอาย
      ๏ เป็นหญิงแม้มาตรไร้ชายชอบเชิงมิตรหมาย
กมลมนัสอายออม
      ๏ ขษณะนั้นประเสหรันถนอมวรวัจนาดอม
คดีดังกล่าวเกลาควร
      ๏ แต่พี่ยลกิจประมวลอ้าแม่จำปรวน
ประนอมมนัสเชษฐา
      ๏ เราพลัดประยูรสวรรยาแม้บปฏิพา
ก็เห็นไป่พ้นภูมี
      ๏ ผ่อนถนอมสุริย์วงศ์ไว้ดีแม่จักเป็นศรี
พิภพด้าวแดนดิน
      ๏ ระตูฤคู่ยุพินดุจอสุรินทร์
แลจู่มาจับจันทร
      ๏ ยิ้มหยอกดุจปิศาจหลอนรูปร้ายนิกร
จะเปรียบประยูรไกลกัน
      ๏ ดุจหิ่งห้อยฤาเทียมจันทร์ตูข้าแต่ศัลย์
ทั้งสี่ฤาสุขไป่มี
      ๏ ซึ่งพ้นระตูตูปรี-ดาดังสีขรี
อันทับอุระยกขยาย
      ๏ อ้าแม่วรเชษฐ์สวาดิสายสมรสุดเสมอกาย
แลสองพี่พิศใจจง
      ๏ ปางนั้นยุพราชสุริยวงศ์แฝงม่านเมียงองค์
สดับคดีความดี
      ๏ เสด็จกลับสั่งพี่เลี้ยงปรี-ชาเร่งเสนี
อันชาญชำนิใจจำ
      ๏ สอดสืบดาหาบุรำการซึ่งเราทำ
แลเขาประพฤติกลใด
      ๏ ประสันตาตอบถ้อยทูลไทการวุ่นเวียงชัย
นครจะดาษดาคน
      ๏ เรารู้เกลือกรู้เกินกลคนยลจักยล
ประหลาดแสลงเงื่อนสาย
      ๏ หนึ่งใดรอยริ้ววรกายข้าฉุกใจฉงาย
แลดูดั่งนี้แหนงตา
      ๏ ฤาพาชีพาราชาเลี้ยวลอดลดา
แลวัลยกระหวัดเกี่ยวกร
      ๏ ฤาตระหนามหนามรอญอ้าพระภูธร
บมิระวังกายี
      ๏ หนามครานี้ร้ายราวีทูลพลางทำตี
อุระตลึงลูบทรวง
      ๏ พระฟังพจนต้องแดดวงพริ้มพักตร์ระลวง
เอาเดนสลาซัดเอา
      ๏ เออใช่การพี่ตัวเราไยเจ็บใจเบา
มาบ่นมาบ้าบนตรม
      ๏ อันดำเนินชัฏไพรพนมใครห่อนอุดม
ลดาแลหนามไป่ระคาย
      ๏ ผิน้อยก็มากหนึ่งกายเราพี่ก็ชาย
อันเช่นฉะนี้จักมี
      ๏ ตรัสพลางทางสู่เทพีเลออาสน์รูจี
แลสองพี่เลี้ยงลาอร
      ๏ ปางนั้นบุษบาบวรยลสองนางจร
จะโดยพี่เลี้ยงลีลาศ
      ๏ เชษฐากุมกรวรนาฏนงโพธพิลาศ
สลัดพระกรหยิกกร
             
๑๑
      ๏ อ้าแม่ผู้ร่วมวงศ์สุริยราชอดิศร
ฝ่ายเรียมสวาดิอรเสมอชีพชนมา
      ๏ ฝ่ายวรนุชก็ตัดเสน่ห์พี่สหัสสา
จักขัดจักขืนอา-รมณนุชก็สุดที
      ๏ จงเนาเจริญสุขเรียมจะลาสุดาศรี
เชิญแม่ช่วยทูลบี-ดรราชมาตุรงค์
      ๏ ว่าพี่ขยมลาบทท้าวทั้งสององค์
สู่สวรรคทิวง-คตเมื้อพิมานอมร
      ๏ ปางนั้นพระนุชสดับพจนารถสุนทร
สุรศัพทคลอนคลอนกมลคิดคะนึงกาย
      ๏ โอ้โอ๋แต่นี้แลชนมชีพจักมลาย
ใครเลยจะพาผายดลกรุงก็ไป่มี
      ๏ ปางจรก็สนธเยศบสังเกต ณ วิถี
ฤาเคยจรลีจะหลงม้วยวนาสัณฑ์
      ๏ จำผ่อนภักดีต่อวรเชษฐ์พาจรัล
ส่งถึงนครอันรมเยศไอศูรย์
      ๏ ตริรักษรื้อถ้อยทิฐินั้นก็เป็นมูล
หากสวาดิประยูรอรจึ่งจำนรรจา
      ๏ แม้พ่อเสน่ห์น้องสุจริตจงพา
คืนเข้านิวัตธา-นีแลแท้จะสัจจัง
      ๏ เพื่อคลายมนัสทู-รยศยามเมื่อปางหลัง
อย่าพ่ออย่าด่วนหวังเสน่ห์ก่อนจะเสียการ
      ๏ หนึ่งพระก็สัมผัสรสรักก็เจือจาน
ใจใช่จะพ้นภาร-ธุระพ่ออย่าสงกา
      ๏ อ้าแม่ประดิษฐ์ถ้อยมฤธูแก่พี่ยา
อันพี่จะพาพะงาจรกรุงอย่ากริ่งใจ
      ๏ เพื่อปิตุจฉาราชจะวิโรธหฤทัย
ปางพี่จะประลัยสิบยังนุกูลการ
      ๏ ปางนี้ถึงโทโทษยลสุดกมลสมาน
มาตรได้ประโลมลานแม้ว่าพรากก็จำไกล
      ๏ ฤวะเจ้าจะฝ่าโชงการได้ประการใด
จงตั้งสัจจาไปจะพาน้องยังธานี
      ๏ อ้าพ่อจะให้สัตย์ดุจนี้ก็สุดที
เพราะท้าวทั้งสองมีพระคุณล้ำศิโรดม
      ๏ ยังไป่ระคายเคืองฤาจะเคืองก็ไป่สม
น้องตริแต่โดยรมภ์บุรพภาคประเพณี
      ๏ แม้ชายแลต้องกายสฤษดิแท้สวามี
โดยสัตยวาทีดูรพ่ออย่าแหนงคำ
      ๏ อ้าแม่ผู้สมพงศ์สุริยวงศวรำ
ปรีชาชะอ้อนทำสนิทเพียงจะพร่ำใจ
      ๏ ตรัสพลางก็จุมพิตมธุรสปรางใน
แก้วพี่จงฝ่าใจภิรมย์รักเรียมรา
      ๏ อ้ายลทุพพลภาพนิราศราบบุรีมา
ช้ำจิตยังไป่สาแก่ใจใจบปรานี
      ๏ ช้อยเนตรผลักพลางนขหยิกพระกรตี
รื้อคะนึงถึงธานีอรจึงจำนรรจา
      ๏ แม้พระสวาดิจริงดำริการอาทิมา
ใครเลยจะยลอา-รมณน้องก็ไป่มี
      ๏ เหตุด้วยพระโฉมเฉลิมดิลกจิตนารี
จงตรึกคดีดีระงับถ้อยดำเนียรอาย
      ๏ อ้ายแม่อันครหาก็พาเหียรโทษดาย
ดุจวายุทำลายไศลฤาจะตรธาน
      ๏ เฉกฟองสกุณพัดคีรีหากจะฟองลาญ
เออแม่จะเกรงการดำเนียรนั้นก็ใช่ที
      ๏ ดำรัสพลางตระกององค์วรราชกษัตรี
จุมพิตฤาดีปรีดิ์ดุจสารอันโซมมัน
      ๏ รวบรัดอุราแนบตวัดกรถนอมถัน
อย่าแม่อย่าหวั่นขวัญเนตรผ่อนภิรมย์เรียม
      ๏ อ้าพ่อบการุญจิตน้องนี้ยังเตรียม
อย่าด่วนประโลมเลียมเสน่ห์ก่อนระกำใจ
      ๏ สิ่งใดก็ไป่ทราบกลเยาวหฤทัย
โปรดพ่อบังวายในมนัสแล้วจะโดยควร
      ๏ อ้าแม่ผู้สายสุดเสน่ห์พี่ภิรมย์ยวน
รักสัตย์ก็สุดสงวนเสน่ห์ไว้จะวายแด
      ๏ ฤทัยเผดียงถนอมฤาดีดอมอย่าด่วนแห
จักยลกระแสแท้สุขในมโนรมย์
      ๏ ตรัสพลางตระโบมโลมวรราชดัดผธม
จุมพิตปรางชมอุระแนบอุราอร
      ๏ สองชงฆสอดชา-นุสองกรสอดกร
สองโอษฐเอมอรตฤบรสรสาสรรพ์
      ๏ พร่างพักตรพรายเนตรบยลเดือนตะวันจันทร์
พยุหโพยมครร-ชิตวิชุลดาพราย
      ๏ พิรุณโรยก็โปรยต้องบุษบแย้มผกาขยาย
เรณูรำเพยขจายภมรเคล้าละอองอร
      ๏ ซอกไซ้ผกาตฤบรสคันธกำจร
สองสุขสโมสรภิรมย์เยาวชาเยนทร์
      ๏ ถ้ำทองคะนองลั่นสนั่นบ้าจะเอียงเอน
แท่นแก้วราเชนทร์กระฉ่อนช่วงมณีพราย
      ๏ วุ้งเวิ้งคูหาสะเทือนศิขรเลื่อนศิลาขยาย
แวบวับวะวามฉายชรอุ่มชรอำนภางค์
      ๏ ฮือฮือพยุห์พัดพฤกษลัดผะโผงผาง
ล้มลู่ระเนนกลางศิขเรศวนาดอน
      ๏ กัญญางคโยนดวงวชิระช่วงวรัมพร
อสูรรามโกรธรกระทืบเท้าจะทำลาย
      ๏ ลากโล่หะแล่นไล่แมลบแลยเมลืองสาย
ตระบัดพรรษาปรายฉะฉ่ำช่อสุมามาลย์
      ๏ แมลงภู่ผจงจรดคะลึงรสสุคนธ์ธาร
ซาบซึมรสาศาน-ติเกษมสมพอง
             
๒๘
      ๏ สองสมสมพาส
สุดสุดสังวาสจบบทบทละบอง
บังวายวายทุกข์สุไขไขคลอง
สวาดิรุมรุมสองเปรมปรีดิ์ปรีดา
      ๏ แช่มชื่นชื่นชีว์
รู้รสรสดีเสน่ห์เสน่หา
ใหลหลงหลงกามกลหรรษ์หรรษา
หัศลืมลืมธา-นีราชราชฐาน
      ๏ ลืมสมสมบัติ
ลืมสองกษัตริย์ลืมสุขสุขสานติ์
เริ่มแรกแรกรักประจักษ์จักปาน
เสวยทิพพิมานรัสสฤษฎ์รังสี
             
๑๖
      ๏ ปางนั้นหน่อภูธเรศตรีเกษมสุขด้วยศรี-
สุดาขนิษฐ์นงเยาว์
      ๏ จึงมีมธุรสกล่อมเกลาอ้าแม่มาเรา
จะจรสนานสรงชล
      ๏ ในเชิงบรรพตอำพนวารีวิมล
วิสุทธิ์ใสเสมอกรอง
      ๏ ตรัสพลางพระกรตระกองกรนุชลำยอง
แลยุรยาตรครรไล
      ๏ จากบรรจถรณ์รัตน์อำไพสองเสด็จดุจไกร-
สรราชผงาดจรจรัล
      ๏ ขษณะนั้นประเสหรันแลบาหยันสองหมอบเมียงมัน
ประเมิลทั้งสองเสด็จมา
      ๏ สองพิศสะกิดกันจรรจาโฉมแม่เรามา
ปะทะพระพี่โฉมตรู
      ๏ โฉมราชสองสรรพบูพิศโฉมพระพธู
ก็ลืมแลโฉมเชษฐา
      ๏ พิศโฉมวรเชษฐ์เลือนตาลืมแลพนิดา
ดังนี้ก็สุดโฉมฉงน
      ๏ ดุจเทพจากสวรรค์วิมลแปรรูปดำกล
มาแกล้งเฉลิมนัยนา
      ๏ ไยประสันตากรตาหลาไฉนหนอบมา
ช่วยพิศพระพักตร์สองโฉม
      ๏ สองนายฟังสองนางโลมลาเพด้วยโสม-
นสะสู่สองนาง
      ๏ พิศโฉมสองกษัตรีแล้วพลางลูบทรวงว่าปาง
นี้รอยแลบุญตาตู
      ๏ เริ่มเราว่าพระเราตรูไป่มีพระพธู
ในหล้าฉลองกลกาม
      ๏ พระเรายิ่งงามยังงามทัดเทริดทรงทราม
เสน่ห์สนองกลกัน
      ๏ พิศพี่ผ่องเพียงสุริย์ฉันพิศน้องเพียงจัน-
ทรส่องปะทะรัศมี
      ๏ แม้ใครบ่ได้ทฤษฎีสองราชกษัตรี
แลอย่าเพ่อวายวานชม
      ๏ สองนายสองนางประนมประสันตาผู้คม
จึงแสร้งสำรวลกล่าวพลัน
      ๏ หลากทิวานี้อัศจรรย์แขเคียงระวิวรรณ
วิลาสลอยคัคนานต์
      ๏ กรดาหลาตอบปรีชาญดังนี้อาการ
ว่าสรรพสุขราษฎร
      ๏ พระสดับสองนายกล่าวกลอนพริ้มพักตร์ภูธร
เอาเดนสลาซัดไป
      ๏ เออเชิงเสียดสร้อยเจ็บใจอย่าเนาเลยไคล
ทั้งสี่สนานดอมเรา
      ๏ สองนายกับสองนางเคา-รพโดยเสด็จเทา
ก็ถั่นถึงธารเสาวคนธ์
             
๑๑
      ๏ พระองค์ตระกององค์นุชสรงกระแสชล
พี่เลี้ยงนฤมลจระสู่ณสินธู
      ๏ น้ำนั้นแลดั้นพุลชลุขึ้นบนสาณู
ฉาดฉาดเป็นฝอยฟูดุจสายพิรุณปราย
      ๏ ซ่านซ่านกระเด็นต้องละอองบุปผะกำจาย
สาโรชรำเพยผายรสฟุ้งชโลธาร์
      ๏ ชสใสแลไหลเชี่ยวชำเราะเลี้ยวกระทั่งผา
โดดโดนกระโจนมากระทบทุ่มวิมลฟอง
      ๏ ชมชลแลยลหมู่มัสยาคณานอง
ว่ยแวบแฉลบปองผลพฤกษะหลั่นลง
      ๏ คล้ายคล้ายพะพรายเกล็ดระยับสีหิรัญยง
เหลืองเลื่อมสุวรรณผจงรุจิเรขหลากหลาย
      ๏ ชมพรรณคณาวาลุกาเคลื่อนระยับพราย
เฉกสีมณีฉายกรชูพธูชม
      ๏ หยอกหยิกซะซิกซี้ระริกรี้สำราญรมย์
สองสวัสดิเชยชมชลธารเปรมปรา
      ๏ ประสันตาแลบาหยันประเสหรันกรตาหลา
สองนายแลสองนา-รีระเริงละเลิงชล
      ๏ เด็ดดอกกุสุมซัดกรปัดกรป้องตน
เล่นไล่ละเวงวนมนธวัชกำหนัดเชิง
      ๏ เตือนเต้นฤดีดลกลราคะสำเริง
หวาดหวั่นจรบันเทิงจิตนั้นทีมาดกัน
      ๏ ครั้นเสร็จธโสรจสรงอรองคลาวัณย์
สองเสด็จจรจรัลแลพี่เลี้ยงก็ดอมเดิน
      ๏ ระเด่นรมยชมถ้ำเสด็จนำอนงค์เมิล
โตรกไตรไศลเตรินชะวากวุ้งคูหาบรร-
      ๏ พตพู่พิดานดา-รกะย้อยระยับพรรณ
ซับซ้อนชะง่อนชะงันชรเงื้อมชะง้ำกาย
      ๏ บางปล่องเป็นช่องว่างจรัสดวงอุทัยฉาย
จรุญผาศิลาลายละเลื่อมพร้อยพิมลตา
      ๏ ลางบางระหว่างแวกชลแทรกซะซึมผา
ไหลหยัดอยู่อัตรายะเยือกเย็นวิญญาณ์ยวน
      ๏ ลดเลี้ยวแลเที่ยวทางทฤษฎีฤดีหวน
กรรหายบวายครวญดุรราครมยา
             
๑๖
      ๏ ปางนั้นกุเรปันดาหาล่าลำจรกา
แลราชร้อยเอ็ดเมือง
      ๏ เสร็จดับอัคนีนองเนืองเสร็จแล้วบรรเทือง
ทุระลีลาศคืนสถาน
      ๏ ขษณะนั้นสาวสนมบริพารทูลแด่นฤบาล
ว่าองค์สมเด็จธิดา
      ๏ ปางเพลิงพลุ่งกรุงโกลาคือองค์จรกา
เสด็จมารับนงพาล
      ๏ ว่ามีสุรราโชงการให้หาเยาวมาลย์
แลข้าจะโดยเสด็จนาง
      ๏ ท้าวบให้จรจิตขนางติดไปแต่นาง
พี่เลี้ยงทั้งสองดอมไคล
      ๏ บัดนี้นางสถิตสถานใดจักเชิญเสด็จไป
ปราสาทพิมานไพชยนต์
      ๏ ปางนั้นปิ่นภูวมณฑลฟังกลแหนงกล
คดีก็ดาลอาดูร
      ๏ ดุจล่มหล้าล่มไอสูรย์อัดอั้นอกปูน
ประลัยประลาดหลากเป็น
      ๏ จรกาด่วนดับเพลิงเข็ญปรปักษ์อื่นบ่เห็น
จะหาฤามาปลอมแปลงตน
      ๏ เกิดไฟเกิดภัยเดียวกลกิจนี้กูยล
ชะรอยระเด่นมนตรี
      ๏ โอ้ดับเพลิงนอกได้ดีกุณฑ์ในบุรี
วิบัติบรู้รำงับ
      ๏ เร่งเร็วเร่งหาจงสรรพตรัสพลางทางหับ
บัญชรตระดกแดดาล
      ๏ สาวสนมรับราโชงการค้นทุกพิมาน
ปราสาทบ่สบสุดา
      ๏ ต่างคนต่างตีอุระสา-หัสแสนโศกา
สกลกำสรดสิ้นเวียง
      ๏ ต่างคิดสะกิดกันเผดียงชะรอยพระหลานเมียง
มาลอบมาลักนางไป
      ๏ สนมน้อมทูลภูวนัตไตรบพบนางใน
นิเวศน์จังหวัดวงวัง
             
๑๙
      ๏ เมื่อนั้นองค์ประไหมสุหรีชนนินทรฟัง
แสนทุกขแดดังพินาศ
      ๏ โอ้โอ๋เวรอันใดแลโดยจรลุอาตม์
เสียทีประยุรชาติวรา
      ๏ ทั่วทวยราษฎร์ท้าวแลมีบุตรธิดา
ย่อมสุขหรรษาภิรมย์
      ๏ โอ้อกอาตมมีบุตรแต่จะได้ทุกข์ระทม
แดดาลอุระกรมประทุก
      ๏ ปางเมื่อระเด่นมบิหวังก็จะตั้งนฤสุข
ทนทุกขทุกทิวาฤวาย
      ๏ ปางท้าวสฤษฎ์ถ้อยประทานชนะทั้งหลาย
แม่ข้อนอุระตายตะลึง
      ๏ แม่พร่ำสรวงสุรเทพช่วยบุตลบหึง
พอสาสน์จรกาถึงประทัง
      ๏ มินานสาสน์วิหยาสะกำกรรมก็ประนัง
เพิ่มทุกขโกลังกุลี
      ๏ ยกศึกสู่นคำกลัมพรบูรี
ปิ้มวงศ์สุริยศรีจะทรุด
      ๏ หากได้องค์นัดดาแลมารณประยุทธ์
จึงหมู่ริปูประทุษอัปรา
      ๏ สุขเริ่มตั้งตยาคมจะสมอรวิวาห์
รมเยศดาหาสำราญ
      ๏ โอ้จวบกรรมพวกกะหมังกุหนิงจรมาผลาญ
จัณฑาลเผด็จการวิวาห์
      ๏ ไฉนหนอหมู่ปรปักษ์ได้อาภรณมา
แปลงปลอมจรการพาคระไล
      ๏ โอ้โอ๋เจ็บอุระช้ำแลช้ำจิตมไห
แม้นม้วยบอาลัยชีวาตม์
      ๏ ทุ่มทรวงศัลยโศกระกำดุจพินาศ
เนตรนองสุชลพาษปะธาร์
             
๑๑
      ๏ ปางนั้นอิศวรราชกุเรปันแลดาหา
หาสองระตูมาธก็แจ้งแต่จริงความ
      ๏ ว่ามีอริราชสุรอาจบเข็ดขาม
ลอบลักธิดาทรามเสน่ห์จวบเมื่อเกิดกูณฑ์
      ๏ ปางนั้นระตูสดับกิจแค้นคือไฟฟูน
อัดอั้นอุราปูนประหนึ่งสุดอัสสาศัลย์
      ๏ นยน์เนตรคลอคลอชลพาษปธารัน
จิตพลุ่งดังเพลิงกัลป์ละลามไหม้ภุดาธาร
      ๏ ใครชายบเกรงชายจิตเอื้อมอหังการ
เด็ดดวงสุมามาลย์ผู้เพิ่มพักตรกูไป
      ๏ เหม่มันบเกรงกูยลกูนี้เป็นใด
กูนับว่ากูไกรฤทธิภาพก็พอกาย
      ๏ ชะใครแลใจยงทระนงจะหาญตาย
มาตรฤทธิกูคลายก็พี่กูจะเกื้อกู
      ๏ ตริแล้วบังคมทูลวรเชษฐ์นี้กับดู
ขอลาสมเด็จภู-ธรราชโดยสมร
      ๏ ริปูมาดูแคลนแลจะแทนประทุษรอน
บได้ก็ไป่จรนคเรศจรกา
      ๏ ปางสองบรมท้าวสดับถ้อยระตูลา
จึงเอื้อนวโรงกา-ระประเล้าประโลมไป
      ๏ อ้าดูรระตูราชจะลีลาศก็ดอมใจ
แต่เราคะนึงในปรปักษอาธรรม์
      ๏ ชะรอยมันวราฤท-ธิเดโชมหันต์ครัน
จึงกาจบเกรงกันคณะพลแลพร้อมพล
      ๏ แม้ไคลอย่าไกลนักผิวเกลือกจลาจล
พอรู้จะเพิ่มพลพยุหทัพระดับกรณ์
      ๏ ทั้งสองระตูฟังพจนารถภูธร
เคียมลาเสด็จจรนิวาสเตรียมพลาคลา
      ๏ ปางองคล่าสำวรราชเชษฐา
เหตุไป่สู่โมหาธก็ตริคดียล
      ๏ เสร็จแนบนุชาพร้องกิจนี้บควรฉงน
ใช่โจรอื่นปนนุชพี่อย่าหาญการ
      ๏ เที่ยงแท้อิเหนาปลอมกลฉกยุพาพาล
เพื่อเพื่อนตระหนักการสะดวกได้บราคิน
      ๏ หนึ่งฤทธิ์ระด่นเด-ชะนุภาพฦาระบิล
ผู้ใด ณ แดนดินประดิยุทธลาญชนม์
      ๏ แม้วใครบรักชีพก็แบหลานิราผล
อันจักผจญรณระเด่นป่วยพิการกาย
      ๏ เจ้าพี่จงฟังพี่เถอะนะพ่ออย่าหาญตาย
สงวนชีพไว้หมายสมรทั่วธราธาร
      ๏ ปางนั้นระตูก็สดับพจนพี่ดั่งเพลิงผลาญ
รู้แท้ว่าองค์ระเด่นพาลจิตฉกสุดาคลา
      ๏ ครั่นคร้ามวราฤทธิ์อิเหนาดุจองค์มัจจุรา
ทุทุ่มทอดสกนธโศกาดุระพิลาปจาบัลย์
      ๏ โอ้โอ๋แลอาตมคะเนจิตฤาแลผิดผัน
นึกแหนงกะหมังกุหนิงแลมันจะยกยศนายตาย
      ๏ มุ่งจิตจร ณ ประลองฤทธิพอกำลังหมาย
โอ้ควรฤากิจกลมากลายระเด่นนี้อนาถใจ
      ๏ โอ้โอ๋แลผลบุรพปางก่อนนะนั้นประการใด
จึงกูอุบัติภพไตรฤทธิกูบเป็นการ
      ๏ สบสรรพรูปก็ทรลักษณ์ประยูรศักดิ์อันธพาล
บรรดาสมรสุมามาลย์จะสวาดิก็ไป่มี
      ๏ โอ้โอ๋แต่อาตมแสวงวรอัครเทพี
หวังโฉมเฉลิมมุขวรีแต่ดรุณกึ่งชนม์
      ๏ เป็นเดชะกรรมผดุงวงศ์อสัญให้จลาจล
อิเหนมบจงแด่นฤมลบิตุราชเคืองระคาย
      ๏ กูขอแก่ท้าวธจึงสฤษดิ์ยุพเยาวง่ายดาย
หวังจิตจะร่วมรสด้วยสายสวาดิกว่าจะเมื้อมรณ์
      ๏ โอ้โอ๋แลดวงบุษบาเอ๋ยจะนิราศแรมจร
แต่เรียมจะสมสุขสมรนุชบ้างบมีเลย
      ๏ อ้าแม่บ่ร่วมรสจะสัม-ผัสชื่นกมลเชย
นี่เนื้อว่าเวรกระไรเลยแต่จะยลบเต็มตา
      ๏ ปางส่งสุพรรณบัฏกล่าวก็บยลพนิดา
เรียมยลแต่รู้ปอรเลขาสกนธน้องคะเนชม
      ๏ โอ้บุญปางสมเด็จเสด็จวิลิศคิรีไพรพนม
จึ่งเรียมแลทอดทฤษฎีชมวิมลน้องบนสาณู
      ๏ ปางพี่แลบงสมรเดินสะพักพานมณีชู
เรียมคิดว่าใช่อรพธูดอกนะแม่ที่คีรี
      ๏ สำคัญว่าอัปสรเสด็จจรจาก ณ ราศี
ดูเดินประดุจกินรีชรอ้อนชะอ่อนองค์
      ๏ บงพักตร์พี่สำคัญว่าจัน-ทรเพ็ญผ่องผจง
บงคิ้วพี่สำคัญว่าวงศศิแปลบยุคุนธร
      ๏ บงเกศพี่สำคัญว่าปีกภมรมาศบวร
บงเนตรพี่สำคัญว่าศรกฤษณาส่องแสยงตา
      ๏ บงกรรณพี่สำคัญว่ากลีบปทุมสร้อยกุสุมา
นาสาพี่สำคัญว่าวราอังกุศแก้วเอราวัณ
      ๏ บงปรางพี่สำคัญว่านวลลอออินทรนวลจันทร์
บงโอษฐ์เพียงพี่จะรับขวัญว่าจะแย้มสุนทรวอน
      ๏ บงกัณฐ์พี่สำคัญว่าศอสุวรรณหงสเขจร
บงพาหุพี่สำคัญว่ากรไอยเรศอำมรินทร์
      ๏ บงถันพี่สำคัญว่าดวงกมุทมาศเมืองอินทร์
สบสรรพางคพี่ก็จิน-ตนานึกว่านางแมน
      ๏ ต่อยลอิเหนาจรประคองสุพรรณภาชนอายแคลน
แจ้งจิตว่าดวงสมรแสนวิมลโฉมเฉลิมองค์
      ๏ พี่แค้นระเด่นประดุจพี่จะพิฆาตให้ผุยผง
ฤทัยพี่หน่วงจิตว่าวง-ศสุจริตบรู้พาล
      ๏ โอ้โอ๋แต่ยกพยุหกลับจรจวบวิวาหกาล
หวังใจว่าแม่นินะเป็นภารธุรพี่เสน่ห์นาง
      ๏ ควรฤาระเด่นประทุษจิตโจรลอบคิดขนาง
ให้เรียมประยศแก่ชนะปางวิวาหใครจะชมตัว
      ๏ ปางให้แลไยบมิสวาดิสละนุชให้หมองมัว
ปางนี้ของเราควรฤแลตัวทุจริตจัณฑาล
      ๏ มิตรเราแลเราเสน่ห์ยิ่งปิตุเรศชนมาน
ดรแกล้งฉะนี้ผิวเห็นการจรสู่อบายครัน
      ๏ โอ้กูจะตามดีฤมิตามกูนิคร้ามฤทธีมัน
แม้มาตรผจญยลจะศัลย์ชิวกูบร้างเป็น
      ๏ โอ้จำจำให้จิตประจักษ์กิจแน่ตระหนักเห็น
มิใช่อิเหนาแลอริเป็นริปูอื่นบออมกัน
      ๏ ถ้าแท้ระเด่นแลกูจะผ้ายพยุหคืนบูรีพลัน
ทูลท้าวดาหาแลกุเรปันธล่อลวงระเด่นมา
      ๏ จึงกุมกระทำครุโทษสหัสสมใจสา
แล้วกูจะได้วรยุพานิทรแนบฤดีจอง
      ๏ แม้มาตรโฉมสมรช้ำสาโรชสร้อยกุสุมหมอง
อับเสาวคนธ์นฤละอองรสจืดบจางใจ
      ๏ เหตุกูแลสุดกมลหานุชทั่วธเรศไกล
ไปหวังจะเพิ่มพักตรวิไลดุจน้องพระโฉมฉนำ
      ๏ ตริเสร็จท้าวธก็แสดงวรเชษฐล่าสำ
ทั้งสองก็กรีพหลนำนิกรกรูนิราศกรุง
             
๑๙
      ๏ เมื่อนั้นองค์ระตูเสด็จจรลุง
ลานเนตรเมิลมุ่งพนานต์
      ๏ ค้นคว้าดาพิริยพลทั่ววนวิศาล
คีรีละแวกธารเซาะทาง
      ๏ สุมทุมพุ่มพนชัฏระนามนิกรถาง
เสาะพลางแสวงพลางพิลาป
      ๏ โอ้โอ๋อรยิหวาบเมิลกรเรียมถาบ
ทุ่มทรวงพิลาปแสนวิโยค
      ๏ อ้าแม่ปานฉะนี้สุดาจะสุขฤโศก
โอ้เรียมลำโอฆอาตม์ระทม
      ๏ อ้าแม่เคยสุขเสวยสวัสดิบุรีรมย์
ปรางค์มาศมณีลมบพาน
      ๏ อ้าแม่เคยเสวยสุริยางคสุรางค์ศฤงคาร
จำเรียงผสานเสียงระงม
      ๏ อ้าแม่ปานฉะนี้ศิริจะวิมละฉม
วิรุณวิลมพระพักตร์
      ๏ อ้าแม่เคยนิทรแท่นมณีทิพยตระศักดิ์
ปางนี้จะนิทรลักษณ์ประดาษ
      ๏ อ้าแม่ปานนี้จะสดับศัพท์สกุณะชาติ
ผีโป่งตวาดขวัญจะเตริ่น
      ๏ อ้าแม่จรวนะใดก็มาเถอะนะพี่เชิญ
หน่ายเดินก็เตรินลิลา
      ๏ โอ้โอ๋แลอุระพี่นิกระอุละห้อยหา
จวบโททิวากาลบพาน
             
๑๑
      ๏ ปางนั้นบรมวง-ศอสัญไพศาล
สมสร้อยสุดามาลย์สุวคนธมาโนชญ์
      ๏ ดังเสวยสวรรค์สวัสดิ์ทิพรัตนเรืองโรจน์
เบิกบานกมลโชต-ติเกษมสาธร
      ๏ จุมพิตวิไลโฉมตระโบมบุษปกำจร
อิงออมถนอมกรตระกองแก้วพี่ย่ำยาม
      ๏ รตินทิวารมย์รสฉมบรรเจิดกาม
ไสยาเถอะนะทรามสวาดิพี่จะกล่าวกลอน
             
๑๔
      ๏ อ้าแม่นิทราเถอะนะจะกล่อมวิมลพักตรอัปสร
ขวัญแม่อย่าเขจรจงนอนรมเยศหฤทัย
      ๏ อ้าแม่อย่าหวังแก่ชนกาชนนี ณ กรุงไกร
อ้าแม่อย่าหวังแก่นุชในนคเรศเรือนทอง
      ๏ อ้าแม่อย่าหวังแก่มะดีหวีบริพารทั้งผอง
อ้าแม่อย่าหวังสมบัตินองแลนิเวศนมณเฑียร
      ๏ อ้าแม่อย่าหวังสุขแต่หลังแลเป็นสุขพาเหียร
อ้าแม่แต่นี้สุขจะเนียรทุกขแท้ทิวากาล
      ๏ อ้าแม่จงมาเสน่หพี่สุจริตใสศานต์
อ้าแม่อย่าหวังชนสามานย์ทุจริตพาลพงศ์
      ๏ อ้าแม่พี่พาจรมาใจพนพฤกษร่มระหง
ขวัญแม่อย่าหลงจรในดงทรสมุทรสายศาล
      ๏ ขวัญแม่อย่าหลงในบรร-พตห้องพระหิมพานต์
ขวัญแม่อย่าหลงจรในธารชรทึงชรทางเทา
      ๏ ขวัญแม่อย่าหลงจรในโป่งแลในป่าทุกลำเนา
ขวัญแม่อย่าหลงจรในเหล่าละแวกห้องคูหาหงส์
      ๏ ขวัญแม่อย่าหลงจรในหมู่กิริณีอำนวยพงศ์
ขวัญแม่อย่าชมมฤคยงคณะยองอันตฤบเกลียง
      ๏ ขวัญแม่อย่าชมหันตกา-สรกาจกำเหลาะเฉลียง
ขวัญแม่อย่าชมพยัคฆเยียงผายผยองระเห็จหาญ
      ๏ ขวัญแม่อย่าชมคณะชะนีศัพทร้องสำเนียงหวาน
ขวัญแม่อย่าชมพานรพาลละโลดเล่นลดาวัลย์
      ๏ ขวัญแม่อย่าฟังศัพทเรไรระหริ่งร้องเสนาะกรรณ
ขวัญแม่อย่าฟังศัพทจักจั่นจะแจ้วเจื้อยละเวงรมย์
      ๏ ขวัญแม่จงมาสุขสโม-สรร่วมภิรมย์สม
เชิญขวัญมานิทรผทมเถอะนะแม่อย่าอาวรณ์
             
๑๑
      ๏ เสร็จกล่อมพระโฉมเฉลิมสุรศัพท์ประโลมสมร
ทราบโสตรสาธรสุขรมยไสยา
      ๏ บรรทมประทับแท่นอุรราชกานดา
สองสนิทนิทรารมยร่วมเขนยนอน
      ๏ ท้าวหลับก็กลับทรงสุบินลางกระลัมพร
เพื่อพระพธูสมรจะวิโยคประปราณ
      ๏ ว่าปักษอินทรีพละกายอันไพศาล
มาโดยโพยมมานคะคระครื้นคระเครงดัง
      ๏ เสียงศัพทลมบินศิขรินทเพียงพัง
ถาลงก็ผาดผังเฉพาะพักตรราชา
      ๏ โจมภักษจิกดวงนยน์จักษุเบื้องขวา
ได้แล้วก็โผพาจรสู่ทิฆัมพร
      ๏ เสร็จท้าวสะดุ้งจิน-ตนการะกำธร
อ้าฝันก็ทอดถอนหฤทเยศภูบาล
      ๏ ทุสุปิโนเนียรสุรเทพยบันดาล
ให้เห็นกระลีกาลกลรอยจะมีภัย
      ๏ รู้ร้างก็เร่งอา-ดูรด้วยพธูไท
จักจากอุราไกลกระมังพี่นิมิตลาง
      ๏ ดวงทักษิณาเนตรกลคือพระน้องนาง
อินทรีประทุษทางทุรโทษทารุณ
      ๏ คือองค์ระตูแจ้งรหัสเหตุจะไฟฟุน
เพื่อโมหะหวนหุนแลจะพรากพระนุชคืน
      ๏ หนึ่งอาตมทำผิดกิจราชฝ่าฝืน
ฉกชมบร้างยืนเสน่ห์คงจลาจล
      ๏ ตริพลางตระกองนางนยน์เนตรนองชล
หมองไหม้กมลกลจะพินาศนิราศอร
      ๏ ปางนั้นพระชาเยนทร์นุชนาฎสุนทร
ตื่นยลธิเบศรก็พิกลอาการ
      ๏ กันแสงกระซิกเศร้ากลนี้บควรมาน
นุชแคลนฤดีดาลระคายได้คดีมูล
      ๏ ฉันใดพระเชษฐาปริเทวอาดูร
ควรสุชสมบูรณ์บมิควรจะโศกทรง
      ๏ ฤาเชษฐคำนึงจินตะหราอนงค์ยง
เชิญเชษฐคืนคงนคเรศหมันยา
      ๏ น้องไซร้บได้ปรามมนะราชรมยา
ชอบเชิงละเลิงอา-รมณ์ท้าวแต่ก่อนกาล
      ๏ อย่าแม่อย่าควรกล่าวกลนี้ประหนึ่งราน
ชีพพี่สลายลาญแลมารื้อคดีเดิม
      ๏ หมันหยาบควรคงจะร่วมวงศ์อสัญเสริม
ควรพี่แลน้องเฉลิมยศไว้ ณ ไตรดา
      ๏ พี่โศกนิเพื่อพี่นิมิตลางประหลาดอา-
ดูรพาษปธาราบมิวางมโนใน
      ๏ กริ่งน้องนิรารมย์ระทมทุกข์ระทดใจ
ใช่เชิงจะหน่ายในนุชจงบังวายแคลน
      ๏ ตรัสพลางตระกองโฉมตระโบมบุษปมาศแมน
รสเศร้าบเปลื้องแปลนดุจทิพยปานปอง
             
๑๖
      ๏ ปางนั้นระตูราชทั้งสองสอดพลเมิลมอง
วนาศิขรถ้ำธาร
      ๏ เสาะแสวงสายสวาดิเพาพาลบมิพบเลยลาญ
ละลุงระลึกไคลคลา
      ๏ โดยแดนอสัญแรมมาถับถึงพลับพลา
สำนักอสัญอาศัย
      ๏ สองท้าวทฤษฎีดีใจจรดพลเพรียกไพร
คะคล่ำคะลาป่าดง
      ๏ สอดเนตรส่ายเนตรจงนงค์เมิลมองยุพยง
บพบบพานกานดา
      ๏ บยลวรเชษฐนราห่อนเห็นสถิตพลา
อันพรายด้วยรัตน์รูจี
      ๏ เห็นแต่อนุชาธิบดีรู้จักใจปรีดิ์
ประสงค์ประสบใสความ
      ๏ ลงจากกุญชรเดินตามแนวมารคบขาม
จรดพระพลาราชี
      ๏ เยื้อนถ้อยถึงภูวนัตรี-ศวรราชธิบดี
สถิตสถานด้าวใด
      ๏ สังคามะระตาผู้ไกรสนองโดยกลใน
กระเหน็ดกระแหน่แง่งำ
      ๏ ว่าพระภูธรเสด็จนำพลไล่ยองคำ
ประพาสพนาสณฑ์
      ๏ อ้าพ่อไปโดยเสด็จกลใดตูยังฉงน
บควรจะคลาดคลากัน
      ๏ อ้าข้าป่วยชงฆยะยันโดยเสด็จบทัน
แลโรคร้อนลำเค็ญ
      ๏ เยียใดนำพลเพียบเพ็ญหวังราญรอนเข็ญ
ฤามาประพาสพนารมย์
      ๏ ฤาเสร็จพิธีสวยมพรพานางคม-
นานิเวศน์กรุงไกร
      ๏ ฤามาประสงค์สิ่งใดร้ายดีเร่งไข
คดีจงรู้อย่านาน
      ๏ จรกาชื่อชั้นส่านสารโดยมูลมากมาน
ทุกสิ่งก็สิ้นสบสรรพ์
      ๏ มาตามบุษบาลาวัณย์หวังพระทรงธรรม์
ผู้เป็นพระเชษฐ์ด้วยดี
      ๏ เผื่อเพื่อรู้ข่าวเทพีทูลอรรถอันมี
ปะระปราริปูพาธา
      ๏ บัดนั้นสังคามารตาใส่กลกิริยา
ตระหนกแลตีตนตรอม
      ๏ แสร้งไห้แสร้งโหยโอยออมหลากใครหนอปลอม
มาลอบมาลักนางไป
      ๏ กิจนี้ชอบที่ทูลไทยให้แจ้งทุกขภัย
ว่าน้องธ ตกมือชาย
      ๏ เสร็จสนองกลเพโทบายสั่งพี่เลี้ยงผาย
ดุรงคเร่งรีบจร
      ๏ ดลแดนพี่เลี้ยงภูธรแถลงลักษณนุสรณ์
โดยในคดีธิบดี
      ๏ กรดาหลาจดจำวาทีนำข่าวสารศรี
ก็แฝงวิสูตรทูลไท
      ๏ ว่าสองระตูดอมไคลมาสืบสงสัย
นรินทรราชมั่นคง
      ๏ หวังพบพระองค์กับองค์อัคเรศจักทรง
ดำริคดีกลใด
             
๑๔
      ๏ ปางปิ่นนรินทรสดับพจนารถละลุงใน
แดดาลระด่าวดุจประลัยชิวเมื้อวิมานสวรรค์
      ๏ โอบอุ้มวรนุชวนิดานรนาฏรำพัน
อ้าแม่ผู้มีมุขะคือจัน-ทรผ่องทิฆัมพร
      ๏ รอยจริงประจักษ ณ นิมิตกิจเทพสังหรณ์
ตรัสพลางก็ทอดหทัยถอนปริเทวโศกศัลย์
      ๏ กลั้นโศกก็แสร้งพจนเยื้อนกลเย้ยยุพินพลัน
อ้าแม่ผู้ทรงพิสุทธิพรรณศุภลักษณ์โฉมเฉลา
      ๏ บัดนี้ระตูจรมาตามนุชถึงสำนักเรา
พี่เกรงวราฤทธิจักเอานุชส่งระตูครอง
      ๏ คืนเข้าบุรินทรพิศาลจะภิเษกสมพอง
สมพงศสมประยูรสองสุรศักดิ์วิสุทธิ์เสมอ
      ๏ จึ่งพร้อมคณาประยุรเทพธิบดินทรอวยเออ
เตรียบเตรียมวิวาหะรมเยอรมเยศธราดล
      ๏ หากเราแลลาญชีพิตคิดแลประกอบอุบายกล
คาบนี้ก็สมศุภวิมลบมิทันจะพริบตา
      ๏ ปางนี้ ณ กรุงก็จะกระเกริกระตูราชทั้งสองมา
ควรเรียมจะฟังยุบลปรา-กฎให้ตระหนักกรรณ
      ๏ อ้าแม่อย่าแหนงหทัยพี่จะนิราศภิรมยขวัญ
เชิญแม่เสวยสุขในบรรจ์-ถรณ์ถ้ำวิเชียรพราย
      ๏ ฝ่ายองค์พระนุชก็สดับวรเชษฐฦาสาย
กันแสงก็ทุ่มพระวรกายชลนองพระนัยนา
      ๏ องคอสัญธก็ประโลมวรราชกนิษฐา
พลางซับสุชลพนิดาธก็อุ้มสถิตเพลา
      ๏ อ้าแม่ผู้ร่วมอสัญพงศ์วรลักษณโฉมเฉลา
อย่าโศกสะอื้นอรจงเนาเถอะนะแม่พี่ขอลา
      ๏ ไปยลยุบลกิจระตูผิวอยู่จะสงการ
เรียมไปจะกล่าวกลมฤษาบมิให้ระตูแคลง
      ๏ อ้าแม่อย่าโทมนัสไห้ปริเทวโรยแรง
เชิญแม่เสวยสุขอย่าแหนงทรหวนทรโหยหา
      ๏ ปลอบพลางก็สั่งวรพี่เลี้ยงยุพราชบัญชา
สองพี่ผู้ร่วมพระชนมานุชโศกประโลมสมร
      ๏ สั่งเส็จก็จากบวรอาสน์บมิใคร่จะยาตรจร
ยกย่างแลทีหทัยถอนนยน์พาษปธารา
      ๏ กลับมาตระโบมอรยุพินวรเยาวกานดา
บัดนี้จะละอรให้อา-ดุจเดียวกำเดาดาย
      ๏ ยอกรก็ลูบพระฟฤษฎางค์จะนิราศฤทัยหาย
คิดถึงสุบินทุกขฤวายชลนองพระเนตรนูน
      ๏ บัดนั้นพี่เลี้ยงกรดาหลากิจช้าก็เตือนทูล
ขอเชิญพระพงศ์เทวประยูรยุรยาตรดำเนินจร
      ๏ ยินทูลมิใคร่พจนเยื้อนกิจรับสุนทรวอน
จำเป็นก็จากบรรจถรณ์สิริห้องพระไสยา
             
๑๑
      ๏ ปางนั้นสมเด็จองค์บรมพงศ์อสัญหยา
สถิตแทบพระคูหาธก็มีวโรงการ
      ๏ ตรัสสั่งพระพี่เลี้ยงกระตาหลาปรีชาชาญ
รักษาพระเยาวมาลย์กิจช่วยประสันตา
      ๏ สั่งเสร็จเถลิงหลังดุรงคราชไคลคลา
พร้อมพลโยธานิกรหมู่กิดาหยัน
      ๏ หลีกลัดก็ตัดทางจรในพนาวัน
พบพลม้าอันให้ไล่เนื้อนั้นกลับมา
      ๏ ก็เข้าบรรจวบกันจรโดยเสด็จคลา
พระพงศ์อสัญหยาธคำนึงพธูไท
      ๏ ปางนี้พระท้าวน้องจวิลาปลรรลุไฉน
นึกนึกอนาถในฤทัยท้าวธกรรโหย
      ๏ รันทดรันทวยกายดุจไม้เมื่อลมโบย
เจียนสิ้นพระแรงโรยทุกขโทมนัสา
      ๏ ครั้นใกล้ก็พักพลจรจากอาชาคลา
โสรจสรงพระพักตราที่คร่ำชื้นพระชลนัยน์
      ๏ ซ่าโบะพระซับพักตร์ธก็หักที่อาลัย
แสร้งขืนฤทัยไทพักตรชื่นกมลกรม
      ๏ เสนากิดาหยันจรโดยเสด็จสม-
เด็จราชบรมวงส์ปตารกาหลา
      ๏ เสด็จเถลิงสุวรรณอาสน์วรราชพลับพลา
ผลสองระตูปรา-ศรัยแสร้งประโลมใจ
      ๏ อ้าดูรระตูราชประพาสมาด้วยกลใด
จนถึงพนาลัยพนพฤกษ์กันดารดง
      ๏ จรกาบังคมทูลบดินทร์สูรอสัญวงศ์
ทูลพลางก็ทางทรงปริเทวประปราณ
      ๏ เมื่อวันวิวาหมง-คลราชในราชฐาน
เดิดการกลีการอริรุมเข้าโจมผจญ
      ๏ เดิมตีซึ่งกลองศึกพิลึกโห่โกลาหล
จุมเพลิงเถลิงกลก็ติดทั่วทุกโรงงาน
      ๏ สองศรีปัตหราเสด็จด้วยพระคชยาน
ดับเพลิงเถกิงการก็ว้าวุ่นทั้งเวียงชัย
      ๏ ลอบลักพระธิดากับพี่เลี้ยงทั้งสองไป
เสด็จกลับจากดับไฟให้ค้นหาบพบพาน
      ๏ ถ้วนทั่วทุกเรือนทองสิริห้องเหมพิมาน
บพบพธูลาญปริเทวทั้งเวียงชัย
      ๏ ข้าสืบแสวงจบบมีพบพธูไท
ค้นคว้ามาในไพรก็ได้สองทิวาวาร
      ๏ ถ้าได้ประจามิตรทะนงจิตที่จงผลาญ
เผด็จดวงกมลรานบำราศรักในแรมไกล
      ๏ ฟอนฟันจะหั่นสับให้ย่อยยับบปราศรัย
กากลืนอย่าเคืองในคอระคายในคอกา
      ๏ ทูลพลางชำเลืองดูวรพักตร์อสัญหยา
หวังทราบพระกิริยากิจร้ายแลดีมี
      ๏ ปางนั้นสมเด็จอง-คระเด่นมนตรีศรี
ฟังถ้อยระตูดีอุระแสร้งตระดกดาล
      ๏ ใครหนอมาอาจองทรนงอหังการ
ลอบลักยาหยีรานศุภผลวิวาห์ไกล
      ๏ ไม่เกรงซึ่งเทวฤทธิ์แลกษัตริย์ทั้งสองไฉน
ตัวพี่ก็มีชัยยศเลื่องกระเดื่องนาม
      ๏ เสียดายพระน้องรักจะปนศักดิ์ด้วยชายทราม
ทีนี้จะรับความครหาเป็นราคี
      ๏ ประหนึ่งเจ้าเราหมีให้ระคนศักดิ์ให้เสื่อมศรี
นี่ซ้ำยิ่งร้ายทวีอัปยศอสัญวงศ์
      ๏ คิดถึงสุบินร้ายบมิวายคะนึงองค์
ประสบแสร้งกันแสงทรงปริเทวนาดูร
      ๏ ศรีศรีสวัสดิ์เสร็จเผด็จฉันท์บริบูรณ์
สังวาสรสพูนพจนารถสุนทร
      ๏ เริ่มเรื่องชวารักแลพินักธกล่าวกลอน
หวังไว้สถาวรกระวีชาติธรารมย์
      ๏ เปรมปรีดิเปรมปราชญ์พจนารถบรรสม
บรรสานดำนานคมสฤษฏ์รสเป็นเชิงฉันท์
      ๏ นามข้าผู้สมญาสรวิชิตนิพันธ์
พอเหิมหฤหรรษ์สันต์สนุกนิสบสมัย
      ๏ ไป่เห็นแก่นิทราทิวาราอุตส่าห์ใจ
เสร็จแล้วสำเนาในสมมติแท้มโนเพียร
      ๏ เชิญแท้สุเมธาทศนาช่วยจำเนียร
แต้มเติมเฉลิมเขียนบริรักษเจษฎา
      ๏ ปางแต่งแสดงจุล-ศักราชสหสา
สตะจตุทัศราสังวัจฉรเอกปี
      ๏ กุนศกอาสยุชมาสสุขบัณณรสี
ทวาทัศรัษตีนิพนธ์เสร็จบริบูรณ์
             

เชิงอรรถ

อ้างอิง

วรรณกรรมสมัยธนบุรี เล่ม ๑ กรมศิลปากร ๒๕๓๙

ขอขอบคุณคุณ gignoi สมาชิก kaewkao.com ผู้พิมพ์เป็นวิทยาทาน

เครื่องมือส่วนตัว