บทละครขุนช้างขุนแผน พระบวรราชนิพนธ์ในกรมพระราชวังบวรมหาศักดิพลเสพ

จาก ตู้หนังสือเรือนไทย

(ความแตกต่างระหว่างรุ่นปรับปรุง)
ข้ามไปที่: นำทาง, สืบค้น
(ข้อมูลเบื้องต้น)
(ขุนแผนขึ้นเรือนขุนช้าง)
แถว 9: แถว 9:
== บทประพันธ์ ==
== บทประพันธ์ ==
-
===ขุนแผนขึ้นเรือนขุนช้าง===
+
===ตอน ๑ ตั้งแต่ขุนแผนกลับจากการทัพมาบ้านนางวันทอง นางวันทองกับนางลาวทองหึงกัน จนขุนแผนกลับบ้านเดิม===
 +
==== ====
<tpoem>
<tpoem>
-
<sup>ชมตลาด</sup>
+
<sub>ช้า</sub>
-
เดือนเอยเดือนหงาย   นอกชานทำสบายเทียวนักหนา
+
เมื่อนั้น   ขุนแผนเชี่ยวชาญหาญกล้า
-
ต้นไม้ใส่กระถางวางบนม้า   เอนชายหลายท่าป่าทำนอง
+
ตีเชียงทองได้แล้วกลับมา   เฝ้าจอมอิศราปิ่มโมลี
-
มีภูเขาก่อกองด้วยฟองน้ำ   ชะโงกง้ำถ้ำเหวเปลวปล่อง
+
ได้พระราชทานรางวัลครัน   เกษมสันต์ผ่องพักตร์เป็นศักดิ์ศรี
-
ไม้พุ่มโกรนเกรียนเขียนเป็นรอง   มีบึงหนองคลองน้ำลำธาร
+
จะกลับไปสุพรรณบุรี   ลงนาวีใหญ่ไร่เพียบพราย
-
ทำเป็นดงละเมาะเหมาะนักหนา  ปั้นกระทิงมหิงสาฝูงช้างสาร
+
ฯ ๔ คำ ฯ โล้
-
ทั้งอาศรมฤๅษีมีเหล่าพราน  สวมหัวล่อไล่ทะยานเข้าแทงเนื้อ
+
-
ตุ๊กตาแบกเพนียดต่อนกเขา  เที่ยวซนเข้าในรกตกใจเสือ
+
-
ในห้วยหนองคลองน้ำทำเป็นเรือ  น้อยน้อยลอยดูไม่เบื่ออุตส่าห์ทำ
+
-
บ้างเทียบเป็นบ้านป่าไร่กะเหรี่ยง  ชมรมเรียงแทรกโพนคล้องช้างคล่ำ
+
-
มันทำล่อวันทองแล้วเจ้ากรรม  ปลูกกระจับไหหลำน้องฤๅเจียว
+
-
มียี่หุบจำปาแขกไฝ่ฝ้า  จูหลันชาโปตั๋นห่ำเสี้ยว
+
-
กุหลาบขาวกุหลาบแดงแรงทีเดียว  ปลูกใส่อ่างเขียวดอกดกทราม
+
-
บัวก็มีแห้วก็มีอุตส่าห์ปลูก  เปลือกมันใหญ่โตกว่าลูกเท่าตุ่มหาม
+
-
ได้ไม้จีนมาจาไหนไอ้บ้ากาม  เห็นมันตามประจบปลัดจัน
+
-
กรงกินดินสีชมพูก็มีด้วย  เก้าอี้ถ้วยตั้งไว้ด้วยรวยขยัน
+
-
อ่างเรียงเลี้ยงปลาฟักพืชพันธุ์  เดือนแจ้งดังกลางวันเห็นตัวปลา
+
-
เอานิ้วมือดีดน้ำลงต้ำจิบ  ว่ายกระดิบกระดิบเข้ามาหา
+
-
ทั้งเหลืองแดงต่างดีมีนานา  ปุ่มหลังปุ่มหน้าหมุนน่าดู
+
-
ลางตัวปลั้วเปลี้ยดั่งเบี้ยตุ้ม  ตะลุมปุ้มกระดิกหางกระทั่งหู
+
-
บ้างแหวกว่ายลอยล่องฟ่องฟู  หน้าเอ็นดูขดขุ้มเป็นปุ่มโป
+
-
เหย้าเรือนเหมือนขุนนางมันช่างทำ  ตรงรางน้ำนั้นวางอ่างเลียงโผ
+
-
มันได้มาแต่ไหนใบโตโต  โยโสสุงสิงหยิ่งเหลือตัว
+
-
ติดกระจกตั้งเก้าอี้ที่บนหอ  ราวกับพ่อมันเป็นเจ้าสัว
+
-
วันทองจึงปลดปลงหลงเมามัว  จะเที่ยวไปให้ทั่วกลัวจะช้า
+
-
แลเห็นนกบ้าระบุ่นโนรี  สารพันจะมีทีเดียวหวา
+
-
สัตตวรรณกระตั้วสาลิกา  พูดได้ทักมาว่าเสียงคน
+
-
จึงบังคับแก่ฝูงโหงพราย  ให้ทำลายเขาไม้ให้ปี้ป่น
+
-
วันทองจะได้หายวายกังวล  สั่งแล้วจรดลไคลคลา
+
-
  ฯ๒๘ คำฯ เพลง
+
 +
 +
<sub>จำปาทองเทศ</sub>
 +
ขุนแผนคลอเคล้าลาวทอง  พี่เลี้ยงสองชม้อยเมียงม่าย
 +
หม่อมขุนเย้าหยอกตามสบาย  ลาวทองร้องไฮ้อายชาวเรือ
 +
ขุนแผนว่าเมียใครที่ไหนมา  เสน่หาเต็มทนจนล้นเหลือ
 +
ต้องนอกผ้าดังว่าเขาถูกเนื้อ  ร้องเผื่อเสียก่อนว่างอนจริง
 +
หยอกแหย่แอ๋แหน้อยฤาน้อย  เชิงชั้นเกือบจะเป็นท่านผู้หญิง
 +
สะดุ้งพดสามคดระทวยทิ้ง  มันเพราพริ้งยิ่งชื่อฤาลาวตาย
 +
ฯ ๖ คำ ฯ
 +
 +
 +
<sub>ร่าย</sub>
 +
เมื่อนั้น  ลาวทองขวยเขินสะเทินม่าย
 +
เหตุว่าหม่อมขุนเป็นผู้ชาย  ไม่มีอายทำได้ก็ทำเอา
 +
ลาวไทยถ้าเป็นหญิงก็เหมือนกัน  อย่าเสกสรรรำพันเพ้อเลยพ่อเจ้า
 +
เผอิญหม่อมเห็นว่าข้าพริ้งเพรา  บุญเราจะได้เป็นหม่อมแม่เรือน
 +
ฯ ๔ คำ ฯ
 +
 +
 +
<sub>ร่าย</sub>
 +
เมื่อนั้น  ขุนแผนสรวลเสชวนกลบเกลื่อน
 +
ไม่สะบิ้งสะบัดแชเชือน  อย่าพักเตือนเลยจะเลี้ยงให้เต็มโต
 +
พลพายพายระดมรีบรัด  สามเล่มจัดร่ายราวกราวโห่
 +
เมียผัวตัวขย้อนคลอนยอกโย้  พลาดขยับร้องโอ๋ซวดเซทับ
 +
ฯ ๔ คำ ฯ
 +
 +
 +
<sub>ช้าปี่</sub>
 +
สิ้นเอยสิ้นแสง  จรูญแจรงเมฆเกลื้อนเลื่อนสลับ
 +
รวิวรรณผายผันโพยมพยับ  ไถงดับอับแสงรวิวร
 +
บุหลันเลื่อนล่องฟ้าโพยมมาศ  โอภาสแจ่มจำรัสประภัสสร
 +
แผ้วหล้าดาดาษศศิธร  พิศเดือนเหมือนจะวอนให้อ่อนใจ
 +
แส้งตรัจปรัดผิวลาวทองน้อย  งามขม้อยนวลหน้าหน้าแข่งไข
 +
สัพยอกหยอกเยียเคลียกันไป  ตามแนวในชลมารคไม่คลาศคลา
 +
เพลาดึกลมพัดมาเย็นเฉื่อย  หนาวเรื่อยน้ำฟ้าต้องหน้า
 +
ชื่นชุ่มเยือกเย็นทั่วกายา  สะพักผ้าไม่อุ่นเหมือนเบียดกัน
 +
มืดราตรีผินข้างนี้เถิดนะเจ้า  มาคลึงเคล้าเสียให้หายคลางคางสั่น
 +
ทำเอนอิงพิงพาดพัวพัน  พูดล้อเล่นขันขันมากลางเรือ
 +
ฯ ๑๐ คำ ฯ โอ้
 +
 +
 +
แล้วถอนจิตคิดถวิลถึงพิมพี่  โอ้ป่านนี้จะละห้อยคอยเหลือ
 +
เพลานอนจะโอดอ่อนน้ำตาเจือ  เออน่าเบื่อเรือพายไม่ไหวเลย
 +
เขม่นตาข้างขวาให้หวั่นหวาด  เอ๊ะประหลาดผิดใจอะไรเหวย
 +
เมียงามละไว้ให้ห่างเชย  อกเอ๋ยนานหนักมักมีภัย
 +
ฝากไว้กับแม่ยายแก่ชายเปื้อน  ทำอะไรไหลเลื่อนไม่เอาได้
 +
อ้ายขุนช้างทุจริตอิจฉาใจ  มันคิดปลงอยู่มิได้วายวัน
 +
คะนึงพลางทางเร่งนาวาคลา  พอเรื่อฟ้าจวนแจ้งแสงฉัน
 +
ภาณุมาศโอภาสรพีพรรณ  กับบุหลันเด่นดวงอรุโณทัย
 +
ถึงสุพรรณพลันประทับกับหน้าบ้าน  ยิ่งรำคาญร้อนรนหม่นไหม้
 +
ยลบ้านพิศเรือนนี่เรือนใคร  หวั่นใจทวีทุเรศอารมณ์รัว
 +
ฯ ๑๐ คำ ฯ
 +
 +
 +
<sub>ร่าย</sub>
 +
บัดนั้น  สายทองพี่เลี้ยงตื่นขมุกขมัว
 +
ลงมาท่าน้ำชำระตัว  หมอกมัวเห็นเรือใครรอรา
 +
ดูดูรู้ว่าเรือขุนแผน  ก็กลับแล่นคืนขึ้นบนเคหา
 +
บอกวันทองพลันว่าหม่อมมา  จอดอยู่หน้าท่าถึงเดี๋ยวนี้
 +
ฯ ๔ คำ ฯ
 +
 +
 +
<sub>ร่าย</sub>
 +
เมื่อนั้น  วันทองมัวหมองไม่ใสศรี
 +
แจ้งว่าผัวมาก็ยินดี  แย้มหน้าต่างม่านมู่ลี่แลดู
 +
เห็นเรือจอดอยู่หน้าตะพานใหญ่  มีความใคร่มิได้อดสู
 +
ยินดีปรีดาน้ำตาพรู  วางวู่วิ่งสลดกำสรดจร
 +
ฯ ๔ คำ ฯ เพลง
 +
 +
 +
ถึงเอยถึงท่า  ระอาหน้าร้อนรุ่มดั่งสุมขอน
 +
ย่างยาวก้าวลงเรือที่นอน  สะท้อนถอนซบพักตร์โศกาลัย
 +
ฯ ๒ คำ ฯ โอด
 +
 +
 +
<sub>ร่าย</sub>
 +
เมื่อนั้น  ขุนแผนเห็นพิมน้องหมองไหม้
 +
กำสรดโศกวิโยคยิ่งสิ่งใด  เป็นไฉนฉะนี้นะน้องรัก
 +
ผิวช้ำคล้ำกลั้วมัวมลทิน  ผันผินมาบอกพี่ให้ตระหนัก
 +
ผัวมาชอบแต่ว่าจะทายทัก  ซบพักตร์ร้องร่ำทำไมน้อง
 +
ฤาอาดูรพูนเทวษโรคาไข้  เจ็บช้ำน้ำใจหม่นหมอง
 +
พิมเอ๋ยไยฟูมหน้าน้ำตานอง  เข้าประคองปลอบเช็ดชลนา
 +
ฯ ๖ คำ ฯ
 +
 +
 +
<sub>ร่าย</sub>
 +
เมื่อนั้น  วันทองโศกแสนสหัสา
 +
กราบลงแทบเท้าภัสดา  มิใคร่จะเงยพักตราระทมใจ
 +
อึดอัดสะอื้นจะออกความ  คิดขามอิดเอื้อนไม่บอกได้
 +
ตั้งแต่หม่อนบำราศคลาศไป  รักษาตัวกลัวภัยเป็นพ้นคิด
 +
อกุศลตามผลาญประหารพลัน  ขุนช้างมันคิดคดทุจริต
 +
มารดาข้าถือว่าเป็นมิตร  เชื่อสนิทมิได้คิดสงกา
 +
เอากระดูกห่อผ้ามาให้  ว่าหม่อมม้วยบรรลัยสิ้นสังขาร์
 +
เสียทัพยับย่อยชัยปรา  ลาวฆ่าแทงตายวายชีวัน
 +
บอกมาแต่งเมืองกำแพงเพชร  คดีทูลสิ้นเสร็จเป็นคำมั่น
 +
มันทำร่ำร้องไห้รำพัน  ข้างบ้านสำคัญว่าความจริง
 +
ชวนกันร่ำระงมซมทั้งเรือน  กลาดเกลื่อนสิ้นเสือกเกลือกกลิ้ง
 +
น้องก็เขลาไม่ระแวงแคลงประวิง  ร้องให้นิ่งจนสลบซบซอน
 +
มิได้วายว่างเว้นเทวษ  กับสายทองนองเนตรสยดสยอน
 +
ราตรีนองน้ำสุชลนอน  ระบมค่อนอกช้ำระยำทรวง
 +
จึงพากันไปดูโพธิ์สามต้น  ก็เหลืองหล่นใบกลาดดาษร่วง
 +
ยิ่งทวีทุกข์เพิ่มเติมตวง  มาหลงกลเขาลวงนี้เนื้อกรรม
 +
ก็ตั้งใจแต่สร้างการกุศล  แผ่ผลไปให้หม่อมทุกเช้าค่ำ
 +
บุญใดที่มิได้เคยทำ  ทำแล้วตรวจน้ำอุทิศไป
 +
เสพอาหารตรวจน้ำทุกค่ำเช้า  จะนอนเล่าก็ไม่หลับใหล
 +
จนไผ่ผอมตรอมซูบระยำใจ  น้องล้มไข้ปาปิ้มจะวายปราณ
 +
ท่านมารดาหาแพทย์มารักษา  หมอใดมาว่าโรคนี้หนักท่าน
 +
เหลือมือจะเยียวยาแล้วอาการ  ได้แต่หมอกลางบ้านประทังมา
 +
ฯ ๒๒ คำ ฯ
 +
 +
 +
<sub>ร่าย</sub>
 +
จึงไปนิมนต์ท่านวัดป่าเลไลยก์  ดูเคราะห์ว่าฆาตใหญ่ไขว่นักหนา
 +
มิจากผัวตัวจะตายวายชีวา  เธอจึงเปลี่ยนชื่อข้าเรียกวันทอง
 +
ให้นามต้องชาตาจะซาเคราะห์  จะค่อยเลาะกว่าเก่าจากเศร้าหมอง
 +
อยู่มินานมีพระกาลประหารน้อง  อ้ายขุนช้างจองหองบังอาจใจ
 +
แต่งเถ้าแก่มาขอต่อมารดร  พูดจาหลอกหลอนตะคอกใหญ่
 +
ว่ากฎหมายผัวตายณรงค์ชัย  กรมวังท่านจะให้ตำรวจมา
 +
เก็บเอาภรรยาเป็นม่ายหลวง  ตามกระทรวงพระสุรัสซ้ายขวา
 +
แม่แก่ตกใจไม่ไตร่ตรา  เขาขอข้ายอมยกให้ขุนช้าง
 +
เร่งรัดมัดให้มาปลูกหอ  ไม่รั้งรอหารือน้อยหนึ่งบ้าง
 +
รื้อหอเก่าไปปลูกเสียวัดกลาง  ปลูกหอใหม่ไม่ระคางคร่อมลง
 +
บ่ายหน่อยขันหมากมาถึงบ้าน  ทั้งสมภารมากลุ้มประชุมสงฆ์
 +
อ้ายหัวล้านป๋อหลอออทะนง  กับเผ่าพงศ์เพื่อนบ่าวมาหลายลำ
 +
ทุนสินสอดผ้าไหว้มากหนักหนา  แม่ข้าโลภเผลอพูดเพ้อพร่ำ
 +
จะให้ข้าแต่งตัวไปซัดน้ำ  ฉุดปล้ำลากข้าไม่ปรานี
 +
น้องขืนขัดมิได้ไคลคลา  แม่ข้าต่อยตบน่าบัดสี
 +
อยู่มาอีกเจ็ดราตรี  จะส่งตัวให้อ้ายผีเข้าหอกัน
 +
น้องไม่ลงปลงใจแข็งขัด  แม่ผูกมัดเฆี่ยนตีไม่ผ่อนผัน
 +
ขอดค่อนด่าว่าไม่เว้นวัน  ไม่เสกสรรความจริงยิ่งเหลือทน
 +
หม่อมมิเชื่อเมียว่าแกล้งว่า  เลิกผ้าให้ดูแผลแน่ปี้ป่น
 +
ไม่สิ้นแหนงระแวงน้องต้องจำจน  ไม่เป็นคนสู่สู้เวราไป
 +
คิดคิดจะใคร่ตายเสียดีกว่า  จะดูหน้าต่อตาผู้ใดได้
 +
กอดเท้าหม่อมขุนเข้าร่ำไร  สะอื้นไห้จะสิ้นสมประดี
 +
ฯ ๒๒ คำ ฯ โอด
 +
 +
 +
<sub>โลม</sub>
 +
เมียเอยเมียรัก  อย่าร่ำนักผิวพักตร์จะหมองศรี
 +
เดือดอึดอัดฮึดฮัดเต็มที่  ดังอัคคีจุดจ่อรื้อรอคิด
 +
ประโลมปลอบเอาใจภรรยา  นี่หากว่าเจ้าเป็นคนสุจริต
 +
แม้นชั่วไม่รักผัวมัวมืดมิด  จะเชยชิดชอบชู้สำราญครัน
 +
หนึ่งว่าน้อยฤาแน่แม่สหาย  ไม่ทันตายฤามาแสร้งแซงสรร
 +
เมียกูรู้อยู่สิ้นทั้งสุพรรณ  เหลือที่กลั้นสุดอดจะลดรา
 +
ฯ ๖ คำ ฯ
 +
 +
 +
<sub>ร่าย</sub>
 +
อ้ายหัวล้านเล่นกันเถิดวันนี้  อีเถ้าแก่แม่พี่ที่ปรึกษา
 +
บรรดาคนสนิทคิดกันมา  ห้ำหั่นบั่นฆ่าให้ม้วยมุด
 +
เจ้านายไม่เลี้ยงก็สู้ตาย  ถึงแม่ยายก็ฟันเสียให้สิ้นสุด
 +
จับฟ้าฟื้นกวัดแกว่งแต่งตัวยุทธ์  เรียกบ่าวไพร่อุตลุดอึงคะนึง
 +
แต่ต้นโพธิ์ปลูกไว้เสี่ยงทาย  ตัดรากทำอุบายใครรู้ถึง
 +
ค้นอาวุธในท้องเรือดังตังตึง  บอกกันอึงนายให้ไปล้อมเรือน
 +
ฯ ๖ คำ ฯ
 +
 +
 +
<sub>ร่าย</sub>
 +
เมื่อนั้น  ลาวทองร้องห้ามความจะเปื้อน
 +
อย่ามุมุ่นหุนหันฟั่นเฟือน  ไม่เหมือนกลางป่าค่าไม้
 +
หม่อมขาฟังเมียก่อนพ่อเจ้า  ถ้อยความมันจะเน่าไปไหน
 +
เมืองมีขื่ออย่างถือชะล่าใจ  ฟังข้าวเดียวยังกระไรฤาหม่อมพลาย
 +
ใช่คอเขาเป็นทั่งสันหลังเหล็ก  ไม่ใช่เด็กเขาจะทำเอาแต่ด้าย
 +
จะกระไรบ้างกระมังข้างเรานาย  บุราณว่าหญิงร้ายชายทรชน
 +
ท่านแม่ยายมิปลงใจไฉนฤา  เขาจึงรื้อหอห้างเสียจนป่น
 +
หม่อมมีความชอบมาเหลือล้น  ทูลยุบลแล้วแต่จะโปรดปราน
 +
ฯ ๘ คำ ฯ
 +
 +
 +
<sub>ร่าย</sub>
 +
เมื่อนั้น  วันทองยินคำร่ำขาน
 +
เหลียวดูวู่โกรธพิโรธดาล  ดั่งประหารสับเสี่ยงเยี่ยงกัน
 +
นี่เมียหม่อมฤาใครที่ไหนมา  จึ่งลอยหน้าห้ามผัวจนตัวสั่น
 +
เท็จจริงสิ่งรู้สารพัน  ชะช่างกลั่นรูปคารมสมเชลย
 +
แน่ะนางลาวอย่าน้าววาจาคม  ข้ากับเจ้ามันไม่สมกันแม่เอ๋ย
 +
เซซัดหัวพลัดข้าไม่เคย  รู้ว่าเหวยว่าหลงเข้าดงรัก
 +
ก็ตามทีชอบอยู่ประสีประสา  ความเขาว่าการอะไรมาสลัก
 +
มาจ่อไต้ตำตอเข้าต้ำฮัก  ชอบฤาหม่อมไม่ทันทักนางเมียงาม
 +
ฯ ๘ คำ ฯ
 +
 +
 +
<sub>โลม</sub>
 +
เมื่อนั้น  ขุนแผนร้องฮาฟังพี่ห้าม
 +
อย่าโมโหโยก่อนจะเล่าความ  ไม่ไต่ถามเลยอะไรมาอึงคะนึง
 +
นางคนนี้ลูกเจ้าเมืองจอมทอง  ปึกแผ่นพวกพ้องก็เกือบขึง
 +
ทำคุณกับบิดาเขาพอพึง  เขาจึงยกลาวทองให้มาเป็นเมีย
 +
พี่พามาหวังจะให้คำนับเจ้า  อะไรเล่าพอจ่อจอดเรือจะเสีย
 +
ยังฟังความเมียข้างบ้านอยู่ปัวเปีย  ไม่ทันเล่าเรื่องเมียใหม่ได้มา
 +
เท่านั้นเถิดน้องพี่อย่าวีวุ่น  รกคนเป็นทุกดีกว่ารกหญ้า
 +
หนึ่งก่อนสองตามลำดับมา  ลาวทองอย่าช้าไว้วันทอง
 +
วันทองเล่าเจ้าหวงหึง  โกรธขึ้งขอเถิดเจ้าทั้งสอง
 +
จงสมัครสมานปรองดอง  มาตรึกตรองเรื่องความมันหยามเรา
 +
ฯ ๑๐ คำ ฯ
 +
 +
 +
<sub>โลม</sub>
 +
ร้องเอยร้องว่า  มันไม่น่าแล้วอย่าเลยเจ้า
 +
ชั่วดีช่างข้าเถิดทำเนา  นางเมียเบ่าแล้วฤาน้อยฤาแน
 +
จริงอยู่แต่พอจอดทั้งตอดขบ  ชวนกันเกลื่อนเลื่อนกลบลบแผล
 +
ย่อมว่าผัวเป็นประทัดซื่อสัตย์แท้  ทีนี้มันแปรเป็นธนูชะดูตรง
 +
ไม่พักพร้องว่าพวกพ้องมั่งคั่ง  ถึงเซซังไม่สูญประยูรหงส์
 +
ข้าดอกคะมันประดาษชาติเผ่าพงศ์  จึงได้หลงตามหม่อมสู้เสียตัว
 +
ฯ ๖ คำ ฯ
 +
 +
 +
<sub>โลม</sub>
 +
วันเอยวันทอง  ให้ปรองดองเอออะไรไม่ฟังผัว
 +
ก่อนไม่เคยเลยว่ารู้เกรงกลัว  ฤาแกล้งยั่วจะให้โกรธา
 +
เอ็นดูข้าหน่อยเถิดแม่คุณ  ถึงไม่คิดบาปบุญเห็นแก่หน้า
 +
เออยิ่งห้ามฤายิ่งหยามไม่ลดรา  อย่าจัดจ้าไปเลยนักจะหักค้าน
 +
ธรรมดากระเบื้องร้อนจะรานร้าว  มันจะฉาวอึงอายเขาชาวบ้าน
 +
ลุกยืนเผลไผล้ไม่เป็นการ  จะรำคาญสองซ้ำระยำมัว
 +
ฯ ๖ คำ ฯ
 +
 +
 +
<sub>ร่าย</sub>
 +
เมื่อนั้น  ลาวทองร้อนเร่านั่งเกาหัว
 +
นึกในใจกูจะให้มันสั่นรัว  สบตาผัวทำกลัวชำเลืองแล
 +
ผัวเมินปากขยิบกระซิบด่า  ไว้กิริยาว่าผัวรักขึ้นเคียงแค่
 +
แอบหลังผัวเล่นตัวระทวยแท้  ทำปากแบ้ยั่ววันทองค้อนควัก
 +
ฯ ๔ คำ ฯ
 +
 +
 +
<sub>ร่าย</sub>
 +
ดูเอยดูดู๋  ยิ่งกว่าใครไม่รู้เลยทำหนัก
 +
สมแล้วหม่อมพร้อมเพรียงจะเคียงพักตร์  มันค้อนควักอยู่ข้างหวังนั่งด่า
 +
รู้ฤาไม่แอบกระซิบพิไรบ่น  หม่อมเคยทนอย่าให้ล่วงมาถึงข้า
 +
ว่าให้เมียไหว้แต่วาจา  มันเล่นหน้าเล่นตัวรู้กลัวใคร
 +
ชกศีรษะแล้วจะให้มาลูบหลัง  พี่น้องเอยใครชั่งจะอดได้
 +
ไม่หย่อนหยุดกระซิบว่าฤาด่าใคร  เป็นอะไรก็เป็นไปเถิดวันทอง
 +
ถึงจะไหว้กูก็ไม่ปรารถนา  พามาคุมเหงถึงบ้านช่อง
 +
หม่อมขาหม่อมถึงจะไม่เลี้ยงน้อง  ฆ่าเสียเถิดอย่าให้ต้องกินระกำ
 +
ทีนี้อีลาวนุ่งซิ่นจะบินร่อน  หม่อมเตว็ดลงนอนให้เหยียบย่ำ
 +
นิ่งอยู่ไยมิเล่นเต้นรำ  มายืนก้มหน้าคว่ำอยู่ทำไม
 +
ฯ ๑๐ คำ ฯ
 +
 +
 +
<sub>ร่าย</sub>
 +
สุดเอยสุดกลั้น  ลาวทองเคี้ยวฟันหมั่นไส้
 +
มารยาบีบน้ำตาต่อไป  ข้าเป็นลาวชาวไพรดอกแม่คุณ
 +
ไม่ได้ว่าอะไรหน่อยหนึ่งเลย  อกเอ๋ยเธอเป็นใครจึงเฉียวฉุน
 +
พลอยว่าข้าน้อยคิดจะเอาบุญ  เห็นหม่อมหมุนมุโกรธวุ่นวาย
 +
จะไปรอนฟอนฟันเขาทั้งบ้าน  ใช่การจะพากันฉิบหาย
 +
อย่างอื่นไหนคุณใหญ่ท่านแม่ยาย  รอดตายเพราะใครห้ามไม่ลามปาม
 +
คิดอยู่จะฝากตัวคุณเมียหลวง  มิใช่จะจ้วงล่วงเกินไม่เข็ดขาม
 +
ไม่พอที่เลยจะก่อข้อความ  ไหว้ไม่เอาก็ตามเถิดเจ้าคะ
 +
ฉันมิได้ถือเนื้อถือตัว  สุดแต่จอมหม่อมผัวไม่เกะกะ
 +
ไม่รู้ว่าจะไขว้ไล่รานระ  เหยียบย่ำผัวเปะปะพันธุ์ไม่เคย
 +
แม้นรู้กระนั้นจะสรรหา  ไม้ขอนสักนองามาแม่เอ๋ย
 +
มากำนัลกันไขว้ให้เสบย  ไม่มีสิ่งใดเลยติดมือมา
 +
เมื่อหม่อมผัวจะพาข้ามานี้  ไม่บอกว่าเมียมีคุณเจ้าขา
 +
ชอบผิดจงคิดกรุณา  ไม่เมตตาสักคราวลาวชาวดง
 +
ฯ ๑๔ คำ ฯ
 +
 +
 +
<sub>ร่าย</sub>
 +
ถ้อยเอยถ้อยคำ  ซ่อนเงื่อนเกลื่อนทำให้ผัวหลง
 +
ต้องเสน่ห์ถูกสนัดแล้วมั่นคง  จึงงวยงงงมงายว่ากันดี
 +
ผัวข้าฝ้าขึ้นเห็นฤาไม่  นวลที่หน้านี้มิใช่ฤาหม่อมพี่
 +
แต่กลับทัพก็ยับมาเต็มที  น่าบัดสีมันให้กินสิ้นแล้วเคอะ
 +
ให้อีลาวชาวดอนมาร่อนร่า  เชิดชูหน้าราคีเปื้อนเปรอะ
 +
เอียงคว่ำไปแล้วเจ้าจอมเลอะ  เท่านั้นเถอะพอรู้เท่าทัน
 +
เหม่อีลาวปากยาวว่าเมื่อกี้  แสร้งเสกสีนองาสูงสรร
 +
เมื่อไรเล่าจึงจะเอามากำนัล  กู่จะกลั่นช้างงาไปร่ารับ
 +
โฉมนางวางมาแต่จอมทอง  กว้างขวางพวกพ้องให้ขึ้นขับ
 +
คดคมคารมเชลยทัพ  รู้แล้วเจ้าเขานับว่าใจบุญ
 +
ถ้าไม่ห้ามผัวไหนจะหยุดโย  จะเที่ยวพาโลแกว่งหอกออกวุ่น
 +
ไล่แยงแทงทิ่มจิ้มเป็นจุณ  นี่ไม่หมุนไปได้เงือดงด
 +
มารดาจึงได้รอดวอดวาย  เพราะนางลาวระงับพลายหายหด
 +
ชนะผัวผัวกลัวจึ่งละลด  เคยข่มกดกันมาถูกท่าทาง
 +
ดีจริงยิ่งหญิงในแผ่นภพ  จะเชิดชื่อลือจบว่าคู่สร้าง
 +
หม่อมผัวกอดไว้อย่าได้วาง  มันยอดนางใต้หล้าไม่มีใคร
 +
ฯ ๑๖ คำ ฯ
 +
 +
 +
<sub>ร่าย</sub>
 +
หม่อมเอยหม่อมขา  ได้ยินคุณภรรยาฤาหาไม่
 +
ยืนลืมตากะปริบพริบอยู่ไย  ทนไม่ได้แล้วคะไม่ละกัน
 +
เอออะไรกระนี้ท่านผู้หญิง  ขยันยิ่งสั่นรัวตัวสั่น
 +
เห็นอดอ่อนยิ่งรอนศีรษะชัน  ปากคันคอยอยู่กี่เวลา
 +
พอผัวถึงกระทั่งปึ่งตะบึงบอน  ข้าฉะอ้อนบรรยายขายน้ำหน้า
 +
ทำเคละคละปะเปอะเปรอะรา  ไว้คอยท่าท่านผัวไม่มีอาย
 +
ชอบแต่ล้างบ้านเรือนหายเปื้อนก่อน  จึงขอดค่อนคนอื่นนางตื่นม่าย
 +
ผัวไปทัพไม่ทันกลับรู้ข่าวตาย  ช่างเชื่อง่ายปักเลนโอนเอนรัว
 +
กลับว่าข้อนี้นี่กว้างขวาง  จริงคะเลี้ยงช้างไว้ท่าผัว
 +
ช้างคนช้างพลายมากหลายตัว  จึ่งรื้อเรือนทลายรั้วแคบไม่พอ
 +
ขอบใจพี่จะให้ไปรับข้า  สุดปัญญาที่จะขี่ไม่มีขอ
 +
อย่าให้ไปเลยเอาไว้กันตอ  เตาหม้อทอถอนไม่สิ้นปักดินลึก
 +
ต้องเสนียดถูกสนัดกลัดมัน  ดีฉันจึงทำเสน่ห์มากลางศึก
 +
ป่วยไข้ไผ่ผอมแต่ลำนึก  จริงอยู่คะยิ่งกว่าหมึกเขม่ามอม
 +
จะขยำน้ำแช่ก็ไม่หาย  ถึงส่ายน้ำดอกไม้ก็ไม่หอม
 +
สบู่ฟอกปอกเปื้อนเปรอะปอม  อย่าพักย้อมเลยยังมัวกลั้วมลทิน
 +
ชามแตกบัดกรีไม่สนิท  ต่อไม่ติดแล้วแผลไม่อยากสิ้น
 +
ซ้ำว่าข้าเอาสิ่งชั่วให้ผัวกิน  ยังแต่จะบินขี้คร้านตบมือ
 +
หมอทายว่าเคราะห์ร้ายไม่ยั้งหยุด  เสาร์อุจลัคน์จมไม่รู้ฤา
 +
ทั้งสุพรรณมันสนั่นออกระบือ  อย่าพักอื้อมันไม่กลบลบรอย
 +
ฯ ๒๐ คำ ฯ
 +
 +
 +
แค้นเอยแค้นนัก  อีผัวรักน้อยฤาไม่ราถอย
 +
เข้าแฝงหลังเมียงเคียงตะบอย  คารมราวกับทองย้อยเจียวขันคู
 +
ดีแล้วจะได้เห็นฝีมือกัน  เรียกสายทองอี่จันอี่ปอยหนู
 +
นิ่งไยลงมาหวามาช่วยกู  ตบให้รู้จักสำเหนียกมันฮึกดี
 +
ฯ ๔ คำ ฯ
 +
 +
 +
บัดนั้น  สายทองพี่เลี้ยงกับทาสี
 +
อยู่บนตะพานเตรียมคอยที  ก็โจนลงนาวีพร้อมกัน
 +
ฯ ๒ คำ ฯ
</tpoem>
</tpoem>
 +
==== ====
== เชิงอรรถ ==
== เชิงอรรถ ==
== ที่มา ==
== ที่มา ==

การปรับปรุง เมื่อ 10:43, 26 สิงหาคม 2553

เนื้อหา

ข้อมูลเบื้องต้น

แม่แบบ:เรียงลำดับ พระบวรราชนิพนธ์: กรมพระราชวังบวรมหาศักดิพลเสพ

บทประพันธ์

ตอน ๑ ตั้งแต่ขุนแผนกลับจากการทัพมาบ้านนางวันทอง นางวันทองกับนางลาวทองหึงกัน จนขุนแผนกลับบ้านเดิม

ช้า
เมื่อนั้นขุนแผนเชี่ยวชาญหาญกล้า
ตีเชียงทองได้แล้วกลับมาเฝ้าจอมอิศราปิ่มโมลี
ได้พระราชทานรางวัลครันเกษมสันต์ผ่องพักตร์เป็นศักดิ์ศรี
จะกลับไปสุพรรณบุรีลงนาวีใหญ่ไร่เพียบพราย
ฯ ๔ คำ ฯ โล้
จำปาทองเทศ
ขุนแผนคลอเคล้าลาวทองพี่เลี้ยงสองชม้อยเมียงม่าย
หม่อมขุนเย้าหยอกตามสบายลาวทองร้องไฮ้อายชาวเรือ
ขุนแผนว่าเมียใครที่ไหนมาเสน่หาเต็มทนจนล้นเหลือ
ต้องนอกผ้าดังว่าเขาถูกเนื้อร้องเผื่อเสียก่อนว่างอนจริง
หยอกแหย่แอ๋แหน้อยฤาน้อยเชิงชั้นเกือบจะเป็นท่านผู้หญิง
สะดุ้งพดสามคดระทวยทิ้งมันเพราพริ้งยิ่งชื่อฤาลาวตาย
ฯ ๖ คำ ฯ
ร่าย
เมื่อนั้นลาวทองขวยเขินสะเทินม่าย
เหตุว่าหม่อมขุนเป็นผู้ชายไม่มีอายทำได้ก็ทำเอา
ลาวไทยถ้าเป็นหญิงก็เหมือนกันอย่าเสกสรรรำพันเพ้อเลยพ่อเจ้า
เผอิญหม่อมเห็นว่าข้าพริ้งเพราบุญเราจะได้เป็นหม่อมแม่เรือน
ฯ ๔ คำ ฯ
ร่าย
เมื่อนั้นขุนแผนสรวลเสชวนกลบเกลื่อน
ไม่สะบิ้งสะบัดแชเชือนอย่าพักเตือนเลยจะเลี้ยงให้เต็มโต
พลพายพายระดมรีบรัดสามเล่มจัดร่ายราวกราวโห่
เมียผัวตัวขย้อนคลอนยอกโย้พลาดขยับร้องโอ๋ซวดเซทับ
ฯ ๔ คำ ฯ
ช้าปี่
สิ้นเอยสิ้นแสงจรูญแจรงเมฆเกลื้อนเลื่อนสลับ
รวิวรรณผายผันโพยมพยับไถงดับอับแสงรวิวร
บุหลันเลื่อนล่องฟ้าโพยมมาศโอภาสแจ่มจำรัสประภัสสร
แผ้วหล้าดาดาษศศิธรพิศเดือนเหมือนจะวอนให้อ่อนใจ
แส้งตรัจปรัดผิวลาวทองน้อยงามขม้อยนวลหน้าหน้าแข่งไข
สัพยอกหยอกเยียเคลียกันไปตามแนวในชลมารคไม่คลาศคลา
เพลาดึกลมพัดมาเย็นเฉื่อยหนาวเรื่อยน้ำฟ้าต้องหน้า
ชื่นชุ่มเยือกเย็นทั่วกายาสะพักผ้าไม่อุ่นเหมือนเบียดกัน
มืดราตรีผินข้างนี้เถิดนะเจ้ามาคลึงเคล้าเสียให้หายคลางคางสั่น
ทำเอนอิงพิงพาดพัวพันพูดล้อเล่นขันขันมากลางเรือ
ฯ ๑๐ คำ ฯ โอ้
แล้วถอนจิตคิดถวิลถึงพิมพี่โอ้ป่านนี้จะละห้อยคอยเหลือ
เพลานอนจะโอดอ่อนน้ำตาเจือเออน่าเบื่อเรือพายไม่ไหวเลย
เขม่นตาข้างขวาให้หวั่นหวาดเอ๊ะประหลาดผิดใจอะไรเหวย
เมียงามละไว้ให้ห่างเชยอกเอ๋ยนานหนักมักมีภัย
ฝากไว้กับแม่ยายแก่ชายเปื้อนทำอะไรไหลเลื่อนไม่เอาได้
อ้ายขุนช้างทุจริตอิจฉาใจมันคิดปลงอยู่มิได้วายวัน
คะนึงพลางทางเร่งนาวาคลาพอเรื่อฟ้าจวนแจ้งแสงฉัน
ภาณุมาศโอภาสรพีพรรณกับบุหลันเด่นดวงอรุโณทัย
ถึงสุพรรณพลันประทับกับหน้าบ้านยิ่งรำคาญร้อนรนหม่นไหม้
ยลบ้านพิศเรือนนี่เรือนใครหวั่นใจทวีทุเรศอารมณ์รัว
ฯ ๑๐ คำ ฯ
ร่าย
บัดนั้นสายทองพี่เลี้ยงตื่นขมุกขมัว
ลงมาท่าน้ำชำระตัวหมอกมัวเห็นเรือใครรอรา
ดูดูรู้ว่าเรือขุนแผนก็กลับแล่นคืนขึ้นบนเคหา
บอกวันทองพลันว่าหม่อมมาจอดอยู่หน้าท่าถึงเดี๋ยวนี้
ฯ ๔ คำ ฯ
ร่าย
เมื่อนั้นวันทองมัวหมองไม่ใสศรี
แจ้งว่าผัวมาก็ยินดีแย้มหน้าต่างม่านมู่ลี่แลดู
เห็นเรือจอดอยู่หน้าตะพานใหญ่มีความใคร่มิได้อดสู
ยินดีปรีดาน้ำตาพรูวางวู่วิ่งสลดกำสรดจร
ฯ ๔ คำ ฯ เพลง
ถึงเอยถึงท่าระอาหน้าร้อนรุ่มดั่งสุมขอน
ย่างยาวก้าวลงเรือที่นอนสะท้อนถอนซบพักตร์โศกาลัย
ฯ ๒ คำ ฯ โอด
ร่าย
เมื่อนั้นขุนแผนเห็นพิมน้องหมองไหม้
กำสรดโศกวิโยคยิ่งสิ่งใดเป็นไฉนฉะนี้นะน้องรัก
ผิวช้ำคล้ำกลั้วมัวมลทินผันผินมาบอกพี่ให้ตระหนัก
ผัวมาชอบแต่ว่าจะทายทักซบพักตร์ร้องร่ำทำไมน้อง
ฤาอาดูรพูนเทวษโรคาไข้เจ็บช้ำน้ำใจหม่นหมอง
พิมเอ๋ยไยฟูมหน้าน้ำตานองเข้าประคองปลอบเช็ดชลนา
ฯ ๖ คำ ฯ
ร่าย
เมื่อนั้นวันทองโศกแสนสหัสา
กราบลงแทบเท้าภัสดามิใคร่จะเงยพักตราระทมใจ
อึดอัดสะอื้นจะออกความคิดขามอิดเอื้อนไม่บอกได้
ตั้งแต่หม่อนบำราศคลาศไปรักษาตัวกลัวภัยเป็นพ้นคิด
อกุศลตามผลาญประหารพลันขุนช้างมันคิดคดทุจริต
มารดาข้าถือว่าเป็นมิตรเชื่อสนิทมิได้คิดสงกา
เอากระดูกห่อผ้ามาให้ว่าหม่อมม้วยบรรลัยสิ้นสังขาร์
เสียทัพยับย่อยชัยปราลาวฆ่าแทงตายวายชีวัน
บอกมาแต่งเมืองกำแพงเพชรคดีทูลสิ้นเสร็จเป็นคำมั่น
มันทำร่ำร้องไห้รำพันข้างบ้านสำคัญว่าความจริง
ชวนกันร่ำระงมซมทั้งเรือนกลาดเกลื่อนสิ้นเสือกเกลือกกลิ้ง
น้องก็เขลาไม่ระแวงแคลงประวิงร้องให้นิ่งจนสลบซบซอน
มิได้วายว่างเว้นเทวษกับสายทองนองเนตรสยดสยอน
ราตรีนองน้ำสุชลนอนระบมค่อนอกช้ำระยำทรวง
จึงพากันไปดูโพธิ์สามต้นก็เหลืองหล่นใบกลาดดาษร่วง
ยิ่งทวีทุกข์เพิ่มเติมตวงมาหลงกลเขาลวงนี้เนื้อกรรม
ก็ตั้งใจแต่สร้างการกุศลแผ่ผลไปให้หม่อมทุกเช้าค่ำ
บุญใดที่มิได้เคยทำทำแล้วตรวจน้ำอุทิศไป
เสพอาหารตรวจน้ำทุกค่ำเช้าจะนอนเล่าก็ไม่หลับใหล
จนไผ่ผอมตรอมซูบระยำใจน้องล้มไข้ปาปิ้มจะวายปราณ
ท่านมารดาหาแพทย์มารักษาหมอใดมาว่าโรคนี้หนักท่าน
เหลือมือจะเยียวยาแล้วอาการได้แต่หมอกลางบ้านประทังมา
ฯ ๒๒ คำ ฯ
ร่าย
จึงไปนิมนต์ท่านวัดป่าเลไลยก์ดูเคราะห์ว่าฆาตใหญ่ไขว่นักหนา
มิจากผัวตัวจะตายวายชีวาเธอจึงเปลี่ยนชื่อข้าเรียกวันทอง
ให้นามต้องชาตาจะซาเคราะห์จะค่อยเลาะกว่าเก่าจากเศร้าหมอง
อยู่มินานมีพระกาลประหารน้องอ้ายขุนช้างจองหองบังอาจใจ
แต่งเถ้าแก่มาขอต่อมารดรพูดจาหลอกหลอนตะคอกใหญ่
ว่ากฎหมายผัวตายณรงค์ชัยกรมวังท่านจะให้ตำรวจมา
เก็บเอาภรรยาเป็นม่ายหลวงตามกระทรวงพระสุรัสซ้ายขวา
แม่แก่ตกใจไม่ไตร่ตราเขาขอข้ายอมยกให้ขุนช้าง
เร่งรัดมัดให้มาปลูกหอไม่รั้งรอหารือน้อยหนึ่งบ้าง
รื้อหอเก่าไปปลูกเสียวัดกลางปลูกหอใหม่ไม่ระคางคร่อมลง
บ่ายหน่อยขันหมากมาถึงบ้านทั้งสมภารมากลุ้มประชุมสงฆ์
อ้ายหัวล้านป๋อหลอออทะนงกับเผ่าพงศ์เพื่อนบ่าวมาหลายลำ
ทุนสินสอดผ้าไหว้มากหนักหนาแม่ข้าโลภเผลอพูดเพ้อพร่ำ
จะให้ข้าแต่งตัวไปซัดน้ำฉุดปล้ำลากข้าไม่ปรานี
น้องขืนขัดมิได้ไคลคลาแม่ข้าต่อยตบน่าบัดสี
อยู่มาอีกเจ็ดราตรีจะส่งตัวให้อ้ายผีเข้าหอกัน
น้องไม่ลงปลงใจแข็งขัดแม่ผูกมัดเฆี่ยนตีไม่ผ่อนผัน
ขอดค่อนด่าว่าไม่เว้นวันไม่เสกสรรความจริงยิ่งเหลือทน
หม่อมมิเชื่อเมียว่าแกล้งว่าเลิกผ้าให้ดูแผลแน่ปี้ป่น
ไม่สิ้นแหนงระแวงน้องต้องจำจนไม่เป็นคนสู่สู้เวราไป
คิดคิดจะใคร่ตายเสียดีกว่าจะดูหน้าต่อตาผู้ใดได้
กอดเท้าหม่อมขุนเข้าร่ำไรสะอื้นไห้จะสิ้นสมประดี
ฯ ๒๒ คำ ฯ โอด
โลม
เมียเอยเมียรักอย่าร่ำนักผิวพักตร์จะหมองศรี
เดือดอึดอัดฮึดฮัดเต็มที่ดังอัคคีจุดจ่อรื้อรอคิด
ประโลมปลอบเอาใจภรรยานี่หากว่าเจ้าเป็นคนสุจริต
แม้นชั่วไม่รักผัวมัวมืดมิดจะเชยชิดชอบชู้สำราญครัน
หนึ่งว่าน้อยฤาแน่แม่สหายไม่ทันตายฤามาแสร้งแซงสรร
เมียกูรู้อยู่สิ้นทั้งสุพรรณเหลือที่กลั้นสุดอดจะลดรา
ฯ ๖ คำ ฯ
ร่าย
อ้ายหัวล้านเล่นกันเถิดวันนี้อีเถ้าแก่แม่พี่ที่ปรึกษา
บรรดาคนสนิทคิดกันมาห้ำหั่นบั่นฆ่าให้ม้วยมุด
เจ้านายไม่เลี้ยงก็สู้ตายถึงแม่ยายก็ฟันเสียให้สิ้นสุด
จับฟ้าฟื้นกวัดแกว่งแต่งตัวยุทธ์เรียกบ่าวไพร่อุตลุดอึงคะนึง
แต่ต้นโพธิ์ปลูกไว้เสี่ยงทายตัดรากทำอุบายใครรู้ถึง
ค้นอาวุธในท้องเรือดังตังตึงบอกกันอึงนายให้ไปล้อมเรือน
ฯ ๖ คำ ฯ
ร่าย
เมื่อนั้นลาวทองร้องห้ามความจะเปื้อน
อย่ามุมุ่นหุนหันฟั่นเฟือนไม่เหมือนกลางป่าค่าไม้
หม่อมขาฟังเมียก่อนพ่อเจ้าถ้อยความมันจะเน่าไปไหน
เมืองมีขื่ออย่างถือชะล่าใจฟังข้าวเดียวยังกระไรฤาหม่อมพลาย
ใช่คอเขาเป็นทั่งสันหลังเหล็กไม่ใช่เด็กเขาจะทำเอาแต่ด้าย
จะกระไรบ้างกระมังข้างเรานายบุราณว่าหญิงร้ายชายทรชน
ท่านแม่ยายมิปลงใจไฉนฤาเขาจึงรื้อหอห้างเสียจนป่น
หม่อมมีความชอบมาเหลือล้นทูลยุบลแล้วแต่จะโปรดปราน
ฯ ๘ คำ ฯ
ร่าย
เมื่อนั้นวันทองยินคำร่ำขาน
เหลียวดูวู่โกรธพิโรธดาลดั่งประหารสับเสี่ยงเยี่ยงกัน
นี่เมียหม่อมฤาใครที่ไหนมาจึ่งลอยหน้าห้ามผัวจนตัวสั่น
เท็จจริงสิ่งรู้สารพันชะช่างกลั่นรูปคารมสมเชลย
แน่ะนางลาวอย่าน้าววาจาคมข้ากับเจ้ามันไม่สมกันแม่เอ๋ย
เซซัดหัวพลัดข้าไม่เคยรู้ว่าเหวยว่าหลงเข้าดงรัก
ก็ตามทีชอบอยู่ประสีประสาความเขาว่าการอะไรมาสลัก
มาจ่อไต้ตำตอเข้าต้ำฮักชอบฤาหม่อมไม่ทันทักนางเมียงาม
ฯ ๘ คำ ฯ
โลม
เมื่อนั้นขุนแผนร้องฮาฟังพี่ห้าม
อย่าโมโหโยก่อนจะเล่าความไม่ไต่ถามเลยอะไรมาอึงคะนึง
นางคนนี้ลูกเจ้าเมืองจอมทองปึกแผ่นพวกพ้องก็เกือบขึง
ทำคุณกับบิดาเขาพอพึงเขาจึงยกลาวทองให้มาเป็นเมีย
พี่พามาหวังจะให้คำนับเจ้าอะไรเล่าพอจ่อจอดเรือจะเสีย
ยังฟังความเมียข้างบ้านอยู่ปัวเปียไม่ทันเล่าเรื่องเมียใหม่ได้มา
เท่านั้นเถิดน้องพี่อย่าวีวุ่นรกคนเป็นทุกดีกว่ารกหญ้า
หนึ่งก่อนสองตามลำดับมาลาวทองอย่าช้าไว้วันทอง
วันทองเล่าเจ้าหวงหึงโกรธขึ้งขอเถิดเจ้าทั้งสอง
จงสมัครสมานปรองดองมาตรึกตรองเรื่องความมันหยามเรา
ฯ ๑๐ คำ ฯ
โลม
ร้องเอยร้องว่ามันไม่น่าแล้วอย่าเลยเจ้า
ชั่วดีช่างข้าเถิดทำเนานางเมียเบ่าแล้วฤาน้อยฤาแน
จริงอยู่แต่พอจอดทั้งตอดขบชวนกันเกลื่อนเลื่อนกลบลบแผล
ย่อมว่าผัวเป็นประทัดซื่อสัตย์แท้ทีนี้มันแปรเป็นธนูชะดูตรง
ไม่พักพร้องว่าพวกพ้องมั่งคั่งถึงเซซังไม่สูญประยูรหงส์
ข้าดอกคะมันประดาษชาติเผ่าพงศ์จึงได้หลงตามหม่อมสู้เสียตัว
ฯ ๖ คำ ฯ
โลม
วันเอยวันทองให้ปรองดองเอออะไรไม่ฟังผัว
ก่อนไม่เคยเลยว่ารู้เกรงกลัวฤาแกล้งยั่วจะให้โกรธา
เอ็นดูข้าหน่อยเถิดแม่คุณถึงไม่คิดบาปบุญเห็นแก่หน้า
เออยิ่งห้ามฤายิ่งหยามไม่ลดราอย่าจัดจ้าไปเลยนักจะหักค้าน
ธรรมดากระเบื้องร้อนจะรานร้าวมันจะฉาวอึงอายเขาชาวบ้าน
ลุกยืนเผลไผล้ไม่เป็นการจะรำคาญสองซ้ำระยำมัว
ฯ ๖ คำ ฯ
ร่าย
เมื่อนั้นลาวทองร้อนเร่านั่งเกาหัว
นึกในใจกูจะให้มันสั่นรัวสบตาผัวทำกลัวชำเลืองแล
ผัวเมินปากขยิบกระซิบด่าไว้กิริยาว่าผัวรักขึ้นเคียงแค่
แอบหลังผัวเล่นตัวระทวยแท้ทำปากแบ้ยั่ววันทองค้อนควัก
ฯ ๔ คำ ฯ
ร่าย
ดูเอยดูดู๋ยิ่งกว่าใครไม่รู้เลยทำหนัก
สมแล้วหม่อมพร้อมเพรียงจะเคียงพักตร์มันค้อนควักอยู่ข้างหวังนั่งด่า
รู้ฤาไม่แอบกระซิบพิไรบ่นหม่อมเคยทนอย่าให้ล่วงมาถึงข้า
ว่าให้เมียไหว้แต่วาจามันเล่นหน้าเล่นตัวรู้กลัวใคร
ชกศีรษะแล้วจะให้มาลูบหลังพี่น้องเอยใครชั่งจะอดได้
ไม่หย่อนหยุดกระซิบว่าฤาด่าใครเป็นอะไรก็เป็นไปเถิดวันทอง
ถึงจะไหว้กูก็ไม่ปรารถนาพามาคุมเหงถึงบ้านช่อง
หม่อมขาหม่อมถึงจะไม่เลี้ยงน้องฆ่าเสียเถิดอย่าให้ต้องกินระกำ
ทีนี้อีลาวนุ่งซิ่นจะบินร่อนหม่อมเตว็ดลงนอนให้เหยียบย่ำ
นิ่งอยู่ไยมิเล่นเต้นรำมายืนก้มหน้าคว่ำอยู่ทำไม
ฯ ๑๐ คำ ฯ
ร่าย
สุดเอยสุดกลั้นลาวทองเคี้ยวฟันหมั่นไส้
มารยาบีบน้ำตาต่อไปข้าเป็นลาวชาวไพรดอกแม่คุณ
ไม่ได้ว่าอะไรหน่อยหนึ่งเลยอกเอ๋ยเธอเป็นใครจึงเฉียวฉุน
พลอยว่าข้าน้อยคิดจะเอาบุญเห็นหม่อมหมุนมุโกรธวุ่นวาย
จะไปรอนฟอนฟันเขาทั้งบ้านใช่การจะพากันฉิบหาย
อย่างอื่นไหนคุณใหญ่ท่านแม่ยายรอดตายเพราะใครห้ามไม่ลามปาม
คิดอยู่จะฝากตัวคุณเมียหลวงมิใช่จะจ้วงล่วงเกินไม่เข็ดขาม
ไม่พอที่เลยจะก่อข้อความไหว้ไม่เอาก็ตามเถิดเจ้าคะ
ฉันมิได้ถือเนื้อถือตัวสุดแต่จอมหม่อมผัวไม่เกะกะ
ไม่รู้ว่าจะไขว้ไล่รานระเหยียบย่ำผัวเปะปะพันธุ์ไม่เคย
แม้นรู้กระนั้นจะสรรหาไม้ขอนสักนองามาแม่เอ๋ย
มากำนัลกันไขว้ให้เสบยไม่มีสิ่งใดเลยติดมือมา
เมื่อหม่อมผัวจะพาข้ามานี้ไม่บอกว่าเมียมีคุณเจ้าขา
ชอบผิดจงคิดกรุณาไม่เมตตาสักคราวลาวชาวดง
ฯ ๑๔ คำ ฯ
ร่าย
ถ้อยเอยถ้อยคำซ่อนเงื่อนเกลื่อนทำให้ผัวหลง
ต้องเสน่ห์ถูกสนัดแล้วมั่นคงจึงงวยงงงมงายว่ากันดี
ผัวข้าฝ้าขึ้นเห็นฤาไม่นวลที่หน้านี้มิใช่ฤาหม่อมพี่
แต่กลับทัพก็ยับมาเต็มทีน่าบัดสีมันให้กินสิ้นแล้วเคอะ
ให้อีลาวชาวดอนมาร่อนร่าเชิดชูหน้าราคีเปื้อนเปรอะ
เอียงคว่ำไปแล้วเจ้าจอมเลอะเท่านั้นเถอะพอรู้เท่าทัน
เหม่อีลาวปากยาวว่าเมื่อกี้แสร้งเสกสีนองาสูงสรร
เมื่อไรเล่าจึงจะเอามากำนัลกู่จะกลั่นช้างงาไปร่ารับ
โฉมนางวางมาแต่จอมทองกว้างขวางพวกพ้องให้ขึ้นขับ
คดคมคารมเชลยทัพรู้แล้วเจ้าเขานับว่าใจบุญ
ถ้าไม่ห้ามผัวไหนจะหยุดโยจะเที่ยวพาโลแกว่งหอกออกวุ่น
ไล่แยงแทงทิ่มจิ้มเป็นจุณนี่ไม่หมุนไปได้เงือดงด
มารดาจึงได้รอดวอดวายเพราะนางลาวระงับพลายหายหด
ชนะผัวผัวกลัวจึ่งละลดเคยข่มกดกันมาถูกท่าทาง
ดีจริงยิ่งหญิงในแผ่นภพจะเชิดชื่อลือจบว่าคู่สร้าง
หม่อมผัวกอดไว้อย่าได้วางมันยอดนางใต้หล้าไม่มีใคร
ฯ ๑๖ คำ ฯ
ร่าย
หม่อมเอยหม่อมขาได้ยินคุณภรรยาฤาหาไม่
ยืนลืมตากะปริบพริบอยู่ไยทนไม่ได้แล้วคะไม่ละกัน
เอออะไรกระนี้ท่านผู้หญิงขยันยิ่งสั่นรัวตัวสั่น
เห็นอดอ่อนยิ่งรอนศีรษะชันปากคันคอยอยู่กี่เวลา
พอผัวถึงกระทั่งปึ่งตะบึงบอนข้าฉะอ้อนบรรยายขายน้ำหน้า
ทำเคละคละปะเปอะเปรอะราไว้คอยท่าท่านผัวไม่มีอาย
ชอบแต่ล้างบ้านเรือนหายเปื้อนก่อนจึงขอดค่อนคนอื่นนางตื่นม่าย
ผัวไปทัพไม่ทันกลับรู้ข่าวตายช่างเชื่อง่ายปักเลนโอนเอนรัว
กลับว่าข้อนี้นี่กว้างขวางจริงคะเลี้ยงช้างไว้ท่าผัว
ช้างคนช้างพลายมากหลายตัวจึ่งรื้อเรือนทลายรั้วแคบไม่พอ
ขอบใจพี่จะให้ไปรับข้าสุดปัญญาที่จะขี่ไม่มีขอ
อย่าให้ไปเลยเอาไว้กันตอเตาหม้อทอถอนไม่สิ้นปักดินลึก
ต้องเสนียดถูกสนัดกลัดมันดีฉันจึงทำเสน่ห์มากลางศึก
ป่วยไข้ไผ่ผอมแต่ลำนึกจริงอยู่คะยิ่งกว่าหมึกเขม่ามอม
จะขยำน้ำแช่ก็ไม่หายถึงส่ายน้ำดอกไม้ก็ไม่หอม
สบู่ฟอกปอกเปื้อนเปรอะปอมอย่าพักย้อมเลยยังมัวกลั้วมลทิน
ชามแตกบัดกรีไม่สนิทต่อไม่ติดแล้วแผลไม่อยากสิ้น
ซ้ำว่าข้าเอาสิ่งชั่วให้ผัวกินยังแต่จะบินขี้คร้านตบมือ
หมอทายว่าเคราะห์ร้ายไม่ยั้งหยุดเสาร์อุจลัคน์จมไม่รู้ฤา
ทั้งสุพรรณมันสนั่นออกระบืออย่าพักอื้อมันไม่กลบลบรอย
ฯ ๒๐ คำ ฯ
แค้นเอยแค้นนักอีผัวรักน้อยฤาไม่ราถอย
เข้าแฝงหลังเมียงเคียงตะบอยคารมราวกับทองย้อยเจียวขันคู
ดีแล้วจะได้เห็นฝีมือกันเรียกสายทองอี่จันอี่ปอยหนู
นิ่งไยลงมาหวามาช่วยกูตบให้รู้จักสำเหนียกมันฮึกดี
ฯ ๔ คำ ฯ
บัดนั้นสายทองพี่เลี้ยงกับทาสี
อยู่บนตะพานเตรียมคอยทีก็โจนลงนาวีพร้อมกัน
ฯ ๒ คำ ฯ
             

เชิงอรรถ

ที่มา

เครื่องมือส่วนตัว