อิเหนาคำฉันท์ ตอนเข้าห้องจินตะหรา

จาก ตู้หนังสือเรือนไทย

(ความแตกต่างระหว่างรุ่นปรับปรุง)
ข้ามไปที่: นำทาง, สืบค้น
CrazyHOrse (พูดคุย | เรื่องที่เขียน)
(หน้าที่ถูกสร้างด้วย '== ข้อมูลเบื้องต้น == {{เรียงลำดับ|อิหนเาคำฉันท์ ตอนข…')

รุ่นปัจจุบันของ 16:07, 4 สิงหาคม 2553

เนื้อหา

ข้อมูลเบื้องต้น

แม่แบบ:เรียงลำดับ พระบวรราชนิพนธ์: กรมพระราชวังบวรวิไชยชาญ

บทประพันธ์

๑๑
๏ ปางนั้นพระผู้พงศ์สุริยวงศ์กระยาหงัน
เนาในประเสบันนคเรศหมันหยา
๏ รำพึงคะนึงในหฤทัยจะถอนลา
ยังจินตะหราสารภิรมยสมสมร
๏ พออัสดงลงก็สระสรงสุคนธร
ขัตติยาวราภรณ์รตพัตรวรำไพ
๏ ทรงกาญจนเมขลาวชิราระเรืองไร
กรายกฤชครรไลจรยังนิเวศน์วัง
๏ เสด็จสู่พิมานมณฑิรยลอนุชยัง
ใบบานทวารบังทศนะลักษณลาวัณย์
๏ งามทรงสถิตแท่นวิมลแม้นสุรางค์สววรค์
เล่นด้วยกำนัลอันตบุริกยุพาพาล
๏ เงื่อนดาวประดับดวงศศิช่วง ณ คัคณานต์
ไตรโลกยเล็งลานทิพลักษณขวัญตา
๏ ผิวพักตร์พิมพ์พรรณสุวรรณอาภา
แสงเทียนชวาลารุจิรัตนชัชวาลย์
๏ บางเกศดำกลโฉมวิยโรมอฉาพาล
คู่ขนงและก่งปานวรคันธนูศิลป์
๏ บงอักษิคมขำดุจน้ำมณีนิล
นาสายุพาพินนิขขอก็กลกัน
๏ บงโอษฐอรเยื้อนวิยเตือนประโลมขวัญ
แก้วกาฬกลทันตะคละคลับคละเคลือบแสง
๏ บงปรางประภายลวิยผลปรางแปลง
แสลงกามะยวนแยงดำริรักษเพิ่มภิญ
๏ บงกรรณตระการกาญจน์กุสุมาลเจียรจินต์
สอเหมะกามลินศะวิลาสกลกรรฐ์
๏ บงถันยุคลเคียงลออเพียงประทุมถัน
ทรวงเทียมพระแท่นบรรจ์ถรณ์รัตนาไมย
๏ งามงวงคเชนทรกลกรระทวยไกว
รำภาสุราลัยวิยลักษณสมบูรณ์
๏ เล็งลักษณ์สุรางรัตน์กำเดาะดัดฤดีดูร
เคาะทวาระแจ้งมูล-รหัสบาหยัน
๏ แฝงไฟคระไลยังวรนุชลาวัณย์
บาหยันกำนัลอัญชวลิตหลีกลา ฯ
             
๑๔
๏ ปางองค์อนงคนุชนาฏยุพราชจินตะหรา
เหลือบเห็นพระเชษฐจรมาคฤหาสนะเนาใน
เทียมองค์ ณ แท่นกนกอาสน์อรหวาดประหว่าใจ
อายองค์บอาจวจนะใดอรอัญชลีกร
๏ เลื่อนองคแอบบวรบรรจ์ถรณ์พรรณประภัสสร
ก้มพักตร์ชำเลืองนยประงอนชรม้อยชม้ายเมิน
๏ ทัศนายุพินทภคินีสุดดีสะเทินเหิน
พริ้มพักตร์ประภาษพจเจริญรสรักษกล่าววอน
๏ อ้าแม่เสมอสมรพี่จิตรพี่ประสงค์สมร
ฤๅแม่ขนางจิตรประงอนและบเอื้อบอีนัง
๏ ความเรียมสวาดิอรอุสาห์จรมาลุวังหลัง
แขกมา ณ ห้องวนิตดังฤบทักบท้วงเรียม
๏ เชิญนุชร่วมบวรอาสน์และประภาษธรรมเนียม
ตรัสพลางก็ทรงนิสิทเทียมวรนุชทับเพลา
๏ เชยช้อนตระอรรศสุคนธวิมลกลิ่นเกลา
กุมกรตระกองยุพเยาว์อภิรุยหแท่นทอง
๏ จินตะหราสุดากรก็ปัดวรหัตถผันขนอง
ค้อนเคืองชำเลืองนยทำนองชรม่ายชเมียงมา
๏ ชักชายสไบวิบุลบังปรยุธรอังคา
งามงอนและงามกิริยอากปรทดระทวยที
๏ เชษฐาตระกองกรสัมผัสสดำรัสประโลมศรี
อ้าแม่วิมลมุขมีมนะเคียดระคางไฉน
๏ เรียมแสนสเนหยุพเรศดุจเนตรและดวงใจ
หวังรักษร่วมหทยในวรนุชไยขนาง
๏ หมายมอบประกอบกิติสมตสิริยศน้องนาง
เป็นปิ่นอนงค์คณะสุรางคภิรมย์เสมอสมร
๏ เงยพักตรเทอญนุชจะเล่ากิจเก่าและปางจร
สู้ยากประจากรมนครทรุเทศกันดาร
๏ ส่ำสัตว์คณาจตุรบาทก็ฉกาจกำแหงหาญ
ข้ามห้วยและเหวศิขรธารบมิคิดชิวาลัย
๏ มาได้ประสบวิมลพักตร์บมลักและเคืองไฉน
ทรวงเรียมก็เทียมผทมในทุลเผากำเดาดอง
๏ ตรัสพลางประคองพระอรแอบอุระแนบประโลมลอง
อย่าข่วนบควรวิรุธจองนขะนุชจักสลาย
๏ ถึงกฤชมหิทธิฤทธิเหน็บก็บเจ็บจะแทงกาย
เพื่อพี่พิกลจอตรกระวายรสรักษลนลาม
๏ จินตะหราชำเลืองนยนะค้อนสลัดกรสนองความ
น้อยจิตรปรลักษณ์นุศักดินามบมิผู้จะเกรงใจ
๏ เพียงชลท่วมมุขวิบากและจะปากบได้ใด
เข้ามา ณ ห้องสยนะในพละการบการุญ
๏ ไป่ได้จะเกรงพระบิตุราชวิยภาษเทียมทุน
ข้าข้อยนิต้อยประยุรบุญและจะเทียบฤเทียมถึง
๏ เชิญเสด็จนิวัตวรสถานบมิการจะอื้ออึง
ทราบบุเพเทพอุภยพึงจะพิโรธเที่ยงทัณฑ์
๏ อ้าแม่บควรพิรุธพี่กิจนี้ตุนาหงัน
โทไท้ประสาทประสิทธิขวัญนยเนตรสมสอง
๏ ใช่เรียมจะลอบประพฤติการพละหาญลำพองลอง
รอยบุญญสันนิธยปองบุรเพนิวาศา
๏ จงแม่และมีมธุรจิตตะสนิทปรียา
เรียมหวังสวาดิอรยิหวาอวสานวันวาย
๏ น่าสรวลสำนวนพิเราะหอ้างธ ริร่างประดิษฐดาย
สองท้าวฤเบาจิตรจะหมายอนุญาตยอมตาม
๏ ต่ำศักดิ์ก็เจียมสริรกายบมิหมายพยายาม
เกินอาตม์ก็ขลาดดำนิรความครหาประชาชน
๏ รักนักก็มักจะนิรร้างบุรอ้างบควรฉงน
เชื่อชายก็หลายกลระคนจะภิรมยกี่วัน
๏ หนึ่งบุษบาวรพธูธ ก็สู่ตุนาหงัน
สมวงศ์และทรงสฤษฎิสรรค์สุรสิทธิเยาว์มา
๏ รักน้องจะครองและฤจะลับกฤติศัพท์จะฦๅชา
สองเมืองจะเคืองบวรบาททะวัตกระษัตรี
๏ ผู้ยากก็ย่อมจะอปยศสุริยยศยังดี
เผลียงหลั่ง ณ กุฏศิขรีก็ปวัตน์สุธาธาร
๏ ใช่น้องจะแกล้งสฤษฎิกล่าวกลก้าวและเกี่ยงการ
จงมีมโนนุสรญาณ-คะเนคะนึงตรอง
๏ อ้าแม่วิมลมุขวิลาส-ฉลาดเฉลียวฉลอง
สวาดิแม่เสมอสมรปองสุจริตจริงใจ
๏ สู้ยากลำบากตำบลจรวนครทุราไคล
ไป่คิดชิพิตรจะประลัยสัตยาพยายาม
๏ แม้มาตรบได้วรอนงค์ยุพยงเฉลิมกาม
นางใดคในนครงามก็บได้จะไยดี
๏ แม้องค์พระบิตุรพิโรธบมิโปรดจะพรากศรี
ดาหาบห่อนจรลีและจัรับ ธ ปรับทัณฑ์
๏ ซึ่งเจ้าจะกล่าวประยุรต่ำจะขอคำประงอนอัน
บุษบาก็เป็นขนิษฐขวัญนยเนตรก็น้องยา
๏ สองเจ้าก็หน่อภคินิมาตุ-ระราชเรียงมา
รู้ทั่วประเทศทิศประชากรล่วงดำเนียรไฉน
๏ ตรัสสั่งประคองพระกรสอดอุระลอดสไบใบ
บังสัตบงกชชไมยถกลเกิงกาม
๏ อ้านี้และฤๅกรุณน้องเสนาะพร้องและลวนลาม
หยาบคายบวายประพฤติตามอิสรภาพเกียรติไกร
๏ ใครเล่าจะล่วงดำนิรนินท์ธิบดินทร์จะได้ใด
บุญน้อยก็แน่นรคในนุประเทศจะหยามหยัน
๏ ว่าต่ำประยูรและบมิเจียมชลอเลียมประโลมภรร
ดาท่านภิรมย์รสกระสันชนชาติจะหาศหาย
๏ กฤติศัพท์ฤลับปรปวาทประยุรญาติจะพลอยอาย
ชั่วชื่อจะฦๅตนุมลายชนมแล้วก็ย่อมยัง
อ้าแม่ไฉนดำริฉะนี้บพอที่ระวังฟัง
เรียมมานิรานครหวังวนิดาพยายาม
สองเวียงก็เดียงนุกิจสิ้นจะดำนิรก็ใช่ความ
จงแม่อำนวยนุกุลตามมธุรจิตรโดยเรียม
๏ ตรัสพลางตระกองกรตระโบมวิมลโฉมประลองเลียม
เชยปรางประคองปยุธรเทียมทิพสัตบงบน
๏ เริงรสมฤตยสัมผัสสะตระกัฐกระมลมนท์
อุ้มองค์วธูนิสิทบนวรเพลาคละเคล้าคลึง
๏ วางองค์ประทับผทมเทียมก็ละเลียมประโลมพึง
เริ่มรักษดำฤษณรึงรสกามตระการกาม
๏ เชยปรางวรางค์รสตระกลทิพยครธเทียมทาม
ช้อนถันะยั่วรสยำยามอภิรมยเริงรน
๏ กันลองลำเลียมวิบุลบุษปกมุทเคร่าฝน
กลีบกลัดกำหนัดพิรุณชลก็บใคร่ระบัดบาน
๏ เมขลาก็แบวชิรชูปรุศสูรขว้างขวาน
พรรษาวลาหกก็ดาลสิกโรชโลลง
๏ ท่วมถิ่นชนิรสระสโรชสิตะโปษปแบ่งบง
กชกลิ่นประทิ่นรสจรงรสคนธคนธาร
๏ สองสมภิรมย์รสสัมผัสสะกำหนัดกำหนดนาน
สองสุขเสมอสุขะสนานทิพยสระสโรชา ฯ
             
๒๘
๏ สองสมสมสวาดิ      พระนุชนุชนาฏ      เหิ่มหรรษ์หรรษา
ชื่นชมชมทิพย์      วิมลมณฑา      ยำยามยามผา      สุกสองสองสม
๏ ชื่นเชยปราง      สุคันธ์คันธางค์      รวยรื่นรื่นรมย์
ตระอรอรแอบ      เนียนแนบแนบนม      เคืองค้อนค้อนคม      ยั่วยวนยวนยี
๏ พระหลงนงเยาว์      ลืมสองก่อเกล้า      วิยดาภคินี
โฉมยงปลงสวาดิ      พระราชสามี      ลืมชนกชนนี      ลืมพี่เลี้ยงสอง
๏ เหิ่มรสรสรมย์      บรรเทิงบรรทม      บนแท่นแท่นทอง
โฉมยงทรงพัด      พระหัตถ์ประคอง      เลยโลมโฉมน้อง      แนบนิทรนิทรา ฯ
             
๑๖
๏ เรื่องราวท่าวทั่วปรางค์ปราพี่เลี้ยงคณา
นิกรท้าวนางใน
๏ ทรรษาหาเหตุเภทภัยความนี้ควันไฟ
อันพิษมาเผาเราผอง
๏ ธุมาจะปิดป่วยปองควรคมทูลสอง
กระษัตริย์จงทราบบาทมูล
๏ คิดพลันพากันยาตรยูรยังปรางค์ทองทูล
ระบิลยุบลสารเสนอ
๏ ราตรีพระเจ้าจรเปรอปราสาทอำเภอ
พระอรอังกูรกานดา
๏ แต่ปฐมยามไปยังมาการเกินกิจจา
ผู้ข้าจะแก้แปรปราม
๏ โทท้าวฟังสาวสนองความบมิท้วงทวนถาม
ประเมินประมาณการไกล
๏ ต่างแลเนตรกันเป็นนัยอำเออหฤทัย
ก็เข้าสิริไสยา
๏ ปางองค์วงศ์อสัญแดหวาสมสร้อยสุดา
จนจวนอุทัยแสงพรรณ
๏ ซั้นเสียงกุกกุฏแก้วขันโอบอรลาวัณย์
วิลาปประโลมโลมลา
๏ อ้าแม่แม้ดวงชีวาพระฮามจวนจา
มิกรจรัสรัศมี
๏ จักอยู่ฤๅดูความดีจักจรจากศรี
สวาดิคือขาดใจกลาง
๏ โอ้อกสุดอกอางขนางโอ้พระน้องนาง
จงต่อสติตามเติม
๏ จินตะหราน้อมศิรตังเหิมท่าวทูลจอมเจิม
นราธิเบศร์เชษฐา
๏ น้องหวังบมิให้ไคลคลาเนาในนรนา
ก็ยากจะปากปิดงำ
๏ การนี้ละเมิดมากยำโทท้าวทราบคำ
ผู้โจทย์ไปแจงแจ้งความ
๏ จักเคืองเบื้องบาทบ่งามภีตภัยไฟลาม
แลควรนิวัตตรัสตรอง
๏ เสาวนาเสานีย์นางสนองพระกรตระกอง
พระนุชโศกสั่งสาร
๏ เรียมจักจำพรากเยาวมาลย์อยู่แม่อย่าดาล
มโนครหนโหนหา
๏ วันนี้พระลบเพลาคอยเรียมจักมา
ประสบประสมสายสมร
๏ เสร็จสั่งวนิดาอาวรณ์แข็งขืนใจจร
ลีลาศด่วนด่วนคลา
๏ เสด็จยังประเสบันอากงสรงคงคา
แลคราดสุคนธกำจร
๏ กลบรอยนขะนางในกรเสด็จทรง....
ก็ออกยังอาสน์อาภา
๏ พร้อมหมู่กิดาหยันเสนาตรัสเล่นเจรจา
สำราณสำรวลสรวลสันต์
๏ ประสันตาเฉยหน้าจำนรรจ์ค่ำนี้อัศจรรย์
แลหลากกว่ากี้กลใด
๏ ปิ่นเกล้าผู้เจ้าหายไปที่ไสยาใคร
จะรู้ระวังยังมี
๏ แต่ปฐมยามเลยราตรีเสด็จมาสู่ศรี
ไสยาศน์เมื่อสูรย์แสงสาย
๏ ดูทีระทวยทอดกายเอนอาสน์อ่อนกาย
พะเพ้อพะพร่ำคร่ำครวญ
๏ เชิงไข้ใช่เชิงประชวรรอยรางควานกวน
แลเศร้าฉวีศรีสัน
๏ พลางชูเบี้ยบนกำนันขอพระเทวัญ
ผู้สิทธิช่วยเอาภาร
๏ ขอพระไปวันทุกวารคลอเคล้าคลึงนาน
บันโดยมโนหรรษา
๏ จักกินกุกกุฏเป็ดปานิศถวายเทวา
จงถ้วนทุกสิ่งสบสรรพ์
๏ พี่เลี้ยงเสนาคั่งคัลฟังคำคมขัน
ก็ค้าคะคึกคำสรวล
๏ นฤเบศร์ยินแยบแย้มยวนเออใช่การกวน
บ่เก้อมาก่อได้ดาย
๏ ธรรมกาปากคนร้ายมายคำคาบบ่คาย
ก็คับอุระภินทา
๏ ปิศาจสุรกายจักมาใช่การเจรจา
จะแค่นจะเคาะเยาะหยัน
๏ ชอบถองลองคนปากคันตรัสแล้วจรจรัล
เข้าที่สิริไสยา ฯ
             
๑๙
๏ ปางองค์อรรคนรินทร์รุภินทรภุดา
หมันหยาพอเพลาอุทัย
๏ โสรจสรงคนธวารทิพาภรณำไพ
ทรงกฤชครรไลลิลา
๏ ออกหมู่มุขคณาธรากนกอาสน์
อามันตยามาตย์จรัล
๏ ให้หามาตย์ตำมะหงงและจงจรชวัน
ทั้งสี่วิภาตพลันคระไล
๏ ตำมะหงงทราบดำริถ้อยชะรอยนุกิจใน
ชวนสี่วิภาตไคลตระบัด
๏ หมอบเผ้าหน้าพระทินั่งระวังยุบลอรรถ
คิดแก้กระแสตรัสประสงค์
๏ ท้าวหมันหยาทศนาวิภาตะตำมะหงง
มาใกล้พระองค์ทรงประภาษ
๏ อิเหนาเขาบมิยำและทำทรนุกอาจ
ลอบโลมอนะนาฏยุพา
๏ ผู้ใหญ่ใดก็บรู้ก็ดูดุจทยา
ยอมยกธิดาภาคิไนย
๏ นิ่งดูอยู่ก็มิงามและความก็อุปไมย
ธุมาฤค่าใครจะปิด
๏ แม้ทราบศรีปตหราทวาวรบพิตร
คงเราจะผิดคิดรำคาญ
๏ ตำมะหงงเสวกฟังพระอังคบริหาร
แจ้งทีธิบายการก็ทูล
๏ ว่าองค์ราชนดาทิพากรประยูร
หวังนาฏอังกูรพะงา
๏ สู้ยากจากนคเรศประเวศนุจรมา
รู้ทั่วประชาชาระบิล
๏ ถึงทราบสองสุริยวงศ์จะทรงนุสรจินต์
จักโทษพระภูมินทร์ชะไร
๏ ขอจงทรงกรุณานดาพำนักนิใน
บัวบาทบงสุ์ไทธิราช
๏ ทรงฟังเสวกสนองก็ต้องหทยนารถ
ทรงตรัสบริภาษราชธิบาย
๏ ซึ่งองค์ราชนดาทยาธิตยหมาย
จักอวยก็จักอายกะผิด
๏ การเป็นเห็นก็บงามจะปรามก็จะบมิด
ตามใจจะใครคิดบการ
๏ ตำมะหงงฟังพจนาดถ์ประภาษยุติสาร
ทูลลาพระภูบาลลิลาศ
๏ ถึงถวายวันทิตองค์พระพงศ์ขตยราช
ทูลโดยยุบลนารถทำนูล ฯ
             
๑๑
๏ ปางนั้นบรมพงษ์สุริยวงศ์สุเรสูร
ฟังตำมะหงงทูลธ ก็แสนเกษมศานต์
๏ อ่าองคสรงชลสุวคนธหม่ามาลย์
ทรงเครื่องอลังการกรคัณหกฤชจร
๏ สู่ปรางค์สุรางค์ราชคณะนาฏชลีสลอน
สถิตแท่นภิรมย์กรปรมาศพะงางาม
๏ ทรงเล่าสำเนาองค์ปิตุรงค์ดำรัสความ
เรียงเรื่องสุหร่ายตามตำมะหงงแถลงถวาย
๏ ส่วนศรีวิบุลย์พรรณวิยจันทร์จรูญฉาย
ร่วมรักพระเชษฐ์ชายอภิรมยใหลหลง
๏ ชายเนตรรับนัยน์หฤทัยยวนยง
แย้มยิ้มจำนรรจ์ทรงสดุดีเสงี่ยมงอน
๏ ท้าวเธอตระโบมโลมวรโฉมวิมลสมร
เชยปรางประโยธรทิพถันปทุมาน
๏ น้องนางบห่างบาทธิปราชสำราญ
หวนคิดคำนึงพาล-วเรศสุดาทวา
๏ แรมพักตำหรักในวนะลัยอนาถา
หวังใจจะรับมาธ ก็เล่าสำเนาปฐม
๏ อ้าแม่และเรียมปางนิรร้างบุรีรมย์
ดั้นดัดพนัสพนมทุรมารคจะด่วนดล
๏ ดลผลปะราปีปะอรียโรมรณ
เรียมล้างมลายชนม์บุษสิหนาปจามรณ์
๏ สองพี่ระตูมตระย่อยยศแสยงสยอน
ขอขึ้นบต่อกรก็นำบุตรธิดาถวาย
๏ เรียมเจตน์กมลมาดทวินาฏจะมอบกาย
เป็นน้อยพระนุชสายสมรเลี้ยงลำดับกัน
๏ เรียมยังมิได้ต้องยุพสองวิไลวรรณ
เกรงนุชจะเดียดฉันจะมิได้ชิสาสม
๏ จึงไว้อุถัยพงศ์สุริยวงศชมรม
พาเหียรนครธมนิรสถานก็นานมา
๏ บัดองค์อนงค์สดับสรศัพทบัญชา
พริ้มพักตรปรีดาอภิวันททูลพลาง
๏ ข้อยข้าบรังเกียจจิตรเดียดทวานาง
อย่างแหนงกมลหมางจิตรข้ามิตานวล
๏ โปรดรับสุดามานคราและจึงควร
เห็นแต่อดิศวร-จุธานรากร
๏ หนึ่งนางก็ไกลนาถบิตุราชมารดร
วิโยคนครจรบมิได้จะยลใคร
๏ บัดนาถสดับเสาวนิย์เยาว์สนองไข
ชื่นชอบหทัยไทธ ก็สั่งปะเสหรัน
๏ จงไปเผดียงมาตย์และวิภาตจัดกัน
รับโทพธูครรลยมานิเวศน์วัง
๏ บัดนาฏปะเสหรันอภิวันทมายัง
ประเสบันแถลงดังสุรราชโองการ
๏ ตำมะหงงสดับราช-พระสาสนลนลาน
จัดสรรพยวดยานพิริยพลโจษจล
๏ จากนัคราจรวนดรตระบัดดล
พลับพลาก็หยุดพลทิศที่ผลูคัลย์
๏ แต่ตำมะหงงคลาณ พระพลาสุวรรณบรร
ยายกิจกำนัลอันบริรักษทูลสาร
๏ ตำมะหงงดำเนินราช-พระสาสโนงการ
มาเชิญสุดาพาลจรยังบุรีรมย์
๏ สององค์อนงค์สดับสรศัพทชื่นชม
เข้าที่สนามฉมสุวคนธกำจร
๏ ผิวพักตร์ปรัดผัดวิยรัชนีกร
ขัตติยนาริกาภรณวิจิตรผจงทรง
๏ พร้อมสาวสนมนาฏก็ลิลาศมาลง
วอทองวิจิตรวงวรสูตรสุวรรณวัง
๏ เสนาพลากรบทจรหน้าหลัง
ย้ายยืดพยู่ห์ยังนคเรศรีบมา
๏ ถึงวังประเสบันอฒจันทร์ทวารา
ท้าวนางคณานาริกนาฏตำแหน่งใน
๏ เชิญสองสุรางคราชยุรยาตรอาศัย
สำราญหฤๅทัยณสถานประเสบัน ฯ
             
๑๕
๏ ปางหน่อชนินทรมเหศรเทวรังสรรค์
จินตะหรายุพาพิมลพรรณวรภาคยสุนทร
๏ เนาในนิเวศน์วรสถานสุขศานติสองสมร
เย้ายี้ซระซี้สรประงอนรสยั่วยำยามยวน
๏ เชษฐาตระกองกรสัมผัสก็ดำรัสกระเษมสรวล
วันนี้จะลาพระนุชนวลจรยังอุภัยพะงา
๏ ใช่แต่จะตั้งจิตรประสงค์วรองคกัญญา
คิดสองระตูบิตุรอาวรณสั่งก็สงสาร
๏ อยู่เทอญพระศรีสมรมาศนิรนาฏบแรมนาน
พอภาณุมาสมยกาลจะนิวัตมาสม
๏ นางฟังชำเลืองนยนะค้อนชลิกรประนมคม
ทูลเทียบทำเนียบนิตินิยมกลเกมประกอบงาม
๏ อ้าท้าวฤควรดำริดำรัสและประวัติระวังความ
ใช่น้องจะเกี่ยงวิกลกามจะประเดียดชไมสมร
๏ นางมาก็หลายทิวสวารนฤบาลก็ควรจร
ไป่ต้องจะกันกิจนิวรณ์จะไฉนฤใครปราม
๏ อ้าแม่และเรียมสัตยพร้องและฤน้องบเห็นตาม
กล่าวเกลี่ยเฉลี่ยนุสรความกระแหนะเหน็บมโนแนม
๏ ตรัสพลางก็เสสรสำรวลประเลาะลวนประโลมแกม
เชยเชื่อเฉลื่อภิรมย์แรมหฤหรรษหรรษา
๏ รอนรอนทิวัสะอัสดงสุริยงพระลบลา
โลกย์ล่วงชะช่วงรชนิดารกดาษทิฆัมพร
๏ สมเด็จอสัญสุริยวงศ์ก็สระสรงสุคนธร
ภูษิตวิจิตรรัตนภรณ์วชิราวรำไพ
๏ ทรงกฤชสุราฤทธิประสาทกรวาดวิไลไคล
เทียมสูรยจากวรวิไชยวิเชียรพิมานมา
๏ เข้าไปในประเสปะนะนิเวศน์ยุพเรศมาหยา
แลเหล่าบุริกบริจานิทรหลับก็ดับโคม
๏ สถิตเทียมผทมอนุชนาฏกรพาดละเลียมโลม
ไป่ศึกสกนธ์วิมลโฉมธ ก็แสร้งจะให้แคลง
๏ อาลิงคกฤษฎิสุดาวิยนุชากระซิบแถลง
มาเฝ้าพระพี่บมิแสดงกิจหลับฤตื่นไฉน
๏ มาหยา ธ แว่วสรจำนรรจ์วรกรรณสำคัญใจ
ว่าสังคมาระตะคระไลธ ก็ดัดประทมนาง
๏ หมายแม่นพระนุชปริมสังสริรังคถามพลาง
อ้าพ่อไสมยะรติปางมฌิมาไฉนมา
๏ ทรงสดับเฉลยอสจวาทนุชมาดมโนอา
รภหวังจะยลมุขประภานิทรด้วยพระพี่นาง
๏ ให้เชยพอวายนิวรโศก-วิโยคเนิ่นปาง
ตรัสพลาง ธ ทรงสัมผัสพลางกรโอบพระองค์ออม
๏ มาหยาเฉลียวจิตรก็ปัดวรหัตถอันถนอม
แหนงองค์พระพงศ์สุริยปลอมอนุชาและเปลี่ยนแปลง
๏ เคลื่อนองค์จะเปลื้องพระวรหัตถสะบัดก็สุดแรง
อันธการนิโรธะหุติแสงและจะแลบล่วงใด
๏ เรียกเหล่าคณานรนิกรนิทรนอนกระไรไฉน
โคมเทียนจะดับก็บมิใจแล้จะด้อมและดูดาย
๏ ปางปวงอนงค์นิทรสดับสรศัพทสึกกาย
คว้าเทียนวิจลจิตรกระวายจรจุดหุลามา
๏ ยลองค์นรินทรดิลกก็ตระหนกหทัยอา
ญาต่างประณตนิวตนานิรห้องสยารมย์
๏ มาหยาตระหม่ากมลเมี้ยนมุขระเมียรก็บังคม
อายอ่อนชรอ้อนอิริยสมสิริกัลยาณี
๏ บัญชาวรารสประโลมดุรโฉมเฉลิมศรี
เริ่มเร่งอนงคคณะนีกรจุดประทีปเทียน
๏ มาส่องก็ปองนุชจะยลวิมลพักตรพิศเพียน
แหนงใดแล่แม่บมิระเมียรมุขพี่ฉะนี้ไหน
๏ เชิญนุชนิสีทสหะพี่บพอที่จะอายไย
หมายมอบเสน่ห์สนิทในวรนุชสองสม
๏ โดยที่ลำดับยศสุดาสุขุมาวรากรม
จงแม่สโมสรนิยมมธุรจิตรจำนงปลง
๏ มาหยาสดับสรภิปรายอรอายระทวยองค์
น้อมเศียรภิวาทน์บวรบงกชบาทสนองสาร
๏ อ้าท้าว ธ ทรงนุเคราะหการุญข้าจะอุปการ
เป็นนาฏอนงคบริพารบมิควรจะบัญชา
๏ ข้าน้อยก็ไร้ประยุรยศชนบทจำรายมา
เทียบทาสพระบาทมุลิกากรเลี้ยงฤเคียงควร
๏ ใช่ที่ ธ มีจิตรประสงค์และพระองค์จะลามลวน
ไลมเล่นจะเป็นภิรมยวนหฤทัยก็ใช่ที
๏ ทราบเรื่องจะเคืองประทุฐทารุณพาธยายี
ชั่วชื่อจะฦๅ ณ ธรณีนรชาติจะเย้ยหยัน
๏ อ้าแม้ฤแสร้งสฤษฎิกล่าวกลกล่าวจะเกียจกัน
ไป่เห็นสิเน่ห์อนุชฉันนยเนตรซ้ายขวา
๏ หนึ่งจินตะหราวรยุพินก็ถวิลจะอุปการ์
ตัวเจ้าก็เผ่าขัตติยปรากฎิยศฤถ่อมองค์
๏ อ้าตรัสประภาษพจนไพเราะหจิตรพิศวง
ควรแหวกศิโรตมธำรงคุณเกศกระษัตรี
๏ ใช่ข้าพระบาทบริจาบมิฝ่าจะภักดี
แต่ยังบวายวิตกมีจิตรตกประหม่าใจ
๏ เชิญเสด็จดำเนินนิวตนาณ มหาประสาทชัย
ข้าบาทเกรงพระอรภัยจะพิโรธแหนหวง
๏ บุญมากบยากจิตรจะทำก็จะช้ำกำเดาดวง
พระคุณจะเป็นุเคราะหปวงกิจนี้ก็ใช่ที
๏ อ้าแม่และสารพะจะแกล้งกลแสร้งบปรานี
เรียมแสนสวาดิและฤบมีจิตรเอื้อจะอาลัย
๏ ใดเลยจะห้ามจิตรกำหนัดประดิพัทธเพียบใน
ทรวงรักษร้อนตระกลไฟระอุอกกำเดาเผา
๏ ตรัสปลอบประโลมพระอรองค์พระอนงคบนเพลา
พลางวางพระวรยุพเยาวผทม ณ แท่นทอง
๏ ตริบปรางสัมผัสประทุมมาศบุรสวาดิทำนองปอง
เอนแอบอุรากรตระกองวิยวัลย์สุวรรณพัน
๏ สองสมสโมสรมนัส-กำหนัดกมลมันท์
ร่วมรักษร่วมรสกระสันสุขะรมยสมหมาย
๏ ลำลองละเลิงรสตระกลทิพคนธอวลอาย
โอชาบลืมรสมลายสริรโลมะเสียวสัน
๏ สองสุขเสมอสุขะสนานทิพธารณท่าวัน
โนทยานตระการชนิรคันติณชาติรามรมย์
๏ วรราชยุพราสุขุมาทวิกรม
สุขะในพระผทมอภิมตยสำเริง
๏ นิทรแนบยุพมาลย์ปฏิภาณกลเชิง
กลเล่หะละเลิงจิตรโสมนสา
๏ กุสุมาลวิลาสภินิกาษผกา
วรวรรษวลาหกวัตนจำราย
๏ ภุชเคนทลำพองพละลองฤทธิคาย
พิษพ่นชลปรายก็ชระลุมชลสินธุ์
๏ ทวิราชวเรศสิทธิเจตนจินต์
กมเลศก็ภิญญภิรมยสมร
๏ กรโอบอรองค์พระอนงคประงอน
กลยั่วฤดิอรรสรักษยำยาม ฯ
             
๑๑
๏ ปางกรุงกุเรปันบรมธรรมเรืองราม
เสาวนาระบิลความวรราชบุตรา
๏ อยู่ในนิเวศน์เขตรนคเรศหมันหยา
จวบจวนวิวาห์อาณติการกำหนดงาน
๏ เคืองขัดพระหัททัยธก็ให้สฤษฏ์สาร
เรื่องราชโยงการสุรพจนให้หา
๏ ยังมาตย์ชวันครรลยอัญชลีลา
เดินโดยดุรงค์พาหนะคลาพลากร
๏ ล่วงรัฐหมันหยาสัปตวารสัญจร
เข้าในพระนครคมนาประเสบัน
๏ ขึ้นเฝ้าถวายสารบริหารยุบลจรร
โลงภพเชิญครรลยคืนนิเวศน์เวียง
๏ ปางองค์ปิโยรสสดับพจน์อมาตย์เผดียง
คั่งคับหทัยเพียงทวิภาคภินทนา
๏ ทรงรับสำเนาสารบมิอ่านก็บัญชา
สั่งมาตรอันมาจรคืนนครคัล
๏ จงทูลบรมบาทบิตุราชธราธรรม์
ว่าเราอภีวันท์วรบาททุเลาลา
๏ จักอยู่สถารมยนิยมเจตนา
สี่ห้าทิวากาละจะวัตนาการ
๏ ตรัสพลางก็ยวรยาตรนิรอาสโนฬาร
เข้าสู่นิวาสถานจินตะหราสุมาสมร
๏ มวญมาตยเนืองนามบุรตามเสด็จจร
แจ้งเหตุก็อาวารณ์บุตรภรรยาสถาน
๏ ต่างแถลงนุกิตย์กันธุระอันรำคาญนาน
มาตย์มาเผดียงการกิจแล้วก็เลยลา
๏ ขึ้นมาและพาพลจรดลวนามา
จวบเจ็ดทิวาราก็ลุกรุงกุเรปัน
๏ เข้าสู่นิเวศน์วังจรยังพระโรงคัล
สุหร่ายเรื่องรหัสอันวิปลาสบขาดทูล
๏ ศรีปัตหราสดับกิตติศัพทอังกูร
เคืองขัดหทัยดูรธุระด้วยวิวาห์การ
๏ ตรัสว่าอิเหนาเยาว์กำเลาะเลาอำเภอพาล
ผู้ใหญ่ก็สามานย์บมิคิดจะผิดใจ
๏ จักซ้ำจะหาเล่าก็จะเปล่าจะป่วยไป
ตรัสแล้วเสด็จในสิริสีหไสยา
๏ ปางองค์อิเหนานาถอภิชาติอสัญหยา
อัษฎงคเพลาศศิรัศมิรังสี
๏ คำนึงยุพินพาลสการะวาตี
หวังร่วมฤดีปรีดิภิรมย์เกษมสันต์
๏ ตรัสแถลงนุกิตย์ลาจินตะหราวิมลพรรณ
แล้วสรงสุชลคันธวิเลปรำพาย
๏ ทรงภูษิตาภรณ์บวรวรรณวางชาย
เหน็บกฤชกรีดกรายกรยูรยาตรา
๏ เพี้ยนพิมพ์พิมลพรรณสุริยันตอาภา
อากาศพิมานมาณ สถานประเสบัน
๏ ครั้นถึงเสด็จในสิริไสยนาพลัน
เวิกสาณินั่งบรรจ์ถรณ์เคียงอรงค์ทรง
๏ สการะวาตีทฤษฎีพระโฉมยง
น้อมเศียรลดลงนิรแท่นผทมทอง
๏ ทรงยุดพระกรเยาวประเล้าประโลมลอง
อ้าแม่และเรียมปองปดิพัทธมาเยือน
๏ ไยแม่ชรเมียงพักตร์บมิทักและเบี่ยงเบือน
ห่างเหินสะเทินเหมือนก็เพราะเพื่อบปรานี
๏ อ้าจอมนราราชธ ประภาษไมตรี
ข้าน้อยเชลยนีรประยูรจะยศใด
๏ อ้าแม่วิเชียรรัตน์ฤอุบัติปัถไหม
ควรเรือนอุไรไพรุจิรัศมิรังสี
๏ อ้าท้าวดำริไฉนหฤทัยเดียวดี
องค์อรรคเทพีจะวิรุทธหมางหมอง
๏ อ้าศรีสมรพี่กิจนี้ก็ไตรตรอง
อย่าแม่บควรปองภิตภัยไว้เรียม
๏ อ้าทรงดำรัสการุณข้านิจ้อยเจียม
ขอทูลพรับาทเทียมวิยทาสบาทมูล
๏ อ้าแม่และการใดกิจใช้ก็เนืองนูน
จงแม่และอนุกูลสหะพี่นิทรารมย์
๏ ตรัสพลางตระกรองค์พระอนงคเชยชม
ร่วมที่ผทมสมสุขเสวยรสาสวรรค์
๏ ตริบรสกำโบลบงกชจรงสุคันธ์จันทน์
ช้อนชูถนอมถันยุคลาประโยธร
๏ เริ่มรสยำยามยวมสุขสรวลเกษมสอน
ย้ายเยื้องเลงกลอนกลเลหหลากหลาย
๏ เกษกามพิโดรดวงรสร่วงจำรายอาย
สิกเรณุโปรยปรายสิตแก้วผกากาญจน์
๏ แมลงผึ้งคละคลึงเกสรเรณุมณฑาร
เต่งตูมสะพุ่มพาลบมิใคร่จะคลี่คลา
๏ เชยชิมบอิ่มโอชบุษโบษวโรชา
รมย์รสกรีธาสุขลืมละเลิงสมร ฯ
             
๑๕
๏ สุขภิรมยองค์อรร่วมยำยามยอน
กมลมันท์
๏ ทวิขติยหฤๅหรรษ์สนทนาสรร
เกษมสอง
๏ สุขดำฤษณลังลองเล่ห์ละบองกาม
ตระการกล
๏ สุขภิรมยโกมลแย้มผกาคนธ์
ระเหยหวน
๏ นิกรภมรครึมครวญเคล้าละอองนวล
สุมาลา
๏ วิรุฬหกปวัตนาวรรษธารา
ก็น่านนอง
๏ นิกรอุรุคเผ่นผยองผุดและดำฉลอง
ชลาสินธุ์
๏ สรนุกนิสุขเจตรจินต์แลตรโล่งอินทร์
พิมานกาญจน์
๏ วนิตนฤปสำราญนิทรในสถาน
นิทรารมณ์
๏ อุระปะทะอรเนียนนมเทียมผทมชม
ประทับพลาง
๏ สุขรมยนิฤๅจางในพระน้องนาง
สิเนหา
๏ อุภยขติยไสยาจน ณ เพลา
รพีพรรณ ฯ
             
๑๖
๏ ปางนั้นสุริยวงศ์พงศ์อสัญเสวยรมย์ด้วยอรร
คเรศสการะวาตี
๏ อรุโณทัยไขสีโสรจสรงวารี
สุคนธกลั้วกลิ่นขจร
๏ ลังการ์ภูษิตาภรณ์ทรงกฤชกรายกร
เสด็จยุบาทยาตรา
๏ ประทับอัฒจันทร์ให้หาสังคามาระตา
มาใกล้ดำรัสสั่งสาร
๏ วันนี้จงเอาภารพาสองเยาวมาลย์
ไปยังระเด่นจินตะหรา
๏ จักได้คุ้นเคยไปมาพำนักนิอุปกา
ระเผื่อจะเกื้อกังวล
๏ บรรหารเสร็จสารยุบลนิวัตยังมณ
ฑราขนิษฐนงพาล
๏ สังคารับราโชงการทูลสองเยาวมาลย์
บันโดยยุบลบัณฑูร
๏ ปางนั้นสองนาฏตระกูลฟังสารดาลภูล
มโนวิกลเกี่ยงกาย
๏ เพื่อมานมานะละอายทรงโศกาฟาย
ก็กล่าวลำพังคั่งเคือง
๏ โอ้อกตกยากจากเมืองบใครประเทือง
ก็ตั้งจะอ้างอัประมาณ
๏ แม้องค์บุษบายุพาพาลอันเป็นวงศ์วาร
อสัญประเสริฐสุริยวงศ์
๏ ควรเราอภิวาทบาทบงสุ์เป็นเกียรติยิ่งยง
บมิอ้างอดสู
๏ จินตะหราวรราชพธูประยูรระตู
แลเราก็พักตร์พอทัน
๏ ควรพระโลมเลี้ยงเพียงกันจักไหว้อภิวันท์
เป็นน้อยฉะนี้แหนงตาย
๏ เยาว์ใหญ่ไป่รู้เงื่อนสายจักไหว้วางอาย
ปรลักษณ์แก่เหล่าเผ่าพงศ์
๏ ตรัสพลางนางกำสรดทรงว่ายทรวงซบลง
สะอื้นพิไรรำพัน
๏ พี่เลี้ยงโลมลาเภขวัญอย่าแม่เดียดฉันท์
มโนมานถสงกา
๏ จินตะหรานี้ธิตวรามาตุฉายุศมา
ก็เทียมระเด่นมนตรี
๏ เนื่องในสุริย์วงศวรีแม่คิดผิดที
บ่ยำพระยศยังไฉน
๏ แต่พระบิตุเรศราไชยยังเกรงเกียรติไกร
บรรณาคำนับไมตรี
๏ เจ้าข้ามาจากธานีบมิโอนเอาดี
จะแข็งจะเคียดบมิขาม
๏ ผิวท้าวทราบราวเรื่องความเกิดโกลีลาม
แลใครจะเป็นปกปอง
๏ ควรแม่ถ่อมใจไตรตรองฝากองค์แก่สอง
ขัตติเยศเกื้อการุญ
๏ จะเป็นศรีสวัสดิในสุนทรเรืองประยุร-
ยศประเสริฐสากล
๏ อย่าแม่ทฤษฐิถือตนใต้ฟ้าจำทน
พิรุณละอองอวลอาย
๏ สองฟังพี่เลี้ยงบรรยายทูลเทียบธิบาย
ดำรงหฤทัยไตรตรอง
๏ ยินชอบขอบพี่เลี้ยงสนองสองพี่เตือนสอง
ก็ต้องระบอบชอบความ
๏ แม้ไป่คิดสองทรงนามใจน้องฤๅตาม
บ่คิดแก่ตัวสู้ตาย
๏ ตรัสพลางชวนพระน้องชายลีลาศผาดผาย
เข้าที่สนานสรงชล
๏ ขัดสีฉวีวรรณวิมลเมิลแม้นมณฑล
โสฬสจันทรกลา
๏ กันกวดขมวดมวยมุรธากรอบพักตร์ลังการ์
กรรเจียกแลจรบรรจง
๏ อุทุมพรภูษิตทรงรัดองค์อลง
กตแก้ววิเชียรเจียระไน
๏ ตาดทองทับแสดสไบสร้อยศออำไพ
สะอิ้งสังวาลอาภา
๏ ทองกรมังกรกลายพาหุรัดรัตนา
วชิรรัตน์ธำมรงค์
๏ วิลาสลักษณาภรณ์ทรงโอภาสเพียงองค์
อลัมพุสาลาวัณย์
๏ ออกจากห้องประเสบันทรงวอจรจรัล
อเนกเนืองบริพาร
๏ ลุยังนิเวศน์วังสถานมณเฑียรเยาวมาลย์
ก็หยุดอยู่แทบทวารา
๏ ให้นุชนำสารลีลาทูลแต่จินตะหรา
ยุพินทราชเทวี
๏ ปางนั้นแก้วกัลยาณีสั่งพี่ภักดี
ให้หาทั้งสองเยาวมาลย์
๏ พี่เลี้ยงคมคมนาการยังสองนงคราญ
ก็ทูลยุบลด้วยดี
๏ สมเด็จอดิศรเสาวนีย์ให้เชิญเทพี
ยังปรางค์สุรางคภิรมย์
๏ ปางสองเยาวยศอุดมสดับสารสม
มนัสเปรมปรีดา
๏ ลงจากวอทองลีลาเข้าในมหา
ปราสาทห้องทองใน
๏ ยลองค์อัคเรศวิไลเหนืออาสน์อำไพ
สรพรักสรพร้อมบริพาร
๏ สองนาฏแน่งน้อยค่อยคลานประนมก้มกราน
ประนตยน้อมดุษฎี ฯ
             
๑๔
๏ ปางจินตะหราวรยุพาสุขุมาลเทพี
ยลยอดธิดาชมยมีสุวภาพเสี่ยมสาร
๏ ดาลมีมโนกรุณนาฏก็ประภาษปฏิภาณ
ให้สองนิสีทนะกำราลและประทานสลาเสวย
๏ ตรัสว่าพระนุชนิรร้างบุรปางภิรมย์เคย
เจ้าจงนิราดุรเสบยจิตรเทอญ ณ สาวสวรรค์
๏ พี่จักผดุงวิยขนิษฐสุจริตร่วมครรภ์
ร่วมทุกขร่วมสุขบฉันทวิการะเกี่ยงกล
๏ สองราชยุพินทพนิดาสวนายุบลยล
ค่อยวายวิตกดุรกระมลอภิวันท์สนองสาร
๏ ข้าน้อยนิราศบิดรมาตุรอาทวาสถาน
ไร้ที่พำนักนิอุปการคณะญาติไป่มี
๏ มาอยู่ ณ เบื้องบวรบาทยุพราชเทพี
หวังบุญอดุลยวรีบริรักษปกปอง
๏ แม้มาตรประมาทนุกิจใดและอภัยนุสาสน์สนอง
ผิวผู้จะตู่ประทุฐจองวินิจฉัยใสสาง
๏ จินตะหราสุดาสรสดับมธุรศัพทสองนาง
แสนเสน่ห์สนิทบระคางจิตรโสมนัสา
๏ จัดภูษิตาภรณ์อนงค์ธำมรงคจินดา
อิกเครื่องประโภคพิพิธนานุประทานะแหล่หลาย
๏ เครื่องทรงอลงกตกุมารก็ประทานนุชาชาย
แล้วมีวโรรศภิปรายวจนะชวนอุภัยพะงา
๏ ประเสบันจะสัญจรนิวัตทุรรัถยาคลา
อยู่วังกะพี่ผิวจะภาร์ธุระใดก็ใกล้กัน
๏ สองสดับพระเสาวนิย์ประภาษอภิวาทจำนรรจ์
การใดและโปรดนุกุลอัญบมิได้จะท้วงทาน
๏ จินตะหราสุดาสมรฟังธ ก็สั่งพนักงาน
ให้จัดคฤหาสนะสถานพระปรัศว์ซ้ายขวา
๏ ให้สองผอูนอรขนิษฐสถิตภิรมยา
สั่งสรรพพรรณวถุปการะประทานชไมสมร
๏ สองราชธิดาก็ชลิลาจินตะหราพะงางอน
พี่เลี้ยงก็นำพระอรจรณ พิมลพิมานสถาน
๏ ทรงสถิตสถาพรภิรมยอุดมศฤงคาร
เสวยสุขทุกรติทิวารนิรุปทวันตราย ฯ
             
๒๘
๏ ปางจอมธานินทร์      ดาหานฤบดินทร์      พระเดชพรรลาย
ตั้งแต่บรมเชษฐ      มเหศวรราย      กำหนดนัดหมาย      วิวาหมงคล
๏ จะเสกธิดา      กับองค์พระภา      คิไนยนฤมล
สืบพงษ์เทพไท      บ่ให้ใครปน      ตกแต่งมณฑล      พิไชยนครา
๏ สนุกทุกหน      ยลมิ่งเมืองบน      สุทัศน์กามา
ทวยราษฎรเมิล      เพลิดเพลินเจริญตา      คอยท้าวขนิษฐา      บ่หันครรไล
๏ หลากจิตรผิดนัด      ธานีวิบัติ      เคืองเข็ญเป็นไฉน
ตริพลางจรลี      เล่ห์สีหคลาไคล      ออกท้องโรงชัย      ประทับแท่นสุวรรณ
๏ มวลมาตย์กลาดกราบ      โดยงามสามคาบ      ตำแหน่งแน่นนันต์
จึงโองการสั่ง      ดะหมังเร่งครร      ไลยังกุเรปัน      บุริรมยา
๏ สืบเรื่องราชการ      บ้านเมืองสำราญ      ฤๅทุกขพาธา
แล้วทูลบทเรศ      ธิเบศร์เชษฐา      การภิเษกา      เตรียมเสร็จสรรพการ
๏ ตามแต่พระจุ      ธาไตรภพอุ      ดมเดชาชาญ
จะกำหนดนัด      สวัสดิวันงาน      ภิเษกสองพาล      ภิรมย์สมพงศ์
๏ มาตยาดะหมัง      คำนับรับสั่ง      รีบมาโดยจง
ขึ้นขี่กัณฐัศว์      สมรรถตัวยง      พร้อมไพร่ไคลตรง      ไปกุเรปัน
๏ ล่วงทางวางถึง      นครบ่หึง      ลงจากหัยพลัน
แจ้งกิจมหา      เสนาโดยบัญ      ชาแล้วชวนกัน      จรสู่โรงกาญจน์
๏ ถึงถวายบังคม      องค์พระบรม      ปิ่นภุดาธาร
ดะหมังดาหา      น้อมศิราทูลสาร      โดยราโชงการ      เสร็จสิ้นบ่บัง
๏ องค์ศรีปัตหรา      ทรงเสาวนา      อำมาตย์ดะหมัง
ท้าวนิ่งคำนึง      อ้ำอึ้งหทยัง      แล้วเอื้อนวจนัง      กลบเกลื่อนเงื่อนงำ
๏ อนะอิเหนา      เดิมลาเราเทา      เถื่อนเที่ยวไพรจำ
จักตามตัวมา      พาราจึงจะกำ      หนดแน่นัดทำ      การสยุมพร
๏ แล้วทรงเลขา      ส่งให้ยาสา      สั่งซ้ำสุนทร
รีบเทาพารา      หมันหยานคร      นำศุภอักษร      สื่อโอรสา
๏ ถึงวันใดให้      โอรสครรไล      อย่าคลาศเพลา
ไตรวารบ่หึง      ให้ถึงพารา      ผิวจักผัดผา      อย่าฟังจำนรรจ์
๏ ยาสารับสั่ง คมลาผาดผัง      เผ้นขึ้นหลังกัณ
ฐัศว์ควบสะพัด      ดั้นดัดอรัญ      บรรลุเขตรขัณฑ์      หมันหยาธานี
๏ ไปประเสบัน      ถึงบังคมคัล      ระเด่นมนตรี
ทูลว่าพระชนก      ดิลกโลกี      ให้ข้าธุลี      มาเฝ้าบทมาลย์
๏ เพื่อองค์บิตุจฉา      ใช้ตะหมังมา      นัดวิวาห์การ
ขอเชิญภูวนัตย์      นิวัตเวียงสถาน      อย่าเนิ่นนานวาร พลางถวายสารา ฯ
             
๒๑
๏ ปางองค์เทวัญอสัญหยาสวนะนุกิตยา
สาอมัจจาก็ทรงถวิล
๏ โฉมนุชบุษบายุพาพินกิจนิกรระบิล
ฤๅจะปานจินตะหราเรียม
๏ หวังรักใช่เล่นประโลมเลียมจะสละอนุชเกรียม
หมายประดาษเทียมฤชอบการ
๏ ตรึกพลางเลขลักษณเรื่องสารสุรวจนะจำราน
พันธุวงศ์วารบหย่อนยำ
๏ ยื่นยาสาพลางก็กล่าวคำอมตนิวตจำ
สาระเรานำสนองความ
๏ ว่าเราคมใต้พระบทามพุชบิตุคุณคามภิ์ร
ซึ่งบคืนตามพระบัญชา
๏ เพื่อผิดภิตราชอาชญาประพฤติจิตรมิฉา
สุดจะอุปมาตระหม่าทัณฑ์
๏ หนึ่งคิดกิตย์นี้ถคึงครันนิกรนรจำนรรจ์
แน่ตระหนักกรรณพระบิตุจฉา
๏ ไหนท้าวจักอวยธิดาพะงาผิวจะนิวตนา
เราคะเนมาก็เป็นดาย
๏ ยาสาจงนำนุสนธิ์ถวายบรมบิตุรฤๅสาย
ดุจบรรยายยุบลเรา
๏ หนึ่งบุษบานุชลำเพาผิวขัตติยราเชา
ต้องประสงค์เยาว์ตุนาหงัน
๏ ควรให้ราชาภิเษกสันตตินิยมถวัลย์
ราชผู้พันธุมิตรมา
๏ ยาสาฟังสารบัญชาก็ประนตยอำลา
รีบนิวัตนากุเรปัน
๏ ถึงถวายสารในพระโรงคัลระบิลยุบลอนันต์
ทูลรำพันสรรพ์บแบ่งบัง
๏ ปางนั้นศรีปัตะหราฟังยุบลกิจพระอัง
กูรดูรดังหุลาเผา
๏ ตรัสด้วยอัคเรศลำเพาอนะอนุชอิเหนา
ฤๅบเกรงเราอหังการ์
๏ ลุ่มหลงจงรักษจินตะหราอนุประยุรทยา
พันธุเทวาบเจตน์จง
๏ ตัดใยใจเองทระนงหลงบมิยำสุริยวงศ์
ทราบพระน้องคงจะน้อยใจ
๏ จักแจ้งความจริงไฉนใดกิจขจรนรใน
แจ้งคดีไปฤดูงาม
๏ สงสารบุษบาเฉลิมกามนิรสยมพรความ
ชั่วจัเชิดนามปยศวงศ์
๏ จักนัดผัดการวิวาห์มงคลกิจสฤษฎิจง
ไว้พอได้องค์อิเหนามา
๏ ตรึกเสร็จโองการะบัญชาพลชฎจรคลา
หาดะหมังมาณ ข้างใน
๏ บรรหารสารสุทธิปราศรัยอมตนิวตไป
ทูลคดีไขพระน้องเรา
๏ รำคาญปานอัคนีเผาอุระเพราะอนอิเหนา
เดิมและลาเทาพนาวา
๏ หนีไปนัคเรศหมันหยาอภิรมยปิยา
จินตะหราสาพิลาสหลง
๏ เหตุเพื่อผู้ใหญ่ยุยอนยงอนุกุลจิตรจง
หนุ่มก็งวยงงกระมลมัว
๏ ดูทีเห็นโทษพันพัวจะนิวตนก็กลัว
จึงชรเหลียกตัวบคืนจร
๏ ตรัสแล้วทรงพระศุภอักษรมธุรรสบวร
เลื่อนสยมพรก็พึงฟัง
๏ ยื่นสารสั่งมาตยดาหมังผิวภนะนิวตวัง
จงอธิบายยังรหัสการ ฯ
             
๑๔
๏ ดำเนินดำนานบุพนิเทศปริเฉทสุดสาร
อิดอ่อนและหย่อนวิริยมานฤสฤษฎิ์สัมฤทธิความ
๏ สมมุติยุติวจนังและอุดังพยายาม
รังเริ่มเผดิมนิพนธทรามสติโยนิโสมันท์
๏ บาทใดผิเพี้ยนกลบชินธิรยินแสยงหยัน
ช่วยแต้มนุกูลจุณจันทน์กระแจะเจิมเฉลิมกลอน
๏ ไว้เป็นพระเกียรติยศวรินทร์ธิปปิ่นประชากร
เพียงเพชรอากรนครและอำรุงอำเรอรมย์
๏ เท่าอาวสาสุริย์วิโยคมละโลกประลัยลม
ด้วยเพียรนิพนธ์พจนิยมศุภพากยอรรถา
๏ ด้วยเดชะสัตยกตัญญู์กตะเวทิธรรมา
ต่อจอมดิลกทวราและพระปิ่นไผทไกร
๏ จงนีรทุกขนิรโศกนฤโรคนิราภัย
นิราศอุปัทวกระไษยอมิตรวินาศา
๏ ยืนชนมายุศมวัฒน์พลสวัสดิสุขา
เจริญเดชชโยยศตะปาและจำเนียรนานกาล ฯ
             
๏ สัมฤทธิมธุรสร้อยเรียงสาร
เผด็จอิเหนาเบาราณเรื่องร้อง
เป็นฉันทคณะขนานนามอัษ ฎางค์เอย
เป็นที่อำเรอพ้องเผ่าผู้เมธา ฯ
             

เชิงอรรถ

ที่มา

พระบวรราชนิพนธ์ เล่ม ๒ สำนักวรรณกรรมและประวัติศาสตร์่่่่่ กรมศิลปากร ๒๕๔๘

เครื่องมือส่วนตัว