เพลงยาวหม่à¸à¸¡à¸ ิมเสน
จาก ตู้หนังสือเรือนไทย
(ความแตกต่างระหว่างรุ่นปรับปรุง)
(→ข้อมูลเบื้องต้น) |
ล |
||
แถว 133: | แถว 133: | ||
ถ้ามาด้วยจะได้ช่วยชมไม้ราย จะถามทายหิ่งห้อยด้วยยินดี | ถ้ามาด้วยจะได้ช่วยชมไม้ราย จะถามทายหิ่งห้อยด้วยยินดี | ||
เพลานาฬิกาห้าทุ่มเศษ ถึงบุเรศสาครบุรีศรี | เพลานาฬิกาห้าทุ่มเศษ ถึงบุเรศสาครบุรีศรี | ||
- | + | ประทับแรมอยู่ในราษราตรี จนพันสีส่องฟ้าทิวาวาร | |
เลี้ยงกันแล้วก็ล่องตามชลมารด เรือราษฎรชักอยู่ฉ่าฉาน | เลี้ยงกันแล้วก็ล่องตามชลมารด เรือราษฎรชักอยู่ฉ่าฉาน | ||
เขาเรียกเรือโห่ร้องก้องกังวาน เสียงประสานขานขับด้วยคำเคย | เขาเรียกเรือโห่ร้องก้องกังวาน เสียงประสานขานขับด้วยคำเคย |
รุ่นปัจจุบันของ 15:36, 24 กรกฎาคม 2553
เนื้อหา |
ข้อมูลเบื้องต้น
แม่แบบ:เรียงลำดับ ผู้แต่ง: หม่อมภิมเสน
บทประพันธ์
๏ อนุชามาทางทุรัศสถาน | |||
เหลือทุกข์ที่จะทนทรมาน | ขอน้อมสารสุจริตประสิทธิ์มา | ||
ยังสุขานิราโรคหรือไฉน | ค่อยห่างภัยไกลเทวษหรือเชษฐา | ||
ทั้งพี่ผู้คู่คิดอนุชา | ยังผาสุกเกษมสานต์หรือประการใด | ||
อันละครและกลอนเล่นนะพี่เอ๋ย | พี่เคยร้องนั้นยังร้องอยู่หรือไฉน | ||
ฝ่ายน้องหมองสมรด้วยจรไกล | รัญจวนใจมาในนทีธาร | ||
ถวิลวันพบพจนาพี่ | ที่วัดศรีสรรเพชญ์ได้สั่งสาร | ||
สารสัญญากันว่าพลันการ | พอจวนวารวรฤกษ์จะจำจร | ||
แสนทุกข์ที่มิได้ไปรับพี่ | แสนทวีโศกสุดสุสนธ์สมร | ||
น้องก็ได้ใช้เขาไปว่าวอน | แจ้งกันจรมานั้นไม่ทันที | ||
ครั้นเชษฐามาอยู่ที่บ้านดิน | ผินพักตร์แลน้องยิ่งหมองศรี | ||
น้องจะขอเห็นหน้าว่าปรานี | ไฉนพี่ไม่มาตามสัญญาไย | ||
หรือคนใช้นั้นมิได้แจ้งแถลง | หรือมาแล้วพี่แหนงอยู่หรือไฉน | ||
ยังคลางแคลงอยู่มิแจ้งประจักษ์ใจ | อันอาลัยน้องเหลือที่จะดำรง | ||
จนภูษาผ้าสะพักก็เปลี่ยนผลัด | จะเจียนจัดสิ่งไรให้ใหลหลง | ||
ถึงเวลาที่จะยาตราตรง | ดำรงใจมาในความตรอม | ||
๏ เดินทางย่างจะถอยย้อนรอยหยุด | สุดใจด้วยใจจะไกลถนอม | ||
ถึงประตูไชยร้อนอารมณ์ตรอม | ออมเทวษประเวศลงนาวา | ||
ตระหนักจิตตามนามเรือรบ | แลไหนไม่พบพักตร์เชษฐา | ||
จึงให้ล่องแลตามท้องชลามา | เห็นเรือราพายมาหลายลำ | ||
แลไปหมายว่านาเวศพี่ | ครั้นใกล้เข้าใช่ที่อุปถัมภ์ | ||
เห็นผิดหน้าใช่หน้าที่เคยจำ | แสนช้ำทรวงร้อนอุระรน | ||
น้องชะแง้แลสุดสองฟากฝั่ง | ตั้งตาหาพี่ทุกแห่งหน | ||
หาไหนใช่โฉมใช่สกนธ์ | จวบจนบ้านดินปิ้มสิ้นใจ | ||
แลหมายสุดสายกระแสเนตร | หากเจตนาน้องนี้หมองไหม้ | ||
อนาถใจเพียงใจมิใช่ใจ | ชลนัยน์คลอนัยนาเนือง | ||
คล้ายคล้ายเห็นสายกระแสสินธุ์ | ไหลรินเนตรน้องยิ่งไหลเนื่อง | ||
เพลิงสมรร้อนรุ่มอารมณ์เรือง | แต่มุ่งเมืองหมายเรือที่รายตาม | ||
แลลำมากล้ำหลายลำนัก | ครั้นใช่พักตร์น้องหวาดฤทัยหวาม | ||
จึงให้หยุดเข้าที่วัดโพไชยราม | ไม่เห็นพี่มาตามยิ่งเจ็บเจียว | ||
ครั้นเช้าเขาก็บากกรรเชียงล่อง | สอดส่องเนตรน้องกระสันเสียว | ||
สุดถวิลดังจะดิ้นฤดีเดียว | จึงเฉลียวเหลียวหลังสั่งคงคา | ||
เห็นวารีไหลคืนขึ้นข้างกรุง | ก็มุ่งสั่งสายน้ำมาหนักหนา | ||
ให้บอกพี่เถิดว่าน้องนี้อาทวา | หวนหาสายสวาทเพียงขาดใจ | ||
ให้เชษฐามาหน่อยพอเห็นพักตร์ | วารีรักบอกบ้างฤๅไฉน | ||
เห็นชลาเหมือนจะพาเอาข่าวไป | ถอนใจใจเอ๋ยเพียงเจ็บจริง | ||
๏ ครั้นมาถึงเกาะพระที่สำนัก | พระอารักษ์เรืองฤทธิ์ศักดิ์สิทธิ์สิง | ||
เวลาเที่ยงก็ให้หยุดกรรเชียงพิง | ประทับนิ่งนั่งช้ำระยำทรวง | ||
จำเริญพรศรัทธาพระอารักษ์ | เซ่นวักแล้วถวายเครื่องบวงสรวง | ||
ขอแจ้งร้อนอ่อนคำที่บำบวง | เทพทุกกระทรวงตามเศร้าใจ | ||
ใจความว่าให้ตามมาเห็นพักตร์ | พอคลายรักที่น้องนั้นหมองไหม้ | ||
ครั้นบวงสรวงสิ้นกระแสแล้วแลไป | ในแถวนทีบุรีรมย์ | ||
เห็นนาวาลำหนึ่งลอยเลื่อน | ก็หมายเหมือนเชษฐาจะมาสม | ||
ที่บังแผงแฝงหน้านั้นน่าชม | นั่งคู่ดูคมกระบวนครวญ | ||
เหมือนเชษฐามาคลองเมื่อคราวเล่น | น้องเขม้นเห็นเหิมหทัยหวน | ||
นางกล่าวสารเสียงสำเนียงนวล | ประมวลพรอ่อนโอนอารมณ์ชู | ||
ว่าไปดีมีสุขเสวยสวัสดิ์ | น้องฟังวัจนานิ่งอยู่เป็นครู่ | ||
ครั้นลับตาแล้วสอดตาดู | ก็รู้แจ้งตระหนักประจักษ์ตรง | ||
ว่าใช่โฉมเชษฐาวราโฉม | โทมนัสกลัดจิตพิศวง | ||
พิศวาสบาดทรวงง่วงงง | หลงแลแต่นั้นไม่แลเลย | ||
ถ้วนหน้าเขาเสพโภชนาสิ้น | น้องไม่กินกินแต่กำสรวลเสวย | ||
เขาเตือยเยื้อนรับสำรับเคย | เฉยเคี้ยวข้าวแค้นระคายคอ | ||
แต่กลั้วน้ำแล้วยังกล้ำกลืนขัด | เจ็บถนัดใจน้องนี้หนักหนอ | ||
สุดกำลังที่จะรั้งให้เรือรอ | ก็ล่วงต่อมาตามกระแสชล | ||
บ่ายแล้วห้าโมงหมายนาที | อธิบดีรอเรียกพลพหล | ||
ให้หามาพร้อมหน้าลูกคู่พล | บอกยุบลสารสักวาครวญ | ||
ท่านบอกบทมาให้น้องร้องบอกต่อ | เป็นหลายข้อมาจนตำบลสวน | ||
ทางบางบ้านแล้วท่านรัญจวนประมวล | ทบทวนคำเทียบเปรียบพี่นาง | ||
มะพร้าวอ่อนอรชรเหมือนผิวพี่ | แล้วเหมือนสีนวลน้องยิ่งหมองหมาง | ||
เห็นสลาว่าเห็นสลานาง | สลาสล้างฝั่งชลมารดมา | ||
๏ ถึงบางจีนชื่อเช่นเหมือนชื่อพี่ | ชื่อสิมีนึกหน้าแล้วแฝงหน้า | ||
ท่านบอกบทกำหนดสักวามา | จะถึงท่าประทับที่บุรีธน | ||
สนธยาราตรีสี่ทุ่มเศษ | ฝ่ายน้องนองเนตรละห้อยหน | ||
เมื่อทนทุกข์หรือมาได้ยินชื่อธน | ทนเทวษเพทนาจาบัลย์ | ||
ให้ขุ่นคิ่นวิ่นว้าสวาทหมาย | จะเอนกายลงก็ตั้งแต่เตือนฝัน | ||
ถึงตัวไกลใจน้องยังผูกพัน | จนไก่ขันกระชั้นเร่งรวีจร | ||
เขาแจวเรือมาจอดหน้าวัดแจ้ง | แรงร้อนข้อนคิดขุ่นสมร | ||
ประทับร้อนระทมอารมณ์ร้อน | แต่ทอดถอนใจหาทุกนาที | ||
เชษฐาถามว่าใครมาหาบ้าง | จะทวนทางไปแทบบุรีศรี | ||
ไปแจ้งเหตุเชษฐาภคินี | น้องว่ามีอยู่แต่ไม่มีเงื่อนงาม | ||
ท่านสะท้อนถอนใจตะลึงคิด | อนุชาเพิ่มพิศวาสหวาม | ||
ถามถี่น้องชี้เฉลยความ | แนะนามเนื้อแท้คดีเดา | ||
เขาเคียมคัลเอากำนัลมาคำนับ | ไม่อยากรับอยากรักสักแสนเท่า | ||
แสนถวิลกินเทวษทุกค่ำเช้า | แสนเร้าระอุเพียงผุพัง | ||
ดึกประมาณสามยามที่เรือจอด | น้ำขอดเรือค้างตะแคงฝั่ง | ||
ถึงเรือค้างเขาเข็นด้วยกำลัง | แต่ค้างรักนี้ยังรั้งอารมณ์แรง | ||
สุดกำลังที่จะเข็นด้วยค้างรัก | อกจะหักตับจะแตกเป็นระแหง | ||
ความกำหนัดเข้ามาขัดอารมณ์แรง | จนพันแสงส่องฟ้าอโณทัย | ||
๏ พลกรรเชียงเขาก็ตีกรรเชียงคล่อง | ลอยล่องเข้าคลองบางกอกใหญ่ | ||
ตะลึงแลตามกระแสชลาลัย | ชลนัยน์คลอนัยนานอง | ||
ถ้าพี่มาจะได้ชี้ให้ชวนชม | แสนระทมทรวงน้องดังกรมหนอง | ||
เขาเร่งรีบนาวามาตามคลอง | แต่ฝ่ายน้องมิได้วายคลายคะนึง | ||
ตะลึงแลสองข้างทางชลมารด | ใจจะขาดแล้วตรึกระลึกถึง | ||
ไฉนพี่จะแจ้งน้องรำพึง | แสนคะนึงมิได้วายคลายอารมณ์ | ||
นิ่งนอนยอกรตระกองพักตร์ | อกจะหักหนักใจด้วยไม่สม | ||
เห็นระกำยิ่งระกำทรวงกรม | แต่วางลมหายใจไม่ขาดคิด | ||
ยิ่งระกำหรือมาช้ำระกำแกม | ระกำแนมเสียดสวาทเพียงขาดจิต | ||
อกเอ๋ยไม่เคยหรือมาควรคิด | มาหลงพิศกอระกำนี้เนื้อกรรม | ||
๏ กรรมใดมาให้บำราศรัก | อกเอ๋ยหวนหักไม่เหนื่อยหนำ | ||
ถึงบางโทรัดเรือเรียงลำ | น้ำแห้งขอดไปไม่คล่องคลอง | ||
กรมการเกณฑ์ไว้ด้วยใจภักดิ์ | ให้ฉุดชักด้วยกาสรสอง | ||
นาวาวิ่งน้ำตามลำคลอง | ฝ่ายน้องนองน้ำนัยนาคลอ | ||
๏ ถึงขนอนเขาถือชื่อบ่อมาก | เขาละลากเสียว่าสุดอารมณ์หนอ | ||
สุดกำลังที่จะรั้งให้เรือรอ | ก็ล่องต่อมาตามสายกระแสชล | ||
คงคาหรือมาเค็มขมเฝื่อน | เตือนใจให้ระหวยกระหายหน | ||
ถึงกระหายวารีก็มีชล | กระหายรักนี้แหละพ้นจะผ่อนคลาย | ||
ถ้าอยู่ใกล้หรือจะได้ไปแจ้งพี่ | จะพาทีเสียให้ความกระหายหาย | ||
แลฝั่งล้วนหลังกำพรวดพราย | เปี้ยวมาหมายปูแสมเสมือนใจ | ||
แต่เปี้ยวยังปองปูแสมหมาย | น้องมาหน่ายหน่ายพี่นี้กรรมไฉน | ||
เห็นชลเร่งหลั่งชลนัยน์ | ตะพรุนไหลตามสายชลาแล | ||
๏ ถ้าแม้นพี่มาน่าจะเก็บเล่น | จะชี้เช่นชมเปี้ยวปูแสม | ||
ถึงคลองมหาชัยชลไหลแล | ไม่มีแชเลยลิ่วตะโล่งตรง | ||
ฝั่งชลล้วนต้นตาตุ่มใหญ่ | นึกไหนน้องตะลึงพะวงหลง | ||
ถึงคลองโคกขามบ้านประมง | ร้อนใจจำสรงคงคาเค็ม | ||
แสบเนื้อเหลือแสบสมรนัก | เจ็บรักทรวงน้องดังต้องเข็ม | ||
แสนเจ็บพ้นที่จะเก็บเล็ม | เต็มคิดพิศวงพะวงกล | ||
ยอแสงสนธยาสงัดเงียบ | ก็ล่องเลียบแลป่าพนาสณฑ์ | ||
ไม้ชอุ่มพุ่มสะพรั่งฝั่งชล | แต่ต้นลำพูนั้นดูพราย | ||
แจ่มแจ้งล้วนแสงหิ่งห้อยจับ | ยับยับเหมือนดวงศศิฉาย | ||
ถ้ามาด้วยจะได้ช่วยชมไม้ราย | จะถามทายหิ่งห้อยด้วยยินดี | ||
เพลานาฬิกาห้าทุ่มเศษ | ถึงบุเรศสาครบุรีศรี | ||
ประทับแรมอยู่ในราษราตรี | จนพันสีส่องฟ้าทิวาวาร | ||
เลี้ยงกันแล้วก็ล่องตามชลมารด | เรือราษฎรชักอยู่ฉ่าฉาน | ||
เขาเรียกเรือโห่ร้องก้องกังวาน | เสียงประสานขานขับด้วยคำเคย | ||
เขาร้องเริงบรรเทิงด้วยเพลงพลัด | เจ็บถนัดใจนักนะพี่เอ๋ย | ||
จะแลไหนก็ไม่ลืมอาลัยเลย | ที่ควรเคยขาดสิ้นทุกสิ่งอัน | ||
ฝั่งชลาดาดาษด้วยดงชิด | พิศใบเหมือนใบจะโบกขวัญ | ||
ใบหากชื่อจากน่าอัศจรรย์ | ผลผันชื่อชิดระคนผน | ||
ชังใบชอบใจแต่ชื่อชิด | ชังจากน้องคิดพะวงผล | ||
ร้อนอุระผะผ่าวหนาวสกนธ์ | แลสองฟากชลไม่เชือนเลย | ||
เห็นจากเร่งเจ็บด้วยจากพี่ | ผลสิมีชื่อชิดเล่าอกเอ๋ย | ||
อันใบจากน้องไม่อยากจะแลเลย | หลงเชยผลชิดยิ่งติดใจ | ||
มะพร้าวอ่อนเหลืองสล้างทะลายดก | ยอกรลูบอกแล้วโหยไห้ | ||
อุทยานเป็นที่สำราญใจ | มาจำไกลจากพี่นางทางอาวรณ์ | ||
๏ บ่ายประมาณสามโมงถึงเมืองสมุทร | สงครามยุทธยิ่งร้อนแรงสมร | ||
จะร่ำร้องเล่าก็สุดที่ร่ำร้อน | ที่เรื่องรักเล่าก็ห่อนจะเห็นจริง | ||
จะเห็นใจก็แต่ในสุราฤทธิ์ | ถ้าใครคิดก็จะเห็นด้วยทุกสิ่ง | ||
อันเจ็บไกลพี่เจ็บใจจริงจริง | ดังศรยิงทรวงแน่นสักแสนที | ||
เห็นศาลาอาศัยหลังอาราม | วัดสมุทรสงครามบุรีศรี | ||
ยับระทมร่มไม้ก็ไม่มี | อธิบดีศรัทธาสถาวร | ||
ให้ซ่อมแซมศาลาอาศัยเสร็จ | บัดเดี๋ยวก็สำเร็จปฏิสังขรณ์ | ||
ฝ่อยน้องแนบนิ้วประนมกร | ถอนจิตแล้วก็พิษฐานพลัน | ||
เดชะข้าได้สร้างศาลาชำรุด | รักใคร่อย่ารู้สุดเกษมสันต์ | ||
เป็นสมคิดมิตรภาพผูกพัน | ถึงไกลกันก็อย่ารู้นิราเลย | ||
ถึงมิมาก็อย่าได้ประมาทน้อง | จงหมองมั่งเหมือนนุชหรือพี่เอ๋ย | ||
สิ้นคำแล้วน้ำชเลเลย | คงคาเคยขึ้นเข้าเขาเคยคอย | ||
กรมการเชื้อเชิญให้เดินสมุทร | ฝ่ายนุชฟังเขาให้เศร้าสร้อย | ||
สิบทุ่มให้คุมนาวาลอย | ไปคอยปากช่องเร่งหมองใจ | ||
มืดหน้ามัวตาด้วยหมอกมิด | สุดคิดที่จะอ้างอาศัยไหน | ||
จะแลหลังฝั่งฟากก็ไกลไป | ถอนใจไร้รักหนักอาวรณ์ | ||
ถ้ากลับได้จะใคร่ไปหาพี่ | แสนทวีร้อนทอดฤทัยถอน | ||
ไม่มีชื่อฝืนใจจำใจจร | ข้ามท้องสาทรชเลมา | ||
๏ ก็ลุถึงปากน้ำบางตะเครา | ยิ่งแลเปล่าเศร้าใจใฝ่หา | ||
จรดลตามชลมารดมา | หมายตามณฑปวัดเขาดิน | ||
เห็นเหมือนมณฑปวัดศพสวรรค์ | ยิ่งร้อนรัญจวนหนักหนักถวิล | ||
ที่เลนสูงล้วนฝูงกุมภิล | นอนแฝงฝั่งสินธุ์รายเรียง | ||
อันภัยในกุมภีล์ก็ยังชั่ว | ไม่กลัวเท่าทนรักเป็นแท้เที่ยง | ||
กลับจะผิดผอมเนื้อเบื่อเสบียง | ใจระวังวังเวียงไม่วายวาง | ||
๏ บ่ายประมาณสามโมงถึงบางครก | เจ็บอกเร่าร้อนสมรหมาง | ||
เมื่อเจ็บใจหรือมาได้ยินชื่อบาง | ครกวางทรวงเร้าอุราราน | ||
แสนระกำช้ำใจด้วยไกลพักตร์ | มิควรร้างห่างรักสมัครสมาน | ||
แต่นี้ไปจะจำใจไกลนาน | สิ่งสำราญจะเสื่อมสุขทุกเวลา | ||
ถึงการเล่นก็ไม่เป็นกังวลนัก | อกจะหักก็จากพี่เสน่หา | ||
เคยเห็นพักตร์จำเริญรักจำเริญตา | เคยพร้อมพจนาจำเริญใจ | ||
ไม่เคยทุกข์ถอนใจด้วยจำจาก | แสนวิบากอกน้องนี่กรรมไฉน | ||
ตัวไกลใจน้องไม่อาจไกล | อาลัยมิได้วายคลายคะนึง | ||
๏ ถึงคดอ้อยจะเข็นก็สุดคิด | ดิ้นติดจำแรมยิ่งคิดถึง | ||
ยามเย็นเห็นอะไรให้ตะลึง | จนนอนขึงซ่อนหน้าไม่พาที | ||
๏ ครั้นเช้าเศร้าใจลงเรือน้อย | ค่อยลอยพายไปถึงเพชรบุรีศรี | ||
เขาตั้งพลับพลาไว้ใกล้บุรี | สถิตที่พระราชฐานา | ||
แต่ฟากฝ่ายสายชลคนละแห่ง | เห็นตำแหน่งพระตำหนักยิ่งหวนหา | ||
ก็หมายเหมือนเมื่อพี่เคยลีลา | โดยเสด็จประธานาธิบดินทร์ | ||
น้องอาศัยในที่ควรสำนัก | อกจะหักแต่ครุ่นครวญหวนถวิล | ||
เกรงใจไปถึงเพชรบุริน | ฤดีดิ้นสิ้นสมประดีเดียว | ||
ตลาดดาษดาแม่ค้าขาย | รูปร้ายนั่งร้านขี้คร้านเหลียว | ||
จำใจไปดูประเดี๋ยวเดียว | เที่ยวไหนก็ไม่ลืมอาลัยเลย | ||
ยิ่งเห็นต้นพิกุลหน้าพระธาตุ | ใจจะขาดแล้วนะพี่ของน้องเอ๋ย | ||
คิดเคยที่เคยหรือขาดเคย | ขาดหากเฉยน้องมาชื่นไม่ชื่นใจ | ||
เห็นปูนเปี่ยมอ่างวางขายที่ | ชื่อสิมีส่วนบ้านไปอยู่ไหน | ||
โดยเห็นเช่นหลังยิ่งชังไกล | ถอนใจไร้รักหนักอาวรณ์ | ||
ไหนจะทุกข์ถึงพี่ที่คู่คิด | ไหนจะทุกข์ถึงมิตรที่เรียงหมอน | ||
ไหนจะทุกข์ไหนจะทนความรนร้อน | ยามนอนฝันเห็นไม่เว้นวัน | ||
ยามกินกินทุกข์ระคนข้าว | ยามนั่งนั่งเศร้ากรรแสงศัลย์ | ||
ยามเดินเดินดุจดิ้นยัน | ยามยืนยืนหันระหวยใจ | ||
จะนับแรมก็แรมกรรมบำราศ | สุดสวาทไม่มีที่อาศัยไหน | ||
จะตั้งหน้าใกล้กรรมด้วยจำไกล | อยู่ก็ใช่ไปก็ช้ำเร่งรำคาญ | ||
แม้นตายได้ก็ดุจดีกว่า | ไม่ทนเทวษเพทนาสุดสงสาร | ||
นับเดือนก็จะเลื่อนทิวาวาร | ยิ่งคะนึงก็ยิ่งนานเห็นหน้าเอย ฯ | ||
ฯ นายภิมเสน ๑๗๘ คำ ฯ | |||
เชิงอรรถ
อ้างอิง
กวีสยามนำเที่ยวกรุงเทพฯ มติชน ๒๕๔๗