โคลงปราบดาภิเษกเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย

จาก ตู้หนังสือเรือนไทย

(ความแตกต่างระหว่างรุ่นปรับปรุง)
ข้ามไปที่: นำทาง, สืบค้น
CrazyHOrse (พูดคุย | เรื่องที่เขียน)
(หน้าที่ถูกสร้างด้วย '== ข้อมูลเบื้องต้น == {{เรียงลำดับ|คลโงปราบดาภิษเก}} [[ห…')

รุ่นปัจจุบันของ 09:49, 9 มิถุนายน 2553

เนื้อหา

ข้อมูลเบื้องต้น

แม่แบบ:เรียงลำดับ พระราชนิพนธ์: พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งดำรงพระอิสริยยศพระเจ้าลูกเธอ กรมหมื่นเจษฎาบดินทร์

บทประพันธ์

ร่าย

๏ สรวมชีพชุลีบาทบงกช ไททศธรรมบพิตร กฤษยาเพญญาณ ภุดาธารธาตรี ศรีอะยุทธยิ่งหล้า ฟื้นฟ้าเฟื่องเกรียดิ์ขจร ถาวรศุขศรีสวัสดิ์ ภิรมยรัตนไตรยา ถาปนาสาศนเจ้า ทุกข์ค่ำเช้าชูชื่น ชักชนตื่นแตกฟ้า ทุกทั่วหน้าน้อมยุคล กลบันฤาไชยส่ำซร้อง พร้องไชยเพรียกอึงอุตม์ เจ้าอยุททธยารมเยศ เจ้าเสวตรไอยรา สามคเชนทราเผือกผู้ผ่อง สองกิรีนีถ่องเทียมทัด เบญจคชรัตนเฉลิมเวียง เพียงจักรหัวดราช อีกช้างชาติอิศวรพงษ วงษวิษณุอรรคณี เจ้าอัศวพาชีชาญเชิง เจดหมู่เริงราญพยด เจ้าทศทวยพยูหพล เบญสามนต์เจนจบ เจ้าพลรบนาวี ดีเศิกหนแม่น้ำ ค้ำเศิกในอรรณพ เจ้าพิภพสีมา เฉลิมดุษิดาปราสาท นพมาดเถือกถ่อง กุก่องแก้วเนาวรัตน์ พระปหัรดชัชวาล เฉลิมพิมาณรัษฐยา จินดาอุไรเรือง มลังเมลืองจรูญจรัด เฉลิมจักรพรรดิ์พิมาน ปานสุรเทพมาแต่ง แห่งทิพยกามา ราชาอาศนสุพรรณตั้ง กั้งเสวตร์บวรฉัตร บุษบกรัตนโศภณ เฉลิมมณฑิราไล พิดประไพไพโรจ โชติชวลิดพร้อยแพร้ว คลังเก้าแก้วมูลมอง ทองเงินมากเหลือตรา เครื่องราชาธิราช โอภาษพื้นสุพรรณรัตน์ กาสิกพัตรพัตราภรณ์ เพียงอมรทิพไอศูรย์ สมบูรรณด้วยสมบัติ รัตนไตรก็เรือง ประเทืองทางจรรยา ด้วยราชาคณสงฆ์ สมเดจอริยวงษคตญาณ เปนประธานสาศนเจ้า เย้ากระมลเปรมปราช พระบาทไท้ท่านอุทิศ นิจพัตรเพิ่มภูลผล เสพกุศลศุขสวัสดิ์ ประดับกระษัตรภิรมยา ปิ่นคณานารถบริพาร วิมลมาลย์ศรีสวัสดิ์ สุนธรรัตนนารี ภัควดีดวงอุดม สุรางสนมแน่งเนื้อ เชื้อมาตยากูลวงษ อีกอนงบำเรอเรียง เพียงอับษรสุรางรัม ในสุชัมบดีไท้ งานใช้อเนกนับ ประดับกระษัตรทศธรรม์ สรวมชีพวันทนาบาท ราชบรรทูลบพิตร กฤษฎาญาณพิเศศ ธรงสุรเดชเลื่องหล้า เจ้าหลักฟ้าหลักดิน ปราบอรินทพ่ายพินาศ ลำดับราชประยูร ภูลสวัสดิ์เปรมปรา ยงปัญายุติธรรม์ จอมพลพันพลหมื่น ชื่นหฤทัยจงรักษ อีกเอกอรรคธิบดี มุขมนตรีตญามาตย ทูลทุลีบาทบงกช ศักดิยศเลิศเลื่องชื่อ ซื่อต่อเจ้าจอมกระษัตร ดัดความเมืองแท้เที่ยง หย่างเยียงแห่งสีลาปัก หักศัตรูทุกด้าว น้าวนครมานบ ปิ่นภิภพกรุงไกร ธรงขรรค์ไชยรณยุทธ อัศฎาวุทธวรา มีมะหาสังข์สวัสดิ์ ทักษิณาวัดพิเศศ มียานเสวตรกุญชร สุนธรลักษณวิไล เสวตรไอยรารัตน์ ศรีสวัสดิ์ยิ่งยศ เสวตรคชลักษณเลิศ เกิดกระกูลจารี กิรินีเทพกุญชร บวรเสวตร์ลักขณา อินท์ไอยรารังรักษ์ ฉัตทันต์ศักดิ์สูงสม อีกบรมหัศฎินทร์ กรินทรชาติสมพงษ์ มิ่งมลคลราเชนทร์ บรมนาเคนประทุมทันต์ ประยูรพันธุ์จัตุรภักตร์ ล้วนสรรพลักษณ์เลิศฟ้า หล้าเลื่องระบือเดช อิศวรเรศโมฬี เฉลิมศรีอยุทธยิ่งหล้า มียานม้าสินทพชาติ ราชพาหนอาชาในย อยู่ปืนไฟอาจ์อง ธรงกำลังเหี้ยมหาญ มียานพิไชยรถ อลงกชแก้วแกมทอง รรองเรืองขจี มีสุวรรณราชยาน ศรีพิกากาญจน์แพร้วพราย พิศพรรณรายยงยิ่ง ธินั่งกิ่งนาวี บวรศรีสมรรถไชย ไกรสรมุขบรรยง สุพรรณหงษรุจเรข เอกะไชยศรีกระบี่ครุทธ ทรงประภาษสมุทรสายสินธุ์ สุบรรบินกุไหล่แจว สุวรรณแววววาบวับ พร้อมสัรพสรรพาวุทธ ยิ่งยุทเศิกอัปรา นกคุ่มขานกยาง บ้าเหรี่ยมรางฬ้อแท่น หามแล่นหลักฉัตรไชย หย่างไทรจ่ารงคร่ำ ส่ำสาตรามากมวญ ทวนธนูเสโลห์ โตมรศรกำทราบ ดาบดังทองธงไชย พลไกรเหี้ยมฮึกหาญ ชาญเชิงรบหลายกล คงทนทรหดห้าว เหยียบแดนด้าวดัษกร ศึกสยอนย่อบุญ ส่ำขุนพลแว่นไว ถ่องพิไชยสงคราม สง่างามองอาจ์ ได้ดังราชหฤไทย ยศไกรกรุงรุ่งเรือง มีเมืองออกเอนก เอกโทตรีจัตวา พญาพระหลวงร้งง ข้งงพลหมื่นพลแสน ไตรแด่นแห่งประเทศราช ชาติชวากำภุชลาว ชาวนิคมพันนา มาลาทองเงินงาม แต่งตามกำหนดนอบ ตอบบรรณาล้นเหลือ ฝ่ายเหนือศรีสมุหะ พระกระลาโหมหนใต้ บูรพทิศให้บัวตรา ตัดประชาปรีเปรม ต่างเกษมศุขสวัสดิ์ วิบัดไภยบมิแผ้ว แคล้วสะเดาะสดมเบียฬ มากเพียรมากโภไค ฝยพระนครศรีอยุทธเยศ นาประเทศเที่ยวเข้าค้า เปิดพรรณผ้าผืนพับ บ้างรับขึ้นห้างแพ เปิดพรรณแพรเหลือหลาย ขายซื้อสรรพสิ่งใช้ ให้ภาสีเชิงกอบ กำนันมอบเจ้าถ้า ส่ำเครื่องค้ามูลมอง ส่ำเงินทองแก้วเก้า ส่ำเข้าเกลือเฟือฟาย ส่ำวัวควายไร่นา ทวยประชาศุขเขษม เปรมกระมลเริงรื่น แตกตื่นสร้างศีลทาน ลางเหล้นการกาหล ลางเหล้นกลกาพย์กลอน ลางเหล้นคอนแข่งภาย ลางเหล้นหลายเขบจ์ขบวน ยวรฤไทยทุกผู้ รู้มลักกอบการ ต่างชาญไชยเยิรยอ ฃอสมเดจปิ่นเกล้า พระเจ้าจงเสวยสวัสดิ์ บำรุงรัตนไตรยา ค้ำสาศหนาให้ยั่ง ดังภุดาธารตรีภพ ปรารพภใดจงได้ พระยศไท้จงยืน กลืนทุกข์เทวศจงสูญ ฃอสมเดจบันทูลธิราช พระบาทเจ้าจงเจริญ ข้าสรรเสริญพระเกรียดิ์ท้าว ไว้คู่แผ่นภพด้าว ชั่วฟ้าลมกัลป์ ฯ

๏ กรุงศรีอยุทธเยศล้ำเลอสรรค์
ปานอมรมาสรรเศกสร้าง
แสนสนุกนิ์เทียมทันทิพยโลกย แลเฮย
ทุกเทศยอยศอ้างอ่อนเกล้าถวายเวียง ฯ
๏ สมเดจบพิตรไท้ทฏรษฐ
ทรงกุศลกรรมบทบ่พลั้ง
ข้าทูลทุลีบงกชชุบชีพ เสมอแฮ
กลเชิดฉัตรแก้วกั้งเกษด้าวทังมวญ ฯ
๏ พระธรงประกอบเกื้อศีลทาน
ธรงสติตรองการถูกต้อง
พระญาณยิ่งพิศฎารตัดโลกย์
ธรงนิพนธ์เพราะพร้องพร่ำพร้องเรื่องรำ ฯ
๏ ปฏิมามรกฏแก้วชัชวาลย์
สถิตยราชวังสถานที่ไหว้
สุวรรณ์หิรัญกาญจน์บูชิต พระเอย
ดั่งจะชวนชนให้สู่ฟ้าฝ่ายเดียว ฯ
๏ ศิรามศิโรศน้อมวันทนา
เจ้าเสวตร์เบญจคชาเลิศแล้ว
ภูลผลเพิ่มพุทธยายังชาติ สูญแฮ
เลี้ยงโลกย์ศุขสวัสดิ์แผ้วผ่องน้ำใจเกษม ฯ
๏ ประหนตรบทบาทเบื้องบรรทูล
พางสุริยเรืองรังสูรส่องหล้า
ทรงธรรม์ทศหวังกูลพระโพทธิ
ส่องพระยศยืนฟ้าดับร้อนนรชน ฯ
๏ แถลงปางธิราชไท้พระเจ้าหลวง
หน่ายพิภพไตรตวงมุ่งฟ้า
นิฤพานเสดจ์สู่สรวงสวรรค์โลกย์ แล้วแฮ
ส่ำพระวงษเจ้าหล้าหลั่งน้ำชลไนย ฯ
๏ เสรจสรงพระศภเจ้าจอมกระษัตร
ธรงเครื่องพรรณรายรัตนเพริดแพร้ว
พระโกฐสุวรรณทัดเทียมทิพย์ สวรรค์แฮ
เชิญสู่ดุษิดาแล้วเหล่าล้อมประโคมขาน ฯ
๏ ถวัลราชตราบร้างราชสมบัติ
อัฐะวีสติสังวัฉรท่วนแท้
เนาวมาษตรัสกาลปักข์ นาพ่อ
สัปเอกะศกแล้ล่วงไท้ปถมวงษ์ ฯ
๑๐
๏ เบื้องนั้นขัติยพร้อมร่วมหฤไทย
ชุมหมู่มาตยาในนิเวศน์ท้าว
อีกสงฆ์คณธรงไตรปิฎกท่าน มานา
โดยกิจแผ่นภพด้าวเพรีอกพร้องปฤกษา ฯ
๑๑
๏ จักเชิญพระบาทไท้บรรทูล
ผ่านพิภพไอศูรยสืบเชื้อ
ต่างสาธุพร้อมมูลมอบชีพ ถวายเฮย
บุญพระหากก่อเกื้อเสรจ์เสี้ยนศัตรู ฯ
๑๒
๏ อาลักษณลิขิตรถ้อยทูลสนอง
สรวมชีพมนตรีสนองฝ่ายเฝ้า
อังเชิญทุลีลอองบัวบาท พระนา
ครองแผ่นดินนั่งเกล่าแห่งข้าทังมวญ ฯ
๑๓
๏ สงฆ์ถวายพรพระซร้องศุภผล
พราหมณกล่าวไชยมงคลเพรียกพร้อม
ขัติยาหมู่มุขมนตรีชื่น ชมแฮ
โอนศิโรโรศน้อมนอบไท้ทูลเสนอ ฯ
๑๔
๏ ขอซื่อต่อเจ้าชีพคุงวาย
ต่างกระทำสัตยถวายเสรจ์สิ้น
ทวยเทพเทพทั้งหลายโสตสดับ เทิญพ่อ
ใครบ่ซื่อฬ่อลิ้นเร่งม้วยเมือมรณ์ ฯ
๑๕
๏ ไป่นานกาคาบฟ้องลิวลม มาเฮย
เหตุพระตำหรวจกรมนอกซ้าย
ใจพาลพวกพาลผสมเสี้ยมพระ หลานนา
แขงคิดทรยศร้ายเร่งล้างฤๅหลอ ฯ
๑๖
๏ เสียพระญาติเจ้าหนึ่งแล้สิบขุน นางเฮย
หาญบกลัวเกรงบุญบัดม้วย
ใครฤาไป่คิดคุณขบถต่อ พระนา
แม้จะปลงชีพด้วยดาบไม้จันทน์จริง ฯ
๑๗
๏ ควรเหนว่าไท้เทพจงผลาญ นาพ่อ
กาก็เปนเดียรฉานชาติช้า
ดั่งฤๅออกนำสารส่อโทษ ถวายแฮ
แท้ว่าบุญเจ้าหล้าหากให้ดาลดล ฯ
๑๘
๏ ปางประหยัดยศชอบให้แก่กา
ทั่วนิคมเสมาท่านนั้น
ผู้ใดอย่าอิศยายีย่ำ มันแฮ
บำเหนจ์ตั้งเข้าปั้นไป่เว้นวันเสมอ ฯ
๑๙
๏ เถลิงการกำหนดให้แจงจัด
โดยขนบโบราณรัตเร่งเร้า
ปราบดาภิเษกสวัสดิ์ศุภฤกษ นี้เฮย
กรมพิทักษมนตรีเจ้าท่านชี้อวยการ ฯ
๒๐
๏ หายามไชยโชกได้ดฤดถี
ชุมหมู่มุขมนตรทั่วหน้า
ยังพระอุโบศถ์ศรีสรรเพชร แลแฮ
อาลักษณนุ่งห่มผ้าเสวตรไหว้พุทธคุณ ฯ
๒๑
๏ พระโหรลั่นฆ้องฤกษศรีสวัสดิ์
จาฤกพระนามขัตติยเชื้อ
ในแผ่นสุพรรณบัตรสิ้นเสรจ์ แล้วเฮย
ใส่หีบคำเก้าเนื้อแห่เข้าวังสถาน ฯ
๒๒
๏ ฝ่ายการแต่งตั้งราชพิธี
หมายสุรัศวดีบอกแจ้ง
ชาวงานก็กรูกรีมาจับ
สารวัดวิ่งคว้างแคว้งเร่งเร้าการผอง ฯ
๒๓
๏ เบื้องทอศบูรรพาศพื้นท้องพระลาน
มณฎปกระยาสนานแต่งตั้ง
บรรลังก์แลเพดานทวยนาค
โขมพัตรห่อหุ้มทั้งยอดซุ้มเสาบัน ฯ
๒๔
๏ แผ่นเงินทำทุ่งถ้อธารา
เบญจสุทธคงคาคั่งไว้
ตั้งบนพิดานดาดาวดาษ คำเฮย
คำแผ่พรรณดอกไม้มั่วห้อยตรูตา ฯ
๒๕
๏ ทองคำลายม่านพื้นโขมภัตร์
ผูกประจงจีบจัดรูดห้อม
รั้วราชวัติฉัตร์เงินนาค ทองแฮ
รายรอบมรฎบล้อมสี่ด้านดูงาม ฯ
๒๖
๏ เตียงเหลี่ยมลาดผ้าทอดถาดอุไร
ตั้งตั่งไชยพฤกษ์ในถาดนั้น
โขมพัตรลาดบนใบไม้ข่ม นามแฮ
ตั้งกึ่งมณฎบหั้นที่ไท้เสดจสรง ฯ
๒๗
๏ ราชวัตฉัตรเจดชั้นเบญจรง
ล้อมราชมนเฑียรทรงเทรอดเกล้า
จักรพรรดิที่บรรยงค์พิมานมาด
เฉลิมนิเวศน์วังเจ้าแผ่นหล้าอภิรมย์ ฯ
๒๘
๏ จัดพระธินั่งหน้าพระโรงใน
เตียงแว่นฟ้ามีระใบตาตตั้ง
แล้วตั้งปฏิมาไชยสิทธิเดช
ภานสุพรรณ์บัฏทั้งธุหร่ำสร้อยชันษา ฯ
๒๙
๏ ชาวงานตั้งเต้าประทุมนิมิตร
ทองนากเงินสำฤดเปี่ยมน้ำ
เครื่องมุรธาภิศเศกสวัสดิ์
สังข์ทักขิณวัดล้ำเลิศด้วยจินดา ฯ
๓๐
๏ พระเต้าเบญจะคับห้ายันต์รอง
เครื่องพิไชยสงครามผองแต่งตั้ง
เสมาธิปัดฉลององค์เกราะ นวมนา
เกาวะภ่ายธงธุชทั้งพระนพช้างฉัตรไชย
๓๑
๏ ตั้งพระเครืองต้นราชกุกกุพัน
เสวตรฉัตรพระแสงขรรค์เทรีดแก้ว
พัดวาลวิฉนีอันไพจิตร
ฉลองบาทพรรณพรายแพร้วเทษแท้อันงาม ฯ
๓๒
๏ ธารกรแลลุ้งพระมาลา เบี่ยงเฮย
พระมหาชาฎาเพชญพร้อย
ธำมรงรัตน์ราคาควรคู่ เมืองนา
พระสุพรรณภาพน้อยใหญ่ตั้งตามการ ฯ
๓๓
๏ ภารพระขันหมากเข้าพิธี
แลพระเต้าราชาวดีเลิศแล้ว
พระราชสุพรรณศรีบัวแฉก
เครื่องทอดโขมพัตรแพร้วหย่างเหยี้ยงโบราณ ฯ
๓๔
๏ พระแสงคาบค่ายแล้หอกไชย
ดาบเชลยดาบใจเพชรล้ำ
ตรีจักรธนูไกรเกรียงเดช
ปืนคาบชุดค่ามน้ำสโต่งเรื้องไชยนาม ฯ
๓๕
๏ ขอตีช้างล้มเลื่องไตรแดน
ขอคร่ำไม้เท้าแทนทอดถ้วน
ของ้าวพญาแสนพลพ่าย
เขนดาบอัศฎาล้วนผ่านหล้าธรงกระลึง ฯ
๓๖
๏ ตั้งตั่งไม้มเดื่อเข้ามณฑล
กั้งฉัตรลาดคาบนปกผ้า
ตั้งทิศอัฐมงคลทังแปด
ล้วนไผ่สีสุกหน้าตั่งตั้งกรดสังข์ ฯ
๓๗
๏ เขียนรูปอัฐเทพท้าวเรืองฤทธิ
ปักประจำตั้งทิศแปดถ้วน
แล้วตั้งพระพัทธบิฐราชอาศน์
พื้นอุทุมภรล้วนลายผ้าวางคา ฯ
๓๘
๏ พราหมณโรยแป้งกระเษตรเข้าสาลี
กำแผ่เขียนรูปสีหราชเรื้อง
เส้นชาติหรคุณมีมหันตเดช
วางกึ่งภัทธบิษฐเบื้องผ่ายไต้ตรางคา ฯ
๓๙
๏ ซ้ำปูผ้าปกพื้นพระภัทธ บิษฐเฮย
กั้งเสวตรบวรฉัตรเจดชั้น
ตั้งเตียงแต่งเครื่องมัศการพระ แลแฮ
อีกตรางผ้ากั้นที่ตั้งเทียนไชย ฯ
๔๐
๏ ในพระธินั่งเหลื้องอลังกาญจน์
นามทักษิณไพศาลแต่งตั้ง
แท่น ทองดัดเพดานดูสอาด
ตั้งพระบรมธาตุทั้งพระห้ามสมุทคำ ฯ
๔๑
๏ ตั้งพนมดอกไม้เครื่องบูชิต พระนา
แต่งที่สงฆ์สวดปริตลาดผ้า
เกี่ยวคาถักเข้าพิทธีท่าน แลเฮย
น้ำแลทรายห้าห้าบาตรตั้งติดเทียน ฯ
๔๒
๏ มณเฑียรบูรรพเบื้องที่บันธม
แท่นรัตนนิทรารมณ์ก่องแก้ว
ตกแต่งลาดเจียมพรม สงฆ์สวด
ธรรมจัตุพารแผ้วเพื่อให้สถาพร ฯ
๔๓
๏ วงด้ายสายปริตเลื้อยล่ามไป
วงรอบแท่นทองไทที่ตั้ง
รอบเตียงปติมาไชยสรรพเครื่อง
มณฎปสรงสนานยั้งที่ท้องโรงคัล ฯ
๔๔
๏ ราชครูชีพ่อเชื้อมหาสาร
ถือธุหร่ำกุณฑ์ธารทั่วหน้า
กระทำพิธธีการไสยเวท
โดยอิศวรเจ้าฟ้าประสิทธิให้พรามณผอง ฯ
๔๕
๏ อังเชิญเทวรูปเข้าโรงพิท ธีเฮย
บรมเมศวิศณุวิศก่อเหง้า
ธาดาศัทธาสิทธภิฆเนศ
พระอุมาลักษมีเจ้าอีกทั้งกุญคุม ฯ
๔๖
๏ เบญจคับนพวัดแล้สังข์กรด
กินกระยาบวดพรดพร่ำไหว้
ประนามประนงหนตรกุนธกิจ ไส้พ่อ
อ่านอิศวรมนตร์ให้ธิราชเรื้องสุระไชย ฯ
๔๗
๏ โหรพนมพลีบัตรตั้งบวงสรวง
ทวยเทพเนาวะเคราะห์ปวงคู่หล้า
ขอพระพ่อชูดวงประทีพโลกย์ แลเฮย
สรรพสิ่งอันตรายร้าโรคร้อนฤาพาน ฯ
๔๘
๏ ศุขปักขในฉ้อทัศมาเษ นาพ่อ
สัปะคุรุวาเรเริ่มตั้ง
ชายแสงสุริยมเหสุรเทพ
พร้อมพวกพินพาทย์ขั้งปี่ฆ้องกลองประโคม ฯ
๔๙
๏ มาตยามาส่ำซ้องเหล่าหลาย
ต่างนุ่งสองปักลายคาดเสื้อ
ไช้ในแต่ตัวนายมีชือ
อีกราชนิกุลเชื้อช่วยใช้ชาวงาน ฯ
๕๐
๏ จึ่งมหาสงฆคณเจ้ามุนี
คามอรัญวาสีต่างเต้า
สถิตย์ทักษิณไพทีพระธินั่ง
ห้ารูปสำมะถะเข้าสู่ห้องบันธม ฯ
๕๑
๏ ชาวประโคมลั่นฆ้องแซ่เสียงสังข์
แตรกระทั่งเพลงดังกึกก้อง
โหรทึกแลกลองกังสดาลครั่นคฤกแฮ
กลองแขกพินพาทย์ฆ้องขับไม้มะโหรี ฯ
๕๒
๏ เบื้องนั้นพระบาทไท้รามาธิ เบนทร์เฮย
ธรงเสวตรบวรภูษาเลิศแล้ว
รัดองค์โรจรัตนายงยิ่ง
ฉลองพระองค์ครุยแพร้วเพรีดด้วยทองกรอง ฯ
๕๓
๏ ธรงแสงเสดจดุจท้าวเทพย์ผาย แลฤา
ขึ้นสู่มณเฑียรรายมหาดเฝ้า
ธรงจุดธูปเทียนถวายภิวาทพระ ไชยแฮ
สมเดจ์สังฆราชเจ้าจุดเหล้มเทียนไชย ฯ
๕๔
๏ เสดจดลทักษิณน้อมสรรเพชญ
ธรงรับปัญจศีลเสร์จไป่ยั้ง
องครักษแห่แหนเสดจสู่ที่ ประธมแฮ
สดับพระจัตุพาลตั้งนมัศน้อมในธรรม ฯ
๕๕
๏ พระปริตจบสิ้นเสรจตำนาน
จบจัตุพารนะวารคั่นค้าง
คนตรีประโคมขานเสียงแซ่ ไส้นา
ลางยกอัฐบานบ้างหลั่งน้ำชาถวาย ฯ
๕๖
๏ สมเดจภูวนารถเกล้ากรุงกระษัตร
คืนสถิตย์ยังจักรพรรดิธินั่งเจ้า
คณะสงฆประเวศวัดต่างคลาศ คลาเฮย
เกนหมู่นางงามเฝ้าเครื่องตั้งมณฑล ฯ
๕๗
๏ พระฮามอรุโณศเรื้องรัจฉาน
พร้อมหมู่ราชบริพารฝ่ายหน้า
พร้อมสงฆแลสิ่งทานประนิต
สุปะเพียญชนตั้งถ้าธิราชเจ้าจอมเมือง ฯ
๕๘
๏ บัดบรมหน่อนารถไท้บพิตร
ธรงเสวตรวรภูษิตรเสรจเต้า
สู่สงฆคณบูชิตประทีปธูป เทียนเฮย
ธรงพระไตรสระณาเจ้าจวบสิ้นศีลธรง ฯ
๕๙
๏ ธรงสดับพรพระสร้อยสรรเพช
อุทิศสังฆทานเสรจ์หลั่งน้ำ
ประเคนโภชน์สมเดจ์สังฆราช แล้วแฮ
หมู่มุขมนตรีคล้ำต่างเข้าเคียมประเคน ฯ
๖๐
๏ ชินะบุตรท่านแล้วกิจภัตตา
ถวายพรอติเรกลาลาศเต้า
สวดสามทิวันวากลกล่าว แลเฮย
ประฏิบัติสงฆฉันเช้าตราบถ้วนตติยวาร ฯ
๖๑
๏ ทั้งทานอุทิศฉ้อโรงทาน
ยาจกสมณาจารย์ทั่วหน้า
สัตวซึ่งจะสังขารถ่ายปล่อย มากแฮ
สามทิวาห้ามค้าเล่าแล้เมไรย ฯ
๖๒
๏ จุไสมยเนาวะค่ำขึ้นวันระวี
สมเดจไทธเรศตรีโลกย์เเหลื้อง
ธรงภรณพัตรพื้นศรีหิรัญรัตน เรืองแฮ
เสรจเสดจบทบาทเบื้องสู่ท้องมณฑล ฯ
๖๓
๏ ธรงตั้งมาโนศน้อมศีลา
โลกทีปนับนาลิกาบาตรเก้า
ศรีสวัสดิ์พัฒราชาไชยฤกษ แลเฮย
ชาวพ่อลั่นฆ้องเข้าแซ่ซ้องเสียงประโคม ฯ
๖๔
๏ งานเครื่องเชิญเครื่องต้นทอดถวาย
พราหมณเชิดพระไชยผายแห่หน้า
มหาราชครูปรายเข้าตอก ไปแฮ
ทางลาดพระบาทผ้าเสรจ์เข้าสู่สนาน ฯ
๖๕
๏ ขึ้นตั่งไชยพฤกษพร้อมมูรธา ภิเศกเฮย
ตั้งพระภักตรฝ่ายบูรรพาม่านป้อง
ชาวงานพระธาราไขท่อ ประทุมแฮ
ดูดั่งน้ำฟ้าต้องธิราชเจ้าดูงาม ฯ
๖๖
๏ เต้าประทุมเบญคับน้ำพิธี
สงฆรดอวยสวัสดีเดชล้ำ
พราหมถวายเวทวารีสังข์กรด
ใบพฤกษเวฬูซ้ำเศกด้วยสิทธิมนต์ ฯ
๖๗
๏ เสรจ์สรงธรงเครื่องต้นภูษา
เขียนสุวรรณตรูตาเพริดแพร้ว
รัดองคอลงกาแก้วก่อง งามแฮ
เกี้ยวฉลองพระองค์แล้วสู่เบื้องบรรยงค์ ฯ
๖๘
๏ เสดจเหนือหน้าตั่งไม้มีประยูร
ผันพระภักตรสู่บูรรพบาทห้อย
ชีพ่อชาติพราหมณตระกูลทังแปด ไส้นา
หมอบประจำตั่งน้อยแปดด้านถวายไชย ฯ
๖๙
๏ สังข์ทักขิณวัฏน้ำมนตนราย
พราหมณ์ปโรหิตถวายเศกซ้ำ
แล้วพราหมณทิศทังหลายถวายท่าน แลเฮย
หันพระองค์รับน้ำแปดด้านโดยขวา ฯ
๗๐
๏ จึ่งท่านเสดจขึ้นสู่พระภัทธ บิฐเฮย
พราหมณนอบบงกชรัตน์กล่าวถ้อย
ศิริราชสมบัดขอมอบ พระนา
ถวายพระสังวาลย์สร้อยอ่อนอ้างอิศวรธรง ฯ
๗๑
๏ ถวายพระสุพรรณบัฏแล้กุกกุภรรณฑ์
นายมหาดแทนกำนัลแปดถ้วน
ต่างน้อมศิโรวันทนาบาท ไส้นา
ถวายอัศฎาวุธล้วนเลิศเรื้องรณไชย ฯ
๗๒
๏ ขณะนั้นพระบาทเจ้าจอมกระษัตร
ธรงรับพระเสวตรฉัตรคู่หล้า
แสงขรรคแลตาวพัดวาลวิช นีเฮย
ธารพระกรแต่ห้านอกนั้นชาวงาน ฯ
๗๓
๏ ชีพ่อต่างสาธุซ้องไชยมเห
ถวายพระมนต์บรเมอยู่เกล้า
ถวายพรพระภิฆเนศวรราช ไส้นา
ถวายเวศวิศณุเจ้าเพื่อให้สถาพร ฯ
๗๔
๏ โองการท่านสั่งเจ้าคะหะบดี
พรรณพฤกษแลชลทีทั่วหล้า
สรรพสิ่งซึ่งไป่มีผู้เกียจ กรรนา
ตามแต่ชนไพร่ฟ้าจะต้องการเทิญ ฯ
๗๕
๏ ราชครูผู้ชาติเชื้อมหาสาร
ประเสริฐศักดิศฤงฆารเลิศล้น
รับพระราชองการเปนฤกษ ก่อนแฮ
เอาชื่อหมายบาดต้นต่อใช้องการ ฯ
๗๖
๏ แล้วท่านโปรยดอกไม้พกุลทอง เงินเฮย
แก่พวกราชครูผองดาษเฝ้า
สิ้นสิ่งละภานกองเหลือนับ ณพ่อ
ธรงพระสุพรรณเต้าหลั่งน้ำษิโณทาน ฯ
๗๗
๏ พราหมณพนมนิ้วนบแล้วเป่าสังข์
หรทึกประโคมดังลั่นเหลื้อน
ตราบสิ้นสุดเสียงกังสดาลบัด ดนแฮ
เสดจจากภัทธบิษฐเยื้อนยาตรขึ้นสู่สงฆ์ ฯ
๗๘
๏ ทรงกระทำทัศนักข์น้อมถวายทาน
ไตรจิวรบริกขารแจกให้
สงฆถวายพระพรชาญไชยเดช พระเฮย
แล้วดิเรกลาไท้ธิราชเจ้าคืนเมือ ฯ
๗๙
๏ บัดพิภพจอมด้าวแดนสาม ประเทศแฮ
ธรงพระแสงดายวามเวียดท้าว
สอดฉลองพระบาทงามสง่าท่าน หนักเฮย
เสดจ์ดุจเทพท้าวออกท้องโรงคัล ฯ
๘๐
๏ สถิตย์แท่นผ่ายใต้พระเสวตรฉัตร
เนื่องแน่นพระวงษขัตติยพร้อม
ข้าทูลบงกชรัตน์สองฝ่าย เฝ้าแฮ
ต่าชะระดัดนิ้วน้อมนอบเกล้าสดุดี ฯ
๘๑
๏ กระลาโหมบัดเบิกร้อยทูลถวาย
พลพยุหไพร่นายกลั่นแกล้ว
แสงสาตรหลากแหล่หลายล้วนส่ำ สรรพแฮ
ถวายธินั่งกิ่งแก้วอีกแล้เรือขบวร ฯ
๘๒
๏ พ่อเรือนพาหนต้นถวายไท
อัศวคชฦๅไกรเลิศล้วน
สิบสิงพระคลังไอยศุริยราช ไส้นา
อีกมุขมนตรีถ้วนสี่เจ้าจัตุดม ฯ
๘๓
๏ อยู่หัวบพิตรเอื้อนองการ
สรรพสิ่งเครื่องรอนราญเศิกนั้น
สูท่านตรวจอภิบาลตามพนัก งานแฮ
ไว้พิทักษสาศนกั้นแด่นด้าวสืบไป ฯ
๘๔
๏ ทหารสมุหเจ้าพิริยพาหน์
มหาดไทยอำมาตยานอบเกล้า
รับพระราชชงคาศวรเรศ ไส้แฮ
แสนส่ำเสนาเฝ้าต่างน้อมอภิวันท์ ฯ
๘๕
๏ สมเดจภูวนารถไท้บพิตร
ขึ้นสู่มณเฑียรสถิตย์ธินั่งเจ้า
เสดจเหนือพระภัทธบิษฐราชอาศน์ ไส้นา
พร้อมหมู่ชะแม่เฝ้าดาษท้องโรงใน ฯ
๘๖
๏ เบื้องนั้นจึ่งท้าวนารถวรจัน
น้อมศิโรศเคียมคัลปิ่นด้าว
ทูลถวายพระกำนัลสนมแน่ง นวลเฮย
อีกสุรางค์บำเรอท้าวธิราชเจ้าจอมเวียง ฯ
๘๗
๏ โองการท่านตรัสถ้อยโดยอัท ยาเฮย
ศุภฤกษมงคลสวัสดิจวบได้
แซ่สังข์อุตราวัฏประโคมครั่น คฤกแฮ
จึ่งบรมนารถไท้ท่านขึ้นมณเฑียร ฯ
๘๘
๏ มีนางพงษเผ่าอุ้มวิฬา
นางหนึ่งถือธรรญาเครื่องเหย้า
ลางถือถั่วแลงาผลฟัก ไส้แฮ
ถือลูกหินบดเต้าแห่ห้อมเสดจ์ดล ฯ
๘๙
๏ อีกนางชำระล้างบทมาลย์
เสรจสู่มณเฑียรสถานแท่นแก้ว
ธรงน้อมนมัศการไตรรัตน์ แลเฮย
ตั้งพระอธิฐานแล้วสถิตย์เบื้องบรรฐร ฯ
๙๐
๏ ดอกหมากคำแปดเนื้อพรรณราย
พระราชวงษาถวายอยู่เกล้า
วรจันนอบน้อมกายกรานกราบ แล้วแฮ
ถวายลูกกุญแจเจ้าแผ่นหล้าโดยควร ฯ
๙๑
๏ ธรงรับวางข้างที่นิทรา
ปางท่านธรงไสยาอาศน์แก้ว
โดยทักษิณเบื้องขวาสังเขป ไส้แฮ
เปนฤกษมงคลแผ้วโรคร้อนฤๅพาล ฯ
๙๒
๏ จึ่งพระประยูรเชื้อขัติยา
มีพระชนวัดษามากม้วน
ถวายพรธิเบนธราศวรราช ก่อนแฮ
แล้วพระวงษ์ส่ำถ้วนเพรียกพร้องถวายไชย ฯ
๙๓
๏ สมเดจอิศเรศเจ้าจอมกระษัตร
เสด์จจากแท่นทองรัตน์เลีศเหลื้อง
สรงเสวยพิรมยสวัสดกิจราช แล้วแฮ
จึ่งเสดจบทบาทเบื้องยาตรยั้งดุษิดา ฯ
๙๔
๏ ธรงโปรยเงินให้ราชคณานาง
สองตราบวิถีทางเสรจเต้า
ต่างรับพระราชทานพลางซร้องแซ่ พรนา
ต่างชื่นชมบุญเจ้าแผ่นหล้าแลตลึง ฯ
๙๕
๏ เสด์จยังปรางค์มาดห้องบรรยงค์
บูชิดบรมศภธรงนอบน้อม
ขอพรพระเจ้าจงอวยสวัสดิ พระเฮย
ขอพระคุณช่วยย้อมเกรียดิ์ให้ฦๅเลือง ฯ
๙๖
๏ ขอเดชสท้านทั่วทิศศาล พระเฮย
แสนส่ำศัตรูลาญหลีกเลี่ยง
ขอเจริญศุขสำราญร้างโรค แลนา
ขอพิภพเยนเพี้ยงพระเจ้ายังครอง ฯ
๙๗
๏ ขอจงไภยอย่าแผ้วพาลสูญ พระเอย
ขอมั่งโภไคภูลเพิ่มพร้อม
ขอกระเษตรบริบูรณถูกทั่ว นิคมแฮ
แล้วท่านวันทนาน้อมกลับยั้งมณเฑียร ฯ
๙๘
๏ ยามไถงถงาดคล้อยนพภา ไลยเฮย
เวียรพระเทียนมณฑิราผ่านเผ้า
เสรจ์การาชปราบดาภิเศก ไซ้แฮ
ครองพิภพนั่งเกล้าราชแคว้นมณฑล ฯ
๙๙
๏ เมืองออกอำมาตย์ขั้งขัติยา
สาวสุรางคมุลิกานับร้อย
ต่างถวายธูปเทียนมาไลท่าน แลเฮย
บานกระมลชื่นช้อยต่างตั้งภักดี ฯ
๑๐๐
๏ ปางเสดจพยุหบาตรพร้อมพลหาญ
เลียบนครโปรยทานไพร่ฟ้า
โดยขนบราชโบราณสืบกระษัตร ไส้แฮ
หมายบอกทั่วทุกหน้าเหล่าเข้าขบวนเกน ฯ
๑๐๑
๏ ราชวัติฉัตรเจดชั้นรายทาง
ระยะร้านน้ำวางย่านไว้
ทรายเกลี่ยเรี่ยรัษฐยางราบรื่น
ร้านรกริมทางให้แย่งยื้ออึงอล ฯ
๑๐๒
๏ ถึงวันกำหนดพร้อมไพร่นาย
ต่างประกวตแต่งกายทั่วหน้า
ตั้งริ้วเรียบเรียงรายพลแห่ แหนเฮย
สารวัดตรวจเตรียมถ้าธิราชเจ้าจอมธรรม์ ฯ
๑๐๓
๏ เกนกองหกเหล่าซ้ายขวาวาง
จุกช่องสองตราบทางเสดจเต้า
ปืนคู่แค่งนกยางประจำทุก ทางแฮ
องครักษกำกับเฝ้าพิทักษเสี้ยนศัตรู ฯ
๑๐๔
๏ บัดบรมหน่อนารถเจ้าจรรโลง
นาลิกางายสองโมงเมฆแผ้ว
เสด็จออกธินั่งโรงทานท่าน แลแฮ
ธรงราชอาภรณแพร้วเพริดด้วยจินดา ฯ
๑๐๕
๏ สนับเพลาเชีงเรื้อยสอดธรงกระสัน
ภูษิตลวดลายสุวรรณกระหนกแหย้ง
รัดองคเพรีดพรายพรรณกรองมาด
ฉลองพระองค์ตาดแหล้งจีบเฟื้อยปลายปลิว ฯ
๑๐๖
๏ รัดองค์เจียรบาศเกี้ยวชายกระหวัด
รัดพระองคเนาวรัตน์คาดแล้ว
พระแสงกระหยั่นขัดสร้อยสอด งามแฮ
ทรงพระสังวาลย์แพร้วร่วงรุ้งจินดา ฯ
๑๐๗
๏ ธำมรงค์รัตนเรื้องสอดเสรจ์
ทรงพระมาลาเพชญร์เฟื่องฟ้า
กรกระลึงพระแสงเสดจงามสง่า นักเฮย
ยวรยาตรขึ้นเกยหน้าธินั่งท้องโรงคัล ฯ
๑๐๘
๏ ราชยานประทับถ้ากลองขาน
แตรกระทั่งกังวารเสนาะแจ้ว
พระหลวงหมื่นขุนกรานเกล้ากราบ ไส้นา
ทรงพระราชยานแล้วสั่งให้เดิรขบวร ฯ
๑๐๙
๏ กลองอินทรอุโฆษคฤ้ๅนเครงคฤก
งามพิริยพลพันฦกฮื่อห้าว
สุธาสเทือนคึกเพียงล่ม แลเฮย
ดูดั่งปิ่นสุทัศน์ท้าวเสรจสู้อิสูร ฯ
๑๑๐
๏ พลหาญแหนแห่หน้าเดิรดา
ใส่กระหมอกสอดเสนากุฎถ้วน
กุมสรรพสาตราเหี้ยมฮึก หาญแฮ
หลายหมู่หลายหมวดม้วนรอบรู้รอนณรงค์ ฯ
๑๑๑
๏ มีนายกองละห้าสิบคุม
เสื้อสนอบสอดขัดดุมโพกผ้า
ฅอคล้องประคำกุมตาวคร่ำ
แซรงกระหนาบพลหน้าเนื่องท้ายกรรขบวร ฯ
๑๑๒
๏ ปลายริ้วฝาหรั่งร้ายเรองแรง
เสื้อขลิบกำมหยี่แดงใส่สิ้น
ลากปืนจ่ารงแซรงแข่งคู่ มานา
เกวียนลั่นแผ่นดินดิ้นฝุ่นฟุ้งรัษฐยา ฯ
๑๑๓
๏ ม้านำพยุหผ้ายเผ่นทยาน
ขุนขี่ถือธงฉานแปดถ้วน
เสื้อศรีใส่สะครานนุ่งสนับ เพลาแฮ
ขลิบโภกขัดตาวล้วนแล่นม้าชาญเชิง ฯ
๑๑๔
๏ อาษาเกนหัดพื้นพันทนาย
แบกดาบลีลาปลายหอกห้าว
อาษาธนูตะพายแล่งลูก แลเฮย
ชาญท่าก่งเหนี่ยวน้าวยุทธแย้งยิงไว ฯ
๑๑๕
๏ อาษาทวนมาศล้วนทวนทิว
พิศพู่ดาษแดงปลิวบดฟ้า
อาษาญี่ปุ่นกริวกรูกลาด ไปแฮ
มือกระลึงง้าวง่าฮึกเหี้ยมหาญรงค์ ฯ
๑๑๖
๏ อาษาดาบคู่ค้ำเศิกพัง
เดิรดาษดาประดังอัดอื้อ
อาษาโล่ห์ล้อมวังบ่าแบก ตาวเฮย
งามสง่าห้าวหื้อหักข้าศึกสยอง ฯ
๑๑๗
๏ อาษาแน่นขนัดด้างทองดาษ ดาแฮ
ล้วนแต่ใจสุรกาจ์เก่งกล้า
อาษาส่ำเขนมาดหมู่คล่ำ คลาเฮย
หาญทลวงรานร้าบ่อนเกล้าดัษกร ฯ
๑๑๘
๏ อาษาพวกพื้นแขกจามมุหงิด
เสื้อวิลาดทองตบิดโภกเกล้า
หอกคู่กระลึงกฤชปิเหนาะเหนบ นาพ่อ
ไวว่องกลคลุกเคล้าพุ่งซ้องสอดแทง ฯ
๑๑๙
๏ หมื่นขุนหกเหลาแล้คู่ชัก
พันภุภาษองครักษ์ผาดผ้าย
ห่มเสื้อแดงตามศักดิ์ศรีโพก
แหนแห่หอกขวาซ้ายสี่ริ้วรายเรียง ฯ
๑๒๐
๏ เนื่องนั้นขนัดล้วนขุนตำหรวจ
โดยรดับแปดหมวดต่อเต้า
ขัดตาวแต่งอ่าอวดสง่านัก นาพ่อ
ดั่งพิริยพลเจ้าจักรแก้วก่อนปาง ฯ
๑๒๑
๏ นายมหาดแห่ต้นเชือกริ้วใน
ดาบยศฝักอุไรขัดถ้วน
ริ้วนอกสมุหไชยพระตำหรวจ์
กระบี่บั่งทองล้วนขลิบคล้องไหล่ตะพาย ฯ
๑๒๒
๏ สนับเพลาสอดนุ่งเกี้ยวประกวดลาย
เจียรบาศคาดเฟือยชายสบัดห้อย
ใส่เสื้อเทษทองพรายริ้วแย่ง
สวมประคำทองพร้อยโพกผ้าขลิบครุย ฯ
๑๒๓
๏ พวกกลองชะณะร้อยคู่ตี สนั่นแฮ
เสื้อหมวกกังเกงศรีสุกจ้า
กลองจ่าปี่จ่าทวีเสียงเสนาะ นักเฮย
เดิรแซกสี่ริ้วหน้าเครื่องชั้นฉัตร์ทอง ฯ
๑๒๔
๏ แตรฝาหรั่งหลายคู่แล้แตรงอน
สังข์สี่เคียงคู่จรจับจ้อง
ชาวเครื่องเชิดชูสลอนใส่พอก แดงเฮย
พื้นแต่ห่มเสื้อปล้องนุ่งริ้วคาดลาย ฯ
๑๒๕
๏ เครื่องห้าเครื่องเจดชั้นชุมสาย
บังแซรกสลับรายหว่างถ้วน
คันทองเพริดแพร้วพรายยงยิ่ง
เชิงช่อปักเทษล้วนเลี่อมพร้อยเพราตา ฯ
๑๒๖
๏ ชาวมหาดแต่งโอ่หน้าพิดเพลิน
แสงสาตรหว่างเครื่องเชิญเชิดผ้าย
เขนดาบหอกไชยเดิรระยะเรียบ เรียงแฮ
ใจเพชญรตาวดาบข้ายอีกแล้หอกชวา ฯ
๑๒๗
๏ บังสูริยกลดตาดกั้งแสงไถง
พัดโบกรยาบไกวกวัดแพร้ว
พระทวยรัตนอุไรชูเชิด
งามธินั่งพุดตานแพร้วเพริดด้วยจินดา ฯ
๑๒๘
๏ ออกญาปลัดล้วนทูลฉลอง
หกคู่เคียงคานสองค่างล้อม
เสื้อริ้วโภกขลิบกรองทองเทษ ไส้แฮ
ตาวตพายแล่งล้อมแห่เจ้าจอมเวียง ฯ
๑๒๙
๏ อินพรหมแปดคู่ซ้ายขวาแซง
ใส่เซรีดเสื้อเขียวแดงปกเฟื้อย
อาภรณปัดเป่าแสงวับวาบ
นุ่งสนับเพลาเรื้อยเชิดด้ำจ่ามร ฯ
๑๓๐
๏ ขบวรหลังแห่สี่ริ้วรายไป
หลวงเหล่ากรมทหารในต่อเต้า
พลพันเลือกหอกไวมวยคล่อง
อีกรักษาองค์เจ้าดาบบั้งกระบี่ทอง ฯ
๑๓๑
๏ เครื่องสูงบังแซกซ้ายเรียงราย
พื้นปักสุพรรณพรายเพรีดซ้าม
แสงง้าวหว่างเครื่องปลายฝักเชิด
หนึ่งพระแสงหอกหง้ามมหาดเชื้อเชิญจร ฯ
๑๓๒
๏ พนักงานถือเครื่องเต้าตามลี ลาศเฮย
ภานพระขันหมากมีนาคค้อม
พระเต้าสุพรรณศรีบัวแฉก
สรรพเครื่องกระษัตรพร้อมเลีศด้วยจินดา ฯ
๑๓๓
๏ แสงปืนปสงต้นแบกไต่ตาม
ถุงเทษเลื่อมลายงามต่างพื้น
ทวนทองแน่นสนนสนามง้าวหอก ไสวแฮ
พิดพู่ปลิวดาดิ้นดาษพื้นทองปราย ฯ
๑๓๔
๏ ม้าต้นม้าเทษท้าวเทียมเหาะ
ผูกเครื่องกุดั่นเบาะปกผ้า
จูงตามรายเรียงเราะยดย่าง งามแฮ
โดยตำแหน่งสองม้าคู่ขึ้นรวางธรง ฯ
๑๓๕
๏ ปืนธนูโล่ห์ดาบด้างเขนทอง
ทุกหมู่ทุกหมวดกองกึ่งหน้า
สุดริ้วจ่ารงสองฝาหรั่งลาก ตามแฮ
ดูพิฦกล่มหล้าเล่ห์น้ำนองใหล ฯ
๑๓๖
๏ เนื่องนั้นลำดับเจ้าประยูรวงษ
ภูษิตรเขียนสุวรรณธรงเพรีดแพร้ว
กรองทองคาดรัดองค์แต่งราบ
ธรงอัศวเครื่องแก้วกุดั่นพร้อยพรายงาม ฯ
๑๓๗
๏ เดิรดูตามท้ายนอกขบวนวาง
กั้งกลดหักทองขวางมหาดห้อม
ลำดับแคร่ขุนนางสมุหะ ไส้นา
ทนายพรั่งสพฤบพร้อมเสรจ์สิ้นขบวรงาม ฯ
๑๓๘
๏ สมเดจ์ธฏรษฐเจ้าภูวดล
โปรยหิรัญชาวชนไพร่ฟ้า
สองทราบวิถีถนนทัว่ราษ ฎรแฮ
ชาวพระคลังซร้องหน้าแข่งค้อยถวายเงิน ฯ
๑๓๙
๏ ประชาชนส่ำซร้องอื้ออัด
นั่งนอกริ้วราชวัฏขเม่นหมุ้ง
สาวบ่าวต่างชะระดัดนิ้วนบ สลอนแฮ
ต่างรับราชทานหยุ้งแย่งยื้ออึดอึง ฯ
๑๔๐
๏ ผู้ดีมีหน้ามั่งโภคา
แต่งโต๊ะตั้งบูชาดาษดื้น
เทียนธูปพุ่มพวงมาไลเลิศ
สองค่างรัษฐยาพื้นช่อไม้ทองเงิน ฯ
๑๔๑
๏ อเนกนาประเทษถ้วนภาษา
ต่างชื่นชมกฤษฎาพระเจ้า
สยองพระเดชเดชานุภาพ ไส้แฮ
มือประนมเหนือเกล้าอ่อนเกล้าสดุดี ฯ
๑๔๒
๏ ราษฎรอวยมงคลซ้องส่ำถวาย
สรรพสิ่งอันตรายผายอย่าแผ้ว
ผ่านภพเจริญสบายทุกเมื่อ เทิญพ่อ
อริราชสิบทิศแคล้วเกรียติ์เจ้ายาวยืน ฯ
๑๔๓
๏ เบื้องเสดจพยุหบาทริ้วรอบสถาน
เร่งขับคืนเข้าทวารไป่ช้า
เรียงรายพระราชยานประดับเทียบ เกยแฮ
พลแห่ทั่วทุกหน้านอบน้อมถวายกร ฯ
๑๔๔
๏ กลองอินทรตีย้ายท่าส่งเสดจ
ธรงพระแสงเวียดเพชญรผาดผ้าย
อาภรณเปลี่ยนเปลื้องเสรจ์สู่มณ ฑิราเฮย
พลแปดพันขวาซ้ายท่านให้แจกเงิน      ฯ
๑๔๕
๏ เบื้องนั้นดำหรัดตั้งมังคะลา
สมเดจพระอนุชาธิราชเจ้า
ให้ธรงศักดิ์นาถาแสนหนึ่ง ณพ่อ
เป็นฝ่ายหน้านั่งเกล้าราษฐแคว้นมณฑล ฯ
๑๔๖
๏ ศักรราชพันร้อยเจด์สิบเอด ปีเฮย
แถลงเมื่อปางสมเดจปิ่นด้าว
โปรดปล่อยนักโทษเสรจสิ้นตรุ แลแฮ
บำเหนจทังพญาท้าวทั่วหน้าหัวเวียง ฯ
๑๔๗
๏ ครองราษฐศุขสวัสดิเพี้ยงจักรพรรดิ์
มูลมั่งศิริสมบัติยิ่งหร้ำ
ธรงจักรหัวดิวัตรโดยทศ ธรรมเฮย
ดับยุคเยนโลกย์ล้ำเลิศเหลื้องบุญขจร ฯ
๑๔๘
๏ บำเพญภูนโพธิพร้อมศีลทาน
สร้างกุฏีวิหารมากม้วน
สร้างพุทธปัฏิมาญาณยงยิ่ง
สร้างปริยัติธรรมถ้วนคู่ค้ำสาศนา ฯ
๑๔๙
๏ บุญเพรงพระก่อส้างยิ่งนัก นาพ่อ
ได้คชเสวตรลักษณเผือกผู้
ไตรสารประเสริษฐศักดิ์ควรคู่ นครนา
ทุกเทศเลื่องข่าวรู้ต่างซ้วงสรรเสริญ ฯ
๑๕๐
๏ รามัญเมืองขึ้นเขตรเมาะตะมะ
มาสู่สมภารพระร่มเกล้า
สี่หมื่นครอบครัวคละเร่งรับ มันเฮย
ให้ผ่อนผ้าเงินเข้าทั่วทั้งไพร่นาย ฯ
๑๕๑
๏ ปางสร้างเมืองใหม่ให้มอญสถิตย์
ป้อมปราการก่ออิฐเหมาะหมั้น
งามสง่าพวกพานิชนาประเทศ
สองฟากลำน้ำกั้นศึกเสี้ยนสัตรู ฯ
๑๕๒
๏ ประตูกันสารส่งเข้ามาสมาน
ถวายราชบรรณาการอยู่เกล้า
ประบิลพัดถุ์สู่สมภารชมคช เสวตร์แฮ
เลื่องพระเกรียดิ์ยศเจ้าทั่วแค้วนชมพู ฯ
๑๕๓
๏ สรวมชีพข้าผู้ภักดีเสนอ
แต่งแต่ตามอำเภอคล่องคล้อย
ภอเปนพจนบำเรอโสตสดับ ไส้นา
พื้นภาคย์ซับทราบน้อยหนึ่งไร้ครูเรียน ฯ
๑๕๔
๏ ขบบกระษัตรสำหรับผู้อวยทาน
เกลากล่าวกลอนพิศฎารถูกถ้วน
โดยเพียรนิพนธ์สารสืบเรื่อง เรียงเฮย
หาญประดิดคำห้วนชีพข้าฃอคง ฯ
๑๕๕
๏ ปราบดาภิเศกเจ้าธรณินทร์
กรมเจษฎาบดินทร์กล่าวอ้าง
ปราชญใดได้สดับยินดีช่วย เติมนา
เฉลิมพระเกรียดิ์เจ้าช้างเผือกผู้พึงฟัง ฯ
๑๕๖
๏ คารมโคลงสุภาพข้าบาทลออง
ถวายธิเบนทราสนองเดชเจ้า
ต่างสังคีตพิณทองกล่อมราช ไซ้นา
ตราบสุเมรุเปนเผ้าขนบนี้อย่าสูญ ฯ
             

ร่าย

๏ จบบริบูรรณสินเสรจ์ เสดจพยุหบาตรา เลียบพาราโปรยทาน ครองบริพารเกษมศุข สนุกนิ์ทั่วแดนด้าว ทั่วทุกท้าวประเทศราช โอภาษเพียงทินกร พระนครทวาราวดี ศรีอยุทธยามหาดิลกภพ นพรัตนราชธานี บูรีรมอุดมสถาน ปานสุทัศนเทพสถิตย์ โศภิศพ้นที่ร่ำ ตูข้าพร่ำสรรเสริญ เชิญอมรแมนมาป้อง สิ่งใดข้องอย่าให้เคือง ให้มิ่งเมืองมงกุฎเกล้า ขอพรเจ้าจอมไกรลาศ ให้พระบาทราชบพิตร ปกาสิตรสาปสรรสัตว จงชำงัดอย่ารู้มลาย ขอพรนรายสินธุอาศน์ ให้ฤทธิราชเทียมเธอ เลอล้ำกระษัตรทัศประนม ฃอพรกมเลศให้อยู่หัว มั่วในธรรมอันเป็นประโยชน์ บำบัดโทษราษฎร ฃอพรจอมเมรุบรรพต ให้ได้คชเผือกเพิ่ม เหิ่มหฤาไทยในสมบัติ ฃอพรวัษวฬาหก ให้วิรุฬตกต้องรดูการ ธรญาหารจงมองมูล บริบูรรณทุกหมู่ไม้ ฃอพรไท้มารุตท่าน ให้ผ่านพัดใบเพตรา แต่งไปมาสดวกดี ขอพรลักษมีแม่หัวเจ้า เฝ้าอภิบาลสนมแน่ง ทุกตำแหน่งแต่งนางใน อย่าให้ใจเผื่อพาล บาลกระมลกลเกษม เปรมในราชบำรุง ผดุงไทให้ศุขสวัสดิ์ ยอพรจัตุโลกคบาล จงแผ้วพาลอันตะราย ทั่วหญิงชายชนประชา ทั่วสีมามณฑล ทั่วสากลเมืองขึ้นออก คอกช้างม้าวัวควาย ตายผีห่าอย่ารู้มี สิ่งใดดีจงเกีดกอบ สิ่งได้ชอบจงมูลมั่ง ล้นหลั่งถั่งมาเอง เพื่อบุญเพรงพระเจ้าหล้า ข้าประหนตรบทบัวบาท บงกชมาดผ่านเผ้า ฃอพรเจ้าเกล้ากรุงกระษัตร ตัดโทษทุกข์ขุกเข็ญ เย็นเกษข้าหน้าเบีกบาน จงชำนาญในกิจราช ขาดใจรักษภักดี อย่ารู้มีตราบชีพวาย เอาตัวตายแทนจงได้ ให้ฦๅชื่อซื่อต่ออยู่หัว ขอมอบตัวเปนข้าบาท ตราบสูญชาติอย่าเกิดไกล โดยใจจงคงคำข้า พระเจ้าหล้าเลิศเลื้องบุญ ธรงพระคุณเหลือที่อ้าง ศรีอยุทธยาเจ้าช้าง เผือกผู้ภูลเกษม ฯ

๏ ปราบดาภิเศกสิ้นเรื่องเรียง
ขนบพยุหเลียบเวียงขบถล้าง
จบบริบูรรณเพียงภอสติ กรองแฮ
กรมเจษฎเกลากลอนอ้างว่าไว้เปนเฉลิม ฯ
             

เชิงอรรถ

ที่มา

พระราชพิธีบรมราชาภิเษก : ประวัติศาสตร์จารีต ประเพณีจากพระราชนิพนธ์ "ยอพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ ๒" กรมศิลปากร พ.ศ. ๒๕๔๖

เครื่องมือส่วนตัว