โคลงนิราศพะเนียด

จาก ตู้หนังสือเรือนไทย

(ความแตกต่างระหว่างรุ่นปรับปรุง)
ข้ามไปที่: นำทาง, สืบค้น
CrazyHOrse (พูดคุย | เรื่องที่เขียน)
(หน้าที่ถูกสร้างด้วย '== ข้อมูลเบื้องต้น == {{เรียงลำดับ|คลโงนิราศพะนเียด}} [[…')

รุ่นปัจจุบันของ 02:51, 9 มิถุนายน 2553

เนื้อหา

ข้อมูลเบื้องต้น

แม่แบบ:เรียงลำดับ พระนิพนธ์: เจ้าฟ้ามหามาลา กรมพระยาบำราบปรปักษ์

บทประพันธ์

ร่าย

๏ ศรีสิทธิสยามภพ ล้ำเลิศลบไตรตรึง สมบัติพึงพูลเพียบ เทียบสุทัศน์ทัดเทียม เสียมสีมาไพศาล กฤษดาการไพโรจน์ จ้าจรรโจษทุกทิศ หมู่ปัจจามิตรยำเกรง เกรงพระเกียรติมาอ่อน ผ่อนแผ่นภพมาเติม เสริมแผ่นไผทไพบูรณ์ เศิกเสี้ยนสูญเย็นฉ่ำ ทุกเช้าค่ำเย็นกระมล ประชาชนชื่นบาน สุขสำราญเริงรื่น ดาดาษดื่นขายค้า หลายหลากหน้าต่างชาติ นาวากลาดแนวน้ำ มวลมากซ้ำปางเพรง อนึ่งครื้นเครงดนตรี ศัพท์เภรีพิณพาทย์ เกลื่อนกลากลาศฟ้อนรำ ระเบงระบำทุกเมื่อ เพื่อพระเดชบำรุง กรุงเทพมหานคร อมรรัตนโกสินทร์ มหินทราโยธยา มหาดิลกเลิศ ประเสริฐสุดแผ่นหล้า สนุกนิเพียงฟากฟ้า เพียบพื้นมณฑล แลแฮ ฯ


๏ ภูวดลพิภพด้าวแดนสวรรค์ สนุกฤๅ
สยามภพเจริญทันเทียบได้
สรรพสิ่งเอนกนันต์นับโกฏิ กองพ่อ
มูลมั่งศฤงฆารใช้เรื่องไร้ฤๅมี ฯ
๏ ไพชยนต์ปราสาทแม้นเมืองอินทร์
นพเสวตรฉัตรฉินเชิดกั้ง
เสวยสวัสดิพ่างวัชรินทร์จอมเทพย์
สาวสุรางค์นับตั้งแต่ร้อยคอยเสนอ ฯ
๏ ปราการประกอบซุ้มทวารกลาง
เขื่อนเพชรเขื่อนขันท์วางหว่างป้อม
ตึกแถวสกลทางราบรื่น เรียบเอย
สนามยุทธฝึกหัดซ้อมโซ่เส้นเหล็กขึง ฯ
๏ ทรงผดุงพุทธศาสน์ซ้องสมบูรณ์
สิ่งเสื่อยทรามสาปสูญก่อกู้
อาวาศวิหารมูลใหม่อีก เติมพ่อ
โดยแบบจารีตรู้ราชเกื้อการเกษม ฯ
๏ ร่มเย็นเป็นสุขทั้งดินแดน แลแฮ
ทวยราษฎร์ไป่ขาดแคลนทั่วหน้า
มนตรีพระวงศ์แสนสุขยิ่ง ยศพ่อ
สมณพราหมณ์อีกพ่อค้าคิดเลี้ยงตนสบาย ฯ
๏ แถลงปางบำราศร้างแรมไกล
จากนุชสุดอาลัยอกช้ำ
ตระกองกอดสายใจวานสั่ง นางเอย
แสนโศกฝืนโศกกล้ำสุดกลั้นกรรแสง ฯ
๏ ครานี้จักจากเจ้าเจ็บจิต จริงเฮย
แม้นข้องราชกิจห่อนร้าง
สุดรักสุดความคิดจำพราก นาแม่
เวรแห่งเราสองสร้างส่งให้ห่างสมร ฯ
๏ จงเนาในแห่งห้องหับหน
สถิตย์อยู่แต่เบื้องบนแท่นน้อง
อย่าฟังเล่ห์ลมคนพาลพูด
รู้ว่าพาลอย่าพ้องผ่องพ้นภัยตัว ฯ
๏ สั่งพลางกระหวัดเกี้ยวเกลียวกลม
เชยชื่นรื่นอารมย์ยั่วเย้า
ประทะประทับสมสังวาศ
ความรักหักความเศร้าสร่างได้คราเดียว ฯ
๑๐
๏ เสียวสวาดิบัวมาศแก้วสระสนาน
คลายกลีบขยับบานเบิกศร้อย
อุรุเคนทร์ผกพพานโผเผ่น
ลงแหล่งเล่นสระน้อยดึ่งด้นดำดาล ฯ
๑๑
๏ คงคาฉ่ำชุ่มชื้นไหลริน
ซึบซาบเอิบอาบดินหย่อมหญ้า
แมลงภู่พึงเพียรบินเอารศ ฉมเอย
อุรุคฤทธิพิศแรงกล้าพ่นกลุ้มกลับคืน ฯ
๑๒
๏ อโนทัยโอภาสแจ้งแสงฉาย
ส่องสว่างน้ำค้างพรายหมอกคลุ้ม
เจ็บใจจักไกลสายสวาดิพี่
เพลิงราคกลับแรงกลุ้มกลัดกลั้นกลืนระกำ ฯ
๑๓
๏ สายแสงสุริเยศจ้าจวบจวน
กำศรดกำศรวลครวญโศกไหม้
ทันพึงเทวศหวนโหยสวาดิ
ทรวงผ่าสองซีกได้หนึ่งไว้เคียงถนอม ฯ
๑๔
๏ ขวัญพี่ขอฝากน้องไว้คน หนึ่งเอย
ฝากรักร่วมรักจนชีพม้วย
ฝากจิตร่วมใจดลดินแหลก ลาญแฮ
ฝากชีพคู่ชีพด้วยคู่เคล้าเคียงสมร ฯ
๑๕
๏ สงสารขวัญเนตรน้องอยู่เดียว
เย็นย่ำค่ำจักเหลียวเปล่าคว้าง
พร้อมพรักรักษกลมเกลียวกลางฟูก แม่เอย
ยามนิราแรมร้างฟูกร้อนนอนเดียว ฯ
๑๖
๏ ยามสายวายโศรกสู้อดฝืน สั่งเอย
ไปบ่นานจักคืนอย่าเศร้า
ยามรักดั่งจักกลืนเจียวแม่ นาแม่
ยามทุกข์จักจากเจ้าเจ็บช้ำระกำทรวง ฯ
๑๗
๏ เสร็จสารเสร็จสั่งแล้วโลมลา
จำจิตจำจากคลาสั่งซ้ำ
ไปลับกลับหลังมาแลสั่ง อีกเอย
แลพบสพเนตรน้ำเนตรน้องนองพรู ฯ
๑๘
๏ ลงเรือท่าพระพร้องพร่ำบวง สรวงเอย
พระช่วยดับแดทรวงหม่นไหม้
รักษาสุดาดวงเดียวเด็จ ไว้ฮา
สิ่งทุกข์ขุกเข็ญไข้พระให้หายสูญ ฯ
๑๙
๏ ออกเรือ ๆ เคลื่อนโอ้อรเอย
คิดใคร่คืนหลังเชยชื่นช้า
เรือเดินบกลับเลยเร็วรวด ไปเฮย
เหลียวกลับลับหน้าอ้าอกร้อนแรมรุม ฯ
๒๐
๏ เรือกลเพลิงเร่งต้มชลธี
เดือดพล่านสติมมีมากล้น
ทรวงร้อนเล่ห์อัคนีเลือดเดือด เจียวแม่
ร้อนรักแรงยิ่งพ้นหม้อน้ำเรือไฟ ฯ
๒๑
๏ เรือแรงเร็ววิ่งน้ำทรวงโซม
คลื่นกระทบเรือโครมเฟื่องฟุ้ง
ชลสาดคิดสาดโฉมตามสาด เรียมเอย
เคลิ้มจิตหวนคิดสดุ้งอ่อโอ้ชลกระเซ็น ฯ
๒๒
๏ บางกอก ๆ โรคเรื้อรังนาน
โรครักหนักปิ้มปานป่วยไข้
ทรวงกรมกระอุรานบวมบอบ แลแฮ
บางช่วยกอกโรคให้เหือดเศร้าโศกหาย ฯ
๒๓
๏ โรงเหล้าเตากลั่นต้มเดือดคลั่ก คลักเอย
กลั่นเหล้าเรากลั่นรักเท่าแท้
หม้อร้อนอกร้อนนักเดือดพลุ่ง นาพ่อ
เมารักเมาเหล้าแต้คลั่งเคลิ้มสติลอย ฯ
๒๔
๏ สามแสนคำกล่าวอ้างแต่ปาง ก่อนฤๅ
แสนโศกยิ่งแสนบางสี่ห้า
สามแสนฉุดพระกลางสายสมุทร นี้เอย
แสนรักสุดแสนกล้ายิ่งล้ำเหลือแสน ฯ
๒๕
๏ บางจากเรียมจากเจ้าเจ็บใจ พี่เอย
จากนุชสุดอาลัยอกช้ำ
จากแล้วจากมาไกลเจอะจาก บางนา
จากมิตรจากบางซ้ำสุดแค้นจากจริง ฯ
๒๖
๏ บางพลู ๆ จีบเจ้าจีบประจง
หมากแม่เจียนจัดลงจอกน้อย
แรมร้างห่างอนงค์มาเด็ด เดี่ยวเฮย
นั่งนึกน้ำตาย้อยแค่นเคี้ยวพลูใบ ฯ
๒๗
๏ บางพลัด ๆ ถิ่นบ้านโรเร มานา
พลัดสุดาเดียวเหห่างห้อง
พลัดมิตรคิดลังเลคลุ้มคลั่ง
พลัดถิ่นพลัดบางข้องชื่อพร้องพลัดนาง ฯ
๒๘
๏ บางซื่อคิดซื่อเจ้าสุดตรง แลแฮ
ซื่อเจาะจำเพาะจงพี่นี้
ชายอื่นนึกจำนงนางหลีก เลี่ยงเอย
รักชื่อบางซื่อชี้เช่นน้องนางตรง ฯ
๒๙
๏ บางซ่อน ๆ รูปน้องซ่อนเป็น จริงนอ
ซ่อนมิให้ชายเห็นเพราะรู้
หลบซ่อนอยู่จนเย็นฤๅออก เลยนา
บางซ่อนเล่ห์ซ่อนชู้ห่อนให้เห็นตัว ฯ
๓๐
๏ บางเขนความคับแค้นแสนเข็ญ
เจียนว่าเลือดตากระเด็นว่าได้
ทุกข์รักหักเล็งเห็นสุดยาก เจียวเฮย
แม้จักเปรียบเทียบไว้กว่าร้อยเข็ญบาง ฯ
๓๑
๏ บางขุนเทียนถิ่นบ้านบอกแถลง
เทียนเล่ห์เทียนขาวแสงสว่างล้น
ยามชื่นอยู่เรือนแฝงแอบซ่อน เรียมเอย
เทียนพี่จุดเที่ยวค้นส่องห้องเห็นนาง ฯ
๓๒
๏ บางขวางคิดเคียดแค้นนามบาง
ขวางเล่ห์รักแรมนางเนิ่นช้า
บางขวางเกิดการขวางจำพราก มานา
การฤกีดขวางหน้าอยู่เคล้าถนอมโฉม ฯ
๓๓
๏ ตลาดขวัญ ๆ เนตรเนาเรือน
ยามค่ำใครจักเตือนหับห้อง
ขวัญเอยอย่าแชเชือนอยู่สมัคร สมรนา
ขวัญอ่อนฟังเรียมพร้องเรียกร้องเชิญขวัญ ฯ
๓๔
๏ ชมพฤกษ์นึกหน้านิ่มนวลนาง
ปรางเปรียบเทียบนวลปรางเปล่งเปลื้อง
นมสวรรค์สไบบางบังปิด ถันเอย
ลางสาดเล่ห์ลาดเยื้องยักย้ายกระบวนชวน ฯ
๓๕
๏ กอรกำกำศรดสู้กลืนรกำ
สะละสะละจำจากไร้
รักน้ำรักน้ำคำวรสั่ง พี่เฮย
โศกยิ่งแสนโศกไหม้สุดกลั้นทรวงตรอม ฯ
๓๖
๏ ชมเฌองามช่อช้อยดวงมาลย์
เผยผกาเบิกบานส่งสร้อย
ใจเรียมกรอบเกรียมปานผิงถ่าน เพลิงพ่อ
ชมพฤกษนึกหวนละห้อยห่างน้องเบื่อชม ฯ
๓๗
๏ ลันลุงลาญเทวศโอ้อาวร
เรียมนิราแรมจรจากน้อง
เลี้ยวแหลมคิดแหลมศรเนตรเสียบ ทรวงเอย
หวนว่าเห็นแห่งห้องติดต้องแลหาย ฯ
๓๘
๏ ปากเตร็จเรือเลี้ยวช่องคลองลัด
เรือลูกค้าเยียดยัดด่านค้น
เรือเรียมเรื่อยผ่านตัดหน้าด่าน ไปนา
บันทุกทุกข์เพียบล้นด่านจ้องมองดู ฯ
๓๙
๏ ออกอ่าวแลโว่งว้างขวัญหาย
ตั้งแต่จะไกลสายสวาทว้า
นั่งนิ่งนึกเสียดายดวงเนตร เรียมเอย
เคลิ้มจิตคิดเห็นหน้านึกหน้านางหาย ฯ
๔๐
๏ บางพูดเกิดหาดตื้นกลางชล
พูดสั่งเป็นกังวลอกตื้น
เรียมพูดปลอบอยู่จนจวนรุ่ง นาพ่อ
พูดอ่อยม่อยหลับฟื้นพูดซ้ำลามา ฯ
๔๑
๏ บ้านใหม่ใจเจ็บช้ำกำสรด เสียวเฮย
รักใหม่ไม่ควรปลดปลิดทิ้ง
ชื่นชมภิรมย์รศฤๅหน่าย เลยพ่อ
เด็ดสวาดิขาดรักกลิ้งกลัดกลุ้มกลางทรวง ฯ
๔๒
๏ บางพังชังชื่อบ้านเหลือพัง นักเอย
แกล้งเรียกให้ใครฟังชื่อนี้
เห็นทุกข์แทบทรวงพังเรียกเยาะ เรียมนา
พังก็พังอย่าชี้ชื่อแค้นเคืองใจ ฯ
๔๓
๏ บางหลวงมีชื่อท้ายไหว้พระ
พระวัดไหนแม้นปะจะไหว้
แลตามตลิ่งระฤๅสบ พระเอย
บางยอกชื่อหลอกให้พี่ค้นจนเกิน ฯ
๔๔
๏ อาลัยใจป่วนปิ้มทรงสลาย
ถึงถิ่นทองหลางรายโรคซ้ำ
เสียวสวาดิบาดระคายเคืองยอก อกเอย
หนามเหน็บเจ็บจากช้ำยิ่งล้ำหนามทอง ฯ
๔๕
๏ เชิงราคร้อนราคกลุ้มกลางแด
กรรมวิบากดลแหห่างห้อง
คิดโฉมวิลัยแลลาญเทวศ
ร้อนราคจากนวลน้องยิ่งพ้นนามบาง ฯ
๔๖
๏ รพีพรรณจรัสร้อนระงมกาย
ร้อนแดดลมพัดชายชื่นบ้าง
ร้อนรักจักหักหายแสนยาก
จิจิตจำจากร้างเร่งร้อนสุดระทม ฯ
๔๗
๏ เห็นนกบินร่อนย้อนไปหลัง
วานนกไปแวะวังสั่งถ้อย
เรียมทุกข์แทบทรวงพังพูลเทวศ
นกช่วยบอกน้องน้อยสั่งแล้วเลยจร ฯ
๔๘
๏ สามโคกคิดโคกน้อยนงพาล พี่เอย
สามโคกจักเปรียบปานหนึ่งได้
ยามค่ำสุขสำราญเนาโคก น้องนา
เวรซัดกำจัดไร้โคกร้างห่างเรือน ฯ
๔๙
๏ สามโคกโคกหนึ่งนั้นระรก
ล้วนแต่แขมคากกกนากคลุ้ม
ชายโคกประปรกปกยิ่งโคก อื่นเอย
คิดโคกเคืองโคกกลุ้มเกลียดแกล้งเลยเมิน ฯ
๕๐
๏ สามโคกกลางโคกนั้นเหมาะเจาะ
ดูเด่นเห็นจำเพาะเช่นชี้
อกเอยตกคราวเคราะห์ต้องจาก โคกนา
ถึงโคกคิดโคกกี้โคกแก้วควรสงวน ฯ
๕๑
๏ มวลมอญมีมากล้นแลหลาย
กลากลาดทั้งหญิงชายมากหน้า
เรียมดูหมู่มอญรายบ้านทั่ว แล้วเอย
เทียมแต่เพียงข้อยข้าช่วงใช้ในเรือน ฯ
๕๒
๏ ตะวันบ่ายชายคล้อยเคลื่อนลมกระพือ
ลุย่านบ้านบางกระบือทุ่งกว้าง
ใจเรียมเล่ห์เพลิงฮือร้อนยิ่ง นักแม่
แสนโศกสุดที่อ้างอกร้าวฤๅเสบย ฯ
๕๓
๏ เกาะใหญ่มีชื่อชี้ราชคราม
เกาะเช่นเกาะโฉมงามแนบเคล้า
คิดอรออกเรือตามเกาะพี่ มานา
เหลียวบเห็นแสนเศร้าสุดอ้างโอฐแถลง ฯ
๕๔
๏ ลานเทเทออกอ้างความทุกข์
แลบเห็นการสนุกสักน้อย
จากนางสร่างสิ่งสุขแสนเทวศ
ลานใหญ่ดูเล็กจ้อยทุกข์ล้นเหลือลาน ฯ
๕๕
๏ ลานเทเททุกข์ตั้งเต็มลาน
สองฝั่งพ้นประมาณใหญ่กว้าง
ทุกข์พรากจากสถานทนเทวศ นักพ่อ
เต็มทุ่งเต็มลานอ้างอกนั้นยังเต็ม ฯ
๕๖
๏ บางไทรด่านตั้งฝั่งบูรพา
คอยเรียกเรือไปมาแวะค้น
เรียมบำราศแรมคลาทุกข์หนัก ทรวงแฮ
บันทุกเรือเหลือล้นเพียบแต่ด่านเมิน ฯ
๕๗
๏ บ้านแป้งคิดแป้งร่ำจัดผจง
ปรุงประอุระทรงกลิ่นเร้า
ยามยากจากอนงค์อนาถนัก นาแม่
มอมหมักเหงื่อไคลเศร้าขาดแป้งเคยทา ฯ
๕๘
๏ วายุพัดพัดเฉื่อยช้าฉิวฉิว
เจียนจักพักเรียมปลิวกลับย้อน
ลมขึ้นจิตคิดหวิวเวียนกลับ หลังเอย
ลมบเย็นยิ่งร้อนเร่งร้อนรึงทรวง ฯ
๕๙
๏ จากนางร้างรักไร้เต็มแกน
ชมแต่ฝูงโคแทนสร่างเศร้า
นางโคหมู่โคแหนหวงสวาดิ โคเอย
คิดเช่นเรียมหวงเจ้าเล่ห์เจ้าตามหวง ฯ
๖๐
๏ เกาะเกิดเกิดเกาะขึ้นกลางชล
เกาะเช่นกรรมเกิดดลเด็ดร้าง
เกาะเกิดเกิดกังวลหวงสวาดิ
เกาะจิตคิดเกาะอ้างเกาะน้องเนานอน ฯ
๖๑
๏ ยามเย็นพิโยคไร้แรมเรือน
ดูวิหคคู่เตือนจิตเศร้า
นกคู่จับคู่เหมือนเรียมจับ คู่นา
เคียงพลอดพลางพลอดเคล้านึกแค้นคนึงนาง ฯ
๖๒
๏ นกเอ๋ยเคียงคู่เคล้าเราดู นกนา
แค้นจิตคิดอดสูนกน้อย
เรียมจากนกจับคูขันเยาะ เรียมเอย
แม้นพธูติดต้อยนกนี้แหนงอาย ฯ
๖๓
๏ บางปอินเอกเอี่ยมอ้างไอศวรรย์
ทิพยอาศน์ราชรังสรรใหม่แท้
ผิดเพี้ยนเปลี่ยนแบบบรรพ์หลากเลิศ แลแฮ
ทรงเริ่มดำริแก้แม่นแม้นยุรเบียน ฯ
๖๔
๏ พื้นปราบราบรื่นท้องรัฐยา
ร่มรุกขอำภามากต้น
มีสพังคั่งคงคาใสสะอาด
ปราสาทประเสริฐล้นเลิศล้วนรังผจง ฯ
๖๕
๏ ตึกตำหนักก่อสร้างสุดแสนสบาย
สำหรับรับเจ้านายเสด็จยั้ง
ฝ่ายหน้าฝ่ายในรายเรียงรอบ
ทั้งที่ทหารตั้งตึกไว้อยู่ประจำ ฯ
๖๖
๏ พระดำเนินประทับยั้งปางใด
ทรงประพาสชลาลัยทุ่งกว้าง
สำราญราชหฤทัยทุกเมื่อ
เพียงพิมานทิพย์อ้างสุขแม้นแมนเมือง ฯ
๖๗
๏ คิดเดือนกรรดึกตั้งเฉลิมฉลอง
งามประทีปเรืองรองรุ่งฟ้า
ราตรีมี่เสียงกลองหนักครึก ครื้นเฮย
ละครใหญ่เล่นสู้กล้ารับงิ้วงานประชัน ฯ
๖๘
๏ ชุมชนชาวบ้านนอกมาดู งานเอย
ดาษดื่นตื่นเกรียวกรูใช่น้อย
สาวบ่าวเบิกบานชูใจชื่น ชมนา
งานใหญ่นานนับร้อยหนึ่งครั้งเดียวมี ฯ
๖๙
๏ พระเกียรติปรากฏทั้งภวดล
ชุ่มชื่นชอบใจชนสนุกล้วน
บริจาคแจกคนจนฉลากหลาก หลากเฮย
กำหนดห้าพันถ้วนทั่วหน้าเสมอสมาน ฯ
๗๐
๏ ชมพลางพลางคิดโอ้อาลัย
มาเปลี่ยวเดียวเด็ดไกลนิ่มน้อง
แม้สมรมิ่งมาในเรือพี่ แล้วเอย
ปางพี่ชมนางพร้องพี่พร้องนางชม ฯ
๗๑
๏ ใจวลเรือวิ่งร้อนเร็วจี๋
ถึงที่เกาะพระมีชื่ออ้าง
พระคนฤๅพระผีอยู่เกาะ นี้นา
พระช่วยดับโศกบ้างสุดร้อนเหลือตรอม ฯ
๗๒
๏ คุ้งหนึ่งยินเล่าอ้างมานม นานนา
ว่าสะเภาล่มจมที่นี้
อกเรียมทุกข์ทับถมเต็มเพียบ
เรือที่ล่มก่อนกี้เพียบแม้นทรวงเรียม ฯ
๗๓
๏ บันลุอาวาศพร้องโปรดสัตว์
พระโปรดช่วยบำบัดโศกไหม้
จากถิ่นทุกข์โทมนัศทนเทวศ
ขอพระโปรดข้าได้กลับบ้านคืนเรือน ฯ
๗๔
๏ เกาะเรียน ๆ รักตั้งความเพียร
รักที่ร้างแรกเรียนแรกรู้
รู้รสรักร้างเจียนใจขาด เจียวแม่
เรียนรักเรียนร้างชู้เข็ดแล้วเบื่อเรียน ฯ
๗๕
๏ เกาะเรียน ๆ รักได้ดังหมาย
รักไม่ทันเคลื่อนคลายคราดร้าง
คนึงนุชสุดเสียดายเรียนยาก นักเอย
ดังเริ่มเรียนก่อสร้างแรกรู้เชิงเรียน ฯ
๗๖
๏ เกาะเรียน ๆ รักรู้เรียนกลอน
เรียนรินิราศจรจากน้อง
เรียนกลลักษณะอักษรโคลงกาพย์
เรียนร่ำพร่ำสั่งห้องเสร็จสิ้นเชิงเรียน ฯ
๗๗
๏ ตึกตเกี่ยแต่ก่อนโพ้นเลื่องลือ
เหล่าคุหร่านนับถือกราบไหว้
คำเรียกว่าตเกี่ยคือผู้วิเศษ แขกเอย
มีทุกข์คับแค้นไข้พร่ำพร้องบวงบน ฯ
๗๘
๏ เรียมทนทุกข์เทวศร้อนฤๅเสบย
อกอนาถขาดพี่เชยชื่นร้าง
ขอตเกี่ยชักที่เคยมาสบ สมเฮย
จงเสร็จสำเร็จค้างลุแล้วยอมถวาย ฯ
๗๙
๏ เห็นวิหคบินร่อนร้ามาหลาย นกเอย
หมู่นกยามเย็นหมายป่าไม้
นกฝูงย่อมขวนขวายรังอยู่ คู่นา
เรียมนิราแรมไร้เริศร้างรังเรือน ฯ
๘๐
๏ วิเวกดุเหว่าร้องเสียงใส
เสียงดุเหว่านิกระไรเพราะพร้อง
ฟังนกคิดสายใจเสียงจับ จิตเอย
แสนเสนาะนกจับร้องยอดไม้เวฬู ฯ
๘๑
๏ น้ำวลหน้าป้อมเพชรไปดล
หวาดว่าย่านน้ำวลถิ่นบ้าน
ขวัญใจพี่อยู่บลคฤหาส แลฤๅ
อ่อใช่น้ำวลย่านคิดแล้วนึกอาย ฯ
๘๒
๏ วัดเชิงวัดแต่เบื้องโบราณ มานา
ปฏิมามหาวิหารใหญ่แท้
ยกหัตถนมัสการวอนกล่าว
ขอพระคุณพระแก้โศกข้าคืนเกษม ฯ
๘๓
๏ สวนพลูคลองน้อยนั่งแลดู
คิดว่าเช่นพลูชูชื่นช้อย
สวนพลูบมีพลูยินชื่อ พลูเอย
รำลึกพลูใบน้อยจากช้าราโรย ฯ
๘๔
๏ ชาวเรือเที่ยวขึ้นล่องแลหลาย
บันทุกสินค้าขายแลกล้ำ
ทรวงเรียมทุกข์บคลายเต็มเพียบ
คิดใคร่จ่ายขายช้ำแลกล้ำใครดี ฯ
๘๕
๏ คลองทราย ๆ เกิดขึ้นมูลมอง
ทางแยกเป็นสองคลองลัดด้น
ขาดทุกข์เกิดสุขกองหนักยิ่ง ทรายเอย
แลตลิ่งเลยพ้นปากน้ำคลองทราย ฯ
๘๖
๏ ชาวเมืองตั้งรั้วเรียกริมเฉนียน
สองฟากที่ว่างเตียนหมู่บ้าน
แลหลิ่งหลากอาเกียรเรือนทับ กระท่อมเฮย
จึงปลูกโรงตั้งร้านเช่าช้ำทำกิน ฯ
๘๗
๏ ทำสีตีมีดพร้าค้าขาย
ทำแต่ลำพังกายแทะไท้
หากินกอบการหลายอย่างต่าง ต่างนา
พอประโยชน์ได้ใช้มากน้อยตามควร ฯ
๘๘
๏ หัวรอแพแม่ค้าขายของ
เนืองเนืองแนวฝั่งสองฟากน้ำ
เยียดยัดอัดปากคลองบางขวด เจียวพ่อ
ครบสิ่งเครื่องใช้ล้ำแต่งตั้งเต็มแพ ฯ
๘๙
๏ ทางแยกเรือขึ้นช่องทางกลาง
ท้ายเกาะเกิดหาดขวางร่องน้ำ
แค้นเกาะคิดเกาะนางแนบเกาะ อกเอย
หาดบ่กีดพายจ้ำร่องน้ำเดินสบาย ฯ
๙๐
๏ ถึงพะเนียดพอได้สี่โมงเย็น
เห็นท่าเห็นที่เห็นทุ่งกว้าง
เคยพักทุกคราวเป็นสุขสร่าง ใจนา
คิดเมื่อรวมโขลงช้างแขกคล้องพลายเพรียว ฯ
๙๑
๏ ขึ้นพักตำหนักตั้งฝั่งหน พะเนียดเอย
ต่างเร่งจักของขนพรักพร้อม
ทับทิมกระท่อมพลรายรอบ
มวญหมวดพาเหียรห้อมแห่งนั้นหนแหน ฯ
             

เชิงอรรถ

ที่มา

ประชุมนิราศคำโคลง รวบรวมโดย พ. ณ. ประมวลมารค พิมพ์ครั้งแรก กันยายน ๒๕๑๓ แพร่พิทยา

เครื่องมือส่วนตัว