นิพพานวังหน้า
จาก ตู้หนังสือเรือนไทย
(ความแตกต่างระหว่างรุ่นปรับปรุง)
(เพิ่มเติมบทที่ ๓๐-๔๐) |
ล (เติมเคร่องหมายฟองมันและตรวจแก้คำผิด) |
||
แถว 1: | แถว 1: | ||
+ | {{ โครง }} | ||
==เรื่องนิพานวังน่า== | ==เรื่องนิพานวังน่า== | ||
แถว 13: | แถว 14: | ||
<tpoem> | <tpoem> | ||
- | + | ๏ วงษ์อินทกรุงธิปัตเอก อิศรา | |
หน่อมงกุฎอยุทธยา เลื่องโลกย์ | หน่อมงกุฎอยุทธยา เลื่องโลกย์ | ||
สืบสายกรมฝ่ายน่า แรมนิราศ | สืบสายกรมฝ่ายน่า แรมนิราศ | ||
ทรงคิดคราววิโยค พระบิดุร้างสู่สวรรค์ | ทรงคิดคราววิโยค พระบิดุร้างสู่สวรรค์ | ||
- | พระปิ่นอยุทธเยศเจ้า ทรงธรรม์ | + | ๏ พระปิ่นอยุทธเยศเจ้า ทรงธรรม์ |
นุภาพปราบมนุศย์สวรรค์ ฟากฟ้า | นุภาพปราบมนุศย์สวรรค์ ฟากฟ้า | ||
สี่ทวีปถวายบรร ณาน้อม | สี่ทวีปถวายบรร ณาน้อม | ||
เกรงบพิตรพระจอมหล้า โลกย์ลั่นฦๅแขยง | เกรงบพิตรพระจอมหล้า โลกย์ลั่นฦๅแขยง | ||
- | เคยเสด็จออกแสนเส หนางค์ | + | ๏ เคยเสด็จออกแสนเส หนางค์ |
ร้อยเอ็ดโอนอุตมางค์ นอบน้อม | ร้อยเอ็ดโอนอุตมางค์ นอบน้อม | ||
พระฤทธิ์เรืองปานปาง สุริเยศ | พระฤทธิ์เรืองปานปาง สุริเยศ | ||
ทั้งหมื่นกรุงสพรั่งพร้อม กราบเกล้าเศียรสยอง | ทั้งหมื่นกรุงสพรั่งพร้อม กราบเกล้าเศียรสยอง | ||
- | พระคุณเฮยแต่นี้เงียบ วังเยน | + | ๏ พระคุณเฮยแต่นี้เงียบ วังเยน |
เคยเผยสีหเหน ลูกไห้ | เคยเผยสีหเหน ลูกไห้ | ||
ยามศุขกลับไปเปน ทุกข์เทวศ | ยามศุขกลับไปเปน ทุกข์เทวศ | ||
คิดฤๅวายวางไข้ จิตรโอ้อาดูร | คิดฤๅวายวางไข้ จิตรโอ้อาดูร | ||
- | พระจอมมกุฎสามภพไห้ สั่งเวียง | + | ๏ พระจอมมกุฎสามภพไห้ สั่งเวียง |
พระสนมเสนาะเรียง ร่ำร้อง | พระสนมเสนาะเรียง ร่ำร้อง | ||
หมู่มุขมนตรีเคียง ครวญคร่ำ | หมู่มุขมนตรีเคียง ครวญคร่ำ | ||
เสียงพิฦกลั่นก้อง โศกแส้วังโหย | เสียงพิฦกลั่นก้อง โศกแส้วังโหย | ||
- | พระกาญจน์ยอดแก้วเฮ่ย ยังหัน | + | ๏ พระกาญจน์ยอดแก้วเฮ่ย ยังหัน |
เสร็จมาเมื้อเมืองสวรรค์ สู่ฟ้า | เสร็จมาเมื้อเมืองสวรรค์ สู่ฟ้า | ||
ฤๅเคียดเสน่ห์ผัน หุยหุง เสียเนอ | ฤๅเคียดเสน่ห์ผัน หุยหุง เสียเนอ | ||
ม้วยแต่นับโมงถ้า ทุกค่ำคืนหาย | ม้วยแต่นับโมงถ้า ทุกค่ำคืนหาย | ||
- | พระร่มโพธิ์เกษมิ่ง กระหม่อมเฮย | + | ๏ พระร่มโพธิ์เกษมิ่ง กระหม่อมเฮย |
ยามกระเษมแสนเสวย ศุขภาพ | ยามกระเษมแสนเสวย ศุขภาพ | ||
สุรางค์บำเรอเคย สพรั่ง พร้อมแฮ | สุรางค์บำเรอเคย สพรั่ง พร้อมแฮ | ||
เรียงรอบศิโรราบ ราชร้างแรมโฉม | เรียงรอบศิโรราบ ราชร้างแรมโฉม | ||
- | โอ้จอมมงกุฎเกล้า จากจร | + | ๏ โอ้จอมมงกุฎเกล้า จากจร |
กรมพระราชวังบวร แรมร้าง | กรมพระราชวังบวร แรมร้าง | ||
ลูกทุ่มทรวงอาทร เทวศไห้ | ลูกทุ่มทรวงอาทร เทวศไห้ | ||
แสนทุกข์บวายว่าง ที่เมื้อจักเห็น | แสนทุกข์บวายว่าง ที่เมื้อจักเห็น | ||
- | ย่ำยามสดับเสียง ประโคมวัง | + | ๏ ย่ำยามสดับเสียง ประโคมวัง |
ดุริยางค์เสนาะดัง พาทย์ฆ้อง | ดุริยางค์เสนาะดัง พาทย์ฆ้อง | ||
ทีนี้จะเงียบแตรสังข์ สูญถนัด | ทีนี้จะเงียบแตรสังข์ สูญถนัด | ||
ฟังแต่เสียงสกุณก้อง กรู่แก้วเกลื่อนขัน | ฟังแต่เสียงสกุณก้อง กรู่แก้วเกลื่อนขัน | ||
- | พระคุณเอ๋ยเคยทรงสร้าง สมภาร | + | ๏ พระคุณเอ๋ยเคยทรงสร้าง สมภาร |
ปราถนาพระโพธิญาณ ยอดแก้ว | ปราถนาพระโพธิญาณ ยอดแก้ว | ||
ออกโอษฐ์ขอคชทการ นำสัตว์ | ออกโอษฐ์ขอคชทการ นำสัตว์ | ||
แถว 56: | แถว 57: | ||
ครุวารกติกมาเส สุกรอัคสังวชเร เหมันต์จตุมีดิถียัง | ครุวารกติกมาเส สุกรอัคสังวชเร เหมันต์จตุมีดิถียัง | ||
+ | |||
<tpoem> | <tpoem> | ||
- | นาฬิกาหึ่งๆ ถึงยามสอง ได้สามบาทคาดฆ้องประโคมสังข์ | + | ๏ นาฬิกาหึ่งๆ ถึงยามสอง ได้สามบาทคาดฆ้องประโคมสังข์ |
พระมงกุฏปิ่นเกษนิเวศวัง ไม่รอรั้งร้างมิ่งพิมานเย็น | พระมงกุฏปิ่นเกษนิเวศวัง ไม่รอรั้งร้างมิ่งพิมานเย็น | ||
- | พระสฐานสถิตย์เยือกยินแต่เสียง สุรางค์เรียงร่ำเทวศก็เหลือเข็ญ | + | ๏ พระสฐานสถิตย์เยือกยินแต่เสียง สุรางค์เรียงร่ำเทวศก็เหลือเข็ญ |
ข้าธุลีมีกรรมจึงจำเปน ไม่เห็นเลยหลักภพวิบัติวาย | ข้าธุลีมีกรรมจึงจำเปน ไม่เห็นเลยหลักภพวิบัติวาย | ||
- | โอ้พระมิ่งโมฬีที่พึ่งโลกย์ ประชาโศกแสนลห้อยไม่รู้หาย | + | ๏ โอ้พระมิ่งโมฬีที่พึ่งโลกย์ ประชาโศกแสนลห้อยไม่รู้หาย |
ฤๅผลเวรสัตว์ทำประจำกาย จึงทำลายเจาะจอมกระหม่อมจง | ฤๅผลเวรสัตว์ทำประจำกาย จึงทำลายเจาะจอมกระหม่อมจง | ||
- | พระกฤษดาดังพรหมอุดมเดช ที่ทรงเพศพาหนะพระยาหงษ์ | + | ๏ พระกฤษดาดังพรหมอุดมเดช ที่ทรงเพศพาหนะพระยาหงษ์ |
เหมือนสุริเยศไขศรีรวีวงษ์ เมื่อเสร็จทรงกลดเยี่ยมโพยมงาม | เหมือนสุริเยศไขศรีรวีวงษ์ เมื่อเสร็จทรงกลดเยี่ยมโพยมงาม | ||
- | อรินทร์ราชกราบเกรงพระบารเมศ มงกุฏเกษสรวมชีพทวีปสาม | + | ๏ อรินทร์ราชกราบเกรงพระบารเมศ มงกุฏเกษสรวมชีพทวีปสาม |
เคยเปนฉัตรแก้วกั้นสุวรรณวาม ดังศศิตามส่องโลกย์สว่างวาว | เคยเปนฉัตรแก้วกั้นสุวรรณวาม ดังศศิตามส่องโลกย์สว่างวาว | ||
- | เย็นเกษบารเมศบรมจักร ที่พำนักนิ์หายหาชนาหนาว | + | ๏ เย็นเกษบารเมศบรมจักร ที่พำนักนิ์หายหาชนาหนาว |
พระอานุภาพเลิศลบจบแตนดาว ปัจจาผ่าวอุรพารอาใจ | พระอานุภาพเลิศลบจบแตนดาว ปัจจาผ่าวอุรพารอาใจ | ||
- | อันปิ่นราชนิเวศน์วังบวร ดัษกรรื่นาบกราบไสว | + | ๏ อันปิ่นราชนิเวศน์วังบวร ดัษกรรื่นาบกราบไสว |
ถึงรัตนังอังวะที่ฦๅไกร ก็ปราบได้ด้วยพระฤทธิ์เดชาชาย | ถึงรัตนังอังวะที่ฦๅไกร ก็ปราบได้ด้วยพระฤทธิ์เดชาชาย | ||
- | เมื่อปางหลังที่นั่งสุรามรินทร์ อยุทธสิ้นย่อยยับประหารหาย | + | ๏ เมื่อปางหลังที่นั่งสุรามรินทร์ อยุทธสิ้นย่อยยับประหารหาย |
เพราะไพรินทร์ลุยลามตามทำลาย กระหม่อมหมายเมืองล่มไม่เล็งคืน | เพราะไพรินทร์ลุยลามตามทำลาย กระหม่อมหมายเมืองล่มไม่เล็งคืน | ||
- | บิตุรงทรงนามธรรมิกราช ทั้งสามโลกย์เนียรนาศไม่อาจฝืน | + | ๏ บิตุรงทรงนามธรรมิกราช ทั้งสามโลกย์เนียรนาศไม่อาจฝืน |
มายกพระสาศนาภิญยายืน ประชาชื่นชมโพธิสมภาร | มายกพระสาศนาภิญยายืน ประชาชื่นชมโพธิสมภาร | ||
- | คือล้นกระหม่อมมิ่งมไหวงษ์ สองพระองค์เลิศฟ้ามงกุฏสฐาน | + | ๏ คือล้นกระหม่อมมิ่งมไหวงษ์ สองพระองค์เลิศฟ้ามงกุฏสฐาน |
แบ่งภาคจากองค์พระอวตาร ผ่านนิเวศน์ปราบดาด้วยบารมี ... (๑๐) | แบ่งภาคจากองค์พระอวตาร ผ่านนิเวศน์ปราบดาด้วยบารมี ... (๑๐) | ||
- | + | ๏ จึงสิ้นยุคสุขกระเษมทั้งสามภพ เทพนบน้อมเกษทุกราษี | |
- | + | ||
สรรเสริญเดชาทั้งธาษ์ตรี กรชุลีโปรยทิพย์สุมาลย์มา | สรรเสริญเดชาทั้งธาษ์ตรี กรชุลีโปรยทิพย์สุมาลย์มา | ||
- | โอ้พระคุณเคยการุญพำนักนิ์โลก ยิ่งวิโยคยามร้อนไม่ผ่อนหา | + | ๏ โอ้พระคุณเคยการุญพำนักนิ์โลก ยิ่งวิโยคยามร้อนไม่ผ่อนหา |
เมื่อดับเข็ญเย็นแล้วทั้งโลกา ไยนิราร้างราษฏร์อนาถเนาว์ | เมื่อดับเข็ญเย็นแล้วทั้งโลกา ไยนิราร้างราษฏร์อนาถเนาว์ | ||
- | ปางครั้งทศเศียรอสุรภักตร์ เที่ยวหาญหักสามโลกย์ได้โศกเศร้า | + | ๏ ปางครั้งทศเศียรอสุรภักตร์ เที่ยวหาญหักสามโลกย์ได้โศกเศร้า |
นารายน์รามตามล้างจึงบางเบา บันเทาทุกข์ทั่วเทพดาคืน | นารายน์รามตามล้างจึงบางเบา บันเทาทุกข์ทั่วเทพดาคืน | ||
- | สุดกระเษมไตรภพสบกระสัน อภิวันทุกพิมานสำราญรื่น | + | ๏ สุดกระเษมไตรภพสบกระสัน อภิวันทุกพิมานสำราญรื่น |
เหมือนปิ่นจอมล้นกระหม่อมเมื่อยังยืน หมื่นนิเวศน์วรถวายสุมาลี | เหมือนปิ่นจอมล้นกระหม่อมเมื่อยังยืน หมื่นนิเวศน์วรถวายสุมาลี | ||
- | จึงนิพนธ์แต่หลังไว้หวังสนอง ให้จำลองสืบกระษัตริย์บดีศรี | + | ๏ จึงนิพนธ์แต่หลังไว้หวังสนอง ให้จำลองสืบกระษัตริย์บดีศรี |
หนึ่งครุลหุเคียงแต่เพียงตรี ที่ท่านปรีชาช่วยอำนวยกลอน | หนึ่งครุลหุเคียงแต่เพียงตรี ที่ท่านปรีชาช่วยอำนวยกลอน | ||
- | ใครยลอย่าเพ่อเย้ยพึ่งศึกษา ใช่เมธาเจนจิตรบัณฑิตย์สอน | + | ๏ ใครยลอย่าเพ่อเย้ยพึ่งศึกษา ใช่เมธาเจนจิตรบัณฑิตย์สอน |
แสนถวิลถึงพระปิ่นชนากร สุดนิวรณ์หวั่นเทวศกำศรวญครวญ | แสนถวิลถึงพระปิ่นชนากร สุดนิวรณ์หวั่นเทวศกำศรวญครวญ | ||
- | ปัญญาหญิงไหนจะพริ้งไม่คล่องเคล้า นี่โดยเดานึกคเนอย่าเสสรวล | + | ๏ ปัญญาหญิงไหนจะพริ้งไม่คล่องเคล้า นี่โดยเดานึกคเนอย่าเสสรวล |
ถ้าชำนาญอ่านเล่นเห็นสำนวน ปราชช่วยปรวนเติมแต้มให้งามคำ | ถ้าชำนาญอ่านเล่นเห็นสำนวน ปราชช่วยปรวนเติมแต้มให้งามคำ | ||
- | เราใช่ราชกระวีที่เฉลียว ก็เสียวใจจะไม่คมเหมือนลมขำ | + | ๏ เราใช่ราชกระวีที่เฉลียว ก็เสียวใจจะไม่คมเหมือนลมขำ |
อ่อนหัดไม่สันทัดพึ่งลองทำ จะริร่ำร่างลงก็งงนาน | อ่อนหัดไม่สันทัดพึ่งลองทำ จะริร่ำร่างลงก็งงนาน | ||
- | หนึ่งชุลิตฝ่าธุลีมีพระเดช ซึ่งก่อเกษเลื่องโลกย์ระบือหาญ | + | ๏ หนึ่งชุลิตฝ่าธุลีมีพระเดช ซึ่งก่อเกษเลื่องโลกย์ระบือหาญ |
เสด็จสู่สวรรค์เทวพิมาน ขอมัศการกรน้อมศิโรดม | เสด็จสู่สวรรค์เทวพิมาน ขอมัศการกรน้อมศิโรดม | ||
- | ถวายต่างทิพมาศมโนแผ้ว กราบแล้วจึงลิขิตอักษรสม | + | ๏ ถวายต่างทิพมาศมโนแผ้ว กราบแล้วจึงลิขิตอักษรสม |
โอ้พระปิ่นภพร้อนดังเพลิงรม ล้มพระโรคแรกประทับจะอับจน ... (๒๐) | โอ้พระปิ่นภพร้อนดังเพลิงรม ล้มพระโรคแรกประทับจะอับจน ... (๒๐) | ||
- | + | ๏ ประชวรแต่มาขมาสเหมันต์ รดูนั้นเดือนหนาวเปนคราวฝน | |
- | ๏ ประชวรแต่มาขมาสเหมันต์ รดูนั้นเดือนหนาวเปนคราวฝน | + | |
สิ้นทั้งวังตั้งแต่ทุกข์รทมทน ถึงยุคลมิ่งแก้วเกษกำนัล | สิ้นทั้งวังตั้งแต่ทุกข์รทมทน ถึงยุคลมิ่งแก้วเกษกำนัล | ||
๏ เสด็จนั่งหนือบัลลังก์วิเชียรช่วง ประดับดวงมณฑามาแต่สวรรค์ | ๏ เสด็จนั่งหนือบัลลังก์วิเชียรช่วง ประดับดวงมณฑามาแต่สวรรค์ | ||
แถว 122: | แถว 122: | ||
เคยสงวนนวลเฉลิมเปนเจิมจอม ยามถนอมแนบชื่นไม่คืนเคียง ... (๓๐) | เคยสงวนนวลเฉลิมเปนเจิมจอม ยามถนอมแนบชื่นไม่คืนเคียง ... (๓๐) | ||
- | + | ๏ แต่ครวญคร่ำน้ำพระเนตรนั้นนองเนตร แสนเทวศพร้องเพราะพระสุระเสียง | |
- | + | ||
พระสนมรอบร่ำพิไรเรียง เคยชุบเลี้ยงจะนิราศพระบาทา | พระสนมรอบร่ำพิไรเรียง เคยชุบเลี้ยงจะนิราศพระบาทา | ||
๏ จึงดำรัสเรียกเหล่าบุตรีสมร ประโลมสอนพ่อจะร้างนิราศา | ๏ จึงดำรัสเรียกเหล่าบุตรีสมร ประโลมสอนพ่อจะร้างนิราศา | ||
แถว 144: | แถว 143: | ||
เสวยทุกข์มิได้ศุขสถิตย์เนาว์ ให้เชิญเอาพระอาการนราพงษ์ ... (๔๐) | เสวยทุกข์มิได้ศุขสถิตย์เนาว์ ให้เชิญเอาพระอาการนราพงษ์ ... (๔๐) | ||
- | </tpoem> | + | </tpoem> |
- | + | ||
- | + |
การปรับปรุง เมื่อ 14:44, 13 กุมภาพันธ์ 2553
เรื่องนิพานวังน่า
นิ | ราศบาทเบื้องโอ้ | โมฬี | ||
พาน | จะโศกทั้งศรี | อยุทเยศ | ||
วัง | เย็นสรหงัดตี | อกร่ำ ก่ำเอย | ||
น่า | มุขพิมานเมศร์ | เมื้อมิ่งแรมหมอง | ||
แต่ | พระจอมมงกุฎโลกย์ | แรมวัง | ||
แผ่น | พิภพเพียงพัง | ม้วยไหม้ | ||
ดิน | โดยอดูรหวัง | หวั่นเทวศ | ||
ต้น | แต่ตีทรวงให้ | ห่อนเว้นวันเสบย | ||
๏ วงษ์อินทกรุงธิปัตเอก | อิศรา | ||
หน่อมงกุฎอยุทธยา | เลื่องโลกย์ | ||
สืบสายกรมฝ่ายน่า | แรมนิราศ | ||
ทรงคิดคราววิโยค | พระบิดุร้างสู่สวรรค์ | ||
๏ พระปิ่นอยุทธเยศเจ้า | ทรงธรรม์ | ||
นุภาพปราบมนุศย์สวรรค์ | ฟากฟ้า | ||
สี่ทวีปถวายบรร | ณาน้อม | ||
เกรงบพิตรพระจอมหล้า | โลกย์ลั่นฦๅแขยง | ||
๏ เคยเสด็จออกแสนเส | หนางค์ | ||
ร้อยเอ็ดโอนอุตมางค์ | นอบน้อม | ||
พระฤทธิ์เรืองปานปาง | สุริเยศ | ||
ทั้งหมื่นกรุงสพรั่งพร้อม | กราบเกล้าเศียรสยอง | ||
๏ พระคุณเฮยแต่นี้เงียบ | วังเยน | ||
เคยเผยสีหเหน | ลูกไห้ | ||
ยามศุขกลับไปเปน | ทุกข์เทวศ | ||
คิดฤๅวายวางไข้ | จิตรโอ้อาดูร | ||
๏ พระจอมมกุฎสามภพไห้ | สั่งเวียง | ||
พระสนมเสนาะเรียง | ร่ำร้อง | ||
หมู่มุขมนตรีเคียง | ครวญคร่ำ | ||
เสียงพิฦกลั่นก้อง | โศกแส้วังโหย | ||
๏ พระกาญจน์ยอดแก้วเฮ่ย | ยังหัน | ||
เสร็จมาเมื้อเมืองสวรรค์ | สู่ฟ้า | ||
ฤๅเคียดเสน่ห์ผัน | หุยหุง เสียเนอ | ||
ม้วยแต่นับโมงถ้า | ทุกค่ำคืนหาย | ||
๏ พระร่มโพธิ์เกษมิ่ง | กระหม่อมเฮย | ||
ยามกระเษมแสนเสวย | ศุขภาพ | ||
สุรางค์บำเรอเคย | สพรั่ง พร้อมแฮ | ||
เรียงรอบศิโรราบ | ราชร้างแรมโฉม | ||
๏ โอ้จอมมงกุฎเกล้า | จากจร | ||
กรมพระราชวังบวร | แรมร้าง | ||
ลูกทุ่มทรวงอาทร | เทวศไห้ | ||
แสนทุกข์บวายว่าง | ที่เมื้อจักเห็น | ||
๏ ย่ำยามสดับเสียง | ประโคมวัง | ||
ดุริยางค์เสนาะดัง | พาทย์ฆ้อง | ||
ทีนี้จะเงียบแตรสังข์ | สูญถนัด | ||
ฟังแต่เสียงสกุณก้อง | กรู่แก้วเกลื่อนขัน | ||
๏ พระคุณเอ๋ยเคยทรงสร้าง | สมภาร | ||
ปราถนาพระโพธิญาณ | ยอดแก้ว | ||
ออกโอษฐ์ขอคชทการ | นำสัตว์ | ||
จากบ่วงสงสารแคล้ว | คลาศพ้นพลันเข็ญ | ||
ครุวารกติกมาเส สุกรอัคสังวชเร เหมันต์จตุมีดิถียัง
๏ นาฬิกาหึ่งๆ ถึงยามสอง | ได้สามบาทคาดฆ้องประโคมสังข์ | ||
พระมงกุฏปิ่นเกษนิเวศวัง | ไม่รอรั้งร้างมิ่งพิมานเย็น | ||
๏ พระสฐานสถิตย์เยือกยินแต่เสียง | สุรางค์เรียงร่ำเทวศก็เหลือเข็ญ | ||
ข้าธุลีมีกรรมจึงจำเปน | ไม่เห็นเลยหลักภพวิบัติวาย | ||
๏ โอ้พระมิ่งโมฬีที่พึ่งโลกย์ | ประชาโศกแสนลห้อยไม่รู้หาย | ||
ฤๅผลเวรสัตว์ทำประจำกาย | จึงทำลายเจาะจอมกระหม่อมจง | ||
๏ พระกฤษดาดังพรหมอุดมเดช | ที่ทรงเพศพาหนะพระยาหงษ์ | ||
เหมือนสุริเยศไขศรีรวีวงษ์ | เมื่อเสร็จทรงกลดเยี่ยมโพยมงาม | ||
๏ อรินทร์ราชกราบเกรงพระบารเมศ | มงกุฏเกษสรวมชีพทวีปสาม | ||
เคยเปนฉัตรแก้วกั้นสุวรรณวาม | ดังศศิตามส่องโลกย์สว่างวาว | ||
๏ เย็นเกษบารเมศบรมจักร | ที่พำนักนิ์หายหาชนาหนาว | ||
พระอานุภาพเลิศลบจบแตนดาว | ปัจจาผ่าวอุรพารอาใจ | ||
๏ อันปิ่นราชนิเวศน์วังบวร | ดัษกรรื่นาบกราบไสว | ||
ถึงรัตนังอังวะที่ฦๅไกร | ก็ปราบได้ด้วยพระฤทธิ์เดชาชาย | ||
๏ เมื่อปางหลังที่นั่งสุรามรินทร์ | อยุทธสิ้นย่อยยับประหารหาย | ||
เพราะไพรินทร์ลุยลามตามทำลาย | กระหม่อมหมายเมืองล่มไม่เล็งคืน | ||
๏ บิตุรงทรงนามธรรมิกราช | ทั้งสามโลกย์เนียรนาศไม่อาจฝืน | ||
มายกพระสาศนาภิญยายืน | ประชาชื่นชมโพธิสมภาร | ||
๏ คือล้นกระหม่อมมิ่งมไหวงษ์ | สองพระองค์เลิศฟ้ามงกุฏสฐาน | ||
แบ่งภาคจากองค์พระอวตาร | ผ่านนิเวศน์ปราบดาด้วยบารมี ... (๑๐) | ||
๏ จึงสิ้นยุคสุขกระเษมทั้งสามภพ | เทพนบน้อมเกษทุกราษี | ||
สรรเสริญเดชาทั้งธาษ์ตรี | กรชุลีโปรยทิพย์สุมาลย์มา | ||
๏ โอ้พระคุณเคยการุญพำนักนิ์โลก | ยิ่งวิโยคยามร้อนไม่ผ่อนหา | ||
เมื่อดับเข็ญเย็นแล้วทั้งโลกา | ไยนิราร้างราษฏร์อนาถเนาว์ | ||
๏ ปางครั้งทศเศียรอสุรภักตร์ | เที่ยวหาญหักสามโลกย์ได้โศกเศร้า | ||
นารายน์รามตามล้างจึงบางเบา | บันเทาทุกข์ทั่วเทพดาคืน | ||
๏ สุดกระเษมไตรภพสบกระสัน | อภิวันทุกพิมานสำราญรื่น | ||
เหมือนปิ่นจอมล้นกระหม่อมเมื่อยังยืน | หมื่นนิเวศน์วรถวายสุมาลี | ||
๏ จึงนิพนธ์แต่หลังไว้หวังสนอง | ให้จำลองสืบกระษัตริย์บดีศรี | ||
หนึ่งครุลหุเคียงแต่เพียงตรี | ที่ท่านปรีชาช่วยอำนวยกลอน | ||
๏ ใครยลอย่าเพ่อเย้ยพึ่งศึกษา | ใช่เมธาเจนจิตรบัณฑิตย์สอน | ||
แสนถวิลถึงพระปิ่นชนากร | สุดนิวรณ์หวั่นเทวศกำศรวญครวญ | ||
๏ ปัญญาหญิงไหนจะพริ้งไม่คล่องเคล้า | นี่โดยเดานึกคเนอย่าเสสรวล | ||
ถ้าชำนาญอ่านเล่นเห็นสำนวน | ปราชช่วยปรวนเติมแต้มให้งามคำ | ||
๏ เราใช่ราชกระวีที่เฉลียว | ก็เสียวใจจะไม่คมเหมือนลมขำ | ||
อ่อนหัดไม่สันทัดพึ่งลองทำ | จะริร่ำร่างลงก็งงนาน | ||
๏ หนึ่งชุลิตฝ่าธุลีมีพระเดช | ซึ่งก่อเกษเลื่องโลกย์ระบือหาญ | ||
เสด็จสู่สวรรค์เทวพิมาน | ขอมัศการกรน้อมศิโรดม | ||
๏ ถวายต่างทิพมาศมโนแผ้ว | กราบแล้วจึงลิขิตอักษรสม | ||
โอ้พระปิ่นภพร้อนดังเพลิงรม | ล้มพระโรคแรกประทับจะอับจน ... (๒๐) | ||
๏ ประชวรแต่มาขมาสเหมันต์ | รดูนั้นเดือนหนาวเปนคราวฝน | ||
สิ้นทั้งวังตั้งแต่ทุกข์รทมทน | ถึงยุคลมิ่งแก้วเกษกำนัล | ||
๏ เสด็จนั่งหนือบัลลังก์วิเชียรช่วง | ประดับดวงมณฑามาแต่สวรรค์ | ||
ดารารายพรายพร้อมเข้าล้อมจันทร์ | เหมือนสุริยันย่างเยี่ยงพระเมรุทอง | ||
๏ หมู่อับสรเฝ้ารอบหมอบรดาษ | พร้มพระราชธิดาประนมสนอง | ||
สุวรรณผุดโพธิญาฝ่าลออง | ให้แผ่ปองทรงปิดพระปฏิมา | ||
๏ พระรัศมีหมองเหมือนเมื่อเดือนดับ | ลูกวาววับหวั่นทรวงสหัสา | ||
พระฉวีเสียศรีสุนทรา | ชลนานองเนตรตลึงแล | ||
๏ ยลอนงค์นุชนางสนมน้อม | งามลม่อมหมอบผจงดังวงแข | ||
เคยรองบาทจะบำราศสวาดิแด | เหมือนจะแปรปราศจากไม่อยากยล | ||
๏ เหนพระไทยจะเปนห่วงหน่วงถนอม | จะไกลกล่อมขวัญให้รหวยหน | ||
จึงเรียกรศอมฤตยวิเชียรชล | เสี่ยงกุศลซึ่งสร้างพระโพธิญาณ | ||
๏ แม้นชนม์จะอยู่ช่วยบำรุงทวีป | ขอให้รีบรับน้ำรศาหาร | ||
ถ้าชีวิตนั้นจะปลิดไม่เนาว์นาน | อย่าให้พานสอดคล่องนิยมยืน | ||
๏ เทวศว่าต่อพระภักรพระชนศรี | แล้วทวีทรงพระวิตกถวิล | ||
พิศฐานเสร็จเสวยวารีริน | แต่ชั้นกลิ่นกลืนกลับวิบัติเปน | ||
๏ พระอาเจียนเวียนประทะอุรหมอง | จึงตรัสร้องว่าโอ้มิพ้นเข็ญ | ||
เคยเปนร่มเกล้าโลกย์ไอ้อยู่เย็น | เห็นสุเมรุเอนแล้วจะตรมตรอม | ||
๏ สุเรตดังสุรางค์บำเรออินทร์ | จะไกลกลิ่นกล่อมกลีบมณฑาหอม | ||
เคยสงวนนวลเฉลิมเปนเจิมจอม | ยามถนอมแนบชื่นไม่คืนเคียง ... (๓๐) | ||
๏ แต่ครวญคร่ำน้ำพระเนตรนั้นนองเนตร | แสนเทวศพร้องเพราะพระสุระเสียง | ||
พระสนมรอบร่ำพิไรเรียง | เคยชุบเลี้ยงจะนิราศพระบาทา | ||
๏ จึงดำรัสเรียกเหล่าบุตรีสมร | ประโลมสอนพ่อจะร้างนิราศา | ||
ดวงจิตรฝากชีวิตรพระบิตุลา | วาศนาหาไม่จงเจียมสกล | ||
๏ สมรยากฝากองค์ให้การุญ | ถ้าพระคุณเคืองเข็ญไม่เปนผล | ||
จะพึ่งพ่อเล่าก็พ่อไม่ยืนชนม์ | ยลแต่บาทนะจงตั้งภักดีตรง | ||
๏ หนึ่งพระเสาวนีที่มียศ | พระธิดาปรากฎมงกุฎหงษ์ | ||
จงฝากกายนะอย่าหมายหมิ่นทนง | เจ้าเปนวงษ์จงรักษ์ธุลีลออง | ||
๏ ที่นี้ถึงเทพถือโอสถทิพย์ | ผจงหยิบมาประมูลทูลฉลอง | ||
ไม่เสวยเลยให้เวทนาปอง | จะต้องเนิ่นทรมานรำคาญเคือง | ||
๏ สดับตรัสดังมัจจุราชรีบ | ประหารชีพลูกหายทำลายเบื้อง | ||
เมรุมุ่งเคยประจำทวีปเรือง | ถ้าล่มแล้วจะมิเนืองน้ำตาตาย | ||
๏ บ้างค่อนอกร่ำโอ้มิควรเข็ญ | ดังกระเดนเศียรเกล้าของเราหาย | ||
เคยปราโมทมีศุขทุกวันวาย | เหมือนสายเนตรจะเปนสายโลหิตกอง | ||
๏ ถึงยามกระเษมเคยแสนสำเริงรื่น | กลับสอื้นนึกโอ้มโนหมอง | ||
แต่นั้นมาพร้อมหน้าไม่ไกลลออง | หมายฉลองพระคุณคอยรวัง | ||
๏ ผลัดโมงกันไม่ให้คลาดสักบาททุ่ม | ดังเพลิงรุมร้อนอกวิตกหลัง | ||
แต่นั่งยามย่ำฆ้องจนเคาะรฆัง | ลูกหวังฟังราชกิจจะหนักเบา | ||
๏ ปางปิ่นโมฬีทั้งสี่ทวีป | ดังศศิธรร่อนรีบขึ้นเหลี่ยมเขา | ||
เสวยทุกข์มิได้ศุขสถิตย์เนาว์ | ให้เชิญเอาพระอาการนราพงษ์ ... (๔๐) | ||