โคลงราชสวัสดิ์

จาก ตู้หนังสือเรือนไทย

(ความแตกต่างระหว่างรุ่นปรับปรุง)
ข้ามไปที่: นำทาง, สืบค้น
CrazyHOrse (พูดคุย | เรื่องที่เขียน)
(หน้าที่ถูกสร้างด้วย '== ข้อมูลเบื้องต้น == {{เรียงลำดับ|คลโงราชสวัสดิ์}} [[หม…')
แตกต่างถัดไป →

การปรับปรุง เมื่อ 09:43, 9 ตุลาคม 2552

เนื้อหา

ข้อมูลเบื้องต้น

แม่แบบ:เรียงลำดับ พระราชนิพนธ์: สมเด็จพระนารายณ์มหาราช

บทประพันธ์

๏ พิธูรพูนสวัสดิ์ล้ำโลกา
กล่าวอรรถสัตยคาถาเทียบไว้
มธุรังหวังแสวงหาประโลมโลก
ฉลองเฉลิมพิภพให้สัตว์ล้วนควรแสวง ฯ
๏ บัดนั้นบันเทียบไท้ชินศรี
แจงจัดอรรถอันมีเลิศล้ำ
คัมภีรังหวังแสวงตรีคุณเลิศ
อาดูรพูนบุตรน้ำเนื่องเนื้อสายสมร ฯ
๏ ในเหล่าเง่าญาติแควันเหลนหลาน
หมู่มิตรสนิทบริพารพรั่งพร้อม
เป็นทาสบาทบทมาลนรนาถ
ถึงสถานบานจิตต์น้อมยศเยื้องศักดิ์สูง ฯ
๏ บำเรอเชอชาติเชื้อใจสาร
ในองค์อัครจักรพาลเลิศแล้ว
เมื่อเยื้อนเอื้อนโองการสิงหนาท
นบนอบกอปรการแผ้วผ่องน้ำในเสมอ ฯ
๏ หนึ่งในใฝ่เฟ่าท้าวสถิตสถาน
โรงราชอาสน์จงมานชื่นช้อย
โดยคุณสุนทรปานปราโมทย์
สงบเสงี่ยมเจียมอาตม์ร้อยเรียบรู้อิริยา ฯ
๏ หนึ่งให้ใจฉลาดรู้เรื่องการ
จงพินิจพิจารณ์ถี่ถ้วน
รู้จักลักษณะขลาดหาญทานเทียบ
สมปรดิมีจงล้วนอย่าเลี้ยวพูนสกนธ์ ฯ
๏ หนึ่งไว้ในมิตรไม้ตรีตรง
วัจนาปรารภยงยิ่งผู้
ที่คับจับการจงสละเสลข
ดำรงผจงธรรมรู้เรื่องลิ้นตราชู ฯ
๏ รู้รอบประกอบเนื้อสบสรรพ์
ปิดป้องประคองขอบขัณฑ์เขตต์แคว้น
ทั้งอาณาประชาพรรณสบสัตว
ปรีญาณสารสิทธิแหม้นอย่าให้ใครเสมอ ฯ
๏ เห็นกิจผิดชอบชั้นแสวงหา
กิจการประมาณเสนาพรั่งพร้อม
เมื่อไปในสถานคลาคืนค่ำ
อย่าได้ไหวหวั่นน้อมเขตต์แคว้นไพริน ฯ
๏ เวียนวงกงนอกนั้นกงใน
สิ่งสรรพมรรคาลัยไต่เต้า
กำชับกับภูวไนยไคลคลา
บมิควรสวนเทียวเท้าแล่นเลี้ยวปลวล ฯ
๏ อย่าผจงทรงทัดทั้งบุษบัน
พะเยียสุคนธรสสรรพ์ลูบไล้
อย่าแสวงแกล้งเกลาคันธ์ลอยกลิ่น
ประดับประดาอาภรณไท้เฟื่องฟุ้งอย่าหวัง ฯ
๏ หนึ่งใดอย่าได้สิ่งสังวร
สำเนียงเสียงศัพทอรอื่นอ้าง
ทำเนียบระเบียบเกลากลอนวัจนารถ
พึงมีอิริยาพ้างภาพเพี้ยงพึงใจ ฯ
๏ หนึ่งสนมบรมราชทั้งนางใน
พึงผายบ่ายเบือนไกลอย่าใกล้
บมิควรสวนเสนอใจมิตรภาพ
อย่าเฉลือเผื่อจิตต์ไว้มุ่งม้วยเสียสกนธ์ ฯ
๏ พึงระงับดับเบื้องบ่ายอินทรีย์
เสงี่ยมสงบสบสรรพมีถี่ถ้วน
สุจริตประดิษฐ์ประดมตรีคุณเลิศ
ผจงดำรงอาตมล้วนเลิศไว้ในผล ฯ
๏ อย่าใฝ่ในส้องเสพสุราบาน
มิตรมนท์อนธการพาลเรื่องร้าย
ติเตียนตำเนียรสถานทุกประเทศ
พึงแสวงแห่งโอชบ้ายมุ่งแม้นมฤธุรัง ฯ
๏ หนึ่งอย่ามาลับลี้นอนนิทร
ควรแสวงแห่งกลกิจใฝ่เฝ้า
พึงภักดีอัครบรมอิศวรราช
เป็นนิรันตร์สรรพสิทธิเช้าค่ำคลุ้มนิจกาล ฯ
๏ หนึ่งทรัพย์นับเนื่องไว้ในคลัง
อย่าประสงคจำนงหวังหวั่งได้
อย่าคิดจิตต์เบือนบังแสวงโลภ
อย่าแบ่งแมลงลักให้ประโยชน์เบื้องอาตมางค์ ฯ
๏ สิ่งไว้หว่างโทษสรรพา
ทั้งส่วยสัตพัทธยาถี่ถ้วน
เว้นอภัยในสัตวคณาทุกที่
อย่าคิดจิตต์จงม้วนพิฆาฏให้จำตาย ฯ
๏ เตียงตั่งตั้งไว้อย่าเถลิงกาย
แท่นทองผองพรรณรายเพริดแพร้ว
ขององค์พวศสุทธสายกษิรโลก
อย่านั่งจังไรแล้วเสนียดร้ายรังแสลง ฯ
๏ อาสน์นั้นสรรพเลิศล้ำสกลไกร
ควรสการสารมาลัยชอบเช้า
ยำเยงเกรงศักดิไตรภูวนาถ
ชรูนแชรงแต่งผดุงเท้าชีพม้วยบวงสรวง ฯ
๏ หนึ่งนัยใฝ่เฟ่าเจ้าจักรพาล
ไกลใกล้ในเสถียรสถานเทียบแท้
เอากิจคิดประมาณการพึงผ่อน
จิตต์จำนงจงแหน้แต่คล้ายคลึงคะนึง ฯ
๏ นั่งจงตรงทฤษฎิท้าวบังควร
อย่าเหลือบแลแปรปรวนเบี่ยงเบี้ยว
อย่าคิดกิจทำทวนนัยน์เนตร
ระวังระไวให้แลเลี้ยวธิราชให้แสนแสวง ฯ
๏ จงจิตต์สถิตตั้งต่อทรงธาร
หูสู่บทพจมานท่านไท้
คอยในใฝ่แสวงสารสูรนาท
อย่าประมาทประมาณการให้โมหเคลิ้มขละเขลา ฯ
๏ ปรีชาปรากฏซ้องฉับชาญ
ทั้งวัจโนโวหารกล่าวเกลี้ยง
แสวงชอบกอบการสถานทุกประเทศ
ให้ต้องบทพจนเพี้ยงภาคแคว้นกระทงความ ฯ
๏ อย่าแถลงแสดงอรรถให้ลวนลาม
คุมเคียดเสียดสกลตามแต่งตั้ง
อย่าทุจริตผิดผลความเควียนโทษ
ไปล่เปลื้องประเทืองยับยั้งเรื่องร้ายสลายแสลง ฯ
๏ หนึ่งเข้าออกนอกนั้นควรคิด
อย่าใฝ่ในกลกิจแต่งตั้ง
อย่าแสวงแห่งการผิดแกมเลศ
ทรนงทรนุกขุกพลั้งเพลี่ยงร้ายสลายคุณ ฯ
๏ เมื่อไทใฝ่ให้แห่งบังคับ
ปรับปรุงผดุงการสรรพสิ่งถ้วน
เบิกไขไตรตราสดับสะเดียนก่อน
ตริตรองต้องขบวนล้วนรอบรู้สกลการ ฯ
๏ รำพึงคะนึงอรรถอ้อมพิจารณ์
เป็นนิตย์กิจการวานอย่าเว้น
ตริไตรที่ในสถานทานเทียบ
ขืนข่มสมฤดีเน้นอย่าได้สืบสกล ฯ
๏ ประมาณการมุ่งแม้นอัคนี
ใกล้ไกลในสถานทีดั่งนั้น
บันดาลประมาณมีประมวลเทียบ
จิตต์บ่ายขยายโดยดั้นดั่งเนื้องมโนใน ฯ
๏ เมื่อไทให้แห่งราชพัทธยา
รางวัลสรรพเสนาเลิศล้ำ
ผู้ชอบประกอบแสวงหาคุณเลิศ
จงนบสงบเสงี่ยมน้ำจิตต์เชื้อสุทธิสาร ฯ
๏ หนึ่งไซร้อย่าใฝ่ฟุ้งกระยาหาร
โลภลุดูอาการที่ท้อง
อย่ากินพ้นประมาณวานประมวลก่อน
ดูแล่งแสงศรซ้องโลกแกล้งเกลาเฉลา ฯ
๏ มีพจนบทบั้นแบ่งวาจา
เอมอรรถวัจนกถาถี่ถ้วน
ไพเราะเสนาะเสน่หามฤธรส
ภิรมย์โสมนัสล้วนรับพื้นพจบาล ฯ
๏ จงภักดีลักลอบเลี้ยวกราบกราน
พระสยมภูวญาณการก่ายเกล้า
เสมอวาตะพะพานรุกขชาติ
แปล้ไปล่ในลมเคล้าอ่อนน้อมระเนนเอน ฯ
๏ หนึ่งโสดโทษร้ายเรื่องมนทกาม
เกลศกล้ำยำยามตามเรื่องร้อน
ดำฤษณอืดฮือลามล้วนโลภ
หนีหน่ายขะจายเจียรย้อมหลีกร้ายผายผัน ฯ
๏ อันหนึ่งพึงต่อตั้งไมตรี
อย่าใฝ่ในไพรีเพื่อนพร้อง
โกรธังรังแสลงมีพึ่งผ่อน
เปลื้องปลดสะกดการต้องปลิดร้ายขะจายหนี ฯ
๏ อันหนึ่งพร้องสิ่งซึ่งคำคง
บรรทัดดัดผจงตรงลิ่วแล้ว
ถ้อยคำอัมฤตยงยืนขนาด
สัตยังตั้งตรึงแผ้วผ่อนชั้นเสมอสมาน ฯ
๏ อย่ากลั้วกลัวเกลียดเบื้องอับอาย
บาปบั่นธรรมแสลงสลายเรื่องร้อน
กฤษติยุคปลุกปลงหมายขะจายโทษ
อย่าเคลิ้มผะเดิมผดุงข้อนเขตต์ร้ายกลางสถาน ฯ
๏ ดูบทพจนเสร็จสิ้นทุกประการ
ศิลปะศาสตร์อาทิอาจารย์แต่งไว้
โดยกิจสิทธิประมาณการประเมินมุ่ง
โดยวิสัยไว้วานให้โลกรู้เรือนเสนอ ฯ
๏ จงเฉลียวฉลาดชาตินั้นปัญญา
แจงจัดอรรถฑูตาไต่เต้า
สืบสารผ่านแสวงหาคดีโลก
ในบทพจนมาลเท้าเที่ยงแท้ทางธรรม ฯ
๏ อย่าได้ไปเพื่อพร้องพบพาน
ทูตทำจำทูลสารไต่เต้า
ทางประเทสเหตุรำคาญทานเทิด
อย่าคุ้นถลุนถลันเข้านบเค้าสนิทสนม ฯ
๏ พึงพิศกิจรอบรู้อัชฌาสัย
ที่สถานการมีชัยชื่นช้อย
ศรีสวัสดิพิพัฒน์ในชนชาติ
ฦาลบจบสกลร้อยรอบแคว้นแดนสกล ฯ
๏ หนึ่งไซร้ใฝ่เพื่อเลี้ยงรักษา
บิดุรงคมาดาก่อเกล้า
ญาติมิตรสิทธิพฤฒาวาจน
พูนสวัสดิพิพัฒน์เช้าค่ำแคว้นแสนเกษม ฯ
๏ หนึ่งจงปลงปลูกไว้ใจอารย์
ศรัทธาปราโมทย์สถานแก่นเกื้อ
ศรีสวัสดิปฏิบัติสารสุขภาพ
จงใจใสสุทธิเชื้อชาติเว้นอเวรัง ฯ
๏ อวยทานหว่านพืชผู้ทุรพล
เนืองนิตย์จิตต์แสวงผลชื่นช้วย
ธนทรัพย์สนับสนูนจนปรโลก
ปรารถนาปรารภร้วยสิ่งแกล้งแสวงสวรรค์ ฯ
๏ จงมีปรีญาศเยื้องฦาชา
รู้รอบกอบพิจารณาถี่ถ้อง
ชอบสถานสารแสวงหาสุขภาพ
กาลนี้ที่ควรร้องเรียกให้ไทยทาน ฯ
๏ กาลนี้ที่ชอบใช้ในสนาม
อโบสถรสศีลสารแก่นเกื้อ
กาลนี้ที่ในสถานธรรมเทศ
กาลนี้ที่ชนเชื้อจะปลูกไม้มีผล ฯ
๏ กาลนี้ที่เลี้ยงเหล้าโยธา
กาลนี้ที่แสวงหาสิ่งสร้าง
กาลนี้ที่เปรมปราอาณาราษฎร์
ถากไร่ได้ผลมล้างสืบไว้ในคุณ ฯ
๏ กาลนี้ที่ไท้ใฝ่รักษา
ป้องกันขัณฑเสมาเขตต์ขั้น
ศัตรูหมู่แสวงหาทุษโทษ
ภูมิมณฑลสกลขั้นประเทศแคว้นแดนกรุง ฯ
๏ กาลนี้ควรที่ต้องทางชน
กาลนี้ที่ทางสถลไต่เต้า
ภูวไนยใฝ่แสวงดนแดนประเทส
เสด็จดำเนินเดินเท้าธิราชให้ไตรตรา ฯ
๏ ทังหลายหมายมุ่งไว้ประเมืองเมิล
ในสวัสดิจำเริญถี่ถ้วน
พยาบาลสารสิทธิเจริญใจราษฎร์
กาลกิจสัมฤทธิ์ล้วนชอบใช้ในผล ฯ
๏ นี้ใส่ในเผ่าพื้นพงศา
พี่น้องพร้องพันธุมาเนื่องเนื้อ
ทั้งบุตรอุบัตินัดาคณาญาติ
ร่วมท้องสนองนิจเชื้อดั่งนั้นพรรณนา ฯ
๏ ครั้นใจบมิได้สมัครสโมสร
ศีลใฝ่ในสังวรผ่องแผ้ว
เป็นพาลพ่านแสวงรอญแรงโทษ
บพึงถึงสถานแล้วเฝ้าไท้บดินทร ฯ
๏ ผู้ใดใจซื้อซ้อมประนิทิน
ผะดุงรักษาฝักฟูมถวิลใฝ่เฝ้า
จงใจในนรินทร์ปิ่นนรนาถ
ดำริตริการเช้าค่ำคลุ้มแสวงผล ฯ
๏ บมิโลภโอบอ้อมแจ่มใจปอง
โกรธสะบัดสลัดจำนองหย่อนยั้ง
ใจตรงจำนงสนองเสนอบาท
ในยุกติปลุกสกลตั้งแต่งไว้ในสถาน ฯ
๏ ควรหวังตั้งแต่งไว้เสนา
มนตรีพีริยไตรตราชอบใช้
บริบาลสารแสวงหาภูวนาถ
บริรักษ์จักสนองให้เฝ่าท้าวนิจกาล ฯ
๏ ผู้ใดใฝ่เฝ้าภักดิ์บมิไกล
จักมูลพูนโภไคเกือบกั้น
พิพัฒน์มหัตสุไขศวรรย์เล่า
สรรพจำเริญเจริญนั้นชอบใช้ไพบูลย์ ฯ
๏ แต่งองค์กองโกฏิแก้วนับอนันต์
ยศยิ่งสิ่งพรายพรรณเพริศพร้อม
พัสดุครุภัณฑ์สรรพ์สบสิ่ง
ศฤงคารบริวารน้อมนอบเนื้อสลับสลอน ฯ
๏ คือเมฆอันครรชิตคร้านสรัทธกาล
ห่าฝนชลแถวธารน่านน้ำ
ในพรรษามาเนืองนานประมาณทั่ว
เพ็ญแผ่นแด่นสกลล้ำชุ่มชื้นพฤกษา ฯ
๏ ชาวเจ้าเหล่าญาติพื้นพงศ์พันธุ์
คือบุตรอุดมสรรพ์เสร็จนี้
ธรรมบาลผ่านพึงถลันโอวาท
โอรสพจนพึงชี้ชอบไว้วานสงวน ฯ
๏ จงจำคำซึ่งให้วัจนัง
สานุศาสนอาทิอันหวังแหวกไว้
นิพนธ์สนธ์ศัพท์ประมังประมาณชีพ
จำอรรถสัจแสดงให้เสร็จสิ้นทุกประการ ฯ
๏ จำเริญสวาดิ์ให้สถาวร
ศรีสวัสดิพิพัฒนพรเพิ่มไว้
ราชวัตรสัตยแสดงกลอนเกษมราษฎร์
หมั่นหมายกระสายธรรมให้เฟื่องฟ้านรากร ฯ
๏ พิธูรพูนสวัสดิล้ำคำสอน
ในบุตรอุดมสมรมุ่งไว้
ฟังประชานรากรนรนาท
จำบทพจนไว้ให้โลกล้วนสรรเสริญ ฯ
๏ โพธิสัตว์อรรถอ่อนพ้นสกลไกร
หน่อนาถศาสดาไขพร่ำพร้อง
กล่าวอรรถสัจคดีนัยโอวาท
อัมฤตรสพจน์ต้องแต่งไว้ควรครู ฯ
             

เชิงอรรถ

ที่มา

พระราชนิพนธ์โคลงครั้งแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราช กรมศึกษาธิการพิมพ์แจกในงานกฐินพระราชทาน ณ วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ พ.ศ. ๒๔๗๙

เครื่องมือส่วนตัว