บทเสภาเรื่à¸à¸‡à¸‚ุนช้างขุนà¹à¸œà¸™à¸„วามเà¸à¹ˆà¸² ตà¸à¸™à¸‚ุนà¹à¸œà¸™à¸‚ึ้นเรืà¸à¸™à¸‚ุนช้าง
จาก ตู้หนังสือเรือนไทย
(ความแตกต่างระหว่างรุ่นปรับปรุง)
CrazyHOrse (พูดคุย | เรื่องที่เขียน)
(หน้าที่ถูกสร้างด้วย '== ข้อมูลเบื้องต้น == {{เรียงลำดับ|บทสเภารเืองขุนชาง…')
แตกต่างถัดไป →
(หน้าที่ถูกสร้างด้วย '== ข้อมูลเบื้องต้น == {{เรียงลำดับ|บทสเภารเืองขุนชาง…')
แตกต่างถัดไป →
การปรับปรุง เมื่อ 03:21, 11 กันยายน 2552
เนื้อหา |
ข้อมูลเบื้องต้น
แม่แบบ:เรียงลำดับ ผู้แต่ง: ไม่ปรากฏ
บทประพันธ์
สำนวนที่ ๑
| ๏ | คณายางจับต้นยางใหญ่ | ||
| นกคล้าจับคล้าตะเวนไพร | กระในจับในรกราย | ||
| ไม้รังดอกร่วงเกสร | ใยสลอนยังแสงพระสุริย์ฉาย | ||
| ตระแบกบานก้านเบียดลมรบาย | นางกรายกิ่งกรายเมื่อต้องลม | ||
| นิจจาเอ๋ยแม้ได้นุชนาฏ | ไม่นิราสแรมร้างภิรมย์สม | ||
| จะดิ้นโดยมาด้วยในไพรพรม | จะชวนชมเก็บช่อผกาการ | ||
| เก็บประดู่ลำดวนยมโดย | ลมโชยกลิ่นชื่นหอมหวาน | ||
| เหมือนกลิ่นวนิดายุพาพาล | ขุนแผนแสนโศกซ่านกระสัลทรวง | ||
| สาวหยุดนางแย้มกาหลง | พยอมพยงค์ก็โรยร่วง | ||
| เกดแก้วพิกุลเปนพุ่มพวง | ดอกดวงหล่อนกลาดดาษดิน | ||
| เห็นดอกรักเหมือนจะรักไม่ร้างพี่ | ครั้งนี้หรือมาหน่ายเสียได้สิ้น | ||
| ไปอยู่ด้วยขุนช้างเถื่อนเปนเพื่อนกิน | ไม่ถวิลกังวลถึงพี่ยา | ||
| โอ้ไฉนใครหนอจะไปแจ้งเหตุ | ว่าพี่ร้างนคเรศมาเดิรป่า | ||
| แสนคนึงถึงนางทุกเวลา | ............................ | ||
| (ฉบับขาด) | |||
| ครั้นออกจากป่าพนาวัน | พอสุริยันเย็นลงย่ำสนธยา | ||
| ขุนแผนผู้ชาญทหารกล้า | จึงโอมอ่านคาถาถามหาสดมภ์พลาง | ||
| เสดาะใบดาลบานประตู | เที่ยวค้นดูทั่วบนหอรีที่หอขวาง | ||
| ฝูงทาสหลับกลาดนอกหอกลาง | บ้างนอนคราววิปริตผิดกิริยา | ||
| ผ้านุ่งยุ่งปนกับผ้าห่ม | เนื้อนมผมดกปกประหน้า | ||
| ดูเห็นสมเพชเวทนา | ถึงห้องนารีหนึ่งดูพึงชม | ||
| นอนอยู่บนเตียงกระจ้อยร่อย | เอวบางร่างน้อยดูสวยสม | ||
| น้อยแน่งผิวเนื้อนวลนม | ไรผมขำคมอยู่ในที | ||
| ดวงหน้าละม้ายคล้ายหน้าเทศ | นวลแก้มการเกดลออศรี | ||
| หน้าเจ้าคล้ายวันทองน้องรักพี่ | หลากนักนางนี้จะเปนใคร | ||
| วงศวารว่านเครืออ้ายขุนช้าง | หรือญาติข้างวันทองเปนไฉน | ||
| จะว่าเมียขุนช้างก็ผิดไป | นวลเจ้ายังไม่ต้องมือชาย | ||
| จำจะปลุกให้เจ้าลุกขึ้นไต่ถาม | จึงจะแจ้งเนื้อความดังใจหมาย | ||
| สั่งพรายพรายก็วางให้นางคลาย | พลางร่ายมนต์เป่าเคล้าคลึงชม | ||
| ๏ ครานั้นนางแก้วกิริยา | นิทรา............................ | ||
| (ฉบับขาด) | |||
| พี่ลอบชมตามอารมณ์ประสารัก | ลักจูบลูบน้องต้องติดใจ | ||
| เจ้าต้องมนต์นอนหลับสนิธอยู่ | แก้วตาหารู้สึกตัวไม่ | ||
| โทษพี่ผิดแล้วขออไภย | จงบอกให้พี่ประจักษ์สักสองคำ | ||
| เจ้าเปนอะไรกับขุนช้าง | พี่ขอพูดด้วยนางทองร้อยน้ำ | ||
| หรือว่าเมียชู้คู่อุปถัมภ์ | เจ้าอย่าอำบอกพี่ไปแต่ตามจริง ฯ | ||
| ๏ เจ้าแก้วกิริยาได้ฟังถาม | นางนิ่งนึกตรึกความแล้วนั่งนิ่ง | ||
| มั่นแม่นขุนแผนแล้วจริงจริง | จะมาตามช่วงชิงเจ้าวันทอง | ||
| วิทยาอาคมก็หนักหนา | อาจใจมาเที่ยวบุกเล่นทุกห้อง | ||
| สิธุระประสงค์ข้างวันทอง | นี่ลัดแลงหลงห้องเข้ามาไย | ||
| ครั้นจะมีโอนอ่อนผ่อนคำ | ถ้าขัดแค้นก็ทำเหตุใหญ่ | ||
| ให้ครั่นคร้ามขะขามใจ | แล้วบอกว่าข้ามิใช่เจ้าวันทอง | ||
| อนิจจาคิดมาเปนน่าหัว | หลงตัวแล้วมิหนำซ้ำหลงห้อง | ||
| แล้วยอข้าว่าเหมือนเจ้าวันทอง | แสร้งซร้องสรรเสริญให้เกินดี | ||
| อันปัดนี้หรือจะเอาไปเทียมแก้ว | ฉันรู้แล้วว่าน้องน้อยศักดิ์ศรี | ||
| ข้าเจ้ามิใช่เปนผู้ดี | ฉันนี้เปนทาสเจ้าวันทอง | ||
| ตัวข้าเปนลูกท่านโศกโขไทย | ต้องเร่งพินัยเงินสิบสอง | ||
| บิดาต้องโทษโปรดให้จำจอง | จึงพาน้องมาขายฝากไว้ | ||
| เปนต้นเงินตราสิบห้าตำลึง | ครึ่งปีหนึ่งแล้วยังหาไถ่ไม่ | ||
| ชื่อแก้วกิริยาข้าตกไร้ | รู้แล้วเชิญท่านไปอย่าฆ่าตี ฯ | ||
| ๏ อนิจจาเห็นหน้าเจ้าพี่สงสาร | มาตกยากช้านานไม่พอที่ | ||
| แต่เงินสิบห้าเท่านี้ | ตกนักงารพี่จะช่วยน้อง | ||
| เปนบุพเพนิวาสพาสนา | ชักพามาพบเข้าในห้อง | ||
| ขอฝากรักพี่ไว้ในน้อง | พี่จะครองแก้วตามิให้ราคี | ||
| ว่าพลางถอยถดเข้ามาใกล้ | อย่าสูญใจเหมือนเจ้าได้เอนดูพี่ | ||
| ลูบหลังสั่งรักด้วยไมตรี | ฤดีปั่นป่วนอยู่รวนเร ฯ | ||
| ๏ นางแก้วค้อนควักแล้วผลักเสีย | ใครเปนชู้เมียอย่ามาเลียมเล่ห์ | ||
| ว่ารักน้องประยุทธเห็นสุดคะเน | อย่าแต่งเล่ห์ล่อลวงผิดท่วงที | ||
| ท่านเปนไทยหรือจะมาประทาส | ไม่สอาดไอ่เอี่ยมเทียมศักดิ์ศรี | ||
| จะแก้แค้นแทนกันนั้นตามที | ท่านผู้ดีต่อดีเขาจะทำกัน | ||
| ข้างข้าเจ้านี้ต้องการอะไร | จะมาพลอยใครผายผัน | ||
| ธุระท่านมีอยู่เปนสิ่งอัน | จะมาพลอยพัวพันข้าไย ฯ | ||
| ๏ ขุนแผนจึงว่าอนิจจานะน้อง | พี่จะรักวันทองนั้นเปนข้อใหญ่ | ||
| ชั่วดีเจ้าก็รู้อยู่เต็มใจ | ขุนช้างเจ้ากรรมทำให้มาทดแทน | ||
| บุญแล้วพบแก้วกิริยา | เจ้าแก้วตาพี่รักเจ้าเหลือแสน | ||
| พี่ดีใจยิ่งกว่าได้วิมานแมน | แสนสุดสวาทพี่ไม่แรมวัน | ||
| อิบแอบแนบน้องประคองพุ่ม | อุ้มขึ้นบนตักแล้วรับขวัญ | ||
| เจ้าเหมือนหนึ่งยาทิพย์อันเย็นครัน | ช่วยร้อนที่กระลัลในน้ำใจ | ||
| นางแก้วผลักไสไฮ้ฉนี้ | อย่าพาทีน้องยังหาเชื่อไม่ | ||
| เลือกว่าเอาแค่เพราะเสนาะใน | แต่พอได้ก็โผไปลอยลิบ | ||
| ทีนั้นนางแก้วกิริยาตั้งตาคอย | ข้างท่านก็ลอยไปหายฉิบ | ||
| ชแง้เปล่าเฝ้าท่าตาไม่พริบ | เพื่อนเขาจะกระซิบกันนินทา | ||
| แต่เปนกรรมแล้วนิหนำซ้ำให้เหม็นสายเล่า | ใจเบาเชื่อลมสมน้ำหน้า | ||
| จะขายฝ่าเท้าท่านบิดา | ทั้งมูลนายเขาจะว่าให้ซ้ำใจ ฯ | ||
| ๏ ขุนแผนว่าน้อยหรือถ้อยคำ | หวานฉ่ำน้ำฟ้าไม่เปรียบได้ | ||
| มาหวานวัยจับจิตต์ติดน้ำใจ | ชายใดได้ฟังเห็นจะหลงลม | ||
| แล้วแก้เงินสิบห้าออกยื่นให้ | สิ่งหนึ่งสิ่งไรจงเสร็จสม | ||
| ไม่ลวงล่อข้อนั้นอย่าปรารมภ์ | เชยชมแก้เครื่องเปลื้องจากกาย | ||
| ห้อยไว้ข้างฝาแล้วคว้ากอด | สวมสอดด้วยความรักไม่เหือดหาย | ||
| จะหยิกข่วนผลักไสไม่ห่างคลาย | พลางชิดติดกายแนบนวลนาง | ||
| พอพระพายชายโชยโรยริน | ฟุ้งกลิ่นมาลาที่หน้าต่าง | ||
| ริ้วริ้วปลิวชายสไบนาง | จันทร์แจ่มกระจ่างอยู่พรายพราย | ||
| เรื่อเรื่อไรไรอยู่ในเมฆ | ดาวช่วงดาวเอกรับเดือนหงาย | ||
| ดาวฤกษ์เบิกเมฆอยู่คล้ายคล้าย | พระพายเยือกเย็นเปนลมลาง | ||
| หอมระรินกลิ่นแก้มแกมกลิ่นดอกไม้ | กอดจูบลูบไล้ไม่ไกลข้าง | ||
| รสรักแล่นทั่วสรรพางค์ | ต่างคนต่างมีผาสุกใจ ฯ | ||
| ๏ ขุนแผนยืนอยู่ดูหอขวาง | ของขุนช้างสร้างขึ้นไว้ใหม่ใหม่ | ||
| หอนั่งตั้งฉากตลอดไป | กระจกใสใส่อย่างยี่ปุ่นกลาง | ||
| รูปฝรั่งนั่งไพล่ในกระจก | แล้วแขวนนกโนรีที่หน้าต่าง | ||
| ดูฝรั่งตั้งตาชำเลืองนาง | เหมือนอย่างคมค้อนงอนตละเปน | ||
| ใครหนอช่างฉลาดมาวาดเขียน | ฝูงหญิงนอนเปนอันดับมา | ||
| แล้วเสดาะใบบานดังดาลไข | ย่างเท้าเข้าไปในเคหา | ||
| อรรจกลับวับแวมแจ่มตา | เห็นม่านปักลักขนาคนึงใจ | ||
| ผืนนี้ฝีมือเจ้าวันทอง | นี่ก็ฝีมือน้องพี่จำได้ | ||
| ปักชั้นช่องหิมวาไลย | เปนเขาใหญ่ไกลาสดังเงินยวง | ||
| ปักเปนฝูงนางกินรา | ลอยล่องฟ่องฟ้าชมเขาพลาง | ||
| ต้นไม้รายช่อช้อยห้อยดอกดวง | บานตูมพุ่มพวงร่วงกลีบโรย | ||
| น่ารักชนีที่ร่ายไม้ | ลิงโล่ลูกน้อยห้อยตัวโหย | ||
| ลมพัดตระบัดโบกโบย | ค่างโปรยใบยางเหมือนอย่างเปน | ||
| น่ารักปักเปนไม้นารีผล | นวลหน้านฤมลน่าชมเล่น | ||
| วิทยามาชมทุกเช้าเย็น | เนื้อนมชมเล่นเหมือนเปนจริง | ||
| งามฝูงยูงทองป้องปีกรำ | กิเลสเล่นน้ำนำนรสิงห์ | ||
| ดูไหนก็ลไมลม่อมจริง | ยิ่งพิศยิ่งเพลินจำเริญใจ | ||
| จะชมม่านช้านักก็จักช้า | พลางเดิรเข้ามาหาช้าไม่ | ||
| ตัดสายม่านน้องลงกองไว้ | ด้วยอาไลยน้องวันทองนัก | ||
| มาถึงม่านกั้นชั้นสอง | นี่ก็ฝีมือน้องวันทองปัก | ||
| เจ้าพี่เอ๋ยน่าชมนัก | เจ้าช่างปักเปนรูปพระยาครุฑ | ||
| กางกรโอบอุ้มแก้วกากี | สู่ต้นไม้ฉิมพลีอันสูงสุด | ||
| เข้าสู่สถานพิมารครุฑ | แสนสุดสวาทนาฎกากี | ||
| ปักเปนวารีสีทันดร | เงือกงูมังการสลอนมี | ||
| นำคู่ลอยล่องท่องวารี | กุมภีล์มัจฉาปลาหน้าน | ||
| ฝูงนาคฉลากฉลามตามโลด | ช้างน้ำโดดขึ้นชลพ่น | ||
| อรหันต์กางปีกกระพือชล | ............................ | ||
| (หมดฉบับเท่านี้) | |||
สำนวนที่ ๒
| ๏ | |||
เชิงอรรถ
ที่มา
บทเสภาเรื่องขุนช้างขุนแผนความเก่า ตอนขุนแผนขึ้นเรือนขุนช้าง พิมพ์ในงารพระราชทานเพลิงศพ จางวางโท พระยามนตรีสุริยวงศ์ ดำรงราชบุรมณฑล กมลภักดีพิริยพาหะ (ฉี่ บุนนาค) ปม. ทจว. ตช. รัตน วปร ๓. รจพ. ฯลฯ องคมนตรี เมื่อปีฉลู พ.ศ.๒๔๖๘ พิมพ์ที่โรงพิมพ์โสภณพิพรรฒธนากร
