บทละครเรื่à¸à¸‡à¸à¸´à¹€à¸«à¸™à¸² พระราชนิพนธ์พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย
จาก ตู้หนังสือเรือนไทย
(ความแตกต่างระหว่างรุ่นปรับปรุง)
(→) |
(→) |
||
| แถว 1,284: | แถว 1,284: | ||
บอกว่าอิเหนากุเรปัน มาอภิวันท์พระศพอยู่บนนี้ ฯ | บอกว่าอิเหนากุเรปัน มาอภิวันท์พระศพอยู่บนนี้ ฯ | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | ฯ ๔ คำ ฯ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ บัดนั้น นางกำนัลประณตบทศรี | ||
| + | รับสั่งพระผู้ทรงธรณี แล้วรีบจรลีออกมา ฯ | ||
| + | ฯ ๒ คำ ฯ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ ครั้นถึงจึงถวายบังคมไหว้ องค์ประไหมสุหรีเสนหา | ||
| + | ทูลว่าอิเหนานัดดา เสด็จมาอยู่ที่พระศพนั้น | ||
| + | บัดนี้พระผู้ผ่านเวียงชัย ให้เชิญสองอรทัยผายผัน | ||
| + | ขึ้นไปเฝ้าองค์พระทรงธรรม์ ยังสุวรรณปราสาทรูจี ฯ | ||
| + | ฯ ๔ คำ ฯ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น โฉมยงค์องค์ประไหมสุหรี | ||
| + | จึงชวนจินตะหราวาตี เข้าที่สรงสนานสำราญกาย ฯ | ||
| + | ฯ ๒ คำ ฯ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | <sup>ชมตลาด</sup> | ||
| + | ๏ สองกษัตริย์ขัดสีฉวีวรรณ นางกำนัลตั้งสุคนธ์คอยถวาย | ||
| + | ทรงอุหรับจับกลิ่นอบอาย น้ำกุหลาบละลายกรายกรีดนิ้ว | ||
| + | กวดเกล้าเปลาปลายพระฉายส่อง ผัดพักตร์นวลละอองผ่องผิว | ||
| + | ทรงภูษายักแย่งแพลงพลิ้ว ห่มริ้วทองทับซับใน | ||
| + | สร้อยสะอิ้งสังวาลบานพับ ตามประดับมรกตสดใส | ||
| + | ทองกรแก้วมณีเจียระไน สอดใส่เนาวรัตน์ธำมรงค์ | ||
| + | ทรงมงกุฎสำหรับพระธิดา ห้อยอุบะบุหงาตันหยง | ||
| + | พรั่งพร้อมสุรางค์นางอนงค์ สององค์เสด็จคลาไคล ฯ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | <sup>ร่าย</sup> | ||
| + | ๏ ครั้นถึงจึงบังคมบรมศพ แล้วนอบนบอภิวันท์ท้าวหมันหยา | ||
| + | พลางทอดพระเนตรแลมา ดูพระนัดดาธิบดี ฯ | ||
| + | ฯ ๒ คำ ฯ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น ระเด่นมนตรีเรืองศรี | ||
| + | จึงถวายอภิวันท์อัญชลี องค์ประไหมสุหรีศรีดสภา | ||
| + | แล้วทำทีมิให้ใครสังเกต ชำเลืองเนตรดูระเด่นจินตหรา | ||
| + | งามอ่อนจริตกิริยา ลักขณาเลิศล้ำนารี | ||
| + | พีศพักตร์งามพักตร์ผุดผ่อง ผิวเนื้อนวลละอองสองสี | ||
| + | อรชรอ้อนแอ้นทั้งอินทรีย์ ภูมีดูนางไม่วางตา ฯ | ||
| + | ฯ ๖ คำ ฯ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น องค์ประไหมสุหรีเสนหา | ||
| + | พินิจพิศพักตร์พระนัดดา กัลยาแย้มพรายทายทัก | ||
| + | แต่เจ้ากำเนิดเกิดมา ถึงเพียงนี้น้าเพิ่งรู้จัก | ||
| + | ทรงโฉมประโลมเลิศลักษณ์ สมศักดิ์สุริย์วงศ์เทวัญ ฯ | ||
| + | ฯ ๔ คำ ฯ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น ระเด่นมนตรีเฉิดฉัน | ||
| + | จึงทูลว่าคิดอยู่ก่อนนั้น จะใคร่มาอภิวันท์พระบาทา | ||
| + | พึ่งจะสมจินดาครานี้ มีความยินดีเป็นหนักหนา | ||
| + | ทูลพลางชำเลืองนัยนา ดูระเด่นจินตะหราด้วยใจรัก ฯ | ||
| + | ฯ ๔ คำ ฯ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น จินตะหราวาตีมีศักดิ์ | ||
| + | เห็นอิเหนาเฝ้าดูอดสูนัก นงลักษณ์แอบหลังพระชนนี | ||
| + | พลางชม้ายชายเนตรดูเชษฐา นัยนาแลสบก็หลบหนี | ||
| + | หมอบเมียงเอียงอายเป็นท่วงที เทวีขวยเขินสะเทินใจ ฯ | ||
| + | ฯ ๔ คำ ฯ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น องค์ประไหมสุหรีศรีใส | ||
| + | จึงตรัสแก่ธิดาทันใด เป็นไรไม่ไหว้พี่ยา | ||
| + | จงฝากตัวไว้ให้รู้จัก จะได้พึ่งพำนักในภายหน้า | ||
| + | อันองค์อิเหนานัดดา ก็แก่เดือนกว่าเทวี | ||
| + | อย่าทำกระแหน่แง่งอน อะหนะก็อ่อนกว่าพี่ | ||
| + | มิใช่ว่าอื่นไกลหาไหนมี เจ้าจงอัญชลีพี่ยา ฯ | ||
| + | ฯ ๖ คำ ฯ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น โฉมยงองค์ระเด่นจินตะหรา | ||
| + | ฟังพระชนนีตรัสมา กัลยาอายเอียงเมียงมัน | ||
| + | เหลือบไปปะเนตรภูวไนย ยิ่งสะเทินฤทัยไหวหวั่น | ||
| + | อุตส่าห์ขืนอารมณ์บังคมคัล อิเหนากุเรปันแล้วก้มพักตร์ ฯ | ||
| + | ฯ ๔ คำ ฯ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น ระเด่นมนตรีมีศักดิ์ | ||
| + | เหลือบไปรับไหว้นางนงลักษณ์ พิศพักตร์ผิวเนื้อนวลละออง | ||
| + | ลำลำจะใคร่ตรัสปราศรัย แต่หากเกรงท้าวไททั้งสอง | ||
| + | ให้คิดพิสมัยใจปอง พระนิ่งตรึกตรองไปมา ฯ | ||
| + | ฯ ๔ คำ ฯ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น ระตูผู้ผ่านหมันหยา | ||
| + | เห็นอิเหนาเฝ้าดูธิดา ก็แจ้งในกิริยาอาการ | ||
| + | พระแสร้งทำเฉยเชือนเหมือนไม่รู้ ยิ้มอยู่ในหน้าไม่ว่าขาน | ||
| + | นิ่งนึกตรึกตราไปช้านาน แล้วภูบาลบัญชาพาที | ||
| + | สั่งประไหมสุหรีมีศักดิ์ ว่าหลานรักมาอยู่ในกรุงศรี | ||
| + | จงแต่งโภชนาสาลี ให้นารีไปส่งทุกวัน | ||
| + | สั่งพลางทางตรัสแก่นัดดา วันนี้เหนื่อยมาจงผายผัน | ||
| + | ไปหยุดพักอยู่ตำหนักประเสบัน ให้ปรีดิ์เปรมเกษมสันต์สำราญ ฯ | ||
| + | ฯ ๘ คำ ฯ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น ระเด่นมนตรีได้ฟังสาร | ||
| + | จึงบังคมก้มพักตร์พจมาน จวนเย็นแล้วหลานจะทูลลา | ||
| + | พระคลานคล้อยถอยองค์ออกมาพลาง ชำเลืองเนตรดูนางจินตะหรา | ||
| + | องค์อ่อนถอนฤทัยไปมา แล้วลีลาลงจากอัฒจันทร์ | ||
| + | ชวนระเด่นดาหยันยุรยาตร มาทรงอัศวราชผายผัน | ||
| + | ทวยหาญแห่แหนแน่นนันต์ ไปยังประเสบันอากง ฯ | ||
| + | ฯ ๖ คำ ฯ เชิด | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ ครั้นถึงลงจากอัสดร กรายกรยุรยาตรดังราชหงส์ | ||
| + | เข้าในห้องสุวรรณบรรจง ทอดองค์ลงกับที่ไสยา ฯ | ||
| + | ฯ ๒ คำ ฯ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | <sup>ช้า</sup> | ||
| + | ๏ พระยอกรก่ายวิลาสพาดพักตร์ ถวิลถึงน้องรักจินตะหรา | ||
| + | โฉมงามทรามสวาทเเพียงบาดตา ใต้ฟ้าหาไหนไม่ทัดเทียม | ||
| + | งามจริตกิริยาเป็นน่าชม แต่บังคมพี่ชายก็อายเหนียม | ||
| + | ที่ลอบแลโฉมน้องลองเลียม งามเสงี่ยมเจียมจิตพี่ติดใจ | ||
| + | เมื่อชม้ายมาสบหลบเนตรหนี ท่วงทีที่ทำยังจำได้ | ||
| + | ยิ่งแสนเสน่หาอาลัย เร่าร้อนฤทัยเกรียมตรม | ||
| + | จะผ่อนผันฉันใดนะอกเอ๋ย จะได้เชยชวนชิดสนิทสนม | ||
| + | แต่ระลึกตรึกตราเป็นอารมณ์ จนบรรทมหลับไปกับไสยา ฯ | ||
| + | ฯ ๘ คำ ฯ ตระ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | <sup>ร่าย</sup> | ||
| + | ๏ บัดนั้น เสนีสี่นายทั้งซ้ายขวา | ||
| + | ให้จับการทุกด้านดังบัญชา ตรวจตราหน้าที่ทำพระเมรุ | ||
| + | ลากเสาเข้าที่ทั้งสี่ต้น ผู้คนอึงอัดขัดเขมร | ||
| + | บ้างขุดหลุมลงลุยคุ้ยเลน บ้างกะเกณฑ์กันตั้งนั่งร้าน | ||
| + | เอาเชือกผูกแทงทบครบเสา ได้ฤกษ์เร่งคนเข้าขันกว้าน | ||
| + | ตั้งไม่ใช้เดินรอกตะพาน คนประจำทำงานไม่เงือดงด | ||
| + | พวกทำเมรุทิศทั้งนั้น ก็พร้อมกันยกตั้งขึ้นทั้งหมด | ||
| + | ติดตะม่อสองชั้นเป็นหลั่นลด นายช่างกำหนดอำนวยการ | ||
| + | เจ้าหน้าที่สามสร้างต่างมาจับ ชักระดับปลายเสาเสมอสมาน | ||
| + | บ้างใส่สอดรอดพรึงตรึงกระดาน เสียงสิ่วเสียงขวานอึงอล ฯ | ||
| + | ฯ ๑๐ คำ ฯ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ บัดนั้น พวกวิเสทแต่งสำรับสับสน | ||
| + | ครั้นเพลาจวนเที่ยงจะเลี้ยงคน ก็รีบล้นขนสำรับมาฉับไว | ||
| + | กรมวังนั่งจ่ายให้นายด่าน พวกทำการเมรุทิศเมรุใหญ่ | ||
| + | ข้าวกระทงส่งมาแต่ข้างใน เจ้าขรัวนายเกณฑ์ให้ทำทุกเรือน | ||
| + | ประชาชนชายหญิงเอาสิ่งของ มาถวายกรายกองไว้กล่นเกลื่อน | ||
| + | แจกให้ไพร่สมระดมเดือน ทั้งทหารพลเรือนทั่วกัน ฯ | ||
| + | ฯ ๖ คำ ฯ เจรจา | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ บัดนั้น เสนีสี่ตำรวจกวดขัน | ||
| + | นายด้านทำการพระเมรุนั้น ทั้งกลางคืนกลางวันเร่งรัด | ||
| + | ให้ยกดูกผูกเชือกแย่งระบาง ยอดปรางค์นภศูลสวมฉัตร | ||
| + | ตำรวจในไม้สูงสันทัด ขึ้นผูกแผงผัดจัดกระจัง | ||
| + | ติดชั้นเชิงบาตรบัวหงาย เรียงรายเทพนมยืนนั่ง | ||
| + | บัญชรชัชวาลบานบัง ฝาผนังหลังคากระยารงค์ | ||
| + | พนักงานด้านทำพระเมรุทอง ก็ติดตัวลำยองหางหงส์ | ||
| + | หน้ากระดาษฐานปัทม์ไม่ขัดทรง บรรจงตั้งเครื่องพระเบญจา | ||
| + | เพดานดาราระย้าย้อย ผูกห้อยภู่พวงบุปผา | ||
| + | ฉากกระจกยกตั้งบังตา แต่งที่เป็นข้างหน้าข้างใน | ||
| + | บ้างตั้งไม้กระถางวางรูปสัตว์ รอบจังหวัดบริเวณพระเมรุใหญ่ | ||
| + | รูปกินอ้อนแอ่นเอาใจ วางไว้ริมมุขทุกทิศ | ||
| + | ซุ้มดอกไม้รุ่งรายซ้ายขวา โคมระย้าหลายลูกผูกติด | ||
| + | ราชวัติทึบตั้งบังมิด ฉัตรเงินทองปิดน้ำตะกู | ||
| + | บ้างยกฉัตรเบญจรงค์เรียงเรียบ เสาตะเกียบปักเคียงเป็นคู่คู่ | ||
| + | ยักษ์โตตั้งวางข้างประตู ยืนอยู่หูตาน่ากลัว | ||
| + | บ้างทำโรงหุ่นโขนช่องระทา ขึ้นหลังคาดาดแผงผูกจั่ว | ||
| + | ปลูกศาลาฉ้อทานทำครัว เสร็จทั่วทุกตำแหน่งแต่งไว้ ฯ | ||
| + | ฯ ๘ คำ ฯ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ บัดนั้น ฝ่ายเจ้าพนักงานน้อยใหญ่ | ||
| + | ครั้นจวนกำหนดไม่นอนใจ ก็ตระเตรียมเทียมพิชัยราชรถ | ||
| + | รถใหญ่สำหรับใส่พระโกศทอง เรืองรองรจนาปรากฏ | ||
| + | รถโยงปรายข้าวตอกเป็นหลั่นลด รถอ่านหนังสือรถใส่ท่อนจันทน์ | ||
| + | เกณฑ์ไพร่ไว้สำหรับชักฉุด ใส่เสื้อเสนากุฎขบขัน | ||
| + | ที่บ่าวไพร่ใครช้ามาไม่ทัน ก็พากันวิ่งวุ่นทุกมุลนาย | ||
| + | บรรดาหมู่คู่แห่เข้ากระบวน ก็มาถ้วนตามบัญชีซึ่งมีหมาย | ||
| + | ล้วนใส่เสื้อครุยกรุยกราย สมปักลายลำพอกถือดอกบัว | ||
| + | คนชักรูปสัตว์จัดหนุ่มหนุ่ม ใส่ศีรษะโมงคลุมครอบหัว | ||
| + | ทับทรวงสังวาลลอดสอดพันพัว แต่งตัวนุ่งตาโถงโจงกระเบน | ||
| + | กิดาหยันจัดกันตามตำแหน่ง เชิญพระแสงหอกดาบดั้งเขน | ||
| + | ตั้งตาริ้วรายไปใกล้พระเมรุ พรั่งพร้มตามเกณฑ์ทั้งไพร่นาย ฯ | ||
| + | ฯ ๑๒ คำ ฯ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ บัดนั้น ประชาชนพลเมืองทั้งหลาย | ||
| + | จะดูชักพระศพตบแต่งกาย หญิงชายโอ่อวดประกวดกัน | ||
| + | บรรดาเหล่าชาวบ้านบางไกล ก็ลงเรือรีบไปแต่ไก่ขัน | ||
| + | เร่างพายเตือนผัวกลัวไม่ทัน ถุ้งเถียงทะเลาะกันมากลางทาง | ||
| + | ที่บ้านอยู่คนละฟากอยากจะดู แต่เช้าตรู่ก็ลงมาท่าเรือจ้าง | ||
| + | ให้เบี้ยเขาข้ามส่งตราท่าช้าง บ้างยังค้างคอยอยู่กู่ตะโกน | ||
| + | พวกเมียขุนนางต่างแต่งแง่ มาคอยดูอยู่ที่แคร่หน้าโรงโขน | ||
| + | ปะชายายหน้าประสาโลน ทำเมินเดินโดนผู้หญิงไป | ||
| + | ชาวแพแม่ค้าพาลูกเต้า ผัวพวกนายสำเภาเป็นจีนใหม่ | ||
| + | พูดจาไม่ขัดสันทัดไทย นั่งไหนหนุ่มหนุ่มก็ล้อมอึง | ||
| + | เมียน้อยเจ้าภาษีมิใช่ชั่ว หน้าเป็นเล่นตัวจนผัวหึง | ||
| + | พวกกินเหล้าเมามาหน้าตึง ปากโป้งโผงผึงอวดตน | ||
| + | เห็นสาวสาวที่ไหนชุมเข้ากลุ้มกลัด แทรกสกัดกั้นขวางกลางถนน | ||
| + | ตำรวจในไล่ตีผู้คน สับสนอลหม่านไปมา ฯ | ||
| + | ฯ ๑๔ คำ ฯ เจรจา | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น ระตูผู้ผ่านหมันหยา | ||
| + | ครั้นแสงทองส่องสว่างกระจ่างตา เสด็จมาสรงชลฉับพลัน ฯ | ||
| + | ฯ ๒ คำ ฯ เสมอ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | <sup>โทน</sup> | ||
| + | ๏ ทรงสุคนธ์รวยรินกลิ่นเกลา สอดใส่สนับเพลาลายกระสัน | ||
| + | ทรงภูษาพื้นขาวเขียวสุวรรณ เกรียวกรวยสามชั้นบรรจงโจง | ||
| + | ฉลององค์โหมดเทศทองอร่าม อินทร์ธนูดูงามอ่าโถง | ||
| + | เจียระบาดตาดเงินเงาโง้ง ปั้นเหน่งลายปรุโปร่งประดับพลอย | ||
| + | กรองศอสังเวียนวิเชียรช่วง ตาบทิศทับทรวงห่วงห้อย | ||
| + | ทองกรจำหลักเป็นรักร้อย ธำมรงค์เพชรพลอยร่วงรุ้ง | ||
| + | กรรเจียกแก้วแพรวพายทั้งซ้ายขวา ทรงชฎาห้อยยอดสอดสะดุ้ง | ||
| + | ห้อยอุบะตันหยงส่งกลิ่นฟุ้ง ครั้นรุ่งก็เสด็จจรจรัล ฯ | ||
| + | ฯ ๘ คำ ฯ เสมอ | ||
| + | </tpoem> | ||
| + | ==== ==== | ||
| + | <tpoem> | ||
| + | <sup>ร่าย</sup> | ||
| + | ๏ มายังเกยมณีที่ข้างหน้า พระราชาขึ้นทรงอุสงหงัน | ||
| + | เสนีแห่แหนแน่นนันต์ อิเหนากุเรปันก็ตามไป ฯ | ||
| + | ฯ ๒ คำ ฯ เชิด | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ ครั้นถึงหยุดประทับพลับพลา พร้อมหมู่มาตยาน้อยใหญ่ | ||
| + | หมอบเฝ้าคอยฟังรับสั่งใช้ ตำรวจในพิทักษ์รักษาองค์ ฯ | ||
| + | ฯ ๒ คำ ฯ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น ประไหมสุหรีมีศักดิ์สูงส่ง | ||
| + | ชวนระเด่นจินตะหราโฉมยง มาทรงวอสุวรรณกั้นกลาง | ||
| + | เสด็จโดยฉนวนในไคลคลา โขลนจ่าร้องให้ปิดประตูข้าง | ||
| + | หร้อมหมู่สาวสวรรค์กำนัลนาง ต่างต่างตามเสด็จจรลี ฯ | ||
| + | ฯ ๔ คำ ฯ เชิด | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ ครั้นถึงจึงชวนพระธิดา หยุดประทับพลัยพลาหลังคาสี | ||
| + | คอยดูชักศพพระอัยกี เลิกมู่ลี่แลลอดสอดตา ฯ | ||
| + | ฯ ๒ คำ ฯ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ บัดนั้น เสนีธิบดีซ้ายขวา | ||
| + | เร่งรัดจัดถ้วนกระบวนตรา พอเวลาไขสีรวีวรรณ | ||
| + | จึงให้เชิญพระศพในปราสาท ขึ้นสู่ยานุมาศผายผัน | ||
| + | เกณฑ์แห่แห่แหนแน่นันต์ มายังเกยสุวรรณที่ประทับ | ||
| + | พนักงานเชิญพระโกษขึ้นตั้ง บนบัลลังก์รถทรงเสร็จสรรพ | ||
| + | คู่แห่แตรสังข์คั่งคับ เป็นลำดับเดินโดยมรคา | ||
| + | เชื้อพระวงศ์ทรงรถเรืองรอง มือถือแว่นทองซองสลา | ||
| + | โขมพัตถ์พับยาวโยงมา พาดเหนืออังสาทรงไว้ | ||
| + | รถพระวงศ์เชื้อสายปรายข้าวตอก ใส่ชฎาลำพอกดอกไม้ไหว | ||
| + | รถบีกูดูหนังสืออ่านไป รถหลังตั้งเนื้อไม้ท่อนจันทน์ | ||
| + | เครื่องสูงเคียงคู่ทั้งสองข้าง พระกลดหักทองขวางกางกั้น | ||
| + | อินทร์พรหมพร้อมเพรียงเรียงกัน เสียงประโคมครื้นครั่นสนั่นไปป | ||
| + | รูปสัตว์สิ่งละคู่ดูต่างต่าง ตามตำแหน่งขุนนางน้อยใหญ่ | ||
| + | บุษบกบัลลังก์ตั้งผ้าไตร ชักไปเป็นขนัดอัดมา | ||
| + | ระเด่นดาหยกสุริย์วงศ์ ทั้งเผ่าพงศ์ประยูรในหมันหยา | ||
| + | ต่างองค์ทรงเครื่องใส่ชฎา ขี่ม้าตามไปในกระบวน ฯ | ||
| + | ฯ ๑๖ คำ ฯ กลองโยน | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ บัดนั้น หญิงชายหนุ่มสาวชาวเรือกสวน | ||
| + | ลูกเต้าหลานเหลนอยู่เป็นพรวน เห็นกระบวนแห้หน้ามาแต่ไกล | ||
| + | พวกผู้หญิงชิงช่องราชวัติ ด่าทอพ้อตัดผลักไส | ||
| + | บ้างลุกขึ้นชี้หน้าแล้วว่าไป ทำไมตะกายเอานายกู | ||
| + | ลูกผัวพี่น้องทั้งสองข้าง วิ่งวางเข้าช่วยเหมือนหมวยหมู่ | ||
| + | พวกผู้ชายเฮฮาเข้ามาดู ตำรวจในไล่ขู่ห้ามปราม | ||
| + | ผู้คนคั่งคับนับแสน นับแน่นไปทั้งท้องสนาม | ||
| + | บ้างชมรถรัตน์สารพัดงาม พระโกศทองอร่ามรูจี | ||
| + | ท้าวนางข้างในออกไปดู นั่งอยู่หน้าพลับพลาหลังคาสี | ||
| + | บ้างพูดถึงครั้งการบ้านเมืองดี ว่างามยิ่งกว่านี้มากมาย | ||
| + | เมียขุนนางลางคนติผัว แต่งตัวใส่ลำพอกปานจะหงาย | ||
| + | สะกิดเพื่อนเตอนให้ดูท่านผู้ชาย แย้มยิ้มพริ้มพรายไปมา ฯ | ||
| + | ฯ ๑๒ คำ ฯ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น พวกพระวงศ์พงศ์พันธุ์ในหมันหยา | ||
| + | ทั้งขุนนางข้าง๓ูษามาลา ครั้นพระศพชักมาถึงพระเมรุ | ||
| + | ให้เชิญโกษลงจากบุษบก พยุงยกฮึดฮัดขัดเขมร | ||
| + | ใส่ที่นั่งบัลลังก์ราเชนทร์ เวียนรอบบริเวณพระเมรุมา ฯ | ||
| + | ฯ ๔ คำ ฯกลองโยน | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ ครั้นครบคำรบสามตามธรรมเนียม หนักงานคอยเตรียมอยู่พร้อมหน้า | ||
| + | จึงเชิญพระโกศแก้วแววฟ้า ขึ้นตั้งบนเบญจห้าชั้น | ||
| + | พวกประโคมสังข์แตรแซ่เสียง สำเนียงกลองชนะครื้นครั่น | ||
| + | ชาววังชักรูดพระสูตรสุวรรณ บังแสงสุริยันตรัสไตร ฯ | ||
| + | ฯ ๔ คำ ฯ เจรจา | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น ระตูหมันหยาเป็นใหญ่ | ||
| + | ชวนอิเหนานัดดาคลาไคล เข้าไปในพระเมรุรจนา | ||
| + | ครั้นถึงจึงบังคมเคารพ พระศพอัยกีนาถา | ||
| + | แล้วทรงจุดธูปเทียนบูชา เครื่องสุวรรณบุปผามาลี ฯ | ||
| + | ฯ ๔ คำ ฯ สาธุการ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น โฉมยงองค์ประไหมสุหรี | ||
| + | ทั้งระเด่นจินตะหราวาตี จรลีมายังพระเมรุทอง ฯ | ||
| + | ฯ ๒ คำ ฯ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ จึงจุดธูปเทียนนมัสการ เยาวมาลย์กำสรดเศร้าหมอง | ||
| + | สาวสนมกรมในเนืองนอง ฟูมฟายชลนัยน์จาบัลย์ ฯ | ||
| + | ฯ ๒ คำ ฯ โอด | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น ระตูผู้ผ่านไอศวรรย์ | ||
| + | ให้สังฆ์การีพระนันธรรม์ พร้อมกันเข้ามาสดับปกรณ์ ฯ | ||
| + | ฯ ๒ คำ ฯ เจรจา | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ แล้วถวายไทยทานวัตถุ บริขารเสื่อร่มพรมหมอน | ||
| + | โสมนัสศรัทธาสถาวร ภูธรเสด็จกลับมาพลับพลา ฯ | ||
| + | ฯ ๒ คำ ฯ เสมอ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ นั่งเหนือพระยี่ภู่ปูลาด หมู่อำมาตย์เฝ้าแหนแน่นหนา | ||
| + | ประชาชนกล่นเกลื่อนกันมา จึงตรัสสั่งเสนาให้ทิ้งทาน ฯ | ||
| + | ฯ ๒ คำ ฯ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ บัดนั้น เสนีที่เฝ้าอยู่หน้าฉาน | ||
| + | รับสั่งแล้ววิ่งไปลนลาน โบกมือให้ทิ้งทานโปรยปราย ฯ | ||
| + | ฯ ๒ คำ ฯ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ บัดนั้น ขุนหมื่นชาวคลังทั้งหลาย | ||
| + | นั่งประจำกำมพฤกษ์รอบราย ต่างถวายบังคมแล้วขึ้นทิ้ง | ||
| + | ผู้คนคั่งคับสับสน ปนละวนวุ่นวายทั้งชายหญิง | ||
| + | บ้างโดดโลดลอยคอยชิง ชูสวิงร่มรับลูกมะนาว | ||
| + | บ้างตบมือเพรียกเรียกร้อง ไล่ตะครุบทุบถองกันอื้อฉาว | ||
| + | เป็นหมู่หมู่วิ่งกรูเกรียวกราว ประชาชาวบุรีปรีดา ฯ | ||
| + | ฯ ๖ คำ ฯ เจรจา | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ บัดนั้น พนักงานการเล่นทุกภาษา | ||
| + | ทั้งหุ่นโขนโรงใหญ่ช่องระทา มานอนโรงคอยท่าแต่ราตรี | ||
| + | ครั้นพระศพชักมาถึงหน้าเมรุ ก็โห่ฉาวกราวเขนขึ้นอึงมี่ | ||
| + | ต่างเล่นเต้นรำทำท่วงที เสียงฆ้องกลองตีทุกโรงงาน ฯ | ||
| + | ฯ ๔ คำ ฯ เจรจา | ||
</tpoem> | </tpoem> | ||
การปรับปรุง เมื่อ 10:11, 7 กันยายน 2552
เนื้อหา |
ข้อมูลเบื้องต้น
แม่แบบ:เรียงลำดับ พระราชนิพนธ์: พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย
บทประพันธ์
| ช้าปี่ | |||
| ๏ มาจะกล่าวบทไป | ถึงสี่องค์ทรงธรรม์นาถา | ||
| เป็นหน่อเนื้อเชื้อวงศ์เทวา | บิตุเรศมารดาเดียวกัน | ||
| รุ่งเรืองฤทธาศักดาเดช | ได้ดำรงนคเรศเขตขัณฑ์ | ||
| พระเชษฐาครองกรุงกุเรปัน | ถัดนั้นครองดาหาธานี | ||
| องค์หนึ่งครองกาหลังบุรีรัตน์ | องค์หนึ่งครองสิงหัดส่าหรี | ||
| เฉลิมโลกโลกาธาตรี | ไม่มีผู้รอต่อฤทธิ์ | ||
| ระบือลือทั่วทุกประเทศ | ย่อมเกรงเดชเดชาอาญาสิทธิ์ | ||
| บำรุงราษฎร์ดับเข็ญอยู่เป็นนิจ | โดยทางทศพิศราชธรรม์ | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ | |||
| ชมตลาด | |||
| ๏ มีพระมเหษีห้าองค์ | ดั่งอนงค์นางฟ้ากระยาหงัน | ||
| เลือกล้วนสุริย์วงศ์พงศ์พันธุ์ | กษัตริย์ครองเขตขัณฑ์สวรรยา | ||
| ตั้งแต่งตามตำแหน่งครบที่ | คือประไหมสุหรีเสน่หา | ||
| มะเดหวีที่สองรองลงมา | แล้วมะโตโสภานารี | ||
| ที่สี่ลิกูนงเยาว์ | ที่ห้านั้นเหมาหลาหงี | ||
| อันอัครชายาทั้งห้านี้ | ตั้งได้แต่สี่พารา | ||
| ประดับด้วยสุรางค์นางสนม | ล้วนอุดมรูปทรงวงศา | ||
| ถ้วนหมื่นหกพันกัลยา | วิลาศเลิศลักขณาทุกนางใน | ||
| สำหรับขับรำบำเรอราช | พิณพาทย์จำเรียงเสียงใส | ||
| ผลัดกันปั่นโมงมาคอยใช้ | พนักงานของใครระไวระวัง | ||
| มีเหล่าเถ้าแก่ท้าวนาง | งานเครื่องงานกลางผู้รับสั่ง | ||
| โขลนจ่าหลวงแม่เจ้าชาวคลัง | จัดแจงแต่งตั้งครบครัน | ||
| ฯ ๑๒ คำ ฯ | |||
| ร่าย | |||
| ๏ มีหมู่มาตยาสามนต์ | โยธีรี้พลแข็งขัน | ||
| นับหมื่นพื้นหาญชาญฉกรรจ์ | เคยณรงค์โรมรันไม่ครั่นคร้าม | ||
| ม้ารถคชไกรไม่ใช่ชั่ว | แต่ละตัวแกล้วกล้ากลางสนาม | ||
| ทนปืนยืนยงในสงคราม | ฦานามขามฤทธิทุกทิศไป | ||
| นานานัคเรศประเทศราช | เข็ดขยาดย่อท้อไม่ต่อได้ | ||
| ต่างถวายสุวรรณมาลัย | โอรสยศไกรและธิดา | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ยานี | |||
| ๏ อันสี่ธานีราชฐาน | กว้างใหญ่ไพศาลหนักหนา | ||
| เทเวศร์นฤมิตด้วยฤทธา | สนุกดั่งเมืองฟ้าสุราลัย | ||
| มีปราสาททั้งสามตามฤดู | เสด็จอยู่โดยจินดาอัชฌาสัย | ||
| หลังคาฝาผนังนอกใน | แล้วไปด้วยโมราศิลาทอง | ||
| ภูเขาเงินรองฐานมีมารแบก | ยอดแทรกยอดใหญ่ไม้สิบสอง | ||
| แก้วไพฑูรย์ทำเป็นลำยอง | บัญชรช่องชัชวาลบานบัง | ||
| พระปรัศว์ซ้ายขวาอ่าโถง | ท้องพระโรงรจนาหน้าหลัง | ||
| พระแท่นแก้วกุดั่นบัลลังก์ | กางกั้นเศวตฉัตรอยู่อัตรา | ||
| บรรจถรณ์ที่ไสยาสน์อาสน์สุวรรณ | มีฉากแก้วแพรวพรรณคั่นฝา | ||
| ที่เสวยที่สรงคงคา | ที่นั่งเย็นอยู่หน้ามนเทียรทอง | ||
| พรรณไม้ดอกลูกปลกกระถาง | ไว้หว่างอ่างแก้วเป็นแถวถ้อง | ||
| ราบรื่นพื้นชาลาดังหน้ากอง | อิฐทองปูลาดสะอาดตา | ||
| ที่ทิมที่ล้อมวงองครักษ์ | นอกกองเกณฑ์พิทักษ์รักษา | ||
| โรงแสงโรงภูษามาลา | เรียงเรียบรัถยาหน้าพระลาน | ||
| เครื่องเนืองกันเป็นหลั่นลด | โรงม้าโรงรถคชสาร | ||
| ติกาหลังสำหรับพระกุมาร | อยู่นอกปราการกำแพงวัง ฯ | ||
| ฯ ๑๖ คำ ฯ | |||
| ร่าย | |||
| ๏ ประตูลักลงท่าชลาลัย | มีโรงเรือเรียงไปริมฝั่ง | ||
| เรือศรีสุวรรณบัลลังก์ | เรือแข่งเรือที่นั่งตั้งบนม้า | ||
| เรือกิ่งเอกชัยใส่บุษบก | งามกระหนกลวดลายท้ายหน้า | ||
| พนักงานตำรวจใหญ่ไตรตรา | เกณฑ์ไพร่ให้รักษานาวี | ||
| ตำหนักแพแลล้ำอำไพ | มุขดลพาไลหลังคาสี | ||
| ช่อฟ้าหน้าบันปราลี | ล้วนมณีเนาวรัตน์ชัชวาล | ||
| ข้างหน้าตำหนักน้ำนั้นทำเกรง | สำหรับราชสุริย์วงศ์สรงสนาน | ||
| เบื้องบนบังสาดดาดเพดาน | ผูกม่านมู่ลี่ลายทอง | ||
| ฤดูสิบเอ็ดเสด็จลง | ลอยกระทงทรงประทีปเป็นแถวถ้อง | ||
| ทอดทุ่นท้ายน้ำประจำซอง | ตั้งกองล้อมวงพระทรงธรรม์ | ||
| อันถนนหนทางท้องฉนวน | ศิลาลายลาดล้วนเลือกสรร | ||
| มีตึกแถวทิมรอบขอบคัน | เรือนสนมกำนัลเป็นหลั่นมา ฯ | ||
| ฯ ๑๒ คำ ฯ | |||
| สมิงทอง | |||
| ๏ ท้องสนามแกล้งปราบราบรื่น | พ่างพื้นปถพีไม่มีหญ้า | ||
| กว้างใหญ่ไพศาลสุดตา | เตียนสะอาดดาษดาด้วยทรายทอง | ||
| มีสุวรรณพลับพลาบนปราการ | สูงตระหง่านเอื้อมฟ้าสิบห้าห้อง | ||
| ช่อฟ้าปราลีลำยอง | ฉลักฉลุบุทองอร่ามไป | ||
| สำหรับที่ทอดพระเนตรสระสนาน | ล่อแพนผัดพานเป็นการใหญ่ | ||
| ประลองเหล่าทหารชาญชัย | ยิงธนูศรใส่ยาพิษ | ||
| ตั้งป้อมหัดปืนยิงหุ่น | แม่นยำซ้ำกระสุนไม่มีผิด | ||
| โล่ดั้งดาบฟันกระชั้นชิด | เพลงกริชสันทัดทั่วทุกตัวตน | ||
| บ้างรำทวนเปลี่ยนท่าบนพาชี | ขับขี่เคยศึกฝึกฝน | ||
| ประลองคชสารสู้บำรูชน | ใช้ชำนาญในกลการยุทธ์ ฯ | ||
| ฯ ๑๐ คำฯ | |||
| ร่าย | |||
| ๏ รอบราชนิเวศน์เขตขัณฑ์ | มีปราการแก้วกั้นสูงสุด | ||
| ซุ้มทวารบานสุวรรณชมพูนุท | ประตูลักช่องกุฎิ์สลับกัน | ||
| มีทิวแถวโรงช้างระวางค่าย | เชิงเรียงรายเขื่อนเพชรเขื่อนขัณฑ์ | ||
| หอรบแลสล้างนางจรัล | ป้อมสูงสามชั้นเป็นหลั่นลด | ||
| รายปืนจินดาจังกาส่อง | วางประจำทุกช่องเสมาหมด | ||
| เชิงเทินดังเนินบรรพต | บันไดลดเลี่ยนลาดสะอาดตา ฯ | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ชมตลาด | |||
| ๏ ท่ามกลางทางท้องสถลมาศ | ลำดับดาดอิฐแผ่นแน่นหนา | ||
| บ้านช่องสองข้างมรรคา | ล้วนเคหาหน้าถังนั่งร้าน | ||
| เหล่าพวกกรมท่าเจ้าภาษี | มั่งมีสมบัติพัสถาน | ||
| เรือนริมรัถยาฝากระดาน | ตึกกว้านบ้านขุนนางนองเนือง | ||
| สุเหร่าเรียงเคียงคั่นปั้นหยา | ก่อผนังหลังคามุงกระเบื้อง | ||
| ศาลเทพารักษ์หลักเมือง | นับถือลือเลื่องทั้งกรุงไกร | ||
| เสาชิงช้าอาวาสวัดพราหมณ์ | ทำตามประเพณีพิธีไสย | ||
| หอกลองอยู่กลางเวียงชัย | แม้เกิดไฟไพรีตีสัญญา | ||
| สะพานข้างทางข้ามคชสาร | ก่ออิฐปูกระดานไม้หนา | ||
| คลองหลอดแลลิ่วสุดตา | น้ำลงคงคาไม่ขอดเคือง | ||
| นาวาค้าขายพายขึ้นล่อง | ตามแม่น้ำลำคลองแน่นเนื่อง | ||
| แพจอดตลอดท่าหน้าเมือง | นองเนืองเป็นขนัดในนัที | ||
| ข้าวของต่างต่างเอาวางขาย | แพรม้วนมากมายหลายสี | ||
| ยกทองล่องจวนเจ็ดตะคลี | พลอยมณีเพชรนิลจินดา | ||
| บริบูรณ์พูนสุขด้วยสมบัติ | แก้วเก้าเนาวรัตน์วัตถา | ||
| ทุกสิ่งสรรพ์เอมโอชโภชนา | ย่อมเยาราคาสารพัน ฯ | ||
| ฯ ๑๖ คำ ฯ | |||
| เบ้าหลุด | |||
| ๏ ลูกค้าวานิชทุกนิเวศน์ | มาแต่ต่างประเทศเขตขัณฑ์ | ||
| สำเภาจอดทอดท่าเรียงรัน | สลุบแขกกำปั่นวิลันดา | ||
| จีนจามอะแจแซ่ซ้อง | คับคั่งทั้งสิบสองภาษา | ||
| แสนสนุกสุขเกษมเปรมปรา | ถ้วนหน้าประชาชนมนตรี | ||
| บ้างฝึกสอนคนรำทำบทบาท | พิณพาทย์ระนาดฆ้องอึงมี่ | ||
| ลูกค้าวาณิชทุกนิเวศน์ | มาแต่ต่างประเทศเขตขัณฑ์ | ||
| พวกขุนนางต่างหัดมโหรี | ลาวสาวเสียงดีมีหลายคน | ||
| บ้างลงท่าโกนจุกสนุกสนาน | มีงานการกึกก้องทุกแห่งหน | ||
| บ้างตั้งบ่อนปลากัดงัดไก่ชน | ทรหดอดทนเป็นเดิมพัน | ||
| บ้างเล่นวิ่งวัวคนโคระแทะ | ชนแพะแกะกระบือคูขัน | ||
| บ้างเล่นว่าวคุลาคว้าพนัน | ปากเป้าสั้นโห่ฉาววิ่งราวมา | ||
| ราตรีมีหนังประชันเชิด | ฉลุฉลักลายเลิศเลขา | ||
| บ้างเล่นเพลงครึ่งท้อนกลอนสักวา | ทั้งสุดใจไก่ป่าสารพัน ฯ | ||
| ฯ ๑๒ คำ ฯ | |||
| ชมตลาด | |||
| ๏ ฝ่ายฝูงสาวสาวชาวกรุง | ก็บำรุงรูปโฉมเฉิดฉัน | ||
| ขัดขมิ้นหนุนเนื้อเจือจันทน์ | หวีผมคมสันกันไร | ||
| ที่ลูกเหล่าพงศ์เผ่าพวกผู้ดี | รูปทรงส่งศรีผ่องใส | ||
| ซ่อนตัวกลัวจะเก็บเป็นางใน | ถึงมีงานการใหญ่ไม่ไปดู | ||
| ลางพวกเพิ่งดรุณีแรกสาว | เจ้าบ่าวไปปลูกหอขอสู่ | ||
| บ้างลอบลักรักเร้นเป็นชู้ | หมากพลูพวงมาลัยให้กัน | ||
| พวกหนุ่มหนุ่มพากเพียรเวียนแวดขาย | มุ่งหมายรักใคร่ใฝ่ฝัน | ||
| ..............................วรรคนี้หายไป | ไม่มีในต้นฉบับ........................ | ||
| บ้างดีดนิ้วผิวปากทำเพลง | ล้วนนักเลงเจ้าชู้ฉุยฉาย | ||
| ลดเลี้ยวเที่ยวเล่นตามสบาย | หญิงชายเป็นสุขทุกคืนวัน ฯ | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ | |||
| ปลิ่ม | |||
| ๏ ทิศใต้ภายนอกธานี | มีสระสวนศรีสะตาหมัน | ||
| มิ่งไม้หลายอย่างต่างพรรณ | ล้วนแกล้งกลั่นสรรสาปลูกไว้ | ||
| บ้างเผล็ดผลผการะย้าย้อย | ช่อช้อยชูก้านบานไสว | ||
| พ่างพื้นรื่นร่มสำราญใจ | มีตำหนักน้อยในวารี | ||
| อันโบกขรณีสี่เหลี่ยม | น้ำเปี่ยมเทียบปากสระศรรี | ||
| ใสสะอาดปราศจากราคี | ดังแสงแก้วมณีรจนา | ||
| มีสุพรรณโกสุมปทุมมาลย์ | ตูมบานแย้มกลีบกลิ่นเกล้า | ||
| เกสรร่วงลงคงคา | พระพายพาหอมฟุ้งจรุงใจ ฯ | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ | |||
| สระบุหร่ง | |||
| ๏ นอกกเมืองมีสระตำยลหนึ่ง | วารีลึกซึ้งเย็นใส | ||
| ริมรอบขอบคันล้วนพรรณไม้ | ระบัดใบบังแสงสุริยง | ||
| เป็นที่ภูธรแต่ก่อนมา | แม้นปราบข้าศึกเสร็จเสด็จสรง | ||
| ประดับด้วยโกมุทบุษบง | ลินจงอุบลบัวบาน | ||
| มีพลับพลาที่ประทับยับยั้ง | อยู่ริมฝั่งสระใหญ่ไพศาล | ||
| สำหรับเมืองเนื่องมาแต่บุราณ | ทั้งสี่ราชฐานพารา ฯ | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ | |||
| พระทอง | |||
| ๏ แต่กรุงดาหาธานี | มีคิรีวิลิศมาหรา | ||
| อยู่นอกเมืองข้างเบื้องบูรพา | มรรคาวันหนึ่งถึงบรรพต | ||
| อารักษ์เรืองฤทธิ์สถิตสถาน | เชี่ยวชาญเดชาปรากฏ | ||
| ย่อมเป็นที่นับถือลือยศ | แห่งชาวชนบทพระบุรี | ||
| แม้นมีเหตุเภทพานประการใด | ก็บวงบนเทพไทเรืองศรี | ||
| ทำตามบุราณราชประเพณี | ถึงปีไปเคารพอภิวันท์ | ||
| ทั้งที่พระองค์วงศ์เทเวศร์ | ดำรงนคเรศเกษมสันต์ | ||
| ไพร่ฟ้าข้าแผ่นดินสิ้นทั้งนั้น | เป็นสุขทุกวันทุกเวลา ฯ | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ | |||
| ช้า | |||
| ๏ มาจะกล่าวบทไป | ถึงพิชัยเขตขัณฑ์หมันหยา | ||
| แสนสนุกสุขเกษมเปรมปรา | บรรดากรุงชวาไม่เทียมทัด | ||
| เป็นใหญ่ยิ่งกว่าทุกธานี | แต่ก่อนทั้งบุรีสี่กษัตริย์ | ||
| ประกอบด้วยแก้วเก้าเนาวรัตน์ | ไอศูรย์สมบัติศฤงคาร | ||
| มีหมู่มาตยาข้าเฝ้า | สองเหล่าพลเรือนแลทหาร | ||
| โยธีนับหมื่นพื้นเชี่ยวชาญ | แต่ละคนเคยชำนาญในการรบ | ||
| อยู่ยงคงกระพันสาตรา | วิชาโล่เขนเจนจบ | ||
| ราชรถคชสารสินธพ | เลิศลบเลือนกว่าทุกธานี ฯ | ||
| ฯ ๑๘ คำ ฯ | |||
| ร่าย | |||
| ๏ ปางก่อนพระนครหมันหยา | ประชาราษฎร์มาตยาเกษมศรี | ||
| ตั้งแต่ระตูภูมี | สุดสิ้นชีวีทิวงคต | ||
| ก็เย็นเยียบเงียบเหงาเปล่าใจ | ทั่วนิเใศน์เวียงชัยชยนบท | ||
| ตั้งแต่ประไหมสุหรีมียศ | โศกศัลย์รันทดทุกเวลา | ||
| มีราชธิดาสามองค์ | งามทรงวงพักตร์เพียงเลขา | ||
| พี่นางทรงนามสมญา | ชื่อนิหลาอระตาเทวี | ||
| พระผู้ผ่านพิภพกุเรปัน | ตุนาหงันเป็นประไหมสุหรี | ||
| อันระเด่นดาหลาวาตี | บุตรีที่สองรองลงมา | ||
| ท้าวดาหาตุนาหงันไป | เป็นประไหมสุหรีในดาหา | ||
| ยังแต่น้องนุชสุดโสภา | กัลยาแรกรุ่นจำเริญวัย | ||
| ชื่อระเด่นจินดาส่าหรี | พระชนนีถนอมนักรักใคร่ | ||
| กษัตริย์ใดมาขออรทัย | ไม่ยินยอมยกให้ไปไกลองค์ | ||
| หวังจะให้เป็นเอกในเศวตฉัตร | สืบตระกูลกษัตริย์สูงส่ง | ||
| อันท้าวมังกันฤทธิ์วงศ์ | ก็เนื่องในสุริย์วงศ์กันมา | ||
| ได้ครอบครองสวรรยาธานี | ทรงธรรม์นั้นมีโอรสา | ||
| พระคิดถึงระตูผู้มรณา | จะบำรุงพาราให้เรืองไป | ||
| จึงตกแต่ของมาตุนาหงัน | ชนนีนางนั้นก็อวยให้ | ||
| อภิเษกเอกองค์โอรสไว้ | ในพิชัยหมันหยาธานี ฯ | ||
| ฯ ๑๘ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ฝ่ายท้าวกุเรปันเรืองศรี | ||
| เสวยราชสมบัติสวัสดี | สุขเกษมเปรมปรีดิ์มาช้านาน | ||
| จึงมีพระโอรสา | ด้วยลิกูกัลยายอดสงสาร | ||
| ชื่อกระหรัดตะปาตีกุมาร | รูปทรงสัณฐานโสภา | ||
| พระบิตุเรศมารดาทั้งห้าองค์ | พิศวงจงรักหนักหนา | ||
| เย็นเช้าเฝ้าชมทุกเวลา | แสนสนิทเสน่หาดังดวงใจ ฯ | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ๏ จึ่งจัดกิดาหยันน้องน้อย | ถ้วนร้อยโปรดปรานประทานให้ | ||
| ทั้งนางนมพี่เลี้ยงแลสาวใช้ | เจ้าขรัวยายผู้ใหญ่ได้บังคับ | ||
| ประทานทั้งเงินทองของขวัญ | ตามขนมครบครันเครื่องประดับ | ||
| สร้อยสุวรรณสังวาลบานพับ | เกี้ยวแก้วแวววับสำหรับยศ | ||
| ให้ตั้งกรรมทำกิจวิทยา | พร้อมคณะพรามหาดาบส | ||
| ชุบกริชประสิทธิ์ให้โอรส | เลื่องหล้าปรากฎฤทธิไกร | ||
| ครั้นท้าวกาหลังมีบุตรี | ด้วยลิกูนารีศรีใส | ||
| ชื่อบุษบารากายาใจ | ตุนาหงันกล่าวไว้แก่ลูกยา ฯ | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ | |||
| ๏ คิดจะให้ประไหมสุหรีนั้น | ทรงครรภ์พระโอรสา | ||
| จะได้สืบสุริวงศ์พงศ์เทวา | ดำรงขัณฑเสมาธานี ฯ | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ | |||
| ๏ คิดพลางทางถวายเครื่องบวงสรวง | บำบวงเทวราชเรืองศรี | ||
| ขออารักษ์หลักเมืองเรืองฤทธี | ได้ปรานีเชิญช่วยจงสคิด | ||
| ให้ประไหมสุหรีนั้นมีบุตร | เป็นบุรุษรูปโฉมประโลมจิต | ||
| ได้ครอบครองพระนครขจรฤทธิ์ | ลือสะท้านทั่วทิศทั้งปวง | ||
| แม้นสมปรารถนาดังว่าขาน | จะแต่งแก้บนบานบวงสรวง | ||
| เทียนทองชวาลาบุปผาพวง | พรรณรายรุ้งร่วงด้วยเนาวรัตน์ | ||
| จะแผ่ทองเนื้อเก้าหุ้มเสาศาล | เอาตาดคำทำม่านเพดานดัด | ||
| อีกทั้งทิวธงราชวัติ | ชุมสายเศวตฉัตรชัชวาล | ||
| ทั้งแพะแกะโคกระทิงสิ่งละร้อย | จะปล่อยไว้ในเทวสถาน | ||
| จะสมโภชเจ็ดทิวาราตรีกาล | มีงานมหรสรพครบครัน ฯ | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ | |||
| ช้า | |||
| ๏ เมื่อนั้น | องค์ปะไหมสุหรีเฉิดฉัน | ||
| ร่วมภิรมย์สมสุขด้วยทรงธรรม์ | เมื่อจวนจะมีครรภ์พระลูกรัก | ||
| ราตรีเข้าที่พระบรรทม | ด้วยบรมนรินทร์ปิ่นปักษ์ | ||
| บังเกิดนิมิตฝันอัศจรรยบ์นัก | ว่านงลักษณ์นั่งเล่นที่ชาลา | ||
| มีพระสุริยงทรงกลด | ชักรถมาในเวหา | ||
| แจ่มแจ้งแสงสว่างทั้งโลกา | ตกลงตรงหน้านางรับไว้ | ||
| ครั้นนิทราตื่นฟื้นองค์ | ให้หลากจิตพิศวงสงสัย | ||
| จึงทูลพระภัสดาพลันทันใด | โดยนัยนิมิตเยาวมาลย์ ฯ | ||
| ฯ ๘ คำฯ | |||
| ร่าย | |||
| ๏ เมื่อนั้น | องค์ศรีปัตหราได้ทราบสาร | ||
| นิ่งนึกตรึกดูก็แจ้งการ | จะมีครรภ์กุมารเป็นมั่นคง | ||
| พระเร่งเกษมสันต์หรรษา | สมถวิลจินดาดังประสงค์ | ||
| พอรุ่งรางสว่างแสงสุริยง | ก็อ่าองค์ทรงเครื่องรูจี | ||
| เสด็จออกยังท้องพระโรงคัล | นั่งเหนือแท่นสุวรรณจำรัสศรี | ||
| แล้วเล่าความนิมิตเทวี | แก่โหรเฒ่าทั้งสี่ทันใด ฯ | ||
| ฯ ๖ คำฯ | |||
| ๏ บัดนั้น | ทั้งสี่โหราอัชฌาสัย | ||
| พิเคราะห์ดูเห็นแจ้งไม่แคลงใจ | ต่างทูลภูวไนยไปพลัน | ||
| อันพระสุบินนี้ดีนัก | จะได้โอรสรักเป็นแม่นมั่น | ||
| อาจองทรงเดชดังสุริยัน | ทุกนิเวศน์เขตขัณฑ์ไม่ต้านทาน | ||
| จะเป็นที่ดับเข็ญให้เย็นยุค | ราษฎรจะได้สุขเกษมศานต์ | ||
| ซึ่งนิมิตยามจันทร์วันอังคาร | จวนเวลากาลอโณทัย | ||
| สิ่งใดพระองค์ประสงค์นัก | ตำราว่าจักพลันได้ | ||
| แต่ในสองเดือนถ้าเคลื่อนไป | พระอย่าไว้ชีวิตโหรา ฯ | ||
| ฯ ๘ คำฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระทรงภพกุเรปันหรรษา | ||
| จึ่งดำรัสตรัสสั่งเสนา | ให้จัดเสื้อผ้าแพรพรรณ | ||
| ทั้งเงินทองข้าวของหลากหลาย | มาให้โหรผู้ทายทำนายฝัน | ||
| สั่งเสร็จเสด็จจรจรัล | เข้าปราสาทสุวรรณรจนา ฯ | ||
| ฯ ๘ คำ เสมอ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | องค์ปะไหมสุหรีเสน่หา | ||
| อยู่เย็นเป็นสุขทุกเวลา | ประมาณเดือนหนึ่งมาก็มีครรภ์ | ||
| ยิ่งผุดผาดผิวผ่องละอององค์ | ดังอนงค์นางฟ้ากระยาหงัน | ||
| เมื่อจวนจะถ้วนกำหนดนั้น | ให้บังเกิดอัศจรรย์จลาจล | ||
| พสุธาสะเทือนเลื่อนลั่น | เป็นควันตลบทั้งเวหน | ||
| มืดมิดปิดแสงพระสุริยน | ฟ้าลั่นอึงอลนภาลัย | ||
| แลบพรายเป็นสายอินทรธนู | สักครู่ก็เกิดพายุใหญ่ | ||
| ไม้ไล่ลู่ล้มระทมไป | แล้วฝนห่าใหญ่ตกลงมา | ||
| เปรี้ยงเปรี้ยงเสียงฟ้าฟาดสาย | แต่มิได้อันตรายจักผ่า | ||
| เย็นทั่วฝูงราษฎร์ประชา | ทั้งเจ็ดทิวาราตี ฯ | ||
| ฯ ๑๐ คำฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | องค์ท้าวกุเรปันเรืองศรี | ||
| เสด็จยังปรางค์รัตน์มณี | ภูมีเห็นนิมิตผิดใจ | ||
| เกิดมาแต่ก่อนบ่ห่อนเห็น | จะอุบัติขัดเข็ญเป็นไฉน | ||
| คิดพลางย่างเยื้องคลาไคล | เสด็จออกพระโรงชัยฉับพลัน ฯ | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เสมอ | |||
| ๏ จึงมีพระราชบรรหาร | ถามโหราจารย์คนขยัน | ||
| ซึ่งเกิดมหัศจรรย์ | ผิดอย่างปางบรรพ์ไม่เคยมี | ||
| หรือจะเป็นเหตุการณ์แก่บ้านเมือง | ระคายเคืองขุ่นข้องหมองศรี | ||
| จงเร่งทำนายร้ายหรือดี | เรานี้ให้ฉงนสนเท่ห์ใจ ฯ | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ บัดนั้น | ขุนโหรกราบทูลแถลงไข | ||
| ข้าพิเคราะห์เห็นไม่เป็นไร | แต่วันแรกนั้นได้ปรึกษากัน | ||
| คูณควณสวนสอบทุกตำรา | ดูชะตานคเรศเขตขัณฑ์ | ||
| วางลัคน์อินทพาทบาทจันทร์ | ก็ไม่เห็นสำคัญอันตราย | ||
| เพราะอานุภาพพระโอรส | ให้ปรากฏแก่โลกทั้งหลาย | ||
| ซึ่งฟ้าร้องสนั่นลั่นแลบพราย | บันดาลเป็นสายอินทรธนู | ||
| จะกึกก้องเกียรติยศทั้งทศทิศ | เรืองฤทธิ์ไม่มีที่เคียงคู่ | ||
| พระจะเที่ยวโรมรันพันตู | ปราบหมู่อริราชทุกบุรี | ||
| อันเกิดพายุใหญ่ไม้ล้ม | ระตูจะบังคมบทศรี | ||
| ซึ่งฝนตกเจ็ดวันเจ็ดราตรี | บรรณาการจะมีเนืองมา | ||
| เมื่อพระชันษาสิบห้าขวบ | พระเคราะห์ร้ายประจวบกันหนักหนา | ||
| จะพลัดพรากจากเมืองถึงสามครา | แต่ว่าเห็นไม่เป็นไรนัก | ||
| พระจะไปได้นางในเมืองอื่น | ชมชื่นรื่นรสด้วยยศศักดิ์ | ||
| แล้วจำเป็นจะจากกันทั้งรัก | พระจะได้ทุกข์นักเพราะนารี | ||
| นางใจที่ประสงค์จำนงให้ | ไม่อาลัยจะสลัดหลีกหนี | ||
| ซึ่งเมฆหมอกมืดมัวทั่วราตรี | บดบังรังสีสุริยน | ||
| พระองค์ดั่งดวงทินกร | ทรงเดชขจรทุกแห่งหน | ||
| พระโอรสยศยิ่งภูวดล | เหมือนเมฆเกลื่อนกล่นเข้าบังไว้ | ||
| ซึ่งเป็นควันตลบอบอัมพร | ภูธรจะทุกข์ทนหม่นไหม้ | ||
| ด้วยโอรสาจะคลาไคล | จำเป็นจำให้กำจัดกัน | ||
| พระจะเที่ยวมะงุมมะงาหรา | ย่ำยีบีฑาทุกเขตขัณฑ์ | ||
| สิบสามปีจะคืนกุเรปัน | จะได้สองนางนั้นมาธานี | ||
| จึงจะเย็นแหล่งหล้าประชากร | สโมสรเป็นสุขเกษมศรี | ||
| จะสมบูรณ์ยิ่งกว่าทุกวันนี้ | พระจะมีมเหสีถึงสิบองค์ | ||
| บรรดากรุงชวาทั้งปวง | จะขึ้นแก่กุเรปันเป็นส่วยส่ง | ||
| ข้าเห็นพร้อมกันเป็นมั่นคง | มิได้พะวงสงกา ฯ | ||
| ฯ ๒๖ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | องค์ท้าวกุเรปันนาถา | ||
| ฟังคำทำนายโหรา | เกษมสันต์หรรษาเป็นพ้นนัก | ||
| จึงประทานบำเหน็จนานา | เสื้อผ้านุ่งห่มสมปัก | ||
| ให้โหรเฒ่าผู้ทำนายทายทัก | แล้วทรงศักดิ์เสด็จจากพระโรงคัล ฯ | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เสมอ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | องค์ประไหมสุหรีเฉิดฉัน | ||
| ตั้งแต่เกิดเหตุมหัศจรรย์ | นับได้เจ็ดวันเจ็ดคืนมา | ||
| พระครรภ์ครบกำหนดทศมาส | จะประสูติพระราชโอรสา | ||
| ให้เจ็บปวดรวดร้าวทั้งกายา | ประหนึ่งว่าชีวันจะอันตราย ฯ | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เสมอ | |||
| ๏ บัดนั้น | ฝูงสุรางค์นางกำนัลทั้งหลาย | ||
| ทั้งเถ้าแก่ชะแม่เจ้าขรัวนาย | เห็นโฉมฉายปั่นป่วนประชวรครรภ์ | ||
| บ้างเข้าหนุนพระขนองประคองรับ | กำชับหมอตำแยที่แปรผัน | ||
| บ้างไปเฝ้าองค์พระทรงธรรม์ | บังคมคัลทูลแถลงให้แจ้งใจ ฯ | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระผู้ผ่านพิภพกรุงใหญ่ | ||
| ฟังข่าวเร่าร้อนฤทัย | ภูวไนยก็รีบลีลา ฯ | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ ครั้นถึงพระจึงเสด็จนั่ง | เหนือสุวรรณบัลลังก์เลขา | ||
| พร้อมสี่มเหสีกัลยา | สุริย์วงศ์พงศามากมี ฯ | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | โฉมยงค์ประไหมสุหรี | ||
| ครั้นได้ฤกษ์พานาที | เทวีก็ประสูติพระกุมาร | ||
| ชาวประโคมก็ประโคมแตรสังข์ | พร้อมพรั่งจำเรียงเสียงประสาน | ||
| อันอัศจรรย์ซึ่งบันดาล | ก็อันตรธานทันใดฯ | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ มโหรี | |||
| ๏ เมื่อนั้น | องค์มะเดหวีศรีใส | ||
| จึงเอาข่ายแก้วแววไว | รับพระดนัยโฉฉมยง | ||
| แล้วเอาน้ำดอกไม้ใสสด | มารินรดชำระสระสรง | ||
| ลูบไล้ด้วยเครื่องสุคนธ์ทรง | วางลงบนยี่ภู่พานสุวรรณ ฯ | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | องค์ศรีปัตหรารังสรรค์ | ||
| พิศโฉมลูกยาวิลาวัณย์ | สารพันงามสิ้นทั้งอินทรีย์ | ||
| ดำแดงแน่งเนื้อนวลผจง | น่ารักรูปทรงส่งศรี | ||
| สมหมายเหมือนถวิลยินดี | เสน่หาพ้นที่จะพรรณนา ฯ | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ บัดนั้น | ท้าวนางข้างในถ้วนหน้า | ||
| ทั้งเถ้าแก่ชะแม่จ่าชา | ก็จัดสรรภรรยาเสนี | ||
| เป็นนางสนมสมบูรณ์ด้วยรูปร่าง | ครบถ้วนตามอย่างหกสิบสี่ | ||
| เว้นโทษขาวดำผอมพี | ไม่มีต่ำสูงเสมอกัน | ||
| แล้วจัดเหล่านารีพี่เลี้ยง | ที่ควรเคียงถือต้องประคองขวัญ | ||
| สี่อนงค์ทรงลักษณ์ลาวัลย์ | ล้วนวงศ์พงศ์พันธุ์กษัตรา | ||
| กับนางกำนัลน้อยน้อย | สองร้อยรูปร่างโอ่อ่า | ||
| ทั้งเงินทองของขวัญนานา | นำมาถวายทันที ฯ | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ | |||
| ๏ บัดนั้น | จึงมหาอำมาตย์ทั้งสี่ | ||
| กับทั้งเหล่าเสนามนตรี | แต่บรรดาที่มีบุตรนั้น | ||
| ให้จัดแจงแต่งตัวทั้งแปดร้อย | ล้วนน้อยน้อยหน้าตาคมสัน | ||
| พาไปเฝ้าองค์พระทรงธรรม์ | ถวายเป็นข้าขวัญพระกุมาร ฯ | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระปิ่นปักนัคเรศราชฐาน | ||
| ชื่นชมโสมนัสเบิกบาน | จึงมีบัญชาการตรัสไป | ||
| อันบุตรเสนาปาเตะ | ตั้งที่ยะรุเดะพี่เลี้ยงใหญ่ | ||
| บุตรตำมะหงงเสนาใน | ตั้งให้เป็นที่ปูนตา | ||
| อันบุตรดะหมังมนตรี | ตั้งเป็นที่ประสันตาครบครัน | ||
| พื้นดรุณรุ่นหนุ่มน้อยน้อย | รูปร่างแช่มช้อยเฉิดฉัน | ||
| พระสั่งให้ประทานรางวัล | ตามหลั่นพี่เลี้ยงแลมนตรี ฯ | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ฝ่ายสามอนุชาเรืองศรี | ||
| อีกองค์สมเด็จพระอัยกี | กับประไหมสุหรีหมันหยานั้น | ||
| ทั้งระภูธรทุกประเทศ | ครั้นเห็นเหตุวิปริตผิดผัน | ||
| ต่างองค์ทรงคิดอัศจรรย์ | ให้สงสัยไหวหวั่นหฤทัย | ||
| บ้างให้ค้นดูตำรับข้างที่ | จดหมายเหตุคัมภีร์น้อยใหญ่ | ||
| คนแก่เฒ่าก็เอามาซักไซ้ | บ้างถามไถ่โหราพฤฒาจารย์ | ||
| บ้างให้หาบีกูประมาหนา | ฤาษีชีป่าในไพรสัณฑ์ | ||
| ที่ได้กสิณอภิญญาณ | ก็แจ้งการทำนายมาเหมือนกัน | ||
| ต่างรู้ประจักษ์แจ้งแห่งเหตุ | ผู้มีเดชลงมาจากสวรรค์ | ||
| เป็นโอรสท้าวกุเรปัน | จะประสูติจากครรภ์พระชนนี | ||
| อันท้าวดาหาแลกาหลัง | อีกทั้งท้าวสิงหัดส่าหรี | ||
| กับองค์อัครราชเทวี | ชื่นชมยินดีเป็นสุดคิด | ||
| จึงจัดของขวัญพระกุมาร | สร้อยสนสังวาลวิภูษิต | ||
| มงกุฎแก้วกุณฑลตาบทิศ | ตามอย่างราชนิติบุราณมา | ||
| ให้มหาเสนานำไป | ยังกรุงไกรบรมเชษฐา | ||
| เฉลิมขวัญพระราชนัดดา | โดยตำราตราตั้งจิรังกาล | ||
| ฝ่ายองค์สมเด็จพระอัยกี | ในหมันหยาธานีราชฐาน | ||
| จัดระเด่นดาหยันกุมาร | ซึ่งเป็นวงษ์วารกษัตรา | ||
| กับพี่เลี้ยงแลนางนม | ล้วนอุดมรูปทรงวงศา | ||
| ชายหญิงสิ่งละร้อยโดยตรา | มอบให้เสนานำไป ฯ | ||
| ฯ ๒๐ คำ ฯ | |||
| ๏ บัดนั้น | เสนาหมันหยากรุงใหญ่ | ||
| ถวายบังคมลาคลาไคล | ออกจากพิชัยธานี ฯ | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เชิด | |||
| เร่งรัดรีบมสิบห้าวัน | ก็ลุถึงกุเรปันกรุงศรี | ||
| พบทูตทั้งสามพระบุรี | พากันจรลีเข้าวังใน ฯ | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ | |||
| ครั้นถึงจึงตรงเข้าไปหา | ปะเตะเสนาแลดาหมัง | ||
| ต่างแถลงแจ้งความให้ฟัง | แล้วพากันมาพระโรงชัย ฯ | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ | |||
| ๏ บัดนั้น | ท้าวนางกำนัลน้อยใหญ่ | ||
| ครั้นถึงวันสมโภชพระดนัย | ก็วุ่นวายวิ่งไขว่ไปทั้งวัง | ||
| เร่งให้หาโหราพราหมณ์ชี | ชาวประโคมดนตรีแตรสังข์ | ||
| เอาขันสาครใหญ่ในคลัง | มันจัดแจงแต่งตั้งเตียงรอง | ||
| ปักสุวรรณราชวัติฉัตรธง | รายรอบที่สรงเป็นแถวถ้อง | ||
| ทั้งมะพร้าวเต่าปลาเงินทอง | จัดต้องตามธรรมเนียมเตรียมไว้ | ||
| ตั้งบายศรีเงินทองสองสำรับ | แซมยอดสอดประดับดอกไม้ไหว | ||
| ลังข์กลศแว่นเวียนเทียนชัย | แต่งไว้เสร็จถ้วนทุกสิ่งอัน ฯ | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | องค์ศรีปัตหรารังสรรค์ | ||
| เวลาควรจวนฤกษ์ก็จรจรัล | ไปปราสาทสุวรรณพระโอรส ฯ | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เสมอ | |||
| นั่งเหนือบัลลังก์รูจี | พร้อมพระมเหสีทั้งปวงหมด | ||
| ต่างกราบบาทบงสุ์พระทรงยศ | พอกำหนดพระฤกษ์เวลา | ||
| จึงให้เชื้อพระวงศ์ผู้ใหญ่ | เข้าอุ้มองค์พระดนัยเสน่หา | ||
| เชิญสี่บีกูนั้นเข้ามา | จำเริญเกศาพระกุมาร ฯ | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| แล้วเชิญลงสรงน้ำในสาคร | อับอบอายเกสรหอมหวาน | ||
| ชีพราหมณ์โหราพฤฒาจารย์ | ต่างอ่านพระเวทย์ถวายชัย | ||
| ราชครูบีกูทั้งสี่ | เอาเสาวคนธ์วารีมาสรงให้ | ||
| แล้วเชิญลงอู่แก้วแววไว | อ่านมนต์แกว่งไกวไปมา ฯ | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ยานี | ||||
| ๏ มาจะกล่าวบทไป | ถึงองค์อสัญแดหวา | |||
| ซึ่งเป็นบรมอัยการ | สถิตยังชั้นฟ้าสุราลัย | |||
| จึงนิมิตกริชแก้วสุรกานต์ | นามกรพระหลานจารึกใส่ | |||
| ครั้นเสร็จเสด็จจากวิมาชัย | เหาะมากรุงไกรกุเรปัน ฯ | |||
| ฯ ๔ คำ ฯ รัว | ||||
| ร่าย | ||||
| ๏ ครั้นถึงจึงวางกริชลง | ข้างองค์พระกุมารหลานขวัญ | |||
| อวยชัยให้พรแล้วเทวัญ | กลับคืนกระยาหงันชั้นฟ้า ฯ | |||
| ฯ ๒ คำ ฯ เชิด | ||||
| ๏ เมื่อนั้น | องค์มะเดหวีเสน่หา | |||
| ประคองกรช้อนอุ้มพระลูกยา | เชิญมาจากอู่อำไพ | |||
| เห็นกริชนั้นวางอยู่ข้างที่ | มารศรีหลากจิตคิดสงสัย | |||
| จึงหยิบมาดูด้วยดีใจ | แล้วถวายภูวไนยฉับพลัน ฯ | |||
| ฯ ๔ คำ ฯ | ||||
| ๏ เมื่อนั้น | พระผู้ผ่านโภไคยไอศวรรย์ | |||
| ชืนชมโสมนัสอัศจรรย์ | เอากริชนั้นออกพิจารณา ฯ | |||
| ฯ ๒ คำ ฯ | ||||
| ๏ จึงเห็นจารึกอักษร | นามกรพระโอรสา | |||
| ชื่อหยังหยังหนึ่งหรัดอินดรา | อุดากนสาหรีปาตี | |||
| อิเหนาเองหยังตาหลา | เมาะตาริยะกัดดังสุรศรี | |||
| ดาหยังอริราชไพรี | เองกะนะกะหรีกุรปัน ฯ | |||
| ฯ ๔ คำ ฯ | ||||
| ๏ ครั้นอ่านเสร็จสิ้นในอักษร | ภูธรยิ่งแสนเกษมสันต์ | |||
| จึงยอกรถวายอภิวันท์ | อัยกาทรงธรรม์เลิศไกร | |||
| พระมาช่วยอุปถัมภ์บำรุง | จะลือเกียรติทุกกรุงน้อยใหญ่ | |||
| สมคำโหรทายทำนายไว้ | ประจักษ์ในนิมิแต่เดิมมา | |||
| แล้วสั่งประโคมเป็นสำคัญ | เฉลิมขวัญพระโอรสา | |||
| เอาฤกษ์ได้กริชเทวา | เป็นมหามหัศอัศจรรย์ ฯ | |||
| ฯ ๖ คำ ฯ | ||||
| ๏ ครั้นเสร็จสมโภชพระดนัย | พระผู้ผ่านโภไคยไอศวรรย์ | |||
| จึงสั่งพนักงานทั้งปวงนั้น | ให้จัดสรรเครื่องใช้แลเครื่องทรง | |||
| มงกุฎเพชรพาหุรัดจำรัสเรือง | กับเมืองขึ้นสิบเมืองเป็นส่วยส่ง | |||
| ทั้งเสนีรี้พลจัตุรงค์ | ประทานองค์โอรสยศไกร ฯ | |||
| ฯ ๔ คำ ฯ | ||||
| ๏ ครั้นเสร็จพระเสด็จเยื้องย่าง | จากปรางค์ปราสาททองผ่องใส | |||
| มายังโรงคัลทันใด | เสนาในเฝ้าแหนแน่นนันต์ ฯ | |||
| ฯ ๒ คำ ฯ เสมอ | ||||
| ๏ บัดนั้น | ปาเตะเสนาคนขยัน | |||
| จึงนำเสนีสี่เมืองนั้น | มาบังคมคัลมิทันนาน ฯ | |||
| ฯ ๒ คำ ฯ | ||||
| ๏ แล้วทูลว่าสามกษัตริย์ทรงเดช | ผู้ดำรงนคเรศราชฐาน | |||
| ให้เสนีนำของมาประทาน | พระหลานรักราชสุริย์วงศ์ | |||
| แต่องค์สมเด็จพระอัยกี | ให้หมันหยาธานีสูงส่ง | |||
| ให้ระเด่นดาหยันโฉมยง | ซึ่งเป็นเชื้อพระวงศ์พงศ์พันธุ์ | |||
| ทั้งหมู่ชายหญิงสิ่งละร้อย | ล้วนหนุ่มน้อยหน้าตาคมสัน | |||
| กับพี่เลี้ยงนางนมทั้งนั้น | ถวายเป็นข้าขวัญพระนัดดา ฯ | |||
| ฯ ๖ คำ ฯ | ||||
| ๏ เมื่อนั้น | พระสุริย์วงศ์ศรีปัตหรา | |||
| ชื่นชมโสมนัสปรีดา | จึงมีบัญชาตรัสไป | |||
| ซึ่งพระมารดาการุญ | พระคุณนั้นหาที่สุดไม่ | |||
| ท่านจงทูลแถลงให้แจ้งใจ | ว่าเราบังคมไปใต้บาทา | |||
| อันพระอนุชาสามธานี | เรานี้ชอบใจเป็นหนักหนา | |||
| จงจำเริญสุขทุกเวลา | อันตรายโรคาอย่าแผ้วพาน | |||
| แล้วประทานเสื้อผ้าแก่เสนี | ซึ่งมาแต่สี่ราชฐาน | |||
| อันระเด่นดาหยันกุมาร | พระประธานเงินทองของพึงใจ | |||
| ให้อยู่ยังที่ติกาหลัง | นิเวศน์วังลูกหลวงอาศัย | |||
| ครั้นเสร็จเสด็จเข้าข้างใน | เสนีกลับไปพารา ฯ | |||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ | ||||
| ๏ เมื่อนั้น | องค์ประไหมสุหรีหมันหยา | |||
| ทรงครรภ์ถ้วนทศมาตรา | ประสูติมาเป็นราชบุตรี | |||
| งามงอนอ่อนระทวยนวยแน่ง | ดำแดงนวลเนื้อสองสี | |||
| ผ่องพักตร์ผิวพรรณดังจันทรี | นางในธานีไม่เทียมทัน | |||
| องค์พระอัยกีเป็นที่รัก | ถนอมนักเชยชมภิรมย์ขวัญ | |||
| บิตุราชมาตุรงค์แลพงศ์พันธุ์ | พร้อมกันประทานนามพระธิดา | |||
| ชื่อจินตหราวาตีศรีสวัสดิ์ | เฉลิมวงศ์พงศ์กษัตริย์ในหมันหยา | |||
| อ่อนเดือนกว่าอิเหนาพี่ยา | ทั้งสองชันษาเดียวกัน | |||
| พร้อมพระพี่เลี้ยงนางนม | นักสนมกรมในสาวสวรรค์ | |||
| ประโลมเลี้ยงพระธิดาดวงจันทร์ | ทุกวันทุกเวลาราตรี ฯ | |||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ | ||||
| ๏ เมื่อนั้น | พระทรงภพกุเรปันเรืองศรี | |||
| ทั้งท้าวดาหาธิบดี | สองประไหมสุหรีพี่นางนั้น | |||
| จึงจัดของขวัญอันอุดม | ทั้งพี่เลี้ยงนางนมเลือกสรร | |||
| ให้เสนาคุมของจรจรัล | ไปทำขวัญพระนัดดานารี ฯ | |||
| ฯ ๔ คำ ฯ | ||||
| ๏ เมื่อนั้น | องค์ท้าวสิงหัดส่าหรี | |||
| มีโอรสแรกเริ่มเดิมที | กับประไหมสุหรีศรีโสภา | |||
| เทเวศร์ให้กริชเป็นของขวัญ | เหมือนกันกับอิเหนาเชษฐา | |||
| จารึกนามใส่ในกริชมา | ชื่อระเด่นสุหรานากง | |||
| ครั้นท้าวกาหลังมีบุตรี | ด้วยประไหมสุหรีนวลหง | |||
| ชื่อสกาหนึ่งหรัดโฉมยง | รูปทรงโสภายาใจ | |||
| จึงแต่งของไปตุนาหงัน | บิตุรงค์ทรงธรรม์ก็อวยให้ | |||
| ตามจารีตวงศาสุราลัย | ตุนาหงันกันได้แต่สี่เมือง | |||
| อยู่มามีราชบุตรี | นวลละอองสองสีขาวเหลือง | |||
| พักตร์ผ่องผิวเนื้อเรื่อเรือง | จึงให้นามตามเรื่องมารดา | |||
| ชื่อระเด่นจินดาส่าหรี | พระชนกชนนีเสน่หา | |||
| สามเมืองส่งเครื่องบรรณา | มาทำขวัญพระธิดานารี | |||
| แล้วจัดสาวสนมกำนัล | เลือกสรรรูปทรงส่งศรี | |||
| ตั้งที่พี่เลี้ยงพระบุตรี | เหมือนกันทั้งสี่พารา ฯ | |||
| ฯ ๑๔ คำ ฯ | ||||
| ๏ เมื่อนั้น | องค์ประไหมสุหรีดาหา | |||
| อยู่เย็นเป็นสุขทุกทิวา | นานมาโฉมยงทรงครรภ์ | |||
| เมื่อจะประสูติพระดนัย | เวลาประจุสมัยไก่ขัน | |||
| บังเกิดมหัศอัศจรรย์ | กลิ่นสุคันธรสรวยริน | |||
| ดอกไม้ทุกพรรณบันดาล | เบิกบานเกสรขจรกลิ่น | |||
| ภุมเรศร่อนร้องโบยบิน | ประสานเสียงเพียงพิณพาทย์ฆ้อง | |||
| ดนตรีแตรสังข์ก็ดังเอง | อัศจรรย์บรรเลงกึกก้อง | |||
| ครั้นอรุณรุ่งรางสร่างแสงทอง | ดังแสงรุ้งเรืองรองอร่ามไป | |||
| สุรศรีดังสีธรรมชาติ | เลื่อมพรายโอภาสผ่องใส | |||
| จึงประสูติธิดายาใจ | งามวิไลล้ำเลิศเพริศพราย | |||
| อันอัศจรรย์ที่บันดาล | ก็อันตรธานสูญหาย | |||
| ยังแต่กลิ่นหอมรวยชวยชาย | จึงถวายพระนามตามเหตุนั้น | |||
| ชื่อระเด่นบุษบาหนึ่งหรัด | ลออเอี่ยมเทียมทัดนางสวรรค์ | |||
| ทั้งในธรณีไม่มีทัน | ผิวพรรณผุดผ่องดังทองทา | |||
| อันองค์มะเดหวีมีศักดิ์ | ถนอมอุ้มฟูมฟักรักษา | |||
| ทั้งสามมเหสีโสภา | รักราชธิดาดังดวงใจ ฯ | |||
| ฯ ๑๖ คำ ฯ | ||||
| ๏ เมื่อนั้น | พระผ่านภพดาหากรุงใหญ่ | |||
| แสนสวาทพระราชดนัย | ดังดวงฤทัยทรงธรรม์ | |||
| จึงจัดสี่พี่เลี้ยงพระธิดา | คนนั้นชื่อว่าบาหยัน | |||
| หนึ่งชื่อส่าเหง็ดลาวัณย์ | หนึ่งชื่อประเสหรันนารี | |||
| หนึ่งชื่อปะลาหงันกัลยา | ตามตำราชื่อตั้งทั้งสี่ | |||
| แล้วจัดสรรกำนัลที่รูปดี | นารีน้อยน้อยแปดร้อยปลาย | |||
| บรรดาบุตรเสนาน้อยใหญ่ | ต่างคนเต็มใจเอาไปถวาย | |||
| พระประทานรางวัลมากมาย | มอบให้เจ้าขรัวยายบังคับ | |||
| บ้างหัดร้องลำนำจำเรียง | ประสานเสียงซักซ้อมกล่อมขับ | |||
| บ้างหัดซอกกระจับปี่ตีโทนทับ | สำหรับบำเรอพระธิดา ฯ | |||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ | ||||
| ๏ เมื่อนั้น | พระทรงภพกุเรปันนาถา | |||
| แจ้งว่าองค์อนุชา | มีราชธิดาลาวัณย์ | |||
| พระเร่งชื่นชมโสมนัส | จึงให้จัดสิ่งของไปทำขวัญ | |||
| กับเครื่องบรรณาการนอกนั้น | เป็นของตุนาหงันกัลยา | |||
| ขอระเด่นบุษบาโฉมยง | ให้องค์อิเหนาโอรสา | |||
| ตามจารีตบุราณสืบมา | หวังมิให้วงศาอื่นปน | |||
| ครั้นเสียศักดิ์สุริย์วงศ์เทเวศร์ | ก็เกิดเหตุอันตรายหลายหน | |||
| ไพร่ฟ้าประชากรร้อนรน | จลาจลต่างต่างทั้งธานี | |||
| ฝ่ายพระอนุชากาหลัง | อีกทั้งสิงหัดส่าหรี | |||
| ต่างแต่งบรรณาการมากมี | ไปทำขวัญบุตรีพระพี่ยา ฯ | |||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ | ||||
| ๏ เมื่อนั้น | พระองค์ทรงพิภพดาหา | |||
| ตั้งแต่มีราชธิดา | ช้านานประมาณห้าปี | |||
| จึงมีโอรสยศยง | ด้วยองค์ประไหมสุหรี | |||
| งามละม้ายคล้ายกันกับบุตรี | ใครเห็นเป็นที่เจริญใจ | |||
| องค์อสัญแดหวาวราฤทธิ์ | เสกแสร้งนฤมิตกริชให้ | |||
| วางลงข้างองค์พระดนัย | จารึกนามนั้นใส่ในกริชมา | |||
| ชื่อระเด่นสียะตราหนึ่งหรัด | สืบวงศ์พงศ์กษัตริย์อสัญหยา | |||
| พระชนกชนนีก็ปรีดา | เสน่หาดังดวงฤทัย | |||
| สี่เมืองส่งเครื่องบรรณาการ | มาทำขวัญพระกุมารประสูติใหม่ | |||
| ของขวัญตามตำรับบังคับไว้ | โดยในสุริย์วงศ์เทวา | |||
| แล้วจัดสรรพี่เลี้ยงทั้งสี่ | ล้วนลูกเสนีมียศถา | |||
| พี่เลี้ยงเอกนั้นชื่อปุนตา | หนึ่งกะระตาหลาพี่เลี้ยงรอง | |||
| หนึ่งชื่อยะรุเดะพี่เลี้ยงตรี | ที่สี่ประสันตาปัญญาว่อง | |||
| ล้วนหนุ่มน้อยรุ่นรามทรามคะนอง | ตั้งต้องตามขนบครบครัน | |||
| ให้บุตรขุนหมื่นพื้นน้อยน้อย | แปดร้อยกุมารากิดาหยัน | |||
| ประทานเงินเสื้อผ้าสารพัน | ให้เป็นของขวัญพระลูกยา ฯ | |||
| ฯ ๑๖ คำ ฯ | ||||
| ๏ เมื่อนั้น | ฝ่ายอิเหนากุเรปันโอรสา | |||
| ปรีดิ์เปรมเกษมสุขทุกทิวา | จนจำเริญชนมาสิบห้าปี | |||
| งามรับสรรพสิ้นสรรพางค์ | ยิ่งอย่างเทวาในราศี | |||
| ทรงโฉมประโลมใจนารี | เป็นที่ประดิพัทธ์ผูกพัน | |||
| เนาในติกาหลังวังสถาน | ดังวิมานเมืองฟ้ากระยาหงัน | |||
| พร้อมด้วยสุรางค์นางกำนัล | พี่เลี้ยงกิดาหยันโยธา | |||
| อันศิลปศาสตร์สำหรับกษัตริย์ | ทุกสิ่งสารพัดหัดหา | |||
| รำกริชกระบี่ขี่อาชา | ศึกษาซ้อมเล่นไม่เว้นวัน ฯ | |||
| ฯ ๘ คำ ฯ | ||||
| ๏ ครั้นพระสุริย์ฉายบ่ายลง | ก็แต่งองค์ทรงเครื่องเรืองฉัน | |||
| เสด็จจากปราสาทแก้วแพรวพรรณ | จรจรัลไปท้องสนามชัย ฯ | |||
| ฯ ๒ คำ ฯ | ||||
| ๏ ครั้นถึงพลับพลาหน้าจักรวรรดิ | ที่เคยหัดจตุรงค์น้อยใหญ่ | |||
| จึงตรัสสั่งกิดาหยันทันใด | ให้เรียกมโนมัยเข้ามา ฯ | |||
| ฯ ๒ คำ ฯ | ||||
| ๏ บัดนั้น | กิดาหยันรับสั่งใส่เกศา | |||
| พลางพยักกวักเรียกกรมม้า | รีบจูงอาชามาฉับพลัน ฯ | |||
| ฯ ๒ คำ ฯ | ||||
| ๏ เมื่อนั้น | พระสุริย์วงศ์เทวากระยาหงัน | |||
| จึงขึ้นทรงม้าเหลืองเครื่องสุบรรณ | ระเด่นดาหยันนั้นขี่ม้าแดง | |||
| รำท่าเพลงทวนกระบวนรบ | ถ้อยทีขี่สินธพเข้มแข็ง | |||
| ชักเป็นโคมเวียนเปลี่ยนแปลง | ประปรายปลายพระแสงทวนทอง ฯ | |||
| ฯ ๒ คำ ฯ | ||||
| ๏ แล้วลงทรงกระบี่ตีเล่น | กับระเด่นดาหยันเคล่าคล่อง | |||
| กรีดกรายร่ายรำเป็นทำนอง | รับรองป้องปัดไปมา ฯ | |||
| ฯ ๒ คำ ฯ | ||||
| ๏ ครั้นเหนื่อยก็หยุดยับยั้ง | สถิตยังพลับพลาพลันหรรษา | |||
| ทอดพระเนตรกิดาหยันโยธา | ซ้อมหัดศาตราสารพัน ฯ | |||
| ฯ ๒ คำ ฯ | ||||
| ๏ ใครดีฝีมือแคล่วคล่อง | ก็ประทานเงินทองทุกสิ่งสรรพ์ | |||
| พอจวนเวลาสายัณห์ | ก็จรจรัลคืนยังวังใน ฯ | |||
| ฯ ๒ คำ ฯ | ||||
| ๏ เสด็จนั่งเหนืออาสน์ลาดปู | พระยี่ภู่เขยทองผ่องใส | |||
| สาวสุรางค์นางบำเรอบำรุงใจ | แสนสำราญหฤทัยทุกเวลา ฯ | |||
| ฯ ๒ คำ ฯ | ||||
| ๏ มาจะกล่าวบทไป | ถึงระตูผู้ผ่านหมันหยา | |||
| อยู่จำเนียรกาลนานมา | พระมารดาสุดสิ้นทิวงคต | |||
| มเหสีสุริย์วงศ์พงศ์พันธุ์ | ต่างแสนโศกศัลย์กำสรด | |||
| ทั้งองค์ระตูผู้มียศ | ก็ระทดพระทัยพันทวี | |||
| จึงให้เชิญพระศพใส่โกศทอง | สถิตไว้ในห้องปราสาทศรี | |||
| ตกแต่งตามตำแหน่งประเพณี | กษัตราธิบดีแต่ก่อนมา | |||
| แล้วมีพจนารถประสาทสั่ง | อำมาตย์ดะหมังยาสา | |||
| ท่านจงจัดแจงแต่งตรา | บอกบรรดาเมืองขึ้นของเรา | |||
| ให้ผู้รั้งทั้งปวงหลวงปลัด | เกณฑ์ไพร่เร่งรัดไปตัดเสา | |||
| กำหนดยาวใหญ่ย่อมกล่อมเกลา | ให้ได้เท่าตามอย่างช่างให้การ | |||
| ทุกสิ่งสารพัดผัดแผง | จัดแจงข้าส่วยให้ช่วยสาน | |||
| จงหมายบอกทุกตำแหน่งพนักงาน | จะทำการให้เสร็จในปีนี้ | |||
| แล้วสั่งปาเตะตำมะหงง | ท่านจงแต่งราชสารศรี | |||
| ไปดาหากุเรปันพระบุรี | ว่าพระชนนีนั้นมรณา ฯ | |||
| ฯ ๑๔ คำ ฯ | ||||
| ๏ บัดนั้น | อำมาตย์ทั้งสี่มียศถา | ||
| รับส่งแล้วบังคมลา | ออกมาจากพระโรงรูจี ฯ | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เสมอ | |||
| ๏ รีบเขียนหนังสือบอกหลายฉบับ | แล้วประทับปิดตราพระราชสีห์ | ||
| ให้ม้าใช้ถือไปทุกธานี | ตามมีรับสั่งพระทรงธรรม์ | ||
| แล้วแต่งราชสารลงลานทอง | มอบให้สองสามนต์คนขยัน | ||
| จงรีบไปหากุเรปัน | สิบห้าวันให้ถึงพารา ฯ | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ บัดนั้น | เสนีสองนาซ้ายขวา | ||
| คำนับรับราชสารา | มาขึ้นม้าแยกย้ายกันไป ฯ | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ ครั้นถึงกุเรปันนคเรศ | ก็เข้าในนิเวศน์วังใหญ่ | ||
| บอกแก่ยาสาเสนาใน | แล้วส่งสารให้ทันที ฯ | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ | |||
| ๏ บัดนั้น | ยาสาเสนาบดีศรี | ||
| พาอำมาตย์หมันหยาธานี | เข้าไปเฝ้าธุลีพระบาทา ฯ | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เสมอ | |||
| ๏ ครั้นถึงจึ่งถวายบังคม | นบนิ้วประนมเหนือเกศา | ||
| ทูลแถลงแจ้งความตามกิจจา | แล้วถวายสาราพระทรงธรรม์ฯ | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระผู้ผ่านกรุงไกรไอศวรรย์ | ||
| คลี่สารอ่านทราบทุกสิ่งอัน | จึงมีพระบัญชาไป | ||
| พระประชวรฉันใดก็ไม่รู้ | ควรหรือระตูช่างนิ่งได้ | ||
| ต่อเมื่อพระสวรรคาลัย | จึ่งให้มาแจ้งกิจจา ฯ | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ บัดนั้น | เสนีที่มาแต่หมันหยา | ||
| ได้ฟังพจนารถประภาษมา | จึ่งสนองบัญชาพระทรงยศ | ||
| แต่แรกประชวรมาได้ห้าวัน | พระโรคนั้นเห็นพอจะเปลื้องปลด | ||
| โภชนาอาหารก็มีรส | เสวยพระโอสถทุกเวลา | ||
| ระตูภูธรไว้พระทัย | ว่าจะไม่เป็นไรหนักหนา | ||
| จึ่งว่ามิได้มีราชสารา | มาทูลกิจจาภูวไนย | ||
| พระโรคนั้นกลับกลายเมื่อภายหลัง | หนักลงเหลือกำลังจะแก้ไข | ||
| สองวันก็สวรรคาลัย | ภูวไนยจงทราบฝ่าธุลี ฯ | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | องค์ท้าวกุเรปันเรืองศรี | ||
| ได้ฟังจะแจ้งแห่งคดี | ภูมีจึงสั่งเสนา | ||
| จงจัดแจงแต่งของไทยทาน | ไปช่วยการพระศพในหมันหยา | ||
| สั่งเสร็จเสด็จลีลา | เข้าหาปราสาทรูจี ฯ | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เสมอ | |||
| ๏ นั่งเหนือบัลลังก์รัตน์ชัชวาล | พร้อมห้าเยาวมาลย์มเหสี | ||
| พระยื่นสารนั้นทันที | ให้ประไหมสุหรีกัลยา ฯ | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | องค์ประไหมสุหรีเสนหา | ||
| คลี่สารอ่านแจ้งกิจจา | ว่าพระมารดาพิราลัย | ||
| ดั่งหนึ่งพระกาญชาญฤทธิ์ | มาเด็ดดวงชีวิตไปได้ | ||
| ชลเนตรฟูมฟองนองนัยน์ | สะอื้นไห้ครวญคร่ำรำพัน ฯ | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ โอด | |||
| ๏ โอ้พระชนนีของลูกเอ๋ย | พระคุณเคยปกป้องประคองขวัญ | ||
| เชยชมเช้าเย็นเป็นนิรันด์ | สารพันมิให้อนาทร | ||
| ยังมิได้ทดแทนสนองคุณ | ซึ่งการุญรักพร่ำสั่งสอน | ||
| หรือมาละลูมไว้ให้อาวรณ์ | หนีไปอมรเมืองฟ้า | ||
| พระประชวรโรคคันคุ้งบรรลัย | ก็มิได้พิทักษ์รักษา | ||
| เสียแรงที่อุ้มท้องประคองมา | กัลยาร่ำพลางทางโศกี ฯ | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ โอด | |||
| ร่าย | |||
| ๏ ครั้นค่อยเคลื่อนวายเทซษ | จึงกราบทูลภูวเรศเรืองศรี | ||
| ข้าขอบังคมลาฝ่าธุลี | ไปดูแลเปลวอัคคีพระมารดา ฯ | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระสุริย์วงศ์องค์ศรีปัตหรา | ||
| นิ่งนึกตรึกไตรไปมา | ครั้นจะให้กัลยาคลาไคล | ||
| เกลือกระตูผู้ผ่านแผ่นดิน | จะดูหมิ่นประมาทหาควรไม่ | ||
| จะเสียเกียรติยศปรากฏไป | ทุกกรุงไกรจะติฉินนินทา | ||
| คิดพลางทางปลอบมเหสี | อย่ากันแสงโศกีฟังพี่ว่า | ||
| อันเกิดแล้วไม่แคล้วมรณา | ถึงพรหมินทร์อินทราก็เหมือนกัน | ||
| ซึ่งจะส่งสักการพระมารดา | ยังนครหมันหยาเขตขัณฑ์ | ||
| กันดารโดยมาคาอารัญ | ทั้งทรงครรภ์ได้แปดเดือนปลาย | ||
| เกลือกจะเกิดเหตุใหญ่ขึ้นในป่า | จะลำบากายาโฉมฉาย | ||
| รู้ไปถึงไหนจะได้อาย | เขาจะฉินยินร้ายทุกพารา | ||
| เจ้าจงจัดแจงแต่งไทยทาน | ส่งสักการพระศพดีกว่า | ||
| ให้อิเหนาลูกเราลีลา | ก็เหมือนกับกัลยาคลาไคล ฯ | ||
| ฯ ๑๒ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | องค์ประไหมสุหรีศรีใส | ||
| ได้ฟังภิปรายค่อยคลายใจ | อรไททูลสนองพระวาจา | ||
| ซึ่งพระอง๕ืตรัสโปรดมาทั้งนี้ | เห็นชอบท่วงทีเป็นหนักหนา | ||
| ว่าแล้วถวายบังคมลา | ลงมาที่อยู่เยาวมาลย์ ฯ | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เสมอ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระองค์ผู้ดำรงราชฐาน | ||
| จึงตรัสสั่งดะหมังมิทันนาน | จงรีบไปแจ้งการอนุชา | ||
| เราจะให้ระเด่นมนตรี | ไปปลงศพอัยกียังหมันหยา | ||
| จะจัดแจงใครไปก็ให้มา | สองเมืองจะได้พากันคลาไคล ฯ | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ดะหมันรับสั่งบังคมไหว้ | ||
| มาเร่งรัดจัดกันทันใด | พร้อมเหล่าบ่าวไพร่แล้วไคลคลา ฯ | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ มาถึงทางร่วมพนาลี | ก็พบพวกเสนหมันหยา | ||
| ต่างคนต่างรีบเร่งมา | ก็ถึงกรุงดาหาพร้อมกัน | ||
| จึงไปหาปาเตะเสนี | แถลงเล่าคดีขมีขมัน | ||
| พอเพลาเฝ้าองค์พระทรงธรรม์ | ก็พากันไปพระโรงรูจี ฯ | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ จึงก้มเกล้าประณตบทมาลย์ | พระผู้ผ่านดาหากรุงศรี | ||
| อำมาตย์หมันหยาธานี | อัญชลีทูลถวายสารา ฯ | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระสุริย์วงศ์องค์ศรีปัตหรา | ||
| คลี่สารอ่านแจ้งในกิจจา | ให้สังเวชวิญญาณ์จาบัลย์ | ||
| จึงสั่งคลังวิเศษศุภรัต | จงจัดไทยทานทุกสิ่งสรรพ์ | ||
| แล้วถามดะหมังกุเรปัน | พระทรงธรรม์ใช้มาว่าไร ฯ | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ บัดนั้น | ดะหมังบังคมแถลงไข | ||
| บัดนี้พระเชษฐาบัญชาใช้ | มาทูลให้ทราบธุลีพระบาทา | ||
| พระจะให้องค์ระเด่นมนตรี | เสด็จไปบุรีหมันหยา | ||
| อันเครื่องไทยทานการนานา | ให้พร้อมแต่สิบห้าราตรี ฯ | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ บัดนั้น | ท้าวดาหาสุริย์วงศ์เรืองศรี | ||
| ได้แจ้งแห่งคำเสนี | ภูมีนิ่งนึกตรึกไตร | ||
| พระเชษฐาน่าจะแหนงฤทัยอยู่ | ด้วยระตูจะประมาทหมิ่นได้ | ||
| หวังมิให้กัลยาคลาไคล | จึงอุบายเป็นนัยมาดังนี้ | ||
| คิดพลางทางมีบัญชาสั่ง | ดะหมังจงคืนไปกรุงศรี | ||
| ทูลพระเชษฐาธิบดี | ว่าเราอัญชลีพระบาทา | ||
| จะให้เสนานำของไป | ยังนิเวศเวียงชัยพระเชษฐา | ||
| บรรจบกับอิเหนานัดดา | ไปเขตขัณฑ์หมันหยาธานี | ||
| สั่งเสร็จเสด็จยุรยาตร | ไปปราสาทองค์ประไหมสุหรี | ||
| นั่งเหนือบัลลังก์รัตน์รูจี | พระส่งสารศรีให้กัลยา ฯ | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | องค์ประไหมสุหรีเสนหา | ||
| คลี่สารอ่านพลันมิทันช้า | แจ้งว่าชนนีทิวงคต | ||
| นางตระหนกอกสั่นขวัญหาย | เพียงจะวายชีวิตปลิดปลง | ||
| สองกรข้อนอุรารันทด | พิไรร่ำกำสรดโศกา ฯ | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ โอด | |||
| ๏ โอ้ว่าพระมารดาเจ้า | พระบาทเคยปกเกล้าเกศา | ||
| เฝ้าถนอมกล่อมเกลี้ยงเลี้ยงลูกมา | มิให้เคืองวิญญาณ์เท่ายองใย | ||
| พระเจ็บไข้ก็มิได้พยาบาล | จะรู้ข่าวอาการก็หาไม่ | ||
| จนสุดสิ้นชีวันบรรลัย | ลูกมิได้เห็นใจพระมารดร | ||
| ร่ำพลางทางทรงโศกี | ทอดองค์ลงกับที่บรรถรณ์ | ||
| ดังจะม้วยชีวาด้วยอาวรณ์ | บังอรไม่เป็นสมประดี ฯ | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ โอด | |||
| ร่าย | |||
| ๏ ครั้นค่อยคลายอาดูรจึงทูลไป | ภูวไนยจงโปรดเกศี | ||
| ข้าขอบังคมลาไปธานี | ดูเปลวอัคคีพระมารดา ฯ | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระองค์ทรงพิภพดาหา | ||
| จึ่งโลมเล้าเอาใจไปมา | เจ้าอย่าอาวรณ์ร้อนฤทัย | ||
| อันกำเนิดเกิดมาในสากล | ใครจะพ้นมรณะก็หาไม่ | ||
| จงระงับดับความอาลัย | ถึงโศกไปใช่ที่จะเป็นมา | ||
| ซึ่งเจ้าว่าจะลาบทจร | ไปนครเขื่อนขัณฑ์หมันหยา | ||
| ในฤดูเดือนนี้จะลีลา | กันดารโดยมรคาท่าทาง | ||
| ฝูงโขมดมายาย่อมอาเพศ | ให้เกิดเหตุอันตรายหลายอย่าง | ||
| ใช่จะแกล้งเกียดกันกั้นทาง | ถึงพี่นางก็ไม่ไคลคลา | ||
| โฉมยงจงจัดไทยทาน | ส่งสักการพระศพจะดีกว่า | ||
| ให้เสนีนำไปด้วยนัดดา | ก็เหมือนกัลยาคลาไคล ฯ | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | องค์ประไหมสุหรีศรีใส | ||
| ได้ฟังบัญชาภูวไนย | อรไทค่อยคลายโศกา | ||
| จึงมีเสาวนีย์ตรัสสั่ง | พนักงานชาวคลังซ้ายขวา | ||
| จงจัดเครื่องไทยทานนานา | จะให้ไปหมันหยาธานี ฯ | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ บัดนั้น | ฝ่ายนางพนักงานสาวศรี | ||
| รับสั่งแล้วรีบจรลี | มาจัดตามเสาวนีย์กัลยา ฯ | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ | |||
| ๏ สิ่งของไทยทานก็เตรียมพร้อม | ทั้งเครื่องหอมเนื้อไม้กฤษณา | ||
| ครั้นเสร็จให้ขนเข้ามา | ถวายองค์กัลยาทันที ฯ | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | โฉมยงองค์ประไหมสุหรี | ||
| เคารพจบพระหัตถ์ด้วยยินดี | เทวีสมาโทษพระมารดา | ||
| จึงตรัสสั่งสาวสวรรค์ทันใด | ให้ขนของไปข้างหน้า | ||
| มอบให้ดะหมังเสนา | ไปด้วยนัดดาโดยลำพัง ฯ | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ บัดนั้น | นางกำนัลคำนับรับสั่ง | ||
| จึงขนของออกไปจากวัง | มอบให้ดะหมังทันที | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ บัดนั้น | ดะหมังนั่งตรวจดูถ้วนถี่ | ||
| ให้เสมียนจดหมายรายบัญชี | ผูกถือใส่ที่แล้วตีตรา | ||
| ให้ขนสิ่งของบรรทุกช้าง | เหลือนั้นใส่ต่างมหิงสา | ||
| ครั้นเสร็จก็ยกโยธา | ออกจากพารารีบไป ฯ | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ เร่งรัดพลมาสิบห้าวัน | ก็ถึงกุเรปันกรุงใหญ่ | ||
| ครั้นเวลาเข้าเฝ้าท้าวไท | ก็เข้าไปพระโรงรัตนา ฯ | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ | |||
| ๏ จึงก้มเกล้าประณตบทบงส์ | พระองค์ทรงพิภพนาถา | ||
| ทูลแถลงแจ้งความตามกิจจา | ให้ทราบบาทาทุกสิ่งไป ฯ | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | องค์ท้าวกุเรปันเป็นใหญ่ | ||
| ได้ฟังดะหมังเสนาใน | จึงตรัสไปแก่องค์พระลูกยา | ||
| เจ้าจงคุมของสองธานี | ไปปลงศพอัยกียังหมันหยา | ||
| แทนองค์พระราชมารดา | กับประหมันดาหาเวียงชัย | ||
| แล้วดูโยธีที่ทำงาน | แม้นเห็นการล่าแล้เป็นไฉน | ||
| บอกกมาจะเพิ่มพลไกร | ไประดมทำให้ทันที | ||
| เสร็จแล้วลูกแก้วอย่าอยู่ช้า | เร่งกลับมากุเรปันกรุงศรี | ||
| จึงตรัสสั่งปาเตะเสนี | จงตรวจเตรียมโยธารี้พล | ||
| ท่านไปด้วยช่วยดูเป็นผู้ใหญ่ | เอาใจใส่อย่าให้มีเหตุผล | ||
| สั่งเสร็จเสด็จจรดล | ขึ้นสู่ไพชยนต์ปราสาทชัย ฯ | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ เสมอ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ระเด่นมนตรีศรีใส | ||
| ครั้นเสด็จขึ้นแล้วก็คลาไคล | กลับไปอยู่ที่ภูมี ฯ | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ | |||
| ๏ บัดนั้น | ปาเตะเสนาบดีศรี | ||
| ออกมาจัดพลโยธี | ตามมีพระราชบัญชา ฯ | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ | |||
| ยานี | |||
| ๏ ขุนช้างต่างผูกคชสาร | เคยชำนาญการณรงค์แกล้วกล้า | ||
| ขุนม้าก็ผูกอาชา | เบาะอานพานหน้าประดับดาว | ||
| ขุนรถตรวจเตรียมเทียมพาชี | สลับสีเหลืองกะเลียวเขียวขาว | ||
| ขุนพลจัดพลเดินเท้า | นายหมวดตรวจบ่าวพร้อมเพรียง | ||
| พวกทำที่ประทับพลับพลา | ให้ล่วงหน้ารีบไปแต่ในเที่ยง | ||
| จัดแจงหาบคอนผ่อนเสบียง | ตามเยี่ยงอย่างเสด็จยาตรา ฯ | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| @ร่าย | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ระเด่นมนตรีศรีโอรสา | ||
| ครั้นรุ่งรางสร่างแสงสุริยา | เสด็จมาสระสรงสรรพางค์ ฯ | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ | |||
| โทน | |||
| ๏ ลูบไล้สุคนธาอ่าองค์ | น้ำมันจันทน์บรรจงทรงพระสาง | ||
| สอดใส่สนับเพลาพลาง | ทรงภูษาแย่งอย่างลายกระบวน | ||
| ฉลององค์โหมดม่วงร่วงระยับ | อบอุหรับจับกลิ่นหอมหวน | ||
| เจียระบาดตาดทองแล่งล้วน | เข็มขัดคาดค่าควรพระนคร | ||
| กรองศอสังเวียนวิเชียรช่วง | ทับทรวงสังวาลห้อยสร้อยอ่อน | ||
| ตาบกุดั่นประดับทับซ้อน | ทอกรเก้าคู่ชมพูนุท | ||
| ธำมรงค์เพชรแพรวแวววับ | กรรเจียกปรับรับทรงมงกุฎ | ||
| เหน็บกริชฤทธิรอนสำหรับยุทธ์ | งามดั่งเทพบุตรบทจร ฯ | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ บาทสกุณี | |||
| ร่าย | |||
| ๏ มาทรงรถแก้วแววไว | เสนาในกราบกรานอยู่สลอน | ||
| สั่งให้ยกโยธาพลากร | บทจรออกจากนิวศน์วัง ฯ | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ | |||
| โทน | |||
| ๏ รถเอ๋ยราชรถแก้ว | จำหลักลายพรายแพร้วพลอยฝัง | ||
| งามงอนอ่อนแอกแปรกบัง | บุษบกที่นั่งบัลลังก์ลอย | ||
| หน้ากระดานฐานปัทม์บัวหงาย | กระจังรายรจนาตาอ้อย | ||
| กระหนกเกรินท้ายรถชดช้อย | เพลาพลอยประดับทับทิมแดง | ||
| เทียมสินธพที่นั่งทั้งสี่ | สารถีขี่ขับเข้มแข็ง | ||
| ทหารม้าเกณฑ์หัดจัดแจง | เดินแซงสองข้างมรคา | ||
| ประดับด้วยเครื่องสูงชุมสาย | ธงชายปลายเชือกนั้นนำหน้า | ||
| เยียดยัดจัตุรงค์โยธา | ไคลคลามาในไพรพนม ฯ | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ เชิด | |||
| ชมดง | |||
| ๏ เดินเอยเดิทาง | สองข้างพ่างพื้นรื่นร่ม | ||
| พี่เลี้ยงเคียงคอยบังคม | พระชี้ชมรุกขาชาติดาษเดียร | ||
| บ้างผลิดอกออกผลพวงดก | ดั่งไม้ฉากกระจกจีนเขียน | ||
| ป่าระหงดงยางนางตะเคียน | ใต้ต้นแลเตียนสะอาดตา | ||
| มะลิวัลย์พันพุ่มคัดค้าว | ฤดูดอกออกขาวทั้งราวป่า | ||
| บ้างเลื้อยเลี้ยวเกี้ยวกิ่งเหมือชิงช้า | ลมพาพัดแกว่งดังแกล้งไกว | ||
| ร่มรังบังแสงทินกร | ที่หาบคอนเรื่อยล้าเข้าอาศัย | ||
| สารวัดรัดเร่งพลไกร | คลาไคลไปตามมรคา ฯ | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ เชิด | |||
| ร่าย | |||
| ๏ แต่แรมรอนนอนในพนาเวศ | มาถึงเขตนครหมันหยา | ||
| หยุดประทับยั้บยั้งโยธา | เสด็จขึ้นพลับพลาพนาลี ฯ | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เสมอ เจรจา | |||
| ๏ บัดนั้น | ขุนด่านแจ้งความถ้วนถี่ | ||
| จึงเหยียบโกลนโผนเผ่นขึ้นพาชี | ขับขี่ตีควบเข้าเวียงชัย ฯ | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ ครั้นถึงจึงตรงไปหา | ทั้งสี่เสนาผู้ใหญ่ | ||
| เรียนคดีชี้แจงให้แจ้งใจ | โดยนัยอนุสนธิ์แต่ต้นมา | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ | |||
| ๏ บัดนั้น | เสนีได้ฟังไม่กังขา | ||
| ก็เข้าไปในพระโรงรัตนา | กราบทูลกิจจาทุกประการ | ||
| บัดนี้อิเหนากุเรปัน | ยกพวกพลขันธ์มาถึงด่าน | ||
| จะเข้ามาประณตบทมาลย์ | ภูบาลจงทราบพระบาทา ฯ | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ระตูผู้ผ่านหมันหยา | ||
| ได้ฟังจึงสั่งเสนา | จงไปรับนัดดามาธานี ฯ | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ | |||
| ๏ บัดนั้น | ตำมะหงงรับสั่งใส่เกศี | ||
| ออกมาเกณฑ์กันทันที | เร่งรัดสัสดีเอาผู้คน | ||
| บ้างเบิกเสื้อเบิกหมวกอลหม่าน | ทั่วทุกพนักงานสับสน | ||
| พรั่งพร้อมโยธีรี้พล | เสนานำพหลเกณฑ์แห่ไป ฯ | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ ครั้นถึงจึงถวายอัญชลี | องค์ระเด่นมนตรีศรีใส | ||
| บังคมทูลแถลงให้แจ้งใจ | ระตูให้มารับเข้าบุรี ฯ | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ระเด่นมนตรีเรืองศรี | ||
| ได้ฟังตำมะหงงเสนี | จึงตรัสสั่งทั้งสี่พี่เลี้ยง | ||
| วันนี้เราจะเข้าพระนคร | อย่าให้ทันแดดร้อนก่อนเที่ยง | ||
| จงจัดทหารแห่เป็นคู่เคียง | ให้พร้อมเพรียงแต่ในบัดนี้ ฯ | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ บัดนั้น | พระพี่เลี้ยงรับสั่งใส่เกศี | ||
| มาจัดพลจัดพวกพาชี | ทหารแห่ให้ขี่คู่กัน | ||
| แล้วนุ่งห่มสมตัวตกแต่ง | ตามตำแหน่งเสนากิดาหยัน | ||
| ปลายเชือกให้ชาวหมันหยานั้น | จัดกันเดินหน้านำพล | ||
| เหล่ากำนัลเชิญพระแสงสำหรับตาม | ล้วนงามงามต้นเหลี่ยมหลังถนน | ||
| เข้าขบวนถ้วนทั่วทุกตัวคน | แล้วผูกม้าต้นเตรียมไว้ | ||
| สารวัดจัดตรวจเป็นหมวดกอง | ทวนทองธงทิวปลิวไสว | ||
| คอยเสด็จยาตราคลาไคล | คับคั่งทั้งในแดนดง ฯ | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ระเด่นมนตรีสูงส่ง | ||
| เสด็จจากแท่นสุวรรณบรรจง | มาสระสรงวารินกลิ่นเกลา ฯ | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เสมอ | |||
| ลงสรงสุหร่าย | |||
| ๏ ทรงสุคนธ์ปนทองชมพูนุท | นวลละอองผ่องผุดดังหล่อเหลา | ||
| พระฉายตั้งคันฉ่องส่องเงา | สอดใส่สนับเพลาเพราผจง | ||
| ทรงภูษายกแย่งอย่างนอก | พื้นม่วงดอกดวงตันหยง | ||
| โหมดเทศริ้วทองฉลององค์ | กระสันทรงเจียระบาดคาดทับ | ||
| ปั้นเหน่งเพชรลงยาราชาวดี | ทับทรวงดวงมณีศรีสลับ | ||
| เฟื่องห้อยสร้สอยสังวาลพานพับ | ทองกรแก้วประดับดวงจินดา | ||
| สอดใส่ธำมรงค์เรือนครุฑ | ทรงมงกุฎห้อยพวงบุปผา | ||
| เหน็บกริชฤทธิไกรแล้วไคลคลา | เสด็จมาขึ้นทรงสินธพ ฯ | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ เสมอ | |||
| โทน | |||
| ๏ ม้าเอยม้าต้น | สามารถอาจผจญเจนจบ | ||
| เคล่าคล่องทีทวนกระบวนรบ | ไม่หลีกหลบเลื่อมตื่นปืนประทัด | ||
| เผ่าโผนโจนฝ่ามากลางพล | ผู้คนเดินกีดก็ดีดกัด | ||
| ม้ากิดาหยันตามเยียดยัด | ม้าแห่แออัดรัถยา | ||
| ม้าระเด่นดาหยันเดินรอง | ม้าพี่เลี้ยงเคียงสองซ้ายขวา | ||
| พนักงานกั้นกลดรจนา | บังแสงสุริยาตรัสไตร | ||
| อภิรุมชุมสายสีประเทือง | ธงเทียวเขียวเหลืองล้วนใหม่ใหม่ | ||
| สนั่นเสียงฆ้องกลองก้องไพร | รีบรนพลไกรเข้าในเมือง ฯ | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ เชิด | |||
| ร่าย | |||
| ๏ บัดนั้น | หญิงชายระบือลือเลื่อง | ||
| มาคอยภูวไนยนองเนือง | นั่งเนื่องแน่นถนนไปจนวัง | ||
| บ้างกลัวต่ำสูงจูงลูกหลาน | ลงจากร้านขายผ้าหน้าถัง | ||
| บ้างลดไม่ค้ำฝาหน้ากระชัง | มาแทรกเสียดเบียดบังนั่งปน | ||
| ที่หญิงปากกล้าก็ด่าทอ | เพิดพ้อผลักไสพิไรบ่น | ||
| ปะชายโฉงเฉงข่มเหงคน | ปากลนปะเตะเล่นก็เป็นไร | ||
| ที่ทาง........ได้ที่ไหนมา | จะนิ่งดูแต่ตาก็ไม่ได้ | ||
| ขึ้นเสียงเถียงทะเลาะกันอึงไป | ฮึดฮัดขัดใจเต็มที | ||
| ที่เป็นผู้ใหญ่ก็ห้ามปราม | ข้าขอความเอ็นดูอย่าจู้จี้ | ||
| มิใช่คนชั่วช้าหน้าตาดี | ไม่พอที่จะโมโหโกรธา | ||
| ครั้นได้เห็นองค์พระทรงธรรม์ | งามดังอสัญแดหวา | ||
| พิศวงงงไปในพริบตา | ทั่วทั้งไพร่ฟ้าประชากร | ||
| หญิงชายชาวเมืองก็หมอบกราน | ทุกบ้านบังคมอยู่สลอน | ||
| บ้างร้องอำนวยอวยพร | ราษฎรเกษมเปรมปรีดิ์ ฯ | ||
| ฯ ๑๔ คำ ฯ | |||
| ๏ บัดนั้น | ทหารแห่คับคั่งทั้งวิถี | ||
| เห็นหญิงสาวสาวชาวบุรี | หน้าไหนใครดีก็แลดู | ||
| บ้างกระซิบบุ้ยปากบอกกัน | รูปร่างนางคนนั้นขยันอยู่ | ||
| ที่หนุ่มหนุ่มนักเลงเหล่าเจ้าชู้ | เอาปูนพลูซัดหยอกแล้วยิ้มพราย | ||
| บ้างชักม้าพยศย่างขวางถนน | สะดุดคนเหยียบของเขากองขาย | ||
| บ้างโผนผกหกมุ่นวุ่นวาย | ตื่นตะกายเกะกะเข้าระรั้ว | ||
| พวกผู้หญิงวิ่งวุ่นอลวน | ลางคนผ้าห่อมหายขายหน้าผัว | ||
| บ้างแฝงฝาหน้าถังบังตัว | บ้างหัวบ้างโกรธโกรธา ฯ | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระสุริย์วงศ์องค์อสัญแดหวา | ||
| เร่งขับมโนมัยไคลคลา | มรคาคับคั่งผู้คน | ||
| ครั้นถึงทิมริมที่ทวารวัง | เสด็จลงจากหลังม้าต้น | ||
| จึงให้หยุดโยธีรี้พล | ชวนระเด่นดาหยันยาตรา ฯ | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เสมอ | |||
| ๏ เข้าในพระโรงรัตน์รูจี | เห็นเสนีเฝ้าแหนแน่นหนา | ||
| จึงถวายบังคมคัลวันทา | พระผู้ผ่านสวรรยาธานี ฯ | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ระตูหมันหยาเรืองศรี | ||
| เห็นอิเหนาเข้ามาอัญชลี | จึงมีมธุรสพจมาน | ||
| ปราศรัยไต่ถามพระนัดดา | ซึ่งเจ้ามาท่าทางทุรัศสถาน | ||
| เดินโดยอรัญกันดาร | โยธาทวยหาญยังพร้อมมูล | ||
| พระชนกชนนีทั้งสอง | ครอบครองโภไคยไอศูรย์ | ||
| เสวยรมย์สมบัติบริบูรณ์ | ทั้งประยูรสุริย์วงศ์พงศ์พันธุ์ | ||
| อันฝูงไพร่ฟ้าประชาชน | ทั้งเสนาสามนต์พลขันธ์ | ||
| อยู่เย็นเป็นสุขพร้อมกัน | เหมือนแต่ก่อนกระนั้นหรือนัดดา ฯ | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | อิเหนาอภิวันท์หรรษา | ||
| ทูลว่าแต่ยกพลมา | เดินโดยมรคาสิบห้าวัน | ||
| อันพวกพหลพลไกร | ไม่มีเหตุเภทภัยในไพรสัณฑ์ | ||
| สมเด็จพระบิตุรงค์ทรงธรรม์ | ก็เสวยไอศวรรย์เปรมปรีดิ์ | ||
| ถ้วนหน้าผาสุกไม่ทุกข์ร้อน | ไพร่ฟ้าประชากรเกษมศรี | ||
| ปราศจากอันตรายราคี | มิได้มีภัยพานประการใด | ||
| แต่องค์พระชนนีนั้น | ทรงครรภ์แก่เกือบไม่มาได้ | ||
| ให้ข้าคุ้มของสองเวียงชัย | มาปลงศพท่านไทยอัยกี | ||
| แม้นพระเมรุเกณฑ์ทำไม่ทันการ | จะแจ้งสารไปให้ทราบบทศรี | ||
| พระเพิ่มเติมพลมนตรี | ทั้งสองบุรีมาทำการ ฯ | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ท้าวหมันหยายิ้มย่องสนองสาร | ||
| ซึ่งสององค์บรรจงไทยทาน | ให้หลานมาช่วยถึงพารา | ||
| พระคุณนั้นหาที่สุดไม่ | จะเลื่องชื่อลือไปทุกทิศา | ||
| อันการศพสมเด็จพระมารดา | ก็จัดแจงทำมาไม่เงือดงด | ||
| แต่ยังหาได้ตั้งพระเมรุไม่ | ตัวไม้ปรับปรุงไว้พร้อมหมด | ||
| หลานมาน้าสมมโนรถ | จะรีบกำหนดให้แน่ลง | ||
| ว่าพลางทางมีบัญชา | ตรัสสั่งเสนาตำมะหงง | ||
| จงแต่งที่ประเสบันอากง | ให้องค์อิเหนากุเราปัน ฯ | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ | |||
| ๏ บัดนั้น | ตำมะหงงรับสั่งแล้วผายผัน | ||
| มาจัดแจงแต่งที่ประเสบัน | ช่วยกันอุตลุดทั้งไพร่นาย | ||
| บ้างกั้นฉากแพรลับแลตั้ง | กรมวังวงพระสูตรรูดสาย | ||
| จัดแจงแต่งตำหนักยักย้าย | เพดานดาดรายดารากร | ||
| บ้างตกแต่งพระยี่ภู่ปูอาสน์ | ชาวที่ทอดราชบรรจถรณ์ | ||
| ที่เสวยที่สรงสาคร | เสร็จตามภูธรบัญชาการฯ | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระองค์ผู้ดำรงราชฐาน | ||
| จึงตรัสสั่งพฤฒาโหราจารย์ | ให้หาฤกษ์ตั้งการกำหนดวัน ฯ | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ | |||
| ๏ บัดนั้น | ขุนโหรผู้ใหญ่คนขยัน | ||
| คลี่ตำราขับไล่ลัคน์จันทร์ | ดูโฉลกโชคชั้นทันที | ||
| จึงนบนิ้วประนมบังคมทูล | นเรนทร์สูรจงทราบบทศรี | ||
| กำหนดเชิญพระศพฤกษ์ดี | เดือนสี่สิบค่ำวันอังคาร ฯ | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ระตูหมันหยาได้ฟังสาร | ||
| จึงสั่งเสนีพนักงาน | จงจัดการพระเมรุเกณฑ์กัน | ||
| นายมุลขุนหมื่นทุกหมู่หมวด | สมทบสี่ตำรวจกวดขัน | ||
| เครื่องประดับพระศพครบครัน | รีบทำให้ทันกำหนดไว้ | ||
| สั่งพลางทางกล่าววาที | ชวนระเด่นมนตรีศรีใส | ||
| ทั้งระเด่นดาหยันคลาไคล | เสด็จไปไหว้ศพพระอัยกี ฯ | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ระเด่นมนตรีเรืองศรี | ||
| จึงถวายอภิวันท์อัญชลี | ศพพระอัยกีด้วยปรีดา ฯ | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ระตูผู้ผ่านหมันหยา | ||
| จึงมีพระราชบัญชา | สั่งกำนัลกัลยาฉับพลัน | ||
| จงไปเชิญองค์ประไหมสุหรี | กับบุตรีขึ้นมาขมีขมัน | ||
| บอกว่าอิเหนากุเรปัน | มาอภิวันท์พระศพอยู่บนนี้ ฯ | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ บัดนั้น | นางกำนัลประณตบทศรี | ||
| รับสั่งพระผู้ทรงธรณี | แล้วรีบจรลีออกมา ฯ | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ | |||
| ๏ ครั้นถึงจึงถวายบังคมไหว้ | องค์ประไหมสุหรีเสนหา | ||
| ทูลว่าอิเหนานัดดา | เสด็จมาอยู่ที่พระศพนั้น | ||
| บัดนี้พระผู้ผ่านเวียงชัย | ให้เชิญสองอรทัยผายผัน | ||
| ขึ้นไปเฝ้าองค์พระทรงธรรม์ | ยังสุวรรณปราสาทรูจี ฯ | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | โฉมยงค์องค์ประไหมสุหรี | ||
| จึงชวนจินตะหราวาตี | เข้าที่สรงสนานสำราญกาย ฯ | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ | |||
| ชมตลาด | |||
| ๏ สองกษัตริย์ขัดสีฉวีวรรณ | นางกำนัลตั้งสุคนธ์คอยถวาย | ||
| ทรงอุหรับจับกลิ่นอบอาย | น้ำกุหลาบละลายกรายกรีดนิ้ว | ||
| กวดเกล้าเปลาปลายพระฉายส่อง | ผัดพักตร์นวลละอองผ่องผิว | ||
| ทรงภูษายักแย่งแพลงพลิ้ว | ห่มริ้วทองทับซับใน | ||
| สร้อยสะอิ้งสังวาลบานพับ | ตามประดับมรกตสดใส | ||
| ทองกรแก้วมณีเจียระไน | สอดใส่เนาวรัตน์ธำมรงค์ | ||
| ทรงมงกุฎสำหรับพระธิดา | ห้อยอุบะบุหงาตันหยง | ||
| พรั่งพร้อมสุรางค์นางอนงค์ | สององค์เสด็จคลาไคล ฯ | ||
| ร่าย | |||
| ๏ ครั้นถึงจึงบังคมบรมศพ | แล้วนอบนบอภิวันท์ท้าวหมันหยา | ||
| พลางทอดพระเนตรแลมา | ดูพระนัดดาธิบดี ฯ | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ระเด่นมนตรีเรืองศรี | ||
| จึงถวายอภิวันท์อัญชลี | องค์ประไหมสุหรีศรีดสภา | ||
| แล้วทำทีมิให้ใครสังเกต | ชำเลืองเนตรดูระเด่นจินตหรา | ||
| งามอ่อนจริตกิริยา | ลักขณาเลิศล้ำนารี | ||
| พีศพักตร์งามพักตร์ผุดผ่อง | ผิวเนื้อนวลละอองสองสี | ||
| อรชรอ้อนแอ้นทั้งอินทรีย์ | ภูมีดูนางไม่วางตา ฯ | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | องค์ประไหมสุหรีเสนหา | ||
| พินิจพิศพักตร์พระนัดดา | กัลยาแย้มพรายทายทัก | ||
| แต่เจ้ากำเนิดเกิดมา | ถึงเพียงนี้น้าเพิ่งรู้จัก | ||
| ทรงโฉมประโลมเลิศลักษณ์ | สมศักดิ์สุริย์วงศ์เทวัญ ฯ | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ระเด่นมนตรีเฉิดฉัน | ||
| จึงทูลว่าคิดอยู่ก่อนนั้น | จะใคร่มาอภิวันท์พระบาทา | ||
| พึ่งจะสมจินดาครานี้ | มีความยินดีเป็นหนักหนา | ||
| ทูลพลางชำเลืองนัยนา | ดูระเด่นจินตะหราด้วยใจรัก ฯ | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | จินตะหราวาตีมีศักดิ์ | ||
| เห็นอิเหนาเฝ้าดูอดสูนัก | นงลักษณ์แอบหลังพระชนนี | ||
| พลางชม้ายชายเนตรดูเชษฐา | นัยนาแลสบก็หลบหนี | ||
| หมอบเมียงเอียงอายเป็นท่วงที | เทวีขวยเขินสะเทินใจ ฯ | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | องค์ประไหมสุหรีศรีใส | ||
| จึงตรัสแก่ธิดาทันใด | เป็นไรไม่ไหว้พี่ยา | ||
| จงฝากตัวไว้ให้รู้จัก | จะได้พึ่งพำนักในภายหน้า | ||
| อันองค์อิเหนานัดดา | ก็แก่เดือนกว่าเทวี | ||
| อย่าทำกระแหน่แง่งอน | อะหนะก็อ่อนกว่าพี่ | ||
| มิใช่ว่าอื่นไกลหาไหนมี | เจ้าจงอัญชลีพี่ยา ฯ | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | โฉมยงองค์ระเด่นจินตะหรา | ||
| ฟังพระชนนีตรัสมา | กัลยาอายเอียงเมียงมัน | ||
| เหลือบไปปะเนตรภูวไนย | ยิ่งสะเทินฤทัยไหวหวั่น | ||
| อุตส่าห์ขืนอารมณ์บังคมคัล | อิเหนากุเรปันแล้วก้มพักตร์ ฯ | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ระเด่นมนตรีมีศักดิ์ | ||
| เหลือบไปรับไหว้นางนงลักษณ์ | พิศพักตร์ผิวเนื้อนวลละออง | ||
| ลำลำจะใคร่ตรัสปราศรัย | แต่หากเกรงท้าวไททั้งสอง | ||
| ให้คิดพิสมัยใจปอง | พระนิ่งตรึกตรองไปมา ฯ | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ระตูผู้ผ่านหมันหยา | ||
| เห็นอิเหนาเฝ้าดูธิดา | ก็แจ้งในกิริยาอาการ | ||
| พระแสร้งทำเฉยเชือนเหมือนไม่รู้ | ยิ้มอยู่ในหน้าไม่ว่าขาน | ||
| นิ่งนึกตรึกตราไปช้านาน | แล้วภูบาลบัญชาพาที | ||
| สั่งประไหมสุหรีมีศักดิ์ | ว่าหลานรักมาอยู่ในกรุงศรี | ||
| จงแต่งโภชนาสาลี | ให้นารีไปส่งทุกวัน | ||
| สั่งพลางทางตรัสแก่นัดดา | วันนี้เหนื่อยมาจงผายผัน | ||
| ไปหยุดพักอยู่ตำหนักประเสบัน | ให้ปรีดิ์เปรมเกษมสันต์สำราญ ฯ | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ระเด่นมนตรีได้ฟังสาร | ||
| จึงบังคมก้มพักตร์พจมาน | จวนเย็นแล้วหลานจะทูลลา | ||
| พระคลานคล้อยถอยองค์ออกมาพลาง | ชำเลืองเนตรดูนางจินตะหรา | ||
| องค์อ่อนถอนฤทัยไปมา | แล้วลีลาลงจากอัฒจันทร์ | ||
| ชวนระเด่นดาหยันยุรยาตร | มาทรงอัศวราชผายผัน | ||
| ทวยหาญแห่แหนแน่นนันต์ | ไปยังประเสบันอากง ฯ | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ ครั้นถึงลงจากอัสดร | กรายกรยุรยาตรดังราชหงส์ | ||
| เข้าในห้องสุวรรณบรรจง | ทอดองค์ลงกับที่ไสยา ฯ | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ | |||
| ช้า | |||
| ๏ พระยอกรก่ายวิลาสพาดพักตร์ | ถวิลถึงน้องรักจินตะหรา | ||
| โฉมงามทรามสวาทเเพียงบาดตา | ใต้ฟ้าหาไหนไม่ทัดเทียม | ||
| งามจริตกิริยาเป็นน่าชม | แต่บังคมพี่ชายก็อายเหนียม | ||
| ที่ลอบแลโฉมน้องลองเลียม | งามเสงี่ยมเจียมจิตพี่ติดใจ | ||
| เมื่อชม้ายมาสบหลบเนตรหนี | ท่วงทีที่ทำยังจำได้ | ||
| ยิ่งแสนเสน่หาอาลัย | เร่าร้อนฤทัยเกรียมตรม | ||
| จะผ่อนผันฉันใดนะอกเอ๋ย | จะได้เชยชวนชิดสนิทสนม | ||
| แต่ระลึกตรึกตราเป็นอารมณ์ | จนบรรทมหลับไปกับไสยา ฯ | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ ตระ | |||
| ร่าย | |||
| ๏ บัดนั้น | เสนีสี่นายทั้งซ้ายขวา | ||
| ให้จับการทุกด้านดังบัญชา | ตรวจตราหน้าที่ทำพระเมรุ | ||
| ลากเสาเข้าที่ทั้งสี่ต้น | ผู้คนอึงอัดขัดเขมร | ||
| บ้างขุดหลุมลงลุยคุ้ยเลน | บ้างกะเกณฑ์กันตั้งนั่งร้าน | ||
| เอาเชือกผูกแทงทบครบเสา | ได้ฤกษ์เร่งคนเข้าขันกว้าน | ||
| ตั้งไม่ใช้เดินรอกตะพาน | คนประจำทำงานไม่เงือดงด | ||
| พวกทำเมรุทิศทั้งนั้น | ก็พร้อมกันยกตั้งขึ้นทั้งหมด | ||
| ติดตะม่อสองชั้นเป็นหลั่นลด | นายช่างกำหนดอำนวยการ | ||
| เจ้าหน้าที่สามสร้างต่างมาจับ | ชักระดับปลายเสาเสมอสมาน | ||
| บ้างใส่สอดรอดพรึงตรึงกระดาน | เสียงสิ่วเสียงขวานอึงอล ฯ | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ | |||
| ๏ บัดนั้น | พวกวิเสทแต่งสำรับสับสน | ||
| ครั้นเพลาจวนเที่ยงจะเลี้ยงคน | ก็รีบล้นขนสำรับมาฉับไว | ||
| กรมวังนั่งจ่ายให้นายด่าน | พวกทำการเมรุทิศเมรุใหญ่ | ||
| ข้าวกระทงส่งมาแต่ข้างใน | เจ้าขรัวนายเกณฑ์ให้ทำทุกเรือน | ||
| ประชาชนชายหญิงเอาสิ่งของ | มาถวายกรายกองไว้กล่นเกลื่อน | ||
| แจกให้ไพร่สมระดมเดือน | ทั้งทหารพลเรือนทั่วกัน ฯ | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ บัดนั้น | เสนีสี่ตำรวจกวดขัน | ||
| นายด้านทำการพระเมรุนั้น | ทั้งกลางคืนกลางวันเร่งรัด | ||
| ให้ยกดูกผูกเชือกแย่งระบาง | ยอดปรางค์นภศูลสวมฉัตร | ||
| ตำรวจในไม้สูงสันทัด | ขึ้นผูกแผงผัดจัดกระจัง | ||
| ติดชั้นเชิงบาตรบัวหงาย | เรียงรายเทพนมยืนนั่ง | ||
| บัญชรชัชวาลบานบัง | ฝาผนังหลังคากระยารงค์ | ||
| พนักงานด้านทำพระเมรุทอง | ก็ติดตัวลำยองหางหงส์ | ||
| หน้ากระดาษฐานปัทม์ไม่ขัดทรง | บรรจงตั้งเครื่องพระเบญจา | ||
| เพดานดาราระย้าย้อย | ผูกห้อยภู่พวงบุปผา | ||
| ฉากกระจกยกตั้งบังตา | แต่งที่เป็นข้างหน้าข้างใน | ||
| บ้างตั้งไม้กระถางวางรูปสัตว์ | รอบจังหวัดบริเวณพระเมรุใหญ่ | ||
| รูปกินอ้อนแอ่นเอาใจ | วางไว้ริมมุขทุกทิศ | ||
| ซุ้มดอกไม้รุ่งรายซ้ายขวา | โคมระย้าหลายลูกผูกติด | ||
| ราชวัติทึบตั้งบังมิด | ฉัตรเงินทองปิดน้ำตะกู | ||
| บ้างยกฉัตรเบญจรงค์เรียงเรียบ | เสาตะเกียบปักเคียงเป็นคู่คู่ | ||
| ยักษ์โตตั้งวางข้างประตู | ยืนอยู่หูตาน่ากลัว | ||
| บ้างทำโรงหุ่นโขนช่องระทา | ขึ้นหลังคาดาดแผงผูกจั่ว | ||
| ปลูกศาลาฉ้อทานทำครัว | เสร็จทั่วทุกตำแหน่งแต่งไว้ ฯ | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ | |||
| ๏ บัดนั้น | ฝ่ายเจ้าพนักงานน้อยใหญ่ | ||
| ครั้นจวนกำหนดไม่นอนใจ | ก็ตระเตรียมเทียมพิชัยราชรถ | ||
| รถใหญ่สำหรับใส่พระโกศทอง | เรืองรองรจนาปรากฏ | ||
| รถโยงปรายข้าวตอกเป็นหลั่นลด | รถอ่านหนังสือรถใส่ท่อนจันทน์ | ||
| เกณฑ์ไพร่ไว้สำหรับชักฉุด | ใส่เสื้อเสนากุฎขบขัน | ||
| ที่บ่าวไพร่ใครช้ามาไม่ทัน | ก็พากันวิ่งวุ่นทุกมุลนาย | ||
| บรรดาหมู่คู่แห่เข้ากระบวน | ก็มาถ้วนตามบัญชีซึ่งมีหมาย | ||
| ล้วนใส่เสื้อครุยกรุยกราย | สมปักลายลำพอกถือดอกบัว | ||
| คนชักรูปสัตว์จัดหนุ่มหนุ่ม | ใส่ศีรษะโมงคลุมครอบหัว | ||
| ทับทรวงสังวาลลอดสอดพันพัว | แต่งตัวนุ่งตาโถงโจงกระเบน | ||
| กิดาหยันจัดกันตามตำแหน่ง | เชิญพระแสงหอกดาบดั้งเขน | ||
| ตั้งตาริ้วรายไปใกล้พระเมรุ | พรั่งพร้มตามเกณฑ์ทั้งไพร่นาย ฯ | ||
| ฯ ๑๒ คำ ฯ | |||
| ๏ บัดนั้น | ประชาชนพลเมืองทั้งหลาย | ||
| จะดูชักพระศพตบแต่งกาย | หญิงชายโอ่อวดประกวดกัน | ||
| บรรดาเหล่าชาวบ้านบางไกล | ก็ลงเรือรีบไปแต่ไก่ขัน | ||
| เร่างพายเตือนผัวกลัวไม่ทัน | ถุ้งเถียงทะเลาะกันมากลางทาง | ||
| ที่บ้านอยู่คนละฟากอยากจะดู | แต่เช้าตรู่ก็ลงมาท่าเรือจ้าง | ||
| ให้เบี้ยเขาข้ามส่งตราท่าช้าง | บ้างยังค้างคอยอยู่กู่ตะโกน | ||
| พวกเมียขุนนางต่างแต่งแง่ | มาคอยดูอยู่ที่แคร่หน้าโรงโขน | ||
| ปะชายายหน้าประสาโลน | ทำเมินเดินโดนผู้หญิงไป | ||
| ชาวแพแม่ค้าพาลูกเต้า | ผัวพวกนายสำเภาเป็นจีนใหม่ | ||
| พูดจาไม่ขัดสันทัดไทย | นั่งไหนหนุ่มหนุ่มก็ล้อมอึง | ||
| เมียน้อยเจ้าภาษีมิใช่ชั่ว | หน้าเป็นเล่นตัวจนผัวหึง | ||
| พวกกินเหล้าเมามาหน้าตึง | ปากโป้งโผงผึงอวดตน | ||
| เห็นสาวสาวที่ไหนชุมเข้ากลุ้มกลัด | แทรกสกัดกั้นขวางกลางถนน | ||
| ตำรวจในไล่ตีผู้คน | สับสนอลหม่านไปมา ฯ | ||
| ฯ ๑๔ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ระตูผู้ผ่านหมันหยา | ||
| ครั้นแสงทองส่องสว่างกระจ่างตา | เสด็จมาสรงชลฉับพลัน ฯ | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เสมอ | |||
| โทน | |||
| ๏ ทรงสุคนธ์รวยรินกลิ่นเกลา | สอดใส่สนับเพลาลายกระสัน | ||
| ทรงภูษาพื้นขาวเขียวสุวรรณ | เกรียวกรวยสามชั้นบรรจงโจง | ||
| ฉลององค์โหมดเทศทองอร่าม | อินทร์ธนูดูงามอ่าโถง | ||
| เจียระบาดตาดเงินเงาโง้ง | ปั้นเหน่งลายปรุโปร่งประดับพลอย | ||
| กรองศอสังเวียนวิเชียรช่วง | ตาบทิศทับทรวงห่วงห้อย | ||
| ทองกรจำหลักเป็นรักร้อย | ธำมรงค์เพชรพลอยร่วงรุ้ง | ||
| กรรเจียกแก้วแพรวพายทั้งซ้ายขวา | ทรงชฎาห้อยยอดสอดสะดุ้ง | ||
| ห้อยอุบะตันหยงส่งกลิ่นฟุ้ง | ครั้นรุ่งก็เสด็จจรจรัล ฯ | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ เสมอ | |||
| ร่าย | ||||
| ๏ มายังเกยมณีที่ข้างหน้า | พระราชาขึ้นทรงอุสงหงัน | |||
| เสนีแห่แหนแน่นนันต์ | อิเหนากุเรปันก็ตามไป ฯ | |||
| ฯ ๒ คำ ฯ เชิด | ||||
| ๏ ครั้นถึงหยุดประทับพลับพลา | พร้อมหมู่มาตยาน้อยใหญ่ | |||
| หมอบเฝ้าคอยฟังรับสั่งใช้ | ตำรวจในพิทักษ์รักษาองค์ ฯ | |||
| ฯ ๒ คำ ฯ | ||||
| ๏ เมื่อนั้น | ประไหมสุหรีมีศักดิ์สูงส่ง | |||
| ชวนระเด่นจินตะหราโฉมยง | มาทรงวอสุวรรณกั้นกลาง | |||
| เสด็จโดยฉนวนในไคลคลา | โขลนจ่าร้องให้ปิดประตูข้าง | |||
| หร้อมหมู่สาวสวรรค์กำนัลนาง | ต่างต่างตามเสด็จจรลี ฯ | |||
| ฯ ๔ คำ ฯ เชิด | ||||
| ๏ ครั้นถึงจึงชวนพระธิดา | หยุดประทับพลัยพลาหลังคาสี | |||
| คอยดูชักศพพระอัยกี | เลิกมู่ลี่แลลอดสอดตา ฯ | |||
| ฯ ๒ คำ ฯ | ||||
| ๏ บัดนั้น | เสนีธิบดีซ้ายขวา | |||
| เร่งรัดจัดถ้วนกระบวนตรา | พอเวลาไขสีรวีวรรณ | |||
| จึงให้เชิญพระศพในปราสาท | ขึ้นสู่ยานุมาศผายผัน | |||
| เกณฑ์แห่แห่แหนแน่นันต์ | มายังเกยสุวรรณที่ประทับ | |||
| พนักงานเชิญพระโกษขึ้นตั้ง | บนบัลลังก์รถทรงเสร็จสรรพ | |||
| คู่แห่แตรสังข์คั่งคับ | เป็นลำดับเดินโดยมรคา | |||
| เชื้อพระวงศ์ทรงรถเรืองรอง | มือถือแว่นทองซองสลา | |||
| โขมพัตถ์พับยาวโยงมา | พาดเหนืออังสาทรงไว้ | |||
| รถพระวงศ์เชื้อสายปรายข้าวตอก | ใส่ชฎาลำพอกดอกไม้ไหว | |||
| รถบีกูดูหนังสืออ่านไป | รถหลังตั้งเนื้อไม้ท่อนจันทน์ | |||
| เครื่องสูงเคียงคู่ทั้งสองข้าง | พระกลดหักทองขวางกางกั้น | |||
| อินทร์พรหมพร้อมเพรียงเรียงกัน | เสียงประโคมครื้นครั่นสนั่นไปป | |||
| รูปสัตว์สิ่งละคู่ดูต่างต่าง | ตามตำแหน่งขุนนางน้อยใหญ่ | |||
| บุษบกบัลลังก์ตั้งผ้าไตร | ชักไปเป็นขนัดอัดมา | |||
| ระเด่นดาหยกสุริย์วงศ์ | ทั้งเผ่าพงศ์ประยูรในหมันหยา | |||
| ต่างองค์ทรงเครื่องใส่ชฎา | ขี่ม้าตามไปในกระบวน ฯ | |||
| ฯ ๑๖ คำ ฯ กลองโยน | ||||
| ๏ บัดนั้น | หญิงชายหนุ่มสาวชาวเรือกสวน | |||
| ลูกเต้าหลานเหลนอยู่เป็นพรวน | เห็นกระบวนแห้หน้ามาแต่ไกล | |||
| พวกผู้หญิงชิงช่องราชวัติ | ด่าทอพ้อตัดผลักไส | |||
| บ้างลุกขึ้นชี้หน้าแล้วว่าไป | ทำไมตะกายเอานายกู | |||
| ลูกผัวพี่น้องทั้งสองข้าง | วิ่งวางเข้าช่วยเหมือนหมวยหมู่ | |||
| พวกผู้ชายเฮฮาเข้ามาดู | ตำรวจในไล่ขู่ห้ามปราม | |||
| ผู้คนคั่งคับนับแสน | นับแน่นไปทั้งท้องสนาม | |||
| บ้างชมรถรัตน์สารพัดงาม | พระโกศทองอร่ามรูจี | |||
| ท้าวนางข้างในออกไปดู | นั่งอยู่หน้าพลับพลาหลังคาสี | |||
| บ้างพูดถึงครั้งการบ้านเมืองดี | ว่างามยิ่งกว่านี้มากมาย | |||
| เมียขุนนางลางคนติผัว | แต่งตัวใส่ลำพอกปานจะหงาย | |||
| สะกิดเพื่อนเตอนให้ดูท่านผู้ชาย | แย้มยิ้มพริ้มพรายไปมา ฯ | |||
| ฯ ๑๒ คำ ฯ | ||||
| ๏ เมื่อนั้น | พวกพระวงศ์พงศ์พันธุ์ในหมันหยา | |||
| ทั้งขุนนางข้าง๓ูษามาลา | ครั้นพระศพชักมาถึงพระเมรุ | |||
| ให้เชิญโกษลงจากบุษบก | พยุงยกฮึดฮัดขัดเขมร | |||
| ใส่ที่นั่งบัลลังก์ราเชนทร์ | เวียนรอบบริเวณพระเมรุมา ฯ | |||
| ฯ ๔ คำ ฯกลองโยน | ||||
| ๏ ครั้นครบคำรบสามตามธรรมเนียม | หนักงานคอยเตรียมอยู่พร้อมหน้า | |||
| จึงเชิญพระโกศแก้วแววฟ้า | ขึ้นตั้งบนเบญจห้าชั้น | |||
| พวกประโคมสังข์แตรแซ่เสียง | สำเนียงกลองชนะครื้นครั่น | |||
| ชาววังชักรูดพระสูตรสุวรรณ | บังแสงสุริยันตรัสไตร ฯ | |||
| ฯ ๔ คำ ฯ เจรจา | ||||
| ๏ เมื่อนั้น | ระตูหมันหยาเป็นใหญ่ | |||
| ชวนอิเหนานัดดาคลาไคล | เข้าไปในพระเมรุรจนา | |||
| ครั้นถึงจึงบังคมเคารพ | พระศพอัยกีนาถา | |||
| แล้วทรงจุดธูปเทียนบูชา | เครื่องสุวรรณบุปผามาลี ฯ | |||
| ฯ ๔ คำ ฯ สาธุการ | ||||
| ๏ เมื่อนั้น | โฉมยงองค์ประไหมสุหรี | |||
| ทั้งระเด่นจินตะหราวาตี | จรลีมายังพระเมรุทอง ฯ | |||
| ฯ ๒ คำ ฯ | ||||
| ๏ จึงจุดธูปเทียนนมัสการ | เยาวมาลย์กำสรดเศร้าหมอง | |||
| สาวสนมกรมในเนืองนอง | ฟูมฟายชลนัยน์จาบัลย์ ฯ | |||
| ฯ ๒ คำ ฯ โอด | ||||
| ๏ เมื่อนั้น | ระตูผู้ผ่านไอศวรรย์ | |||
| ให้สังฆ์การีพระนันธรรม์ | พร้อมกันเข้ามาสดับปกรณ์ ฯ | |||
| ฯ ๒ คำ ฯ เจรจา | ||||
| ๏ แล้วถวายไทยทานวัตถุ | บริขารเสื่อร่มพรมหมอน | |||
| โสมนัสศรัทธาสถาวร | ภูธรเสด็จกลับมาพลับพลา ฯ | |||
| ฯ ๒ คำ ฯ เสมอ | ||||
| ๏ นั่งเหนือพระยี่ภู่ปูลาด | หมู่อำมาตย์เฝ้าแหนแน่นหนา | |||
| ประชาชนกล่นเกลื่อนกันมา | จึงตรัสสั่งเสนาให้ทิ้งทาน ฯ | |||
| ฯ ๒ คำ ฯ | ||||
| ๏ บัดนั้น | เสนีที่เฝ้าอยู่หน้าฉาน | |||
| รับสั่งแล้ววิ่งไปลนลาน | โบกมือให้ทิ้งทานโปรยปราย ฯ | |||
| ฯ ๒ คำ ฯ | ||||
| ๏ บัดนั้น | ขุนหมื่นชาวคลังทั้งหลาย | |||
| นั่งประจำกำมพฤกษ์รอบราย | ต่างถวายบังคมแล้วขึ้นทิ้ง | |||
| ผู้คนคั่งคับสับสน | ปนละวนวุ่นวายทั้งชายหญิง | |||
| บ้างโดดโลดลอยคอยชิง | ชูสวิงร่มรับลูกมะนาว | |||
| บ้างตบมือเพรียกเรียกร้อง | ไล่ตะครุบทุบถองกันอื้อฉาว | |||
| เป็นหมู่หมู่วิ่งกรูเกรียวกราว | ประชาชาวบุรีปรีดา ฯ | |||
| ฯ ๖ คำ ฯ เจรจา | ||||
| ๏ บัดนั้น | พนักงานการเล่นทุกภาษา | |||
| ทั้งหุ่นโขนโรงใหญ่ช่องระทา | มานอนโรงคอยท่าแต่ราตรี | |||
| ครั้นพระศพชักมาถึงหน้าเมรุ | ก็โห่ฉาวกราวเขนขึ้นอึงมี่ | |||
| ต่างเล่นเต้นรำทำท่วงที | เสียงฆ้องกลองตีทุกโรงงาน ฯ | |||
| ฯ ๔ คำ ฯ เจรจา | ||||
เชิงอรรถ
ที่มา
- คุณพรพรรณ วัฑฒนายน ผู้พิมพ์เป็นวิทยาทาน
- [1]
