เสภาเรื่องศรีธนญไชยเชียงเมี่ยง

จาก ตู้หนังสือเรือนไทย

(ความแตกต่างระหว่างรุ่นปรับปรุง)
ข้ามไปที่: นำทาง, สืบค้น
CrazyHOrse (พูดคุย | เรื่องที่เขียน)
(หน้าที่ถูกสร้างด้วย '== ข้อมูลเบื้องต้น == {{เรียงลำดับ|สเภารเืองศรีธนญชไ…')
แตกต่างถัดไป →

การปรับปรุง เมื่อ 15:58, 1 กันยายน 2552

เนื้อหา

ข้อมูลเบื้องต้น

แม่แบบ:เรียงลำดับ ผู้แต่ง: ไม่ปรากฏ

บทประพันธ์

๏ จะกล่าวเรื่องขุนศรีธนญไชยบุราณท่านเล่าไว้นานหนักหนา
หวังให้แจ้งคนดีมีปัญญากู้ภาราด้วยความคิดบิดวาที
ยังมีราชนิเวศน์เขตรสถานป้อมปราการสูงใหญ่เปนศักดิศรี
บริบูรณ์ภูลสมบัติสวัสดีนามว่าเมืองทวาลีเลิศนคร
ชนชาวภารากว่าห้าแสนเนืองแน่นยคั่งคับสลับสลอน
ตั้งเคหารายรอบขอบนครราษฎรแสนศุขสนุกสบาย
ฝ่ายจอมพระนครินทร์ปิ่นประชาสมญาทวาละเลิศเฉิดฉาย
ข้าศึกศัตรูหมู่คิดร้ายไม่กล้ำกรายสยองเกล้าทุกท้าวไท
พระเกียรติยศปรากฎในใต้หล้าดังมหาจักรพรรดิกระษัตริย์ใหญ่
พร้อมจัตุรงค์มหาเสนาในม้ารถคชไกรทหารเดิน
สนมนางพ่วงเพียงอับศรสวรรค์หมื่นหกพันหน้านวลควรสรรเสริญ
โฉมสำอางงามจริตต้องจิตรเพลินรุ่นจำเริญผิวผ่องดังทองทา
ส่วนพระจอมเทพีศรีสมรนามกรซื่อสุวรรณบุบผา
ทรงโฉมประโลมใจไนยนาเปนใหญ่กว่าแสนสุรางค์เหล่านางใน
ได้ว่ากล่าวเถ้าแก่หลวงแม่เจ้าโขลนจ่าหมอบเฝ้าเรียงไสว
เธอสิทธิขาดราชการงานฝ่ายในบำเรอไทธิบดินทร์นรินทร ฯ
๏ ในเมืองมีบ้านพราหมณ์รามราชเปนครูฉลาดรอบรู้ธนูศร
ทั้งชำนาญไตรเพทวิเศษขจรอิกตำราพยากรณ์ฝันร้ายดี
เปนทิศาปาโมกข์โฉลกฤกษ์เอิกเกริกฦาฟุ้งทั้งกรุงศรี
ทั้งภรรยานงรามพราหมณีรู้วิธีทายสุบินสิ้นทั้งมวญ ฯ
๏ ยังมีสองสามีภิริยาตั้งเคหาอยู่ริมไร่ใกล้เขตรสวน
หมู่ดั้นผู้ภัศดาเคหาซวนเสาโย้จวนจะพังต้องรั้งโย้
ภรรยาซื่อยายปลีเมื่อมีครรภ์นิมิตรฝันแปลกเพื่อนเชือนโยโส
ว่ากินหยากเยื่อลองจนท้องโตดังคนโซกวาดกินสิ้นทั้งเมือง
ครั้นตื่นขึ้นคิดขันฝันเราหนอจะเกิดก่อทุกข์ไฉนไม่รู้เรื่อง
ถามหมื่นดั้นจนใจให้ขุ่นเคืองจึงย่างเยื้องไปหาพฤฒาจารย์
เมื่อวันนั้นท่านครูหาอยู่ไม่จึงวอนไหว้พราหมณีแถลงสาร
เล่าฝันกับภรรยาท่านอาจารย์โปรดดีฉานช่วยทายร้ายฤาดี ฯ
๏ ครานั้นท่านภรรยาพฤฒาเถ้าได้ฟังเล่าในฝันนั้นถ้วนถี่
จึงทำนายทายฝันให้ยายปลีว่าจะมีบุตรชายปรีชาคำ
พูดจาแคล่วคล่องว่องไวนักรู้หลักลอดคนข้อคำขำ
เปนตลกหลวงดีมีคนยำท่านจงจำไว้เถิดประเสริฐชาย
ส่วนยายปลีได้ฟังทำนายฝันก็อภิวันท์ลามาด้วยสมหมาย
ประดับประคองท้องไว้ ไม่ระคายค่อยสบายหายทุกข์เปนศุขใจ ฯ
๏ ครานั้นท่านพราหมณ์พฤฒาจารย์กลับมายังสถานที่อาไศรย
ฝ่ายภรรยาก็เล่าความตามทายไปกลัวจะไม่ถูกตำราสามีตน
พฤฒาเถ้าฟังเล่าทำนายฝันหุนหันว่าเจ้าทายไม่เปนผล
บุตรเขาดีจะเปนที่เจ้านายคนทำนายผิดจะไม่พ้นอันตราย
อิกเจ็ดวันฟ้าจะผ่าศีศะเจ้านางฟังเล่าร้อนตัวกลัวใจหาย
ให้อัดอั้นสั่นระรัวทั่วทั้งกายว่าท่านช่วยคิดอุบายให้พ้นไภย
ฝ่ายว่าทิศาปาโมกข์เถ้าช่วยแบ่งเบาทำตามคัมภีร์ไสย
ปั้นรูปพราหมณีใส่ชื่อในไปตั้งไว้ห่างบ้านสถานตน
แล้วเอาขันครอบศีศะที่รูปปั้นพอเจ็ดวันมืดกลุ้มคลุ้มเมฆฝน
ครั่นครื้นเสียงฟ้าคำรามรนพอเม็ดฝนตกต้องลอองปราย
อสนีฟาดเปรี้ยงเสียงสท้านผ่ากระบานรูปปั้นขนสลาย
พราหมณีก็รอดจากความตายด้วยอุบายภัศดาพฤฒาจารย์
จึงมิให้ใช้ขันรองน้ำฝนทุกตัวคนทั่วประเทศเขตรสถาน
กลัวฟ้าจะผ่าขันด้วยบันดาลตลอดกาลจนทุกวันท่านกล่าวมา ฯ
๏ ครานั้นพระองค์ผู้ทรงภพเลิศลบแดนไตรในใต้หล้า
ดำรงเมืองเรืองยศปรากฎมาแสนสำราญโรคาไม่ยายี
ร่วมภิรมย์สมสวาดินาฎนาเรศซึ่งเปนเกษกำนัลนารีศรี
นางทรงครรภ์สิบเดือนกำหนดมีจวนจะคลอดเทพีรัญจวนใจ
ให้ป่วนปวดรวดเร้าเศร้าโทมนัศพร้อมแพทย์แออัดอยู่ไสว
หมอตำแยอยู่งานนางทรามไวยเวลาได้ฤกษ์ประสูตรพระกุมาร ฯ
๏ ฝ่ายพระจอมทวาลีบุรีราชบรมนารถเห็นโอรสยอดสงสาร
จึงให้โหราพฤฒาจารย์ดูลักษณกุมารดวงชตา
คูณหารสอบสวนทบทวนไปก็แจ้งใจคืนวันพระชัณษา
จึงกราบทูลว่าองค์กุมารามีบุญญาธิการกล้าหาญครัน
มีเดชะอำนาจราชศักดิปรปักษ์ทั่วทิศกลัวฤทธิพรั่น
แต่เลี้ยงเธอยากนักหนักอกครันถ้าได้กุมารร่วมวันทันเวลา
เมื่อประสูตรโอรสยศไกรหาให้ได้เหมือนกันกับชัณษา
มาเลี้ยงด้วยกันกับราชบุตรากุมาราจึงเจริญไม่มีไภย ฯ
๏ ครานั้นพระองค์ดำรงวังได้ทรงฟังโหรแจ้งแถลงไข
จึงเอื้อนอรรถตรัสสั่งเสนาในเอาฆ้องไปตีประกาศราษฎร
ว่าผู้ใดคลอดบุตรเมื่อวันวานพระโองการต้องประสงค์อย่าเร้นซ่อน
จะทรงเลี้ยงเคียงดไนยไม่อาทรทั่วนครใครมีบุตรบุรุษชาย
จงบอกความตามจริงอย่านิ่งช้าข้าจะพาบุตรเจ้าเข้าถวาย
อำมาตย์ตีฆ้องพลางทางภิปรายถึงบ้านยายปลีที่ฝันขันพิกล
ความว่าเมื่อภรรยาพฤฒาเถ้าทำนายฝันตามเล่าซึ่งเหตุผล
ยายปลีมีครรภ์ได้สิบเดือนดลคลอดบุตรตนเปนชายโฉมโสภา
ฤกษ์ยามเวลาก็พร้อมกันกับจอมขวัญประสูตรโอรสา
เมื่ออำมาตย์ตีฆ้องร้องป่าวมาตกประหม่าไม่มีขวัญตัวสั่นงก
ครั้นจะนิ่งปิดความว่าไม่มีพระองค์ทราบคดีว่าโกหก
จะลงโทษกายระบมตรมอกฟกนึกแล้วอุ้มทารกมาบอกความ ฯ
๏ ครานั้นเสนาข้าราชการฟังว่าขานสอบไล่ซักไซ้ถาม
รู้แน่ว่าเด็กนั้นพร้อมฤกษ์ยามกับโอรสจอมสยามทวาลี
จึงรับเอากุมารามาถวายทูลดังยายมารดาว่าถ้วนถี่
ฝ่ายพระจอมภาราทวาลีฟังวาทีเสวกาปรีดาครัน
โปรดให้หานางนมแลพี่เลี้ยงประคองเคียงรักษาทารกนั่น
ให้โอรสอย่างไรก็ให้ปันแก่กุมารคนนั้นเหมือนกันมา
จนสองกุมารชัณษาสิบห้าปีโปรดให้เรียนตระบองกระปิติศึกษา
กระบวนรบครบอย่างขี่ช้างม้าพุ่งสาตรายิงแทงแผลงธนู
อิกให้เรียนไตรเพทเวทมนต์ขลังคงจังงังทรหดอดทนสู
แคล้วคลาศสารพัดหัดให้รู้ทรงเอนดูสองราเมตตานัก
ครั้นอยู่มาจอมประชาชราร่างโรคหลายอย่างก่อกวนประชวรหนัก
ตรัสเรียกสองดไนยผู้ยอดรักมอบมไหไตรจักรใครอบครอง
ประทานราโชวาทประสาทให้รักใคร่อย่าเดียดฉันกันทั้งสอง
อย่าข่มเหงต่อยตีเหมือนพี่น้องเจ้าปรองดองสองรารักษาเมือง
แม้นว่าน้องพ้องผิดโทษถึงฆ่าได้เมตตาปัดเป่าให้เบาเปลื้อง
อย่าขุ่นแค้นฆ่าฟันเลยขวัญเมืองถ้าขัดเคืองอดออมถนอมกัน
หนึ่งขุนนางข้าเฝ้าเหล่าทั้งหลายจงแจกจ่ายเบี้ยหวัดดูจัดสรร
ผู้ใดมีความชอบตอบรางวัลให้แบ่งปันสนองคุณการุญรัก
เงินตราผ้าพานทองคำให้เครื่องกาไหล่เครื่องถมแลสมปัก
เสลี่ยงแคร่กระบี่สายสพายสพักสมยศศักดิความชอบจงตอบแทน
ราษฎรทั่วประเทศในเขตรขัณฑ์อย่าเบียนมันให้ทุกข์ร้อนค่อนแค่น
จงเมตตาคนจนขัดสนแกนทุกด้าวแดนให้เปนศุขสนุกใจ
สมณะชีพราหมณ์อย่าหยามหยาบเกรงกลัวบาปละปลดอดจิตรให้
ควรบำรุงสงเคราะห์สักเพียงไรก็จงให้พองามตามศรัทธา
หนึ่งข้าเฝ้าเหล่าขุนนางต่างตำแหน่งแม้นระแวงราชกิจผิดนักหนา
จะลงโทษก็ให้ต้องตามอาชญาฤาหนึ่งถ้าทัณฑกรรมทำพอควร
อย่ามากมูลโทษะมนะผิดควรคิดโดยระบอบสอบไต่สวน
ควรเฆี่ยนควรขังเชือกหนังทวนจำโซ่ตรวนขื่อคาอย่าทำเกิน
พ่อจำคำบิดาสั่งตั้งความสัตย์แม้นปฏิบัติชื่อตรงคงสรรเสริญ
ราชการภาราพ่อพย่าเมินอย่าหลงเพลินนางในไม่ได้การ
พระโอรสฟังโองการประทานสอนโอนอ่อนเศียรคำนับรับสั่งสาร
ทั้งราชบุตรบุญธรรมก้มกราบกรานรับโอวาทซึ่งประทานด้วยเศียรตน ฯ
๏ ฝ่ายพระองค์จอมเจิมเฉลิมโลกประชวรโรคแรงกล้าดังห่าฝน
สิ้นกำลังลมปราณเหลือทานทนสวรรคตอยู่บนพระแท่นทอง ฯ
๏ ครานั้นเสวกามหามาตย์เกลื่อนกลาดแออัดจัดสิ่งของ
เครื่องสูงแตรสังข์พระโกษฐทองจ่าปี่จ่ากลองเรียกร้องมา
กลองชนะเบิงมางวางเตรียมไว้ชั้นแว่นฟ้ารีบไปยกคอยท่า
คู่เคียงพระสเลี่ยงเทวดาโปรยมาลาเข้าตอกบอกมาคอย
พระสงฆ์นำน่าฉานอ่านหนังสือสังฆ์การีวิ่งปรื๋อไม่ล้าถอย
เผดียงราชาคณะวัดพระลอยไวไวหน่อยเถิดเจ้าคุณวุ่นเต็มที
ฝ่ายว่าราชาคณะพระญาณสิทธิ์ซึ่งสถิตย์วัดพระลอยก็เร็วรี่
รีบครองผ้าเรียกศิษย์ได้ตามมีสังฆ์การีพามาพักคอยชักนำ ฯ
๏ ครานั้นจึงพระราชกุมารเชิญพระศพสรงสนานจนจวนค่ำ
มาลาภูษาถวายเครื่องทรงประจำเครื่องต้นล้วนทองคำลงยาดี
ทรงเครื่องต้นเสร็จสรรพสำหรับกระษัตริย์เชิญเข้าโกษฐเนาวรัตน์มณีศรี
ประโคมแตรสังข์สนั่นลั่นดนตรีกลองชนะพร้อมตีเสียงมี่วัง
ฝ่ายพวกกระบวนแห่เสียงแซ่ซ้องตั้งกระบวนเปนกองคอยรับสั่ง
ได้เวลาพระศพออกจากวังดูสพรั่งกระบวนแห่แลหลามมา
พวกตั้งชั้นแว่นฟ้าเสนาภิมุขชาดสีสุกทาซ่อมที่คร่ำคร่า
ช่างรักปิดทองผ่องจับตาช่างกระจกประดับประดาที่ชำรุด
เครื่องแก้วตั้งคลังพิมานอากาศจัดศุภรัตขนผ้าไตรอุตลุด
รักษาองค์เติมน้ำมันฟันชุดรายกันจุดอัจกลับสับสนครัน
แห่พระศพถึงที่นั่งมังคลาเชิญตั้งแท่นแว่นฟ้างามเฉิดฉัน
เรียงรอบเครื่องสูงลายสุวรรณจามรทานตวันพัดโบกราย
กลิ้งกลดบดบังพระสุริยนต์หักทองขวางห้าชั้นอิกชุมสาย
แว่นทองปักกระเสตขันทองพรายบุบผาพวงห้อยรายกลิ่นขจร
ข้าราชการกราบราบศิโรตม์ถวายบังคมบรมโกษฐสท้อนถอน
ฤไทยโทมนัศาให้อาวรณ์พิไรรักภูธรสิ้นทุกคน ฯ
๏ ฝ่ายพระราชโอรสยศไกรเสด็จมาโศกาไลยพิไรบ่น
พระราชบุตรบุญธรรมก็ทุกข์ทนน้ำสุชนไหลหลั่งนั่งโศกา
ครั้นจัดแต่งตั้งพระศพครบครันสดัปกรณ์นับพันไตรสิบห้า
พระสงฆ์เนื่องแน่นหลามตามชลาพระราชาคณะได้ไตรทุกองค์
เสร็จทำกุศลกิจอุทิศไปถวายไทชนกนารถราชหงษ์
จึงสมเด็จโอรสยิ่งยศยงเสด็จลงจากปราสาทลีลาศมา
พวกร้องไห้นางในก็ส่งเสียงเสนาะสำเนียงว่าพระพุทธเจ้าข้า
พระร่มโพธิทองล่องสู่ฟ้าเสด็จไปชั้นใดข้าจะตามไป
โอ้พระร่มโพธิแก้วลับแล้วลิบเสวยทิพพิมานสถานไหน
ข้าน้อยพยายามจะตามไปไม่ทิ้งไทนฤเบศร์เกษประชา ฯ
๏ ครานั้นหมู่อำมาตย์ข้าราชการกับพระราชกุมารโอรสา
พร้อมกันกะเกณฑ์การฌาปนาทำมหาเมรุปราค์ตามอย่างยศ
สูงเส้นห้าวาสง่านามเมรุทิศงามสามสร้างต้องอย่างหมด
เมรุทองในเครื่องชั้นเปนหลั่นลดต้องแบบตามบททุกสิ่งอัน
ราชวัตรฉัตรทองฉัตรเงินนากแลหลากตั้งสลับลำดับคั่น
ฉัตรเบญจรงค์รายออกนอกอิกชั้นตลอดกั้นราชวัตรขนัดแนว
ราชวัตรฉัตรรายทางข้างถนนทางสถลที่จะแห่แลเปนแถว
โรงการเล่นเต้นรำทำเสร็จแล้วท้องสนามกวาดแผ้วสอาดเตียน
โรงรำช่องระทาระดาดาษเอาแผงลาดหลังคาทาเครื่องเขียน
กั้นฉากวาดดูงามเรื่องรามเกียรติ์ล้วนแนบเนียนนน่าสนุกทุกโรงงาน
หกคเมนลอดบ่วงห่วงน้อยเสาติดต่อเข้าสามต่อสูงตะหง่าน
รำแพนเสาไต่ลวดสูงลิ่วทยานตามอย่างงานบรมศพมีครบครัน
เตรียมการเสร็จทุกด้านงานกำหนดเชิญพระโกษฐขึ้นรถแห่สนั่น
เข้าพระเมรุสมโภชสิบห้าวันถวายพระเพลิงทรงธรรม์กระษัตรา
สมโภชพระอัฐิลอยอังคารเสร็จการเชิญอัฐิขั้นรัถา
แห่เข้าสู่พระนคราเหล่าเสวกาโศกเศร้าเฝ้าพิไร
จึงประชุมมาตยามหาอำมาตย์จะยกราชโอรสครองกรุงใหญ่
เห็นพร้อมกันต่างอำนวยอวยไชยจึงหมายให้จัดราชาภิเศกการ
เกณฑ์กันทำการทุกด้านทางตามอย่างขัติยามหาศาล
อภิเศกพระราชกุมารให้ขึ้นผานทวาลีบุรีรมย์
ถวายพระนามเหมือนพระราชบิดาว่าทวาลีราชองอาจสม
พระเดชาปรากฎยศอุดมครองบรมธานีศรีโสภา
จึงให้กุมารบุญธรรม์นั้นไปบวชเล่าเรียนสวนพระคัมภีร์มีสิกขา
เปนสามเฌรอู่กับพระครูบาจันทสุบิงสมญาพระอาจารย์ ฯ
             

             

             

             

เชิงอรรถ

ที่มา

[1]

เครื่องมือส่วนตัว