เห่เรื่องพระอภัยมณี

จาก ตู้หนังสือเรือนไทย

(ความแตกต่างระหว่างรุ่นปรับปรุง)
ข้ามไปที่: นำทาง, สืบค้น
(นางสุวรรณมาลีบวช โดยมีสินสมุทรและอรุณรัศมีบวชตามมาอยู่ด้วย)
(นางสุวรรณมาลี)
แถว 75: แถว 75:
===นางสุวรรณมาลี===
===นางสุวรรณมาลี===
<tpoem>
<tpoem>
-
๏  
+
เห่เอยพระราชบุตร  สินสมุทมุนี 
-
 
+
กับอรุณรัศมี  นั่งอยู่ที่หน้าชาลา
 +
แย้มสรวลชวนกัน  นั่งฉันน้ำชา
 +
พูดเล่นเจรจา  กับน้องยานารี
 +
แขไขไตรตรัส  เรืองจรัสรัศมี
 +
ร่อนเร่ในเมฆี  มาตรงที่แกลทอง
 +
ถ้าเช่นนี้พี่เหาะได้  จะเหาะไปประคอง
 +
ค่อยสอดกรช้อนตระกอง  มาไว้ในห้องไสยา
 +
เย็นชื่นดื่นดึก  ลืมรำลึกภาวนา
 +
ชวนพระน้องร้องสักรวา  จนหลงว่าขึ้นดังดัง
 +
โอ้ว่าเจ้าการะเกด  ขี่ม้าเทศจะไปท้ายวัง
 +
น้องห้ามไว้ก็ไม่ฟัง  จะแทงฝรั่งลังกา
 +
รู้สึกตัวกลัวกรรม  ชักประคำภาวนา
 +
เดือนส่องต้องศิลา  ดังจินดาดวงดาว
 +
ด้วยเขารุ้งรุ่งเรือง  บ้างเขียวเหลืองแวววาว
 +
แวมสว่างพร่างพราว  อร่ามราวเพชรพลอย
 +
พร่างพร่างน้ำค้างเหยาะ  เผาะเผาะผอยผอย
 +
ดาวก็เคลื่อนเดือนก็คล้อย  จะเลื่อนลอยลับตา
 +
เย็นยะเยียบเงียบสงัด  พระพายพัดรำเพยพา
 +
พระเพลินจิตไม่นิทรา  แต่น้องยานั้นหลับไป
 +
เดือนส่องผ่องเพียง  จะแข่งเคียงแขไข
 +
หลับสนิทจะพิศไหน  งามวิไลลักขณา
 +
นวลหน้าเหมือนการะเกด  ดังดวงเนตรของเชษฐา
 +
ถึงนางสวรรค์ชั้นฟ้า  ไม่โสภาเทียมนวล
 +
ชายใดแม้นได้นุช  จะรักสุดแสนสงวน
 +
ยิ้มเยื้อนเหมือนจะชวน  ให้รัญจวนใจชาย
 +
พิศเพ่งเล็งดูเดือน  ละม้ายเหมือนกับเดือนหงาย
 +
ฟ้าขาวดาวประกาย  พฤกษาพรายโพยมมาล
 +
เสียงดุเหว่าเร่าร้อง  เสนาะก้องกังวาน
 +
ไก่กระชั้นขันขาน  วิเวกหวานวังเวง
 +
เหมหงส์บุหรงร้อง  ดังพาทย์ฆ้องประโคมเพลง
 +
กลระฆังก็ดังเอง  เสียงเหง่งเหง่งวังเวงใจ
 +
ลมว่าวหนาวชื้น  หอมระรื่นหฤทัย
 +
งีบระงับหลับไหล  ในที่ไสยา เอยฯ
</tpoem>
</tpoem>
 +
===สินสมุทรและอรุณรัศมี===
===สินสมุทรและอรุณรัศมี===
<tpoem>
<tpoem>

การปรับปรุง เมื่อ 15:13, 1 กันยายน 2552

เนื้อหา

ข้อมูลเบื้องต้น

แม่แบบ:เรียงลำดับ ผู้แต่ง: สุนทรภู่

บทประพันธ์

ศรีสุวรรณรำพันรักและชมโฉมนางเกษรา

๏ เห่เอยเห่ละห้อยพราหมณ์น้อยศรีสุวรรณ
แรมสำนักตำหนักจันทน์พระสุริยันสนธยา
ให้อาดูรพูนเทวศถึงแก้วเกษรา
ได้เห็นพักตร์ลักขณายังติดตาทุกนาฑี
ชมแท่นทองที่รองทรงของอนงค์องค์บุตรี
หอมหวนยวนยีอยู่ในที่ไสยา
เผยพระแกลแลกระจ่างเห็นเดือนสว่างในเวหา
ทรงกลดรจนาเหมือนนวลหน้าพระน้องนวล
อนาถหนาวเศร้าสร้อยให้ละห้อยโหยหวน
นึกเห็นเมื่อเล่นสวนเลิศล้วนลักขณา
เนตรขนงวงวิลาศพิศเพียงบาดนัยนา
พระกรรณแก้วแววตาดังกลีบผกาโกมล
สองกรก็อ่อนชดดังงอนรถพระสุริยน
ปรางประพระสุคนธ์พิศเพียงผลลูกจันทน์
ทรวดทรงพระองค์อ่อนดังอัปสรสาวสวรรค์
โกมุทบุษบันไม่เทียมถันประทุมา
โอฐสะอาดดังชาดจิ้มเมื่อยามยิ้มดังเลขา
เมื่อเนตรน้องมาต้องตาดังสายฟ้ามาฟาดทรวง
แสนรักสลักอกยิ่งกว่ายกภูเขาหลวง
จะใคร่อุ้มพุ่มพวงมาแนบทรวงไสยา
ผิวเหลืองระเรืองรองเหมือนเนื้อทองธรรมดา
แม้นสมรักจะลักพาลงเภตรากางใบ
ดูเนื้อน่วมอยู่นุ่มนิ่มจะชมชิมให้อิ่มใจ
แม้นลมดีจะคลี่ใบแล่นไปในนที
จะปลอบประโลมโฉมฉายขึ้นนั่งบนท้ายบาหลี
แย้มสรวลยวนยีจะชวนชี้ให้ชมปลา
มีต่างต่างกลางทะเลทั้งจรเข้เหรา
ฝูงกระโห้ทั้งโลมาเคลื่อนคลาอยู่ตามกัน
กุ้งกั้งแลมังกรสลับสลอนหลายพรรณ
นาคราชผาดผันปลาอำพันตะเพียนทอง
วาฬใหญ่ขึ้นไล่คู่ผุดฟู่พ่นฟอง
เงือกงูดูคะนองลอยล่องชโลธร
กริวกราวก็เต้าตามฉนากฉลามสลับสลอน
คลาเคล้าสำเภาจรในสาครรายเรียง
เกาะใหญ่ไม้ชะอุ่มเป็นพุ่มพุ่มเคียงเคียง
เหมือนจอกน้อยลอยเรียงพิศเพียงจะเพลินใจ
นิ่งนึกจนดึกดื่นถอนสะอื้นอาลัย
เคลิ้มระงับหลับไปอยู่ในห้องไสยา เอยฯ
             

นางสุวรรณมาลีบวช โดยมีสินสมุทรและอรุณรัศมีบวชตามมาอยู่ด้วย

๏ เห่เอยเห่กล่าวถึงพระดาวบศนี
องค์สุวรรณมาลีบวชด้วยมีศรัทธา
กับสินสมุทรสุดสวาทอรุณราชนัดดา
อยู่เขารุ้งปลายทุ่งนาออกนั่งหน้ากุฎี
แบ่งส่วนกุศลผลบุญให้องค์อรุณรัศมี
สาวสุรางค์นางชีแต่ล้วนมีศรัทธา
ตัดรักชักประคำพึมพำภาวนา
เงียบสงัดวัดวาพระสุริยาเย็นรอนรอน
ชนีน้อยห้อยโหยวิเวกโหวยวิงวอน
จิ้งจอกออกหอนนกนอนรังเรียง
เริงร้องซ้องแซ่คลอแคลกรีดเสียง
น่าดูเป็นคู่เคียงแอ่นเอี้ยงแอบอิง
แม่นกกกกอดลูกพลอดวอนวิง
แจ้วแจ้วแก้วกะลิงจับที่กิ่งไทรทอง
นั่งชมโสมนัสกับหน่อกษัตริย์ทั้งสอง
พลบค่ำย่ำฆ้องเดือนส่องสว่างตา
หอมดอกไม้ใกล้กุฏิสาวหยุดมะลิลา
ยี่หุบบุบณาแย้มผกากลิ่นขจร
เย็นยะเยียบเงียบสงัดพระพายพัดมาอ่อนอ่อน
หึ่งหึ่งผึ้งภมรเชยเกสรสุมาลี
นิ่งระงับหลับตาอุตส่าห์รักษาอารมณ์
ถึงหอมระรื่นไม่ชื่นชมตามเพศพรหมจรรย์ เอย ฯ
             

นางสุวรรณมาลี

๏ เห่เอยพระราชบุตรสินสมุทมุนี
กับอรุณรัศมีนั่งอยู่ที่หน้าชาลา
แย้มสรวลชวนกันนั่งฉันน้ำชา
พูดเล่นเจรจากับน้องยานารี
แขไขไตรตรัสเรืองจรัสรัศมี
ร่อนเร่ในเมฆีมาตรงที่แกลทอง
ถ้าเช่นนี้พี่เหาะได้จะเหาะไปประคอง
ค่อยสอดกรช้อนตระกองมาไว้ในห้องไสยา
เย็นชื่นดื่นดึกลืมรำลึกภาวนา
ชวนพระน้องร้องสักรวาจนหลงว่าขึ้นดังดัง
โอ้ว่าเจ้าการะเกดขี่ม้าเทศจะไปท้ายวัง
น้องห้ามไว้ก็ไม่ฟังจะแทงฝรั่งลังกา
รู้สึกตัวกลัวกรรมชักประคำภาวนา
เดือนส่องต้องศิลาดังจินดาดวงดาว
ด้วยเขารุ้งรุ่งเรืองบ้างเขียวเหลืองแวววาว
แวมสว่างพร่างพราวอร่ามราวเพชรพลอย
พร่างพร่างน้ำค้างเหยาะเผาะเผาะผอยผอย
ดาวก็เคลื่อนเดือนก็คล้อยจะเลื่อนลอยลับตา
เย็นยะเยียบเงียบสงัดพระพายพัดรำเพยพา
พระเพลินจิตไม่นิทราแต่น้องยานั้นหลับไป
เดือนส่องผ่องเพียงจะแข่งเคียงแขไข
หลับสนิทจะพิศไหนงามวิไลลักขณา
นวลหน้าเหมือนการะเกดดังดวงเนตรของเชษฐา
ถึงนางสวรรค์ชั้นฟ้าไม่โสภาเทียมนวล
ชายใดแม้นได้นุชจะรักสุดแสนสงวน
ยิ้มเยื้อนเหมือนจะชวนให้รัญจวนใจชาย
พิศเพ่งเล็งดูเดือนละม้ายเหมือนกับเดือนหงาย
ฟ้าขาวดาวประกายพฤกษาพรายโพยมมาล
เสียงดุเหว่าเร่าร้องเสนาะก้องกังวาน
ไก่กระชั้นขันขานวิเวกหวานวังเวง
เหมหงส์บุหรงร้องดังพาทย์ฆ้องประโคมเพลง
กลระฆังก็ดังเองเสียงเหง่งเหง่งวังเวงใจ
ลมว่าวหนาวชื้นหอมระรื่นหฤทัย
งีบระงับหลับไหลในที่ไสยา เอยฯ
             

สินสมุทรและอรุณรัศมี

             

นางละเวงเดินไพร ควบม้าหนีพระอภัย

             

พระอภัยติดท้ายรถนางละเวงและพยายามตามเกี้ยว

             

พระอภัยมณีพยายามเข้าพบนางละเวง

             

นางละเวงใจอ่อน และนางสุลาลีวันยั่วเย้าและเอาใจช่วยพระอภัย

             

เชิงอรรถ

ที่มา

[1]

เครื่องมือส่วนตัว